วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 20 ตอนที่ 10: พิธีวิวาห์ของซึลรโย แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 20 ตอนที่ 10: พิธีวิวาห์ของซึลรโย แปลโดย Cole’s Myth

เจ้าหน้าที่สถานี KMC media ตกอยู่ในความเงียบ จนคุณสามารถได้ยินแก้กระทั่งเสียงกลืนน้ำลายจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆได้เลย
ในตอนที่วีดฟื้นคืนชีพขึ้นมา ทุกๆคนต่างจ้องมองไปแต่ที่ภาพบนวิดีโอฟีดที่เดียวเท่านั้น แม้แต่แผนกที่รับผิดชอบการตัดต่อแก้ไขวิดีโอก็หยุดทำงานของพวกเขาไป (แอดมิน: วิดีโอฟีด วิดีโอที่ยังคงส่งมาจากแคปซูลของรอยัลโร้ด)
แม้ว่าจะมีจอภาพหลายจอที่ติดตั้งไว้ภายในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป รวมไปถึงห้องทำงานของประธานบริษัท แต่ว่าทุกๆที่ต่างแสดงภาพอย่างเดียวกัน แถมในช่วงเวลาตอนที่วีดฟื้นคืนชีพมาเป็นมังกร ทุกๆคนที่กำลังดูวิดีโออยู่นั้นต่างก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
พลังแห่งการปฏิเสธความตายที่ผสานเข้ากับผลของแผ่นทองแดงแห่งการหลับใหล (Copper plate of Rest) ได้ปลุกชีพเขาขึ้นมากลายเป็นมังกร!
 “นี่มันเหลวไหลสิ้นดี
 “ปะ เป็นไปได้ยังไง….”
เนื่องจากผลของแผ่นทองแดงแห่งการหลับใหล วีดจึงได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นมังกร แม้ว่าจะมีเลเวลทักษะของพลังปฏิเสธความตายอยู่ในระดับต่ำ แต่ว่าเพราะผลจากบทลงโทษที่ใหญ่หลวงนั้น วีดจึงไม่สามารถใช้ประสิทธิภาพได้เต็มที่ไปกับการต่อสู้ในฐานะมังกร
แถมยังเป็นดันเจี้ยนที่อยู่ใต้ดินด้วยแล้ว นี่ถือว่าเป็นข้อเสียเปรียบของมอนสเตอร์บินได้ขนาดใหญ่อย่างมาก
แต่ถึงยังไงแม้ว่าจะมีจุดอ่อนมากมาย แต่แววตาของเขาก็ยังคงเปล่งประกายออกมาน่ากลัว จนสามารถข่มขู่เอาชีวิตของคุณได้ในทันที
การฟื้นคืนชีพของวีดมาเป็นมังกร ทำให้ทุกๆคนรู้สึกตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
แค่ได้มองมันก็ทำให้เหล่าพนักงานของสถานีตกอยู่ในความงุนงงแล้ว แต่ยอดผู้ชมที่ได้ดูแถมยังได้รับการเติมแต่งเข้าไปแล้วด้วย ก็จะยิ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ยกระดับความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก!
ผู้ชมของโรยัลโร้ดจะต้องประหลาดใจมากอย่างแน่นอน ถ้าหากพวกเขาได้ดูช่วงที่เป็นมหากาพย์เช่นนี้
 โอ้โห น่าอิจฉาชะมัด
 “ยังไงซะ เรากำลังก็พูดถึงวีดอยู่นะ คงไม่มีใครที่จะมีการผจญภัยอย่างนี้ได้อีกแล้ว
ภาพจากวิดีโอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจแบบสุดๆ แม้แต่บรรดาพนักงานสถานีก็ต่างพากันจดจ่ออยู่ที่หน้าจออย่างขะมักเขม้น
ในตอนนี้ผู้บริหารคังกับผู้ช่วยของเขากำลังไตร่ตรองพิจารณาว่าจะปรับแต่งวิดีโอเพื่อออกอากาศให้ออกมาเป็นยังไง
 “ใส่หัวข้อว่าไม่ละ เราไม่จำเป็นต้องใส่ของพวกนั้นลงไป แค่นี้มันก็ดีอยู่แล้ว
การใส่ข้อความแสดงความประทับใจลงไปทำให้ดูโดดเด่นนั้น ไม่จำเป็นเลย เพราะนั่นจะทำให้มันไม่ดูน่าสนใจเอาซะเปล่า
ทุกคนจะถูกดึงดูดไปเรื่อยๆขณะที่พวกเขารับชมวิดีโอของมังกรวีด แต่โชคไม่ดีนักที่วีดตายไปอีกเป็นครั้งที่สองนี่สิ
แต่ว่ายังไงคูบิยะก็โดนกำราบลงได้ในที่สุด ภารกิจระดับ S ที่แสนหิน ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ในไม่ช้าบรรดาชาวเมืองของทวีปเวอร์เซลก็เริ่มส่งเสียงกู่ร้องโห่ดังสนั่นไปทั่วให้กับข่าวคราวความสำเร็จของวีด ที่ส่องแสงประทับมายังพวกเขาดั่งสารศักดิ์สิทธิ์ส่งตรงลงมาจากสรวงสวรรค์
หากจากความคิดเดิม ผู้บริหารคังกับพนักงานสถานี KMC media ที่เหลือ ก็สงสัยในความเป็นไปได้ โอกาสที่จะทำภารกิจที่มีความยากระดับ S ให้สำเร็จได้นั้น!
ภาพหลังจากที่วีดตายไปเป็นครั้งที่สอง ฉากวิดีโอฟีดที่อยู่ในห้องฉายก็ได้ถูกตัดไปเช่นกัน ไม่มีทั้งภาพใดๆหรือเสียงไหนๆปรากฏขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบไปซักพัก
จากนั้นก็เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดผ่าใส่ พวกเขาก็เริ่มโห่เสียงดังลั่นในตอนที่ได้กลับไปทำหน้าที่ของพวกเขาอีกครั้ง
 เปลี่ยนหัวข้อไปเป็นรายการพิเศษ สงครามครูเสดของวีด!’ (Weed’s Crusade) ไม่ๆ เดี๋ยวก่อน! ไม่เอาอันนั้น สุดยอดอันเดด’(The Ultimate Undead)’ ชื่อนี้เป็นไง?”
 “เราจะเพิ่มช่วงเวลาออกอากาศ และพวกผู้ช่วยก็ขออนุญาตเปลี่ยนแปลงตารางการออกอากาศในโฮมเพจของสถานีเราด้วยครับ
 “มีสายเรียกเข้าจากบริษัทอื่นหลั่งไหลเข้ามาแข่งกันเพื่อแย่งราคาการโฆษณาทางสื่อครับ
การปรากฏตัวของมังกรพึ่งจะออกไปแค่ 2 นาที 56 วินาทีเท่านั้น!
เพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น นี่ก็กลายเป็นตำนาน ไม่เพียงแต่กับเหล่าผู้ชมแต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมออกอากาศเกมส์ทั้งหมดอีกด้วย
***
ลีฮุนออกจากแคปซูลของเขา แล้วนั่งลงอย่างว่างเปล่าด้วยความรู้สึกสูญเสียครั้งใหญ่
 ตอนนี้เราก็เข้าเกมส์ไม่ได้จนกว่าจะผ่านไป 24 ชั่วโมง
เขาพึ่งใช้ทักษะลมหายใจกรดเพื่อที่จะกำจัดพวกนักรบแห่งความโกลาหลไปมากเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ถึงแม้จะสามารถใช้การโจมตีลมหายใจไป เขาก็ยังไม่รู้ขอบเขตเต็มๆของความเสียหายที่จัดการได้อยู่ดี
นอกจากนั้น ถึงเขาจะฟื้นคืนชีพเป็นมังกรได้ แต่ทักษะพวกนั้นก็ยังอยู่แค่ขั้นต้น!
ทักษะการเหินเวหา มังกรคำราม กับลมหายใจกรด เพิ่งอยู่ที่ขั้นต้น เลเวล 4 เลเวล 6 กับเลเวล 3 เท่านั้น
เขาไม่สามารถต่อเวลาสู้กับพวกนักรบแห่งความโกลาหลได้ เพราะว่าค่าพลังชีวิตของเขาลดลงอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาจึงหันไปพึ่งการโจมตีลมหายใจครั้งใหญ่แทน
 ยังไงซะ นั่นมันยากมากจริงๆ
จากนั้นลีฮุนก็ลุกขึ้น แล้วเริ่มทำความสะอาดบ้าน
หากว่าเขาเปิดทีวีดูเขาก็คงจะเห็นเนื้อหาของภารกิจของเขาที่เล่นซ้ำไปซ้ำมา แต่ว่าเขาสนใจแต่กับการดูข่าวคราวและรายการโชว์ เผยความลับแห่งทวีปเวอร์เซลเท่านั้น
การดูโทรทัศน์นั่นก็ไม่มีอะไรมาก นอกเสียจากการเปลืองไฟฟ้าเท่านั้นเอง! (แอดมิน:ใช่ๆ เวลาประหยัดไฟ555)
 ตอนนี้ก็ทำความสะอาดบ้านเสร็จละ งั้นก็ถึงเวลาปัดกวาดแล้วก็ถูบ้านต่อเลย
ซักผ้าปูที่นอน ล้างตู้เย็น ซ่อมเล้าไก่ มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่เขายังต้องทำให้เสร็จ
ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่กลีบใบไม้มากมายร่วงหล่นลงมากองทับถม
 “ฤดูใบไม้พลิมาถึงเร็วมากจริงๆ
ลีฮุนมักจะอ่อนไหวและรู้สึกเสียดแทงใจมากๆต่ออากาศที่เหือดแห้งกับสายลมอันหนาวเหน็บ
 “ฉันคงจะต้องเริ่มหมักกิมจิเร็วๆนี้ซะแล้ว
ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง มันสำคัญมากที่จะเริ่มเตรียมกิมจิเอาไว้ก่อน!
ในขณะที่เขากำลังจะซ่อมแซมเครื่องใช้ในบ้านอีกชิ้น ทันใดนั้นเขาก็ถูกขัดจังหวะขึ้นมา
ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง
มีใครบางคนกดกริ่งบ้านรัวๆที่หน้าประตู
ไม่ต้อนรับพวกเร่ขายของ
ไม่ต้อนรับพวกชักชวนเข้าศาสนา
กริ่งประตูเกือบจะพังแล้วนะ
ฉันจะเตะใครก็แล้วแต่ที่กดแล้วทำมันพัง

คนๆนั้นต้องเห็นป้ายเตือนนั่นแน่ๆแต่ก็ยังยืนกรานที่จะกดกริ่งต่อไปเรื่อยๆ
จากนั้นลีฮุนก็ไปเปิดประตูหน้าและก็ต้องประหลาดใจที่เห็นซอยูนอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าเธอจะมาที่บ้านเขาอย่างรีบเร่งด้วยเม็ดเหงื่อชุ่มโชกอยู่บนหน้าผากของเธอ
เมื่อตอนที่เธอมาเยี่ยมบ้านครั้งแรก เธอเอาไก่ไปหลายตัว แต่ดูท่าว่าครั้งนี้เธออยากได้กระต่ายในการทำข้อเรียกร้องขอแลกเปลี่ยนกับโทริ
 หวัดดี นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอ? มาสิ เข้ามาข้างในก่อน
ลีฮุนต้อนรับเธออย่างเพื่อนสนิท แล้วก็ชวนเธอเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็เสริฟชาเขียวเย็นให้เธอหนึ่งแก้ว
 ทุกวันนี้อากาศเริ่มหนาวแล้วและฉันก็ควรจะเสิร์ฟชาเขียวร้อนๆให้เธอ แต่ว่าตอนนี้ นี่ควรจะช่วยให้เธอเย็นขึ้นหน่อยนะ” (ผู้แปล: ผมว่าที่ไม่เสริฟร้อนเพราะไม่อยากเสียบปลั๊กกาน้ำ เปลืองไฟ-.-)
 “…….”
 “จะเอาน้ำผึ้งหน่อยไหม?”
บนใบหน้าของซอยูนบ่งบอกได้ถึงความเป็นกังวลอย่างมาก จากนั้นเธอก็แสดงความสนใจเล็กน้อยไปที่ชาเขียว
 แม้ว่าฉันจะตายไปทำไมเขาถึงต้อนรับฉันอย่างเต็มใจอย่างนี้ละ?’
ในตอนที่ซอยูนตายไป เธอก็ออกมาจากแคปซูนในทันที
ก่อนหน้านี้ KMC media ติดต่อ เธอไปเพราะว่าการปรากฏตัวของเธอท่ามกลางภารกิจนั่น แต่ก็แน่นอนอยู่แล้วละ เธอก็ไม่ได้สนทนาเจรจาตรงๆอะไรแต่ปล่อยให้ทนายของเธอทำหน้าที่แทน
ธรรมดาแล้วพวกเขาไม่อนุญาตให้คนอื่นเผยแพร่รูปร่างหน้าตาของพวกเขา แต่เพราะว่านี่เป็นภารกิจที่เกี่ยวโยงกับลีฮุน พวกเขาจึงต้องขออนุญาตจากเธอก่อนเพื่อที่จะเผยแพร่ภาพออกไปได้
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำข้อตกลงกับเธอเพื่อที่จะจำกัดตัวตนของเธอเฉพาะฉากที่เธอสวมหน้ากากไว้และมีผ้าคลุมหนังบางๆปกคลุมชุดเกราะของเธอเอาไว้
จากนั้นเธอก็สอบถาม KMC media เกี่ยวกับสถานการณ์ในเขตลาส ฟารังซ์
โกลมินิได้ตายไป ในขณะที่วีดต้องเผชิญหน้ากับความตายถึงสองครั้ง
ต่อมาซอยูนก็เป็นกังวลอย่างมากถึงวิธีที่จะปลอบโยนลีฮุนที่โศกเศร้าเสียใจอยู่ มากเสียยิ่งกว่าจะมัวกังวลเกี่ยวกับการลดลงของเลเวลกับค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเธอซะอีก
แต่กลับเป็นว่าลีฮุนกลับต้อนรับเธอในตอนที่เธอมาถึง
 ไม่อยากดื่มชาเขียวหรอ? โอ๊ะ ฉันนี่เสียมารยาทจริงๆ ยังไม่ได้เสิร์ฟผลไม้อะไรเลยนิ
โดยปกติแล้ว ลีฮุนมักจะแสดงท่าทีที่แตกต่างออกไปอย่างมาก
แต่ว่าในโรยัลโร้ดนั้น ซอยูนยอมสละชีวิตของเธอในระหว่างการต่อสู้กับเจ้าคูบิยะ
ความพยายามอันกล้าหาญของเธอช่วยทำให้การออกล่านักรบแห่งความโกลาหลผู้ยิ่งใหญ่ประสบความสำเร็จได้
ตามปกติธรรมดาแล้ว เขาควรจะต้องรู้สึกขอบคุณ แต่ว่าในตอนที่เขาหันหน้าไป เขาก็เริ่มร่างรายการสำหรับส่วนแบ่งไอเท็มอย่างรวดเร็ว
 ‘งั้นตอนนี้ฉันจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจก่อนละกัน
ในขณะที่เขากำลังปลอกเปลือกแอปเปิ้ล ลีฮุนก็กำลังน้ำลายไหลจากความคิดที่จะได้ไอเท็มมากยิ่งขึ้น
ไร้ซึ่งความรู้สึกผิดในตอนที่เขาเริ่มวางแผนร้ายนั้นขึ้นมา!
 “อาฮ่า บ้าเอ้ย มันก็ตายไปแล้ว ทำไมมันถึงไม่ดรอปของให้มากๆตอนที่มันตายไปนะ?” (อันที่ดรอปไปนิยังไม่พออีกหรอ)
เขาปลอกเปลือกแอปเปิ้ลอย่างระมัดระวังในตอนที่เขาพูดออกมาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
แม้ว่าเธอจะดูการออกอากาศไปแล้ว แต่ก็คงไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าเขาได้ไอเท็มอะไรไปบ้าง ก็เพราะว่าคูบิยะตายไปในตอนที่มันอยู่ในปากของวีดอยู่นั่นเอง
 ‘มันจะเกินไปรึป่าวนะถ้าหากฉันพูดว่ามีไอเท็มออกมาแค่อันเดียวน่ะ? แต่ว่านั่นมันระดับบอสนะ….แล้วก็เป็นมอนสเตอร์ที่เกี่ยวโยงกับภารกิจด้วย เธออาจจะสงสัยข้อแก้ตัวของฉันทีหลังก็ได้
จากนั้นลีฮุนก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
 “ยังไงมันก็ยังคงไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมดหรอก สิ่งที่ออกมาคือไอเท็มอุปกรณ์สวมใส่ 5 ชิ้น เอ๊ะหรือว่า 3 นะ? อ๋อ 4 ชิ้นน่ะ ยังไงนั่นก็เป็นสิ่งที่มันดรอปตอนที่ตายไปนะ
แต่เดิมเขาได้ไอเท็มมา 5 ชิ้นแต่ว่าก็คิดที่จะลดมันลงไปเกือบสองชิ้น
แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากว่ามีไอเท็มเพียงแค่สามชิ้นออกมาก็จะได้ไปคนละชิ้นเท่านั้น
แต่ในที่สุดเขาก็ยอมลดลงเหลือแค่ 4 ชิ้นดังนั้นก็จะแบ่งได้คนละ 2 ชิ้นเพื่อให้ดูน่าสงสัยน้อยลง
 ฉันก็คิดว่าคูบิยะนั่นสวมอุปกรณ์ดีมากๆ แต่เอาตรงๆนะ ฉันว่าพวกเราไม่เหมาะหรอกที่จะใส่อุปกรณ์พวกนั้นน่ะ
ในตอนที่ลีฮุนพูดไปเรื่อยๆอยู่นั่น เขาก็รู้สึกอึดอัดใจด้วยเช่นกัน มันเป็นเพราะว่าเขายังไม่ได้ตรวจสอบไอเท็มที่เขาพึ่งได้มานั่นเอง
 ‘ก่อนที่จะแบ่งมันไป ฉันต้องตรวจเช็คคุณสมบัติของมันให้ดีก่อน
ในช่วงเวลาบนทวีปเวอร์เซล พวกเขาใช้เวลาประมาณสองสามเดือนที่ยากลำบากไปด้วยกัน ในช่วงเวลาแห่งการผจญภัยนั่น ซอยูนมีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นการหลอกลวงมากขึ้นไปอีกก็คงไม่ยุติธรรมกับความพยายามที่เธอแสดงออกมาให้เห็นนั้น
แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพียงแค่หลักตรรกะธรรมดาทั่วไป ที่จะต้องรู้จักแบ่งปันไอเท็มอย่างเท่าเทียมกันกับการช่วยเหลือเหล่านั้น
แต่ยังไงก็ตามไอเท็มอีกชิ้นก็ได้ถูกแยกออกไป ดังนั้นเธอจึงได้ไปเพียง 2 ชิ้น แทนที่จะได้ไอเท็มไป 3 ชิ้น ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลอันเหมาะสมแล้ว!
 ‘ดีล่ะ ดูท่าว่าเธอจะไม่ได้บ่นอะไร
ซอยูนปกปิดริมฝีปากของเธอด้วยแก้วชา แล้วก็ค่อยๆยิ้มด้วยความโล่งอก รอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติของเธอนั้นเหมือนกับหลุดออกมาจากอีกมิติ เมื่อเทียบกับรอยยิ้มอันน่าขยะแขยงของลีฮุน
ในตอนที่ลีฮุนสร้างรูปสลักของเทพธิดาเฟรย่า เขาเคยจินตนาการถึงรอยยิ้มอันงดงามของซอยูน
และในขณะนี้ที่อยู่เบื้องหน้าของเขาเอง รอยยิ้มของเธอเผยออกมาอย่างน่าหลงใหล จนเขาได้แต่ถูกดึงดูดไปที่เธอเท่านั้น!
แต่ลีฮุนไม่สามารถมองไปที่ในแววตาเธอตรงๆได้
มันไม่ใช่เพราะว่าเขาโกหกแบบส่งเดชเกี่ยวกับไอเท็มที่เขาได้รับจากคูบิยะนั่น แต่เป็นเพราะว่าท่าทางของเธอต่างหากละ แววตาท่าทีที่อยู่ในสายตาของเธอ เต็มไปด้วยสัญญานของความเสน่หาอันเย้ายวนชวนหลงใหล
 นี่เริ่มจะกระอักกระอ่วนไปละ
จากนั้นลีฮุนก็พยายามที่จะเปลี่ยนหัวข้อ
 ฉันจะกลับไปทำความสะอาดต่อนะ….เธออยากช่วยไหม?”
เขาไม่แม้แต่จะทำให้เธอรู้สึกสนุกสนานเลย แต่กลับเป็นว่าเสนอให้ทำความสะอาดบ้านแทนซะงั้น แต่อย่างไรก็ตาม ซอยูนได้แต่พยักหน้าตอบรับ
 งั้นเราไปกวาดสนามหญ้าก่อนละกัน มีใบไม้กองเต็มไปหมดเลย
ในตอนที่กวาดสนามหญ้าอยู่นั่นเอง ซอยูนกลับแสดงนิสัยขี้เล่นอย่างไม่เป็นของตัวเธอเองออกมา
ยิ่งไปกว่านั้นเธอพยายามแอบจะสุมกองใบไม้บางส่วนไปบริเวณของลีฮุน!
ด้วยความสัมพันธ์ที่ก่อเกิดขึ้นมาจากการเข้าเรียนด้วยกันที่วิทยาลัย แล้วก็ออกไปผจญภัยร่วมกันในโรยัลโร้ด เธอจึงสามารถที่จะเล่นสนุกอยู่ใกล้ๆเขาได้
ต่อมาพวกเขาก็ไปทำความสะอาดเล้าไก่ ในขณะที่พวกเขาปล่อยไก่ออกมา กลิ่นเหม็นก็คลุ้งเต็มไปทั่วทั้งสนามหญ้า
จากนั้นเจ้าไก่ตัวผู้ที่มีหงอนอยู่บนหัวก็ไปรวมกลุ่มกับพวกไก่ตัวเมียที่รวมตัวกันอยู่กับพวกลูกไก่
เสร็จสิ้นการทำความสะอาดทั้งหลาย  แล้วลีฮุนก็นึกขึ้นมาได้ว่าอาจจะมีน้ำกระเด็นใส่ตัวพวกเขา ดังนั้นเขาจึงตรวจเช็คเสื้อผ้าที่ซอยูนใส่อยู่ในทันที
 ‘น่าจะประมาณ 200,000 วอนนะ
เธอสวมเสื้อโค้ทที่ราคาค่อนข้างแพงเอาการ
 “งั้นฉันจะทำความสะอาดที่นี่เอง เธอไปล้างจานหน่อยเป็นไง? หลังจากที่เธอล้างเสร็จแล้วก็เอาจานออกมา จากนั้นก็เอาหม้อกับชามไปล้างให้สะอาดนะ
ซอยูนพยักหน้ารับแล้วก็ตรงเข้าไปในบ้าน
จากบานหน้าต่างที่เปิดอ้าอยู่ก็ได้ยินเสียงของน้ำไหลจากอ่างล้าง
ผู้ชายทำความสะอาดเล้าไก่ ส่วนผู้หญิงก็ล้างจาน มันช่างเหมือนกับฉากที่คล้ายๆกับชีวิตของคู่แต่งงานหนุ่มสาวเลย
 ‘มีเธอทำความสะอาดด้วยนิ ช่วยได้เยอะจริงๆ งั้นฉันคงต้องไปเตรียมของอร่อยๆสำหรับมื้อค่ำซะละ
จากนั้นลีฮุนจึงตัดสินใจที่จะทำหมูเปรี้ยวหวานจานใหญ่ออกมา
เพล้ง!
จากนั้น ความเงียบสงัดก็คืบคลานกลับมา มีเพียงเสียงของน้ำไหลล่องลอยออกมาให้ได้ยิน
ต่อมาก็ได้ยินเสียงล้างจานกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ยังผ่านไปไม่ถึงนาทีเลย และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
เพล้ง!!
ในขณะที่ทำความสะอาดเล้าไก่อยู่นั้น ลีฮุนก็มีน้ำตาซึมอยู่ในดวงตาทั้งคู่ของเขา
 น่ะ นั่นมันจานของฉันใช่ไหม?”
ไร้ซึ่งสัญญานของการโต้ตอบกลับมา มีแต่เสียงของการล้างจานคลอต่อไปเรื่อยๆอยู่เท่านั้น
ซอยูนพยายามที่จะล้างจานอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงแม้ว่าเธอจะทำสิ่งที่ผิดพลาด อย่างการวางพวกมันด้วยมือที่เปียกแฉะ จนทำให้มันลื่นหลุดมือ แต่ว่าโชคดีจริงๆ ที่หลังจากนั้น ไม่มีจานชามใบไหนตกแตกอีกเลย
เย็นวันนั้น ลีฮุนแสดงฝีมือทำหมูเปรี้ยวหวานแล้วก็ทานขณะที่ดูทีวีไปด้วย

หลังจากที่ดูรายการศิลปะและละครแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซอยูนจะต้องกลับบ้าน  จากนั้นลีฮุนก็หยิบหนังสือห่อด้วยหนังสือพิมพ์อย่างเร่งรีบแล้วส่งให้เธอเป็นของขวัญ
 “หนังสือเล่มนี้มีบทเรียนชีวิตประจำวันมากมายนะ” (คงเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการล้างจานด้วยบทหนึ่งนะhaha)
นี่เป็นครั้งแรกในช่วงชีวิตของลีฮุนที่เขาได้มอบของขวัญให้ผู้หญิงคนอื่นนอกจากน้องสาวของเขา
นี่ไม่ใช่สำหรับไอเท็มที่ฉันเก็บมาจากลาส ฟารังซ์อย่างแน่นอน ก็แค่คิดว่าเธออาจจะชอบอ่านนี่นะ
ชื่อของหนังสือ คือ [Non-possession] (ผู้แปล: น่าจะหมายถึงการไม่เป็นเจ้าของของคนอื่นเขา หรือยึดของคนอื่นเขามา หรืออาจจะหมายถึงการไม่พึ่งพาคนอื่นเพราะหนังสือเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเพราะลีฮุนเคยอ่านตอนเด็กๆที่ไม่มีพ่อแม่นะ ปล.แค่อนุมานเอานะครับ)

***
ณ ทวีปเวอร์เซล บรรดาผู้เล่นต่างกำลังฟังคำเทศนาภายในวิหารของคนแคระและเอลฟ์
 สารจากสวรรค์ได้จุติลงมาที่พวกเราแล้ว เหล่านักรบผู้ไม่ย่อท้อ ได้หยุดยั้งหายนะที่คุกคามความสงบสุขของทวีปเวอร์เซล เอาไว้ได้แล้ว
 “ให้ตายสิ เป็นมนุษย์ที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
 “นักรบแห่งพงไพรทั้งหลาย เรากลับกันเถอะ
จากนั้นเหล่านักรบที่ได้รวมตัวกันมาเพื่อที่จะออกเดินทาง ก็ได้สลายตัวไป
สถานี KMC media ได้รับเรตติ่งผู้ชมสูงสุดเป็นประวัติกาล ผู้คนเฝ้าดูการออกอากาศไม่ยอมหลับยอมนอนจนรุ่งสาง ในขณะที่เหล่าจินตกวี(Bard) ทั้งหลายได้ประพันธ์บทเพลงและขับร้องเพื่อสรรเสริญให้กับการผจญภัยของวีด
        โอ้ วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่
        เราจักจดจำท่านตลอดไปบนผืนดินแดนที่มิอาจลืมเลือนบนสถานที่ที่ท่านพบกับการผจญภัย
        ทุกย่างก้าวของท่านจักกลายเป็นย่างก้าวสำคัญให้แก่ผู้ที่ปรารถนาจะออกผจญภัย
        ประติมากรรมของท่านจักประทับอยู่ทั่วทุกมุมของผืนโลก
        จงมอบความกล้าหาญให้แก่พวกเรา เพื่อบุกเบิกเส้นทางของเราสู่แสงแห่งความหวังด้วยเถิด
ในขณะที่วีดได้รับการยกย่องสรรเสริญสูงสุดอยู่นั่นเอง กำลังเสริมของดรินเฟลด์ก็ได้มาถึงเขตลาส ฟารังซ์แล้ว พวกเขาเป็นยอดผีมือของกิลด์เฮอร์มีสที่ประกอบไปด้วยนักบวช นักเวทย์ อัศวิน นักฆ่า และโจร
จากนั้นตัวแทนอัศวินก็เริ่มบทสนทนากับเขา
 ถ้าหากว่าคนพวกนี้ไม่เพียงพอที่จะฆ่าวีดได้ งั้นฉันก็จะส่งข้อความหาราฟาเอลเองละกัน

ดรินเฟลด์ก็ตอบกลับไปอย่างมั่นใจ:
 “คนพวกนี้ก็เพียงพอแล้วละ ด้วยนักเวทย์มากมายขนาดนี้ เราก็รับรองได้แล้วว่าจะทำให้ดินแดนนี้เป็นหลุมศพของวีดเอง
 “เกียรติของกิลด์เฮอร์มีสได้ผูกติดเอาไว้ จัดการอย่าให้มีที่ติละ
การที่ต้องเผชิญหน้ากับเนโครแมนเซอร์นั้น ทำให้รู้สึกกังวลแน่นอน แต่ว่าตอนนี้มีนักบวชที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติของอันเดดมาเพิ่มแล้ว พวกเขาจึงสามารถใช้เวทย์ชำระล้างกับพวกมันได้
ด้วยการดูผ่านทางการออกอากาศของสถานี KMC media พวกเขาสามารถรู้ได้ว่าวีดสามารถกลายร่างเป็นมังกรได้ ฉะนั้นตอนนี้พวกเขาจึงต้องระมัดระวังเขาสุดๆ
 เพื่อเกียรติของกิลด์เฮอร์มีส เราต้องฆ่ามันให้ได้
 “นักเวทย์ นักบวช แล้วก็อัศวินเราจะต้องแทงมันให้ตาย ให้จงได้
***
ในตอนที่วีดกลับมาเชื่อมต่ออีกครั้ง เขาก็กลับไปที่ดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ที่ที่สงครามเผ่าพันธุ์ได้เกิดขึ้น
หลังจากสงครามอันดุเดือดที่ทิ้งไว้เพียงผืนดินที่ผิดรูปผิดร่าง ก้อนหินละลายกับรอยแตกร้าว และเศษซากที่เหลืออีกมากมาย
 อะแฮ่ม
หลังจากการตายถึงสองครั้งในรูปลักษณ์ของลิชดัดแปลง ตอนนี้วีดก็ได้คืนร่างกลับเป็นมนุษย์แล้ว
 “ฉันต้องตรวจสอบว่าฉันเสียเลเวลกับค่าความเชี่ยวชาญไปมากแค่ไหนแล้ว แถมยังมีพวกไอเท็มที่ได้มาจากคูบิยะอีก
เลเวลกับค่าความเชี่ยวชาญได้ถูกตรวจเช็คก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะดูไอเท็มที่เขาได้รับมา
 เปิดหน้าต่างสถานะ หน้าต่างข้อมูลทักษะ!”
เลเวลลดลงไปถึงสองเลเวล ทำให้เลเวลปัจจุบันของเขาอยู่ที่ 383 ในขณะที่ค่าความเชี่ยวชาญประติมากรรมลดลงไปถึง 25% ทักษะหัตถกรรม ทักษะช่างตัดเสื้อ ทักษะช่างตีเหล็ก มีดสลักประติมากรรม แล้วก็ค่าทักษะอื่นๆของเขาก็ลดลงไประหว่าง 10% ถึง 17%
ในตอนที่เขาอัดอั้นไปด้วยความรู้สึกผิดหวังและโศกเสร้าเสียใจกับการลดลงไปของค่าทักษะที่เขาต้องทนทำงานอย่างยากลำบากมา วีดจึงเอาไอเท็มออกมา ไอเท็มที่ดรอปมาจากคูบิยะ!
รองเท้าบูทนักรบแห่งความโกลาหลผู้ยิ่งใหญ่ ที่แสนหนักกับเซทชุดเกราะโลหะชุบ แผนที่ แล้วก็ดาบหนึ่งเล่มที่ทอประกายสีแดงฉาน ดาบดาวสีชาดนั่นเอง!
แล้วรอยยิ้มก็ได้หลบหนีมาอยู่ที่ริมฝีปากของวีดทันที
 ตรวจสอบ!”

เขาเลือกที่จะตรวจเช็คชุดเกราะก่อน
รองเท้าบูทของคูบิยะ:
ค่าความคงทน: 37/105
พลังป้องกัน: 68
รองเท้าบูทที่สวมใส่โดยนักรบแห่งความโกลาหล ผู้ยิ่งใหญ่ คูบิยะ
ปลุกเสกด้วยอำนาจวิเศษที่บังคับเหล่านักรบให้ยอมจำนนได้
ข้อจำกัด: เลเวล 500 ความแข็งแกร่ง 800 ใช้ได้เฉพาะนักรบโกลาหลกับคนเถื่อนเท่านั้น
คุณสมบัติ: สามารถใช้บลิ๊งค์ได้(Blink) (แอดมิน: การเทเลพอร์ตระยะสั้น เคลื่อนในพริบตาระยะสั้น)
ค่าพลังชีวิต +8,000
สามารถสกัดกั้นการโจมตีที่มาจากใต้พื้นได้
บังคับให้พวกนักรบยอมเชื่อฟังได้
ขึ้นอยู่กับเลเวลและขนาดของลูกสมุน จะสามารถเพิ่มค่าความเป็นผู้นำได้ชั่วคราว

ในส่วนเซทชุดเกราะชุบโลหะนั้น มีพลังป้องกัน 280 แถมยังมีข้อจำกัดเลเวลอยู่ที่ 550
 “ฉันคงไม่ตายแน่หากว่าใส่ชุดเกราะนี่เข้าไป
ของชิ้นต่อไป เป็นแผนที่ใต้ดินของเขตลาส ฟาลังคซ์ มันมีโครงสร้างที่ดูซับซ้อนมากอย่างกับใยแมงมุม แถมยังมีโพรงมากมายอยู่ในนั้นอีก
ยังมีพื้นที่อื่นอีกมาก ที่เชื่อมไปสู่ทางใต้ดินของดันเจี้ยน ทางเข้าดันเจี้ยนในเขตลาส ฟาลังคซ์นั้น มีโครงสร้างที่ซับซ้อน แถมระหว่างทางที่ไปยังมีเส้นทางอื่นเชื่อมได้ถูกสร้างขึ้นอีก
 “มีแผนที่ไว้ก็เป็นประโยชน์ในหลายๆทางละนะ
ในที่สุด ช่วงเวลาที่เฝ้ารอมานานแสนนานของการตรวจสอบดาบมังกร
ช่วงเวลานี้เอง ที่วีดไม่สามารถเก็บความรู้สึกของเขาได้อีกต่อไป ในขณะที่หัวใจของเขากระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น
 “ตะ ตรวจสอบ!”
ดาบดาวสีชาด:
ค่าความคงทน 192/210
พลังโจมตี 190-215
ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยมังกร
ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ชิ้นส่วนของกระดูกมันเอง
ชิ้นส่วนของพลังของมังกรแดง ได้ถูกสลักฝังลงไปภายในและสามารถต้านทานเวทย์มนต์ได้
ดาบเล่มนี้ถูกขโมยไปจากมังกรและได้ตามหามันมาเนิ่นนาน
ข้อจำกัด: เลเวล 570 หรือสูงกว่า
ต้านทานธาตุไฟ 100%
ต้องมีความสามารถควบคุมไฟ
คุณสมบัติ: น้ำหนักเบามาก
ลดค่าการใช้พลังกายเมื่อใช้ทักษะ
ความคล่องตัว +10%
ค่าความคงทนไม่อาจลดลงได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีสามารถเจาะทะลวงเกราะได้
เพิ่มโอกาสสร้างความเสียหายสาหัสให้กับค่าสถานะหลักได้ถึง 250% ลดความสามารถในการต่อสู้ของศัตรูได้
สามารถทะลวงการป้องกันเวทย์มนต์ใดๆก็ได้
พลังไฟเพิ่มขึ้น 100%
ดูดซับการโจมตีไฟจากเวทย์ธาตุไฟที่ช่วยเสริมเพิ่มค่าความแข็งแกร่งของคุณขึ้น
ค่าความต้านทานธาตุไฟ +30%
มอนสเตอร์ที่ต่ำกว่าระดับกลางจะรู้สึกกลัวในทันที
เพิ่มพลังของดาบขึ้นอยู่กับทักษะการโจมตี
สามารถกำจัดบลัฟฟ์เชิงลบได้ทั้งหมด
ผู้เล่นสามารถใช้ทักษะพิเศษของดาบ ดาวสีชาดได้
เมื่อใดที่คุณชักดาบออกมาเพื่อต่อสู้จะมีโอกาส 0.01% ที่คุณสามารถอัญเชิญมังกรได้
ทักษะดาบดาวสีชาด:
ไม่สามารถวิเคราะห์ได้
ยากต่อการตรวจสอบ
เกี่ยวโยงลึกซึ้งกับเวทย์มนต์คุณสมบัติธาตุไฟ

แหวนแต่งงานของซึลรโย (♂) :
ค่าความคงทน 40/40
แหวนหยกที่เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความเยาว์วัย และรักนิรันดร
สลักมือด้วยช่างฝีมือคนแคระ ผู้ที่ทุ่มเทหัวใจและจิตวิญญาณทั้งหมดให้แก่ผลงานชิ้นนี้
แหวนที่เติมเต็มไปด้วยแรงปรารถนาของซึลรโยที่จะแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก
เป็นแหวนเซทคู่กับแหวนอีกวง (♀)
ข้อจำกัด: ชายหนุ่มที่ยังไม่แต่งงาน
คู่ครองหญิงสาวที่คู่ควรกับแหวนอีกหนึ่งวง
คุณสมบัติ: เพิ่มการรวบรวมมานาและเพิ่มความเสียหายทางเวทย์มนต์ 27%
อัตราการเรียนรู้การร่ายเวทย์เร็วขึ้น
การฟื้นฟูมานาเพิ่มขึ้น 35%
ค่าชื่อเสียง +1,200
ค่าความดี +40
ค่าวัฒนธรรม +40
สติปัญญา +40
ความฉลาด +40
เสน่ห์ +150
ผู้เล่นสามารถใช้ทักษะกำแพงเวทย์ได้ ชีลด์’ (Shield)

วีดมีความรู้สึกที่ผสมปนเปเกี่ยวกับไอเท็มทั้งหลายนั่น
 ฉันไม่นึกว่าจะได้แหวนคู่แต่งงานของซึลรโยมานะ แต่อย่างที่คาดไว้ ตอนนี้ ฉันได้ดาบมังกรมาแล้ว
ดาบดาวสีชาดสามารถทำความเสียหายได้สูง แถมยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย แต่ยังไงก็ตามข้อจำกัดเลเวลก็สูงมากด้วยเช่นกัน
แล้วยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจขายออกได้ง่ายๆเลยเพราะว่าคุณสมบัติต้านทานไฟได้นั่น ที่มาพร้อมกับข้อจำกัดการสวมใส่
นอกจากนี้คงยากที่จะโก่งราคาขึ้นจากการลูทของหายากอย่างนั้นได้!
 “ฉันไม่อยากรู้เลยว่าใครจะขายของแบบนี้ได้
วีดรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากในขณะที่เขามองไปรอบๆพื้นที่ เพื่อหาไอเท็มกระจัดกระจายอยู่ของเขาเอง เขาตายไปตั้งสองครั้งแล้วก็มีไอเท็มจำนวนหนึ่งที่เขาดร็อปไปด้วย ในจำนวนไอเท็มเหล่านั้นคือชุดเกราะทัลร็อคของเขา อุปกรณ์เย็บปักบางชิ้น แล้วยังมีประติมากรรมอีกหลายชิ้นด้วย
เพราะว่าวีดได้พอกพูนชื่อเสียงอันฉาวโฉ่เอาไว้เป็นจำนวนมากแล้วยังมีเครื่องหมายฆาตกรอีก เขาจึงดร็อปไอเท็มมากกว่าปกติ
ในตอนที่เขากำลังรวบรวมไอเท็มของเขาและชิ้นอื่นๆที่ดร็อปโดยอันเดดระหว่างการต่อสู้ ซอยูนที่พึ่งจะเชื่อมต่อเข้ามา ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเจ้าวิหคทองคำ อึนแซ และเจ้าเหลือง
 ดีที่เห็นพวกแกปลอดภัย
วีดชมเชยเจ้าเหลืองอย่างเป็นห่วงเป็นใย จากนั้นเจ้าเหลืองก็เข้าไปคลอเคลียบนหน้าของเขาแล้วก็เลียเขาด้วยลิ้นของมัน ถือว่าเป็นสิ่งปกติที่มันจะไม่ทำ
 นายท่าน ขอบพระคุณมาก ข้าไม่ทราบว่าท่านจับตาดูและช่วยข้าไว้ด้วย ข้าขออภัยจริงๆ
 ‘ข้าอาจจะตายอยู่ที่นี่ได้ ข้าจะชดเชยให้แก่ท่านได้ยัง….’
หากดูภายนอกแล้วนี่อาจจะมองว่าเป็นฉากที่ซาบซึ้งกินใจอย่างมาก แต่พวกมันคงนึกไม่ถึงฝันร้ายที่สุดคืออะไรก็ตามที่พวกมันจะสามารถนึกถึงเจตนาที่แท้จริงของวีดได้
อึนแซกระพือปีกของมันไปเกาะอยู่ที่ไหล่ของวีดที่ถือว่าเป็นภาษากายที่สื่อถึงความรัก
ในหมู่ประติมากรรมสลักชีพนั้น มีเพียงแค่อึนแซที่มีธรรมชาติบ่งบอกถึงเพศหญิง ในครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนใจเกี่ยวกับตัววีดแล้ว
 “ฉันควรจะแบ่งไอเท็มที่คูบิยะดร็อปตอนนี้ละนะ แต่เพราะว่าเราใส่รองเท้าบูทกับเซทชุดเกราะไม่ได้ งั้นฉันจะเอาไปขายก่อนแล้วจะแบ่งส่วนแบ่งให้เธอทีหลังนะ โอเคไหม?”
ซอยุนพยักหน้ารับ เพราะว่าเธอยังไม่อยากกลับไปที่ตัวเมืองหรือว่าปราสาท จำนวนไอเท็มที่เธอได้จากที่ล่ามาก่อนหน้านี้ แล้วยังพวกที่เธอได้รับจากที่นี่ ได้ถูกเก็บเอาไว้เกินกว่าความจุไอเท็มปัจจุบันของเธอ เกินที่จะรับไหวแล้ว

 แต่ว่าเธอเอาเจ้านี่ไปได้เลยนะ
วีดยื่นแหวนผู้ชายที่เป็นแหวนคู่แต่งงานของซึลรโยให้กับเธอ ในขณะที่เขาก็ถือแหวนผู้หญิงอีกวงเอาไว้อยู่
 ฉันจะแบ่งให้อย่างเท่าเทียมกันระหว่างเราสองคน
“….?”
เพราะข้อจำกัดในการสวมใส่ วีดเลยต้องเก็บเอาไว้วงหนึ่ง ในขณะที่เขาให้ซอยูนอีกวง ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงสดราวกับลูกแอปเปิ้ล
ความหมายของแหวนนั้นไม่เคยเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆเลยกับผู้หญิงโดยเฉพาะยิ่งเป็นแหวนแต่งงานแล้วด้วย!
*ตริ้ง!*
การสวมแหวนคู่แต่งงานของซึลรโยจะเติมเต็มความปรารถนาที่ล้ำค่าที่สุดของเขา
หากสวมใส่ไปแล้ว ผลของแหวนจะทำให้คุณกระทำตามความปรารถนาที่ไม่อาจเติมเต็มและความยึดมั่นในรักอันแสนยาวนานได้
ความปรารถนาของซึลรโยที่จะได้แต่งงานกับคู่หมั้นของเขา ท่านปรารถนาที่จะดำเนินการต่อหรือไม่?
ชายผู้ไม่ได้แต่งงานกับหญิงที่จะทำการหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของซึลรโยและคู่หมั้นของเขาเลเธีย เอฟเวอลินเพื่อที่จะเติมเต็มความปรารถนาของพวกเขาและปลดปล่อยพวกเขาออกจากความเศร้าโศก

แน่นอนว่าวีดไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะเดินหน้าต่อไป
ไอเท็มระดับยูนีคมีประสิทธิภาพในการเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานาที่สำคัญอย่างมากในการออกล่า
ผ่านไปซักพักทั้งสอง ซึ่งยังคงอยู่ภายในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ของเขตลาส ฟารังซ์ด้วยกันพร้อมกับพวกประติมากรรมสลักชีพ ทันใดนั้นพื้นที่รอบๆก็ได้กลายไปเป็นปราสาทใหญ่โตมโหฬาร
-ท่านได้มาถึงปราสาทเอฟเวอลินของราชอาณาจักรนิฟล์เฮม
สถานที่นี้เป็นการแสดงถึงความฝันของซึลรโย โลกมายาที่เรียกว่า‘Magus Phantasm’ (ความฝันอันหอมหวาน) แม้ว่าจะเป็นภาพมายาแต่ไอเท็มที่เก็บได้จากที่นี่สามารถเอามาเป็นเจ้าของได้

จากนั้นวีดและซอยูนก็ตรงเข้าไปหาพวกพ่อบ้านกับเหล่าสาวใช้
 “อ้า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่ข้าไปปลุกท่านสายไปสินะ วันนี้คือวันแต่งงาน เราต้องเตรียมตัวโดยเร็ว ชุดที่ส่งให้ช่างตัดเย็บมาถึงแล้วครับ เร็วๆเถอะครับ นายท่านซึลรโย
รูปร่างของวีดก็เป็นเหมือนแต่ก่อน ก็แค่หน้าตาบ้านๆ แต่ว่าสาวใช้กลับมองเขาเป็นซึลรโย
ต่อจากนั้นวีดก็ถูกบังคับให้เดินไปโดยเหล่าสาวใช้ ส่วนซอยูนก็ถูกนำตัวไปอีกห้องหนึ่งโดยสาวใช้อีกคน
 โอ้คุณพระ ท่านมีผิวที่เรียบลื่นมากจริงๆ
 “แค่ได้มองไปที่ท่านหญิงเลเทีย ท่านก็สามารถบอกได้เลยว่านางเป็นคนที่สวยหาใดเปรียบ นายท่านซึลรโยช่างเป็นผู้ชายที่โชคดีจริงๆ
วีดสามารถได้ยินเสียงของสาวใช้ที่พูดถึงซอยูน ในขณะที่เขาเดินลงมาที่ห้องโถงของปราสาท
แล้วสาวใช้ก็ถามวีดขึ้นมาว่า
 “ท่านได้ดูแลผิวของท่านอย่างเหมาะสมดีหรือเปล่าคะ?”
 “เอ่อ มีขี้ตาติดอยู่ตรงนั้นน่ะค่ะ รีบๆไปล้างหน้าของท่านเถอะค่ะ
เจ้าเหลือง วิหคทองคำ กับอึนแซถูกปล่อยให้ยืนอยู่เฉยๆบริเวณห้องโถง
แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานผู้ควบคุมฟาร์มปศุสัตว์กับผู้ดูแลสวนก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วเอาตัวพวกมันไปที่ไหนซักแห่ง
***
วีดอาบน้ำในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอุ่นพร้อมกับผ้าขนหนูพาดอยู่เหนือหัว ภายในรอยัลโร้ดการอาบน้ำนานๆจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นมาก

-ท่านจะฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าได้เร็วขึ้น
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว หากท่านรับประทานอาหาร ท่านสามารถฟื้นค่าพลังกายสูงสุดมากถึง 20%

หลังจาดที่อาบน้ำจนสบายตัวแล้ววีดก็พักผ่อนอีก 30 นาที จากนั้นเขาใส่สูทที่ช่างตัดเสื้อส่งมาให้ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เคลื่อนตัวลำบากก็เถอะ
แต่เพื่อกอบโกยเอาจากสถานการณ์เช่นนี้ วีดจึงใช้ทักษะตรวจสอบเพื่อเช็คชุดแต่งงานที่อยู่ในยุคแห่งจักรวรรดินิฟล์เฮม ไอเท็มชิ้นนี้ให้คุณสมบัติที่เพิ่มค่าความดีและค่าเสน่ห์แถมยังส่งผลด้านความประทับใจที่ดีต่อเพศตรงข้ามอีกด้วย
ท่านได้รับวิธีการตัดชุดแต่งงานสำหรับชนชั้นสูง

สำหรับวีดผู้ที่มีทักษะเย็บปัก ช่างเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะได้เรียนรู้การทำชุดแบบใหม่ๆแม้ว่าสิ่งที่เขาเรียนมานั้นดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เสียมากกว่า
พลังป้องกันเกือบจะเป็นศูนย์ เมื่อสวมใส่ชุด มันก็จะค่อยๆสึกกร่อนไปอย่างง่ายดายเพราะค่าความคงทนต่ำ แถมคุณสมบัติพิเศษก็มีค่าสถานะดึงดูดนิดหน่อยๆให้เสียอารมณ์อีก นั่นจะยิ่งทำให้แย่ลงไปอีกนะถ้าเกิดรอยยับหรือรอยบนเนื้อผ้า ยิ่งทำให้ลดค่าความดีกับค่าเสน่ห์ลงไปอีกนะสิ!
 ‘การรวบรวมวัสดุทำชุดกับปักเย็บนั้นยิ่งทำให้มันยากเข้าไปใหญ่
หลังจากที่สวมใส่ชุดเรียบร้อยแล้ว สาวใช้ก็เริ่มตัดแต่งแก้ไขทรงผมของเขา
จากการบำรุงด้วยน้ำมันใส่ผมแปลกๆและก็ทำให้ผมเขาเรียบลื่นและเป็นเงาวับ แล้วยังจะหวีให้เป็นทรงผมแบบที่เขาไม่เคยทำมาก่อน
 ‘แค่บำรุงด้วยแชมพูบนผมแล้วก็ล้างออก จากนั้นก็เช็ดด้วยผ้าขนหนูก็ได้นิ
กับวีดผู้ที่มักจะใช้ชีวิตในแบบถือทิฐิ นี่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แสนจะไม่คุ้นเคยเอาซะเลยกับตัวเขา
ผมที่สางลงมาให้เป็นผมปกหน้าแล้วแยกตัวออกจากกันในอัตรา7 ต่อ 3 (คงจะทรงปกหน้าปัดข้างธรรมดา)
วีดรู้สึกเคอะเขินอย่างมากขณะที่มองผ่านกระจกไปแล้วจึงขอร้องออกไปอย่างกระอักกระอ่วนว่า
 “มันจะไม่โอเคกว่าหรอถ้าแค่ปล่อยให้ผมลงมาแบบปกติน่ะ?”
 “โอ้ ท่านอยากจะทำให้มันเสร็จๆไปแบบเชยๆหรือค่ะ นายท่านซึลรโย
 “…….”
ด้วยการโต้ตอบของสาวใช้เช่นนั้น วีดจึงไม่อาจตอบโต้กลับไปได้
 ฉันจะเอาทรงผมของฉันกลับคืนมาหลังจากเสร็จงานแต่งบ้าๆนี้แล้ว ตอนนี้ก็คงต้องทนๆไปจนกว่าจะจบสินะ
ตลอดทั้งชีวิตของวีด เขาไม่เคยต้องประสบพบเจอกับการแต่งหน้าอย่างนี้เลยซักครั้ง
จากนั้นสาวใช้ก็ปล่อยให้วีดส่องดูที่กระจก
ข้าว่านายท่านดูหล่อเหลามากๆเลยค่ะ
พอได้ยินพวกเขาพูดถึงหน้าตาของเขา ก็ทำให้วีดหน้าบึ้งเพราะเขารู้ว่าทุกๆคนกำลังบังคับตัวเองให้พูดคำยกยออย่างนั้นอยู่
และจากนั้นบทเพลงที่แสนละมุนละไมก็เริ่มบรรเลง
 “งานวิวาห์กำลังจะเริ่มแล้วค่ะ นายท่านซึลรโย
 “งั้นข้าควรออกไปสินะ
วีดอยากจะจบสิ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ให้เร็วที่สุด
ผู้ชายหลายคนคงจะสมเพสเวทนาเขาแน่ๆเลย มันคงเหมือนกับมีความเมื่อยล้าสะสมมาจากการร่วมงานกับผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันที่ร้านสะดวกซื้อแล้วยังต้องรักษาหน้าตาให้ดูดีอยู่เสมอ
 ท่านควรไปต้อนรับบรรดาแขกนะคะ แต่ว่าก่อนหน้านั้นท่านควรไปพบกับผู้นำพิธีก่อนนะคะ
 “ฉันแค่เข้าพิธีแต่งงานทันทีเลยไม่ได้หรอ?”
 “ท่านหญิงเลเธียต้องการเวลาอย่างมากเพื่อเตรียมพร้อมน่ะค่ะ ในงานวิวาห์เจ้าสาวต้องดูสวยโดดเด่นค่ะ
ซอยูนที่กำลังผ่านการแปลงโฉมเป็นเจ้าสาวอยู่ วีดก็ไม่อาจจะเร่งให้เปลี่ยนตารางพิธีได้
งานแต่งงานของวีดจะอยู่หน้าโถงน้ำพุสีคราม พร้อมกับมีแขกมากมายจ้องมองมาที่เขา
 ‘ยังไงก็เถอะ นี่ไม่ได้เป็นงานแต่งของฉันเลยด้วยซ้ำฉันควรออกไปและก็พบพวกแขกซะ
 “ซึลรโย ทฤษฎีศิลปะลี้ลับที่ช่วยลดเวลาการร่ายเวทย์ลงนั่นช่างวิเศษจริงๆ นี่ก็ทำให้เจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะชนะรางวัลนักปราชญ์แห่งมาแทมของปีนี้แล้วละ (Matam’s scholar Award)”
-ท่านได้รับวัตถุดิบเวทย์มนต์ หางของกิ้งก่าน้ำเงินแล้ว

วีดเร่งรีบจัดชุดของเขาอย่างรวดเร็วแล้วก็จับมือด้วย
 “ขอบคุณสำหรับการมางานวิวาห์ของข้า
 “ข้าไม่อยากเชื่อว่าผู้สืบทอดของเคานท์ไบรอนกำลังจะแต่งงานแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินเลยนะ
-ท่านได้รับเหรียญทองจักรวรรดินิฟล์เฮมจำนวน 800 เหรียญแล้ว
บรรดาจอมเวทย์และชนชั้นสูงมาร่วมเป็นแขกผู้มีเกียรติให้กับเขา จากการได้ของขวัญและเงินแสดงความยินดีจากพวกเขาหลั่งไหลมาเรื่อยๆ ดังนั้นวีดจึงรู้สึกยินดีและต้อนรับพวกเขาอย่างสุภาพอ่อนน้อม
หลังจากนั้นผู้นำพิธีบิช๊อปซิปเรียนัส (Cyprianus) ก็ได้เริ่มกล่าวคำเชิญชวนขึ้น
 พวกเราได้มารวมตัวกัน ณ ที่นี่วันนี้ เพื่อเป็นสักขีพยานให้กับหนุ่มชนชั้นสูงและจอมเวทย์นาม ท่านซึลรโย ไบรอนและอัญมณีแห่งจักรวรรดินิฟล์เฮมของพวกเรา ท่านหญิงเลเทีย เอฟเวอลินภายในพิธีวิวาห์อันศักดิ์สิทธิ์นี้
จากนั้นพิธีแต่งงานก็เริ่มต้นขึ้นด้วยการบรรเลงเพลงอันหรูหราโอ่อ่า
หลังจากบทเพลงแรกได้สิ้นสุดลง ผู้นำพิธีก็เกริ่นนำตัวเองให้เป็นผู้อวยพรสูงศักดิ์
บทเพลงผสานเสียงที่แสดงถึงความสุขสรรและความเศร้าโศกของชีวิตได้บรรเลงขึ้นมา
วีดรู้สึกประหลาดใจที่รู้ว่าพิธีแต่งงานมีขั้นตอนมากมายขนาดนี้  เขาอยากจะให้พิธีนี้จบไปเร็วๆเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ว่าจากนั้นเหล่าบริกรก็มาเสิร์ฟอาหารเย็นพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆใส่แก้วมา ให้กับบรรดาแขกผู้มาร่วมงานที่โต๊ะของพวกเขา
 ฉันเดาว่านั่นคงไม่พอเอาไว้ชงชาเขียวถุงระหว่างวันแต่งงานนี่หรอก….ขั้นตอนการเตรียมการคงจะนานเกินไป

เจ้าเหลือง วิหคทองคำ กับอึนแซอยู่ท่ามกลางบรรดาแขก
เจ้าเหลืองถูกจัดเสิร์ฟไว้ด้วยผักสดๆในขณะที่เจ้าวิหคทองคำกับอึนแซเสิร์ฟเนื้อปลาไหลปรุงรสกับอาหารจานงูที่ปราศจากการเครื่องปรุงรส
 “เจ้าบ่าวก้าวเข้ามา ท่านซึลรโย ไบรอน
หลังจากสิ้นคำของผู้นำพิธีไป วีดก็เดินเข้าไปที่ทางเดินพิธีแต่งงานอย่างสง่าผ่าเผย
 ฉันกอบโกยกำไรได้เป็นจำนวนมาก
วีดทำกำไรได้อย่างมหาศาล แล้วตอนนี้ทั้งหมดก็เหลือที่ต้องทำให้สำเร็จพิธีก็คือ แลกแหวนแต่งงาน
ไม่มีอะไรเหลือนอกเสียจากวีดต้องใส่แหวนผู้หญิงไว้ที่นิ้วของซอยูน แล้วก็รับแหวนผู้ชายมาก็แค่เรื่องกล้วยๆ
หลังจากที่ปฏิญาณตนกับผู้นำพิธีและบรรดาแขกแล้ว ตอนนี้วีดจึงยืนอยู่นิ่งๆ
 และบัดนี้ขอเชิญเจ้าสาวที่งดงามที่สุดในโลก
จากนั้นวงดนตรีก็เริ่มบรรเลงทำนองเพลงอันใสก้องกังวาน  คนที่ค่อยๆเดินมาอย่างช้าๆลงมาที่ทางเดินก็คือซอยูนที่สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์
รูปร่างหน้าตาของเธอในตอนนี้ เทียบไม่ได้เลยกับตอนที่เธอสวมชุดแต่งงานระหว่างงานเทศกาลโรงเรียน
คงจะบรรยายถึงเธอได้แค่เพียงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่สวยงามบนโลกใบนี้มารวมอยู่ที่เธอในตอนที่เธอเดินมาตามทางเดินนั่น
จากนั้นวีดก็เริ่มหวนนึกถึงอดีตขึ้นมา
 ‘หลังจากนั้น ฉันคงเป็นคนที่ต้องเปิดผ้าคลุมหน้านั่นออก
ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เดินทางมาไกลมากแล้ว
 พอมาคิดดูแล้ว เราก็ไปในที่ต่างๆมากมายด้วยกัน
ทั้งหมดก็เริ่มจากโอกาสของพวกเขาที่ได้พบกันที่กระท่อมของครูฝึกช่วงที่เขายังเป็นผู้เล่นใหม่อยู่ที่ราชอาณาจักรโรเซนไฮม์ แล้วจากนั้นเขาก็ได้กลายร่างเป็นออค คาริชวิ แล้วพวกเขาก็ได้เดินทางท่องเที่ยวไปตามที่ราบแห่งความสิ้นหวังร่วมกัน
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ไปผจญภัยที่ดินแดนเหนือด้วยกัน ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งป่าเอลฟ์ แล้วก็ล่ามังกรโครงกระดูกด้วยกันอีก
แล้วก็ในเขตลาส ฟาลัคซ์นี่อีก เธอต่อสู้ร่วมกันกับเขาถึงแม้จะจบลงด้วยการที่เธอต้องเสียชีวิต
ถึงแม้ว่ามันจะยากลำบากอยู่บ้าง สำหรับวีดที่ต้องทำงานของเขาโดยมีซอยูนอยู่ใกล้ๆ
แต่ว่าก็คงไม่พูดเกินไปหรอกว่าประติมากรรมหลายๆชิ้นที่เขาเอาไปเป็นแบบที่ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดที่เขาเคยสร้างมา
จากทั้งหมด ทุกชิ้น ผลงานระดับแกรนมาสเตอร์ชิ้นแรกที่เขาสร้างเป็นประติมากรรมก็มีแบบมาจากเธอเอง หรือแม้แต่ประติมากรรมแสงจันทร์ชิ้นแรกของเขาก็มีแบบจากเธอด้วยเช่นกัน
ในช่วงเวลาที่ตระหนักได้ว่าซอยูนที่สวมใส่ชุดแต่งงานนี้ กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอยู่ใกล้ๆนี่  วีดจึงหักห้ามใจไม่ให้รำลึกนึกถึงภาพเก่าๆ
ผ่านพ้นเหตุการณ์บังเอิญต่างๆนาๆมากมาย ชะตาของเขาในตอนนี้ก็ได้สานเข้าด้วยกันกับซอยูนอีกครั้ง แต่ว่าเขาก็ยังคงกลัวที่จะยอมรับมันอยู่ดี ก็เพราะว่าเขาเชื่อว่าจะมีผู้ชายคนอื่นเหมาะสมสำหรับเธอมากกว่าปรากฏตัวขึ้นที่ไหนซักแห่ง
ในตอนนั้นเอง ที่วีดได้เตือนใจตัวเอง:
 ‘คุณยายเคยบอกเราครั้งหนึ่งว่า รูปลักษณ์ของผู้หญิงไม่ได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างหรอก
ในขณะที่หลายความคิดมากมายนี้แล่นผ่านเข้ามาในหัวเขา ซอยูนก็เดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยคำสอนของยายที่อยู่ภายในหัวของเขา วีดจึงเลือกที่จะประเมินคุณค่าในตัวของซอยูนอย่างใจเย็น
-ถ้าหากว่าผู้หญิงสวยงั้น นายก็จะมีความสุขไปแค่ 3 ปี ถ้าหากเธอทำอาหารอร่อยงั้นนายก็จะได้เพลิดเพลินไปถึง 30 ปี แล้วถ้าเธอฉลาดงั้นนายก็จะมีความสุขไปถึงสามชั่วคน

 ‘ซอยูนนั้นเป็นคนสวยสุดๆเพราะงั้นก็ควรเพิ่มจำนวนปีให้ละกัน ซัก6ปีของความสุขดีไหมนะ?’

ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นแฟนหนุ่มหรือสามีของเธอไปแล้ว ก็คงจะยากมากที่จะไม่สนใจรูปลักษณ์ที่แสนงดงามของซอยูน ยิ่งไปกว่านั้นนายก็จะรู้สึกราวกับอยู่ในทรวงสวรรค์เมื่อตอนที่นายเห็นใบหน้าที่กำลังหลับใหลของซอยูนข้างๆตอนที่นายตื่นนอนขึ้นมาอีก!
แต่อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ที่แสนหรูหรางดงามนั้น ก็จะเสื่อมโทรมไปภายใน 6 ปีถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่านั่นจะใช้ได้กับซอยูนไหม
 หลังจากผ่านไป 6ปีแล้วเธอก็ยังคงดูราวๆอายุ 20 กว่าๆเองแล้วฉันยังมีความรู้สึกว่าเธอจะยิ่งสวยขึ้นไปเรื่อยๆในตอนที่เวลาผ่านพ้….ยังไงก็ช่างเถอะ แต่งงานกับผู้หญิงที่รู้วิธีทำอาหารเก่งจะทำให้ช่วงเวลา 30 ปีมีความสุขมากที่สุด
เขาเคยลิ้มลองรสชาติอาหารของซอยูนมาแล้วที่ตระเตรียมมาอย่างชำนาญ พร้อมกับเครื่องปรุงรสภายในกล่องอาหารกลางวันกับแผ่นโน้ตจากเธอ มันเป็นมื้ออาหารที่มาด้วยทักษะที่น่านับถือที่ไม่ด้อยไปกว่าของวีดเลยแม้แต่น้อย
 ‘ฉันเดาว่าช่วงเวลาแห่งความสุข 30 ปีจะมีได้เพราะว่าเธอรู้วิธีทำอาหาร
พวกเขาสามารถทำอาหารไปด้วยกันได้ ถ้าหากว่าวีดมีภรรยาอย่างนี้ แล้วก็ใช้เวลาหลายปีที่เหลือของพวกเขาพัฒนาและปรับปรุงตำรับอาหาร
ซอยูนก็มีเกรดดีพอควรอีกด้วยจากมหาวิทยาลัยเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เข้าเรียนเลยก็ตาม ถึงแม้ว่าตอนที่เธอเข้าเรียนชั่วโมงบรรยายร่วมกับเขาแต่ว่าเธอก็ตั้งใจฟังอย่างเอาจริงเอาจังและจดลงสมุดเสมอ ระหว่างการสอบเธอก็จะให้สมุดโน้ตกับเขาในส่วนที่เขาไม่เข้าใจ แล้วก็ตอนที่เขาแอบมองดูในกระเป๋าของเธอสิ่งที่เขาเจอคือวิทยานิพนธ์ภาษาต่างประเทศกับหนังสือวิชาการมากมาย
เธอใช้เวลาอ่านหนังสือมากมายในตอนที่มีเวลาว่าง
 ‘เธอช่างหัวดีเหมาะที่จะตั้งอยู่บนบ่าคู่นั้นจริงๆ
แม้กระทั่งเกณฑ์ประเมินของคุณยายของเขา ก็ไม่สามารถลดคะแนนของซอยูนลงได้เลย
 คนเราจะต้องมีข้อเสียอะไรอยู่อย่างแน่นอนละ ที่แค่ซ่อนเอาไว้ง่ายๆ ทุกๆคนต้องมีจุดที่แย่ๆซักที่แหละน่า อย่างนอนกรนแล้วก็อื่นๆ ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหลับระหว่างสอบกลางภาคอย่างเงียบเชียบก็เถอะ
แล้วความคิดก็แวบขึ้นมาได้ วีดจำช่วงเวลานั้นได้แม่นยำ
 ‘เธอโน้มตัวมาข้างๆฉันในตอนที่เผลอหลับไป นั่นค่อนข้างจะเป็นนิสัยที่ค่อนข้างแย่นะ แถมเธอยังกินแล้วก็ดื่มอาหารของฉันมากอีกด้วย แถมยังไม่รู้จักใช้ความพอเหมาะพอควรในการเลือกหยิบเครื่องเคียงด้วยตะเกียบของเธอ



วีดพยายามหาข้อผิดพลาดของซอยูนไม่ว่าอย่างใดก็ตาม เขายังพยายามบ่งชี้ถึงข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจากนิสัยของเธออีกด้วย แม้แต่ย้อนกลับไปตอนที่เขาออกล่าด้วยกันกับซอยูน แต่ว่าภายในความคิดของเขาก็ยังมีความเข้าใจผิดเกาะติดอยู่เกี่ยวกับเธอว่า เธอเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก
หลังจากที่ซอยูนทักทายเล็กน้อยจากนั้นพวกเขาก็จับมือกันไว้
ต่อจากนั้นผู้นำพิธีก็ปรบมือเพื่อดำเนินพิธีต่อไป
 ช่างเป็นเกียรติจริงๆที่ได้มาประกอบพิธีที่น่าปลื้มปีติเช่นนี้….เจ้าบ่าว ท่านซึลรโย เกิดที่ปราสาทแห่งเฮรอด ได้มาริเริ่มให้เราเข้าใจถึงวิธีควบคุมการไหลของมานาและต่อมาก็ได้กลายเป็นลูกศิษย์ของมาสเตอร์มอนทาวเจ้าสาว ท่านหญิงเลเทียที่เกิดในบ้านอันทรงเกียรติของครอบครัวเอฟเวอลิน ที่ได้ทำการเพาะปลูกดอกไม้และต้นไม้เป็นงานอดิเรกงานวิวาห์ครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่งใหญ่ต่อจักรวรรดินิฟล์เฮมการสมรสของคู่ชายหญิงที่แสนบริสุทธิ์คู่นี้….”
วีดหาววอดออกไปขณะที่ต้องทนกับขั้นตอนที่แสนน่าเบื่อนี่ ไม่มีประเด็นไหนเลยที่เป็นที่จำจดจากเนื้อความของผู้นำพิธีคนนั้นอย่างกับว่ามันจะเป็นบททดสอบงั้นแหละ
ยิ่งเนื้อความของผู้นำพิธีสั้นเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ว่านี่มันมีแต่จะยิ่งยาวขึ้นไปเรื่อยๆยิ่งตอนที่เขาเริ่มยกยอสรรเสริญนักบุญบางคนผู้ที่ทำให้พลังธรรมชาติส่งให้ดอกไม้บานเองได้ด้วยการให้ผีเสื้อบินนำเขาไปก่อน
 ท้ายที่สุด มันก็แค่จบลงด้วยการยกยอแล้วก็อวยพรซะงั้น
วีดแทบจะทนรอไม่ไหวในตอนที่ส่วนสุดท้ายของเนื้อความของผู้นำพิธีนั่นก็ได้มาถึงในที่สุด หลังจากนั้นในที่สุดก็คือการแลกคำสัจจะปฏิญาณที่เป็นไฮท์ไลท์ของพิธีแต่งงานในครั้งนี้
 เจ้าจะรับผู้หญิงคนนี้ เป็นภรรยาคู่สมรสของเจ้าหรือไม่? เจ้าจะขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์จริงใจกับเธอไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุข ทั้งในยามป่วยไข้และยามสบาย เพื่อรักและยกย่องเธอ ไม่ทอดทิ้งกันและกัน และจะอยู่เคียงข้างเธอจนกว่าชีวิตจะหาไม่?”
เพื่อที่จะไม่ทำลายงานแต่งงานครั้งนี้ วีดจึงจำต้องตอบรับออกไปอย่างถูกต้องและสวมแหวนให้ซอยูน
 “ข้าสัญญา
วีดจับมือของซอยูนเอาไว้แน่น
ในฐานะเบอร์เซิร์กเกอร์แล้ว มือของเธอก็จะเคยชินกับการต่อสู้แต่ว่าตรงกันข้ามเลย มันดูเรียวยาวมาก แถมผิวพรรณก็ไร้ตำหนิอีก
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพบว่าเล็บบนนิ้วของเธอนั้น ยังสวยมากๆเลยในตอนที่เขาสวมแหวนให้เธอ
และในครั้งนี้บิชอปซิปเรียนัสหมุนตัวไปหาซอยูนและถามเธอว่า
 “เจ้าจะรับผู้ชายคนนี้ เป็นสามีคู่สมรสของเจ้าหรือไม่? เจ้าจะขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์จริงใจกับเขาไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุข ทั้งในยามป่วยไข้และยามสบาย เพื่อรักและยกย่องเขา ไม่ทอดทิ้งกันและกัน และจะอยู่เคียงข้างเขาจนกว่าชีวิตจะหาไม่?”
ด้วยผมที่ตัดแต่งมาอย่างสะอาดเรียบร้อย พร้อมกับเติมแต่งใบหน้าด้วยเครื่องสำอาง ซอยูนที่สวมชุดแต่งงานอยู่ กำลังใคร่ครวญถึงหลายๆสิ่งอยู่นั้น
การที่จะได้ทักทายวีดครั้งนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้เท่านั้น
พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันมามากมาย แถมเธอยังใกล้ชิดสนิทสนมกับเขาผ่านทางสัตว์ที่เขาเลี้ยงอย่างเจ้าเหลือง โกลมินิ รวมถึงประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นด้วย
เธอรู้สึกกลัวและหวาดระแวงคนอื่นๆ แต่ว่ากับวีดเธอไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย ครั้งหนึ่งชาอึนฮีเคยพูดกับเธออย่างเป็นห่วงว่า:
 “เธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างนี้หรอ?”
“…….”
ซอยูนอยากจะพูดบางอย่างออกมา แต่ว่าเธอยังคงรู้สึกกลัวอย่างมากที่จะพูดออกไป มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอ ที่จะสนทนากับใครซักคนและสื่อความรู้สึกของเธอออกมา
 “ชีวิตนั้นไม่ใช่แค่การเอื้อมไปที่ก้อนเมฆที่ล่องลอยอยู่นะ ในฐานะที่เป็นคนหนุ่มสาวอยู่นี่ เธอควรไปโรงเรียนแล้วก็เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน ปล่อยให้ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับบางสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ทุกๆวัน อย่ากังวลกับสิ่งที่จะบอกกับพ่อแม่ของเธอแม้ว่าเกรดของเธอจะตกลงไปซักสองสามจุด
มันก็ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะบอกว่าอย่าไปเสียเวลาอยู่กับสิ่งที่ออกมาจากนรกของการทดสอบนั่น
 “เธอควรออกไปเจอกับสัมผัสแห่งอิสระที่คนๆหนึ่งควรได้รับตอนที่เข้าไปวิทยาลัยแล้ว แม้ว่าเธอจำเป็นต้องเตรียมตัวสำหรับการทำงานระหว่างปีที่สองเพราะว่าการแข่งขันนั้นดุเดือดมากเพื่อที่จะหางานให้ได้
สงครามการจ้างงานนั้นมีแต่จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกๆปี ถ้าหากว่าเธอไม่เตรียมตัวไว้ก่อน เธอก็จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากที่จะให้ได้งานดีๆทีหลัง
 “ดูอย่างตอนนี้สิ ฉันก็อายุ 20 ปลายๆแล้ว และสิ่งที่ฉันทำอยู่นี่ก็เป็นงานนะเพราะว่าฉันต้องออกไปและปรับตัวให้เข้ากับสังคม แต่ว่าฉันก็ยังไม่ได้แต่งานอยู่ดี ดังนั้นฉันจึงต้องออกไปนัดบอร์ดหาคู่แต่งงานน่ารำคาญระหว่างวันหยุดที่บ้านตัวเอง เพื่อที่จะหาผู้ชายที่จะแต่งงานด้วยในอนาคตอีก
เวลาจะทำให้เธออ่อนไหวง่ายกับอายุนะ จะรู้สึกอยู่ทุกๆวันว่าความเยาว์วัยจะหนีไปจากร่างกายของเธอ

 “ซอยูน นี่มันยังเร็วเกินไปสำหรับเธอนะ เธอจะยอมแพ้ แล้วปล่อยให้ชีวิตของเธอหมดอายุขัยอยู่ในกรงขังอย่างนี้เหรอ
ชาอึนฮียิ้มอย่างอ่อนโยน
 ความสุขมักจะถูกพบได้จากสิ่งที่ดูง่ายดายมากที่สุด เธอควรใช้ชีวิตอย่างคนอื่นเขาแล้วก็มีเพื่อนในตอนที่เรียนอยู่ เพื่อนที่เดินไปด้วยกันกับเธอแล้วก็เป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิตของเธอ แล้วถ้าหากว่าเธอหากิจกรรมชมรมเจอในวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เสียเปล่าไป เธอก็ควรจะจดจ่ออยู่กับงานอดิเรกสักอย่างนะ
 “…….”
 “เช่นเดียวกัน เมื่อเธอเข้าไปทำงานในบริษัทแล้ว ก็จะมีช่วงเวลาที่เธอรู้สึกเครียด โกรธหรือขุ่นเคืองจนอยากที่จะเขียนจดหมายลาออกในทันที แต่ว่าหลังจากนั้นเธอก็จะประสบความสำเร็จเอง เธอไม่อยากไปถึงขั้นประสบความสำเร็จหรอ? ในขณะที่เธอยิ่งแก่ขึ้นเรื่อยๆเธอก็จะยิ่งต้องเริ่มมองหาการแต่งงานแล้วหลังจากนั้นก็เลี้ยงเด็กให้เติบโตระหว่างอายุ 30 ถึง 40 ก็ไม่เลวเลยนะ
 “…….”
 “ผ่านพ้นวัยผู้ใหญ่ไป ที่ที่เธอจะพบเจอกับความสุขมากที่สุดในชีวิต แต่ยังไงซะ สิ่งที่ฉันกังวลเกี่ยวกับมัน ก็คือเธอจะสูญเสียโอกาสนั้นไป
ถึงแม้ว่าท่าทางของเธอจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่ว่าเธอก็ยังคงรับฟังสิ่งที่ชาอึนฮีพูดออกมา
เธอไม่อาจมีชีวิตปกติได้เลยนะ ถ้าหากว่าเธอใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเธอเองโดยปราศจากเพื่อนฝูง….แล้วจากนั้นเธอก็ไม่อาจสร้างความทรงจำแห่งความสุขใดๆได้เลย นั่นช่างสูญเปล่าจริงๆนะ เธอต้องรวบรวมความกล้าเมื่อเวลานั้นมาถึง ถ้าหากว่าเธอไม่ทำ หลายสิ่งหลายอย่างที่เธอชอบและสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขก็อาจจะหายไป
ซอยูนเข้าใจทุกถ้อยคำของชาอึนฮีแต่ว่าหัวใจของเธอกลับปฏิเสธมัน
แต่ว่ายังไงก็ตาม เมื่ออยู่กับวีด มันทำให้เธอหวนนึกถึงถ้อยคำเหล่านั้นขึ้นมา โดยเฉพาะช่วงเวลาตอนที่อยู่หมู่บ้านอันแร้นแค้นของเมืองโมราต้าที่จัดงานเทศกาล หัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นเพียงแค่ได้อยู่ใกล้กับวีดและทำให้เธอมีความสุขมากจริงๆ
ความอบอุ่นนั้น เมื่อเทียบกับความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือที่กุมไว้ของพวกเขานั้น ก็ไม่ใช่ความอุ่นจากเตาไฟที่ใช้เชื้อเพลิงเลย
หลังจากได้ทานอาหารที่วีดทำขึ้น และยังออกไปผจญภัยด้วยกัน และก็ได้มองดูประติมากรรมของเขาด้วย ซอยูนจึงรู้สึกว่าเธออยากจะเป็นเพื่อนกับเขา ไม่ใช่แค่ผู้เฝ้ามองดูจากที่ไกลๆ แม้ว่าเธอจะมีหัวใจที่เย็นยะเยือก แต่ว่าเธอก็อยากที่จะส่งความอบอุ่นให้กับคนที่เธอรักให้มากๆ

ถึงแม้ว่านี่ จะเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน และก็อาจตะกุกตะกักอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เธอได้รวบรวมความกล้าขึ้นมาอย่างที่เธอต้องทำ
เต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนกระวนกระวายอย่างมาก และความกังวลภายในใจของเธอ แต่เธอก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
 คะ ค่ะ ฉันสัญญา
จบตอน
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล 

38 ความคิดเห็น:

  1. ซอยูนเข้าวิน(ในเกม)แล้ววววววววววววววว

    ตอบลบ
  2. อยากเห็นหน้าบิดาของ ซอยูน ตอนได้ดูฉากแต่งงานของลูกสาวจริมๆ ว่าจะเป็นเยี่ยงไร ฮาๆ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2560 เวลา 00:28

    อ่านตอนนี้ผมนี่กระดกกาแฟไม่ใส่น้ำตาลเพียวๆ ได้เลยฮะ หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งอีกอ่ะ

    ตอบลบ
  4. เล่นซะเคลิ้มเลยสาดน้ำตาจะไหล

    ตอบลบ
  5. กองอวย ซอยูน เข้าวินแล้ว หึหึหึ

    ตอบลบ
  6. เฮ้ย ขอละตอนหน้าอย่าหักมุม กะงานแต่งนะ ขอฟินบ้างไรบ้างเหอะ นะวีด

    ตอบลบ
  7. พ่อเจ้าสาวจะทำยังไงต่อ. คิดไม่ออกเลย

    ตอบลบ
  8. ตอนหน้า เข้าหอ จัดเต็ม...

    ตอบลบ
  9. เดี๋ยวนะ วีดไม่เสียใจเรื่องโกลด์มินิเลยรึ น่าจะมีฉากแบบบ่นถึงบ้างสักนิดก็ยังดี

    บ่นเสียดายทอง หรือเสียใจที่โกลด์มินิจากไปสักนิดบ้างคงดีนะ

    ตอบลบ
  10. คิดแล้ว...อย่างฮา
    ขอบใจหลายๆ เด้ออ

    ตอบลบ
  11. อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกมีความรักอบอวล

    ตอบลบ
  12. พูดแล้ววววววววววววววววววววววว

    ตอบลบ
  13. โอ้ว........ลุ้นตาม..นึกว่าจะไม่พูดแล้ว

    ตอบลบ
  14. รอฉากนี้มานานล่ะ ฟินเวอร์

    ตอบลบ
  15. เขร้้้้้้...พูดอีกครั้งนึงแล้ว แย่งซีนของตอนนี้ไปเลย ซาบซึ้งใจ

    ตอบลบ
  16. ตาวีดหนีไม่พ้นแล้ว

    ตอบลบ
  17. มีกลิ่นขวันปืนลอยมาทางตาวีดละ(จากพ่อตา)

    ตอบลบ
  18. ท่ารักกันขึ้นมาจิงๆๆและโดบพ่อห้ามจะเป็นไงน้า

    ตอบลบ
  19. ตอนหน้า ต้องมีจูบ กันละ ฮ่าๆๆ

    ตอบลบ
  20. ซอยูน วินนนนนน วิ๊ดดดด ว้าวว โว้ววววว

    ตอบลบ
  21. เชรดมีฉากหวานๆเเล้ว555

    ตอบลบ
  22. แอบไปอ่านมา ตอนหน้านางพูดเยอะเลย แอร๊่ยยยยยย

    ตอบลบ
  23. เอาตอนต่อไปมาาาาาาา อยากจะบ้าตายยยยยย

    ตอบลบ
  24. งานแต่ง!! เด๋วมีจูบแน่!! วีดเองคิดเผื่อไว้รึยัง!!

    ตอบลบ
  25. ฟินเลย อานนากว่าทุกตอน โดยเฉพาะช่วงงานแต่ง

    ตอบลบ
  26. อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยจริงๆ วีดอีคนน่าอิจฉา!

    ตอบลบ
  27. อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยจริงๆ วีดอีคนน่าอิจฉา!

    ตอบลบ
  28. ฟินเลย พูดได้แล้วด้วย

    ตอบลบ
  29. ไอ้คุณวีด ได้ยินเสียงซอยูร 2 ครั้งแล้ว อิจฉาโว้ยยย

    ตอบลบ
  30. หวานจริงๆ ผมกำลังกินน้ำปลาอยู่ไม่รู้ทำไมน้ำปลาหว๊านหวาน

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...