วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562

เล่ม 33 ตอนที่ 10 : จุดตัดแห่งชีวิตและความตาย แปลโดย Acid กรด


เล่ม 33 ตอนที่ 10 : จุดตัดแห่งชีวิตและความตาย แปลโดย Acid กรด


        "ค๊อกๆ"

        วีดยังไอออกมาเป็นเลือด

        'สถานการณ์นี้ไม่ดีเลยจริงๆ'

        เขาส่งกระซิบถึงซอยูน

                - กะ..เกิด..อะ..อะไรขึ้น?

                - ฉันกำลังถูกลากตัวไปพระราชวัง

                - นะ...หนี..ดะ..ได้ไหม?

                - ฉันเพิ่งตรวจดูแต่ชื่อของฉันเปลี่ยนเป็นฮิลเดรันและฉันไม่สามารถใช้ทักษะได้อีกต่อไป

        เลเวลและทักษะของเธอก็ลดลงด้วย ดังนั้นเธอไม่สามารถคิดขัดขืน โนดุลและฮิลเดรัน
อาจรู้สึกว่านี่เป็นอารมณ์ไรซึ่งหนทาง

        ตริ๊ง!

                -  การรักษาโรคไข้กาฬ
                        โรคไข้กาฬกำลังกัดกินร่างกายของคุณอย่างต่อเนื่องถ้าคุณไม่ได้รับการรักษา
                อย่างรวดเร็วแล้วคุณจะเสียชีวิต หากเวลาการรักษายืดเยื้อออกไป อาการแทรกซ้อน
                สามารถเกิดขึ้นได้
                        ระดับความยาก : ภารกิจเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
                        ข้อจำกัดของภารกิจ : เหลือเวลาสามวัน
                        ภารกิจล้มเหลวเมื่อคุณตาย คุณจะกลับสู่ทวีปเวอล์เซลล์ที่แท้จริง

        เขาเดินโซซัดโซเซไปรอบหมู่บ้านและมองหาโบสถ์ ถ้ามีนักบวชสักรูปที่โบสถ์แล้วเขาสามารถรักษา
ด้วยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ หมู่บ้านโบเดนเป็นสถานที่เล็กๆดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเจอโบสถ์สักแห่ง อาจเป็นไปได้ที่จะเจอ
ผู้เฒ่าของหมู่บ้านบนถนน

        "สะ..สวัส.ดี

การทักทายโดยสัญชาติญาณเพื่อเพิ่มความคุ้นเคย!
       
        "เจ้าเป็นคนนอก(หมู่บ้าน) เกิดอะไรขึ้น?"

        "ตะ...ตัวผม, ต้อง..กะ..การ..รัก..ษา..ไข้..กาฬ"

        มันลำบากกระทั่งการพูด แม้แต่จะเอ่ยคำสักเล็กน้อย, ปฏิกิริยาของผู้เฒ่าเป็นไปอย่างเย็นชา

        "ถ้าเจ้าเป็นโรคไข้กาฬยังไงก็ตาย ไม่มีทางรักษาในหมู่บ้านของเรา"

        "ละ...แล้ว"

        "ถ้าเจ้ามอบเงินมาแล้วข้าจะช่วย"

        ดวงตาของตาเฒ่าเป็นประกาย วีดรู้ว่าเขาดูดีมากเลยดูเหมือนเป็นเป้าหมายทำเงินได้แยะ
ถ้าเขายังมีความสามารถอยู่แล้วเขาสามารถจัดการตาเฒ่าได้อย่างง่ายดายแต่เวลานี้ เขาไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ

        "ผะ...ผม..มะ..ไม่..มะ..มี..งะ..เงิน"

        "ให้ตายเถอะ อย่างที่คิดไว้เลย"

        ตาเฒ่าชาวบ้านหนีไปจากวีดที่เจ็บป่วย แน่นอนว่าน้ำใจของชาวบ้านหายากในเวลาสงคราม

        วีดยอมรับว่าโนดุลอยู่ในสถานการณ์ที่โชคร้ายและน่าเศร้าใจ ในโลกนี้, เขาเป็นคนโชคดีพอที่มีใบหน้า
อันหล่อเหลาและคนรัก แต่เวลานี้วีดได้พบเจอประสบการณ์ด้วยตัวเอง

        พวกชาวบ้านแค่เดินผ่านไปอย่างไม่ใยดีขณะที่พวกเขาเห็นวีด จากนั้นผู้คุ้มกันหมู่บ้านที่กำลังถือหอก
เข้ามาใกล้และกล่าว

        "คนเป็นโรคไม่ให้อยู่ในหมู่บ้านนี้"

        เขาไร้ความสามารถในการต่อสู้และร่างกายของเขาอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่ดังนั้น วีดอาจถูกหมาป่ากัดกินได้
ถ้าเขาออกไปข้างนอก

        "ไม่..มะ.มี..อะ..ไร สะ..เสีย..หะ..หาย..นิ"

        "ถ้าแกตายพวกเราก็ต้องทำลายร่างแก ไปๆออกไปจากหมู่บ้าน"

        "......"

        ผู้คนช่างไร้น้ำใจจริงๆ

        "ฉัน..ตะ..ต้อง..ระ..รอด"

        วีดเดินโซซัดโซเซออกจากหมู่บ้าน วีดรู้สึกหมดหวังทุกครั้งที่เขาเห็นชาวบ้านแต่ไม่มีใครช่วยเขาเลย

        "หวาย..คนป่วย!"

        "ดูนั่นซิ!"

        นอกจากนี้เขายังเจอพวกเด็กซนที่ขว้างก้อนหินใส่
        - คุณถูกหินเขวี้ยงใส่
                        พลังชีวิตลดลง 3

        เขาไม่ได้สวมเกราะดังนั้นพลังชีวิตจึงตกลงทันที

        'ถ้าเป็นแบบนี้เราตายแน่'

        วีดก้มหน้าและรีบออกจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว มันกำลังเจ็บปวดแต่เขายังต้องระวังตอนผ่านสุนัข!
เขายังจำเป็นต้องระมัดระวังหลังจากหลบออกจากหมู่บ้าน

- การพักผ่อนได้ฟื้นฟูพลังชีวิต 2

        พละกำลังกำลังฟื้นคืนอย่างช้าๆ คงจะดีกว่าถ้าใช้ผ้าพันแผลแต่เขาไม่มีอะไรเลย

        "ค๊อกๆ อัก!"

        - ไข้กาฬทำให้เกิดอาการชัก
                พลังชีวิตตกลง 14
                พละกำลังอ่อนแรงลงทำให้ก้าวเดินยากขึ้น

        ร่างกายของวีดสั่นสะท้านจากความเจ็บปวด

        'เรายังคงโชคดีเพราะมันไม่หนาว'

        วิ้ว.ว.ว!

        ทันใดนั้นลมหนาวกรรโชกแรงพัดผ่าน!

        'อย่างที่คิดเลย...ฉันคงหลอกขายแกแล๊คซี่เมื่อชาติก่อนละมั้ง'

        วีดต้องทนทรมานในขณะที่พลังชีวิตและพละกำลังคืนกลับมาอย่างช้าๆ วีดไม่รู้ว่าเขามีเวลาเหลือ
อยู่เท่าไรก่อนที่ราชาปอร์ตูจะบูชายัญเธอ ความสามารถของซอยูนก็เพิ่มขึ้นเช่นกันดังนั้นเธอจึงไม่สามารถหนี
ไปคนเดียวได้

        เขาส่งกระซิบถึงเธออีกครั้ง

                - ตอน..นะ..นี้..อยู่ไหน?

        ไม่ง่ายเลยแม้แต่จะพูดคำสั้นๆ ร่างของเขาหนาวสั่นและอยู่ในความเจ็บปวด

                - ฉันถูกขังอยู่ในรถม้าที่กำลังเคลื่อนที่ไป ฉันคิดว่าฉันถูกพาไปที่พระราชวัง
                แต่ดูเหมือนฉันจะโดนขังอยู่ในหอคอย ฉันฟังจากพวกทหารแล้วดูเหมือนใช้เวลาวันเดียวก็มาถึง
                ฉันจะแจ้งตำแหน่งให้คุณทราบเมื่อฉันถูกขัง

        ซอยูนตอบแบบไม่ใส่ใจ

                - ดะ..ได้, ยะ..อย่างแระ..แรก..บอก..มะ..เมือง ผม..จะปะ..ไป..หาคะ..คุณ..ที..หลัง

                - ตกลง ค่อยๆมา

        วีดได้ฟื้นคืนพละกำลังและพลังชีวิตของเขาแต่มันยังลำบากอยู่ดี

        'ฉันไม่สามารถอยู่ใกล้ๆหมู่บ้านได้ งั้นจำเป็นต้องหาสถานที่ที่ไม่มีพวกมอนสเตอร์'

        เขาขาดความแข็งแกร่งทางร่างกายและต้องเดินอย่างช้าๆ วีดสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีมอนสเตอร์ที่อันตรายอยู่ใกล้เคียง
        - พละกำลังลดลงเนื่องจากการเคลื่อนไหวมากเกินไปในร่างกายที่อ่อนแอ
                การเคลื่อนไหวจะทำให้เกิดความเครียด
                พลังชีวิตลดลง 6 เนื่องจากโรคไข้กาฬ
                ควรพักอย่างเต็มที่ 5 ชั่วโมง

        เมื่อเขาขยับร่างกาย, โรคไข้กาฬทำให้แย่ลงและพลังชีวิตของเขาก็ลดลง

        ถ้าเขาพยายามเดินให้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วพละกำลังของเขาจะตกลง
พิจารณาจากสถานะปัจจุบันของเขา, เขาอาจเสียชีวิตจากโรคไข้กาฬก่อนจะถึง 3 วัน

        'มันเดินลำบากจัง คงจะดีกว่าถ้าฉันแค่หมดแรงล้มแล้วตายซะ'

        แม้ว่าเขาจะเคยต่อสู้กับบัลข่าน, เขาไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแบบนี้ขนาดเขาอยากล้มพับลง
มันเป็นอาณาเขตของพวกมอนสเตอร์เมื่อเขาหนีออกจากหมู่บ้าน วีดจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
เพื่อหลีกเลี่ยงหรือหลบเร้นจากเจ้าพวกมอนสเตอร์

        'ฉันต้องใคร่ครวญเกี่ยวกับมัน การประเมินผิดพลาดเล็กน้อยก็ยอมรับไม่ได้
ฉันจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะไปที่ไหนและจะทำอะไรได้'

        เรื่องฉุกเฉินคือจะต้องมีชีวิต! ภารกิจของวีดได้ส่งเขาสู่การเดินทางอันยาวนาน เขาจำเป็นต้องมีชีวิตรอด
ในความเป็นจริง, ถ้าร่างกายของเขาเจ็บป่วยดังนั้นเขาสามารถสูญเสียได้ทุกๆสิ่ง สถานการณ์เป็นที่น่าผิดหวังแต่
สามรถดีขึ้นได้ถ้ามีใครสักคนเห็นอกเห็นใจเขา

        ร่างกายที่อ่อนแอของเขาทำให้จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น หลังจากออกจากหมู่บ้านโบเดน,
พื้นที่กว้างใหญ่และป่าทอดตัวอยู่เบื้องหน้าของเขา

        'ฉันอยากไปทางแนวต้นไม้'

        ถ้าเขาเข้าไปในป่าซึ่งเป็นทางสูงชันและมีพวกมอนสเตอร์จำนวนมาก แต่มันก็เป็นอันตรายเมื่ออยู่ในทุ่งหญ้า
เช่นกันโดยเขาจะเป็นเป้าหมายได้ง่าย วีดเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบขณะที่ทำการตรวจสอบความปลอดภัยของป่า
เขาซ่อนร่างอยู่ในพุ่มไม้ขณะที่พวกโคโบล์(kobold – ครึ่งสัตว์เผ่าสุนัข)และก๊อบลินผ่านไป

        "ข้าหิวจัง"

        "เร็วๆ ไปล่ากันเถอะ"

        "คิ คิ คิ!"

        ยิ่งกว่านั้นพวกโคโบลเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว

        'พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ฉันต้องหาที่ปลอดภัยเสียก่อน'

        เขาไม่สามารถซ่อนตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพระอาทิตย์ตก, พวกมอนสเตอร์จะกลายเป็นแข็งแกร่งกว่าเดิม
และเริ่มออกเตรดเตร่ แล้วมันจะเป็นอันตรายจริงๆ

        'ร่างนี้....'

        ร่างกายที่สามารถกระโดดลงมาจากไวเวินเวลานี้ไม่สามารถแม้แต่จะปีนต้นไม้ โนดุลอ่อนแอแต่สิ่งที่ต้องรับผิด
ขอบจริงๆฝังอยู่ในโรคไข้กาฬ วีดใช้ประสบการณ์ทั้งหมดของเขาและเดินอย่างช้าๆ เขาหวังที่จะเจอบ้านที่เป็นของนายพราน
แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่สามารถเป็นไปได้ยังไงเขาก็ต้องการสถานที่ที่เขาสามารถซ่อนเร้นตัวเอง

        'ถ้ำ'

        วีดเพ่งมองที่ส่วนลึก, ถ้ำมืดมิดและใคร่ครวญว่าจะเข้าไปข้างในหรือไม่

        'เวลาแบบนี้, ฉันจะต้องระมัดระวังเพราะว่าคาดหวังไม่ได้ว่าจะโชคดี'

        เขาซ่อนอยู่ในพุ่มไม้และคอยสังเกตถ้ำ และหลังจากนั้นไม่นาน, หมีตัวหนึ่งออกมาจากถ้ำแล้วมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง

        'เกือบตายแล้วเรา'

        ปรกติแล้วหมีหมายถึงหนังและเนื้อแต่เวลานี้มันเป็นสิ่งมีชีวิดราวกับมังกร!

        'เมื่อกลางคืนมาถึง, ไม่มีที่ปลอดภัยให้ซ่อนตัวในป่าแห่งนี้....'

        สัตว์ร้ายที่กำลังหิวโหยจะเป็นตัวอันตรายอย่างแท้จริงด้วย

        'เราต้องไปยังอาณาเขตพวกโคโบล์'

        วีดเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังไปยังอาณาเขตของโคโบล์ เขากลัวพวกสัตว์ป่าและมอนสเตอร์อ่อนแอมากกว่า
พวกโคโบล์ที่เคลื่อนที่เป็นกลุ่ม ถ้าเขาอยู่ในอาณาบริเวณของพวกมันแล้วเขาไม่ต้องกังวลเรื่องสัตว์ร้ายอื่นๆ

        "ได้เวลาออกล่าแล้ว"
       
        "ตามหัวหน้าโคโบล์มา!"

        พวกโคโบล์เคลื่อนที่เป็นกลุ่มประมาณ 20 ตัว พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่มีการสั่งการเป็นระบบ
และชอบใช้ชีวิตที่เป็นระบบ วีดสังเกตพวกโคโบล์ในป่าและหลีกเลี่ยงพวกมัน มันไม่มีเหตุผลที่จะเดินหน้า
ต่อไปเนื่องจากพละกำลังและพลังชีวิตของเขา

        'ฉันไม่มีทางเลือกได้แต่มอบชีวิตของฉันให้สวรรค์รับผิดชอบ'

        วีดตื่นอยู่ทั้งคืนขณะที่หมอบตัวต่ำๆ ข่าวดีคือว่าเขามีเนื้อแดดเดียวมากมายดังนั้นเขาจะไม่ต้องอดอาหาร

                                        *********************

        "ย๊าก..ย่า!"

        "น่าตื่นเต้นแค่ไหน! ทำลายมันทุกสิ่ง!"

        "หุ หุ หุ, ตาฉันบ้าง หลังจากนักดาบ-127!"

        เวลานี้พวกนักดาบกำลังทำภารกิจปรมาจารย์ของพวกเขาให้สำเร็จ
                - ปราบกองทัพกบฏแห่งปาริซา(Pallisar)
                        พวกกบฏได้ควบคุมป้อมปาริซาพวกเขาถูกปราบอย่างรวดเร็ว
                        คุณต้องไม่ตายในการต่อสู้และแสดงถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ฝึกศิลปะป้องกันตัว
                        ระดับความยาก : ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้
                        ข้อจำกัดของภารกิจ : ความเชี่ยวชาญอาวุธขั้นสูงระดับ8 หนึ่งปาร์ตี้ประกอบด้วย 30 คน

        จุดที่แข็งแกร่งคือพวกเขาสามารถประสานพวก ดาบ, ค้อนศึก, ขวาน, ธนู และหอก เข้าด้วยกันในการโจมตี
พวกนักดาบใช้อาวุธทุกประเภทในการโจมตีพวกกบฏที่ยึดครองป้อมปราการ

        แต่ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงสู่พวกเขา ฝ่ายตรงข้ามในการต่อสู้จำเป็นต้องแข็งแกร่ง

        "ลูกผู้ชายไม่พูดมาก"

        นักดาบ 3!
         
        เขาถอดเสื้อแจ๊กเก็ตที่หน้าประตูป้อมฯและโชว์กล้ามของเขา มันไม่สำคัญหรอกว่าการป้องกันของเขาจะตกลง
ความงามแบบเถื่อนๆและความภาคภูมิใจในกล้ามเนื้อของเขาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด!

        เขาตื่นเต้นเรื่องเควสของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้เนื่องจากศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างมาก

        "ลุย!"

        หอกในมือของนักดาบ3เริ่มพุ่งเข้าใส่ด้วยอัตราการเคลื่อนที่อันน่ากลัว ลูกศรจากพวกกบฏโปรยปรายลงมา
แต่พวกเขาทั้งหมดซัดหอกที่ควงหมุนพุ่งออกมา มันจะให้ค่าพลังสูงสุดไม่ว่าอาวุธใดก็ตามที่เขาถืออยู่
มันเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้สิ่งนี้กับดาบและหอกได้อย่างดี

        "บดขยี้ คลื่นกระแทก!"

        หอกของนักดาบ 3 ปักลงที่ประตูป้อมฯด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา มีเสียงราวฟ้าผ่าลงมา
ขณะที่ประตูป้อมฯถูกทำลายลง

        "ลุยเลย!"

        นักดาบ3 ร้องเสียงก้องกัมปนาท

        ราวสัตว์ป่าที่หิวกระหาย, เขาวิ่งตรงไปที่ประตูป้อมฯเพื่อกำราบกองทัพกบฎ

        "ภารกิจปรมาจารย์ได้ก้าวหน้าไปมากขนาดนี้แล้ว"

        "ถูกต้องครับ ท่านอาจารย์!"

        อาจารย์นักดาบและนักดาบ 2 ได้เสร็จสิ้นภาระกิจการเอาชนะเหนือพวกกบฏเป็นพวกแรก
ดังนั้น เวลานี้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ทักษะศาสตร์แห่งอาวุธใหม่ได้

        มีความเป็นไปได้ไม่จบสิ้นที่เกี่ยวข้องกับทักษะศาสตร์แห่งอาวุธ พวกเขาสามารถจับถืออาวุธได้ทุกชนิด
ดังนั้นจึงสามารถสร้างทักษะอันใดก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ ไม่เพียงดาบเท่านั้น, ทักษะหอกและธนูก็เกดขึ้นได้,
การผสานพลังสามารถทำให้อาจารย์นักดาบแข็งแกร่งยิ่งกว่าทั้งกองทัพ

        นักดาบ 2 รอคอยอย่างสงบเสงี่ยมเพื่อให้อาจารย์สร้างทักษะก่อนเป็นคนแรก พวกเขาปฏิบัติตามแผน
ที่มีโครงสร้างอย่างดีเพื่ออนาคตของพวกเขาและโดยไม่ชักช้า รูปแบบของพวกเขาได้สร้างทักษะศาสตร์แห่งอาวุธทันที

        "ข้า...."

        อาจารย์นักดาบตัดสินใจทันที

                                ***************************

        นักดาบ 5 ได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งระหว่าที่ทำภารกิจ

        แม่ครัวสาวถือทัพพีอยู่เหนือหม้อเหล็กที่กำลังเดือด! เธอกำลังขายซุปให้กับพวกที่กำลังเข้าไปยังดันเจี้ยน

        "ได้โปรดทานซะ อร่อยนะ"

        ผู้เล่นสาวโรเซน(Rosen)ขายซุปเนื้อราคา 2 เหรียญเงิน ถ้วยซุปทำขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยช่างเครื่องเคลือบมือใหม่โมราต้า

        "ขออีกถ้วยนึง"

        นักดาบ 5 ซดเกลี้ยงชาม

        โรเซนเป็นผู้เล่นใหม่ที่มาถึงเลเวล 60 เท่านั้น แต่ทักษะนั้นสำคัญกว่าเลเวลเมื่อเป็นการทำอาหาร ซุปเต็มไปด้วยเครื่องเทศหลากหลายชนิด โรเซนหัวเราะและส่งชามซุปให้เขาอีก

        "อร่อยใช่ไหม?"

        "อะไรๆก็อร่อยเมื่อคุณหิว"

        "......"

        วิธีพูดของนักดาบ 5 ไม่นุ่มนวลเลย

        "เอามาให้ฉันอีกชาม"

        "อีกเหรอ?"

        "ข้าหิว"

        นักดาบ 5 กินไปเจ็ดชามก่อนที่จะเข้าไปในดันเจี้ยน นับแต่นั้นมา, เขาปรากฏตัวทุกวันเพื่อดื่มซุป

        "ยินดีต้อนรับค่ะ"

        "ซุป 2 ชาม ได้โปรด"

        "ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะให้เนื้อคุณแยะๆ"

        "อืม.ม."

        ผู้คนมากมายรุมล้อมโรเซนผู้ดำเนินกิจการ นี่ใกล้กับดันเจี้ยนที่มีชื่อเสียงดังนั้นพวกพ่อค้าและผู้มาเยือน
มาลิ้มลองอาหารที่เธอทำ

        นักดาบ 5 ดื่มซุปทุกวันและทักทายโรเซน โรเซนมีความประทับใจที่ดีต่อนักดาบ 5 ที่เข้ามากินทุกวัน

        "นี่ต้องเป็นซุปที่คุณชอบที่สุด"

        "มันอร่อย"

        "อาหารจากพ่อครัวคนอื่นก็อร่อยเหมือนกัน...."

        การแสดงออกที่แอบหวังว่าเขาจะบอกว่าการทำอาหารของเธอดีที่สุด!

        เอิก!

        นักดาบ 5 ตอบกลับด้วยเสียงเรอ

        "นี่ราคาถูกมากๆ"

        "มะ-ไม่มีเหตุผลอื่นเหรอ?"

        "ก็, ทุกอย่างก็เหมือนๆกันหมดแหละเวลาลงไปในท้อง"

        โรเซนยังคงเป็นหญิงมีไมตรีจิต การแสดงอกกแบบทื่อๆของนักดาบ 5 ผู้ที่ออกล่าในดันเจี้ยน
และกลับมาอาหารของเขาจนเกลี้ยงนั้นประทับใจเธออย่างลึกล้ำ

นักดาบ5 สวมใส่อุปกรณ์ดีเยี่ยมเลเวล400ด้วย แขกคนอื่นชื่นชมอุปกรณ์ของเขาเมื่อเขามากินที่ร้านอาหาร

        'บุคคลแบบนั้นมาทุกวันแค่กินซุปราคา 2 เหรียญเงินของฉัน เขาชอบฉันแต่เขาขี้อายที่จะแสดงมันออกมา'

        โรเซนพูดคุยกับคนอื่นๆอย่างอ่อนโยนทุกครั้งที่นักดาบ5มากินอาหาร

        "ฉันชอบอาณาจักรอาร์เพนจริงๆนะ"

        "ทำไมหรือ?"

        "ผู้คนเป็นระเบียบเรียบร้อย ฉันไม่สามรถลืมความอร่อยครั้งแรกของโจ๊กที่ใครบางคนให้ฉันระหว่างการขนหินที่ใช้สร้างวิหาร"

        "ดังนั้นคุณเลยกลายเป็นเชฟอย่างนั้นหรือ?

        "ช่าย, ฉันต้องการทำโจ๊กที่ยอดเยี่ยมให้ผู้คน ความชำนาญพิเศษของฉันที่โรงเรียนคืออาหาร"

        "คุณต้องเรียนศาสตร์แห่งการหุงข้าว"

        "หือ? ฉันเอกอาหารและโภชนาการ"

        "นั่นไม่ใช่แค่ข้าวใช่ไหม?"

        โรเซ็นตัวสั่นด้วยความโกรธจากความไม่รู้ของนักดาบ5

        "แต่ไม่ใช่ว่าแบ่งเป็นความชำนาญพิเศษในแต่ละส่วนหรือ?"

        "คุณหมายความว่าอย่างไร?"

        "อาหารเกาหลี, ยุโรป, จีน, ญี่ปุ่น, หรืออะไรเงี้ย"

        "นี่.ๆ."

        มักจะมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับแผนกอาหารโภชนาการ

        พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับสมดุลของอาหาร, การพัฒนาส่วนผสมใหม่ๆของอาหาร, จุลชีววิทยา, เคมี และอื่นๆ
แต่ผู้คนแค่คิดว่าพวกเขาเรียนการปรุงอาหารที่หลากหลาย

        "คุณมีความรู้ในการทำอาหารไหม?

        "......"

        "คุณควรเรียนรู้อาหารอย่างเป็นระบบ"

        โรเซนอยากฟาดนักดาบ5ด้วยกระทะและตะหลิว (บังอาจสอนสังฆราช)

        โปรดติดตามตอนต่อไป

ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...