วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

เล่ม 29 ตอนที่ 10: กับดักของชนเผ่าซัลเลียน แปลโดย Cole’s Myth


เล่ม 29 ตอนที่ 10: กับดักของชนเผ่าซัลเลียน แปลโดย Cole’s Myth

เวลาแห่งความโกลาหลได้มาถึงแล้ว! โฆษณาของทางบริษัทยูนิคอร์นเองก็เริ่มฉายออกอากาศแล้วเช่นกัน

ทำไมถึงได้โผล่มาปุบปับแบบนี้วะ?”
ดูเหมือนจะพุ่งเป้าโจมตีมาทางเรานะ

บัดนี้ผู้คนต่างก็กำลังหวาดวิตกภายใต้สถานการณ์วิกฤติและคับขัน
สงครามได้คืบคลานเข้ามาหาทวีปทางตอนกลางแล้ว เมื่อก่อนนี้สงครามมักจะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกิลด์ทรงอำนาจทั้งหลาย ทว่าตอนนี้วิหารเอ็มบินยูและพวกมอนสเตอร์เข้ามาผสมโรงด้วย

-หมู่บ้านวิซูรันถูกพวกมอนสเตอร์ทำลายเสียหายยับเยิน เหล่านักเดินทางโปรดระวังขณะออกเดินทางไป ขอแนะนำว่านักสู้ที่มีเลเวลไม่ถึง 320 ไม่ควรเข้าไปประจันหน้าต่อสู้กับพวกมัน

-เมืองเซอร์จี้โดนวิหารเอ็มบินยูทำลายแล้ว จะมีคนไปช่วยพวกเขากันไหมนะ?

-พวกโจรบุกเข้าไปปล้นสะดมในร้านเฟร็ดดี้ ผู้คนออกตามหาอุปกรณ์เพื่อช่วยเสริมกำลังให้ตัวเอง พ่อค้าทั้งหลายต่างก็ยินดีขายสินค้าเพื่อล้างสต็อก เรื่องราวเลวร้ายมากมายดั่งการล่มสลายของเมืองหรือว่าปราสาทได้ปรากฏขึ้นบนกระดานแบบถี่ยิบ มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวตามเขตพื้นที่ปลอดภัยและตามถนนสายหลักของเมืองเต็มไปหมด

ฉันละกลุ้มใจกับสถานการณ์ช่วงนี้จริงๆ
ชีวิตอยู่ยากขึ้นทุกวัน จะมีใครมาจัดการมอนสเตอร์พวกนี้แล้วกอบกู้สันติสุขให้พวกเราบ้างมั้ยนะ?”
ทุกคนเค้าก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเล่นเกมส์สงครามกันทั้งนั้นแหละ
ฟู้ววววว....ขนาดจะออกไปจากประตูเมืองยังน่ากลัวเลย
จะไปออกล่ายังลำบากเลย

ขณะที่การออกล่าตามพื้นที่ราบ เทือกเขา หรือว่าในป่า พวกเขาต้องระมัดระวังตัวเพื่อไม่ให้พวกมอนสเตอร์โจมตีใส่ ทั่วทั้งราชอาณาจักรต่างปั่นป่วนและสั่นคลอนตั้งแต่ที่พวกวิหารเอ็มบินยูเริ่มโจมตี

บางครั้งพวกมอนสเตอร์ก็จะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยของพวกมันจนทำให้เหล่าผู้เล่นไม่อาจวางใจได้เลย หลายคนก็จำใจต้องจ้างพวกทหารรับจ้างเพื่อออกไปทำภารกิจ แต่เพราะงั้นเองก็ทำให้ค่าตอบแทนเมื่อทำภารกิจสำเร็จก็พลอยต่ำลงไปด้วยเช่นกัน

ข้าไม่มีสินค้าอะไรเหลือให้เจ้าซื้อแล้ว ต้องขอโทษด้วย
ทำยังไงดีละ? สินค้าที่ข้าสัญญาว่าจะขายให้กับท่านถูกพวกโจรปล้นไปจนหมดแล้ว...
เหล่าชาวเมืองกินอยู่ด้วยความอัตคัด ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนให้กับคำขอภารกิจง่ายๆได้เลยด้วยซ้ำ
โอ๊ยย กินอยู่ลำบากมากจริงๆ
ลำบากเกินไปแล้วนะเว้ย
ไม่มีคำขอให้ทำภารกิจเลย ข้าแทบไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมอุปกรณ์แล้วนะ

เมื่อก่อนนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่มอนสเตอร์บุกรุกตัวเมืองเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะมีก็มีแต่เหล่าผู้เล่นช่วยกันกำราบพวกมันจนหมดสิ้น ทว่าสถานการณ์แบบนั้นในช่วงเวลาตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เหล่าพ่อค้าวาณิชย์ถูกพวกโจรปล้นสะดมจนหมดเนื้อหมดตัว แถมยังมีการโจมตีจากพวกวิหารเอ็มบินยู และยังมีสงครามกลางเมืองที่ยังคงส่งผลร้ายแรงให้กับตลาดภายในตัวเมืองอีกด้วย

เฮ้ นายมีเงินเก็บไหม?”
แกจะบ้าหรอ ฉันจะจ่ายค่าซ่อมรถลากยังยากเลยด้วยซ้ำ

การขนส่งสินค้าทางทหารไปยังอาณาจักรต่างๆและกิลด์ใหญ่โตทั้งหลายนั้นสามารถกอบโกยกำไรทางการค้าได้เป็นอย่างมาก ทว่าก็มีพวกที่ทำการค้าขายบางกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ค้าขายสินค้าประจำถิ่น เพราะงั้นคนอื่นๆก็ทำได้เพียงแค่ยืนมองพวกเขากอบโกยกำไรไปกับการค้าแบบผูกขาด
สถานการณ์ปัจจุบันของบรรดาเหล่าผู้เล่นและชาวเมืองกำลังเสื่อมโทรมทุกทีๆ จึงทำให้ทุกคนต่างก็ระเบิดคำก่นด่าพุ่งตรงไปที่บรรดาพ่อค้าทั้งหลาย

แบบนี้ไม่ได้นะเว้ย เอาจริงหรอวะ
เราจ่ายภาษีไปตั้งเยอะกับของแค่นี้เนี่ยนะ

ถึงแม้ว่าเหล่าพ่อค้าต้องจ่ายภาษีที่สูงเกินจริง พวกเขาก็ยังต้องทำธุรกิจอันแสนยากลำบากนี้อย่างไร้หนทาง ในขณะที่พวกเขาเองก็รู้สึกโกรธแต่ก็ไม่มีทางสู้ เพราะว่าอาชีพพ่อค้านั้นมีทักษะการต่อสู้ที่อ่อนด้อย ไม่จำเป็นต้องเอ่ยให้เสียเวลาเลย ยิ่งพวกพ่อค้าเร่ทั่วไปแล้วยิ่งต้องเจอกับข่าวร้ายที่ไม่น่าอภิรมย์เลยซักนิด

เราต้องทนกับเรื่องแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันวะ ขอแค่มีคำขอภารกิจซักนิดละก็คงจะทำให้ท้องของข้าอิ่มได้บ้าง แต่พวกนั้นก็เอาแต่บอกพวกเราให้ไปตายซะงั้น
ร้านของข้าปิดกิจการไป 5 แห่งละนะ ข้างนอกก็อันตราย จำนวนคนที่ออกล่าก็ลดลง แถมคุณภาพของสินค้าก็ยิ่งตกต่ำเรื่อยๆ
 นี่พวกมันจะเอาเปรียบพวกเราไปถึงไหนกันวะ!

การพบปะของเหล่าพ่อค้าขนาดเล็กและขนาดกลางต่างกล่าวโทษไปที่พวกเจ้าเมืองและกิลด์ทั้งหลาย ผู้เล่นหลากหลายสายอาชีพได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนบนทวีปครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า ชาวไร่ชาวสวน คนเหมือง ช่างเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับพวกเขาที่จะออกไปทำงาน

ส่วนกิลด์ทั้งหลายเองก็ไม่ค่อยพอใจกับอาณาเขตที่พวกเขาปกครองอยู่ และยังคงมัวแต่ทำสงครามเพื่อขยายดินแดนออกไปให้มากขึ้น

ความสับสนอลหม่านบนทวีปทางตอนกลางกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าจนถึงหมู่บ้านเขตภูเขาเพราะว่ามีมอนสเตอร์จำนวนมากมายปรากฏตัวขึ้นอยู่บ่อยๆ

-อย่ายอมให้พวกวิหารเอ็มบินยูมาฉกชิงดินแดนของพวกเรา

ทางศาสนจักรทั่วทั้งทวีปประกาศตนเพื่อต่อต้านวิหารเอ็มบินยู เหล่าอัศวินเทมพล่าและพระจากวิหารเองก็เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว

เพราะว่าสงครามระหว่างวิหารเอ็มบินยูและเหล่าศาสนจักรได้เริ่มต้นขึ้น บรรดาผู้เล่นต่างก็ตระหนักได้ว่า บัดนี้ ทวีปเวอร์เซลกำลังจะแปรเปลี่ยนไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

ขณะที่บาร์ดเรย์มั่วแต่ยุ่งอยู่กับการทำภารกิจต่อเนื่องของเขา ทางกิลด์เฮอร์มีสเองก็ยุ่งอยู่กับการเคลื่อนกำลังรบ พวกเขาขูดรีดภาษีมากมายจากราชอาณาจักรฮาเว่นและคัลลามอร์ขณะที่กำลังเตรียมแผนการรบ

โอกาสดีๆแบบนี้ไม่มีมาอีกแล้วนะ
ไม่มีทางหรอกครับที่เราจะปฏิเสธข้อเสนอของทางกิลด์เฮอร์มีส เรายอมรับข้อเสนอครับ มาสร้างอนาคตไปด้วยกันเถอะ

กิลด์ราชสีห์ทมิฬได้รับความเสียหายอย่างหนักที่เหมืองเมลเบิร์น เมื่อเทียบกับขนาดของกิลด์แล้ว มันก็แค่ความพ่ายแพ้ครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าคาร์ไลส์และผู้เล่นระดับยอดฝีมือคนอื่นๆกลับรู้สึกว่าถูกเย้ยหยัน!

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่ากิลด์ราชสีห์ทมิฬนั้นช่างกระจอกเมื่อเทียบกับกิลด์เฮอร์มีส ผู้เล่นของกิลด์ราชสีห์ทมิฬยอมปล่อยวาง ในขณะที่กิลด์คู่ปรับของพวกเขา กิลด์บีเดนกลับกลับใช้โอกาสนี้เพื่อขยายอำนาจของพวกเขา
แน่นอนว่าถ้าหากพวกเขาร่วมมือเป็นพันธมิตรกับกิลด์เล็กๆกิลด์อื่นๆ พวกเขาก็คงจะสามารถยึดอาณาเขตที่เสียไปกลับมาได้ แต่เพราะว่ากิลด์เฮอร์มีสนั้นอยู่เบื้องหลังกิลด์บีเดน พวกเขาคอยส่งกองกำลังมาแบบลับๆเพื่อบั่นทอนกำลังกิลด์ราชสีห์ทมิฬและเข้ายึดราชอาณาจักรทัลเลนได้ในที่สุด

กิลด์บีเดนเคยมีประสบการณ์ประจันหน้ากับพลังของกิลด์เฮอร์มีส เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่อาจที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้นได้ พวกเขาจำต้องมอบเครื่องบรรณาการเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เป็นค่าคุ้มครองราชอาณาจักรทัลเลน ทว่ามันก็คงจะดีกว่าโดนถล่มจนย่อยยับเหมือนกับกิลด์ราชสีห์ทมิฬนั่นแหละ

ลาฟาเย่กำลังทำการประชุมกับบรรดาผู้นำของกิลด์เฮอร์มีส

พวกกิลด์บีเดนคงใช้เวลาซักสองสามเดือนในการเก็บกวาดราชอาณาจักรทัลเลน
นี่เราจำเป็นต้องเข้าร่วมกับพวกกิลด์บีเดนด้วยหรอ? พวกเราได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของกองกำลังของพวกเราแล้วนะ
เราเจอปัญหาทางภูมิประเทศนะ เพราะว่าอาณาจักรอื่นที่มีปัญหากับพวกเรานั้นมีเยอะมาก และพวกบีเดนเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายๆกับพวกเรา เพราะฉะนั้นข้าจึงให้พวกมันจัดการกับปัญหาน่ารำคาญพวกนั้นแทน
แล้วถ้าต่อไป เรารู้สึกไม่สบอารมณ์กับพวกมันเข้าละ.
ถ้างั้นก็ค่อยเก็บพวกมันให้หมด บังเอิญจริงๆที่พวกผู้เล่นสูงๆที่เป็นแกนกลางของกิลด์บีเดนส่วนมากกระจายกำลังไปประจำการหลากหลายพื้นที่
จากนั้นเราก็แค่กำจัดเปลือกที่เหลือทิ้งซะ
ปัญหาของเราตอนนี้คือการยึดราชอาณาจักรลาเซล...
เรื่องนั้นเรากำลังดำเนินการ การโจมตีรุนแรงแบบต่อเนื่องของพวกเราคงจะเสร็จภายในหนึ่งเดือนนี้แน่

กิลด์เฮอร์มีสได้ทำการตัดสินใจที่จะทุ่มกำลังทหารไปยังราชอาณาจักรลาเซล จากนั้นพวกเขาก็วางแผนที่จะโจมตีราชอาณาจักรแห่งสมาพันธ์บริเตนในทันที ต่อจากนั้นก็จะไปจัดการกับพวกกิลด์เมฆา
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เจ้าไวทรีกำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับยูรินที่ขี่บนหลัง

วิวสวยดีจัง ขอบคุณไวทรีนะจ๊ะ ที่ทำให้ฉันรู้สึกอะไรแบบนี้
ครากกก กย่า กร้า
พวกไวเวิร์นเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวต่อคำชื่นชมยกยอ
ฉันละอยากพาเธอบินไปตลอดชีวิตเลยหล่ะ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ตลอดทั้งคืนไปเลย
“……”

เจ้าไวทรีดูเหมือนจะสูญสิ้นพละกำลังในการยกปีกของมันจนหมดจากการได้ยินคำพูดนั้นของยูริน มันบินไปนั่นมานี่บ่อยมากและตอนนี้ผู้โดยสารก็เพิ่มจำนวนขึ้นอีกหนึ่งคน!

ไวทรีและยูรินกำลังบินอยู่บนภูเขาสูงชัน เธอมาที่นี่เพื่อวาดแผนที่ของเทือกเขาฮาร์เซลตามคำร้องขอจากวีด

บินขึ้นไปให้สูงกว่านี้กันดีกว่า ฉันอยากได้วิวที่กว้างกว่านี้
กรี๊กกกกก!

เจ้าไวทรีกระพือปีกของมันและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที ช่วงก่อนหน้านี้มันก็ออกล่าและเพิ่มเลเวลมาอยู่บ้าง ดังนั้นในตอนนี้ความเร็วขั้นต่ำของมันถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ยูรินมองลงไปที่เทือกเขาฮาร์เซลจากแนวก้อนเมฆ พวกซัลเลียนนั้นได้สร้างป้อมปราการขึ้นมาบนยอดเขาทับคาลที่สูงชันมากพอดู มีทั้งก้อนหินและเนินผาที่คอยเป็นเกราะกำบังให้กับพวกมัน เพราะงั้นก็สามารถเรียกได้เลยว่านี่แหละคือป้อมปราการที่มีชัยภูมิที่ดีมากจริงๆ

ฉันจำเป็นต้องวาดสภาพภูมิประเทศของภูเขาสูงพวกนี้

จากนั้นยูรินก็เริ่มละเลงวาดเส้นแผนที่ลงไปอย่างประณีต
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เอาหล่ะ เอาตามนี้ละกัน

วีดวางกลยุทธ์ใหม่ตามข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหนูบ้านและเจ้าวิหคเงิน
เป็นแผนการที่ไม่เลวเลยจริงๆครับ

เทือกเขาฮาร์เซลนั้นมีพื้นที่ภูมิประเทศที่ลาดชัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่จะกวาดต้อนศัตรูให้ตกหลุมพรางเพื่อสร้างข้อได้เปรียบ อีกทั้งพวกซัลเลียนยังสามารถใช้ข้อได้เปรียบจากถ้ำและโพรง จากนั้นก็สร้างกลยุทธ์จากจุดแข็งนั้นได้ด้วย!

วีดรู้สึกชื่นชมพวกมัน!

พวกมันนี่ฉลาดไม่เบาเลยจริงๆ
เพลเองก็รู้สึกคาดหวังในแผนการของวีดอย่างมาก
ถ้างั้นเราควรจะใช้กลยุทธ์แบบไหนดีละครับ?”

วีดมีชื่อเสียงมากบนทวีปเวอร์เซลแห่งนี้ คงไม่เวอร์เกินไปหากจะบอกว่าเขาคือผู้ที่มีความสามารถในการบัญชาการรบและความเป็นผู้นำที่ดีที่สุด แถมเขายังเอาตราประทับของเจ้าแห่งทวีปและแตรแห่งทูเรเซตมาด้วย ด้วยระดับความเป็นผู้นำของวีดในตอนนี้ เขาสามารถยกให้พวกคนเถื่อนบางตนกลายเป็นพลทหารระดับหัวกระทิได้ด้วยซ้ำ ขอเพียงแค่ฝึกฝนพวกมันนิดๆหน่อยๆเท่านั้น
เพลรู้จักความสามารถในการต่อสู้ของวีดเป็นอย่างดี แต่ถึงยังไงเขาก็ยิ่งคาดหวังในกลยุทธ์ของวีดมากยิ่งขึ้นไปอีก

เจ้าพวกนี้มันฉลาดและรู้จักใช้กลวิธีต่างๆนานา...
แล้วเราจะใช้อะไรไปสู้กับพวกมันหล่ะครับ?”
เราต้องไม่ทำให้ความพยายามของพวกมันเสียเปล่า
เอ๋?”

เพลคิดว่านั่นมันเป็นอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ทว่าวีดก็นำกองทัพประติมากรรมของเขามุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาทับคาล พวกเขาเข้าสู่แนวของศัตรูลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าประติมากรรมสลักชีพใช้พื้นที่และช่องว่างเพื่อโจมตีพวกนักสู้ซัลเลียน

ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะนำปาร์ตี้ไปออกล่าภายในเทือกเขาฮาร์เซลแบบนี้ นั่นก็เพราะว่าคนพวกนั้นต้องนำกองกำลังมาให้มากพอที่จะเอามาต่อกรกับพวกซัลเลียน!

พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นแข็งแกร่งมาก ทว่าก็ยังคงด้อยเรื่องความว่องไวเมื่อเทียบกับพวกซัลเลียน

แถมภูมิประเทศเองก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่

ราชันย์ไฮดร้าไปทางขวา หน้าที่ของแกก็คือใช้การโจมตีหลอกล่อศัตรูไปอีกทาง โกลมินิ แกถอยกลับไปอยู่แนวตั้งรับในตำแหน่งของแก แล้วคอยสนับสนุนคนอื่นๆ

พวกประติมากรรมสลักชีพแปรขบวนรบตามคำสั่งของวีด พวกเขาข้ามเขามากว่า 9 ลูกเพื่อมุ่งหน้าไปภูเขาทับคาล ในขณะที่ตามทางก็มีพวกศัตรูปรากฏตัวออกมาจากโพรงถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่เรื่อยๆ

พวกซัลเลียนนั้นมักจะเล็งการโจมตีไปที่จุดๆเดียว ฉะนั้นพวกประติมากรรมสลักชีพที่อ่อนแอจึงถูกจัดให้ไปอยู่ตามแนวหลัง ในขณะที่พวกมีพลังชีวิตสูงก็จะถูกจัดให้ออกมาอยู่แนวหน้า เขาเปลี่ยนรูปแบบปาร์ตี้ออกล่าตามลักษณะเฉพาะของพวกประติมากรรมสลักชีพแต่ละชนิดในตอนที่สภาพภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไป

ธาราอัคคี!

โรมูนะโจมตีใส่ศัตรูด้วยเวทย์มนต์ใหม่ของเธอ ธาราอัคคี ที่เธอได้เรียนรู้มา พวกศัตรูเองก็โดนล้างบางด้วยแม่น้ำเพลิงแดงเดือดในที่สุด!

ฮ่าๆ สุดยอดไปเลย

วีดยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอันแสนขมขื่น ทุกครั้งที่โรมูนะพออกพอใจกับเวทย์วงกว้างอันแข็งแกร่งของเธอ!

พวกเพื่อนๆของเขาเองต่างก็แสดงทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจในตอนที่เดินหน้าต่อสู้ไปเรื่อยๆ

พวกไวเวิร์น ปิงหลง และฟีนิกซ์ก็คอยสนับสนุนพวกเขาจากบนท้องฟ้าและคอยจัดการกับพวกศัตรูไปด้วย

 เล็งการโจมตีของพวกแกไปที่จุดๆเดียว แล้วถ้าศัตรูกระจายตัวออกจากกันก็สู้ไปเลยอย่าได้กลัว พวกแกกินไปเยอะแล้วนะเมื่อกี้นี้ อย่าปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจละ!

ภายใต้คำสั่งของวีด เหล่าประติมากรรมสลักชีพสามารถแสดงความสามารถของพวกมันออกมาได้มากกว่าเดิม 35% เมื่อเขาสามารถใช้พวกประติมากรรมสลักชีพได้อย่างเต็มที่ พวกมันก็สามารถแสดงพลังทำลายล้างได้อย่างเต็มกำลัง พวกประติมากรรมสลักชีพที่สามารถใช้ธนูและเวทย์ได้ก็ค่อนข้างมีประโยชน์ เพราะงั้นพวกมันถึงได้ถูกปกป้องอย่างปลอดภัยอยู่ตรงใจกลางขบวน

พลังยิงลูกไฟที่เล็งใส่เป้าหมายเผด็จศึกศัตรูไปได้อย่างมากมาย! เพลและโรมูนะจัดการศัตรูด้วยการโจมตีแบบต่อเนื่อง ขณะที่เซอร์กะกับเซเฟอร์ก็จัดการกับศัตรูที่เข้ามาใกล้

ตำแหน่งที่ตั้งของป้อมปราการของพวกซัลเลียน น่าจะต้องข้ามเขาไปอีก 6 ลูก

วีดใช้แผนที่เพื่อคำนวณระยะทาง พวกเขาเดินทางข้ามภูเขาใหญ่มา 9 ลูกแล้วขณะที่มุ่งหน้าไปทับคาล นี่ก็เดินทางมาได้ซักพักแล้วทว่าก็ยังเหลือระยะทางอีกตั้งไกลกว่าจะถึงจุดหมาย

มีสถานที่ที่ดูอันตรายอยู่ตรงกลางนี่ด้วยแหะ....

หุบเขาคือสถานที่ที่พวกเขาอาจโดนเล็งเป้าโจมตีได้ดีที่สุด โดยปกติแล้วพวกไวเวิร์นจะคอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่แล้ว ทว่าพวกซัลเลียนนั้นเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบผ่านโพรงและถ้ำจึงเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นพวกมันได้ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาอาจจะโดนลอบโจมตีแบบกะทันหัน!

เราควรกลับกันดีไหมคะ?”

ไอรีนแสดงท่าทีตอบสนองที่ดูเป็นกังวล เธอเป็นนักบวชดังนั้นมันคงเป็นฝันร้ายที่สุดทนสำหรับเธอหากโดนลอบโจมตีแบบปุบปับ ในสถานการณ์ฉุกเฉินเธอคงไม่มีเวลามารักษาทุกคนแน่ๆ บางคนก็อาจต้องตาย เธอจึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั้น     
 
 ผมมีแผน ไปต่ออีกหน่อยเถอะครับ

ขณะที่พวกเขาพักเอาแรงอยู่ชั่วครู่ วีดก็ทำอาหารและพันแผลให้กับพวกประติมากรรมสลักชีพที่ได้รับบาดเจ็บ เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้สิทธิพิเศษที่ได้จากวิหารเฟรย่าที่สามารถพาอัลเวรอนมา เพราะงั้นไอรีนจึงต้องรักษาแผลให้คนอื่นๆเพียงคนเดียว

แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีทักษะมากพอกับอัลเวรอน ทว่าราชันย์ไฮดร้าก็มีพลังชีวิตที่เทียบเท่าเกือบจะเป็นอมตะเลยด้วยซ้ำ ราชันย์ไฮดร้านั้นจะไม่ตายแม้ว่ามันจะเหลือเพียงแค่หัวเดียว ไอรีนจึงสามารถใช้เวลานั้นไปรักษาตัวอื่นได้
พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นสามารถเป็นเพื่อนกับนักบวชไอรีนได้อย่างรวดเร็ว อาชีพสายนักบวชนั้นเป็นสายอาชีพที่พิเศษมากในการเพิ่มค่าความสนิทสนม!

วีดอนุญาตให้พักนานกว่าปกติแล้วเขาก็ไปนั่งแกะสลักประติมากรรม นั่นคือพฤติกรรมปกติของเขาจึงไม่มีใครสนใจอะไรเขา เขาแกะสลักเทือกเขาที่แสนกว้างใหญ่ด้วยกระดานไม้

ผ่านไปสองถึงสามชั่วโมง เพลก็หยุดเคลื่อนที่

ดูท่าจะเสี่ยงเกินไปที่จะข้ามนะครับ

มันคือแม่น้ำที่มีลำธารไหลเชี่ยว โดยปกติแล้วแม่น้ำสายนี้จะอยู่ที่ระดับหัวเข่าหรือว่าส่วนเอว ทว่าฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำไหลเชี่ยวกราด วีดมองดูแผนที่และระบุตำแหน่งที่ตั้ง

จากแผนที่ที่ยูรินวาด ที่นี่คือทำเลที่ดีที่จะโจมตี เราต้องผ่านแม่น้ำสายนี้ถ้าเราจะไปให้ถึงเขาทับคาล

การทราบสภาพภูมิประเทศก่อนล่วงหน้านั้นถือว่ามีประโยชน์อย่างมากที่จะไม่หลงหรือไปติดกับดักในเขตเทือกเขา มีเขตพื้นที่อันตรายมากมายระหว่างทางไปภูเขาทับคาลและนี่ก็คือหนึ่งในสถานที่นั้น ถ้าหากว่าพวกเขาว่ายน้ำข้ามไปพวกเขาก็คงโดนโจมตีโดยลูกธนูจากทางป่าหรือว่าทางริมแม่น้ำ

เพล โรมูนะ และพวกประติมากรรมสลักชีพก็จะไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แถมที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่วีดจะมานั่งแกะสลักซะด้วย

โรมูนะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ

ไม่มีทางอ้อมที่ปลอดภัยกว่านี้แล้วหรอคะ?”
เราต้องกลับไปข้ามเขาอีก 2 ลูก แล้วก็ต้องปีนขึ้นทางที่ลำบากด้วย คงจะดีกว่าถ้าเราข้ามจากตรงนี้อย่างระมัดระวังแล้วก็เตรียมพร้อมต่อสู้ด้วย

วีดเดินไปอยู่ด้านหน้าพวกประติมากรรมสลักชีพที่มีค่าพลังชีวิตที่สูง

 พวกนายอย่าวางใจเด็ดขาด คุณเพลจะออกไปดูต้นทางก่อน ส่วนคุณโรมูนะก็ควรจะเตรียมร่ายเวทย์ไว้หน่อยนะครับ

นั่นยิ่งทำให้กังวลมากยิ่งขึ้น ศัตรูคงไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาข้ามแม่น้ำโดยที่ไม่ทำอะไรพวกเขาเลยหรอก ทว่าหลังจากนั้นนั่นเอง ก็มีพวกนักสู้ซัลเลียนกลุ่มหนึ่งค่อยๆโผล่ออกมา

ตั้งแต่มาถึงที่นี่พวกเขาได้แต่สู้กับพวกทหารระดับธรรมดา ทว่าตอนนี้นักสู้ระดับหัวกระทิได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว พวกมันเป็นนักสู้ที่มีเลเวลกว่า 420 ! พวกนักสู้ซัลเลียนพุ่งการโจมตีมาที่พวกเขาหมายจะสังหารโดยไม่ห่วงชีวิตเลยแม้แต่น้อย

เหล่าประติมากรรมสลักชีพเติบโตมาเป็นอย่างดีหลังจากที่ได้รับชีวิตมาตั้งแต่ที่เขต ลาส ฟาลังคซ์ ดังนั้นพวกมันจึงออกไปสู้อย่างเต็มใจแม้ว่าพวกมันจะโดนศัตรูกดดันอยู่ ค่าพลังชีวิตของพวกประติมากรรมสลักชีพลดลงเรื่อยๆในขณะที่นักสู้ซัลเลียนได้รับบาดเจ็บล้มตาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประติมากรรมสลักชีพอย่างเจ้ายักษ์เพลิงที่แสดงความสามารถอันแสนโดดเด่น เนื่องจากคุณสมบัติไฟของมัน พวกซัลเลียนที่อยู่ในร่างสัตว์เลื้อยคลานจึงมักจะหลบหลีกการโจมตีของมันมากเป็นพิเศษ

เป็นห่วงจังเลยแหะ

ไอรีนเอ่ยคำพูดออกมาด้วยความเป็นกังวล

เราเข้าไปอยู่ในแนวรบของศัตรูแล้วนะ แถมพวกมันอาจจะเรียกกำลังเสริมจากโพรงที่เชื่อมต่อกันนั่นก็ได้ แล้วก็คงจะโดนล้อม แม้ว่าพวกประติมากรรมสลักชีพจะแข็งแกร่งแต่ว่ามันก็ยังอันตรายเกินไป

ความเร็วในการออกล่าของพวกประติมากรรมสลักชีพนั้นถือว่าเร็วมากจากคำสั่งของวีด แม้ว่าพวกนักสู้ซัลเลียนจะล้อมพวกเขาทุกทิศทาง พวกมันก็ยังสามารถเอาชนะได้

ราชันย์ไฮดร้าก็คอยข่มขวัญให้ศัตรูกลัวขณะที่เจ้าหนอนแห่งความตายก็คอยปรากฏตัวออกมาจากพื้นดินแบบปุบปับเพื่อคุกคามเหล่าศัตรู

ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ

เจ้างูบ้านนอกเองก็พ่นพิษออกไปในขณะที่การโจมตีของลูกธนูและเวทย์เล็งไปยังเป้าหมาย ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพขนาดใหญ่ก็โจมตีใส่กองกำลังศัตรูที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม พวกมันทั้งมีประสิทธิภาพและทรงพลังมากจนสามารถกวาดล้างพวกซัลเลียนไปได้มากมาย

และแน่นอนว่าไม่มีใครตาย แต่ว่าอย่างไรก็ตามไอรีนก็หวังว่าพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น สถานการณ์ที่พวกเขาทุกคนต้องตายจนหมด นอกจากนั้นการสูญเสียประติมากรรมสลักชีพแม้แต่ตัวเดียวคงเป็นการสูญเสียที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้สำหรับวีด

ดังนั้นเธอตั้งสติและตัดสินใจที่จะหยุดวีดเอาไว้ สามัญสำนึกของเธอบอกกับเธอว่าวีดเหมือนกำลังเร่งรีบอย่างผิดวิสัย

 ดูเหมือนว่าศัตรูจะล่อเรามาที่นี่นะคะ
วีดพยักหน้าตอบรับข้อคิดเห็นของไอรีน
ถูกต้องแล้วครับ
งั้นแผนนี้ก็.....
เราก็กำลังหลอกล่อพวกมันอยู่เหมือนกันครับ

วีดครุ่นคิดขณะที่เขามองดูแผนที่แสดงภูมิประเทศที่ยูรินวาดให้

ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุด ถ้าเราทะลวงเข้าไปจากด้านนอกคงใช้เวลามากพอควร พวกมันคงกระจายกำลังออกไปเพื่อป้องกันหรือไม่ก็ลอบโจมตีแบบฉับพลัน...

คงต้องใช้เวลามากเอาการเพื่อที่จะไปให้ถึงยอดเขาทับคาล พวกเขาจะต้องต่อสู้กับพวกซัลเลียนที่คอยแพร่พันธุ์อยู่ตลอดภายในเทือกเขาฮาร์เซลนี่ แม้ว่าจะสามารถเอาชนะศัตรูได้สถานการณ์ก็คงเสียเปรียบ ยิ่งตอนที่พวกเขาเข้าไปในแนวอาณาเขตของศัตรู

มันคงกลายเป็นสงครามยืดเยื้อที่ส่งผลเสียมากกับเสบียงรบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงตัดสินใจที่จะคอยให้เจ้าวิหคเงินและหนูบ้านคอยส่งข่าวบอกตำแหน่งของศัตรูอยู่ตลอดเวลาและพร้อมที่จะต่อสู้ให้จบรวดเดียวไปเลย

 ตอนนี้ขอแค่คุณเชื่อใจผมก็พอแล้วครับ
มีโอกาสสำเร็จไหมคะ?”
ผมก็ไม่มั่นใจ แต่ถ้าพวกมันมีสมองละก็ พวกมันก็ควรจะนอนอยู่เฉยๆแล้วรอให้เราไปล้างบางพวกมันคงจะดี

ไอรีนตัดสินใจที่เชื่อในตัววีด มันคือถ้อยคำที่มาจากปากของคนที่ยอมเสียขาดีกว่าเสียเงินค่ารักษาพยาบาล!

พื้นที่อันตรายต่อไปที่พวกเขาต้องเผชิญหลังจากแม่น้ำเชี่ยวกราดนั้นก็คือ หุบเขาหิน ที่มีกำแพงทั้งสองข้างขนาบสูงยาวจนเกือบ 2 กิโลเมตร มันเป็นสถานที่ที่ทำให้คนต้องอ้าปากค้างและอยากหันหลังกลับด้วยซ้ำ! มันเป็นเส้นทางที่มีสายน้ำไหลตกลงไปในหุบเขา

เซเฟอร์มองดูรอบๆด้วยสีหน้าตึงเครียด

ไม่มีทางผ่านที่นี่ไปได้โดยไม่โดนการลอบโจมตีหรอกครับ

พวกซัลเลียนใช้โพรงแคบๆที่แทบจะมองไม่เห็นที่พวกเขาไม่มีมองเห็นได้เลยจนกว่าพวกมันจะปรากฏตัวออกมา

เราควรขึ้นไปเดินบนหน้าผาดีไหม คงจะเร็วกว่านี้นะครับ?”

เพลเดินไปข้างหน้าพร้อมกับธนูของเขาพร้อมเตรียมต่อสู้ สถานที่นี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีศัตรูรอคอยพวกเขาอยู่ตลอดเวลา!

 ไม่ละ เราจะไปทางด้านล่างของหุบเขานี่แหละ
เอ๋? แต่ว่ามันไม่มีทางให้เราหนีเลยนะครับ กำแพงหุบเขาชันๆนี่ก็แทบไม่ต่างอะไรกับการรับโจมตีจากกำแพงเมืองเลย
นั่นแหละที่ผมหวังเอาไว้

วีดเลือกที่จะเดินไปทางฝั่งที่เป็นร่องน้ำ

พวกประติมากรรมสลักชีพต้องเคลื่อนตัวไปตามหุบเขากว้างที่มีกำแพงหินสูงชันขนาบทั้งสองข้าง

ที่นี้แหละพวกมันต้องออกมาแน่ๆ นี่เป็นพื้นที่เชือดชั้นดีเลยนะ

วีดเข้ามาในหุบเขาหินนี้ด้วยความคิดแบบนั้นนั่นเอง
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★


พวกซัลเลียนซ่อนตัวอยู่ในโพรงทั้งหลายภายในพื้นที่หุบเขาทั้งสองฝั่ง

ข้านี่ฉลาดจริงๆ
นี่มันแผนของข้านะ
พวกมนุษย์น่าโง่ คริๆๆๆ

เหล่าผู้อาวุโสและนักสู้ซัลเลียนต่างก็หยุดหัวเราะไม่ได้ พวกเขามั่นใจในความเฉลียวฉลาดของพวกเขา! 

 ที่นี่มันดีเกินไปที่จะให้พวกมันผ่านไปได้ง่ายๆ

ฮ่าๆ เทพเจ้าให้ทุกอย่างกับข้าแล้ว! คนอื่นๆมีแต่พวกโง่ๆทั้งนั้น

พวกมันกำลังรออย่างนิ่งเงียบขณะที่กลุ่มของวีดและพวกประติมากรรมสลักชีพเข้ามาในหุบเขาหิน

พวกมันติดกับเราแล้ว!”
จัดการพวกมันให้หมด

ทันใดนั้นพวกนักสู้ซัลเลียนก็ปรากฏตัวพร้อมกันในคราวเดียว

และในไม่ช้าหุบเขาหินสูงชันแห่งนี้ก็ปกคลุมไปด้วยสีน้ำเงินเข้มจากผิวหนังของพวกมัน

-ติดตามตอนต่อไป-
ผู้แปล : Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

เล่มที่ 29 ตอนที่ 9: ปฏิบัติการของเหล่าประติมากรรมสลักชีพ แปลโดย Cole’s Myth


เล่มที่ 29 ตอนที่ 9: ปฏิบัติการของเหล่าประติมากรรมสลักชีพ แปลโดย Cole’s Myth

วีดเดินหน้าย่างก้าวสู่รังของอาครีย์ อองไคเบิร์น เขาพาเจ้าไวทรีบินไปที่อาณาจักรธอร์ จากนั้นก็เดินไปหาไคเบิร์นตามลำพังในกรณีที่เผื่อว่าเขาอาจจะตาย
โธ่เอ้ย ซวยชะมัด.......
เมื่อไม่นานมานี้เขาแค่นั่งรอในร้านเหล้าดื่มเบียร์อย่างสบายใจขณะที่พวกคนแคระขนย้ายเครื่องบรรณาการไปให้มัน แต่ทว่าครั้งนี้เขากลับต้องไปด้วยตัวเอง
พิลึกจริงๆทำไมชีวิตฉันถึงต้องตรากตรำขนาดนี้นะ
วีดถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่เขานั่งพัก เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมชีวิตของเขาถึงได้เต็มไปด้วยความลำบากมากมายขนาดนี้
ถ้าเป็นหยั่งงี้ละก็ ฉันคงต้องทำใจกับตอนที่เงินหล่นหายไปจากกระเป๋าแล้วหล่ะ
วีดเดินมุ่งหน้าขึ้นไปยังรังมังกร เขาพึ่งได้ยินข่าวดีมาว่าอาณาเขตของราชอาณาจักรอาเพ่นขยายตัวขึ้นเนื่องจากมีหลายหมู่บ้านนมาเข้าร่วมด้วย
หลายหมู่บ้านมีสภาพทรุดโทรมเพราะจำนวนประชากรที่ลดต่ำลง ดังนั้นงานอีเว้นที่จัดขึ้นจึงไม่ได้ใหญ่โตมากนักสำหรับเขาในฐานะกษัตริย์ที่จะไปเข้าร่วม แต่เพราะแต่ละหมู่บ้านรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว มันจึงทำให้เมืองคับคั่งไปด้วยผู้เล่นมากมาย
เหล่าพ่อค้าตัดสินว่ามันจะเป็นพัฒนาการที่ดี มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนถ้าหากได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น พวกเขาจึงลงทุนและสร้างบ้านในทำเลที่ดี
พวกลอร์ดเองก็ได้ทำสัญญาสันติกับวีด จึงไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของเมือง
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ พวกผู้เล่นเริ่มก่อสร้างกระท่อมภายในหมู่บ้าน เหล่าชาวไร่ชาวสวนก็ช่วยถางผืนดินเพื่อเตรียมการเพาะปลูก ขณะที่เหล่าคนเหมืองก็ตระเวนช่วยหาเหมืองแร่ในบริเวณใกล้เคียง
แต่กระนั้นตอนนี้ภารกิจและการล่าภายในหมู่บ้านยังไม่ดูน่าดึงดูดใจมากนัก เพราะเมื่อใดที่ผู้คนออกจากหมู่บ้าน ความเป็นปึกแผ่นและการทำงานพัฒนาหมู่บ้านให้ประสบผลสำเร็จก็จะพังทลายหายไปทันที ในขณะเดียวกันเมื่อใดที่พวกเขาได้เข้ามาอยู่ภายในอาณาเขตของราชอาณาจักรอาเพ่น พวกทหารก็จะสามารถออกล่าพวกมอนสเตอร์และสำรวจดันเจี้ยนได้ และในที่สุดก็จะสร้างผลประโยชน์ให้กับราชอาณาจักรอาเพ่นอย่างแน่นอน
และเมืองโมราต้าก็จะได้ประโยชน์อย่างมากหากหมู่บ้านอื่นๆเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น เพราะงั้นเป็นเรื่องดีที่จะได้เห็นศักยภาพภายในตัวพวกเขาตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
สภาพทางการเงินของราชอาณาจักอาเพ่นฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากการก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพ เพราะงั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถสร้างอาคารก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ให้กับทางหมู่บ้าน
จัตุรัสการค้าและอาคารสำคัญๆก็ถือว่าจำเป็นต้องสร้าง ถนนหนทางเส้นหลักที่เชื่อมโยงไปยังเมืองโมราต้า ที่ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอาเพ่น และเมื่อใดที่การค้าขายขยายตัวออกไปสู่ชุมชนของแต่ละหมู่บ้าน ก็จะช่วยได้อย่างมากในการขยับขยายความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและความมั่นคงของหมู่บ้าน
พวกผู้เล่นก็จะเข้ามาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านมากขึ้นถ้าหากว่ามันได้รับการพัฒนา เมืองโมราต้านั้นเติบโตอย่างรวดเร็วมาเป็นระยะเวลายาวนาน ทว่าแต่ละหมู่บ้านพึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรอาเพ่นซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นแรกเริ่ม
กรรรรรรรรร
โกรรรรรรรรร
เส้นทางสู่รังมังกรนั้นปูทางเอาไปด้วยมอนสเตอร์จำนวนมากมายรายล้อมอยู่ เส้นประสาทของเขาเหมือนโดนรุมทึ้งขณะที่พวกมันกำลังส่งเสียงคำรามอันแสนดุร้าย พวกมอนสเตอร์เลเวลสูงที่มีน้ำลายไหลหยดลงมาจากเขี้ยวแหลมคมของพวกมัน จึงทำให้วีดรู้สึกหวั่นเกรงและเหมือนโดนคุกคามเป็นอย่างยิ่ง
แต่ถึงกระนั้นเพราะเขาเดินเข้าไปในอาณาเขตของอาครีย์ อองไคเบิร์นพร้อมกับพวกสปาร์ทอย มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่พวกมอนสเตอร์จะโจมตีใส่เขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยินดีมากนักแต่เพราะเขาได้รับคำเชิญจากมังกรอาครีย์ออง จึงทำให้เขาปลอดภัยจนถึงบัดนี้
มังกรนี่ก็คงไม่ต่างอะไรกับคำสาปของเทพเจ้าเลยจริงๆ โรยเกลือใส่ในหม้อนิดๆ แล้วก็เตรียมพร้อมตั้งโต๊ะรอกินได้เลย พอเกิดมาใหม่ก็คงโดนเหมือนเดิมสินะ
เขาเดินมาจนถึงทางเข้าของรังแล้วในขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
- อภิสิทธิ์ในการนำสปาร์ทอยของท่านได้สิ้นสุดลงแล้ว
เหล่าสปาร์ทอยได้แยกตัวออกไป จากนั้นพวกมันก็กลับไปทำหน้าที่ของมันในการเฝ้าประตูทางเข้า วีดต้องเดินเข้าไปในรังเพียงลำพังหลังจากนี้
คัมภีร์เวทย์ อุปกรณ์ และสมบัติทั้งธรรมดาและหายากกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปหมดเหมือนอย่างกับกองขยะที่ถูกทิ้งเรี่ยราด เครื่องบรรณาการจากเหล่าคนแคระของอาณาจักรธอร์ที่ให้ส่งทุกๆปีกองขึ้นพะเนินเป็นภูเขา
จากนั้นมังกรตัวดำทะมึนที่กำลังนอนอยู่ก็ม้วนตัวยกหัวขึ้นมา!
-ท่านตกลงสู่ห้วงแห่งความหวาดหวั่นเมื่อประจักษ์ต่อหน้ามังกรไคเบิร์น
ค่าความสามารถทางกายทั้งหมดของท่านลดต่ำลง

วีดคุกเข่าลงทันที
ท่านคงกำลังพักผ่อนอย่างสุขสำราญ ข้าน้อย วีด ประติมากรผู้ต่ำต้อยมาพร้อมกับประติมากรรมที่ท่านไคเบิร์นปรารถนา
เป็นอีกครั้งที่เขาต้องประสบพบเจอความตรากตรำและความยุ่งยากชวนปวดหัว เขาสัมผัสได้ว่าเขาไม่ควรที่จะเข้าไปใกล้เขาจนเกินไป ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเพิ่มค่าความสนิทสนมกับเขา เขาขอแค่มอบไอเท็มให้เสร็จแล้วก็รีบกลับไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนหัวของอาครีย์ออง ไคเบิร์นขยับเข้ามาใกล้เขาอีก เจ้ามังกรพ่นลมหายใจที่มีกลิ่นรุนแรงออกมา
-ประติมากรรมหล่ะ?
นี่ครับ
วีดหยิบ รูปสลักไคเบิร์นอันเจิดจรัส ออกมาจากกระเป๋าสะพายของเขา
ซึ่งเป็นรูปสลักที่ทำขึ้นจากผลึกโมรา เป็นประติมากรรมที่ถูกสลักขึ้นมาจากผลึกคริสตัลที่แวววาว ถูกแกะออกมาอย่างดีราวกับดวงดาวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า ผลึกเล็กใหญ่ของอัญมณีสะท้อนรูปลักษณ์ของมังกรออกมาได้เป็นอย่างดี วีดจดจำเรื่องราวการสร้างประติมากรรมกับราชาเบลซ์ออซได้เป็นอย่างดี พระองค์รู้สึกตื่นเต้นมากพอๆกับตอนที่เขาได้ยินการพรรณนาถึงผลงานของเขา
- เป็นประติมากรรมที่สร้างสรรค์จริงๆ
ท่านคิดว่ามันสวยดีหรือเปล่าครับ?”
- ก็เตะตาดี การสลักประติมากรรมออกมาจากผลึกเชื่อมแบบนี้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก
-ประติมากรรมอัญมณี รูปสลักไคเบิร์นอันเจิดจรัส
ประติมากรได้เดินทางมาถึงก้าวย่างสุดท้ายแล้ว และได้สรรสร้างผลงานร่วมกับประติมากรรระดับตำนาน
ผลึกโมราที่อัดแน่นไปด้วยความเจิดจรัสของดวงดาว ซึ่งเป็นสมบัติอันลึกลับและสุกสกาวที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน
คุณค่าทางศิลปะ :12,843 หน่วย
คุณสมบัติพิเศษ : ความงดงามอันเหลือล้นนั้นมักก่อให้เกิดโชคชะตาอันเลวร้าย โอกาสที่จะพบเจอกับโจรป่าเพิ่มบ่อยมากขึ้นถึง 4 ครั้ง
เกียรติ +89
เสน่ห์ +145
มูลค่าไม่สามารถประเมินค่าได้
ผลเอฟเฟคจะไม่ทับซ้อนกับประติมากรรมชิ้นอื่น
จำนวนของประติมากรรมอัญมณีที่ทำเสร็จสมบูรณ์ : 1 ชิ้น

พื้นผิวของผลึกโมราส่องแสงสดใสงดงาม วีดหยิบประติมากรรมที่เขาทำร่วมกับราชาเบลซ์ออซออกมา จากนั้นก็ยกมันให้กับไคเบิร์น
อึก……”
ประติมากรรมที่อยู่ในมือวีดส่องแสงกระทบบนพื้นผิวผลึกโมรา ตั้งแต่หัวจนถึงหางของประติมากรรมมังกร มันเป็นประติมากรรมที่เป็นการรวบรวมผลึกอัญมณีชิ้นต่อชิ้นจนกลายมาเป็นปประติมากรรมหนึ่งชิ้นที่เสร็จสมบูรณ์ หากมีแสงอาทิตย์สัมผัสลงตัวผลึกแม้เพียงเศษเสี้ยว ผลึกโมราก็นั้นก็จะดึงแสงนั้นมาและประกายแสงระยิบระยับทันที คงไม่มีผลงานชิ้นไหนที่งดงามและส่องแสงแวววาวได้กว่าชิ้นนี้อีกแล้ว
-วางมันลงแล้วก็ไปซะ
เจ้าไคเบิร์นพูดออกมาอย่างนั้น ก่อนที่มันจะหาวแล้วก็หลับตาลง แม้ว่าเขาจะคาดหวังไว้บ้างนิดหน่อย แต่เจ้ามังกรนั่นก็ยังคงนิ่งเงียบโดยไม่มีค่าชดเชยใดๆให้กับเขา
ตริ้ง!
-สมบัติที่มังกรปรารถนา
ท่านได้รับสิ่งที่มังกรอาครีย์ออง ไคเบิร์นต้องการมามอบให้ได้ภายในวันที่กำหนด
เจ้ามังกรมีความสนใจในประติมากรรม ดังนั้นมันจึงต้องการสมบัติที่ทำขึ้นมาจากวัสดุชั้นเยี่ยม
ช่างเป็นเกียรติแก่ท่านที่มีชีวิตรอดหลังจากที่ได้พบกับมังกรไคเบิร์น
ภารกิจของท่านสำเร็จแล้ว!

 ไอ้มังกรเน่านี่…….
วีดกลั้นใจที่จะไม่ยอมเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว ทว่าตรงหางตาของเขาก็เปียกซึมด้วยน้ำตาจากความเศร้า ความเสียใจทั้งหลายดิ่งลึกลงสู่ภายในตัวของเขา เขาไม่เคยร้องไห้มาก่อนแม้ว่าจะดูหนังรักโรแมนติกอันแสนเศร้า
ขอบพระคุณท่านมากที่ยินดีรับมัน ท่านไคเบิร์น
วีดกล่าวคำลาและเดินออกไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
 เห้ออ อยากไปเที่ยวจังเลย
วันนี้คือวันที่เธอจะต้องไปทำงานแต่เช้าที่สถานีออกอากาศ ชินฮเยมินคือพิธีกรรายการ เรื่องราวของทวีปเวอร์เซลวันนี้คือการออกอากาศของรายการส่วนแรกและส่วนที่สอง บทพูดได้ถูกตรวจเช็คจนเรียบร้อยไปก่อนแล้ว แถมเธอยังเพิ่มเติมลงไปเองบ้างเล็กน้อย
ฉันอยากพักและออกผจญภัยไปกับทุกคนจริงๆ
ชินฮเยมินลองคำนวณดูว่าเธอจะโดนหักเงินไปมากแค่ไหนตอนที่ลาพัก ก่อนที่เธอจะส่ายหัวไล่ความคิดนั้นให้มันพ้นหัวไป การได้ไปเที่ยวต่างประเทศซักสองสามปีถือว่าเป็นความฝันของมนุษย์เงินเดือน ทว่าวาเป็นจริงนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย
 คุณโอจูวานคะ วันนี้เรามีข่าวมากมายมานำเสนอค่ะ คุณหลับสบายดีหรือเปล่าคะเมื่อคืน? ขอบตาดำของคุณดูเหมือนว่าคุณคงโต้รุ่งมาสินะคะ
มีมอนสเตอร์โจมตีหมู่บ้านบีสท์เมื่อวานนี้ครับ แต่ผมว่าคุณฮเยมินคงไม่ได้ยินข่าวที่เหล่านักเดินทางขับไล่พวกมันไปหรอกครับ
อุ้ยตาย มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยหรอคะ? คุณผู้ชมอาจจะกำลังสงสัยนะคะว่าวันนี้เรามีข่าวอะไรมานำเสนอ
ชินฮเยมินและโอจูวานกำลังดำเนินรายการต่อไปเรื่อยๆ
หลายคนคงรู้แล้วว่าตอนนี้บาร์ดเรย์ทำภารกิจที่ 15 ของภารกิจสายอาชีพอัศวินทมิฬสำเร็จแล้ว
เหลือเชื่อจริงๆครับ ส่วนพวกอัศวินและพลทหารที่บาร์ดเรย์นำมาเองก็เก่งขึ้นมากจริงๆ
วันนี้พวกเราจะฉายภาพวิดีโอของอีเว้นท์สำคัญที่เกิดขึ้นค่ะ นักรบไพธอนเองก็ทำสำเร็จแล้วใช่ไหมคะ?”
ฉายา หมาป่าจอมดุร้ายของเขานี่เหมาะกับเขาจริงๆครับ นั่นก็เพราะว่าไม่มีนักสู้คนไหนที่สามารถหลบซ่อนตัวจากเขาได้เลยจริงๆ แถมเขายังเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงในการเหวี่ยงดาบผู้ไร้ปราณีอีกด้วย
ส่วนแรกของการรายงานข่าวเกี่ยวกับบรรดาผู้เล่นที่กำลังท้าทายภารกิจปรมาจารย์ ตอนนี้ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ เพราะงั้นคนแรกที่ได้รับเกียรติยศและรางวัลยังเป็นความสนใจหลักๆอยู่ในตอนนี้
ถ้าหากว่ามันเป็นภารกิจการค้นหาสมบัติหรือค้นหาดันเจี้ยน ความยากที่จะทำให้สำเร็จได้นั้นยังถือว่าสูงมากนัก แถมผลตอบแทนก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย เพราะงั้นผู้เล่นหลายคนจึงรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะเฝ้ารอท้าทายภารกิจที่ยากๆขึ้นไปอีก
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรายการนี้ถึงกลายเป็นตัวแทนหลักในกาออกอากาศในแต่ละสถานี พวกเขาส่งผ่านข้อมูลสำคัญๆเกี่ยวกับทวีปเวอร์เซลให้กับเหล่าผู้เล่น จากนั้นเรตติ่งก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเอง
ส่วนแรกของการรายงานเป็นเรื่องเกี่ยวกับบาร์ดเรย์ และส่วนที่สองนั้นเกี่ยวกับการผจญภัยของคนอื่นๆ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

ชาวเมืองแห่งอาณาจักรธอร์กำลังพักผ่อนหย่อนใจพลางดื่มเบียร์ตามร้านเหล้า
เจ้าได้ยินข่าวไหมว่าวีดไปเจอมังกร อาครีย์ออง ไคเบิร์นมาด้วยนะ
จริงหรอๆ?”
ใช่ๆ พวกคนในเมืองเขาพูดกันให้แซ่ดว่า ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ไปพบกับไคเบิร์นแถมยังไร้รอยขีดข่วน
โห ทักษะแกะสลักเขาช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
อึก ไปเจอกับไคเบิร์นตัวเป็นๆงั้นหรอ?”
เหล่าคนแคระต่างรู้สึกประหลาดใจ
ความสนใจของบรรดาผู้เล่นทวีปเวอร์เซลในตัววีดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสองสามปีมานี้ แม้ว่าเขาจะสูญเสียชื่อเสียงเล็กน้อยจากการพ่ายให้กับบาร์ดเรย์ ทว่าการได้ขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอาเพ่นและการก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพก็ช่วยฟื้นความสนใจในตัวเขากลับมาอีกครั้ง ราชาผู้ขยายดินแดนและสร้างความไว้วางใจให้เหล่าชาวเมือง
แต่ว่าพวกเขาไม่สามารถปักใจเชื่อได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เหล่าผู้เล่นทั้งหลายเห็นอยู่นั้นคือวีดผู้มาจากคอนติเนนท์ ออฟ เมจิค แถมยังมีแฟนคลับมากขึ้นไปอีกในโลกของโรยัลโร้ด วีดได้สำแดงพลังอันแข็งแกร่งอันเหลือล้นของเขาตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาในเกมส์ เพราะเขาค่อนข้างเก็บตัวเงียบในช่วงเริ่มแรกดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องปล่อยไป ได้แต่รู้สึกถึงความตื่นเต้นและต่างคาดหวังสิ่งที่เคยเกิดและจะเกิดขึ้นในอนาคต
 โอ้โห! วีดมีชีวิตรอดกลับมาจากการไปเจอกับมังกร..
คนคุ้มกันที่เห็นก่อนหน้านี้คือพวกสปาร์ทอยที่เป็นของไคเบิร์นนิ
ว้า ฉันละสงสัยจริงๆว่ามันจะออกอากาศหรือเปล่านะ?”
ไม่รู้สิ ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
ยอมปล่อยวางทุกอย่างและเดินไปข้างหน้า เขานี่ช่างกล้าหาญจริงๆ
วีดเองก็กำลังนั่งอยู่ในโรงเหล้าที่มีชื่อว่า ไอเอิ้น แฮมเมอร์ เขาได้เบียร์มาดื่มฟรีเพราะมีระดับช่างตีเหล็กขั้นกลาง เขาหยุดพักที่นี่ก่อนจะบินกลับไป
มีคนรู้เรื่องภารกิจไคเบิร์นที่ฉันทำเสร็จแล้วสินะ
วีดกำลังฉลองด้วยเบียร์เย็นๆ มีนักเดินทางมากมายในโรยัลโร้ด ต่างให้ควาสนใจในตัวนักผจัญภัยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะงั้นข่าวคราวเรื่องที่พวกเขาทำลงไปถึงได้กระจายอย่างรวดเร็ว ภารกิจที่เขาพึ่งทำสำเร็จไปนั้นเป็นปรากฏการณ์อันแสนวิเศษสำหรับเหล่าคนแคระ
เห้อ ค่อยสบายใจหน่อย
ตอนนี้ทักษะแกะสลักของวีดอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 9 กับอีก 49.2% เขาต้องการเพียงแค่อีก 50% ถึงจะทำให้เชี่ยวชาญทักษะขั้นปรมาจารย์ได้
ฮึ่มม การลงทุนให้กับการแกะสลักนี่มันเกินไปจริงๆ
ด้วยการยกเรื่องเพิ่มอำนาจให้กับอาณาจักรอาเพ่น แถมยังมีคนคอยช่วยสนับสนุนอย่างมหาศาล จึงทำให้เขาใกล้จะถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว โชคดีที่อุทยานแห่งทวยเทพครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี ตอนนี้เขาถึงหายใจได้คล่องหน่อย
 ค่อยเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญที่เหลืออยู่ตอนออกไปทำภารกิจที่เหลือละกัน
วีดเรียนรู้เทคนิคแกะสลักลับทั้งห้าที่สามารถใช้ในการทำภารกิจและออกไปผจญภัยจนหมดแล้ว
ดาบมังกร ดาราสีชาดเองก็อันตรายเกินไปที่จะใช้มัน แต่ว่าพลังในการต่อสู้ของมันเองก็ไร้เทียมทานมากจริงๆ มันคงสำแดงฤทธิ์เดชได้มากเลยหากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว
ฉันจะไปถลกหนังของไอ้จิ้งเหลนนั่น แล้วเอามันไปย่างให้ได้
วีดสาปแช่งไคเบิร์นก่อนที่เขาจะออกไปจากอาณาจักรธอร์
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
 อย่างที่พวกนายรู้ ภารกิจไคเบิร์นจบลงอย่างปลอดภัย
หลังจากทำภารกิจสำเร็จวีดก็ไปพบเพลและพวกพ้องคนอื่นๆ คนในปาร์ตี้ของพวกเขาต่างคาดหวังถึงรางวัลหรืออะไรก็ได้ ทว่าพวกเขาก็พูดอะไรไม่ออกหลังจากที่เห็นสีหน้าของวีด
มันคือสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าไคเบิร์น
มีอะไรแปลกๆอยู่ภายในรอยยิ้มนั่นแน่……..
สีหน้าเขาดูแย่ชะมัดเลย
แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังรู้สึกชื่นใจบ้างจากสิ่งที่พวกเขาเก็บมาจากสุสานร้างของราชาเบลซ์ออซ ส่วนวีดเขาหยิบมาได้แค่ผลึกโมรา เพราะงั้นความเสียหายครั้งนี้ของเขาหนักหนาสาหัสมาก
ฮวายองเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
แล้วคุณจะเอายังไงต่อคะ คุณวีด?”
ผมจะกลับไปทำภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพต่อครับ ผมจะไปที่เมืองฮาร์เซล
เขาจะกลับไปเอาพวก ปิงหลง ไวเวิร์น โกลมินิ เจ้าเหลือง ฟีนิคซ์ วิหคทอง วิหคเงิน กับพวกประติมากรรมสลักชีพจากลาส ฟาลังคซ์มาด้วย รวมถึงประติมากรรมมหาภัยพิบัติของเขาด้วย
วีดไม่ใช่ประติมากรผู้ไร้เดียงสาที่ไม่รู้จักการต่อสู้ เขาทำชุดเกราะใหม่ แถมยังได้เรียนรู้ทักษะดาบลับ อีกทั้งยังเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญให้กับทักษะดาบประกายแสงให้มีประโยชน์จนเอาไปใช้ต่อสู้ได้แล้ว
นอกจากนั้น เขายังได้เรียนรู้ทักษะประติมากรรมประทานชีพตั้งแต่เนิ่นๆ ประติมากรรมสลักชีพพวกนี้ก็เลยแข็งแกร่งขึ้นมา เพราะงั้นเองภารกิจที่เหลืออยู่ของเขาถึงได้ง่ายหน่อย ส่วนพวกออร์คกับเอลฟ์เองก็อยู่ในช่วงการออกสำรวจรัทเซเบิร์ก
ฮวายองรู้สึกลังเลก่อนที่จะพูดออกไปว่า
พวกเราจะไปกับคุณค่ะ
วีดมองไปที่พวกเขาขณะที่เพลหัวเราะออกมาและพูดว่า
 พวกเราคุยกันก่อนหน้านี้แล้วครับ พวกเราจะช่วยคุณวีดทำภารกิจเอง
พวกเขาทำได้แค่มองดูขณะที่วีดกำลังโดนพวกกิลด์เฮอร์มีสรุมฆ่าเขา เพราะงั้นพวกเขาจึงอยากจะช่วยเขาทำภารกิจปรมาจารย์ที่เหลือ
มิตรภาพอันแสนอบอุ่นระหว่างพวกพ้องระอุออกมาแล้ว!
 พวกเขาเองก็รู้สึกเสียใจเพราะว่าวีดเองก็คอยทำอาหารให้กับพวกพ้องอยู่เสมอ
ทุกคน ผมซาบซึ้งจริงๆ…….
เซอร์กะหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงอันแสนน่ารัก
ไม่ต้องหรอกค่ะพี่ ไว้ตอนที่หนูทำภารกิจปรามาจาย์ของพวกหนู พี่ค่อยมาช่วยก็ได้!
ภารกิจปรมจารย์หรอ?”
วีดรู้สึกได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีการเตรียมการมาก่อนแล้ว
ภารกิจปรมาจารย์แกะสลักของเขาเองก็ถือว่ายากมากพอแล้ว แถมตอนนี้เขายังต้องไปช่วยทำภารกิจให้กับพวกเพื่อนๆของเขาอีก มีทั้งอาชีพสาย นักธนู แรนเจอร์ นักเต้น จินตกวี จอมเวทย์ นักบวชและนักตกปลา
 ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้น งั้นฉันว่าฉันไปที่ฮาร์เซลเองดี.
เอ๊ะ พี่กำลังรีบอยู่ไม่ใช่หรอ แถมยังไกลมากอีกด้วย ไวทรี มานี่เร็วจ่ะ
ไวทรีมาทันทีหลังจากที่ฮวายองเรียกและหมอบลงกับพื้นในทันที! พวกเพื่อนของเขาคอยให้อาหารพวกมันอยู่เสมอ เพราะงั้นประติมากรรมสลักชีพของวีดเองก็เชื่อฟังพวกเขาเช่นกัน
ไววัน!
ไวทู!
เพื่อนของเขานั่งลงทันทีที่พวกไวเวิร์นบินมาถึง ปิงหลงและฟีนิคซ์เองก็บินรออยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับเจ้าเหลืองและโกลมินิอยู่บนหลังพวกมัน
ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพจากลาส ฟาลังคซ์ตัดสินใจที่จะเดินทางไปก่อนแล้ว และเขาคงไปเจอพวกมันที่ฮาร์เซล
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ชนเผ่าซัลเลียน พวกมันคือชนเผ่านักรบที่ปกครองภูเขาหินสูงชันแห่งเทือกเขาฮาร์เซล หากเขาสามารถกำจัดพวกมันได้เขาก็จะสามารถช่วยเหลือสายพันธุ์ประติมากรรมสลักชีพได้
ความคิดของวีดทำงานเร็วจี๋
โธ่ ช่างน่าสงสาร พวกเธอคงลำบากกันมากสินะ ถ้างั้นฉันจะต้องช่วยพวกเขาให้ได้ เพื่อความยุติธรรม
ผลผลิตที่เหล่าเอลลิออนทำให้กับราชอาณาจักรอาเพนนั้นน่าเหลือเชื่อมาก
ไร่สตรอว์เบอร์รี่ขนาด 5 ตารางเมตร แตงโมอีก 8 ตารางเมตร นอกจากจะมีขนาดใหญ่แล้ว รสชาติยังหอมหวานปานน้ำผึ้ง นี่จะเป็นตัวหมากที่ดีอย่างมากบนกระดาน ในการลงทุนระยะยาวนี่อาจจะได้รับการลงทะเบียนให้เป็นสินค้าเฉพาะก็เป็นได้ ต้องขอบคุณพื้นที่เพาะปลูกที่ได้มาจากหลายๆหมู่บ้าน ผลผลิตและกำไรที่ได้จึงค่อนข้างสูง
พวกมันชื่อ อาร์นิน สินะ? รอก่อนนะ ฉันจะต้องไปช่วยพวกแกให้มาทำงานให้ฉันให้ได้เลย
พวกอาร์นินนั้นเจอกับวิกฤติหนัก เพราะพวกมันไปติดกับดักที่พวกซัลเลียนวางไว้ วีดมาถึงเทือกเขาฮาร์เซลแล้วและเริ่มดำเนินแผนการง่ายๆก่อนเป็นอันดับแรก
ฉันต้องค่อยๆโจมตีมันจากทางด้านนอก
บริเวณทั่วทั้งภูเขานั้นเป็นอาณาเขตของพวกมัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันตรงๆแทนที่จะแอบเข้าไปโจมตีพวกมัน
เซเฟอร์ถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
แผนการแบบนั้นไม่ดูง่ายไปหน่อยหรอคับพี่
ง่ายสิดี
“……..
ซัลเลียนเป็นที่รู้จักกันในฐานะนักรบที่เก่งกาจ ทว่าเมื่อนึกถึงความสามารถของปิงหลง ฟีนิกคซ์ และประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆ การต่อสู้ในเทือกเขาแบบนี้คงไม่น่ามีปัญหา
และยิ่งกว่านั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปในบ้านของพวกมัน ราชันย์ไฮดร้า ฟีนิกซ์ ยักษ์เพลิง นั้นก็ดูเด่นเกินไป แม้ว่าพลังในการต่อสู้ของพวกมันจะแข็งแกร่ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะแอบเข้าไปในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ขนาดนี้
 ฉันต้องใช้พวกประติมากรรมสลักชีพออกไปสู้ให้เหมาะ ต้องทำให้พวกมันทุกตัวทำงาน
วีดเชื่อในตัวพวกประติมากรรมสลักชีพที่เขาฟูมฟักมาจนถึงบัดนี้ ระดับของพวกมันนั้นพอๆกับมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยซ้ำ ถ้าพวกมันร่วมมือกันต่อสู้ก็จะสามารถสำแดงฤทธิ์เดชได้อย่างมหาศาล
เรียกขาน เดทไนท์ แวนฮอร์ค เรียกขานลอร์ดแวมไพร์ โทริ
นายท่าน ข้ารอสู้อยู่เลย
ท่านเรียกหาข้าหรือ
ลูกสมุนทั้งสองของเขาก็ถูกอัญเชิญออกมาเช่นกัน วีดวางท่าเป็นเจ้านายของพวกมันและพูดออกมาว่า
พวกแก คงไม่ได้ลืมเรื่องแหวนกับดาบที่ฉันทำให้หรอกนะ?”
“………”
ตาของโทริขมวดเข้าหากัน ส่วนขากรรไกรกระดูกของแวนฮอร์คก็ส่งเสียงกรอดๆ พวกมันได้ยินคำนี้มาอย่างน้อย 999 หนได้
จะสวมมันเมื่อไรละ พอดีไหม?”
“…….
ถ้าพวกแกไม่ตอบ งั้นเอาคืนมาเลย
ดีเลยครับ
วิเศษจริงๆครับ นายท่าน
พวกแกต้องใช้คืนค่าแหวนกับดาบให้ฉันด้วยละ เข้าใจไหม?”
เข้าใจครับ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ปู้นนนนนนนนนนนนน!
วีดเป่าแตรแห่งทูเรเซค มันคือไอเท็มที่ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจของพวกประติมากรรมสลักชีพและช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นตัวในการต่อสู้
ไปเลย
ในขณะเดียวกัน เหล่าประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นก็กำลังเก็บกวาดพวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้ ในขณะที่พวกไวเวิร์นถูกใช้เป็นนกขนส่งทางอากาศ ส่วนที่เหลือก็ใช้เวลาเพื่อให้เติบโตขึ้น
ฉันละกังวลจริงว่าพุงพวกมันจะปลิ้นออกมา
ท่าทีของวีดที่บ่งบอกว่าเขาจะใช้พวกมันทำงานอย่างหนัก
โกรววววววววว!
ราชันย์ไฮดร้าเก้าหัวแบกร่างอันใหญ่โตของมันมุ่งหน้าไปทางเทือกเขาฮาร์เซล
หนอนแห่งความตาย มอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นดิน วีดตั้งชื่อมันว่า หนอนแห่งความตาย เพราะว่าร่างกายของเจ้าหนอนนั่นสามารถขยายใหญ่ได้ถึง 200 เมตร ตอนนี้ความยาวร่างกายของมันอยู่ราวๆ 95 เมตร แต่ก็มีขนาดมากพอที่จะบดขยี้หรือว่ากินมอนสเตอร์ที่อยู่ในพื้นดินได้ ถ้ามีมอนสเตอร์ตัวไหนถูกมันกลืนลงไปคงได้ตายแน่นอน ร่างกายของเจ้าหนอนดินดูค่อนข้างสะดุดตาขณะที่มันกำลังกะดึ้บไปข้างหน้า
ส่วนเจ้ายักษ์เพลิงก็วิ่งไปมาพลางเหวี่ยงดาบไฟของมันไปด้วย ทางเจ้าเซเบรัสและอัสวินเซวิลก็เช่นกัน
ประติมากรรมสลักชีพแห่งลาส ฟาลังคซ์มีสายพันธุ์ที่แตกต่างหลากหลายมากมาย พวกมันให้ความรู้สึกชวนอึดอัดพิลึก!
ปิงหลง ไวเวิร์น อิมูกิ ฟีนิกซ์ วิหคทองและวิหคเงินเองก็คอยสนับสนุนอยู่ทางอากาศ
ปรี๊คคคคคคคคคคคคคคคคคคค!
มีเสียงแหลมสูงดังขึ้น และมีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่ระหว่างพุ่มไม้และต้นไม้ภายในภูเขา
นั่นพวกมันหนิ
เพลมีสายตาที่ดีมาก เพราะงั้นเขาจึงสามารถรู้ได้ว่าพวกซัลเลียนอยู่ภายในพุ่มไม้
ราวๆ 300 ตัวพร้อมลูกธนูกับหอก
วีดยังไม่ได้ติดสินจำนวนของพวกมันเอาไว้แค่นั้น
พวกมันมีทั้งหมดแค่นั้นจริงนะหรอ?”
พวกมันกำลังออกมาจากถ้ำที่หลบซ่อนตัวครับ มันอาจจะอันตรายก็ได้ถ้าพวกประติมากรรมสลักชีพยังเดินหน้าต่อ หยุดแค่นี้ก่อนดีไหมครับ?”
วีดส่ายหน้า
ไม่เป็นไร เรายังไม่ได้เจอกับพวกมันทั้งหมด แค่ดูผมสู้เป็นตัวอย่างก่อนนะครับ
ลูกสิงโตจะแข็งแกร่งได้ด้วยการถูกโยนลงไปจากหน้าผา วีดเองก็มีความคิดคล้ายๆกัน
คงดีกว่าถ้าเลือกพวกอ่อนแอก่อน
นับจากนี้เขาจำเป็นต้องระบุเฉพาะเจาะจงความสามารถของพวกประติมากรรมสลักอย่างเอาจริงเอาจังซะแล้ว ถ้าหากว่าเขาทราบขีดจำกัดความสามารถในแต่ละตัว เขาคงจะสามารถคิดกลยุทธ์ได้
พวกซัลเลียนนั้นมักจะเคลื่อนที่กันเป็นกลุ่ม แถมยังมีแต่พวกใจกล้าทั้งนั้น ถ้าหากว่ามีมอนสเตอร์ระดับบอสเข้าไปในอาณาบริเวณของพวกมันพวกมันก็จะเข้าไปโจมตีอย่างพร้อมเพรียงกันในทีเดียวและจัดการมันจดสิ้นซาก
ดังนั้นวีดเองก็ต้องค่อยๆพิจารณาเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกประติมากรรมสลักชีพ
พวกมันมาแล้ว
เหล่าประติมากรรมสลักชีพเดินหน้าไปจนเกือบครึ่งภูเขาแล้ว ทันใดนั้นพวกซันเลียนก็โผล่ออกมาจากหลังหิน พุ่มไม้และต้นไม้แบบกะทันหันและเข้ามาโจมตีพวกเขา
 หัวทั้งเก้าของราชันย์ไฮดร้าพ่นเปลวไฟไปทางพวกนักสู้
ประติมากรรมสลักชีพที่เป็นเอลฟ์ชั้นสูงเพศหญิงที่วีดตั้งชื่อว่า เอลทิน ก็ระดมยิงลูกธนูออกไป
เจอร์นิก้า นักรบคนเถื่อนสาว เองก็ใช้ขวานที่อยู่ในมือซ้ายและกระบองในมือขวาของเธอ ตะบันหน้าใส่พวกนักรบซัลเลียนด้วยกำลังกายอันแข็งแกร่งของเธอ
นักดาบสาววินเด็กซ์ เคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วและกวัดแกว่งอันเบาบางและคมกริบของเธอ
บรรดาประติมากรส่วนมากภายในเขตลาส ฟาลังคซ์ล้วนเป็นเหล่าชายผู้มีหัวใจอันโดดเดี่ยว เพราะงั้นเองพวกเขาถึงได้ทำแต่ผลงานที่เป็นผู้หญิงออกมา พวกเธอทั้งหมดล้วนแข็งแกร่งและเหือดกระหายที่จะได้ฉีกกระชากพวกมอนสเตอร์ให้เป็นชิ้นๆ!
และยังมีประติมากรรมสลักชีพรูปร่างเหมือนกยูงที่งามสง่าบวกกับสองขาที่ยาวและดูบอบบางนั้น เซอร์กะบอกว่ามันน่ารักมากๆและกล่าวคำชมช่วงหัวของเจ้าอีพัลลิทไม่หยุดปาก ขณะที่พวกซัลเลเอียนพุ่งเข้ามาใกล้ เจ้าอีพัลลิทก็สยายปีกมันออกกว้างในทันที
ชวิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!
มันปล่อยพิษที่ซ่อนอยู่ภายใต้ปีกของมันออกมา มันเป็นสิ่งที่ดูฉลาดและมีไหวพริบมาก ทว่าพลังในการต่อสู้ของมันนั้นยังไม่ชัดเจนมากนักจากที่ดูมา แต่ยังไงก็ตามมันก็เป็นมอนสเตอร์ที่อันตรายมากเพราะความสามารถที่ปล่อยหมอกพิษออกมาได้นั่นเอง ต้นหญ้าเขียวขจีถูกสูบชีวิตจนเหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็วและตายไปในที่สุดซึ่งเป็นผลมาจากหมอกพิษนั่น
คนในปาร์ตี้ของวีดกำลังเฝ้ามองดูเหล่าประติมากรรมสลักชีพกำลังรับบทบาทสำคัญในการต่อสู้จากระยะไกล ซึ่งเป็นอย่างที่คิดเพราะพวกมันนั้นล้วนมีเลเวลมากกว่า 400 ทั้งนั้น
ทะเลเพลิงได้กลืนกินพวกนักรบซัลเลียนไปทั่วทุกหนทุกแห่งที่เจ้ายักษ์เพลิงเดินผ่าน ช่างเป็นพลังรบที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
นี่มันช่าง.....
วีดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างพออกพอใจ
อย่างที่คิดเลย ฮ่าๆๆ ฉันจะทำให้พวกมันเริ่มทำงานตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประติมากรรมสลักชีพแต่ละตัวมีอยู่ในระดับเดียวกันกับมอนสเตอร์ระดับบอส ทักษะการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพวกมันแต่ละตัวนั้นทัดเทียมกับพลังของศัตรู ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ศัตรูจะสกัดการโจมตีที่ผสมผสานของพวกมันเอาไว้ได้ ต้องของคุณพลังทำลายล้างของพวกประติมากรรมสลักชีพที่ทำให้พวกเขาทะลวงเข้าไปจนถึงทางเข้าของเขตภูเขาแล้ว
 หมดเวลาลองเชิงกันแล้ว เดาว่าแค่นี้คงพอหล่ะ ปีนขึ้นไปเลย!”
กลุ่มของวีดเริ่มปีนไปบนเทือกเขาฮาร์เซล
ยู บยองจินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาขณะที่กำลังมองจอภาพ
ใช่ๆ อย่างนั้นแหละ ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นก็แข็งแกร่งดีอยู่หรอก...แต่พวกซัลเลียนก็เป็นนักสู้ที่จัดการได้ยากเหมือนกันนะ
การผจญภัยของวีดเองก็ได้ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อฉายออกอากาศ แม้ว่ามันจะไม่ใช่การถ่ายทอดสด มันก็ยังถือว่าเป็นการต่อสู้ที่สำคัญมากเพียงพอที่จะนำมาออกอากาศ
บางทีแล้วเหล่าผู้ชมเองก็คงไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับพวกประติมากรรมสลักชีพแล้ว พลังการต่อสู้พวกมันก็อย่างที่คาด ทว่าหากว่าพวกเขาเข้าไปในใจกลางของเทือกเขาฮาร์เซลละก็ พวกประติมากรรมสลักชีพคงได้ตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
พวกผู้เฒ่าของเผ่าซัลเลียนกำลังปรึกษาหารือกันซึ่งได้ฉายอยู่อีกจอภาพหนึ่งของยูบยองจิน
เหล่าผู้เฒ่าและทหารมารวมตัวกันอยู่ที่กองไฟ แม้ว่าพวกมันจะมีรูปร่างเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลาน แต่พวกมันก็เป็นถึงผู้ปกครองเทือกเขาฮาร์เซล
-          มีคนมาปรากฏตัวอยู่ภายในอาณาเขตเทือกเขาของเรา
-          พวกมันแข็งแกร่งไหม?
-          ก็ธรรมดา เราชนะได้อยู่แล้ว
-          ออกไปสู้กับพวกมันเลยเถอะ
-          ไม่อย่าพึ่ง ล่อพวกมันเข้ามาให้ลึกกว่านี้
-          ถ้างั้น.....
-          หึๆๆๆๆๆๆ เราจะไม่ปล่อยให้พวกมันซักคนรอดกลับไป
-          แบบนั้นแหละดีแล้ว
ชนเผ่าซัลเลียนนั้นเป็นพวกที่ฉลาด พวกมันตั้งใจที่จะล่อกลุ่มของวีดเข้ามาในเขตภูเขาให้ลึกมากขึ้นกว่าเดิมแล้วจากนั้นก็ออกไปต่อสู้ด้วยพลังที่แท้จริงของพวกมัน พวกนักสู้แอบหลบซ่อนอยู่ภายในถ้ำรอจังหวะกวาดล้างทุกคนไปจนหมด! มันก็คงจะเหมือนกับเจ้าสฟิงค์ที่ปฏิเสธที่จะออกมาจากโรเซนไฮม์ พวกประติมากรรมสลักชีพสายบินคงเลือกที่จะตายมากกว่ายอมหนีกลับออกไป วีดก็คงสูญเสียทั้งปิงหลง เจ้าเหลือง และพวกไวเวิร์นที่เขาอุตส่าห์ฟูมฟักเลี้ยงดูมาด้วยความหวงแหน
นี่มันน่าสนใจมากจริงๆ
ยูบยองจินเฝ้ารอผลลัพธ์ที่จะมาถึงด้วยความตื่นเต้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

จี้ด จี้ด!
มีหนูบ้านตัวหนึ่งส่งเสียงร้องออกมาภายในพื้นที่ประชุมของเหล่าผู้เฒ่าซัลเลียน
ล่อพวกมันเข้ามาอีก......
เจ้าหนูบ้านตัวนั้นทำเหมือนกำลังตามหาเศษขนมปัง แต่ก็ไม่มีวี่แววอาหารซักชิ้นให้เห็นเลย
มาแสดงให้พวกผู้บุกรุกเห็นกันเถอะว่าเทือกเขาฮาร์เซลเป็นที่แบบไหน....
จี้ด!
แล้วเจ้าหนูบ้านตัวนั้นพบเข้ากับเศษเนื้อที่ตกอยู่ใต้เท้าของนักสู้คนหนึ่ง จากนั้นก็เอาอาหารเข้าไปไว้ในช่องตรงผนังและกักตุนเอาไว้ เจ้าสปายตัวน้อยพยายามที่จะไม่ส่งเสียงขณะที่วิ่งไปด้วยเท้าทั้งสี่ของมัน
เราต้องหาสถานที่เอาไว้ฆ่าเจ้าพวกนั้น
และแล้วในท้ายที่สุดเศษอาหารพวกนั้นก็เข้าไปอยู่ในปากของมัน เจ้าหนูบ้านนั้นวิ่งกลับไปอย่างเงียบเชียบตรงไปที่รูที่มันขุดเอาไว้ จากนั้นมันก็กลับไปหาวีดและประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆ
เจ้าหนูบ้านตัวนั้นก็เป็นประติมากรรมสลักชีพเช่นเดียวกัน โดยที่ถูกตั้งชื่อให้ง่ายๆว่า เจ้าหนูบ้าน
มันไม่ได้ดูสวยมาก แต่ก็มียังมีฟันและกรงเล็บที่แหลมคมที่ทำให้มันดูน่ารักอยู่บ้าง มีประติมากรผู้หนึ่งที่ทำงานอยู่ภายในเหมืองถ่านของเขตลาส ฟาลังคซ์ผู้ตกอยู่ในความเสียใจในโชคชะตาของเขาจึงได้แกะสลักประติมากรรมชิ้นนี้ขึ้นมา
วีดใช้เจ้าหนูบ้านเข้าไปสอดแนมพวกซัลเลียน
จี๊ด จี๊ด!
เจ้าวิหคเงินเองก็ถูกทาสีทับและกำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ใช้นกไปแอบฟังพวกมันในตอนกลางวันและใช้หนูไปแอบฟังในช่วงกลางคืน
วีดรู้จักใช้พวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
------จบตอน----
ผู้แปล : Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...