วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

เล่ม 29 ตอนที่ 10: กับดักของชนเผ่าซัลเลียน แปลโดย Cole’s Myth


เล่ม 29 ตอนที่ 10: กับดักของชนเผ่าซัลเลียน แปลโดย Cole’s Myth

เวลาแห่งความโกลาหลได้มาถึงแล้ว! โฆษณาของทางบริษัทยูนิคอร์นเองก็เริ่มฉายออกอากาศแล้วเช่นกัน

ทำไมถึงได้โผล่มาปุบปับแบบนี้วะ?”
ดูเหมือนจะพุ่งเป้าโจมตีมาทางเรานะ

บัดนี้ผู้คนต่างก็กำลังหวาดวิตกภายใต้สถานการณ์วิกฤติและคับขัน
สงครามได้คืบคลานเข้ามาหาทวีปทางตอนกลางแล้ว เมื่อก่อนนี้สงครามมักจะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกิลด์ทรงอำนาจทั้งหลาย ทว่าตอนนี้วิหารเอ็มบินยูและพวกมอนสเตอร์เข้ามาผสมโรงด้วย

-หมู่บ้านวิซูรันถูกพวกมอนสเตอร์ทำลายเสียหายยับเยิน เหล่านักเดินทางโปรดระวังขณะออกเดินทางไป ขอแนะนำว่านักสู้ที่มีเลเวลไม่ถึง 320 ไม่ควรเข้าไปประจันหน้าต่อสู้กับพวกมัน

-เมืองเซอร์จี้โดนวิหารเอ็มบินยูทำลายแล้ว จะมีคนไปช่วยพวกเขากันไหมนะ?

-พวกโจรบุกเข้าไปปล้นสะดมในร้านเฟร็ดดี้ ผู้คนออกตามหาอุปกรณ์เพื่อช่วยเสริมกำลังให้ตัวเอง พ่อค้าทั้งหลายต่างก็ยินดีขายสินค้าเพื่อล้างสต็อก เรื่องราวเลวร้ายมากมายดั่งการล่มสลายของเมืองหรือว่าปราสาทได้ปรากฏขึ้นบนกระดานแบบถี่ยิบ มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวตามเขตพื้นที่ปลอดภัยและตามถนนสายหลักของเมืองเต็มไปหมด

ฉันละกลุ้มใจกับสถานการณ์ช่วงนี้จริงๆ
ชีวิตอยู่ยากขึ้นทุกวัน จะมีใครมาจัดการมอนสเตอร์พวกนี้แล้วกอบกู้สันติสุขให้พวกเราบ้างมั้ยนะ?”
ทุกคนเค้าก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเล่นเกมส์สงครามกันทั้งนั้นแหละ
ฟู้ววววว....ขนาดจะออกไปจากประตูเมืองยังน่ากลัวเลย
จะไปออกล่ายังลำบากเลย

ขณะที่การออกล่าตามพื้นที่ราบ เทือกเขา หรือว่าในป่า พวกเขาต้องระมัดระวังตัวเพื่อไม่ให้พวกมอนสเตอร์โจมตีใส่ ทั่วทั้งราชอาณาจักรต่างปั่นป่วนและสั่นคลอนตั้งแต่ที่พวกวิหารเอ็มบินยูเริ่มโจมตี

บางครั้งพวกมอนสเตอร์ก็จะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยของพวกมันจนทำให้เหล่าผู้เล่นไม่อาจวางใจได้เลย หลายคนก็จำใจต้องจ้างพวกทหารรับจ้างเพื่อออกไปทำภารกิจ แต่เพราะงั้นเองก็ทำให้ค่าตอบแทนเมื่อทำภารกิจสำเร็จก็พลอยต่ำลงไปด้วยเช่นกัน

ข้าไม่มีสินค้าอะไรเหลือให้เจ้าซื้อแล้ว ต้องขอโทษด้วย
ทำยังไงดีละ? สินค้าที่ข้าสัญญาว่าจะขายให้กับท่านถูกพวกโจรปล้นไปจนหมดแล้ว...
เหล่าชาวเมืองกินอยู่ด้วยความอัตคัด ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าทดแทนให้กับคำขอภารกิจง่ายๆได้เลยด้วยซ้ำ
โอ๊ยย กินอยู่ลำบากมากจริงๆ
ลำบากเกินไปแล้วนะเว้ย
ไม่มีคำขอให้ทำภารกิจเลย ข้าแทบไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมอุปกรณ์แล้วนะ

เมื่อก่อนนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่มอนสเตอร์บุกรุกตัวเมืองเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะมีก็มีแต่เหล่าผู้เล่นช่วยกันกำราบพวกมันจนหมดสิ้น ทว่าสถานการณ์แบบนั้นในช่วงเวลาตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เหล่าพ่อค้าวาณิชย์ถูกพวกโจรปล้นสะดมจนหมดเนื้อหมดตัว แถมยังมีการโจมตีจากพวกวิหารเอ็มบินยู และยังมีสงครามกลางเมืองที่ยังคงส่งผลร้ายแรงให้กับตลาดภายในตัวเมืองอีกด้วย

เฮ้ นายมีเงินเก็บไหม?”
แกจะบ้าหรอ ฉันจะจ่ายค่าซ่อมรถลากยังยากเลยด้วยซ้ำ

การขนส่งสินค้าทางทหารไปยังอาณาจักรต่างๆและกิลด์ใหญ่โตทั้งหลายนั้นสามารถกอบโกยกำไรทางการค้าได้เป็นอย่างมาก ทว่าก็มีพวกที่ทำการค้าขายบางกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ค้าขายสินค้าประจำถิ่น เพราะงั้นคนอื่นๆก็ทำได้เพียงแค่ยืนมองพวกเขากอบโกยกำไรไปกับการค้าแบบผูกขาด
สถานการณ์ปัจจุบันของบรรดาเหล่าผู้เล่นและชาวเมืองกำลังเสื่อมโทรมทุกทีๆ จึงทำให้ทุกคนต่างก็ระเบิดคำก่นด่าพุ่งตรงไปที่บรรดาพ่อค้าทั้งหลาย

แบบนี้ไม่ได้นะเว้ย เอาจริงหรอวะ
เราจ่ายภาษีไปตั้งเยอะกับของแค่นี้เนี่ยนะ

ถึงแม้ว่าเหล่าพ่อค้าต้องจ่ายภาษีที่สูงเกินจริง พวกเขาก็ยังต้องทำธุรกิจอันแสนยากลำบากนี้อย่างไร้หนทาง ในขณะที่พวกเขาเองก็รู้สึกโกรธแต่ก็ไม่มีทางสู้ เพราะว่าอาชีพพ่อค้านั้นมีทักษะการต่อสู้ที่อ่อนด้อย ไม่จำเป็นต้องเอ่ยให้เสียเวลาเลย ยิ่งพวกพ่อค้าเร่ทั่วไปแล้วยิ่งต้องเจอกับข่าวร้ายที่ไม่น่าอภิรมย์เลยซักนิด

เราต้องทนกับเรื่องแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันวะ ขอแค่มีคำขอภารกิจซักนิดละก็คงจะทำให้ท้องของข้าอิ่มได้บ้าง แต่พวกนั้นก็เอาแต่บอกพวกเราให้ไปตายซะงั้น
ร้านของข้าปิดกิจการไป 5 แห่งละนะ ข้างนอกก็อันตราย จำนวนคนที่ออกล่าก็ลดลง แถมคุณภาพของสินค้าก็ยิ่งตกต่ำเรื่อยๆ
 นี่พวกมันจะเอาเปรียบพวกเราไปถึงไหนกันวะ!

การพบปะของเหล่าพ่อค้าขนาดเล็กและขนาดกลางต่างกล่าวโทษไปที่พวกเจ้าเมืองและกิลด์ทั้งหลาย ผู้เล่นหลากหลายสายอาชีพได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนบนทวีปครั้งนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า ชาวไร่ชาวสวน คนเหมือง ช่างเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับพวกเขาที่จะออกไปทำงาน

ส่วนกิลด์ทั้งหลายเองก็ไม่ค่อยพอใจกับอาณาเขตที่พวกเขาปกครองอยู่ และยังคงมัวแต่ทำสงครามเพื่อขยายดินแดนออกไปให้มากขึ้น

ความสับสนอลหม่านบนทวีปทางตอนกลางกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าจนถึงหมู่บ้านเขตภูเขาเพราะว่ามีมอนสเตอร์จำนวนมากมายปรากฏตัวขึ้นอยู่บ่อยๆ

-อย่ายอมให้พวกวิหารเอ็มบินยูมาฉกชิงดินแดนของพวกเรา

ทางศาสนจักรทั่วทั้งทวีปประกาศตนเพื่อต่อต้านวิหารเอ็มบินยู เหล่าอัศวินเทมพล่าและพระจากวิหารเองก็เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว

เพราะว่าสงครามระหว่างวิหารเอ็มบินยูและเหล่าศาสนจักรได้เริ่มต้นขึ้น บรรดาผู้เล่นต่างก็ตระหนักได้ว่า บัดนี้ ทวีปเวอร์เซลกำลังจะแปรเปลี่ยนไป
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

ขณะที่บาร์ดเรย์มั่วแต่ยุ่งอยู่กับการทำภารกิจต่อเนื่องของเขา ทางกิลด์เฮอร์มีสเองก็ยุ่งอยู่กับการเคลื่อนกำลังรบ พวกเขาขูดรีดภาษีมากมายจากราชอาณาจักรฮาเว่นและคัลลามอร์ขณะที่กำลังเตรียมแผนการรบ

โอกาสดีๆแบบนี้ไม่มีมาอีกแล้วนะ
ไม่มีทางหรอกครับที่เราจะปฏิเสธข้อเสนอของทางกิลด์เฮอร์มีส เรายอมรับข้อเสนอครับ มาสร้างอนาคตไปด้วยกันเถอะ

กิลด์ราชสีห์ทมิฬได้รับความเสียหายอย่างหนักที่เหมืองเมลเบิร์น เมื่อเทียบกับขนาดของกิลด์แล้ว มันก็แค่ความพ่ายแพ้ครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าคาร์ไลส์และผู้เล่นระดับยอดฝีมือคนอื่นๆกลับรู้สึกว่าถูกเย้ยหยัน!

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่ากิลด์ราชสีห์ทมิฬนั้นช่างกระจอกเมื่อเทียบกับกิลด์เฮอร์มีส ผู้เล่นของกิลด์ราชสีห์ทมิฬยอมปล่อยวาง ในขณะที่กิลด์คู่ปรับของพวกเขา กิลด์บีเดนกลับกลับใช้โอกาสนี้เพื่อขยายอำนาจของพวกเขา
แน่นอนว่าถ้าหากพวกเขาร่วมมือเป็นพันธมิตรกับกิลด์เล็กๆกิลด์อื่นๆ พวกเขาก็คงจะสามารถยึดอาณาเขตที่เสียไปกลับมาได้ แต่เพราะว่ากิลด์เฮอร์มีสนั้นอยู่เบื้องหลังกิลด์บีเดน พวกเขาคอยส่งกองกำลังมาแบบลับๆเพื่อบั่นทอนกำลังกิลด์ราชสีห์ทมิฬและเข้ายึดราชอาณาจักรทัลเลนได้ในที่สุด

กิลด์บีเดนเคยมีประสบการณ์ประจันหน้ากับพลังของกิลด์เฮอร์มีส เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่อาจที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้นได้ พวกเขาจำต้องมอบเครื่องบรรณาการเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เป็นค่าคุ้มครองราชอาณาจักรทัลเลน ทว่ามันก็คงจะดีกว่าโดนถล่มจนย่อยยับเหมือนกับกิลด์ราชสีห์ทมิฬนั่นแหละ

ลาฟาเย่กำลังทำการประชุมกับบรรดาผู้นำของกิลด์เฮอร์มีส

พวกกิลด์บีเดนคงใช้เวลาซักสองสามเดือนในการเก็บกวาดราชอาณาจักรทัลเลน
นี่เราจำเป็นต้องเข้าร่วมกับพวกกิลด์บีเดนด้วยหรอ? พวกเราได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของกองกำลังของพวกเราแล้วนะ
เราเจอปัญหาทางภูมิประเทศนะ เพราะว่าอาณาจักรอื่นที่มีปัญหากับพวกเรานั้นมีเยอะมาก และพวกบีเดนเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายๆกับพวกเรา เพราะฉะนั้นข้าจึงให้พวกมันจัดการกับปัญหาน่ารำคาญพวกนั้นแทน
แล้วถ้าต่อไป เรารู้สึกไม่สบอารมณ์กับพวกมันเข้าละ.
ถ้างั้นก็ค่อยเก็บพวกมันให้หมด บังเอิญจริงๆที่พวกผู้เล่นสูงๆที่เป็นแกนกลางของกิลด์บีเดนส่วนมากกระจายกำลังไปประจำการหลากหลายพื้นที่
จากนั้นเราก็แค่กำจัดเปลือกที่เหลือทิ้งซะ
ปัญหาของเราตอนนี้คือการยึดราชอาณาจักรลาเซล...
เรื่องนั้นเรากำลังดำเนินการ การโจมตีรุนแรงแบบต่อเนื่องของพวกเราคงจะเสร็จภายในหนึ่งเดือนนี้แน่

กิลด์เฮอร์มีสได้ทำการตัดสินใจที่จะทุ่มกำลังทหารไปยังราชอาณาจักรลาเซล จากนั้นพวกเขาก็วางแผนที่จะโจมตีราชอาณาจักรแห่งสมาพันธ์บริเตนในทันที ต่อจากนั้นก็จะไปจัดการกับพวกกิลด์เมฆา
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เจ้าไวทรีกำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับยูรินที่ขี่บนหลัง

วิวสวยดีจัง ขอบคุณไวทรีนะจ๊ะ ที่ทำให้ฉันรู้สึกอะไรแบบนี้
ครากกก กย่า กร้า
พวกไวเวิร์นเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวต่อคำชื่นชมยกยอ
ฉันละอยากพาเธอบินไปตลอดชีวิตเลยหล่ะ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ตลอดทั้งคืนไปเลย
“……”

เจ้าไวทรีดูเหมือนจะสูญสิ้นพละกำลังในการยกปีกของมันจนหมดจากการได้ยินคำพูดนั้นของยูริน มันบินไปนั่นมานี่บ่อยมากและตอนนี้ผู้โดยสารก็เพิ่มจำนวนขึ้นอีกหนึ่งคน!

ไวทรีและยูรินกำลังบินอยู่บนภูเขาสูงชัน เธอมาที่นี่เพื่อวาดแผนที่ของเทือกเขาฮาร์เซลตามคำร้องขอจากวีด

บินขึ้นไปให้สูงกว่านี้กันดีกว่า ฉันอยากได้วิวที่กว้างกว่านี้
กรี๊กกกกก!

เจ้าไวทรีกระพือปีกของมันและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที ช่วงก่อนหน้านี้มันก็ออกล่าและเพิ่มเลเวลมาอยู่บ้าง ดังนั้นในตอนนี้ความเร็วขั้นต่ำของมันถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ยูรินมองลงไปที่เทือกเขาฮาร์เซลจากแนวก้อนเมฆ พวกซัลเลียนนั้นได้สร้างป้อมปราการขึ้นมาบนยอดเขาทับคาลที่สูงชันมากพอดู มีทั้งก้อนหินและเนินผาที่คอยเป็นเกราะกำบังให้กับพวกมัน เพราะงั้นก็สามารถเรียกได้เลยว่านี่แหละคือป้อมปราการที่มีชัยภูมิที่ดีมากจริงๆ

ฉันจำเป็นต้องวาดสภาพภูมิประเทศของภูเขาสูงพวกนี้

จากนั้นยูรินก็เริ่มละเลงวาดเส้นแผนที่ลงไปอย่างประณีต
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เอาหล่ะ เอาตามนี้ละกัน

วีดวางกลยุทธ์ใหม่ตามข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหนูบ้านและเจ้าวิหคเงิน
เป็นแผนการที่ไม่เลวเลยจริงๆครับ

เทือกเขาฮาร์เซลนั้นมีพื้นที่ภูมิประเทศที่ลาดชัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่จะกวาดต้อนศัตรูให้ตกหลุมพรางเพื่อสร้างข้อได้เปรียบ อีกทั้งพวกซัลเลียนยังสามารถใช้ข้อได้เปรียบจากถ้ำและโพรง จากนั้นก็สร้างกลยุทธ์จากจุดแข็งนั้นได้ด้วย!

วีดรู้สึกชื่นชมพวกมัน!

พวกมันนี่ฉลาดไม่เบาเลยจริงๆ
เพลเองก็รู้สึกคาดหวังในแผนการของวีดอย่างมาก
ถ้างั้นเราควรจะใช้กลยุทธ์แบบไหนดีละครับ?”

วีดมีชื่อเสียงมากบนทวีปเวอร์เซลแห่งนี้ คงไม่เวอร์เกินไปหากจะบอกว่าเขาคือผู้ที่มีความสามารถในการบัญชาการรบและความเป็นผู้นำที่ดีที่สุด แถมเขายังเอาตราประทับของเจ้าแห่งทวีปและแตรแห่งทูเรเซตมาด้วย ด้วยระดับความเป็นผู้นำของวีดในตอนนี้ เขาสามารถยกให้พวกคนเถื่อนบางตนกลายเป็นพลทหารระดับหัวกระทิได้ด้วยซ้ำ ขอเพียงแค่ฝึกฝนพวกมันนิดๆหน่อยๆเท่านั้น
เพลรู้จักความสามารถในการต่อสู้ของวีดเป็นอย่างดี แต่ถึงยังไงเขาก็ยิ่งคาดหวังในกลยุทธ์ของวีดมากยิ่งขึ้นไปอีก

เจ้าพวกนี้มันฉลาดและรู้จักใช้กลวิธีต่างๆนานา...
แล้วเราจะใช้อะไรไปสู้กับพวกมันหล่ะครับ?”
เราต้องไม่ทำให้ความพยายามของพวกมันเสียเปล่า
เอ๋?”

เพลคิดว่านั่นมันเป็นอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย

ทว่าวีดก็นำกองทัพประติมากรรมของเขามุ่งหน้าตรงไปยังภูเขาทับคาล พวกเขาเข้าสู่แนวของศัตรูลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าประติมากรรมสลักชีพใช้พื้นที่และช่องว่างเพื่อโจมตีพวกนักสู้ซัลเลียน

ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะนำปาร์ตี้ไปออกล่าภายในเทือกเขาฮาร์เซลแบบนี้ นั่นก็เพราะว่าคนพวกนั้นต้องนำกองกำลังมาให้มากพอที่จะเอามาต่อกรกับพวกซัลเลียน!

พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นแข็งแกร่งมาก ทว่าก็ยังคงด้อยเรื่องความว่องไวเมื่อเทียบกับพวกซัลเลียน

แถมภูมิประเทศเองก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่

ราชันย์ไฮดร้าไปทางขวา หน้าที่ของแกก็คือใช้การโจมตีหลอกล่อศัตรูไปอีกทาง โกลมินิ แกถอยกลับไปอยู่แนวตั้งรับในตำแหน่งของแก แล้วคอยสนับสนุนคนอื่นๆ

พวกประติมากรรมสลักชีพแปรขบวนรบตามคำสั่งของวีด พวกเขาข้ามเขามากว่า 9 ลูกเพื่อมุ่งหน้าไปภูเขาทับคาล ในขณะที่ตามทางก็มีพวกศัตรูปรากฏตัวออกมาจากโพรงถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่เรื่อยๆ

พวกซัลเลียนนั้นมักจะเล็งการโจมตีไปที่จุดๆเดียว ฉะนั้นพวกประติมากรรมสลักชีพที่อ่อนแอจึงถูกจัดให้ไปอยู่ตามแนวหลัง ในขณะที่พวกมีพลังชีวิตสูงก็จะถูกจัดให้ออกมาอยู่แนวหน้า เขาเปลี่ยนรูปแบบปาร์ตี้ออกล่าตามลักษณะเฉพาะของพวกประติมากรรมสลักชีพแต่ละชนิดในตอนที่สภาพภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไป

ธาราอัคคี!

โรมูนะโจมตีใส่ศัตรูด้วยเวทย์มนต์ใหม่ของเธอ ธาราอัคคี ที่เธอได้เรียนรู้มา พวกศัตรูเองก็โดนล้างบางด้วยแม่น้ำเพลิงแดงเดือดในที่สุด!

ฮ่าๆ สุดยอดไปเลย

วีดยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มอันแสนขมขื่น ทุกครั้งที่โรมูนะพออกพอใจกับเวทย์วงกว้างอันแข็งแกร่งของเธอ!

พวกเพื่อนๆของเขาเองต่างก็แสดงทักษะที่น่าตื่นตาตื่นใจในตอนที่เดินหน้าต่อสู้ไปเรื่อยๆ

พวกไวเวิร์น ปิงหลง และฟีนิกซ์ก็คอยสนับสนุนพวกเขาจากบนท้องฟ้าและคอยจัดการกับพวกศัตรูไปด้วย

 เล็งการโจมตีของพวกแกไปที่จุดๆเดียว แล้วถ้าศัตรูกระจายตัวออกจากกันก็สู้ไปเลยอย่าได้กลัว พวกแกกินไปเยอะแล้วนะเมื่อกี้นี้ อย่าปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจละ!

ภายใต้คำสั่งของวีด เหล่าประติมากรรมสลักชีพสามารถแสดงความสามารถของพวกมันออกมาได้มากกว่าเดิม 35% เมื่อเขาสามารถใช้พวกประติมากรรมสลักชีพได้อย่างเต็มที่ พวกมันก็สามารถแสดงพลังทำลายล้างได้อย่างเต็มกำลัง พวกประติมากรรมสลักชีพที่สามารถใช้ธนูและเวทย์ได้ก็ค่อนข้างมีประโยชน์ เพราะงั้นพวกมันถึงได้ถูกปกป้องอย่างปลอดภัยอยู่ตรงใจกลางขบวน

พลังยิงลูกไฟที่เล็งใส่เป้าหมายเผด็จศึกศัตรูไปได้อย่างมากมาย! เพลและโรมูนะจัดการศัตรูด้วยการโจมตีแบบต่อเนื่อง ขณะที่เซอร์กะกับเซเฟอร์ก็จัดการกับศัตรูที่เข้ามาใกล้

ตำแหน่งที่ตั้งของป้อมปราการของพวกซัลเลียน น่าจะต้องข้ามเขาไปอีก 6 ลูก

วีดใช้แผนที่เพื่อคำนวณระยะทาง พวกเขาเดินทางข้ามภูเขาใหญ่มา 9 ลูกแล้วขณะที่มุ่งหน้าไปทับคาล นี่ก็เดินทางมาได้ซักพักแล้วทว่าก็ยังเหลือระยะทางอีกตั้งไกลกว่าจะถึงจุดหมาย

มีสถานที่ที่ดูอันตรายอยู่ตรงกลางนี่ด้วยแหะ....

หุบเขาคือสถานที่ที่พวกเขาอาจโดนเล็งเป้าโจมตีได้ดีที่สุด โดยปกติแล้วพวกไวเวิร์นจะคอยเป็นหูเป็นตาให้อยู่แล้ว ทว่าพวกซัลเลียนนั้นเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบผ่านโพรงและถ้ำจึงเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นพวกมันได้ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาอาจจะโดนลอบโจมตีแบบกะทันหัน!

เราควรกลับกันดีไหมคะ?”

ไอรีนแสดงท่าทีตอบสนองที่ดูเป็นกังวล เธอเป็นนักบวชดังนั้นมันคงเป็นฝันร้ายที่สุดทนสำหรับเธอหากโดนลอบโจมตีแบบปุบปับ ในสถานการณ์ฉุกเฉินเธอคงไม่มีเวลามารักษาทุกคนแน่ๆ บางคนก็อาจต้องตาย เธอจึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั้น     
 
 ผมมีแผน ไปต่ออีกหน่อยเถอะครับ

ขณะที่พวกเขาพักเอาแรงอยู่ชั่วครู่ วีดก็ทำอาหารและพันแผลให้กับพวกประติมากรรมสลักชีพที่ได้รับบาดเจ็บ เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้สิทธิพิเศษที่ได้จากวิหารเฟรย่าที่สามารถพาอัลเวรอนมา เพราะงั้นไอรีนจึงต้องรักษาแผลให้คนอื่นๆเพียงคนเดียว

แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีทักษะมากพอกับอัลเวรอน ทว่าราชันย์ไฮดร้าก็มีพลังชีวิตที่เทียบเท่าเกือบจะเป็นอมตะเลยด้วยซ้ำ ราชันย์ไฮดร้านั้นจะไม่ตายแม้ว่ามันจะเหลือเพียงแค่หัวเดียว ไอรีนจึงสามารถใช้เวลานั้นไปรักษาตัวอื่นได้
พวกประติมากรรมสลักชีพนั้นสามารถเป็นเพื่อนกับนักบวชไอรีนได้อย่างรวดเร็ว อาชีพสายนักบวชนั้นเป็นสายอาชีพที่พิเศษมากในการเพิ่มค่าความสนิทสนม!

วีดอนุญาตให้พักนานกว่าปกติแล้วเขาก็ไปนั่งแกะสลักประติมากรรม นั่นคือพฤติกรรมปกติของเขาจึงไม่มีใครสนใจอะไรเขา เขาแกะสลักเทือกเขาที่แสนกว้างใหญ่ด้วยกระดานไม้

ผ่านไปสองถึงสามชั่วโมง เพลก็หยุดเคลื่อนที่

ดูท่าจะเสี่ยงเกินไปที่จะข้ามนะครับ

มันคือแม่น้ำที่มีลำธารไหลเชี่ยว โดยปกติแล้วแม่น้ำสายนี้จะอยู่ที่ระดับหัวเข่าหรือว่าส่วนเอว ทว่าฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำไหลเชี่ยวกราด วีดมองดูแผนที่และระบุตำแหน่งที่ตั้ง

จากแผนที่ที่ยูรินวาด ที่นี่คือทำเลที่ดีที่จะโจมตี เราต้องผ่านแม่น้ำสายนี้ถ้าเราจะไปให้ถึงเขาทับคาล

การทราบสภาพภูมิประเทศก่อนล่วงหน้านั้นถือว่ามีประโยชน์อย่างมากที่จะไม่หลงหรือไปติดกับดักในเขตเทือกเขา มีเขตพื้นที่อันตรายมากมายระหว่างทางไปภูเขาทับคาลและนี่ก็คือหนึ่งในสถานที่นั้น ถ้าหากว่าพวกเขาว่ายน้ำข้ามไปพวกเขาก็คงโดนโจมตีโดยลูกธนูจากทางป่าหรือว่าทางริมแม่น้ำ

เพล โรมูนะ และพวกประติมากรรมสลักชีพก็จะไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แถมที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่วีดจะมานั่งแกะสลักซะด้วย

โรมูนะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ

ไม่มีทางอ้อมที่ปลอดภัยกว่านี้แล้วหรอคะ?”
เราต้องกลับไปข้ามเขาอีก 2 ลูก แล้วก็ต้องปีนขึ้นทางที่ลำบากด้วย คงจะดีกว่าถ้าเราข้ามจากตรงนี้อย่างระมัดระวังแล้วก็เตรียมพร้อมต่อสู้ด้วย

วีดเดินไปอยู่ด้านหน้าพวกประติมากรรมสลักชีพที่มีค่าพลังชีวิตที่สูง

 พวกนายอย่าวางใจเด็ดขาด คุณเพลจะออกไปดูต้นทางก่อน ส่วนคุณโรมูนะก็ควรจะเตรียมร่ายเวทย์ไว้หน่อยนะครับ

นั่นยิ่งทำให้กังวลมากยิ่งขึ้น ศัตรูคงไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาข้ามแม่น้ำโดยที่ไม่ทำอะไรพวกเขาเลยหรอก ทว่าหลังจากนั้นนั่นเอง ก็มีพวกนักสู้ซัลเลียนกลุ่มหนึ่งค่อยๆโผล่ออกมา

ตั้งแต่มาถึงที่นี่พวกเขาได้แต่สู้กับพวกทหารระดับธรรมดา ทว่าตอนนี้นักสู้ระดับหัวกระทิได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว พวกมันเป็นนักสู้ที่มีเลเวลกว่า 420 ! พวกนักสู้ซัลเลียนพุ่งการโจมตีมาที่พวกเขาหมายจะสังหารโดยไม่ห่วงชีวิตเลยแม้แต่น้อย

เหล่าประติมากรรมสลักชีพเติบโตมาเป็นอย่างดีหลังจากที่ได้รับชีวิตมาตั้งแต่ที่เขต ลาส ฟาลังคซ์ ดังนั้นพวกมันจึงออกไปสู้อย่างเต็มใจแม้ว่าพวกมันจะโดนศัตรูกดดันอยู่ ค่าพลังชีวิตของพวกประติมากรรมสลักชีพลดลงเรื่อยๆในขณะที่นักสู้ซัลเลียนได้รับบาดเจ็บล้มตาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประติมากรรมสลักชีพอย่างเจ้ายักษ์เพลิงที่แสดงความสามารถอันแสนโดดเด่น เนื่องจากคุณสมบัติไฟของมัน พวกซัลเลียนที่อยู่ในร่างสัตว์เลื้อยคลานจึงมักจะหลบหลีกการโจมตีของมันมากเป็นพิเศษ

เป็นห่วงจังเลยแหะ

ไอรีนเอ่ยคำพูดออกมาด้วยความเป็นกังวล

เราเข้าไปอยู่ในแนวรบของศัตรูแล้วนะ แถมพวกมันอาจจะเรียกกำลังเสริมจากโพรงที่เชื่อมต่อกันนั่นก็ได้ แล้วก็คงจะโดนล้อม แม้ว่าพวกประติมากรรมสลักชีพจะแข็งแกร่งแต่ว่ามันก็ยังอันตรายเกินไป

ความเร็วในการออกล่าของพวกประติมากรรมสลักชีพนั้นถือว่าเร็วมากจากคำสั่งของวีด แม้ว่าพวกนักสู้ซัลเลียนจะล้อมพวกเขาทุกทิศทาง พวกมันก็ยังสามารถเอาชนะได้

ราชันย์ไฮดร้าก็คอยข่มขวัญให้ศัตรูกลัวขณะที่เจ้าหนอนแห่งความตายก็คอยปรากฏตัวออกมาจากพื้นดินแบบปุบปับเพื่อคุกคามเหล่าศัตรู

ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ

เจ้างูบ้านนอกเองก็พ่นพิษออกไปในขณะที่การโจมตีของลูกธนูและเวทย์เล็งไปยังเป้าหมาย ส่วนพวกประติมากรรมสลักชีพขนาดใหญ่ก็โจมตีใส่กองกำลังศัตรูที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม พวกมันทั้งมีประสิทธิภาพและทรงพลังมากจนสามารถกวาดล้างพวกซัลเลียนไปได้มากมาย

และแน่นอนว่าไม่มีใครตาย แต่ว่าอย่างไรก็ตามไอรีนก็หวังว่าพวกเขาจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น สถานการณ์ที่พวกเขาทุกคนต้องตายจนหมด นอกจากนั้นการสูญเสียประติมากรรมสลักชีพแม้แต่ตัวเดียวคงเป็นการสูญเสียที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้สำหรับวีด

ดังนั้นเธอตั้งสติและตัดสินใจที่จะหยุดวีดเอาไว้ สามัญสำนึกของเธอบอกกับเธอว่าวีดเหมือนกำลังเร่งรีบอย่างผิดวิสัย

 ดูเหมือนว่าศัตรูจะล่อเรามาที่นี่นะคะ
วีดพยักหน้าตอบรับข้อคิดเห็นของไอรีน
ถูกต้องแล้วครับ
งั้นแผนนี้ก็.....
เราก็กำลังหลอกล่อพวกมันอยู่เหมือนกันครับ

วีดครุ่นคิดขณะที่เขามองดูแผนที่แสดงภูมิประเทศที่ยูรินวาดให้

ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุด ถ้าเราทะลวงเข้าไปจากด้านนอกคงใช้เวลามากพอควร พวกมันคงกระจายกำลังออกไปเพื่อป้องกันหรือไม่ก็ลอบโจมตีแบบฉับพลัน...

คงต้องใช้เวลามากเอาการเพื่อที่จะไปให้ถึงยอดเขาทับคาล พวกเขาจะต้องต่อสู้กับพวกซัลเลียนที่คอยแพร่พันธุ์อยู่ตลอดภายในเทือกเขาฮาร์เซลนี่ แม้ว่าจะสามารถเอาชนะศัตรูได้สถานการณ์ก็คงเสียเปรียบ ยิ่งตอนที่พวกเขาเข้าไปในแนวอาณาเขตของศัตรู

มันคงกลายเป็นสงครามยืดเยื้อที่ส่งผลเสียมากกับเสบียงรบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงตัดสินใจที่จะคอยให้เจ้าวิหคเงินและหนูบ้านคอยส่งข่าวบอกตำแหน่งของศัตรูอยู่ตลอดเวลาและพร้อมที่จะต่อสู้ให้จบรวดเดียวไปเลย

 ตอนนี้ขอแค่คุณเชื่อใจผมก็พอแล้วครับ
มีโอกาสสำเร็จไหมคะ?”
ผมก็ไม่มั่นใจ แต่ถ้าพวกมันมีสมองละก็ พวกมันก็ควรจะนอนอยู่เฉยๆแล้วรอให้เราไปล้างบางพวกมันคงจะดี

ไอรีนตัดสินใจที่เชื่อในตัววีด มันคือถ้อยคำที่มาจากปากของคนที่ยอมเสียขาดีกว่าเสียเงินค่ารักษาพยาบาล!

พื้นที่อันตรายต่อไปที่พวกเขาต้องเผชิญหลังจากแม่น้ำเชี่ยวกราดนั้นก็คือ หุบเขาหิน ที่มีกำแพงทั้งสองข้างขนาบสูงยาวจนเกือบ 2 กิโลเมตร มันเป็นสถานที่ที่ทำให้คนต้องอ้าปากค้างและอยากหันหลังกลับด้วยซ้ำ! มันเป็นเส้นทางที่มีสายน้ำไหลตกลงไปในหุบเขา

เซเฟอร์มองดูรอบๆด้วยสีหน้าตึงเครียด

ไม่มีทางผ่านที่นี่ไปได้โดยไม่โดนการลอบโจมตีหรอกครับ

พวกซัลเลียนใช้โพรงแคบๆที่แทบจะมองไม่เห็นที่พวกเขาไม่มีมองเห็นได้เลยจนกว่าพวกมันจะปรากฏตัวออกมา

เราควรขึ้นไปเดินบนหน้าผาดีไหม คงจะเร็วกว่านี้นะครับ?”

เพลเดินไปข้างหน้าพร้อมกับธนูของเขาพร้อมเตรียมต่อสู้ สถานที่นี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีศัตรูรอคอยพวกเขาอยู่ตลอดเวลา!

 ไม่ละ เราจะไปทางด้านล่างของหุบเขานี่แหละ
เอ๋? แต่ว่ามันไม่มีทางให้เราหนีเลยนะครับ กำแพงหุบเขาชันๆนี่ก็แทบไม่ต่างอะไรกับการรับโจมตีจากกำแพงเมืองเลย
นั่นแหละที่ผมหวังเอาไว้

วีดเลือกที่จะเดินไปทางฝั่งที่เป็นร่องน้ำ

พวกประติมากรรมสลักชีพต้องเคลื่อนตัวไปตามหุบเขากว้างที่มีกำแพงหินสูงชันขนาบทั้งสองข้าง

ที่นี้แหละพวกมันต้องออกมาแน่ๆ นี่เป็นพื้นที่เชือดชั้นดีเลยนะ

วีดเข้ามาในหุบเขาหินนี้ด้วยความคิดแบบนั้นนั่นเอง
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★


พวกซัลเลียนซ่อนตัวอยู่ในโพรงทั้งหลายภายในพื้นที่หุบเขาทั้งสองฝั่ง

ข้านี่ฉลาดจริงๆ
นี่มันแผนของข้านะ
พวกมนุษย์น่าโง่ คริๆๆๆ

เหล่าผู้อาวุโสและนักสู้ซัลเลียนต่างก็หยุดหัวเราะไม่ได้ พวกเขามั่นใจในความเฉลียวฉลาดของพวกเขา! 

 ที่นี่มันดีเกินไปที่จะให้พวกมันผ่านไปได้ง่ายๆ

ฮ่าๆ เทพเจ้าให้ทุกอย่างกับข้าแล้ว! คนอื่นๆมีแต่พวกโง่ๆทั้งนั้น

พวกมันกำลังรออย่างนิ่งเงียบขณะที่กลุ่มของวีดและพวกประติมากรรมสลักชีพเข้ามาในหุบเขาหิน

พวกมันติดกับเราแล้ว!”
จัดการพวกมันให้หมด

ทันใดนั้นพวกนักสู้ซัลเลียนก็ปรากฏตัวพร้อมกันในคราวเดียว

และในไม่ช้าหุบเขาหินสูงชันแห่งนี้ก็ปกคลุมไปด้วยสีน้ำเงินเข้มจากผิวหนังของพวกมัน

-ติดตามตอนต่อไป-
ผู้แปล : Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

8 ความคิดเห็น:

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...