วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 29 ตอนที่ 5: โบราณสถานแห่งราชันย์เบลซ์ออส(Ruins of King Belsos) แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


เล่ม 29 ตอนที่ 5: โบราณสถานแห่งราชันย์เบลซ์ออส(Ruins of King Belsos) แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


มีเงื่อนไขที่จำเป็นมากมายเพื่อที่จะให้ชาวนาเข้ามาตั้งรกรากในสถานที่หนึ่งๆ

ผืนดินกว้างใหญ่ไพศาลและอุดมสมบูรณ์, แหล่งน้ำสะอาด, ปราศจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีจากมอนสเตอร์

ผืนดินดีๆย่อมมีราคาแพง

ฉะนั้นเหล่าชาวนาจึงอ้างสิทธิ์ในการครอบครองผืนดินที่มีภูเขาโอบล้อมดั่งป้อมปราการมากกว่าที่จะเลือกผืนดินอันงดงามและมีราคาแพง มีการทำแนวกั้นด้วยรั้วไม้และขุดร่องลึกเพื่อป้องกันการบุกโจมตีของเหล่ามอนสเตอร์

เมื่อทหารและผู้เล่นสายต่อสู้ได้เข้ามาจัดการความสงบในพื้นที่จนเรียบร้อยแล้ว พื้นที่การทำเกษตรกรรมก็จะสามารถขยายกว้างออกไปได้ เมื่อเริ่มการทำการเกษตรในภูเขา มีเหตุการณ์อยู่บ่อยครั้งที่ผู้คนล้มตายเพราะฝีมือของเหล่ามอนสเตอร์ ด้วยเหตุฉะนี้เอง จึงมีแต่เหล่าชาวนาผู้ซึ่งทำการเพาะปลูกภายใต้ความยากลำบาก พวกเขาต้องฟันฝ่าอุปสรรคและปัญหามากมาย

ดูท่าคืนนี้ฝนคงจะตกสินะ งั้นเลิกงานเร็วละกัน

พวกเขาหว่านเมล็ดเมื่อตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นและมีหมอกในยามเช้า เมล็ดพวกนั้นแตกกิ่งก้านสาขาอย่างรวดเร็ว ถ้าพวกเขามีสภาวะแวดล้อมที่ดีและขยันทำงานถวายชีวิต พวกเขาก็จะได้ผืนดินอันเรืองรองดั่งทองคำ เช่นนั้นแล พวกเขาจะได้รับรู้ถึงความตื่นเต้นของการได้เป็นชาวนา

เมื่อผืนดินให้ผลผลิตแตกออกเป็นรวงข้าว หรือต้นไม้ในสวนผลิดอกออกผล พวกเขาก็สามารถนำมันไปขายที่ตลาดได้

เหล่าพ่อครัวก็จะมารับซื้อผลผลิตในราคาแพง ดังนั้นชาวนาจึงรู้สึกสนุกไปกับการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตร พวกเขานำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อที่ดินมากขึ้นและเพาะปลูกพืชพันธุ์ชนิดพิเศษ พวกเขาไม่ได้ซื้ออาวุธหรืออุปกรณ์ป้องกัน และยังนำเงินทั้งหมดกลับไปลงทุนในผืนดินของพวกเขา


ทางตอนเหนือ ความสัมพันธ์ระหว่างโมราต้าและเผ่าเอลฟ์นั้นไม่ได้แย่นักและผืนดินอันอุดมสมบูรณ์นี้เอง ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการปลูกผลไม้ที่ได้มาจากเผ่าเอลฟ์ ถ้าหากพวกเขาเอาใจใส่และดูแลผืนดินเป็นอย่างดี มันก็จะส่งผลให้บริเวณผืนดินโดยรอบ มีความอุดมสมบูรณ์ตามไปด้วย

ถึงแม้ไม้ผลจะขายได้ราคาดีแต่เหล่าชาวนาก็ยังคงภูมิใจในผืนนาของพวกเขา แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่าผลผลิตที่มีราคาสูงที่สุดนั้น คือ สวนสมุนไพร!

สวนสมุนไพรสามารถเติบโตได้ทุกที่ แต่มันก็ต้องการร่มเงาที่เหมาะสมและดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพวกมัน สวนสมุนไพรที่ดีจะต้องได้รับการปกป้องจากการบุกรุกของพวกมอนสเตอร์และเหล่าพ่อครัวก็ยอมจ่ายสำหรับจำนวนอันมหาศาลของพวกมัน

เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว การเพาะปลูกดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ผลผลิตในไร่เจริญเติบโตได้ดี ผืนดินบางแห่งยังคงปล่อยว่าง

มันเป็นอาชีพที่มีเพียงเฉพาะชาวนาผู้ที่ครอบครองผืนดินอันกว้างใหญ่ไพศาลเท่านั้น ที่สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ถึงอย่างนั้น เหล่าพ่อค้าก็มิได้อิจฉาพวกเขาแต่ประการใด แต่เมื่อการขยายที่ดินถึงขีดจำกัดแล้ว พวกเขาก็สามารถขายที่ของพวกเขาให้กับบรรดาเจ้าเมืองหรือชาวนาคนอื่นๆได้.

พวกเขาจะนำเมล็ดพันธุ์ลึกลับติดตัวไปด้วยและทำการหาผืนดินที่มีความอุดมสมบูรณ์แห่งใหม่เพื่อตั้งรกรากอีกครั้ง

กิลด์ชาวนาระดับมืออาชีพเองก็มาที่โมราต้าภายในระยะเวลาอันสั้นหลังจากการก่อสร้างรูปปั้นเทพีเฟรย่าเสร็จสิ้นลง

ผืนดินทางเหนือช่างกว้างใหญ่ยิ่งนัก พวกเราจะไม่ถูกจำกัดให้ทำฟาร์มเล็กๆเหมือนทางตอนกลางอีกแล้ว
ทางนี้ ดูนี่สิ คุณภาพของดินที่นี่ มันช่างสุดยอดอะไรเช่นนี้

เหล่าสมาชิกกิลด์ค้นพบดินที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าปลูกอะไรสักอย่างตรงนี้นะ มันจะโตได้ดีเลยล่ะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผืนดินแห่งนี้ได้รับการอวยพรจากวิหารเฟรย่า มาทำฟาร์มที่นี่กันเถอะ.”

ตอนแรก พวกเขาทำแปลงเพาะปลูกแบบง่ายๆ เช่น ข้าวสาลีและข้าวธรรมดาๆทั่วไป ข้าวสาลีสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังใช้พื้นที่เพียงน้อยนิด
และผลผลิตที่ได้ ช่างมากมายมหาศาลเกินกว่าที่ได้มีการคาดหวังเอาไว้! เมล็ดข้าวไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากได้รับการคุ้มครองจากทางวิหารเฟรย่า
ในขณะที่พวกเขากังวลเกี่ยวกับการบุกรุกของมอนสเตอร์ พวกเขาพูดเสียๆหายๆให้กับท่านลอร์ดแห่งโมราต้า

ลอร์ดโมราต้าช่างไม่มีหัวคิดเลยรึไง เขาไม่ทำอะไรเลยแม้แต่ตอนที่พวกมอนสเตอร์เข้ามาคุกคามความสงบสุข
ไอ้หมอนั่นมันไม่รู้อะไรเลยนอกจากการต่อสู้รึไงวะ ให้มันได้อย่างนี้สิ พับผ่าเอ้ย!”

เหล่าชาวนาจากทางตอนกลางก็ได้แพร่กระจายความคิดเหล่านั้นออกไป แต่ผู้คนก็ยังหลั่งไหล พากันอพยพมาที่โมราต้า และ บรรดาผู้เล่นก็ยังสามารถเริ่มต้นได้ที่นี่อีกด้วย

ตลาดสินค้าบริโภคได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาและท่านลอร์ดก็ได้ให้การสนับสนุนทางอ้อมผ่านการก่อสร้างอาคารพิเศษ เช่น ยุ้งฉางสำหรับชาวนาในอาณาจักรอาเพ่น เหล่าชาวนาผู้ดิ้นรนเพาะปลูกทำไร่ไถนาต้องใจสลายเพราะผลผลิตเสียหายจากการที่ไม่มีโกดังเก็บของเพราะบรรดาลอร์ดทั้งหลายต่างพากันไม่สนใจ

ลอร์ดโมราต้าลงทุนไปเยอะมาก แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตสมถะเรียบง่าย
ไม่ใช่ว่ามันเป็นการกระทำเพื่อเอาหน้าหรือไง?”
ทุกวันนี้เขารับรู้ได้ถึงสิ่งต่างๆอย่างแท้จริง ถ้าพวกเราทำการขยายพื้นที่ พวกหน่วยเรนเจอร์ก็จะมาปกป้องมัน

เมื่อชาวนาประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกมะเขือเทศหรือไร่องุ่น ชื่อเสียงของท้องถิ่นก็จะเพิ่มขึ้นและได้ถูกลงทะเบียนให้เป็นสินค้าประจำถิ่น พวกเขาสามารถขายมันได้ในฐานะไอเท็มพิเศษ เหล่าพ่อค้าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารก็จะมาเยี่ยมเยือนพวกเขาด้วยความตั้งใจที่จะมาซื้อสินค้าและผลผลิตจำนวนมหาศาลก็จะได้รับการจัดเก็บไว้ในโกดัง
ชาวนาบางคนได้ลงทะเบียนมะกอกเป็นสินค้าประจำถิ่นและเหล่าพ่อครัวผู้ที่ใช้วัตถุดิบหลักในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีขั้นสูง ไวน์และเบียร์ก็ถูกผลิตขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นปริมาณการบริโภคเมล็ดข้าวก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

อุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่เลี้ยงวัวและแกะ ก็ได้นมในปริมาณมหาศาล ชีส และส่วนที่เอาไปบริโภคเป็นอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องหนังของโมราต้ามีการแข่งขันที่สูงมาก

ลอร์ดโมราต้าช่างวิเศษอะไรเช่นนี้ จะมีใครอีกมั้ยที่เอาใจใส่ดูแลเหล่าชาวนาของเขา?”
ป่าแห่งนี้ยอดเยี่ยมไปเลย ถ้าพวกเราทำสวนสมุนไพรในอาณาจักรอาเพ่นก่อนที่มันจะสายเกินไป จากนั้นพวกเราก็จะสามารถขยายไปทำสวนผลไม้และไร้องุ่น
ฉันจะเริ่มจากไร่กาแฟและไร่อ้อย

วีดมีบทบาทสำคัญต่อความร่ำรวยของเหล่าชาวนา ผู้เล่นมากมายที่อยากมาเจอวีดก็พากันมาตั้งตัวในพื้นที่ ความสงบสุขเพิ่มพูนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนถึงระดับที่สามารถป้องกันภัยจากพวกมอนสเตอร์ได้แล้ว
มีเพียงเหล่าชาวนาที่อยู่ภายใต้การปกป้องของราชันย์ไฮดร้าหรือเจ้าอิมูกิดำที่ยังมิอาจมั่นใจในการขยายผืนดินของพวกเขา

เมื่อโมราต้ามีการพัฒนามากขึ้น เหล่าชาวนาที่ถูกดึงดูดก็เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกันกับที่มีการก่อตั้งอาณาจักรอาเพ่น ณ ตอนนี้ การทำเกษตรกำลังเป็นที่แพร่หลาย เกษตรกรรมก็เจริญเฟื่องฟู

มวลหมู่พฤกษาป่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโมราต้า
ฝูงนกจำนวนมากบินมายังเมืองที่สวยงามแห่งนี้ นกที่กินเมล็ดข้าวอันแสนล้ำค่าคือศัตรูตามธรรมชาติของเหล่าชาวนา

พวกนกเชี้ยนี่เยอะจังวะ
ว้อย! ฉันอยากจัดการพวกมันให้หมดๆไปซะ

เหล่าชาวนาต่างเบื่อหน่ายกับการขับไล่พวกมันออกไปจากแปลงที่มีมูลค่าหลายพันทองของพวกเขา แต่ฝูงนกเหล่านั้นก็ยังคงบินผ่านตรงโน้นทีตรงนี้ที กลับกลายเป็นว่ามันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่พากันเดินทางเพื่อมาดูนกพวกนี้

พี่สาว ดูนกตรงนั้นสิ มันดูแปลกๆนะ!”

มีนกวิเศษ 2 ตัว ท่าทางคล้ายกับว่าพวกมันนั้นเป็นเหมือนผู้นำของฝูงนกทั้งหมดในที่นี้ นกวิเศษสีทองและสีเงินพากันจิกกันเมล็ดข้าว


วิหคเงินและวิหคทองส่งเสียงร้องออกมาด้วยความพึงพอใจที่พวกมันได้อิ่มเอมไปกับการกินราวกับเจ้าหญิงในปราสาท

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

คณะสำรวจที่ได้ออกเดินทางไปยังอาโกเดียภายใต้คำขอร้องของวิหารลู ความจริงที่ว่าคณะสำรวจกำลังมุ่งหน้าไปยังหนึ่งในสิบสถานที่ต้องห้ามนั้น กลับไม่ได้กวนใจพวกเขาเลยสักนิด

อ้า ข้าเหนื่อยจังเลย
ดูเหมือนว่านี่จะไม่จบไม่สิ้นสักที
นี่มันวันที่สองแล้วนะ แต่พวกเราก็ยังไม่เจออะไรเลย

แน่นอนพวกเขาไม่เจออะไรสักอย่างแม้กระทั่งน้ำหรืออาหาร ดินแดนธุรกันดารที่เต็มไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์กระหายเลือด พวกเขายังไม่เจอแดนศักสิทธิ์ในอาโกเดีย

พวกเราต้องผ่านมันไปให้ได้ พวกเราต้องทำได้สิ

เหล่าพาลาดินและนักบวชจากวิหารลูพยายามกระตุ้นผู้คนที่เหนื่อยล้า มันเป็นธรรมดาที่จะมีเหล่าผู้เล่นสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับนักบวชมาด้วยเพราะมันเป็นภารกิจจากทางวิหาร

คุณวีดเองก็เคยผ่านหนึ่งในสิบสถานที่ต้องห้ามมาแล้ว และเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยมิใช่หรือ?”
ถ้าพวกเรามายอมแพ้ที่นี่และกลับไปมือเปล่า พวกเราคงเป็นไปได้แค่พวกขี้แพ้ พวกเรามาพยายามด้วยกันเถอะ

อย่างไรก็ตาม แผ่นดินที่แห้งแล้งไม่มีที่สิ้นสุด มันชวนให้พวกเขายอมแพ้ได้ทุกเมื่อ ทั้งหิวทั้งกระหาย มอนสเตอร์ที่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อของพวกเขา แม้แต่โอเอซิสก็ยังเหือดแห้งจนเห็นพื้น

โอยยที่นี่ก็ยังไม่ใช่
ลองแยกย้ายหาดูกันเถอะ เผื่อจะเจออะไรมากกว่านี้
มันคงจะดีถ้าฝนตกพรุ่งนี้…..”
ครั้งสุดท้ายที่มีฝนตกก็ประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว มันแย่สุดๆไปเลย

อาโกเดียอยู่ใกล้กับอาณาเขตของจอมเวทย์จากป่าแห่งความมืด ดังนั้นเวทย์มนต์เคลื่อนย้ายจึงไม่สามารถใช้การได้  มีเพียงแค่เวทย์มนต์ระดับต่ำเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังและยังคงสามารถใช้ในการต่อสู้ได้ปกติ ถ้าจอมเวทย์จากป่าแห่งความมืดพบพวกเขาเข้าล่ะก็ คงมีการลอบโจมตีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การโจมตีจากเหล่าจอมเวทย์อาวุโสที่มีเลเวลมากกว่า 460 เพียงพอที่จะทำให้คณะสำรวจถึงกับเป็นกังวลได้เลย

เวลาล่วงเลยไปในตอนที่พวกเขามาถึงอาโกลเดียและออกตระเวนไปทั่ว แม้กระทั่งเหล่าผู้เล่นยอดฝีมือจากโมราต้าก็เข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้ด้วย จึงทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ความจริงแล้ว การที่มีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วมการสำรวจสำคัญๆ ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เหล่าผู้เล่นสายอาชีพนักบวชต่างก็ได้ยินเรื่องราวของอุทยานแห่งทวยเทพในโมราต้าว่าการก่อสร้างใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว มันทำให้พวกเขาอยากกลับไปโดยเร็ว

จุดหมายในการสำรวจอาโกลเดีย ซึ่งเป็นสถานที่ต้องห้ามยังไม่เสร็จสิ้นเลย พวกเจ้าก็อยากกลับไปที่โมราต้าแล้วรึ เพียงเพื่อจะได้เห็นอุทยานแห่งทวยเทพ?”
ข้าคิดว่ามันต้องมีการผจญภัยที่น่าสนใจอีกเยอะเลยในอาณาจักรอาเพ่น
ข้าว่ามันต้องมีดีกว่านี้แน่นอน

มีผู้เล่นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพนักบวชและอาชีพอื่นได้ละทิ้งการสำรวจและเดินทางกลับ จึงทำให้ตอนนี้มีผู้เข้าร่วมอยู่ในคณะสำรวจเหลือเพียง 20 คน

พวกเราต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ

นักผจญภัยสเป็นซั่น ผู้เป็นที่รู้จักกันในทวีปแห่งนี้ เขาได้ตัดสินใจก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำจนจบและได้กอบกู้พลังของดาบแห่งลู

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เมื่อยามเช้ามาถึง วีดมองไปที่บรรดารูปปั้นที่เขาแกะสลักในอุทยานแห่งทวยเทพ เขาตัดสินใจที่จะแกะสลักรูปปั้นชิ้นสุดท้ายให้เสร็จในเช้าวันนี้ ซึ่งมันก็ยังไม่ถึงเวลา

ท้องฟ้ายามค่ำคืนเปิดโล่งจนให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าดวงจันทร์และดวงดาวนั้นอยู่ใกล้มาก แต่หัวใจของวีดกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น

เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา เขารู้สึกเสียใจที่ซื้อเกลือแพงกว่าตั้ง 200 วอน แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดไปตั้งมากมาย

ฉันทำพลาดตั้งหลายอย่างในการต่อสู้ที่เหมืองเมลเบิร์น

การต่อสู้กับบาร์ดเรย์ยังคงโผล่เข้ามาในหัวของเขาในขณะที่เขากำลังทำประติมากรรมไปด้วย วีดเสียใจที่เขาแพ้และตายในการต่อสู้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เหตุผลนั้นช่างง่ายมาก เขาอ่อนแอเกินไป

มันคือความรับผิดชอบของเรา เราต้องแข็งแกร่งขึ้น

บาร์ดเรย์เป็นที่กล่าวขานกันถึงพละกำลังอันแข็งแกร่ง เขาได้รับการสนับสนุนจากกิลด์ของเขา นั่นจึงทำให้สถานการณ์เสียเปรียบตั้งแต่เริ่มแล้ว
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัว
ความเสียใจของเขาเกิดจากการที่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถทั้งหมดที่เขามีในการต่อสู้ครั้งนั้น

ฉันต้องคิดให้รอบคอบมากกว่านี้ ฉันไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทุกอย่างที่มีเท่าที่ควร

มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายแต่เขาก็คุ้นชินกับมันแล้ว ถ้าวีดได้รับการถ่ายโอนพลังชีวิตจากซอยูนผ่านทางแหวนแต่งงาน เขาคงยื้อเอาไว้ได้นานกว่านี้ ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้น หากเขาสามารถนำทักษะของเบอร์เซิร์กเกอร์มาใช้ได้อย่างเต็มที่

กระนั้น ความคิดที่ว่ากำลังเสริมจากกิลด์เฮอร์มีสยังตามมาสมทบเพิ่มมากขึ้น ได้กดข่มเขาเอาไว้ ทำให้เขาต่อสู้อย่างร้อนรนและตาย
เขารับการโจมตีที่รุนแรงในครั้งเดียว ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงเร็วเกินกว่าที่แหวนแต่งงานจะสามารถแสดงเอฟเฟ็คของมันได้

อ้า ฉันทำเรื่องโง่ๆไปซะได้ เหมือนตอนที่ฉันซื้อเกลือแพงกว่าตั้ง 200 วอน

วีดตะโกนด่าตัวเขาเองสำหรับความตายในครั้งนั้น  เขาไม่ได้รับความเสียหายจากผู้เล่นในกิลด์เฮอร์มีสมากนัก แม้ว่าสถานการณ์จะสับสนยุ่งเหยิงเพียงใด ปริมาณความเสียหายที่ได้รับจากผู้เล่นชั้นนำในกิลด์เฮอร์มีสก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี ทักษะ เลเวล และการประสานงานของพวกเขา ก็เพียงพอที่จะต่อกรกับคู่เบลกิ้นได้อย่างสบายๆ


มันเป็นความประมาทของฉันด้วยแหละ ฉันยังเตรียมตัวได้ไม่ดีนักเมื่อเปรียบเทียบกับฝ่ายศัตรู

เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเรียกใช้บรรดาประติมากรรมสลักชีพ เขาไม่อยากสูญเสียครั้งใหญ่ถ้าเกิดว่าพวกมันถูกทำลาย แม้แต่ประติมากรรมวินาศก็ยังไม่สามารถใช้ได้เพราะไม่มีประติมากรรมธรรมชาติ

อย่างเช่นภูเขาไฟระเบิดก็ใช้เวลานานกว่าจะแสดงพลังออกมา อีกทั้งยังทำให้วีดตกอยู่ในอันตรายด้วย มันจึงไร้ประโยชน์ในสถานการณ์แห่งความเป็นความตาย มันจะดีกว่าถ้าเขามีประติมากรรมวินาศที่เหมาะกับการใช้งานในดันเจี้ยนและสามารถใช้ต่อสู้ได้

ใบมีดสลักแสงจันทร์ก็มีประโยชน์ในการต่อสู้กับศัตรู. เขาใช้มันค่อนข้างบ่อยในตอนที่ออกล่า ทำให้ค่าความเชี่ยวชาญในการใช้ทักษะนี้สูงมาก
แต่มันใช้มานาถึงสามเท่าของเคล็ดมีดแกะสลัก มันเลยใช้ในการต่อสู้ได้ไม่ค่อยบ่อยนักหากปราศจากบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับเกราะอัศวินแห่งองค์เทพี

ฉันคงต้องปล่อยวางบ้าง

ผลลัพธ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ขาดหายไปในการต่อสู้ ถ้าเขาแพ้ เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ จนกว่าจะพรากชีวิตของพวกมัน!

ฉันเสียแม้กระทั่งเกราะชั้นดีอย่างเกราะทัลร็อค

มันคือไอเท็มเฉพาะ เขาได้รับมันเมื่อนานมาแล้ว แม้คุณสมบัติจะดูคร่ำครึไปบ้าง แต่มันก็ยังใส่ได้ค่อนข้างดี วีดมักจะเน้นไปที่พลังโจมตีมากกว่าพลังป้องกัน ทำให้เขาเปลี่ยนดาบหลายต่อหลายครั้ง เขาชอบเกราะอันนี้มาก เขาจึงรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกช่วงชิงไปจากเขา เขารู้สึกเหมือนถูกทรยศ การที่เกราะทัลร็อคที่เขาสวมใส่มันอยู่เสมอ ต้องตกไปอยู่ในมือของคนอื่น

ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่

ก่อนการแกะสลักรูปปั้นเทพองค์สุดท้ายจะเสร็จสิ้น เขาตัดสินใจที่จะสร้างประติมากรรมบางอย่างที่เขาสามารถนำมันไปใช้ได้กับทักษะประติมากรรมแห่งภัยพิบัติ

ทันใดนั้น เสียงหลอกหลอนแห่งความตายและฝูงแมลงก็ปรากฏ พวกมันชอนไชทะลวงผ่านก้อนหิน มนุษย์และมอนสเตอร์
ความจริงแล้ว วีดได้กำหนดขอบเขตของประติมากรรมแห่งภัยพิบัติเอาไว้มากมาย เขาจึงลองคิดหาสิ่งใหม่ดูบ้าง

มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีก ต่อให้เทน้ำร้อนผ่านร่าง ก็ไม่เห็นจะเป็นไรหนิ ฉันคงหาน้ำแข็งไม่ได้ตลอดไปหรอก ฉันน่าจะเตรียมประติมากรรมเอาไว้สักหน่อย เผื่อได้ใช้ในอนาคต

เขาได้สัมผัสประสบการณ์จากภัยพิบัติมาแล้ว เขาจึงเตรียมประติมากรรมเอาไว้ในกรณีที่มีปัญหาแบบในเหมืองเกิดขึ้นอีก มันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่ที่ได้เห็นสิ่งเลวร้าย

โจรที่เข้าออกธนาคารบ่อยๆ สุดท้ายแล้วการปล้นก็เกิดขึ้นอยู่ดี

วีดสร้างประติมากรรมแห่งภัยพิบัติจวบจนถึงเช้า

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

มันกำลังจะเริ่มแล้วใช่มั้ย?”
มันใกล้จะจบแล้วล่ะ
ฉันรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก
 ฉันแทบจะเป็นลมเลยด้วยซ้ำ

อุทยานแห่งทวยเทพกำลังจะเสร็จในเช้าวันนี้ ทำให้ฝูงชนมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง ความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นทวีคูณเพราะเหลือเพียงแค่ชิ้นเดียว ผู้ที่มีส่วนร่วมโดยตรงยิ่งประทับใจ

อึ่กแล้วพวกเราจะไปไหนต่อหลังจากการก่อสร้างเสร็จแล้ว?”
การสำรวจโบราณสภานแห่งราชันย์เบลซ์ออสไม่น่าจะยากนะ เราแค่ต้องไม่ทำพลาดเลย
ห๊า! ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจมากเลยเมื่อนึกย้อนถึงอดีตที่เกิดขึ้นกับกิลด์คริมสันวิง

สีหน้าของเซอร์กะ โรมุนะและไอรีนดูมืดมน เมื่อประติมากรรมเสร็จสิ้น พวกเขาต้องออกเดินทางไปพร้อมกับวีดเพื่อสำรวจดันเจี้ยน การแสดงออกของพวกเขาจึงดูไม่ค่อยสดใสมากนัก สปาร์ทอยของไคเบิร์นก็เดินทางมาถึงแล้วเช่นกัน

(จากตำนานแคดมัสแห่งเธเบียส สปาร์ทอยคือนักรบที่เกิดจากชิ้นส่วนร่างกายของมังกรที่ถูกปลูกและโตขึ้นมาจากผืนดิน คำอธิบายจากผู้แปล Cole’s Myth ในเล่ม 29 ตอนที่ 4)

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลย เราไม่ควรทำดีเกินไป

เพลและไอรีนรู้สึกอย่างนั้นเมื่อพวกเขามองดูวีด พวกเขาต้องมาทุกข์ทรมานโดยไม่มีเหตุผล ต้องขอบคุณนิสัยของเค้า!

การอยู่ใกล้คนโชคร้าย มีแต่นำเรื่องแย่ๆมาให้

พระอาทิตย์ยามเช้าสาดแสงไปยังประติมากรรมชิ้นสุดท้าย ฝูงชนที่มารวมตัวกันก็ใหญ่ขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป  มันให้ความรู้สึกเหมือนผู้ที่หิวโหยกำลังรอคอยอาหารจานเด็ด เพื่อที่พวกเขาจะได้ชื่นชมอย่างเต็มที่ครั้นเมื่อประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์

ในเช้าวันนี้ มันจะเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญสำหรับอาณาจักรอาเพ่น ได้ฤกษ์เปิดปฐมบทแห่งการรีดไถภาษีครั้งใหม่ซะที

วีดแกะสลักริมฝีปากของประติมากรรม เขาจัดแจงให้รูปปั้นแห่งองค์เทพีเฟรย่าเป็นลำดับสุดท้าย

เหล่าพาลาดินและนักบวชทั้งหลายจากทั่วทุกสารทิศที่ได้ยินข่าวว่าการก่อสร้างใกล้จะเสร็จแล้ว ต่างพากันวิ่งแจ้นมายังสถานที่แห่งนี้ เขาได้สร้างรูปปั้นแห่งองค์เทพีเฟรย่าแล้วในโมราต้า แต่มันจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมันอยู่ท่ามกลางเหล่าทวยเทพ

รูปปั้นเทพีเฟรย่าช่างงดงามเหนือคำบรรยาย จึงมีหลายส่วนที่ต้องกังวลในการทำเป็นงานชิ้นสุดท้าย เขาทาลิปสติกเพื่อให้ปากดูอิ่มเอิบและเป็นประกายเงางาม เขาเติมเครื่องสำอางลงไปที่ใบหน้า และแล้วรูปปั้นเทพีเฟรย่าก็เสร็จสมบูรณ์

ตริ้ง!

- รูปปั้นเทพีเฟรย่าได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว!
เธอคือเทพแห่งความงามและความอุดมสมบูรณ์ ท่านเทพธิดาได้แผ่อิทธิพลอันยิ่งใหญ่ไปสู่มวลมนุษย์
งานประติมากรรมที่โด่งดังด้านความงดงาม
ด้วยการนำผลงานเมื่อครั้งในอดีตมาแปลงโฉมใหม่ วิหารเฟรย่าจะพิจารณาถึงคุณค่าของประติมากรรมชิ้นนี้มากยิ่งขึ้น
- ความสัมพันธ์กับวิหารเฟรย่า อยู่ที่ 54 แต้ม
- ค่าอุทิศต่อวิหารเฟรย่าเพิ่มขึ้น 960 แต้ม
คุณสามารถยืนยันค่าอุทิศของคุณได้ที่ตำแหน่งในลัทธิใต้หน้าต่างศาสนา
ค่าอุทิศทั้งหมดที่มีต่อวิหารเฟรย่า: 21,291
ค่าอุทิศที่เกี่ยวข้องกับลัทธิทางศาสนาจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อสำเร็จภารกิจที่มีความเกี่ยวข้องกัน
วิหารเฟรย่ามีมหาวิหาร ถ้าความศรัทธาของประชาชนผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ค่าอุทิศก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงทุกวัน
กษัตริย์หรือลอร์ดจะได้รับคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวง

ตริ้ง!

- ประติมากรรมที่เป็นตัวแทนของเหล่าทวยเทพได้ถูกรวบรวมไว้ในสถานที่เดียวกัน
ท่านจะตั้งชื่อประติมากรรมที่เสร็จสมบูรณ์นี้ว่าอะไร?

อุทยานแห่งทวยเทพ

 อุทยานแห่งทวยเทพ ถูกต้องหรือไม่?

เหล่าคนงานและผู้เล่นต่างก็พากันเรียกมันว่าอย่างนั้น มันก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่เมื่อเปรียบเทียบกับลักษณะการตั้งชื่อของวีดที่ผ่านๆมา
ดินแดนแห่งการก่อสร้าง เมืองถัดจากโมราต้า อุทยานแห่งภาษี และ วายร้ายแห่งกิลด์เฮอร์มีส ทั้งหมดล้วนเป็นชื่อที่มีความเป็นไปได้

ถูกต้อง

ตริ้ง!

- อุทยานแห่งทวยเทพได้ถือกำเนิดขึ้นบนทวีปเวอร์เซลล์!
สถานที่ที่เต็มไปด้วยประติมากรรมของเหล่าทวยเทพ มีภาพลักษณ์ที่สง่างาม  ทุกเผ่าพันธุ์ที่มายังสถานที่แห่งนี้ จะรู้สึกได้ถึงความเคารพบูชา
ประติมากรวีด กษัตริย์แห่งอาณาจักรอาเพ่น ได้สำเร็จภารกิจการก่อสร้างครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกับประชาชนของเขา
รูปแบบดั้งเดิมของเทพที่เก่าแก่ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง
สถานที่สำคัญทางศาสนา มวลพฤกษานานาพรรณจะเบ่งบาน เหล่าดวงจิตจะสนุกสนานไปกับมัน
แต่ละศาสนจักรบนทวีปเวอร์เซลล์จะบรรจุให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้แสวงบุญจะมาเยี่ยมเยือนอุทยานแห่งทวยเทพ
ชื่อเสียงของอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มสูงมาก
ผู้ที่มีความเชื่อและศรัทธาต่อเหล่าทวยเทพ จักได้รับพลังแห่งการอวยพร
การขยายตัวของประเทศพร้อมกับวัฒนธรรมที่สูงมากได้มาถึงจุดสูงสุดของมันแล้ว
ความจงรักภักดีของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเปลี่ยนไป เพื่อแสดงความเคารพที่มีต่อระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ชื่อเสียงของประเทศมีประโยชน์ในการค้าต่างประเทศและสินค้าท้องถิ่น สินค้านำเข้าจากอาณาจักรที่มีชื่อเสียงมากกว่าย่อมให้ราคาดีเมื่อถึงเวลาแลกเปลี่ยน เหล่าพ่อค้าจะยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาจัดหาของบางอย่างได้จากอาณาจักรเฉพาะ
วีดเองก็เห็นข้อความส่วนตัวที่ลอยอยู่ตรงหน้าของเขาเช่นเดียวกัน
ความสัมพันธ์ของเขาและค่าอุทิศที่มีต่อบรรดาศาสนจักรทั้งหลายก็เพิ่มขึ้นและเขายังได้รับการอวยพรจากเหล่าทวยเทพอีกด้วย

จอมเผด็จการที่ใช้ประโยชน์จากผู้คน ผู้ที่เหล่าทวยเทพต่างอวยพรให้กับเขา!

ตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง เขาทำประติมากรรมระดับแมคนั่มสำเร็จด้วยกันถึง 2 ชิ้น ระดับมาสเตอร์พีซ 3 ชิ้น และ ผลงานชั้นดีอีก 7 ชิ้น นอกจากนั้น เขายังทำประติมากรรมต่างๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมทางประวัติศาสตร์ ประติมากรรมทางศาสนา และประติมากรรมยักษ์

ค่าสถานะความเป็นผู้นำ ค่าสถานะความอึดและค่าสถานะความอุตสาหะของเขาก็เพิ่มขึ้นเยอะมากด้วยเช่นกัน นั่นก็เนื่องมาจากการชักนำผู้คนและสร้างประติมากรรม
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะการแกะสลักของเขาอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 9 กับอีก  38.2%
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ ซึ่งต้องขอบคุณงานก่อสร้างขนาดมหึมาที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ได้กระจายไปทั่วทั้งทวีป
การเพิ่มขึ้นของค่าความเชี่ยวชาญทักษะการแกะสลักของวีดไม่ใช่การเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่จากการทำงานนี้
เมื่อเขามองในระยะยาว การก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานหลังจากการก่อตั้งอาณาจักรอาเพ่น มันจะก่อให้เกิดผลประโยชน์นานัปการ

เยี้ยฮ่า! จบสิ้นกันซะที!”
ได้เวลาไปเล่นแล้วโว้ย!”

เหล่าผู้เล่นที่เข้าร่วมการก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพ ต่างพากันส่งเสียงร้องเชียร์ด้วยความดีใจ พลางโยนหมวกของพวกเขาขึ้นสู่ท้องฟ้า
เหล่านักดนตรีก็ได้บรรเลงเพลงของพวกเขาผ่านเครื่องดนตรีอันหลากหลาย

นักเดินทาง สายลม หมูอ้วน ได้โปรดมาที่ร้านอาหารเหล่านี้ ข้าจะลดราคาให้ถูกๆเลย ผักกาดหอมก็ฟรี!”
เบียร์ดำรสเลิศ! ร้านของข้าเพิ่งได้พ่อครัวมาใหม่ ดังนั้นอาหารทุกจานสดใหม่เสมอ ท่านแขกผู้มีเกียรติได้โปรดตามข้ามา ถ้าท่านอยากดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติค!”
ลัทธิโจ๊กหญ้า! โปรดฟังทางนี้ สมาชิกลัทธิโจ๊กหญ้าจะมีอาหารเย็นที่คาเฟ่พัลซุล!”

ผู้คนในโมราต้าต่างรอคอยให้วันนี้มาถึง มันไม่ต่างจากงานเทศกาลเลย กลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จในครั้งนี้ บรรดาร้านค้าก็เปิดประตูกว้าง กระท่อมและบ้านอีกหลายหลังก็มีการติดป้ายแขวนเอาไว้

- ฉันแบกหินในอุทยานแห่งทวยเทพตั้ง 14 ครั้งแน่ะ
- ผมขุดดินเป็นเวลา 4 ชั่วโมงติดต่อกัน ที่อุทยานแห่งทวยเทพ
- บ้านพ่อค้า บริจาคหินอ่อน 2 ก้อน

ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองภูมิใจ

นักท่องเที่ยวและผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานยังคงทยอยกันมาจากทั่วทุกสารทิศ ทำให้บรรยากาศเป็นแบบนี้ต่อไปอีกสักพัก

วีดอาจจะเป็นกษัตริย์แต่เขาก็เป็นประติมากรผู้สร้างผลงานตระการตาดึงดูดฝูงชน แม้ประติมากรคนอื่นๆจะได้รับการสนับสนุนจากกิลด์ทั้งหลาย มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะเทียบชั้นกับวีดผู้ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

เหล่าอาณาประชาราษฎร์ทั้งหลายต่างส่งรอยยิ้มออกมาด้วยความผาสุก  พวกเขายินดีอย่างสุดหัวใจที่การก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพเสร็จสิ้นลง ค่าสถานะของประติมากรจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในผลงาน

วีดคิดว่าน่าจะได้โอกาสแสดงให้เห็นถึงความดีงามของเขา เขาจึงใช้ทักษะราชสีห์คำราม

อุทยานแห่งทวยเทพจะเปิดให้เข้าฟรีตลอดไป!”
ไชโย อาณาจักรอาเพ่น!”
ไชโย ประติมากรวีดผู้เก่งที่สุดในทวีป!”

วีดได้นำความสุขมาสู่เหล่าผู้เล่น!

ฉันไม่มีทางเลือกเลยแหะ ได้แต่ชอบท่านวีดคนเดียว
ใช่แล้วล่ะ ฉันรักการผจญภัยของคุณวีดมากเลย นี่คือเหตุผลที่ฉันมาโมราต้า

ด้วยความสัตย์จริง วีดไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้เข้าฟรี มันมีอิทธิพลต่อสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับนักบวช ทำให้การไปที่นั่นเป็นส่วนสำคัญที่มีต่ออาชีพของพวกเขา

ถ้าเขาเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าชม มันจะเป็นรายได้จำนวนมหาศาลให้กับเขา แต่งานนี้จะสำเร็จไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือของฝูงชน
มันคงไม่ง่ายหากวีดจะเก็บค่าธรรมเนียมโดยไร้ซึ่งกระแสต่อต้าน

นอกจากนั้นแล้ว มันยังถูกจัดให้เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนา จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขามิอาจเก็บค่าธรรมเนียมได้ อย่างไรก็ตาม ผลพวงด้านบวกจากการก่อสร้างอุทยานแห่งทวยเทพก็ไม่ได้ด้อยค่าเลยสักนิด

วีดจึงต้องทำใจยอมรับและพอใจในสิ่งที่ได้

หวังว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายในอนาคตนะ ฉันจะได้เก็บภาษีจากพวกนั้น

ถ้าเป็นลอร์ดคนอื่นจากทางตอนกลาง ก็คงมิอาจจ้างคนจำนวนมากได้เพียงเพื่อต้องการจะสร้างประติมากรรมสักชิ้นหรือสถาปัตยกรรมสักแห่ง
นอกเหนือจากเงื่อนไขอย่างเทคโนโลยีและการพัฒนา เงินทุนจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ในระยะยาว ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมองดูถึงการก่อสร้างและผลประโยชน์ มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดายนัก

มันถือเป็นความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงที่มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ในตอนกลางของทวีป เมืองในทวีปทางตอนกลางมีระดับเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่สูงมาก แต่กระนั้นก็ยังยากจนข้นแค้นจากภาวะของสงคราม

แต่บรรดาลอร์ดทั้งหลายก็ไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เล่นเลยแม้แต่น้อย พวกลอร์ดเอาแต่คิดหาหนทางในการขูดรีดจากพวกผู้เล่นก็เท่านั้น

พวกผู้เล่นใหม่ยังคงเติบโตได้เรื่อยๆ พวกเขาก็เลยคิดหาวิธีเพิ่มภาษีให้สูงขึ้น พวกเขามุ่งเน้นแต่ผลกำไร มันเป็นอย่างนี้ทุกที่เหมือนกันหมด จึงเป็นการยากที่จะเปลี่ยนสิ่งต่างๆรอบตัวได้
นั่นคือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางตอนกลางของทวีป ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมวีดถึงได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นทั่วไป ผู้คนที่เคยได้รับความทุกทรมานจากวีดเมื่อครั้งที่อยู่ในคอนติเน้นอ๊อฟเมจิค ต่างพากันไม่เข้าใจว่าเขาสามารถขึ้นเป็นกษัตริย์ผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีแห่งโมราต้าได้อย่างไร

เจ้าควรจะไปทำงานสำคัญของท่านไคเบิร์นได้แล้ว

สปาร์ทอยสวมชุดเกราะอันอลังการได้เดินมาหาวีด วีดเสียเวลาแห่งวันสำคัญไปถึงหนึ่งวันเต็มๆเพื่อสร้างประติมากรรม ดังนั้นมันถึงเวลาที่เขาต้องเร่งรีบกระทำการโดยเร็ว
เขามิอาจจินตนาการได้ว่าถ้าหากเขาทำภารกิจของไคเบิร์นล่าช้าล่ะก็มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้าต้องทำในฐานะกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาเพ่น แต่ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ไวร์ทรี!”

ไวเวิร์นตัวหนึ่งร่อนลงมาจากฟากฟ้าสู่พื้นดินในอุทยานแห่งทวยเทพ เขาตัดสินใจใช้ไวเวิร์นเพื่อเดินทางไปยังดันเจี้ยนเบลซ์ออส อาณาเขตนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด และสปาร์ทอยก็มีพลังต้านทานอันแข็งแกร่ง ขนาดยูรินยังไม่สามารถพาพวกเขาไปได้ด้วยทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายของเธอ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตกตลึงเมื่อได้เห็นวีด ไวเวิร์นและสปาร์ทอยในอุทยานแห่งทวยเทพ

พวกเขาคือเหล่าองครักษ์ของคุณวีดหรือนี่?”
ดูที่เกราะนั่นสิ มันไม่ใช่ของธรรมดาเลยนะเนี่ย
มันดูแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่ว่ามันอยู่ช่วงกลาง 400 หรือปลายๆ 400 หรอกหรือ?”
ข้าคิดว่ากองทัพของอาณาจักรอาเพ่นจะอ่อนซะอีกเขาได้ซ่อนขุมกำลังอัศวินเอาไว้หรือนี่!”
ทำไมอาณาจักรอาเพ่นถึงได้มีราชองครักษ์เลเวลสูงขนาดนั้นกันล่ะ?”

วีดและสปาร์ทอยได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทางจอทีวี

พวกเขาคือสปาร์ทอย!”
สปาร์ทอย ไม่ใช่ว่าพวกเขาถูกสร้างมาจากร่างกายของมังกรที่แข็งแกร่งสุดๆเหรอ?”
ใช่แล้ว ข้าเคยเห็นสปาร์ทอยในการต่อสู้มาก่อน แต่ดูจากมาตรฐานของชุดเกราะที่พวกเขาใส่ พวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นสูงได้เลย ข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะมีเลเวลประมาณ 500”
สปาร์ทอยมีพลังในการต้านทานเวทย์มนต์ที่น่าทึ่งมาก พลังชีวิตก็แทบจะไม่จำกัด อีกอย่าง มันแทบจะไม่มีรอยบุบบนชุดเกราะที่พวกเขาสวมอยู่เลย
อ้า ช่างสุดยอดอะไรเช่นนี้! ท่านวีดได้รับภารกิจจากมังกรและมีสปาร์ทอยเป็นผู้คุ้มกันด้วย
 ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ ข้าคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้ามันเป็นวีดล่ะก็ คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ผู้จัดรายการจากสถานีก็พูดถึงเหตุการณ์นี้ด้วยความประหลาดใจ เหล่าผู้เล่นเลเวลสูงที่สนใจในอุทยานแห่งทวยเทพ ก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้าที่ประจักษ์สู่สายตาของพวกเขา

ฉันคิดว่าอาณาจักรอาเพ่นจะอ่อนแอซะอีก เนื่องจากมันเพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน?”
ข้าคิดว่าแดนเหนือไม่เห็นจะมีอะไรใหญ่โต แต่ตอนนี้คงมิอาจเมินเฉยได้อีกต่อไป

การออกอากาศอุทยานแห่งทวยเทพดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที่มีการปรากฏตัวของสปาร์ทอย

ราชองครักษ์เปรียบได้ดั่งสัญลักษณ์แห่งอำนาจของอาณาจักร คนที่ผ่านภารกิจอันซับซ้อนและมากมายจะได้รับการแต่งตั้งขึ้นชั้นเป็นอัศวินโดยพระมหากษัตริย์ เมื่อเหล่าผู้เล่นได้เป็นอัศวิน พวกเขาจะได้รับเบี้ยหวัด ม้าและชุดเกราะ แต่พวกเขาต้องเข้าสาบานตนต่อพระมหากษัตริย์แสดงความจงรักภักดี อัศวินที่ได้รับการแต่งตั้งแล้วจะสามารถคุมกำลังทหารเพื่อออกล่าในดันเจี้ยนได้

เขาต้องใส่ใจรายละเอียดพวกนี้เมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ อัศวินชั้นยอดย่อมเพิ่มชื่อเสียงให้กับราชาของพวกเขาและค่าสถานะเกียรติยศก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน พวกเขาสามารถโอ้อวดได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ในขณะที่ทุกคนกำลังตราตรึงไปกับสปาร์ทอย มีเพียงวีดและพรรคพวกของเขาที่รู้ว่าสปาร์ทอยพวกนั้นเป็นของอาครีย์ออง ไคเบิร์น
ถ้าวีดทำภารกิจไม่สำเร็จ พวกเขาจะกลายเป็นศัตรูกันในทันที
จบตอน
ผู้แปล : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...