วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560

เล่ม 24 ตอนที่ 1:แผนการก่อกบฏของอัศวินแห่งความวิบัติ(Doom Knight Rebellion Plan) แปลโดย Yhee

เล่ม 24 ตอนที่ 1:แผนการก่อกบฏของอัศวินแห่งความวิบัติ(Doom Knight Rebellion Plan) แปลโดย Yhee

หลังจากกลับเข้าเกมอีกครั้ง วีดกลับมาเกิดที่ ศูนย์บัญชาการของกองทัพอมตะ
เขาจะต้องวนมาเกิดอยู่ในพื้นที่นี้ต่อไป จนกว่าเควสของเขาจะสำเร็จ
เหล่าอันเดดระดับสูงเลเวล 300 ถึง 400 เดินไปมาอยู่ทั่วทั้งพื้นที่อันตรายแห่งนี้
!
มังกร 2 ตัวยืนอยู่บนยอดหอคอย ขณะที่มังกรอีก 1 ตัว บินอยู่บนท้องฟ้า
กองทัพเอลฟ์ช่างมีกำลังต่อต้านที่แข็งแกร่งซะจริงๆ
ตราบใดที่เรายังมีท่านบัลข่าน ข้าสามารถกวาดพวกมันให้หายไปได้ทันที….แต่มันค่อนข้างยากทีเดียว กับการโจมตีโต้กลับของเหล่าภูติ
แต่ข้ากลัวพวกคนแคระมากกว่า
การเข้าร่วมรบของราชินีภูติทาเนีย กลายเป็นหัวข้อสนทนาของเหล่าอันเดด ภายในสวนของป้อมปราการอันห่างไกล มีอันเดดมากฝีมือนับพันตนและพวกมันขาส่วนก็กำลังสนทนาพูดคุยกัน
วีดนั่งลงใกล้ๆกับต้นไม้ต้นนึง
อันดับแรก ต้องเช็คจำนวนกองกำลังของพวกมันซะก่อน
ในเมื่อเขาจะต้องต่อสู้ในฐานะอันเดด วีดต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ความสามารถของพวกมัน
ก่อนหน้านี้วีดเลเวล 398 แต่โดนบทลงโทษทำให้ตอนนี้เหลือเลเวล 397
เราสูญเสียอะไรไปบ้างเนี่ย?”
วีดจดจำไอเท็มที่เขาสูญเสียไปได้ทั้งหมด เขาจำชื่อและราคาของไอเท็มนั้นๆได้อย่างแม่นยำ
เพราะนั่นเป็นพื้นฐานในการทำธุรกิจของเขา
ขนมปังก้อนและหัวหอมทั้งหลาย, หมวกเหล็ก 1 ใบ, แหวน 1 วง, และฟันกรามของโครงกระดูก
วัดรู้สึกเหมือนโดนปล้น เพราะไอเท็มเหล่านั้นสามารถเอาไปทำประโยชน์ได้หลายอย่าง มันหายไปแล้ว
วีดไม่สามารถหาไอเท็มที่เขาเสียไปกลับคืนได้ ยกเว้นเขาจะฆ่าผู้คนที่อยู่แถวนี้จนหมด
หลังจากที่วีดหายจากความโศกเศร้าไปกับการสูญเสียไอเท็ม เขาก็เช็คสกิลของเขา
สกิลการแกะสลักขั้นสูงระดับ 8 กลับมาอยู่ที่ 0% ในขณะที่ทักษะอื่นๆ ลดลงไป 4-13%
ในเมื่อวีดเป็นอันเดด บทลงโทษสำหรับความตายย่อมต้องสูงกว่าคนปกติทั่วไป
ต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้ ถึงแม้จะอายุเลย 70 ข้าก็จะไม่ให้อภัยเด็ดขาด!”
วีดไม่มีทางลืมความแค้นกับคู่อาฆาตของเขา กิลด์เฮอร์มีส!!

ในป้อมปราการขนาดใหญ่นี้ มีเหล่าอันเดดชื่อดังรวมอยู่ด้วย
อันเดดที่มีชื่อเสียงอยู่ในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซล รวมตัวอยู่ ณ ที่แห่งนี้
วีดเดินสังเกตการณ์ไปรอบๆ
หลังจากนั้น ผีรับใช้ตนหนึ่ง เข้ามาหาเขา
ท่านนนนนน บัลลลลลข่านนนนนน เรียกกกก ตัวววววววเจ้จ้จ้จ้จ้จ้จ้า
ตอนนี้ถึงเวลาที่วีดจะต้องเข้าพบ บัลข่าน เพื่ออัพเกรดสถานะอันเดดของเขา
เนื่องจากพื้นที่กองทัพของเหล่าอันเดดช่างกว้างใหญ่ไพศาล
ถ้าวีดไม่ใช่อันเดดแต่เป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดา ไม่มีทางเลยที่จะเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ได้โดยง่าย
มันจะต้องเป็นเรื่องที่ยากมากแน่ๆ
ผีรับใช้ตนนั้น นำทางวีดลงมายังชั้นใต้ดิน
ชั้นใต้ดินของป้อมปราการยังมี ลังไม้โอ๊กจำนวนมากที่บรรจุไปด้วยเหล้าไวน์มากมาย
เหล่าไวน์ชั้นดีและชั้นสูงทั้งหลาย
เพียงแค่สัมผัสกลิ่นของมัน วีดก็รู้ได้ถึงราคาของพวกมันทั้งหมด
ไวน์ที่ถูกทำมาอย่างดีสามารถขายได้โดยง่ายและราคายังสูงมากอีกด้วย
ในเมื่อมันถูกวางอยู่ตรงนี้ มัน(บัลข่าน)คงไม่สามารถรับรสแอลกอฮอล์ได้หรอก
แอลกอฮอล์ โดยธรรมชาติแล้วเมื่อดื่มมันเข้าไปจะส่งผลกระทบอย่างมาก แต่ถ้าคุณเป็นอันเดดไม่มีความจำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์
แม้ว่าคุณจะเป็นผีโจรสลัดที่กำลังแกล้งยกซดเหล้าทั้งขวด แต่มันก็ไม่ส่งผลอะไรทั้งสิ้น
และอีกอย่าง เมื่อมีบัลข่านอยู่ที่นี้ คงไม่มีอันเดดหน้าไหนแอบเข้ามาที่นี่เพื่อลองดื่มมันหรอก
นี้มันเป็นเงินจำนวนมากเลยนะเนี่ย
ตาอันหิวกระจายของวีด(อยากขโมย) จับจ้องไปที่ลังไม้โอ๊กเหล่านั้น ขณะที่กำลังเดินผ่านประตูใหญ่ 2 บาน
ไปยังที่ที่ บัลข่านอยู่ อากาศอันหนาวเหน็บลอยออกมาจากห้อง
ทางน้ำไหลลงใต้ดินไหลผ่านก้อนหินดำทมิฬ ตัดกับแท่นบูชาอย่างงดงาม
ลิช บัลข่าน นั่งประทับดั่งราชาอยู่บนบัลลังก์สีสันสวยสดงดงาม
บัลลังก์ถูกสร้างจากวัสดุคุณภาพสูงที่สุด แต่มันก็ยังปกคลุมไปด้วยฝุ่นจำนวนมาก
เพชรเม็ดใหญ่ถูกประดับอยู่บนมงกุฎของเขา
นกอินทรีย์บนไม้เท้า
ตำแหน่งที่บัลข่านถูกเสียบไว้ด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ยังคงปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
อัศวินแห่งความตาย(Death Knight), เข้ามาใกล้ๆ
เสียงของ บัลข่าน ก้องสะท้านไปทั่วทั้งห้อง!
นายท่าน ....
วีดก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างสุภาพ และ คุกเข่าลงต่อหน้า บัลข่าน
ในขณะที่ บัลข่าน เริ่มลุกขึ้นเดิน วีดมองไปรอบๆภายในห้อง
หนังสือประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลล์หลายเล่มที่บันทึกถึงป้อมปราการทางเหนือทั้งหลาย
ถูกรวบรวมเอาไว้ แต่ยังไงก็ตามสภาพของมันเสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก
แต่เหล่าอันเดดไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรกับของพวกนี้หรือไม่
ยังไงก็ตาม เมื่อมองไปตามห้องต่างๆและทางเดินที่เชื่อมต่อกับบันไดทั้งหลาย ก็สามารถมองเห็นโครงสร้างโดยคร่าวได้
ต้องขอบคุณความรู้ทางด้านการแกะสลักของวีด เขาสามารถจดจำโครงสร้างของอาคารได้ทั้งหมด
ข้าขอขอบคุณนายท่าน สำหรับเกียรติในครั้งนี้ ที่นายท่านเรียกข้ามา ข้าจะทำตามคำสั่งของนายท่าน
ตอนนี้วีดอยู่ในคราบของอัศวินแห่งความตาย(Death Knight) เขาจึงไม่ลังเลที่จะทำตัวให้สมกับสถานะของเขา
ตัวเราได้ยินมาว่าเจ้าคอยจัดการพวกมอนสเตอร์น่ารำคาญพวกนั้น
ทุกสิ่งที่ข้าทำไปเพื่อนายท่านทั้งหมดทั้งสิ้น
กองทัพอมตะต้องการอันเดดที่เต็มไปด้วยความสามารถและพรสวรรค์แบบเจ้า
 แต่ร่างกายของเจ้าเป็นแค่ อัศวินแห่งความตายที่กระจอกง่อกง่อย
ตัวเราจะมอบร่างกายอันใหม่ให้เจ้า
บัลข่าน ร่ายเวทมนตร์ วีดสัมผัสถึงความชั่วร้ายประทับลงที่หน้าอกของเขา และทะลุเข้าไปในปอด แต่วีดยังคงยืนอยู่กับที่
เจ้าได้กลับมาจากโลกแห่งคนเป็น ความมืด ทมิฬ และ โลกที่แหลกสลาย
กฎแห่งความมืดจะไม่มีวันดับสูญ ให้ตัวเราได้แบ่งปันให้พวกเจ้าทุกตน
จงลุกขึ้นมาอันเดด
!!!(Undead Rise)”
ควันสีดำห่อหุ้มร่างกายของวีดไว้ หลังจากนั้น รูปร่างทางกายภาพของเขาก็เปลี่ยนไป
ร่างกายกล้ามมัดกำยำ ช่วงขาที่ยาวขึ้น แขนเป็นล่ำเป็นสัน
ตัววีดสูงขึ้น 40 เซนติเมตรและมีรูปร่างราวกับคนเถื่อน(
Barbarian)
 ==================================================
บัลข่าน ได้ร่ายคาถาอัญเชิญอันเดดของเขา เพื่อเปลี่ยนคุณเป็น อัศวินแห่งความวิบัติ(Doom Knight)
- ค่าสถานะที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทั้งหมด เพิ่มขึ้น 15%
- ตอนนี้คุณสามารถสวมใส่เกราะกระดูกที่มีการป้องกันระดับสูง
- สกิลการต่อสู้ขั้นสูงทั้งหมด เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เลเวล
ศัตรูที่ถูกโจมตีด้วยมนตร์ดำจะต้องทรมานตลอดกาลและไม่มีวันหยุดโหยหวน
สถานะของคุณถูกเปลี่ยนเป็น อัศวินแห่งความวิบัติ
คุณอยู่ภายใต้การบัญชาการของ ลิช บัลข่าน
คุณสามารถบัญชาการเหล่าอันเดดได้โดยตรง
==================================================
อันเดดที่มีทักษะการต่อสู้ขั้นสุดยอด อัศวินแห่งความวิบัติ มีเพียงอันเดดประเภทเดียวที่แข็งแกร่งกว่าอัศวินแห่งความวิบัติ

อัศวินแห่งขุมนรก(
Abyss Knight) จุดกำเนิดแห่งความสิ้นหวัง, ความแข็งแกร่งนั้นเทียบเท่าได้กับมังกร ยังไงก็ตาม อัศวินแห่งขุมนรกไม่ใช่อันเดดที่เนโครแมนเซอร์สามารถเรียกออกมาได้
แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆที่ต้องมาบรรจบกัน
มันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและยังเป็นตำนานของทวีปเวอร์เซลล์
จงปกป้องป้อมปราการแห่งนี้ และต่อสู้กับการโจมตีของเผ่าเอลฟ์” 
 ==================================================
กองทัพนักดาบผู้ฆ่าเอลฟ์
ชนเผ่าเอลฟ์แห่งป่าพงไพรและเหล่าราชินีภูติบุกโจมตีอย่างกะทันหันเข้าใส่กองทัพอันเดด
ลูกธนูถูกอาบไปด้วยพลังวิญญาณซึ่งเป็นปรปักษ์กับอันเดด
ป้องกันการรุกรานของเหล่าเอลฟ์ และโชว์ความน่ากลัวของอันเดดให้เป็นที่ประจักษ์
จากรายงานที่ได้รับ บัลข่านเพิ่มกำลังทหารอันเดด เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปกติ
ระดับความยาก : A
ข้อจำกัดเควส : สำหรับอันเดดเท่านั้น
==================================================
บัลข่าน มอบภารกิจให้วีด
ตอนนี้วีดสามารถสั่งอันเดดได้โดยตรง เขาจึงมีกองทัพอันเดดที่ใหญ่และทรงพลังมากขึ้น
วีดสามารถบัญชาการเหล่าอันเดดและนำพากองทัพไปสู้สนามรบได้ มันไม่เหมือนกับทหารกระดูกหรือผี
ที่วีดเคยเป็น แต่เช่นเดียวกับ อัศวินแห่งความตาย(
Death Knight) ที่โชว์ศักยภาพอันแข็งแกร่ง
และช่วยให้วีดได้รับกำลังพลอันเดดมากขึ้น
จะต้องดูแลกองกำลังทางทหารแล้วสินะ
วีดคิดถึงวิธีการฆ่า บัลข่าน แทนที่จะคิดถึงวิธีกำจัดราชินีภูติ การฆ่าล้าง เหล่าเอลฟ์และคนแคระ
ไม่ช่วยในการฆ่า บัลข่านเลย
ดังนั้น วีดเริ่มคิดแผนการก่อกบฏฆ่าบัลข่านและกองทัพอันเดดของเขา
ถ้าโจมตีจากภายนอก มันไม่มีโอกาสเลย
ไม่ว่าความแข็งแกร่งของบัลข่านจะฟื้นกลับมาหรือไม่ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า
เขากำลังจะโจมตีโมราต้า (เพราะวีดปฏิเสธการเรียกของบัลข่าน)
คำถามก็คือจะฆ่าบัลข่านอย่างไร เพราะเขายังมีกองทัพอันเดดปกป้องอยู่
มันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะกำจัดกองทัพอันเดดด้านนอกป้อมปราการ
ฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัด บัลข่าน จนกว่าจะกวาดล้างกองทัพอันเดดซะก่อน
วีดต้องกลายเป็นอัศวินแห่งขุมนรก(
Abyss Knight) ถ้าเขาต้องการสู้กับ บัลข่าน
โมราต้า ไม่สามารถนำทัพศึกใดๆได้(ผู้แปล : โมราต้าส่วนใหญ่ผู้เล่นเลเวลต่ำๆทั้งนั้น)
ลิช บัลข่าน คือ ลอร์ดของอันเดดทั้งปวงและสามารถเพิ่มจำนวนอันเดดได้
บัลข่าน คงจะมีแต่ยินดีถ้ามนุษย์ผู้เปราะบางนำทัพมาโจมตี
นั่นเป็นสาเหตุที่วีดไม่สามารถนำเหล่าประติมากรรมประทานชีพของเขามาสู้ได้
มันจะกลายเป็นว่า เอาอาหารชุดใหญ่มาเสิร์ฟให้ถึงที่ เนื้อตามฤดูกาล ปู หอยนางรม สลัด และน้ำซุป!”
 ความเสี่ยงสูงที่กองกำลังของวีดจะถูกยึด ควบคุมโดยบัลข่าน และ ถูกทำให้กลายเป็นกองทัพอันเดดไปด้วย
มันจะยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่สำหรับประติมากรรมประทานชีพของวีดในการต่อสู้กับบัลข่าน
ถ้าอย่างนั้นวิธีจำกัด บัลข่าน....
วีดออกมาด้านนอกหลังจากที่อัพเกรดตัวเองเรียบร้อย เขาเดินไปรอบๆป้อมปราการ
เพื่อพบปะอันเดดตัวอื่นๆ
กรัลกรัลกรัล เราจะเดินตามอัศวินแห่งความวิบัติที่ถูกสร้างโดยท่าน บัลข่าน
ไม่มีอะไรจะหยุดเราได้อีกต่อไป แม้กระทั่งเจ้าพวกเอลฟ์
ครุครุ มันเป็นเวลายาวนานเกินไปแล้วที่เจ้าพวกมนุษย์อยู่มา
ยามและหน่วยตรวจตราที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์ถูกจัดวาง ให้ตรวจตราระวังการบุกโจมตีตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน
วีดคงจะใช้ประโยชน์จากความทรุดโทรมของป้อมปราการ หารูมุดเข้าไปได้ ถ้าไม่มีหน่วยตรวจตราคอยเฝ้า
 “มันยังพอมีทางที่จะบุกเข้าไปอย่างเงียบๆและโจมตีอย่างฉับพลัน
มันคงจะไม่ยากเกินไปที่จะลอบเข้าไปในขณะที่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม
และคงจะมีโอกาสในการโจมตีจากข้างใน ในเมื่อ บัลข่านกำลังง่วนอยู่กับการต่อสู้ เอลฟ์ คนเถื่อน คนแคระและเหล่าภูติ
บัลข่าน ไว้วางใจวีดในการนำกองทัพอันเดดออกรบ วีดจึงสามารถออกจากป้อมปราการไปออกล่าได้
ป้อมปราการที่เต็มไปด้วยอันเดด และเพื่อจัดการกองทัพอมตะ ลิซ บัลข่าน คือเป้าหมายสำคัญ
ต้องเพิ่มเลเวลอย่างน้อย 100 เลเวลเลยเพื่อจัดการกับมัน
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับแผนการของวีด
จากนั้นวีดได้ยินการสนทนาของภายในช่อง กิลด์นักเดินทางแห่งพื้นที่รกร้าง(Wilderness Travelers) ที่เขาอยู่
ซาบรีน่า : อีกเพียงแค่ชั้นเดียว ก็จะถึงบอสใหญ่แล้วล่ะ
เอ็ดวิน : ดันเจี้ยนลับแห่งนี้ช่างลำบากจริงๆ ไงก็ตาม มันใกล้จะจบแล้ว
พิน : ฉันต้องการพักผ่อนสักที ฟิ้วววว
เฮอร์แมน : ข้าหวังว่าจะได้เจอโลหะชั้นดีบ้างอะนะ...
วีดได้เข้าร่วมกิลด์ที่ไม่ธรรมดา นักเดินทางแห่งพื้นที่รกร้าง สนุกกับการออกล่ามอนสเตอร์
แม้ว่าจะมีสมาชิกอยู่จำนวนน้อยมาก แต่ละคนกลับมีเลเวลที่สูงมาก
สมาชิกแต่ละคนมีความหลากหลายทางอาชีพ และทุกคนรวมตัวกันออกล่ามอนสเตอร์ด้วยกัน (ยกเว้นอีตาวีด)
การออกล่าบอสมอนสเตอร์....
พวกเขามีพลังอำนาจมากในการออกล่าขนาดใหญ่
วีดไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากกิลด์ได้ในเมื่อพวกเขากำลังออกล่าอยู่

วีดจึงส่งข้อความไปหา เพล เป็นอันดับแรก
วีด > คุณเพล คุณต้องการออกล่าไหม?
เพล > แน่นอน คุณอยู่ไหนตอนนี้?
เพลตอบข้อความกลับมาเร็วมาก เพื่อนพ้องของวีดเป็นกังวลอย่างมาก
หลังจากที่วีดถูกฆ่าโดย กิลด์เฮอร์มีส (มอนสเตอร์ฆ่าตาย แต่กิลด์เฮอร์มีสเอาความดีความชอบ)
วีดคิดถึงการล้างแค้นขนาดใหญ่ เขาจึงต้องเรียกเพื่อนพ้องของวีดมา
วีด > ผมอยู่ตรงที่กองทัพอมตะยู่ ณ ขณะนี้
เพล > พวกเรากำลังจะไป มอนสเตอร์ตัวไหนที่นายจะออกล่าหรอ?
วีด > บัลข่าน....
เพล > ห๊ะ!? มอนสเตอร์ที่เอ็งจะออกล่าคือ ลิซ บัล ข่าน ??
เพลได้รับรู้เรื่องราวของกองทัพอมตะที่นำทัพโดย บัลข่านผู้เป็นอมตะ
โมตาร้าพึ่งต่อสู้กับกองกำลังอันเดดไป 2 ระลอกใหญ่
 มอนสเตอร์ระดับตำนาน!!!
มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับระดับของบอสใหญ่ ที่พวกเขาออกล่าในดันเจี้ยน
เพล > บัลข่าน เป็นมอนสเตอร์ที่มนุษย์อย่างเราๆออกล่าได้ด้วยหรอ!?
วีด > เรากำลังจะทดสอบกันอยู่นี่ไง
เพล > แปปนึง พวกพี่ๆนักดาบอยู่ที่นี้ด้วย
หลังจากนั้นครู่นึง ก็มีข้อความจาก นักดาบ3
นักดาบ3 > เฮ้ วีด ได้ข่าวว่าจะไปเด็ดหัวไอ้บังขาดอะไรนี่ใช่ไหม?
วีด > ...ใช่ครับ ผมจะไปสู้กับมัน
นักดาบ3 > ทำไมเรื่องสนุกๆแบบนี้ เอ็งไม่ติดต่อพวกข้าให้เร็วกว่านี้เล่า
นักดาบ3 สงสัยว่าทำไมวีดไม่ยอมถามพวกเขาเป็นคนแรกกันนะ (ผู้แปล : เอะอะ พวกพี่แกจะบวกอย่างเดียว)
นักดาบ3 > ให้ลุยตอนนี้เลยไหมน้อง? (ผู้แปล : แหนะ ไม่ทันขาดคำ 5555)
วีด > ตอนนี้ยังอันตรายเกินไปครับ
นักดาบ3 > อันตรายมันก็ไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก มอนสเตอร์มันเยอะมากเลยหรอ?
วีด > มีมอนสเตอร์แข็งแกร่งจำนวนมาก อีกทั้งยังมีมังกรอีก 3 ตัวด้วยครับ
นักดาบ3 > มังกร? โหววว อย่างนี้ยิ่งพลาดไม่ได้
วีด > แล้วพวกพี่ๆคนอื่นว่ายังไงบ้างครับ
นักดาบ3 > แปปนะ เดี๋ยวถามให้
นักดาบ3 บอก นักดาบ5 ให้ไปแจ้งกับนักดาบคนอื่นๆอีก 500 คนถ้าพวกเขาตกลง
ตูจะไม่มีทางพลาดการเด็ดหัวไอ้บัลข่านเนี่ยอย่างแน่นอน!”
 “…”
โดยปกติแล้วมันค่อนข้างอันตราย ถ้ามีอะไรผิดพลาดคือตาย แล้วพวกเอ็งจะไม่มีอะไรเหลือนอกจากกระดูก
พร้อมจะกลายเป็นอันเดดหรือยัง? โอวมันยังมีมังกรอีก 3 ตัวด้วยนะ
“…..”
พวกนายรู้จักกองทัพอมตะใช่ไหม มันมีมอนสเตอร์แข็งแกร่งมากมายที่พวกนายต้องปะทะด้วย
ร่างกายของเหล่านักดาบปรารถนาอย่างร้อนแรงที่จะได้ต่อสู้
นักดาบ3 > แล้วพวกเราต้องไปยังไงอ่ะ?
วีด > ผมไม่สามารถไปรับพวกพี่ๆได้ ผมจะบอกตำแหน่งผ่านทางเพลนะครับ
นักดาบ3 > ได้เลย
เพลมีดวงตาแม่นยำกว้างไกล เขาสามารถมองเห็นเส้นทางที่นักผจญภัยทั่วไปมองไม่เห็น
เขามีประสบการณ์ในการอ่านเส้นทางและแผนที่ เพลจึงสามารถพาพวกเขามายังตำแหน่งของกองทัพอมตะได้
 พวกศิษย์พี่กำลังมาที่นี่
เหล่านักดาบสามารถฝ่าวงล้อมเข้าไปในป้อมปราการเพื่อต่อสู้กับอันเดดได้แน่ๆ
แม้ว่ากองทัพอันเดดจะแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าการต่อสู้เกิดขึ้นในที่แคบ มากกว่าพื้นที่ราบกว้างใหญ่
นั่นยอมเป็นผลดีแก่พวกเขาเป็นแน่ พวกนักดาบจะวิ่งไปทุกที่เพื่อต่อสู้พร้อมกับวีด
!
เราต้องการนักบวช(Priest)กับนักรบศักดิ์สิทธิ์(Paladin) จำนวนนึงด้วย...
เพียงแค่ไอรีนคงไม่เพียงพอ และน่าเสียดายที่สมาชิก กิลด์นักเดินทางแห่งพื้นที่รกร้าง กำลังยุ่งอยู่กับการออกล่ามอนสเตอร์
และวีดไม่ต้องการให้คนนอก ที่ไม่ใช่ชาวโมราต้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
วีดส่งข้อความไปหาเมแพน
วีด > ผมต้องการจะลองล่า บัลข่าน พอมีนักบวชหรือนักรบศักดิ์สิทธิ์ที่พอช่วยเหลือได้บ้างไหม?
วีดขอความช่วยเหลือจากเมแพนที่อยู่ในจัตุรัสโมราต้า และกำลังติดต่อค้าขายกับผู้คนมากมาย
เมแพน > ต้องการกำลังคนสักเท่าไหร่ดีล่ะ?
วีด > ยิ่งเยอะยิ่งดี
เมแพน > แล้วผมจะติดต่อกลับไป
* * * * * * * * *
เมแพนที่อยู่ในจัตุรัสสอบถามนักบวชที่เขาคุ้นเคย ถึงเรื่องการออกล่า บัลข่าน พร้อมกับวีด
แน่นอนอยู่แล้ว
ที่ไหนล่ะ แล้วเราจะไปเมื่อไหร่?
ผู้เล่นจากทวีปตอนกลางเข้ามาใกล้ๆ เพราะได้ยินชื่อวีด และกำลังหาคนไปออกล่าทำเควส
ล่าหัว บัลข่าน? วีดต้องวางแผนอะไรอยู่แน่ๆ
บัลข่าน จะฆ่าพวกนาย
เพียงเพราะคิดถึงแต่คำว่าวีด พวกเราจะต้องคอยรับผิดชอบแต่การรักษาแน่ๆ
แผนของวีดที่จะออกล่าบัลข่าน เริ่มแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ในเมื่อคุณเป็นรุ่นพี่ของฉันที่เฟรย์ย่า ฉันไปด้วยได้ไหม?
ผมตัดสินใจในเรื่องนี้ไม่ได้หรอก
เอางี้ พรุ่งนี้ 6โมงตรง ตอนเช้า ณ ไร่องุ่นที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ยักษ์ 3 ต้น
จงไปรอที่นั่นนะ
เมแพนติดต่อเหล่านักบวชและนักรบศักดิ์สิทธิ์ ที่ตัวเขารู้จัก
ผู้เล่น1 > พี่ๆๆ คุณวีดเขากำลังจะไปล่า บัลข่าน
ผู้เล่น2 > ข้าต้องการไปแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย วีดเทพสงครามแห่งโมราต้า ใครจะกล้าปฏิเสธโอกาสแบบนี้
ผู้เล่น1 > ถ้าพี่ตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้เช้า 6 โมงตรง เจอกันที่ไร่องุ่นนะ เราจะออกเดินทางเวลานั้น
ผู้เล่น2 > เดี๋ยวพี่จะไปรอล่วงหน้า 1 ชั่วโมงเลย
เหล่านักบวชทั้งหลายมองว่านี่คือโอกาสสุดพิเศษ และต้องการแต่บุคคลที่ดีที่สุด
ผู้เล่น3 > เฮ้ นายรู้ยัง วีดกำลังจะออกล่า บัลข่าน
ผู้เล่น4 > จริงดิ!?
ผู้เล่น3 > เรากำลังรับสมัคร นักบวชกับนักรบศักดิ์สิทธิ์ กันให้วุ่นเลย
ผู้เล่น4 > นักรบศักดิ์สิทธิ์นั่นมันอาชีพของตูเลย แม้ว่าจะอันตราย...ตูเข้าร่วมด้วยได้ใช่ไหม?
ผู้เล่น3 > แน่นอน มากับผมได้เลย
นักรบศักดิ์สิทธิ์(ผู้แปล : เอาจริงๆก็อยากทับศัพท์อยู่นะ แต่เอาแบบนี้แหละดูเป็นนิยายไทยดี) เริ่มที่จะส่งต่อข่าวออกไป
ผู้เล่น5 > คุณวีดกำลังจะไปออกล่าอันเดดและบัลข่าน
ผู้เล่น6 > ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อม
เมแพนเพียงเรียกแต่คนที่เขารู้จัก แต่ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ผู้เล่นมากกว่า 200 คนรับรู้ถึงข่าวสารนี้
ข่าวได้แพร่กระจายไปถึงลัทธิโจ๊กหญ้า กลุ่มคนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในโมราต้า
!
มีสมาชิกมากถึง 800,000 คนแล้วในตอนนี้
แม้ว่าส่วนใหญ่ จะเป็นเพียงผู้เล่นเริ่มต้น แต่ก็ยังมีผู้เล่นระดับสูงรวมอยู่ในการออกล่าและการผจญภัยทางตอนเหนืออีกด้วย
คุณวีดกำลังจะออกล่า และเขากำลังรับสมัครนักบวชและนักรบศักดิ์สิทธิ์
บางทีสกิลของพวกเราอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง?
เช้าวันต่อมาในโมราต้า
ด้านหน้าของไร่องุ่น มีปาร์ตี้ของกลุ่มเพล และเหล่านักดาบ
ตามด้วยกลุ่มคนขนาดใหญ่ นักบวช 330 ชีวิต และ นักรบศักดิ์สิทธิ์ 223 ชีวิต
เมื่อวีดมีอิทธิพลอย่างมาก คำว่า
ออกล่า บัลข่านจึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
คุณเมแพน คุณทำยังไงถึงได้คนมาเยอะขนาดนี้
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมเรียกไปแค่ 14 คนจากในนี้เองนะ....
นักบวชรุ่นใหญ่และนักรบศักดิ์ทั้งหลายจากโมราต้า รวมตัวกันเพื่อล่า บัลข่าน พวกเขาปรารถนาที่จะได้ร่วมออกล่าพร้อมกับวีด
เพลทำได้เพียงถอนหายใจ
มันจะใช้เวลานานเกินไปในการไล่พวกเขาออกไปและมันจะดูแย่เอามากๆ
พวกเราไม่ต้องการเป็นเหมือนกับ กิลด์เฮอร์มีส
ออกเดินทาง!!”
เหล่านักดาบ นักรบศักดิ์สิทธิ์ และ นักบวช ขึ้นขี่บนเหล่าวัวควาย
เป้าหมายของพวกเขาคือ ป้อมปราการของกองทัพอมตะ
* * * * * * * * * *
วีดเดินไปรอบๆป้อมปราการเพื่อสำรวจ
มันจะต้องมีการซ่อมแซมหลายแห่งเลยล่ะ
ในที่ที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ ป้อมปราการจะต้องมีกำแพงที่ใหญ่และหนา
ยังไงก็ตามป้อมปราการแห่งนี้เต็มไปด้วย ช่องว่างของหินที่หายไป จนมนุษย์คนหนึ่งเข้าไปซ่อนอยู่ได้เลย
อันเดดจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาซ่อมแซมกำแพงที่พังทลาย
 เจ้าพวกเอลฟ์กำลังจะเข้ามาโจมตี....
เหล่าอันเดดจะอ่อนแอในช่วงเวลากลางวัน เหล่าเอลฟ์จะปรากฏตัวเพื่อโจมตีดั่งสายลมกระหน่ำ
กองทัพอันเดดถูกส่งออกไปไล่ล่า แต่ไม่สามารถตามการเคลื่อนที่ของเอลฟ์ได้
ถ้าอันเดดยังจะไล่ตามเอลฟ์ต่อไป พวกอันเดดจะต้องไปเจอกับพวกคนแคระ และ คนเถื่อน กวาดล้างจนไม่เหลือชิ้นดี
ยังไงก็ตาม ด้วยพลังมนตร์ดำของ บัลข่าน พวกมันจะฟื้นกลับคืนมา แล้วกลับไปยังการต่อสู้ได้
ข้าล่ะเกลียดการสู้กับเอลฟ์จริงๆ
วีดคิดว่าเอลฟ์คือคู่ต่อสู้ที่ยุ่งยากมาก แม้พวกมันมีเลเวลอาจจะไม่สูง แต่ก็ยากในการไล่ล่าเอลฟ์ที่อยู่บนหลังม้า
พวกมันยิงลูกธนูเหมือนภูตผีและยากที่จะจัดการเอลฟ์ที่กระโดดจากกิ่งไม้ไปสู่อีกกิ่งไม้
อันเดดดูออกล่าสนุกกว่ามาก แม้มันจะยากก็ตามที
เอลฟ์และเหล่าภูติ มีความสัมพันธ์กับธรรมชาติสูงมาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะโจมตีพวกมัน
มันมีเป้าหมายที่ดีกว่า การจะต้องไปต่อสู้กับพวกเอลฟ์
จากมุมมองของวีด ยังมีเป้าหมายอื่นที่อยู่ใกล้และยังได้รับไอเท็มงามๆและประสบการณ์ดีๆ
จอมเวทย์ นักธนู อัศวิน และนักรบศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม? ได้เวลาล้างแค้นแล้ว
* * * * * * * * * *
เจนนี่ โอเทม เฮเรี่ยน กรูเซ็ท และอีก 30 คนที่เหลือกำลังบ่นถึงการที่พวกเขาไม่เข้าร่วม กิลด์เฮอร์มีส
ออกไปให้พ้นจากหุบเขานี้ซะ การออกล่าไม่อนุญาต!!!”
พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากดู จอมเวทย์และนักธนู พร้อมจะที่โจมตี
หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกสังหารจนหมด
พวกเขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับ กิลด์เฮอร์มีส และตอนนี้พวกเขาต้องมานั่งเจ็บปวดกับสิ่งเหล่านี้
กิลด์เฮอร์มีส พยายามจะต้อนเนโครแมนเซอร์ เข้าร่วมกิลด์ของพวกเขา แต่ไม่สำเร็จ
เนโครแมนเซอร์จำนวน 34 คนถูกสังหารโดย กิลด์เฮอร์มีส ก่อนหน้าที่พวกเขาจะมา
เนโครแมนเซอร์ได้ต่อสู้และสะสมเลเวลทักษะภายในหุบเขาแห่งนี้
แม่งเอ๊ย ไอ้พวกสารเลว พวกนั้น
โอเทม สบถถึงพวกชั่วช้า เนโครแมนเซอร์คนอื่นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
พวกมัน ทำกับเราอย่างนี้ได้ยังไง?”
ตอนแรกพวกเขารับเควสกับกองทัพอมตะ และคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้อัพเลเวลและสกิลของพวกเขา
กิลด์เฮอร์มีสต้องการให้พวกเขาเข้าร่วมกิลด์หลังจากที่ วีดเปิดเผยตัวออกมา
มันไม่มีประโยชน์ในการเข้าร่วมกิลด์ของพวกมันหรอก ในเมื่อพวกมันไม่ได้ปฏิบัติกับเราเหมือนสมาชิกของพวกมันจริงๆ
แม้พวกเนโครแมนเซอร์จะเข้าร่วม แต่สถานการณ์ก็ไม่ต่างกันอยู่ดี แม้จะได้อยู่ในพื้นที่ในหุบเขา
พวกกิลด์เฮอร์มีส ก็จำกัดการออกล่าอยู่ดี
เฮเรี่ยนรู้สึกผิดหวังและพูดว่า
สกิลของฉันได้เลื่อนขั้นตอนที่พวกเราตายในขณะต่อสู้
พวกเขายังไม่ได้ฆ่าอะไรเลยและยิ่งโกรธเมื่อความจริงที่ว่า พวกเขาต้องสูญเสียไอเท็มหลังจากตายไปด้วย
พวกเขามองไปยังผู้เล่นคนอื่นรอบๆ
 “อะไรนะ นายต้องการจะต่อสู้กับพวกมัน?
ต่อสู้?”
ผมต้องการจะโชว์บางอย่างให้พวกมันอยู่อย่างหวาดกลัว
 มาเรี่ยน หัวเราะและพูดขึ้นว่า
แค่พวกนายรอ แล้วมันจะดีเอง
เหล่าเนโครแมนเซอร์ถามด้วยความหวัง เพราะเขาเป็นคนมีชื่อเสียง
นายมีภารกิจอย่างนั้นหรอ?
ผมแค่กำลังรอข่าวดี
ผู้เล่นหลายคนต้องเผชิญกับการสูญเสียในสถานการณ์ต่างๆ
แต่ไม่มีใครสามารถเทียบกับความโศกเศร้าเสียใจของวีดได้
จิตใจแห่งความเคียดแค้น
!
วีดไม่เคยเรียนรู้บทเรียนของการให้อภัย การยกโทษ การอดกลั้น ในวัยประถมของเขา
วีดคือคนที่จะไม่มีวันลืมไม่ว่าจะผ่านไปนานสักแค่ไหน เขาเพียงแค่รอ แล้วส่งคืนความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับคืนไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า!
(ผู้แปล : กิลด์เฮอร์หมอย พวกมึงเตรียมตัว 5555)
ผู้แปล: Yhee
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

เล่ม 23 ตอนที่ 10: มหาราชันย์อวานน่าห์ แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 23 ตอนที่ 10: มหาราชันย์อวานน่าห์ แปลโดย Cole’s Myth

เหล่าอัศวินแห่งครีม่าก็ขี่ม้ามาถึงแล้วเช่นกัน
วีดเหวี่ยงดาบของเขาสกัดเอาไว้ได้ แต่เขาก็ไม่อาจตั้งรับการโจมตีอันมากมายหลายทางได้ในทีเดียว
-ท่านได้รับการโจมตีคริติคอล
ด้วยความยืดหยุ่นทางร่างกาย ความเสียหายที่ได้รับจึงลดลง
-ท่านได้รับการโจมตีคริติคอล
ด้วยความยืดหยุ่นทางร่างกาย ป้องกันไม่ให้มีผลของสถานะมึนงงจากการบาดเจ็บสาหัส
-ความคงทนของดาบที่ท่านสวมใส่ถึงขีดสุดแล้ว ดาบของท่านหักแล้ว

จากนั้นดาบของวีดก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
แม้ว่ามันจะเป็น ดาบขึ้นสนิมในตำนานเขาก็ใช้มันมาเป็นอย่างดีด้วยการซ่อมแซมมัน แต่ว่าหลังจากการต่อสู้ในวิหารและสกัดการโจมตีของพวกอัศวิน ความคงทนของมันก็ตกลงอย่างฮวบฮาบและหักไปในที่สุด

-ท่านได้รับการโจมตีคริติคอล

หลังจากที่โดนการโจมตีต่อเนื่องห้าครั้งด้วยอาวุธอาบเงินศักดิ์สิทธิ์ ความยืดหยุ่นทางร่างกายของเขาก็ถึงขีดสุด แล้วร่างกายก็เป็นอัมพาตไปทั่วทั้งร่าง
หลังจากโดนการโจมตีใส่อีกสามครั้ง ค่าพลังชีวิตของเขาก็แทบจะหมดสิ้น จากนั้นเขาก็ล้มนอนลงบนหลังม้า การตกลงจากม้าที่กำลังวิ่งอยู่นั้นทำให้เกิดความเสียหายหนักเอาการ ถึงแม้เขาจะเป็นเดทไนท์ที่สวมชุด
เกราะเบาก็ตาม

-ค่าพลังชีวิตของท่านต่ำจนอยู่ในระดับอันตราย
ท่านได้รับความช่วยเหลือจากคู่แบ่งปันชีวิต
-ซอยูนได้แบ่งปันความเจ็บปวดของท่าน
พลังชีวิตสูงสุด 114,290 หน่วย
ท่านสามารถใช้ทักษะของเบอร์เซิร์กเกอร์ 70% จากค่าความเชี่ยวชาญของคู่รักท่าน
-ท่านสามารถใช้ทักษะ เริงระบำแห่งนักรบคลั่ง’(Dance of Insane Warrior) ที่อยู่ขั้นกลางเลเวล 8
ท่านสามารถใช้ ทักษะดาบของเบอร์เซิร์กเกอร์’(Berserker’s Swordmanship) ที่อยู่ขั้นกลางเลเวล 4
ท่านสามารถใช้ทักษะ ดาบของเพชฌฆาตแห่งความตาย’(Death Executioner’s Swordmanship) ที่อยู่ขั้นกลางเลเวล 6
ทักษะบุกโจมตีความอดกลั้นแห่งการรบ’(Endurance of Battle) ถูกปลดล็อคการใช้งานที่ขั้นกลางเลเวล 7
ระหว่างการต่อสู้ โปรดป้องกันการลดลงของค่าพลังชีวิตและบาดแผลที่ได้รับ
ด้วยค่าพลังชีวิตบางส่วนของซอยูนโอนถ่ายไปให้กับวีด เขาจึงสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
 ทักษะเริงระบำแห่งนักรบคลั่ง, ทักษะวิชาดาบแห่งนักรบคลั่ง?...”
เขาไม่มีเวลามาตรวจสอบว่ามีทักษะมากเท่าไรที่อยู่ในรายการย่อยของทักษะดาบ หรือแม้แต่ผลลัพธ์แบบไหนที่มันมี เขาจึงทำได้เพียงแค่ลองใช้ไปเท่านั้น เขาได้ออกล่ากับซอยูนมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าทักษะที่เธอใช้นั้นปกติก็ไม่ได้แสดงออกมามากนัก
จะอยู่หรือว่ายอมตาย
-ท่านติดอาวุธดาบของอัศวินผีสิงที่มีความอาฆาต
เขาใช้อาวุธดาบอย่างเร่งรีบแล้วก็ปลดล็อคทักษะ
ทักษะเริงระบำแห่งนักรบคลั่ง!”
วีดใช้ทักษะกับพวกอัศวินที่พุ่งเข้าใส่เขา ทุกๆครั้งที่เขาสกัดดาบของพวกมัน เขาก็จะไถลหลังไปราวสองสามเมตร เหลือไว้เพียงแค่รอยสีแดงที่เหมือนกับเลือด
ตายซะเถอะ!”
ทุกครั้งที่วีดตั้งรับการโจมตี เขาก็จะเซไปมาแล้วก็เสียค่าพลังชีวิต
ฉันเคยเห็นทักษะนี้มาก่อน
มันคือทักษะที่ซอยูนใช้ต่อสู้กับคูบิยะ มหานักรบแห่งความโกลาหล แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่สามารถรั้งคูบิยะได้พอสมควร แถมยังทำให้วีดตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย ในตอนที่มานาสีแดงเลือดแผ่ออกไป พวกมันก็ก่อตัวเป็นสัญลักษณ์พิเศษ จากนั้นก็กลายเป็นพลังงานที่รุนแรงแล้วก็ระเบิดออกมาสู่ภายนอก
-‘ทักษะเริงระบำแห่งนักรบคลั่งได้เริ่มขึ้นแล้ว
การระเบิดขนาดใหญ่ทำให้พื้นดินเป็นรูโล่งกว้าง
เดทไนท์จะเพิ่มการโจมตีของเขาด้วยพลังแห่งความมืดระหว่างการต่อสู้ มันถือว่าเป็นทักษะที่หนักหนาเอาการขึ้นอยู่กับค่าจิตวิญญาณนักสู้ หรือแม้แต่ทักษะวิชาดาบเฮอเรมก็ยังไม่กินมานามากขนาดนี้ แต่ทว่ากับทักษะเริงระบำแห่งนักรบคลั่งที่เป็นทักษะโจมตีอันน่าเหลือเชื่อที่ใช้มานาไปมากกว่า 70% ของมานาที่ยังไม่ได้ใช้ของวีด

-อัศวินแห่งครีม่า 6 นายตายไป
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 469
-ได้รับค่าประสบการณ์เล็กน้อย

มันเป็นการโจมตีที่รุนแรง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่ด้วยชุดเกราะของพวกเขาเพียงอย่างเดียว วีดสูญเสียสมดุลเพราะแรงผลักของทักษะ แต่ว่าทันใดนั้นเองเขาก็เตะพื้นแล้ววิ่งหนีไป มีศัตรูอยู่ทั่วไปหมด ดังนั้นเขาจึงต้องการโอกาสที่จะชิ่งออกไปได้
ทักษะแรกในวิชาดาบของผู้รุกราน พันธนาการของนักโทษ
ขณะที่เขาวิ่งฝ่าทะลุละอองฝุ่น เขาก็เล็งไปที่อัศวินคนหนึ่งที่ตกลงจากม้าเพราะโดนทักษะเริงระบำแห่งนักรบคลั่งเข้าไป วีดเล็งไปที่จุดตายของเขาแล้วก็ฟันดาบเข้าที่คอของอัศวิน

-ทักษะพันธนาการของนักโทษโจมตีโดนเป้าหมายแล้ว
จนกว่าเป้าหมายจะตายหรือได้รับการรักษาโดยนักบวช พันธนาการจะไม่หายไป
เลือดที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าพลังชีวิตลดลง 160 หน่วยต่อวินาที

วีดใช้ทักษะพันธนาการของนักโทษกับอัศวินไปแปดคน เขาสามารถโจมตีอัศวินคนหนึ่งได้ถึงสี่จุด
 ทักษะที่สอง….ดาบแห่งจิตวิญญาณนักสู้
ทักษะที่สอง….ดาบแห่งจิตวิญญาณนักสู้คือทักษะที่สามารถเพิ่มพลังโจมตีให้กับวีดตามสัดส่วนของความเสียหายที่เขาได้รับมา จากนั้นเมื่อโจมตีอัศวินคนอื่น เขาก็ปลดล็อคใช้ทักษะที่สาม ดาบแห่งการพิฆาตมันเป็นทักษะที่สามารถถูกใช้ได้เฉพาะตอนที่ค่าพลังชีวิตของผู้เล่นต่ำมากๆเท่านั้น
แม้นว่ามันจะเป็นวิชาดาบที่อันตรายก็ตาม แต่ทว่าทั้งผู้เล่นและศัตรูต่างก็ต้องตายไปทั้งสองฝ่าย
ด้วยการละทิ้งการป้องกันทั้งหมด แล้วทุ่มเทไปที่การโจมตีเพื่อฆ่าเป้าหมาย มันจึงสามารถเพิ่มพลังทำลายได้อย่างมหาศาล

เพราะว่าวีดที่กำลังต่อสู้กับพวกอัศวินนั้นแข็งแกร่งมากกว่าปกติ โปลอนและเหล่าอัศวินครีม่าต่างรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก ด้วยบาดแผลสาหัสแบบนั้นเขาควรจะตายไปแล้ว แต่ว่าเขายังคงขัดขืนจนถึงที่สุด
เขามีค่าพลังชีวิตมากแค่ไหนกันเนี่ย
ทักษะกับการเคลื่อนไหวของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยนะ
ความจริงที่ว่าความยืดหยุ่นและพลังโจมตีของเขานั้นเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนที่เขาเริ่มต่อสู้กับพวกเขานั้นเป็นความจริงที่แทบไม่อยากจะเชื่อ
แรกเริ่มโปลอนตั้งใจที่จะมาขอท้าดวลกับเขา ส่งเขาไปให้พบกับจุดจบแห่งความตายหลังจากที่ต่อสู้แบบตัวต่อตัวแล้ว เขาก็จะได้รับชัยชนะอันไร้ที่ติ ว่ากันตามตรง การฆ่าวีดนั้นจะเป็นรางวัลเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาจึงอยากที่จะขอท้าดวลกับเขา
แต่ว่าการฆ่าวีดต้องมาก่อน ฉันไม่ควรให้เวลาเขาได้ฟื้นตัวเด็ดขาด
การประเมินในตัววีดนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่เพียงแค่มีเลเวลที่สูงมากแล้วยังใช้ทักษะออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมเขายังรู้วิธีการต่อสู้และควบคุมการต่อสู้ด้วยกำลังรบที่ด้อยกว่า แม้แต่ผู้เล่นติดอันดับสูงๆในเครือข่ายสื่อสารของกิลด์เฮอร์มีสเองก็สั่งให้เขาฆ่าวีดไม่ว่ายังไงก็ตาม
ฉันไม่ควรให้โอกาสวีดหนีไปได้ แถมฉันก็ไม่อาจแบกรับความเสียหายใดๆได้อีกต่อไปแล้ว
โปลอนฝึกเหล่าอัศวินแห่งครีม่ามาเองกับมือ ยิ่งการต่อสู้นี้ยืดเยื้อ พวกเขาก็ยิ่งได้รับบาดเจ็บและถูกฆ่าไปโดยพวกอันเดดที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา
โปลอน: ฉันอนุญาตให้นักเวทย์กับเรนเจอร์โจมตีวีดโดยตรงได้เลย
หลังจากที่ออกคำสั่งไปให้เหล่านักเวทย์กับเรนเจอร์ เขากับอัศวินก็ถอนกำลังกลับมา
ยามรุ่งอรุณกำลังมาเยือน
วีดสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างน่าสงสัยกำลังจะเกิดขึ้น เขาจึงเกาะติดพวกอัศวินครีม่าเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโอกาสโดนโจมตี
โปลอน: โจมตีไปเลย แม้ว่าจะได้รับความเสียหายบ้าง แต่ก็จะทำให้ฆ่าวีดได้เร็วขึ้นและก็จบการต่อสู้ได้เร็วอีกด้วย
เวทย์ถูกร่ายออกมาแม้จะมีเหล่าอัศวินอยู่ในระยะโจมตีก็ตาม
ขณะที่เวทย์ถูกร่ายออกมา ลูกธนูก็ถูกยิงตรงไปที่ที่วีดกับพวกอัศวินที่กำลังมะรุ่มมะตุ้มกันอยู่
ตอนนี้หละ
วีดขโมยม้ามาอย่างรวดเร็วแล้วควบมันหนีสุดแรงเกิด
เขาคอยจับตาดูสีหน้าและพฤติกรรมของพวกผู้เล่นในกลุ่มอัศวินครีม่า จากนั้นเขาก็หันกลับไปในทิศทางที่พวกจอมเวทย์อยู่แล้วก็หนีไปโดยไม่เหลียวหลัง
มันคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของสัตว์!
แกร๊งงง!
เบื้องหลังของทิศทางที่วีดกำลังขี่ม้าอยู่ เหล่าอัศวินครีม่าตายไปเพราะเวทย์และลูกธนู
 โจมตีต่อไป ฆ่ามันซะ!”
ภายในระยะเสียงอันดังสนั่นของโปลอน วีดจึงต้องทำการตัดสินใจ ไม่มีที่ใดให้หนีภายในที่ราบนาตาเลียที่เต็มไปด้วยเหล่าอัศวินและอันเดด เพื่อที่จะหนีรอดออกไปจากที่นี่ เขาจึงต้องหลบหลีกการโจมตีจากเรนเจอร์และพวกนักเวทย์ต่อไปเรื่อยๆ แต่ทว่านั่นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบได้หมด
ไม่มีทางที่เขาจะสามารถหลบลูกธนูหรือลูกบอลไฟที่ลอยอยู่เต็มไปทั่วท้องฟ้า แถมยังมีเสาน้ำแข็งกับกองดินอีก
ยังเหลือค่าพลังชีวิตอีกราว 32%’
ตามการคาดคะเนของเขา เขาจะตายในทันทีถ้าหากว่าเขาโดนโจมตีโดยเวทย์ต่อเนื่อง พวกอัศวินที่พุ่งเข้ามาเร็วๆยากที่จะจัดการได้เช่นกัน เขาสามารถใช้คุณสมบัติของเบอร์เซิร์กเกอร์เพื่อต้านพวกมันเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่ง เหล่าอัศวินที่กระจายกำลังไล่ตามเขาจากหลายทิศทาง แถมยังมีการสนับสนุนจากพวกนักเวทย์กับพวกเรนเจอร์อีก เขาคงจะตายไปก่อนจะได้ไปไหนซะอีก
 ถ้างั้น ที่เดียวที่ฉันจะวิ่งหนีไปได้ก็คือ…’
วีดควบม้าของเขามุ่งหน้าไปที่วิหารเอลแวนซ์
ไปกันเถอะ!”
มันเป็นที่เดียวที่ไร้การปิดล้อมและอยู่ตรงข้ามกันกับพวกเรนเจอร์และนักเวทย์ยืนอยู่ วิหารเอลแวนซ์คือสถานที่อันตรายสำหรับอันเดด การวกกลับไปที่นั่นก็เป็นทางเลือกที่คาดไม่ถึงหรือว่าโง่นั่นเอง
 ไล่ตามมันไป อย่าให้มันหนีไปได้!”
เหล่าอัศวินครีม่าเริ่มออกไล่ตาม แต่เพราะว่าพวกพ้องของพวกเขาตายไปในการโจมตีระยะไกล พวกเขาจึงรู้สึกลังเลและช่องว่านั้นก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามไม่นานพวกเขาก็ปิดช่องว่างนั้นได้จนสนิท
ขณะที่วีดเข้าไปใกล้วิหาร เขาก็ได้รับผลกระทบจากพลังศักดิ์สิทธิ์ ค่าความแข็งแกร่งและพลังชีวิตของเขาจึงลดลงเรื่อยๆ แม้ว่าเขามีคุณสมบัติทางอาชีพเบอร์เซิร์กเกอร์ จุดอ่อนของเขาในฐานะอันเดดก็ยังคงมีอยู่
มันจึงกลายเป็นการผสมผสานความเลวร้ายสำหรับการหลบหนีครั้งนี้!
พยายามมีชีวิตอยู่ต่อไปนี่ไม่ง่ายเลยแหะ
เมื่อมองไปในบริเวณใกล้เคียง มีซากศพของพวกอันเดดและมอนสเตอร์เกลื่อนกลาดไปหมด มันคงจะมีประโยชน์ถ้าเขาสามารถใช้ทักษะแนโครแมนเซอร์ได้ แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คงมีแค่ควบคุมกองทัพอันเดดให้ดีเท่านั้น
เขาจึงทำได้เพียงมุ่งหน้าต่อไป
เพราะว่าเขากำลังรีบจนไม่มีโอกาสที่จะออกคำสั่งพวกอันเดดได้เลย ราวๆสิบสองวินาทีผ่านไป พวกอัศวินก็คงจะมาถึง ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามาลังเลอะไรแล้ว มีร่องรอยของภัยพิบัติทางธรรมชาติและการทำลายล้างมากมายที่กระทำโดยเหล่าอันเดด
วีดเจอรอยแตกมืดๆบริเวณใต้แท่นบูชา ปกติแล้วคงไม่มีทางฉุกคิดขึ้นมาได้แน่ แต่ในฐานะอันเดด เขาจึงมีความรู้สึกไวต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ มีพลังศักดิ์สิทธิ์มหาศาลไหลออกมาจากรอยแยกนั่น
วีดเริ่มน้ำลายสอ
จริงๆแล้ว ฉันนี่ไม่มีทางเลือกเลยนะเนี่ย
แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย วีดก็ยังทำตามสัญชาตญาณที่นำไปสู่ไอเท็ม จากนั้นวีดก็มุดเข้าไปในช่องระหว่างแท่นบูชา

มันไม่อยู่ที่นี่
มันพึ่งเข้ามานิ อาจจะกำลังซ่อนตัวอยู่ก็ได้ หาตัวให้เจอ!”
ถ้ามันเตรียมซุ่มโจมตี มันอาจจะอันตรายก็ได้นะ
มันเป็นอันเดด คงไม่สามารถทนพลังศักดิ์สิทธิ์นี่ได้นานนักหรอก เราต้องหามันให้เจอโดยด่วน
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีหลังจากที่วีดหายตัวไป พวกอัศวินครีม่าก็มาถึง
ขณะที่พลังศักดิ์สิทธิ์นี่เป็นข้อเสียเปรียบของวีด แต่พลังนี้กลับบัฟอวยพรให้พวกเขาฟื้นฟูค่าพลังชีวิต เมื่อเทียบกับความสามารถตามปกติ พวกเขาสามารถแสดงศักยภาพได้เท่าตัว มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะเจอวีด แล้วฆ่าเขา

ท่านกลายเป็นผู้ค้นพบดันเจี้ยน โลกใต้พิภพแห่งวิหารเอลแวนซ์
สิทธิพิเศษ: ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 900
ค่าประสบการณ์และอัตราการดรอปไอเท็มสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
มอนสเตอร์ตัวแรกที่ท่านล่ามีความเป็นไปได้ที่จะดร็อปไอเท็มที่ดีที่สุด

การได้มาที่นี่หลังจากหลบหนีพวกศัตรู วีดรู้สึกไม่ปลื้มนักขณะที่มองดูสิทธิพิเศษของดันเจี้ยน ที่นี่ถูกจัดว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายสำหรับอันเดด ดังนั้นเขาจึงไม่อาจล๊อคเอาท์ออกจากเกมไปได้
ในตอนที่เขาล๊อคเอาท์ออกระหว่างการต่อสู้หรือตอนที่ค่าพลังชีวิตกำลังลดต่ำลงไป ร่างกายของเขาก็จะหยุดนิ่งแล้วก็ตายไปในที่สุด
 เดาว่าฉันคงต้องไปต่อสินะ
วีดยกดาบขึ้นแล้วออกวิ่งไปข้างหน้า อาชีพสายเบอร์เซิร์กเกอร์นั้นจะเก่งในการต่อสู้ แต่เมื่อคุณเริ่มหยุดพัก ก็จะรู้สึกอ่อนแอยิ่งกว่าเดิม
ไปหาตรงที่ดันเจี้ยนสิ้นสุดดีกว่า!”
มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกอัศวินจะพบทางเข้ามายังดันเจี้ยน
สองสามวินาทีดูผ่านไปเร็วมาก สองสามนาทีกลับดูผ่านไปช้าเหลือเกิน วีดวิ่งลงไปตามทางเดินในดันเจี้ยน แม้ว่าจะไม่ได้มองผ่านสายตาของอันเดด ข้างในนั้นก็ดูสว่างกว่าแสงตอนกลางวันซะอีก นั่นก็เพราะว่า กำแพงทุกด้าน ทุกซอกทุกมุม หรือแม้แต่คริสตัลที่ฝังลงไปก็ส่องแสงออกมาระยิบระยับ

ค่าพลังชีวิตเหลืออยู่ 19%

เขาไม่มองดูสิ่งที่น่าสงสัยใดๆแล้วออกวิ่งต่อไปเรื่อยๆ
ผู้บุกรุก ผ่านมานานเหลือเกิน สุดท้ายก็มีผู้บุกรุกมาซะที
มอนสเตอร์ที่ดูเหมือนกับผีเสื้อกลางคืนมีขนาดราวๆสองเมตรกระโจนออกมา
ชื่อของมันคือ อวานน่าห์
เพราะว่ามอนสเตอร์ตัวนี้กินพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นอาหาร เลเวลของมันจึงอยู่ราวๆ 300
มีการแก่งแย่งครอบครองดันเจี้ยนกันกับพวกอวานน่าห์อยู่เสมอ เพราะว่าพวกมันมีพลังชีวิตต่ำ มันจึงง่ายกว่ามากที่จะเล็งไปที่ปีกของพวกมันก่อนเป็นอันดับแรก คงไม่พูดเกินไปเลยว่านี่คือพื้นที่ล่าอันยอดเยี่ยมสำหรับกิลด์เด่นๆทั้งหลาย มันพยุงตัวเองนิ่งๆด้วยปีกอยู่ในสถานที่ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาจนกลายเป็นสภาพแวดล้อมปกติของมันไปแล้ว
แต่ถึงกระนั้น วีดก็ไม่ได้มีเวลาที่จะไปปะทะกับมัน ดังนั้นเขาจึงวิ่งต่อไปข้างหน้า
ทักษะวิ่งสี่เท้า!”
วีดเพิ่มความเร็วขึ้น เขากระโดดข้ามลำธารเล็กๆที่ไหลอยู่ภายในดันเจี้ยน และเมื่อมีกับดักหลุมพราง เขาก็จะแทงดาบของเขาที่กำแพงแล้วปีนขึ้นมา
มันคืออารมณ์ของสัตว์ป่าบ้าคลั่งที่ได้แสดงออกมา
ดูท่าว่าอวาน่าห์จะต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด เพราะว่ามันหยุดโจมตีแล้วก็ไม่ไล่ตามเขามาแล้ว แล้วเขาก็ต้องกลับมากระโดดข้ามบริเวณที่มีลำธารเล็กอีกครั้ง
แม้กระนั้น เขาก็ยังเหลือค่าพลังชีวิตอีกตั้ง 11%
 เหลืออยู่แค่นี้ ฉันคงไม่สามารถออกไปสู้ได้แน่
ตอนนี้ค่าพลังชีวิตของเขาเหลืออยู่เพียง 8% เท่านั้น เพราะว่าเขาอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่กระจายไปทั่ว ความสามารถในการต่อสู้ของเขาจึงด้อยลงไป ค่าความแข็งแกร่งกับระดับมานาเองก็เริ่มไหลออกไปเช่นกัน
ขอเพียงแค่มีประตูเทเลพอร์ตนำไปสู่ซักที่ที่ปลอดภัยละก็…”
เขามีความหวังผุดขึ้นมาแต่ทว่าความเป็นไปได้ที่จะพบมันมีน้อยกว่าหนึ่งในสิบซะอีก มีบางโอกาสที่หาได้นั้นยากมากๆ อย่างเช่นเมื่อดันเจี้ยนถูกเคลียร์จนหมดสิ้นก็จะมีประตูเทเลพอร์ตนำไปสู่พื้นที่ถัดไป แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่หวัง แถมเขายังไม่รู้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดันเจี้ยนนี้อีก
 แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ทางนี้รุนแรงขึ้นแหะ
วีดที่เป็นอันเดดกำลังอ่อนแอลงเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถตายไปด้วยมากมายหลายวิธี ความตายอยู่ใกล้ตัวเสมอ ดังนั้นเขาจึงอยากจะเข้าไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเองว่าอะไรอยู่ที่จุดสิ้นสุดของดันเจี้ยน
และแล้วจุดหมายปลายทางนั้น เขาก็ได้พบมัน
มหาราชันย์อวานน่าห์ ลอร์ดเดรียม!(Great king Avannah Lordriam!)
เจ้านี่ไม่เหมือนกับอวานน่าห์ทั่วๆไป มันไม่เพียงสุดยอดเท่านั้น แถมยังมีมนต์ศักดิ์สิทธิ์กับพลังโจมตีสูงมากอีกด้วย โดยปกติแล้วผู้เล่นจะตั้งปาร์ตี้ที่มีผู้เล่นฝีมือฉกาจขึ้นมาเพื่อต่อกรกับอวานน่าห์ตอนที่มันปรากฏตัว เพราะว่ามันคือมอนสเตอร์ที่มีเลเวลมากว่า 450 ถ้าหากว่ามันปรากฏตัวแบบปุปปับ การล่านั้นคงจะต้องล้มไม่เป็นท่าแน่ๆ
พอลองนึกถึงทักษะของมันอย่าง ทักษะรังสีมืดบอด ทักษะพันธนาการ และทักษะฟื้นฟู มันจึงถือว่ายากเกินไปที่จะล่ามัน
มหาราชันย์อวานนน่าห์ ลอร์ดเดรียมที่กำลังประจันหน้ากับวีดกำลังถืออัญมณีเล็กๆไว้ที่นิ้วของมัน พลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาจากอัญมณีเม็ดนั้น
เพชรแห่งถ้ำศักดิ์สิทธิ์
หากเหล่านักบวชหรืออัศวินครอบครองมัน ก็จะสามารถเพิ่มค่าความศรัทธาได้อย่างมโหฬาร แถมยังสมารถเพิ่มเอฟเฟคกับระยะของเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่ายไปอีกด้วย
เขารวบรวมความกล้าเผชิญหน้าเพื่อไอเท็มชิ้นนั้น
อัญมณีปกติแล้วง่ายที่จะเอาไปต่อรองราคาได้
แม้ว่าเขาจะอยู่ในร่างสูงเพียง 100 เมตร แต่เขาก็วิ่งด้วยสี่เท้านั่น กระโจนเข้าใส่ลอร์ดดเรียม
วิธีที่จะต่อสู้แล้วชนะได้อย่างง่ายๆก็คือตัดหนวดของมันออก
ลอร์ดเดรียมมีสายตาฝ่อ ดังนั้นมันจึงอ่านการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆด้วยหนวดของมัน
หนวดของมันจึงพูดได้ว่าเป็นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียว
ทักษะเริงระบำแห่งนักรบคลั่ง
เพราะความสามารถโจมตีของวีดที่อ่อนแอลงไป ทักษะเดียวที่เขาเอามาใช้สู้กับลอร์ดเดรียมได้ก็มีแค่ทักษะนี้อย่างเดียว ด้วยการรีดเร้นมานาออกมา เขาจึงเหวี่ยงดาบของเขาไปที่หนวดทั้งแปดของลอร์ดเดรียม จากนั้นก็ถีบตัวขึ้นไปยืนอยู่บนพื้น  สายพลังมานาแดงดั่งเลือดเคลื่อนตัวไปมารอบๆตัวเขา แล้วจากนั้นเขาก็เข้าไปโจมตีหนวดของลอร์ดเดรียม

ท่านได้โจมตีแบบคริติคอลสำเร็จแล้ว

สมาธิของเขาแกร่งมากขึ้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย!
ถึงแม้ขณะเคลื่อนตัวอยู่บนอากาศเขาไม่สามารถเคลื่อนได้แบบปกติได้ แต่ว่าเขาก็ยังสามารถตัดหนวดของมันได้
ฉั๊วะ!
เจ้าลอร์ดเดรียมเริ่มดิ้นทุรนทุราย แม้ว่าหนวดของมันจะถูกตัดไปแต่การต่อสู้มันยังไม่จบ เพราะว่ามันสามารถรักษาตัวเองด้วยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ได้ วีดจำเป็นต้องทำความเสียหายมากเท่าที่เขาจะทำได้ขณะที่มันกำลังชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดจากหนวดที่โดนตัดไปอยู่นั้น
ทักษะพันธนาการแห่งนักโทษ ทักษะดาบแห่งจิตวิญญาณนักสู้!”
ด้วยการใช้ทักษะของเบอร์เซิร์กเกอร์เขาจึงโจมตีลอร์ดเดรียมได้สำเร็จ โดยปกติแล้วเขาจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจหรือว่าทำทุกอย่างไปตามแผนที่วางไว้ภายในหัวเมื่อต้องมาเผชิญหน้ามอนสเตอร์ระดับบอส
แต่ทว่าวีดจำต้องกระโจนเข้าไปด้วยสี่ขาที่มีแล้วก็โจมตีเข้าไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยเล็งไปที่ลอร์ดเดรียมเป็นหลัก อย่างกับว่าเขากำลังพยายามที่จะพิสูจน์ว่าไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนยืนหยัดอยู่ได้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ เขาเลี้ยวไปมาเป็นวงกลมรอบๆมัน พลางเหวี่ยงดาบฟันไปด้วย
ลอร์ดเดรียมเปิดใช้งานเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของมัน
มนต์การชำระล้างแห่งความไร้เสียง (Purification of Silence)
เวทย์ศักดิ์สิทธิ์นั่นทำให้สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายสูญสิ้นไปไม่เหลือซาก เพชรแห่งถ้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ขยายเอฟเฟคของมนต์เพิ่มขึ้นไปอีก ในขณะที่กระดูกของวีดปริแตก มันก็เหลือค่าพลังชีวิตเอาไว้ให้เขาอีก 2%
ฉันต้องฆ่ามันไม่ว่ายังไงก็ตาม…’
เขาพยายามที่จะฟันลอร์ดเดรียมต่อไปเรื่อยๆแต่ทว่าเวทย์ศักดิ์สิทธิ์อีกมนต์ได้ถูกใช้ออกมาแล้ว
นั่นคือเวทย์ เยียวยาอันเดด’ (Turn Undead)
มันคือมนต์ที่เป็นปรปักษ์กับอันเดดอย่างยิ่ง!
ธรรมดาแล้ว อันเดดที่มีระดับสูงกว่าเดทไนท์คงจะไม่สลายหายไปในทันทีที่ถูกเวทย์เยียวยาอันเดด แต่ทว่าค่าพลังชีวิตของวีดนั้นต่ำมากเกินไป เช่นนั้นเขาจึงไม่อาจทนต่อมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของลอร์ดเดรียมได้

-ค่าพลังชีวิตของท่านหมดสิ้นแล้ว ท่านเสียชีวิต
ระดับของทักษะปฏิเสธความตายนั้นต่ำเกินไป เนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์ซึมซาบเข้าไปในร่างกาย ทักษะนี้จึงไม่ถูกเปิดใช้งาน
ท่านไม่สามารถเข้าใช้งานได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพราะว่าการตายของท่าน ระดับเลเวลและค่าความเชี่ยวชาญของท่านลดต่ำลง

หลังจากที่วีดตายไปเพียงแค่ผ่านไปสามนาทีเท่านั้น เหล่าอัศวินแห่งครีม่าก็มาถึง
หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในดันเจี้ยน พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับพวกอวานน่าห์แล้วก็ล่าพวกมันเร็วเท่าที่จะทำได้แล้วก็ตามมาถึงที่นี่
นั่นมันมหาราชันย์อวาน่าห์นิ
หนวดของมันถูกตัดไปแล้ว
ลอร์ดเดรียมได้รับบาดเจ็บมากมายหลายแผล
เหล่าอัศวินแห่งครีม่าจึงล่ามันในตอนที่หนวดของมันยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากมายจากเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เหมือนพวกอันเดด ดังนั้นมันจึงไม่ยากที่จะล่ามัน โปลอนจัดการเผด็จศึกลอร์ดเดรียมได้สำเร็จแล้วก็เก็บเพชรแห่งถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วีดกำลังต้องการ
แรร์ไอเท็มนี่มัน…”
หลังจากการต่อสู้จบลง พวกเขาก็พบไอเท็มหลายอย่างนอกจากไอเท็มที่ลอร์ดเดรียมดร็อปออกมา
นี่คงเป็นไอเท็มที่วีดดร็อปในตอนที่เขาตายไป
อัศวินคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆหยิบไอเท็มขึ้นมาก่อนใคร
-ท่านได้รับขนมปังบาร์เลย์เก่าๆ 3 ชิ้น
-ท่านได้รับหมวกแตกเกาะสนิม
-ท่านได้รับหนอนตัวเป็นๆ
-ท่านได้รับฟันกรามของโครงกระดูก

ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ไอเท็มๆห่วยแบบนี้คือตอนไหน ทำไมมันถึงยังถือไอเท็มพวกนี้อยู่นะ?”
อัศวินคนนั้นไม่อาจทนต่อความโกรธเคืองของเขาได้แล้วก็โยนแจปเท็มนั้นทิ้งไป ในฐานะที่เป็นอันเดด แนวโน้มของพวกเขานั้นเชื่อมเกาะอยู่กับความโชคร้ายอยู่เสมอแถมยังอยู่บนเส้นฝั่งแห่งความชั่วร้าย หากว่าคุณมีค่าชื่อเสียงเสียๆ ก็มีความเป็นได้สูงที่จะดร็อปไอเท็มดีๆท่ามกลางไอเท็มที่คุณถือเอาไว้อยู่ แต่ทว่าวีดกลับดร็อปไอเท็มที่ไร้ประโยชน์ออกมาเป็นพวง
นี่ก็เป็นเพราะว่าการเตรียมการที่ดีของวีด
 ถึงจะมีพวกเนโครแมนเซอร์หลายคน เนโครแมนเซอร์พวกนั้นเป็นอันเดดที่มีระดับไม่ธรรมดาเลยน๊า
ตั้งแต่ที่เขาได้รับภารกิจจากกองทัพอันเดดแล้วก็ได้พบเจอผู้คนมากมาย เขาจึงไม่อาจเชื่อใจพวกเขาได้เลย ดาบธรรมดาๆ ชุดเกราะ แล้วก็ไอเท็มแพงๆเหล่านั้นปกติแล้วเขาจะเก็บเอาไว้ในปราสาทของลอร์ดที่โมราต้า เขาจะถือเอาไว้เฉพาะไอเท็มจำเป็นที่ต้องใช้เพิ่มค่าความเป็นผู้นำอย่างพวกแตรเขาสัตว์หรือว่าตราประทับแห่งราชวงศ์ แล้วก็ทันทีที่พวกกิลด์เฮอร์มีสปรากฏตัวเขาก็เอามันไปซ่อน
 ฉันคงจะเสียไอเท็มไปแน่ๆถ้าหากฉันตาย…”
เขาวอนให้มาเรย์เก็บของเอาไว้ให้เขา
นายต้องเอามาคืนฉันหลังจากนั้นนะ
ผมจะคืนแน่ครับ
ถ้านายดูตรงข้างล่างไอเท็มก็จะเห็นตัวหนังสือเล็กๆเขียนเอาไว้ ไอเท็มของวีด’”
“………….”
ด้วยการเตรียมการสำหรับการตายของเขาเอาไว้ก่อนแล้ว เขาจึงไม่ได้เสียไอเท็มมีค่าใดๆไป
และแน่นอนว่าจากมุมมองของวีด มันคือความสูญเสียที่แสนเศร้าโศกที่เขาไม่อาจซ่อนแจปเท็มของเขาได้


หลังจากที่รู้ว่าวีดถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โปลอนกับพวกอัศวินก็กลับมายังที่ราบนาตาเลีย
เหล่าเนโครแมนเซอร์ทั้งหลาย จงเลือกซะว่าเจ้าจะเข้าร่วมกับกิลด์เฮอร์มีสหรือไม่
กองกำลังจอมเวทย์และเรนเจอร์ทั้งหลายเตรียมตั้งท่าโจมตี มันถือเป็นการแกมบังคับนิดหน่อย แต่โปลอนก็ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนต่อเหล่าเนโครแมนเซอร์ว่าหากพวกเขาไม่เข้าร่วมกับกิลด์เฮอร์มีส พวกเขาจะต้องถูกฆ่าตายที่นี่ตรงนี้
 ระเราควรทำยังไงดี?”
ฉันชอบที่จะเป็นผู้เล่นเดี่ยวนะ แต่ถ้าหากว่าฉันเข้าร่วมกิลด์เฮอร์มีส อาจจะเป็นผลดีมากกว่านะ

ในขณะที่เหล่าเนโครแมนเซอร์รู้สึกกระวนกระวาย เจนนี่ก็เชิดไหล่ของเธอขึ้นแล้วก็ก้าวออกไปข้างหน้า

 ฉันจะไม่เข้าร่วมกับกิลด์เฮอร์มีส
เธอคงเป็นเจนนี่สินะ
โปลอนได้ฟังเรื่องราวของเหล่าเนโครแมนเซอร์จากเซบริน
แล้วเหตุผลที่จะไม่เข้าร่วมละ?”
 “คงพูดได้ละว่าเหตุผลที่พวกเรากลายมาเป็นเนโครแมนเซอร์ได้ก็เพราะวีด
งั้นหรอ? ถ้าเธอปฎิเสธกิลด์เฮอร์มีส คงจะมีอันตรายมากมายพุ่งเป้าไปที่เธอนะ แม้แต่ตอนนี้คงมีการสูญเสียมากแน่ๆหากเธอตายไปที่นี่ ฉันจะให้โอกาสเธอให้เปลี่ยนการตัดสินใจละกัน
จุดยืนของฉันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ที่ฉันกลายมาเป็นเนโครแมนเซอร์จนได้มาทำภารกิจครั้งนี้ เหล่าเนโครแมนเซอร์ทุกคนล้วนเป็นหนี้ความช่วยเหลือจากวีด ฉันจะไม่ยอมเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์เฮอร์มีส
โปลอนหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน
เธอคิดว่าเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆจะคิดอย่างเธองั้นหรอ? จะบอกอะไรให้ฟังนะ ถ้าเธออยู่ตรงนั้นเธอก็ต้องตาย มาทางนี้ดีกว่าน่าถ้าเธอยินดีที่จะมาเข้าร่วมกับเรา
เซบรินกับพวกเนโครแมนเซอร์ที่จะเข้าร่วมกับกิลด์เออร์มีสเดินออกมาตรงที่โปลอนอยู่ แต่ก็ยังมีเนโครแมนเซอร์อีกสิบกว่าคนยังคงยืนนิ่ง
คนเหล่านั้นคือ เจนนี่ โอเทม กรูเซด วาเรนน่า และพวกผู้เล่นคนอื่นๆที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันภายในหุบเขา
บางคนนั้นมีกิลด์ของตนอยู่แล้วแต่ก็ปฏิเสธเข้าร่วมอย่างดึงดัน มาเรย์ไปยืนทางฝั่งกิลด์เฮอร์มีสเพราะว่าเขาจำเป็นต้องปกป้องไอเท็มของวีดเอาไว้
เรื่องราวจะต้องไม่จบลงแบบนี้บทเพลงที่สอดเรื่องราวดีๆจะต้องปรากฏขึ้นมาแน่ๆ


จากภายในสถานี KMC Media การผจญภัยของเหล่าเนโครแมนเซอร์ได้ออกอากาศสด หลักๆแล้วนั่นก็เพราะว่าวีดอยู่ภายในการผจญภัยครั้งนี้ด้วย พวกเขาเริ่มออกอากาศสดตั้งแต่ที่เขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา
เครือข่ายสถานีออกอากาศอื่นๆก็กำลังถ่ายทอดรายการเกี่ยวกับเนโครแมนเซอร์กับกองทัพอมตะด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรตติ้งอะไรมากมายนัก
อีกอย่างนี่ก็เพราะว่าสถานี CTS  เองก็เพิ่มเรตติ้งของรายการให้เพิ่มขึ้นสูงๆด้วยเงินทุนที่มากมายมหาศาลที่ได้มาจากบริษัทแม่ บริษัท LK gamers ที่ได้ถ่ายทอดรายการออกไปอย่างเป็นมืออาชีพด้วยระบบดิจิตอลมีเดียที่ได้ติดตั้งเอาไว้ของพวกเขา ที่พร้อมถ่ายทอดออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากสถานีทั้งสอง ก็ยังมีสถานีออกอากาศใหม่ๆกับสถานีทางออนไลน์ที่ก่อตั้งขึ้นมาในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้
ในขณะที่ผู้คนต่างให้ความสนใจและสนุกสนานไปกับโรยัลโร้ด ช่องพิเศษต่างๆมากมายก็เกิดขึ้นมาเช่นกัน
รายการตกปลาแห่งโรยัลโร้ด
รายการตีกอล์ฟของโรยัลโร้ด
รายการมือโปรตะลุยดันเจี้ยน
รายการเด็กน้อยแห่งทวีปเวอร์เซล
รายการรองเท้าบูทคร่ำครึของเหล่าจินตกวี
ขณะที่ยิ่งอิทธิพลของรายการถ่ายทอดเกมออนไลน์เติบโตขึ้นมากเท่าไร การแข่งขันก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเท่านั้น KMC media คือช่องทีวีได้รับการตอบรับจากผู้ชมเป็นเพราะพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากผู้เล่นภายในเกมหลากหลายมากมาย
ในที่สุดวีดกับเหล่าอันเดดก็รุกหน้าเข้าไปในวิหารแล้ว
ขณะที่การผจญภัยของวีดถ่ายทอดออกไป เหล่าผู้ชมทั่วไปก็จะเข้าไปในบอร์ดข้อความแล้วก็แสดงความคิดเห็นต่างๆนานา
ไม่เพียงแต่ตามช่องที่ออกอากาศเท่านั้น เหตุการณ์นั้นยังโด่งดังมากลุกลามไปจนถึงเว็ปไซต์ข่าวต่างๆอีกด้วย มันไม่ใช่เพราะว่าวีดคือตำนานที่มีชีวิตแห่งคอนติเนนท์ออฟเมจิกเพียงเท่านั้น แต่เขายังตะลุยการผจญภัยที่แสนตื่นตาตื่นใจภายในโรยัลโร้ดอีกด้วย
 อยู่ๆกิลด์เฮอร์มีสก็ปรากฏตัวขึ้นมาปุบปับแถมยังเริ่มโจมตีพวกเขาอีกครับ โอ้โห เป็นกองกำลังที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ มีทั้งโปลอน อัศวินครีม่า กองทัพเรนเจอร์กับพวกนักเวทย์ด้วยครับ
ในตอนที่พวกเขากำลังจะตัดการออกอากาศลงไว้ตรงฉากที่วีดสามารถเคลียร์ภารกิจสุดท้ายได้ ผู้ประกาศข่าวก็รายงานสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นทันทีทันใด พร้อมกับขึ้นหัวข้อลอยขึ้นมาบนจอภาพ
-การปรากฏตัวของกิลด์เฮอร์มีส
-การโต้กลับของอันเดดที่นำโดยวีด
พวกเขาตัดสินใจที่จะยืดเวลาออกอากาศออกไปจนกว่าการพิพาทระหว่างวีดกับกิลด์เฮอร์มีสจะจบสิ้นลง
-การต่อสู้ยกที่สองระหว่างวีดและกิลด์เฮอร์มีส
-กิลด์เฮอร์มีสส่งหน่วยโจมตีออกไปยังดินแดนที่กองทัพอันเดดอยู่เพียงเพื่อจะมาฆ่าวีดเท่านั้น
-มันคือการนองเลือด!

เรตติ้งพุ่งขึ้นมาอย่างพรวดพราด
ถึงกระนั้นก็ตาม สภาพของวีดนั้นแย่มากเกินกว่าที่จะเอาไปสร้างกลยุทธ์ต่อสู้ได้อีกแล้ว พวกเขาประกาศออกไปว่าวีดแสดงการต่อสู้ได้อย่างน่าจดจำ แต่ทว่าหลังจากที่เขาเข้าไปในวิหารก็ถูกฆ่าตายไปในที่สุด
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ถูกฆ่าโดยกิลด์เฮอร์มีส แต่มันก็ยังทำลายประวัติเทพสงครามผู้ไร้พ่ายไป
ไม่นานบอร์ดข้อความของเหล่าผู้ชมก็คับคั่งไปด้วยคอมเม้นท์เกี่ยวกับการตายของวีด
-ไอ้พวกชาติชั่วสกปรกโสมม พวกมันแพ้ไปที่ลาส ฟาลังคซ์แล้ว ยังไล่ตามเขามาจนถึงที่นี่อีก
-พวกขี้ขลาดไร้หัวใจก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ
-พวกมันนำกองกำลังมากมายไปซุ่มโจมตีเขาหลังจากที่ภารกิจสำเร็จแล้ว แถมเขายังเหนื่อยมากอีกด้วย
-เจ้าพวกนั้นมันก็เล่นสกปรกตลอดแหละ ตรงไปตรงมาไม่เป็นหรอก
-ฉันไม่ชอบวิธีการที่พวกกิลด์เฮอร์มีสทำไปเลยจริงๆ
กระดานข้อความเต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์กิลด์เฮอร์มีสอย่างหนักหน่วง



ณ บริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของโมราต้า
เมื่อก่อนดินแดนทางฝั่งเหนือนี้ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จึงไม่ค่อยมีใครมาทางนี้ซักเท่าไร แต่ทว่าตอนนี้ที่นี่กลับมีผู้คนแวะมาเยือนอยู่สม่ำเสมอ เพราะว่ามีมอนสเตอร์ที่คุ้มค่าเหมาะแก่การออกล่ามากมาย ณ วันที่มีฝนตกพรำลงมา ใบหน้าของเหล่าผู้เล่นทั้งหลายต่างเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนขณะที่กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง
พวกเจ้าขุดได้มากแค่ไหนแล้ว?”
พวกเราได้หอยกาบประมาณ 1,430 ตัวแล้ว ฉันคงเอาไปใช้ซื้อดาบยาวได้ซักเล่มแน่ๆ
เหล่านี้คือผู้เล่นที่กำลังขุดเอาหอยกาบกับหอยแครงเพื่อเอาไปขายเป็นเงิน ขณะที่เมืองโมราต้ากลายมาเป็นเมืองใหญ่ จำนวนประชากรก็พุ่งขึ้นมาอย่างพรวดพราด
ทรัพยากรอาหารก็ได้มาจากการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีกับข้าวบาร์เลย์ ส่วนพวกผู้เล่นใหม่ก็เก็บเงินมาได้โดยการทำภารกิจด้วยการจัดหาของสดๆไปที่ตลาดอาหารทะเล ในขณะที่พวกเขากำลังพักเหยียดแข้งเหยียดขา ก็มีกลุ่มคนลอยขึ้นมาพร้อมกับกระแสคลื่นทะเล
ในที่สุดเหล่านักดาบก็มาถึงดินแดนเหนือของทวีปเวอร์เซล
-ท่านได้ค้นพบเส้นทางทางทะเลเส้นใหม่ที่มายังเมืองโมราต้า ณ ดินแดนทางเหนือ
ด้วยการบุกเบิกเส้นทางทางทะเล ค่าชื่อเสียงดีของท่านเพิ่มขึ้น 420
จากการผจญภัยที่ประสบผลสำเร็จ ค่าสถานะเพิ่มขึ้นอย่างละ 3
ความกล้าหาญเพิ่มขึ้น 7
ค่าความเชี่ยวชาญการเดินเรือเพิ่มขึ้น
-ท่านได้กลายเป็นบุคคลแรกที่สามารถว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรสำเร็จ
ท่านได้ทำการท้าทายอันแสนบ้าบิ่นที่ไม่มีทางเป็นไปได้สำเร็จ
ค่าความอึดเพิ่มขึ้น 24
ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น 31
กำลังกายเพิ่มขึ้น 15
ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น 9
-ค่าชื่อเสียงดีเพิ่มขึ้น 2,980 แต้ม
ทุกๆครั้งที่ท่านเล่าเรื่องราวของท่านเกี่ยวกับการข้ามมหาสมุทรในโรงเหล้า ท่านจะได้รับค่าชื่อเสียงพิเศษ 40 แต้ม
-หากท่านเล่าเรื่องราวนี้กับกะลาสีเรือหรือผู้คนด้วยความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมหาสมุทร ท่านจะได้รับความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น
-ความสามารถในการเข้าใจเกี่ยวกับน้ำเพิ่มขึ้น
ค่าความต้านทานที่เกี่ยวข้องกับน้ำเพิ่มขึ้น ค่าความใกล้ชิดกับจิตวิญญาณธาตุน้ำได้ถูกสร้างขึ้นมา
-ท่านได้รับฉายา บุรุษเหล็กในตำนานแห่งมหาสมุทร

หลังจากเผชิญหน้ากับมหาสมุทรอันแสนยากเข็ญด้วยร่างกายอันเปลือยเปล่า พวกเขาก็ได้ทิ้งไว้ซึ่งตำนานแห่งมหาสมุทรที่ไม่มีใครกล้าทำตาม

ความสามารถในการต่อสู้บนท้องทะเลเพิ่มขึ้น
ท่านจะได้รับการสนับสนุนจากเหล่ากะลาสีเรืออย่างไร้เงื่อนไข
เลเวลของทักษะเดินเรือเพิ่มขึ้น 3 เลเวล
ในบรรดาคุณสมบัติพิเศษของเหล่านาวิกโยธิน ความสามารถในการอ่านกระแสคลื่นเพิ่มขึ้น
โอกาสที่จะโดนโจมตีจากมอนสเตอร์ลดลง

เหล่านักดาบประสบผลสำเร็จและได้รับฉายาที่เหล่าผู้เล่นทั้งหลายได้แต่เพียงฝันถึงเท่านั้น
 มันดีหรือเปล่าเนี่ยที่เราว่ายน้ำมาแบบนี้นะ?”
แหง๋ละ ต้องดีอยู่แล้ว ว่ายน้ำกันไปอีกเถอะถ้าหากว่าซักวันเราต้องกลับไปอีกนะ
ข้าหิวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ
จากนั้นเหล่านักดาบก็มุ่งหน้าตรงไปยังโมราต้า
พวกเขาได้สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหนือท้องทะเล แต่ทว่าพวกเขากลับไม่อาจสัญญาใดๆได้ว่าเมื่อไรที่พวกเขาจะกลับไปที่มหาสมุทรนั้นอีกครั้ง

สถานี KMC media กำลังออกอากาศรายการ เรื่องราวของทวีปเวอร์เซลตามกำหนดการเดิมที่วางเอาไว้หลังจากที่วีดตายไป มันคือรายการโชว์ที่ได้รับความนิยมมาก ดำเนินรายการโดย ชิน เฮมิน และโอ จูวาน
วันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายเลยนะคะ แรกสุดคือการเฉลิมฉลองการสถาปนาเมืองใหม่ภายในราชอาณาจักรฮาเว่นค่ะ
ใช่แล้วครับ เหล่าผู้ชมมากมายต่างกำลังตั้งหน้าตารอคอยงานครั้งนี้ครับ งานเฉลิมฉลองการสถาปนาในวันนี้มีกิลด์เฮอร์มีสเป็นผู้จัดขึ้นมาครับ
ดูเหมือนว่าจะมีคนมาเข้าร่วมกันอย่างคับคั่งมากเลยนะค่ะ
คงจะพูดเกินไปถ้าจะบอกว่ามีผู้เข้าร่วมอัดตัวอยู่ทั่วทั้งเมืองหลวงเลยค่ะ อยู่ที่ปราสาทเอเรนใช่ไหมคะ? นอกจากเหล่าผู้เล่นที่มาจากราชอาณาฮาเว่น ยังมีคณะทูตจากแต่ละกิลด์และแต่ละราชอาณาจักรก็มาเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกันค่ะ
บนหน้าจอภาพจะมีงานเฉลิมฉลองของราชอาณาจักรฮาเว่นที่พึ่งก่อตั้งขึ้นมาหมาดๆโดยกิลด์เฮอร์มีสปรากฏให้เห็น งานแห่อันแสนโอ่อ่า ทั้งภายในและภายนอกปราสาทก็เต็มไปด้วยผู้คน บาร์ดเรย์สวมมงกุฎไว้บนศีรษะของเขา ใส่ชุดที่แสดงถึงความเป็นกษัตริย์พร้อมกับคาดดาบเอาไว้ที่เอว
 ข้าแต่งตั้งเจ้าเป็นขุนนางผู้ปกครองดินแดนโดเรีย
กระหม่อมจักอุทิศตนด้วยความภักดีพะยะค่ะ
ข้าแต่งตั้งเจ้าเป็นรองขุนนางปกครองโบราสค์
เป็นเกียรติอย่างยิ่งพะยะค่ะ
เขาแต่งตั้งเหล่าผู้เล่นระดับสูงของกิลด์เฮอร์มีสให้เป็นชนชั้นสูงอย่างเป็นทางการ
ราชอาณาจักรฮาเว่นได้ถูกสถาปนาขึ้นมาอีกครั้งภายใต้ระบอบรวมอำนาจ แต่ว่าการได้รับการแต่งตั้งให้เป็นชนชั้นสูง ก็จะได้รับค่าสถานะหลากหลายมากมายอีกด้วย ในกรณีของบาร์ดเรย์ เขาได้รับค่าชื่อเสียงมากที่สุดภายในราชอาณาจักรแห่งนี้ แถมยังมีค่าความสูงศักดิ์ (Nobility) ค่าเกียรติยศ (Dignity) อยู่อีกจำนวนมาก
กษัตริย์นี้มีอำนาจการปกครองควบคุมในการแบ่งสัดส่วนของประเทศ
ยิ่งพวกเขาทำหน้าที่นี้ได้ยอดเยี่ยมมากเท่าไร ค่าความภักดีที่พวกเขาจะได้รับจากประเทศชาติและค่ากำลังใจของเหล่าอัศวินและทหารก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น อำนาจการปกครองนั้นไม่ใช่ค่าสถานะที่จะเพิ่มขึ้นมาได้ด้วยวิธีปกติธรรมดา มันต้องขึ้นอยู่กับอาณาเขตที่อยู่ในการครอบครอง จำนวนประชากรของผู้อยู่อาศัย อัศวิน นักเวทย์ ธุรการบ้านเมือง และการพัฒนาของเทคโนโลยี
มันสามารถขึ้นหรือว่าลงได้แม้แต่จากการมีชัยหรือปราชัยภายในสงคราม การบรรลุเป้าหมายทางพาณิชย์ขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ความทุกข์ทรมานของชาวเมืองจากน้ำท่วมหรือว่าความแห้งแล้งภายในอาณาจักร ถ้าหากว่าเขาปกครองบ้านเมืองด้วยความปราดเปรื่อง งานสังสรรค์มากมายก็จะเกิดขึ้นภายในตัวเมือง หรือแม้แต่ได้รับพรจากเหล่าทวยเทพ
บาร์ดเรย์กลายเป็นผู้เล่นที่มีเลเวลมากที่สุดภายในทวีปเวอร์เซลและก็มีอำนาจอิทธิพลสูงที่สุดอีกด้วย
 “ช่างเป็นภาพที่ตระการตาจริงๆค่ะ มีการแสดงประลองของเหล่าอัศวินตรงท้ายขบวนด้วยค่ะ เราจะพาท่านผู้ชมไปดูซักครู่หนึ่งนะคะ
ฉันคิดว่าผู้ชมมากมายคงกำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องวิหารเอ็มบินยูค่ะ เรามีข่าวล่าสุดวันนี้เกี่ยวกับวิหารเอ็มบินยู ใช่ไหมคะคุณโอจูวาน
ใช่แล้วละครับ พวกเราได้เตรียมเอาไว้แล้ว ดูท่าว่ามีผู้ตามสืบเกี่ยวกับวิหารเอ็มบินยูตะลอนไปทั่วทั้งดินแดนเลยครับ
วิหารเอ็มบินยูนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาเหมือนดั่งพายุที่ดึงทวีปเวอร์เซลเข้าสู่ความโกลาหล
วิหารเอ็มบินยูคือพลังอำนาจแห่งปีศาจที่เข้ากลืนกินปราสาทหลายๆหลัง และยังเป็นเจ้าของกองกำลังขนาดมโหฬารภายในทวีปเวอร์เซลที่ซึ่งเป็นดินแดนที่แต่ละกิลด์ต่างแก่งแย่งอาณาเขตอย่างเอาเป็นเอาตาย พวกมันคือขั้วอำนาจที่เป็นตัวแทนของความมุ่งร้าย แต่ทว่าเหล่าผู้เล่นทั้งหลายเองก็สามารถเลือกได้ว่าจะเข้าร่วมกับวิหารเอ็มบินยูได้หรือไม่
เนื่องจากเหล่าผู้เล่นที่ไปเข้าร่วมกับกองกำลังของพวกมัน อำนาจของวิหารเอ็มบินยูจึงแพร่กระจายออกไปทั่วดั่งไฟป่า บนดินแดนที่ถูกวิหารเอ็มบินยูกลืนกิน พืชพันธุ์เหี่ยวแห้งร่วงโรย แม่น้ำลำธารเหือดแห้ง แล้วในขณะที่บนทวีปเวอร์เจ็บปวดทรมานด้วยโรคภัยร้ายแรง กลับมีเพียงธอร์ ราชอาณาจักรของเหล่าคนแคระกับดินแดนเหนือเท่านั้นที่ยังคงปราศจากการรุกรานของวิหารเอ็มบินยู
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆภายในราชอาณาจักรธอร์ยังคงเป็นปริศนา แต่ทว่าราชอาณาจักรนิฟล์เฮมทางดินแดนเหนือกลับล่มสลายเพราะว่าการรุกรานของวิหารเอ็มบินยู วีดเคยขับไล่วิหารเอ็มบินยูออกไป แล้วก็เริ่มฟื้นดินแดนเหนือและเมืองโมราต้ากลับคืนมาอีกครั้ง มันเป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้นที่บอกว่าถ้าหากพวกเขาสามารถขับไล่อิทธิพลของพวกวิหารเอ็มบินยูออกไปได้ก่อน ก็จะไม่ต้องรับความเสียหายใดๆจากการโจมตีแบบฉับพลัน
 หากว่าคุณโดนจับตัวโดยพวกผู้สอบสวนของวิหารเอ็มบินยู พวกมันก็จะโจมตีคุณด้วยการอ้างชื่อศาสนานอกรีตแห่งการตัดสิน
ฉันได้ยินมาว่าถ้าหากว่าคุณมีอาชีพพาลาดินหรือว่านักบวช คุณก็จะยิ่งโดนรังควานหนักหน่วงกว่าอาชีพอื่นซะอีกใช่ไหมคะ?”
ถูกต้องแล้วครับ ถ้าคุณโดนพวกมันจับตัวไป คุณก็จะสูญเสียค่าศรัทธาไปจำนวนมาก ดังนั้นโปรดระวังด้วยนะครับ
อย่าเปลี่ยนช่องของคุณนะค่ะ จะมีแขกรับเชิญมาพูดคุยเกี่ยวกับวิหารเอ็มบินยูในช่วงที่สองของพวกเรา! อย่าลืมรับชมนะค่ะ ต่อไปเป็นเป็นเรื่องราวอื่นๆที่เกิดชึ้น
ใช่แล้วครับ รายการต่อไปคือข่าว…”

ลีฮุนออกมาจากแคปซูนแล้วก็ออกไปจ่ายตลาด ไม่มีการพักผ่อนสำหรับเหล่าดาร์คเกมเมอร์ ทวีปเวอร์เซลเปิดประตูอ้าต้อนรับเอาไว้ให้กับทุกๆคนอยู่เสมอ พวกเขาจึงไม่อาจวางใจได้เมื่อออกมาจากเกม โอกาสเดียวของพวกเขาก็คือตอนที่พวกเขาเสียชีวิตและไม่สามารถเชื่อมต่อได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ทำกิมจิเอาไว้หน่อยละกัน
มันคือวันที่เขาจะทำกิมจิเอาไว้สำหรับตอนหน้าหนาว ลีฮุนกองหัวกะหล่ำปลีกับส่วนประกอบอื่นๆเอาไว้ตรงบริเวณสนามแล้วจากนั้นก็เริ่มทำกิมจิ
ทุกๆครั้งที่เขาเฉือนหัวกระหล่ำปลีออก เขาก็จะกระซิบเบาๆ
 โปลอน
แกร๊บบบบบ!
กิลด์เฮอร์มีส…”
แกรร๊บบบบบ!
แกกล้ามาแหยมกับฉันได้ยังไง
กรั๊กกกก!
แจปเท็มของฉัน
ปั๊กกกกก!
ค่าประสบการณ์….”
แกร๊บบบบบ!
จะมาทุบหม้อข้าวของฉันสินะ
ขณะที่ความแค้นพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็หมักกระหล่ำปลีจีนไปตั้ง 200 หัวแล้ว!
ผลกระทบนี้ช่างร้ายแรงเหลือเกิน ไอเท็มแสนล้ำค่าของเขาก็จะคงถูกชิงเอาไปด้วยแน่ๆ
เขาเปิดโทรทัศน์ดูช่อง KMC Media ในขณะที่เขากำลังทำกิมจิเอาไว้กินตอนหน้าหนาว ถึงแม้ว่าเขาจะรับรู้อะไรหลายๆอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรยัลโร้ดด้วยการเช็คบอร์ดของเกมส์เสมอ แต่เขาก็ยังต้องใส่ใจกับเรื่องราวอย่างอื่นที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกด้วยเช่นกัน ทว่าขณะที่รายการถ่ายทอดสดนั้นปกติแล้วมักจะเลือกเอาเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆที่บอกรายละเอียดไว้เป็นอย่างดีเท่านั้นมาถ่ายทอด
 การแผ่ขยายอำนาจของวิหารเอ็มบินยู…”
พวกมันคือกองกำลังที่อัลเวรอน ผู้ชิงตำแหน่งสันตะปาปาของวิหารเทพีเฟรย่าคอยระแวดระวังอยู่เสมอ
ความแข็งแกร่งของเดย์มอนด์จากกิลด์ นักล่าแห่งผืนพิภพ’(Predators of the Land) ที่สามารถทำให้ทั่วทั้งทวีปอยู่ในอันตรายได้จริงๆแล้วเขาได้มาจากวิหารเอ็มบินยูนั่นเอง ลีฮุนรู้ความจริงเรื่องนี้ได้ก็เพราะเข้าไปตีสนิทกับเดย์มอนด์ในห้องแชทของสมาคมดาร์คเกมเมอร์
ในตอนที่บรรดาสมาชิกของกิลด์นักล่าแห่งผืนพิภพตายไป ศพของพวกเขาก็จะเอาไปถวายแด่เทพเอ็มบินยูในฐานะเครื่องบูชายัญแล้วให้อยู่กับเทพไปตลอดกาล มันจึงหมายถึงการลบตัวตนของตัวละครเกม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเริ่มเล่นเป็นผู้เล่นใหม่อีกครั้งแล้วก็เลือกที่จะมาเริ่มที่เมืองโมราต้า
คงพูดได้ว่าเดย์มอนด์กับคนของเขามักจะรับทำภารกิจแบบหลบๆซ่อนๆ ซักวันเขาก็คงต้องตายไปเหมือนกัน แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาจึงอยากที่จะมีชีวิตอยู่ในฐานะของดาร์คเกมเมอร์เพื่อที่จะกอบโกยเอาไอเท็มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
งั้น วิหารเอ็มบินยูคงไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่เราต้องใส่ใจตอนนี้สินะ
โมราต้ากำลังโดนโจมตีโดยกองทัพอันเดด แถมกิลด์เฮอร์มีสยังส่งหน่วยจู่โจมเข้ามาราวีเขาอีก
 นี่คงจะแก้ไขแบบสันติไม่ได้แน่ๆ
ลีฮุนทำลายล้างหลายๆกิลด์ที่เข้ามาอยู่ในระยะการมองเห็นของเขาตอนที่อยู่ในคอนติเนนท์ออฟเมจิค ดังนั้นเขาจึงรับรู้เป็นอย่างดีว่ามันไร้ประโยชน์แค่ไหนที่จะพยายามมาถกหาสาเหตุหรือว่าความชอบธรรม
การใช้กำลังต่างหากที่แก้ปัญหาได้!
โลกใบนี้ล้วนตัดสินกันด้วยกฎของการใช้กำลังเท่านั้น
น้องสาวของเขาพึ่งกลับมาจากห้องสมุด แล้วก็มาช่วยเขาทำกิมจิและต้มเนื้อหมูเอาไว้สำหรับอาหารค่ำ
 กินข้าวกันเถอะค่ะ พี่
เพราะว่าน้องสาวของเขานั้นได้กลายมาเป็นนักศึกษามหาลัยแล้ว เธอจึงเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่คอยเลี้ยงดูเขาด้วยการทำอาหารแล้วก็ปอกเปลือกผลไม้บ้าง
ฉันไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าวันนี้จะมาถึง…’
เมื่อห้าปีก่อน ลีฮุนยังคิดมากเรื่องนี้อยู่เลย แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปทันทีก่อนที่ช่วงเวลาสุดท้ายของเขาจะมาถึงซะอีก
 “ในสถานการณ์แบบนี้ฉันยังตายไม่ได้
ตอนนี้เขาไม่มีญาติสนิททางไหนที่จะไปเก็บเงินงานศพแล้วก็ค่าสร้างโลงศพอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงยังจากโลกนี้ไปไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับตอนที่เขากำลังหิวโหยสิ้นหวังอยากจะกินซุปเค้กปลาตรงชั้นวางแบบฟรีๆ แต่ทว่าตอนนี้ เขาสามารถปรุงอาหารได้จากเครื่องปรุงที่จัดซื้อมาเอง แล้วก็ยังมีบ้านเป็นชื่อของตัวเองอีกด้วย ทุกๆวันลีฮุนใช้ชีวิตอยู่มาด้วยความสุขเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
วันนี้ฉันควรเข้านอนแต่หัวค่ำ
เช้าตรู่วันถัดมา เขาก็ไปที่ร้านขายของชำ แล้วก็ไม่ลืมที่จะไปฝึกร่างกายที่โรงฝึกอีกด้วย
กิลด์เฮอร์มีส…’
ลีฮุนฟันดาบของเขาลงไปพลางกัดฟันของเขาอย่างระมัดระวังด้วยความเดือดดาล คงไม่มีคลินิกไหนที่จะคิดค่ารักษาได้แพงหูฉี่เท่าคลินิกทันตกรรมอีกแล้วละ
มันคือดาบที่อันตรายถึงตาย อัดอั้นเอาไว้ด้วยความเคียดแค้น
หลังจากที่เขาเสร็จภารกิจตามกำหนดการทั้งหมดแล้ว เขาก็กลับบ้านไปทำความสะอาดแล้วก็ดูทีวีเพื่อฆ่าเวลา
แล้วจากนั้นช่วงเวลาของโรยัลโร้ดก็มาถึงในที่สุด
ลีฮุนกระโจนเข้าไปในแคปซูล ปราศจากซึ่งความลังเล

เหล่านักดาบเข้าไปแวะร้านอาหารร้านที่แปดภายในเมืองโมราต้า
ร้านนี่ก็อร่อยเหมือนกันแหะ
คงมีเหตุผลแหละคับว่าทำไมร้านนี้ถึงได้มีธุรกิจรุ่งขนาดนี้ครับ ศิษย์พี่
มันไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเข้าไปกินอาหารแพงๆ รีบชิมแล้วก็รีบออกมาจากร้านหรอก แต่เพราะว่าทั้งแปดร้านที่พวกเขาเข้าไปกินมันไม่มีวัตถุดิบทำอาหารเหลือแล้วต่างหากละ
ช่างตะกละตะกลามและกินทุกอย่างที่ขวางหน้าจริงๆ!
ภายในโรยัลโร้ดถ้าผู้เล่นกินมากๆก็อาจทำให้อ้วนขึ้นได้ แต่ทว่านั่นเป็นนิยามที่ไกลเกินจะเอื้อมถึงเหล่านักดาบที่ออกไปต่อสู้บ่อยๆแล้วก็เดินทางไกลอยู่เรื่อยๆ ขณะที่พวกเขาตะลอนไปทั่ว การกินคือหัวใจหลักของพวกเขา
แล้วพวกเขาก็ได้ยินข่าวคราวจากผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา
การรุกรานระลอกที่สองของกองทัพอันเดดเริ่มขึ้นแล้ว!
ดูท่าว่าพวกนักเล่นอาชีพสายบู้จะได้รับหน้าที่ให้ปกป้องโมราต้า ส่วนเหล่านักเล่นสายศิลป์ก็เข้าไปสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มกำลัง
พวกเขาไม่เพียงแค่เข้าไปวาดสัญลักษณ์บนชุดเกราะเพียงเท่านั้น พวกจินตกวีกับนักเต้นเองก็ตามพวกเขาไปแสดงอยู่ในสนามรบอีกด้วย
คำร้องขอส่วนใหญ่นั้นมาจากทางปราสาทของลอร์ด วิหารเทพีเฟรย่า วิหารลูห์ แล้วก็กิลด์ทหารรับจ้างเพื่อให้ออกไปต่อสู้กับเหล่าอันเดด เนื่องจากนี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน โมราต้าจึงบังคับใช้มาตรการทางสงคราม ทางด้านหน้าประตูทางเข้าปราสาทมีผู้เล่นใหม่มากมายเริ่มรวมตัวกัน ส่วนบริเวณจัตุรัสเองก็เต็มไปด้วยผู้เล่นที่กำลังขายของอยู่
พวกนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนโมราต้าไม่ค่อยได้รับผลจากเหตุการณ์นี้ซักเท่าไร แต่กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในโมราต้านั้นรู้สึกถึงวิกฤตการณ์จากการรุกรานของกองทัพอันเดด
 “นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรอที่พวกอันเดดอยู่ดีๆก็เข้ามาบุกดินแดนของศิษย์น้อง
ดูท่าว่าพวกเราคงระวังตัวไม่พอสินะ
เราควรจะกลับไปขอเอาอาหารฟรีดีไหมนะ?”
เตรียมตัวออกรบได้แล้ว
ขณะที่มือไม้พวกเขาเต็มไปด้วยอาหาร พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังสนามรบตรงที่กองทัพอันเดดบุกเข้ามาใกล้ (กองทัพต้องเดินด้วยท้องสินะ555)
พวกทหารอันเดดนำรถม้าของพวกมันมาพร้อมกับดาบเอาไว้ตรงสีข้าง  ส่วนพวกอันเดดขนาดกลางที่เอาศพมาจากพวกมอร์จิสกับนูคาลิซก็เตรียมตัวออกอาละวาดแล้ว กองกำลังของโมราต้า เหล่านักบวชแห่งวิหารเทพีเฟรย่า พาลาดิน แล้วก็ผู้เล่นทั้งหลายเตรียมพร้อมเข้าสู่สงครามยืดเยื้อขณะที่พวกอันเดดเองก็เตรียมตั้งแนวบุก
มีผู้เล่นอีกมากมายหลายคนถือธงของลัทธิโจ๊กหญ้า แถมยังมีพวกผู้เล่นระดับสูงที่อพยพมาจากทวีปทางตอนกลางอีกด้วย
คงไม่พูดเกินไปที่จะบอกว่านี่แหละคือสนามรบที่แท้จริง
ข้าชอบที่นี่จัง เหล่าลูกศิษย์ทั้งหลาย เราไปกันเถอะ
ครับ ศิษย์พี่ใหญ่
เหล่านักดาบย่างเท้าเดินหน้ามุ่งไปปะทะกองทัพอันเดด ส่วนพวกอันเดดเองก็กระโจนเข้ามาอย่างดุเดือดโดยที่ไม่รู้อะไรเลย เหล่านักดาบเพียงแค่ฟันไปที่พวกมันเบาๆก็ตายแล้ว จากนั้นพวกเขาก็กระโจนเข้าไปสู่ใจกลางสนามรบที่แท้จริง
 ทุกคนมีทีเด็ดอะไรงัดมาโชว์เลย
ตัวไหนยิ่งแข็งแกร่ง ก็ยิ่งดี
รถม้าประจัญบาน มอร์กิส นูคาลิซ ดูลลาฮาน เดทไนท์ ไม่จำเป็นต้องแยกว่าตัวไหนดีไม่ดี ไม่ว่าตัวไหนที่เข้ามาในระยะโจมตีของเหล่านักดาบ พวกมันก็ถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ ขณะที่พวกเขาทะลวงเข้ามาในวงล้อมของพวกอันเดด พวกเขาก็ต้องแยกกลุ่มออกจากกัน แถมไม่ว่าพวกเขามองไปทางไหนก็มีแต่อันเดดเต็มไปหมด แต่ว่ามันก็โอเค
เหล่านักดาบฟันใส่อันเดดทุกตนที่พวกเขาเห็น
เลือดขึ้นหน้าสุดขีดไปแล้ว!
ในความเป็นจริง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์น่าหงุดหงิดเต็มไปหมด  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะช่ำชองการฟันดาบแล้วก็ฝึกฝนร่างกายจนถึงขีดสุด พวกเขากลับแทบจะไม่ได้ใช้มันในชีวิตจริงได้เลย ตอนที่มีคนเข้ามาหาเรื่องกับพวกเขาก็ต้องกัดฟันทน แล้วก็แกล้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นปล่อยให้มันผ่านๆไป
พวกเขาฝึกตนเองด้วยความอดทนแล้วก็รู้จักควบคุมตนเองให้เป็นหลักคุณธรรมของพวกเขา
เลือดร้อนที่สูบฉีดอยู่ภายในนั้นก็ยิ่งเดือดรุนแรงกว่าคนทั่วไป แต่พวกเขากลับไม่มีที่ให้ระเบิดมันออกมา
โรยัลโร้ดก็คือทางออกที่เอาไว้ระบายอารมณ์สำหรับพวกเขานั่นเอง
เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว พวกเขาก็มักจะมองไปที่คนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าแล้วก็เข้าไปต่อสู้ด้วย
พวกเขาไม่จำเป็นต้องซ่อนสัญชาตญาณสัตว์ป่าเอาไว้ เพราะมันได้ถูกฝังลงลึกเข้าไปในกล้ามเนื้อของพวกเขาแล้ว
เอาเลยยย เจ้าอันเดด! เอาคนที่แข็งแกร่งกว่าแกออกมาซะ!”
เหล่านักดาบรู้สึกตื่นเต้นสุดขีด
พวกเขาเคยว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรแล้วก็ฝึกฝนทักษะมาแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ใช้ร่างกายของพวกเขาออกไปสู้เหมือนกับตอนนี้ได้เลย ความเพลิดเพลินอันล้นพ้นพุ่งทะลักออกมาจนพวกเขาได้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงแต่การจดจ่ออยู่แต่กับการต่อสู้ที่กำลังดุเดือดนี้เท่านั้น!
 “ยังไม่พอ ข้าอยากสู้มากกว่านี้!”
เหล่านักดาบฟาดฟันพวกอันเดดไปแบบสุ่มๆ
พวกเขากระโจนขึ้นไปบนตัวแรดแล้วก็ออกไปสู้ แล้วไล่ฆ่าอันเดดทุกตนที่เห็น
หลักๆแล้วพวกเขามักจะใช้ดาบไปสู้ แต่พวกเขาก็ใช้อาวุธชิ้นไหนก็แล้วแต่อย่าง มีด คทาเหล็ก ขวานแล้วก็โซ่ออกไปสู้ด้วยเช่นกัน
เพราะว่าพวกเขาเชี่ยวชาญทักษะศาสตราวุธ พวกเขาจึงสามารถใช้อาวุธชนิดใดก็ได้ที่พวกเขาต้องการใช้
แม้ว่าอาวุธเหล่านั้นจะมีความแตกต่างทางน้ำหนักและค่าโจมตี แต่ทว่าพลังในการควงข้อมือใช้อาวุธฆ่าฟันศัตรูก็ยังให้ผลลัพธ์เช่นเดิม
นั่นคือการหลอมตัวเองเข้าไปสู่การต่อสู้อันบ้าคลั่งด้วยเทคนิคมากมาย!
-กองทัพอันเดดกำลังล่าถอยกลับไป
การต่อสู้สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของกองกำลังรบของโมราต้า
เพราะว่ามีเหล่านักดาบคอยรับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก เหล่าพาลาดินจึงสามารถกำจัดแม่มดที่ชื่อ เบียงก้า ที่เป็นคนควบคุมกองทัพอันเดดได้ จึงทำให้พวกเขาได้รับชัยชนะมาในที่สุด

จบตอน
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...