วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

เล่ม 23 ตอนที่ 8: ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 23 ตอนที่ 8: ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ แปลโดย Cole’s Myth

มันต้องใช้เวลามากพอสมควรสำหรับพวกอันเดดในการเดินทางไปยังที่ราบนาตาเลีย
พวกโครงกระดูกนั้นเก่งเรื่องการแปรขบวนแถวได้ตราบเท่าที่พวกมันมีขาที่สมบูรณ์ไม่แตกหักและเพราะว่าพวกมันจะเดินตามที่ได้รับคำสั่งมาขณะที่ลากดาบไปตามพื้น แต่กับพวกซอมบี้แล้วก็กูล พวกมันยังเดินตุปัดตุเป๋ไปตามทิศทางที่ผิดพลาดต่อไปเรื่อยๆ
 “กลับเข้าไปในแถวซะ!”
เหล่าเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดระเบียบพวกอันเดดที่มีจำนวนมากกว่า 110,000ตน!
พวกโครงกระดูกมีพลังโจมตีที่สูงดังนั้นพวกมันจึงเป็นประโยชน์มากในการต่อสู้พวกมันสามารถถูกปลุกขึ้นมาอีกได้ถ้าหากว่าจำเป็น มนต์คำสาปสามารถใช้ได้กับพวกซากศพเท่านั้น ดังนั้นการตายไปของพวกมันจึงช่วยยื้อเวลาเอาไว้ในขณะที่บรรดาเนโครแมนเซอร์พยายามปลุกอันเดดขึ้นมาอีกเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้
 “ไม่ว่าพวกมอนสเตอร์จะมีมากขนาดไหนก็ตาม เราก็คงจะเอาชนะพวกมันได้ไม่ยากหรอก
ด้วยกำลังรบของพวกเราคงจะจัดการได้แม้แต่มอนสเตอร์ระดับบอสด้วยซ้ำไป
เหล่าเนโครแมนเซอร์รู้สึกผ่อนคลายเมื่อมองดูกองกำลังอันเดดของพวกเขาอย่างวางใจ แต่ทว่าวีดกลับเฝ้ารอการต่อสู้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
 ‘ฉันต้องล่าให้มากขึ้นไปอีกต้องเอาไอเท็มมาให้ได้มากกว่านี้แต่มีอันเดดมากมายขนาดนี้คงเหลือมอนสเตอร์ให้ฉันล่าได้น้อยลงแน่เลย
แหล่งกำเนิดพลังแห่งความโลภไร้ที่สิ้นสุดได้ปะทุขึ้นมาแล้ว!
ความคาดหวังใดๆก็ตามที่จะเคลียร์ภารกิจให้ได้ด้วยสิทธิ์ทางความคิดที่กระจัดกระจายออกไปผนวกกับความรู้สึกผ่อนคลายอันแสนเพ้อฝันของพวกเนโครแมนเซอร์หลังจากที่พวกเขาได้มาถึงที่ราบนาตาเลียแห่งนี้แล้ว
--------------------------------------------------------------------

 [วิหารเอลแวนซ์]
มันเคยเป็นสถานที่ทางศาสนจักรที่ถูกสร้างขึ้นโดยราชวงศ์ของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดินิฟล์เฮม
- นี่คือสถานที่ที่ถูกฝังเอาไว้ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
-ทำให้ร่างกายของพวกอันเดดอ่อนแอลงและก็ช่วยชำระล้างมนต์คำสาปใดๆก็ตาม
-ความสามารถทางเวทมนต์ของเนโครแมนเซอร์ลดลง -24%
-อันเดดที่ถูกทำลายไปไม่อาจถูกทำให้ฟื้นคืนได้
เส้นสายใยเบาบางของพลังศักดิ์สิทธิ์โผล่ขึ้นมาทันทีจากบนพื้นขณะที่พลังงานนั้นสัมผัสกับร่างกายของพวกเขา มันก็ให้ความรู้สึกอุ่นๆแผ่ออกมาแล้วความแข็งแกร่งก็ตกลงไปจากดาบที่กุมอยู่ในมือ
-ความแข็งแกร่งลดลง -3
-ค่าพลังชีวิตลดลง -240
เพราะผลเอฟเฟคทักษะออร่าแห่งความตายของบัลข่านค่าพลังชีวิตของเขาจึงผนวกเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันก็ยังถือว่าเสียเปรียบอยู่ดีเมื่ออยู่บนที่ราบนาตาเลียแห่งนี้ที่มีออร่ามหาศาลของพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ในยามราตรีอันแสนมืดมิด กระแสคลื่นแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ลุกเหิมเพิ่มขึ้นมาจนดูงดงามมาก แต่สำหรับเหล่าเนโครแมนเซอร์มันกลับเป็นฝันร้ายชัดๆ
 “อึกรุนแรงขนาดนี้เราจะเอาพวกอันเดดเข้าไปโจมตียังไงละ?”
เวทย์มนต์เป็นไง?”
คำสาปหรือเวทย์แห่งความมืดจะอ่อนแอลงขณะที่มันทะลวงเข้าไปในพลังศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ มันคงไปไม่ถึงระยะโจมตีด้วยซ้ำ
เราลองดูก่อนเถอะ
เจนนี่และโอเทมผสานพลังเข้าด้วยกันและกระตุ้นการใช้งานพลังเวทย์แห่งความมืดของพวกเขา แล้วเรียกหมอกพิษออกมา แต่ทว่าพวกมอนสเตอร์ก็เข้าไปซ่อนหลังกำแพงในวิหารเอลแวนซ์ทันที
แม้ว่ามันจะเป็นวิหารแต่กำแพงของมันก็สูงมากจริงๆแถมโครงสร้างมันยังดูกว้างขวางอีกด้วย ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จำนวนมอนสเตอร์นับหมื่นมารวมตัวอยู่ข้างในนั้น
อัตราการขยายพันธุ์ของมอนสเตอร์พวกนี้นั้นเหนือกว่าที่จินตนาการเอาไว้มากgเลยทีเดียว
ไปเร็วเข้า! กระหน่ำห่าฝนพิษชนิดร้ายแรงลงไปเลย!”
กลุ่มเมฆพิษก่อตัวลอยมุ่งไปที่ด้านบนของวิหาร แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มขึ้นมาแบบพรวดพราดแล้วพวกมันก็จางหายไปในที่สุด
 “นี่มันชวนให้ปวดหัวจริงๆเลย
สีหน้าท่าทางของวีดดูบูดบึ้งขณะที่เขามองไปทางวิหาร
นี่คงไม่ใช่ภารกิจที่จะให้ไปพบบัลข่านแบบสูญเปล่าหรอกนะ
พวกเขาต้องทะลวงผ่านสิ่งที่เลวร้ายที่สุดต่อเหล่าอันเดด พลังศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
พลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายนอกของที่ราบนาตาเลียนั้นไม่ได้รุนแรงมากแต่ภายในระยะแสงของวิหารนั้นกลับส่องแสงสว่างเจิดจ้าออกมา
หากมองจากที่ราบที่อยู่ไกลออกไปมันคือภาพของเหล่าอันเดดที่มารวมตัวกันอย่างแสนอับเฉาหดหู่สีหน้าท่าทางของพวกมันดูขมขื่นจากแสงที่ส่องออกมานั้น
เมื่อตอนที่พวกเขาเป็นมนุษย์พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างมาก แต่ทว่าตอนนี้ความสว่างสดใสของมันกลับแยงตาพวกเขาจนแสบตา
 ‘พวกอันเดดยิ่งดูอ่อนไหวต่อพลังงานศักดิ์สิทธิ์มากกว่าซะอีก
เหล่าเนโครแมนเซอร์ไม่สามารถหาหนทางแก้ไขกับสถานการณ์ตอนนี้ได้เลย ทำได้เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆข้างหลังม่านพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เอื้อมมาไม่ถึงตัวพวกเขา
วีดคิดอยู่เสมอว่าเวลาคือเงินดังนั้นเขาจึงสั่งการออกไป
 “เจ้าโครงกระดูกที่อ่อนสุดนะ
ครับนายท่าน
วิ่งตรงไปข้างหน้า
โครงกระดูกที่ตัวเตี้ยที่สุดจากหน่วยของวีดวิ่งตรงไปตามทางของมันไปยังวิหารอย่างเงียบๆโดยไม่โต้แย้งใดๆ
ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นอันเดด พวกมันก็ยังคงมีสัญชาตญาณสัมผัสได้ถึงความตายเช่นนั้นพวกมันจึงรู้สึกหวาดกลัวพลังศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น
แต่ทว่าวีดผู้ยอดเยี่ยมสามารถควบคุมทหารโครงกระดูกของเขาได้อย่างไร้ที่ติด้วยค่าบารมีและความเป็นผู้นำของเขา
ตึกตึกตึกตึก เปรี๊ยะเปรี๊ยะ ตู้ม!
เจ้าโครงกระดูกตนนั้นวิ่งไปข้างหน้าอย่างยากลำบากขณะที่โดนพลังศักดิ์สิทธิ์หวดเข้าใส่มันตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อยๆ
จนเกือบจะถึงครึ่งทางไปที่กำแพงของวิหารก็ดูเหมือนกับว่ามันกำลังโดนเผาด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าค่าพลังชีวิตที่ลดลง มันก็แตกสลายขณะที่เดินลงไป แถมยังไม่อาจเหวี่ยงดาบฟันไปได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

พลังนั้นชำระล้างเจ้าโครงกระดูกตนนั้นจนไม่เหลือซากปล่อยเอาไว้เพียงแค่เหล่าเนโครแมนเซอร์ที่ยืนอ้าปากค้างอยู่
แล้วจากนั้น ครั้งนี้วีดก็ยกนิ้วชี้ไปที่นักรบโครงกระดูกตนหนึ่ง
เดินไปข้างหน้า
รับทราบนายท่าน
เจ้านักรบโครงกระดูกตนนั้นสามารถทนเดินออกไปต่างจากอันเดดก่อนหน้าเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นแต่มันก็ยังไม่อาจเอื้อมไปถึงกำแพงได้อยู่ดี
 “พวกโครงกระดูกดูท่าจะไปไม่ไหวสินะ
เหล่าเนโครแมนเซอร์รู้สึกผิดหวังจากความจริงที่แสนขมขื่นที่บรรดาทหารอันเดดส่วนใหญ่จากภายในกองทัพของพวกเขาไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงเพราะว่าพวกมันเป็นอันเดดโครงกระดูก
ในตอนแรกพวกเขาคิดถึงแต่ความกลัวที่มีต่อพลังศักดิ์สิทธิ์อันแสนคลุมเครือแต่บัดนี้พวกเขาก็สามารถสะกิดใจรู้สึกได้หลังจากที่เห็นภาพของเหล่าโครงกระดูกที่ละลายหายไป
 “เจ้าดูลลาฮานตนนั้นไปข้างหน้าด้วยสิ
ได้ครับข้าจะเชื่อฟังคำสั่งของนายท่าน
เหล่าดูลลาฮานเป็นนักรบที่แสนดุดันมากจริงๆ ด้วยศักยภาพของพวกมัน พวกมันจึงสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายในการต่อสู้ แต่ทว่าวีดกลับใช้มันไปกับการทดลองแบบไม่ยั้ง
เจ้าดูลาฮานที่กำลังเข้าไปใกล้กำแพงก็ดูเหมือนจะกำลังสลายตัวลงไปแล้ว แต่มันกลับตายไปก่อนเพราะการโจมตีของมอนสเตอร์ขณะที่มันกำลังจะทำสำเร็จแล้ว
เมื่อมองไปยังวีดเหล่าเดทไนท์ก็ต่างถูกทิ่มแทงด้วยความอกสั่นขวัญแขวนเพราะว่าครั้งหน้ามันต้องเป็นทีของพวกมันแน่
เหล่าอันเดดต่างกำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวสุดขีดในฐานะที่พวกมันเป็นลูกน้องของวีดผู้ไร้จิตสำนึกไร้ความเห็นอกเห็นใจ
ฮึ่มมมมม
แต่ทว่าวีดก็ยังไม่เรียกอันเดดตนอื่นออกไปหลังจากที่ส่งดูลาฮานออกไปแล้ว
ถ้าดูลลาฮานยังได้ขนาดนี้งั้นพวกอันเดดคงจะสามารถเอาไปสู้ได้อย่างน้อยก็คงแปบเดียว…’
ถ้าหากว่าเขารวบรวมพวกเดทไนท์จากผู้เล่นคนอื่นๆคงจะยากที่จะรวมมาได้มากกว่า 2,000 ตน
ถ้าหากว่าเขาส่งจำนวนมากขนาดนั้นออกไปสู้พวกมันก็คงจะได้อะไรมาบ้างละแต่ว่าพวกมันก็คงจะละลายหายไปจนสิ้นซากอย่างกับไอสครีมตอนหน้าร้อนแน่ๆ
แล้วหลังจากนั้นภารกิจก็จะล้มเหลว
ภารกิจที่ให้ข้อจำกัดเวลาเพียงสี่วันเท่านั้น!
พวกเขาใช้เวลาราวเจ็ดวันเพื่อมาถึงที่นี่เพราะว่าพวกอันเดดนั้นช้าอืดอาดเป็นเต่าคลาน
หากอันเดดของพวกเขาโดนกวาดล้างจนหมดสิ้น พวกเขาคงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะรวบรวมอันเดดจำนวนมากและมีคุณภาพได้ทันการแน่ๆ
มีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
วีดปิดกั้นตนเองดิ่งลงสู่ห้วงความคิดขณะที่เขามองไปยังวิหารข้างหลังของแนวศัตรู(คิดถึงอยู่อย่างเดียวสินะวีดฮ่าๆ)
พวกเขาต้องคิดกลยุทธ์ให้หลากหลายและพิถีพิถันด้วย
 พวกเธอไม่คิดหรอว่าความยากของภารกิจนี้มันสูงเกินไปน่ะ?”
รายละเอียดบอกว่าให้กวาดล้างพวกมันจริงๆน่ะหรอ? นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
มันไม่มีทางออกให้กับพวกอันเดดเลย บางทีคงต้องมีเลเวลสูงๆถึงจะทำภารกิจนี้สำเร็จได้หรือป่าว? ไม่งั้นเราก็คงไม่ถูกหยุดอยู่ที่นี่อย่างนี้หรอก…”
บางทีก่อนหน้านี้เราควรจะออกล่าพวกมอนสเตอร์ก่อนไม่งั้นพวกมันคงไม่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่หรอก แม้ว่าตอนอยู่ที่หุบเขาฉันจะปล่อยให้มอนสเตอร์หลายตัวหนีไปก็เถอะแต่สุดท้ายพวกมันก็คงจะต้องมาหลบอยู่ที่นี่อยู่ดี
เหล่าเนโครแมนเซอร์ไม่สามารถหาหนทางได้เลยในตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดจึงต่างตกอยู่ในความวิตกกังวล
เฮเรียนเดินมาทางที่วีดกับมาเรย์อยู่ ครั้งล่าสุดเธอได้ยินกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมจากวีดดังนั้นเธอจึงเดินมาทางนี้เพื่อขอคำแนะนำ
วีดกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างหน้าดำคร่ำเครียด
 “แจปเท็ม….เครื่องหนังไม่ค่อยดีเท่าไร….ถ้าหากว่ามีสมบัติในวิหารนั้นล่ะก็…”
นั่นดูราวกับว่าเขากำลังพยายามอย่างหนักปิดกั้นตนเองภายในใจที่ดิ้นรนทุรนทุรายอย่างสุดชีวิต!
ไม่แน่ใจว่าคุณกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีที่เคลียร์ภารกิจนี้หรือเปล่าค่ะ?”
เดาจากความหนาแน่นของพวกมอนสเตอร์ความเป็นไปได้ของจำนวนเหรียญทอง เหรียญเงินแล้วก็สมบัติแต่ยังไงต้องมีสมบัติแน่ๆ….”
เจนนี่กับโอเทมก็เดินเข้ามาหาขณะที่เฮเรียนกำลังรอคำตอบจากวีดอยู่
ขณะที่เฝ้าจับตาดูวีดแล้วพวกเขาก็คิดว่าวีดก็เป็นผู้เล่นที่เก่งกาจคนหนึ่งเช่นกัน
มันไม่ยากเลยที่จะยอมรับในความสามารถของเขาตลอดระยะทางที่ฝ่าฟันมาถึงนี่ไม่ใช่ด้วยอาชีพสายนักเวทย์ที่สามารถอัญเชิญอันเดดได้ แต่เป็นอาชีพสายบู้ต่างหาก
ยากมากจริงๆที่จะไม่ยอมรับในตัวเขา
เพียงนับแค่พลังเพียงอย่างเดียวพวกอันเดดของวีดก็ค่อนข้างแข็งแกร่งมากเอาการ
เวลาราวสิบนาทีผ่านพ้นไป วีดก็เขียนคำต่างๆและตัวเลขลงบนพื้นดินด้วยนิ้วของเขา

-เครื่องหนังหยาบมากแล้วก็มีตำหนิงั้นราคา 1,750
-แจปเท็มไอเท็มหลากหลายชนิดมีความเกี่ยวโยงกับภารกิจจัดสินค้าแบบเหมาจ่ายให้กับคุณเมแพน
-วิหารที่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ตามประวัติศาสตร์อาณาจักรนิฟล์เฮมคงไม่พอ
-งั้นเลื่อนการตัดสินใจไปก่อน
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับเจนนี่โอเทมและมาเรย์ว่าไอ้รหัสลับที่ดูเหมือนกับวลีนี่เกี่ยวโยงกับพวกมอนสเตอร์ยังไง
เฮเรียนรอรอรอแล้วก็รอจนในที่สุดเธอก็ถามขึ้นมา
 “มันไม่มีทางที่จะเคลียร์ภารกิจนี้ได้จริงๆใช่ไหมค่ะ?”
ขณะที่วีดมองไปที่วลีเหล่านั้นอย่างรู้สึกขมขื่น เขาก็เงยหน้าขึ้นมา
ครับ?”
คุณไม่ได้กำลังพยายามหาหนทางเคลียร์ภารกิจนี้หรอกหรือคะ?”
เปล่าครับผมแค่กำลังคำนวณอะไรสักอย่างอยู่น่ะ
เอ่อออ…..”
พอลองคิดดูว่าเธอกำลังรอคอยและคาดหวังบางอย่างที่ยอดเยี่ยมจากพฤติกรรมภายนอกของเขา แล้วเธอก็เปลี่ยนความคิดและท่าทีไปอย่างรวดเร็ว
เฮเรียนรู้สึกท้อแท้ที่คิดว่าเธอกำลังคาดหวังอะไรที่ดีจากพฤติกรรมประหลาดๆของวีด
 “หึ ก็นึกว่าจะปิ้งอะไรได้ไม่น่าเสียเวลาเลยเรา
เจนนี่และโอเทมก็กำลังจะกลับไปหาพวกเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆ
แม้ว่าพวกเขาจะกลับไปหาพวกเขาแล้ว มันก็ยังเป็นปัญหาที่หนักหนาเกินไปอยู่ดีที่พวกเขาจะแก้ให้ตกได้ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาพยายามดิ้นรนหาทางออก พวกเขาก็อาจจะค้นพบวิธีที่ดีก็ได้
ณ ตอนนี้พวกเขาต่างอยู่ในจุดที่พวกเขาต้องเร่งหาหนทางให้ได้โดยด่วน
แต่ทว่าวีดก็พูดขึ้นมาราวกับว่ามันก็ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องแก้นิ
เราก็แค่ต้องเข้าไปโจมตีพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในวิหารนั่นซะ
ก็ใช่แต่ยังไงละ?”
มีหลายวิธีจะตายไป
วีดไม่จำเป็นต้องเสียแรงคิดอะไรมากมายเลยในเรื่องจัดการมอนสเตอร์พวกนั้น
เขาตัดสินใจได้ทันที แล้วตอนนี้ก็กำลังตีราคาไอเท็มหลังจากการล่าจบลงไปแล้วต่างหาก
เขาคิดว่าจะจัดการพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างในให้มากๆแล้วก็กอบโกยเอาเลเวลไอเท็มที่ดร็อป แล้วก็ร่างแผนผังคร่าวๆของวิหารหรือแม้แต่สถานที่ที่คาดว่าสมบัติถูกซ่อนเอาไว้ภายในหัวของเขา!
เพราะว่ามันเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์แบบนี้มันจะต้องมีไอเท็มอะไรบางอย่างอยู่ซักที่ในนั้นแน่ๆ ความเป็นไปได้ที่มันจะอยู่ในชั้นใต้ดินนั้นสูงพอควร
เพราะว่าสมบัติชิ้นนั้นอาจจะมีมูลค่าที่สูงมาก เขาจึงตกอยู่ในห้วงความคิดที่แสนเคร่งเครียดเมื่อนึกถึงมัน

เหล่าเนโครแมนเซอร์ส่งต่ออำนาจสั่งการหน่วยอันเดดของพวกเขาไปให้วีด
ไปเถอะน่าาา
เดินไปอีกนิดนึงสิหืม?”
มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพราะว่าพวกอันเดดนั้นไม่เชื่อฟังคำสั่งการของเหล่าเนโครแมนเซอร์อีกต่อไปแล้ว
เดินไปข้างหน้า
รับทราบนายท่าน
เหล่าเดดไนท์จงเชื่อฟังคำสั่งของท่านผู้บัญชาการเท่านั้น
เหล่าอันเดดไม่ได้ต่อต้านคำบัญชาการของวีดเลยแม้แต่น้อย
ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะว่าเขามีร่างกายเป็นเดทไนท์อีกทั้งค่าความเป็นผู้นำที่สูงกับไอเท็มที่เขาสวมใส่ ก็มีอิทธิพลอย่างมากจนน่าขำ
มีหลายเหตุการณ์มากมายที่เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากความเสียหายต่างๆนานาจากสงครามการต่อสู้ขนาดใหญ่ แต่ในท้ายที่สุดวีดก็ได้รับชัยชนะแล้วก็ได้รับฉายาผู้บัญชาการอันเดดผู้โด่งดัง
เมื่อตอนที่เขาเป็นลิช เขาได้ฆ่าคูบิยะภายในเขตลาสฟาลังคซ์ แล้วก็ได้รับฉายานักรบอมตะกลับมาด้วย
เพราะว่าเหตุผลเหล่านั้นบรรดาอันเดดเหล่านั้นจึงเชื่อมั่นและติดตามวีด แม้ว่ามันจะนำพาพวกมันไปสู่ความตาย
พวกมันคืออันเดดที่คงอยู่ได้ด้วยมานาของเหล่าเนโครแมนเซอร์ แต่พวกมันก็ยังคงเคลื่อนที่ตามคำสั่งการของวีด
 “โจมตีเต็มกำลัง วิ่งไปข้างหน้า!”
วีดตะโกนก้องออกมาด้วยเสียงอันดังสนั่น
เหล่าโครงกระดูกและดูลลาฮานวิ่งตรงไปที่วิหารอย่างพร้อมเพรียงกัน
กองกำลังมหาศาลอันเดดทั้ง 11,000 ตนได้โหมกระหน่ำการโจมตีไปแล้ว!
ทันทีที่อันเดดทั้งหมดเข้าไปโจมตี พวกมันก็เริ่มสลายหายไปแถมยังไม่มีเวลามากพอที่จะหามาเพิ่มเติมได้เลย
 “อ๊ากกกกกกก!”
ร้อนมาก ร้อนเกินไปแล้ว!”
เพราะว่าพวกมันฝ่าบุกทะลวงเข้าไปในพลังศักดิ์สิทธิ์ พวกโครงกระดูกจึงเริ่มติดไฟแล้วก็มอดไหม้ในทันที แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีโครงกระดูกตนอื่นๆยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไปพลางก้าวข้ามซากพวกพ้องของพวกมันที่ตายไป
ณ ช่วงเวลากลางคืนเช่นนี้ มีเหล่าโครงกระดูกมากมายที่ลุกไหม้วิ่งลงไปตามที่ราบ
ดูราวกับว่าอันเดดพวกนี้ได้สร้างเส้นทางแห่งกระแสไฟขึ้นมาแม้แต่พวกเนโครแมนเซอร์เองก็ยังรู้สึกกลัวกับภาพที่เห็นนี้

 “เปิดเส้นทางให้พวกมัน กำแพงกระดูก!(Bone Wall)
เวทย์อีกาทมิฬ” (Dark Crow)
เหล่าเนโครแมนเซอร์สนับสนุนพวกอันเดดที่มุ่งหน้าทะลวงเข้าไปด้วยการอัญเชิญกำแพงแห่งโครงกระดูกและต้นพืชที่เติบโตขึ้นมาด้วยการใส่พลังแห่งความมืดเข้าไป
เหล่าโครงกระดูกและดูลลาฮานสามารถเคลื่อนตรงไปข้างหน้าได้อีกเล็กน้อยด้วยการเดินบนโครงกระดูกและต้นพืชทั้งหลาย
แน่นอนละว่ามันคงอยู่ได้ไม่นานมากนักแถมยังถูกเผาเพราะว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุขึ้นมาจากพื้นดินอีก แต่ว่าเหล่าอันเดดก็ยังใช้มันก้าวต่อไปเพื่อเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ
แม้ว่าต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทรมานที่แทบไม่อยากเชื่อ เหล่าอันเดดก็ยังคงเคลื่อนที่ต่อไปอย่างแน่วแน่พร้อมกับรับความเสียหายไปด้วย แผนของวีดก็คือมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆด้วยอันเดดทุกตัวที่มีแล้วก็ต่อสู้ศึกสุดท้ายกับพวกมอนสเตอร์
ตำแหน่งของผู้บัญชาการแห่งกองทัพอันเดดนั้นต้องแบกรับความรับผิดชอบเอาไว้หนักหนาเหลือเกิน
นี่ถือว่าเป็นภารกิจที่ยากมากเกินกว่าที่จะแชร์ให้คนอื่นแต่ว่าก็ไม่มีกลวิธีใดที่ดีไปกว่านี้แล้ว
ถ้าหากเหล่าอันเดดเข้าไปประชิดตัวพวกมอนสเตอร์ได้แล้ว บรรดาเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายก็สามารถสู้ด้วยการใช้ทักษะระเบิดซากศพได้หรือแม้แต่เวทย์คำสาปก็ด้วย
กระแสคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินแบบสุ่มๆที่สร้างความเสียหายให้กับพวกอันเดดอย่างมาก แต่ว่าการระดมกำลังอันเดดทุกๆตัวมาในครั้งเดียวนี้ จึงทำให้พวกมันสามารถขึ้นเหยียบข้ามตัวอื่นๆไปได้นั่นแหละคือแผนการ
นี่มันเป็นไปไม่ได้เลย
ในสถานการณ์เช่นนี้เมื่อความแข็งแกร่งที่ผสานกันนั้นอ่อนแรงลง ก็จะมีพวกเนโครแมนเซอร์ตัดพ้อบ่นออกมาเสียยิ่งกว่าจะเอาเวลาไปร่ายเวทย์สนับสนุนที่จะสามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่หรือว่าพลังป้องกันของเหล่าอันเดดได้
พวกเขาต่างไม่เห็นด้วยกับแผนการของวีดในตอนแรก แต่ทว่าเจนนี่โอเทมเฮเรียนกลับเห็นด้วยกับเขา ฉะนั้นพวกเนโครแมนเซอร์คนอื่นจึงเห็นตามพวกเขาไป
แต่ทว่าตอนนี้พวกอันเดดกำลังข้ามที่ราบโล่งแห่งนี้ แถมยังได้รับความเสียหายมากมายอีก เหล่าเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายจึงเริ่มโต้แย้งขึ้นมา

 “มันยังไม่สายเกินไปนะ หยุดตรงนี้แล้วก็มาหาวิธีใหม่กันดีกว่า
ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ามันเป็นแผนการที่บ้าบิ่นเกินไป ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าพวกมันจะเข้าไปถึงตัววิหารแล้วพวกมันทั้งหมดก็คงจะตายไปก่อนจะได้สู้ด้วยซ้ำ เราก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์พวกนั้นดี พวกเราต้องยกเลิกแผนการโง่ๆนี่ตอนนี้ซะ
เหล่าผู้เล่นทั้งหลายที่เห็นด้วยกับแผนการของวีดเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจในตนเองแล้ว
มันก็พอเข้าใจได้นั่นก็เพราะว่าพวกเขาได้เห็นพวกอันเดดกำลังโดนย่างแล้วก็โดนชำระด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
ก็จริงที่โอกาสที่ภารกิจจะสำเร็จนั้นดูต่ำลงไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าหากว่าพวกเขาหยุดหรือว่าสั่งพวกอันเดดถอนกำลังกลับ ภารกิจนี้ก็คงจบลงไปด้วยความพ่ายแพ้ราบคาบแน่ๆ
พวกเขาควรจะพูดออกไปก่อนที่ปล่อยให้พวกอันเดดเคลื่อนตัวออก แต่ทว่าตอนนี้มันสายเกินแก้เสียแล้ว
นั่นเพราะพวกเขาลงทุนไปกับจำนวนอันเดดมากกว่าครึ่ง!
หลังจากที่พวกเนโครแมนเซอร์เริ่มโต้แย้งออกมา เหล่าอันเดดก็เริ่มเห็นด้วยกับความคิดนั้นเช่นกัน
หากพวกเรายังเดินหน้าต่อไปพวกเราคงเละเป็นโจ๊กแน่ๆ
ข้าไม่อยากจะโดนเผาจนตายอย่างนี้นะ!”
เพราะว่าจำนวนของอันเดดบางตาหายไปมาก สถานการณ์จึงเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาจากเหล่าอันเดดที่เหลือรอดอยู่ ต่างกำลังพยายามขัดคำสั่งของวีด
พวกมันจำต้องผลักอันเดดตนอื่นที่อยู่ข้างหน้าเดินต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าหากการแปรทัพของพวกอันเดดชะงักลงแบบนี้ กองกำลังที่ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังที่ราบก็คงจะถูกเผาหรือละลายหายไป

ขณะที่กำลังขี่อยู่บนหลังการ์กอยล์ วีดก็ชูดาบในตำนานสนิมเขรอะของเขาขึ้นมา
จากนั้นก็เปิดขากรรไกรของเขาออกกว้าง
กลิ่นมีกลิ่นออกมา
ข้ากำลังร้องเพลงแต่ข้าก็ยังคงได้กลิ่นอยู่
แม้นข้าหยุดร้องกลิ่นก็ไม่หายไป
 “……?”
ไร้ทำนองไร้จังหวะเพลง จริงๆแล้วนั่นคือเพลงที่ร้องออกมาในขณะที่เนื้อเพลงนั้นพึ่งเด้งขึ้นมาในหัวนั่นเอง
ถ้อยเสียงของอันเดดที่ร้องออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้งออกจะเพี้ยนไปสักเล็กน้อยดังกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ราบแห่งนี้
เจนนี่ที่กำลังใช้เวทย์อยู่ใกล้ๆกับบริเวณใกล้เคียงกับที่ราบนาตาเลียก็หันหน้ามองไปรอบๆ
“…….?”

 “คนที่ร้องเพลงแบบนี้…”
เฮเรียน โอเทม โบรัม กรูเซด วาเรนน่าและเนโครแมนเซอร์ระดับสูงคนอื่นๆ ต่างก็หยุดชะงักกับสิ่งที่ตนเองกำลังทำเช่นกัน แล้วพวกเขาทุกคนก็ต่างจ้องมองไปตรงที่วีดยืนอยู่
มันคือเพลงที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ไม่มีทางแน่นอนที่เพลงเนื้อมั่วซั่วแบบนี้จะเคยถูกแต่งขึ้นมาก่อนหน้านี้
แต่พวกเขาต่างก็รู้ว่าใครคือคนที่ร้องเพลงอย่างนี้ในการต่อสู้
วันนี้เป็นค่ำคืนที่แสนมืดมน มืดมนสุดๆ
ข้าคืออัศวินแห่งความตาย
ข้าคือเดทไนท์ผู้ที่ไม่ได้ล้างหน้า
แถมฉันยังไม่ต้องล้างเท้าด้วยเช่นกัน
 “เทพสงคราม…”
นั่นวีดนิ!”
พวกเขาต่างก็มีข้อสงสัยต่างๆนาๆเพราะว่าเขาเป็นคนเดียวที่เลือกคลาสสายบู้ แถมยังก้าวหน้าไปไกลกว่าคนอื่นๆ
แต่คนๆนั้นกำลังร้องเพลงที่น่าขำออกมาเพลงที่แสนไม่ได้เรื่องที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้แน่ๆ
แม้แต่พวกผู้เล่นคุณปู่คุณย่ารุ่นอาวุโสทั้งหลายภายในทวีปเวอร์เซลยังรู้จักเขาเลยพวกเขาต่างดูวิดีโอของเขาโต้รุ่งด้วยหัวใจที่สั่นระรัว
ทุกๆอย่างเป็นที่ประจักษ์แล้ว ณ ตอนนี้
 “วีดคนนั้นอยู่กับพวกเรา…”
ใช้เวทย์มนต์ทำลายวิหารนั่น แล้วก็ฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดให้สิ้นซาก!”
เหล่าเนโครแมนเซอร์ที่ต่างพูดเป็นเสียงว่าภารกิจนี้ไม่มีทางสำเร็จตั้งแต่แรกแล้วเริ่มผลิดอกจิตใจที่ฮึกเหิมของพวกเขา
มาเรย์รอคอยให้วีดร้องเพลงออกมา จากนั้นเขาก็ดึงฮาร์ปที่ทำขึ้นโดยเหล่าคนแคระออกมาเพื่อบรรเลงทำนองให้ผสานเข้ากับเพลงที่แต่งขึ้นมาสดๆของวีด
นี่มันยากกว่าแต่งเพลงใหม่ซะอีกแหะ
จินตกวีที่เก่งที่สุดกำลังสอดผสานท่วงทำนองเข้ากับบทเพลงของวีด
เวรเอ้ย เวรเอ้ย
ราคาเมล่อนขึ้นซะแล้ว
สตอเบอรรี่ก็แพงฉิบหาย
ส้มแมนดารินกินแล้วคุ้มดีจริง
อย่ากินอะไรตอนกลางคืนละ
เข้านอนให้เร็วเป็นดีที่สุด
พวกอันเดดที่มารวมตัวที่นี่ เอ้ามาร้องเพลงกัน
อันเดดที่รักของข้าที่ไม่รู้จักความหิวโหยหรือเหน็ดเหนื่อย
พวกแกจงมุ่งไปข้างหน้าซะ
ทันทีที่วีดร้องเพลงจบลง เขาก็ดึงแตรเขาสัตว์ออกมา
นั่นคือแตรประกาศชัยชนะแห่งเทรเซิร์ก
ไอเท็มเอกลักษณ์ที่ดึงความสามารถอันน่าเหลือเชื่อส่งไปให้เหล่าทหารได้
มันคือสมบัติที่สามารถทำให้คนๆหนึ่งโด่งดังขึ้นมาเพียงแค่ครอบครองมันเอาไว้
วีดวางปากของเขาใส่ที่แตรเขาสัตว์แล้วก็เป่ามันสุดแรงเกิด
ปู้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!(ตื่อ ดื๊อ!!!!!)
·       กำลังใจของเหล่าอันเดดกำลังเพิ่มขึ้น
·       เหล่าอันเดดต่างกระหายในชัยชนะ
·       ศักยภาพทางร่างกายเพิ่มขึ้นชั่วคราว +120%
·       สิ่งเลวร้ายจะเกิดกับเหล่าศัตรูบ่อยขึ้น
บุกกกกก!”
ทันใดนั้นวีดก็ใช้ทักษะราชสีห์คำรามออกมา
จากนั้นเหล่าอันเดดที่กระด้างกระเดื่องก็เริ่มรุดหน้าไปยังวิหารอย่างพร้อมเพรียงกัน
แม้ว่าพวกอันเดดที่กำลังเจ็บปวดจากพลังศักดิ์สิทธิ์ก็เร่งความเร็วขึ้นแล้วก็วิ่งตรงไปข้างหน้า
แม้พวกมันจะอ่อนแอลงเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าพวกมันก็ออกไปสู้ด้วยการก้าวข้ามขีดความสามารถของพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหล่าโครงกระดูกที่บาดเจ็บอยู่ในสถานะที่พูดออกมาได้แล้ว พวกมันจึงมุ่งเข้าไปใกล้กับวิหาร
เหล่าโครงกระดูกที่แข็งแกร่งและดุดันก้าวขึ้นเหยียบหัวและไหล่ของพวกพ้องของพวกมัน แล้วก็กระโจนไปข้างหน้า
 “ได้เวลาเคลื่อนพลเหล่าเดดไนท์แล้ว
วีดบินสูงขึ้นไป ขณะที่ขี่บนการ์กอยล์
เหล่าลูกสมุนเดทไนท์ก็ได้ขึ้นขี่บนการ์กอยเช่นเดียวกัน พร้อมกับบินขึ้นไปอยู่ข้างๆวีด
อัญเชิญอาชาปีศาจ!”
เหล่าเดทไนท์ที่ถูกสั่งการโดยเหล่าเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆขี่อยู่บนม้าปีศาจที่ถูกอัญเชิญออกมาโดยเจ้านายของพวกมัน
พลังศักดิ์สิทธิ์จากที่ราบนาตาเลียเพิ่มสูงเสียดฟ้า แต่เหล่าอันเดดเคลื่อนพลครอบคลุมภาคพื้นดิน
ส่วนพวกอันเดดก็กลายไปเป็นโล่
ไม่ว่าจะทะลวงผ่านพวกอันเดดเข้าไปหรือว่าหลบหลีกกระแสคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นมา มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะเข้าไปใกล้ๆวิหารจากบนท้องฟ้าขณะที่บินอยู่แบบนี้
ไปกันเถอะ!”
วีดบินไปพร้อมกับหน่วยเดทไนท์ของเขา มุ่งหน้าไปยังวิหาร ขณะเดียวกันพวกอันเดดก็ไปถึงแล้วก็เข้าพังกำแพงจากสามทิศทางพลางเข้าไปสู้กับพวกมอนสเตอร์
ในขณะที่ค่าพลังชีวิตของอันเดดเกือบจะหมดลง พวกมันก็สละตนเองเข้ารับการโจมตี
 ‘แต่ยังซะไงพวกมันก็ยังอ่อนแอมากอยู่ดี
อย่างที่เขาคาดเอาไว้พวกมอนสเตอร์นั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
มันไม่ได้มีจำนวนมากพอๆกับพวกอันเดด แต่ว่าพวกมอนสเตอร์มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เอ่อล้นออกมาเป็นเกราะกำบัง
เหล่าอันเดดจำนวนมากวิ่งเข้าใส่พวกมอนสเตอร์ มีอันเดดราวๆ 3-4 ตนเกาะติดมอนสเตอร์ตัวนึง
 “ลงไปที่พื้นกันเถอะ
วีดร่อนเข้าไปภายในวิหารด้วยการขี่การ์กอยล์
เขาสามารถเห็นแสงสว่างเจิดจ้ารวมตัวกันเป็นกระจุกๆบนพื้นดิน
แสงที่รวมตัวกันนั้นเจาะผ่านพื้นดินขึ้นมาสายพลังศักดิ์สิทธิ์เส้นหนาๆก็โผล่ขึ้นมา ดูคุกคามเป็นอย่างยิ่ง
เดทไนท์บางตนตกลงไปจากการ์กอยล์ของพวกมัน แต่บางตนก็หลบได้แบบหวุดหวิดจากนั้นก็ร่อนลงพื้นเข้าไปในเขตวิหารได้อย่างปลอดภัย
-ท่านได้มาถึงวิหารเอลแวนซ์แล้ว
      เนื่องจากมีพลังงานศักดิ์สิทธิ์อยู่เหลือล้นพลังทางกายภาพจะลดลง -45%
      ค่าพลังชีวิตลดลง -300 ในทุกๆวินาที
มันยากสำหรับอันเดดที่จะต้องเคลื่อนไหวเมื่ออยู่ภายในวิหารหรือว่าตัวเมืองใหญ่ๆ
มันไม่ใช่ที่สำหรับเดทไนท์ที่จะสามารถอดทนยืนหยัดได้เป็นเวลานานมากนัก
เหล่ามอนสเตอร์มุ่งหน้าตรงมาที่วีดแบบไม่หยุดหย่อน
 “นั่นมันพวกอันเดดนิ ฆ่าพวกมัน กำจัดพวกมันให้สิ้นซากซะ
เดดไนท์ตนนั้นสั่งการพวกอันเดดอยู่!”
เหล่ามอมสเตอร์มีความสามารถในการใช้ความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ดังนั้นพวกมันจึงเล็งเป้าโจมตีไปที่วีดก่อนใคร เพราะว่าถ้าหากวีดตายไป เขาก็จะไม่ได้ตายไปเพียงลำพัง แต่ยังสั่นคลอนอันเดดทุกๆตนที่เป็นลูกน้องเพราะสูญเสียคำบัญชาการ
สำหรับมนุษย์หรือว่าเอลฟ์นี่ถือว่ามีอิทธิพลต่ำมาก แต่สำหรับพวกอันเดดการสูญเสียคำบัญชาการกลายเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างยิ่ง!
แน่นอนละว่าสำหรับพวกออร์คเรื่องแบบนี้นั้นไม่สำคัญเลยว่าผู้บัญชาการของพวกมันจะตายไปแล้วหรือเปล่า ใครที่ถือดาบเอาไว้ในมือแล้วตระโกนออกไปก่อนตนอื่น เจ้านั่นละจะกลายเป็นหัวหน้าออร์คไปในทันที
 “วิชาดาบเฮอเรม!”
วีดสำแดงทักษะการโจมตีของเขาออกมา แล้วก็ฟันเข้าใส่เหล่ามอนสเตอร์ทั้งหลาย
เลเวลทักษะดาบเฮอเรมของเขาตอนนี้เพิ่มขึ้นแล้ว จนทำให้เขาสามารถโจมตีต่อเนื่องได้ถึง 13 ครั้ง แล้วทุกๆการโจมตีก็จะเพิ่มค่าความแข็งแกร่ง ค่าความว่องไวและค่าพลังทำลายล้างของเขาให้มากขึ้น
เพราะว่าการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในทักษะของเขาไม่ไกลเกินเอื้อม แล้วความเชี่ยวชาญทักษะนักดาบของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เหล่าลูกสมุนเดทไนท์ของวีดต่อสู้ไปด้วยกันกับเขาพลางปกป้องเขาไปพร้อมกันด้วย

 “ว้าวเขาน่าทึ่งมากจริงๆถึงแม้ว่าเขาจะเป็นวีดแล้วก็พยายามเคลียร์ภารกิจให้ได้เขากล้ากระโดดเข้าไปในที่ที่มีฝูงมอนสเตอร์ชุกชุมแบบนั้นได้ยังไงกันนะ?
ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจในตัวเขานะ จนเขาขึ้นไปขี่การ์กอยล์แล้วเขาก็กระโจนเข้าไปในนั้นจริงๆ เขาไม่คิดว่าชีวิตของเขามีค่าแล้วหรือไงนะ
เหล่าเนโครแมนเซอร์ต่างรู้สึกประทับใจอย่างมากกับการกระทำที่อาจหาญของวีด
ผู้บัญชาการกองทัพกระโดดเข้าไปในฐานทัพศัตรูที่เต็มไปด้วยอันตรายเพียงเพื่อชัยชนะ!
เป็นอย่างที่ข่าวลือว่าไว้เลย
มีโอกาสที่จะชนะการต่อสู้นี้จริงๆ
วีดได้จุดไฟแห่งความหวังและความกล้าให้กับเหล่าเนโครแมนเซอร์
จากนั้นเหล่าเนโครแมนเซอร์ก็ฟื้นพลังชีวิตให้กับพวกอันเดดที่ยังไม่ถูกทำลายไปจนสิ้นซาก แล้วก็เสริมความแข็งแกร่งพวกมันด้วยเวทย์เสริมกำลัง
 “ข้างหน้านี่ค่อนข้างปลอดภัยขึ้นมาแล้ว ตอนนี้ละบุกเข้าไปเลย
ดินแดนแห่งนี้ถูกทำให้เปรอะเปื้อนไปด้วยซากศพของพวกอันเดดที่ตายไป
พลังศักดิ์สิทธิ์จึงไม่สามารถโผล่ขึ้นมาข้างบนได้ ทำได้เพียงเผากองซากพวกอันเดดที่ตายไปแล้วเท่านั้น
เหล่าเนโครแมนเซอร์ขึ้นขี่บนหลังพวกกูลแล้วมุ่งหน้าไปยังวิหารจนอยู่ใกล้มากพอที่จะสาดเวทย์มนต์ใส่ได้แล้ว

 “โจมตี!”
ขณะที่วีดกำลังหลอกล่อมอนสเตอร์และใส่กำลังให้มากขึ้นเพื่อล่าพวกมันให้ได้เยอะๆ เขาก็เหลือบมองไปทางด้านข้าง
เขากำลังทำการโจมตีพวกมอนสเตอร์อยู่ภายในเขตวิหารด้วยกันกับเหล่าเดทไนท์ที่ไร้ซึ่งความกลัว เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมอนสเตอร์ตื่นตัวมากขึ้น
ยิ่งกว่านั้นก็ได้แสดงถึงความกล้าหาญออกมาด้วยการออกไปอยู่แนวหน้า เขาจัดขบวนทัพให้พวกอันเดดออกไปสู้ก่อน จากนั้นเขาก็รอโอกาสเหมาะๆอยู่ข้างหลัง!
 “ฉันมั่นใจว่าต้องมีสมบัติล้ำค่าอยู่ซักที่ในวิหารนั่นแน่ๆ
ความกระหายในไอเท็มของเขาชักนำเขามาจนถึงภายในเขตของวิหาร
ถ้าหากว่าเขามาพร้อมกับเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆหลังจากที่การต่อสู้จบสิ้นไปแล้วเขาคงจะต้องแบ่งสมบัติให้กับคนอื่นแน่ๆ
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแบ่งปันสมบัติไปหากว่าเขาแอบหยิบมันไปอย่างลับๆ
ตอนนี้แหละคือโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะตรวจค้นทั่วทั้งวิหาร
ซู่วววววววว!
เบื้องหน้าสายตาของเขา กระแสพลังศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวแล้วพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่วนที่อยู่ไกลออกไปทางพื้นดิน ก็ถูกถล่มเข้าใส่ด้วยเวทย์ที่ร่ายโดยเหล่าเนโครแมนเซอร์และนักเวทย์โครงกระดูก
หลังจากที่ขยับเคลื่อนแถวเหล่าอันเดดเข้าไปใกล้ในเขตทีละนิดทีละหน่อย เหล่าเนโครแมนเซอร์ก็มุ่งหน้าไปทางที่ราบนาตาเลีย
ต้องมีสมบัติอยู่ซักที่แน่ๆ ฉันคงต้องหาดูตรงแถวๆซากปรักหักพังหรือไม่ก็แถวๆบันไดลงไปชั้นล่าง
แม้แต่กับวีดเองก็ถือว่ายากมากที่จะค้นพบเงื่อนงำเกี่ยวกับสมบัติ เพราะว่ามีพวกมอนสเตอร์กับซากปรักหักพังมากมายขนาดนี้
เพราะว่าพวกมอนสเตอร์เอาแต่เล็งเป้าไปที่วีด แถมเขายังมัวยุ่งอยู่แต่กับการต่อสู้ไปพร้อมกับเหล่าเดทไนท์ทั้งหลาย
ฆ่าพวกมันให้หมด!”
เขาออกคำสั่งเพื่อเพิ่มกำลังใจของเหล่าเดทไนท์
ข้าจะทำตามคำสั่งของท่านผู้บัญชาการครับ
ฆ่าพวกมอนสเตอร์ให้สิ้นซาก!”
คลาสของวีดคือเดทไนท์สายบู๊
แม้ว่าเขาจะมีลูกน้องที่มีคลาสเดียวกันอยู่ แต่มันก็ไม่สำคัญ อย่างเช่นว่าพวกมอนสเตอร์นั้นยังมีจำนวนที่มากกว่า
เพราะว่าสำหรับอันเดดนั้นมันยากมากที่จะยืนหยัดภายในวิหารได้ ดังนั้นเหล่าเดทไนท์จึงไม่อาจทนต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป แล้วก็เริ่มล้มลง
ค่าพลังชีวิตของวีดลดลงไปเร็วมากจนน่าหวาดหวั่น
สำหรับภาพนั้นในมุมมองของคนอื่น นั่นกลับเป็นได้ทั้งภาพของความกล้าหาญไร้ซึ่งความกลัวหรือเป็นความเสียสติไปแล้ว
 ‘ไม่มีเหตุผลเลยแหะว่าทำไมวิหารเก่าและเปลี่ยวร้างเช่นนี้ถึงได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์มากมายขนาดนี้
ถ้าหากว่าวีดไม่ได้มีความรู้สึกที่อยากจะได้สมบัติมหาศาลจากที่แห่งนี้ เขาก็คงไม่เริ่มต้นการต่อสู้ที่สิ้นคิดแบบนี้หรอก
เดาว่าฉันคงไม่มีทางเลือกสินะ
วีดหยิบประติมากรรมออกมาจากช่องบริเวณสีข้างของเขา
มันไม่ใช่ทั้งผลงานประติมากรรมชั้นดีหรือว่ามาสเตอร์พีส
มันแกะสลักมาจากไม้เป็นประติมากรรมรูปร่างพายุฝนที่ได้แบบมาจากพายุที่เขาเจอตอนเดินเรือกลับมาจากเขตลาสฟาลังคซ์
------------------------------------------------------------------------------
พายุฝนอันดำทะมึนและสายฟ้า
ประติมากรรมที่ทำขึ้นมาจากไม้ที่ถูกแกะออกมาจากเสากระโดงเรือและถังไวน์บนเรือผีสิง
ด้วยกระดานไม้กว้างสองแผ่นที่สื่อถึงผืนโลกและท้องฟ้าที่มีสายฟ้าและลมพายุหมุนพัดโหมกระหน่ำ
เนื่องจากมีวัสดุแกะสลักที่จำกัด มันจึงขาดการแสดงออกทางศิลปะ
กลิ่นของไวน์ที่ไม่จางหายไปยังคงคละคลุ้งส่งกลิ่นฟุ้งออกมา
คุณค่าทางศิลปะ: 49
ยังไงซะประติมากรรมชิ้นนี้ก็ไม่มีมูลค่ามากพอที่จะเอาไปขาย
แต่ทว่าวีดเก็บมันเอาไว้ดั่งของรักของหวง เฝ้ารอวันเวลาที่จะได้ใช้ผลงานชิ้นนี้
เวลาเหมาะก็วันนี้นี่แหละ
วีดตัดสินใจที่จะใช้ทักษะประติมากรรมลับของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มใช้มันในทันที
 “ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ!”
-ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติได้ถูกใช้แล้ว
      ค่าสถานะทางศิลปะลดลงถาวร -20
      ค่าพลังชีวิตและมานาถูกใช้ไปอย่างละ 20,000 แต้ม
      ค่าสถานะทั้งหมดลดลง -15% เป็นเวลาสี่วัน
      ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติลดต่ำลง
      ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งต่อวัน
      เมื่อมหัตภัยที่แสนอันตรายนี้ถูกเรียกออกมา ค่าชื่อเสียงดีและชื่อเสียงเสียจะเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้น
      ท่านสามารถตายท่ามกลางมหันตภัยนี้ได้ ดังนั้นโปรดระวัง
แม้ว่าจะยังเหลือมอนสเตอร์อีกเป็นจำนวนมากวีดก็ทิ้งดาบของเขาลงแล้วก็หมอบลงไปกับพื้น
 “เดทไนท์! ทิ้งดาบของพวกแกแล้วก็หมอบลงซะ!”
เหล่าเดทไนท์ไม่สามารถทำตามคำสั่งที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ได้ขณะที่พวกมันกำลังต่อสู้อยู่
จากนั้นวีดก็ออกคำสั่งอีกครั้ง
ขว้างดาบของพวกแกทิ้งไปแล้วก็ป้องกันตัวด้วยโล่ไม้แทน
เหล่าเดทไนท์โยนดาบสนิมเขรอะของพวกมันทิ้งไป แล้วก็ยกโล่ไม้พื้นฐานขึ้นสกัดการโจมตี
มันทั้งแตกแล้วก็ผุพังดังนั้นจึงไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะยังทำหน้าที่เป็นโล่ได้ไหม แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ด้วยการรับการโจมตีของพวกมอนสเตอร์จากอีกฝั่งราวๆ 10 วินาที วีดก็ค่อยๆโผล่หัวขึ้นมา
ทักษะล้มเหลวเหรอ?”
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัตินั้นจะมีพลังทำลายที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ว่ามันก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญทักษะนี้แยกออกไปต่างหาก
ขณะที่วีดรู้สึกงงงวยอย่างมาก ประติมากรรมไม้ที่เขาใช้ไปก็สลายกลายเป็นเม็ดทรายละเอียด แล้วก็ลอยกระจัดกระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง
กร๊าวววว! ฆ่าเดทไนท์พวกนั้นซะ!”
พวกมอนสเตอร์กำลังต่อสู้กับเหล่าเดทไนท์ด้วยขวานของพวกมัน
เปรี๊ยงงงงงง!
ทันใดนั้นสายฟ้าฟาดเข้าใส่พวกมอนสเตอร์!
เป็นผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อมาก มอนสเตอร์หกตัวที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงถูกเผาจนไหม้เกรียม
ความรู้สึกผิดหวังอย่างมากตกลงสู่วีด ผู้ที่คาดหวังว่ามันจะมีพลังทำลายที่น่าเหลือเชื่อมากกว่านี้
งั้นฉันควรจะใช้ผลงานระดับมาสเตอร์พีสกับทักษะนี้เป็นหลักสินะ?”
แม้ว่ามันจะเป็นทักษะแกะสลักลับ แต่ทว่าภัยพิบัติแบบนี้ให้ความรู้สึกว่างเปล่า
มันเป็นพลังพอๆกับเวทย์สายฟ้าฟาดที่พวกนักเวทย์เขาใช้กันเสียมากกว่า
แม้ว่ามันไม่ใช่บางอย่างที่เปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้ไปได้อย่างสิ้นเชิง แต่มันกลับไม่เป็นประโยชน์สำหรับวีดเลย ที่ต้องทนทรมานเรียนรู้ทักษะนี้ ถ้ามันจะกลายมาเป็นทักษะพื้นๆแบบนี้
ทันใดนั้นเอง แม้ว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็นมัน เพราะว่ามันยังเป็นเวลาเช้าตรู่อยู่ ดาวที่ประดับอยู่บนท้องฟ้านั้นค่อยๆหลบซ่อนตัวพวกมันเอง
ไม่นานนัก เมฆดำทะมึนก็ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า แล้วส่งเสียงออกมาดังก้องกังวานแบบผิดปรกติ
ครึ้มมมมมมมมมมมมมมมมม!
มันสาดอากาศเย็นยะเยือกดังเป็นลางบอกเหตุ
แกมาช้านะ
จากนั้นวีดก็หย่อนตัวเขาลงไปซ่อนในหลุมอย่างเร่งด่วน
จบตอน
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

14 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับวีดเล่นของแรงมาทดลองเลย

    ตอบลบ
  2. ^ ^
    มาแว้วๆ ขอบคุณครับ แอด

    ตอบลบ
  3. ทักษะโหดนรกแตก เหนือกว่าอาชีพอื่นแล้วมั้ง!?

    ตอบลบ
  4. ตอนจบทำไมอ่านแล้วตลก 55555

    ตอบลบ
  5. หลบในหลุมอย่างไวอิอิ ขอบคุณนะ

    ตอบลบ
  6. ก๊อดเอเนล จะปล่อยสายฟ้า มาถล่มเกาะแล้วสินะ

    ตอบลบ
  7. สนุกมาก ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  8. วีดเอ้ย หนีลงหลุมไวยิ่งกว่าผีซะอีก 55555 ขอบคุณผุ้แปลและทีมงานทุกท่านค่ะ

    ตอบลบ
  9. เกลียดเพลงแกมาก อ่านไปขำไป โดยเฉพาะตอนบ่นของแพง 55555

    ตอบลบ
  10. ยาวๆปายยย...
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...