วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

เล่ม 23 ตอนที่ 9: การจู่โจมของกิลด์เฮอร์มีส แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 23 ตอนที่ 9: การจู่โจมของกิลด์เฮอร์มีส แปลโดย Cole’s Myth

เบื้องบนท้องนภากำลังฉายแสงอัสนีบาตฟาดลงสู่พื้นพิภพ
ครึ้มมมมมมมมมมม
ตู้มมม เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี๊ยงงงงงง!
ในทิศทางการเคลื่อนตัวของหมู่เมฆดำทะมึน ก่อตัวดูราวกับว่าสายฟ้าเหล่านั้นกำลังกรีดผืนดินด้วยกรงเล็บสัตว์ที่คมกริบดั่งใบมีด ด้วยพลังอำนาจที่แผดเผาพื้นโลก ได้ปัดเป่าสิ่งก่อสร้างไปจนหมดสิ้น ฉีกกระชากมวลไม้ออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมแผดเผาเหล่ามอนสเตอร์จนไหม้เกรียม
กร๊าคคคคคคคคคคคคคค!
แกร๊วววววววววววววววว!
ระลอกคลื่นของมวลเมฆสีดำทะมึนเหนือวิหารได้สะท้อนเป็นภาพปรากฏเบื้องหน้าต่อเหล่าเนโครแมนเซอร์ออกมา ระเบิดฉีกกระชากผืนดินด้วยสายฟ้าอันน่าหวาดหวั่น ทุกๆครั้งที่สายฟ้าฟาดลงใส่พื้นดินก็จะเปล่งแสงสว่างวาบจนแสบตา เมื่อได้ยินเสียงสายฟ้าดังออกมาจากวิหาร พวกเขาก็สามารเดาได้ว่ามันคือพลังอันน่าเหลือเชื่อ
สุดยอดจริงๆ นั่นมันเวทย์โจมตีของวีดหรอ?”
พลังของมันเหนือกว่าเวทย์ระดับใหญ่….ต้องมีจำนวนมอนสเตอร์ตายไปเยอะแน่ๆ
นี่เป็นเพียงความคิดของเหล่าเนโครแมนเซอร์ที่คิดว่าต้องมีพวกมอนสเตอร์ภายในวิหารตายไปเป็นจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอน ดาบที่พวกมันถือเอาไว้ถือว่าเป็นเป้าอย่างดีในการล่อสายฟ้าที่ผ่าลงมา
พวกมอนสเตอร์ที่โดนสายฟ้าผ่าใส่เข้าจังๆก็กลายเป็นแสงสีเทาแล้วก็สลายร่างหายไปในทันที
แต่ว่าก็ยังมีสายฟ้าบางส่วนที่เป็นพลังส่วนเกินเอ่อล้นออกมากระจายไปทั่วบริเวณใกล้เคียง จนสายฟ้านั้นสังหารมอนสเตอร์ตัวอื่นๆไปอีกมากมาย แถมยังทำค่าความเสียหายต่อพลังชีวิตพวกมันได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
โดยปกติแล้วหลังจากที่พลังเวทย์อันยิ่งใหญ่นั้นถูกใช้ออกไป เหล่านักเวทย์มักจะรอชื่นชมผลลัพธ์ของเวทมนต์ที่พวกเขาได้ร่ายออกไปแล้ว แต่ไม่ใช่กับวีด เขาไม่ได้มีอารมณ์สุนทรีพอที่จะทำอะไรแบบนั้น
ฉันต้องมีชีวิตรอดให้ได้
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงง!
เมื่อไรก็ตามที่เขาได้ยินเสียงฟ้าผ่า เขาจะใช้มือทั้งสองข้างขุดหลุมลงไปลึกเรื่อยๆเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่โดนผ่าใส่ เป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่ไร้ขอบเขตเสียจริง เขากำลังขุดหลุมเร็วเสียยิ่งกว่าสุนัขที่พยายามขุดหาขนมที่เขาซ่อนเอาไว้วันก่อนซะอีก!
เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าฟ้าผ่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ มันเป็นเพียงแค่ความคิดลองดีเพื่อพิสูจน์ว่าสายฟ้านี้จะรุนแรงไหม ด้วยการพยายามพิสูจน์ว่ามันเหมาะสมไหมที่จะเป็นหนึ่งใน มหาภัยพิบัติจากทักษะแกะสลักธรรมชาติ ก็เท่านั้นเอง
เสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกมอนสเตอร์ดังออกมาขณะที่พวกมันกำลังตายไป!
สิ่งก่อสร้างโดยรอบพังทลายลงจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงแต่สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเสียงระเบิดอันดังสนั่นไปทั่ว
ขณะที่วิหารแห่งนี้ก็กำลังดูดค่าพลังชีวิตของพวกอันเดดทั้งหมดลงไปเรื่อยๆ ถ้ายิ่งในเวลาเช่นนี้ วีดโดนสายฟ้าฟาดใส่ เวลานั้นคงไม่ได้การันตีชีวิตของเขาแน่ว่าจะรอดหรือเปล่า
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ มันคือทักษะการต่อสู้ที่แสดงพลังทำลายในวงกว้าง ถึงจะคิดมาหลายครั้งแล้ว แต่มันก็ยังเกินกว่าที่เขาคาดไว้อยู่ดี ปัญหาเพียงอย่างเดียวของทักษะนี้ก็คือวีดต้องเผชิญหน้ากับทักษะนี้ด้วยเช่นกัน
วีดกำลังต่อสู้ในที่แบบนั้นงั้นหรอ
ไม่ใช่ทุกคนจะกลายไปเป็นเทพสงครามได้หรอกนะ
เขากล้ากระโดดเข้าไปในสถานการณ์เสี่ยงตายแล้วก็เริ่มการต่อสู้แบบนั้นได้ยังไงกันนะ?”
เหล่าเนโครแมนเซอร์ต่างยกนิ้วขึ้นไปที่ทิศทางของวิหาร พวกเขาต่างจินตนาการถึงเดทไนท์วีดผู้ที่กำลังสังหารมอนสเตอร์ ผ้าคลุมไหล่โบกสะบัดไปมาท่ามกลางสถานที่ที่พวกเขาตั้งชื่อเรียกว่า นรกแห่งอัสนีบาต
เป็นฉากที่ยอดเยี่ยมกว่าในหนังหลายๆเรื่องซะอีก
พวกเราก็ออกไปสู้ให้ดุเดือดกว่านี้กันเถอะ!”
เหล่าเนโครแมนเซอร์ดึงตนเองเข้าไปใกล้วิหาร แล้วก็ร่ายเวทย์สนับสนุนไปที่พวกอันเดด โชคดีที่ฟ้าผ่าหยุดลงไปแล้วภายในเวลาสามนาที แต่สำหรับพวกที่ต้องประสบพบเจอด้วยตัวเอง ช่วงเวลานั้นเหมือนถูกฉุดเอาไว้อย่างไร้ที่สิ้นสุด
มอนสเตอร์ส่วนใหญ่จำต้องยืนหยัดต่อสู้ตัวเปล่าๆท่ามกลางพายุสายฟ้า มันสร้างความเสียหายอย่างเจ็บปวดต่อค่าพลังชีวิตและค่าสถานะที่พูดได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้ แถมค่ากำลังใจในการต่อสู้เองก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ
อึกหมดแล้วใช่ไหมนะ?”
วีดโผล่หัวขึ้นมาจากหลุมหลังจากที่เสียงหยุดไป ถ้าดูไม่ผิด เขาก็ดูท่าทางเหมือนกับตัวตุ่นก็ไม่ปาน แต่ว่าการรอดชีวิตคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ครึ้มมมม…..
ฟุ๊บ!
ทันทีที่เขาได้ยินเสียงสัญญาณของสายฟ้าอีก เขาก็เอาผ้าคลุมไหล่ปกหัวของตัวเองเอาไว้ แล้วก็หุบตัวเข้าไปซ่อนในหลุมอีกครั้ง
ลำแสงสายฟ้าบางเส้นยังคงผ่าลงมาเป็นพักๆ หลังจากที่หายใจลึกๆอีกสองสามครั้ง วีดก็ตรวจสอบสถานการณ์อย่างใจเย็นแล้วจากนั้นเขาก็ออกมาจากหลุม
ตายไปเยอะเลยนะเนี่ย!”
ซากศพของเหล่ามอนสเตอร์เกลื่อนกลาดไปหมด ส่วนพวกเดทไนท์ก็ตายไปราวๆหนึ่งในสี่  โชคไม่ดีที่บางตัวถูกฟ้าผ่าตาย ส่วนตัวอื่นๆก็ยังคงต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์อยู่ขณะที่วีดกำลังซ่อนตัว
แต่ไกลๆออกไปยังมีลมหมุนลูกใหญ่กำลังพัดไปมา ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติยังไม่จบสิ้น ลมหมุนลูกนั้นยังคงกลืนกินเหล่ามอนสเตอร์และพวกอันเดดในที่ราบนาตาเลีย จากนั้นก็โยนพวกมันไปทั่วทุกที่ วีดพยายามที่จะหลบมันด้วยการขี่อยู่บนการ์กอยล์ แต่ลมหมุนนั้นยังคงกวาดล้างต่อไป ทันใดนั้นมันก็เปลี่ยนทิศทาง ห่างออกไปจากวิหารไปเรื่อยๆแล้วในไม่ช้ามันก็สลายหายไป
--------------------------------------------------------------------
ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติสิ้นสุดแล้ว
ด้วยการสร้างมหันตภัยเพื่อต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ ท่านได้รับค่าชื่อเสียงดี 3,459 แต้ม
ด้วยการทำลายวิหารร้าง ค่าความศรัทธาของท่านลดลง -25
ท่านได้รับฉายา ประติมากรผู้ควบคุมภัยพิบัติ
โชคลดลง 10 แต้ม
-------------------------------------------------------------------
เพียงแค่เขาใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติเท่านั้น เขาก็สามารถกลายเป็นคนที่โด่งดังกว่าเดิมแล้วตอนนี้
แน่นอนแหละ โด่งดังในทางแย่ๆ!
ตอนนี้ละ ไปขึ้นการ์กอยด์ของพวกแกแล้วก็ถอนทัพก่อน!”
วีดสามารถต่อสู้ต่อไปได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ทว่าสภาพของพวกเดทไนท์นั้นไม่ค่อยดี ดังนั้นพวกมันถึงต้องออกไปจากวิหารนี้ก่อน พวกเดทไนท์นั้นล่ามอนสเตอร์ระดับสูงได้เป็นจำนวนมาก แต่ว่าผลพวงจากทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัตินั้น มันเกินกว่าระดับของพวกมันเกินไป ดังนั้นจึงยากที่จะพูดว่าเดทไนท์พวกนั้นสาหัสเกินกว่าจะทำอะไรได้สำเร็จแล้วในตอนนี้
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าเนโครแมนเซอร์ด้วยการฟื้นฟูค่าพลังและมนต์คำสาป พวกเขาจึงเข้าโจมตีวิหารได้อีกครั้ง และในตอนนั้นกองกำลังหลักของอันเดดก็ข้ามกำแพงไปได้แล้ว และก็เริ่มทำการต่อสู้ เหล่ามอนสเตอร์และอันเดดเข้าโรมรันกันอย่างดุเดือด บางตนก็แตกดับไปเนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมา
เมื่อกวาดตามองออกไปเป็นวงกว้างก็จะเห็นการต่อสู้กระจายไปอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ความโกลาหลแห่งการต่อสู้ของเหล่ามอนสเตอร์และอันเดดกำลังละเลงไปอย่างดุเดือด
-นักรบโครงกระดูกได้ทำลายแท่นบูชาของวิหารเอลแวนซ์สำเร็จแล้ว
นักรบโครงกระดูกที่ใช้ขวานทำลายแท่นบูชาได้สลายหายตัวไปในระเบิดแสงสีฟ้า แต่ก็ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์อ่อนแรงลง
ทำลายทุกอย่างให้สิ้นซากซะ!”
เหล่าเดทไนท์กู่ร้องออกมาพร้อมกับกระตุ้นพวกอันเดดให้ออกไปสู้ เหล่าอันเดดได้ทำลายวิหารจนป่นปี้ ค่าความศรัทธาของวีดตกลงไปตามการทำลายล้างที่เขาก่อขึ้น แต่ยังไงเขาก็ต้องยอมเสี่ยงกับมัน
-พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องวิหารอ่อนแรงลงแล้ว
ระดับพลังชีวิตที่ถูกทำให้ลดลงก็อ่อนแรงตามไปด้วย
ตอนนี้พวกอันเดดสามารถใช้ความสามารถของพวกมันได้แล้ว
ความสามารถทางเวทย์มนต์ก็กลับคืนมาสู่เหล่าเนโครแมนเซอร์
 กวาดล้างพวกมอนสเตอร์ให้หมดทุกตัว!”
วีดอยู่ตรงแนวหน้าในการออกไล่ล่าพวกมอนสเตอร์ ส่วนเนโครแมนเซอร์ก็ตามมาข้างหลังเขาพลางปลุกเหล่าอันเดดไปพร้อมกันด้วย เพราะว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องวิหารได้อ่อนพลังลง กำลังสนับสนุนของอันเดดจึงได้เพิ่มขึ้นจนน่ากลัว เหล่าเดทไนท์ก็ฟื้นคืนพละกำลังในการต่อสู้กลับคืนมาแล้วเช่นกัน พวกมอนสเตอร์จึงตัดสินใจที่จะวิ่งหนีไปแทนที่จะเผชิญหน้าต่อสู้ พวกมันคิดว่าวิหารนั้นไม่เป็นที่ที่ปลอดภัยจากพวกอันเดดอีกต่อไป
 ตามพวกมันไป!”
เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่สุดนี้สามารถทำให้สำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเหล่าอันเดดไล่ล่าพวกมอนสเตอร์ที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุนนั้นจนหมดสิ้นแล้วเท่านั้น วีดไล่ตามพวกมอนสเตอร์ที่กำลังหลบหนีออกจากวิหารพร้อมกับพวกเดทไนท์แล้วก็กำจัดพวกมันจนสิ้นซาก เขาสามารถกอบโกยเอาค่าประสบการณ์มาได้อย่างมหาศาล
ติ้ง!
-เหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ภายในที่ราบนาตาเลียโดนกำจัดหมดแล้ว
เหล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดที่มาระรานดินแดนแห่งอันเดดได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว วิหารเอลแวนซ์นี้เป็นหนามยอกอกของเหล่าอันเดด ดังนั้นเหล่าเดทไนท์จึงทำลายสถานที่แห่งนี้จนสิ้นซาก ทำให้สมกับเป็นพวกมันเพื่อที่จะได้รับรับรางวัลมา
ท่านสามารถไปพบบัลข่านดีมอฟ แล้วรับการเลื่อนขั้นสุดท้ายของท่านได้แล้ว
- ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น +2,937
ท่านจะถูกรู้จักในชื่อ ผู้นำอันเดดตนใหม่ของกองทัพอมตะ
- พลังแห่งความตายเพิ่มขึ้น +64
- ค่าความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น 25
- จิตวิญญาณนักสู้และบารมีเพิ่มขึ้น 12
- เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
- เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น

ความจริงแล้ว  มีอันเดดจำนวนมากถึง 110,000 ตนที่กรีธาทัพไปต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ ในขณะที่เหลือมอนสเตอร์เพียง 14,000 ตัวเท่านั้นที่ได้มาต่อสู้กับพวกมัน การเข้าไปปะทะอุปสรรคอันใหญ่หลวงของพลังศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกอันเดดได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสแต่ก็ยังได้รับชัยชนะในที่สุด
 ในที่สุดฉันก็ได้พบบัลข่านซะที
วีดหายใจเข้าออกลึกๆ
จุดหมายแรกเริ่มของเขาในการไปพบบัลข่านราชาแห่งอันเดดสำเร็จแล้วในตอนนี้ ขณะที่เมืองโมราต้าได้กลายไปเป็นเป้าหมายโจมตีของกองทัพอมตะ ความสงบสุขของพลเมือง อุตสาหกรรม วัฒนธรรม และอัตราการเกิดก็ได้รับความเสียหายรุนแรงมาก
บัลข่านถือเป็นภัยคุกคามต่อทวีปทางตอนเหนือ เพราะว่าในอนาคตเขาอาจจะฟื้นพลังกลับคืนมาตอนไหนก็ได้ เหตุผลที่วีดพยายามเคลียร์ภารกิจของกองทัพอมตะให้ได้ แล้วก็เพิ่มระดับของเขาด้วยความตั้งใจก็เพื่อทำให้บัลข่านหลับไปตลอดกาล
ทุกอย่างที่เขาทำมาทั้งหมดก็เพื่อเตรียมการก่อกบฏ!
เขาแอบฟังพวกเนโครแมนเซอร์ที่กำลังขี่อยู่บนพวกกูลขณะเข้าไปใกล้วิหาร
 “ในที่สุดฉันก็สามารถเรียนมนต์สาปแช่งขั้นสูงได้แล้ว
ฉันก็สามารถเรียนมนต์อันเชิญอันเดดได้แล้วนายได้รางวัลอะไร ออร์โบ?”
ผมตัดสินใจที่จะเอาเสื้อคลุมแห่งซากศพ(Robe of Coprse)”
ดูเหมือนว่าภารกิจที่ได้รับกับรางวัลจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความสำเร็จของพวกเขา ไม่มีใครเอ่ยถึงการที่สามารถเข้าพบบัลข่านอย่างที่วีดได้รับเลย
มาเรย์กับเฮเรียนเข้าไปในวิหาร
ออกไปกันเถอะ จะได้ไปจัดปาร์ตี้ฉลองชัยชนะกัน
บริเวณวิหารยังคงมีพลังศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ฉะนั้นมันจึงเป็นสถานที่อันโหดร้ายสำหรับอันเดด เหล่าเดดไนท์กระโดดขึ้นไปบนการ์กอยล์ของพวกมันแล้วก็รอคำสั่งถอนทัพกลับไป
ฉันต้องตามหาสมบัติ…’
ด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจที่ยังค้างคาอยู่ วีดก็ออกจากวิหารไปพร้อมกับพวกอันเดด เขานำพวกมันมาสู่ชัยชนะ จากนั้นก็กลับคืนไปสู่ใต้การบังคับบัญชาของเหล่าเนโครแมนเซอร์
 ไชโย แด่เทพสงคราม!”
ขอบคุณคุณวีด พวกเราสามารถเคลียร์ภารกิจนี้ได้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณคุณจริงๆ
เหล่าผู้เล่นคนแล้วคนเล่าต่างกำลังพยายามขอบคุณเขา มันดูเหมือนง่ายดายเพราะว่าการต่อสู้ได้จบลงไปแล้ว แต่ทุกๆคนก็รู้ดีว่าหากไม่มีความสามารถในการบัญชาการของวีด พวกเขาก็คงไม่มีทางชนะได้แน่
มันไม่ง่ายเลยที่จะเคลื่อนทัพอันเดดได้อย่างเต็มกำลัง แถมยิ่งถ้าหากพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในวิหารยังยืนหยัดอยู่ที่นั้น พวกเขาทั้งหมดก็คงโดนกวาดล้างด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์แน่ๆ
แต่ถึงกระนั้น วีดก็ยังทะลวงเข้าไปในวิหารด้วยกองกำลังเดทไนท์แล้วก็กระจายตัวเพื่อล่อความสนใจพวกศัตรู จนกำจัดพวกมันด้วยเวลาอันสั้น ถ้าหากพวกมอนสเตอร์ยึดกลุ่มปักหลักอยู่ในนั้นอย่างน้อยซักสองชั่วโมง จากนั้นพวกอันเดดก็คงได้ตายไปจริงๆแน่ๆ
แต่ในที่สุดเหล่าอันเดดก็เอาชนะได้ทันกาล
เหล่าเนโครแมนเซอร์รู้สึกว่าพวกเขาได้รู้สึกใกล้ชิดมากๆ แล้วก็รู้สึกขอบคุณวีดมากๆสำหรับการตัดสินใจอันบ้าบิ่นของเขาที่ทำให้เคลียร์ภารกิจมาได้ แต่ทว่าวีดกลับไม่ได้รู้สึกเข้าถึงถ้อยคำขอบคุณที่ออกมาจากปากนั้นเลย
สิ่งที่ฉันทำก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้นหรอก
ในวันครบรอบวันเกิดหรือว่าวันจบการศึกษา คุณก็จะได้ของขวัญยินดี มันช่างน่าผิดหวังที่ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้เพียงแค่พูดว่า ขอบคุณที่ช่วยให้พวกเขาเคลียร์ภารกิจได้ ช่างเป็นความน่าผิดหวังที่พวกเขานั้นกลับไม่รู้จักวัฒนธรรมของมิตรภาพ อย่างการให้และการรับเลย
 ‘ก็นะ ฉันก็คงทำภารกิจนี้สำเร็จด้วยตัวคนเดียวไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ’                  
ทั้งหมดทั้งมวล ที่วีดสามารถเคลียร์ภารกิจนี้ได้ก็ด้วยกำลังสนับสนุนเต็มที่และความร่วมมือจากเหล่าเนโครแมนเซอร์ นอกจากนั้น มาเรย์ก็เป็นคนที่ออกล่ามาพร้อมกับวีดจนถึงตอนนี้ เฮเรียนก็ยอมฟังความคิดเห็นของวีดแล้วก็พยายามโน้มน้าวคนอื่นๆให้ อย่างกระตือรือร้น
เขาสามารถเคลียร์ภารกิจได้เพราะเจนนี่และโอเท็มเข้าใจอย่างเต็มที่ถึงความเป็นไปได้ของแผนการ แล้วก็เข้าร่วมในแผนการของเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะขอสิ่งตอบแทนใดๆจากพวกเขาได้ แม้ว่าวีดจะสร้างผลงานยอดเยี่ยมที่สุด แต่ว่ามันประสบความสำเร็จได้ก็เพราะมีความช่วยเหลือของเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆ

 “ช่างเป็นจำนวนอันเดดที่น่าทึ่งจริงๆ
โปลอนนำเหล่าอัศวิน จอมเวทย์ นักร่ายมนต์ และเรนเจอร์มาตั้งท่ารอจู่โจมจากสถานที่ที่อยู่ไกลออกไปจากที่ราบนาตาเลีย  มันไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงที่นี่ได้เพราะว่าอันเดดจากกองทัพอมตะนั้นเดินว่อนอยู่เต็มไปหมด แต่เพราะว่ามีเซบรินที่ช่วยบอกทางมา พวกเขาจึงมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัย
 พวกเนโครแมนเซอร์เอาชนะได้ไหม?”
เขาเฝ้ารอการต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ
ด้วยการนำกองกำลังจู่โจมแห่งกิลด์เฮอร์มีสมาที่นี่ ถือว่าเป็นปฏิบัติการที่เป็นความลับ ดังนั้นพวกเขาถึงไม่ได้เปิดเผยตัวตนออกมา แต่ทว่าหลังจากที่การต่อสู้ทางวีดได้เริ่มขึ้นไม่นาน เซบรินก็กระซิบมาหาเขา 
-วีด เทพสงครามปรากฏตัวแล้วครับ!
โปลอนพยายามเอากองทัพอันเดดเข้ามาไว้ในกำมือของเขาแล้วก็รับพวกเนโครแมนเซอร์คนแล้วคนเล่ามาเข้ากิลด์ แต่เป้าหมายเดิมของเขาก็คือวีด ชายผู้ที่ถูกรู้จักในฐานะคู่ปรับของบาร์ดเรย์จากกิลด์เฮอร์มีส ตอนนั้น โปลอนใช้เครือข่ายการสื่อสารของกิลด์เฮอร์มีส เพราะฉะนั้นพวกผู้เล่นเรนเจอร์และนักร่ายมนต์ถึงสามารถได้ยินเช่นกัน
โปลอน: ใช่วีดจริงๆใช่ไหม?
เซบริน: เขาร้องเพลงครับ พวกเนโครแมนเซอร์ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือวีด เขาอยู่ในกลุ่มพวกผู้เล่นที่ไม่ได้ระบุตัวตนครับ
โปลอน: นายมั่นใจเรื่องนี้ใช่ไหม?
เซบริน: เขาเป่าแตรเขาสัตว์ครับ แตรแห่งเทรเซิร์ก!
มันคือไอเท็มที่รู้กันว่าเป็นของวีด ถ้ามันเป็นอย่างนั้น งั้นมันก็เป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้วละที่จะทำให้เชื่อว่านั่นคือวีดตัวจริง
 ‘การต่อสู้กับวีดงั้นหรอ
มือของโปลอนสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น เขาเป็นผู้เล่นติดอันดับเลเวลสูงแล้วก็เป็นแกรนมาสเตอร์อีกด้วย เขามีประสบการณ์การต่อสู้มากมายแต่ทว่าเขาไม่เคยฆ่าเป้าหมายที่ใหญ่โตอย่างเทพสงครามมาก่อน เครือข่ายสื่อสารของกิลด์เฮอร์มีสกำลังเดือดไปหมด เหล่าผู้เล่นที่จดจำชื่อของวีดได้ต่างแสดงความสนใจและถามถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
เซบริน: ตอนนี้ วีดขึ้นขี่บนการ์กอยล์แล้วก็ตรงเข้าไปในวิหารแล้วครับ
โปลอน: นายบอกไม่ใช่หรอไงว่ามันเป็นสถานที่ที่อันเดดเข้าไปไม่ได้นะ?
เซบริน: ก็….มันเป็นสถานที่ที่อันตรายสุดๆครับ แต่ว่าเขาก็ยังเข้าไปข้างใน
โปลอน: ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็ งั้นฉันจะให้พวกนักร่ายมนต์ เรนเจอร์ อัศวิน แล้วก็นักเวทย์เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมก่อนเลย ถ้าหากว่าวีดรอดออกมาได้ เราก็จะโจมตีมันทันที
โปลอนที่กำลังสแตนบายรออยู่พลางฟังสิ่งที่เซบรินรายงานไปด้วย
เซบริน: พวกอันเดดไม่สามารถฝ่าวงพวกมอนสเตอร์เข้าไปได้ง่ายๆเลยครับ สถานที่แห่งนี้มันเลวร้ายเกินไปที่จะออกไปสู้ครับ
เซบรินรายงานทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นภายในการต่อสู้ให้โปลอนฟังผ่านทางเครือข่ายสื่อสารของเฮอร์มีสกิลด์ มันคือช่วงเวลาที่เหล่าผู้เล่นติดอันดับโด่งดังทั้งหลายต่างให้ความสนใจกับคำพูดเซบรินอย่างมาก
เขามัวยุ่งอยู่แต่กับการรายงานจนไม่มีเวลาร่ายเวทย์ของตนเองเลยดัวยซ้ำ
เปรี้ยงงงงงงงงง!
ช่วงเวลาที่สายฟ้าฟาดลงใส่วิหาร แม้แต่ที่ที่โปลอนอยู่ยังส่องแสงสว่างมาถึงอย่างต่อเนื่อง โปลอนสามารถจินตนาการถึงความรุนแรงของการต่อสู้ได้จากรายงานของเซบรินบวกกับเสียงของฟ้าผ่า
การเข้าไปในสถานที่แบบนั้น แถมยังนำพวกเดทไนท์เข้าไปด้วย
แม้ว่าเขาจะเป็นวีด เขาก็ไม่ได้เป็นอมตะ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงหวังว่าวีดจะไม่ตายในวิหารแห่งนั้น
ฉันต้องเป็นคนที่ได้พรากชีวิตไปจากมัน นั่นเป็นทางเดียวที่ภารกิจของการมาที่นี่สำเร็จได้
เขารอแล้วก็รอ จนกว่าจะได้ยินรายงานจากเซบรินที่เป็นหนึ่งในอันเดดที่เข้าไปปิดล้อมวิหารนั้นด้วย
เซบรินบอกว่ามันเป็นภารกิจที่โหดหินมากๆ แต่ถึงกระนั้นวีดก็ทำสำเร็จอีกครั้งจนได้
เซบริน: ท่านมาได้แล้วครับ เขาออกไปแล้ว
มันถือว่าสะดวกมากที่มีคนมาคอยให้ข้อมูลคุณอยู่ตลอด
เรากำลังออกไป
โปลอนนำทัพอัศวิน เรนเจอร์ และนักร่ายเวทย์เคลื่อนตัวออกไป
ชูธงขึ้น
หนึ่งในอัศวินยกธงที่มีสัญลักษณ์กิลด์เฮอร์มีสสลักเอาไว้ขึ้น สัญลักษณ์ของกิลด์เฮอร์มีสคือรูปมงกุฎและปราสาท!  การชูธงขึ้นนั้นมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของกำลังใจและจิตวิญญาณนักสู้
แม้ว่าโดยหลักๆแล้ว มันเป็นการข่มขวัญศัตรูทางอารมณ์ด้วยความจริงที่ว่า มันคือธงของกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ เว้นแต่ว่ามันเป็นอิทธิพลของกิลด์ที่ส่งผลต่อศัตรูภายนอก มันเป็นธงที่ทำให้เหล่าศัตรูต้องยำเกรงและล่าถอย
 พวกเราเข้าไปอยู่ในระยะโจมตีของพวกอันเดดแล้ว
มีระยะห่างพอสมควรระหว่างสถานที่ที่พวกเขาและที่วีดกับพวกเนโครแมนเซอร์อยู่ แต่พวกวีดก็อยู่ในระยะการโจมตีของนักร่ายมนต์เช่นกัน
 อย่าให้พวกมันได้มีเวลาฟื้นพลัง โจมตีตอนนี้เลย
เหล่านักเวทย์ที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มนักร่ายมนต์โบกมือของพวกเขาไปมาและร่ายเวทย์
วงแหวนแห่งไฟ!”
ลูกบอลเพลิงขนาดมหึมาถูกสร้างขึ้น แล้วบินตรงไปที่กองทัพอันเดด
เวทย์ส่องแสงสีสันสดใสบวกกับควันดำทะมึนลอยตรงไปที่อันเดด!
โจมตี!”
พวกนักเวทย์อยู่ที่นี่!”
เหล่าเนโครแมนเซอร์ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ แต่ว่าวงแหวนไฟก็ปะทะเข้ากับพวกอันเดดไปแล้ว เปลวเพลิงลุกลามออกไปราวดั่งมีชีวิต เผาผลาญเหล่าอันเดดจนหมดสิ้น
พวกเรนเจอร์ที่มีทักษะการเคลื่อนที่สูง พุ่งออกไปข้างหน้าไปประจำตำแหน่งของพวกเขา
ยิงไปพร้อมๆกันเลย!”
ฟิ้วววววววว!
ลูกธนูที่เหล่าเรนเจอร์ยิงออกไป เทลงมาตรงที่พวกอันเดดรวมตัวอยู่ดั่งห่าฝน
กร๊ากกกกกกกก!”
เหล่าอันเดดเจ็บปวดจากความเสียหายมากเป็นพิเศษ พวกกูลขนาดใหญ่ที่มีค่าพลังชีวิตสูงก็ยังหายไปด้วยลูกธนูที่ยิงมาแต่ไกลเพียงสองครั้งเท่านั้น ลูกธนูของพวกเขาทำมาจากเงินศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการอวยพรจากพวกนักบวช นี่ยังไม่รวมถึงการเอาไปจุ่มลงในน้ำมนต์อีกต่างหาก พวกเขาได้วิธีนี้มาจากการต่อสู้ของวีดกับลิชไชร์ พวกเขาเคลื่อนพลเต็มกำลังมาที่นี่เพื่อต่อสู้กับเหล่าอันเดด พวกอันเดดไม่มีแม้แต่เวลาในการตอบสนองเลยด้วยซ้ำ และยังถูกมนต์ต่างๆสาดเข้าใส่พร้อมกับธนูเงิน
 อะอะไรวะเนี่ย พวกเขาเป็นผู้เล่นนิ มีผู้เล่น คนอื่นนอกจากพวกที่มีอาชีพเนโครแมนเซอร์ด้วยหรอ?”
พวกเขาได้ภารกิจอะไรถึงได้มาถึงที่นี่นะ? ทำไมพวกเขาถึงโจมตีพวกเราละ?”
ธงที่พวกเขาถืออยู่เป็นของกิลด์เฮอร์มีสนิ พวกเขามาที่นี่ได้ยังไง?”
ผู้เล่นติดอันดับ แกรนมาสเตอร์แห่งครีม่า โปลอน เขากำลังโจมตีพวกเราอยู่
เหล่าเนโครแมนเซอร์ไม่มีเบาะแสอะไรจากการบุกโจมตีของกิลด์เฮอร์มีสเลย พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง

 “เข้าสู่แนวรบ หยิบโล่ไม้พวกแกขึ้นมาแล้วสกัดเอาไว้!”
เหล่าอันเดดจัดแนวตั้งรับด้วยโล่ของพวกมันตามคำสั่งของวีด แต่เพราะว่าได้รับการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว ความเสียหายที่ได้รับจึงแทบไม่อยากเชื่อ เพราะว่าพวกมันนั้นอ่อนแอลงจากพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่พวกโครงกระดูกจะสกัดธนูเงินที่พวกเรนเจอร์ยิงมาได้ แถมขอบเขตเวทย์ยังแผ่ออกไปล้างบางพวกอันเดดนับพันจนสิ้นซาก
มันจึงควรจะถอยก่อนดีกว่าไปตั้งหน้าสกัดการโจมตีเหล่านั้น
แต่ทว่าเส้นทางถอนกำลังของพวกมันก็ถูกกั้นเอาไว้โดยที่ราบนาตาเลียที่แผดพุ่งไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
แม้ว่าพวกอันเดดจะจัดขบวนรบตามคำสั่งของวีด แต่เวทย์มนต์ก็ล้างผลาญพวกมันไปจนหมดสิ้น เพราะว่านี่มันคือการซุ่มโจมตี พวกมันจึงไร้หนทางใดๆนอกเสียจากรับการโจมตีไปเต็มๆ
พวกเดทไนท์ ไปขึ้นการ์กอยล์แล้วก็หลอกล่อบนอากาศทำให้ดูเหมือนว่าพวกแกกำลังพยายามโจมตีพวกมัน
วีดใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อจัดการรับมือกับพวกนักเวทย์
พวกมันคือเดทไนท์ขั้นสูงที่โดนกระหน่ำใส่ตอนอยู่ที่วิหาร แต่ตอนนี้พวกมันต้องกระจายตัวออกไปเพื่อปกป้องอันเดดตนอื่นๆ
โปลอนดูภาพเบื้องหน้าแล้วก็ชูดาบของเขาขึ้นสูง เพราะว่าเขามีฐานะเป็นอัศวิน สไตล์การต่อสู้ของเขาก็คือการต่อสู้ศัตรูด้วยธนูและเวทย์ จากนั้นก็สั่งให้เหล่าอัศวินเข้าไปโจมตีแบบตรงๆ เขาค่อนข้างรู้สึกเร่งรีบนิดหน่อยเพราะว่าเขาอยากจะไปเผชิญหน้ากับวีดตัวต่อตัว
รุดหน้าเข้าไป!”
กุบ กับ กุบ กับ กุบ กับ!
อัศวินครีม่า 200 นายขี่ม้าของพวกเขาไปข้างหน้า ม้าศึกของพวกเขาเป็นม้าในตำนานที่มีขนาดเล็กพร้อมกับมีจุดด่างๆขึ้นอยู่จนดูน่าเกลียด
ตอนที่แนวตั้งรับสกัดพวกอัศวินอยู่ พวกกูลขึ้นไปแนวหน้า ส่วนพวกโครงกระดูกไปรวมตัวกันแล้วต้านเอาไว้ อย่าแตกแถวเด็ดขาด
วีดเตรียมตัวรบอย่างรวดเร็วทันทีที่ศัตรูปรากฏขึ้นบนสายตาของเขา
โดยปกติแล้ว พวกโครงกระดูกจะรับคำสั่งแม้ว่านั่นหมายถึงจะสั่งให้ไปตาย แต่ทว่าการโจมตีของพวกอัศวินครีม่านั้นมีผลทำให้พวกมันแตกตื่นเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยเพราะค่ากำลังใจและค่าจิตวิญญาณนักสู้ที่ต่ำลง มันจึงต้องใช้เวลามากเอาการที่จะให้พวกอันเดดเข้าสู่แนวรบอย่างที่ออกคำสั่งมา
พวกเนโครแมนเซอร์ร้องลั่นออกมา
พวกเขายังโจมตีเราอยู่เลย
เราควรสู้กลับแทนที่จะยืนดูอยู่เฉยๆไม่ดีกว่าหรอ?”
เหล่าเนโครแมนเซอร์ร่ายเวทย์สาปแช่งไปที่พวกอัศวินและสร้างกำแพงกระดูกขึ้นมาด้วย แต่เพราะว่าชุดเกราะต้านเวทย์มนต์ของพวกอัศวิน เวทย์สาปแช่งจึงไม่ได้ผล จากนั้นพวกเขาก็พุ่งกระแทกกำแพงกระดูกมาได้ทันที แล้วก็เข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่เหล่าเนโครแมนเซอร์ก็สามารถอัญเชิญเถาวัลย์หนามเพื่อสร้างปลักสกัดการโจมตีของพวกอัศวินไว้ได้ทัน
โปลอนตะเบ่งเสียงออกมาดังกึกก้อง
ข้าไม่มีเรื่องขุ่นแค้นใดๆต่อเหล่าเนโครแมนเซอร์ เราต้องการเพียงแค่วีดคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นถอยไปซะ!หากใครพยายามที่จะช่วยวีด เจ้าก็จะถูกฆ่าตายโดยกิลด์เฮอร์มีสเช่นเดียวกัน
บัญชาแห่งความตายโดยกิลด์เฮอร์มีส!
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะย่างกรายเข้าไปในราชอาณาจักรฮาเว่น แถมยังไม่สามารถเข้าไปในอาณาเขตที่เป็นของกิลด์ได้อีกด้วยเช่นกัน ไม่มีที่ใดเลยที่ปลอดภัยภายในทวีปทางตอนกลาง
กิลด์เฮอร์มีสได้สั่งการหน่วยมือสังการให้จัดการกับใครก็ตามที่อยู่บนรายชื่อ บัญชาแห่งความตาย(Order of Death) พวกเขาต่างเป็นที่รู้จักในการกระทำอันฉาวโฉ่ของพวกเขาที่ทำให้เหล่าเนโครแมนเซอร์รู้สึกลังเลขึ้นมาทันที
แต่วีดกลับเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น
 ใช่แล้วละ ชีวิตก็หมายถึงการมีชีวิตอยู่เพียงลำพังนั่นแหละ
เขาคาดการณ์เอาไว้แล้วว่ากิลด์เฮอร์มีสตั้งเป้ามาสู้กับเขาอีกครั้ง
ด้วยสงครามของราชอาณาจักรฮาเว่นและการก่อตั้งของราชอาณาจักรนี้ เขาเดาว่าทวีปทางเหนือถือว่าปลอดภัยแล้ว แต่ทว่าครั้งนี้พวกเขามาถึงที่นี่พร้อมกับเตรียมตัวต่อสู้กับอันเดดมาอย่างดี มันจึงหมายความว่าพวกเขาพยายามตอบโต้มาเร็วมากจริงๆ
โดยปกติแล้วจะมีเหล่าประติมากรรมสลักชีพหรือว่าพวกพ้องที่ไว้เนื้อเชื่อใจอยู่ข้างๆเขา ไม่มีทางเลยที่เขาจะหากองหนุนเทียบเท่ากำลังรบกิลด์เฮอร์มีสอยู่ใกล้ๆเขา เพราะว่ามีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้น เขาก็ยินดีที่จะสูญเสียภารกิจกองทัพอันเดดไป
ถ้าหากว่ามีนักเวทย์เลเวลมากกว่า 350 อย่างน้อยซักสิบคน มันคงจะลำบากมากสำหรับวีดหากเขาเข้าไปอยู่ใกล้ระยะยิงเวทย์ของพวกนั้น การขับเคลื่อนขบวนรบที่แข็งแกร่งอย่างพวกเรนเจอร์และนักเวทย์เข้ามาอยู่ในกองทัพก็เพียงเพื่อกำจัดวีดเท่านั้นเอง!
ตรงกันข้าม วีดมีแค่ลำพังตัวคนเดียวเท่านั้น
ในตอนที่คุณกำลังต่อสู้กับกิลด์ทรงพลังขนาดใหญ่ คุณก็ต้องคาดการณ์ว่าอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้ได้
 วิธีที่ดีกว่าการเพิ่มราคาน้ำมันในช่วงหน้าหนาว หรือว่าไอศกรีมด้วยการลดขนาดลง ก็คือการเพิ่มราคาในช่วงหน้าร้อนแทน
ขณะที่วิจารณ์ถึงสังคมอันเน่าเฟะ เขาก็ชักดาบของเขาออกมา ตั้งสมาธิไว้ที่ความแข็งแรงบนแต่ละนิ้วมือ แล้วกุมดาบเอาไว้แน่นๆ จากนั้นเหล่าอัศวินก็พุ่งตรงเข้ามาดั่งสายลม
 ‘ตอนนี้ร่างกายของฉันสภาพแย่มากๆ
แม้ว่าจะอยู่ในร่างอันเดด ค่าความอึดของเขาไม่ได้ลดลงไปเลย มีเพียงหนึ่งในสามของค่าพลังชีวิตของเขาเท่านั้นที่หายไป แม้เขาจะออกมาจากวิหารและที่ราบนาตาเลียแล้วก็ตาม ความสามารถในการต่อสู้ที่ลดลงจากพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ มันลดลงไปราวๆ 15% เขาตั้งใจที่จะมุ่งหน้าตรงไปขึ้นบนหลังการ์กอยล์และหลบหนีออกไป แต่ทว่าต่อมาลูกธนูและเวทย์ทั้งหมดก็เล็งตรงมาที่เขา
ไม่มีเวลามากพอที่จะเรียกเดทไนท์ออกมาอีกครั้งได้เลย แถมยังมีศัตรูมากมายเข้ามารุมอีก พวกอันเดดคงโดนโจมตีด้วยเวทย์โจมตีเข้าอย่างจังแน่ๆ
วีดจึงระเบิดราชสีห์คำรามออกมาดังลั่น
อันเดดทุกตน จงฟัง!”
วีดไม่ได้พูดรัวเร็วมากนักขณะที่เหล่าอัศวินครีม่ารุดหน้าเข้ามาที่เขา ในทางกลับกันเขากลับหายใจเข้าลึกๆ
500 เมตร 400 เมตร 300 เมตร
เพราะไม่มีการแทรกแซงรบกวนจากพวกเนโครแมนเซอร์ เหล่าอัศวินครีม่าก็เข้าไปปิดช่องว่างนั้นในทันที
ถอนแนวตั้งรับไป แล้วไปตั้งแนวรุก!”
เพื่อที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรู แนวตั้งรับที่มีพวกกูล โครงกระดูกหรือซอมบี้นั้นก็ถือว่าอ่อนแอเกินไป แม้แต่อันเดดฝีมือฉกาจของวีดก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับพวกมันได้
เพราะงั้นแนวตั้งรับก็มิอาจได้ผลอีกต่อไป การเลือกมาเป็นแนวรุกจึงเป็นทางเลือกเดียวของวีด!
ถ้าหากว่าเขาเข้าไปตีตะลุมบอนกับพวกอัศวินได้ พวกเขาก็คงไม่โดนธนูหรือเวทย์ยิงใส่
 ทุกคน โจมตี!”
อันเดดจากทุกๆฝั่งยกเว้นทางด้านหลังรวมกลุ่มกันเข้าไปตะลุมบอนกับพวกอัศวิน
พวกมันทั้งหมดได้รับบาดเจ็บและแทบไม่มีแรงเหลือแต่ก็ถือว่ามีจำนวนที่มหาศาลเอาการ
โปลอนตะโกนออกมาด้วยความผิดหวัง
โอ้ วีด ช่างเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงแกนัก ถ้าแกคิดว่าแกจะฉุดขาพวกเราเอาไว้ด้วยแผนตื้นๆโดยเอาจำนวนเข้าสู้มันช่างน่าขำซะจริง!”
มีเพียงพวกนักรบอันเดดกับทหารอันเดดที่มีชุดเกราะดีๆเท่านั้นถึงจะสามารถหยุดการโจมตีของอัศวินครีม่าได้
อันเดดที่มีพลังป้องกันต่ำก็จะถูกทำลายไปได้อย่างง่ายดาย
โจมตี!”
นี่คือการปะทะระหว่างอันเดดและอัศวิน!
เหล่าโครงกระดูกถูกกำจัดไป ส่วนกระดูกของพวกมันก็กระจายลอยละล่องไปทั่ว พวกกูลเองก็กลายเป็นแสงสีเทา ทุกครั้งที่พวกอัศวินแทงหอกหรือฟันด้วยดาบที่เคลือบด้วยเงิน พวกอันเดดก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป พวกเขาฉลาดมากพอที่จะรู้จักใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ น้ำมนต์ และเงินเพื่อต่อกรกับเหล่าอันเดด พวกอันเดดแก่ประสบการณ์ที่วีดและเหล่าเนโครแมนเซอร์ได้ใช้ไปต่อสู้ในการบุกวิหารเอลแวนซ์ก็ถูกสังหารไปอย่างไร้ความปราณี
ขณะที่เหล่าอัศวินกำลังจัดการพวกอันเดด วีดก็เริ่มเคลื่อนไหว
แน่นอนละ ฉันรู้ว่าพวกอันเดดคงไม่ช่วยอะไรได้มากซักเท่าไร
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดการบุกของศัตรูได้เพราะว่าพวกอันเดดตายไปกว่าครึ่ง
แม้กระนั้น เขาก็ยังจำเป็นต้องลองใช้จำนวนเข้าสู้
วีดเข้าไปร่วมตะลุมบอนกับพวกอันเดด
เดทไนท์ราวๆ 130 ตนที่ไม่ได้ขี่การ์กอยล์ขึ้นไป พวกที่โดนอัญเชิญมาโดยเหล่าเนโครแมนเซอร์ยังคงมีชีวิตอยู่ ขณะที่ดูลลาฮานและเดทไนท์พุ่งเข้าไปโจมตีพวกอัศวินด้วยการฝ่ากลุ่มของพวกอันเดดเข้าไป วีดก็เข้าไปผสมโรงกับพวกมันและเริ่มโจมตี
 พลังแห่งความมืด!”
เขากระโจนเข้าไปด้วยทักษะของเดทไนท์ที่กินมานาเพื่อให้เพิ่มแรงในการโจมตี
วิชาดาบเฮอเรม!”
ขณะที่เหล่าอัศวินมัวยุ่งอยู่แต่กับการทิ่มๆแทงๆดูลลาฮานข้างๆวีดด้วยหอกของพวกเขา วีดเล็งไปที่ม้าของเขา
-การโจมตีต่อเนื่องขั้นที่ 1 สำเร็จแล้ว
ค่าความว่องไวเพิ่มขึ้น +20
ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่!
ในขณะที่ม้าตัวนั้นล้มลง อัศวินที่ขี่อยู่ก็หล่นลงสู่พื้นดินพร้อมกับมัน
อันตรายได้ตามมาเยือนอัศวินคนนั้นแล้ว!
ไม่เพียงแค่ค่าพลังชีวิตของเขาที่ลดลงไปอย่างฮวบฮาบเท่านั้น แต่พวกเขายังตกอยู่ในสภาพมึนงงตอนที่เขาตกจากม้าอีกด้วย เพราะว่าอัศวินคนอื่นอาจจะมาโจมตีวีดเพื่อพยายามช่วยพวกพ้องของพวกเขา วีดจึงไม่สามารถเข้าไปเผด็จศึกอัศวินที่ตกม้าคนนั้นได้
เป้าหมายต่อไปของเขาก็คืออัศวินที่พยายามหยุดม้าของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาผละตัวไปฆ่าอัศวินที่ตกม้าที่อยู่ตรงหน้าของเขา
เมื่ออัศวินใช้ด้ามหอกของเขาแทงเข้าที่บังเหียนด้วยแรงทั้งหมดของเขา วีดก็กระโดดไปโจมตีเขาเป็นครั้งที่สอง
การโจมตีต่อเนื่องอีกครั้งตามมาเรื่อยๆเหมือนดังเงา!
สอง สาม
-การโจมตีต่อเนื่องขั้นที่2 สำเร็จแล้ว
ค่าความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น +40%
-การโจมตีต่อเนื่องขั้นที่ 3 สำเร็จแล้ว
ค่าความว่องไวเพิ่มขึ้น +40%
ทันทีที่อัศวินคนนั้นตกลงจากม้าของเขาเพราะการโจมตีของวีด วีดก็กระโจนบนอากาศสองครั้งแล้วก็ขโมยม้าของอัศวินคนนั้นไป
 สี่ ห้า หก!”
-การโจมตีต่อเนื่องขั้นที่ สำเร็จแล้ว
ค่าความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น +40%
-การโจมตีต่อเนื่องขั้นที่ 5 สำเร็จแล้ว
ท่านฆ่าม้าตายในทันที
-การโจมตีต่อเนื่องขั้นที่ 6 สำเร็จแล้ว
ท่านกระแทกเข้าใส่หมวกของศัตรูได้
ศัตรูจะรู้สึกมึนงง
ท่านไม่สามารถใช้ทักษะที่กินค่ามานาเป็นเวลา 25 วินาที
ขณะที่ม้าของเขาวิ่งไปในทิศทางเดียวกับเหล่าอัศวินครีม่า เขาจึงสามารถโจมตีอัศวินพวกนั้นได้
เดทไนท์ตนนั้นกำลังไล่ตามพวกอัศวินของกิลด์เฮอร์มีสมาจากด้านหลังอยู่นั่นเอง!
 “เขากำลังมาจากข้างหลัง!”
บังคับม้าของพวกแกอ้อมกลับไป!”
เขายังไล่ตามหลังมาเรื่อยๆเลย!”
วีดติดหนึบเก่งเหมือนอย่างกับปลิงขณะที่เขาไล่ตามมาติดๆจากทางด้านหลังพลางโจมตีพวกอัศวินไปด้วย ความเร็วของม้าตนนั้นเร็วมากยิ่งขึ้นสำหรับเดทไนท์เพราะมีชุดเกราะที่เบามาก ทุกๆครั้งที่วีดตวัดดาบของเขา พวกอัศวินก็จะร่วงลงจากม้าลงไปตาย
นั่นแหละคือพลังอันท่วมท้นของอัศวินแห่งความตาย!
วีดหวังว่าเหล่าเดทไนท์ของเขาจะกระโดดขึ้นไปบนม้าที่ไม่มีคนขี่ได้และไล่ตามหลังเขามาโดยเร็ว แต่โชคไม่ดีเท่าไรที่พวกมันมัวยุ่งอยู่แต่กับการไล่ฆ่าพวกอัศวินที่ร่วงลงไปจากม้า เพราะว่าเขามาคนเดียวเขาจึงไม่มีเวลาที่จะเปิดปากพูดแล้วก็สั่งการพวกอันเดดด้วยซ้ำ
 ข้าเฝ้ารอวันนี้ให้มาถึง ข้า อินโฟเร่ จะกอบโกยเอาเกียรติยศมาด้วยการฆ่าเจ้า!”
เหล่าอัศวินครีม่าเบี่ยงตัวไปมารอบแล้วก็เหวี่ยงดาบและหอกของพวกเขา
หากพวกเขาไม่ได้ใส่แรงโจมตีเข้าไป การโจมตีของพวกเขาก็คงไม่มีผลอะไรเลย มันเทียบไม่ได้เลยกับวีดผู้ที่ขี่ม้าตรงไปข้างหน้าและกระแทกแทงเข้าใส่เต็มแรง แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจห้ามปรามความละโมบของพวกเขาได้เลย ความโลภและความกดดันของอินโฟเร่ทำให้ไหล่ของเขาตึงขึ้น แถมอารมณ์ของเขาก็ยังไม่มั่นคงอีกด้วย
เมื่อมั่นใจว่าหอกของพวกเขาไม่ได้ทะลวงเข้าใส่เขาแล้ว วีดก็หมุนตัวของเขาไปรอบๆแล้วจากนั้นก็ฟันเข้าใส่เหล่าอัศวิน มันไม่ได้ยากลำบากอะไรเลยที่จะหลบการโจมตีของพวกเขาได้ เพราะว่าพวกเขาแทงกลับมาทางด้านหลัง แต่เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ถ้าเขาโดนแทงซักนิดด้วยหอกเคลือบเงิน
อินโฟเร่ดรอปโล่ค่อนข้างดีใช้ได้เลย และเขาก็สิ้นใจตาย
วีดได้รับกำไรค่อนข้างสูงทีเดียว
โปลอน: เขาควรจะเหนื่อยได้แล้วนิ แต่กลับทนได้จนน่ารำคาญจริงๆ การหยุดม้าอาจจะทำให้พวกเขากระแทกใส่กันล้มลงระเนระนาด ส่วนเขาก็อาจจะวิ่งหนีไปอีกทางก็ได้
ลำดับที่ 4 ถึง 6 วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ลำดับที่ 1 ถึง 3 ตามข้ามา

จากคำบัญชาการของโปลอน เหล่าอัศวินที่กำลังไล่ตามวีดก็แยกออกเป็นสองทาง
กลุ่มหนึ่งดึงดูดวีดไปพลางโจมตีและตั้งรับต่อไปเรื่อยๆ ส่วนอีกกลุ่มที่มีโปลอนก็อ้อมวนเป็นวงกลมกลับไป พวกอันเดดกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดตามพื้นดิน แต่พวกเขาก็เคลื่อนที่ไปราวกับไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆเลย อัศวินสองหน่วยที่แยกกลุ่มกันเริ่มขี่เข้ามาบรรจบกัน
โปลอนและอัศวินของเขา หรือแม้แต่เหล่าเนโครแมนเซอร์ต่างเบิกตากว้างเพื่อไม่ให้พลาดทุกการกระทำของวีด วีดได้รับความเสียหายรุนแรงเป็นครั้งที่สองจากการใช้ร่างอันเดดของเขาบุกทะลวงเข้าไปในพลังศักดิ์สิทธิ์
นี่เขากำลังพยายามสลัดพวกอัศวินที่ไล่ตามเขาอยู่แล้วก็เข้าไปรวมกลุ่มกับพวกอันเดดหรือเปล่านะ?!
สายตาของวีดมองขึ้นไปยังท้องฟ้า เหล่าเดทไนท์ที่ขี่อยู่บนการ์กอยล์กำลังบินไปมารอบๆ แต่เพราะว่ามีไฟอาบลูกธนูและเวทย์มนต์เล็งไปที่พวกมัน พวกมันจึงติดไฟและตกลงกระแทกพื้นอย่างจัง
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บบ้างจากการเข้าไปทะลวงการป้องกันของพวกเรนเจอร์และจอมเวทย์
นี่มันยากเกินไป ด้วยจำนวนอันเดดที่เหลืออยู่นี่ฉันคงไม่สามารถจัดการอัศวินทั้งหมดได้แน่ๆ
วีดยังคงไล่ตามพวกอัศวินและเชือดพวกมันต่อไปเรื่อยๆ
วิชาดาบเฮอเรม!”
เขาจัดการพวกอัศวินลงไปสู่พื้นดินตรงที่พวกอันเดดเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอฆ่าพวกเขา ขณะที่เขากำลังแสดงความสามารถอันแสนยิ่งใหญ่ด้วยทักษะวิชาดาบเฮอเรม อัศวินอีกหน่วยหนึ่งก็ไล่ตามหลังวีดมาจนถึงตัว
ได้เวลาตายแล้ว วีด!”
โปลอนขี่ผ่านไปที่วีดแล้วก็แทงหอกออกมาจากด้านข้าง แต่วีดก็สามารถเหวี่ยงตัวหลบได้ ดังนั้นหอกของเขาจึงเฉี่ยวไปเพียงแค่บริเวณไหล่ของวีด
-ท่านถูกโจมตีโดยการแทงของอัศวิน
เนื่องจากได้รับความเสียหายหนัก ความคงทนของชุดเกราะของท่านลดต่ำลง ค่าการป้องกันลดลง -7%
ทักษะวิชาดาบเฮอเรมที่ใช้อยู่ถูกยกเลิกการใช้ไป
เพราะว่าทักษะถูกแทรกแซง ท่านสูญเสียความสมดุลของร่างกายเป็นเวลา 1.3 วินาที
ท่านถูกโจมตีโดยอาวุธที่เคลือบด้วยเงินศักดิ์สิทธิ์
ท่านสูญเสียค่าพลังชีวิต 2 เท่า
พลังแห่งความตายลดลง
ท่านอาจจะติดค่าสถานะอัมพาตชั่วคราว แต่ยังไม่มีผลในตอนนี้
 จบตอน
ผู้แปล : Cole’s Myth

Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

14 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับที่ทำให้อยากอ่านต่อแล้วจากไป

    ตอบลบ
  2. ฉิบล่ะ กะรุมโดนไม่ให้พักเลย
    มีทีเด็ดอะไรต้องงัดมาใช้ให้หมดล่ะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณครับ ตอนนี้ทำไมมันค้างจัง

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณครับ สู้ๆครับทีมแปล

    ตอบลบ
  5. อ่านไปใจเต้นแรงมากลุ้นสุดๆไปเลยครับ อิอิ

    ตอบลบ
  6. สนุกมากค่ะ ตื่นเต้นมากลุ้นว่าบักวีดจะงัดไรมาสุ้อีก

    ตอบลบ
  7. วีดจะรอดไหมเนี่ย

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณครับ ลุ้นมากเลย รอตอนหน้าต่อไป

    ตอบลบ
  9. ลีฮุนปล้นมันให้นุ่งหนังสือพิมพ์กลับบ้านไปเลย

    ตอบลบ
  10. ฆ่าให้โหมดดด...ยาวๆปายยย
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...