วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เล่ม 35 ตอนที่2 : พิชิตเมทาเปีย แปลโดย Acid กรด


เล่ม 35 ตอนที่2 : พิชิตเมทาเปีย แปลโดย Acid กรด


        วีดและหน่วยกริชแดงได้เข้าไปในดันเจี้ยน

        ดันเจี้ยนซ่อนตัวอยู่ใต้เมทาเปีย เขาได้วิเคราะห์มันโดยยึดข้อมูลที่ได้รวบรวมจนถึงปัจจุบันเป็นหลัก
และบ่งชี้ว่ามันเป็นดันเจี้ยนระดับ 6

        นี่คือถิ่นที่อยู่ของพวกซาลามานเดอร์ที่เติบโตมากว่า 1,000 ปีจากความร้อนของทะเลทราย
มันเป็นพื้นที่อันตรายอย่างยิ่ง รวมทั้งขุมทรัพย์ทางธรรมชาติ, สิ่งประดิษฐ์เวทย์มนต์และ วัตถุดิบที่
อาจได้รับถ้าบุคคลผู้ที่เข้ามามีความสามารถเพียงพอ พื้นประกอบด้วยหินแข็ง แต่การเหยียบลงบนรอยแยกใดๆ
สามารถเป็นเหตุให้ใครสักคนหล่นลงในหลุมลาวา

        เขาไม่สามารถกล่าวโทษใครได้ว่าไม่มีความกล้าหาญที่จะยืนอยู่ด้านหน้า

        "อากาศที่นี่แตกต่างแน่นอน ชวนให้คิดถึงบางอย่างที่ข้าได้ยินเมื่อสักครู่นี้"

        รู้สึกเหมือนกำลังกลืนถ่านร้อนๆ มันเป็นสถานที่บนทวีปเวอร์เซลล์ซึ่งพวกมอนสเตอร์มีระดับ
ความยากสูงสุดอาศัยอยู่

        ภารกิจของโนดูลมุ่งหมายให้เขาสามารถพิชิตพวกมอนสเตอร์และดันเจี้ยน วีดก็เช่นเดียวกัน

        แม้ว่าการสร้างสรรค์งานศิลปะเป็นเรื่องสนุก, ไม่มีความสุขใดยิ่งใหญ่กว่าการได้ต่อสู้กับ
พวกมอนสเตอร์ในฐานะนักรบ เขารู้สึกซาบซ่านที่หน้าอกและชื่นชมตนเองทุกครั้งที่ได้เข้าไป
และเอาชนะดันเจี้ยน เหมือนกับความตื่นเต้นเร้าใจครั้งแรกที่เขาได้ก้าวข้ามประตูในรอยัลโรด
และได้ดูดวงดาวบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืด

        "หุ หุ คงจะดีถ้าข้าสามารถทำอย่างนี้ตั้งแต่ข้ายังเด็ก"

        "นี่ไม่ใช่ดีกว่าการเป็นพ่อค้าที่น่าเบื่อหรือเด็กหรอกหรือ?"

        "ช่าย ข้าอยู่มานานแสนนานแล้ว"

        คำพูดเหล่านั้นเกิดขึ้นจากชาวบ้านดั้งเดิมของรอยัลโรด รอยยิ้มบนใบหน้าวีดเหมือนเขามอง
ปลาสดในร้านอาหารทะเล

        "ไม่มีอะไรดีกว่ารสชาติของการต่อสู้ เปลวเพลิงพุ่งพล่าน(Surging Flames), สีหนาท
(battle cry-เสียงกู่ร้องในการรบ)จากอดีตกาล!"

        เพลิงอันน่าหวาดหวั่นพวยพุ่งจากร่างของวีด

        ทักษะเปลวเพลิงพุ่งพล่านที่เป็นสัญลักษณ์ขั้นสูงสุดของนักรบทะเลทราย!
รัศมีของเปลวเพลิงถูกผนึกไว้สม่ำเสมอและสิ่งนี้สามารถปลดปล่อยได้ในการต่อสู้
พวกมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้จะเจ็บปวดจากไฟผลาญ ขณะเดียวกันการโจมตีอื่นของเขาจะมีรัศมีของ
ไฟส่งผ่านไปถึงพวกมัน เพลิงเวทย์มนต์จะหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องและ ระเบิด,
ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และแม้กระทั่งสังหารเหล่ามอนสเตอร์

        นี่เป็นวิธีที่วีดเสี่ยงนำเหล่าทหารและอัศวินโดยไม่คิดว่าเป็นเรื่องความเสี่ยงตาย! ยิ่งไปกว่านั้น,
เปลวเพลิงพุ่งพล่านยังสนับสนุนพลังชีวิตและมานาให้วีดอย่างต่อเนื่องและ
ยังให้การป้องกันที่น่าประทับใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

        มันเป็นเสียงกู่ร้องในสงครามโบราณที่เหล่านักรบพเนจรNPC สืบทอดกันมา!
มีผลให้ความว่องไว, ความปราดเปรียว, และความยืดหยุ่นของเขาเพิ่มขึ้น 160%
ในขณะที่ให้ผลกระทบ70%กับสมาชิกในกลุ่ม

        แน่นอน, ไม่มีนักรบทะเลทรายคนใดต้องการสอนทักษะนี้
มันเป็นความภาคภูมิใจและชื่อเสียงเกียรติยศของเหล่านักรบในยุคก่อน
เลเวลของพวกเขาประมาณพอๆกันกับโอเบรอน(Oberon)ผู้นำคณะเดินทางสู่แดนเหนือ

        "แกอยากตายหรือสอนข้า? แกมีเวลาตัดสินใจ 2 วินาที"

        อย่างไรก็ตาม, เหล่านักรบได้มอบวิชาต่อหน้าบารมีอันแก่กล้าของวีด ดังนั้นพวกเขาสามารถรอดชีวิต
เขาเป็นนักรบที่น่าหวาดหวั่นเขาไม่แสดงความหวาดกลัวแม้แมกไม้และขุนเขาหลอมละลาย
ไม่เป็นเพราะภารกิจของโนดูลเร่งความเร็วเป็น 100 เท่าถึงทำให้เขาจึงสามารถออกล่าได้อย่างนี้

        ชื่อเสียงของวีดในทะเลทรายเติบโตเนื่องจากการกระทำชั่วช้าของเขา

        "ทะเลทรายห้าวหาญ(Desert Bravery)!"

        "หัวใจเหล็ก(Heart of Steel!)!"

        นักรบ-1 และประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆก็ใช้การอำนวยพรด้วย นักรบ-1, นักรบ-2และ นักรบ-3
เติบโตกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด, นักรบคนอื่นแม้เหล่าอัศวินก็ไม่อาจต่อกรได้

        พวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่กระโจนเข้าใส่พวกมอนสเตอร์ ดังนั้นใบหน้าของพวกเขาจึงมีรอยแผลเป็นมากมาย
พวกเขาสูงกว่า 2 เมตรและมีช่วงแขนที่ล่ำหนา! มีบรรยากาศกดข่มรอบกายพวกเขาแต่พวกเขาเหมือนแกะน้อย
เมือเทียบกับวีด เลเวลของพวกเขานั้นต่ำกว่าราชาของพวกเขาแต่โชคดีที่แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการติดตามวีด

        พวกนักรบทะเลทรายถูกจัดลำดับอย่างเป็นระเบียบและเดินทางเข้าสู่ดันเจี้ยน วินัยทางทหารที่เข้มงวด!
วินัยนี้เกิดจากความขี้บ่นและการทำทารุนของวีด

        "อย่างที่พวกแกรู้, ใครที่แอบอยู่ข้างหลังจะถูกโยนทิ้ง"

        "ขอรับ!"

        "ถ้าเข้าใจแล้วก็เคลื่อนไปข้างหน้าได้"

        อัลเวรัน และ อัลเวเรนให้การอำนวยพรแก่กลุ่มที่เข้าไปข้างใน

        "การป้องกันศักดิ์สิทธิ์, โล่ห์กลม และ เพิ่มความต้านทานไฟ"
       
        "เกราะเพลิง, ระเบิดเพลิง, มหาโกรธาและ ลืมเจ็บปวด"

        พวกเขามีพื้นฐานมาจากอาวาลอนผู้ที่เป็นว่าที่สังฆราชของพวกเขาดังนั้นจึงมีพลังศักดิ์สิทธิ์
ในการรักษาพวกเขาอยู่ในเครื่องแบบเก่าขาดกะรุ่งกะริ่งแต่เป็นประโยชน์ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและ
ให้การรักษาผู้ใต้บังคับบัญชาของวีด
       
        "หน่วยที่ 1-3 ง้างธนู 4-5 ยกโล่ขึ้น ส่วนที่เหลือให้เคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมดาบและหอกของพวกแก
หลังจากปะทะกันครั้งแรก, ปรับเปลี่ยนอาวุธได้ตามความจำเป็น"

        "ขอรับ"

        วีดและเหล่าลูกน้องของเขามีประสบการณ์กับการออกล่าในดันเจี้ยนดังนั้นไม่ต้องกล่าวให้มากความ
พวกเขาเคลื่อนที่ไปโดยไม่มีการพูดคุยกันเพื่อประหยัดเวลา

        แต่นี่เป็นดันเจี้ยนอันตรายดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญในการออกคำสั่งต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
ถ้าเขาไม่ใช้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีแล้วเขาจะไม่ปลอดภัย

        การยิงธนูของวีดอยู่ในขั้นสูงเลเวล 8 อีกไม่นานแล้วกว่าจะไปถึงขั้นปรมาจารย์
เหล่าลูกน้องของเขาก็เชี่ยวชาญในด้านธนูด้วยดังนั้นการต่อสู้ระยะไกลเป็นไปได้

        "มองตรงหน้า ตรวจตรารอบๆ และเคลื่อนที่ให้ไว"

        "ขอรับ!"

        กองทัพเคลื่อนโดยพร้อมเพียงและเตรียมรับมือศัตรูใดๆที่ไม่อาจคาดคิด
ความตึงเครียดทำให้ดูเหมือนดันเจี้ยนมีบรรยากาศขุ่นมัว
เวลาเป็นเงินเป็นทองในภารกิจนี้ดังนั้นไม่มีเวลาให้สูญเสียแม้ว่ามันจะอันตราย

        ลูกน้องของเขามีพวกขโมยที่รื้อถอนกับดักได้

        "ขอบพระทัยฝ่าบาทที่รับข้าฯ ข้าจะถวายดาบของข้าฯแด่ฝ่าบาท, จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่"

        "เจ้ารู้วิธีปลดล๊อกหรือไม่? เจ้าตั้งใจจะเป็นขโมย ให้เจ้ารับผิดชอบรื้อถอนพวกกับดักทุกๆอันในอนาคต"

        "ห๊า? ข้าฯรอคอยที่จะใช้ชีวิตในฐานะนักรบ..."

        "แกอยากตายหรือไง? คิดถึงครอบครัวของแกซิ"

        “….”

        เขาได้รับนักเวทย์ขี้โกงใหม่ 5 คนเมื่อ 17 ปีก่อนและค่าจ้างงานของพวกเขาก็ค่อนข้างถูก

        "ค่าไถ่ของพวกเราแพง ทุกๆปีเจ้าต้องจ่ายทองเต็มถุงเป็นค่าจ้าง เงินจำนวนนี้ไม่สามารถต่อรองได้
เพราะเป็นความภาคภูมิใจของพวกเรา"

        "ไร้สาระ ความสามารถของพวกแกไม่คุ้มกับเงินจำนวนมาก พวกแกไม่มีความหลงใหลในเวทย์จริงๆ"

        วีดตำหนิพวกเขาเมื่อเขาต้องพิจารณาเงินเดือน!

        "ค่าตอบแทนนี่ไม่ยุติธรรม"

        "ออกล่าและส่งไอเทมเวทย์มนต์ทุกอันที่พวกแกได้รับ โยนตัวพวกแกเองไปเล่าเรียนมนต์ใหม่ๆ
แล้วก็คุยเกี่ยวกับการจ้างงานเท่านั้น ถ้าพวกเจ้าเอาตัวรอดได้สำเร็จ นี่เป็นสิ่งดีที่สุดที่ข้าเสนอให้"

        พวกนักเวทย์ขี้โกงอารมณ์เสียแต่จบลงด้วยการยอมรับข้อเสนอ ในเวลาเดียวกัน,
วีดได้รับชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลง

        แต่โชคไม่ดีทักษะของพวกนักเวทย์อยู่ที่เลเวล 3 ขั้นสูง ไม่ง่ายเลยที่จะยกระดับทักษะความเชี่ยวชาญ
ของเวทย์มนตร์เพราะว่าพวกเขาจำเป็นต้องเรียนความหลากหลายของเวทมนตร์ จำนวนเวทย์มนต์ที่สามารถเรียนรู้ได้
ในเมืองทะเลทรายนั้นมีจำกัด ความรู้ของนักเวทย์มีข้อจำกัดหากพวกเขาไม่เดินทาง

        "จงเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมงานพวกแกและข้าจะนำพวกแกเอง"

        "ถ้าฉันเดินทางแล้วมานาจะเพิ่มขึ้นและฉันจะได้รับการเรียนรู้ใหม่"

        "พวกแกกำลังพยายามหนีหรือไง?"

        “….”

        "พวกแกวางแผนจะไม่กลับมาทะเลทรายอีกอย่างนั้นหรือ? พวกแกสามารถเรียนเวทย์มนต์ในละแวกที่ดี
และทำวิจัยเวทย์มนต์ให้องค์ราชินีผู้น่ารัก"

        “….”

        "ทำงานให้หนักไม่งั้นแกจะไม่รอด"

        ท่านประธานใช้สายตาอันแหลมคมกดดันเข้าสู่จิตใจพนักงานของเขา

        เขาไม่สามารถมองข้ามศักยภาพของนักเวทย์ได้จนกว่าภาระกิจของโนดูลจะเสร็จสมบูรณ์!

        "หะ-วิค!"

        "มนุษย์ มนุษย์อยู่ที่นี่..."

        "โฮ โร โร โร รัม มันเป็นคนที่หนีไปเมื่อครั้งก่อน โฮ โร รัม"

        ซาลามาเดอร์ไฟ 7 ตัวปรากฎขึ้น พวกมันจับจ้องวีดและกองทหารกริชแดงด้วยการแสดงออกถึง
ความหิวโหย ลิ้นสองแฉกยืดยาว 10 เมตร ลาวาละลายพื้นดินที่อยู่ใกล้พวกมัน

        เจ้าซาลามานเดอร์ไฟมีลักษณะคล้ายมังกร พวกซาลามาเดอร์ไฟไม่ใช่มอนสเตอร์ไฟระดับสูง
เหมือนมังกรสีชาดแต่พวกมันยังคงเป็นอันตราย

        ในอดีต, ที่เขาต่อสู้กับยักษ์ไฟในลาสฟารั้งค์และพวกมันน่าเบื่อและมีจุดบอดมากมาย
แน่นอน, พวกมันระดับต่ำกว่าพวกซาลามานเดอร์ไฟและรัศมีเพลิงของพวกมันก็ไม่อาจเทียบได้

        เปลวเพลิงที่หมุนวนจะไม่สร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์ด้วยคุณสมบัติของไฟ
ยกตัวอย่าง, การโจมตีพวกซาลามานเดอร์ไฟด้วยไฟจะแค่เพิ่มพลังให้พวกมัน

        "ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว ชิ้ว"

        "โฮโร โฮร๊อค!"

        พวกซาลามานเดอร์ไฟขัดขวางทางเดินข้างหน้าของพวกเขา พวกมันมีนิสัยชอบล่าสัตว์
ดังนั้นพวกเขาจึงระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม, พวกนี้อ่อนแอเพราะว่าพวกมัน ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติใดๆ
พวกมอนสเตอร์ที่เป็นอิสระและอันตรายได้ทำการสำรวจมนุษย์อย่างเย่อหยิ่ง

        วีดคว้าธนูของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว

        ตริ๊ง!

                - คุณสวมใส่ธนูยะเยือกเยอบูสิก้า(the Yurbusika Frost Bow)
                        นี่ไม่ใช่คันธนูไม้ธรรมดา คนที่ถือจะได้รับความรู้สึกอันน่าขนลุกเล็ดลอด
                ออกมาจากมัน
                        จะมีการเพิ่มทักษะการยิงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเงื่อนไข 35%, น้ำแข็ง
                ความเสียหายโดย 65 ~ 194, การแช่แข็ง, ลูกศรเวทย์ไม่จำกัด , ทักษะก่อให้เกิด
                ลูกศรจำนวนมาก 40%, ลูกศรที่โจมตีถูก 100% เมื่อใช้ทักษะการติดตาม, ความว่องไว
                +160 และการยิงโดนแน่นอน

        แม้แต่คุณสมบัติพื้นฐานของธนูก็น่าประหลาดใจ พวกภูตผีในเมทาเปียใช้มันเพื่อกำจัดพวกซาลามานเดอร์
ที่พยายามออกไปพื้นเบื้องบน พวกนักรบทะเลทรายยังได้รับอุปกรณ์จำนวนมากจากภูตผีเหล่านั้นช่วยให้พวกเขา
สังหารซาลาแมนเดอร์ไฟ นี่คือกฎของการจัดหาในท้องถิ่น

        วีดง้างสายธนูและยิงลูกศรน้ำแข็งขึ้นในอากาศ

        "ยิงกระจาย!"

        ศรน้ำแข็งแท่งหนากลายเป็น 10 ลูกศรที่เหินสู่เจ้าซาลามานเดอร์ไฟ
นักธนูผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่โจมตีซาลามานเดอร์ไฟราวเวทย์มนต์!

        "ชู่ว.ว.ว!"

        "หนาว นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกแบบนี้!"

        "แค๊กๆ, หนาวมาก! ร่างข้าแข็งไปหมดแล้ว"

        พวกซาลามานเดอร์เจ็บปวดและพยายามต้านทานลูกศร ลูกศรเสียบเข้ากับก้อนลาวาและลดเปลวไฟลง
พื้นกลายเป็นน้ำแข็งและปลดปล่อยรัศมีไอเย็น, ทำลายสัตว์ที่อ่อนแอและพวกเหล่านั้น ด้วยคุณสมบัติจากการยิง

        เวลานี้เปลวไฟพวกมันอ่อนโทรมลง, การป้องกันอันแข็งแกร่งของเจ้าพวกซาลามานเดอร์
ประสบความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ

        "มันได้ผล โจมตี!"

        นักรบทะเลทรายเล็งธนูของพวกเขาไปยังพวกซาลามานเดอร์ไฟ ยิงลูกศรพร้อมกัน โจมตี!

        นักรบทะเลทรายมีร่างกายสูงใหญ่เหมือนพวกคนเถื่อนดังนั้นพวกเขาเพียงต้องง้างธนูด้วยแรงเล็กน้อย
ลูกศรนับร้อยพุ่งตรงเข้าหาเจ้าพวกซาลามานเดอร์ไฟ

        "เคียคุฮ่า!"

        "พวกมนุษย์หยาบช้า ข้าจะเปลี่ยนพวกเจ้าเป็นเถ้าถ่าน"

        "ข้าจะเผาและกินพวกเจ้า!"

        เจ้าซาลามานเดอร์ไฟเคลื่อนไหวขาทั้ง 6 ข้างเคลื่อนที่ไปข้างหน้าขณะที่ถูกโจมตีด้วยลูกศร
วีดยิงลูกศรอย่างต่ำ 3 ครั้งก่อนล่าถอยและชักดาบของเขาออกมา

                - คุณสวมใส่ดาบสามเยาว์วัยกรีดร้อง(the Three Screaming Children Sword)
                        ผู้นำของอาณานิคมแดนใต้กลายเป็นคนบ้าคลั่งเพราะความโลภและโยนลูกทั้งสามคนของเขา
                ลงในหลุมไฟเพื่อสร้างดาบนี้!
                        ดาบบรรจุคำสาปที่ลดความแข็งแกร่งและพลังชีวิตสูงสุด
                มันจะเพิ่มความสามารถในการฟันได้ถึง 5 เท่า

        ซอยูนให้ข้อมูลขบวนสินค้ากับเขาและวีดได้รับดาบหลังจากการนำนักรบทะเลทรายซุ่มโจมตีพวกเขา
ขณะนี้เขาอยู่ในบทบาทของโนดูลดังนั้นเขาไม่สนใจเรื่องเสื่อมเกียรติ

        "เคล็ดมีดสลักแสงจันทร์!"

        วีดเหวี่ยงดาบของเขาซึ่งถูกเพิ่มพลังให้มากขึ้นไปทางซาลามานเดอร์ไฟ
แม้ว่าพวกนักรบทะเลทรายจะอยู่ในชั้นที่มีทักษะโจมตีมากมายและการป้องกันที่ไร้สาระ ความแข็งแกร่ง,
มันเป็นการยากที่พวกเขาจะทำการโจมตีต่อเนื่อง

        นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในระยะยาวเคล็ดมีดสลักแสงจันทร์จึงมีประสิทธิภาพ

        พวกลูกสมุนของเขาถือดาบโค้งและหอกเพื่อทำการโจมตี

        "แทบไม่มีผลเลยแม้จะฟันร่างตรงๆ โจมตีที่ตา!"

        "ระวังอย่าให้ดาบโดนตัวนานเกินไป มันจะละลาย"

        อาวุธของพวกนักรบทะเลทรายมีความต้านทานเพลิงแต่ไฟของซาลามานเดอร์ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ
ถ้าอาวุธที่เป็นเหล็กแทงเข้าสู่ร่างแล้วพวกมันจะละลายในทันที ยิ่งกว่านั้น, การเข้าใกล้เปลวไฟจะทำให้เหงื่อไหล
ลงมาตามร่างกาย

        "มนุษย์ไร้สาระเหล่านี้! ข้าจะให้พวกเจ้าได้รับประสบการณ์ร่างหลอมละลาย"

        เจ้าพวกซาลามานเดอร์ไฟพ่นลาวาจากปากของพวกมันในขณะที่พวกมันกำลังวิ่งไปข้างหน้า
เท้าทั้ง 6 ข้างเตะพวกนักรบและแนวป้องกันล้มลงทันที

        "โครม!"

        "ระวังลาวาที่พ่นออกมาจากปากของพวกมัน"

        "อันตราย! อย่าโจมตีซิ่งหน้าให้ไปด้านข้าง!"

        "อ๊าก.ก!"

        ร่างของพวกนักรบปกคลุมไปด้วยลาวาหลอมเหลว นักรบที่ตายไปทั้งหมดล้วนเป็นพวกที่
แข็งแกร่งชั้นแนวหน้าเสียชีวิตอย่างไร้สาระ นักรบที่ถูกเตะก็ลอยกลับมาเหมือนนกปีกหัก

        "วงแหวนน้ำแข็ง!"

        "เยือกแข็ง!"

        นักเวทย์ 3 คนยิงเวทย์มนต์ของพวกเขา! วงแหวนน้ำแข็งปรากฎขึ้นเหนือหัวของ
เจ้าซาลามานเดอร์และระเบิดออก

        วีดใช้ประโยชน์จากโอกาสนั้น

        "นักรบควรเข้าหาอย่างกล้าหาญ ยิ่งพวกเราอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่, พวกเราจะได้รับความเสียหายมากขึ้น
อย่าให้มันมีช่องทางหนีได้"

        "ขอรับ, จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!"

        ซาลามานเดอร์ไฟนั้นดุร้ายแต่พวกมันถูกล้อมด้วยนักรบหลายชั้น ลูกศรโจมตีพวกมันและร่าง
ที่หนาของพวกมันบาดเจ็บจากหอกและดาบ อย่างไรก็ตาม, วีดและเหล่านักรบทะเลทรายยังได้รับความเสียหาย
ในการโจมตีต่อเนื่องเหล่านั้น

        นี่แตกต่างจากที่พวกเขาเข้ามาในดันเจี้ยนครั้งก่อน

        "พลังชีวิตของพวกมันยังเหลือครึ่งนึง ใช้พลังทั้งหมดของพวกแกซะ!"

        "ม่านเปลวเพลิง!"

        ซาลามานเดอร์ไฟตกอยู่ในช่วงวิกฤตและใช้เวทย์ประจำพันธุ์ของพวกมัน
และเปลวเพลิงกระจายอย่างรวดเร็วไปทุกพื้นที่

        "โจมตี!"

        "อย่ากลัว กำจัดพวกมัน!"

        พวกนักรบปราศจากความกลัวเข้าไปในม่านเปลวเพลิงและทำการโจมตีเจ้าพวกซาลามานเดอร์ไฟ
เพียงไม่กี่วินาทีแต่ลาวาที่มาจากปากของพวกซาลามานเดอร์ไฟนั้นอันตราย

        "หางแห่งความตาย!"

        พวกซาลามานเดอร์ไฟสะบัดกวาดหางไปมาโจมตีพวกนักรบ! พวกนักรบทะเลทรายถือโล่และ
ใส่เข็มขัดที่มีความต้านทานไฟค่อนข้างมากเป็นมาตรฐาน วีดได้เตรียมการมากมายเพื่อที่จะพิชิตดันเจี้ยน
เมทาเปียก่อนที่ภารกิจของโนดูลจะเสร็จสิ้น

        แต่สิ่งนั้นได้รับผลกระทบจากหางจนกลายเป็นอัมพาต หลังจากนั้น, เจ้าพวกซาลามานเดอร์
เลือดเย็นก็จู่โจมพวกเขาด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

        "กรงกรรม(Cycle of Life)!"

        "ฟื้นฟูบาดแผล!"

        อัลเวรันและ อัลเวเรน ให้การรักษาพวกเขาในทันทีก่อนที่พวกเขาจะถูกฆ่า อย่างไรก็ตาม,
พวกเขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน

        โชคยังดี, พวกนักรบเป็นพวกเลเวลสูง ดังนั้นการรักษาบางอย่างสามารถรักษาพวกเขาในขณะที่
พวกเขาถูกโจมตี วัดส่งสัญญาณให้ลูกน้องของเขาล่าถอย

        "มนุษย์, ข้าถูกฆ่าด้วยน้ำมือมนุษย์..."

ในที่สุด, เจ้าซาลามานเดอร์ที่ได้รับความเจ็บปวดจากการโจมตีของพวกนักรบก็ล้มลงบนพื้น

                - ซาลามานเดอร์ไฟถูกสังหาร
                        มันมีอายุ 1,141 ปี
                นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทวีปที่มนุษย์ได้ล่าซาลามานเดอร์ไฟชนิดนี้
                - ทุกคนที่เข้าร่วมในการต่อสู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 1
                        ความต้านทานไฟจะเพิ่มขึ้น 0.6% เป็นเวลา 30 วัน

        มันเป็นเพียงแค่ตัวเดียวแต่วีดกู่ตะโกนเพิ่มขวัญกำลังใจ

        "ยี้ฮ่า! การล่าสำเร็จ"

        เป็นสีหนาท(เสียงกู้ร้องในสงคราม)โบราณเขาได้เรียนรู้มาในอดีตที่ใช้แทนราชสีห์คำราม!

        "ตามจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่มา!"

        "พวกเราทำได้!"

        พวกนักรบทะเลทรายเริ่มเครื่องร้อนควงดาบและหอกเข้าหาเจ้าพวกซาลามานเดอร์
เหล่าซาลามานเดอร์ เคลื่อนไหวหางและขาของพวกมันไปแต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ผู้ที่ล้มลง
ก็ลุกขึ้นทันทีและเตรียมตัวเข้าต่อสู้อีกครั้ง

        นี่ไม่ใช่เนื่องจากเลเวลสูงหรือสถานะใดๆ ความกล้าหาญนี้เป็นสิ่งที่วีดได้
กำหนดเป็นเงื่อนไขสู่พวกเขาผ่านประสบการณ์การต่อสู้ที่นับไม่ถ้วน
เหล่าลูกน้องของเขาเต็มใจที่จะกระโดดลงหลุมเพื่อเขา!

        นักรบ-1, นักรบ-2 และ นักรบ-3 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โดดเด่น

        "พลังเพื่อชีวิต"

        "นักรบ-2, ดึงความสนใจพวกมัน ข้าจะเข้าด้านหลัง"

        "ข้างหลังนี่เป็นที่อันตรายที่สุด, พี่ชาย! ข้าจะไปกับท่าน"

        "ระวัง!"

        พวกเขาขี่อูฐเมื่อมีการต่อสู่ในทะเลทรายราวอัศวิน แต่เวลานี้ คนประมาณ 3-4 คนกำลังรั้ง
เจ้าซาลามานเดอร์ด้วยหอก พวกเขาแทงออกไปโดยไม่ต้องสนใจด้วยหอกของพวกเขา

                - ซาลามานเดอร์ไฟรวม 7 ตัวได้ถูกล่า
                        ทุกคนที่เข้าร่วมในการต่อสู้นั้นจะมีความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น 3
                        ผ่านประสบการณ์การต่อสู้กับพวกซาลามานเดอร์ไฟ,
                ความต้านทานไฟเพิ่มขึ้น 0.6% เป็นเวลา 45 วัน
                - เมื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ลึกกว่า, ซาลามานเดอร์ไฟที่กินไฟเป็นอาหาร
                ตลอดระยะเวลาอันยาวนานจะปรากฏขึ้น
                - เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น

        "พวกเราชนะแล้ว!"

        วีดเหลือพลังชีวิตเพียง 23% หลังเผชิญหน้าโดยตรงกับพวกซาลามานเดอร์ไฟ
พวกซาลามานเดอร์ตระหนักแล้วว่าวีดเป็นผู้นำท่ามกลางพวกมนุษย์และโจมตีเขามากที่สุด
อาวารัน และอาวาเรนทำการรักษาเขาเสมอก่อนนักรบคนอื่นๆ ดังนั้นพลังชีวิตของเขาถูกจัดการให้คงที่ไว้

        เมื่อมองแต่ไกล, มันเป็นฉากที่กล้าหาญแต่คนที่หันหน้าไปทางลาวาที่กำลังพ่น
รู้สึกเหมือนพวกเขากำลังจะตาย อย่างไรก็ตาม, ยังคงมีความยินดีหลังจากชัยชนะ

        "ศัตรูทั้งหมดร่วงไปแล้ว อย่างไรก็ตามนี่คือ...."

        นักรบรีบร้อนหลังจากได้ยินคำพูดของวีด

        "ในฐานะจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทรายและผู้เรียกสายฝน, นี่คือบรรณาการแด่ท่านวีด"
       
        "เจ้าเข้าใจดีนี่"

        "ฮูเร่, ฮูเร่, ฮูเร่!"

        พวกนักรบทะเลทรายภาคภูมิใจในตัวเขาอย่าแท้จริง! เวลาในภาระกิจกำลังจะหมดไปแต่
ถ้าเขาชนะในศึกใหญ่แล้วเขาจะได้รับค่าประสบการณ์ 100 เท่า วีดบรรลุถึงเลเวลขั้นสูงของเขา
เนื่องจากความเสี่ยงและความกล้าหาญของเขา

        'ตกลงเข้าไปให้ลึกลงไปอีก เราได้รับค่าต้านทานไฟสะสมทุกคั้งที่เราล่า'

        พวกนักรบจะปรับตัวขณะต่อสู้! มีพวกซาลามานเดอร์ไฟจำนวนมหาศาลในดันเจี้ยนนี้ อย่างไรก็ตาม,
ความต้านทานและความมุ่งมั่นของเขาก็จะเพิ่มขึ้นด้วยในการล่าแต่ละครั้งดังนั้นมันคุ้มค่าที่จะลอง

        พวกซาลามานเดอร์ยังดรอปไอเทมด้วย โชคไม่ดี, เขาไม่มีช่างตีเหล็กหรือ
ทักษะการตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อใช้ประโยชน์จากวัสดุ (คงเนื่องจากอยู่ในสถานะของโนดูล-ผู้แปล)

        วีดถามนักรบ-1

        "ลูกน้องตายไปกี่คน?"

        "มีผู้เคราะห์ร้าย 17 นายขอรับ"

        "นี่...มันเยอะเอาการ"

        "ข้าขอพระราชทานอภัย มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่"

        ผู้ที่เสียชีวิตเหล่านั้นอย่างต่ำก็เลเวล 500 และแม้กระทั่งผู้ใต้บังคับบัญชาระดับ 700 ยังได้รับ
ความเสียหายมหาศาล วีดต้องควบคุมขวัญและกำลังใจของลูกน้องของเขา

        "มีแต่พวกอ่อนแอเท่านั้นที่ตาย งั้นเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับศึกต่อไป"

        "ขอรับ!"

        คนของเขาไม่ได้เลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม

        พวกเขาต่อสู้กับพวกศัตรูที่แข็งแกร่ง ดังนั้นกองทหารที่เหลือยู่ได้รับค่าประสบการณ์แต่ทว่า
พวกเขาโดยรวมแล้วแข็งแกร่งขึ้น เวลานี้วีดและลูกน้องของเขาได้ใช้เวลา 20 ปีในทวีปเวอร์เซลล์และ
กลายเป็นพวกนักรบชั้นนำ

        แม้แต่เฮสทีเกอร์(Hestiger)ที่น่ารำคาญก็ยังถูกโยนเข้าใส่พวกมอนสเตอร์และมีชีวิตรอดกลับมาทุกครั้ง
ดังนั้น, พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่จากอาณาจักรต่างๆ

        "ลุยกันเลย!"

        วีดทำหน้าที่ผู้นำอีกครั้ง ผู้นำของพวกเขาอยู่แถวหน้าและอยู่รอดเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูที่พวกเขาพบ
ดังนั้นพวกนักรบเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ

        'เราต้องไปอยู่ข้างหน้า'

        มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับวีดที่จะเป็นทัพหน้า

                                        ***************

        จอง ด๊อก ซู(Jeong Deuk-soo) พบกับประธานของธนาคาร

        มีบรรยากาศที่เป็นกันเองในธนาคารแต่ในไม่ช้ามันก็กลายเป็นในแง่ร้ายเมื่อเขาพยายามหว่านล้อม
พวกธนาคาร

        "ท่านประธานจอง, พวกเจ้าหนี้ของเราได้พิจารณาแล้วว่าวิกฤตของ โฮซุง กรุ๊ป(Hosung Group) ไม่สามารถ
แก้ไขได้ด้วยการระดมทุนธรรมดา"

        "บริษัทบริหารร่วมทุนมีเด้งกลับขึ้นๆลงๆ ถ้าคุณสามารถเลื่อนการชำระเงินกู้และ
อนุมัติเงินทุนเพิ่มเติมแล้วพวกเราเราสามารถเอาชนะวิกฤติด้วยความกล้าในการลงทุนใหม่"

        "ท่านประธานจอง เราได้รับรายงานจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับโฮซุง กรุ๊ป, รวมถึงโฮซุงอิเล็คทรอนิกส์"

        เจ้าหนี้หลักสองรายคือธนาคารพาณิชย์และธนาคาร ตู ซังชุล(Du Sangchul) โฮซุง กรุ๊ปมีการกู้ยืมเงิน
กับธนาคารเหล่านี้

        ประธานของธนาคารพาณิชย์ ฮยอน จินวอน(Hyun Jin-won)มอบเอกสารและกล่าว

        "พวกเจ้าหนี้ได้ข้อสรุปว่าการกู้สถานการณ์ของโฮซุง คอนสตรัคชั่นเป็นไปไม่ได้

        "มันยาก แต่ก็ยังมีโอกาส ขออีกสักครั้ง,หากมีการให้เงินทุนใหม่แล้วสามารถฟื้นฟู
สินทรัพย์และกำลังคนของโฮซุง คอนสตรัคชั่น มีเพียงพอที่จะแข่งขัน
นอกจากนี้ยังมีความพยายามทำก่อสร้างในต่างประเทศด้วย"

        "ท่านประธานก็ทราบดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? เงินทุนใหม่ไม่สามารถอัดฉีดเข้าโฮซุง คอนสตรัคชั่นได้
เราจะไม่มีการสนทนานี้หากสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้"

        “….”

        "และพวกเราเชื่อว่าโฮซุง อิเล็คทรอนิกส์อยู่ในความเสี่ยง โรงงานในอเมริกาอยู่ในภาวะ
ขาดทุนสะสมดังนั้นและอาจจะต้องปิดตัวลง"

        "การค้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแต่ช่างเทคนิคของเราทำงานทั้งคืนและนำ
นักออกแบบที่มีชื่อเสียงเข้ามา ไม่ช้าก็เร็วควรมีผลลัพธ์ที่มองเห็นได้"

        "มันเร็วเกินไปที่จะดำเนินการลงทุนขนาดใหญ่เนื่องจากสถานการณ์ไม่ดี กระแสเงินสดของ โฮซุง กรุ๊ปก็ไม่ดี
ดังนั้นคุณไม่ควรเข้าห้ำหั่นในตลาด"

        "นั่นคือความวิตกกังวลที่ไม่มีมูลความจริง โฮซุง อิเล็คทรอนิกส์ยังคงเป็นบริษัทชั้นนำทั่วโลก
อัตราส่วนหนี้สินของกลุ่มบริษัทอยู่ในระดับสูง แต่หากมีการลงทุนเราก็สามารถดำเนินการต่อไปได้
โฮซุง อิเล็กทรอนิกส์ มีผลิตภัณฑ์และวัสดุสำเร็จรูปจำนวนมากดังนั้นยังคงแข่งขันได้"

        "แต่จนถึงตอนนี้, คุณไม่ได้อยู่ในภาวะขาดดุลแทนที่จะเป็นส่วนเกิน(กำไร)แม้คุณจะพยายามแล้วงั้นหรือ?
ผลผลิตจากโรงงานกำลังลดลงและการลงทุนในโรงงานเหล่านี้จะต้องเพิ่มขึ้น"

        ท่านประธานจอง ด๊อกซูไม่สามารถโน้มน้าวเจ้าหนี้ได้

        โฮซุง กรุ๊ปมีหนี้สินมากเกินไปเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและลงทุนในด้านการก่อสร้าง
และอิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป

        อย่างไรก็ตาม, สาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตคือเครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี แบ็ค-กวา(Baekhwa)

        ประมาณ 1 ปีที่แล้ว, ประธานของแบ็ค-กวา กรุ๊ปได้มาสนทนาลับ

        "โฮซุง กรุ๊ปทับซ้อนกับอาณาเขตของพวกเรามากมาย นี่หมายถึงรายได้ที่หดหายไปจะมากขึ้น...
นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรือไง?

        "การมีความกระตือรือร้นในด้านการวิจัยและพัฒนาทำให้ปวดหัว ธุรกิจก่อสร้างของโฮซัง กรุ๊ปนี้ตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นคุณควรพิจารณาทางการเมืองและด้านการเงิน

        "สื่อจะให้ความสนใจเมื่อมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่"

        "การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต้องมีการเจรจากับผู้รับจ้างและดำเนินการให้เสร็จสิ้นในวันส่งมอบ หรือมิฉะนั้น
การเปิดตัวสินค้าจะล่าช้า และราคาขายจะต่ำกว่าเดิม, ทำให้กำไรลดลง"

        "ฉันแค่ไม่สามารถกำจัดโฮซุงอิเล็คทรอนิกส์ได้"
       
        "พวกเราจะขโมยพนักงาน ผู้อำนวยการบริหารและทีมของ โฮซุง อิเล็คทรอนิกส์
ฉันสามารถรับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ที่ธนาคารเพื่อรับ โฮซุง อิเล็คทรอนิกส์ ในราคาถูกได้อีกด้วย
คุณควรใจเย็นๆปล่อยมันไว้เพื่อไม่ให้สื่อรู้เรื่องเสียก่อน"

        "ฉันจะจัดการมันเอง"

        กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ใช้บ่อยสำหรับบริษัทขนาดใหญ่คือการทำลายกลุ่มคู่แข่ง!

        บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศเกาหลี, โฮซุง กรุ๊ปกำลังจะพังทลายแม้
จิตวิญญาณที่ท้าทายของพวกเขา

                                        ***************

        "ซาลามานเดอร์ 14 ตัวพ่ายแพ้! ซาลามานเดอร์ไฟ 9 ตัววิ่งตามมาหลังได้ยินเสียงรบกวน"
       
        "ตั้งแนวป้องกันให้เรียบร้อยเต็มที่"

        "แนวป้องกันเต็มรูปแบบ!"

        ลูกน้องของวีดได้เข้าสู่รูปแบบการป้องกันตามคำสั่งของเขา

        ทุกดันเจี้ยนมีวิธีการต่อสู้แตกต่างกัน คนของเขาสามารถจัดระเบียบรูปแบบการป้องกัน
เป็นแนวหรือล้อมวง เจ้าพวกซาลามานเดอร์ไฟโดยปรกติจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มดังนั้นการโจมตีด้วย
ไฟของพวกมันจะกลายเป็นร้อนแรงยิ่งขึ้น

        พวกเขาต้องแยกซาลามานเดอร์ไฟออกเดี่ยวๆในที่กว้างและฆ่ามัน
 เมื่อการต่อสู้กระจายออกไป, การสั่งการพวกเขาก็ยากมากขึ้นดังนั้นพวกนักรบจึงต้อง
รู้วิธีการต่อสู้ที่ดี นักรบที่บาดเจ็บไม่มีทางเลือกนอกจากรักษาตัวเอง

        วีดเข้าใจวิธีต่อสู้กับซาลามานเดอร์ไฟในไม่ช้า

        "พวกมันเหวี่ยงขาทั้ง 6 ข้างและหางเป็นระยะๆ ทั้งยังจับมนุษย์ด้วยลิ้นของพวกมัน"

        สรุปได้ว่าร่างกายทั้งหมดของพวกมันเป็นอันตราย! พวกนักรบกรีดร้องอย่างน่ากลัว
ขณะที่พวกเขาถูกกินทั้งเป็น

        อย่างไรก็ตาม, ลูกน้องของวีดไม่ชะงักงันเพราะกลัวและโจมตีรุนแรงมากกว่าเดิม
เหล่านักรบทะเลทรายเชื่อฟังวีดไม่ลืมหูลืมตา พวกเขาท้าทายศัตรูที่แข็งแกร่งไม่รู้จบสิ้น

        วีดใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มความคุ้นเคยอย่างมีนัยกับพวกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
ความสัมพันธ์อย่างแท้จริงระหว่างเผด็จการและอาญากรรม!

        ซาลามานเดอร์ไฟชอบไฟและอยู่ในเลเวลสูง แต่ถ้าพวกเขาใจเย็นลงแล้วมีวิธี
จัดการกับพวกมัน

        "จับตาดูพวกมันไว้!"

        "ชูรี่(Chyurik)!"

        "สังเกตพวกมันรับความรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนและความแตกต่างของอุณหภูมิ และนี่คือ
ส่วนที่อ่อนแอของลิ้น ระวังเปลวไฟด้วยหรือกระทั่งมีดจะหลอมละลาย!"

        "รับบัญชา, จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

        พวกนักรบทะเลทรายและซาลามานเดอร์ไฟมีการวางแนวแบบเดียวกัน! ดังนั้นแม้จะมี
โจมตีซึ่งกันและกันนับครั้งไม่ถ้วน, ทั้งสองฝ่ายทำความเสียหายได้เพียงเล็กน้อย

        ผลลัพธ์จะออกมารุนแรงมากถ้าพวกมันบุกธารน้ำแข็งที่เยติอาศัยอยู่
ซาลามานเดอร์ไฟจะถูกแช่แข็งและไม่สามารถแสดงความสามารถของพวกมันได้ในขณะที่เยติ
จะไม่สามารถเข้าใกล้ได้ไม่อย่างนั้นพวกมันจะละลาย พวกนักรบทะเลทรายและซาลามานเดอร์ไฟ
ทั้งคู่มีความสามารถพอๆกันดังนั้นการต่อสู้จึงใช้เวลานาน

        เหล่านักรบทะเลทรายผู้กล้าหาญกระโจนไปข้างหน้าหรือยิงลูกศรของพวกเขา ลิ้นไม่ได้
ถูกป้องกันไม่ว่าการป้องกันของซาลาแมนเดอร์จะสูงเพียงใด วีดไม่ได้พยายามหลบไฟระดับสูงบางส่วน

        พวกซาลามานเดอร์ล้มลงได้ง่ายขึ้นหลังจุดอ่อนของพวกมันถูกเปิดเผย

        "พวกเราชนะแล้ว!"

        "ขอขอบใจทุกคนที่ติดตามจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่"

        จิตวิญญาณการต่อสู้และขวัญกำลังใจของพวกนักรบทะเลทรายนั้นสูง
เป็นเรื่องธรรมดาที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่คุณภาพของนักรบอาจทำศึกชนะอย่างต่อเนื่องได้ยาก
และบรรยากาศก็รุนแรง

        วีดล้มซาลามานเดอร์ 2 ตัวด้วยตัวเอง และได้รับ 3 เลเวล

        "อื่ม.ม.ม, เยี่ยม!"

        เขาใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญดาบของเขาและทักษะการโจมตีหลากหลาย
เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับเหล่าศัตรูและขึ้นสู่จุดสูงสุดของทะเลทราย ด้วยการใช้ประโยชน์จากทักษะ
การแกะสลักที่หลากหลาย, เขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา และใช้ทักษะเพื่อการโจมตี
ที่ดีที่สุดเพื่อเอาชนะดันเจี้ยน!

        บางครั้งเขาได้พบกับมอนสเตอร์ระดับบอสที่มีพลังชีวิตและมานาสูงแต่ความสามารถของเขา
หมายถึงว่าเขาสามารถจัดการพวกมันได้โดยไม่ต้องใช้คนของเขา

        ในความเป็นจริง, เขาเลือกที่จะไม่ใช้ลูกน้องของเขาเมื่อเผชิญหน้ามอนสเตอร์ระดับบอส
เขาจะกินรวบค่าประสบการณ์,ทักษะความสามารถและลูทของทั้งหมดคนเดียว! เขาแสดงพลังทำลายอันน่ากลัว
เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์เลเวลกว่า 700 ในดันเจี้ยน ดังนั้นเหล่าประติมากรรมสลักชีพและเหล่านักรบทะเลทราย
ไม่สามารถช่วยล้มอยู่เบื้องหลังได้

        อย่างไรก็ตาม, วีดจะเสียชีวิตเมื่อถูกล้อมไปด้วยซาลามานเดอร์ไฟจำนวนมากดังนั้นการช่วยเหลือ
ของลูกน้องของเขาเป็นสิ่งจำเป็นแน่นอน

        วีดไม่เปิดเผยภาพการต่อสู้ที่สุมไว้ทั้งหมด ถ้าวีดีโอการออกล่าของเขาในเมืองลึกลับเมทาเปีย
ปรากฏขึ้นในหอเกียรติยศ แล้วมันจะกลายเป็นความคลั่ง

        เมทาเปียเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางในฐานะพื้นที่ออกล่าเลเวล 500 พวกมอนสเตอร์ปรากฏและ
หายตัวไปราวสายหมอก ทั้งเมืองเป็นดินแดนของพวกเขาดังนั้นวีดและลูกน้องของเขาต้องต่อสู้อย่างเต็มที่
คนที่ได้เห็นพละกำลังและความรวดเร็วของพวกเขาจะสั่นสะท้านด้วยความตื่นตกใจ

        อย่างไรก็ตาม, สิ่งนี้ซ่อนอยู่ใต้เมทาเปีย ทวีปจะอื้ออึงถ้าพวกเขาเห็นมอนสเตอร์ที่นี่ถูกกวาดล้างไป
การให้คะแนนผู้ชมแม้จะไม่สำคัญกับฉากเช่นนี้

        จำนวนของลูกน้องที่กำลังจะตายลดลงและเลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะสามารถเข้าควบคุมประเทศได้ในเวลาเดิมของเขา
พวกเขาสามารถทำลายจักรวรรดิฮาเวนได้อีกด้วย

        "ถ้าฉันรวมทวีปได้แล้วฉันก็สามารถขึ้นภาษีได้ ถ้าฉันใช้เจ้าพวกนั้นขณะปกครอง งั้นคงไม่มีการประท้วง"

        เขายังไม่เคยละทิ้งความฝันดั้งเดิมของเขาในการเป็นราชาผู้ชั่วร้ายและการขึ้นภาษี

                                        ********************

        มีผู้คนเพียงน้อยนิดที่ล่วงรู้รายละเอียดของการผจญภัยของวีดในปัจจุบัน

        น้องสาวของเขา, ซอยูนและ ยู บยอง จิน ผู้ที่เฝ้าดูจากจอมอนิเตอร์ของเขา
ปฏิกิริยาของพวกเขายอดเยี่ยมมากเมื่อวีดเริ่มภารกิจการเติบโตของโนดูล

        "พี่ชายสัญญานะว่าจะทำให้ดี"

        ยูรินทิ้งเรื่องนี้ให้วีดและตอนนี้เล่นต่อไป

        "ฉันต้องช่วยเต็มที่อยู่แล้ว"

        ซอยูนมองหางานที่เขาสามารถทำได้

        "มันอาจจะยาก ฉันจะเฝ้าดูว่าคุณสามารถเติบโตได้อีกครั้งจากจุดเริ่มต้น ถ้าวิธีที่เติบโตมันผิด...
ตอนนี้ละที่คุณต้องพิสูจน์ว่าความสามารถของคุณนั้นมีมากกว่าโชค"

        ยู บยอง จิน มีความกังวลมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สถานการณ์ของวีดนั้นไม่ค่อยดี และเขาหวังว่าจะได้เห็นวีดจะเติบโตในภารกิจนี้

        "ฉันต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดี"

        "เจ้าต้องหาคนมาช่วยเจ้าให้มากขึ้น ถ้าเจ้าประสบความสำเร็จกลับมาแล้ว ฉันจะให้ภารกิจอื่นอีก
การพัฒนาเมืองในทะเลทรายในอนาคตสามารถรอได้"

        "ช่างน่าแปลกใจมาก เจ้าค่อนข้างบ้าระห่ำ"

        น้องสาวของเขาและซอยูน เชื่อมั่นในวีด สมาชิกในครอบครัวหรือคนที่ชอบเขา
จะรู้จักเขาดีกว่าคนส่วนใหญ่! เขาเป็นคนชนิดที่ไม่ยอมอดตายไม่ว่าจะไปที่ไหน

        ยู บยอง จินที่กำลังเฝ้าดูจากจอมอนิเตอร์ของเขานั้นต่างออกไปและมีข้อสงสัย

        "เจ้าไม่ควรทำอย่างนั้น"

        ยู บยอง จินไม่สามารถเข้าใจหรือยอมรับการกระทำของวีด

        ในช่วงต้นๆของภารกิจ, เขาใช้ประโยชน์จากการแกะสลัก เห็นได้ชัดว่ามันเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง
เขาใช้ประติมากรรมวินาศเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเขาในช่วงต้นๆ

        แม้ว่ามันจะเป็นโทษก็ตาม, การเติบโตของโนดูลเป็นส่วนสำคัญของภารกิจเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
หากเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้แล้วภารกิจในอนาคตจะเป็นไปไม่ได้

        แต่แม้ว่าร่างกายของเขาจะอ่อนแอ, เขาเพิ่งจะโดดเข้าใส่ดันเจี้ยนกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง
โดยไม่มีการทำความเข้าใจอะไรเลย

        "ทำไมเขาทำอย่านั้น? เขาควรจะทำเป็นขั้นเป็นตอนจากล่างขึ้นบนและเติบโตอย่างมั่นคง
ไม่ว่าระดับของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงใด, การเร่งเติบโตเช่นนี้ช่างน่าแปลกใจ"

        วีดไม่ได้รู้สึกตึงเครียดใดๆแม้ว่านี่เป็นภารกิจเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
เขาไม่ได้เลือกที่จะขี้ขลาดหรืออยู่เฉยๆและอาจหาญออกล่าในดันเจี้ยนที่อันตราย
วีดตระหนักถึงสิ่งนี้ สถานการณ์มีความสำคัญ แต่เขาจะไม่กลัวมัน!

        การเติบโตของเขาก้าวกระโดดเกินกว่าที่ยู บยอง จิน จินตนาการไว้
ในระหว่างการทำภารกิจครั้งนี้, อัตราการเติบโตของเขาได้ทวีคูณเป็น 100 เท่า
แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมเป็นทะเลทราย, มันยากที่จะเติบโตถึงจำนวนที่ต้องการใน 80 วัน

        เขาอาจเสียเวลาหลายชั่วโมงเนื่องจากข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดและการพลาดเพียง
นิดเดียวสามารถทำให้เขาตายได้ วีดควรจะพอใจเมื่อถึงระดับความแข็งแกร่งที่เหมาะสม
แต่ถ้าภารกิจต่อเนื่องยากเกินไปแล้วเขาจะต้องรับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

        ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของซอยูน, วีดจัดการเพื่อให้การผจญภัยประสบผลสำเร็จตื่นตาตื่นใจและ
ยกระดับสู่ระดับสูงสุดของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลทรายแทนที่จะยืนเฉยๆ, เขาค้นหาเพื่อล่ามอนสเตอร์แข็งแกร่ง
ที่ซ่อนอยู่ใต้เมทาเปีย

        ทักษะการเอาชีวิตรอดและความสามารถในการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมของเขานั้นหมายถึงว่าเขาสามารถ
รับความเสี่ยงและเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยของเขา ประสบการณ์ของวีด, การตัดสินใจและทักษะการต่อสู้
เป็นสิ่งที่ทำให้เป็นไปได้เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์นี้

        "สมองส่วนไหนกันที่ทำให้เขาไม่ลังเลเมื่อต้องตัดสินใจ?"

        วีดให้ความประทับใจกับคนขี้เหนียวแม้กระนั้นพวกลูกน้องของเขากำลังกินเนื้อกันทั้งวัน
เขาเป็นคนประเภทที่จะโศกเศร้าอยู่สองสามวันหลังจากสูญเสียบางอย่างสูญเสียโอกาส

        "เวลานั้นฉันซื้อเกลือแพงเกินไป 200 วอน!"

        เป็นเรื่องปรกติ, คนธรรมดาก็จะแสดงท่าทางที่กล้าหาญ เหมือนสุนัขหิวทั้งวันทั้งคืน,
ร่างอ่อนแอของเขาทำการค้นหาทุกๆพื้นที่ล่าและโจมตีเหมือนปีศาจ อัตราการเติบโตของวีดใน
ทะเลทรายสามารถเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์

        เมื่อสถานะเริ่มใหญ่โตขึ้น, วีดแสดงความสามารถของเขาโดยไม่มีความขี้ขลาด

        "บางทีเขาสามารถรับเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้ายได้ใช่ไหม? เขากลับไปในอดีตเนื่องจาก
ภารกิจและอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่"

        ยู บยอง จินได้เฝ้าดูวีดสร้างความปราชัยให้กองทัพอมตะและค้นพบอาณาจักรอาร์เพนดังนั้น
ความคิดในการได้เทคนิคลับขั้นสุดท้ายมานั้นไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เมื่อมองดูแล้ว, การผจญภัยของวีด
เหมือนจริงเป็นธรรมชาติและน่าตื่นเต้น และเขาสามารถเปลี่ยนให้เป็นเรื่องตื่นเต้นได้ทุกเวลา!

        เขาไม่ได้ทำตามขั้นตอนเล็กๆน้อยๆด้วยการกระโดดขึ้นบันไดไปสู่อนาคต

        ปัจจุบันเลเวลของวีดใกล้ถึง 800 ความสามารถในการเข้าถึงระดับนี้ไม่น่าเชื่อแม้จะมี
ผลเสียมากมาย เขาแข็งแกร่งกว่าโนดูลผู้ซึ่งเคยเป็นวีรบุรุษแห่งทะเลทรายและสร้างความพ่ายแพ้
ให้วิหารเอมบินยูไปเสียแล้ว เขาไม่สามารถพูดได้อีกในขณะที่เขาดูความสำเร็จของวีดอย่างต่อเนื่อง

        วีดเป็นวีรบุรุษผู้สั่งการเหล่านักรบทะเลทรายและกวาดล้างดันเจี้ยน

        "เขาเป็นวีรบุรุษจริงหรือ? ผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในความเป็นจริงได้ปรากฏขึ้นในโลกของรอยัลโรดอย่างนั้นหรือ?"

        เขาไม่อยากยอมรับมัน

        ทุกคนที่กำลังดูวีดจะเห็นวีรบุรุษ เหล่ามนุษย์ด้วยจิตวิญญาณของการอุทิศและเสียสละ
จะเงยหน้าขึ้นท้าทายขณะสำรวจทวีปเวอร์เซลล์ ยู บยอง จินไม่ค่อยเห็นคนแบบนี้

        แต่มีหลายคนที่ไม่ชอบวีดในโลกนี้ ผู้ที่ร่วมทางกับผู้หญิงเสมอ, พึ่งพาสินค้าที่ต้องตาของพวกเขาและกลาย
เป็นหัวข้อร้อนแรงเมื่อปรากฏ ในการออกอากาศเพื่อที่ว่าเรตติ้งของรายการจะได้เป็นอันดับหนึ่ง

        ชาวเมืองของอาณาจักรอาร์เพนให้ความเคารพกษัตริย์ของพวกเขา ลัทธิโจ๊กหญ้ากำลังแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีป

        "ความหวังกำลังจะสูญเปล่า"

        เขามีความหวังถึงความล่มจมของวีดและอาณาจักรอาร์เพนเนื่องจาก 100 วอนที่ขาดไปสำหรับช๊อกโกแลตร้อน
 (หูย.ย.ย.ยเรื่องตั้งกะครั้งก่อน คนแก่จำฝังใจ)

                                        ********************

        เงาโลกะ

        ปาร์ตี้นักผจญภัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีป อันริง(Unring), เบน(Ben), เอลริค(Elliks)! พวกเขา
ได้ผจญภัยไปทั่วพื้นที่โปรสุค(Prosuk)

        "โธ่เอ๊ย, แผ่นนี้เป็นของปลอม แผนที่ก็ขาด"

        "พวกเราเดินทางมา 4 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย"

        "ฉันขุดหลุมศพตั้งมากมายจนเหมือนว่าฉันเป็นนักขุดหลุมศพมืออาชีพ"

        "ยังมีห้องฝังศพที่แท่นบูชา พวกเราไม่สามารถเสียเวลาของพวกเราอีกต่อไป แต่อาจจะโชคดี
ถ้าพวกเราพบแม้เงินสักนิดในอนาคต"

        อันริงถอนหายใจลากยาว

        "ทำไมพวกเราต้องมาทำภารกิจนี้...? ฉันไม่แน่ใจจริงๆถ้าภารกิจนี้มันประสบความสำเร็จได้"

        "เป็นเพราะประสบการณ์อันเหลือเชื่อ"

        "แต่ตัวฉันรู้สึกไม่สบายใจเมื่อคิดถึงเกี่ยวกับผู้คนกำลังต่อสู้ดิ้นรนบนทวีป."

        พวกนักผจญภัยกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ของภารกิจนี้ พวกเขากำลังดำเนินการตามคำขอ
จากวัดวัลฮัลลา(Valhalla Temple) เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญสัมพันธ์กับวิหารเอมบินยู

        แน่นอน, วิหารเอ็มบินยูเป็นลัทธิที่สร้างพลังอำนาจของพวกเขาในด้านมืดดังนั้นไม่ใช่
ทุกสิ่งสามารถคิดเอาว่าเป็นของพวกเขา อย่างไรก็ตาม, ภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับวิหารเอ็มบินยู
ดังนั้นปาร์ตี้รู้สึกว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ทุกครั้งที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับความเสียหาย
บางอย่างในทวีป

        ภารกิจยืนอยู่ข้างความยุติธรรมและภารกิจต่อเนื่องของวัดวัลฮัลลายังไม่สิ้นสุด ด้วยความประหลาดใจ,
วัดวัลฮัลลานำนักรบที่ดีที่สุด 30 คนทำภารกิจขุดรากถอนโคนวิหารเอ็มบินยู

        ภารกิจกำลังดำเนินอยู่และภารกิจต่อเนื่องของพวกเขาช่วยเหลือผู้คนจากวิหารเอ็มบินยูและการส่งเสบียง
พวกเขาทำสำเร็จ 6 ภารกิจภายใน 1 ปี และในเวลานี้พวกนักผจญภัยกำลังค้นหาสมบัติของวิหารเอ็มบินยู

        พวกเขาเดินทางไปทั่วซากโบราณสถานและสุสานแต่ยังไม่สามารถหาสมบัติลี้ลับของวิหารเอ็มบินยู

        - ไม่มีหนังสือที่บันทึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสมัยโบราณเหลืออยู่อีกต่อไป

        เมื่อโลกถูกครอบครองโดยผู้ปกครองมนุษย์, พวกเขาเผาบันทึกเนื่องจาก
ความกลัวที่จะปลุกปั่นเรื่องไร้สาระอย่างการกบฏ

        กษัตริย์เล็กซานเดอร์ที่ 3 กระทำการนี้เนื่องจากความเขลาและความโลภของเขา

        พวกนักวิชาการที่มีความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้ก็ถูกกล่าวหาเช่นกันและถูกขัง,
ทำให้พวกเขาอดอาหารเสียชีวิต

        1 พันล้านปีมาแล้วก่อนพวกมนุษย์จะอาศัยอยู่ ถักจาก พวกคนแคระ, เอลฟ์และ ออร์ค
ช่วงแรกมี พวกมังกร, มอนสเตอร์ และ เทพเจ้า กระจายอิทธิพลอันมหาศาลของพวกเขาเหนือทวีป
ในเวลานั้น, มีเรื่องเล่าว่าพระเจ้าได้ลงมาด้วยพระองค์เองและเทพเอ็มบินยูได้ทิ้งสมบัติไว้เบื้องหลังหลายชิ้น

        เงาโลกะกำลังทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อให้ได้สมบัติก่อนพวกวิหารเอ็มบินยู!
พวกเขาไม่รู้ว่าความคืบหน้าที่วิหารเอ็มบินยูทำดังนั้นช่วยไม่ได้ที่พวกเขารู้สึกเป็นกังวล

        "เมทาเปีย! พวกเราต้องการตำแหน่ง เราไม่สามารถทำภารกิจต่อไปได้โดยไม่รู้ว่า
มันอยู่ที่ไหนในทวีป

        "จนเดี๋ยวนี้ฉันยังไม่สามารถค้นพบมันได้"

        "มันคงจะดีถ้าใครสักคนสามารถหามันเจอ"

        พวกเงาโลกะกำลังค้นหาผ่านทางห้องสมุดของโมราต้า เงาโลกะได้รับบันทึกหลากหลาย
เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และภารกิจดังนั้นหอสมุดจึงช่วยได้มาก

        และวันหนึ่ง

        "พวกเจ้ารู้จักเรื่องเกี่ยวกับวีดวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของทวีปไหม?"

        ชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านคูเลน(Kulen)ถาม

        "อ่า เคย"

        เงาโลกะเดินผ่านไป

        พวกเขาเป็นนักผจญภัยดังนั้นการได้ยินเรื่องเกี่ยวกับวีดเหมือนตอกตะปูติดกับหูของพวกเขา
ชื่อของวีดย่อมได้ยินมาไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร

        วีดเก่งในเรื่องการตัดเย็บ, วีดสามารถแกะสลักลวดลายเกราะที่ประณีต, วีดผู้สามารถเย่อกับปลายักษ์, ฯลฯ

ทุกครั้งที่มีการผจญภัยสำเร็จ, พวกชาวบ้านไม่มีทางเลือกได้แต่พูดคุยเกี่ยวกับวีด

        "เขาเป็นผู้ที่มีเกียรติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของทะเลทรายตอนใต้และไม่มีใครสามารถทัดเทียมเขาได้
แต่นี่คือวิธีที่มันเป็น เขาเป็นบุคคลที่มีชีวีตอยู่เมื่อ 100 ปีก่อน"

        "หา?"

        อันริงรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาพูดว่าวีดมีชีวิตอยู่เมื่อร้อยปีมาแล้ว

        "ปู่, ตอนนี้ปู่กำลังพูดถึงวีดที่เป็นราชาของอาณาจักรอาร์เพนอยู่ใช่ไหม?"

        "แน่นอนเขานี่ละผู้ยิ่งใหญ่ แต่วีดราชาแห่งทะเลทรายเลือดเย็น เขาชอบใช้กำลังและโหดเหี้ยมอำมหิต
กับเหล่าศัตรูของเขา แต่มีหน้าที่รับผิดชอบในการฟื้นฟูชนเผ่าทะเลทราย"

        "คนผู้นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาทะเลทรายอย่างนั้หรือ?"

        "ใช่ พวกเจ้าได้เคยเห็นเมืองที่ดีที่สุดในทะเลไหม, อะกูเซลเลีย(Agusellia)?  เขารับผิดชอบบ้านพักตากอากาศ
และบ้านพักตากอากาศสุดหรูในท้องทะเลทราย

        "นึกออกแล้ว"

        พวกเขาเป็นนักผจญภัย ดังนั้นพวกเขาจำแผนที่ทั้งหมดของทวีปได้

        พวกเขายังทราบถึงชื่อและข้อมูลเกี่ยวกับพวกเมืองในทะเลทรายตอนใต้ด้วย
        "อะกูเซลเลียเป็นสถานที่ประกอบด้วยชุมชนอย่างน้อย 3,000 คน"

        "อ้า, เจ้านี่! แกพูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง ทะเลทรายเป็นสถานที่ของนักรบ 100,000 คนเท่านั้น
สถานที่ที่มีคนเพียง 3,000 เท่านั้นที่ไม่สามารถร่ำรวยได้"

        “…..”

        "แวะเข้าเมืองเมื่อมีเทศกาลเฉลิมฉลองมหาจักรพรรดิวีดและเหล่านักรบแห่งสุริยะ ผู้คนหลายล้าน
คนมุ่งหน้าไปยังซากโบราณสถานของวีดทุกปี"

        อันริง, เบนและ เอลริค ได้แต่มองหน้ากันและกันหลังได้ยินเรื่องราวที่ไม่คุ้นเคย

        งง งง

        มันเหมือนพวกเขาคุยกันในหัว

        'เขาพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย?'

        'นักรบแห่งสุริยะ, มหาจักรพรรดิวีดหรือ? สัญชาตญาณของฉันรู้สึกว่าสิ่งนี้จะเป็นการผจญภัยอันยิ่งใหญ่'
       
        'จริงๆหรอ,นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม? ข่าวลือปลอมเกี่ยวกับการผจญภัยไม่ได้มีไปทั่วหรอกหรือ?'

        ชายชรากล่าวต่อ

        "เขาเป็นนักรบที่ชื่นชอบการผจญภัยและการไต่สู่อันดับสูงสุด"

        แน่นอน วีดเป็นประติมากรแต่เขาก็มีความรู้ด้านการตัดเย็บ, การตีเหล็ก และพ่อครัวอีกด้วย
ไม่ว่าพวกเขาจะทุ่มเทความพยายามมากแค่ไหนก็ตาม, มันก็เป็นเรื่องยากที่จะดันทักษะ
แต่ละอย่างสู่ระดับสูงได้อย่างวีด แม้ว่าจะทำตามทุกก้าวย่างของเขาอย่างหนัก

        วีดเป็นคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนักผจญภัย! เมื่อพวกเขาผจญภัยประสบความสำเร็จ,
ชาวบ้านก็แค่คุยกันเกี่ยวกับพวกเขาในช่วงเวลาสั้นๆ

        วีดมีกิตติศัพท์มากมายให้เหล่าชาวบ้านได้พูดคุยอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับเขา
เขาประสบความสำเร็จเสมอแม้จะไม่มีทักษะหรือความได้เปรียบของอาชีพนักผจญภัย

        "วีดเป็นตำนานในทะเลทราย เขาค้นพบเมืองลึกลับเมทาเปีย ความสำเร็จของเขาจะยังคงอยู่ในทวีปนี้ตลอดไป"

        "อ้า! เมทาเปีย!"

        "ฮ้า!"

        "จะ-จริงหรอ?"

        "ใช่, มันไม่น่าประทับใจเลยจริงไหม?"

        ปาร์ตี้เงาโลกะรู้สึกประหลาดใจจริงๆ

        พวกเขาค้นหาอย่างมากเกี่ยวกับสมบัติที่เกี่ยวพันกับวิหารเอ็มบินยู!
มันเป็นตำแหน่งของสถานที่ที่เรียกว่า เมทาเปีย

                - สถานที่ซ่อนเร้นอยู่ในโลก
                        สถานที่ลึกลับที่ไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าเข้าถึงเว้นแต่พวกเขากำลังเดินทาง
                สู่หนทางแห่งความตาย

        "เป็นทะเลทรายแน่นอน!"

        "ภาพลวงตา!"

        ข้อมูลที่พวกเขาได้ตรวจสอบไม่ได้มีการเปิดเผยเรื่องนั้น แต่สิ่งนั้นจะสร้างความประหลาดใจ
ให้กับพวกเขาในอนาคต

        "พวกเจ้ารู้เกี่ยวกับซาลามานเดอร์ไฟไหมละ?"

        "รู้ พวกเราเคยได้ยินแต่ไม่เคยพบเจอพวกมันเลย"

        มอนสเตอร์ที่ปรกติแล้วอาศัยอยู่ในไฟ! ซาลามานเดอร์ไฟมีชีวิตอยู่ในดันเจี้ยนลึกลงไปใต้ดิน

        และสิ่งเดียวที่จำได้คือฉากที่พวกมันระเบิดไฟออกจากปาก ผู้เล่นเลเวล 400 ตายทันที!
เพื่อที่จะหาของที่หายไป, พวกเขามุ่งหน้าไปกลับไปที่ที่พวกเขาตาย พวกเขาต้องการเสี่ยงที่จะเก็บมัน
ไว้อย่างลับๆแต่มันเป็นไปไม่ได้กับพวกมอนสเตอร์ศัตรู

        ซาลามานเดอร์ที่น่ากลัวมากสัก 3-4 ตัวมารวมตัวกันก็เพียงพอที่จะทำลายทั้งเมือง

        "นี่เป็นการบอกเล่ากันในหมู่นักรบทะเลทราย แต่..."

        "มันคืออะไร?"

        "ท่านวีดล้างผลาญพวกซาลามานเดอร์ไฟจนหมดสิ้น"

        "แค๊กๆ!"

        "ยังไงกัน?"

        "มันเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือ?"

        "แน่นอนว่าไม่ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงแล้ว ข้าจะไม่พูดเรื่องไรสาระเช่นนี้ และยังมียิ่งกว่านั้น
เพื่อที่จะหยุดการเติบโตของเจ้าพวกซาลามานเดอร์ไฟ, เขาทำลายไข่ทั้งหมดของพวกมัน
กิลด์ของพวกนักรบเข้าไปดูที่นั่น พวกเขาอาจจะรู้เรื่องราวมากกว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้"

        เบนรู้สึกปากคอแข้งขาสั่นหลังได้ยินคำพูดเหล่านั้น ในอดีต, เขาสนใจวีดในฐานะคู่แข่งและ
กล้าส่งคำท้าทายถึงเขา แต่นั่นเป็นเพียงแค่อวดเก่ง

        อันริงและเอลลิคคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกไร้สาระ

        "พวกเรากำลังฝันอยู่ใช่ไหม?"

        "ดูเหมือนงั้น แต่เราพบเมทาเปีย และ...เจ้าพวกซาลามานเดอร์ไฟได้ถูกทำลายไปแล้ว"

        "พวกเราควรจะดีใจหรือร้องไห้ดี?"
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...