วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564

เล่ม 47 บทที่ 5: ดาบโลอา by DoubtB

 

เล่ม 47 บทที่ 5: ดาบโลอา by DoubtB

สถานการณ์พลิกกลับแล้ว

เนโครแมนเซอร์มีข้อเสีย อย่างเช่น ความแข็งแกร่งทางกายภาพลดลง แต่เขามีพวกซากศพที่สามารถใช้เป็นลูกน้องหรือทำให้เกิดการระเบิดอันทรงพลัง

กรรรร

ฆ่า ฆ่า!”

ฉันอยากจะเคี้ยวเนื้อ เนื้อ!”

พวกโครงกระดูกวิ่งเข้าไปหายักษ์

คุก๊าก

เหล่าโครงกระดูกปีนขึ้นไปบนร่างของยักษ์ที่ล้มลงแล้วฟันด้วยมีดกระดูก

โพล๊ะ

คุก๊าก

โครงกระดูกเอนตัวลงและหยิบกระดูกขามาตียักษ์ตนนั้น

เหล่ายักษ์มีพลังชีวิตอันมหาศาลโครงกระดูกไม่สามารถที่จะฆ่าพวกมันแต่ก็ยังสร้างความเสียหายได้

สู้เหล่าโครงกระดูก

วีดมีแม้แต่นักธนูโครงกระดูกและโครงกระดูกนักเวทย์ผู้ใช้การโจมตีระยะไกล

ฟิ้ว กวุ๊ก

พวกมันยิงลูกธนูกระดูกและลูกไฟสีฟ้าไปทางเหล่ายักษ์

อุโว้ววว

แสงสีฟ้าส่องเป็นกระกายในกระโหลกของอันเดดที่สร้างโดยวีด

คุว้าก

พวกกระดูกถือขวานที่มือแต่ละข้างและตะโกนออกไป

นักศึกษาและนักวิชาการหลายคนค้นคว้าเกี่ยวกับเวทมนตร์และเอฟเฟกต์ต่างๆ ในรอยัลโร้ด พวกเขาใช้ทฤษฎีและสูตรทางคณิตศาสตร์ แม้แต่วิทยานิพนธ์ก็เต็มไปด้วยสูตรทางคณิตศาสตร์ที่ทำให้คนทั่วไปง่วงนอน

การอัญเชิญอันเดดค่อนข้างที่จะยากด้วยเหตุผลทางสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ ค่าสถานะของมอนสเตอร์และค่าสถานะของเนโครแมนเซอร์ และทักษะเวทย์มนตร์ที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณา ความสามารถและนิสัยของศพส่งผลไม่มากก็น้อยต่อการอัญเชิญอันเดด

โดยปกติแล้วความสอดคล้องกันของสกิลและค่าสถานะอยู่ที่ 75%และอีก25%อยู่ที่สภาพของศพ

แน่นอนว่าซากศพกระต่ายไม่สามารถอัญเชิญ อัศวินความมืด หรือ ดูมไนท์ ได้ ยังไงก็ตามมันมีคามเป็นไปได้ถ้าเป็นปรมาจารย์เนโครแมนเซอร์ แต่ทว่าไม่เคยมีผู้เล่นคนไหนไปถึงจุดนั้นเลย

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่คุณภาพของศพมีผล1ใน4ต่ออันเดด

ศพของผู้เล่นทางเหนือนั้นยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงมีโครงกระดูกที่แข็งแรงพอสมควร ด้วยเหตุนั้นอาจมีการปรากฏของอันเดดระดับบอสเป็นครั้งคราว

“เจ้าแห่งเนื้อหนัง! ข้าต้องการเลือดและการฆ่าล้างสังหารหมู่!”

แม้แต่โครงกระดูกระดับบอสก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับยักษ์!

“เรียกขานอัศวินแห่งความตาย แวน ฮอว์ก เรียกขานแวมไพร์ลอร์ดโทริ!”

แวนฮอว์ก และ โทริ ปรากฎตัวพร้อมหมอกดำทมิฬ

ทั้งคู่คุกเข่าลงอย่างสุภาพ

“สุดท้ายท่านก็เข้าสู่หนทางของพลังแห่งความตาย นายท่าน”

“ข้าได้ตอบรับต่อการเรียกขานของราชาผู้ยิ่งใหญ่แล้ว”

ทัศนคติของแวนฮอว์กและโทริซึ่งถูกเรียกตัวมาหลังจากผ่านมาเนิ่นนานนั้นให้ความนับถือมากขึ้น ในฐานะที่เป็นเนโครแมนเซอร์ การควบคุมของวีดเหนือพวกอันเดดก็เพิ่มขึ้น

วีดพูดอย่างไม่สะทกสะท้านกับลูกน้องของเขา

“พวกเจ้าจะมีงานมากมายที่ต้องทำในอนาคต ส่วนข้าจะเป็นผู้นำกองทัพอันเดด”

แวนฮอว์กซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการของอันเดด ไม่ได้ปิดบังความคาดหวังของเขา

“ท่านจะละเลงทวีปเวอร์เซลล์ด้วยความตายหรือไม่? อัศวินแห่งความตายจะสามารพเนจรอย่างอิสระได้หรือ?”

ความบ้าคลั่งของสงครามและความตาย!

แวนฮอว์ก มีชีวิตชีวาอย่างมาก

กองทัพอันเดดอันทรงพลังของบัลข่านเกือบกลืนกินทวีป เมื่อวีดกลายเป็นเนโครแมนเซอร์ พวกอันเดดสามารถกวาดล้างทวีปได้

"ไม่ นั่นเป็นเรื่องยากและน่ารำคาญ ฉันแค่อยากจะกินและใช้ชีวิตอย่างเนโครแมนเซอร์”

“ฉันคิดว่าการเป็นนักรบทะเลทรายนั้นเท่และรู้สึกดี แต่… มันเจ็บปวดเมื่อนึกถึงกองกำลังที่ฉันเลี้ยงดูมา”

เฮสไทเกอร์ ซึ่งกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้ เหมือนกับการกินรามยอน

“ทวีป… มันจำเป็นต้องจมอยู่กับความตายเพื่อที่ท่านจะได้เป็นเนโครแมนเซอร์ผู้ยิ่งใหญ่”

“ฉันจะไปถึงจุดสูงสุดของเนโคแมนเซอร์โดยลำพัง ในขณะที่ลากพวกอันเดดไปกับฉัน และไม่ต้องจมอยู่กับความตาย ทวีปเวอร์เซลล์เป็นโรงฆ่าสัตว์ โดยเฉพาะในอาณาจักรอาเพ่น มีคนบ่นว่าไม่สามารถล่าได้เพราะกลิ่นเหม็น มูลค่าที่อยู่อาศัยลดลง ห้ามมิให้อัญเชิญอันเดดภายในรัศมี 1,000 กิโลเมตรของสวนน้ำพูยอลโดยเด็ดขาด”

สมาคมเนโคแมนเซอร์ในโมราต้าเป็นสถานที่น่าขยะแขยงที่ลดราคาบ้าน!

ในเรื่องนั้น เขาเกลียดการเป็นเนโครแมนเซอร์มากกว่าเป็นประติมากร!

ยักษ์ที่ทรุดตัวได้เริ่มตื่นขึ้น

ดังนั้นเขาจึงหยุดพูดและใช้ทักษะ “เสริมพลังอันเดธ!”

แวนฮอว์กมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 6%

 

พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 4%

 

ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น

 

เสริมพลังอันเดดเป็น สกิลเสริมพลัง เลเวล1

เบ้าตา แวนฮอว์ก มีแสงสว่างขึ้น

มันคืออะไรหนะ นายท่าน“

“ตอนนี้ เจ้าจงทำให้ดีที่สุด”

“สร้างอาวุธหรือเกราะคงจะดีมากกว่า”

วีดสามารถใช้ได้แค่สกิล กองทัพอันเดด และ อุปกรณ์ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยซักเท่าไหร่

แวนฮอว์ก เคยเป็นผู้นำของกองทัพอันเดดอันเดดระดับบอสและยังเคยเป็นอัศวินแห่งขุมนรก

ต้องขอบคุณเควสและการล่าอย่างต่อเนื่อง โทริก็เลเวลเกินกว่า500แล้ว

‘มันคงจะง่ายสำหรับการฟาร์มอาชีพเนโครแมนเซอร์ถ้าฉันใช้เจ้าพวกนี้’

วีดตัดสินใจอย่างแน่วแน่

ความยากลำบากจนถึงตอนนี้จะต้องไม่สูญเปล่า!

เป้าหมายของเขาคือการกินให้ดีและอยู่ด้วยคนเดียวให้มีความสุข!

“นำทัพอันเดด

“รับทราบ นายท่าน แต่เหมือนว่าพวกมันจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่”

แวนฮอว์กบ่นเกี่ยวกับพวกโครงกระดูกที่ดูแล  เขาเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งแต่ถ้าให้นำกองกำลังอันเดด

เขาจะดึงประสิทธิภาพพลังของกองกำลังได้

“พวกมันไม่มีอัศวินแห่งความตายเลยหรอ?”

“เอ่อออออ”

“ดุลลาฮาน?”

“ยัง”

“ททหารที่ข้านำทัพช่างอ่อนแอเสียนี่ แล้วศัตรูค่อนข้างแข็งแกร่ง....”

“เอ็งไม่ต้องชนะศึกนี้ แค่นำทัพพวกมัน ในฐานะ ตัวล่อ”

“ตัวล่อ?”

“อาจจะต้องใช้เวลานาน ฉันจะปลุกอันเดดขึ้นมาใหม่ แม้ว่ามันจะแหลกสลาย”

“ความภาคภูมิใจของอัศวินแห่งความมืด.... ข้าไม่สามารถโยนทิ้งความน่าภาคภูมิใจของกองทัพนี้ได้”

“ช่วงนี้เจ้าคงจะรู้สึกภาคภูมิใจมากแม้จะถูกเขกหัวงั้นเหรอ? กะโหลกของเอ็งแข็งขนาดนั้นเลยเหรอ?”

วีดสร้างความเจ็บปวดใจให้กับแวนฮอว์กมากขึ้นหลังจากที่กลายเป็นเนโครแมนเซอร์

“โทริ ไปดูดเลือดพวกยักษ์เวรนี่สิ”

“รับคำสั่ง นายท่าน”

โทริรีบรับคำสั่ง เขาสังเกตเห็นว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความสง่างามของเขาในฐานะแวมไพร์ลอร์ด ต้องขอบคุณการปรากฏตัวของแวนฮอว์กความสามารถในการต่อสู้และพลังชีวิตของอันเดดเพิ่มขึ้น พวกเขารวดเร็วขึ้นและพลังชีวิตของพวกมันเพิ่มขึ้น พวกมันแข็งแกร่งขึ้นอย่างน้อยหนึ่งระดับ

"มาเร็ว! หายใจเข้าด้วยเลือด! เราเป็นอมตะ”

“คูกิกิกิท!”

ภายใต้การดูแลของแวนฮอว์ก โครงกระดูกวิ่งไปโจมตีพวกยักษ์

พวกโครงกระดูกไม่รู้จักความกลัว

พวกอันเดดจะมีประโยชน์อย่างมากในพื้นที่ล่าทั่วไป แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเอาชนะพลังของยักษ์ที่แข็งแกร่งได้

“ไอพวกของเน่าๆ ทั้งนั้น!”

“ขี้ขลาด!”

“กูว๊าาาาก”

พวกยักษ์ที่หายจากอาการมึนงงหรือสับสนก็เหยียบย่ำโครงกระดูกด้วยความโกรธแค้น

เนื่องจากมีความเป็นปรปักษ์สูง อันเดดจึงเป็นเป้าหมายแรก

แน่นอน ในสายตาของพวกยักษ์ พวกมันโจมตีวีด

พวกยักษ์ที่บาดเจ็บจากการระเบิดซากศพไม่ได้อาละวาดอย่างบ้าคลั่ง พลังชีวิตของพวกมันลดลงอย่างมาก ดังนั้นพวกมันจึงอยู่ด้านหลังและได้รับการปกป้องจากเหล่าพวกพ้องยักษ์

พวกอันเดดที่มีชิ้นส่วนต่างๆ ของร่างกายที่หายไปได้ระเบิดตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสในการล่า หมายความว่าระยะการขยับตัวของยักษ์หดตัวลง

วีดซิบไปหาเพล

“พวกอันเดดจะซื้อเวลาให้ ไปรักษาผู้บาดเจ็บและช่วยชีวิตนักโทษเร็วเข้า”

เพลโอเคร เข้าใจแล้วครับ

เพลสั่งให้ผู้เล่นทางเหนือไปช่วยเหลือนักโทษ

เบลลอต ฮวารยอง เซเฟอร์ เซอร์กะ และโรมูนะ พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้นำในคณะสำรวจ ดังนั้นการเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงรวดเร็ว

"ตอนนี้แหละ เคลื่อนที่เร็ว”

เมื่อวีดปรากฏตัว ภาระของผู้เล่นก็เบาลง ถึงกระนั้น ผู้เล่นทางเหนือก็เหนื่อยล้าไปกับการล่าแล้ว

ในขณะที่พวกยักษ์กำลังต่อสู้กับพวกอันเดด ผู้เล่นทางเหนือก็วิ่งไปช่วยเชลย พวกเขากระโดดไปมาระหว่างอาคารบ้านเรือนต่างๆและรีบไปที่ห้องคุมขัง พวกเขาไม่ได้กะทำการเสี่ยงใด ๆทั้งสิ้น

วีดปลุกพวกอันเดดในขณะแวนฮอว์กเป็นคนสั่งการพวกมัน

- ทักษะอัญเชิญอันเดดเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 3

 

 กระดูกของโครงกระดูกแข็งแกร่งขึ้น

 

มีโอกาสที่จะเรียกกูลที่มีความสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น

ด้วยคุณภาพของศพ สกิลการปลุกอันเดดเพิ่มขึ้นด้วยความรวดเร็ว

ถ้าเค้าใช้ อาหารทะเล  เขาจะสามารถทำ บะหมี่ทะเลที่รสชาติดีที่สุดได้

แน่นอน มันไม่ค่อยมีความหมายในสนามรบแต่ยังไงก็ตามพวกโครงกระดูกก็แข็งแกร่งขึ้น

พวกเนโครแมนเซอร์เห็นว่าพลังชีวิตของพวกโครงกระดูกเพิ่มขึ้น 100 หรือ 200 เป็นเรื่องที่ดี

 ยิ่งผู้เล่นมือใหม่เห็นสิ่งเหล่านี้กับโครงกระดูกและซอมบี้ที่พวกเขาปลุกขึ้นมาพัฒนา

พวกโครงกระดูกเป็นลูกน้องที่ควรได้รับการปรนเปรอตลอดไป

“อัญเชิญประติมากรรม!”

วีดอัญเชิญเจ้าเหลืองมา

-อัญเชิญประติมากรรมได้ถูกใช้งาน

 

มานา 53,203 ได้ถูกใช้ไป

 

ประติมากรรมนั้นอยู่ห่างออกไปมาก ดังนั้นจึงมีการใช้มานาอย่างมาก มานา 150,000 ของเขาลดลงเหลือน้อยกว่า 30,000

“อุมอออออออ!”

เจ้าเหลืองผู้โกรธแค้นปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับออร่าสีแดงรอบตัว

ร่างกายที่แข็งแรงแกร่งกล้าแสดงถึงศักดิ์ศรีของมัน ตัวมันใหญ่เกินกว่าจะเรียกว่าวัวได้!

"นายท่าน ดูเหมือนจะมืดไปหน่อย กระผมรู้สึกท้อแท้”

"นี่แหละชีวิต ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ฉันไม่ได้อาบน้ำมาเดือนนึงแล้ว”

“อุมออ.. หนึ่งเดือนก็ยังพอไหว”

“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เจ้าพร้อมสำหรับการต่อสู้หรือยัง”

“การต่อสู้ช่างน่ากลัว”

“ถ้าเจ้าต้องการเลี้ยงลูก เจ้าต้องทำงานอย่างขยันขันแข็ง”

“เข้าใจแล้ว นายท่าน”

เจ้าเหลืองที่ถูกอัญเชิญหลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน ใช้ขาหลังเขี่ยพื้น

ประติมากรรมสลักชีพที่วีดสร้างขึ้นสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ ในกรณีของเจ้าเหลือง ปกติมันมักจะอ่อนโยนแต่เมื่อโกรธจะแสดงพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว

"นายท่าน ข้าสามารถเอาชนะเจ้าพวกนี้ได้ไม๊?”

“ไม่ต้องเอาชนะ แค่วิ่งไปให้ไกล”

วีดขี่เจ้าเหลืองและดึงดูดความสนใจของพวกยักษ์

“แมลงที่น่ารังเกียจ!”

“เนื้อน่าอร่อย”

พวกยักษ์พยายามจับวีดและเจ้าเหลือง แต่มันไม่ง่ายเลยเพราะพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวอย่างมากและการเปลี่ยนแปลงทิศทางอย่างกะทันหัน

วีดและเจ้าเหลืองถูกพวกยักษ์เป็นขโยงไล่กวด

คุคุ!

“แมลง  เนื้อ!"

“พวกมันเป็นของฉัน!”

ทุกครั้งที่ยักษ์ตัวหนักก้าววิ่ง แผ่นดินก็สั่นสะเทือน

“แกรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าแกถูกพวกมันจับ”

“ข้าจะตาย?”

“เอาจริงๆนะ เอ็งจะถูกกิน เนื้อแกอร่อยจะถูกทอด ทุกชิ้นส่วนจะถูกหั่นและต้มโดยไม่เหลือทิ้งแม้แต่หาง”

“อุมอออออออ!”

“อย่าร้องไห้ ดูความภาคภูมิใจของแก แกเป็นเนื้อที่คุณภาพดีที่สุด”

เจ้าเหลืองหลบหนีผ่านสิ่งกีดขวางและสิ่งปลูกสร้างอย่างกับหนู!

'แย่หน่อย ถ้าพวกยักษ์อ่อนแอกว่านี้จะเป็นทีของฉันที่จะล่าพวกแก'

ต้องขอบคุณกองทัพอันเดดที่ทำให้ผู้เล่นทางเหนือทำภารกิจได้ง่ายขึ้นมาก

ในขณะที่พวกยักษ์ทุบตีซอมบี้และไล่ล่าวีดและเจ้าเหลือง ผู้เล่นทางเหนือได้ช่วยชีวิตนักโทษโดยใช้ทางเดินข้างเคียง เหมือน แมลงสาบและหนู

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นภารกิจระดับ S จะเป็นแบบนี้...”

“ฉันได้ต่อสู้ในตำแหน่งนั้นมาระยะหนึ่งแล้ว มันก็เยี่ยมมากเลยที่ฉันยังไม่ตาย”

ผู้เล่นทางเหนือรู้สึกประหม่า พวกเขาอยากทำภารกิจให้สำเร็จอย่างปลอดภัย!

วีดไปที่ร่างของยักษ์ที่ล้มลง

“กระชากวิญญาณ!”

-ได้รับวิญญาณของบักษ์บัลรอสแล้ว

 

วิญญาณที่ถูกจับได้จะช่วยให้คุณค้นคว้าสกิลอันเดดและเสริมพลังสกิลของคุณ

 

เขานำวิญญาณจากผู้เล่นทางเหนือไม่ก็ยักษ์เพื่อทำภารกิจของ สมาคมเนโครแมนเซอร์ ให้สำเร็จ

เขาจะได้รับรางวัลตอบแทนตามจำนวนวิญญาณที่ได้มาจากซากศพรอบๆตัว

นั่นคือจุดประสงค์ของเจ้าเหลือง

ระหว่างที่รวบรวมวิญญาณ วีดได้พบกับนักผจญภัยเชสที่กำลังช่วยนักโทษ

“คุณวีด ผมยินดีที่ได้เจอคุณ"

"อืม ผมก็เหมือนกัน”

“มาที่นี่เพื่อช่วยพวกเรา…”

ดวงตาของเชสชื่นมื่น

วีดเป็นคนยุ่ง แต่เขามาที่นี่ เขาเห็นว่าผู้เล่นทางเหนืออยู่ในสภาพร่อแร่และมาช่วย

วีดพูดด้วยน้ำเสียงที่ขัดแย้งเหมือนกับมีคนขอเงินเขา

“ไว้ค่อยว่ากันทีหลังนะ”

“อา..ผมลืมคิดไปเลย ตอนนี้คุณวีดเขากำลังยุ่งอยู่กับการสั่งการพวกอันเดด”

“เปล่าเลย ฉันมาเพื่อขอแชร์เควส”

"หะ?"

ฉันอุตส่าห์ลงทุนลงแรง ฉันก็ต้องได้ส่วนแบ่งบ้างสิ

* * *

ภารกิจช่วยเหลือนักโทษจากป้อมปราการยักษ์

วีดสามารถทำภารกิจได้สำเร็จหลังจากที่ผู้เล่นทางเหนือช่วยนักโทษทั้งหมดหลบหนี

-ช่วยเหลือนักโทษสำเร็จเรียบร้อยแล้ว

 

 นักโทษที่ถูกจับโดยพวกยักษ์

 

มากกว่าครึ่งรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย

 

พวกเขายินดีที่จะมอบสมบัติที่พวกเขามี

 

หากคุณแนะนำพวกเขาไปยังพื้นที่ปลอดภัย

 

ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,458

ได้รับค่าประสบการณ์

 

- คุณได้รับบุญคุณอันน่าทึ่งในภารกิจนี้

 

เป็นครั้งแรกที่มีการล่ายักษ์สี่ตัวพร้อมกันบนทวีปเวอร์เซลล์

 

สมญานาม!  นักล่ายักษ์ ได้รับแล้ว

 

สมญานามอันรุ่งโรจน์ที่มอบให้กับนักล่ายักษ์ผู้ไร้ความปราณี!

ความเสียหายจะเพิ่มขึ้น 9% เมื่อโจมตียักษ์

 

ชื่อเสียงของคุณในดินแดนแห่งยักษ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ผู้เล่นทั้งหมด 800 รายเสียชีวิต แต่ภารกิจสิ้นจบลงแล้ว

ผู้เล่นที่รอดชีวิตต่างตื่นเต้นแต่ก็ยังเสียใจ

“พวกตายไปเยอะเกินไป”

“เห้อ… มันเป็นภารกิจที่ยากมาก”

“มีการออกอากาศด้วย… เราจะดังไหม”

"แน่นอน เราอยู่กับวีด ผู้คนทั่วโลกจะรู้จักเรา”

วีดกินอาหารที่ผู้เล่นทางเหนือเตรียมไว้!

"ขอขอบคุณ ต้องขอบคุณท่านวีด”

"ไม่เป็นไร ฉันทำเพราะฉันทำได้”

 “อึก ถ้าคุณมาเร็วกว่านี้…”

 “อืม ฉันยุ่งนิดหน่อย”

วีดไม่สามารถบอกได้ว่าเขานอนบนตักของซอยูน

ลัทธิโจ๊กหญ้า! กลุ่มสนับสนุนที่แข็งแกร่ง  ทันทีที่ผู้เล่นหลายล้านคนในองค์กรได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาจะชักดาบออกมาแทงเขาทันที

ถ้าฉันบ่นเรื่องเครื่องเคียงของเธอ... ฉันไม่รู้ว่าฉันจะเดือดร้อนไหม'

***

ผู้เล่นทางเหนือที่รอดตายรู้สึกว่างเปล่า

“นั่น… เห้อออ”

"อา แย่มาก แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้”

"ถูกต้อง มันยากที่จะล่าแม้แต่ยักษ์ตัวเดียว”

“เราโดนโจมตีครั้งใหญ่ทุกครั้งที่เราล่ามัน เรา…"

 ผู้เล่นแทบเอาชีวิตไม่รอดจากการช่วยชีวิตนักโทษและหลบหนีจากป้อมปราการของยักษ์

เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาไม่ได้ลูทไอเทมของพวกยักษ์

ทุกครั้งที่มีคนตาย เพื่อน ๆ ของพวกเขาจะดูแลทรัพย์สินของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้หยิบไอเทมที่ดรอปมาจากยักษ์!

“คุโอ เราทิ้งมันไว้ทั้งหมด”

“มันช่วยไม่ได้”

 แม้จะได้ชัยชนะ ไหล่ของผู้เล่นก็ห่อเหี่ยว

“ฉันไม่มีโอกาสได้รับไอเทม คุณวีดบอกให้พวกเราไปหลบซ่อน”

“เขาแค่ดูแลเราไม่ใช่เหรอ? มันช่วยไม่ได้ ขอแค่พอใจกับความสำเร็จของภารกิจ และเราก็ได้ออกอากาศเช่นกัน”

"ใช่"

ผู้เล่นทางเหนือคิดย้อนกลับไป ขณะที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร

วีดกำลังวิ่งไปรอบ ๆ ป้อมปราการ วีดเสี่ยงทุกอย่างเพื่อชัยชนะเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่แค้นเคือง

ผู้เล่นที่ชื่อ ลูด้า หัวเราะและพูดว่า

“บางทีวีด อาจจะเอามันไปทั้งหมดเลยเหรอ?”

"เฮ้ ตลกน่า”

ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็หัวเราะ

พวกเขาได้เห็นภาพอันน่าทึ่งของชีวิตวีดที่กำลังตกอยู่ในอันตรายขณะที่ถูกพวกยักษ์ไล่ตาม แม้ว่าเขาจะเข้าใกล้ซากศพของพวกยักษ์ในขณะที่ถูกไล่ล่า

มีความสงสัยคล้าย ๆ กันในใจของกลุ่มผู้เล่น

'ถ้าเป็นกรณีนี้... เขาเอาไปจริงๆเหรอ?'

พวกเขามีข้อสงสัย แต่ไม่มีหลักฐาน!

เมื่อพวกเขากลับไปที่ป้อมปราการของพวกยักษ์เพื่อยืนยัน ศพทั้งหมดก็หายไปแล้ว

ความจริงถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน

อย่างไรก็ตาม ขาของเจ้าเหลืองที่แข็งแรงกำลังแบกรับภาระที่หนักหน่วง

****

นักโทษที่ได้รับการช่วยเหลือได้นำแร่ที่ขุดมาจากป้อมปราการของยักษ์ออกมา

“นี่คือทั้งหมดที่เรามี โปรดรับมันไว้เถิดเพราะมันไม่สำคัญสำหรับเราแล้ว”

มันแวววาวเหมือนทอง

ผู้เล่นที่เข้าร่วมในภารกิจได้รับทองคำ 20 กิโลกรัมและไมเกรี่ยมห้าแท่ง

วีดตัดสินใจตรวจสอบสถานะของไอเทม

“ตรวจสอบ!”

- ไมเกรี่ยม: ความทนทาน 230/230

 

โลหะแข็งที่พบในดินแดนของยักษ์เท่านั้น

มานาไม่ได้รวมอยู่ด้วย แต่มันแข็งแกร่งมาก

โลหะชนิดนี้สามารถผลิตอาวุธและชุดเกราะที่ยอดเยี่ยมได้

 

ไอเท็มช่างตีเหล็กเกรด 1

 

คุณสมบัติ: ช่วยเพิ่มความชำนาญของทักษะช่างตีเหล็ก

สามารถสร้างอาวุธคมที่มีความคงทนสูงได้

สามารถสร้างเกราะพิเศษที่มีความต้านทานทางกายภาพได้

 

วัสดุมันวาว

มุมปากของวัดแสยะยิ้ม

"มันแจ่มเลย"

 

มันเป็นกำไรมหาศาลถ้าเขาสามารถใช้ไมเกรี่ยมเพื่อสร้างอาวุธและชุดเกราะ

เนื่องจากธรรมชาติของภารกิจเพื่อช่วยเหลือนักโทษ

ผู้เล่นเสียชีวิตระหว่างภารกิจยังคงประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้รับค่าประสบการณ์จากการล่ายักษ์และรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับทักษะต่อสู้

 

“สิ่งนี้จะใช้ในภายหลังเพื่อเพิ่มการแกะสลักเวลา”

 

วีดไม่กล้าใช้ไมเกรี่ยมในทางที่ผิดและตัดสินใจที่จะเก็บไว้เพื่อการแกะสลักเวลา

เว้นแต่จะเป็นเฮอร์แมนหรือฟาบิโอ มันคงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างอุปกรณ์ดีๆ ที่เขาสามารถสวมใส่ได้โดยตรง

ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ด้านการแกะสลัก ถ้าเขาสร้างประติมากรรมโดยใช้ไมเกรี่ยมผลที่ได้จะมหาศาล

 

“การใช้วัสดุนี้กับประติมากรรมคงเป็นการสิ้นเปลือง”

 

เขาละเลยการแกะสลัก! มุมมองการแกะสลักของเขาไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะเป็นปรมาจารย์แล้ว

แม้ว่าจะได้รับอาชีพใหม่ของเนโครแมนเซอร์ แต่เขาก็ยังสามารถใช้เทคนิคลับในการแกะสลักได้

เคล็ดมีดแกะสลัก ประติมากรรมจำแลง ประติมากรรมประทานชีพ การแกะสลักธาตุ การแกะสลักภัยพิบัติ

มีห้าเทคนิคลับและประติมากรรมคืนชีพที่เขาสร้างขึ้น เทคนิคลับสุดท้ายคือการแกะสลักเวลา!

การมีสกิลที่หลากหลายนั่น  ไม่ได้หมายความว่าสกิลพวกนั้นแข็งแกร่ง

ถ้าเขาอยากจะเรียนรู้ทักษะมากมาย เมื่อเขาเริ่มเล่นรอยัลโร้ด

เขาจะเป็นนักดาบถึงเลเวล 50

เป็นนักเวทย์ถึงเลเวล 100

และเป็นนักธนูถึงเลเวล 200

เขาสามารถทำแบบนี้เพื่อเอาสกิลทั้งหมดนี้โดยการเปลี่ยนอาชีพ

'ฉันได้เรียนรู้เทคนิคการแกะสลักลับทั้งห้าอย่างครบถ้วน เป็นสกิลหลักที่เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน'

แม้เทคนิคแกะสลักจะสุดยอดแค่ไหน มันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ทุกอย่างล้วนมีข้อเสียในตัวมันเอง

ประติมากรรมคืนชัพ ยังลดเลเวลอย่างมาก ในขณะที่ แกะสลักภัยพิบัติธรรมชาติสามารถใช้ได้แค่วันละครั้ง

แถมยัง ลดค่าสถานะทางศิลปะ 20 ให้หายไปอย่างถาวร และค่าสถานะทั้งหมดลดลง 15% เป็นเวลาสามวัน

ผลกระทบของการแกะสลักธรรมชาติภัยพิบัติครั้งใหญ่ทำให้เกิดพื้นที่แห่งความตายขนาดใหญ่ แต่หายากที่มอนสเตอร์จะรวมตัวกันถึงขนาดนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่เลเวล 500 ขึ้นไปไม่ได้ถูกฆ่าโดยภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม การแกะสลักสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างน่าทึ่ง

หากการใช้ดาบ การยิงธนู และการอัญเชิญอันเดดเป็นความสามารถที่มอบความสำเร็จในการต่อสู้

การแกะสลักเป็นอาวุธที่สามารถพลิกกลยุทธ์ได้

เมื่อรวมกับทักษะอื่น ๆ สกิลการแกะสลักสามารถสร้างความหายนะที่คาดไม่ถึงได้

'เหตุผลหนึ่งที่ฉันเลือกเนโครแมนเซอร์… การแกะสลักมีเทคนิคบางอย่างที่สามารถลดข้อเสียของเนโครแมนเซอร์ได้

ขณะที่วีดหัวเราะอย่างชั่วร้าย พวกเชลยที่ได้รับการช่วยเหลือก็พูดขึ้นว่า

“มีสถานที่ปลอดภัยอยู่ใกล้ ๆ ที่ซ่อนตัวจากพวกยักษ์ เป็นหมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่ เราจะพาคุณไปที่นั่น”

วีดและผู้เล่นทางเหนือออกจากบริเวณป้อมปราการของยักษ์และเคลื่อนตัวไปตามคำแนะนำของนักโทษ ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังหมู่บ้าน

เขาได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ที่รู้จักกันมานาน

“คุณวีด ปรมาจารย์การแกะสลัก ฉันแค่ดีใจที่รู้จักคุณ! คุณเป็นคนขยันโดยกำเนิด”

"ในที่สุด…ยินดีด้วย  คุณเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมาก”

เซอร์กะและโรมูนะแสดงความยินดีกับวีด!

 วีดตอบอย่างไม่ลังเล

"ไม่ ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น”

ไอรีนหัวเราะเผยให้เห็นลักยิ้มของเธอ

“ฉันเห็นรูปปั้นที่สวยงามของหญิงสาวสวยคนหนึ่ง ความรู้สึกเหมือนบ้าน… ประติมากรรมที่คุณสร้างนั้นสำคัญมาก ฉันคิดว่าคุณจะทำประติมากรรมเหมือนเผด็จการทองคำหรือเนโครแมนเซอร์”

"ฮะ?"

“ถ้าคุณจะเป็นเนโครแมนเซอร์ ประติมากรรมจะช่วยเสริมเอฟเฟกต์เหล่านั้น มันคงจะเยี่ยมมากถ้าคุณแกะสลักอะไรบางอย่างที่เหมือนคนตาย”

เขาไม่ได้พิจารณาส่วนนั้น!

ใบหน้าของวีดซีดเมื่อเขามาถึงเบลล็อตและฮวารยอง

“ช่วงนี้คุณสบายดีไหม”

"ค่ะ คุณวีด”

เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นฮวารยองและเธอก็ยิ้มให้เขาอย่างกรุ้มกริ่ม

เขากำลังสนทนากับเบลล็อตเมื่อมีบางคนเข้ามาหาเขา

เพลพากลุ่มคนมาหา

“คุณวีด นี่เป็นตัวแทนของกิลด์คริมสันวิงส์ เทรอส และเพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเขา”

"เป็นเกียรติที่ได้พบกับวีดเทพแห่งสงคราม ผมอยู่กับการสำรวจทางเหนือมาระยะหนึ่งแล้ว แต่… ผมประทับใจมากกับวิธีที่คุณจัดการกับพวกยักษ์”

ในฐานะผู้นำกิลด์ที่มีชื่อเสียงครั้งหนึ่ง เทรอส มีพลังและอิทธิพลมหาศาล เขาก้มศีรษะและทักทายวีด

"ไม่ จุดประสงค์การมาเยือนของคุณคืออะไร?”

วีดหัวเราะและถาม อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาไม่ได้ยิ้มเลย!!

มันเหมือนกับดวงตาที่เฉียบแหลมที่เขาเคยตรวจสอบทุกตารางนิ้วของเจ้าเหลือง!

“กิลด์ทั้งหมดของเรา… เราต้องการตั้งรกรากในอาณาจักรอาเพ่น”

"ฮะ?"

“ผมได้พูดคุยกับกิลด์และเพื่อนสองสามแห่งในทวีปกลาง”

“แล้ว?”

“มีกิลด์อยู่สองสามกิลด์ที่พ่ายแพ้ในสงครามและยุบไป พวกเขาได้เพิ่มพลังในขณะที่อยู่ภายใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดของกิลด์เฮอร์มีส กิลด์แตกกระจัดกระจาย แต่ผู้เล่น… คนที่เราติดต่อมาต้องการมาที่อาณาจักรอาเพ่น”

"เท่าไหร่?"

“ผมต้องติดต่อคุณเพื่อแจ้งรายละเอียดเฉพาะเจาะจง แต่ถ้ารวมคนที่อยู่รอบตัวผมและคนรู้จักด้วย ผมคิดว่าน่าจะมีคนเกือบ 1,000 คน”

กิลด์อันทรงเกียรติทั้งหลายที่พ่ายแพ้โดยกิลด์เฮอร์มีส พวกเขาเป็นผู้เล่นระดับสูงของทวีปกลาง

“อาณาจักรอาเพ่นไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้คนเข้ามา แต่ทำไมคุณขออนุญาติจากผมล่ะ?”

“นั่น… นี่อาจจะเป็นการโลภมาก แต่ผมอยากเป็นลอร์ดและปกครองดินแดนเล็กๆ แน่นอน ผมจะจ่ายภาษีให้คุณเอง”

วีดลังเลก่อนที่จะจับมือเทรอส

“อาณาจักรอาเพ่นมีดินแดนที่ดีมากมาย ปลาแหวกว่ายในแม่น้ำสวยใส…”

เซเฟอร์หลบสายตาของเขาจากระยะไกล

“ภูเขามีทรัพยากรธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มันอยู่ใกล้กับพื้นที่ล่าและสมบัติที่ซ่อนอยู่ของอาณาจักรอาเพ่นจะกระจัดกระจายอยู่ที่ไหนสักแห่ง อย่างแน่นอน!"

เพลพูดในขณะที่รู้สึกสำนึกผิด เทรอส ไม่รู้ความหมายการกระทำของพวกเขาและมีความสุข

“แล้วเราจะเป็นลอร์ดได้จริงๆ เหรอ?”

"แน่นอน มีที่ว่างของลอร์ดมากมายในอาณาจักรอาเพ่น เงินมากมาย… ใครก็ตามที่มีความสามารถก็ยินดีต้อนรับเสมอ”

มีหลายหมู่บ้านในอาณาจักรอาเพ่นที่ไม่มีขุนนาง

นักผจญภัยและพ่อค้าจำนวนมากเดินทางมายังโมราต้าจากที่ไกลๆ และไม่ได้เป็นลอร์ดเพราะพวกเขาไม่ได้ตั้งรกรากในที่เดียว

มีหมู่บ้านว่างเปล่า เมื่อจำนวนผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ก็สามารถแต่งตั้งลอร์ดได้

'ฉันทำเองได้ แต่... ฉันต้องการลอร์ดและขุนนางด้วย'

วีดเป็นหัวหน้าของระบบการเมืองโครงสร้างพีระมิดหลายระดับของอาณาจักรอาเพ่น! หากขุนนางขยายหมู่บ้าน ภาษีก็จะเพิ่มขึ้นในที่สุด

ระหว่างที่ยอมรับกิลด์คริมสันวิงส์อย่างเป็นทางการ พวกเขาก็มาถึงที่พักพิงที่นักโทษนำทางพวกเขาไป

- หมู่บ้านเดริคถูกค้นพบแล้ว

การค้นพบที่ลึกลับและพิศวง!

 คุณได้พบหมู่บ้านชาวนาที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งยักษ์

มีการเพิ่มการค้นพบใหม่ในการเดินทางผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของคุณ

หากคุณแบ่งปันการค้นพบนี้กับคนทั้งโลก

คุณจะสามารถสร้างชื่อที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวคุณเองได้

 

ความรู้เพิ่มขึ้น 2

ความเข้าใจเพิ่มขึ้น 3

หมู่บ้านที่มีประชากร 5,000 คน ซ่อนตัวอยู่ในป่า

เพื่อไม่ให้ยักษ์สังเกตเห็น

พวกเขาไม่มีอาคารขนาดใหญ่และสร้างบ้านใต้ดินโดยการขุด

"ที่รัก!"

“ฮึกฮือออ ยินดีต้อนรับกลับ!"

เหล่าเชลยและผู้อยู่อาศัยต่างโอบกอดกัน มีแม้กระทั่งเด็กเล็กด้วย เลยเป็นบรรยากาศที่ประทับใจมาก

“นี่ควรเรียกว่าเมืองไหม”

“ฉันคิดว่ากิจกรรมจะเน้นที่สถานที่นี้ในอนาคต”

ผู้เล่นทางเหนือเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะแยกย้ายกันไปในทันที

เมืองใหม่ในดินแดนแห่งยักษ์!

พวกเขาต้องการสำรวจอย่างรวดเร็ว

วีดย้ายไปที่แหล่งการค้าก่อน

มีพ่อค้ามนุษย์ ร้านขายอาวุธ ร้านเกราะ ร้านขายของชำ ร้านเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ

เขาหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อค้าที่มีเนื้อตากแห้ง

พ่อค้าคนนี้ดูเหมือนครึ่งหมาป่าครึ่งมนุษย์ พ่อค้าหุ่นแน่นตึบไขมันหน้าท้องดูแปลกๆอย่างน่าสงสัย

"นี่คืออะไร?"

“อืม คุณคือนักเดินทางจากโลกมนุษย์เหรอ?”

"ใช่แล้ว"

“เป็นเวลานานมากแล้วที่มนุษย์มาที่นี่… ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นนักเดินทางที่ชื่อ ล็อดซิเกอร์…”

นักผจญภัยล็อดซิเกอร์!

ในฐานะนักผจญภัย เขาเป็นคนแรกที่ก้าวเท้าบนดินแดนแห่งยักษ์ วีดได้รับภารกิจที่เกี่ยวข้องจากเฮสไทเกอร์ แต่เขาไม่ชอบมัน

'จะกำจัดภารกิจได้อย่างไรดีนะ...? ฉันไม่สามารถถูกลากเข้าไปได้อีกต่อไป'

วีดยิ้มอย่างไร้เดียงสา

"ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อนั้น คุณขายเนื้อนี้เหรอ?”

"ถูกต้อง ลองชิมซักครั้งนึงสิ”

พ่อค้าได้มอบเนื้อแห้งชิ้นหนึ่งมาให้

“ตรวจสอบ!”

-เนื้ออากุจักแห้ง

 

เนื้อจากสัตว์ดุร้าย มีเนื้อสัมผัสที่ดีเยี่ยม สามารถใช้ในสูตรการทำอาหารขั้นพื้นฐานได้

พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น 3 เมื่อออกล่าอากุจัก

หากรับประทานบ่อยๆ พลังชีวิตสูงสุดจะเพิ่มขึ้น 50 อย่างถาวร

อาหารจานพิเศษของ หมู่บ้านเดริก

 

ส่วนผสมอาหารเกรด 2

“เยี่ยมเลย"

เอามันไปทำอาหารจานเด็ดได้

วีดยิ้มกว้าง

เนื่องจากการออกล่าและการทำภารกิจ ทักษะการทำอาหารของเขาจึงอยู่ที่ขั้นสูง เลเวล 2 เป็นเวลานานแล้ว

ทักษะการทำอาหารของเขาพัฒนาขึ้นทุกครั้งที่เขาทำอาหารและกินอาหาร

เขาศึกษาวัตถุดิบและสูตรอาหารต่างๆ แล้ววัตดุดิบที่ดีก็ช่วยให้เขาพัฒนาทักษะได้

ดังนั้น เชฟจึงถูกกำหนดให้เดินทางไปทั่วทวีปเพื่อค้นหาสูตรอาหารและวัตถุดิบใหม่ๆ!

'ดีที่ฉันไม่ใช่พ่อครัว การทำอาหารอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องยาก'

อุตสาหกรรมอาหารไม่ง่ายอย่างที่เชฟหลายคนได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือ

 

ปลา ผลไม้ และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่ขายในแหล่งช้อปปิ้งมีคุณภาพดีมาก

"เท่าไร?"

“55 เหรียญทอง”

“สำหรับก้อนเนื้อพวกนี้?”

"ไม่ สำหรับชิ้นเดียวเท่านั้น”

“โฮก…”

วีดกลืนน้ำลายของเขาด้วยราคาที่สูง

“นี่… คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับอาณาจักรอาเพ่นไหม”

“ข้าไม่รู้”

“ข้าคือราชา”

“ถ้าเจ้าไม่ซื้อก็อย่าซื้อ อย่ามาวุ่นวาย ข้าจะไม่ลดมันแม้แต่สักทองแดง”

ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านเดริกไม่ยอมให้มีการเจรจาต่อรอง

คุณภาพของสินค้าดี แต่ปริมาณเสียหายเนื่องจากธรรมชาติของดินแดนยักษ์

นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาขายมันในราคาคงที่ เมื่อผู้เล่นแห่เข้ามา ราคาขายก็เริ่มสูงขึ้น

'ฉันไม่สามารถซื้อได้ อย่างไรก็ตาม เนื้อนี้ควรเพิ่มทักษะการทำอาหารของฉัน และผู้อยู่อาศัยในทวีปเวอร์เซลล์จะเข้าแถวซื้ออาหารของฉัน

มันเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดเพื่อให้ผู้เล่นซื้อได้แม้ในราคาแพง

'ฉันควรขายมัน 50 เท่าของราคาผ่านบริษัทการค้าเมแพนหรือไม่? ไม่ มันควรจะเป็น 100 เท่า'

***

 

ผลิตภัณฑ์พิเศษของหมู่บ้านเดริก คือ เนื้อ ผลไม้ อาวุธ และชุดเกราะ

ช่างตีเหล็กที่หนีออกมาจากพวกยักษ์ได้ผลิตอาวุธและอุปกรณ์จากสารใหม่ที่สกัดจากหิน

นอกจากนี้ยังมีกับดักและหอกยาวที่สามารถช่วยล่ายักษ์ได้!

พวกมันมีประโยชน์ในการล่า แต่มีเพียงผู้เล่นในช่วงเลเวล 500 ถึง 600 เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้

“ราคาอยู่ที่ 100,000 ทอง และนอกจากนี้ยังมีพวกที่ราคามากกว่า 200,000 ทอง กับดักแต่ละอันมีมูลค่าหลายพันทอง”

“ขายให้ฉันแม้จะแพงเกินไป ฉันจะกักตุนไว้”

“แต่… เราโชคดีนะ ที่เราได้มาจากการออกล่าหรือทำภารกิจ”

“เราสามารถประหยัดเงินได้ด้วยการซื้อมันอยู่ดี”

ผู้เล่นที่วิ่งไปที่ร้านขายอาวุธและร้านเกราะพูดกันอย่างจริงจัง

ร้านค้าหลายแห่งขายสินค้าใหม่ที่ไม่มีในทวีปเวอร์เซลล์

พวกเขาเจรจาตกลงสินค้าจำพวกแหวนหยก งานศิลปะ งานฝีมือ โลหะมีค่า เครื่องเทศ แร่ธาตุ และแอลกอฮอล์

ถึงแม้จะมีราคาแพง แต่พวกพ่อค้าสามารถทำเงินได้มากโดยกลับไปที่ทวีปเวอร์เซลล์และขายมัน

แม้แต่ร้านเกษตรก็ขายเมล็ดพันธุ์ที่ทำให้ไม้ผล 100 เมตรเติบโต

“การค้าเป็นสิ่งที่ดี”

วีดพอใจอย่างมาก

หากมีการค้าขายอย่างต่อเนื่อง รายได้ของอาณาจักรอาเพ่นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การปรับปรุงอำนาจทางเศรษฐกิจหรือเทคโนโลยีซึ่งได้มาเป็นโบนัส

'ดินแดนแห่งยักษ์ สักวันหนึ่ง ฉันจะพิชิตสถานที่แห่งนี้ด้วย'

เขาคิดแผนระยะยาวสำหรับอาณาจักรอาเพ่น!

มีเควสมากมายจากชาวบ้านและนักโทษที่พวกเขาช่วยเหลือ คำขอให้ต่อสู้กับมอนสเตอร์และแก้แค้นพวกยักษ์กลายเป็นเควสส่วนใหญ่

ผู้เล่นทางเหนือเหนื่อยจากการทำภารกิจที่ป้อมปราการของพวกยักษ์ ดังนั้นพวกเขาจึงพักผ่อนหรือสำรวจหมู่บ้านอย่างระมัดระวัง

ชาวบ้านมาหาวีด

“ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ ท่านเนโครแมนเซอร์ผู้ชั่วร้าย”

“ขอบคุณท่านเนโครแแมนเซอร์ เราสามารถหนีจากพวกยักษ์ได้ คุณได้แก้แค้นพวกเขา พวกอันเดดนั้นน่ารำคาญ แต่ก็ดีกว่าพวกยักษ์”

“คุณมีพลังที่แข็งแกร่งสำหรับมนุษย์ จริงหรือ? ฉันไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ฉันมีความมั่นใจนิดหน่อย”

ผลกระทบของชื่อเสียง!

วีดมีชื่อเสียง 300,000 ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์

ในระหว่างนี้ไม่มีการแลกเปลี่ยนกับหมู่บ้านเดริก แต่ขณะเดียวกันผู้เล่นที่มาถึงกระจายชื่อเสียงของวีด

“ได้โปรดต่อสู้กับพวกยักษ์ คุณเนโครแมนเซอร์คุณทำได้”

“ข้าฝันถึงการแก้แค้น โปรดช่วยข้า ถ้าท่านทำให้ข้าเป็นนักเวทย์ ข้าจะยกมรดกสืบทอดของตระกูลให้กับท่าน”

“ข้าได้ยินมาว่ามีบางสิ่งในบริเวณใกล้เคียง ข้าจะตรวจสอบ แต่... ถ้ามอนสเตอร์กำลังบุกรุกล่ะ? ข้ารู้ว่าพวกมันถูกยักษ์กิน”

หน้าต่างระบบโผล่ขึ้นมาขณะฟังชาวบ้าน!

'ฉันไม่ควรจมอยู่ในภารกิจ'

วีดยังคงได้รับเควสที่มีความยากระดับ A จากผู้อยู่อาศัย บางครั้งพวกเขายังให้เควสที่มีความยากระดับ S

คำขอให้ตรวจสอบพื้นที่ที่ไม่รู้จักถูกปฏิเสธทันที

มีภารกิจไม่รู้จบในดินแดนแห่งยักษ์

"โอ้โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห"

"อะแฮ่ม"

"ฮึ่ม"

ไพธอน, ซีซั่นแครป, เพล, ไอรีน, โรมูนะ และสมาชิกปาร์ตี้คนอื่นๆ เฝ้าดูวีด

“คุณมาที่ดินแดนแห่งยักษ์เพื่อพบวีดหรือหนีจากเขา?”

"ฉันกำลังซ่อนตัวอยู่"

ไพธอนผู้ยิ่งใหญ่ตัวสั่นด้วยความกลัวในขณะที่ซีซั่นแครปต้องการจะหายตัวไปที่ไหนสักแห่ง

ไอรีน โรมูนะ เซอร์กะ เพล และคนอื่นๆ รู้สึกเหมือนกัน

“อย่าบอกนะว่าวันนี้เราจะไปล่า?”

“ทำไมล่ะ ยกเว้นตอนที่เขาทำประติมากรรม คุณวีดมักจะออกล่าอยู่เสมอ”

“ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์การแกะสลัก... ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจะล่าพวกมอนสเตอร์ต่อไป”

เซเฟอร์พูดอย่างเศร้าสร้อย

"เขาล่าในตอนกลางคืนด้วย"

พวกเขาเป็นเพื่อนเก่าที่หนีไม่พ้น พวกเขาตัดสินใจครั้งใหญ่และเดินเข้าไปหาวีดก่อน

“ฉันอยากล่าแต่วันเดียวเท่านั้น ขยายเวลาได้ถึงสามวันเท่านั้น!”

"ต้องพัก 10 นาทีทุกๆ 4 ชั่วโมง"

ไพธอน และ ซีซั่นแครป พูดถึงความต้องการของพวกเขาก่อน

เพลเป็นทาสการต่อสู้และมีมาตรฐานที่ต่ำกว่าเล็กน้อย

“ผมพร้อมที่จะถูกทำร้าย แต่ก็แค่อยู่ให้ตรงเวลา ผมกินขนมปังบาร์เลย์ในสนามรบไม่ได้ เราต้องอยู่อย่างคนสิ?”

คำพูดของพวกเขาเศร้า

ขณะที่พวกเขากังวล วีดก็มึนงง

“เราจะไปล่าด้วยกันไหม”

“หืม? พวกเราไม่ไปไม่ได้เหรอ?”

“ฉันกำลังจะไปล่า แต่สกิลปลุกอันเดดยังต่ำอยู่ ฉันต้องขัดเกลาสกิลของฉัน”

***

หลังจากได้รับข้อมูลพื้นฐานจากชาวบ้านแล้ว วีดก็ยอมรับภารกิจระดับ B

ความจงรักภักดีต่อเพื่อนร่วมปาร์ตี้!

วีดสามารถพาพวกเขาไปล่าได้ แต่เขาก็ปล่อยให้พวกเเพื่อนๆพักผ่อน

-การสำรวจดันเจี้ยน

มีผู้คนในหมู่บ้าน เดริก ที่หายตัวไป

มีข่าวลือว่ามีดันเจี้ยนอันตรายอยู่ในหมู่บ้าน เบาะแสเดียวคือ หนวดของแมลง

เพื่อความสงบสุขและความมั่นคงของหมู่บ้าน คุณต้องเคลียร์ดันเจี้ยนให้สำเร็จ

 

ระดับความยาก: B

ข้อจำกัดของภารกิจ: ชื่อเสียงมากกว่า 100,000 ชื่อเสียง

 

รางวัลตอบแทน: เป็นที่จดจำของผู้อยู่อาศัย

ได้รับแร่ธาตุตามความสำเร็จสาธารณะ

วีดยอมรับภารกิจและได้รับหนวดของแมลง

“ฉันไม่จำเป็นต้องฆ่าล้างพวกมันทั้งหมดหรือ”

“ใช่ เราไม่รู้ทักษะของคุณนักผจญภัยเลย… ถ้ามันยากก็แค่จัดการมอนสเตอร์บางตัว ผมจะให้รางวัลคุณด้วยแร่ธาตุขึ้นอยู่กับจำนวนมอนสเตอร์ที่กำจัด”

“เราจะเริ่มด้วยพวกมันสองสามตัว ไม่ต้องกังวล มันจะจบลงในไม่ช้า”

วีดพูดอย่างมั่นใจ โดยปกติเขารู้สึกกังวลใจต่อภารกิจและจะต้องเอาชนะความยากลำบากมากมายเพื่อให้สำเร็จ แต่ตอนนี้ ความยากลำบากเหล่านั้นได้หายไปแล้ว

"ฉันจะต้องปรับตัวให้เข้ากับอาชีพของฉันในตอนแรก แต่ภายหลังข้อดีของเนโครแมนเซอร์จะเพิ่มขึ้น ฉันจะส่งต่อสิ่งที่ยากทั้งหมดไปยังให้กับพวกประติมากรรมสลักชีพ"

วีดรวบรวมมานาและเรียกเซอร์เบอรัส

“คูวู้!”

ผู้เฝ้าประตูนรกสามหัว!

เสียงคำรามของเซอร์เบอรัสเพียงพอที่จะทำให้มอนสเตอร์ที่อ่อนแอตัวแข็งทื่อไปด้วยความกลัว

วีดมอบหนวดแมลงที่ได้รับจากภารกิจให้เซอร์เบอรัส

"หาที่ที่มีกลิ่นแบบนี้แล้วส่งเสียงดัง"

“โฮ่ง โฮ่ง!”

ต้องขอบคุณ เซเบอรัส เขาสามารถหาทางเข้าดันเจี้ยนที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในหมู่บ้านได้

หัวทั้งสามได้ดมกลิ่นและตรวจค้นหมู่บ้าน

ในระหว่างนี้ วีดได้ฟื้นฟูมานาที่เขาใช้ในการอัญเชิญประติมากรรม

“นี่ก็ไม่เท่าไหร่ อัญเชิญประติมากรรม!”

หลังจากอัญเชิญเซเบอรัส ประติมากรรมสลักชีพตัวต่อไปที่เขาเรียกออกมาคือ บาฮามอก!

บาฮามอก ยังคงล่าและทำภารกิจกับวีด ดังนั้นเลเวลของเขาจึงอยู่ที่ 588

'แม้ว่าการสร้างโกเลมจะไม่ค่อยดี... ฉันก็สามารถใช้บาฮามอร์กได้'

ในฐานะที่เป็นเนโครแมนเซอร์ การสร้างโกเลม  เป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ

เนโครแมนเซอร์อ่อนแอกว่านักเวทย์ทั่วไปมาก ยกเว้น ระเบิดซากศพ

โกเลมมีบทบาทในการล่าและปกป้อง ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของเนโครแมนเซอร์

อย่างไรก็ตาม วีดคุ้นเคยกับการต่อสู้และมีประติมากรรมสลักชีพ ดังนั้น จุดอ่อนในการต่อสู้ระยะประชิดจึงไม่มีอยู่ตั้งแต่ต้น

วีด เจ้าเหลือง และบาฮามอร์กติดตามเซอร์เบอรัส

“โฮ่ง โฮ่ง!”

เซอร์เบอรัสพบทางเข้าดันเจี้ยนเป็นทางเดินในบ่อน้ำ

-ดันเจี้ยน คุณเป็นคนแรกที่ค้นพบโถงลาบอส

 

รางวัล: ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,000

 

ค่าประสบการณ์และไอเทมดรอปจะเพิ่มสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

มอนสเตอร์ตัวแรกที่ฆ่าได้ในแต่ละประเภทจะดรอปไอเทมหายากที่สุด

"ดี บุกเต็มกำลัง"

วีดสร้างนักรบโครงกระดูก 10 ตนที่เขาเรียกออกมาเพื่อบุกทะลวงดันเจี้ยน

ดัลกูรัค ดัลกูรัค

โกเลมโคลนที่สร้างขึ้นจากการใส่ออร่าแห่งความตายลงในดินเหนียวก็เคลื่อนไปข้างหน้าเช่นกัน

กองทัพเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ประกอบด้วยอันเดดสิบตัวเท่านั้น

'ฉันไม่ต้องกังวลกับกับดักหรือการซุ่มโจมตี'

เขาติดตามอันเดดด้วยจิตใจที่ผ่อนคลาย

ผลของการทำลายประติมากรรมจากป้อมปราการของยักษ์ยังคงมีผลอยู่

“คูวัก!”

มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนปรากฏตัวพร้อมกับคำราม

มอนสเตอร์ที่ถูกพบเห็นเป็นครั้งแรกในทวีปเวอร์เซลล์!

พวกมันมีจมูกยาวเหมือนจระเข้และเดินสองเท้า

พฤติกรรมของพวกมันคล้ายกับของมนุษย์ แต่มีความสูงอย่างน้อย 4 เมตร

“เหยื่อ! มีเหยื่อที่กินไม่ได้เพราะอาหารเน่า!”

ลาบอส

มอนสเตอร์ทั้งสองทุบโครงกระดูกเบา ๆ ด้วยการแกว่งแขน

วีดมองดูพวกเขาและประเมินพวกมัน

'พวกยักษ์มีเลเวล 700 ต้นๆ นี่คือพื้นที่ล่าระดับสูง หมู่บ้านนี้ ซึ่งเป็นที่หลบภัย ควรต่ำกว่า ถ้าดูจากความแข็งแกร่งในปัจจุบัน... ดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ที่เลเวล 600 ฉันคงไม่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม'

ต้องขอบคุณประสบการณ์มากมายในการล่ามอนสเตอร์ เขาสามารถตัดสินได้อย่างรวดเร็วแม้จะไม่มีข้อมูล

วีดออกคำสั่งให้บาฮามอร์ก

"ออกไปสู้กันเถอะ"

“รับทราบครับ นายท่าน”

บาฮามอร์กขี่เจ้าเหลืองและรีบไปที่ห้องแรก กวัดแกว่งขวานและกระบอง

“เรียกขานเดธไนท์ แวน ฮอว์ก เรียกขานแวมไพร์ลอร์ดโทริ!”

เดธไนท์แวน ฮอว์ก และแวมไพร์ลอร์ดโทริก็ถูกอัญเชิญออกมาด้วย!

"ช่วยบาฮามอร์กต่อสู้ อย่าวุ่นวาย"

เซอร์เบรัสที่ดมกลิ่นดันเจี้ยนก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

“คูอู้!”

คำรนแห่งการต่อสู้!

บาฮามอร์กใช้ทักษะนักรบที่เพิ่มพลังชีวิตและการป้องกันของเขา

เขาลาบอสทั้งสองสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย แต่เขาไม่เสียหายซักนิดเดียวเนื่องจากการป้องกันที่แข็งแกร่งของเขา

“คุรุรุงค์!”

เซอเบรัส ฉวยโอกาสกัด ลาบอส อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้ามันก็ถูกเตะกลับ

“เอ๊งงง!”

ลาบอส มีผิวที่แข็งมากแต่ไม่นานมันก็ถูกทำลายโดยขวานและกระบองของ บาฮามอก หากบาฮามอกต่อสู้กับมอนสเตอร์ระยะหนึ่งเขาก็จะชนะ

'แท้จริงแล้ว เขาเป็นประติมากรรมสลักชีพที่ทรงพลังที่สุด เขาจะช่วยได้มากในดันเจี้ยนนี้'

วีดแกะสลักประติมากรรมสลักชีพที่มีความแข็งแกร่งและพลังชีวิตสูง แต่ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นเนื่องจากบาฮามอร์ก

หลังจากที่ แวนฮอว์ก และ โทริ เข้าร่วม พลังชีวิตของลาบอสก็ลดลงเหลือน้อยกว่า 30%

“แวน ฮอว์ค”

“ครับ นายท่าน”

“แกสู้เต็มที่แล้วเหรอ”

"ขอรับ"

“จากนี้ไปให้ช้าลงนะ”

ดวงตาของวีดส่องประกายในขณะที่เขารอจนกระทั่ง

พลังชีวิตของลาบอสเหลือ 20%

ในที่สุด แวนฮอว์กและโทริก็ถอยออกมาเมื่อพลังชีวิตของลาบอสลดลงเหลือ 10%

“บาฮามอร์ก ปกป้องฉัน”

“รับทราบครับ นายท่าน”

วีดมองไปรอบๆ และค่อยๆ ดึงดาบออกจากเอวของเขา

เขาไม่ได้ระมัดระวังมากนักเมื่อนำ ดาบปีศาจโคลเดอริมออกมา

ในกรณีของดาบมังกรดาวสีชาดเขาไม่สามารถใช้มันอย่างเปิดเผยและกล้าหาญได้ เขาต้องตกตายโดยมังกรถ้าเขายังคงใช้ดาบต่อไป

แต่เฮสไทเกอร์ทิ้งดาบเล่มอื่นไว้

ดาบโลอา

มันเป็นสมบัติของเอลฟ์และดาบที่มนุษย์ไม่ลังเลที่จะมองว่าเป็นดาบที่ดีที่สุด ต้องมีเลเวล 650 ในการใช้งานและใช้ได้เฉพาะผู้ที่พบมรดกของเฮสไทเกอร์ในทะเลทรายแห่งความเงียบงันเท่านั้น

หากเป็นที่บ้านเขาไม่จำเป็นต้องรู้สึกอิจฉาอพาร์ทเมนท์เพนต์เฮาส์ในกังนัมและฮงแด

ฉับ ฉั้ว!

เสียงที่ชัดเจนดังขึ้น

- คุณถือดาบโลอา

ความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น

ความคล่องตัวจะเพิ่มขึ้น 26%

ค่าสถานะทั้งหมด +42

 

จะสร้างความเสียหายสามเท่าให้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่

ลดพลังชีวิตสูงสุดของคู่ต่อสู้ลงครึ่งหนึ่งจากความเสียหาย

 

เมื่อโจมตีติดคริติคอล พลังป้องกันของคู่ต่อสู้จะลดลง 7%

 

จิตวิญญาณแห่งไฟ ลม น้ำและดินจะให้พลังงานแก่คุณ

 

พลังป้องกันเพิ่มขึ้น 117

 

เมื่อใช้ทักษะดาบ การใช้มานาจะลดลงครึ่งหนึ่ง

 

76% ของการป้องกันเวทย์มนตร์ของคู่ต่อสู้จะถูกเพิกเฉย

 

ค่าสถานะศิลปะเพิ่มขึ้น 35 เนื่องจากดาบที่สวยงาม

 

สามารถใช้เวทมนตร์ป้องกัน 'ป่าใหญ่' ได้

"นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันใช้มัน"

เขาไม่รู้ว่ามือของเขารู้สึกคันไม้คันมือมากแค่ไหนในขณะที่ทำประติมากรรมในทะเลทรายแห่งความเงียบงัน

มันเหมือนกับให้พายช็อคโกแลตแก่เหล่าทหารแล้วไม่ยอมให้พวกมันกิน!

วีดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาโจมตีลาบอสที่บาฮามอร์กกำลังต่อสู้อยู่

- ดาบของคุณแทงทะลุหลังศัตรู

การโจมตีที่รวดเร็วและแม่นยำได้สำเร็จ ติดคริติคอล!

 

พลังป้องกันของคู่ต่อสู้ลดลง

พลังชีวิตลดลง 3,481

"อืม..."

วีดรู้สึกซาบซึ้งในวินาทีนั้น

บาฮามอร์กสร้างความเสียหาย 2,000 ดาเมจในขณะที่วีดทำมากเป็นสองเท่า

'ฉันรู้แล้วว่าทำไมผู้คนถึงสวมอุปกรณ์ปีนเขาที่ดีที่สุดเมื่อปีนเขาหิมาลัย'

มันเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม

พลังของดาบโลอานั้นยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้เขาลืมเกี่ยวกับการเป็นเนโครแมนเซอร์

หลังจากที่ประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลล์เปลี่ยนไปจากการผจญภัยของวีดเพื่อทำภารกิจเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย เฮสไทเกอร์กลายเป็นวีรบุรุษและได้รับดาบเล่มนี้

“มันหรูหรา ฉันจะใช้มัน”

วีดก้าวไปข้างหน้าทั้งๆ ที่มีหางที่แหลมคมพุ่งเข้าหาเขา

'ฉันสามารถละทิ้งวิธีการต่อสู้ของฉันในฐานะประติมากรได้'

ในระหว่างนี้ พลังชีวิตและมานาของเขายังต่ำ ดังนั้นเขาจึงต้องต่อสู้อย่างระมัดระวัง

บุคลิกขี้เหนียว!

เขาต้องพิจารณาถึงพลังของเขาด้วยเมื่อเหวี่ยงดาบ

อาชีพที่ไม่ใช่สายต่อสู้เช่นประติมากรมีข้อจำกัดอยู่แล้ว!

ทางเลือกที่ดีที่สุดที่เขาทำคือเพิ่มความอดทน ความยืดหยุ่น และสร้างการป้องกัน ถ้าเขาประมาทเหมือนเพื่อนร่วมปาร์ตี้คนอื่น ๆ เขาก็ไม่สามารถแข็งแกร่งได้เหมือนตอนนี้

เขามีความท้าทายอันขมขื่นที่ต้องเอาชนะในฐานะประติมากร

'ฉันไม่ต้องทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว พลังชีวิตของฉันเพิ่มขึ้น แต่ถ้าฉันหมดพลัง ฉันก็จะใช้ทักษะไม่ได้ มานาสูงสุดและอัตราการฟื้นฟูของฉันเพิ่มขึ้นอย่างมาก'

เขาไม่ได้มีพลังโจมตีมากเท่ากับนักดาบหรือนักรบทะเลทราย แต่เขาสามารถใช้ทักษะมากมายตั้งแต่กลายเป็นเนโครแมนเซอร์

“เพลิงศักดิ์สิทธิ์!”

ดาบโลอาแสนสวยแดงก่ำ ทักษะโจมตีจากเทพธิดาเฮสเทีย!

- เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถูกมอบให้กับดาบโลอา

พลังโจมตีด้วยไฟจะเพิ่มขึ้น 105-271 ขึ้นอยู่กับค่าสถานะศรัทธาของคุณ

 เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์จะลดพลังของการอัญเชิญอันเดดลง 46% เป็นระยะเวลาชั่วคราว

อันเดดที่อยู่ใกล้ๆ จะต้องทนทุกข์ทรมานทุกวินาที

ฟู่!

ดาบโลอาถูกปกคลุมไปด้วยไฟและพลังโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ขณะเดียวกัน กระดูกของโครงกระดูกก็ลุกเป็นไฟ

-โครงกระดูกได้รับความเสียหาย 603 ดาเมจจากเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์

'เหมือนกับต้องใช้ช้อนกินข้าว อุปกรณ์ก็จำเป็นสำหรับการล่า!'

วีดลืมเรื่องการเป็นเนโครแมนเซอร์อีกแล้ว และโจมตีพวกลาบอส

- โจมตีแรง!

ความคมของดาบและเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทำให้พลังชีวิตของคู่ต่อสู้ลดลง 4,391

แม้ว่าจะไม่ใช่การโจมตีที่รุนแรง แต่มอนสเตอร์ก็ได้รับความเสียหายมหาศาล

 จำนวนความเสียหายขึ้นอยู่กับเกราะ สถานะ และพลังชีวิตของมอนสเตอร์

วีดใช้ทักษะการโจมตีเพิ่มเติม

“วิชาดาบเฮอเรม!”

- การโจมตีต่อเนื่องครั้งที่ 1 สำเร็จ ความว่องไวเพิ่มขึ้น 20%

- โจมตีต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 สำเร็จ ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 40%

- โจมตีต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 สำเร็จ ความว่องไวเพิ่มขึ้นอีก 40%

- โจมตีต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 สำเร็จ ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก 40%

- โจมตีต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 สำเร็จ ลาบอส ถูกไฟไหม้และเสียชีวิต

ท่าสุดเฟี้ยว!

ดาบโลอานั้นเบาและเขาสามารถกวัดแกว่งได้อย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ลาบอสจบชีวิต มือซ้ายของเขาก็เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างพริ้วไหว

- คุณได้รับ หัวใจของลาบอส

- คุณได้รับ เนื้ออันล้ำค่าของลาบอส 3 ชิ้น

- คุณได้รับสร้อยคอภูมิปัญญาอันเป็นอมตะ

นี่แหละการต่อสู้

มือของวีดสั่นเมื่อเขาได้รับทรัพย์สมบัติ

'เซ็ตอมตะ'

อย่างน้อย มันคือเครื่องประดับที่มีเลเวลจำกัดอย่างน้อย 600

สร้อยคอเพิ่มพลังชีวิต ความแข็งแกร่ง ภูมิปัญญา และความรู้ มันเพิ่มค่าสถานะ ระดับทักษะของเขา และมานาสูงสุด

 มันจะขายได้ราคาแพงในการประมูลและมันจะเป็นประโยชน์เมื่อใช้โดยตรง เหตุผลทางการเงินไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เขาตัวสั่น

เขาเป็นคนแรกที่ค้นพบดันเจี้ยน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขาจะได้รับไอเท็มที่ดีที่สุดเมื่อออกล่า เลเวลของมอนสเตอร์นั้นใกล้เคียงถึง 600 ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ไอเทมประเภทนี้จะดรอป

'ดาบมีสร้างความเสียหายมหาศาล ความเร็วในการล่าของฉันจะเร็วขึ้นมากในอนาคต'

เขารู้สึกชัดเจนว่าพลังโจมตีของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นในการต่อสู้มากแค่ไหน

'ถ้าฉันเป็นนักดาบ... จะมีผลมากกว่า หรือถ้าฉันเป็นปรมาจารย์ดาบ...'

มันเป็นไปได้ที่จะสร้างความหายนะด้วยพลังของดาบโลอา

“กิ๊ก!”

 ในขณะนั้น หนึ่งในลาบอสที่รอดชีวิตได้หลบหนีจากการกักกันของบาฮามอร์กและโจมตีวีดด้วยหางของมัน

- คุณถูกโจมตีด้วยหาง เป็นอัมพาตชั่วคราว!

ความอดทนสูงของคุณทำให้อัมพาตลดลงเหลือ 0.4 วินาที

พลังชีวิตลดลง 7,325

 

- เอฟเฟกต์อุปกรณ์ของเซ็ตบัลข่านภาชนะแห่งชีวิตถูกเปิดใช้งาน

พลังชีวิต 3,291 ถูกนำออกจากที่กักเก็บ

พลังชีวิตทั้งหมดที่เหลืออยู่ในภาชนะแห่งชีวิต: 203,281

 

-อ่อนแอ!

พลังชีวิต 820 จะถูกดูดกลืนโดยลาบอสทุกวินาที

“นายท่านระวัง”

บาฮามอก และ เซอเบรัส ปกป้องเขาทันทีที่ วีด ถูกโจมตี เขาได้มอบชุดเกราะอัศวินแห่งเทพธิดาที่ทำจากฮีเลียมให้กับเฮอร์แมน ขณะที่เขาสวมเสื้อคลุมของบาร์คาน

มันมีการป้องกันเวทย์มนตร์ที่สูงมาก ความสามารถในการฟื้นฟูมานาที่สูง และเหนือสิ่งอื่นใด มันเพิ่มภูมิปัญญาและความสามารถในการควบคุมอันเดด

พลังป้องกันพื้นฐานนั้นอ่อนแอ แต่เนื่องจากภาชนะแห่งชีวิต พลังชีวิตของวีดจึงไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ก็ได้แค่นั้นแหละ ฉันต้องจัดการมันให้จบโดยเร็ว มันก็แค่การโจมตีที่ถูกเมินเฉย

วีดเต็มไปด้วยมานาเนื่องจากเป็นเนโครแมนเซอร์ ดังนั้นเขาจึงใช้ทักษะนี้โดยไม่ต้องประหยัด

“แม่น้ำลาวา!”

 คราวนี้เป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของนักรบทะเลทราย

ทักษะยังคงเป็นเลเวล 1 และจำเป็นต้องมีการฝึกฝนและประสบการณ์การต่อสู้เพื่อเติบโต อย่างไรก็ตาม มีธารลาวาพุ่งออกมาจากวีดและปกคลุมลาบอส

“คูอู้!”

ลาบอสพยายามหนีจากลาวาอย่างเอาเป็นเอาตาย

สายตาของวีดเฉียบแหลมขึ้น

“เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ วิชาบดาบเฮอเรม!”

เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ป้องกันไม่ให้วีดได้รับความเสียหายจากไฟที่เกิดขึ้นโดยแม่น้ำลาวา และเขาฉวยโอกาสโจมตีลาบอสอย่างต่อเนื่อง!

ลาบอสซึ่งพลังชีวิตอยู่ในระดับที่น้อยมากๆไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและตายลง

- คุณได้เอาชนะลาบอสอันตรายสองตัว

- ได้รับ ค่าประสบการณ์

- ความชำนาญของทักษะดาบได้รับการพัฒนา

"โอเค ค่าประสบการณ์... เพิ่มขึ้น 0.2%"

วีดพอใจ มันเป็นพื้นที่ล่าที่มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งและเขาได้รับค่าประสบการณ์สองเท่า

“ฉันจะเอาค่าประสบการณ์ทั้งหมดคนเดียว เมื่อฉันก้าวหน้าด้วยอาชีพเนโครแมนเซอร์และจะผูกขาดค่าประสบการณ์อย่างสมบูรณ์”

แม้ว่าเขาจะมีบาฮามอร์ก, แวนฮอว์ก, โทริ, เซอร์เบรัส และเจ้าเหลือง แต่เขาตัดสินใจว่ามันยังไม่เพียงพอ วีดใช้ทักษะอัญเชิญอันเดด

"ลุกขึ้น จงตื่น ผีที่ไม่เคยหลับใหล มีชีวิตและแก้แค้นผู้ที่ฆ่าเจ้า! ปลุกชีพอันเดด"

ลาบอสที่เขาเพิ่งฆ่าตายได้ถูกปลุกขึ้นในฐานะอัศวินโครงกระดูก

- ความสามารถของสกิล ปลุกชีพอันเดด ดีขึ้น

"คิลคิลคิล"

"กุลกุลกุล"

พวกอันเดดนั้นอ่อนแอแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีพวกมันในขณะล่า

ต่างจากประติมากรรมสลักชีพที่ต้องได้รับการเอาอกเอาใจ พวกอันเดดไม่ต้องการการพักผ่อนและสามารถยกระดับความเร็วการต่อสู้ได้

เปลวเพลิงศักดิ์สิทธ์เป็นปรปักษ์กับอันเดด แต่ด้วยเหตุนี้เขาจะใช้มันตามสถานการณ์

เมื่อระดับทักษะของ ปลุกชีพอันเดด เพิ่มขึ้นพร้อมกับออร่าแห่งความตายความเสียหายที่เกิดจากเปลวเพลิงศักดิ์สิทธ์จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นจะต้องมีวิธีแก้ไข

'มันแตกต่างจากตอนที่ฉันอยู่คนเดียวในฐานะประติมากรอย่างแน่นอน ฉันสามารถมุ่งเน้นไปที่ทักษะการต่อสู้ได้'

วีดรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง ในฐานะที่เป็นเนโครแมนเซอร์และด้วยเซ็ตบัลข่าน เขาไม่จำเป็นต้องหยุดการล่าเนื่องจากตอนนี้เขามีมานามหาศาล

ในตอนที่ทำภารกิจปรมาจารย์ประติมากร เขาได้สะสมประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ เขาเพิ่มพูนวิชาดาบให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงและเรียนรู้หอกหลังจากได้รับหอกสายฟ้าของมยุล

เขาสะสมค่าสถานะระหว่างการผจญภัยและทำภารกิจต่าง ๆ มีสกิลของนักรบทะเลทรายและเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่เทพธิดาเฮสเทียมอบให้

หากเกิดสถานการณ์อันตรายขึ้นเมื่อต่อสู้กับลาบอส เขาจะสามารถหลบหนีได้ด้วยการแกะสลักเวลา

ในรอยัลโร้ด หลังจากการต่อสู้ เขาสามารถเลี้ยงพวกอันเดดได้ ดังนั้นเขาจึงมีทางเลือกมากมาย  มีผู้เล่นหลายคนที่เรียนรู้ดาบ เวทมนตร์ และธาตุต่างๆ พร้อมกัน ผู้ที่ประสบความสำเร็จคือกลุ่มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

วีดอยู่เหนือพวกเขาทั้งหมด

"ไม่มีใครสามารถบรรลุความสำเร็จนี้ได้"

****

ที่หน้าประตูปราสาทอาเรน

ลาเฟย์และสมาชิกกิลด์เฮอร์มีสคนอื่นๆ รวมตัวกันที่นั่น

"วันนี้เลเวลของคุณเพิ่มขึ้นหรือเปล่า"

“คิก ฉันล่ามาสองวันแล้วพึ่งจะได้ซักเลเวลนึง”

"ฉันไม่สามารถไปที่ดันเจี้ยนดีๆได้ ที่นั่นแออัดเกินไป"

ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสพูดคุยกับผู้คนที่พวกเขาคุ้นเคย

หนึ่งวันต่อสัปดาห์ ลาเฟย์จัดทัวร์ปราสาทอาเรนกับกิลด์เฮอร์มีส

พวกเขายึดครองปราสาทอาเร็นในอาณาจักรฮาเว่นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของรอยัลโร้ด ดังนั้นงานนี้จึงจัดขึ้นเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ

ทุกสัปดาห์ ความคืบหน้าของเมืองได้รับการยืนยัน และผู้เล่นทั่วไปสามารถมองดูกิลด์เฮอร์มีสได้

'หืม... มีไม่เยอะขนาดนั้น'

ลาเฟย์รู้สึกว่าจำนวนคนที่มารวมตัวกันลดลงทุกปี

สมัยก่อนคนจะแน่นทุกครั้งที่จัดงาน

ภาพอันตระการตาของกิลด์อันทรงเกียรติที่เดินผ่านปราสาทอาเรน แสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์อันยิ่งใหญ่ของพวกเขา บางครั้งหลังจากการตรวจสอบ พวกเขายังบุกดันเจี้ยนเพื่อให้สมาชิกกิลด์พยายามเข้าร่วมให้มากที่สุด

'เมื่อก่อน การรวบรวม 3,000 คนไม่ใช่เรื่องยาก ตอนนี้มีเพียง 500 คนเท่านั้น'

 ลาเฟย์ปกปิดความเสียใจของเขาและดูเหมือนไม่กังวลจากภายนอก

"เราจะเริ่มการตรวจสอบ"

เหล่าผู้นำกิลด์อยู่แถวหน้า ตามด้วยสมาชิก พวกเขาเดินไปตามถนนกว้างของปราสาทอาเรนและมองดูอาคารและผู้คน

"กิลด์เฮอร์มีส"

“ว้าว… พวกเขาไม่มีอะไรทำจริงๆ หลังจากรวมทวีปกลางเข้าด้วยกัน พวกเขาก็ตั้งใจไปทางเหนือ”

“คุณไม่รู้หรือครับ การอยู่แถวนี้มันอันตราย”

 มีผู้เล่นทั่วไปจำนวนมากที่ดูขบวนของกิลด์เฮอร์มีส

ในอดีต สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความโกรธ ตอนนี้ พวกเขาไม่ให้เกียรติและดูถูก

“กุ๊ก...”

กิลด์เฮอร์มีสที่ได้ยินพวกเขากัดฟันเข้าหากัน

“ไอ้พวกนั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่”

“ปล่อยไปเถอะ พวกเขาไม่มีความมั่นใจที่จะออกมา”

กิลด์เฮอร์มีสสามารถกวาดล้างคนไม่กี่ร้อยคนได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาก็ไม่เคลื่อนไหว

หากพวกเขาฆ่าผู้เล่นทั่วไปอย่างไร้ความปราณี ก็จะมีรายงานการออกอากาศเชิงลบ

ในอดีตข่าวดังกล่าวเผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกิลด์เฮอร์มีส ตอนนี้มันแค่สนับสนุนให้เกิดการก่อกบฏและเพิ่มความเกลียดชังของผู้เล่น

มีหลายแง่มุมที่ไม่ยุติธรรมที่สมาชิกกิลด์เฮอร์มีสต้องทน แต่มันก็ช่วยไม่ได้เนื่องจากการกระทำของพวกเขาในอดีต

“ส่วนใหญ่เป็นฆาตกร”

"พวกเขามีชีวิตที่เลวร้าย"

“แข็งแกร่งและอันตราย เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษา”

การมาเยือนของกิลด์เฮอร์มีสยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่พวกเขาอดทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เล่นทั่วไปอย่างเงียบๆ

'ความอัปยศเช่นนี้...'

ลาเฟย์เป็นคนที่ปกติไม่โกรธ

สิ่งเหล่านี้คาดหวังไว้ว่าต้องเกิด

แม้ว่าวีดจะพ่ายแพ้ แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้คาดคิด

โอกาสมีน้อย แต่เขารู้ว่าโชคส่วนใหญ่เข้าข้างวีด

อันที่จริง วีดใช้พลังที่น่าตกใจและความนิยมอันน่าทึ่งของเขาในการสกัดกั้นการรุกรานของอาณาจักรฮาเว่นทุกครั้ง

 'ถึงแม้อาณาจักรอาเพ่นจะใหญ่ไปหน่อย... อาณาจักรฮาเว่นก็ไม่ล่มสลาย พวกเขาแค่พยายามกินอาหารมื้อใหญ่ที่เรียกว่าทวีปกลาง ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่เศรษฐกิจจะเติบโตและทำให้พวกกบฏสงบลง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม กิลด์เฮอร์มีสจะครองทวีปกลาง'

เขาอยู่ในขั้นตอนการรักษาเสถียรภาพของอาณาจักรที่สั่นสะเทือนโดยให้การลดหย่อนภาษีและเสรีภาพแก่ผู้เล่นทั่วไป

 มีเรื่องเล่าขาน ความลับ และอุปกรณ์ระดับตำนานทุกประเภทที่ซ่อนอยู่ในทวีปกลาง

กิลด์เฮอร์มีสได้พิชิตดินแดนอันกว้างใหญ่ พลังของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ ดังนั้นจึงไม่มีอุปสรรคต่อการปกครองของพวกเขา

อาณาจักรอาเพ่นนั้นยากต่อการต่อสู้เพราะพวกเขาได้รับการสนับสนุนที่ไม่ธรรมดาจากผู้เล่นจำนวนมาก

ในวันที่ความนิยมของวีดหมดลง มันจะใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจะพิชิตทวีปเวอร์เซลล์

ลาเฟย์คิดว่าถ้าเขารอและทำงานเบื้องหลัง เขาจะสามารถนำทุกอย่างเหมือนเมื่อพวกเขาพิชิตทวีปกลาง

 แต่มีความอับอายที่ลาเฟย์ไม่คาดคิด

'มันเป็นเรื่องที่สามารถทนได้ ฉันจะให้รางวัลแก่ผู้ที่อดทนอย่างแน่นอน'

ลาเฟย์เดินไปตามถนนด้วยใบหน้าที่สดใสและแน่วแน่

เด็กผู้หญิงที่น่ารักเป็นพิเศษยืนอยู่บนถนน เด็กผมบลอนด์ที่น่ารักกำลังขวางถนนที่กิลด์เฮอร์มีสกำลังจะลงมา

เด็กเล็กสามารถเข้าใช้รอยัลโร้ดโดยได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง แน่นอน พวกเขามีอิสระที่จะท่องไปในเมืองต่างๆ แต่การออกล่าและการผจญภัยเป็นสิ่งต้องห้าม

แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวระหว่างเมือง แต่เด็กเล็กสามารถเคลื่อนย้ายโดยใช้เทเลพอร์ตหรือเดินทางตามกำหนดเวลา

แม้ว่าจะไม่มีการสู้รบเนื่องจากข้อจำกัด เด็กๆ ก็มีประสบการณ์หลากหลายอาชีพและการผจญภัยในรอยัลโร้ด

'เด็กคนนี้ช่างน่ารัก'

'เธอจะเติบโตขึ้นอย่างสวยงาม เธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่สวย'

มีรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของสมาชิกกิลด์เฮอร์มีส

พวกเขายืดอกเพื่อให้ดูเท่

ลาเฟย์ชอบเด็กที่น่ารักด้วย ดังนั้นเขาจึงเข้าหาอย่างระมัดระวัง

“สวัสดีครับเจ้าหนูน้อย หนูชื่ออะไรคะ”

น้ำเสียงที่ไพเราะและหน้าตาที่หล่อเหลา ลาเฟย์ไม่สงสัยเด็กคนนี้...

"ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น"

เด็กไม่เห็นด้วยและถอยกลับไป ลาเฟย์คิดว่าเธอขี้อายและหัวเราะ

“ทำไม? โอปป้าเป็นคนที่น่ากลัวเหรอ?”

"ไม่"

“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอให้ของขวัญดีๆ ให้หนูหน่อยได้ไหม?”

“ไม่เป็นไร หนูไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น”

 ดูเหมือนว่าเด็กอายุประมาณหกขวบ

กิลด์เฮอร์มีสและผู้คนบนท้องถนนต่างให้ความสนใจในการสนทนาระหว่างลาเฟย์กับเด็ก

“แม่ของหนูสอนหนูมาอย่างดี”

“ใช่ แม่ของหนูบอกว่าสมาชิกกิลด์เฮอร์มีสทุกคนเป็นโจร”

"ฮะ?"

เด็กสาวพูดได้ชัดเจนด้วยการออกเสียงแม่นยำ

“แม่ของหนูบอกว่าคุณเป็นคนไม่ดี เธอบอกหนูว่าอย่าเป็นมิตรกับคุณ”

 คำพูดที่ตรงไปตรงมาและน่าตกใจออกมาจากปากของเด็ก

"หนูจะไม่เป็นเหมือนคนในกิลด์เฮอร์มีสเมื่อหนูโตขึ้น!"

รอยยิ้มของลาเฟย์แข็งทื่อ

“อา... หนูไม่ควรพูดกับคนจากกิลด์เฮอร์มีส”

เด็กสะดุ้งและวิ่งหนีเหมือนกลัว

สมาชิกกิลด์เฮอร์มีสชะงักในขณะที่ผู้คนที่มองดูหัวเราะ ลาเฟย์เริ่มเดินอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

'ฉันต้องเจอเรื่องแบบนี้บนถนนอีกไหมเนี่ย?‘

เขายังคงทำหน้าตานิ่งเฉยแต่ในใจกำลังเดือดดาล

จบเล่ม 47 บทที่ 5

ผู้แปล : DoubtB

Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...