วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 29 ตอนที่ 4: โชคชะตาที่เลวร้ายที่สุด แปลโดย Cole’s Myth


เล่ม 29 ตอนที่ 4: โชคชะตาที่เลวร้ายที่สุด แปลโดย Cole’s Myth

ณ ทวีปเวอร์เซลแห่งนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามแต่ วีดก็จะยืนหยัดตั้งหน้าตั้งตาสร้างประติมากรรมของเขาบนอุทยานแห่งทวยเทพ เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการสร้างประติมากรรมขนาดใหญ่ ทว่าผู้คนก็ช่วยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจทุกครั้งที่ผลงานระดับไฟน์พีชหรือว่ามาสเตอร์พีชออกมา

ประติมากรรมของวีดนี่ช่างโดดเด่นจริงๆ

บางคนอาจจะคิดว่ามันดูพื้นๆหรือว่าน่าเกลียด แต่มันก็เริ่มดูดีละนะ ถ้ามองไปนานๆ

เขาได้รับการจดจำจากผู้คนมากหน้าหลายตาหลากหลายอาชีพ พวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวีดคือประติมากรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ที่จริงแล้วข้อดีของการแกะสลักก็คือความเข้ากันได้ในสายงานต่างๆ แต่ผู้คนกลับไม่ค่อยรู้กัน

และชิ้นนี้ก็คือประติมากรรมระดับแมคนั่ม!

วีดและเฮอแมนทำงานร่วมมือกันบนเทวรูปเทพบาทัลลี และได้ให้กำเนิดประติมากรรมระดับแมคนั่มออกมา

ผลงานระดับแมคนั่มนั้นช่วยเพิ่มแรงสนับสนุนให้กับเขาจากแต่ละลัทธิ แถมยังช่วยมอบพรให้กับเหล่าทหารเพื่อออกไปต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ภายในอาณาเขต

เหล่าผู้เล่นและชาวเมืองต่างร่วมแรงร่วมใจทำงานในอุทยานแห่งทวยเทพ ผลงานชิ้นแรกของวีดหลังจากที่เขาได้ก่อตั้งราชอาณาจักรอาเพนได้ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่

อึก ปวดหลังชะมัด

ร่างกายส่วนล่างของผมก็ชาไปหมดเหมือนกัน

ผมยกหัวไม่ขึ้นแล้วครับ!

ขณะเดียวกันวีดก็กำลังแกะสลักเทวรูปชิ้นสุดท้ายของเขา เส้นทางที่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของเหล่าผู้เล่นที่ล้มลง พวกเขาต้องแบกทั้งหิน แบกดิน เปิดทางน้ำและปูทางเดิน แถมยังปลูกต้นไม้ตามทางไปยังอุทยานอีกด้วย

ในการทำงานโครงการก่อสร้างโยธาขนาดใหญ่แบบนี้มันต้องใช้แรงงานแบบไม่จบไม่สิ้น ใครก็ตามที่เข้าร่วมการก่อสร้างครั้งนี้ต่างก็รู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังมีปัญหาทางหัวใจร้ายแรงแน่ๆ

ภาระงานที่หนักอึ้ง บ่อยครั้งที่เหล่าผู้เล่นล้มลงกลางคันระหว่างการทำงาน ทว่าพวกเขาไม่อาจพลาดโอกาสที่จะได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างครั้งนี้ นี่คือความรู้สึกที่อยู่ลึกภายในใจที่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่จริงๆสำหรับพวกเขา

อั่ค.ก้อนสุดท้ายแล้ว

ไกลชะมัดเลย

ฉันทำงานนี้จนตายมาตั้งสามครั้งแล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้ไปสู้กับพวกมอนสเตอร์เลยด้วยซ้ำ.

ผู้คนมากมายหลั่งไหลพากันมาเยือนแดนเหนือและเมืองโมราต้าก็คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนคนที่ออกไปล่าก็กะเวลาไว้ว่าวันไหนคือวันที่การก่อสร้างนี้จะเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่พวกผู้เล่นคนอื่นๆก็ไปเดินเล่นแถวร้านค้าและร้านอาหารบ้าง

ที่นี่จะต้องกลายเป็นสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนทวีปเมื่อมันสร้างเสร็จแล้ว

แทบไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย มันเยอะมาก

คงไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่แล้วละ ที่มีแม้กระทั่งสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่

จริงแท้ที่สุด ทีนี้แหละเราคงได้พรจากเหล่าเทพง่ายขึ้น

ประติมากรรมอันแสนวิเศษทั้ง 32 ชิ้นได้ถูกสร้างขึ้นบนอุทยานแห่งทวยเทพแห่งนี้ด้วยหยาดเหงื่อและเลือดของเหล่าคนงานก่อสร้างที่มาเข้าร่วมการทำงานในครั้งนี้

วิหารหินอ่อนเองก็ให้บรรยากาศอันหรูหรา แถมยังมีจัตุรัสกับสระน้ำในอุทยานนั้นอีก

เมืองโมราต้าเต็มไปด้วยมวลดอกไม้สวยงามมากมาย วีดหว่านเมล็ดพืชและเมล็ดดอกไม้ป่าที่เขาเก็บมาจากพรีน่าลงบนผืนดิน เหล่าคนสวนเองก็เพาะปลูกต้นไม้และดอกไม้เอาไว้มากมายภายในเมืองโมราต้า ขณะที่ทั่วทุกที่มีแต่ชาวสวนอยู่เกลื่อนเต็มไปหมดตลอด 24 ชั่วโมง พืชพันธุ์เองก็เติบโตขึ้น อุทยานแห่งทวยเทพก็เหมือนดั่งพื้นที่ออกล่าสำหรับเหล่าชาวสวนให้ออกมาท้าทายความสามารถของพวกเขา!

ส่วนอีกฟากของเมืองก็มีพื้นที่จัดแสดงมากมาย มันคงจะยากซักหน่อยที่จะเข้ามาขัดจังหวะการแสดงที่เกี่ยวกับประติมากรรมเทพเจ้า ณ ตอนนี้ มีการแสดงมากมายบอกเล่าถึงเรื่องราวและตำนานที่เกี่ยวข้องกับเหล่าทวยเทพ บทเพลงสรรเสริญแด่องค์เทพดังระงมทั่วทั้งตัวเมือง อุทยานแห่งทวยเทพได้โด่งดังขึ้นมาแล้ว

ความเร็วที่ใช้ในขั้นตอนการสร้างช่างเหนือจินตนาการจริงๆ และบัดนี้อุทยานแห่งทวยเทพก็เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว

วีดเลื่อนการสร้างประติมากรรมชิ้นสุดท้ายของเขาออกไปจนกว่าจะถึงยามรุ่งเช้า

ทำให้ช้าลงซักวัน น่าจะดี ผู้คนจะได้พากันเข้าเมืองเยอะขึ้นอีก!

เงินทุนของราชอาณาจักรอาเพนกำลังร่อยหรออย่างมากตั้งแต่ที่ถูกใช้ไปกับโปรเจคในครั้งนี้ ถ้าหากว่าอุทยานแห่งทวยเทพล้มเหลวล่ะก็ ราชอาณาจักรแห่งนี้ต้องล่มสลายเหมือนดั่งน้ำหมึกที่แทบจะแห้งเหือดในสมุดบันทึกประวัติศาสตร์

ณ ตอนนี้ความเหนื่อยล้าของวีดเริ่มสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆ

พรุ่งนี้เช้าฉันค่อยมาทำส่วนที่เหลือ ทุกคนคงเหนื่อยมากแล้ว งั้นวันนี้พักกันให้เต็มที่เลยนะ!

ผู้คนบริเวณรอบๆอุทยานแห่งทวยเทพส่งเสียงโห่ร้องดังสนั่นด้วยความดีใจและแยกย้ายเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันอันแสนสุขครั้งยิ่งใหญ่ในวันพรุ่งนี้
วีดและพวกพ้องของเขาเองก็ตัดสินใจไปที่ร้านเหล้า

มีผู้คนมากมายไหล่บ่ามาสู่เมืองโมราต้า เพราะงั้นเมแพนถึงได้ตั้งร้านและกอบโกยกำไรเข้ากระเป๋าได้มากมายมหาศาล เขาจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงเครื่องดื่มพวกเขา แม้แต่เหล่านักดาบและเฮอแมนเองก็มาเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกันกับพวกเขา

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 หึๆ พรุ่งนี้ฉันจะนั่งนับเงินทั้งวันเลย

เมแพนกอบโกยเงินได้มหาศาลจากธุรกิจการค้าของเขา เขาคือพ่อค้าที่เชี่ยวชาญการค้าขายแจ๊ปเทม และเครือข่ายของเขาก็ครอบคลุมไปทั่วทั้งแดนเหนือ เขาเป็นประธานสมาคมพ่อค้าแห่งแดนเหนือ เพราะงั้นเขาถึงได้มีอำนาจอิทธิพลมากมาย แถมเขายังเป็นเจ้าของที่ดินทำเลทองในโมราต้า ทั้งยังเปิดร้านขายอาวุธ ชุดเกราะ และชุดหนังในป้อมปราการเวอร์โก้อีกด้วย
พ่อค้าคนอื่นๆต่างมองดูเมแพนด้วยสายตาอิจฉาริษยาและต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะการค้าขายจากเขา

 คุณเมแพนครับ คุณมีเคล็ดลับยังไงหรือ?”

ก็คอยสร้างความเชื่อใจให้กลุ่มลูกค้าอยู่เสมอครับ

เมแพนคอยตามวีดมาตั้งแต่วันแรกเริ่มของพวกเขา แถมพวกเขายังช่วยกันลงทุนลงแรงไปกับเมืองโมราต้าอีกด้วย พวกเขาทำธุรกิจร่วมกับพวกผู้เล่นที่อาศัยอยู่ทางตอนกลางที่พากันอพยพมาอยู่ทางตอนเหนือตั้งแต่ที่พวกผู้เล่นมือใหม่สามารถเริ่มเล่นที่นี่ได้ และพวกเขาก็คอยพยุงค้ำจุนเมืองตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
ข่าวลือแพร่กระจายจนถึงหูผู้คนและทุกคนต่างก็ให้คะแนนกับร้านของเมแพนว่าเป็นร้านค้าที่ดีที่สุด ส่วนเมแพนเองก็ใช้เครือข่ายของเขาติดต่อซื้อขายกับอาณาจักรอื่นๆเพื่อให้การค้าขายของเขาประสบผลสำเร็จและได้กำไรอยู่เสมอ เขาจะซื้อสินค้าประจำถิ่นของเมืองโมราต้าเพื่อกักตุนเอาไว้ด้วยราคาซื้อขายที่ต่ำ แล้วจากนั้นก็เอาไปขายให้กับเป้าหมายของเขาแล้วก็กอบโกยเงินและชื่อเสียงมาได้อย่างล้นหลาม

ความเจริญและการพัฒนาของดินแดนเหนือนั้นสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับเมแพนได้อย่างมหาศาลจริงๆ แน่นอนว่านี่ไม่ใช้เคล็ดลับทั้งหมดของเขา การติดสินบนและอำนาจเองก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เมแพนคืออีกคนหนึ่งหละที่รู้สึกดีใจมากที่สุดที่วีดได้กลายเป็นกษัตริย์ของราชอาณาจักรอาเพน
ถ้าหากว่าความฝันของวีดสำเร็จได้กลายเป็นจอมเผด็จการแล้ว กำไรของเขาก็คงจะเพิ่มขึ้นไปด้วยอย่างแน่นอน!

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 หืมมมมม เจ้านี่อร่อยชะมัด

ปีกไก่นี้เหมือนกำลังกระจายตัวออกแล้วก็ละลายอยู่ในปากฉันเลย

เนื้อไร้กระดูกแถมยังความกรุบกรอบนี้อีก...เนื้อชั้นดีพวกนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

เหล่าลูกศิษย์จากสำนักดาบใช้เวลานานในการออกล่า เพราะงั้นพวกเขาจึงปลื้มปริ่มเมื่อได้สัมผัสกับรสชาติของอาหารชั้นเยี่ยม เจ้าภาพในงานนี้คือ เมแพนที่ได้เช่าร้านเหล้านี้ไว้ทั้งร้าน ความตะกละตะกลามของพวกเขาเกินกว่าพวกนักมวยปล้ำด้วยซ้ำ เพราะงั้นหินไฟจึงจำเป็นที่จะต้องเอามาใช้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ

พวกเขาใช้หินไฟทำอาหารไปเรื่อยๆขณะที่กำลังนั่งดื่มกัน ถ้าหากว่าวีดเป็นคนทำ รสชาติก็จะดีขึ้นไปอีก ทว่างานนี้ เขาไม่ได้มาทำอาหารแต่เขามาเพื่อกินต่างหาก

ช่วงนี้คุณคงลำบากมาก กินให้อร่อยเถอะนะคะวันนี้

ไอรีนเองก็หยิบเนื้อขึ้นมาและส่งให้เซอร์กะ ไอรีนคือนักบวช เพราะงั้นเธอถึงได้รับผลประโยชน์อย่างมากจากอุทยานแห่งทวยเทพ

อาหารฟรีนี่มันอร่อยจริงจริ๊ง

วีดอารมณ์ดีอย่างมากขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับมื้อเย็น เครื่องเคียงและเนื้อย่างนั้นถูกฟาดเรียบจนหมด ส่วนเมแพนที่กำลังนั่งอยู่ตรงมุมโต๊ะ ก็หน้าซีดทุกครั้งที่เขามองเห็นจานว่างเปล่า

ร้านอาหารและร้านเหล้าของเมืองโมราต้าต่างคับคั่งไปด้วยผู้คนที่เป็นอาคันตุกะที่มาเยี่ยมเยือนเมืองแห่งนี้ ส่วนพวกพ่อค้าก็ยุ่งอยู่กับธุรกิจค้าขายตรงบริเวณจัตุรัส กอบโกยกำไรงามๆจากผู้คนที่มารอวันพรุ่งนี้

 ทีนี้ฉันรู้แล้วหล่ะว่าจะใช้หมัดของฉันให้เก่งได้ยังไง

เซอร์กะเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ

เธอค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวในตอนที่ออกล่ากับวีด สไตล์การต่อสู้ของเธอเป็นการต่อสู้แบบพุ่งชนเข้าไปโต้งๆจนทำให้ค่าพลังชีวิตของเธอลดลงง่ายเกินไป ทว่าการลดลงของพลังชีวิตนั้นก็ได้สร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้มากเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าเธอจะสามารถใช้ทักษะของเธอได้เป็นอย่างดีแต่ความสามารถในการต่อสู้ของเธอก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมหรือโดดเด่นอะไรมากนัก
แม้ว่าคนเราจะมีรูปร่างที่เหมือนกันเป๊ะๆ ความแตกต่างที่ส่งผลออกมานั้นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาใช้ร่างกายแบบไหน ทว่าช่วงหลังมานี้เธอได้ออกล่ากับพวกลูกศิษย์นักดาบและก็สามารถใช้การต่อสู้ของพวกเขาเป็นแนวทางได้

 ฉันต้องฝึกชกแล้วก็ชกจนกว่าจะเจ็บมือไปเลย

เซอร์กะยังดูเด็กมากเมื่อเทียบคนอื่นๆ แถมลักยิ้มของเธอก็ยิ่งทำให้เธอน่ารักมากขึ้นตอนที่เธอยิ้ม

มีกฎหลักๆเพียงสามข้อในการต่อสู้ที่ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้ว กระบวนท่าเป็นเรื่องยากที่จะเชี่ยวชาญมันได้ หากปราศจากประสบการณ์โดยตรงในการออกล่า ถึงแม้ว่าจะมีวิดีโอฉายให้เห็นอยู่มากมาย แต่นั่นก็คงไม่ได้สร้างความสนใจให้ใครซักเท่าไรจนกว่าจะมีการต่อสู้เริ่มขึ้นมา

เมล่อนเองก็กำลังนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้ๆนั้น

 ช่วงนี้ยัยเซอร์กะน่ากลัวชะมัด ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอออกไปล่าบ่อยซักแค่ไหน

 พี่เองยิงธนูเก่งขึ้นเหมือนกันหนิค่ะ ทักษะศรไล่ล่านั่นไง ทักษะนั่นเกือบจะถึงระดับปรมาจารย์แล้วไม่ใช่หรอค่ะ

ทันใดนั้นวีดก็เริ่มรู้สึกสงสัยในระดับเลเวลของพวกเขา เซอร์กะ เมล่อนและคนอื่นๆพากันออกไปผจญภัยได้พักหนึ่งแล้ว เขาจำได้ว่าตอนที่ไปออกล่ากับพวกเขาอยู่พักนึงหลังจากที่ไปเจอกันที่เมืองรัทเซเบิร์ก และรู้สึกทึ่งกับทักษะของพวกเขาแต่ละคนมาก

แล้ววีดก็ถามเซอร์กะว่า

เธอเลเวลเท่าไรแล้วหรอตอนนี้

เขาไม่รู้สึกอึดอัดที่ต้องบอกเลเวลของเขาออกไป ทว่าทางพวกเขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน

ของหนูแค่เลเวล 403 เองคะพี่

“403 หรอ?”

เลเวลของหนูคงต่ำไปนิดสินะคะ หนูว่าเลเวลของพี่คงจะสูงกว่าของหนูมากแน่

วีดรู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ เลเวลตอนนี้ของเขาอยู่ที่  409 มันสูงกว่าทว่าก็ไม่ได้สูงกว่าของเซอร์กะมากนัก

เอ่ออ สูงกว่านิดหน่อยนะ

พี่เพลเขาเลเวล 411 แล้วนะคะ ของพี่สูงกว่าพี่เพลเค้าหรือเปล่าคะ?”

ก็นะ มันก็ไม่ได้สูงขนาดนั้นหรอกครับ คุณวีด

วีดรู้สึกสุดแสนทรมานจากกำแพงของช่วงเลเวล 400มาก ขณะที่เขากำลังนั่งสร้างประติมากรรม เพื่อนฝูงของเขาได้ออกไปผจญภัยแล้วไล่ตามเลเวลของเขาจนทัน ถ้าหากว่าบาร์ดเรย์รู้เข้าละก็คงได้กลายเป็นหายนะของเขาแน่ๆ

 นายข้ามจนมาถึงเลเวล 400 แล้ว…….เอ่อ ยินดีด้วย

ขอบคุณครับ

ริมฝีปากของวีดสั่นระริกขณะที่เขาเอ่ยคำยินดีนั้นออกไป เขากำลังกินดื่มสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูงขณะนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
เด็กคนนั้นมีเส้นผมสีดำคลับบวกกับสายตาเย็นยะเยือก ไม่มีตัวละครNPCคนไหนที่เป็นอย่างนั้น เด็กคนนั้นไม่มีแม้แต่การเปลี่ยนแปลงสีหน้าซักนิดเลยที่จะสะท้อนออกมาบนใบหน้านั้น

วีดรู้สึกไม่สบายใจทันทีที่เขาเห็นเด็กคนนั้น มันเหมือนกับคืนวันที่แสนยากลำบากอากาศร้อนอบอ้าวที่เขาต้องเย็บลูกตาของตุ๊กตา 400,000 ตัวหรือไม่ก็ตอนที่รู้สึกกลัวเมื่ออยู่ต่อหน้ารองประธานาธิบดีก็ว่าได้ ปากของเขาแห้งผากแถมยังรู้สึกขนลุกอีกด้วย

วีดเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบาๆกับเด็กคนนั้น

หวัดดี เจ้าหนู ฉันกำลังกินเลี้ยงอยู่นะ ค่อยมาใหม่ทีหลังเถอะนะ

ค่าชื่อเสียงของวีดนั้นสูงมากจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะได้รับภารกิจอย่างง่ายดาย ยิ่งหลังจากที่เขากลายเป็นกษัตริย์ ชาวเมืองโมราต้ามากมายก็คอยมอบภารกิจอยู่บ่อยๆ เพราะงั้นเขาถึงสามารถเลือกภารกิจไหนก็ได้ที่เขาอยากทำ เขาเลยพูดดักทางเด็กคนนั้นไว้ก่อนที่เขาจะขอมา

แล้วช่วงนี้ฉันก็ยุ่งๆกับการรักษาสันติสุขของทวีปเวอร์เซลอยู่ด้วย ฉันว่าฉันคงรับภารกิจของเธอไม่ได้หรอกนะ ลองไปหาคนอื่นดูเถอะ เธอคงหาคนเก่งๆได้อยู่หรอก

เขาเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นเพื่อแสดงการปฏิเสธ ทว่าเจ้าหนูคนนั้นก็หัวเราะออกมา

 มนุษย์อย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์มาปฏิเสธคำสั่งของข้า

มันช่างเป็นการแสดงความคิดเห็นที่น่าตกใจมากที่ถูกเอ่ยออกมาต่อหน้าสถานะกษัตริย์ของวีด เขาไม่มีทางมีชีวิตรอดแน่หากใช้ชีวิตด้วยคำพูดที่แสดงเจตนารุนแรงเช่นนี้ ตั้งแต่ที่วีดเป็นเด็กเขาต้องพยายามตรากตรำดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดเรื่อยมา เขารู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาแน่ๆ

แกเป็นใครกันแน่วะ ผู้สืบทอดตัวจริงของราชอาณาจักรนิฟล์เฮมหรอ? นี่เขาปรากฏตัวออกมาเพราะว่าฉันทำเงื่อนไขภารกิจบางอย่างสำเร็จงั้นหรอ?’

ถ้าหากว่ามีภารกิจสำคัญๆเกี่ยวโยงกับสายอาชีพของเขา ก็มักจะมีคนใหญ่คนโตมาพบเขาบ้างบางครั้ง

 ฉันเคยได้ยินมาว่าพวกเขาตายไปหมดแล้วนี่ แต่ถ้าจู่ๆก็โผล่ออกมาละก็…….บางทีคงมีบางคนช่วยคนในราชวงศ์เอาไว้ก็เป็นได้นิ แล้วจากนั้นก็จะให้พวกเขามาแอบฉกบัล…….’

สมองของวีดทำงานอย่างดุเดือดเพื่อที่จะระบุตัวตนของเด็กคนนี้ให้ได้ เด็กคนนี้มีความเย่อหยิ่งมากแต่เขาก็ไม่มีราชองครักษ์ซักนายติดตามมา

จากความสามารถในการต่อสู้ของวีด เขาก็คงยินดีต้อนรับเป็นอย่างดีถ้าหากว่าจะมีมอนสเตอร์ตัวไหนมาโจมตีเขา เขาคงคิดที่จะใช้กำปั้นของเขาแทนที่จะใช้คำพูดแบบนี้ ทว่าทันใดนั้นเองวีดก็สังเกตเห็นอุปกรณ์ที่เด็กคนนั้นสวมอยู่

โห หรูจังแหะ เครื่องแต่งกายแต่ละชิ้นของเขาทำโดยช่างฝีมือคนแคระที่เก่งที่สุดทั้งนั้นเลย

ดาบของเขามีเพชรนิลขนาดพอๆกับไข่เป็ดฝังอยู่ นอกจากนั้นฝักดาบก็สลักด้วยลวดลายที่ซับซ้อน แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่านั่นคือดาบเวทย์มนต์แน่ๆร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆเขาไม่เคยเห็นใครที่มีดาบแบบนี้มาก่อน
ส่วนเสื้อผ้าของเขาก็ทักทอด้วยใยไหมพิเศษหนาถึงสามชั้น ขนาดช่างฝีมือที่เก่งที่สุดยังต้องใช้เวลาอย่างต่ำหนึ่งเดือนเพื่อทุ่มเททำมันออกมา แน่นอนละว่าไม่มีผู้เล่นคนไหนที่มีเสื้อผ้าแบบนี้แน่ๆ

แถมเขายังสวมรองเท้าติดปีกจากเทือกเขาสเตลส์อีกด้วย

มีเพียงนักรบคนเถื่อนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่สามารถปีนขึ้นไปบนเทือกเขาสเตลส์ เด็กคนนี้กำลังใส่รองเท้าที่พวกคนเถื่อนต่างหวงแหน เลเวลของรองเท้านี้คงราวๆ 590 จากการประมาณ

วีดปรับท่าทีสงบเสงี่ยมเชิงถ่อมตัวในทันที!


แน่นอนครับ ถ้างั้นท่านอยากให้ข้าทำอะไรหรือครับ

ขณะนี้อายุของศัตรูนั้นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว! ตอนนี้คนมากมายต่างก็รู้จักหน้าตาของเขา ทว่าวีดไม่มีทางลืมวันวานที่เขาเคยอ่อนแอครั้นในอดีตที่ผ่านมา เขาต้องรู้จักประจบสอพลอในตอนที่ตัวเองเป็นผู้อ่อนด้อยกว่า

 ทักษะแกะสลักของเจ้าดูไม่เลวนิ

แต่ก็ยังมีคนอื่นเก่งกว่าข้านะครับ

วีดรู้สึกกังวลว่าภารกิจแบบไหนกันถึงจำเป็นต้องใช้ทักษะแกะสลักของเขา

ข้าอยากได้สมบัติที่พวกมนุษย์ไม่สมควรได้รับมัน จะต้องเป็นประติมากรรมที่
มีแค่ข้าคนเดียวที่สมควรมีไว้ครอบครอง ข้าอยากให้เจ้าแกะมันออกมาจากผลึกโมราที่เป็นของเจ้ามนุษย์ที่ชื่อ เบลซ์ออซ ข้าจำได้ว่าพวกมนุษย์นี่มันอ่อนแอ ถ้างั้นข้าจะให้สมุนของข้าตามไปปกป้องเจ้าก็แล้วกัน

ตริ้ง

สมบัติที่มังกรปรารถนา
ความอยุติธรรมขององค์กษัตริย์เบลซ์ออซ
จงตามหามรดกของพระองค์และสร้างประติมากรรมที่มังกรผู้ชั่วร้ายอาครีย์ ออง ไคเบิร์น ปรารถนา อาครีย์ออง ไคเบิร์นได้ประเมินแล้วว่าท่านมีศักยภาพเพียงพอเพื่อที่จะสร้างเครื่องบรรณาการมอบให้แก่เขา
ไคเบิร์นจอมหยิ่งยโสได้มอบคำบัญชาให้กับท่านว่า
ประติมากรเอ๋ย เจ้าจะต้องนำเพื่อนพ้องของเจ้าไปด้วย ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตรอด ถ้าเจ้าชักช้าละก็ข้าไม่ชอบแน่ๆ
ผลึกโมรานั้นเปราะบางมากเพราะงั้นการแกะสลักงานจากมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่
มีความลึกลับมากมายพอๆกับจำนวนของดวงดาวบนท้องนภา
ไคเบิร์นสัญญาว่าจะให้สปาร์ทอยติดตามท่านไป 11 `ตนเพื่อออกตามหาผลึกโมรา
(จากตำนานแคดมัสแห่งเธเบียส สปาร์ทอยคือนักรบที่เกิดจากชิ้นส่วนร่างกายของมังกรที่ถูกปลูกและโตขึ้นมาจากผืนดิน)
ระดับความยาก: ภารกิจเฉพาะของประติมากร
ข้อจำกัดของภารกิจ: ต้องเป็นประติมากรที่มีค่าชื่อเสียงที่ดีที่สุด
มีปฏิสัมพันธ์กับมังกรไคเบิร์น
ต้องทำภารกิจให้สำเร็จภายใน 30 วัน
ไม่มีค่าตอบแทนใดๆมอบให้ในภารกิจนี้
ถ้าหากท่านล้มเหลวมังกรไคเบิร์นจะฆ่าท่าน
จะต้องใช้ผู้เดินทางจำนวน 8 คนเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
ท่านสามารถเชิญคนเพิ่มอีก 7 คนเพื่อทำภารกิจนี้ คนไหนที่ท่านเชิญชวนแล้วปฏิเสธจะต้องถูกฆ่าด้วยน้ำมือของมังกรไคเบิร์น

 เฮือกก!”

ตัวตนที่แท้จริงของเด็กที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้คืออาครีย์ออง ไคเบิร์น นี่คือครั้งแรกของทวีปเวอร์เซล ทว่าก็ไม่สำคัญอีกแล้วเพราะมันไม่ใช่ภารกิจมังกรที่น่าชื่นใจนัก!

ไม่มีค่าตอบแทนให้แถมยังล้มเหลวไม่ได้อีก แม้ว่าเขาจะรวบรวมทหารทั่วทั้งอาณาจักกรอาเพนมาก็ตาม พวกเขาคงได้กลายเป็นของว่างในท้องของเจ้ามังกรผู้ชั่วร้ายเหมือนอย่างพวกคนแคระแน่ๆ


นี่ฉันยังโชคร้ายไม่พออีกหรอวะ ตอนนี้ยังต้องมาทำภารกิจมังกรให้สำเร็จอีก ถ้าหากไม่อยากโดนกิน

มีเพียงแค่สองเหตุผลที่ทำไมวีดถึงจบลงด้วยการมาเกี่ยวข้องกับเจ้ามังกรไคเบิร์น เหตุผลแรกคือตอนที่เขาไปแกะสลักงี่เง่าโดยใช้เจ้าไคเบิร์นเป็นต้นแบบ แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าไร และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ไปแกะสลักเครื่องบรรณาการของพวกคนแคระ

ผลตอบแทนสำหรับพวกคนแคระก็คือได้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วคงมาจบลงด้วยภารกิจนี้ของเขา

นี่ฉันต้องเดินตามรอยพวกคนแคระที่ต้องทำงานงกๆไปเรื่อยๆแบบนี้หรอเนี่ย

และนี่คือภารกิจประติมากรที่เกี่ยวโยงกับมังกรจอมวายร้าย อาครีย์ออง ไคเบิร์น

มันอาจจะแย่กว่าเดิมก็เป็นได้ เพราะกษัตริย์เบลซ์ออซคือต้นเหตุที่ทำให้อุณหภูมิของทวีปเวอร์เซลเพิ่มขึ้น จนนำมาสู่การล่มสลายของกิลด์คริมสัน วิงค์  
มันไม่ต่างอะไรกับกุ้งฝอยตัวน้อยๆว่ายไปอยู่ใจกลางการต่อสู้ของพวกปลาวาฬ ไม่ว่าเดินจะไปทางไหน ทุกย่างก้าวของเขาพร้อมดึงเขาสู่เหวลึก

 นี่มันภารกิจมังกรเลยนะ เพราะงั้นระดับความยากคงจะสูงกว่าภารกิจทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย โชคดีหน่อยที่มันเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับการแกะสลัก…..ถ้าเขาให้เอาผลึกโมรามาทำเป็นประติมากรรมงั้นคงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากๆต่อมังกรแน่

วีดพยักหน้าตอบรับ


ข้าจะไปตามหาของที่ท่านต้องการครับ

ท่านยอมรับภารกิจแล้ว
ภายใต้การติดตามของเหล่าสปาร์ทอยทั้ง 11 ตน ท่านมีเวลาหนึ่งเดือนเพื่อที่จะทำตามคำสั่งของมังกรไคเบิร์นให้สำเร็จ
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถปฏิเสธภารกิจได้ ประเด็นมันเหลือเพียงแค่ว่าท่านจะได้ตายช้าหรือตายเร็วเท่านั้น

 เจ้าตัดสินใจถูกต้องแล้วหล่ะ ความโกรธของข้าจะทวีคูณขึ้นแน่ถ้าเจ้ามัวแต่ถ่วงเวลา

เด็กคนนั้นหายตัวไปในทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา วีดพูออะไรไม่ออกก่อนที่จะมองดูรอบๆร้านเหล้าที่เงียบสงัด

ฟิ้ววววว!”

หายใจได้ซะที

นั่นมันอะไรกันหน่ะ

พวกเขาไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาขณะที่มังกรอาครีย์ อองอยู่ที่นี่

คุณพึ่งได้คุยกับเจ้าปีศาจนั่น

วีดค่อยๆสรุปสิ่งที่มังกรไคเบิร์นพูดกับเขา

มังกรไคเบิร์นที่ปกครองอาณาจักรธอร์มาที่นี่งั้นหรอ แถมยังให้ภารกิจชั้นสูงเพื่อออกไปตามหามรดกของราชาเบลซ์ออซแล้วก็สร้างประติมากรรมจากมัน เจ้าไคเบิร์นนั่นกำลังออกตามหาไอเท็มล้ำค่าจริงๆสินะ ถึงแม้ว่ามันจะยากแค่ไหนฉันก็ยังไม่กล้าที่จะปฏิเสธภารกิจที่ฉันจะได้รับเกียรติยศจากการเดินบนเส้นทางการแกะสลักอยู่ดี

บทสรุปจากการตีความทั้งหมดที่เขาได้ประสบพบเจอ สิ่งที่เขากำลังจะเล่าให้คนอื่นฟังก็คือ……..

-         เจ้ามังกรผู้ชั่วร้าย อาครีย์ ออง ไคเบิร์น ได้ละทิ้งอาณาจักรธอร์มาแล้ว และกำลังเพ่งเล็งมาที่เมืองโมราต้า

มันพึ่งขอให้วีดซึ่งเป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิงเพื่อให้ออกไปตามหามรดกของราชาเบลซ์ออซ

มันบอกว่านี่คือเรื่องดีสำหรับเขานะ ทว่าเขากลับบังคับให้วีดยอมรับภารกิจมังกรหรือว่าจะยอมตาย นี่สินะคือส่วนที่เลวร้ายที่สุดของการเป็นประติมากร

โอ้โห เขาพึ่งได้รับภารกิจมังกรในตำนานตัวจริงเลยละ

อย่างที่คิด วีดนี่แตกต่างจากคนอื่นจริงๆ

ใช่แล้ว นี่แหละคือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของพวกเรา

เหล่าลูกศิษย์นักดาบรู้สึกอิจฉาเขา เพราะนี่คือการได้ทำภารกิจที่ได้มาจากมังกรที่ทรงพลังมากที่สุดของทวีป! สายตาของเหล่าศิษย์รุ่นน้องเต็มไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านเพราะพวกเขาเข้าใจในสถานการณ์

เขาคือคุณวีดนะ

เขาคงไม่ทำให้เราผิดหวังหรอกใช่ไหม?”

ฉันเชื่อว่าไม่มีคนอื่นคนใดทำได้นอกจากคุณวีดหรอกค่ะ

ดูท่าว่าคงเป็นการผจญภัยที่ยอดเยี่ยมมากแน่ ฉันจะคอยเชียร์คุณนะคะ

พวกพ้องของเขาต่างให้กำลังใจและมอบความกล้าหาญให้กับเขาเป็นอย่างดี ทว่าวีดก็ส่ายหัวของเขา

ผมต้องไปที่สุสานของราชาแมงป่องเพื่อที่จะตามหาสมบัติที่เหลืออยู่ของราชาเบลซ์ออซ
เมล่อนพยักหน้าตอบรับว่าเธอเข้าใจ

อ๋อ อย่างนั้นหรอคะ

เธอจดจำการผจญภัยของกิลด์คริมสัน วิงค์ได้เป็นอย่างดี

ท่าทางจะอันตรายจริงๆนะคะเนี่ย มีคนมากมายตายระหว่างการสำรวจที่นั่น แล้วจำเป็นต้องใช้กุญแจเพื่อเข้าไปในสุสานร้างนั่นไหมคะ?”

ผมจำได้ว่าเคยสร้างประติมากรรมให้กับพวกเขาครับ เพราะงั้นคงไม่ยากมากนักที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนนั้นได้ สุสานของราชาแมงป่องนั้นได้ถูกปิดผนึกไปแล้วตอนนี้ ถ้าไม่มีกิลด์คริมสัน วิงค์ผมก็คงไม่รู้วิธีว่าจะเข้าไปได้ยังไง เพื่อที่จะเปิดประตูที่ถูกผนึกนั้น ผมจะต้องวางแมงป่อง 7 ตัวลงไป เพราะงั้นผมถึงจำเป็นต้องใช้คนอย่างต่ำ 7 คน

 เอ่ออ ……งั้นหรออคะ?”

ใช่แล้วครับ แล้วมันยังบอกให้ผมหาเพื่อนมาทำภารกิจนี้ด้วยกัน

วีดมองดูเพื่อนๆของเขาที่อยู่รอบๆ

มะ มังกร….”

เพลนั่งตัวแข็งทื่อ

ออกตามหาสมบัติที่เหลืออยู่ของราชาเบลซ์ออซคงอันตรายมากสินะคะ ใช่ไหมคะ? เอ่อ …..ฉันต้องกลับไปทำงานที่สถานีหลายวันซะด้วยสิ…..”

แม้เธอจะมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับภารกิจอยู่บ้าง ทว่าเธอก็จำต้องยอมแพ้ไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเมล่อนเป็นสาวออฟฟิสที่ต้องไปทำงาน

แล้วเราเก็บเอาสมบัติตอนที่ฉายออกอากาศได้ด้วยหรือเปล่าคะ?”

เซอร์กะชอบการออกผจญภัยที่ยิ่งใหญ่

เราอาจจะเจอกับปัญหานะถ้าไปแตะต้องของที่ไม่ควรแตะ

ไอรีนรู้สึกเป็นกังวลขณะที่โรมูเนะดูเหมือนกำลังหาข้ออ้างที่จะปฏิเสธเขาออกไป

ยูริน…..อะฮึ่ม

เซเฟอร์ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปฏิเสธได้ สายตาของพวกเขาต่างก็บ่งบอกว่าพวกเราจะตายด้วยกัน ฮวารยองและเบลล็อตเองก็อยากจะตามไปด้วย นั่นก็เพราะว่าการผจญภัยของวีดไม่เคยน่าเบื่อเลย

มันอันตรายจริงๆหรอคะ?”

พี่คะ มันค่อนข้างจะเสี่ยงมากเลยนะคะ ฉันจะแต่งเพลงดีๆได้ไหมคะเนี่ย?”

สุสานของราชาแมงป่องนั้นเป็นดั่งสรวงสวรรค์สำหรับเหล่าจินตกวี

ถ้าหากเมล่อนไม่ได้ไปออกอากาศละก็……’

ถ้าหากว่านับเธอเข้ามาด้วยแล้ว เขาก็จะได้ครบเจ็ดคนพอดี

ซอยูนนั้นแข็งแกร่งมากทว่าจิตใต้สำนึกของเขาก็ยับยั้งเอาไว้ไม่ให้ขอความช่วยเหลือจากเธอบ่อยๆ แถมอันที่จริงแล้วเขายังได้ยินข้อมูลพิเศษๆเกี่ยวกับตัวเธอมา

ขณะที่วีดกำลังสร้างประติมากรรมอยู่ ก็มีจินตกวีเร่ร่อนคนหนึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนักรบผู้บ้าคลั่งให้เขาฟัง

บรรดานักร้องหรือจินตกวีนั้นมักจะได้ไปเข้าเฝ้าพระราชาหรือว่าชนชั้นสูงเพื่อแสดงหรือว่าเล่าเรื่องราวต่างๆมากมาย

ฝ่าบาท พระองค์ปรารถนาที่จะรับฟังบทเพลงเกี่ยวกับตอนที่กระหม่อมไปยังหมู่บ้านทอฮ์รูหรือไม่พะยะค่ะ?”

กษัตริย์จะได้ฟังบทเพลงของเหล่าจินตกวีและมอบรางวัลให้กับพวกเขา แถมยังสามารถมอบภารกิจที่เกี่ยวโยงกับข้อมูลนั้นได้ หรือแม้แต่ให้ปริศนาที่ได้มาจากเหล่าจินตกวีเหล่านั้น มีจินตกวีและนักประพันธ์มากมายหลายร้อยที่มีพรสวรรค์มาพร้อมกับเรื่องราวมากมายของพวกเขา

วีดไม่ได้มีเจตนาที่จะก่อตั้งอะไรทำนองอย่างพวกราชสำนัก เพราะการเงินของราชอาณาจักรอาเพนนั้นค่อนข้างทุลักทุเลดิ่งลงก้นบ่อเต็มที ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถลงทุนเพื่อจ่ายไปกับอะไรแบบนั้นได้!

ฉันไม่ยอมจ่ายเงินไปหลายร้อยเหรียญทองเพื่อฟังแค่เพลงเดียวหรอกนะ

แน่นอนว่าเพลงที่มีชื่อเสียงนั้นมีค่ามาก ทว่ามันก็ค่อนข้างอันตรายมากต่อการอยู่รอดของราชอาณาจักร

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ชาวเมืองพวกนี้คงโดนสูบเลือดสูบเนื้อผ่านทางภาษีเอาไปลงทุนกับความหรูหราฟุ่มเฟือยของกษัตริย์แน่ๆ

ความคิดของวีดนั้นช่างดูสกปรกโสมมจริงๆเมื่อใดก็ตามที่เขามีความคิดแบบเดียวกับราชาพวกนั้น พวกเขาเกิดมาพร้อมกับช้อนเงินช้อนทองภายในปากแล้วก็ดูดมันจนเกลี้ยง

เมื่อมองแบบนั้น เขาก็รู้ว่าการลดค่าใช้จ่ายของเขาลงดูท่าจะดีกว่าในกรณีของเขา ค่าชื่อเสียงของเขาบนทวีปนี้สูงมากจนพวกจินตกวีมักจะออกตามหาตัวเขาภายในเมืองโมราต้า

จินตกวีเร่ร่อนจากแดนเหนือคนนั้นร้องเพลงเกี่ยวกับเบอร์เซิร์กเกอร์คนหนึ่งที่ทำให้หัวหน้าฝูงกอบลินล่าถอยกลับไป

ซอยูนคงไปที่นั่นเพื่อที่จะเรียนรู้ทักษะสายอาชีพของเธอ แน่นอนว่าข้อมูลนี้อาจจะไม่แน่ชัดมากนัก แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ชวนเธอมาและปล่อยให้เธอทำภารกิจไป

ถ้าเรื่องบัดซบนี่ถูกรายงานออกไป เธอคงออกมาตามหาฉันแน่

วีดเผยรอยยิ้มอ่อนๆหลังจากที่เขาเรียบเรียงความคิดของเขาจนเสร็จสิ้นแล้ว

เลเวลของเราทุกคนก็มากกว่า 400 แล้วนิถ้างั้นก็ไปกันเลยเถอะ

ฮะ ฮะ ฮะ เราควรทำอย่างนั้นจริงๆหรอครับ?”

ช่างเป็นเสียงหัวเราะที่แสนกระด้างและแหบแห้ง!

เพลผู้แสนดีและอ่อนโยนได้ติดเชื้อมาจากวีดแล้ว เขากำลังเผยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจและดูเสแสร้งสิ้นดี

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

หลายสถานีกำลังฉายซ้ำการต่อสู้และการผจญภัยของบาร์ดเรย์ทุกๆวัน

นักรบผู้แข็งแกร่งที่สุด บาร์ดเรย์!”

วันนี้เขาไปท้าทายมอนสเตอร์ที่ไม่เคยมีใครจัดการได้มาก่อน

ภารกิจปรมาจารย์อัศวินทมิฬนั่น แปบเดียวเขาก็ทำเสร็จแล้วหลังจากที่ได้ภารกิจมาได้ไม่นาน

เหล่าผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์บาร์ดเรย์ขณะที่ข่าวเรื่องภารกิจปรมาจารย์ของเขาออกอากาศในแต่ละวัน ตอนนี้บาร์ดเรย์ก้าวหน้าไปทำภารกิจที่ 15 ของเขาแล้ว

ภารกิจของอัศวินทมิฬนั้นมีรูปแบบเรื่องราวที่ค่อนข้างชัดเจน

อัศวินเช่นบาร์ดเรย์จะได้รับค่าเกียรติยศมาจากจากทรยศพระราชา เมื่อเขาทอดทิ้งราชอาณาจักรมาแล้วก็จะพยายามกอบโกยความสำเร็จ เงินตราเอาไว้มากๆและ ทำให้พวกเด็กกำพร้าและทาสกลายเป็นบริวารของเขา จากนั้นก็เอากองกำลังทหารรับจ้างมาแล้วยกให้พวกเขามาเป็นกองกำลังทหารของตัวเอง จากนั้นก็ยกทัพไปที่ราชอาณาจักรและจบลงด้วยการโจมตีในที่สุด
นี่เป็นภารกิจที่มีจำนวนทหารที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาด้วยคำพูดได้เลย
มีทั้งอัศวินแห่งเทลมีดัน ทั้งกองทัพทหารราบแห่งเทลมีดัน

เมื่อบาร์ดเรย์ได้อัศวินมา 30 นาย เขาก็จะให้พวกนั้นคุมทหารจำนวน 2,500 นายในสนามรบ กองกำลังทหารเหล่านี้จัดเตรียมมาเพื่อทำภารกิจอัศวินโดยเฉพาะ เพราะงั้นพวกเขาจึงได้กลายมาเป็นสมุนส่วนตัวของเขา เป้าหมายของเขาก็คือทำให้พวกทหารนั้นกลายเป็นกำลังรบฝีมือฉกาจ

เราจะไปยึดปราสาทกระจ้อยร่อยนั่นให้ได้

บาร์ดเรย์เองก็รับเด็กกำพร้ามาเป็นจำนวนมาก แล้วจำนวนทหารของเขาก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,000 นาย มีทหารตายไปบ้างภายในการต่อสู้ ดังนั้นบาร์ดเรย์จึงปล่อยให้พวกทหารที่ไร้ศักยภาพให้ไปทำภารกิจยากๆแล้วก็โดนฆ่าตายอย่างไร้ความปราณี

ให้พวกมันบุกเข้าไปหน้าทางเข้าเลย

แต่ว่าท่านอัศวิน พวกมันกำลังล้อมพวกเราอยู่นะครับ

สถานการณ์ที่พวกเขาเคยต้องรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเมืองจากการโจมตีของพวกมอนสเตอร์ กลับตาลปัตรกลายมาเป็นที่ๆพวกเขามายืนอยู่ด้านนอกแทน ซึ่งนั่นหมายถึงความตาย

พวกเขาต้องทำถึงขนาดนี้ถึงจะได้เป็นอัศวิน แล้วพวกเขาก็จะมีสิทธิ์เข้ามาอยู่ร่วมกับข้า

เข้าใจแล้วครับ

บรรดาเด็กกำพร้าที่กลายมาเป็นทหาร ได้ยืนประจำตำแหน่งด้านนอกประตูเมือง บาร์ดเรย์จัดกองกำลังในทุกๆช่องว่างด้วยเด็กๆที่ดูมีแววมีพรสวรรค์
ภารกิจของอัศวินทมิฬนั้นจำเป็นต้องใช้ทหารรับจ้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ แบบนั้นจึงจะช่วยได้มากกว่า

ในขณะเดียวกัน บาร์ดเรย์ก็ซ่อนเจตนาอันชั่วร้ายของเขาภายใต้ชื่อกิลด์เฮอร์มีส แต่ถึงอย่างไรฉากของเขาที่ทอดทิ้งลูกสมุนของเขาอย่างไรความลังเลก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเหล่าผู้ชม

 ไอ้ชาติชั่วเอ๊ย มันปล่อยให้ทหารของมันออกไปตายตั้งหลายครั้งหลายครา

มันใช้ทหารที่ภักดีไปเป็นหน่วยพลีชีพเพื่อให้ตัวเองชนะการต่อสู้ง่ายๆ ช่างโหดร้ายอะไรเช่นนี้

นั่นไม่ต่างอะไรกับพวกคนรวยที่ชอบเอาเงินฟาดหัวคนจนๆเลย ขนาดพวกอัศวินที่ต่อสู้เคียงเคียงไหล่กับบาร์ดเรย์มาโดยตลอด ล่าสุดมันยังโยนพวกเขาให้ไปตาย

ทว่ากองกำลังทหารที่เหลือรอดอยู่ก็ค่อยๆแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะงั้นเหล่าผู้ชมก็เลยข่มความตื่นเต้นเอาไว้

บาร์ดเรย์คอยไล่ตามพลังอำนาจ เขาละทิ้งขั้นตอนการปลุกขวัญกำลังใจให้กับทหารเพื่อที่จะฝึกให้ทหารเหล่านั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นนั่นช่างเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก

ขณะที่ทุกคนต่างอิจฉาการผจญภัยของเขา บาร์ดเรย์กลับรู้สึกไม่มีความสุขเลยซักนิด

ไร้ประโยชน์ ขวางหูขวางตาชะมัด

ในฐานะผู้นำที่ปกครองกิลด์เฮอร์มีส เขาสามารถเคลื่อนกำลังพลกองทหารอัศวินได้อย่างง่ายดาย มีลูกสมุนมากมายตายในสนามรบเพื่อช่วยบาร์ดเรย์
มีความจริงที่ว่าเขาต้องทำให้ลูกสมุนของเขาถูกบันทึกลงเป็นสงครามประวัติศาสตร์ทำให้นี่กลายเป็นภารกิจที่น่าหงุดหงิดเป็นที่สุด

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

มีช่างฝีมือมากความสามารถนามว่า ฟาบิโอ

เขาเป็นช่างตีเหล็กคนแคระที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่ได้สร้างชุดเกราะและดาบที่ดีที่สุดขึ้นมา เขาสร้างชุดเกราะนั้นออกมาและทำให้เขาได้รับโดดเด่นตั้งแต่วันแรกเริ่มของโรยัลโร้ดเปิดตัว เพราะงั้นเขาถูกได้มีเหล่าผู้สื่อข่าวคอยห้อมล้อมอยู่ตลอด

ทีนี้แหละฉันจะต้องทำดาบเจ๋งๆออกมาให้ได้

แกร้ง แกร้ง แกร้ง

ฟาบิโอกลับไปที่โรงหลอมของเขาโดยไม่ได้หยุดพักเลย มีคนแคระหนึ่งคนที่เขาให้มาเป็นลูกมือคอยขนวัสดุอุปกรณ์มาให้ที่ข้างๆเปลวไฟ โรงหลอมนั้นใหญ่มากๆ แถมยังมีแร่เหล็กมากมายกองพะเนินอยู่จำนวนมาก

พ่อครับ มีงานสั่งทำดาบเลเวล 360 จำนวน 120 เล่ม จากกิลด์ทริกเกอร์ เราจะรับทำไหมครับ?”

แน่นอน มาเอาไปสิ แล้วก็ไปให้พวกเขา

ใกล้ๆกับคนแคระตนนั้นมีกองดาบมากมายถูกแยกประเภทเอาไว้แล้ว แม้ว่าฟาบิโอจะไม่ได้ใส่หัวใจและจิตวิญญาณลงไปในสินค้าพวกนั้น มันก็ยังให้ค่าคุณสมบัติอย่างต่ำ 4-5 อย่าง การโจมตี ป้องกัน และสมดุลเองก็กำลังดีสำหหรับผู้เล่นที่เหวี่ยงมัน

การให้กำเนิดดาบที่ปลุกพลังที่แท้จริงได้นั้นยังคงไกลเกินเอื้อม

ฟาบิโอยังติดหนึบอยู่กับค้อนของเขา และเอาแต่ตีดาบของเขาต่อไปเรื่อยๆ เขาได้สร้างดาบออกมานับร้อยเพื่อที่จะให้ไปถึงเป้าหมายของเขาให้ได้
เมื่อใดที่ตีลงไปที่ดาบ 

มันก็จะกลายเป็นดาบอันแสนยอดเยี่ยมไปโดยอัตโนมัติ ความผสมกลมกลืนได้ก่อกำเนิดขึ้นมาระหว่างแร่เหล็กและทักษะช่างตีเหล็ก

ร่างกายผิวสีแทนของช่างตีเหล็กฟาบิโอห่อหุ้มไปด้วยออร่าของเปลวเพลิงที่ทำให้นึกถึงความมันวาวของเหล็ก เขาคือช่างตีเหล็กผู้ที่สร้างเฉพาะดาบและชุดเกราะเท่านั้น หยดเหงื่อไหลรินลงมาจากร่างกายของเขาขณะเขาทำงานอยู่ข้างแร่เหล็กและเปลวเพลิง

ทักษะช่างตีเหล็กของเขาตอนนี้อยู่ขั้นสูงเลเวล 9 และอีก 81.7%
เขาคือยักษ์ผู้ที่ยอมถวายกายแด่โรงหลอมแห่งช่างตีเหล็ก
————จบตอน—————-
 ผู้แปล : Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล



10 ความคิดเห็น:

  1. อยากเห็นวีดซัดกับมังกรจริงๆ

    ตอบลบ
  2. โคตรมีความสุขที่ได้อ่าน ขอบคุณ.

    ตอบลบ
  3. วีดติดสินบน เคย์เบิร์น เดี่๋ยวต่อไปคงได้ใช้บริการ 555

    ตอบลบ
  4. จะมีฉากวีด ใส่ร้าย บาดเร ว่าไม่ยอมมาช่วยภารกิจแกะสลักรึเปล่านะ
    ถ้ามีคง ฮา มากใครปฎิเสธตาย ฮ่าๆๆๆ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณที่ช่วยแปลนิยายให้อ่านอยู่ตลอดนะคะ สำนวนที่แปลมาอ่านสนุกอ่านเพลินมาก เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  6. เพลินมาก...อ่านง่าย...วีดงานเข้า
    ขอบใจกลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...