วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

เล่ม 29 ตอนที่ 8 : ทางเลือกของเจ้าแคว้นแดนเหนือ แปลโดย Acid กรด


เล่ม 29 ตอนที่ 8 : ทางเลือกของเจ้าแคว้นแดนเหนือ แปลโดย Acid กรด


        เปลวเพลิงพวยพุ่งอยู่รอบพระวรกายของกษัตริย์เบลซ์ออส
จิตวิญญาณแห่งไฟบินลอยล่องอยู่รอบห้องศิลาด้วย

        - หายากมากที่ได้เห็นประติมากรน้อยกับการวางตัวที่ดีเยี่ยมเช่นนี้

        ความคิดของวีดถูกต้อง กษัตริย์เบลซ์ออสอ่อนด้อยเรื่องประจบสอพลอ!
พวกเขาอาจแกล้งทำให้แตกต่างแต่ใครเล่าไม่ชอบการประจบสอพลอ

        - ยังไงก็ตาม เจ้ามานี่

        กษัตริย์เบลซ์ออสคว้าแขนของวีด

- พลังชีวิตของคุณลดลง 489 จากการแผดเผาของไฟ
- พลังชีวิตของคุณลดลง 832 จากการแผดเผาของไฟ
- พลังชีวิตของคุณลดลง 1,309 จากการแผดเผาของไฟ
- พลังชีวิตของคุณลดลง 372 จากการแผดเผาของไฟ
-…….

        พลังชีวิตของวีดลดลงมากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น, ดวงตาทั้งคู่ของวีดกลับฉายแสงราวกับตะเกียง

        "ฝ่าบาท,เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงพะยะค่ะ!"

        เพื่อนในกลุ่มไม่สามารถหยุดความชื่นชมของพวกเขาได้ ขณะที่มีการออกล่าและผจญภัย
เป็นเรื่องค่อนข้างง่ายที่จะเพิ่มความสนิทสนมกับชาวบ้านในหมู่บ้าน
แต่จะเป็นเรื่องยากที่ใครบางคนจะคิดถึงเรื่องความสนิทสนมในสถานการณ์นี้

        ตามปรกติแล้วผู้คนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเผชิญกับมอนสเตอร์ที่ทรงพลังแต่สัญชาตญาณของวีดได้ทำลายมันอย่างสิ้นเชิง

        - ข้าต้องขอบใจเจ้าในการมาที่นี่และทำประติมากรรมที่ข้ายังทำไม่เสร็จในช่วงชีวิตของข้าให้สมบูรณ์

        "เปรียบเทียบตัวกระหม่อมเองกับองค์มหาราชเบลซ์ออสคล้ายดั่งรับประทานบะหมี่สำเร็จรูปรสกิมจิด้วยตะเกียบ
มิบังอาจ, ด้วยประติมากรรมมีองค์ประกอบครบครันอยู่แล้วทั้งรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์และสัดส่วน"

        - เจ้าประติมากรผู้ถ่อมตัว,เจ้ากำลังดูถูกทักษะของเจ้า

        "ประติมากรรมของกระหม่อมมิอาจเทียมเคียงขององค์ราชาเบลซ์ออสได้ กระหม่อมอาจได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์สำหรับประติมากรรมของกระหม่อมแต่มันต้องเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อเปรียบเทียบกับประติมากรรมของพระองค์"

        - เจ้าจะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

        "กระหม่อมต้องการการประทานสอนสั่งโดยมหากษัตริย์เช่นพระองค์"

        วีดสามารถดำเนินการสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ

        - เจ้าผ่านการทดสอบดังนั้นข้าจะให้ของขวัญพวกเจ้าแต่ละคนหนึ่งสิ่ง บอกสิ่งที่พวกเจ้าต้องการมา

        ตริ้ง!

                - คุณได้ทำประติมากรรมสำเร็จและจบการผจญภัยในสุสานกษัตริย์เบลซ์ออส
คุณสามารถรับของขวัญจากกษัตริย์แห่งไฟเบลซ์ออส
คุณสามารถเลือกได้ระหว่างการอัญเชิญจิตวิญญาณแห่งไฟ, เวทย์เพลิงขั้นสูงหรือหยิบบางอย่างจากขุมสมบัติ

        "อืม.ม.ม.ม..."

        ความเจ็บปวดรวดร้าวลึกเกิดขึ้นบนใบหน้าของวีด เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มของเขาก็ได้รับผลประโยชน์จากความสำเร็จในการผจญภัยด้วยโดยไม่คำนึงว่าวีดเป็นคนทำประติมากรรม

        ขณะเดียวกัน, โรมูนะไม่คิดมากเกินไปและเลือกเป็นคนแรก

        "ฝ่าบาท, กระหม่อมอยากเรียนเวทย์เพลิงขั้นสูง"

        - เจ้าจะได้รับสิ่งที่สอดคล้องกับความสามารถของเจ้า

        เสื้อคลุมของโรมูนะที่คลุมร่างถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง

       
 คุณได้รับเวทย์แห่งไฟ, แม่น้ำเพลิง(Flame River)


        "ฮือๆ.อ.อ!"

        โรมูนะเปล่งเสียงร่ำไห้ปลาบปลื้มยินดี มันเป็นเวทย์ที่ใช้กับพื้นที่กว้างที่อาจก่อให้เกิดแม่น้ำแห่งเปลวเพลิงเพื่อกวาดล้างศัตรู ไม่เหมือนมนต์ 'แผดเผา'(Burn), ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้ศัตรูเพื่อโจมตี

        แต่แม่น้ำเพลิงไม่สามารถใช้เวทย์ในดันเจี้ยนได้ ในพื้นที่เปิดอย่างทุ่งกว้าง, มันจะเป็นเวทย์ทำลายล้างในวงกว้าง!
ความได้เปรียบอย่างใหญ่หลวงของเวทย์มนต์คือพลังทำลายล้างของพวกมัน ดังนั้นการได้รับเวทย์ขั้นสูงจึงเป็นกำไรมหาศาล

        "พวกเราอยากได้สมบัติสักชิ้น"

        - ในที่นี้บรรจุสิ่งของที่ข้าเก็บสะสมมาเมื่อยังเป็นมนุษย์ ข้าไม่ต้องการมันอีกในฐานะของวิญญาณ
พวกเจ้าสามารถเลือกไอเทมได้หนึ่งชิ้นท่ามกลางทรัพย์สมบัติเหล่านี้

        ทุกคนยกเว้นวีดทำการตรวจสอบเหล่าสมบัติ แม้ว่าพวกอัญมณีเป็นที่น่าปรารถนา, ไอเทมทั้งหมดที่นี่เป็นไอเทมเฉพาะ(unique)หรือไอเทมในตำนาน! สมบัติที่มีมากพอที่จะขยายอาณาจักรได้ทั่วทวีปกลางถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่
พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจหรืองานพิเศษ

        ฮวายองเลือกต่างหูทับทิมที่งดงามและแวววาวคู่หนึ่ง

        "กระหม่อม....."

        วีดยังตกลงใจไม่ได้แม้ช่วงเวลาสุดท้าย มันยากสำหรับวีดที่จะเลือกโดยอิงอยู่กับสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับกษัตริย์เบลซ์ออส
หนึ่งในสุดยอดสมบัติที่วีดครอบครอง, แตรของทูริเซค(Teuresec’s Horn)ที่ไม่สามารถ เอามาเปรียบเทียบกับไอเทมในที่นี้

        'จิตวิญญาณแห่งไฟจะช่วยกวาดล้างศัตรู.....'

        จิตวิญญาณสามารถรวมกำลังกันต่อสู้โดยไม่ต้องใช้มานา

        ผู้นำของกิลด์ปีกสีชาด ธีรอส(Terose)ต้องการดาบเปลวเพลิง กลับถูกแผดเผาจนสิ้น! เปลวเพลิงติดลุกไหม้ใส่โล่และชุดเกราะ
มันได้เผาผลาญศัตรู การป้องกันต้านทานสุดยอดดาบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น, ถ้าพวกมอนสเตอร์มารวมตัวกันแล้วเป็นไปได้
ที่เพลิงจะกระจายกลายเป็นการสังหารหมู่

        ทุกคนที่ทำการล่าอย่างหนักแต่ผลลัพธ์ที่ได้ยังขึ้นอยู่กับทักษะของพวกเขาและอาวุธด้วย
ถ้าเขาได้รับดาบเพลิงอย่างนั้นวีดจะค่อนข้างสบายขึ้นแต่อย่างไรก็ตามเลเวลของเขาก็ยังไม่พอ
ทักษะช่างตีเหล็กของเขาและความต้านทานไฟนั่นหมายความว่ามันเป็นไปได้ที่เขาจะใช้ดาบนั่น

        "เช่นนั้นตัวเลือกเป็น...กระหม่อมไม่ต้องการสมบัติของมหาราชเบลซ์ออส กระหม่อมอยากจะรับผลึกแก้วโมราสัก..สักหน่อยในฐานะประติมากร ฮือ.ๆ.ๆ"

        วีดกล่าวทั้งน้ำตานองใบหน้าของเขา ในที่สุด, มังกรปีศาจไคย์เบิร์นก็ชนะเหนือความโลภของเขา

        - ประติมากร, เจ้าต้องการจริงๆรึ...ข้ามีวัตถุดิบในการแกะสลักมากมายที่ได้รวบรวมไว้ซึ่งมันไม่จำเป็นอีกแล้ว เจ้าสามารถเอาวัตถุดิบในการแกะสลักไปได้ทั้งหมด

        "เป็นพระมหากรุณาธิคุณฝ่าบาท"

        นอกจากผลึกแก้วโมราแล้ว, มีวัสดุอีกหลายอย่างที่มีราคาแพงหรือยากที่จะได้รับมา

        "กระหม่อมจะชอบมากกว่าของที่สูงค่า, ด้วยโชคชะตาอันต้อยต่ำของกระหม่อม...."

        วีดสูญสิ้นเรี่ยวแรงขณะที่เดินเก็บรวบรวมผลึกแก้วโมรา

       
 คุณได้รับของขวัญจากกษัตริย์แห่งไฟเบลซ์ออส

        - ประติมากร

        "ขอรับ, รุ่นพี่เบลซ์ออส"

        คำของวีดกลายเป็นสั้นลง

        วีดทิ้งความสัมพันธ์หลังจากได้รับสิ่งที่เขาต้องการ!

        - ความกระหายในศิลปะของข้าเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังได้เห็นประติมากรรม

        "แล้ว?"

        ตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลือคือการไปจากโบราณสถาน วีดจึงถามไปตรงๆ แน่นอน, เขาจะประจบประแจงทันทีถ้ากษัตริย์เบลซ์ออสแสดงสัญญาณการคุกคามใดๆทางกาย

        - ข้าอยากจะสร้างประติมากรรมกับเจ้า

        ตริ๊ง!

- กษัตริย์แห่งไฟมีข้อเสนอทำประติมากรรมร่วมกัน
เบลซ์ออสสามารถอยู่ในโลกมนุษย์ได้หนึ่งสัปดาห์และคุณไม่สามารถไปจากสุสานกษัตริย์ได้

        ในอดีตเขาเคยทำงานร่วมกับดาโรนและได้สอนประติมากรรมจำแลงในเวลานั้น,วีดเลเวลยังต่ำดังนั้นเขาจึงได้เรียนรู้มากมาย

        แต่ตอนนี้เขาเกือบจะเท่าเทียมกับเบลซ์ออสแล้วจากมุมมองของเขา

        'เป็นไปไม่ได้ที่จะทำประติมากรรมขนาดใหญ่ภายในหนึ่งสัปดาห์ดังนั้นฉันสามารถทำงานกับประติมากรรมด้วยผลึกแก้วโมรา'

        ถ้าเขาทำมันต่อเนื่องกับปรมาจารย์การแกะสลักอย่างนั้นมันอาจเป็นงานที่มีคุณค่าทางศิลป์สูงยิ่ง

        วีดถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ

        "หากพระองค์พยายามอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในภายหลัง....."

        - ข้าไม่มีความปรารถนาที่จะทำเช่นนั้นในฐานะจิตวิญญาณ

        "ดั่งที่ท่านทราบ, นี่ไม่ใช่อุตสาหกรรมที่ร่ำรวยมากมาย

        - ข้าไม่มีเจตนาที่จะรับสิ่งใดๆ

        จะมีการทำสัญญาก่อนการเริ่มงาน

        "อย่างนั้นก็เยี่ยม!"

                        *******************************

        ซอ-ยูนก้าวเดินเบาๆเข้าเมืองโมราต้า

        สถาปัตยกรรม, ประติมากรรม, งานศิลปะ, การแสดง และการปรุงอาหาร!
โดยปรกติแล้วเธอจะไม่ได้พบผู้คนอื่นๆในพื้นที่ออกล่าดังนั้นเธอรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นความคึกคักในเมือง

        เธอได้เฝ้ามองตั้งแต่ช่วงแรกๆเมื่อวีดได้ยกระดับโมราต้า
นี่เป็นเมืองที่วีดปกป้องและได้เป็นเจ้าเมือง เธอเองก็มีส่วนร่วมด้วยอย่างมากเช่นกัน
เธอได้ตั้งรกรากในช่วงต้นของโมราต้า, เคลียร์ดันเจี้ยนในตอนเหนือในฐานะของเบอร์เซิร์กเกอร์
และขายไอเท็มที่เธอลูทมาได้ให้กับร้านค้า

        "ผมขออภัยแต่ผมไม่สามารถจัดการวัสดุมีค่าเหล่านี้ได้ในขณะนี้ครับ, ท่านผู้มาเยือน ทำไมไม่ลองไปที่อาณาจักรทางตอนใต้ที่ที่ท่านจะได้ราคาที่เหมาะสม?"

        "ฉันจะขายมันที่นี่ ไม่เป็นไรถ้ามันจะได้เงินน้อย"

                        - คุณมีส่วนร่วมในการพัฒนาโมราต้า
ความมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น 17

        เธอได้ขายวัสดุมีค่าทิ้งตั้งแต่แรกและได้ช่วยพัฒนาด้านการค้า
เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นเลเวลสูงที่มายังโมราต้าจะสวมใส่อุปกรณ์ที่เธอได้ขายทิ้งไป

        ครั้นเมื่อสวนสาธารณะและสะพานเปิดใช้งาน, เธอก็ยังได้รับแต้มสนับสนุนอย่างมาก
ทางตอนเหนือมีผู้อพยพเข้ามาตั้งรกรากมากมายดังนั้นที่อยู่อาศัยจึงไม่เพียงพอและต้องการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง

        ซอยูนมีค่าการสนับสนุน 32,000 แต้ม มันเป็นจำนวนที่สูงมาก

        'สักวันฉันจะเที่ยวที่นี่กับเขา'

        เธอคิดถึงเรื่องท่องเที่ยวรอบๆโมราต้ากับวีดในวันออกเดท
ต้องขอบคุณพลังจากของหอคอยแห่งแสง, ทำให้ทัศนียภาพกลางคืนคึกคัก
ในยามค่ำ, แสงจากสิ่งก่อสร้างสามารถมองเห็นได้ในลำน้ำใสที่ไหลลอดสะพาน
และเมื่อมองที่หอคอยแห่แสงจากที่ห่างไกล, เป็นบรรยากาศที่ดีเยี่ยมสำหรับคู่รัก

        ซอยูนกำลังยืนงดงามแพรวพรายอยู่บนสะพาน!

        'ฉันไม่ค่อยมีเสน่ห์มากนัก'

        ซอ-ยูนเฝ้ามองผู้เล่นหญิงที่เดินอยู่รอบๆกับชายหนุ่มอย่างอิจฉา
ถ้าเธอไม่ได้สวมหน้ากากอย่างนั้นผู้คนมากมายคงจะวิ่งเข้าหา

        มีผู้เล่นชายมากมายที่เฝ้ามองโฉมสะคราญน้ำแข็งเพื่อผ่อนคลายก่อนที่จะทำการออกล่า
ฝูงชนด้านหน้าโฉมสะคราญน้ำแข็งก็พอๆกันกับพวกที่อยู่หน้ารูปแกะสลักเทพีเฟร์ย่า
ไม่เหมือนประติมากรรมอื่น, มีพวกที่คลั่งไคล้กับการเฝ้าชมโฉมสะคราญน้ำแข็ง

        'ฉันไม่น่ามองเพราะตัวฉันซีดเกินไป คุณวีดคงไม่ถึงกับไม่ชอบฉัน.....'

        ซอ-ยูนน่ารักตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กแต่เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องความงดงามของตัวเธอเอง

        ยามเมื่อเธอเดินไปโรงเรียน, ทั้งชายและหญิงจะชอบมองใบหน้าของเธอ
แต่ไม่มีใครสักคนที่พยายามเริ่มการสนทนากับเธอ

        ซอ-ยูนคิดว่าเธอไม่มีเสน่ห์น่าสนใจแต่ในสถานการณ์จริงกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง
ความงดงามของเธอช่างน่าประหลาดใจนั่นเป็นความคิดทั้งหมดที่ออกมาจากหัวของพวกเขา
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไร พวกเขาแค่มีความสุขหากว่าพวกเขาได้เห็นเธออีกครั้ง

        หลังจากการขายไอเท็มในร้าน, เธอนั่งลงใกล้กับน้ำพุและเฝ้ามองผู้คน
เสียงดนตรีแว่วหวานจากการแสดงใกล้ๆล่องลอยมากับสายลม

        ซอ-ยูนค่อยๆหลับตาอย่างช้าๆ

        เธอไม่ได้มาที่นี่เป็นบางครั้ง ดังนั้นจำนวนผู้เล่นตั้งแต่เมื่ออุทยานแห่งทวยเทพสร้างเสร็จจึงหนาแน่น
ยามค่ำคืน, เมืองก็คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว

        ผู้เล่นใหม่อาศัยอยู่ด้วยกันในกระท่อม ผู้เล่นที่ไม่มีประสบการณ์ที่มาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่แรกของโมราตา
สามารถออกไปผจญภัยและรับรางวัลภารกิจ เมืองนี้กำลังพัฒนาไปสู่ชั้นกลาง

        "กำลังมองหาปาร์ตี้ที่พาคนเลเวล180ไปดันเจี้ยน คุณสามารถตรวจสอบการกระจายส่วนแบ่งได้"

        "นักบวชกำลังมองหากลุ่ม ใครก็ได้ที่กำลังมองหานักบวช? เลเวล 230, ฉันจะไม่หลับไม่นอนและจะทำงานอย่างหนัก!"

        "ลัทธิโจ๊กหญ้ากำลังจะเดินทางข้อจำกัดของเลเวลที่ 210 หรือสูงกว่า ต้องการมากกว่า 300 คนเดินทางไปตะวันตก มาร่วมกัน!"

        เมื่อเลเวลของผู้เล่นสูงขึ้น, พวกสินค้าก็มความซับซ้อนมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามผู้เล่นชั้นกลางไม่มีทุนที่จะสร้างบ้านบนเนินเขาหรือริมน้ำพร้อมกับทิวทัศน์ดีๆ
ความสำคัญของพวกเขาคือการลงทุนในอุปกรณ์มากกว่าบ้าน
       
        การรักษาเสถียรภาพของราคาบ้านเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพวกผู้เล่น
ในโมราต้า, ใครๆก็สามารถสร้างกระท่อมได้ง่ายๆเนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยถูกรักษาให้ต่ำไว้
แต่บ้านโกโรโกโสจะทำความเสียหายกับภูมิทัศน์ของโมราต้า

        ปัญหาที่อยู่อาศัยนี้แก้ไขได้ง่ายๆโดยการปรากฏใหม่ของอาชีพช่างทำเครื่องเคลือบ(เซรามิค)
ช่างทำเครื่องเคลือบมีความคล่องแคล่วในการจัดการดินที่น่าอัศจรรย์ทีเดียว
พวกเขารวบรวมดินจากแม่น้ำแทนการออกล่า

        "ผมต้องรีบสร้างโรงงานให้เร็ว!"

        ช่างทำเครื่องเคลือบต้องการโรงงานของตัวเอง มันลำบากในการทำงานกับไฟในเมืองและพวกมอนสเตอร์ที่รบกวนแถบริมแม่น้ำมอนสเตอร์เป็นของว่างสำหรับวีดเท่านั้นแต่พวกมันเป็นการคงอยู่ที่น่ากลัวสำหรับช่างทำเครื่องเคลือบ

        พวกเขาใช้ความสามารถสูงสุดในการสร้างบ้าน บ้านที่สร้างจากโคลนและดินแท้ๆ
ทะเลสาบและแม่น้ำใกล้โมราต้าอุดมไปด้วยดินเหนียวดังนั้นมันจึงเป็นวัสดุก่อสร้างชั้นดี
บ้านที่สร้างโดยช่างทำเครื่องเคลือบเป็นหัวข้อใหญ่มากในหมู่ผู้เล่นชาวโมราต้า

        "ราคาอาคารนี้สักเท่าไร?"

        "ก็แค่น้ำกับดินงั้นราคามันก็น่าจะเท่าๆกับพวกกระต๊อบ"

        "โอ้ว, จริงหรือ? แล้วมันต้องใช้เวลากี่วันกว่าจะทำเสร็จ?"

        "วันเดียว"

        "เยี่ยมไปเลย! คุณสร้างบ้านให้ผมได้ไหม? ผมจะให้ค่าจ้างคุณ"

        มีการตอบสนองอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้เล่นระดับกลางตามข่าวของบ้านดินที่มีการแพร่กระจายออกไป
มันเป็นโอกาสของพวกช่างทำเครื่องเคลือบมือใหม่ในการหาเงิน!

        จุดแข็งของบ้านดินคือมันสร้างจากวัสดุธรรมชาติ ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่ยุ่งยากที่จะให้ความร้อนในห้องด้วยการเผาไม้ดังนั้นมันจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่น

        "อ้า....ดียังไง"

        "วิธีนี้ มันอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ"

        การได้มีที่นั่งอุ่นๆในคืนที่หนาวเหน็บช่างได้อารมณ์จริงๆ ผู้เล่นชาวโมราต้าสามารถเติมเต็มความสนุกสนาน
การผจญภัยของพวกเขาในแดนเหนือ เพื่อนๆรวมตัวกันปิ้งมันหวานและกินปลาระหว่างการถกเถียงเรื่องการเดินทางและการออกล่าของพวกเขา รวมถึงโจ๊กหญ้าที่หอมหวาน,ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ที่พวกเขาปรารถนา

        เมื่อเลเวลของผู้เล่นเติบโตขึ้น, พวกเขาก็ย้ายจากกระท่อมไปสู่บ้านดิน
กระท่อมที่เนินเขาและบ้านดินที่ใกล้ริมแม่น้ำช่วยให้ที่อยู่อาศัยราคาถูกคงอยู่
บ้านดินเป็นลักษณะเฉพาะใหม่ของโมราต้าดังนั้นพวกช่างทำเครื่องเคลือบ
มีโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ที่เหมาะสมในช่วงเริ่มต้น

        นอกจากพวกบ้าน, พวกเขาทำถ้วยชามและเครื่องปั้นดินเผาที่ขายดีอย่างมาก

        พวกเอลิออนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในอาณาจักรอาเพ่นทำเหมืองได้สินแร่จำนวนมากและยังเพาะปลูกธัญพืชด้วย
กาแฟและเมล่อนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพืชพิเศษชนิดใหม่

        มีการปฏิรูปใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเยี่ยมชมอย่างแพร่หลายของเครือข่ายอาชีพนักบวช
คำสั่งทางศาสนาจากทวีปส่งถึงเหล่านักบวชและพาลาดินให้ออกเดินทางแสวงบุญไปยังอุทยานแห่งทวยเทพและสรรเสริญกษัตริย์
ของอาเพ่นเป็นผู้ปราดเปรื่อง

        อาณาจักรได้รับชื่อเสียงและเพิ่มความสัมพันธ์กับศาสนจักรต่างๆ เหล่าผู้เล่นที่สวมเครื่องแบบสีขาวหรือเกราะศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาอย่างต่อเนื่องจากทวีปกลาง พวกนักบวชและพาราดินเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถพบเห็นได้ในอุทยานแห่งทวยเทพ

        "คุณมีเงินอยู่เท่าไร?"

        "3,400ทอง ทำไมหรือ?"

        "ถ้าคุณบริจาคให้ที่นี่แล้วคุณสามารถเพิ่มความค่าความสนับสนุนของคุณได้"

        ผู้คนมาที่อุทยานแห่งทวยเทพเพื่อบริจาคเงินจำนวนมากให้กับพระเจ้าที่พวกเขาเชื่อมั่น การบริจาคถูกรวบรวมและเหล่าสถาปนิกก็เริ่มสร้างวิหาร เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการก่อสร้างยังคงดำเนินการอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับอุทยานแห่งทวยเทพ

        ผู้คนที่มาอุทยานแห่งทวยเทพยังได้เที่ยวชมศูนย์ศิลปะและทำให้วัฒนธรรมของอาณาจักรอาเพ่นแผ่ขยายออกไป

- วัฒนธรรมของอาณาจักรอาเพนกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

        นักท่องเที่ยวมากมายซื้องานศิลปะเพื่อเป็นที่ระลึกและนำมันไปยังต่างเมืองและอาณาจักรอื่นๆ

        สถานะของวีดในฐานะกษัตริย์ส่งผลต่อประติมากรรมของเขาด้วย เหล่าอัศวินและทหารหาญจะให้คำสัตย์ในความภักดีของพวกเขาได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับชื่อเสียงของวีดในฐานะประติมากร, วัฒนธรรมของอาณาจักรยังขยายตัวก้าวหน้าอย่างเหลือเชื่อ

- วิหารทาเรส(Tares’ Cathedral)ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อิทธิพลทางศาสนาในอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มขึ้น
- กิตติศัพท์ของอาณาจักรอาเพ่นได้มาถึงหมู่บ้านเล็กๆในภูเขาห่างไกลตลอดทางเหนือ

                    พวกพ่อค้าจากทางตอนกลางและตะวันออกของทวีปกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมในการค้ากับอาณาจักรอาเพ่น

                    พวกเขากระตือรือร้นที่จะนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพสูง
               
- อิทธิพลทางการเมืองของอาณาจักรอาเพ่นเพิ่มมากขึ้นและสามารถแทรกแซงการเมืองในหมู่บ้านใกล้เคียงได้
พวกเจ้าเมืองจะไม่มีความสุขเพราะประชาชนจะกระตือรือร้นมากขึ้นในการเข้าร่วมกับอาณาจักรอาเพ่น
เป็นไปได้สำหรับพื้นที่ที่มีความจงรักภักดีต่ำต่อเจ้าเมืองของพวกเขาที่จะเกิดการจลาจล
หากการประท้วงประสบความสำเร็จพื้นที่จะกลายเป็นของอาณาจักรอาเพ่น
อย่างไรก็ตาม,กษัตริย์จะสูญสิ้นเกียรติและความสัมพันธ์ทางการทูตจะเสื่อมลง

        วีดไม่ใช่ประเภทที่จะยุให้ก่อกบฏเพื่อขยายอาณาเขตและเพิ่มจำนวนประชากร
แม้ว่าพื้นที่ได้ขยายไปทางเหนือ, โมราต้าจะยังคงเป็นเมืองที่ดีที่สุด

        สินค้าที่ช่างตีเหล็กและช่างตัดเย็บที่ยังไม่มีประสบการณ์ยังกระจายไปทั่วเครือข่ายทางการค้าของบรรดาพ่อค้า
เหล่านักผจญภัยรวบรวมไอเทมหายากจากดันเจี้ยนและขายพวกไอเท็มลูท ดังนั้นศักยภาพในการพัฒนาเมืองจึงไม่มีที่สิ้นสุด

        คำว่า มหัศจรรย์ของโมราต้า ขจรขจายอยู่บนกระดานข่าว มันเป็นเขตแดนที่เหล่าผู้เล่นมือใหม่ยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ว่าอยากเริ่มเล่นในโมราต้า

        ระหว่างที่ชื่อเสียงและอิทธิพลทางการเมืองของอาณาจักรอาเพ่นกำลังเพิ่มขึ้นทุกวันๆ, เจ้าเมืองอื่นๆในแดนเหนือไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันกับพัฒนาการของมัน

        "มีคนกำลังมา!"

        "เฮ้ย, ไปช่วยพวกเขาซิ!"

        เมื่อพวกเจ้าเมืองทางเหนือพบว่าผู้อพยพมุ่งหน้าสู่โมราต้า, พวกเขาจะเตรียมบ้านและร้านค้า
สมาชิกของกิลด์ก็เตรียมถอนหญ้าเพื่อเตรียมพื้นที่ทำเกษตรกรรมด้วย

        "ท่านเจ้าเมือง, ขอบคุณมากๆครับ"

        "ไม่เป็นไร ถ้าเจ้ารู้สึกไม่สะดวกสบายอะไรก็มาหาข้าได้ทุกเวลา"

        ทุกคนรู้สึกเป็นสุขเมื่อมีเด็กเกิดใหม่ เมื่อชาวบ้านเพิ่มขึ้นจาก3-4คน, ในที่สุดประชากรก็จะเติบโตจนกระทั่งกลายเป็นหมู่บ้าน วีดได้พัฒนาโมราต้าจากช่วงเวลาที่ยากแค้นดังนั้นพวกเขาเชื่อว่าเป็นไปได้

        "ผมเสียใจด้วยครับท่านเจ้าเมือง ผมจะไม่ลืมความดีที่ผมได้รับจากคุณเลย ย่ะ, ออกเดินทาง"

        แต่ผู้คนยังคงละทิ้งถิ่นฐาน! คนเหล่านั้นได้ยินเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของโมราต้า, ขนาดของเศรษฐกิจที่ใหญ่โตและวัฒนธรรมที่ตื่นตาตื่นใจ และห่อสัมภาระของพวกเขา แล้วก็จากไปในเวลาเย็น

        ผู้คนจากไปอย่างโหดร้ายกับเกวียนที่เต็มไปด้วยข้าวของ!

        ผู้เล่นมากมายออกล่าและผจญภัยในเขตเหนือดังนั้นพวกนักท่องเที่ยวที่มายังหมู่บ้านเจ้าเมืองแดนเหนือจึงเพิ่มขึ้น
พวกเขามีความหวังแต่ไม่มีรายได้มากมาย

        "พวกเราจะออกล่าในบริเวณใกล้ๆและกลับไปโมราต้าในตอนเย็นกันไหม?"

        "เร็วๆ ไปออกล่ากันเถอะ"

        "ผมมีนัดตอนเย็นใกล้ๆกับหอคอยแห่งแสง...ออกล่ากันให้เร็วหน่อย"

        "ได้เลย!"

        แม้ว่าดันเจี้ยนและพื้นที่ออกล่าได้มีการพัฒนา, เหล่าผู้เล่นยังคงหวนกลับมาที่โมราต้า
ขณะที่ประชากรของหมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างน่าเศร้าสัก 100 คน, โมราต้ากำลังเพิ่มขึ้น 20,000-30,000 คน

        "ฮ่าๆ เคี้ยกๆๆ!"

        การพัฒนาเหมืองของโมราต้ายังอ่อนด้อย ดังนั้นพวกคนในหมู่บ้านสามารถค้าขายกับพวกเขา
แต่ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันกับพวกประติมากรรมและอุปกรณ์เครื่องมือผ่อนแรง

        "กองทุนของกิลด์อยู่ในสภาพที่ไม่ดีจากค่าจ้างของทหารรับจ้าง เหอะ เหอะ เฮ้อ!"

        พวกเขาไม่สามารถสร้างอาคารอื่นใดอีก พวกเขาได้ยินเรื่องการก่อสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ในโมราต้า
ผ่านทางการถ่ายทอดออกอากาศ หัวใจของเหล่าเจ้าเมืองตอนเหนือเจ็บปวดดั่งโดนระเบิด

        "ทำไมเบียร์ของโมราต้าช่างอร่อยนัก?"

        พันธมิตรแดนเหนือที่2ได้ก่อตัวเพื่อประกาศสงคราม อย่างไรก็ตามผู้เล่นของโมราต้าได้เพิ่มขึ้นถึงสิบสองเท่าและเลเวลของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นมันเป็นเรื่องยาก
ปฏิกิริยาของเจ้าเมืองอื่นๆก็ส่งผลในแง่ลบ

        "สงครามรึ?, นี่เป็นไปไม่ได้ ปล่อยให้พวกเราอยู่ห่างๆมันเถอะ"

        "ทำไมต้องสู้ในเมื่อโอกาสยังไม่เข้าข้างพวกเรา? พวกเราจะจบลงด้วยการเตรียมจ่ายค่าสินไหมสงครามให้ลอร์ดวีด สำนึกกันไว้ด้วย"

        "คุณมีความมั่นใจหรือว่าคุณจะชนะถ้าคุณประกาศสงครามกับโมราต้า?"

        ด้วยมีความสัมพันธ์ทางการค้าขนาดใหญ่กับโมราต้าดังนั้นพวกเจ้าเมืองแดนเหนือจึงไม่ต้องการสงคราม
เจ้าเมืองบางคนพัฒนาเหมืองแร่ของพวกเขาอย่างแข็งขันและอาศัยมันในการส่งออก
ถ้าเกิดสงครามกับโมราต้า, การส่งออกขะหยุดชะงักและผู้เล่นในแดนเหนือทั้งหมดจะไหลไปหาวีด
ถ้ามันจบสิ้นลงแล้วดินแดนของพวกเขาจะถูกละทิ้งจากพวกผู้เล่น จะไม่มีการท่องเที่ยวใดๆอีกจากกลุ่มปาร์ตี้ออกล่า

        กิลด์ทรงเกียรติทั้งหลายจากทางตอนกลางของทวีปมีอำนาจที่เข้มแข็งและกองทัพที่แข็งแกร่ง
แต่สถานการณ์นั้นต่างไปจากเขตแดนเหนือ โมราต้ามีอัตราภาษีที่ต่ำและสิ่งแวดล้อมชวนฝันดังนั้นอนาคตของอาณาจักรอาเพ่นจึงสดใส
อุทยานแห่งทวยเทพก็เสร็จสมบูรณ์แล้วด้วย
ดังนั้นมันจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก

        ในขณะเดียวกันดินแดนของพวกเจ้าเมืองแดนเหนือที่ไม่อุดมสมบูรณ์, ระดับทักษะของประชากรก็ด้อยดังนั้นความภักดีของพวกเขาจึงต่ำ

                - ประชากรของหมู่บ้านอาร์มางค์(Armang Village)ต้องการที่จะพึ่งพิงอย่างถาวรกับอาณาจักรอาเพ่น
                    ความเจริญรุ่งเรืองของโมราต้าได้จับหัวใจของพวกชาวบ้าน
                    พวกชาวบ้านได้ละทิ้งความหวังของพวกเขากับเจ้าเมืองของพวกเขาและต้องการกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น
                   คุณสมบัติพิเศษ : ไม่มี
                   จำนวนประชากร : 4,329
                   ภาษีเงินได้รายเดือน : 7,989 ทอง

- ประชากรของหมู่บ้านอิ๊ควิน๊อค(Ekwinok Village)ต้องการที่จะพึ่งพิงอย่างถาวรกับอาณาจักรอาเพ่น
   พลังทางเศรษฐกิจและประชากรของโมราต้าทำให้พวกเขาอิจฉา
   ความพยายามของเจ้าเมืองก็ไม่เลว แต่ไม่มีความหวังสำหรับเด็กๆในหมู่บ้านอิ๊ควิน๊อค
   พวกเขาเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น
   คุณสมบัติพิเศษ : ไม่มี
   จำนวนประชากร : 5,828
   ภาษีเงินได้รายเดือน : 4,124 ทอง

        พลังแห่งวัฒนธรรม!

        อาร์มางค์(Armang), อิ๊ควิน๊อค(Ekwinok), โยแอนนา(Yoanna), ยูเซลริน(Yusellin) เป็นส่วนหนึ่งของ 8 หมู่บ้านที่ปรารถนา
มาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอาเพ่น

        พวกชาวบ้านตัดสินใจด้วยความเต็มใจยอมรับกฎเกณฑ์ของวีด มีพวกหมู่บ้านที่เล็กมากๆที่ไม่มีเจ้านาย
แต่หกหมู่บ้านอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของกิลด์

        "อ้า...บ้าน่า มันเกิดขึ้นได้ยังไง?"

        พวกเจ้าเมืองกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก พวกเขาจำเป็นต้องระดม กำลังทหารปราบปรามพวกชาวบ้าน
แต่ความภักดีของประชาชนจะลดลงต่อเนื่องและจะนำไปสู่การลดลงของประชากร พวกเขาจะได้รับชื่อเสียงเลวร้ายอย่างมาก

        "ด้วยอัตรานี้, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเร่งตามการพัฒนาการของโมราต้า....."

        มันเป็นเรื่องยากสำหรับจำนวนประชากรของพวกเขาแม้แต่จะเอื้อมให้ถึง 10,000 ขณะที่อาณาจักรอาเพ่นมีประชากรเป็นล้าน สถานการณ์เลวร้ายมากสำหรับพวกเจ้าเมือง สถานการณ์จะแย่ลงอีกถ้ามีค่าใช้จ่ายของกองทัพมีมากเกินความจำเป็นหรือมอนสเตอร์โจมตี

        ผู้เล่นในแดนเหนือมีทางเลือกมากมาย ในช่วงเริ่มต้น,พวกเขาได้ลงทุนเป็นจำนวนมากกับกองทุนที่ใช้ในการทำเหมืองแร่และการพัฒนาทางการเกษตร
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนหมู่บ้านชนบทที่อยู่ถัดจากโมราต้า
เฝ้าดูการประท้วงของชาวบ้าน, พวกเจ้าเมืองต้องตัดสินใจอันยากยิ่ง

        "พวกเราจะทำยังไงดี?"

        "ท่านเจ้ากิลด์, เวลานี้วัฒนธรรม, ความสามารถทางเทคโนโลยี และช่องว่างทางกองกำลังทหารของพวกเรา
หมายถึงว่ามันยากที่จะต้านทานเอาตัวรอดจากโมราต้าได้ในระยะยาว"

        "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเรากลายเป็นว่าอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรอาเพ่น?"

        "พวกเราจะสูญเสียการปกครองของเราใช่ไหมในฐานะเจ้าเมืองแต่พวกเรายังคงรักษาเงินทุนของกองทุนทั้งหลายได้ใช่ไหม?"

        "สามารถหาโอกาสได้มากมายแต่จะต้องมีผู้เล่นมากกว่านี้"

        ถ้าวีดปกครองหมู่บ้านของพวกเขาแล้วมันเติบโตอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ เทคโนโลยี, จำนวนประชากร, การค้า, ชื่อเสียง และความเชี่ยวชาญพิเศษอื่นๆของอาณาจักรอาเพ่น
จะถูกแบ่งปันดังนั้นมันจึงเป็นบรรยากาศซึ่งอำนวยประโยชน์ให้

        "แต่พวกเรายังคงมีอำนาจเด็ดขาดในพื้นที่ในฐานะเจ้าเมืองหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในภายหลังและหมู่บ้านได้พัฒนา...."

        เจ้าเมืองบางคนไม่เต็มใจที่จะเชื่อและพวกเขาลุกออกจากที่นั่งพวกเขายึดติดอยู่กับอัตตาและอำนาจของพวกเขา

        แต่พวกพ่อค้าที่เป็นสมาชิกของสมาคมกล่าวว่า

        "พวกเราต้องการการตัดสินใจในช่วงเริ่มต้นของอาณาจักรอาเพ่น ถ้าพวกเราพลาดโอกาสนี้แล้วสถานการณ์อาจเลวร้ายลงและหมู่บ้านจะหายไป"

        "ท่านเจ้ากิลด์, พวกเราได้เห็นความเร็วในการพัฒนาการของโมราต้าแล้ว แล้วยังป้อมปราการเวอร์โก้เป็นอย่างไร?
ผู้คนที่เลเวลเฉลี่ยสูงกว่าในกิลด์ของพวกเรากำลังออกล่าที่นั่น กองทัพของอาณาจักรอาเพ่นก็เติบโตอย่างรวดเร็ว"

        "จำได้ไหมทำไมพวกเราถึงถูกขับออกจากทางตอนกลาง ไม่ใช่เพราะกำลังของพวกเราอ่อนด้อยหรอกหรือ?
วีดจะไม่ก่อให้เกิดสงครามในทางเหนือแต่ถ้าเขาทำแล้วหมู่บ้านของพวกเราคงไม่รอด"

        "ถ้าพวกเรารีรอต่อไปอีกละก็ หมู่บ้านอื่นๆจะเข้าร่วมกับอาณาจักรอาเพ่นก่อนนะ"

        "มันไม่เป็นการดีถ้าพวกเราจะเข้าร่วมในภายหลัง จะมีช่องว่างทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่กับหมู่บ้านอื่นๆ
พวกผู้เล่นในเขตเหนือไม่มีความไว้วางใจอย่างมีนัยยะ ถ้าพวกเขาจากโมราต้าไปผจญภัย, พวกเขาก็เกือบจะไม่เลือก
เข้าพักในหมู่บ้านพวกเรา ความสามารถในการเติบโตของหมู่บ้านนี้ก็จะด้อยลง แล้วจะไม่ง่ายเลยที่จะพัฒนาด้วยตัวของพวกเรา"

        พวกพ่อค้าพยายามจะชักจูงให้พวกเขาผนวกเข้ากับอาณาจักรอาเพ่น
ถ้าพวกเขามาเข้ากับอาณาจักรอาเพ่นอย่างนั้นพวกขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาลในการค้าและภาษี

        ในความเป็นจริง, พวกเขาได้เฝ้าดูผู้คนค้าขายที่ทางเข้าและจัตุรัสเมืองและตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับอาณาจักรอาเพ่นได้
ถึงแม้ถ้าพวกเจ้าเมืองเหนือมารวมตัวกัน, มันก็ไม่ง่ายที่จะบรรลุเป้าหมายของพวกเขา

        ผู้เล่นที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ไม่มีอะไรจะพูด
การพัฒนาหมู่บ้านไม่ใช่ทางที่พวกเขาเชี่ยวชาญดังนั้นพวกเขาจึงไม่คัดค้านการเข้าร่วมกับอาณาจักรอาเพ่นตราบเท่าที่มันเป็นผลประโยชน์
เพื่อให้ได้ทักษะประจำอาชีพ, การผจญภัยและภารกิจออกล่า, พวกเขาต้องไปที่โมราต้า

        ถึงพวกเขามีอำนาจของเจ้าเมืองแต่เงินทุนในการลงทุนของพวกเขากำลังค่อยๆหายไป
พวกกิลด์ก็มีส่วนร่วมในอาณาจักรอาเพ่นด้วย มันจะเป็นประโยชน์มากขึ้นในการเป็นสมาชิกของอาณาจักรอาเพ่น
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกได้แต่ยอมจำนนด้วยสถานะของเจ้าเมือง

        "ในความเห็นของทุกคนได้ทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นโปรดตกลงที่จะเข้าร่วมเป็นประชากร"

        แปดหมู่บ้านใหญ่ และหมู่บ้านเล็กๆตัดสินใจเข้าร่วมอาณาจักรอาเพ่น.
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

13 ความคิดเห็น:

  1. มหาอำนาจใหม่ ทางตอนเหนือ กำลังมา ^^ ขอบคุณครับผม

    ตอบลบ
  2. อีกไม่นานวีดจะได้เป็นเจ้าแห่งแดนเหนือแล้ว ^Δ^

    ตอบลบ
  3. ราชันแห่งแดนประจิม

    ตอบลบ
  4. ขยายแบบไม่ต้องลงทุน ถูกใจพี่วีดเขาแหล่ะ

    ตอบลบ
  5. ใกล้ที่จะเป็นอาณาจักรแล้ว ขาดแต่เงินที่ยังไม่พอ😆😆

    ตอบลบ
  6. อู้ว ราชาแดนเหนือ!

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...