วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

เล่ม 29 ตอนที่ 7 : ประติมากรรมของราชันย์วิญญาณ แปลโดย Acid กรด


เล่ม 29 ตอนที่ 7 : ประติมากรรมของราชันย์วิญญาณ แปลโดย Acid กรด


        วีดให้ข้อมูลที่เขาได้รับมาแก่สมาชิกในกลุ่ม ไอรีนยิ้มเบาๆ

        "กษัตริย์ของจิตวิญญาณแห่งไฟสาปแช่งทวีปให้ร้อนเพราะผู้คนไม่ระมัดระวังสัมผัสทรัพย์สมบัติของพระองค์"

        เซอร์กะแสดงความตื่นเต้นของเธอต่อเรื่องที่น่าสนใจนี้ด้วย

        "ดิฉันชอบฟังเรื่องเกี่ยวกับความผิดปรกติของอดีต ไม่ใช่พวกเรากลุ่มเดียวที่รู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครรู้จักของทวีปเวอร์เซลล์ใช่ไหมคะ?"

        ฮวายองกับเบลล๊อทกำลังคุยกันถึงเรื่องที่มีการแสดงให้ดูเกี่ยวกับกษัตริย์เบลซ์ออส

        มีการแสดงขนาดเล็กตามชุมชนจำนวนมากในโมราต้า การแสดงพบเห็นได้บ่อยๆที่จัตุรัสแห่งแสง หรือจัตุรัสปิงหลง และค่าสถานะจะเพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับความสำเร็จและปฏิกิริยาของผู้ชม

        วีดสร้างประติมากรรมจากเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และข้อมูลทางประวัติศาสตร์นี้จะส่งผลดีในด้านการแสดง
ผู้ชมยินดีกับการแสดงนี้เพราะพวกเขาสามารถได้รับค่าสถานะความรู้เพิ่มเติม

        แน่นอน, เป็นไปได้ที่จะได้รับค่าสถานะบางประการจากที่การได้ยินข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรก
นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ชมยังคงต้องการการแสดงที่ดีขึ้น มันเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกนักกวีถึงได้เดินทางรอบทวีปเพื่อสอบถามถึงเรื่องราว

        "ขณะนี้ฉันต้องการแค่ผลึกหินโมรา(the Agate crystal)"

        วีดพบผลึกหินโมราจำนวนมากในที่แห่งหนึ่ง ปริมาณค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ในขณะที่เขาเห็นพวกมันอย่างน้อยก็ 120 ชิ้น

        "แต่ ฉันไม่รู้ว่าถ้าฉันเอามันมาได้!"

        สุสานของเบลซ์ออสมีสมบัติมากมายเช่นเดียวกับทะเลทรายที่ไม่มีการประกันว่าเขาจะสามารถมีชีวิตรอดพร้อมกับวัสดุทำประติมากรรม

        "ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้"

        วีดจมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิด ขุมสมบัติไม่สมารถเปิดออกได้ง่ายๆ อาจจะมีพวกกับดักบางอย่างติดตั้งอยู่ในโลงพระศพนี้,
เขาตั้งข้อสงสัยและตรวจดูตามขอบ

        วีดรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น ต้องขอบคุณประสบการณ์ของเขามาจนถึงวันนี้

        "ภารกิจของมังกร(The Dragon’s Quest) จะไม่จบง่ายๆอย่างนี้ ทำไมถึงต้องส่งสปาร์ทอยมาสนับสนุน?
พวกเราประหลาดใจที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆในขณะค้นหาโบราณสถานแห่งนี้ ต้องต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์
แต่ฉันไม่สามารถกล่าวได้จริงๆว่าพวกเราได้ต่อสู้"

        โดยปรกติแล้วภารกิจที่มีความยากระดับนี้จะทำให้ผลงานออกมาดี
และเขาจะรู้สึกเบิกบานใจจนกระทั่งเขาโดนตบหัวทิ่ม
จนกระทั่งปัจจุบันนี้เขาได้รับประสบการณ์มากมายด้วยเหล่าภารกิจที่ยากมากๆ

        "ไม่มีอะไรที่แก้ไขได้ง่ายๆในโลกนี้"

        เหล่าสมาชิกในกลุ่มของเขายืนเงียบๆและรอฟังทางเลือกของเขา ถ้าเลือกผิดจะทำให้ทุกๆคนตกอยู่ในความยากลำบาก ดังนั้นพวกเขาได้แต่เชื่อมั่นเขาและเฝ้าคอย

        เซเฟอร์กระซิบ

        "ผมเชื่อมั่นในการตัดสินใจของคุณวีดเท่านั้น"

        เบลล๊อทก็พูดเสียงเบาๆด้วย
       
        "ดิฉันก็คิดอย่างนั้นด้วย พวกเราจะกลายเป็นแมลงสาปที่จะไม่ตายแม้ว่าพวกเราจะโดนกระทืบก็ตาม"

        เหล่าสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆก็เห็นด้วย

                                *******************************
        "ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น"

        วีดตัดสินใจที่จะไม่แตะต้องวัสดุทำประติมากรรม

        เขารู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวแต่ผลึกหินโมราสำคัญกว่าทองหรือพวกอัญมณี
กิลด์ปีกสีชาดได้สัมผัสสมบัติด้วยความโลภ ส่งผลให้พวกเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากมัน
       
        "ก็เหมือนสั่งไก่ทอดได้ไก่หมัก"

        วีดตรวจดูวัสดุและสมบัติอื่นรอบโลงพระศพ จากความทรงจำที่เขา
ได้รับรู้จากประติมากรรมของกษัตริย์เบลซ์ออส, เขาจำเป็นต้องทิ้งความโลภ

        "ฉันเข้าใจแล้วที่เขาได้สร้างประติมากรรมธาตุเอาไว้มากมาย"

        เบลซ์ออสเคยมีชีวิตที่ยากลำบากตั้งแต่อายุยังน้อยและมีพวกจิตวิญญาณเป็นเพื่อนของเขา
และวีดพบว่ารูปแกะสลักของจิตวิญญาณแห่งไฟนั้นสำเร็จไปเพียงครึ่งเดียว!

        มันไม่ได้ทำด้วยทักษะธรรมดาสามัญ มันมีลักษณะของกษัตริย์เบลซ์ออสเล็กๆในทะเลทราย
และทั่วร่างกายของเขาดูเหมือนจะประกอบด้วยจิตวิญญาณของธาตุ วีดมองไปที่ประติมากรรมที่ยังไม่เสร็จ
และมันดูเหมือนเกมส์ปริศนาที่ต้องวางลงในตำแหน่ง(puzzle)

        "หินโมราไม่ใช่สมบัติแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดฉันนำมันมา คำสาปจะเกิดขึ้นหรือไม่"

        วีดมีอาชีพประติมากรของเขาร่วมกับเบลซ์ออส บางครั้งการมีจิตวิญญาณเป็นคู่หูจะนำไปสู่ปัญหาทางสังคม

        "แต่กษัตริย์เบลซ์ออสเป็นปรมาจารย์แกะสลักดังนั้นเขาต้องมีการแกะสลักที่เกี่ยวกับธาตุ"

        วีดได้เรียนรู้ทักษะนี้ด้วยตัวเขาเองแต่เมื่อพิจารณาจากความทรงจำที่เขาได้เห็นในประติมากรรม,
กษัตริย์เบลซ์ออสทำการแกะสลักเกี่ยวกับธาตุ100%

        "ถ้าฉันทำประติมากรรมเหล่านี้ให้เสร็จ บางทีฉันอาจจะได้เรียนการแกะสลักเกี่ยวกับธาตุ"

        ถ้าอย่างนั้น, เห็นทีเขาต้องทำประติมากรรมนี้ให้เสร็จ นี่เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประติมากรดังนั้น
พอจะเห็นได้ว่ารูปประติมากรรมเป็นเหมือนกุญแจที่สำคัญยิ่ง สมาชิกในกลุ่มของเขาทำได้แต่เฝ้ามองไปเรื่อยๆ
กับการครุ่นคิดของวีดที่ดำดิ่งลึกลงไป

        "พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อละทีนี้?"

        "ผมก็ไม่รู้ ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถหนีออกไปพร้อมกับพวกสมบัติได้ในตอนนี้....."

        "งั้นพวกเรามาตรวจสอบพื้นที่รอบๆอีกครั้งกันเถอะ"

        "อ้า, เขากำลังหัวเราะ.งะ!

        ช่างน่าขยะแขยง, รอยยิ้มแสดงความมั่นใจอยู่บนใบหน้าของวีด

                                ***************************

        "เรียกขานธาตุไฟ, หลั่น ลัน ล้า!"

        วีดร้องเพลงขณะที่เขากำลังแกะสลักประติมากรรมแห่งจิตวิญญาณ

        "อันที่จริง, ความฟุ่มเฟือยนี่ช่างแตกต่างกันจริงๆ"

        กษัตริย์เบลซ์ออสได้ทิ้งประติมากรรมที่ยังไม่เสร็จไว้เบื้องหลังและวัตถุดิบมีอยู่ให้ทำมันจนเสร็จสมบูรณ์ได้

        หากผู้อัญเชิญธาตุเข้าสู่ภารกิจนี้ พวกเขาก็สามารถสร้างความสำเร็จได้ หรือพวกเขาอาจค้นพบจิตวิญญาณระดับสูงที่เปลี่ยนเป็นก้อนหิน พลังของจิตวิญญาณภายในก้อนหินอาจเข้ากันได้กับคุณสมบัติของผู้อัญเชิญ

        เปลวไฟลุกขึ้นอย่างมีนัยทุกครั้งที่วีดเฉือนลงบนหิน เหมือนการเติมน้ำมันลงในกระทะที่กำลังผัดจนร้อนจัดในภัตรคารจีน

- พลังชีวิตของคุณลดลง 237 หลังจากที่ถูกเปลวไฟแผดเผา

        ระหว่างที่วีดกำลังทำประติมากรรมด้วยความเจ็บปวด, คนอื่นๆกำลังกินจาจังเหมี่ยนกับหัวผักกาดดอง

        เปลวไฟโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องขณะที่เขากำลังแกะรูปสลัก มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างประติมากรรมธาตุ

        เพลเข้ามาหาและบอกข่าวกับเขา

        "คุณวีด, ได้เวลาที่พวกนั้นจะปรากฏตัวแล้ว"

        "โอ้ ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้วหรือนี่"

        สุสานของกษัตริย์เบลซ์ออสถูกพวกอสูรเข้าไปอยู่อาศัยเต็มไปหมด พวกเขาเดินเข้าไปในห้องศิลาผ่านทางเดินอื่นเป็นระยะๆ วีดต้องจัดการพวกมันพร้อมกับกลุ่มของเขาด้วย
วีดสามารถปล่อยมันให้สมาชิกในกลุ่มและสปาร์ทอยแต่เขาต้องการออกล่าด้วยตัวเอง

        "เพลงดาบประกายแสง!"

        ระดับความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นและขณะนี้ปรากฏวิหกแสง 5 ตัว เกิดประกายแสงแวบขึ้นขณะที่วิหกทั้ง 5 เข้าปะทะกับพวกมอนสเตอร์ เทคนิคดาบของเขาหมดจดเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจาก
ความเชี่ยวชาญดาบเพิ่มขึ้น

        "คุณวีด, คราวนี้มันเป็น ไอซ์ ล๊อกเกอร์"

        อสูรคลาสบอส, ไอซ์ ล๊อกเกอร์!

        "ทักษะดาบโคลนนิ่ง"

        วีดใช้ดาบโคลนนิ่งแทนเพลงดาบประกายแสง ดาบโคลนนิ่งเมื่อออกล่ามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งตัวเดียวนี่ได้ผลดีจริงๆ

        ย่า ย่า ย่า ย่า ย่า  ย๊าก.ก

        วีดสร้างโคลน 9 ตน

        กร๊าก....

        เจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์มองอย่างงงขณะที่สายตาของมันมองสลับกันไปมาระหว่างร่างโคลน

        เพล, เซเฟอร์ และเซอร์กะ ลงมือแล้ว

        "ผมด้วย!"

        วีดวิ่งเข้าหาเจ้าไอซ์ ล็อกเกอร์ ร่างโคลนของเขาก็วิ่งเข้าไปในเวลาเดียวกัน

        ฟู่..!

        เจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์เป่าลมหายใจอย่างแรงมาที่ด้านหน้าของเขา มันหนาวเย็นสุดขั้ว!

        มันโดนเข้าที่หนึ่งในร่างโคลนที่กำลังวิ่งและร่างกลายเป็นน้ำแข็ง

        กร๊าก.ก.ก.ก.ก!

        ข้อศอกเจ้าไอซ์ล๊อกเกอร์กระแทกเข้าอย่างแรงที่ร่างโคลน ร่างโคลนกลายเป็นแสงสีเทาแตกกระจาย
การโจมตีพิเศษของศัตรูมีประสิทธิภาพในการลบล้างทักษะดาบโคลนนิ่ง

        ระหว่างที่ร่างโคลนตนอื่นๆกระตุ้นการโจมตีของมอนสเตอร์, ดาบปีศาจของวีดก็โจมตีเข้าที่คอของเจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์

- คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรง!

        ร่างโคลนอื่นๆกระโจนขึ้นไปหาเจ้าไอซ์ ล๊อกเกอร์ วีดรุกอย่างต่อเนื่องด้วยการโจมตีของเขา

- คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรง!
- คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรง!
- คุณได้ทำความเสียหายร้ายแรงต่อเนื่อง!
- ไอซ์ ล๊อกเกอร์โดนโจมตีที่หัวและติดสถานะสับสน

        "รุมมัน!"

        หลังจากที่มันตกอยู่ในอาการสับสน, ทุกคนรวมตัวกันและรุมกระหน่ำโจมตีใส่มันอย่างไร้ความปราณี!

        "ตาย"

        "โจมตีมัน!"

        ตอนนี้เซเฟอร์และเซอกะที่กำลังรอโจมตี เวทย์ของโรมูนะและลูกศรของเพลก็โจมตีด้วย

        'รุมมัน!'ของวีดเป็นการให้สัญญาณ!

        ฮวายองและเบลล๊อทที่มีพลังโจมตีต่ำ, พลังป้องกัน และพลังชีวิตธรรมดาไม่สามารถมีส่วนร่วมในการรบระยะประชิด แต่พวกเขายังมีบทบาทอย่างแข็งขัน พวกเธอจิ้มมันด้วยมีดสั้นและออกล่ามันด้วยอุปกรณ์ที่ทำด้วยเหล็ก วีดโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยทักษะดาบโคลนนิ่งระหว่างที่เซเฟอร์และเพื่อนๆในกลุ่มให้การสนับสนุนเขา

        มันเป็นปาร์ตี้ที่ยอดเยี่ยมเมื่อใช้จัดการกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง! เจ้ามอนสเตอร์อ่อนแรงลงหลังจากที่มันสับสนจากการทำความเสียหายรุนแรงอย่างต่อเนื่องดังนั้นมันจึงจัดการได้ง่ายขึ้น

        สไตล์การต่อสู้ของเขาเปลี่ยนไปแล้วหลังการจากได้เรียนเทคนิคดาบลับ
ดาบโคลนนิ่งมีประสิทธิภาพดีมากในการออกล่าพวกมอนสเตอร์หลายๆตัวในเวลาเดียวกัน
พวกร่างโคลนช่วยในการป้องกันและยังช่วยปรับปรุงการสร้างเสียหายทั้งหมด

        แม้ว่าการใช้มานาอย่างรวดเร็วจะเป็นข้อเสีย, แต่ก็ทำให้การออกล่าเร็วขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้, มานาของเขาคืนกลับมาใหม่เร็วมาก ต้องขอบคุณแหวนของเขา, กำไลของบาฮาราน และฮีเลียมในชุดเกราะอัศวินแห่งองค์เทพีดังนั้นเขาไม่ได้รู้สึกต้องการออมการใช้ดาบโคลนนิ่งของเขา

        พวกนักดาบยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากทักษะได้อย่างเหมาะสมแต่วีดใช้ประโยชน์มันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

        "เทคนิคดาบลับนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ!"

        เขาได้ทั้งค่าความเชี่ยวทักษะ,ประสบการณ์และไอเท็ม!

        วีดและเพื่อนๆในกลุ่มได้นำถุงมากมายเข้าไปในดันเจี้ยน มันเต็มไปด้วยไอเท็มจากการออกล่า

        - ให้ผมออกไปตอนนี้เลยมั้ยครับ?

        - คอยอีกสักนิดน่าจะได้นะครับ

        เมแพนส่งกระซิบถึงเพลเป็นระยะๆเพื่อยืนยันถานการณ์ เมื่อเร็วๆนี้เขาได้ซื้อการ์กอยล์เชื่องๆ มา 12 ตัวในราคาแสนแพง มีเพียงพ่อค้าเลเวลสูงสุดเท่านั้นที่สามารถมีหน่วยบินการ์กอยล์ในการขนส่งสินค้า

        เมแพนตระเตรียมในการเข้าไปหาและทำการค้าได้ทุกเวลา

        กลุ่มของวีดใช้ทุกวิธีในการออล่าที่โบราณสถานแห่งนี้

        "สถานที่ออกล่าแบบนี้แหละเยี่ยมสุดๆไปเลย"

        มีพวกอสูรมากมายด้วยเหตุนี้ ไอเท็มอย่างอัญมณีของกษัตริย์เบลซ์ออสก็ดร็อปได้ด้วยเช่นกัน
มันจะแตกต่างออกไปถ้าเขามาคนเดียวแต่เพื่อนร่วมกลุ่มของเขาเชื่อถือได้เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ
ตอนนี้วีดสามารถรับมือกับมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยตัวเองได้แล้ว, เขาไม่ต้องมากังวลเรื่องการป้องกันมากเท่ากับการสร้างความเสียหายให้สูงขึ้น

        ทักษะของพวกเพื่อนๆก็เข้ากันได้ดี พวกเขาเติบโตมาด้วยกันจากระยะเริ่มต้นของเกมส์
ดังนั้นพวกเขาสามารถเข้าใจความหมายได้ด้วยการมองตากันเพียงแค่ครั้งเดียว

        'เขาตั้งใจจะออกล่ามากกว่า 3 ชั่วโมง อืม.ม, ขาของผมไม่มีความรู้สึกแล้ว'

        'เพราะว่าอสูรจำนวนมากพวกนั้นออกมา ผมได้เพิ่มค่าสถานะความอดทนของผมอีกครั้งในขณะที่ออกล่ากับคุณวีด "

        'อ่า, ฉันอยากให้คุณวีดเตรียมอาหารชั้นเยี่ยมและฉันอยากเดินไปรอบๆด้วยการสวมรองเท้าและชุดใหม่ที่ฉันซื้อมา'

                        ************************************

        "คุ.คุ.คุ.อุ"

        "พี่สี่, นี่เก่งจริงๆ"

        "ใช่ นี่ละรสชาติของการออกล่า"

        ลูกศิษย์นักดาบก็ใช้ดาบโคลนนิ่งและเพลงดาบประกายแสงด้วย พวกมอนสเตอร์เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆดังนั้นมันต้องใช้มากกว่าพวกทักษะวิชาดาบพื้นๆ เพื่อออกล่าพวกมันได้อย่างเหมาะสม

        พวกเขาพบว่ามันสนุกกับการหาขุมสมบัติในดันเจี้ยนหรือล่าพวกมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยกัน
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับพวกมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยพวกเขาเองแต่การรวมพลังกันของพวกเขาเปรียบได้กับโทษประหาร(สำหรับมอนสเตอร์)

        การกวัดแกว่งดาบขณะขี่บนหลังม้าหรือไวเวินเป็นความหลงไหลไฝ่ฝันของบุรุษ!

        "มันช่างน่าตื่นเต้น"

        "ใช่ครับ, ท่านอาจารย์!"

        "ไปสนุกสุดเหวี่ยงกันเลยพวกเรา!"

        พวกออร์คขณะนี้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับป้อมปราการเวอร์โก้และพวกผู้เล่นเลเวลสูงก็มาด้วยจำนวนมาก
พวกลูกศิษย์นักดาบเอาชนะพวกมอนสเตอร์และยึดเทือกเขาขรุขระ

        พวกเขาปีนขึ้นไปบนยอดสูงของภูเขาและตะโกนอย่างคึกคะนอง ก้อนเมฆเคลื่อนตัวไปรอบๆข้างใต้พวกเขา มันเป็นภาพทิวทัศน์ที่น่าประทับใจ พวกนักดาบสนุกสนานกับชีวิตในป่าเขา
ขณะที่พึ่งพิงในพลังอันแข็งแกร่งของพวกเขา!

        พวกครูดาบและเหล่าลูกศิษย์ไม่ได้กังวลใจเรื่องเลเวลของพวกเขา พวกเขาพอใจที่สามารถต่อสู้ได้อย่างอิสระ พวกเขาวิ่งลงภูเขาบนเส้นทางที่ปกคลุมด้วยน้ำค้างของรุ่งอรุณ ด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ
รู้สึกเหมือนพวกเขาได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์

        ทักษะความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธของพวกเขาเพิ่มขึ้นและรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาสามารถต่อสู้เช่นนี้

        ได้สะสมประสบการณ์และพวกเขาได้รับเลเวลและไอเท็มเพิ่มขึ้น พวกเขาปรับตัวหลังจากใช้เวลาในป้อมปราการเวอร์โก้และระยะหลังๆนี้มีผู้เสียชีวิตน้อยลง

        "เบอร์ 2"

        "ครับ, ท่านอาจารย์"

        "พวกเรามีแผนที่ค่อนข้างเก่าของรอยัลโรด"

        "เวลาผ่านไปแล้วครับ, ท่านอาจารย์"

        "ช่าย....."

        อาจารย์นักดาบมองไปที่ดาบเหล็กในมือขวาของเขา

        'ฉันได้เข้าใจถึงรสชาติ'

        เขาคิดว่าความเสมือนจริงนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลงพัฒนาขึ้น,มีโอกาสเล็กน้อยที่จะโชว์มันในสภาพที่เป็นจริง แม้มีการทะเลาะกันกับคนอื่น, คุณก็ไม่ควรที่จะต่อสู้หรือโจมตีผู้อื่น ศิลปะการต่อสู้เป็นเพียงการใช้เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับผู้คน

        รอยัลโรดได้ช่วยบรรเทาความปรารถนาของเขา

        "นักเรียนที่จับท่อเหล็กในชั้นมัธยมต้นก็ชอบสิ่งนี้"

        "พวกลูกศิษย์ก็ชอบมันเหมือนกัน"

        ศิษย์ของสำนักได้ผจญภัยในรอยัลโรดขณะเดียวกันความเสี่ยงตายก็เพิ่มขึ้นในทุกๆการต่อสู้
พวกเขาเต็มอกเต็มใจเข้าแคปซูลแม้กระทั่งสุดสัปดาห์หรือช่วงพัก

        "แต่มันแข็งแกร่งจริงๆ"

        ขณะที่อาจารย์นักดาบกำลังตรวจสอบดาบของเขา, นักดาบ5เข้ามาและถามเบาๆ

        "ถ้าพวกเราไม่ทำให้ดีที่สุดที่นี่แล้วความภาคภูมิใจของเราจะไม่เสียหายหรือครับ?"

        เหล่าอาจารย์และศิษย์ยอมรับความตายอย่างเบิกบานใจ

        ในรอยัลโรด, มันยากที่จะเอาชนะถ้ามีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องเลเวลหรืออุปกรณ์
การตัดสินใจและการตอบโต้ของร่างกายเป็นตัวช่วยอย่างมากแต่มันก็มีข้อจำกัด

        "ฟังเหมือนมีฝันสนุกๆที่นี่..."

        "....."

        "ข้าต้องการให้เจ้าเรียนวิชาดาบนี่ ด้วยการเรียนเพลงดาบ, เจ้าจะจบลงด้วยการมองที่ตัวเจ้าเอง.

        ในความเป็นจริง, แม้ว่าพวกเขาจะฝึกซ้อมกันมาเป็นสิบปีกระนั้นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว พวกเขาอาจต้องจ่ายด้วยชีวิต พวกเขาเต็มไปด้วยพลังเมื่อยังเยาว์วัย แต่กลับกลายเป็นคนอ่อนแอครั้นเมื่อพวกเขาแก่ชรา

        แม้ว่าจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่นั่นก็ยังเป็นชีวิตอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่เหล่าอาจารย์เลือกเส้นทางที่ยากลำบากในการเรียนรู้ดาบ หากพวกเขาได้ลิ้มรสความทุกข์ยากทางกายอย่างแท้จริง, ภัยคุกคามสู่ชีวิตของพวกเขาและความสุขของการกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างนั้นแล้วพวกเขาจะเป็นนักดาบผู้ยิ่งใหญ่

        เมื่อสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดแข็งแกร่งขึ้น, พวกเขาจะพบเสียงจากภายในของพวกเขา

        "พวกเราจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งขึ้น ในสถานที่แห่งนี้"

        "ดังนั้น....."

        "นี่จะเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี"

                        ********************************

        วีดเหลือเพียง 6 วันในสุสานกษัตริย์เบลซ์ออส นั่นเป็นเพราะว่าภารกิจของมังกรปีศาจไคย์เบิร์นมีการจำกัดเวลา!

        "ไอ้เลวนี่, เจ้าจิ้งจกนิสัยเสียไม่ช่วยทำอะไรเลย!"

        ขณะที่ออกล่าและสร้างประติมากรรม, เขาได้ยินข่าวลือจากภายนอก

        - บาร์ดเรย์ทำภารกิจอื่นสำเร็จแล้ว

        - แล้วมันได้ออกอากาศโชว์หรือยัง?

        - ยัง ข่าวเพิ่งรั่วออกมา มันจะออกอากาศเย็นนี้

        บาร์ดเรย์ได้สำเร็จภารกิจปรมาจารย์ลำดับที่ 15 ของเขา จำนวนขั้นของภารกิจปรามาจารย์โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 15-20 ขั้ นดังนั้นเขาเกือบจะจบแล้ว

        วีดยังอยู่เพียงภารกิจที่ 14 ภารกิจของประติมากรอาจจะสั้นกว่าของอัศวินทมิฬเนื่องจากโชคอยู่บ้างแต่เขาค่อนข้างเสียเปรียบ

        "เอิ่ม.ม!"

        เขารู้สึกปวดท้องในขณะที่เขากำลังทำประติมากรรมธาตุ

        "ถ้าฉันปวดท้องอย่างนั้นฉันต้องกินยาสักหน่อย"

        เมื่อพิจารณาถึงว่าเขาไม่ได้ชักช้าในการพบเจอกับไคย์เบิร์น, ไม่มีเวลาให้เสียมากนัก
ข้อดีคือครึ่งหนึ่งของมันได้ทำไว้แล้วแต่มันเป็นเรื่องยากที่จะเร่งส่วนที่เหลือ

        ประติมากรรมธาตุก่อให้เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่ทุกครั้งที่ใช้มีดแกะสลักดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงแย่มากมันลดพลังชีวิตของเขาและยังขัดขวางการมองเห็นด้วย วีดต้องอดทนกับความยุ่งยากของไฟ
เพื่อที่จะทำประติมากรรมที่จัดการยากให้สำเร็จ การเร่งงานขึ้นจะทำความเสียหายให้กับชิ้นงานดังนั้นเขาต้องตั้งใจและพิถีพิถันมาก

        "ถ้าฉันจัดการเพิ่มเลเวลของฉันได้ด้วยวิธีใดก็ตามแล้วฉันจะฆ่าไอ้เห้นั่น...."

        เขาเคยล่าพวกมังกรเมื่อเล่นคอนติเนนท์ออฟเมจิก วีดได้ให้สัญญาไว้เพื่ออนาคต

        ตริ้ง!

               
โปรดตั้งชื่อประติมากรรมชิ้นใหม่


        "เครื่องบรรณาการจากประติมากรน้อยถึงเบลซ์ออส เลอ ดิอุส ที่3"

        วีดได้ทำประติมากรรมธาตุสำเร็จ คำประจบสอพลอขณะตั้งชื่อเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้!

               
 เครื่องบรรณาการจากประติมากรน้อยถึงเบลซอส เลอ ดิอุส ที่3 ถูกต้องหรือไม่?


        "เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่สามารถทำงานเกี่ยวกับประติมากรรมธาตุต้นแบบที่สร้างโดยกษัตริย์ นี่ละถูกต้อง!"

        วีดปล่อยโฮ เขามีเวลาอีก 6 วันเพื่อทำภารกิจของไคย์เบิร์นให้สำเร็จ

       
        -งานศิลป์ชั้นเอก! เครื่องบรรณาการจากประติมากรน้อยถึงเบลซอส เลอ ดิอุส ที่3 ได้สำเร็จแล้ว
                        กษัตริย์เบลซอสมีชีวิตโดดเดิ่ยวขณะที่ทำพวกประติมากรรม
                มีผู้คนไม่มากนักที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประติมากรรมของเขาดังนั้นพวกศิลปินจึงไม่สามารถประเมินค่ามันได้อย่างถูกต้อง
                        กษัตริย์เบลซอสทิ้งผลงานที่ยังไม่เสร็จแล้วประติมากรอัจฉริยะวีดผู้เจิดจรัสดั่งดาวหางบนทวีปได้ทำมันจนเสร็จสิ้น
                        ทั้งประติมากรวีดยังเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาเพ่น
                พวกประติมากรรมของเขามักเคยเป็นหัวข้อใหญ่บนทวีปเสมอและพวกชนชั้นสูงก็ปรารถนาชิ้นงานของเขา
                        ถ้าชิ้นงานที่โดดเด่นนี้กลายเป็นที่รู้จักแล้วมันจะเป็นโอกาสในการประเมินศิลปกรรมของกษัตริย์เบลซ์อส
                คุณค่าทางศิลป์ : ต้นแบบเป็นของปรามาจารย์ประติมากรเบลซ์ออสและได้ร่วมทำในประติมากรรมชิ้นถัดมา = 19,834
                คุณสมบัติพิเศษ : เบลซ์ออส...การฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาจะเพิ่มขึ้น 31% ต่อวัน
                        - พลังทั้งหมดของจิตวิญญาณแห่งไฟทั่วทั้งทวีปจะเพิ่มขึ้น 3.2%
                        - เลเวลทักษะของผู้อัญเชิญธาตุไฟจะเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์
                        - จิตวิญญาณแห่งไฟจะปรากฏมากขึ้น
                        - พลังของเวทย์แห่งไฟใดๆในบริเวณใกล้เคียงประติมากรรมจะเพิ่มขึ้น
                        - ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 24
                ประสิทธิผลที่เกิดไม่ซ้อนทับกับประติมากรรมอื่น จำนวนของงานศิลป์ชิ้นเอกที่สร้างขึ้นแล้วในปัจจุบัน : 15
                - ความเชี่ยวชาญทักษะของการแกะสลักเพิ่มขึ้น
                - ความเชี่ยวชาญทักษะของหัตถกรรมเพิ่มขึ้น
                - ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,953
                - ค่าสถานะทางศิลป์เพิ่มขึ้น 21
                - ความอุตสาหะเพิ่มขึ้น 7
                - เสน่ห์เพิ่มขึ้น 9
                - จิตวิญญาณการต่อสู้เพิ่มขึ้น 3
                - ความใกล้ชิดธรรมชาติเพิ่มขึ้น 37
                - คุณได้สร้างประติมากรรมของกษัตริย์แห่งธาตุไฟ
        เนื่องจากประสบการณ์พิเศษ, ความต้านทานไฟของคุณเพิ่มขึ้น 3.4%
        - ทุกสถานะจะได้รับเพิ่มขึ้น 3 แต้มจากการทำประติมากรรมชิ้นเอก

        วีดไม่ได้สร้างประติมากรรมด้วยตัวเขาเองดังนั้นเขาเขาจึงได้รับค่าสถานะน้อยลง แม้กระนั้น, มันก็ยังเป็น งานศิลป์ชิ้นเอก ดังนั้นมันจึงให้ผลผลิตที่ยิ่งใหญ่

        'ความพยายามทั้งหมดทั้งมวลของฉันเหงื่อและเลือดที่ฉันปลดปล่อยไปเป็นรางวัล นี่เป็นสิ่งที่ยากลำบากเป็นพิเศษไม่ใช่ว่าทุกๆประติมากรรมมันจะง่ายไปหมด'

        กษัตริย์เบลซ์ออสมีเปลวเพลิงห่อหุ้มรอบๆทั้งร่างของเขา มันยากก็เพราะเขาต้องแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ,ไม่ใช่ทำเลียนแบบ แต่เขาก็สามารถทำสำเร็จได้ไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่เปลวไฟ

        ประติมากรรมส่วนใหญ่ผสมผสานเข้ากับทัศนียภาพโดยรอบ บางส่วนก็ให้ความรู้สึกสงบท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆขาว อุทยานแห่งทวยเทพเป็นผลงานศิลปะอลังการที่ได้แผ่ขยายสู่ท้องฟ้าและ
รวมผืนแผ่นดินเข้าไว้ด้วยกัน
       
        แสงที่เปล่งออกมาจากประติมากรรมกษัตริย์แห่งธาตุไฟได้ปลดปล่อยตัวตนอันแข็งแกร่งออกมา

        วีดพอใจกับตัวเอง

        'วัสดุเหล่านี้ดีจริงๆ'

        เพื่อนๆในกลุ่มก็ชื่นชมผลงานด้วย

        "ตามที่คุณวีดคาดไว้, คุณได้สร้างผลงานศิลป์ชั้นเอก"

        "ผมก็รู้ว่าจะต้องออกมาเป็นงานชั้นเยี่ยม"

        "....."

        เพื่อนๆในกลุ่มยอมรับว่าประติมากรรมที่เขาทำขึ้นด้วยความยากลำบากอย่างมากอย่างกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา!

        วีดฝืนยิ้มบนริมฝีปากเขา

        ต้องขอบคุณความต้านทานไฟที่เพิ่มขึ้น, การออกล่ากลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยปรกติแล้วเวทย์น้ำแข็งเป็นอันตรายมาก ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนที่และทำให้สูญเสียพลังในการต่อสู้ แต่มอนสเตอร์
จำนวนมากใช้ไฟและมีคาถาไฟที่เป็นอันตราย

        นอกจากนี้, ถ้าการต้านทานไฟของเขาขึ้นไปถึง 100% แล้วเขาสามารถใช้ดาบมังกร(the Dragon Sword),
ดาบดาวสีชาด(the Red Star) ความต้านทานไฟของวีดอยู่ที่ประมาณ 7% แล้วต้องขอบคุณวงแหวนเวทย์ใน ลาสฟาร์ลังก์
และตอนนี้มันได้เพิ่มขึ้นอีก 3.4% ถ้าเขาใช้อุปกรณ์อย่าง แหวนวิศรุตเพลิง(the Ring of Famous Fire; วิศรุต=ผู้มีชื่อเสียง)
แล้วความต้านทานไฟของเขาจะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่านี้

        'ถ้าฉันซื้อสร้อยคอหรือสร้อยข้อมือแล้วฉันสามารถเพิ่มมันได้อีก 79%'

        ถ้าเขาใช้ประติมากรรมแปลงร่างที่เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์และทักษะช่างตีเหล็กของเขาถูกนำมาใช้แล้วเขาสามารถใช้ความได้เปรียบกับดาบดาวสีชาดได้

        'วันนั้นจะมาถึงเมื่อฉันสามารถใช้ไอเทมนั่น ฉันจะไม่ยอมโยนอะไรทิ้งเด็ดขาด'

        การได้เก็บแจ๊บเทมทำให้เขารู้สึกดีขึ้น มันเป็นความมุ่งมั่นที่ต้องการประหยัดแบบสุดๆที่จะส่งต่อผ้าอ้อมใช้แล้วให้กับเด็กคนอื่นๆ! (ผ้าอ้อมผ้าใช้แล้วซักเอามาใช้ต่อได้ไม่ใช่แบบใช้แล้ว
ทิ้งแบบปัจจุบันนะครับ)

        ความต้านทานจะเปลี่ยนไปตามชนิดของประติมากรรมแปลงร่างที่วีดได้เปลี่ยนไป
แต่ถ้าเขาเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้วเขาก็สามารถใช้มันได้

        มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเจ้าของตัวจริงของดาบมังกร

        "นี่เป็นเรื่องลำบากจริงสำหรับสินค้าขโมย"

        หลังจากพบกับมังกรปีศาจไคย์เบิร์น, วีดได้ตระหนักแล้วว่าเขาไม่สามารถใช้มันสำหรับการออกล่าตามปกติได้
ถ้าเขาใช้มันพอสมควรในช่วงเวลาที่สำคัญแล้วเขาสามารถเห็นมันได้ราคาสูงเมื่อเวลามาถึง

        ในขณะนั้นอุณหภูมิในห้องศิลาก็สูงขึ้น อุณหภูมิสูงเหมือนเปลวไฟปรากฏยามเที่ยงวันในทะเลทราย

        รูปประติมากรรมทองคำแมงป่องขนาดใหญ่ลืมตาขึ้น

        "อืม.ม.ม....."

        "นี่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงใช่ไหม?.

        "ยังไงก็ตามสัญญาณมันดูไม่ดี"

        วีดและเพื่อนๆในกลุ่มระลึกถึงความทุกข์ทรมานขอกิลด์ปีกสีชาดในอดีต กษัตริย์เบลซ์ออสได้ทำลายทางเข้าอย่างรวดเร็วและทวีปตกอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง

        "อึก.."

        วีดระมัดระวังเหมือนกับเวลาที่เขาได้ยินว่าก๊าซของเมืองขึ้นราคาจากข่าวเช้า 9 โมง

        เปลวเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วและมีจิตวิญญาณแห่งไฟโบยบินออกมา จิตวิญญาณแห่งไฟเคลื่อนที่ไปรอบๆด้านในของห้องศิลา มันเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมแต่ก็น่ากลัว

        ประติมากรรมธาตุไฟเริ่มการเผาไหม้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ให้ชีวิตมัน

        - พวกมนุษย์ได้มาเยือนดินแดนแห่งเรา....

        การเสด็จครั้งที่สองของกษัตริย์เบลซ์ออส! วีดคุกเข่าลงอย่างไว

        "ข้าพระองค์ขอนอบน้อมแด่มหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เบลซ์ออสและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาท
กระหม่อมเป็นประติมากรน้อยที่กำลังเดินทางในทวีป กระหม่อมมาที่นี่เนืองด้วยภารกิจของมังกรปีศาจผู้ชั่วร้ายไคย์เบิร์น
แต่มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เฝ้าฝ่าบาท!"

        วีดรัวคำเยินยอราวกับปืนกล! กษัตริย์เบลซ์ออสมองไปที่วีดและเพื่อนๆของเขา

        - เจ้ามีคุณสมบัติที่จะพบข้า โดยมิได้มืดบอดด้วยความโลภ.... ผ่านการทดสอบของข้าเก่งมาก

        ตรุ๊ม! (Ddukkum!)

        พระองค์ไม่ใช่แค่พูดคุยกับวีดแต่กับปาร์ตี้ที่มุม

        - และมีคนไปตามเส้นทางของฉันสู่ความรุ่งโรจน์

        กษัตริย์เบลซ์ออสถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง และกษัตริย์เบลซ์ออสก็เดินมาพร้อมกับไฟของเขาไปหาวีด

        - เงยหน้าของเจ้าและลุกขึ้น ผู้ที่ตระหนักถึงความงามอันแท้จริงไม่ต้องก้มหัว

       
- ศักดิ์ศรีและเกียรติยศเพิ่มขึ้น 24 หลังจากได้รับการยอมรับโดยเบลซ์ออส, กษัตริย์ของจิตวิญญาณแห่งไฟ


        วีดสั่นหัวอย่างแรง ถ้าเขาสามารถมีอำนาจแบบนั้นได้แล้วโลกคงจะดี ด้วยวิธีใดก็ตามเขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอด

        'ฉันจะทำแต้มมากขึ้นหรือไม่ถ้ามีชีวิตแบบนั้น? มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ฉันต้องสุภาพ นี่ดูเหมือนกติกามรรยาทระหว่างประติมากรแต่มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับประติมากรอื่นที่ได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน'

        วีดตัดสินใจก้มหัวลงเล็กน้อย

        กษัตริย์เบลซ์ออสมีบุคลิกที่โหดเหี้ยม เหมือนเมื่อในอดีตเมื่อเขายังเป็นมนุษย์และเมื่อเขาอำมหิต
สำแดงความไม่พอใจต่อกิลด์ปีกสีชาด เขายิ่งน่ากลัวขึ้นในตอนนี้ ดังนั้นวีดจึงสุภาพอย่างมาก

        เหมือนเด็กข้างบ้านในห้องอาบน้ำสาธารณะที่จะปฏิบัติตนก่อนที่จะช่วยนวด(กระตุ้น)ร่างกายให้คนอื่นๆที่นั่น

        "มิเป็นการสมควรพะยะค่ะเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว นี่ก็สบายสำหรับคนอย่างกระหม่อมผู้ที่ได้ตามรอยของประติมากร"

        เขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของกษัตริย์เบลซ์ออสมาก่อนแต่คำพูดก็ไหลลื่นออกมาจากปากของวีด

        มันเป็นเสียงของปรมาจารย์แห่งการเยินยอ!
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

10 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ กะลังจะเริ่มมันอีกรอบ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ กำลังสนุกเลย

    ตอบลบ
  3. ลิ้นแตกเป็นห้าแฉกเลยสำหรับวีด ชะเลียเก่งเกิน

    ตอบลบ
  4. จะได้อะไรเป็นของฝากกันนะ

    ตอบลบ
  5. เลียเก่ง แต่กระผมสายบะๆๆเบรินเรอะๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณครับ..ต่อเนื่องเลยกำลังค้างงงงง

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากๆเลย

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...