วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เล่มที่ 20 ตอนที่ 3: ราตรีของเหล่าอันเดด แปลโดย Cole’s Myth

เล่มที่ 20 ตอนที่ 3: ราตรีของเหล่าอันเดด แปลโดย Cole’s Myth

กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นกับกลุ่มโจรสลัดได้จับมือต่อสู้ร่วมกัน แล้วก็เริ่มดำเนินการยึดครองลาส ฟาลังคซ์ด้วยแรงฮึดเต็มเปี่ยม
ถ้าหากนับจำนวนรายหัวของเหล่าอันเดดที่วีดอัญเชิญออกมานั้นน้อยกว่ามาก ซึ่งถือว่าขาดแคลนพอตัวเลยทีเดียว
แต่ว่ายังไงก็ตาม ถ้าหากว่าคุณอัญเชิญอันเดดอย่างผีดิบซอมบี้มารวมตัวกัน นั่นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายเลย
การต่อสู้กับพวกดรินเฟลด์ ผู้เล่นทั้งหลายหรือแม้แต่พวกลูกเรือนั้นไม่อาจเลี่ยงได้เลย เพราะงั้นขอบเขตการอัญเชิญก็ควรจะต้องเป็นระดับเดทไนท์เป็นอย่างน้อย
 พวกพ้องที่ฉันต้องหาก็คือ……”
มีมอนสเตอร์แข็งแกร่งมากมายอยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ ไม่มีมอนสเตอร์แม้ซักตัวเดียวที่ควรจะมองข้าม
ถ้าหากว่าคุณเพิ่มค่าความสนิทสนมและค่าความเป็นมิตรเอาไว้มากๆพวกมันก็อาจจะช่วยคุณได้
กับมอนสเตอร์ที่ระดับสติปัญญาต่ำและก็มีนิสัยตะกละตะกลามขั้นรุนแรง การทำอาหารเลิศรสให้พวกมันก็สามารถทำให้พวกมันซึ้งใจได้
บางสิ่งบางอย่างเช่นพรสวรรค์ก็อาจจะเป็นที่ต้องการเช่นกัน หากว่ามองไปที่กลวิธีในการผูกมิตรไมตรี จากนั้นการจะออกไปต่อสู้ผ่าวิกฤติไปร่วมกันก็อาจกลายเป็นพรที่ถูกประทานมาให้ก็ได้
 “เอออออออ พวกแกที่อยู่ตรงนั้นนะ…..”

แล้ววีดก็ตัดสินใจพูดกับพวกบอลลาร์ด
กร้ารรรรรรรรร!
ทันทีที่ขนของพวกมันลุกพองขึ้น พวกมอนสเตอร์ก็โจมตีมาทันที!
ขณะที่ได้ออกล่าไปมากกว่า 1,000 ตัว เขาก็รวบรวมได้ทั้ง หนัง ฟัน หางของพวกมอนสเตอร์แล้วก็เอาส่วนเนื้อมาทำเป็นเนื้อตากแห้ง
คงเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่เป็นอริยังไม่จางหายไป พวกบอลลาร์ดก็ไม่แม้แต่จะยอมเชื่อฟังเขาเลย
พวกไทร์เบธ มอนสเตอร์จำพวกค้างคาวก็ยังไม่เข้าใจภาษามนุษย์อีก แต่พวกมันก็ยังทำหน้าที่ของพวกมันจนเสร็จสิ้นจากการรวมตัวเป็นฝูงดีเสียมากกว่าทำงานตัวเดียว
 พวกไทร์เบธก็มีส่วนที่จะเป็นประโยชน์อยู่ละนะ
แล้วถึงแม้ว่าจะใช้ทักษะประติมากรรมจำแลงเพื่อเปลี่ยนไปเป็นไทร์เบธ แต่เพราะเขาไม่รู้ภาษาของพวกมันก็กลับเป็นว่ามันก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี
 แต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็ค่อยทำให้พวกมันเป็นพวกพ้องฉันได้หนิ คิดว่าละนะ
วีดพูดออกมาอย่างมั่นใจ
การล่าในเขตลาส ฟาลังคซ์มาเป็นเวลานานสร้างความอาฆาตแค้นรุนแรงมาก นั่นหมายถึงพวกมันอาจจะเข้าโจมตีด้วยความโกรธแบบไม่มีข้อแม้เลยก็เป็นได้!
ความอาฆาตแค้นของเหล่ามอนสเตอร์เขตลาส ฟาลังคซ์ที่พุ่งเป้าไปที่แวนฮอร์คกับโทริก็ยังคงดูหวาดหวั่นมากอยู่ดี
ถึงแม้ว่าพวกมันจะเจอเขาอยู่นอกฐานที่มั่นของพวกมันแต่พวกมันก็ยังคงโจมตีเขาอยู่ดี
 ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าสัก 30 ตัว ไม่น่าจะเป็นปัญหาสักเท่าไหร่
ค่อยคิดเรื่องผลลัพธ์หลังจากนี้ละกัน!
 “ในตอนที่พวกคุณรู้สึกหิวโหยมาเป็นเวลานานมากๆ ก็คงแยกไม่ออกหรอกหากกินระหว่างเนื้อหมูแช่แข็งกับหมูย่างนะ
แม้ว่าพวกมอนสเตอร์นั้นไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเหลือเราก็เพียงพอแล้ว ตราบเท่าที่พวกมันยังไปต่อสู้กับกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นแล้วก็พวกโจรสลัดนั่นได้น่ะนะ
 ยังคงตามมาสินะ ฉันปล่อยให้พวกมันอยู่ตามลำพังแล้วนะ แต่พวกมันก็ยังคงจะตามฉันมาอยู่อีก คาดไม่ถึงจริงๆ…….”
ตอนที่คุณออกไปล่าหรือออกไปสำรวจ ทันใดนั้นคุณก็โดนล้อมกะทันหัน มันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะโดนฆ่าตายไป แม้ว่าหนทางเดียวเพื่อที่จะลดข้อเสียเปรียบนั้นลงได้ ก็คือการชิงโจมตีก่อนนั่นเอง

อย่างน้อยที่สุด ศัตรูนั้นก็คงไม่อาจคาดเดาไว้ได้ว่าวีดจะเป็นฝ่ายซุ่มโจมตีพวกเขาก่อน
 “คงต้องเลือกวันดีๆเพื่อโจมตีพวกมันละ โชคดีจริงที่มาถึงลาส ฟาลังคซ์ก่อน ฉันคงนึกทั้งหมดนั้นไม่ออกแน่ว่าจะต้องชิงข้อได้เปรียบก่อน อัญเชิญ ศิลาพิโรธ!(Angry Stone)”
ช่างเป็นธรรมชาติที่โหดเหี้ยมและอารมณ์ฉุนเฉียวซะจริง แต่ยังไงถ้าหากพวกมันยังอยู่ใต้อำนาจของเจ้านาย พวกศิลาพิโรธก็ยังคงเชื่อฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัดอยู่ดี
ภายในโมราต้าเหล่าชาแมนสายธาตุนั้นได้ทำสัญญากับเหล่าศิลาพิโรธเพื่อไปออกล่า
ต้องขอบคุณพวกศิลาพิโรธจริงๆ พลังทางภาคพื้นดินมีพละกำลังมากขึ้นนิดหน่อย
หากจะพูดถึงพวกศิลาพิโรธนั้น อุณหภูมิรอบๆที่สูงปรี๊ดของพวกมันสามารถหลอมละลายทุกอย่างได้อย่างเห็นได้ชัด
 “นายท่าน นานมากแล้วตั้งแต่ที่เราได้พบกัน
 “ไม่เจอกันนานนะ
 “คริฮี่ฮี่ นี่ละคนโปรดของข้า
หลังจากถูกอัญเชิญมาที่เขตลาส ฟาลังคซ์ เหล่าศิลาพิโรธชื่นมื่นเบิกบานอย่างกับเด็ก พวกมันสามารถระบุถึงที่ตั้งต่างๆทั่วพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ที่วีดไม่ได้อัญเชิญพวกศิลาพิโรธออกมาตั้งแต่ออกล่าทีแรกก็เพราะการขัดขวางของพวกมอนสเตอร์และจำนวนของมานาที่ต้องใช้
เหล่าศิลาพิโรธอาจจะมีค่าความทนทานเปลวไฟสูงมากกว่าพวกมอนสเตอร์ของเขตลาส ฟาลังคซ์ด้วยซ้ำไป
ในบางครั้งคุณสมบัติของไฟจะช่วยในการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตของมอนสเตอร์ได้ แทนที่จะทำให้ความเสียหายให้พวกมันซะอีก นั่นเลยบังคับให้วีดไม่จำเป็นต้องสนใจพวกมันมากมายนัก
 อัญเชิญ ปราชญ์แห่งผืนพิภพ(Earth Expert)”
จากรูปทรงและความรู้สึกที่น่าพึงพอใจของพวกตัวโตเต็มวัยแสนนิสัยดีนั้น
เหล่าปราชญ์แห่งผืนพิภพได้ถูกอัญเชิญออกมา
พวกปราชญ์แห่งผืนพิภพก็เชื่อฟังคำสั่งดีเช่นกันแม้จะโยนตัวพวกมันทิ้งไป
มันก็พร้อมที่จะอุทิศตัวเพื่อปกป้องเหล่าชาแมนสายธาตุ
ด้วยความพยายามอย่างมากเพื่อจะทำสัญญาให้ได้ พลังรบที่คุณสามารถสำแดงฤทธิ์ออกมาได้ก็เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน ทั่วทั้งโมราต้าธาตุที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ ศิลาพิโรธ กับ ปราชญ์แห่งผืนพิภพ
 ท่านเรียกขานข้าหรือ นายท่าน?”
วีดก็ได้เรียกเหล่าปีศาจธาตุออกมาเท่าที่ทำได้แล้ว! มุมปากของเขาก็ได้ปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้ายขึ้นมา



 “พวกแกมาแหยมกับฉันก่อนนะ จริงๆฉันก็ไม่ได้อยากจะสู้หรอกแต่ก็คงช่วยไม่ได้ละ เป็นความผิดของพวกแกเองนะ
เขาได้เปลี่ยนเข้าสู่โหมดพร้อมรบสมบูรณ์ในทันที เตรียมระดมกลวิธีอันร้ายกาจออกมาจนหมดสิ้น ส่วนความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความสับสนนั้นไม่แม้แต่ยอมให้ปรากฏออกมาตั้งแต่แรกแล้ว
 “คึๆๆๆๆๆ
ขณะที่มองไปที่วีดที่กำลังนึกฝันถึงบางสิ่งแล้วแสยะยิ้มออกมา เจ้าเหลือง แวนฮอร์คและโทริได้แต่พยักหน้าอย่างเงียบๆให้กัน
สำหรับคนที่เคยผ่านความทุกข์ทรมานมา พวกเขาล้วนรู้จักท่าทางเช่นนั้นดี เมื่อสถานการณ์คับขันเกิดขึ้นมา สันดานดิบของมนุษย์ก็จะปรากฏเห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
 ‘แกสัมผัสได้ถึงเจ้าโหดนั่นสินะ
 ‘ช่างเป็นมนุษย์ที่ดูชั่วร้ายจริงๆ….’
 “ต้องเป็นสันดานแต่เดิมของพวกมันแน่ๆเลย ถ้าพวกมนุษย์ไม่มาที่นี่ เราก็คงจะไม่โดนกดขี่แบบนี้หรอก
 ‘ช่างผิดพลาดมหันต์เลยที่มาพบกับเจ้านายคนนี้นะ
เป็นอย่างที่คาดไว้จากพลเรือเอกของกองทัพเรือที่สอง ดรินเฟลด์นั้นมักใหญ่ใฝ่สูงเป็นอย่างมาก


 กิลด์เฮอร์มีสกำลังจะได้ขยายอาณาเขตเพิ่มมากขึ้นไปอีกแล้วข้าก็จะเป็นผู้ปกครองทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้
หลังจากที่ถีบเลเวลตัวเองจนได้มาเป็นท๊อป 1,200 คนของรอยัลโร้ด เขาก็มีหลักการที่เคร่งครัดให้ต้องปฏิบัติตาม ด้วยเหตุผลนี้เองที่เขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของกิลด์
เขาพยายามปฏิบัติตามอย่างเชื่อมั่นในคำสั่งที่ให้เขาออกไปไล่ล่าวีด แต่ว่าเขากลับโลภมากขึ้นมาซะงั้น
 “มาถึงลาส ฟาลังคซ์แล้ว นี่ละคือโอกาส
เขาไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะต่อต้านกิลด์เฮอร์มีสที่คุมโดยบาร์ดเรย์เลย
พวกเขานั้นรู้ดีว่าพลังที่แท้จริงแม้เพียงนิดเดียวของกิลด์เฮอร์มีส ก็รู้แล้วว่าจะไม่มีอิสรภาพอยู่เลยแม้แต่น้อยหากอยู่บนท้องทะเล
แม้ว่าขณะที่เขาจะต้องเติมเต็มคำสั่งในการออกล่าวีด แต่เขาก็ยังคงเก็บนิดเก็บหน่อยเพื่อสนองตัณหาส่วนตัวซักน้อยก็ยังดี
ตอนนี้ผู้คนกำลังเฝ้าดูฉันและกองทัพของฉัน ฉันคิดว่าเป็นโอกาสดีนะที่จะเพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์เฮอร์มีสของเรานะ
ผ่านทางเครือข่ายภายในของกิลด์ เขากำลังพยายามโน้มน้าวบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้งหลาย เพราะผู้คนนั้นให้ความสนใจอยู่เป็นอย่างมากในเขตลาส ฟาลังคซ์
ด้วยการแสดงผจญภัยให้เห็นผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เนตหรือว่านำไปออกอากาศอาจจะทำให้ยอดผู้ชมทะยานสูงขึ้นก็ได้ เหล่าผู้นำแห่งกิลด์เฮอร์มีสกำลังถกเถียงเรื่องสำคัญเรื่องนี้อยู่
ส่วนเหล่าทหารราชองครักษ์ของบาร์ดเรย์นั้นก็มีเป้าหมายเพื่อเข้ายึดกิลด์ใหญ่ๆที่ถูกสั่งการโดยกิลด์ภายนอกทั้งหมด
กิลด์มาสเตอร์ราฟาเอลได้สิ้นสุดหน้าที่แล้ว

-ได้รับการยินยอมแล้ว ท่านได้สำแดงอำนาจของกิลด์เฮอร์มีสแล้ว


การเจรจาตกลงของสงครามได้ถูกถ่ายทอดออกไปโดยหลายๆสถานี
สถานีโทรทัศน์ทั้งหลายจดจ่ออยู่กับการสำรวจและการออกล่าในเขตลาส ฟาลังคซ์กันแบบสดๆ
แต่ว่าสำหรับสถานี KMC Media นั้นไม่ได้ถ่ายทอดรายการออกไป เพราะพวกเขาเข้าใจอย่างมากกับสถานการณ์ที่จะต้องยอมเสี่ยง จากการเป็นสถานีสื่อข่าวที่ผูกขาดจากการผจญภัยของวีดนั่นเอง
 ชื่อของดรินเฟลด์คงจะแพร่สะพัดข้ามไปทั่วทุกหนทุกแห่งเหมือนกับวีดเลยละ

กองทัพของราชอาณาจักรฮาเว่นตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันถัดมาเพื่อเตรียมตัวออกสำรวจ

 “เราจะเหลือทหาร 200 นายไว้ที่ค่ายเพียงชั่วคราว ผู้เล่น 10 คนกับทหารยามอีก 190 นาย ป้องกันค่ายพร้อมกับเสริมการป้องกันเอาไว้ด้วยนะ
จากนั้นดรินเฟลด์รวมไปถึงเหล่าผู้เล่นและลูกเรือก็เริ่มออกสำรวจ ลูกเรือระดับหัวกระทินั้นจะแสดงความสามารถสูงสุดเมื่ออยู่ในทะเล
แต่ตรงกันข้ามความสามารถในการต่อสู้บนพื้นดินนั้นกลับกระจอกไปเลย แต่เพื่ออุทิศตนให้กับการเดินทางของพวกเขาเวลาผ่านไปเหล่าลูกเรือก็ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก
กลุ่มโจรสลัดกริฟฟิทเป็นพวกแรกที่ออกไปล่า
 สกัดทางนั้นไว้!”
 “พลธนู! ยิงธนูไป! ดีที่สุดที่จะใช้การโจมตีต่อเนื่องสู้กับความร้อนแผดเผาแบบนี้
 “พวกจอมเวทย์ละ?”
 “กลุ่มโจรสลัด จอมเวทย์อยู่ไหน!”
แต่ว่าพวกบอลลาร์ดได้ฆ่าเหล่าโจรสลัดอย่างโหดเหี้ยมไปแล้ว



กลุ่มโจรสลัดปกติจะมีทักษะการเดินเรือที่โดดเด่นมากแต่ว่าก็ถือว่าต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับทหารกองทัพเรือของราชอาณาจักรฮาเว่น
การล่าบอลลาร์ดที่ปกติมีเลเวลถึง 400 ทำให้มีคนบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
แกว๊วววววว!
เพียงเสียงคำรามของเหล่าบอลลาร์ด บรรดาโจรสลัดมากมายก็ลดอาวุธพวกเขาลงและจมดิ่งลงสู่ความหวาดกลัว!

ถ้าหากว่าเป็นกริฟฟิทหรือเหล่าโจรสลัด มีแค่บทเรียนเพียงอย่างเดียวที่พวกเขารู้มาก็คือ อยู่ให้ห่างจากตัวเมืองเพื่อที่จะเข้าไปล่าเงินรางวัลเพราะถ้าหากว่าคุณไม่โชคดีจริงๆ ก็คงลำบากแน่ สำหรับเหล่าโจรสลัดที่ต้องไปรับมือกับชาวเมืองธรรมดา
สถานที่อย่างผับ ท่าเรือ บ่อนพนันหรือว่าพวกตรอกนั้นสำหรับเหล่าโจรสลัดก็ง่ายที่จะไปเกณฑ์คนเพิ่มหรือแม้เติบโตขึ้นได้ แต่ตรงกันข้ามเมื่อเทียบกับเหล่าลูกเรือ ความซื่อสัตย์ภักดีที่ได้สร้างไว้ก็จะลดต่ำลงไป แล้วพวกเขาก็จะมีสภาพจิตใจที่อ่อนแอลงไปอีกด้วย
ถ้าคุณละเลยเรือของคุณไปแม้แต่เสี้ยววินาทีพวกเขาก็จะมาฉกไปและทิ้งเรือไว้ หลังจากหนีไปพร้อมกับขโมยเงินไปแล้ว จากนั้นก็แยกตัวแล้วหายวับเข้ากลีบเมฆไป
ฉะนั้นราชาโจรสลัดกริฟฟิทที่มักจะหนุนหลังโจรสลัดที่เขาคัดสรรมา ก็ต่างนับถือเขาอย่างมากและให้เขาอยู่ในฐานะผู้บัญชาการและปล่อยให้พวกเขาจัดระบบระเบียบพวกเขากันเอง
ด้วยการใช้ความเหนือกว่าด้านจำนวนบวกกับนิสัยโจรสลัดอันป่าเถื่อนเพื่อออกไปสู้กับเหล่ามอนสเตอร์
เป็นเพราะอยู่ภายใต้การนำของโจรสลัดกับความสามารถบัญชาการที่แสนจะธรรมดา เหล่าลูกสมุนโจรสลัดก็พากันทยอยสละชีพพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว
นั่นมันคงจะเป็นวิธีการเดียวกันกับการหย่อนลูกสิงโตลงเหวเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตนั่นแหละ
 “เลเวลของมอนสเตอร์มันสูงมากเลยครับ
จากเวทีแห่งการแสดงในขณะนี้ สีหน้าของพวกดรินเฟลด์และผู้เล่นของกองทัพเรือก็ซีดเผือดลงไปแล้วเล็กน้อย
 แต่ยังไง ระดับพลังต้านทานขนาดนี้เราก็คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วละตอนที่วางแผน
จากประโยคนั้น เหล่าผู้เล่นอัศวินนาวีถือว่าเป็นคำพูดที่ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนอยู่แล้วละ ความแตกต่างระหว่างเรากับสัตว์พวกนั้นมันแน่อยู่แล้ว มันก็คงไม่ใช่ ที่จะเอาตัวเราไปเทียบกับพวกโจรสลัดนะ
แต่แล้วดรินเฟลด์และกองทัพเรือแห่งราชณาจักรฮาเว่นที่เป็นผู้เล่นเลเวลสูงก็ได้ทำการตัดสินใจที่ต่างออกไปจากพวกโจรสลัด พวกเขาตัดสินใจที่จะออกไปล่าพวกบอลลาร์ด
 ลงมือโจมตีได้!”
ท่ามกลางเหล่าทหารกองทัพเรือ มีเพียงจอมเวทย์สามคนและนักธนูอีกสิบสองคนที่สามารถใช้การโจมตีระยะไกลได้ ท่ามกลางการโจมตีจากพวกโบลลาร์ดที่กระโจนตัวไปมา ดรินเฟลและอัศวินนาวีก็ได้เพียงแต่ต่อสู้ท่ามกลางการซุ่มโจมตีของพวกมันเท่านั้น
ท่ามกลางการต่อสู้นั้นลูกเรือสองคนได้เสียชีวิตไป แต่เมื่อเทียบกับเหล่าโจรสลัดพวกเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
แต่ว่ากับดรินเฟลด์นั้นคิดว่าความเสียหายนี้มีค่ามากมายเหลือเกิน เพราะเพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกเรือคนหนึ่งมาได้นี้ต้องใช้เวลาและความพยายามมากมาย
 ขณะที่เราออกไปสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าเดี๋ยวเราก็จะชินกับมันเอง พยายามลดความเสียหายให้น้อยที่สุด มุ่งหน้าต่อไป!”
ดรินเฟลด์ยังคงออกล่ากับพวกลูกน้องของเขาต่อไปเรื่อยๆ แต่ในท้ายที่สุดคุณก็ไม่สามารถที่จะมาเยือนเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ได้โดยไร้รอยขีดข่วนหรอกนะ การล่าพวกโบลลาร์ดนั้นช่วยเพิ่มอัตราการลูทของและค่าประสบการณ์อย่างมาก

บรรดาลูกเรือพยายามอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้เล่นหรือไม่ก็เหล่าอัศวินนาวีเอาไว้ เพื่อหลบหลีกการซุ่มโจมตีของพวกโบลลาร์ด
 จะต้องมีข้อได้เปรียบอยู่แน่ๆ ถ้าปรับการต่อสู้ให้เข้ากับพวกโบลลาร์ดให้ได้นะ
การจัดทัพหน้าให้มีผู้เล่นเลเวลสูงอยู่เยอะๆในกองทัพเรือราชอาณาจักรฮาเว่น สร้างความปลอดภัยในการล่าโบลลาร์ดได้ นี่ทำให้เหล่าลูกเรือที่กำลังอ่อนล้าสามารถฝึกฝนได้ง่ายยิ่งขึ้นและก็เพิ่มเลเวลของพวกเขาได้มากจากการล่าพวกโบลลาร์ด
สีหน้าของดรินเฟลด์กับผู้เล่นคนอื่นดูสดใสมากขึ้น
 ‘10เขตต้องห้ามก็คงพูดเกินไปสินะ ลองมาคิดดูแล้วไม่เคยมีใครค้นพบพวกมันมาก่อนที่พวกเราจะมานิ ได้มาล่าในเขตลาส ฟาลังคซ์นี่ถือว่าได้เปรียบสุดๆไปเลย
 ‘ในตอนที่การต่อสู้นี่ออกอากาศ ความนิยมของฉันก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นไปอีก พวกเขาคงหวังอยู่เงียบๆละสินะว่ามันคงจะยากลำบากยิ่งกว่านี้
การเจาะผ่านกลุ่มพวกโบลลาร์ดเข้าไป พวกเขาก็ได้ไปถึงสถานที่ที่มืดสลัวแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นเองพวกเขาก็โดนโจมตีอย่างกระทันหันโดยพวกไทร์เบธ
การจู่โจมที่ไม่ทันตั้งตัวนั้นหนักหนาเกินไปสำหรับเหล่าลูกเรือที่จะสามารถรับมือกับสนามรบแบบนี้ได้
เพราะพวกเขามีเลเวลระดับ 300 กลางๆถึง 300 ปลายๆ และถ้าหากพวกไทร์เบธกลุ่มเล็กๆไม่ได้โจมตีมาปุบปับแบบนี้ พวกเขาก็คงไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ได้แล้วก็ตายไปในที่สุด
แม้ว่าจะถูกไทร์เบทห้าถึงหกตัวล้อมเอาไว้มันก็ยังถือว่าเป็นไปได้ที่จะล่าพวกมันโดยไม่ตายไปก่อน เพราะพวกเขามีคนถึง 28 คนรวมดรินเฟลด์เข้าไปด้วยแล้ว แต่ตรงกันข้ามกลุ่มโจรสลัดนั้นมีคนเพียงแค่ 15 คนเท่านั้นเอง
พวกไทร์เบธส์นั้นเร็วสุดๆแล้วยังโฉบเฉี่ยวไปมาทั่วอย่างเจ้าเล่ห์ จนทำให้การล่าเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างมาก
บนท้องทะเลพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและยังแข็งแกร่งมากด้วย แต่ถึงไม่ได้ฝึกมา พวกทหารเรือก็คงได้แต่โดนตะครุบและโดนกินอย่างสูญเปล่าอยู่ดี
ทหารถอนทัพกลับ ส่วนพวกผู้เล่นก็ดูแลชีวิตตัวเองด้วยยยย!”
ดรินเฟลด์ข่มใจตัวเองเอาไว้แล้วออกคำสั่งไป กริฟฟิทก็ให้คำสั่งที่คล้ายกันออกไปเช่นกัน
ขณะที่กำลังรักษาความปลอดภัยให้กับพวกลูกสมุนอยู่นั้น แต่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆเดินหน้าเสี่ยงอันตรายต่อไป
ขึ้นฝั่งไปที่เขตลาส ฟาลังคซ์ซะ!
การถ่ายทอดสดตามเวลาจริงมาจากแต่ละสถานีที่กำลังเผยภาพอยู่ เพิ่มยอดผู้ชมมากขึ้นเป็นอย่างมาก
บนบอร์ดกระทู้ผู้ชมของทางสถานีและบอร์ดกระทู้ของรอยัลโร้ดก็มีข้อความแสดงความคิดเห็นออกมาเป็นจำนวนมากเช่นกัน
-อย่างที่คิดเลย 10 เขตต้องห้าม เลเวลของพวกมอนสเตอร์สุดยอดมากจริงๆ คนนั่นมันดรินเฟลด์ของกองทัพเรือที่สองแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในกิลด์เฮอร์มีสนิ นั่นคือกองทัพเรือของกิลด์เฮอร์มีสจริงๆสินะ แม้พวกเขาจะเคลื่อนที่ไปช้าแต่ก็เดินหน้าต่อไปอย่างระมัดระวัง หวังว่าพวกเขาจะแสดงให้เห็นเขตลาส ฟาลังคซ์ทั่วทั้งเขตนะ



-การต่อสู้อย่างกล้าหาญกับพวกโบลลาร์ดในนามของอัศวินนาวี กิลด์เฮอร์มีสนี่มีความกล้าหาญกับความแข็งแกร่งที่โดดเด่นจริงๆ
-เพื่อที่จะสำรวจหนึ่งในสิบเขตต้องห้าม พลังของกิลด์เฮอร์มีสนี่เหลือล้นจริงๆเลย นี่มันทำให้ฉันอยากตามติดความกล้าหาญกับความเชื่อมั่นของพวกเขาจริงๆ
-ดูนี่สิ อัลบาคนนั้นสิ ก็สู้พอใช้ได้เลยนะ
-ฉันละเบื่อแล้วก็เหนื่อยหน่ายกับอัลบาของกิลด์เฮอร์มีสจริงๆเลย คุณคิดว่าจะครองบอร์ดกระทู้ผู้ชมได้รึไงนะ? (พวกสร้างกระแส)
-นั่นเป็นครั้งแรกของพวกเขาในเขตลาส ฟาลังคซ์นะ พวกเขาก็แค่ไล่ตามวีดไปเท่านั้นเองแหละน่า
-โบลลาร์ดกับไทร์เบธนี่น่ากลัวจริงๆ พวกเขาตายไปเร็วมากเลย
-วีดตัวคนเดียวในเขตลาส ฟาลังคซ์สุดโหด ขณะที่พวกเขาออกไปเป็นกลุ่มไล่ตามเขาแล้วก็ยังเอาแต่หมกหมุ่นยกยอตัวเองเกินไปอยู่นั่นแหละ

เหตุการณ์ตื่นเต้นเร้าใจของการออกสำรวจสิบเขตต้องห้ามทำให้ยอดผู้ชมสูงขึ้นอย่างล้นหลาม แต่ว่าความความคิดเห็นของผู้คนที่อยู่บนอินเตอร์เนตนั้นกลับไม่ได้มองไปที่ฝั่งดรินเฟลด์และกิลด์เฮอร์มีสเลย
แต่ยังไงก็ตาม มันก็เป็นเรื่องจริงที่ผู้ชมมากมายรู้สึกอิจฉาการออกสำรวจของเหล่ากิลด์เฮอร์มีส


ดรินเฟลด์ได้ร่างรายละเอียดแผนการขึ้นมา
การลูทของจากการออกล่าในพื้นที่รอบๆอันน่าภาคภูมิใจภายในวันแรกก็ค่อยๆจบลงไปในที่สุด
เพราะว่าเป็นการเดินทางอันแสนยาวนาน ค่ากำลังกายและความเหนื่อยล้าของเหล่าทหารเรืออยู่ในขั้นเสี่ยงที่จะได้รับผลจากความเสียหายมากขึ้น
การได้มาถึงที่เขตลาส ฟาลังคซ์อย่างง่ายดาย แถมตอนที่ต้องมาต่อสู้กับฝูงสัตว์นั่นถือว่าเป็นความเสียหายที่เล็กน้อยมาก เพราะพวกเขานั้นได้พิสูจน์ถึงความกล้าหาญของพวกเขาแล้วนั่นเอง
ในวันที่สอง พวกเขาก็จะได้ออกสำรวจดันเจี้ยนอย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งเป็นดันเจี้ยนที่มีระดับความยากที่สูงมากขึ้น ที่ดูจะไม่ใช่หมูๆเลย
มันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากมายได้ แต่ว่าเมื่อคุณสำรวจดันเจี้ยนจนสำเร็จเสร็จสิ้นอย่างปลอดภัยแล้ว ค่าชดเชยและผลลัพธ์ที่จะเอาไปออกอากาศนั้นจะสุดยอดมากๆ
ดรินเฟลด์มีความต้องการที่จะเพิ่มชื่อเสียงของเขาโดยพิชิตดันเจี้ยนอันตรายของเขตลาส ฟาลังคซ์
หลังจากที่พิชิตดันเจี้ยนได้แล้วก็จะขยายอาณาเขตในลาส ฟาลังคซ์อย่างจริงๆจังๆ อีกทั้งยังต้องสำรวจพื้นที่ให้กว้างขวางมากขึ้นแล้วก็ออกไปไล่ล่าวีดอย่างเอาจริงเอาจังอีกด้วย
เบื้องหน้าของเหล่าผู้ชมที่พวกเขากำลังรับชมอยู่นั้นกลับเป็นกองทัพเรือที่กำลังคุยโม้โอ้อวดเต็มที่ว่าจะออกไปฆ่าวีดให้ได้!
จากนั้นพวกเขาก็ส่งอัศวินนาวีออกไปสองสามนายเพื่อไปประเมินความสามารถของเขา ถ้าหากว่าสามารถรับมือกับเขา (วีด)ได้ เขาก็มีแผนที่จะออกไปสู้ตัวต่อตัวอยู่ในใจแล้ว
 ใช่แล้ว ก่อนหน้านั้นคงต้องไปพักผ่อนเยอะๆซะก่อน

ค่าชื่อเสียงของดรินเฟลด์นั้นจะพุ่งทะลุไปถึงสวรรค์แน่ๆหากว่าเขาฆ่าวีดได้
แต่ว่าเขานั้นประมาทอย่างยิ่งกับการที่จะมาเผชิญหน้ากับวีด แถมยังใช้แผนที่วางมาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อใช้สู้กับวีด กลับเอาไปสู้กับพวกมอนสเตอร์ในลาส ฟาลังคซ์ซะงั้น
และแล้ววันที่สองก็ได้มาถึง
หลังจากผ่านการใช้แรงงานของเหล่าลูกเรือทั้งหลาย ค่ายบนเนินเขาก็แข็งแรงขึ้นเพียงพอที่จะไม่โดนทำลายไปทันทีในตอนที่ออร์คมาเคาะประตูค่าย ใกล้ๆกันที่ซ่อนของกลุ่มโจรสลัดก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนกัน
ขณะที่กำลังออกล่ามอนสเตอร์ ทั้งสองกลุ่มได้รับบาดเจ็บไปเกือบ 30 ถึง 70 คน ผู้เล่นแม้จะไม่ได้ตายมากมายนักแต่ว่าการตายของเหล่าลูกเรือหรือพวกโจรสลัดนั้นสูญเสียไปเป็นอย่างมาก
 “ตอนที่เรากลับที่ทวีปเวอร์เซลแล้วมันก็รักษาหายได้น่า อย่าไปกังวลกับอาการบาดเจ็บของพวกลูกเรือนักเลย
 “แล้วเราก็ค่อยเปิดรับสมัครให้คนเยอะๆมาเป็นโจรสลัดก็ได้น่า
สำหรับเหล่าทหารเรือและโจรสลัด ค่าชื่อเสียงถือเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อแต้มค่าชื่อเสียงนั้นสูง เหล่าลูกเรือหรือโจรสลัดที่ฝีมือดีมากๆก็อยากจะอาสามาเป็นพรรคพวก
แล้วต่อมาพวกเขาก็จะถูกจ้างใหม่อีกครั้ง ทำให้มันดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเขตลาส ฟารังซ์อีกเลย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องอดทนรับความเสียหายต่อไป แล้วใจจดใจจ่อมีสมาธิไปกับการผจญภัย
และแล้ว การสำรวจดันเจี้ยนก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
 “ต้องปกป้องพวกลูกเรือเอาไว้ เพราะงั้นตอนนี้ เราต้องทำบางอย่างเพื่อที่จะได้พิสูจน์ความองอาจของพวกเรา
ดรินเฟลด์พบทางเข้าไปดันเจี้ยนขนาดใหญ่
 จะดีมากถ้าหากมันเป็นดันเจี้ยนที่ปลอดภัย เริ่มเสียใจนิดหน่อยละสิที่ไม่ได้เอาทีมขุดซากโบราณมากับการผจญภัยนี้ด้วย
ถ้าหากว่าสถานที่ที่ถูกเลือกในลาส ฟาลังคซ์นั้นไม่โหดมากพอ การถ่ายทอดออกอากาศก็จะออกมาดูแย่
ถึงแม้ว่าไม่ได้ดูน่ากังวลกับการเข้าไปสำรวจดันเจี้ยนนั้น แต่ว่าก็มีเพียงลูกเรือกับจอมเวทย์อีกสองสามคนเท่านั้นที่ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ที่ดูน่ากลัวนั่น
ท่านเป็นผู้ค้นพบคนแรกของดันเจี้ยนหัวใจของภูเขาไฟ
สิทธิพิเศษ: ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,300 แต้ม อัตราการดรอปไอเท็มและค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
มอสเตอร์ตัวแรกที่ถูกล่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่สุดในการดรอปไอเทมที่ดีที่สุด

 “โอ้โห อย่างที่คาดเลย!”
 “เราเป็นผู้ค้นพบกลุ่มแรก
ดรินเฟลด์กับเหล่าผู้เล่นค่อนข้างรู้สึกยินดี
ในฐานะที่เป็นกลุ่มแรกนั้น มันทำให้หน้าอกพวกเขาสั่นระรัวไม่ยอมหยุด
 ค่าประสบการณ์คูณสอง อัตราดรอปไอเทมคูณสอง!”
 “ท่านพลเรือเอก ข้าคิดว่าที่นี่น่ายั่วยวนใจมากที่จะล่าที่นี่ซักสองสามวันนะครับ
ใบหน้านั้นเติมเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างกับดอกไม้บานเต็มที่เลยไปซะแล้ว
ถ้าไม่เพราะการออกอากาศถ่ายทอดอยู่ละก็ ดรินเฟลด์คงจะหัวเราะออกมาดังๆอย่างมีความสุขแล้วกับโชคดีที่ได้ค้นพบดันเจี้ยนแห่งนี้
 “ยังมีดันเจี้ยนอีกมากมายนอกเหนือจากที่นี่ ต้องจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ด้วยละ
 “รับทราบครับ ท่าน
ขณะที่พลเรือเอกถูกจับจ้องด้วยสายตายหลายคู่ เขาต้องให้คำสั่งด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผย แล้วก็ต้องออกไปสู้อีกด้วย
วรู้วววววว!

วาจิ๊กกก!
กร๊ากกกกกก!
ภายในดันเจี้ยนนั้นได้วางกับดักและมีมอนสเตอร์มากมาย แล้วพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ระดับ 400 ปลายๆหรือแม้แต่ 500 กว่าก็ออกมา เป็นดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์เลเวลสูงและกับดักตามธรรมชาติมากมาย
เพดานถ้ำถล่มลงมาเพื่อโจมตีแล้วพื้นดินก็ยังหายไปอีกด้วย
จากการออกอากาศนั้น ดันเจี้ยนนี้ถือว่ามีระดับที่ยากเอาการ แต่ว่าพวกเขาก็หวังว่าพวกลูกเรือพวกนั้นจะยังสามารถทำความเสียหายอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย
ถึงแม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ดรินเฟลด์กับเหล่าอัศวินนาวีก็ได้ทำดีที่สุดแล้ว และเดินหน้าต่อไป
 ไปกันเถอะ โจมตี! หลบ! เราคือกิลดิเฮอร์มีสที่แข็งแกร่งที่สุด!”
ระหว่างการต่อสู้กับมอนสเตอร์ ลูกเรือเจ็ดถึงแปดคนเสียชีวิตไป แต่นอกเหนือจากนั้นพวกเขาก็ได้แค่ลิ้มลองรสชาติของความตึงเครียดและความระทึกตื่นเต้นที่แท้จริงเท่านั้น
ในเส้นทางที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้านั้น ก็ได้ปรากฏสถานที่ที่เป็นใจกลางของบ่อลาวารายล้อมพวกมันอยู่เป็นวงกลม
ณ ใจกลางนั้นมียักษ์เพลิงกำลังนอนหลับอยู่ถึง 5 ตัวด้วยกัน
-ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ได้ตื่นอยู่นะ
-เราควรเตรียมพวกจอมเวทย์เอาไว้ไหม?
-มอนสเตอร์ตัวใหญ่ยักษ์นั่นกับพื้นที่ไม่น่าอภิรมย์แบบนี้นี่นะ ข้าไม่คิดว่าการต่อสู้นี้จะง่ายเลย……..
โชคไม่ดีนัก อาชีพที่โจมตีต่อเนื่องได้อย่างจอมเวทย์หรือนักธนูนั้นไม่ได้มีมามากนัก
พวกนักเดินเรือก็สามารถยิงธนูได้อยู่บ้าง แต่ทำความเสียหายได้ต่ำเลยไม่สามารถที่จะทำการโจมตีไปที่พวกยักษ์เพลิงจนถึงตายได้
ดรินเฟลด์กับพวกอัศวินนาวีไม่สามารถเดินอยู่บนลาวาได้ แต่พวกเขาก็เข้าไปโจมตีพวกยักษ์ไม่ได้เช่นกัน
-ควรผ่านพวกมันไปแบบเงียบๆเลยดีไหมนะ
ร่างกายของพวกยักษ์เพลิงครึ่งหนึ่งที่จุ่มแช่และหลับใหลอยู่ภายในบ่อลาวา
ดรินเฟลด์ อัศวินนาวี พวกผู้เล่นและพวกนักเดินเรือเดินตรงไปที่ช่องทางแคบๆใต้กำแพงหินไปอย่างลับๆล่อๆ
ทางฝั่งตรงข้ามรอบๆบ่อนั้นเป็นทางเข้าเพื่อมุ่งไปยังที่อื่นอยู่
ทันใดนั้นเอง!
ตึกๆๆๆๆ

จากเสียงลึกลับนั้นดังขึ้น สุดปลายทางที่พวกนักเดินเรือเดินอยู่พังลงมาเล็กน้อย
เศษหินตกลงสู่ลาวาแล้วจมหายลงไป
ดรินเฟลด์กับเหล่าอัศวินนาวีสังเกตไปที่พวกยักษ์เพลิงอย่างหวั่นๆแต่พวกมันกลับนอนหลับสนิทไม่กระดุกกระดิกเลยแม้แต่น้อย
 ฟิ้วววว โชคดีจริงๆ
 ‘เยี่ยมไปเลย เราข้ามไปอย่างปลอดภัยได้
แต่ว่าเรื่องบังเอิญก็ได้เกิดขึ้นมาอีก
เนื่องจากเหงื่อไหลและเดินโซซัดโซเซไปมาเพราะไอความร้อน ขณะที่เดินไปเดินมา จู่ๆขาของพวกนักเดินเรือก็สะดุดแล้วลื่นไถลล้มลง
 อ๊าคคคคคค!”
พวกลูกเรือที่กรีดร้องโหยหวนดังสนั่นขณะที่พวกเขาตกลงไปที่บ่อลาวา
 พวกมันคงไม่หลับอยู่เฉยๆแน่ๆครั้งนี้
 ‘ขอร้องละ แค่นอนต่อไปเถอะนะ
พวกยักษ์เพลิงนั้นตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีมนุษย์ที่ยืนนิ่งชะงักอยู่ตรงริมหน้าผา


 พวกมนุษย์น่าโง่ พวกแกยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ แล้วยังทำให้ข้าตื่นอีก พวกแกต้องสู้และพิสูจน์ว่าพวกแกมีคุณสมบัติมากพอที่จะผ่านที่นี่ไปได้
พวกยักษ์เพลิงยกแขนของมันโผล่ขึ้นมาเหนือลาวาแล้ว
แขนที่มีความหนาขนาด2 เมตรและยาวขนาด 30 เมตรนั้นได้กุมดาบไว้ด้ามหนึ่ง
มันเป็นดาบที่ไม่รู้จัก แต่ถ้าหากไม่ได้หลอมละลายภายใต้ลาวาก็เดาได้แค่ว่ามันมีค่าความทนทานที่น่าทึ่งแล้วยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย!
ค่าทำความเสียหายของอาวุธปกตินั้นจะเป็นสัดเป็นส่วนต่อความหนาแน่นของน้ำหนักของมัน หากว่าไม่มีความคมก็จะมีความใหญ่โตเข้ามาทดแทนอย่างเท่าเทียม แต่ดาบใบกว้างใหญ่ของพวกยักษ์เพลิงนี่เป็นอาวุธที่เหนือขอบเขตเหล่านั้นไปโดยสิ้นเชิง
 ตายซะ ผู้บุกรุก
ยักษ์เพลิงทั้งห้าตนกวัดแกว่งดาบใบกว้างของพวกมันไปมา เมื่อใดที่ดาบปะทะกำแพงหินก็จะสั่นสะเทือนและก้อนหินใหญ่ๆก็พังครืนตกลงมาจากด้านบน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแค่อย่างเดียวเท่านั้น
ยังมีแอ่งลาวาทอดผ่านอยู่ด้านล่าง แถมผืนแผ่นดินยังสั่นสะเทือนตอนที่พวกยักษ์เพลิงเคลื่อนที่แรงๆอีก
ลาวาสาดกระเซ็นมาพร้อมกับใบมีดที่แหลมคมชูสะบัดมาปกคลุมยังพวกดรินเฟลด์และเหล่าผู้ร่วมทางของเขาด้วยเคราะห์ร้ายที่ไม่สมควรจะได้รับมา แถมช่องแคบที่เหล่าลูกเรือกำลังผ่านไปนั้นก็ถูกทำลายด้วยการโจมตีของพวกยักษ์เพลิงนั่นอีก
 กร๊ากกกกก!”
 “ช่วยด้วยยย!”
เหล่าลูกเรือ 15 คนหลอมละลายไปโดยไร้ทางขัดขืนจากการปะทะกับพวกยักษ์เพลิง
เป็นความเสียหายที่ร้ายแรงมาก!
ช่างเป็นความน่าสะพรึงกลัวของมอนสเตอร์ระดับบอสขนาดใหญ่จริงๆ เมื่อเทียบกับพวกโบลลาร์ดนั้นนี่ถือว่าเป็นไปไม่ได้เลย
 มุ่งหน้าต่อไป!”
พวกจอมเวทย์ได้รับคำสั่งให้เตรียมร่ายเวทย์ไว้ก่อนหน้าแล้ว
เวทย์มากมายหลากหลายรูปแบบเล็งเป้าไปที่ยักษ์เพลิง แต่กลับเป็นว่าไม่อาจทำความเสียหายใดๆได้เลย
แถมดูเหมือนจะไปสะกิดให้มันโมโหเอาซะมากกว่า แล้วยังทำให้พวกมันกวัดแกว่งดาบได้รวดเร็วดุดันมากขึ้นเสียอีก
หลังจากที่พวกผู้เล่นรายงานว่าพวกยักษ์เพลิงนั้นยังคงไร้รอยขีดข่วน ดรินเฟลด์ก็ได้ตระโกนออกไปว่า
 โกยสิวะ หนีเร็ว รออะไรอยู่ อยากถูกย่างสดตายรึไง!”
 “ไปเร็วเข้า! พวกเราต้องออกไปจากที่นี่!”
หลังจากที่ปะทะกับพวกยักษ์เพลิงอย่างดุเดือด เหล่าผู้เล่นก็ผละออกจากการต่อสู้และพยายามหนีออกไปยังทางที่เข้ามา
ดรินเฟลด์ไม่ต้องการที่จะสู้อีกต่อไปแล้ว แถมยังต้องสูญเสียกองกำลังที่สะสมเอาไว้มากมายไปเพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น
 วิ่งให้เร็วที่สุดแล้วหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้
บนเส้นทางที่คับแคบนั้น พวกเขาพันยุ่งเหยิงกันเป็นพัลวันแถมยังไปชนเข้ากับสายธารลาวาอีกด้วย ในขณะที่การโจมตีของยักษ์เพลิงยังคงทับถมสร้างความเสียหายเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
จากความโกลาหลนั้นพวกเขาออกมาจากดันเจี้ยนได้อย่างหวุดหวิดอย่างทุลักทุเล โดยมีคนตายไปด้วยจำนวน 76 คน
ถ้าหากไม่เกาะกลุ่มเหล่าลูกสมุนเอาไว้ และทุกคนต่างวิ่งหนีหางจุกตูดออกมาแบบตัวใครตัวมันเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดให้ได้ นั่นคงจะเป็นความอัปยศสุดๆ!
ผู้เล่นที่ตายไปรวม 7 คน
ภายในสถานที่ที่สุดแสนยากลำบากนั้น พวกเขาไม่แม้แต่จะระบุศพคนตายได้เลย ดังนั้นเลยเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปเอาไอเท็มที่สูญหายไปได้
 กึกกก
หมัดของดรินเฟลด์สั่นสะท้านไปหมด
แต่ถึงแม้ว่ามันจะกวนใจเขาอยู่ เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อสู้อีกครั้ง
ในทะเลถ้าเรือไม่แตกไปเหล่าลูกเรือคงไม่ได้ตายไปแบบง่ายๆแน่ แต่ยังไงในดันเจี้ยนนี้พวกลูกเรือต่างตายไปอย่างทารุณและก็รู้สึกไม่ได้อยากต่อสู้อีกต่อไป
-เราต้องนึกถึงการออกอากาศนะ ผู้ชมมากมายกำลังดูเราอยู่
ประโยคนั่นมาจากพลเรือเอกและผู้เล่นคนอื่นๆที่กระซิบหากัน
เพราะแทบจะไม่มีสติคำนึงถึงการออกอากาศ แต่ดรินเฟลด์ก็แสดงความคิดเห็นและพูดออกมาว่า
ดันเจี้ยนของลาส ฟาลังคซ์นั้นมีความยากมากเกินไป ดูอย่างพวกเรา คงยังไม่มีใครจะสามารถพิชิตได้เลย การสำรวจวันนี้นั้นยากมากฉะนั้นวันนี้เราจะถอนตัวกลับและพักผ่อนก่อน
เพราะว่าหมดแรงกระตุ้นในการออกไปสำรวจดันเจี้ยนยากๆ ณ สถานที่อื่นแล้ว พวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไปที่ค่าย เหล่าโจรสลัดก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกันพร้อมกับบาดเจ็บสาหัสในตอนที่ออกไปสำรวจดันเจี้ยน
ทั้งสองกลุ่มนั้นรู้สึกสบายใจเพียงเพราะได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นก็ล้มเหลวเช่นเดียวกัน

***

วีดนั่งแกะสลักประติมากรรมมาเป็นเวลาสองวันขณะที่กำลังรอคอยอยู่ ขณะเดียวกันนั้นซอยูนก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อมากนัก
วีดได้แกะสลักประติมากรรมจากสิ่งที่เขาเจอที่เหมือนกับมอนสเตอร์ในลาส ฟาลังคซ์หรือบนเรือผีสิง เมื่อไรก็ตามที่ประติมากรรมที่มีรูปร่างแบบสัตว์หรือเยติสวยๆน่ารักๆ ฝ่ามือของเธอก็จะแบออกมา (>.<)
 “……”
ช่างเป็นคำขอร้องที่ใจร้ายซะจริง!
วีดส่งประติมากรรมให้เธอไปด้วยมือที่สั่นเทา
ช่างน่าเสียดายและวีดก็ไม่ได้ต้องการเช่นนั้นเลย แต่ว่าเธอเอาแต่นั่งข้างๆเขารอคอยเวลาจนประติมากรรมสลักเสร็จแล้ว แล้วเขาจะปฏิเสธออกไปยังไงละตอนที่ถูกขอน่ะ?
ประติมากรรมช่างเป็นของขวัญที่ดีที่สุดเสมอจริงๆกับพวกผู้หญิง! แต่แทนที่จะเป็นคำพูด งานแกะสลักทุกๆชิ้นที่ถูกเอาไปก็ได้สื่อความเศร้าออกมาจากผลงานแทน
 ช่างหัวชิ้นที่เสร็จไปแล้วเถอะ ถึงฉันยังเสียใจอยู่หน่อยๆก็ตามทีเถอะ
วีดถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างจงใจ
 ถ้อยคำของเหล่าประติมากร ผลงานศิลปะสร้างมาจากจิตวิญญาณอันซื่อตรง งานทุกๆชิ้นของฉันนะซึมซับไปด้วยความใจใส่ไว้ในพวกมันเพราะงั้นฉันหวังว่าเธอจะเห็นค่าของมันนะ
แต่ว่าแน่นอนในใจของเขานั้นยังนึกเสมอว่าไม่มีหรอกไอ้สิ่งที่เรียกว่าของฟรีน่ะ
 งั้นเราก็สนิทกันแล้วใช่ไหม?”
ปกติแล้ววีดจะไม่กล้าพูดอะไรที่น่าอายมากๆอย่างนี้เลย แล้วซอยูนก็จ้องมองไปที่หน้าเขาอย่างเต็มตา
 ก็เราไปเรียนด้วยกัน กินข้าวด้วยกันแล้วฉันก็ให้ไก่ แล้วก็หมา แล้วก็จะให้กระต่ายเธอเมื่อไม่นานมานี้ด้วย
จากเหตุผลของความใกล้ชิดสนิทสนมที่มากมายระหว่างพวกเขานั้นเอง! ซอยูนก็พยักหน้ารับซึ่งหมายถึงการยอมรับออกมานั่นเอง
จากที่ได้ยินอย่างนี้เธอก็รู้สึกเขินอายที่คิดว่าพวกเขานั้นได้สนิทกันมามากแค่ไหนแล้ว เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ การได้อยู่กับเขานั้นสบายใจและอุ่นใจเป็นอย่างมาก คนๆนั้นก็คือ วีด
 แต่ว่าเธอรู้อะไรบางอย่างที่สำคัญมากกว่าคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทหรือเปล่า เพราะฉันคงยังไม่ต้องกังวลเรื่องธุรกิจทางการเงินอะไรหรอกนะ
 “…….?”
 “สิ่งที่ฉันหมายถึงคือว่าพวกประติมากรรมนั้นนะเอาไปขายได้มากกว่าที่เธอรู้นะ ฉะนั้นถ้าหากว่าเธอขอซ้ำไปซ้ำมา เธอก็สามารถเก็บเงินได้มากมายเลยนะ
เพราะรู้สึกเสียใจแบบไม่ให้เสียเวลาเลย เธอจึงคืนประติมากรรมขณะที่เขาพูดอยู่ในทันที
 ประติมากรรมล้ำค่าพวกนี้ชิ้นเดียวนั้นมีค่ากว่า 100 เหรียญทองแต่ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดาย แต่ว่าฉันจะยกให้เธอละกันนะ อาจจะยังแปลกๆอยู่ที่จะให้บางสิ่งบางอย่างนะเพราะว่าเราทั้งคู่ก็โตๆเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว หรือว่าถ้าเราแค่จะมาใช้เงินแลกเปลี่ยนกันก็คงจะเป็นปัญหาทีหลังอีกละนะ ก็อย่างที่เห็นนั่นละว่าแทนที่จะยอมขายให้คนอื่นหวังว่าเธอจะยอมยกให้คนที่สนิทดีกว่า แล้วก็เพื่อเป็นการตอบแทนด้วยนะ ฉันจะเป็นคนดูแลพวกแจปเท็มทีหลังเองละกันนะ
การเป็นเพื่อนสนิทนั้นก็ควรจะให้ของไปแบบฟรีๆละนะแต่เพื่อให้ได้แจปเท็มทดแทน โดยให้เหตุผลโน้มน้าวใจที่ดูกำกวมแบบนั้นน่ะหรอ!
แม้ว่าไอเท็มพวกนั้นจะเพิ่มขึ้นกองเป็นภูเขาเลากาจากการล่าที่น่าเหลือเชื่อนั่น ภายในเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ แต่วีดก็ไม่อาจตัดขาดจากความโลภในแจปเท็มได้เลย
ก็เพราะซอยูนให้แจปเท็มกับเขา วีดจึงตั้งหน้าตั้งตาแกะสลักประติมากรรมออกมาอย่างขะมักเขม้น
 ประติมากรรมนั้นมีส่วนช่วยเสริมความสามารถในการเก็บเงินได้ ไม่เลวเลยๆ จริงๆเส้นทางอันยาวไกลของศิลปินนี้ก็ไปต่อได้สินะ!
ซอยูนเองยังสนิทสนมอย่างมากกับพวกเจ้าเหลือง โกลมินิแล้วก็วิหคทองคำอีกด้วย
แทนที่จะเป็นวีด เจ้าเหลืองกลับนอนลงด้วยพุงของมันใกล้กับซอยูนด้วยท่าทีผ่อนคลาย โกลมินิก็เป็นเหมือนกัน หรือแม้แต่วิหคทองคำก็ปฏิเสธที่จะออกมาจากไหล่ของซอยุนอย่างโจ่งแจ้งอีกด้วย
เพื่อต่อต้านเนโครแมนเซอร์วีด มันต้องเปิดเผยความรังเกียจรุนแรงออกมา แถมไม่แม้แต่เข้าใกล้เจ้าคนนั้นเลย ในขณะที่คงใบหน้าความรักเคารพออกมาตอนที่สัมผัสหัวหรือคางของซอยูน
วีดคิดว่าจำเป็นจะต้องแก้ไขความคุ้นเคยกับเจ้าวิหคทองคำนี่ซักหน่อยแล้ว
 แต่ฉันไม่สามารถยกเลิกร่างเนโครแมนเซอร์ตอนนี้ได้
เพื่อที่จะยืนหยัดอดทนอยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์แห่งนี้ให้ได้ ร่างอันเดดนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างที่เคยคิดไว้
เอาตรงๆแล้วคือการจัดการกับพวกมอนสเตอร์เลเวลสูงๆมากมายหลายตัวที่ออกมานี้คงเป็นเรื่องยากในฐานะประติมากร
จากการฆ่าสังหารหมู่นี้ มันก็เป็นไปได้ที่จะเก็บเอาไอเท็มได้มากมายมหาศาล ช่างเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้เรื่องยากๆนั้นเปลี่ยนแปลงไป
 “นั่นเป็นส่วนของเธอนะ ส่วนของฉันก็จะเขมือบเองแล้วก็รวยขึ้นๆ
ฟังดูเหมือนจะคล้ายกับข้ออ้างนะ แต่ว่าวีดก็เก็บเอาข้ออ้างนั้นแล้วคงสภาพเนโครแมนเซอร์ต่อไป!
การที่ไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวเจ้าวิหคทองคำนั่นได้เป็นไปอย่างไม่สิ้นสุด เพราะมันดูเหมือนกับว่าเขาข้ามแม่น้ำไปแล้วไม่ได้วกกลับมาอีก
ขณะที่ใช้เวลาไปกับการแกะสลักประติมากรรม ธาตุศิลาพิโรธที่ได้อัญเชิญออกมาก็ปล่อยแสงสีแดงสดออกมาอย่างกระทันหัน
 ออร่าแห่งเพลิงในเขตลาส ฟาลังคซ์นี่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะเนี่ย
ผลจากธรรมชาติที่มาจากความสัมพันธ์ของธาตุทำให้พลังแห่งธาตุยิ่งแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
 ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่มันก็จะระเบิดออกมาแล้ว
ปราชญ์แห่งผืนพิภพก็กังวลกับบางอย่างที่คำรามกังวานไปทั่วขณะที่มันย่างก้าวไปรอบๆ

นายท่าน แรงกดดันของผืนดินกำลังปั่นป่วนครับ
เหตุการณ์สำคัญก่อนการปะทุของภูเขาไฟขนาดใหญ่ นั่นก็คือแผ่นดินไหว!
และเมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้ว วีดก็หยุดมือแกะสลักประติมากรรมแล้วออกมาจากตำแหน่งนั้น
 ตอนนี้ล่ะ ได้เวลาเริ่มแล้ว
การจะมานิยามหาความยุติธรรมนั้น มันไม่สลักสำคัญมากมายอีกต่อไปแล้ว
บ่อยครั้งทีเราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เลวร้าย แต่สำหรับเขานั้น สามารถทำสิ่งที่แตกต่างออกไปให้แย่ลงและเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
จริงๆแล้วตั้งแต่วันที่วีดได้เล่นคอนติเนนท์ออฟเมจิค เขาก็ได้ทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายก่ายกองแล้ว กับการใช้ชีวิตที่แสนยุ่งยากนี่และเพื่อใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุข แต่ว่าสันดานดิบของคนเรานั้นไม่อาจละทิ้งไปได้หรอกนะ นั่นคือกฎของธรรมชาติ!
 “เหล่าอันเดดเริ่มเคลื่อนทัพ วันนี้จะเป็นค่ำคืนของพวกแก
ดรินเฟลด์และเหล่าลูกเรือที่ตั้งค่ายอยู่บนเนินเขา ทั่วทั้งค่ายนั้นสั่นไหวในทันที

นี่ นี่มันอะไรกันน่ะ? อย่างกับพื้นดินมันกำลังสั่นๆ แผ่นดินไหวเหรอ?”
 “อย่าแตกตื่น ก้มตัวลงแล้วรักษาสมดุลเอาไว้
แผ่นดินไหวครั้งแรกนั้นรุนแรงจนเหล่าลูกเรือล้มลงไปกับพื้น พวกเขาได้แต่เพียงรอคอยต่อไปภายใต้ความเข้าใจผิดที่ว่านั่นจะผ่านพ้นไปโดยเร็ว
ดรินเฟลด์และเหล่าผู้เล่นนั้นไม่ได้รู้สึกสับสนมากนัก แม้พวกเขาจะล้มลงไปแต่ก็แทบจะไม่สูญเสียค่าพลังชีวิตเลย
ครึกครึกครึกๆๆๆๆๆ
แต่จากแผ่นดินไหวระลอกที่สองและสามนั้น แรงสั่นสะเทือนก็ค่อยๆยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกันก้อนหินจากบนภูเขาไกลๆก็ค่อยๆกลิ้งลงมา มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากกับพวกคนเหล่านั้นที่ต้องยืนหยัดอยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่อไปให้ได้
เพราะการพังทลายลงของรั้วกั้น เสียงอึกทึกครึกโครมจึงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว
 แผ่นดินไหวกำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!”
 “หาที่ยึดเอาไว้!”
 “เต้นท์กำลังจะพังแล้ว อย่าไปอยู่ข้างใน!”
เสียงร้องตะโกนสอดแทรกเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
แม้แต่ซุ้มหลบภัยของเหล่าโจรสลัดที่สร้างขึ้นมารอบๆค่ายก็ยุ่งเหยิงเพราะผลพวงจากแรงแผ่นดินไหว
เพื่อจะออกไปตามหาวีด เหล่าโจรสลัดเลือกโพรงที่ทำมาหลายๆโพรงที่เชื่อมกับซุ้มหลบภัยของพวกเขา
เพราะว่ามันดูโล่งและง่ายที่จะตั้งรับการโจมตี พวกเขาถึงได้ใช้โพรงเป็นฐานทัพของพวกเขา
แต่เมื่อแผ่นดินไหวเริ่มสั่นสะเทือน ด้วยความกังวลว่ามันจะถล่มลงมา พวกเขาได้แต่แตกตื่นวิ่งหนีออกมา
จากนั้นพื้นโลกก็ระเบิดออกมาด้วยเสียงร้องคร่ำครวญในทันที ทั่วทั้งดินแดนลาส ฟาลังคซ์สั่นสะท้านไปด้วยแรงแผ่นดินไหวและในขณะนั้นเองที่ภูเขาไฟเริ่มระเบิดปะทุไปด้วยลาวา
บอร์ดกระทู้ผู้ชมของสถานีโทรทัศน์และกระทู้ทางอินเตอร์เนทล้วนพูดถึงหัวข้อที่เกี่ยวกับดันเจี้ยนในเขตลาส ฟาลังคซ์
-เลเวลของมอนสเตอร์ในเขตลาส ฟาลังคซ์สูงมากจริงๆ เมื่อไรเราจะได้ไปที่นั่นแล้วไปออกล่านะ ฉันล่ะสงสัยจัง
-คงใช้เวลาไม่นานหรอกจนกว่าเราจะออกล่าเป็นปาร์ตี้ได้? แม้แต่ในอนาคตฉันล่ะสงสัยว่าผู้คนจะตั้งใจไปเยือนไหมเพราะว่ามันไกลออกไปมากเลย

-ยักษ์เพลิง สุดยอดไปเลยว่าไหม? แค่พริบตาเดียวก็เกิดหายนะสุดๆละ


-ดรินเฟลด์กับพวกกองทัพเรือเข้าไปปะทะแล้วจากนั้นก็หนีออกมา คิคิ

-แม้แต่พวกกิลด์เฮอร์มีสก็เจอปัญหายากๆได้เหมือนกันนะเนี่ย
-ลาส ฟาลังคซ์จากสิบเขตต้องห้ามอันแสนยากลำบากที่จะต้องตามหาจากบนสุดของแดนเหนือ แต่ว่าลองมานึกดูแล้วมันเป็นเขตต้องห้ามนิ ฉันว่ามันน่าผิดหวังอยู่หน่อยนะ

นอกจากที่นี่แล้วยังมีที่อื่นที่มีมอนสเตอร์เลเวลสูงๆที่คล้ายๆกันอยู่อีกมาก
-นอกเหนือจากนั้น คุณคาดไหมว่าพวกเขาจะตายไปในไม่กี่นาทีนี้ที่เขตต้องห้ามนั้นน่ะ?
-พรุ่งนี้ พวกกิลด์เฮอร์มีสจะยังอยากออกไปผจญภัยอยู่อีกไหมนะ?

ยอดผู้ชมสูงมากในขณะที่การออกอากาศสดยังคงถ่ายทอดต่อไปเรื่อยๆ เหล่าผู้เล่นก็กำลังพูดคุยถกเถียงในบอร์ดแสดงความคิดเห็น แต่ในขณะนั้นเองที่มีโพสท์หนึ่งบนบอร์ดกระทู้ที่ขึ้นมากะทันหันเริ่มไต่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
-ในที่สุดก็ระเบิดซะที ภูเขาไฟแห่งเขตลาส ฟาลังคซ์!
-แผ่นดินไหวได้ฉีกกระชากแผ่นเปลือกโลกแล้ว ลาวากำลังปะทุไหลทะลักออกมาจากผืนดิน
-คิคิ ต้องดูนี่ให้ได้เลย!
-ดูเหมือนจะเป็นฉากที่พวกคุณไม่ควรพลาดเลยละ


จบตอน
ผู้แปล: Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


9 ความคิดเห็น:

  1. ข้าศึกอ่อนแอแล้ว เตรียมตัวโจมตีได้
    เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแน่เหล่าโจรสลัดและทหารเรือ

    ตอบลบ
  2. อ๊ากกกกกกกกค้างงงงงงงงงง มันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  3. ทำอย่างไรได้ละครับ
    โอกาศอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว
    พริกวิกิจ เป็นโอกาศ

    ตอบลบ
  4. จังหวะนี้เพลงมา ตื่นฯฯ

    ตอบลบ
  5. ตายหมดคราวนี้ คราวนี้คงมีคนหาเรื่องลดฮวบ

    ตอบลบ
  6. เดี๋ยวเจอซอยูน God Like!!!

    ตอบลบ
  7. ได้เวลาลูท คึๆๆๆ

    ตอบลบ
  8. นักงวางแผนจริงๆ....วีด
    555
    ขอบใจหลายๆเด้ออ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...