วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

เล่ม 19 ตอนที่ 4 วีดนักประดาน้ำ แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 19 ตอนที่ 4 วีดนักประดาน้ำ แปลโดย Cole’s Myth

 อืมมม แนวโขดหินโสโครกแผ่ออกมามากกว่าที่ฉันคิดอีกนะ ฉันควรระวังไม่ให้เข้าไปติดในกระแสน้ำวนซะแล้ว
วีดยังคงระมัดระวังในทะเลเปิด มันดูเหมือนกับแผ่เส้นทางออกไปจนถึงเส้นขอบฟ้า แต่ว่าเมื่อแล่นเรือเร็วเท่าไหร่ มันยิ่งใกล้พื้นดินที่ทอดตัวมาให้เห็น แล้วก็จะมีสิ่งที่ทำให้แปลกใจปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เรือผีสิงมักจะได้รับความเสียหายง่ายๆเพียงเพราะแผงสาหร่ายทะเลหรือพวกโขดปะการัง
 คุณไม่ควรประมาทในขณะที่กำลังแล่นเรืออยู่
วีด แม้ว่าจะยังกังวลสิ่งรอบข้าง เขายังคงตกปลากกับเซเฟอร์
พวกเขาโยนปลาที่ไม่เอา ให้พวกนก จากนั้นพวกมันก็จิกกัดออกจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ฝูงนกจำนวนมากที่กำลังกัดกินปลาได้เพิ่มความเร็วให้เรือ วันเวลาของการทำงานอย่างขะมักเขม้นผ่านพ้นไป การสูญเสียที่โยนปลามากมายให้พวกนกนั่นง่ายซะยิ่งกว่าแต่ก่อน เมื่อเทียบกับที่ต้องตกปลาตลอดเวลามาเพียงเพื่อเลี้ยงพวกนักดาบนั่น


จากนั้นวีดก็เอาแผนที่เดินเรือออกมา
 “ดูท่าว่าคงไม่ต้องหยุดที่ท่าเรือระหว่างทางแล้วละ นายคิดว่างั้นไหม
เพราะพวกลูกเรือผีสิงไม่จำเป็นต้องกิน ก็แค่ดื่มเหล้านิดๆหน่อยๆ มันก็ทำให้มีน้ำดื่มกับอาหารเหลือเฟือสมบูรณ์แล้วละ
พวกเขาตุนน้ำที่เพียงพอสำหรับห้าวันและอาหารสำหรับสองวันในห้องเก็บเสบียงตอนที่เทียบท่าที่เกาะไอเปีย
พวกเขาจะสามารถรอดอยู่ได้เป็นสัปดาห์ถ้ากินอย่างประหยัดถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดก็ตาม ต้องขอบคุณจริงๆที่ได้กักตุนเสบียงไว้เพราะการอดตายอย่างช้าๆไม่น่าอภิรมย์เลยจริงๆ
 “พวกเราตรงดิ่งไปยังจุดหมายปลายทางได้เลย!”
เขาไม่ต้องเตรียมอาหารมากมายขึ้นบนเรือเพราะความขี้เหนียวอย่างเคยเป็น พวกเขาแค่ต้องตกปลาต่อไป ก็ถ้าปลามันเค็มอยู่แล้ว แค่เอาไปตากแห้งก็พอ จากนั้นมันก็จะอยู่ได้เป็นเดือน ตอนที่ฝนตกลงมา ก็แค่กรองน้ำจากใบเรือ นั่นก็เพียงพอที่จะเติมน้ำดื่มไว้ในถังน้ำได้แล้ว
 ( หมายเหตุ: ก่อนจะมีคลอรีนหรืออะไรก็แล้วแต่ กะลาสีเรือจะกักน้ำฝนเอาไว้ในใบเรือแล้วเอาใส่ไว้ในถังไม้ อย่าดื่มน้ำทะเลละ คุณจะเสียน้ำเสียมากกว่าได้รับน้ำซะอีก)
 “ถ้าพายุกำลังพัดโหมกระหน่ำมาฉันจะขับเรือเอง เราก็จะสามารถไปถึงโกโทบาภายในหกวัน สถานที่ที่เป็นเกาะแรกในทะเลเหนือของพวกเรา
ระหว่างการเดินทางที่แสนไกล ทักษะความเชี่ยวชาญการเดินเรือของเขาไปขั้นกลางแล้ว การเดินทางไกลตรงดิ่งไปอย่างต่อเนื่องดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ดีซะยิ่งกว่าเดินเรือกลับหน้ากลับหลังไปมาแม้นเพียงแค่ล่องเรือไปในระยะใกล้ๆเท่านั้น
 คงเพราะเรือลำใหญ่ การท่องทะเลทางไกลจำต้องใช้ทักษะการเดินเรือค่อนข้างมากเลย
กาลเวลาผ่านไป การท่องทะเลผ่านมาถึงวันที่แปด วีดกับเซเฟอร์เอาแต่ตกปลากัน ขณะที่มีเงาดำทะมึนปรากฏขึ้นใต้ท้องทะเล
ฝูงมอนสเตอร์ทะเลกำลังไล่ตามคุณ ฝูงมอนสเตอร์ทะเลดูท่าว่าจะตั้งเป้าโจมตีไปยังเรือของผู้ที่เดินทางไกล
 เร่งความเร็วเต็มสูบไปเลย!”
วีดเร่งความเร็วเรือสูงสุด เขาอยากแล่นไปให้เร็วกว่าพวกมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเรืออยู่ แต่การตอบสนองของพวกกะลาสีเรือผีสิงช่างประหลาดซะจริง 

เขาพูดอะไรบางอย่างรัวๆเรื่องการแล่นเรือล่ะ
 “หรือว่าจะหมายถึงให้ทอดสมอรึปล่าว?”
 ถอนใบเรือขึ้น!”
ไอ้พวกลูกเรือผีงี่เง่า! ดูท่าว่าความเป็นศัตรูที่มีต่อวีดจะเพิ่มขึ้นในตอนที่ความจงรักภักดีกลับลดลง แต่ถ้าหากความเร็วเรือผีสิงไม่เพิ่มขึ้น พวกมอนสเตอร์มีหวังเป็นพวกที่เข้ามาแส่หาเรื่องเร็วๆนี้แน่เลย
 คงจะยาก ถ้าจะให้สลัดพวกมันออกไป
วีดจึงเริ่มจับพวกกะลาสีผีสิงโยนลงทะเล
 “ถ้าพวกแกยังจะเล่นไปเรื่อย ก็ออกไปสู้ซะไป๊!”
 “นายท่าน ได้โปรด ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
เหล่าลูกเรือผีสิงที่ถูกโยนลงทะเลกวัดแกว่งดาบของพวกมันอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็กลายเป็นของว่างให้มอนสเตอร์ทะเลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเสียงร้องหลงมาจากบนดาดฟ้าเรือ
 ฮือออ กัปตันได้โปรดอย่าโยนข้าให้พวกมอนสเตอร์ทะเลเลย พวกมันต้องฉีกข้าออกเป็นชิ้นๆแน่เลย!”
เหล่าลูกเรือผีสิงยังคงถูกโยนไปให้พวกมอนสเตอร์ทะเลเรื่อยๆ วีดหวังจะให้พวกมอนสเตอร์ทะเลไล่ตามเขาไม่ทัน แต่กลับเป็นว่าพวกทหารเรือผีสิงเป็นฝ่ายที่ต้องวิ่งหนีสลัดออกจากมือที่คว้ามาของวีดซะงั้น แต่ยังไงซะทั้งสองพวกนั้นก็ยังเอาแต่ขัดขวางเขาไว้อยู่ดี
 “ถ้าเป็นยังงี้ละ แล้วใครจะโทษฉันได้ละ?”
เขาจะเอาตัวเองไปสู้ในทะเลได้ยังไงละ ในเมื่อเขาไม่เคยทำยังงั้นมาก่อน

มีข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบมากมายบนทวีปเวอร์เซลทั้งนั้นแหละ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละอาชีพ แต่การเดินทางท่องทะเลเป็นสิ่งที่ต้องใช้การพึ่งพาอาศัยอย่างยิ่งในการจะดำรงตัวอยู่บนเรือ
แต่ยังไงก็ตามอาชีพนักตกปลาก็ได้ถูกยอมรับว่าเป็นสายอาชีพทางน้ำที่แข็งแกร่งมากที่สุด กลับไม่ใช่ชาวทะเลหรือพวกโจรสลัดเลย
ขณะที่ถือฉมวกเพื่อที่จะได้จบเกมส์ครั้งสำคัญนี้ พวกมอนสเตอร์ทะเลจำนวนมากและฉลามกินคนยังคงวนเวียนอยู่รอบๆเรือที่กำลังเจาะรูจากใต้ท้องของเรือ
เพื่อที่จะเบิกอรุณใหม่ให้กับการสำรวจดันเจี้ยนใต้น้ำที่มีแค่เหล่าผู้เล่นนักผจญภัยเท่านั้นที่จะทำ! คงต้องใช้ความกล้าหาญกับทักษะการว่ายน้ำอย่างมาก วีดเตรียมออกตัวไปกับสามสาวนักประดาน้ำเพื่อที่จะไปคุ้มกันเขา
เขาได้อ่านโพสท์แสดงความคิดเห็นมาก่อนหน้าว่าการใช้คน 3 ถึง 4 คนจำเป็นมากตอนจะไปดำน้ำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครบนเรือที่เคยดำน้ำมาก่อนแล้วยังไม่ชินกับการต้องต่อสู้ทางทะเลอีกด้วย วีดจึงเลือกเอาคำคมเสริมกำลังใจให้พวกเขาว่า
 “ไม่มีของที่เรียกว่าเป็นเครื่องหนังไร้ค่า เจ้าจะได้ลิ้มรสชาติของเนื้อแม้นมันเกือบจะหมดอายุ โอ้ ข้าจะให้อะไรได้หนอเพื่อแจปเทม! ข้อความคิดเห็นแห่งสมาคมดาร์คเกมเมอร์ล้วนมีรายการดร็อปไอเท็มที่จะได้มาจากมอนสเตอร์ทะเลที่ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านไปทั้งตัว
 “เตรียมเข้าสู่การรบ ! ทุกคนเตรียมโจมตีทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น!”
วีดเฝ้ารอโอกาสตัดสินชี้ขาดเพื่อให้เพื่อนๆเขาโจมตีได้ในทันที
 “ศรอัสนีบาต! (Lightning shot) เพลสาดฝนธนูสายฟ้าลงไปในทะเลอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นเองที่ใต้ผืนน้ำก็ฟาดซัดไปด้วยแรงช็อตพลังไฟฟ้าอานุภาพรุนแรง
เมลอนปีนขึ้นไปบนเสากระโดงเรือแล้วยิงธนูลงไปที่ทะเล บนบอร์ดกระทู้บอกว่าคงไม่มีโอกาสเลยที่จะแสดงให้เห็นความคล่องตัวว่องไวของอาชีพเรนเจอร์ แต่โอกาสในตอนนี้ มันจะเป็นโอกาสที่จำเป็นมากในการโจมตีต่อเนื่อง
 “ฟิ้วววว อ๊า โว้วว!”
ลูกธนูที่ชุบด้วยสายฟ้าปักอยู่บนร่างกายของพวกมอนสเตอร์ทะเล
เมื่อใดที่คลื่นทะเลลูกใหญ่ซัดผ่านมอนสเตอร์ทะเล พวกมันก็จะชักกระตุกไปด้วยความเจ็บปวดทุกครั้ง
คงเป็นเพราะค่าพลังชีวิตจำนวนมากมหาศาล พวกมันจึงไม่ได้รับความเสียหายมากมายเลย แม้ว่าพวกมันจะโดนโจมตีด้วยลูกธนูจำนวนมาก พวกมอนสเตอร์ทะเลก็ยังไล่ตามพวกเขามาอย่างไม่ลดละ
 “เร่งความเร็วเรือไปเรื่อยๆ!”
เหล่าลูกเรือผีสิงนั้นรับผิดชอบควบคุมใบเรือเพื่อรักษาความเร็วแล้วหลีกเลี่ยงไม่ให้ลดน้อยลงแม้แต่นิดเดียว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะระบุจำนวนที่แน่นอนของฝูงมอนสเตอร์ทะเล แต่ว่าตามการคาดคะเนของวีดก็คงมีราวๆ10 หรือนับได้จากพวกที่โดนการโจมตีของพวกเขา
ขณะนั้นเองโรมุนะก็ร่ายเวทย์มนต์ของเธอเสร็จสิ้น
 พายุสายฟ้า!”
มอนสเตอร์ทะเลจะเผ่นหนีในทันทีถ้าพวกมันเห็นคุณร่ายเวทย์นานๆ เพราะเมื่อคุณรวบรวมมานาได้อย่างมากเพื่อสร้างเวทย์สายฟ้า! แต่ครั้งนี้สายฟ้านั้นผ่าฟาดลงทะเลรอบๆเรือผีสิง
ร่างของมอนสเตอร์ทะเลชักกระตุกที่เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าพวกมันได้รับค่าความเสียหายจากฟ้าผ่าลงบนผืนน้ำในแต่ละครั้ง
 (หมายเหตุ: ในบางกรณี แม้ว่าสายฟ้าจะผ่าลงแบบสุ่มๆ แต่เป็นเพราะผู้ควบคุม พวกมันก็จะยังได้รับดาเมจอยู่แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้รับตรงๆ)
 “ครึกกกก

มอนสเตอร์ทะเลที่ไล่กวดตามมาเริ่มประเดิมการโจมตีมาที่เรือด้วยการกระแทกอย่างแรง เหล่าลูกเรือล้มกลิ้งแล้วไถลลื่นระเนระนาดจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ เหล่าลูกเรือผีสิงหลายตนหล่นร่วงพรูลงไปในทะเล
ส่วนทุกคนที่ยึดตัวเองให้อยู่บนเรือที่โดนโจมตีมาไว้ได้นั้น เริ่มแหกปากส่งเสียงเอะอะโวยวายดังลั่น
ตัวเรือได้รับความเสียหาย ค่าความคงทนลดลง 36
เรือผีสิงเชื่องช้าเกินไปที่จะรอปะทะกับฝูงมอนสเตอร์ที่ไล่กวดตามมา แถมตอนนี้ยังโจมตีมาจากด้านล่างอีก
เรือผีสิงเริ่มแล่นช้าลงแม้ว่าจะมีหนวดของฝูงมอนสเตอร์เริ่มละเลงยึดเกี่ยวมารอบตัวเรือยั้วเยี้ยเต็มไปหมด!
 (ส่วนหน้าของเรือมักเรียกว่า หัวเรือ ส่วนหลังเรียกว่าท้ายเรือ ตัวเรือ คือทุกส่วนที่ต่ำลงมาจากเสากระโดงเรือและใบเรือ โดยเฉพาะส่วนที่ทำจากไม้)
ความเร็วของเรือถูกทำให้ช้าลงมากกว่าเดิม เพราะมีฝูงมอนสเตอร์เกาะหนึบทั่วลำเรือเลย ถ้าหากค่าความคงทนของเรือยังค่อยๆลดลงๆอยู่แบบนี้พวกเขาได้จมดิ่งลงไปตายแน่ๆ
 ทุกคนเตรียมตั้งรับอยู่ที่ดาดฟ้าเรือ!”
หนวดมอนสเตอร์ขนาดยักษ์เริ่มคลายออกหลังจากกินหมัดอันหนักหน่วงของเซอร์กะไป! หนวดที่ยื่นออกมาของมอนสเตอร์ติดไฟไปด้วยเพราะคุณสมบัติจากถุงมือของเซอร์กะ หนวดหมึกที่ชักกระตุกอยู่เริ่มส่งกลิ่นหอมฉุยออกมา
 (หมายเหตุ: ใน DnD อาชีพพระสามารถใช้ไอเทมถุงมือ สร้อยคอได้ เพื่อเสริมค่าดาเมจ หรือค่าคุณสมบัติพิเศษให้กับการโจมตีพื้นฐานให้พวกเขาได้)
ไอรีนร่ายเวทย์คำอวยพรเพื่อบัฟเพิ่มค่าการป้องกันให้กับกลุ่มปาร์ตี้
 ศรอัคคีความเร็วสูง!”
เพลกับเมล่อนใช้ทักษะของเรนเจอร์และนักธนูออกมาโดยตั้งสมาธิเพื่อโจมตีไปที่พวกมอนสเตอร์ทะเล
หัวของมอนสเตอร์ทะเลเริ่มออกมาให้เห็นในตอนที่หนวดมันไต่ขึ้นมาบนเรือผีสิง
เหล่าลูกเรือผีสิงก็เริ่มตอบโต้ไปที่หนวดของปลาหมึกยักษ์ด้วยดาบและขวาน

เซเฟอร์ก็โจมตีมอนสเตอร์ทะเลไปหลายๆตัวไปพร้อมๆกัน
 บางทีนะ พวกมอนสเตอร์ทะเลคงถูกดึงดูดมาด้วยเนื้อสดๆที่เรารับเอามาจากฝั่งก็ได้นะ
มอนสเตอร์จากทะเลคงไม่อยากกินปลาอีกแล้วมั้ง เพราะงั้นเซเฟอร์ผู้รอบรู้เกี่ยวกับเหยื่อราวกับเป็นสารานุกรม เขาเอาเนื้อหมูสามชั้น (sangyupsal)มาเกี่ยวกับเบ็ดแล้วเหวี่ยงออกไปในทะเล
มอนสเตอร์ยาวขนาดร้อยเมตรกรูกันเข้าไปที่เส้นเอ็นของเขาที่ทำให้มอนสเตอร์หลายตัวพันกันยุ่งเหยิงรอบๆตัวเรือผีสิงจนเหลือเพียงแค่สองตัวที่ยังโจมตีอยู่
(หมายเหตุ: San-gyupsal  ซันคยอบซัน คืออาหารเกาหลีประเภทเนื้อที่ถูกย่าง)
 “ครูททท กร๊ากกกก
ตัวเรือโดนหนวดยักษ์ทำลายเสียหายหนักมาก ค่าความคงทนของเรือกำลังลดลงอย่างฮวบฮาบ มันจะเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่พวกมอนสเตอร์จะมาเขมือบกินหลังจากที่เรือล่มแล้ว
วีดจึงเริ่มร่ายเวทย์
 ความมืดมนร่วงโรยสู่หอกทวน หอกศาสตราก่อกำเนิดจากความอันธการที่จักเจาะทะลวงไปยังหัวใจของเหล่าศัตรู หอกทมิฬ!(dark spear)’”
หอกหนักพอๆกับต้นขาออร์คที่อยู่บนหลังม้าได้โดนขว้างไปที่หัวของมอนสเตอร์ทะเล นั่นเป็นเวทย์ที่รุนแรงที่เคยใช้สู้กับมังกรโครงกระดูก
คงเป็นเพราะตอนนี้เขาใช้เวทย์ได้อย่างเหมาะสมในฐานะของจอมเวทย์อมตะลิช  พลังเวทย์จึงดูรุนแรงกว่ามากเลย มอนสเตอร์ตัวที่ไต่มาบนดาดฟ้าเรือผีสิงจึงโดนผลักออกไป
มอนสเตอร์หงายหลังตกลงไปในทะเลในตอนที่หอกทมิฬระเบิดตัว ตัวเรือที่เอียงตามน้ำหนักตัวมันเริ่มกลับเข้าที่แล้ว
 ผลักมันไปจนถึงขอบเรือแล้ว อย่างงั้นล่ะ!”
เสียงกรีดร้องที่แปลไม่ออกดังมาจากมอนสเตอร์ทะเลตัวนั้น
 โอ้โห! เวทย์มนต์นั่น!”
 “วีดใช้เวทย์มนต์ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!”
สมาชิกในปาร์ตี้เห็นด้วยที่จะบอกว่าเวทย์มนต์นั่นน่าทึ่งมาก นักสู้แนวหน้าส่วนใหญ่มักจะใช้อาวุธต่อสู้ระยะประชิด เพราะงั้นมันไม่ธรรมดาเลยที่วีดสามารถใช้เวทย์มนต์ที่รุนแรงขนาดนั้น แต่ยังไงซะแม้ว่าเขาจะสามารถร่ายเวทย์ระดับสูงง่ายๆในฐานะของลิช มันก็ยังบั่นทอนความสามารถทางกายภาพของเขาด้วยเช่นกัน
*แควกกกก พรึ่บ พรึ่บ*
The hull has been damaged, durability decreased by 21.
ลำตัวเรือได้รับความเสียหาย ค่าความคงทนลดลง 21
ใบเรือเสริมฉีกขาดออกไป
แม้ว่าเขาจะโยนมอนสเตอร์ตัวเดียวนั้นลงทะเลไป แต่ก็ยังมีตัวอื่นที่ยังเกาะหนึบอยู่ที่เรือ

ลูกเรือผีสิงโจมตีหนวดพวกมันด้วยมีดสั้นกับดาบ เพลกับเมล่อนก็ยิงธนู แต่กลับเป็นว่ามอนสเตอร์ซ่อนหัวเอาไว้ใต้ท้องเรือ แถมปกติค่าพลังงานชีวิตของมอนสเตอร์ทะเลธรรมดาจะมีมากว่ามอนสเตอร์ที่อยู่บนพื้นดินซะอีก
แล้วจู่ๆ เซเฟอร์ส่งเสียงร้องออกมา

พี่ครับ ผมอยากได้ความช่วยเหลือ มาทางฝั่งนี้หน่อย!”
เหยื่อล่อที่แตกต่างก็ดึงดูดพวกปลาได้ต่างพันธุ์ ผลลัพธ์นั้นออกมาอย่างที่เห็นว่ามอนสเตอร์ทะเลที่เหมือนปลาฉลามกระโจนออกมาเหนือผิวน้ำเพื่อกินเหยื่อล่อ
ปกติแล้วมอนสเตอร์ทะเลมักจะมีระดับสติปัญญาต่ำหรืออาจถึงขั้นฝั่งโง่ไปหน่อยเลยละ แม้ว่าคุณจะใช้การเคลื่อนที่ซ้ำๆซากๆพวกมันก็ไม่แม้แต่จะหยุดโง่ซักครู่ได้เลยล่ะ
 ไม่สงสัยเลยว่าเขาเจอปัญหาแล้วละ เรียกขาน เดทไนท์!”
แวนฮอว์คได้ถูกอัญเชิญออกมา
 “ท่านเรียกข้าหรือ นายท่าน
 “ไปสู้กับพวกมอนสเตอร์ทะเลซะ
 “รับทราบขอรับ
เดทไนท์พุ่งไปที่ดาดฟ้าเรือพร้อมกับขวานขนาดเล็กและดาบในมือ

แวนฮอร์คตัดขาของมอนสเตอร์ออกมาได้เพียงแค่ใช้เคล็ดลับทักษะเงา มอนสเตอร์ทะเลที่ดูเหมือนมีพลังชีวิตไม่จำกัดก็หนีและตกลงไปในที่สุดแล้วดิ้นรนอย่างเจ็บปวด
ความเสียหายของเรือผีสิงเหลือไว้เพียงแค่ภาระเล็กน้อยลงไปมาก แต่ว่าวิกฤตก็คืบคลานเข้ามาอีกครั้งในทันที
มอนสเตอร์ทะเลตัวที่ซ่อนอยู่ในทะเลน้ำลึกกระโจนขึ้นมาที่ดาดฟ้าเรือในทันทีทันใด แล้วเริ่มสะบัดหนวดมันกระแทกเหล่าลูกเรือผีสิงล้มลงไปเป็นแถว
ไอรีนกับเรมุนะขยายขอบเขตเวทย์ป้องกันเพื่อปกป้องเพลและเมล่อนซึ่งอยู่บนปลายของเสาใบเรือที่สู้กับหนวดปลาหมึกอยู่
 หอกทมิฬ!”
วีดโจมตีด้วยเวทย์มนต์อีกครั้งซึ่งเป็นเวทย์มนต์ที่เขาใช้บ่อยซะเขาสามารถใช้ได้แม้จะหลับอยู่ การโจมตีที่อยู่ใต้ทะเลนั้นก็คงเหมือนการเล่นเกมทายปัญหาที่โคตรยากเลยละ
จะง่ายขึ้นมากเลยถ้าเขายืนรอบนดาดฟ้าเรือให้หมึกยักษ์สิบหนวดโผล่หัวออกมาซะดีกว่ายิงลงไปในน้ำแบบมั่วซั่ว
*อาคคคค ชคว๊าคคค*

หมึกยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วพันรวบกองกระดูกของผีดิบลิชที่แสนเปราะบาง ร่างของวีดถูกยกตัวสูงขึ้นจากดาดฟ้าเรือผีสิง
 “วีดดด!”
 “วีดโดนเจ้ามอนสเตอร์นั่นลากตัวไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฮวาบองก็กรีดร้อง เมล่อนง้างลูกธนูร่ายเวทย์ใส่คันแล้วก็เตรียมเล็ง แต่กลับเป็นว่าสายไปแล้ว วีดจมไปใต้น้ำแล้ว
ร่างกายที่แข็งแรงของมอนสเตอร์ทะเลรัดร่างเขาไว้พร้อมกับแรงดูดไว้อีก ความแข็งแกร่งนั้นดูเหมือนจะเหนือว่าออร์คคาริชวิ ซะอีก
ความแข็งแกร่งระดับยอดมนุษย์พันธุ์แท้เชียวน่ะแก!
ท่านโดนการโจมตีพิษอัมพาท
การทำงานของพิษไม่เป็นผลเพราะคุณสมบัติของอันเดด
 (หมายเหตุ: หมีกและหมึกยักษ์ทั้งหมดจะมีปุ่มพิษ ธรรมดาจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ว่าที่ขนาดตัวใหญ่กว่าพวกเราหล่ะ?)
ความแข็งแรงระดับยอดมนุษย์ที่เจ้ามอนสเตอร์สำแดงฤทธิ์ออกมาอย่างล้นหลาม แล้วยิ่งจะแกร่งขึ้นอีกอย่างมากเมื่ออยู่ใต้น้ำ

วีดสามารถมองไปรอบๆได้กว้างขึ้นเมื่ออยู่ใต้น้ำ หลังจากใช้เวลาซักพักเขาก็สามารถสังเกตเห็นฝูงมอนสเตอร์ทะเลที่รายล้อมเหยื่อล่ออยู่
มีมอนสเตอร์ขนาดธรรมดาอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีบางตัวที่ขนาดใหญ่กว่าเรือผีสิงซะอีก พวกมอนสเตอร์ทะเลอ่อนๆก็รุมตอมเรืออย่างกับฝูงผึ้ง ช่างเป็นภาพที่น่าขนลุกขนพองซะจริง!
จากนั้นเขาก็เจอกับมอนสเตอร์ที่เขาโจมตีด้วยหอกทมิฬ ลอยอยู่ข้างเขา
มอนสเตอร์ทะเลที่จับตัววีดมาเปลี่ยนสีหน้าต่างออกไปขณะที่มองเขาอย่างกับของเลิศรส
ในความคิดของมอนสเตอร์คือ : ‘ จะกินจนกว่าจะกินต่อไม่ได้เลยละ’ (น่าจะหมายถึงกินให้เหลือแต่กระดูก)
น่าเป็นห่วงที่ว่ากระเพาะมันคงผิดหวังแล้วละถ้าจะกินวีดที่ไม่มีเนื้อหนังเอาซะเลย ช่างเป็นข้อได้เปรียบของอันเดทจริงๆ

ไม่ต้องกังวลหรอก แกไม่จำเป็นต้องคิดให้เรื่องมากอีกต่อไปแล้วละ
วีดพยายามตัดหนวดที่รัดเขาอยู่ด้วยหอกทมิฬ
แม้ว่าหนวดมันจะแข็งหยั่งกับเหล็กแถมการโจมตียังแทบจะไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน ส่วนที่เหนียวที่สุดของมอนสเตอร์ทะเลที่เป็นเครื่องหนังเกรดA ไม่มีทางเลยที่จะตัดออกง่ายๆโดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับมัน

ถึงแม้ว่าเขาจะชำแหละมันออกมาก็คงเป็นแค่หนึ่งของส่วนหนวดมันแถมคงทำให้หงุดหงิดซะเปล่าๆ โจมตีมันวิธีนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร
เขาเลยเล็งไปที่หัวใจของมอนสเตอร์ที่น่าจะอยู่ตรงบริเวณหัว จากนั้นวีดจึงรอให้มันปรากฏตัวออกมาเอง
ถ้าวีดเป็นมนุษย์ธรรมดาเขาคงหมดอากาศหายใจแล้วก็ตายด้วยอาการน้ำเต็มปอดแต่เพราะเขาเป็นอันเดทเลยไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้นเลย
ค่าพลังชีวิตของเขาลดต่ำลงขณะที่หนวดของมอนสเตอร์โอบรัดเขาอย่างช้าๆแต่เขาก็ยังอดทนรอไว้ ในที่สุดเขายกแขนซ้ายขึ้นแล้วพูดว่า
 ทักษะวิชาสูบชีพ ทักษะวิชาสูบมานา!”

คุณได้ใช้พลังทักษะของเจ้าแห่งความตาย ลิช
ท่านได้สูบค่าพลังชีวิตและมานาจากมอนสเตอร์ทะเล
ฟื้นคืนระดับค่าพลังชีวิต 369 หน่วย
ฟื้นคืนระดับค่าพลังชีวิต 112 หน่วย
ฟื้นคืนระดับค่าพลังชีวิต 291 หน่วย

เป็นไปได้จริงๆที่จะใช้การโจมตีของทักษะสูบพลังหลายๆครั้งรวด แม้ว่าการเคลื่อนที่ของเขาจะแย่เพราะน้ำแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมสิ้นท่า
ตอนที่มันจะตายมอนสเตอร์ทะเลไม่รู้ว่าจะทำไงได้แต่เพียงอ้าปากกว้าง
วีดที่ไม่ตายจากการจมน้ำแถมยังไม่สามารถเป็นอัมพาทได้อีก แล้วยังอาจจะทำให้ท้องเสียอีกถ้ากินเข้าไป เขาจึงรอเวลาที่เหมาะเพื่อโจมตี
เพียงแค่ที่พวกมันจะทำท่าสวาปามเหยื่อ เขาก็โยนหอกทมิฬเข้าไปในช่องปากที่เปิดอ้าของมอนสเตอร์
ท่านโจมตีโดนจุดอ่อนของมอนสเตอร์ทะเล ออร์เตส สำเร็จ
ท่านได้โจมตีจุดตายสำเร็จ!

หนวดที่รัดวีดอยู่เริ่มคลายตัวออกขณะที่มันพยายามถอยร่นหนีออกไป
 “ปล่อยให้มันอยู่นิ่งๆก่อนละกัน” (น่าจะประมาณปล่อยไปก่อนค่อยล่าทีหลังมั้ง)
 (หมายเหตุ: มันดูไม่สมเหตุสมผลกับเราเช่นกัน)
ที่แล้วมา หอกทมิฬต้องใช้มานาไปเกือบครึ่งแต่ตอนนี้ทักษะหอกทมิฬนี้จะใช้ได้หลายครั้งด้วยมานาที่เหลือเฟือพอที่จะใช้คาถาอื่นอีกด้วย

เวทย์ที่เขากำลังจะใช้ตอนนี้นั้นต่างออกไปจากคาถาที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้
 แรงโน้มถ่วงพลิกกลับ!” (Reverse Gravity)
มอนสเตอร์ทะเลที่กลับหัวกลับหางค่อยๆลอยมากขึ้นๆและเริ่มลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เวทย์แรงโน้มถ่วงพลิกกลับก็คือมนต์ที่จะทำให้สิ่งของลอยขึ้นไปนั่นเอง (แอดมิน: โบกนิด สะบัดหน่อย วิง-กาเดี้ยม เลวิโอซ่า 555)
ตอนนั้นเองที่เหล่ามอนสเตอร์ทะเลทั้งหลายถูกดึงขึ้นเหนือผืนน้ำ! พวกมันกระแทกเข้ากับบาร์เรียของโรมุนะแถมยังโดนย่างสดด้วยลูกธนูของเมล่อนอีก
ช่างเป็นเป้าหมายง่ายๆซะจริงเพราะว่ามีแต่มอนสเตอร์ทะเลขนาดใหญ่ๆทั้งนั้น
มอนสเตอร์ทะเลออร์เตสถูกกำจัดแล้ว
ท่านได้รับค่าประสบการณ์แล้ว
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะการว่ายน้ำเพิ่มขึ้น
มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากไม่น้อยเลย แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาเฝ้ารอมานาน
เปลวเพลิงสีแดงเข้มดั่งเลือดลุกเหิม เล็ดลอดจากภายในโครงกระดูกของวีด คงถึงเวลาแล้วสินะที่จะสาธิตพลังที่แท้จริงของจอมเวทย์อมตะ โดยถือคัมภีร์เวทย์ของบัลข่าน (Balkans tome)ด้วยมือหนึ่งและอีกมือก็ถือไม้เท้าของนักบุญผู้ดับสูญ (Staff of fallen Saint) จากนั้นวีดก็เริ่มร่ายเวทย์

 จงตื่นขึ้นมา เหล่าดวงวิญญาณผู้มิอาจพานพบกับความสงบสุข  จงฟื้นคืนชีพแล้วมาเผชิญหน้ากับผู้พรากชีวิตของพวกเจ้า เดดไรส์(Dead Rise)!”
ผืนน้ำบริเวณใกล้ๆวีดเริ่มลดลงฮวบฮาบแล้วก็มีปลาคาร์พอันเดทขนาดใหญ่ยักษ์ถูกอัญเชิญออกมา
 (ฮ่าๆๆ จากการแปลของ BT เรียกมันว่า ปลาหางนกยูงยักษ์”)
มานาจำนวนมากไหลออกจากร่างของวีดอย่างกับกระแสน้ำลด คงเพราะมอนสเตอร์ทะเลอันเดทที่มีขนาดใหญ่ เขาจึงต้องใช้จำนวนมานามากขนาดนี้

คงเพราะเขาเป็นจอมเวทย์อมตะ ลิช พลังของทักษะเนโครแมนเซอร์จึงได้เพิ่มขึ้น
มอนสเตอร์ทะเลอันเดดเข้าโจมตีเหล่ามอนสเตอร์ทะเลในทันที
พวกมอนสเตอร์ทะเลรับการโจมตีจากทั้งหอกทมิฬกับมอนสเตอร์ทะเลอันเดดรวมกันกลายเป็นการโจมตีผสานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
พวกมอนสเตอร์พยายามดิ้นรนเพื่อชี้ตัวว่าการโจมตีมาจากทางฝั่งไหนแล้วไม่นานนักก็เพียงพอที่ให้พวกมันเริ่มโจมตีไปมากันเองแบบมั่วซั่ว
พวกคนที่อยู่บนเรือผีสิงก็เหมือนกันที่โจมตีอย่างสะเปะสปะใส่พวกสัตว์ตัวไหนที่เข้ามาในระยะโจมตีพวกเขา

 “ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้ทดสอบเวทย์เนโครแมนเซอร์ขั้นที่สอง ขั้นตอนแรก เมื่อใดที่ชีวิตที่ใกล้กับการโจมตีดิ่งสู่กายที่อ่อนแอด้วยมนต์บทนี้ หรือว่าเมื่อใดที่ท่านอ่อนแอลงก็เริ่มสู่ขั้นตอนที่สองได้เลย
 (ฉันละชอบวิธีอ่านของมนต์จากคัมภีร์เนโครแมนเซอร์ที่อ่านเหมือนกับตำราอาหารจริงๆ อย่างใส่กระดูกคนตายสองชิ้น ดวงวิญญาณที่โกรธเกรี้ยวหนึ่งดวง แล้วอัดเอาไว้ 10 นาที เมื่อเสร็จแล้วก็จะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่น่าสะพรึง สนุกละทีนี้!)
 “ท่านผู้ผ่านชีวิตมาแล้ว แล้วเพียงแต่ต้องติดอยู่ในดินแดนแห่งความโศกศัลย์ ความโศกเศร้าแม้นบรรเทาได้ แต่มิอาจจางหายไป จงสลักบัญญัติแห่งความมืดที่มีให้ผู้อื่นอีกเถิด เหล่าอันเดดจงลุกขึ้น(Undead rise)!
เศษเนื้อทั้งหมดที่มาจากร่างของมอนสเตอร์ทะเลเริ่มหลุดรุ่ยออกจากกระดูกของพวกมันเอง พวกมันเริ่มไม่รู้แล้วว่าจะจัดการกับมนุษย์พวกนี้ยังไงดี
เขาวิ่งรุดหน้าไปยังมอนสเตอร์ตัวหนึ่งแล้วก็ใช้โล่ตอนที่คนอื่นๆโจมตีอยู่ มันพยายามจะสลัดวีดออกไปแต่เขาเกาะติดมันหนึบอย่างกับปลิงเลย
 ทักษะสูบชีพ ทักษะสูบมานา
การสูบชีพและมานาเป็นการกระทำที่แสนต่ำช้าและขี้ขลาดมากจนไม่รู้ว่าจะแสดงออกทางคำพูดมายังไง (!%$**$&$!) (สรุปไม่รู้จะด่าว่าไงงั้นเถอะ)

ลอร์ดแห่งความมืดอันเดดที่แสนจะน่าเกรงขามคงจะไม่มีให้เห็นเลยที่แม้สิ้นหวังจนยอมใช้ชั้นเชิงแบบนี้ เขาจำต้องยอมตามน้ำไป เพียงเพราะข้อตกลงการรักษาคอของท่านให้อยู่รอดของวีด
เหล่ามอนสเตอร์อันเดดเกิดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆโดยการสูบค่ามานาและค่าพลังชีวิตที่ไม่สิ้นสุดจากพวกมอนสเตอร์ทะเล
ต่อมาก็มีการแปรเปลี่ยนอย่างมากมาย
ท่านได้รับค่าประสบการณ์แล้ว
มอนสเตอร์ทะเลออร์เตสได้รับค่าความเสียหาย
เหล่าเด็กทั้งเจ็ดของมอนสเตอร์ทะเลได้ถูกทำลายแล้ว หากทักษะการปลุกชีพอันเดดถูกใช้ ค่ามานาครึ่งหนึ่งจะถูกใช้
ท่านได้รับครีบมอนสเตอร์ทะเลจำนวน 10 ครีบ

สิ่งมีชีวิตทางทะเลมักจะกำจัดได้ยากแถมยังหลบหลีกได้ดีอีกแต่เพราะเวทย์มนต์เนโครแมนเซอร์ทำให้เขาล่าพวกมันได้อย่างง่ายดายไปพร้อมกับกอบโกยค่าประสบการณ์กับลูทเอาของได้มากอย่างมหัศจรรย์ ยิ่งเหล่าอันเดดฟื้นขึ้นมามากขึ้นๆ พวกมอนสเตอร์ทะเลก็เริ่มถอยหนีไป
 “ว้าววว!”

สมาชิกปาร์ตี้ที่อยู่บนเรือทรุดนั่งลงอย่างอ่อนล้า
 ยากมากจริงๆเลย
 “พวกมันมีค่าพลังชีวิตมหาศาลนะแต่ไม่ฉลาดเลยซะงั้น
การล่าในดันเจี้ยนก็ถือว่ายากนะแต่เทียบไม่ได้เลยกับการสู้บนเรือที่สะบัดโยกเหยกโคลงเคลงเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้
คุณจะกลับไปเอาไอเท็มที่ตกอยู่ในดันเจี้ยนได้แต่ถ้าอยู่กลางท้องทะเลแบบนี้ละ? จะเป็นไปได้ยังไงเล่า
ค่าความคงทนของตัวเรือตกลงอย่างมาก ถ้าหากเรืออื่นโดนโจมตีโดยฝูงสัตว์ทะเลคงไม่มีทางหลบหนีได้แน่นอน
ท่านประสบความสำเร็จการเดินเรือผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยของบรรดามอนสเตอร์ทะเล เมลวินัส เมล่า(Malvinas Mela)
ค่าทักษะความเชี่ยวชาญการเดินเรือเพิ่มขึ้น
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 160

จากตอนที่พวกเขาล่ามอนสเตอร์ทะเลก็ได้รับค่าประสบการณ์มากมาย บางคนได้มากถึง 3 ถึง 6 หรือแม้แต่ถึง 8 เลเวล
แถมพวกมันยังดร็อปของดีเยี่ยมมาก อย่างกับออกมาจากท้องของมอนสเตอร์ที่เป็นอัญมณีไข่มุก กระดองเต่าที่ไม่ได้โดนย่อย หอยสดๆกับสาหร่ายที่กินได้อีก!
 “ฉันจะจับมอนสเตอร์ทะเลซักหมื่นตัวถ้าหากตัวเรือไม่เสียหายซะก่อน
ดวงตาของวีดอัดอั้นไปด้วยความเศร้าเสียใจในตอนที่พวกเขากำลังเดินทางต่อ เป็นเวลานานมากเลยตั้งแต่ที่เขาไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการล่ามอนสเตอร์
มอนสเตอร์ทะเลนี่ช่างน่าท้าท้ายซะจริง มานาได้ถูกใช้ไปอย่างคงที่เพราะใต้เรือผีสิงยังคงมีมอนสเตอร์ทะเลอันเดดอยู่ ทุกครั้งที่มันฆ่าปลา ค่าประสบการณ์นิดๆหน่อยๆก็กลับมาหาวีด(แอดมิน:มีอันเดดแบบนี้ ยิ่งกว่าปล่อยบอทอีก)
ความเชี่ยวชาญทักษะเนโครแมนเซอร์เพิ่มขึ้น

แม้เป็นช่วงเวลานานที่เขาใช้ประติมากรรมจำแลง แต่ว่าทักษะแห่งความมืดอย่างที่วีดต้องการก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คลาสเนโครแมนเซอร์เป็นอาชีพที่แข็งแกร่งมากจริงๆ
ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลมีวัตถุจากเพียงสิบในพันเท่านั้นที่จะเพิ่มค่าความสามารถของจอมเวทย์อันเดด ความสามารถทางคำสาปและค่าพละกำลังนั้นดีกว่าจอมเวทย์ธรรมดามากแต่ในทางกลับกันก็มีจุดอ่อนอีกมากมายอีกด้วยเช่นกัน
ระดับของทักษะยากมากจริงๆที่จะทำเลเวลได้ ยิ่งคุณสร้างพวกอันเดดมากเท่าไร คุณก็ยิ่งจำเป็นต้องใช้ซากศพมากขึ้นเช่นกัน เพื่อที่จะได้อันเดดที่แข็งแกร่งบางครั้งก็จำเป็นต้องฆ่าผู้เล่นอื่นมาเป็นเหยื่อ

ถ้าคุณสามารถเข้าร่วมสงครามขนาดใหญ่ได้ แล้วทำดาเมจมากๆ ก็ได้ลูทของได้มาก แล้วยังเพิ่มเลเวลได้มากอีกด้วย แต่ผลลัพธ์กลับเป็นว่าท่านอาจจะกลายเป็นเป้าหมายของพวกพวกฆาตกรและนักฆ่าได้
เหล่าเนโครแมนเซอร์จำเป็นต้องจัดการกับความตายและความมืด แต่เพราะพลังของพวกเขานั้นอยู่เหนือความตายจึงได้รับดาเมจได้มากกว่า
ถ้าหากคุณตายก็จะนำไปสู่การลดลงของเลเวลกับความเชี่ยวชาญของทักษะ เพราะถ้าหากว่าคุณไม่อาจฮีลได้โดยพวกนักบวช ก็มักจะตายระหว่างการต่อสู้
แถมยังเป็นอาชีพที่ใช้มานาเป็นอย่างมากแล้วยังต้องนั่งทำสมาธิบ่อยๆอีก ผู้เล่นอาชีพนี้ที่อยู่ในการต่อสู้ขนาดใหญ่จะโดนปลีกตัวออกห่างเป็นพิเศษจากเหล่านักรบพวกเดียวกันเพราะสายอาชีพเนโครแมนเซอร์จะใช้ศัตรูและสหายศึกบางส่วนเพื่อสร้างเหล่าอันเดดขึ้นมา

อาชีพเนโครแมนเซอร์ช่างเป็นคลาสที่อันตรายและโดดเดี่ยวซะจริง
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

8 ความคิดเห็น:

  1. อาชีพในฝันตาวีดเลย

    ตอบลบ
  2. มีมหาเวทดูดดาวด้วย
    มีข้อดีย่อมต้องมีข้อเสียบ้างล่ะนะ ธรรมดาของโลก

    ตอบลบ
  3. มอนสเตอร์ทะเลนี่แหล่งปั๊มเวลดีๆนี่เอง ขนาดปาร์ตี้กลุ่มวีดเลเวลไม่ใช่น้อยๆ แค่สู้ครั้งเดียว (กับมอนสเตอร์ทั้งฝูง) ยังเวลขึ้นกันคนล่ะ 3-8 เวลกันเลย : 3

    ตอบลบ
  4. วิง-กาเดี้ยม เลวิโอซ่า 555
    ที่แท้'ฮ็อกวอตส์'ก็โรงเรียนอนุบาลหรอกรึ!??

    ตอบลบ
  5. ไม่ต้องทำไรเเล้ว ปั้มเวลที่ทะเลไปเลย

    ตอบลบ

เล่ม 52 บทที่ 8 : มังกรทั้ง 2 แปลโดย Ashy dRagoon

  เล่ม 52 บทที่ 8 : มังกรทั้ง 2 แปลโดย Ashy dRagoon นักดาบและนักรบแห่งทะเลทรายเหวี่ยงดาบของพวกเขาท่ามกลางกองทัพจักรวรรดิฮาเว่น   ...