วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 23 ตอนที่ 3: ภูตผีแห่งคาปัว แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 23 ตอนที่ 3: ภูตผีแห่งคาปัว แปลโดย Cole’s Myth

จำนวนผู้เล่นเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายที่กลายร่างเป็นผี กำลังทำหน้าที่ปกป้องหมู่บ้านคาปัว ซึ่งตอนนี้ บรรดาภูตผีมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
 ดู-เหมือนนน-ว่า-พวก-เรา-ทำ-ภาร-กิจ-เสร็จ-หมด-ละ-นะ
โอเทมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแกมความรำคาญไม่พอใจแต่เขาก็ไม่ได้เกลียดมันซะทีเดียว เพราะว่าผู้เล่นมากมายต่างมองไปที่เขาด้วยสายตาอิจฉาบ้างชื่นชมบ้าง
เหล่าจอมเวทย์ให้ความเคารพในการมีค่าสติปัญญา(wis)และความฉลาดหลักแหลม(Intel)ที่สูง
เพราะว่านั่นจะทำให้ระดับมานามีมากมายเหลือแหล่บวกกับเวทย์มนต์หลากหลายที่คนอื่นไม่สามารถใช้ได้!
ในกรณีของพวกอาชีพสายเนโครแมนเซอร์ มันก็เห็นอยู่โต้งๆเลยว่ามันขึ้นอยู่กับจำนวนและชนิดของอันเดดที่พวกเขาสามารถอันเชิญขึ้นมาได้
การอัญเชิญพวกดูลาฮานหรือเดทไนท์นับสิบๆตัวเข้ามาเป็นพลพรรคในสังกัดก็ดูท่าว่าจะดีมากกว่า แล้วก็เจ๋งมากกว่าเมื่อเอาไปเทียบกับกองทัพซอมบี้กับพวกโครงกระดูกที่แถวยาวเป็นหางว่าวแต่กลับควบคุมเอาไว้ไม่ได้
เหล่าผีที่เหวี่ยงคทากระดูกของพวกมันไปมา เดินหน้าไปพร้อมกับเหล่าสหายโกเลมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นภายในหมู่บ้านคาปัว
วีดได้เลื่อนขั้นอีกครั้งกลายเป็น นักเชือดไร้ร่าง (Intangible Slayer)
-การโจมตีของเหล่ามอนสเตอร์แห่งหมู่บ้านคาปัวได้เสร็จสิ้นแล้ว
-การบุกรุกจากมอนสเตอร์แห่งเฟอโกลได้ล่าถอยกลับไปแล้ว
-กองทัพอันเดดจะประเมินการมีตัวตนของเหล่าภูตผีใหม่อีกครั้ง
การประเมินค่า: ยังคงส่งเสียงดังน่ารำคาญและไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังเป็นประโยชน์ในบางครั้ง
-ชื่อเสียง +101
-พลังอันเดด +14
-ได้รับค่าประสบการณ์
ท่านได้รับการอนุญาตให้เข้าสู่ปราสาทคาปัว
เพราะว่าผู้เล่นคนอื่นยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการเข้าไปในปราสาทจึงดูเหมือนว่าวีดจะเป็นคนแรกที่ได้เข้าไป
 “เสบียงศึกถูกเก็บเอาไว้ในปราสาทนี่นา…”
นั่นคือความคาดหวังของวีดที่เติมเต็มไปด้วยอาวุธและอุปกรณ์ของพวกอันเดด!
แต่ทว่าวีดก็ไม่สามารถออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปได้ง่ายๆ
มีจำนวนผู้เล่นต่ำกว่าห้าคนที่เลือกจะกลายไปเป็นอัศวินผี ดังนั้นเขาจึงโดดเด่นมากเอาการ
ไม่เพียงแค่เขาจะเป็นคนที่ต่อสู้อยู่บนหลังม้าปีศาจนั้น แต่ว่าเขายังมีค่าอำนาจบารมีและความกล้าหาญที่สูงจนทำให้พวกมอนสเตอร์ต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอีกด้วย
มันไม่ได้มากมายขนาดนั้นตอนที่เขายังเป็นมนุษย์ แต่ทว่าตอนนี้เขากลายเป็นผีที่ได้แผ่ขยายความหวาดหวั่นไปทั่ว ขนาดพวกมอนสเตอร์ที่อ่อนแอก็ไม่อาจต่อกรกับเขาได้เลยด้วยซ้ำ
ฉากของเหล่ามอนสเตอร์ที่ตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัวตายปรากฏขึ้นมา ในตอนที่วีดอยู่บนหลังม้าปีศาจเพียงแค่มองไปที่พวกมันเท่านั้น!
บรรดาเนโครแมนเซอร์คนอื่นๆทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่แสดงความสงสัยออกมาเท่านั้น
ฮี้ฮี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เช่นนั้นแล้ววีดจึงพุ่งเข้าไปภายในปราสาทที่มีเหล่ามอนสเตอร์ป้วนเปี้ยนอยู่เต็มไปหมด ในตอนที่การต่อสู้นี้ได้ย่างเข้าสู่จุดสิ้นสุดแล้ว
ตุ๊บ ตุ้บ ตุบ ตุบ
พวกมอสเตอร์ตะบันทุบค้อนเหล็กของพวกมันเข้าใส่ประตูปราสาท
เหล่าทหารโครงกระดูกที่อยู่ภายในปราสาทพากันกำจัดพวกมอนสเตอร์พวกนั้นด้วยการยิงธนูและเทน้ำมันเดือดๆให้ไหลลงมา
แม้ว่าจะมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นมาบวกกับพวกอันเดดที่ถูกอันเชิญออกมาด้วย ทว่าการต่อสู้ครั้งนี้ก็ยังไม่ง่ายเลย
ในขณะที่มีเสบียงถูกบรรจุใส่เอาไว้ภายในปราสาทมากเท่าไร ก็ยิ่งดึงดูดพวกมอนสเตอร์เข้ามาหาพวกมันมากขึ้นเท่านั้น
 อ่าฮ้า เหล่าค่าประสบการณ์และไอเท็มที่น่ารักทั้งหลายเอ๋ย
พวกมอนสเตอร์ที่พยายามบุกเข้ามาถึงตัวปราสาททั้งหลายนั้นล้วนแต่มีเลเวลสูงมากเอาการ
พวกสัตว์ประหลาดตัวสีเขียวมีหัวปูดๆออกมาอย่างกับจระเข้ พวกมันเป็นทั้งผู้บัญชาการระดับกลางแล้วก็เป็นเป็นหัวหน้าจู่โจมครั้งนี้ด้วย
ทุกๆครั้งที่วีดเหวี่ยงดาบบนหลังม้าของเขาไปที่พวกมัน เหล่ามอนสเตอร์แห่งเฟอโกลก็จะมีสสารสีเขียวพุ่งออกมาจากร่างกาย
ฉัน-รักกก-พวก-แกกก-ค่า-ปรา-สบบ-การณ์
วีดปล่อยคำสารภาพพร้อมกับสังหารพวกมันไปปราศจากซึ่งความลังเล!
ในฐานะนักรบ ไม่ใช่เนโครแมนเซอร์ ค่าความอึดของเขาจึงไม่ตกลงไปเลยแม้แต่น้อย
วีดพุ่งเข้าไปโจมตีโจมตีต่อเนื่องถึง 15 ครั้งในขณะที่อยู่บนหลังม้า
มันถือว่าเป็นเรื่องยากมากๆที่จะทำการโจมตีแบบต่อเนื่องด้วยความแม่นยำสูง ในขณะที่ขี่อยู่บนหลังอาชาปีศาจซึ่งกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วเต็มที่ พร้อมกับบุกเข้าตะลุมบอนภายในฝูงมอนสเตอร์แบบนี้
ด้วยการใช้ทักษะการมองที่ยอดเยี่ยม การตัดสินใจชั่วขณะอันเฉียบขาด ทัศนวิสัยที่กว้างไกล บวกกับการควบคุมลมหายใจที่มีสมดุล
 ไอเท็ม ไอเท๋ม ไอเท่ม ไอเท้ม ไอเท๊ม
วีดฟันศัตรูไปอย่างต่อเนื่องขณะที่ฮัมท่วงทำนองให้เป็นจังหวะ
การจู่โจมต่อเนื่อง 15 ครั้งไม่สามารถหยุดเอาไว้กลางคันได้ เพราะฉะนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมีทักษะการบังคับบังเหียนม้าที่ยอดเยี่ยม
อาชาปีศาจของเขาไม่ใช่ม้าระดับตำนานแต่ว่ามันก็เชื่อฟังเขาที่สุดในฐานะที่เขาเป็นผีระดับสูง อีกทั้งมันก็รู้สึกสนุกสนานไปกับการฆ่าฟันครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
เช่นนั้นมันจึงทำตามการชักนำของวีด
-ท่านได้ใช้ความเร็วสูงสุดแล้ว
-ด้วยความเร็วเท่านี้ ศัตรูจักไม่อาจต้านทานความเสียหายจากการโจมตีคริติคอลได้
-พลังโจมตีเพิ่มสูงขึ้น 245%
เพราะว่าเขาฟันพวกมอนสเตอร์ขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง การโจมตีส่วนมากจึงทำให้เกิดการโจมตีแบบคริติคอลที่เพิ่มแต้มค่าความเสียหายมากขึ้น ส่วนหอกในมืออีกข้างหนึ่งก็สามารถสร้างพลังทำลายร้ายแรงสุดยอดด้วยพลังการเจาะทะลุทะลวง แต่มันกลับไม่มีประโยชน์กับการโจมตีแบบต่อเนื่องซักเท่าไร
ดาบเคลื่อนฟันเข้าใส่เหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ล้อมรอบเป็นวิถีโค้ง ช่างเป็นภาพที่แสนงดงามจริงๆ
ด้วยการใช้มานาและกำลังกาย เขาฆ่ามอนสเตอร์ไม่ว่าตัวไหนก็ตามที่ประชิดตัวเข้ามาใกล้ ผสานการขับเคลื่อนไปพร้อมกับอาชาปีศาจ
 วิ่งงงงงง!”
วีดและม้าของเขาผสานใจกันเป็นหนึ่งวิ่งหน้าตรงไปที่ประตูเหล็ก
เขาอาจได้รับบาดเจ็บถึงตายได้หากเขาชนเข้าอย่างจัง!
แต่ทว่าวีดและม้าของเขากลับกลายเป็นละอองหมอกและทะลุผ่านเข้าไปในประตูเหล็ก
 [ท่านได้รับสิทธิในการเข้าสู่ปราสาทคาปัว]
-ผู้ป้องกันปราสาทจะไม่โจมตีท่าน
-ท่านได้ทะลุประตูเหล็กหนาเข้าไปแล้ว
-จากการทะลุผ่านสิ่งกีดขวาง ค่าพลังชีวิตและค่ามานาของท่านลดลงไปอย่างละ 2,000 แต้ม
แฮรรรรรรรรร!
เบื้องหลังประตูปราสาทบานนั้น เขาสามารถมองเห็นร่างภูตผีของเหล่าทหารโครงกระดูกเรียงแถวอยู่เต็มไปหมด
ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังเตรียมตั้งแถวไว้สำหรับการสร้างขบวนการตั้งรับศัตรูในกรณีที่ประตูถูกบุกทะลวงเข้ามาได้
วีดดึงบังเหียนม้าด้วยแรงเต็มที่แล้วค่อยๆลดความเร็วอาชาปีศาจเพื่อบอกให้มันหยุด
ฮี๊ๆๆๆๆๆ!
หลังจากที่วิ่งมาอย่างหนักหน่วงเจ้าม้าก็หายใจแรงมาก พร้อมกับส่งเสียงออกมาทางจมูกและเตะกีบเท้าไปที่พื้นดังกร๊อบๆ จากนั้นก็มีผีทหารโครงกระดูกนายหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วก็พูด พร้อมกับชูดาบสนิมเขรอะหักๆของมันขึ้นมา
 ยินนน-ดี-ต้อน-รับ-สู่-ปรา-สาท-คา-ปัววว

ในขณะที่มองไปรอบๆปราสาทคาปัว วีดก็สามารถมองเห็นภูตผีได้ทุกชนิด
ตั้งแต่ผีชนชั้นสูงและพวกดยุคไปจนถึงผีอัศวิน ผีทหาร ผีนักธนู และผีชาวเมือง
แม้แต่ผีสาวใช้เองก็กำลังทำความสะอาดโถงอยู่
 มัน-สก-กะ-ปก-ตะ-หลอด-เลย บาง-ที-คง-ไม่-ต้อง-ทำ-ความ-สะ-อาด-แล้ว-มั้ง?”
มันรู้สึกรำคาญหูมากที่ต้องฟังพวกเขาพูดแบบนั้น แต่ว่ายังไงซะวีดก็ต้องพยายามกระเสือกกระสนเข้าไปพูดคุยกับเหล่าสาวใช้และชาวบ้านทั้งหลาย
พวกทหารเอาแต่พร่ำบ่นเกี่ยวกับเหล่ามอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตี ส่วนท่านดยุกทั้งหลายก็เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ตามคำสั่งขององค์ราชาของพวกเขา
ในบริบทเช่นนี้ ราชาที่กล่าวถึงก็คือบัลข่าน ดีมอฟนั่นเอง ราชาแห่งเหล่าอันเดด
ฉันนึกว่าพวกมันจะตกที่นั่งลำบากแล้วซะอีก แต่ก็ยังมีพวกผีปกป้องปราสาทเอาไว้ด้วยสินะ กองทัพอันเดดนี่เป็นกองกำลังที่น่าทึ่งจริงๆ
วีดรู้สึกเสียใจนิดๆกับภารกิจมากมายที่เขาทำมา เขาอาจจะสามารถกอบโกยทั้งหมดนี้ได้ถ้าหากว่าเขามาในฐานะ ลิชไชร์
มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายๆเลยที่จะยอมยกเลิกภารกิจที่มอบให้กับคนเพียงคนเดียวอย่าง วีด
แต่ว่าความเป็นไปได้ของภารกิจของลิชไชร์ที่จะทำให้เขาเอนเอียงไปในเส้นทางแห่งความชั่วร้ายก็มีมากอยู่เหมือนกัน
อีกอย่าง แม้ว่าเขาจะกำลังต่อสู้เพื่อกองทัพอันเดด เขาก็ยังคงสามารถหยุดและล้มเลิกตอนไหนก็ได้
ร่างกายของอันเดดสามารถซ่อมแซมปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบเดิมได้ด้วยคำอวยพรจากวิหารเทพีเฟรย่า
แถมไม่ต้องคิดเลยว่าพื้นที่ล่าแห่งนี้ล้นหลามไปด้วยมอนสเตอร์มากมาย ช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ อีกอย่างพวกอันเดดก็ยังได้ออร่าแห่งความตายของบัลข่านที่แผ่อำนาจออกมาส่งเสริมพวกมันเรื่อยๆอีกด้วย
สำหรับวีดแล้ว เขาสามารถฟาดฟันด้วยพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้มาก และเช่นนั้นเองคือเหตุผลที่เขาเลือกที่จะอยู่ทำภารกิจแล้วก็ออกล่าในร่างนี้ต่อไป
 ‘มันก็ไม่ใช่อะไรที่เกี่ยวกับเงินหรอกนะ เพราะยังไงเงินพวกนั้นฉันก็ต้องเอาไปจ่ายให้ทางวิหารเทพีเฟรย่าอยู่ดี
วีดเดินตรงขึ้นไปบนหอคอย จากภาพที่เขาเห็นดูท่าว่าจะมีมอนสเตอร์มากมายที่กำลังพยายามบุกเข้ามาโรมรันต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าหากว่าพวกมอนสเตอร์บุกเข้ามาในตัวหมู่บ้านได้ละก็ เป้าหมายต่อไปของพวกมันก็คงเป็นปราสาทหลังนี้แน่
และถ้าหากว่าปราสาทหลังนี้พังทลายลงไปแบบสิ้นซาก ภารกิจต่อเนื่องก็คงจะล้มเหลวไป แล้วใครจะรู้หละว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป?
 ‘ยังไงซะ ฉันควรกลับไปที่หมู่บ้านหลังจากที่สังเกตการณ์คร่าวๆแล้ว
ยังมีโอกาสที่จะได้ต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์มากกว่านี้แน่เมื่ออยู่ภายในหมู่บ้าน ดีเสียยิ่งกว่ารอกบดานอยู่ภายในปราสาทคาปัวแห่งนี้
คุณไม่ควรลดการ์ดการป้องกันของคุณลงเพียงเพราะว่ามีจำนวนพรรคพวกผู้เล่นที่อยู่รอบๆเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่เสบียงรบกำลังก่อกองขึ้นเป็นภูเขาภายในปราสาท ก็ยิ่งมีพวกมอนสเตอร์เข้ามารุมตอมบริเวณหมู่บ้านมากยิ่งขึ้นไปอีก
_________________________________________________

ณ บริเวณภายในหมู่บ้าน เหล่าผู้เล่นทั้งหลายที่กำลังล่ามอนสเตอร์ก็ได้มีบทสนทนาภายในห้องแชทของปาร์ตี้
โบรัม: ฉันไม่เห็นเจ้าหมอนั่นที่เป็นผีโครงกระดูกมาซักพักละนะ
เฮเรียน: เขาไล่ตามพวกมอนสเตอร์เข้าไปในปราสาทน่ะ แต่ฉันเดาว่าเขาคงไม่กลับมาแล้วละ
วาเรนน่า: ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคิดยังไงถึงไม่เลือกสายอาชีพที่มีทักษะอัญเชิญอันเดดได้นะ ในเมื่อเขาก็เป็นเนโครแมนเซอร์เหมือนกัน แต่ยังไงซะเขาก็แข็งแกร่งมากทีเดียว
โบรัม: ก็คงยังงั้นแหละ นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์ ดูท่าว่าเขาคงไม่สามารถออกล่ามอนสเตอร์มากมายขนาดนั้นได้หรอก
แต่ว่าความเป็นจริงแล้ว ผู้เล่นพวกนี้ไม่ได้มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นเหตุการณ์การออกล่าของวีดตั้งแต่
แรกเริ่มเลย ที่พวกเขาปักใจเชื่อแบบนั้นเพราะว่าพวกอันเดดที่พวกเขาอัญเชิญออกมาไม่ได้ต่อสู้หรือทำตามอย่างที่พวกเขาอยากให้ทำเลย นั่นจึงเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่มาบดบังสายตาที่พวกเขามองไปยังตัววีด
เช่นเดียวกันเพราะว่ามีพวกภูตผีมากมายอยู่ภายในหมู่บ้าน จนทำให้พวกเขาไม่สามารถระบุหาตัวตนของวีดได้อย่างชัดเจนมากนัก
ถ้าหากว่ามีอาชีพสายนักบวชซักคนหนึ่งที่ควรจะมาควบคุมเหล่าสมาชิกปาร์ตี้หรือสถานการณ์การต่อสู้ไว้ พวกเขาก็คงจะสังเกตเห็นวีดที่แอบย่องเข้ามาได้แล้ว แต่กลับเป็นว่าเหล่าเนโครแมนเซอร์มีธุระมากมายหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำมากเกินไป
เฮเรียน: ว่าก็ว่าเถอะ เจนนี่น่าทึ่งจริงๆเลยนะ เธอแสดงความสามารถออกมายิ่งกว่าพวกเราสองคนรวมกันซะอีก
โบรัม: ฉันพึ่งเห็นเธออัญเชิญเดทไนท์ออกมาเพิ่มอีก 7 ตัว นั่นหมายความว่าทักษะเนโครแมนเซอร์ของเธอคงถึงขั้นกลางเลเวล 4 แล้วแน่ๆ
กรูเซท: ระดับทักษะสายสัมพันธ์แห่งโกเลม(Golem-related Skill) ก็ดูท่าว่าจะสูงมากเอาการเหมือนกันนะ
เพราะว่าเนโครแมนเซอร์เหล่านี้มีสายอาชีพเดียวกัน พวกเขาจึงดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งเสียกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานซะอีก
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงเอาแต่จับตามองดูเนโครแมเซอร์ที่แข็งแกร่งมากที่สุด เจนนี่
โบรัม: มีแค่ฉันหรือเปล่านะที่ได้ค่าประสบการณ์มาแค่นิดเดียวน่ะ?
เฮเรียน: ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ก็ยังมีไอเท็มให้เก็บนะ แถมตอนนี้ก็มีไอเท็มมีประโยชน์มากขึ้นดร็อปออกมาอีกด้วย

ลีฮุนอยากจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
ในที่สุด มันก็จบสิ้นซะที
เมื่อการสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้นลง ก็ย่างเข้าสู่ช่วงหยุดภาคฤดูหนาว
ภายในมหาวิทยาลัยปกคลุมไปด้วยปุยหิมะสีขาวแสนโรแมนติก แต่เขากลับมีความสุขเพียงแค่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลับมาที่นี่จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ
นักศึกษาคนอื่นๆกำลังพูดคุยกันจ๊อกแจกอยู่ระหว่างโถงทางเดิน
 เป็นยังไงบ้าง?”
วิชาสังคมเสมือนจริงเบื้องต้นเป็นอะไรที่ยากเกินไปจริงๆ ฉันเกือบทำมันพังแล้วเชียว
บทสนทนาทั้งหมดนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลีฮุนเลยแม้แต่น้อย
ขอแค่ฉันไม่ตกก็พอแล้วล่ะ
เขาค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเกรดของเขา
ลีฮุนมองเห็นซอยูนนั่งอยู่ตรงม้านั่งขณะที่เขากำลังพยายามมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างเร่งรีบ
แม้เธอจะสวมใส่เสื้อผ้าฤดูหนาว รูปร่างหน้าตาอันงดงามของเธอก็ยังคงดึงดูดสายตาของเหล่านักศึกษาชายทั้งหลาย
เธอมาจากตระกูลที่ไม่มีใครทัดเทียมได้ รูปร่างหน้าตาก็ยังโดดเด่น สัดส่วนเด่นเป็นสง่าพร้อมกับแรงดึงดูดชวนเข้าหา เส้นทางแห่งอนาคตของเธอได้มีพรหมแดงปูเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ลี ฮุน ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะเข้าไปเกาะแกะกับซอยูนเลยแม้แต่น้อย
 นี่ๆ มีเด็กปีหนึ่งที่ชื่อว่าลีฮุนจากคณะเทคโนโลยีเสมือนจริงได้กินข้าวกับเธอจริงๆน่ะหรอ?”
เขาเป็นเด็กปีหนึ่งนะแต่ฉันได้ยินมาว่าเขาแก่เกินไปหน่อยที่จะเป็นเด็กปีหนึ่งน่ะ
โลกเป็นอะไรไปแล้วนะ ทำไมเธอถึงออกไปเที่ยวกับผู้ชายอย่างเขานะ?”
มีข่าวลือมากมายแพร่สะพัดไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
แม้แต่เหล่ารุ่นพี่ปีสี่ที่อยู่คณะเทคโนโลยีเสมือนจริงก็มองไปที่ลีฮุนด้วยความรู้สึกคับอกคับแค้นใจ
แต่ทว่าลีฮุนไม่ใช่คนที่ปล่อยให้เรื่องทำนองนี้มากวนใจเขาซะหน่อย
เขาก็หวังเพียงแค่ว่าความปรารถนาของเธอที่มีต่อเขานั้นจะไม่คงทนอยู่นานเกินไปมากก็เท่านั้น
 เธอไม่เหมาะสมกับผู้ชายอย่างเราหรอก
สักวัน ผู้ชายสุดเจ๋งที่แสนเพอเฟคท์และเหมาะสมกับเธอคงปรากฏตัวขึ้นมา
ทั้งหมดที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือทำให้เธอพูดและปกป้องเธอจนกว่าเธอจะไม่กลัวที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอีกต่อไป
ซอยูนมองมาที่ลีฮุนแล้วเธอก็ลุกขึ้น จากนั้นเธอก็เดินตรงมาที่เขาด้วยแก้มสองข้างแดงระเรื่อราวกับดอกกุหลาบ บางทีนั่นอาจจะเป็นเพราะอากาศเย็นก็ได้
 เธอกำลังรอฉันอยู่งั้นหรอ?”
ซอยูนพยักหน้ารับกับคำถามของเขาจากนั้นก็พูดออกมา
เป็นเพราะเรื่องทริปหน้าหนาวนะ
ถ้อยคำของเธอที่เอ่ยออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สำหรับลีฮุนแล้ว เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่สำหรับเธอ เขาคือคนๆนั้นที่กุมมือเธอและดึงเธอออกไปเปิดหัวใจสู่โลกภายนอก
ทุกๆครั้งที่ซอยูนพูดกับเขา เธอจะโอบกอดความคาดหวังและความรู้สึกรักใคร่เอาไว้
 อ๋อ ใช่ เรื่องไปเที่ยว ห๊ะ
ลีฮุนจดจำได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งกับสิ่งที่เขาเคยพูดมาก่อนหน้านี้ ที่ซอยูนเคยบอกว่าเธออยากออกไปเที่ยวกับเขา
มันเป็นทริปง่ายๆที่มุ่งหน้าไปชายหาด แต่เขาเคยบอกเธอว่ามันเสียเงินค่าเที่ยวเป็นล้านวอนเลยทีเดียว นั่นช่างเป็นข้อแก้ตัวที่งี่เง่าเหลือเกินเพียงเพื่อเขาเลี่ยงจะไม่ไปทริปนั่น
 งั้น เราก็ควรต้องรักษาสัญญาสินะ
ซอยูนพยักหน้ารับแสดงความเห็นด้วย
ใช่ สัญญาต้องเป็นสัญญา
เดิมทีฉันก็อยากออกไปเที่ยวบ้างอยู่แล้วละ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็อยู่ในช่วงวันหยุดจนมีเวลาเหลือแหล่ด้วย
เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ก็ยังเป็นรอยยิ้มที่ดูเคอะๆเขินๆอยู่ดี
และแน่นอนละว่าลีฮุนได้วางแผนที่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดของเขาไปในรอยัลโร้ด ความเร็วในการออกล่าภายในหมู่บ้านคาปัวนั้นเร็วระดับสุดยอดเมื่อเทียบกับพื้นที่ออกล่าที่อื่น
ด้วยภารกิจจำนวนมากมายที่ให้มา มันจึงเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดเพื่อที่จะใช้ในการเพิ่มค่าประสบการณ์
ลีฮุนจึงพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า
 ใช่แล้ว สัญญาต้องเป็นสัญญา แต่ว่าฉันต้องขอโทษ ฉันเดาว่าฉันคงต้องขอเลื่อนนัดออกไปก่อน
ลีฮุนพยายามที่จะเลื่อนนัดทริปนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แต่ทันใดนั้นเอง ซอยูนก็เปิดกระเป๋าของเธอออกแล้วก็หยิบเงินออกมา
 “ฉันเก็บเงินค่าออกทริปได้แล้ว
ทั้งหมดนั้นเป็นเงินอย่างน้อยๆก็ 6 ล้านวอน!
พอมาคิดดูแล้ว เธอเก็บเงินได้มากขนาดนี้ด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ!
 “นี่เธอขายไอเท็มของเธอหรือเปล่านิ?”
เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ในตอนที่เขาสัญญากับเธอไว้ แต่ถ้าหากว่าซอยูนขายอุปกรณ์ของเธอในรอยัลโร้ด มันก็ถือว่าเป็นเรื่องหมูๆเลยที่เธอจะเก็บเงินได้มากมายขนาดนั้น
ฉันเก็บเงินพวกนี้มาได้ด้วยการขายข้าวกล่องน่ะ
ซอยูนเก็บเงินนี้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอล้วนๆ บนมือข้างที่เธอยื่นเงินออกมาให้ดูนั้นเขาสามารถเห็นรอยพุพองบนมือนั้นได้ บางรอยก็เป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากมีดบาดแล้วก็รอยไหม้ขณะที่เธอทำอาหาร
หญิงสาวผู้ไม่เคยเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากได้รับบาดเจ็บและก็เหน็ดเหนื่อยเพื่อให้ได้เงินมา
นายจะไปกับฉันใช่ไหม?”
ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป ลีฮุนจึงไม่อาจปฏิเสธเธอได้เลย
________________________________

ลีฮุนตัดสินใจที่จะไปออกทริปสี่วันให้หลังจากวันนั้น
ตอนนี้เขาคงต้องไปแล้วจริงๆ จึงทำให้มีข้าวของมากมายที่เขาจำเป็นต้องจัดใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย
 “กระทะทอด หม้อ เตาแก๊สคงดีถ้าเราจะทำคิมบับกับใข่ต้มไว้ก่อน ส่วนชิกฮเยก็กรองใส่ไว้ในขวดพลาสติกเผื่อพวกเราหิวน้ำ” (식혜: ชิกฮเย:น้ำหมักแป้งมอลต์ข้าวบาร์เลย์ไปอุ่นกับข้าวสุกและน้ำตาลทราย)
ถ้าหากว่าเขาไปออกทริปเพียงลำพัง เขาคงไม่ยอมเสียเงินให้ตามร้านอาหารแน่ๆ เขาไม่อยากมีทริปที่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป
เธอเก็บหอมรอบริบเงินพวกนั้นมาอย่างยากลำบาก เขาจึงไม่สามารถใช้เงินพวกนั้นฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองมากจนเกินไป
น้ำมันงา กิมจิ สาหร่าย ผักสดแล้วก็เบ็ดตกปลาก็คงจะพอแล้วละ
ถ้าหากว่าเขาจับปลามาได้บ้างจากจุดตกปลาเจ๋งๆ จากนั้นอาหารอร่อยๆก็จะพร้อมเสิร์ฟได้ทันที
 ฉันควรจะเตรียมอะไรเพิ่มอีกหน่อยเผื่อว่าฉันอยากทำเมนูอื่นอีก
แม้ว่าจะอยู่บนเกาะร้าง นั่นมันก็มากเกินพอเพื่อมีชีวิตรอด!
การออกจากบ้านของคุณมาช่างเจ็บปวดรวดร้าว เพราะว่ามันหมายถึงการต้องใช้จ่ายเงินด้วยนั่นเอง
เขาไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าทำไมเธอถึงอยากไปเที่ยวนัก แต่เพื่อที่จะประหยัดมากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ การไปเที่ยวเป็นเวลา 4 วัน ก็ถือว่าพอรับได้
 วันจันทร์ควรจะแพงน้อยหน่อยเมื่อเทียบกับราคาที่โคตรแพงตอนช่วงสุดสัปดาห์นั่น
หลังจากที่เขาจัดเตรียมทุกอย่างจนเสร็จสรรพแล้ว เขาก็เข้าไปในแคปซูล
มันคือเวลาสำหรับรอยัลโร้ดนั่นเอง
_____________________________________________________

วีดจ้องไปที่ลายเส้นที่เขียนหวัดๆขณะที่เขาตะลอนไปทั่วทั้งปราสาทคาปัว
ฉันเห็นบางอย่างส่องแสงด้วยละ
ทำไมถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ละ….มีของหลายอย่างที่คนเขาชอบอยู่นะว้อย พวกงี่เง่าเอ้ย?”
มีทางเดินถัดจากชั้นหนังสือด้วย….”
มันคือลายแทงที่ยากจะเข้าใจซึ่งชี้ทางไปยังสมบัติที่ถูกซ่อนอยู่ภายในปราสาทนั่นเอง
ถ้าคุณสามารถไขปริศนานั่นได้ คุณก็จะสามารถหาสมบัตินั่นเจอ!
ฉันเดาว่ามันคุ้มจริงๆที่ได้เข้ามาที่นี่ก่อนคนอื่น
ก่อนที่ผู้เล่นคนอื่นจะเข้ามา วีดได้ตรวจสอบปราสาททั้งหลังจนทั่วแล้ว ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสาวใช้แล้วก็ข้ารับใช้ทั้งหลาย ทั้งค้นหาสมบัติในปล่องควัน ท่อระบายน้ำ แล้วก็คอกม้าอีกด้วย
ของเก่าพวกนี้เก่ามากพอที่คุณจะเรียกได้ว่าพวกมันเป็นโบราณวัตถุถ้าหากว่าคุณอยากจะเรียกแบบนั้น! บรรดาสมบัติล้ำค่าที่มีอายุนับร้อยปี ทองนับพันแท่งได้สร้างความพอใจอย่างมากให้กับวีด
 ร่างกายของภูตผีนั้นก็เหมาะเพียงแค่เอาไว้ออกล่าของเหลือเดนแบบนี้เท่านั้นแหละ
ตราบเท่าที่คุณรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดแล้ว ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะหามันเจอได้เพราะว่าเขาสามารถเดินทะลุสิ่งกีดขวางแบบไหนก็ได้
เขาพบไอเท็มมากมายที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายในกำแพงและหลังขั้นบันไดด้วยการใช้ความสามารถพิเศษของผี
 “เด็กผู้หญิงที่เห็นเมื่อตอนเช้ามืด เธอทำอะไรหายนะถึงได้ร้องไห้เสียใจขนาดนั้น?”
ด้วยถ้อยคำที่เขาจดจำฝังลึกอยู่ในหัว เขาจึงได้เจอผีเด็กผู้หญิงที่กำลังวิ่งลงไปที่ห้องโถงด้วยความรวดเร็ว
และด้วยการตามหาตุ๊กตาที่หายไปของเธอจนเจอ เขาจึงได้รับสร้อยคอปลุกเสกมาเป็นการตอบแทน
--------------------------------------------------
สร้อยคอของอันเดด
ค่าความคงทน: 29/43
-สร้อยคอที่บรรจุความแข็งแกร่งด้านพลังแห่งการเติบโตของอันเดดเอาไว้
ข้อจำกัด: เฉพาะอาชีพสายเนโครแมนเซอร์เท่านั้น
คุณสมบัติ: เลเวลทักษะเนโครแมนเซอร์ +1
ประสิทธิผลของอันเดดที่ถูกอัญเชิญมา+8%
----------------------------------------------------------
ไอเท็มที่มีประโยชน์ต่ออาชีพสายเนโครแมนเซอร์โดยตรงนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเนโครแมนเซอร์ทั้งหลายมักจะสวมใส่อุปกรณ์ของพวกจอมเวทย์ แต่ว่าวีดพึ่งจะได้ไอเท็มที่ช่วยเพิ่มทักษะอัญเชิญอันเดดมาหยกๆ หลังจากพระอาทิตย์ขึ้น วีดก็กลายร่างกลับไปเป็นมนุษย์แล้วก็ตรงกลับไปที่เมืองโมราต้าด้วยความช่วยเหลือของยูริน
หลังจากตรวจค้นจนแน่ใจแล้วว่าปราสาทคาปัวปลอดภัย เขาก็ใช้ทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายของยูรินภายในห้องเล็กๆแล้วก็หายตัวออกไป
แต่ว่าในขณะที่เขายิ่งได้รับพลังแห่งอันเดด(Power of Undead)เพิ่มมากขึ้นเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้เขาอยู่ในร่างอันเดดได้นานขึ้นเท่านั้นแม้ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นแล้วก็ตาม
 “พลังแห่งอันเดดเพิ่มขึ้นมากจากการทำภารกิจและออกไปต่อสู้
วีดไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพลังแห่งอันเดดที่อาจจะกลายมาเป็นภาระมากนัก ยกเว้นเสียแค่ตอนที่เขาสร้างประติมากรรม มันจึงกลายเป็นเรื่องกวนใจเขาน้อยมาก
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันถือว่าเป็นสถานะที่อันตรายมากจริงๆที่จะทำให้เหล่าเนโครแมนเซอร์แข็งแกร่งมากขึ้นเป็นพิเศษ
เขาได้เรียนรู้และเข้าใจแน่ชัดแล้วว่าพลังแห่งอันเดดทำอะไรได้บ้างจากบทสนทนาที่พวกผู้เล่นเนโครแมนเซอร์พูดคุยกัน
 “พลังแห่งอันเดดของฉันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
พลังเต็มพิกัดสูงสุดแล้วหรือ? ตอนแรกฉันก็คิดว่ามันเป็นค่าสถานะที่สุดยอดอยู่หรอกนะ…”
ไอ้ความรู้สึกเวียนๆหัวนี่มันทำให้ฉันร่ายเวทย์อันเชิญพลาดด้วยละ
พลังแห่งอันเดดนั้นไม่เพียงแค่เสริมกำลังให้กับเหล่าอันเดดเท่านั้น มันยังช่วยเสริมพลังเวทย์แห่งความมืดให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย เวทย์แห่งความมืดจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเวทย์มนต์ธรรมดาทั่วไป
นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมพวกวอร์ล็อค(Warlock)มักจะได้รับการปฏิบัติตนด้วยความเคารพยกย่องท่ามกลางเหล่านักเวทย์ทั้งหลาย ในกรณีของวีด พลังนี้จะเสริมความแข็งแกร่งและความว่องไวให้กับเขาในตอนที่เขาออกล่าในร่างอันเดด
ค่าสถานะที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นจะเติบโตขึ้นได้ด้วยตนเองผ่านการทำภารกิจและการต่อสู้อันหนักหน่วง!
เหล่าเนโครแมนเซอร์นั้นจะมีพลังแห่งอันเดด(Power of Undead) ส่วนวอร์ล็อคที่อยู่ภายในโลกของตนเองก็จะมีไอศวรรย์แห่งความมืด(Authority of darkness)เป็นกำลังเสริม นั่นยิ่งทำให้พวกมันแข็งแกร่งมากยิ่งเสียกว่านักเวทย์ทั่วไป
แต่ทว่าทั้งพลังแห่งอันเดดและไอศวรรย์แห่งความมืดนั้นก็มักจะก่อให้เกิดคำสาปกับโรคภัยร้ายแรง ถ้าหากว่ามันครอบงำและมีอำนาจจิตที่เหนือกว่าคนๆนั้น ในสถานการณ์ที่ถึงขั้นเลวร้ายที่สุดก็คือ คนๆนั้นจะกลายเป็นบุคคลผู้ชั่วร้ายแล้วก็ปลุกพวกอันเดดขึ้นมาจนไม่อาจควบคุมเวทย์ของตนเองเอาไว้ได้ ก็จะมีซากศพมากมายอยู่เต็มไปหมดแล้วก็จะทำร้ายไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่เข้ามาใกล้พวกมัน
ส่วนในกรณีของจอมเวทย์แห่งความมืดเช่นนี้ เหล่าภูติผีปีศาจก็จะสามารถเข้ามาขโมยร่างกายและตัวตนของพวกเขาไป!  ในตอนที่คนๆนั้นย่างเท้าเข้าไปถึงจุดแห่งความหายนะเช่นนั้น พวกเขาไม่เพียงแต่จะสูญเสียปริมาณมานาอย่างมหาศาลเท่านั้น พวกเขาจะยังได้รับความเจ็บปวดทรมานจากคำสาปต่างๆนาๆที่ยากจะเกินเยียวยาได้
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องเพิ่มค่าสถานะอื่นๆเอาไว้มากๆอย่าง ค่าพลังชีวิต ค่าความแข็งแกร่ง ค่าพลังจิต จนทำให้พวกมันทุกๆค่าสถานะมีความสมดุลกัน หากคุณไม่เพิ่มค่าความศรัทธาหรือค่าพลังจิตมากเพียงพอ มันก็คงจะเป็นการใช้ค่าแต้มสถานะไปอย่างสูญเปล่า ตอนแรกเริ่มมันก็คงโอเคอยู่หรอกแต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ผลข้างเคียงอันแสนเจ็บปวดก็จะกลายเป็นวิกฤตการณ์อันแสนเลวร้าย
อาชีพสายเนโครแมนเซอร์และวอร์ล็อคจะกลายเป็นอาชีพที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าสายอาชีพธรรมดาทั่วไป แต่พวกเขากลับต้องเดินก้าวหน้าและถอยหลังอยู่บนเส้นชะตาที่แสนอันตราย
วีดรู้สึกว่ามันช่างไร้ประโยชน์ที่ต้องลงทุนแต้มสถานะของเขาไปกับค่าความศรัทธาหรือว่าค่าพลังจิต ดังนั้นเขาจึงพยายามรวบรวมกลีบดอกไม้และใบหญ้าเพิ่มเพื่อเอามาใช้สร้างประติมากรรม
กลีบดอกไม้นั้นไม่ได้เป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับเอาไว้สร้างประติมากรรมซะเลย มันทั้งอ่อนนุ่มแถมยังเหี่ยวแห้งเร็วอีกด้วย แต่ถ้าหากเขาใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติ ความสดใหม่ของวัสดุก็จะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนไปเป็นเวลานานมากๆ แถมมันยังท้าทายวีดให้เขาได้สร้างสรรค์ผลงานแบบใหม่ๆอีกด้วย
 ว่าก็ว่าเถอะ เห็นแค่วัสดุที่ใช้ทำแล้วนี่ ประติมากรรมชิ้นนี้คงจะทำได้ยากกว่าชิ้นไหนๆที่เคยทำมาก่อนหน้าแน่เลย
ในตอนกลางคืนเขาจะออกล่า ส่วนในตอนกลางวันตั้งแต่เช้าเขาก็จะออกมาแกะสลัก
ผลงานชิ้นนี้ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ทำออกมาด้วยความพยายามอุตสาหะได้กลายมาเป็นรถม้าเท่าขนาดจริงที่ลากโดยม้าแปดตัว
แม้ว่าบรรดาม้าและคนขี่ม้าคนนั้นจะถูกจัดแต่งด้วยกลีบดอกไม้ แต่มันก็ยังแสดงถึงความงดงามที่ปรากฏเฉพาะในเทพนิยายเท่านั้นออกมาให้เห็น
ภายในรถเทียมม้าคันนั้น เขาได้แกะสลักน้องสาวของเขาตอนที่เธอยังเป็นเด็กสาวตัวน้อยๆ
ประติมากรรมที่เสร็จสมบูรณ์ชิ้นนี้ช่างเป็นผลงานที่แสนงดงามและแสนโรแมนติกจริงๆ
-โปรดตั้งชื่อให้กับประติมากรรมที่คุณพึ่งสร้างสรรค์เสร็จ
ของขวัญวันเกิดแด่น้องสาวของฉัน
เขาได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นของขวัญวันเกิดสำหรับยูริน
มันคงจะกลายเป็นของขวัญวันเกิดที่ไม่มีทางลืมเลือนแน่ ในตอนที่เธอนั่งบนรถม้าคันนี้ภายในเมืองโมราต้า
แน่นอนละว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างประติมากรรมชิ้นนี้มาจากกลีบดอกไม้กับใบไม้นั้นเท่ากับศูนย์!
-‘ของขวัญวันเกิดแด่น้องสาวของฉันถูกต้องหรือไม่?
ถูกต้อง
-------------------------------------------------
·       ผลงานระดับแมคนั่ม!
ท่านได้สร้างสรรค์ผลงาน ของขวัญวันเกิดแด่น้องสาวของฉันเสร็จสิ้นแล้ว
-ประติมากรรมที่สร้างขึ้นมาจากกลีบดอกไม้จากเหล่าพฤกษาป่าที่แพร่กระจายอยู่ทั่วเมืองโมราต้า
-สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยใบไม้ที่สานใยเชื่อมโยงกันด้วยความอดทนอดกลั้นอันยอดเยี่ยม สร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของประติมากรผู้รู้วิธีใช้ทักษะพลังแห่งธรรมชาติ
-ความสร้างสรรค์นั้นช่างโดดเด่นแต่เนื่องจากคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้สร้าง มันคงเป็นเรื่องยากที่จะรักษาสภาพให้คงอยู่ยาวนานได้
คุณค่าทางศิลปะ: 9,814
ผลเอฟเฟค: บุคคลใดที่เห็นประติมากรรมชิ้นนี้ อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 30% ตลอดทั้งวัน
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น +15                                                               ความงดงามและเสน่ห์เพิ่มขึ้น +45
ภายในหนึ่งวัน ความโชคดีที่แสนวิเศษจะปรากฏขึ้น
ความเร็วในการเคลื่อนที่ในพื้นที่ราบเพิ่มขึ้น +25%
การแผ่ขยายพันธุ์ของดอกไม้ป่าจะเพิ่มขึ้นด้วยการใช้ผลบัฟจากประติมากรรมชิ้นนี้                         
เมื่อพูดคุยถึงประติมากรรมชิ้นนี้กับผู้อื่นค่าความสนิทสนมของคุณจะเพิ่มขึ้น     อายุขัยสูงสุดของประติมากรรมชิ้นนี้ : 3 เดือน
หลังจากหมดอายุขัยไปแล้ว ประติมากรรมชิ้นนี้จะถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์แห่งประติมากรรม
จำนวนผลงานระดับมาสเตอร์พีสที่สร้างขึ้นมา: 7 ชิ้น
----------------------------------------------------
-ท่านได้ขึ้นสู่ระดับความเชี่ยวชาญทักษะประติมากรรมขั้นสูงเลเวล 8 แล้ว
ผลงานประติมากรรมของท่านจะมีความประณีตและละเอียดลออมากยิ่งขึ้น
ความเข้าใจรู้แจ้งในผลงานศิลปะของท่านจะกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ค่าสติปัญญาและค่าความฉลาดเพิ่มขึ้นอย่างละ 37 แต้ม
เสน่ห์เพิ่มขึ้น +62
ด้วยการใช้ทักษะแกะสลักธรรมชาติ ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น +31
-ทักษะงานฝีมือพัฒนามากยิ่งขึ้น
-ค่าชื่อเสียงดีเพิ่มขึ้น +1,841
-ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น +13
-ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น +9
-ค่าความอึดเพิ่มขึ้น +21
-เสน่ห์ดึงดูดเพิ่มขึ้น +7
-------------------------------------------------------

ระดับทักษะแกะสลักของวีดในที่สุดก็ไปถึงขั้นสูง เลเวล 8 แล้ว
นั่นมันช่างยากลำบากจริงๆ
ในระดับทักษะทุกๆทักษะ การไปถึงจุดหมายของระดับต่อไปที่สูงขึ้นนั้นจะทำให้ความเชี่ยวชาญในทักษะนั้นๆเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ แม้ผลงานที่เขาสร้างตอนนี้จะเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญขึ้นเพียง 3.7% เท่านั้น แต่ว่าจากนั้นอีกไม่นานเขาเหลืออีกเพียงแค่ 2 เลเวลเขาก็จะถึงขั้นมาสเตอร์ประติมากรรมแล้ว
เมื่อไหร่ที่ฉันได้แกะสลักฮีเลียมแล้วล่ะก็ สิ่งที่ฉันไขว่คว้าก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม!”
ถ้าหากว่าชื่อเสียงของคุณสร้างขึ้นมาด้วยทักษะการแกะสลัก คุณก็จะสามารถได้รับภารกิจให้แกะสลักผลงานจากเหล่าชนชั้นสูงและพระราชาได้อย่างง่ายดาย
หากเขาได้ภารกิจเหล่านั้นมา พวกคนเหล่านั้นก็จะให้วัสดุแกะสลักที่ดีที่สุดกับเขาเพื่อใช้แกะสลัก แล้วก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะใช้เพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะของเขาได้
 แถมฉันยังสามารถเพิ่มระดับทักษะแกะสลักธรรมชาติหรือแม้แต่ทักษะรังสรรค์จิตวิญญาณธาตุได้อีกด้วย
อีกไม่นานเขาก็จะได้เป็นนักแกะสลักขั้นมาสเตอร์แล้ว อาชีพที่ยากลำบากที่สุดที่จะเพิ่มทักษะให้เป็นมาสเตอร์ได้ในบรรดาอาชีพสายศิลปะทั้งหลาย
 ฉันคงทำไม่ได้ถ้าหากว่าฉันไม่พยายามอุตสาหะมากขนาดนี้ เพราะว่าทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับศิลปะทั้งสิ้น
เพื่อที่จะสร้างผลงานออกมา เขาต้องรวบรวมวัสดุอย่างยากลำบากผ่านการผจญภัยและภารกิจนานัปการ
วีดทุ่มเทเวลามาแสนยาวนานแกะสลักผลงานของเขา ยอมเจ็บปวดทรมานเพื่อการสร้างสรรค์งานของเขาออกมา ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นก็ต้องขอบคุณเงินทองที่ทำให้เขาเดินทางมาได้ไกลถึงขนาดนี้
____________________________________________________

 “ในที่สุดการทนลำบากตั้งหน้าตั้งตาทำงานมาอย่างหนักของพวกเราก็ผลิดอกออกผลซะที
ช่วงเวลายิ่งใหญ่ครั้งนี้จะต้องถูกถ่ายทอดออกไปผ่านทางบริษัทเกมส์อย่างต่ำซักหนึ่งเดือน
ซักพันคน ไม่สิ ซักล้านคนจะต้องดูสิ่งนี้
เหล่าชาวเมืองและผู้เล่นทั้งหลายของเมืองโมราต้าทำงานจนเสร็จสิ้นแล้วก็เดินออกไปที่บริเวณท้องถนน จัตุรัส และหลังคาบ้าน
พวกเขากระชับหมวกของพวกเขาที่มีกลีบดอกไม้เกาะติดอยู่เต็มไปหมด
เหล่าผู้เล่นที่มีแผ่นไม้และแผ่นหินแบกเอาไว้ที่หลังกำลังทยอยเข้ามาภายในเมือง ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยหยดเหงื่อไหลรินลงมา แล้วก็เคลื่อนไปข้างหน้าทีละก้าวๆ
มีเพียงวัสดุจำเป็นอย่างสุดท้ายเท่านั้นสำหรับการสร้างมหาวิหารและหอสมุด อีกแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นพวกเขาก็จะถึงเส้นชัยแล้ว
 ฮุ่ยเล่ฮุ่ย ฮุ่ยเลฮุ่ย
อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น
ทุกคนส่งเสียงเชียร์กันและกัน พวกเขามุ่งหน้าไปยังจัตุรัสแห่งหอคอยแสงและจัตุรัสปิงหลง
วัสดุก่อสร้างกองตัวสูงขึ้นเรื่อยๆตรงบริเวณที่เหล่าชาวเมืองและผู้เล่นทั้งหลายกำลังรวมตัวกันทำงาน มหาวิหารและหอสมุดเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว
มหาวิหารนั้นช่างโออ่าอลังการ เปล่งรัศมีความงดงามด้วยสีสันสดใส ส่วนหอสมุดก็ดูขลัง หรูหรา และมีอำนาจแห่งความรู้
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่แสนใหญ่โตมโหฬารทั้งสองนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของเหล่าผู้คนและผู้เล่นของเมืองโมราต้า
พวกเขาต่างพากันจัดวางต้นไม้ตกแต่งในบริเวณที่ว่างต่างๆภายในสวน พร้อมกับตั้งก้อนหินที่ถูกขัดเกลาจนสวยงามเอาไว้ด้วยเช่นกัน และท้ายที่สุด วัสดุชิ้นสุดท้ายที่พบเจอได้ภายในเมืองก็ได้ถูกจัดวางเสร็จสิ้น
ในที่สุด มหาวิหารและหอสมุดก็สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
วันเวลาที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์นั้นเป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ จึงได้มีกำหนดการต่อเนื่องมาจนมีการจัดวันเฉลิมฉลองขึ้นมาทันที
ไม่เพียงแต่มีผู้เล่นของเมืองโมราต้าที่เฝ้ารอคอยช่วงเวลาเช่นนี้ แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มายังดินแดนทางเหนือและดินแดนอื่นๆด้วยเช่นกัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ติ้ง!
สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ มหาวิหารแห่งทวีปทางตอนเหนือของนิกายเทพีเฟรย่าได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ระยะเวลาทั้งหมดในการก่อสร้าง: 5 เดือน 11 วัน
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง: 1,678,291 เหรียญทอง 25 เหรียญเงิน
จำนวนคนงานที่เข้าร่วมการก่อสร้าง: 299,362 คน
คุณค่าสิ่งปลูกสร้าง: 189,614
-ผลจากมหาวิหารแห่งนี้ จะทำให้นิกายทางศาสนาแผ่ขยายออกไปจนทั่วทั้งทวีปทางตอนเหนือ
-อนุศาสน์สถานแห่งเทพีเฟรย่าได้มาประทับอยู่ ณ ที่แห่งนี้แล้ว โอกาสทองที่จะให้ผลผลิตทางธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น, จะได้รับการป้องกันจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
-เหล่านักบวชและพาลาดินแห่งวิหารเทพีเฟรย่าที่อยู่ภายในทวีปทางตอนเหนือจะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์อันแสนยิ่งใหญ่
-ตำแหน่งของอาชีพสายนักบวชตอนนี้จะสามารถเลื่อนขั้นไปสู่ระดับขั้นที่สองได้แล้ว วิหารสามารถคัดเลือกพระคาร์ดินัลขึ้นมารับตำแหน่งได้แล้ว
-เหล่าพาลาดินสามารถเข้ามาอยู่ภายในมหาวิหารได้แล้วในตอนนี้ พลังแห่งวิหารสามารถข่มเหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้แล้ว
-ชาวเมืองแห่งโมราต้านั้นมีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในธุรการของทางวิหารเทพีเฟรย่าได้แล้ว

---------------------------------------------------------------
การก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ หอสมุดแห่งโมราต้าได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ระยะเวลาทั้งหมดในการก่อสร้าง: 5 เดือน 11 วัน
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง: 1,074,412 เหรียญทอง 78 เหรียญเงิน
จำนวนคนงานที่เข้าร่วมการก่อสร้าง: 218,302 คน
คุณค่าสิ่งปลูกสร้าง: 127,939 
-สามารถรวบรวมตำราที่เกี่ยวข้องกับการผจญภัยเอาไว้ภายในได้
-สามารถช่วยกอบกู้เวทย์มนต์ที่หายไปผ่านการขุดค้นและสำรวจภายในดันเจี้ยน
-เวทย์มนต์และการศึกษาจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว
-ถ้าหากว่าคุณจัดแสดงหรือตีพิมพ์ไอเท็ม แผนที่ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บันทึกเกี่ยวกับมอนสเตอร์ คุณสามารถได้รับค่าชื่อเสียงและค่าตอบแทนได้
-ความต้องการให้สร้างหอสมุดเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำภารกิจได้รับการตอบสนองแล้ว
-ภารกิจทางโบราณคดีนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะค้นหาบันทึกหายากได้แล้ว
-ในขณะที่เอกสารสำคัญทั้งหลายเพิ่มขึ้นภายในหอสมุด ความรู้ของชาวเมืองก็จะเพิ่มขึ้นตามด้วย
 ไชโย!”
ในที่สุดก็เสร็จแล้ว!”
ทีนี้แหละ ไปออกล่าทั้งวันทั้งคืนได้เลย
ไม่เป็นต้องพูดเลยหละว่ามันต้องสร้างความสะดวกสบายให้อย่างอย่างมากแน่ๆ เนื่องมาจากการก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วของมหาวิหารและหอสมุดแห่งดินแดนเหนือแห่งนี้
จากนั้นก็มีหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าของเหล่าผู้เล่นที่เข้าร่วมการก่อสร้างครั้งนี้
-สำหรับการเข้าร่วมการก่อสร้างมหาวิหารแห่งแดนเหนือ ท่านจะได้รับแต้มค่าการบรรลุผลและค่าประสบการณ์
-ค่าความเชี่ยวชาญในทักษะการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น
-ท่านได้รับความรู้ในการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างพิเศษ ค่าสถานะเพิ่มขึ้น
-เนื่องจากผลงานที่ประสบผลสำเร็จที่ได้เหลือเอาไว้ด้วยงานจิตรกรรมภายในมหาวิหาร ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้นแล้ว
-ค่าความเชี่ยวชาญในทักษะที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นแล้ว
-เนื่องจากนี่เป็นค่าประสบการณ์ทางศาสนา ฉะนั้นท่านสามารถวาดรูปองค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพีเฟรย่าได้แล้วตอนนี้
-เนื่องจากผลงานที่ประสบผลสำเร็จที่ได้เหลือเอาไว้ด้วยงานประติมากรรมภายในมหาวิหาร ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น
-ค่าความเชี่ยวชาญในทักษะที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นแล้ว
-ท่านสามารถแกะสลักองค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพีเฟรย่าได้แล้ว แต่ท่านต้องใช้ท่อนไม้ที่ได้รับพรจากเทพีเฟรย่า

-อิทธิพลแห่งวิหารเฟรย่าภายในเมืองโมราต้าเพิ่มสูงขึ้น
-ค่าความใกล้ชิดกับชาวเมืองโมราต้าเพิ่มมากขึ้น
-ผู้คนที่เข้าร่วมการก่อสร้างจะมีความเลื่อมใสในศาสนานี้มากขึ้น
-สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ทั้งสองนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโมราต้า
-ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของมหาวิหารและหอสมุดภายในเมืองหรือปราสาทที่อยู่ดินแดนอันห่างไกลออกไป ท่านจะได้รับค่าชื่อเสียง
พวกเขาต่างได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ทั้งสองอย่างสมน้ำสมเนื้อ
แล้วจากนั้นก็มีหน้าต่างข้อความที่จะปรากฏให้เห็นเฉพาะลอร์ดของเมืองก็เด้งขึ้นมา
-อิทธิพลทางการเมืองภูมิภาคของโมราต้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น
-ค่าชื่อเสียงทางภูมิภาคของโมราต้าเพิ่มมากขึ้น
-ถ้าเงื่อนไขสอดคล้องต้องกัน ผลิตภัณฑ์พิเศษทั้งสามของโมราต้าจะกระจายผ่านปากต่อปากอย่างรวดเร็ว
-เมื่อชาวเมืองมองไปทางมหาวิหารแห่งเทพีเฟรย่า พวกเขาสามารถค้นพบความสงบภายในจิตใจ
-องค์กรสาธารณะเพิ่มมากขึ้น
-โรคระบาดได้ถูกขจัดให้หายไป
-วัฒนธรรมของโมราต้าแผ่ขยายไปทั่วทั้งทวีป นี่จะทำให้ศิลปะที่สร้างขึ้นภายในเมืองได้รับชื่อเสียงและอิทธิพลมากยิ่งขึ้น
-อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังพัฒนา นักท่องเที่ยวผู้ร่ำรวยจะมาเยือนยังเมืองแห่งนี้
-เนื่องจากการสร้างมหาวิหารแห่งแดนเหนือ องค์กรทางศิลปะจึงเพิ่มมากขึ้น
-คุณงามความดีที่มีต่อวิหารเทพีเฟรย่าเพิ่มขึ้น 1,639 แต้ม
·       ตอนนี้ ท่านสามารถรับฉายา ผู้ขับขานแห่งเทพีได้แล้ว หากท่านรับรางวัลนี้ไป ท่านสามารถรับตำแหน่งพาลาดินแห่งวิหารเฟรย่าได้
·       ความดีงาม เสน่ห์ ศรัทธา อำนาจบารมีจะเพิ่มขึ้น
วีดรู้สึกเหนื่อยใจกับสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นที่สร้างขึ้นมา
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเสียค่าใช้จ่ายมากขนาด…”
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างมหาวิหารกับหอสมุดตามแผนด้วยงบที่ตั้งเอาไว้
วีดได้สั่งให้พวกเขาสร้างวิหารจากพื้นที่ที่เขาจำกัดไว้แล้วก็ใช้วัสดุคุณภาพสูง ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่มันจะเกินงบจากเงินทุนที่มากมายมากมหาศาลด้วยเงิน 900,000 เหรียญทอง สำหรับการสร้างมหาวิหารและ 700,000 เหรียญทองสำหรับการสร้างหอสมุด
คงจะโอเคกว่านี้แน่ถ้าเอาโครงเหล็กกับเสาที่มองไม่เห็นออกไป…”

วีดก็แค่อยากจะสร้างสิ่งก่อสร้างคุณภาพต่ำแค่ไม่กี่หลังเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม เหล่าสถาปนิกแห่งโมราต้าพยายามที่จะสร้างให้มันแข็งแกร่งมั่นคงที่จะสามารถคงอยู่ไปนานนับร้อยปี
แต่เพราะว่ามีผู้คนมากมายมาเข้าร่วมการก่อสร้าง ก็มีคนงานหลายคนทำอะไรผิดพลาดอยู่บ่อยๆ
แม้ว่าจะมีน้ำฝนรั่วลงมาจากหลังคาที่ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เสาจะเอน แผ่นหินจะแตกหัก
ทุกๆครั้งที่สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเพราะพวกเขาใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินไปเรื่อยๆแบบนั้นก็จะทำให้งานก่อสร้างขาดแคลนเงินอยู่เสมอ
เงินภาษีอันแสนมีค่าสามเดือนของเมืองโมราต้าก็ต้องทิ้งไปกับงบประมาณในการก่อสร้างนี้
ก็ดีละนะ อย่างน้อยตอนนี้มันก็เสร็จแล้ว
วีดมองไปที่สิ่งก่อสร้างทั้งสองหลังแล้วก็ปล่อยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่ยังค้างคาออกไป
มันคือสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยสถาปนิกผู้น่านับถือ ปาร์โว บวกกับความพยายามของเหล่าประติมากรและจิตรกรมือใหม่ทั้งหลาย อีกทั้งผู้เล่นใหม่มากมายนับคณา
เพราะว่ามีรูรั่วบนหลังคา ผลงานจิตกรรมที่ห้อยอยู่บนเพดานเริ่มเบลอไปแล้วบางส่วน ส่วนมุมกรอบที่แกะสลักก็เริ่มปริแตกออก มีข้อบกพร่องนับร้อยเกิดขึ้นแต่ว่ามหาวิหารและหอสมุดดูโดยรวมแล้วก็ดูยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ทีเดียว
 ไม่เลวๆ จริงๆแล้ว คงจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ฝังประวัติศาสตร์และจารีตประเพณีลงไปหลังจากเวลาผ่านไปอย่างยาวนานกว่านี้แน่ๆ
วีดยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มแบบสุดๆ
เพราะว่านี่เป็นสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ มันก็คงจะกอบโกยเงินได้มากพอสมควร
พลังแห่งอันเดดของเขาเติบโตขึ้นอย่างมาก ส่วนตำแหน่งของเขาตอนนี้ก็สูงยิ่งขึ้นไปอีกตามขั้นของกองทัพอันเดด ก็คือเดทไนท์นั่นเอง!
มันคืออันเดดขั้นสูงตามทักษะการต่อสู้ที่ถือได้ว่าแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้บัญชาการเลยทีเดียว
ฮี่ฮี่ เดาว่าฉันคงจะได้รายได้จากภาษีเพิ่มขึ้นแล้วสินะ
เดทไนท์ วีด หัวเราะออกมาเสียงแหลมดูชั่วร้ายราวกับปีศาจภายในปราสาทของเขา ในขณะที่มองไปทางมหาวิหารเฟรย่า
_______________________________________________________

 “มาเริ่มบทโหมโรงได้แล้ว
จุดกองไฟได้!”
กองไฟถูกจุดขึ้นอยู่ภายในจัตุรัสแล้ว ส่วนเหล่าจินตกวีก็เริ่มบรรเลงเครื่องดนตรีของพวกเขาเพื่องานเฉลิมฉลองการก่อสร้างมหาวิหารและหอสมุดที่เสร็จสมบูรณ์ งานได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืดมัวลง แสงไฟและบทเพลงก็ทำให้เมืองโมราต้าดูงดงามยิ่งขึ้นไปอีก!
------------------------------------------------------------------------
ชาวเมืองแห่งเมืองโมร้าต้าได้เริ่มเทศกาลเฉลิมฉลองขึ้นแล้ว
-ชาวเมืองกำลังยกย่องวีรบุรุษของพวกเขา วีด
-เกียรติยศทั้งหมดถูกยกให้กับลอร์ด เพื่อกลุ่มทางศาสนา ความสงบสุขของสาธารณชนที่มั่นคง และผลผลิตด้านการบริโภคภายในทวีปทางตอนเหนือ
-พวกเขาไม่ได้รู้สึกกังขาเกี่ยวกับอนาคตอันสดใสของเมืองโมราต้าเลย
-อาชญากรรมภายในหมู่บ้านลงลดครึ่งหนึ่ง
-สถานบันการศึกษาเพื่อเด็กๆเพิ่มขึ้น
-อัตราการให้กำเนิดของชาวเมืองเพิ่มขึ้น 330% เป็นเวลาหนึ่งเดือน
-ชาวเมืองรู้สึกมีความสุข พวกเขาจะได้ทำงานที่ดียิ่งขึ้น
-ท่านสามารถเข้าร่วมงานเทศกาลได้
--------------------------------------------------------------------------
มีการเฉลิมฉลองมากมายเกิดขึ้นทั่วทั้งเมืองโมราต้า
แต่ทว่าเหล่าผู้เล่นจากทวีปทางตอนกลางคิดว่างานเทศกาลที่เกิดขึ้นภายในเมืองนี้ช่างแปลกประหลาดอย่างมาก
เพราะว่าไม่มีสักที่เลยภายในทวีปแห่งนี้ที่ความภักดีและกำลังใจของชาวเมืองที่มอบให้กับลอร์ดจะสูงเสียดฟ้าขนาดนี้
ภายในจัตุรัสแห่งแสงและจัตุรัสปิงหลงที่ที่มหาวิหารและหอสมุดตั้งอยู่ มีผู้คนเข้ามาร่วมยินดีกันอย่างไม่ขาดสาย
 หมูป่ากับกวางย่างมาแล้ว
พวกเขาย่างพวกมันในกองไฟ โรยด้วยเกลือ แล้วก็แบ่งปันให้กับผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ
นั่นพวกคนที่พากันไปขนไม้นิ มาๆมานี่เร็ว
โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!”
พวกเราคือลัทธิโจ๊กหญ้าที่กำลังจะออกไปล่าเป็นกลุ่มภายในสองชั่วโมงนี้ ไม่จำกัดเลเวล ไม่จำกัดอาชีพ ใครที่อยากเข้าร่วม มาที่ประตูตะวันออกหลังจากนี้สองชั่วโมงนะ
ขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆกำลังสังสรรค์อย่างสนุกสนาน พวกพ่อค้ากลับอัดอั้นด้วยความรู้สึกเสียดาย
ฉันควรจะซื้อที่ไว้ก่อนนะ…”
ถ้าฉันสร้างสิ่งก่อสร้างในดินแดนทางฝั่งนี้ คงจะแจ็คพ็อตไปเลยแหะ
ดินแดนแห่งนี้คงจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆแน่
ขณะที่ผู้เล่นกับชาวเมืองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆภายในเมืองโมราต้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมืองนี้จะกลายเป็นผู้กุมอำนาจทางพาณิชย์ที่ยิ่งใหญ่ภายในทวีปทางตอนเหนือแน่ๆ
มันคงจะดีไม่น้อยสำหรับเหล่าพ่อค้าถ้าหากพวกเขามีพันธะสัญญาติดพันบ้างบนดินแดนแห่งนี้ใกล้เคียงกับมหาวิหารและหอสมุดแห่งนี้ แต่ก็เหลือแค่เพียงความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่เหลือค้างอยู่เท่านั้นเอง
เหล่านักบวชกับพาลาดินก็คงจะเข้ามาเยี่ยมเยือนมหาวิหารได้บ่อยๆ ส่วนผู้คนที่เตรียมตัวจะออกไปผจญภัยกับทำภารกิจก็คงจะมาเยือนที่หอสมุดนี่บ่อยๆด้วยเช่นกัน
มันชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้วว่าผู้คนจะมาที่หอสมุดแห่งนี้เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจ แผนที่ หรือแม้แต่ข้อมูลเกี่ยวมอนสเตอร์
พวกเขาพูดว่า ดินแดนแห่งนี้มีคนเป็นเจ้าของแล้ว ใครหน้าไหนกันที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้นะ?”
ดินแดนนี่ก็เป็นไปในทางที่ดีมากนิ…”
ขณะที่เหล่าพ่อค้าต่างรู้สึกหดหู่สิ้นหวัง ก็มีสิ่งก่อสร้างมากมายโผล่ขึ้นมาจากพื้นแบบปุบปับจากพื้นที่โล่งกว้างถัดจากมหาวิหารเทพีเฟรย่า
การสร้างเมืองได้แบบรวดเร็วนั้นอยู่ในโหมดการจัดการกิจการภายในประเทศ คือสิ่งที่มีเพียงลอร์ดผู้ปกครองเมืองเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้!
ร้านอุปกรณ์นักบวชแห่งมหาวิหารแห่งแดนเหนือตำรับดั้งเดิม
ร้านอุปกรณ์ของพาลาดินตำรับดั้งเดิม
ร้าน ของที่ระลึกแห่งมหาวิหาร
เช่นกันที่สิ่งก่อสร้างอีกกลุ่มหนึ่งโผล่ขึ้นถัดจากหอสมุด
ร้าน ของทั่วไปกับเคล็ดลับสำหรับนักผจญภัยก่อนเดินทาง
ร้าน การสำรวจดันเจี้ยน
เจ้าของดินแดนก็คือ วีด ผู้ที่รอคอยช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเพื่อเผด็จศึกนั่นเอง
-จบตอน-
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

14 ความคิดเห็น:

  1. ถ้ามีวิชาบริหาร เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์และการปกครองเสมือนจริง วีดคงได้ A กันละ

    ขอบคุณ แอด และผู้แปล ทุกๆท่านเลยครับ

    ตอบลบ
  2. ลงทุนไปเยอะได้เวลาถอนทุนคืนบ้างล่ะ
    ซอยูนนี่สุดยอดนางเอก
    ส่วนสกิลทะลุกำแพงนี่โคตรมหาโหดเลย

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากครับแอด ตอนนี้สนุกจุใจเลยครับ อยากอ่านตอนต่อไปไวๆจังลุ้นๆ

    ตอบลบ
  4. ถ้าจะขนาดนี้วีดน่าจะไปลงเรียนรัฐศาสตร์นะ

    ปล.ขอบคุณผู้แปลทุกท่านครับ

    ตอบลบ
  5. รู้สึกว่าตอนนี้แปลแปลกๆน่ะมีคนคิดเหมือนผมม่ะ555
    #ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แปลแปลกยังไงคับ ติได้คับผมไม่ว่า เพราะก็แปลมาหลายตอนละ จะได้ปรับอะไรบ้าง

      ลบ
  6. ขอบคุณมำหรับการแปล

    ตอบลบ
  7. นั่งฮาอยู่คนเดียว ในฉากที่ว่า เริ่มมีไอเท็มดีๆ ที่มีประโยชน์ ดร็อปออกมาแล้ว

    ตอบลบ
  8. รักเรื่องนี้
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  9. ลงทุน มหาวิหาร กับหอสมุด ล้างสมองชาวเมืองเรียบร้อยอิอิ

    ตอบลบ
  10. สวดยอกเลือย...ลวกเพี้ยยยย สนุกมาก!!!
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

เล่ม 52 บทที่ 8 : มังกรทั้ง 2 แปลโดย Ashy dRagoon

  เล่ม 52 บทที่ 8 : มังกรทั้ง 2 แปลโดย Ashy dRagoon นักดาบและนักรบแห่งทะเลทรายเหวี่ยงดาบของพวกเขาท่ามกลางกองทัพจักรวรรดิฮาเว่น   ...