วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 24 ตอนที่10: คำร้องขอของนางสนองพระโอษฐ์ชรา แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 24 ตอนที่10: คำร้องขอของนางสนองพระโอษฐ์ชรา แปลโดย Cole’s Myth

บรรดานักวิทยาศาสตร์จากแผนกควบคุมระบบของบริษัทยูนิคอร์นกำลังตรวจเช็คค่าสถานะของรอยัลโร้ดอยู่
ความแข็งแกร่งของกิลด์เฮอร์มีสนี่สุดยอดจริงๆเลยแหะ
กองกำลังของกิลด์เฮอร์มีสที่ซ่อนตัวอยู่ ถูกฉายออกมาผ่านทางจอมอนิเตอร์นั้น ดูแข็งแกร่งกว่ากองกำลังรบของราชอาณาจักรคาลามอร์ราวฟ้ากับเหว
ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยแหะว่าการพัฒนาของมนุษย์เราจะรวดเร็วขนาดนี้
เหล่านักวิทยาศาสตร์กำลังจ้องมองดูจอกลางขนาดมหึมาอย่างใจจดใจจ่อ แผนที่ทวีปเวอร์เซลเองก็ฉายออกมาเป็นวิดีโอที่มีปราสาทส่วนตัวแต่ละหลังและหมู่บ้านแต่ละแห่งปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน แถมยังสามารถซูมเข้าไปเพื่อจะได้เห็นการเคลื่อนไหวของเหล่ามอนสเตอร์ มันคือระบบที่สามารถตรวจสอบได้ทั่วทั้งทวีปตามเวลาจริงนั่นเอง
อีกอย่างพวกเขายังสามารถใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อดูเควสไหนที่กำลังเกิดขึ้นหรือว่าค้นหาผู้เล่นที่ได้รับความสำเร็จสูงที่สุด และแน่นอนละว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายได้เพียงแต่มองโดยไม่อาจเข้าไปทำการแทรกแซงใดๆได้
เพื่อที่จะกลายเป็นจักรพรรดิแห่งรอยัลโร้ดที่รวมทั้งโลกเป็นหนึ่ง! จึงมีภารกิจการต่อสู้ลับหลายอย่างเพื่อที่จะทำให้คนๆนั้นกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดของทุกเผ่าพันธุ์ภายในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ อย่างการครอบครองปราสาทและหัวเมืองมากมายรวมถึงความมั่งคั่งมหาศาลที่ได้รับมา แต่ถึงกระนั้นการที่ได้กลายเป็นจักรพรรดิเช่นนั้น สิ่งที่เรียกว่าอำนาจและความร่ำรวยก็ตามมาเองนั่นแหละ
เพราะเหตุนี้เหล่าผู้เล่นมากมายต่างพากันเพิ่มเลเวลของพวกเขาและสร้างกองกำลังของตนเองขึ้นมา คนเหล่านั้นบ้างก็เก่งกาจขึ้น บ้างก็ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้นับครั้งไม่ถ้วน เพียงแค่ได้มองดูผู้คนเหล่านั้นที่กระจัดกระจายออกไปทั่วทั้งโลกของรอยัลโร้ด ก็ดูน่าหลงใหลมากพอแล้ว
แต่ถึงกระนั้นก็มีจุดสีแดงเข้มหลายจุดส่องแสงกระพริบบนจอขนาดใหญ่ ส่องสว่างยิ่งกว่าเดือนที่ผ่านมาเสียอีก
พวกนายคิดหรือเปล่าว่าพวกวิหารเอ็มบินยูนั่นกลุ่มมันใหญ่มากเกินไปหรือเปล่า?”
ไม่ว่าจะเป็นทวีปทางตอนกลาง ตอนเหนือ ตะวันออก ตะวันตกและทางตอนใต้ จุดสีแดงเข้มที่เป็นสัญลักษณ์ของพวกวิหารเอ็มบินยูก็กำลังแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ พวกเขาไม่ได้รู้จักเหล่าผู้เล่นมากนัก แต่เหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายนี้ก็รับรู้ว่าพวกเขาทั้งหลายได้เปลี่ยนชาวเมือง ชนชั้นสูง และกษัตริย์ให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในทวีปทางตอนกลาง วิหารเอ็มบินยูได้แพร่กระจายไปทั่ว ปลุกความโกลาหลเข้าสู่ไฟแห่งสงคราม
 ช่วยไม่ได้ละน๊าา พวกผู้เล่นก็มัวแต่กระโดดโลดเต้นแทนที่จะออกไปสู้กับพวกวิหารเอ็มบินยู
แต่ว่าถ้าหากพวกมันยังไม่หยุดละก็ คงจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากจริงๆนา...”
จากประวัติศาสตร์ดั้งเดิม วิหารเอ็มบินยูคือกองกำลังปีศาจอันชั่วร้ายที่ฉุดทั่วทั้งทวีปลงสู่ภัยพิบัติ หัวหน้าของกิลด์ทั้งหลายจะเลือกเป้าหมายง่ายๆที่อยู่ใกล้เคียงอย่างพวกปราสาทหรือเมืองมากกว่าจะออกไปสู้รบปรบมือกับพวกวิหารเอ็มบินยู
พันธมิตรที่เกิดขึ้นมาจากการร่วมมือกันนั้นก็ค่อยๆกลายเป็นการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเพื่อเพิ่มพูนอำนาจของพวกเขาและเฉยเมยต่อสถานการณ์คับขันทั้งปวง
จากสถานการณ์ปัจจุบันนี้อำนาจของวิหารเอ็มบินยูกำลังลุกลามแผ่ขยายออกไปดั่งไฟป่า ส่วนวิญญาณปีศาจอันแสนชั่วร้ายของพวกมันก็ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาอย่างเงียบงัน สำหรับเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายได้คิดว่า ณ ตอนนี้ทั่วทั้งทวีปกำลังจะถูกวิหารเอ็มบินยูกลืนกินแล้ว
เราทำอะไรไม่ได้หรอกมันคือเส้นทางของเหล่าผู้เล่นที่ต้องเลือกต่างหาก
แม้นว่าส่วนหนึ่งของทวีปจะถูกวิหารเอ็มบินยูยึดไป มันคือนโยบายของรอยัลโร้ดที่ต้องมอบอิสระในการเลือกให้กับเหล่าผู้เล่น
ทวีปแห่งความมืดคืบคลานเข้ามาแล้ว!
ถ้านี่เป็นเกมตัวอื่นพวกเขาคงจะพยายามหยุดยั้งวิหารเอ็มบินยูอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วก็เปิดสัญญาณเตือนภัยให้กับเหล่าผู้เล่นได้รับทราบ แต่สำหรับบริษัทยูนิคอร์นไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้นแต่อย่างใด พวกผู้เล่นต้องหาข้อมูลและตัดสินใจกับสิ่งที่จะทำด้วยตัวของพวกเขาเอง
เมื่อใดที่ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นทวีปแห่งความมืด มันคงจะยากลำบากมากยิ่งขึ้นในการมีชีวิตอยู่ แต่ว่าการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยอิสรภาพจากการถูกกดขี่ข่มเหงจากพวกวิหารเอ็มบินยูก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของรอยัลโร้ดด้วยเช่นกัน
_________________________________________________________
ผู้สร้างทวีปเวอร์เซล ยู บยองจุน ปรับเปลี่ยนรอยัลโร้ดด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะมาถึงจุดจบที่ต้องเผชิญหน้ากับวิหารเอ็มบินยู
ทว่ามนุษย์ก็ยังคงเหลือโอกาสของพวกเขาอยู่
เมื่อยามที่ดวงตาของพวกเขามืดบอดด้วยความละโมบและหันหน้าไปทางอื่น การปรากฏตัวของพวกวิหารเอ็มบินยูบนเวทีโลกจะก่อให้เกิดหายนะอันแสนเลวร้าย
 ถึงแม้ว่ามันจะจบลงอย่างนี้ ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้
มีผู้เล่นบางคนที่ ยู บยอง จุน จับตาดูเป็นพิเศษ
ทั้งนักผจญภัย นักสำรวจ นักรบ อัศวิน นักเวทย์ พาลาดิน นักบวช และประติมากร!
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้เล่นที่มีความแตกต่างและแปลกแยก แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงพัฒนาอยู่สม่ำเสมอ ความละโมบโลภมากของพวกเขาก็ยังคงเดิมตลอดและไล่ตามไขว่คว้าเงินตราและอำนาจเอามาไว้ในมือ
อันที่จริงแล้ว ยู บยอง จุน มักจะจับตาดูการกระทำของตัวละครที่ชื่อวีดอยู่บ่อยๆ
เจ้าหนุ่มนี่ช่างแตกต่าง
ตั้งแต่เริ่มจนจบ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาก็คือเงิน เขาคือคนที่ให้คุณค่าของเงินเหนือสิ่งอื่นใดและไม่เคยเปลี่ยนแปลง! เขาได้รับความนิยมและเชิดชูจากผู้คนมากมายผ่านการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นและน่าอิจฉาเป็นที่สุด
บางทีเป็นอย่างนี้อาจจะดีกว่าก็ได้
ครั้งแรกที่ยูบยองจุนเจอกับลีฮุน เขาไม่ค่อยประทับใจในตัวเขาซักเท่าไรนั่นก็เพราะว่าเขาให้เงินมาแค่200 วอน แต่ก็ยังขาดเงินอีกแค่100 วอนเท่านั้นก็จะซื้อโกโก้ได้แล้ว
 “ทำภารกิจของนายไปเถอะ ให้คนที่อิจฉาตาร้อนคอยขัดขวางนายต่อไป... เพราะถ้าเป็นหยั่งงี้ต่อไปเรื่อยๆ นายก็จะไม่มีทางทำอะไรสำเร็จแน่ๆ"
แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารู้สึกชื่นชมในความสามารถของวีด ด้วยการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ เขาจึงสามารถมองดูวีดได้ตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่นเกมมา และขณะที่เขาสร้างประติมากรรมหรือว่าออกล่า เพราะความวิริยะอุตสาหะ เขาจึงสามารถสร้างผลงานมากมายทั้งระดับไฟน์ มาสเตอร์พีสและแมคนัม
ถ้าให้พูดอีกซักหน่อย การตะลอนไปทั่วทั้งทวีปและรวบรวมสมบัติทักษะประติมากรรมลับทั้ง5 ก็ถือว่าช่างน่าประทับใจมากแล้วจริงๆ
ถึงยังไงนายก็ยังไม่ไปพบกับปรมาจารย์ประติมากรซาฮับหรือว่าเรียนรู้ทักษะแกะสลักอย่างสุดท้าย...คึคึคึคึ จงอยู่ในภาพลวงตาจากคำเยินยอของผู้คนต่อไปซะเถอะ
_____________________________________________________
วีดล็อคอินเข้าเล่นรอยัลโร้ดอีกครั้ง ป้อมปราการเวอร์โก้ห่อหุ้มไปด้วยความมืดมิด! เขานั่งอยู่บนหอคอยที่โงนเงนพลางหวนให้รำลึกถึงความอ้างว้างภายในใจ
บัญชาแห่งความตายจากกิลด์เฮอร์มีส....งั้นแปลว่าพวกมันตัดสินใจที่จะฆ่าฉันให้ตายๆไปเลยสินะ?”
มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับวีดที่จะไม่ทราบข่าวคราวเรื่องนี้ เพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างรับรู้ได้ไวในเรื่องราวข่าวสารข้อมูลต่างๆ บัญชาแห่งความตายคือศักดิ์ศรีของกิลด์เฮอร์มีส เมื่อใครที่ขึ้นไปอยู่บนบัญชีดำนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดหรือเหตุผลแบบไหน พวกเขาก็จะฆ่าให้ตายให้จงได้ พวกเขาไม่สามารถติดต่อค้าขายกับพวกพ่อค้าได้แบบปกติหรือแม้แต่แชร์ภารกิจให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ
ส่วนการจะเคลื่อนไหวภายในราชอาณาจักรฮาเว่นไม่มีทางเป็นไปได้เลย หรือแม้แต่ภายในทวีปทางตอนกลางก็ถือว่ายากลำบากมาก ผู้คนต่างต้องการเป็นที่โปรดปรานจากกิลด์เฮอร์มีส ต่างก็กระจัดกระจายตัวออกไป ยิ่งมีเงินค่าหัวของคนที่ถูกลงบัญชีเป็นรางวัลแล้วด้วย
เมื่อก่อนหน้านี้ วีดคือคนที่ไม่ได้เป็นที่น่าจดจำอะไรเป็นพิเศษมากมายนักในยามที่ผู้คนเดินผ่านเขาไป แต่ทว่าตอนนี้ข่าวคราวทุกๆอย่างของเขาจะถูกรายงานไปยังกิลด์เฮอร์มีสหรือพวกนักล่าค่าหัว
คราวนี้จะออกไปทำภารกิจแต่ละทีคงยุ่งยากแน่เลย
หากมีการรายงานตำแหน่งที่อยู่ของวีดหรือว่าข่าวคราวเรื่องภารกิจของเขาแพร่กระจายออกไป พวกนักฆ่ากับพวกนักล่าค่าหัวคงได้แห่กันมาไล่ล่าเขาแน่ละทีนี้
ก็นะ ภารกิจทุกอย่างก็ต้องมีข้อดีข้อเสียของมันอยู่แล้วละนะ
เขาผ่านพ้นความยากลำบากต่างๆนานามาได้ด้วยการเลือกทำภารกิจที่แสนยุ่งยากทั้งนั้น
มีผู้คนมากมายตั้งหน้าตั้งตาออกล่าอย่างเดียวเพื่อพยายามเพิ่มเลเวลของพวกเขาให้เร็วขึ้น ทว่าวีดกลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาไขภารกิจและได้รับไอเท็มสมบัติต่างๆที่ผู้เล่นคนอื่นไม่อาจครอบครองได้ แถมเขายังสามารถทำเงินได้จากการถ่ายทอดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ คงพูดได้ว่าเขากอบโกยชื่อเสียงและอาณาเขตของโมราต้ามาได้ด้วยการทำภารกิจของตนเอง
ในตอนที่เขาไปนครลอยฟ้าลาเวียสเพื่อทำภารกิจตามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ให้กับวิหารเทพีเฟรย่า เข้าร่วมสงครามปิดล้อมแห่งป้อมปราการโอดิน สร้างพีรามิด และการเดินทางในฐานะออร์คคาริชวิบนที่ราบแห่งความสิ้นหวัง ความทรงจำจากการผจญภัยต่างๆนานาก็โผล่ขึ้นมาภายในหัวของเขาทันที
วีดพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงทุ้มต่ำที่มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่ได้ยิน
ฉันคงออกไปทำภารกิจหรือออกล่าไม่ได้แน่ถ้าโดนใครโจมตีเข้า... แล้วฉันก็จะโดนทิ้งห่างออกไป ถ้าฉันเก็บเงินในฐานะดาร์กเกมเมอร์ไม่ได้ก็คงต้องหางานอื่นทำซะแล้ว
ทุกคนต่างรู้ซึ้งถึงวิกฤติการว่างงานในปัจจุบันนี้ดี
ฉันคงจะไปทำงานที่โรงงาน รับเงินค่าจ้างงี่เง่า แถมคงเหนื่อยแทบน้ำตาเล็ดจากการทำงาน17 ชั่วโมงต่อวัน... มลพิษทางเคมีภายในโรงงานก็ถูกปล่อยออกมาแล้วฉันก็คงป่วยจากนั้นก็ออกไปรักษาตัว และก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้โดนไล่ออก แถมฉันคงต้องออกไปส่งนมกับส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้าและถ้าฉันล้มป่วยลงแบบกะทันหันหล่ะ.....”
วีดกำลังวาดอนาคตที่มืดมนออกมาได้อย่างเศร้าสลด!
 แต่ตอนนี้ฉันยังแข็งแรงดีนิ ไม่ว่าฉันจะเจ็บปวดรวดร้าวซักแค่ไหน ฉันก็จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เพราะเรื่องเจ็บป่วยฉันคงเสียเงินรักษาต่อไปเรื่อยๆแล้วก็คงโดนไล่ออกจากงานแบบปุบปับ หลังจากอุตสาหะทำงานมาตั้ง15 ปีภายในบริษัท แถมเงินค่าชดเชยที่ได้คงน้อยเท่าหางหนู ถ้าหางานพาร์ทไทม์ทำทุกวัน ฉันคงจะกลายเป็นไอ้แก่ที่ไม่ได้แต่งงานส่วนกองทุนบำเหน็จบำนาญจากประเทศของเราอีกไม่นานก็คงร่อยหรอจนหมดสิ้นเป็นแน่ ร่างกายทุกส่วนของฉันก็คงจะเจ็บจี๊ดไปหมดทั้งตัว ร้อนดั่งถูกไฟแผดเผา ดิ้นทุรนทุรายเพราะความเจ็บป่วย ถ้าตายไปอย่างนั้นจะมีใครมาจัดงานศพเล็กๆให้ฉันบ้างไหมนะ?”
อนาคตที่อยู่บนปากเหวแห่งความสิ้นหวังนี้ถูกดึงออกมาจากบัญชาแห่งความตายของกิลด์เฮอร์มีส! ถึงกระนั้นวีดก็ยังคงพยายามไขว่คว้าหาความหวังให้กับตัวเอง
ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดฉันคงไปเก็บเศษกระดาษกับเศษเหล็กนั่นก็คงจะดีเหมือนกัน ถ้าฉันไม่มีครอบครัวมาคอยช่วยเหลือคงจะได้รับเงินค่าครองชีพขั้นต่ำอยู่ละมั้ง และถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆจริงๆแล้วล่ะก็ ฉันคงจะต้องเอาไตไปขายซักข้าง..."
ยังไงก็เถอะ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป มันคงจะอันตรายจริงๆในการออกไปทำภารกิจหรือว่าออกล่าภายในดินแดนเหนือแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายนอกเมืองโมราต้ากับป้อมปราการเวอร์โก้ แม้ว่าตอนที่อยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์ที่ต้องข้ามทะเลไป เขาก็ต้องพบเจอกับการแทรกแซงมากมาย แถมยังตายตอนทำภารกิจกองทัพอมตะอีก นี่ก็พิสูจน์แล้วว่ากิลด์เฮอร์มีสมีอำนาจยิ่งใหญ่แค่ไหน
แม้ว่าเขาจะมีพวกพ้องกับเหล่าเพื่อนฝูงสู้ไปด้วย แต่ถ้าหากว่ามีกองกำลังขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นมาแบบปุบปับ มันก็คงยากลำบากเกินไปที่จะต่อกรด้วย
ตั้งแต่นี้ไป ฉันคงต้องระวังตัวให้มากแล้วละ ฉันจะไม่ทำภารกิจที่อาจจะเปิดเผยตัวตนของฉันกับคนอื่นเลย
อย่างภารกิจเด่นๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือว่าตอนนี้ เพราะว่าพวกเขามีเวลามากพอที่จะมาจัดการวีด แถมตอนนี้มันก็คงอันตรายเกินไปที่จะไปจัดการพวกเขาเช่นกัน
 มันก็แล้วแต่ขนาดของการออกล่าด้วยละนะ ถ้าภารกิจใหญ่ๆมันก็คงไม่เหมาะเท่าไรที่จะสร้างประติมากรรมแต่...’ แม้ว่าเขาจะเป็นตัวละครเกมส์ที่มีอาชีพจับฉ่ายแต่อาชีพหลักของเขาก็ยังคงเป็นประติมากรอยู่ดี
ทันใดนั้นก็มีความทรงจำหนึ่งเด้งขึ้นมาในหัวของเขามันคือความทรงจำที่เลือนลางไปนานมากแล้ว
 หน้าต่างข้อมูลภารกิจ!”

ติดตามสมบัติของซาฮับ(Continue Zahab’s Legacy)
วันนั้นซาฮับยังไม่ตาย เพื่อที่จะทดสอบทักษะแกะสลักของเขา เขาจึงออกไปทวีปอันไกลแสนไกล หลังจากที่ท่านเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักของท่านแล้ว จงตามหาซาฮับเพื่อเรียนรู้บทเพลงของเขาและขับร้องให้นางสนองพระโอษฐ์ชราได้สนับ ล่าสุดมีข่าวลือมาว่าซาฮับอยู่ที่เขตกราพาส
ความยาก :A
ข้อจำกัดภารกิจ: ต้องเคลียร์ภารกิจก่อนนางสนองพระโอษฐ์ชราจะเสียชีวิต
ภารกิจไม่สามารถยกเลิกได้

มันคือภารกิจเพื่อตามหาซาฮับนั่นเอง! ภารกิจนี่มาจากนางสนองพระโอษฐ์ของราชอาณาจักรโรเซนไฮม์ แต่ว่าตอนนั้นเลเวลของเขาต่ำเกินไปและเขาก็คิดว่ามันคงใช้เวลานานเกินไปที่จะทำให้สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เริ่มทำภารกิจเลย เหตุผลหลักๆอีกอย่างหนึ่งก็คือตอนนั้นเขารู้สึกผิดหวังกับอาชีพประติมากรเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นเขาก็ตรวจสอบว่านางสนองพระโอษฐ์ชราคนนั้นตายไปแล้วหรือยัง ด้วยการโพสท์ลงบนบอร์ดข้อมูลป้อมปราการเมืองเซราบอร์ก ณ ราชอาณาจักรโรเซนไฮม์แล้วจากนั้นก็เลื่อนการทำภารกิจออกไป
ภารกิจที่ได้มาจากนางสนองพระโอษฐ์ชรานั่นก็นานมากแล้วนะ ถ้าฉันไปเจอซาฮับเรียนรู้เพลงและเทคนิคที่จะนำไปสู่ภารกิจที่เกี่ยวโยงกับสมบัติสุดท้ายของทักษะประติมากรรม...’
ทักษะแกะสลักของเขาตอนนี้ยังคงอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล8 การจะได้เป็นปรมาจารย์ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
ปรมาจารย์ประติมากรรมและทักษะแกะสลักอย่างสุดท้าย!"
ทันทีที่พวกกิลด์เฮอร์มีสปรากฏตัว เขาก็โดนไล่ล่าอยู่ตลอดเวลา
งั้นภารกิจนี้ก็ควรทำให้เสร็จได้แล้ว...’
เส้นทางสู่การเป็นปรามาจารย์แห่งประติมากรรม!
ตามความเป็นจริงแล้วหนึ่งในเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดที่เขามาต่อสู้กับกองทัพอมตะก็เพื่อปกป้องเมืองโมราต้า
วีดตกลงสู่ห้วงแห่งความคิด
ถ้ากิลด์เฮอร์มีสทรงพลังอย่างที่พวกมันพูดละก็ พวกมันคงจะพยายามขัดขวางฉันจนถึงที่สุดแน่ๆ...”
เขากำลังสงสัยว่าเขาควรจะไปก้มหัวหรือว่าคุกเข่าให้พวกมันไหม
 ___________________________________________________
วีดเป็นคนที่เริ่มเกณฑ์กำลังคนมาเพื่อต่อสู้กับอันเดดภายในป้อมปราการเวอร์โก้ หลังจากที่บัลข่านตาย พวกอันเดดในกองทัพอมตะก็อ่อนแอลงไปมาก แถมยังมีกองทัพพันธมิตรเอลฟ์ คนเถื่อน คนแคระและมนุษย์ พวกเขาจึงสามารถจัดการพวกมันได้
เมื่ออันเดดตนสุดท้ายภายในป้อมปราการเวอร์โก้ถูกฆ่าตาย ก็มีวิดีโอเด้งขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเขาและผู้เล่นคนอื่นๆ
ฮาชิลซาผู้ที่มีผิวหนังเขียวเหมือนกับกบก็นำกองทัพอมตะมุ่งหน้าไปที่กองเรือรบผีสิงของเขา
เพราะว่าท่านบัลข่านดีมอฟได้จากไปแล้ว งั้นข้าน้อยก็จะกลับไปที่ทะเลด้วยเช่นกัน"
ยามเมื่อผลักลำเรือแล่นผ่านม่านหมอกไป เรือผีสิงก็หายไปดั่งลางร้ายที่มาเยือน ข้ารับใช้ของบัลข่าน ฮาชิลซาได้กลับไปสู่ท้องทะเลพร้อมกับอันเดดและได้กลับไปเป็นนาวาเอกผีดิบแห่งท้องทะเลอีกครั้งหนึ่ง ถ้าโชคไม่ดีนักก็อาจจะมีใครไปเจอกับฮาชิลซาเข้าแล้วก็ปลดล็อคภารกิจตำนานแห่งมหาสมุทรก็เป็นได้
ภาพภายในวิดีโอนั้นได้บอกใบ้ว่าฮาชิลซาได้ออกไปตามหาอาณาจักรใต้ทะเล ทว่าวีดก็ไม่สนใจอะไรมากนัก
 ตอนนี้แค่มองพวกมันฉันก็รู้สึกถึงกลิ่นทะแม่งๆจากพวกมันได้ละ
ถูกล้างบางโดยภารกิจที่โหดหินแถมยังต้องตรากตรำทุกข์ทรมานแทบขาดใจ ดูเหมือนว่านั่นคงจะเป็นภารกิจที่นำไปเจอแต่กับพายุฝนกับหินโสโครกแน่ๆ
คงได้ซวยแหง๋ๆถ้าไปรับภารกิจนั้นเข้า
วีดยังคงมีความสนใจเกี่ยวกับเจ้าฮาชิลซาอยู่ ขณะที่ตอนนี้เหล่าพันธมิตรเอลฟ์ คนเถื่อน และคนแคระกำลังค้างแรมอยู่ภายในป้อมปราการเวอร์โก้ ส่วนเหล่าพาลาดิน นักบวช และเนโครแมนเซอร์ก็กำลังสนทนาพูดคุยพลางส่งสายตาหากัน
มีเพียงเหล่าคนร่วมทางเท่านั้นที่ต่างกำลังกังวลเกี่ยวกับบัญชาแห่งความตายของกิลด์เฮอร์มีส ส่วนพวกนักดาบก็รู้สึกอายเกินไปที่จะเข้าไปคุยกับเหล่าเอลฟ์ จึงได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ
ไปให้พ้นเลยนะเจ้าพวกเนโครแมนเซอร์ที่อัญเชิญพวกอันเดดน่าขยะแขยงขึ้นมา กล้ามาคุยกับพวกเราได้ไง?”
ข้าไม่ได้กลิ่นผืนดินหรือได้ยินเสียงธรรมชาติจากพวกมันเลย ข้าคุยกับพวกแกไม่ได้หรอก
เจ้าพวกมนุษย์นั้นช่างไร้ค่าเสียยิ่งกว่าชุดเกราะของพวกมันซะอีก
ปฏิกิริยาของคนเถื่อน เอลฟ์ และคนแคระเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับประเภทของคนที่พวกเขาคุยด้วย เมื่อตอนที่พวกเขาจับมือร่วมกันเพื่อต่อสู้กับพวกอันเดด แต่ตอนนี้ยากมากที่จะกลายมาเป็นมิตรกันได้ นั่นก็เพราะว่าแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างมีสภาพและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
ค่าชื่อเสียง อาชีพ เลเวล ทักษะ อุปกรณ์ และภารกิจที่เคยทำสำเร็จมา เป็นตัวแปรที่มีความแตกต่างกันมากมายนั้น ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพล ขณะที่มนุษย์เป็นที่ชื่นชอบต่อเหล่านักบวช คนแคระ คนเถื่อนและเอลฟ์ที่เชื่อในเทพองค์อื่น ซึ่งเห็นพวกเขานั้นเป็นภาระ
 เฮือกก เหล่าเอลฟ์ช่างงดงามมากจริงๆ
นักดาบ119 ที่อยู่ใกล้ๆกับวีด พูดดังพอที่จะทำให้เขาได้ยิน
พวกเธอไม่ใ่ช่เอลฟ์ที่เตี้ยและผิวดำ เพราะว่าเอลฟ์ป่านั้นมีเส้นผมสีทอง รูปร่างผอมบางช่างดูงดงามเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงคันธนูคนละคันพาดอยู่บนบ่าของพวกเธอ สวมใส่เสื้อผ้าเบาบางปราศจากชุดเกราะ
ปฏิกิริยาของพวกเธอเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับว่าพวกเธอจะคุยกับใคร ทว่ากับพันธมิตรของพวกเธอ พวกเธอจะแบ่งปันภารกิจและแสดงท่าทีชื่นชอบต่อคนอื่นๆ
เพราะเช่นนั้นนักดาบ119 จึงหวังว่าวีดจะช่วยพูดกับพวกเธอให้ก่อน
วีดเดินเข้าไปใกล้เอลฟ์ที่อยู่ใกล้เขาที่สุด
ขอธรรมชาติอวยพรแด่ท่าน ท่านคือมนุษย์ผู้คืนแหล่งกำเนิดแห่งธรรมชาติกลับมาสู่แดนเหนือสินะ

ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น34 หน่วย
ค่าความใกล้ชิดเพิ่มขึ้น25 หน่วย
สัมพันธไมตรีกับเอลฟ์ป่าเพิ่มขึ้น17 หน่วย

ถึงแม้ว่าเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในพงไพรจะรู้จักชื่อเสียงของวีดผ่านการล่าบัลข่านที่ซึ่งไม่ได้มาจากNPC ที่เป็นเอลฟ์ คนแคระ และคนเถื่อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผู้เล่นมากมายต่างชื่นชมในตัววีดอยู่แต่เดิมแล้ว อิทธิพลที่กระจายไปกว้างขวางของแต่ละสถานีออกอากาศที่ต่างก็พยายามแข่งขันเพื่อสร้างวีรบุรุษขึ้นมาอย่างเอาเป็นเอาตายและเรียกเขาว่าเทพสงคราม
 ข้าคือมนุษย์ แต่ข้าก็เป็นนักผจญภัยที่เคารพคุณค่าในชีวิตและความมั่งคั่งด้วยเช่นกันข้าเพียงแค่ทำภารกิจเล็กๆที่ข้าคิดว่าสำคัญอย่างไร้ความลังเลใจเท่านั้น
ด้วยความช่วยเหลือของท่าน เอลฟ์มากมายจากแดนเหนือ เรารู้สึกซึ้งใจจริงๆและด้วยความร่วมมือจากเหล่ามนุษย์ พวกเราจึงสามารถส่งพวกอันเดดกลับคืนสู่ธุลีได้"

ค่าสัมพันธไมตรีกับเอลฟ์ป่าเพิ่มขึ้น25 หน่วย

วีดมีถ้อยคำที่หวานปานน้ำผึ้ง ส่วนเหล่าเอลฟ์เองก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ซื่อๆเชื่อใจคนอื่นอย่างไม่ลังเลใจใดๆเลย
ช่างบังเอิญจริงๆที่ข้าเคยได้ยินข่าวมาบ้างเกี่ยวกับราชินีภูติที่ถูกกดขี่จากบัลข่านในตอนที่ข้าออกไปผจญภัย ในฐานะนักผจญภัยที่ต้องรับผิดชอบปกป้องความยุติธรรมแห่งทวีปเวอร์เซล ข้าจะไม่มาต่อสู้ได้อย่างไรกันหล่ะ?”
 ท่านช่างเป็นนักผจญภัยมนุษย์ที่น่ายกย่องจริงๆ ถ้ามนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนท่านวีดพวกเราคงจะอยู่แบบสงบสุขเป็นแน่
เขาไปพบปะกับเหล่าคนเถื่อนและคนแคระ พลางฟังเรื่องราวและรวบรวมข้อมูลด้วยเช่นกัน
พื้นที่ล่างั้นหรอ? ในฐานะนักรบคนหนึ่งข้าว่าท่านก็โด่งดังในเรื่องความแข็งแกร่งมากแล้วนะ แต่ท่านยังอยากที่จะแข็งแกร่งกว่านี้งั้นหรือ? มีพื้นที่ล่ามากมายในแถบนี้ที่มีให้กับคนที่อยากจะกลายเป็นนักรบผู้ไร้เทียมทานครับ แต่ว่าอย่าไปที่ด้านหลังเนินเขาโอก๊อท หล่ะ มันเป็นดันเจี้ยนที่เข้าไปไม่ได้ง่ายๆเลย
นั่นยิ่งทำให้ข้าอยากจะสู้มากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้ามอนสเตอร์มันแข็งแกร่งนักงั้นไปกำจัดพวกมันกันเถอะ
 ท่านช่างมีความคิดที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทว่าการเฝ้ายามป้องกันพวกมอนสเตอร์ของที่นี่ถูกยกเลิกไปแล้วนะครับ พวกมอนสเตอร์ก็คงจะเข้ามาบุกที่นี่บ่อยขึ้นแน่ๆ ท่านควรจะสร้างกำแพงปราสาทขึ้นมาใหม่อีกครั้งนะครับ

ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น21  หน่วย
ค่าสัมพันธไมตรีกับกลุ่มคนเถื่อนแห่งดินแดนเปลี่ยวร้างเพิ่มขึ้น

 “ผลไม้ในพงไพรงั้นหรือ? ทั้งหวานทั้งอร่อยมากๆเลยละ เอลฟ์อย่างพวกเราไม่ค่อยกินกันเยอะมากนัก ถ้างั้นพวกท่านอยากจะได้พวกมันไหมละ พวกเราสามารถเอามาขายกับไอเท็มที่พวกเราต้องการได้นะ
ถ้าเจ้าบอกข้าว่าไอเท็มอะไรที่พวกเอลฟ์ต้องการ งั้นข้าจะดูให้ละกัน การหมักเหล้าผลไม้จากป่าเอลฟ์.....ข้าหมายถึงข้าอยากจะให้เด็กๆได้ลองกินพวกมันดูบ้างหน่ะ
เขาพยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการค้าด้วยเช่นกัน เนื่องจากวีดไม่ใช่พ่อค้ามืออาชีพเขาจึงไม่จำเป็นต้องตะลอนขายของไปทั่ว แต่มันก็ทำให้เขาสามารถสร้างกำไรงามๆได้อยู่เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงจดจำข้อมูลเหล่านั้นไว้ภายในหัวอย่างเต็มที่
 ป้อมปราการแห่งนี้เป็นที่ชื่นชอบของพวกคนแคระอย่างมาก ทว่าตอนนี้มันได้ถูกมนุษย์ปกครองแล้ว ทำไมพวกคนแคระถึงต้องอิจฉาดินแดนที่พวกอันเดดอยู่ด้วยละ? อย่าบอกใครละ เจ้าต้องไม่บอกใครว่าข้าบอกเจ้าเรื่องนี้นะ นานมาแล้วที่แห่งนี้เคยมั่งคั่งไปด้วยแร่เหล็กกับแร่เงินคุณภาพสูงนะ จะบอกให้
แร่เหล็กกับแร่เงินงั้นหรอ ถ้าขุดแร่พวกนั้นขึ้นมาได้กำไรงามแน่! ราคาที่ดินของป้อมปราการเวอร์โก้ก็จะต้องเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ...เอ่อข้าหมายถึงถ้ามีแร่ต่างๆที่เหล่าคนแคระต้องการงั้นก็ควรจะทำเหมืองแร่ขึ้นมา"
ค่าความใกล้ชิดกับเผ่าพันธุ์คนแคระแห่งฮาร์ดเดนเอิร์ท(Hardened Earth) เพิ่มขึ้น

วีดเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนแคระอย่างมาก หลังจากที่เขาบอกพวกเขาว่าเชี่ยวชาญทักษะช่างตีเหล็กระดับกลางและเรียกร้องให้เขามาสร้างบางอย่างร่วมกัน ถ้าเขารับข้อเสนอ มันคงจะกลายเป็นโอกาสอันมีค่าที่จะได้จับมือกับเหล่าคนแคระสร้างดาบและชุดเกราะออกมา แถมมันคงจะช่วยให้ค่าทักษะช่างตีเหล็กของเขาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
วีดเชื่อว่ามารยาและการเสแสร้งคือสิ่งสำคัญเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดภายในสังคม! เขาเชื่อว่าถ้าโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายสอนเรื่องนี้ในวิชาจริยธรรม ความสามารถในการแข่งขันของประเทศก็จะมีอิทธิพลโดดเด่นกว่าประเทศกำลังพัฒนาประเทศอื่นๆ
เหล่าเอลฟ์ คนแคระ และคนเถื่อนที่วีดเล็งเข้าไปคุยเป็นการพิเศษก็จะทำให้เหล่านักดาบและพวกพ้องคนอื่นๆเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มมีบทสนทนากัน พวกเขามองพวกคนที่มากับวีดอย่างยกย่องชื่นชม และต้องขอบคุณเรื่องนั้นที่ทำให้การพูดคุยง่ายดายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมอาชีพนักผจญภัยเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับอาชีพนักรบแม้จะด้อยเรื่องการสู้รบ แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
จากนั้นวีดก็ไปพบผู้นำของเผ่าเอลฟ์ นามว่าลอนเซิร์ก กับผู้เล่นคนอื่นๆ เขาเพียงแค่แสดงท่าทีต้อนรับด้วยความเป็นมิตรเท่านั้นโดยไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่กับวีด เขากลับเริ่มบทสนทนากับเขาก่อน
ท่านคือมนุษย์ผู้รับบทบาทสำคัญในการสังหารบัลข่านสินะครับ
มันคือสิ่งที่ข้าต้องทำน่ะครับ มันทำให้ข้ารู้สึกยินดียิ่งที่ได้รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ได้นำมาซึ่งความสงบสุขยังทวีปเวอร์เซลแห่งนี้
 “ราชินีภูติเทเนดอนต้องการพบมนุษย์ผู้ที่ช่วยพระนางไว้ ท่านมากับข้าได้ไหม?”
ลอนเซิร์กเสนอการพบปะให้กับเขา ราชินีแห่งภูติคือภูติที่มีตำแหน่งสูงที่ปกครองทั้งเผ่าพันธุ์
วีดชำเลืองมองไปโดยรอบอย่างรวดเร็ว และเห็นเหล่านักดาบ เพล ไอรีน คนอื่นๆที่รู้จักกับเขามาเป็นเวลานานรวมถึงเหล่านักบวชและพาลาดินต่างก็เบิกตาโพลงด้วยความตื่นเต้นขณะที่พวกเขากำลังแอบฟัง
การได้พบราชินีของเผ่าพันธุ์นี้ ที่ถือว่าเป็นราชินีแห่งเผ่าพันธุ์ที่ยากจะได้พบตัว ที่แม้แต่วีดเองยังรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสทองครั้งนี้
เชื่อกันจริงๆว่าเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ทำให้วีดสามารถเข้าพบราชินีภูติได้ก็คงเพราะว่าการล่าบัลข่านนั่นเอง
 ข้าไปได้คนเดียวใช่ไหม?”
ราชินีภูติเทเนดอนเรียนเชิญทุกท่านครับ
เสียงดังเด้งขึ้นมาจากหน้าต่างผู้เล่นทุกคน!
ว้าวววว
นี่พวกเรากำลังจะไปพบราชินีภูติจริงๆงั้นหรอข้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
ดีจริงๆที่เราได้ไปสู้กับบัลข่าน
คุณวีดขอให้พวกเราไปด้วยได้"
นอกจากสมบัติที่พวกเขาได้หลังจากการล่าบัลข่านพวกเขาก็ยังจะได้รับรางวัลจากราชินีภูติด้วยเช่นกัน วีดจึงตัดสินใจตอบรับคำเชิญจากราชินีภูติ
เราไปได้เมื่อไรหรอ?”
พวกท่านไปตอนนี้ได้เลยครับ
ข้าอยากจะเห็นรางวัลแล้ว....เอ่อ ข้าหมายถึงข้าอยากจะเห็นว่าองค์ราชินีภูติ พระนางยังปลอดภัยด้วยตาตนเอง งั้นเราไปกันเถอะ
__________________________________________
วีด เหล่านักดาบ และผู้เล่นคนอื่นๆถูกนำทางไปโดยเหล่าเอลฟ์และเหล่าคนแคระ
กรุณาตามพวกเรามาครับ
เมื่อเดินไปตามเส้นทางของผืนป่า พวกเขาต่างก็เห็นเอลฟ์สาวจ้องมองมาที่พวกเขาจากด้านหลังต้นไม้และดงไม้
ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่"
ข้าควรมาที่นี่เพื่อพบเหล่าเอลฟ์ตั้งนานแล้ว
เหล่านักดาบกระซิบหากัน ต่างพยายามที่จะไม่ทรยศความภาคภูมิใจในความเป็นชายของพวกเขา ทว่าเหล่าเอลฟ์ที่มีหูดีจนสามารถได้ยินเสียงพัดของลมอ่อนๆด้วยซ้ำไป
ดูท่าพวกมนุษย์นั่นกำลังสนใจพวกเราอยู่นะ
พวกเขาไม่ใช่แบบที่ข้าชอบเลย
พวกเขาดูโง่จัง
เพื่อที่จะได้รับความรักจากเอลฟ์ พวกเขาต้องมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอันมาก อย่างพวกอาชีพสายเรนเจอร์หรือว่านักเวทย์มากกว่าพวกอาชีพสายนักรบ เพราะว่าสายพันธุ์ของพวกเขาไม่ได้ชื่นชอบโปรดปรานพวกมนุษย์ซักเท่าไรนัก มันจึงมีข้อจำกัดที่มนุษย์จะสามารถสร้างความสนิทสนมกับพวกเขาได้ แม้แต่หมู่บ้านเอลฟ์ที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีการเข้าถึงที่จำกัดเอาไว้ และอนุญาตให้เฉพาะเหล่าพ่อค้าเข้าไปได้เท่านั้น
พวกเขาผ่านป่าแล้วก็ปีนขึ้นไปบนภูเขา จากตรงจุดนี้ มันคืออาณาเขตของพวกคนแคระ มันคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยบ้านหลังเล็กๆและเตาหลอมผนวกกับเสียงค้อนที่ดังกังวานไปทั่ว
หมู่บ้านคนแคระแต่ละแห่งมีความพิเศษหรือว่าเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เพราะงั้นวีดก็เลยรู้สึกสงสัยในทักษะของพวกเขามากๆ ทว่าตอนนี้เขาต้องเข้าไปในดันเจี้ยนที่อยู่ใกล้ๆแล้ว
ท่านคือผู้ที่ค้นพบดันเจี้ยนสถานที่พักผ่อนของเทเนดอนเป็นคนแรก
สิทธิพิเศษ: ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น890
อัตราการดร็อปไอเท็มและค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
มอนสเตอร์ตัวแรกที่ท่านล่าจะดร็อปไอเท็มที่ดีที่สุดออกมา

แม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าดันเจี้ยนแต่ก็มีแค่ภูติตัวจิ๋วบินเต็มไปหมด เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถล่าภูติได้ ผลที่ทำให้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่าก็ไม่มีประโยชน์ใดๆเลย
 โปรดระวังด้วยนะครับมีกับดักวางอยู่เต็มไปหมดเลยนะครับ ถ้าพวกท่านไปผิดเส้นทางพวกท่านอาจจะเดินตะลอนไปอย่างไร้จุดหมาย หรือว่าไปโผล่ซักที่บนทวีปก็เป็นได้
ด้วยคำเตือนจากเหล่าเอลฟ์ เหล่าผู้เล่นจึงต้องระงับความอยากรู้อยากเห็น แล้วก็เดินตามต่อไปเรื่อยๆ พวกภูติมีความสามารถที่ทำให้พวกเขาสามารถข้ามแผ่นดินใหญ่หรือแม้แต่กระโดดข้ามช่องกว้างๆได้ เพราะเหตุนั้นเพียงแค่การลื่นล้มแค่นิดเดียวก็ทำให้คนๆนั้นไปจบลงที่กลางทะเลทรายหรือว่ารังของมอนสเตอร์ที่หิวโหยได้โดยง่าย
พวกเขาตามพวกเอลฟ์ไปอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน แล้วในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงที่พำนักของราชินี มันคือที่พักที่สร้างจากต้นไม้ใหญ่ ร่างเล็กๆของราชินีภูติเทเนดอนประทับอยู่ตรงบริเวณรากไม้และกำลังนอนพักอยู่
ขอต้อนรับเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย
น้ำเสียงของราชินีภูตินั้นเบามาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ปีกข้างหนึ่งของราชินีได้รับบาดเจ็บร้ายแรงจนฉีกขาด การได้รับพลังชีวิตจากต้นไม้ เธอจึงค่อยๆฟื้นตัวทีละเล็กทีละน้อย แต่มันก็แทบจะไม่พอที่จะทำให้สภาพบาดเจ็บสาหัสตอนนี้ฟื้นคืนได้เต็มที่
 ชื่อของกระผมคือวีดขอรับ
วีดได้แสดงถึงสมบัติผู้ดีขณะที่เขากำลังคุกเข่าข้างหนึ่ง เขามีคุณสมบัติมากพอในฐานะลอร์ดแห่งเมืองโมราต้าและเป็นชนชั้นสูง มากพอที่จะมีสิทธิสนทนากับราชินีได้ด้วยค่าชื่อเสียงของเขา ตอนนี้เขาจึงสามารถเข้าพบใครก็ได้ที่เขาต้องการ
เจ้าคือมนุษย์ที่ช่วยเหลือข้าสินะ ข้าได้ยินข่าวผ่านทางเหล่าภูติเกี่ยวกับความสำเร็จของเจ้า
ท่านกำลังสนทนากับราชินีภูติเทเนดอน เนื่องจากความรู้สึกเคารพนับถือค่าสถานะบางอย่างเพิ่มขึ้น ค่าความงดงาม ศักดิ์ศรี ค่าเกียรติยศ และค่าศิลปะก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ปีกที่ฉีกขาดของเธอสั่นไหวเล็กน้อยขณะที่เทเนดอนพูด เธอดูราวกับว่ากำลังทุกข์ทรมานอย่างมาก ทันใดนั้นก็มีความคิดไม่คาดฝันอย่างหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของวีด
 บาดแผลของเธอดูสาหัสมาก พวกนักบวชรักษาได้หรือเปล่านะ?’
ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ใช่อันเดด พลังเวทย์รักษาก็สามารถใช้กับเผ่าพันธุ์ไหนก็ได้ หรือแม้แต่กับคนที่เชื่อในเทพต่างๆ และเพราะว่าภูติเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีธรรมชาติที่อ่อนโยนใจดี  แถมวีดก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าพลังศักดิ์สิทธิ์จะให้ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์กับพวกภูติ ภายในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลเองก็มีเรื่องราวของวีรบุรุษที่ท่องเที่ยวไปพร้อมกับเหล่าภูติได้ถูกกล่าวถึงเช่นกัน
บาดแผลของพระองค์ดูสาหัสมากเลยกระหม่อมมีพวกพ้องที่เป็นนักบวชเพราะงั้นกระหม่อมก็เลยคิดว่าเธอคงสามารถรักษาพระองค์ได้ พระองค์ทรงมีความเห็นยังไงในเรื่องนี้ ราชินีเทเนดอน?”
ในขณะที่วีดถามไถ่ราชินีเทเนดอนอย่างอ่อนโยน ทันใดนั้นเหล่าภูติทั้งหลายก็พากันปรากฏตัว ต่างพากันรู้สึกมีความสุขอย่างเหลือล้น
-        ขอบพระคุณอย่างยิ่ง ขอบคุณท่านมาก
-        ถ้ามีความช่วยเหลือจากเหล่ามนุษย์ ราชินีของพวกเราคงจะหายเร็วขึ้นแน่ๆ
-        เวทย์รักษาของมนุษย์งั้นหรอ พวกเขารักษาบาดแผลได้รวดเร็วมากแถมยังให้ความรู้สึกอบอุ่นอีก
แสงเรืองรองส่องแสงอย่างสุขสันต์ดั่งเพลิงแห่งพงไพร เหล่าภูติน้อยโอบล้อมทั่วทั้งร่างของวีด บ้างก็เปลี่ยนไปเกาะอยู่บนผมของเขา บ้างก็ไปนั่งอยู่บนบ่า แม้แต่หนึ่งในพวกเขาก็ไปเกาะอยู่บนจมูกของเขา เหล่าภูติมักจะมีลูกเล่นต่างๆนานาเพื่อที่จะสร้างความใกล้ชิดกับคนๆนั้น เพราะว่าเขาเป็นคนที่กำจัดบัลข่านและกองทัพอมตะได้ แถมยังเสนอตัวช่วยรักษาราชินีของพวกเขาอีก เขาจึงได้รับความใกล้ชิดกับเหล่าภูติจนถึงขีดสุด
-        หากท่านสามารถช่วยเหลือเราได้ เราจักขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
เทเนดอนได้อนุญาตให้เขาแล้ว
ไอรีนมาทางนี้หน่อย
ไอรีนที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังเหล่าผู้เล่นที่กำลังยืนเบียดกันอยู่ก็แทรกตัวออกมาเพื่อมองว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆเดินตรงมาข้างหน้าพลางหลบเพื่อไม่ให้ไปชนกับเหล่าภูติที่กำลังมีความสุข
คุณช่วยลองรักษาราชินีหน่อยได้ไหม
เอ๋? ฉันทำได้หรอค่ะ? มันไม่อันตรายใช่ไหม?”
เหล่าภูติให้อนุญาตแล้ว เพราะงั้นไม่มีปัญหาครับ ลองเริ่มจากร่ายเวทย์รักษาง่ายๆก่อนเลยนะครับ
ไอรีนใช้เวลาพักหนึ่งหายใจเข้าลึกๆแล้วใช้ทักษะซิกนัมครูซิส จากนั้นก็ร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์
ด้วยอำนาจแห่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ จงช่วยชำระล้างบุคคลผู้นี้จากความทุกข์ทรมาน หัตถ์เยียวยา!”
แม้ว่ามันจะเป็นเวทย์ง่ายๆแต่ก็ช่วยเพิ่มค่าพลังชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
ค่าพลังชีวิตของราชินีภูติเทเนดอนฟื้นคืนแล้ว 735 หน่วย บาดแผลบรรเทาลงเล็กน้อยแล้วพลังเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของไอรีนประสบผลสำเร็จจากการรักษาราชินีภูติ ค่าประสบการณ์และค่าความเชี่ยวชาญของเธอจึงเพิ่มขึ้น แม้นว่าราชินีเทเนดอนจะยังไม่อยู่ในสภาพพอที่จะบินได้ เธอก็ยังมีรูปร่างน่าทึ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ แถมการช่วยรักษาเธอ ค่าชื่อเสียงก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
 ว้าววว มนต์รักษาได้ผลด้วย แถมยังได้ค่าประสบการณ์อีกด้วย!
ไอรีนรู้สึกพออกพอใจอย่างมากจากการที่เธอสามารถรักษาเทเนดอนได้สำเร็จ
ขอร้องช่วยรักษาเธอต่อไปเรื่อยๆด้วยครับ
จากทางที่วีดอยู่ ไอรีนใช้มานาทั้งหมดที่เธอมีรักษาเทเนดอน
ไอรีนเป็นนักบวชที่ทุ่มเทตนเองเพื่อเรียนรู้เฉพาะพวกเวทย์รักษาเพียงอย่างเดียว
ด้วยการกระทำที่อุทิศแด่เทพ ค่าศรัทธาของท่านเพิ่มขึ้น ท่านได้กลายเป็นคนที่มีความชอบธรรม
ด้วยการรักษาราชินีภูติ ท่านจะได้พบกับอีเว้นท์พิเศษที่เกี่ยวโยงกับอาชีพสายนักบวช
ความสัมพันธ์กับเหล่าภูติได้กลายเป็นมิตรกันแล้ว
สำหรับพวกเขา ท่านจักเป็นที่จดจำในฐานะมนุษย์ผู้ได้มอบความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่

ในฐานะนักบวชไม่มีช่วงเวลาใดที่ยิ่งใหญ่และมีค่าไปกว่าการที่ได้รักษาราชินีภูติเทเนดอนเหมือนกับตอนนี้อีกแล้ว
คุณวีดค่ะ มานาของฉันหมดแล้วค่ะ
สภาพบาดแผลของราชินีเทเนดอนนั้นไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังดูสาหัสอยู่ แม้ว่าไอรีนจะใช้เวทย์รักษาจนมานาหมดแล้วก็ตามที เพราะบาดแผลเธอดูสาหัสตั้งแต่แรกแล้ว แม้ว่าร่างกายของเธอจะเล็กแต่ค่าพลังชีวิตของเธอมหาศาลมาก
นักบวชคนอื่นๆลองรักษาด้วยสิครับ
ทันทีที่วีดพูดจบ เหล่านักบวชก็ร่ายเวทย์รักษาของพวกเขาอย่างไม่รีรอ พวกเขาค่อนข้างรู้สึกอิจฉาไอรีนที่เธอได้รักษาราชินีเทเนดอนก่อนพวกเขา
หัตถ์เยียวยา”  “เวทย์เยียวยา!”
เวทย์ฟื้นกำลัง” “วงแหวนแห่งการเยียวยา!”
สรรพเยียวยา
นี่คือมหกรรมการรักษาที่แท้จริง ตั้งแต่มนต์รักษาระดับต่ำไปจนถึงระดับสูงที่พวกเขาสามารถใช้ได้ครั้งหนึ่งต่อวันเท่านั้นกลับยอมใช้ไปเพื่อรักษาราชินีเทเนดอน เพราะว่าแม้แต่พวกพาลาดินเองก็สามารถร่ายเวทย์รักษาได้ พวกเขาจึงเข้ามาร่วมวงช่วยรักษาเช่นกัน ค่าพลังชีวิตของราชินีเทเนดอนอยู่ที่43% กระบวนการรักษาอันดุเดือดนี้ยังละเลงไปอย่างต่อเนื่อง
คงพูดได้ว่านี่คือการทำพิธีแบบหนึ่งที่มีการรวมแสงสีขาวบริสุทธิ์รวมไว้ที่ราชินีเทเนดอนเหล่านักบวชพยายามร่ายเวทย์รักษาแบบไม่หยุดไม่หย่อน ทันทีที่มานาของเขาฟื้นคืนมา พวกเขาได้ทั้งค่าประสบการณ์ ค่าความศรัทธา ค่าความเชี่ยวชาญทักษะ และค่าอุทิศมามากเป็นพิเศษจากเหล่าภูติ
ได้ค่าประสบการณ์มากกว่าตอนที่เราออกไปสู้ซะอีกแน่ะ
ดูค่าอุทิศกับค่าความเชี่ยวชาญทักษะที่เพิ่มขึ้นสิ
 “ค่าความศรัทธากำลังค่อยๆเพิ่มขึ้นมาแล้ว ฉันได้ค่าความศรัทธามากเสียกว่าตอนที่ฉันเลื่อนขึ้นมาเป็นอาชีพสายนักบวชซะอีก
วีดรู้สึกเจ็บจี้ดอยู่ภายในช่องท้องคงเป็นเพราะเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างพวกอันเดดนักบวชและเทเนดอน
บรรดาลัทธิวิหารต่างๆคงพากันพยายามที่จะหยุดการคืนชีพของกองทัพอมตะอย่างเอาเป็นเอาตายแน่ๆ
มันคงจะเป็นสถานการณ์แบบเดียวกันกับวีดที่บัลข่านหวังจะฟื้นคืนความแข็งแกร่งของมันแล้วก็แสดงเจตนาที่จะทำลายเมืองโมราต้า เขาจึงต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยวิธีการรบราฆ่าฟัน แต่ถึงยังไงหากเขาไม่ไปต่อสู้ ก็คงมีข่าวคราวที่บอกว่ามีเหล่ากองทัพพันธมิตรของเหล่าเอลฟ์ คนแคระ และคนเถื่อนก็ยังสานต่อการต่อสู้กับบัลข่านนี้ไปอยู่ดี แล้วพวกกองทัพอันเดดที่กำลังสูบพลังชีวิตของเทเนดอนนั่นก็คงได้บ้านแตกสาแรกขาดอยู่ดี
ถ้าเป็นเช่นนั้น มันจะทำให้เกิดภารกิจสังหารบัลข่านขึ้นมา ถ้าพวกวิหารและราชอาณาจักรต่างๆไม่มัวแต่หมกมุ่นอยู่แต่กับดินแดนทวีปทางตอนกลางของพวกเขา พวกเขาก็คงได้ร่วมมือมาต่อสู้ที่ป้อมปราการเวอร์โก้ แล้วก็ได้รางวัลจากภารกิจนี้ไปแล้วแทนที่มัวแต่จะเอาเวลาไปไล่ล่าวีดอยู่นั่นแหละ แต่ถึงยังไงถ้าพวกเขาจัดแจงการสู้รบได้ไม่ดีพอ การล่าบัลข่านก็คงจะยุ่งยากมากขึ้นอยู่ดี ถึงกระนั้นพวกเขาก็อาจจะมีโอกาสอยู่บ้างก็ได้ ถ้าแต่ละอาณาจักรส่งอัศวินหลวงของพวกเขาออกมาต่อสู้ร่วมกัน
หลังจากที่สังหารบัลข่านและกวาดล้างกองทัพอันเดดของมันไปจนสิ้น อีกทั้งได้รับรางวัลมากมายมหาศาล แถมยังได้ไปพบราชินีภูติเทเนดอนอีก คงพูดได้ว่านี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่านักบวชผู้ช่วยเยียวยาราชินีเทเนดอน พวกเขาต่างก็กำลังรับบทบาทสำคัญและได้รับกำไรมหาศาล!
มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากจริงๆ
ทว่าเกิดอะไรขึ้นกับวีดที่ทำหน้าที่หลักในการต่อสู้ครั้งนี้ละ แล้วไอ้คำว่าบางทีภารกิจอาจจะสำเร็จที่จะฆ่าบัลข่านได้ ก็จำเป็นต้องใช้เหล่าพาลาดินและเหล่านักบวชเพื่อเป็นกำลังหลักด้วยเช่นกันอยู่ดี แม้แต่ตอนนี้ท้องไส้ของวีดก็ยังรู้สึกปั่นป่วนขณะที่มองดูภาพของเหล่านักบวชและพาลาดินที่กำลังเยียวยารักษาเทเนดอนและได้รับรางวัลมากมาย มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดเกินทน ทรมานเสียยิ่งกว่าตอนที่เป็นไส้อักเสบแบบเฉียบพลันซะอีก ความเจ็บปวดนั้นทิ่มแทงลงไปตามสีข้างของเขา!
วีดดึงผ้าพันแผลของเขาออกมา เขาอยากจะใช้ทักษะพันแผลของเขาแต่ก็ต้องพยายามหักห้ามใจเอาไว้ไม่ให้ทำอย่างนั้น ผ้าพันแผลนั้นใหญ่มากพอที่จะทำให้ราชินีภูติเทเนดอนขาดอากาศหายใจได้เลยล่ะ
แม้ด้วยมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่ายออกไปแบบเต็มที่จากเหล่านักบวช เทเนดอนก็ไม่อาจหายได้สนิท บาดแผลทางร่างกายของเธอได้รับการรักษาไปเยอะพอควร แต่ปีกที่ขาดแหว่งกลับไม่อาจฟื้นคืนสภาพได้
—  ขอบคุณเหล่ามนุษย์
น้ำเสียงของเทเนดอนสดใสชัดเจนจนตอนนี้ทุกคนได้ยิน เหล่าภูติทั้งหลายไปตามเกาะตามตัวของเหล่านักบวชหรือแม้แต่ไปจั๊กจี้ตรงจมูกของพวกเขา พวกเขาต่างรู้สึกปลื้มปีติขณะที่เห็นราชินีของพวกเขาอาการดีขึ้น เหล่านักบวชและพาลาดินที่เข้าร่วมรักษาตอนนี้ได้เป็นมิตรกับเหล่าภูติแล้ว มากจนทำให้พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
วีดเข้าไปใกล้ราชินีเทเนดอนแล้วพูดออกมาว่า
กระหม่อมรู้สึกโล่งอกที่การรักษาของมนุษย์นั้นได้ผลฝ่าบาท
วีดพยายามขอส่วนแบ่งเล็กๆน้อยๆจากความสำเร็จของเหล่านักบวชและพาลาดิน
เราจักไม่ลืมความมีน้ำใจที่เหล่ามนุษย์ได้แสดงออกมาเลย
การอุทิศตนต่อสิ่งที่กระทำให้ราชินีเทเนดอนและเผ่าพันธุ์ภูติ ค่าคุณงามความดีเพิ่มขึ้น164 หน่วย
ขณะที่รอยยิ้มปีศาจจวนจะปรากฏบนในหน้าของวีดแล้ว เขาก็ได้ยินนักบวชคนอื่นๆพูดขึ้นมา
ค่าคุณงามความดีของฉันขึ้นมามากกว่า600 แหน่ะ
ของฉันมากกว่า800 เลย
สีหน้าท่าทางของวีดแข็งทื่ออีกครั้ง ท้องไส้ของเขาบิดม้วนปั่นป่วนไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว! ถ้าโดนคนอื่นมาด่ามาวิจารณ์มันคงจะทำให้เขารู้สึกสบายใจกว่านี้มาก
 พวกนายคิดว่าเราจะได้ไอเท็มที่มีคุณสมบัติพิเศษไหม?”
พวกภูติจะให้อาวุธแห่งจิตวิญญาณหรือว่าอะไรทำนองนั้นไหมนะ?”
ก็นะฉันอยากได้สร้อยคออยู่น่ะ...”
ด้วยค่าคุณงามความดีที่มากขนาดนี้ ทำให้ฉันได้เป็นเพื่อนกับภูติเลย ฉันได้ยินมาว่าถ้ามีภูติช่วยอยู่ในกลุ่มการออกล่าจะดีมากเชียวหล่ะ
ถ้อยคำตอบโต้เหล่านี้เป็นดั่งสว่านอันแหลมคมที่ทิ่มแทงทะลวงเข้าไปในหัวใจของวีดอย่างเจ็บปวดรวดร้าว!!
ความเจ็บปวดในตอนที่เขาต้องเผชิญกับค่าพลังชีวิตที่ตกลงไปต่ำกว่า100 กลับทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดน้อยกว่าสถานการณ์ตอนนี้ซะอีก แต่ถึงกระนั้นวีดก็ยังต้องถักทอคำพูดออกไปเพื่อสานต่อบทสนทนากับราชินีเทเนดอนในฐานะตัวแทนของเหล่ามนุษย์
 แต่ถึงกระนั้น ฝ่าบาท ปีกของพระองค์ยังดูไม่ค่อยหายดีเลยนะพะยะค่ะ
นั่นก็เพราะข้าโดนสาปไงหล่ะ เพื่อที่จะเยียวยาปีกของข้า ข้าต้องไปยังป่าต้นอ้อแดง(Red Reed Forest) เพื่อนำของสำคัญบางอย่างกลับมา
ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดของเทเนดอนกลิ่นของภารกิจก็พัดโชยมาในอากาศอย่างเข้มข้น
วีดตกลงสู่ห้วงความคิดของเขา
ถึงแม้ว่าจะฆ่าฉัน ฉันก็จะไม่มีวันยอมทำภารกิจนี้เด็ดขาด
ด้วยการสืบสานเรื่องราวตั้งแต่บัลข่านมาจนอยู่จุดของการเข้าพบราชินีเทเนดอน เลเวลและค่าชื่อเสียงของวีดก็ค่อนข้างสูงมากจนพอที่เขาจะรับภารกิจนี้ได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นเมื่อมาพูดถึงความยากลำบากที่ต้องเผชิญในภารกิจนี้ ก็มีโอกาสสูงมากที่มันจะเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้อีกหนึ่งอย่างเช่นกัน
ด้วยการดิ้นรนผ่านประสบการณ์ความลำบากเฉียดตายมานับไม่ถ้วน มีเพียงผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้นที่จะได้รับก็ต่อเมื่อมันประสบผลสำเร็จ ลำพังก็แต่การเพิ่มความพยายามลงไปมีแต่จะทำให้ตายไปพร้อมกับความเสี่ยงที่จะถูกเยาะเย้ย!
เหล่ามนุษย์ข้าได้เป็นหนี้บุญคุณต่อพวกเจ้ายิ่งนัก แถมยังกล้ามาขอให้ช่วยเหลือเรื่องยากๆอีกไม่ทราบว่าเจ้าพอจะช่วยข้าอีกซักนิดได้ไหม
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของราชินีภูติเทเนดอน นางได้เคยเข้าไปในอาณาเขตของมังกรและขณะที่นางกำลังเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนานเบิกบานใจบนอาณาเขตของมังกรลาทอส ปีกข้างหนึ่งของนางก็โดนสาปโดยไม่ทราบสาเหตุ
มันคือคำสาปของมังกรนั่นเอง
ลาทอสมาปรากฏตัวเบื้องหน้าราชินีภูติที่บังอาจมาเหยียดหยามเกียรติของมันแล้วก็เอ่ยออกมาว่าราชินีผู้โปรดปรานที่จะเล่นเล่ห์เพทุบายเอย...ข้าไม่ชอบผู้บุกรุก ถ้าเจ้าอยากเป็นอิสระจากคำสาปของข้า ก็จงนำของที่ระลึกแห่งมังกรที่ได้สาบสูญไปในความโสมนัสมาให้ข้า
เป็นอย่างที่วีดคาดเดาเอาไว้เลยว่านี่คงกลายเป็นภารกิจแห่งความตายที่เชื่อมโยงไปถึงมังกรแน่ๆ
ติ้ง!
คำสาปของมังกร
เพื่อที่จะเยียวยาปีกของราชินีภูติเทเนดอน ท่านจำต้องระงับโทสะของลาทอส เหล่าภูติต่างออกตามหาเงื่อนงำต่างๆมากมายแล้วก็พบเส้นทางแรกที่นำไปสู่ป่าต้นอ้อแดง
ความยาก: C
ข้อจำกัดในการทำภารกิจ
สำหรับบุคคลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
สำหรับบุคคลที่ช่วยเหลือเหล่าภูติเท่านั้น

ความยากระดับC งั้นหรอแต่นี่คงนำไปสู่ภารกิจต่อเนื่องและคงยากเกินจะรับมือไหวแน่ๆถึงแม้ว่าฉากตอนนี้จะถูกเผยแพร่ออกอากาศทางอินเตอร์เน็ตหรือว่าทางทีวีก็เถอะ...’
จากนั้นวีดก็คิดคำนวณภายในหัวของเขาเสร็จสิ้น
โดยปกติธรรมดาแล้วหากเขาคิดว่าเขาไม่สามารถจัดการกับภารกิจได้เขาก็จะไม่ยอมรับมันตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ถึงกระนั้นผลที่ตามมาที่จะทำให้ความสัมพันธ์ที่เป็นปฏิปักษ์กับเหล่าภูติคงจะส่งผลแน่ๆถ้าหากว่าเขาปฏิเสธภารกิจ
ในการต่อสู้กับบัลข่าน เขาไม่ได้พาพวกประติมากรรมสลักชีพตัวไหนๆมาเลยเพราะว่ามนต์อัญเชิญอันเดด ที่คงจะพูดได้ว่าเป็นเพราะผลลัพธ์ของมนต์นั้นเขาไม่อยากเห็นพวกประติมากรรมสลักชีพของเขาฟื้นคืนกลับมาเป็นอันเดดและก็หันกลับมาต่อกรกับเขา
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจากการรับทำภารกิจนี้ เขากับพวกประติมากรรมสลักชีพคงได้ถูกฆ่าตายจนหมด มันเป็นสามัญสำนึกของคนเราที่จะไม่มีทางยอมรับภารกิจอะไรแบบนั้น แล้วเขาก็ไม่ได้รู้สึกแยแสอะไรกับเรื่องนี้เลยด้วย
 เขาจะรับทำภารกิจหรือเปล่านะ?”
เขาคือคุณวีด เทพสงครามเลยนะ
นี่คงจะกลายเป็นบันทึกภารกิจอันน่าทึ่งของคุณวีดอีกอย่างแน่ๆ ถ้อยเสียงของความอิจฉาเล็ดลอดออกมาจากเหล่าผู้เล่นคนอื่นๆ
แต่ว่าในอีกกรณีหนึ่งไอ้พวกที่ไล่ล่าฉันอยู่นั่นก็คงจะรู้ว่าฉันรับทำภารกิจนี้แน่ๆ ถ้าฉันรับภารกิจนี่ในตอนนี้ ต่อจากนั้นฉันก็คงจะไม่โดนขัดขวางแน่ๆ แถมยังสามารถไปจัดการกับอย่างอื่นได้อีกด้วย’(ล่อเป้าไปเป้าใหญ่ แต่ไปเล็งที่เป้าเล็ก)
วีดพยักหน้า
กระหม่อมยินดีที่จะเยียวยาปีกของราชินีภูติพะยะค่ะ
ท่านตอบรับภารกิจแล้ว
โอ้โหเขารับทำภารกิจจริงๆด้วย!”
วีดตัดสินใจที่จะสานต่อภารกิจของราชินีภูติให้สำเร็จลุล่วง!”
อย่างที่ฉันบอกเลยเห็นไหม! ฉันเห็นบอร์ดข้อความเด้งกระจายอย่างบ้าคลั่งแล้วด้วย
มันชัดเจนกันอยู่แล้วที่เหล่าผู้เล่นทั้งหลายจะพากันรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเจตนาที่แท้จริงของวีด
ยังไงมันก็ไม่มีการจำกัดเวลาอยู่แล้วนิ งั้นเอาไว้ลองไปทำปีหน้าดีไหมนะ? ไม่ๆถึงตอนนั้นก็คงอันตรายเกินไปอยู่ดี แล้วก็คงต้องหย่อนตัวเองไปลงเหวอยู่ดี งั้นซักปีถัดไปดีไหม? หรือว่าบางทีอาจจะรอให้น้องสาวเราจบมหาลัยก่อนละกัน....”
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

16 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเจ้าช่างโหดร้ายยิ่งนัก

    ตอบลบ
  2. ทำปีไหนก้ทำเถอะวีด

    ตอบลบ
  3. ล่อไปอีกทาง เพราะไม่มีใครจำได้เควสนางสนองพระโอษฐ์

    ตอบลบ
  4. อีกสักหลายๆปีก็ได้วีด 5555

    ตอบลบ
  5. ใจคอ กะให้ ศัตรูไปดักรอ จนเบื่อตายไปเองเลยสินะเนี้ย

    ตอบลบ
  6. กิลเฮอมิส คงกระอักเลืือดกันอยู่แน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  7. สงสัยวีดจะล่อพวกกิลเฮอมิสมา ให้มังกรเล่นงาน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นไปได้ เหมือน คราว ยุทธนาวี ที่ ลาสฟรั้ง

      ลบ
  8. 555...
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ
  9. ถถถถถถถ คุณหลอกดาว กิลด์เฮอมีสไม่ได้กล่าวไว้

    ตอบลบ
  10. พระเอกเจ้าเล่ห์ สวดๆเลย

    ตอบลบ
  11. เล่ม11-12 หาอ่านที่ไหนได้บ้างครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไปดูที่ปักหมุดหน้าเพจเลนคับ

      ลบ
    2. หน้าเพจ มีตั้งแต่เล่ม14ตอน10 ครับ
      เมื่อ3สัปดาห์ก่อน มีตั้งแต่เล่ม13นะ
      เป็นไปได้ไหมว่า โพสไว้นานเป็นปี มันจะลบอัตโนมัติ

      ลบ
  12. บอกเทพสงครามแต่เหลี่ยมทุกดอก5555

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...