วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 24 ตอนที่ 6: มังกรกระดูกทั้งสาม แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 24 ตอนที่ 6: มังกรกระดูกทั้งสาม แปลโดย Cole’s Myth

(หมายเหตุ: ผมแปลคำว่า Turn Undead เป็นเยียวยาอันเดด ที่พวกนักบวชใช้ก็เพราะว่าตามความเชื่อ นักบวชเป็นสายสนับสนุน จึงไม่คิดว่าจะมีทักษะที่เป็นการสังหารอันเดดได้ และก็ลองหาข้อมูลมาบ้างว่า การทำให้อันเดด หรือสิ่งเหนือธรรมชาติที่ชั่วร้ายต่างๆให้บริสุทธิ์ได้ ก็คือการชำระล้างวิญญาณและกายหยาบให้ผุดผ่องด้วยการเยียวยา จึงถือว่าเป็นการโจมตีที่รุนแรงกว่า การสังหารอันเดดคับ) (ปล.ผมไม่ใช่คอเกม ถูกผิดอะไรต้องขออภัย)
ถึงแม้ว่าการโจมตีของพวกนักบวชจะสำเร็จ แต่ค่าพลังชีวิตของบัลข่านก็ยังถือว่าห่างไกลจากความตายจอมเวทย์อมตะ ลิชคือสิ่งที่มีอายุขัยยาวนานที่แทบจะไม่หมดไม่สิ้น ถึงขนาดที่มันสามารถสร้างกองทัพได้ ถ้าหากว่ามันมีซากศพหรือสิ่งมีชิตต่างๆนานาให้มันปลุกขึ้นมาแล้วล่ะก็
 จงตื่นขึ้นมา บริวารของข้า…!”
หลังจากที่บัลข่านตะโกนออกไป ก็มีโกเลมหินสูง 5 เมตรลุกขึ้นมาจากบนพื้นดิน  มันสูงมากจนแทบจะครูดเข้ากับเพดานด้วยทั้งสองเท้าสองแขนอันล่ำสันของมัน! โดยปกติเหล่าเนโครแมนเซอร์ระดับสูงนั้นจะสามารถอัญเชิญผู้พิทักษ์ได้อย่างโกเลมธรรมดาๆเป็นอย่างต่ำ แต่กรณีของบัลข่านกลับเป็นโกเล็มหิน
ตึก ตึก ตึก ตึก!  
ขณะที่พวกโกเลมหินเหวี่ยงแขนของมันไปมา เหล่าพาลาดินก็จะปลิวละล่องทันที ทุกครั้งที่เจ้าโกเลมหินออกวิ่ง พื้นดินก็จะสั่นสะเทือน เศษหินเศษอิฐก็ร่วงหล่นลงมาจากเพดาน แถมมันยังมีกำลังกาย ค่าการป้องกันและค่าพลังโจมตีที่แกร่งอย่างกับกำแพงเหล็กกล้า และเพราะว่ามันเป็นผู้พิทักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเวทย์มนต์ มันจึงไม่ได้รับความเสียอะไรจากเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เลย
ระวังด้วย ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรแต่ว่ามันต้องมีเลเวลราวๆ 450 ถึง 499 แน่ๆ
เราต้องจัดการโกเลมตัวนี้ก่อนถึงจะไปฆ่าบัลข่านได้นะ
มาล้มไอ้โกเลมพวกนี้กันเถอะ
พวกเขาคิดว่าการต่อสู้นี้จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเพราะว่าพวกเขาได้มายืนอยู่ต่อหน้าบัลข่านแล้ว แต่ทว่าการต่อสู้นั้นกลับยุ่งเหยิงกกว่าที่คิด
โดยปกติแล้วเมื่อพวกนักเวทย์โดนโจมตีซักครั้งสองครั้ง กระบวนการร่ายเวทย์ของพวกเขาก็จะถูกยกเลิกไป แถมยังต้องประสบปัญหากับค่าระดับมานาที่ผันผวนอีกด้วย แต่ทว่าบัลข่านยังคงเป็นเหมือนปกติแม้จะโดนโจมตีอย่างติดต่อกันหลายครั้งด้วยมนต์วงแหวนแห่งแสง(Light Sphere)กับมนต์เยียวยาอันเดด(Turn Undead) เนื่องจากค่าพลังต้านทานเวทย์มนต์ที่สูงมาก การร่ายเวทย์นั้นจึงไม่ถูกยกเลิก
ทักษะลูกศรไล่ล่า!”(Chasing Arrow)
เพลกับเมล่อนตั้งสมาธิใส่มานาลงในลูกศรแล้วก็ยิงไปที่บัลข่าน สำหรับนักเวทย์แล้ว บัลข่านไม่สามารถเคลื่อนไหวหลบหลีกได้รวดเร็วมากนักขณะที่กำลังร่ายเวทย์อยู่ ดังนั้นห่าลูกธนูจึงพุ่งเข้าใส่โดยไม่พลาดเลย แต่กลับรู้สึกว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรกับการโจมตีเล็กๆน้อยๆนี้เลยแม้แต่น้อย
ธรรมชาติของลิชก็คือการสูบค่าพลังชีวิตกับค่าพลังมานาจากสิ่งมีชีวิต ดังนั้นแล้วบัลข่านจึงไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมเท่าไรนัก
เวทย์นภาลัยไร้เสียง” (Silent Atmosphere)
ทันใดนั้นเหล่าพาลาดินที่อยู่ในระยะคำสาปของบัลข่านมากกว่า 200 คนก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานแห่งความมืดแสนเศร้าหมอง
เวทย์คำสาปนั้นรุนแรงมากจนทำให้เป้าหมายหายใจติดขัดได้เลยทีเดียว!
ทักษะระเบิดกระดูก” (Bone Destruction)
ตู้มมมมมม!
การโจมตีครั้งนี้กระดูกของเหล่าพาลาดินราว 30 คนถูกบดขยี้จากภายในร่างกายของพวกเขา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสวมชุดเกราะอยู่แต่ก็ไม่อาจทนต่อแรงคำสาปเนื่องจากว่าพวกเขามีค่าความต้านทานที่ต่ำ
อัญเชิญไฮดร้าเพลิง
และแล้วบัลข่านก็อัญเชิญไฮดร้าเพลิงออกมา จากนั้นหัวมันก็ผุดขึ้นมาเหนือพื้นดิน พ่นลมหายใจไฟออกมาจากแต่ละหัวของมัน บัลข่านนั้นสามารถร่ายเวทย์สามอย่างออกมาได้อย่างสบายๆ
แล้วหลังจากที่เขาพักหายใจแปบเดียว บัลข่านก็เริ่มร่ายเวทย์โจมตีใหม่กระหน่ำใส่พวกพาลาดินอีกครั้ง
วงแหวนเวทย์เยือกแข็ง!” (Ring Frost)

จากนั้นวงเวทย์ของอากาศอันหนาวยะเยือกก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาปกคลุมเหล่าพาลาดิน
มนต์แห่งการเยียวยาของพวกนักบวชถูกเล็งไปตรงที่บัลข่านกับพวกพาลาดิน
เพราะการกระทำเช่นนี้พวกเขาจึงสามารถป้องกันการสังหารหมู่จากมนต์ต่อเนื่องของบัลข่านได้ อีกทั้งเนื่องจากมันคือธรรมชาติของเวทย์พาลาดินที่จะมีค่าการป้องกันและค่าความต้านทานสูงกว่าเมื่อเอาไปเทียบกับอาชีพสายนักรบ
วีดจับตาดูสถานการณ์อย่างใจเย็น
เวทย์คำสาปของบัลข่าน เวทย์ของพวกเนโครแมนเซอร์ถือว่าอยู่ในขั้นที่สูงจริงๆ ดูจากอันเดดที่แข็งแกร่งจนแทบไม่น่าเชื่อพวกนั้นสิ ฉันมั่นใจได้เลยว่าเขาคงสามารถสร้างมังกรกระดูกได้แน่ถ้าเขามีซากศพเพียงพอแล้ว เขาสามารถใช้เวทย์อัญเชิญได้ยอดเยี่ยม แต่ว่าทักษะโจมตีของเขาค่อนข้างด้อยแหะ
พูดตามตรง เวทย์ของบัลข่านนั้นค่อนข้างด้อยเมื่อเทียบกับพลังเวทย์ของพวกนักเวทย์คนอื่นๆ บัลข่านสามรถร่ายเวทย์ได้เร็วกว่าพวกนักเวทย์ขั้นสูงเลเวล 400 ซะอีก หากว่ามีซักคนที่ไม่มัวแต่คำนึงถึงค่าพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งแล้วก็ไปคิดถึงความเร็วในการร่ายเวทย์ในการต่อสู้ มันคงจะสามารถเอามาเป็นกำลังหลักได้อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น พวกพาลาดินก็ยังพากันตื่นตระหนกเกินไปเพียงแค่มองไปทางบัลข่าน พวกดูมไนท์กับโกเลมหินก็จะยิ่งได้ใจอาละวาดเข้าไปใหญ่ ส่วนบัลข่านก็สับเปลี่ยนร่ายเวทย์สายฟ้ากับเวทย์น้ำแข็งไปมาอีก ซ้ำพวกพาลาดินบางคนนั้นยังตกเป็นเหยื่อให้กับการโจมตีพวกนั้นอีกซะงั้น
จากการตรวจสอบของโรมุนะ ค่าพลังชีวิตของบัลข่านตกลงไปเหลือ 73% จากการโจมตีต่อเนื่องของเหล่านักบวชโดยการใช้มนต์เยียวยาอันเดด แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่ข่าวที่สร้างความหวังเท่าไรนัก เพราะว่าพึ่งจะมีศพคนตายไปหยกๆ19 คน จากการคาดการณ์ที่ว่าบัลข่านสามารถสร้างอันเดดระดับสูงด้วยเวทย์อัญเชิญของเขา ตอนนี้คงจะพูดได้ว่าการล่าบัลข่านครั้งนี้อาจจะล้มเหลวก็เป็นได้

ณ ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้บทสรุปของการต่อสู้ ผู้คนนับล้านคนต่างจดจ่ออยู่กับรายการถ่ายทอดสดครั้งนี้ ภารกิจของวีดกับพวกพ้องของเขา ผู้คนที่ดูไม่ได้มีแต่เฉพาะพวกผู้เล่นเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ชมที่กำลังรับชมด้วยอารมณ์ต่างๆนานาที่อัดอั้นอยู่ภายในด้วยเช่นกัน
ขอให้ล้มเหลวทีเถอะ
ตายๆไปซะ
 ‘ขอให้มันตายอย่างทรมาน
ตอนนี้แกจบเห่แล้วแหละ วีด
เหล่าผู้เล่นกับแรงเกอร์ระดับสูงในแต่ละกิลด์ต่างหวังให้วีดทำภารกิจล้มเหลวซักครั้ง
แต่ทว่าก็ยังมีมนุษย์พวกหนึ่งที่กำลังเลือดร้อนอยู่ นั่นก็คือเหล่านักดาบนั่นเอง
แม้ว่าการต่อสู้นั้นได้เริ่มไปแล้ว เหล่านักดาบก็ยังคงต้องทนต่อแรงกระตุ้นที่ได้ออกไปต่อสู้ เพราะว่าวีดบอกพวกเขาว่าให้รอการตอบโต้ของบัลข่านจากพวกพาลาดินก่อน

 วู้วววววว!”
อย่างงั้นแหละ!”
เหล่านักดาบกระชากพลังทั้งหมดในร่างกายออกมาตะเบ่งเสียงกู่ร้องแห่งสงครามออกมา
จากความเข้มแข็ง พลังใจและความกล้าหาญ พวกเขาจึงสามารถเอาชนะเอฟเฟคความกลัวของบัลข่านได้ ตอนนี้เหล่านักดาบจึงสามารถต่อสู้ได้เป็นปกติโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ นั่นก็เป็นข้อดีมากพอที่จะไปต่อกรกับบัลข่านได้แล้ว

ไปกันเถอะ!”
ฆ่าไอ้พวกสารเลวพวกนี้ซะ
เหล่านักดาบกระโจนออกไปฟาดฟันดาบของพวกเขาไปที่โกเลมกับพวกดูมไนท์ มาตรฐานของอันเดดที่บัลข่านสร้างมานั้นมีความแตกต่างมากมาย ดูมไนท์ที่มีออร่าแห่งความตายนั้นแข็งแกร่งพอๆกับมอนสเตอร์ระดับรองบอส แต่เพราะใช้ทักษะของพวกเขา เหล่านักดาบจึงสามารถต่อกรกับพวกมันได้อย่างเท่าเทียม แล้วเพราะว่าพวกเขาได้รับบัฟพรของพวกนักบวช พวกเขาจึงสามารถต่อสู้ได้รุนแรงและบ้าบิ่นกว่าปกติซะอีก
 กำจัดพวกมันให้สิ้นซาก!”
อย่าลดการป้องกันลงจนกว่าเหล่านักบวชจะกวาดล้างพวกมอนสเตอร์ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์แล้ว
เหล่าพาลาดินกำลังรับมือกับบัลข่าน ด้วยการใช้โอกาสครั้งนี้ เหล่านักดาบจึงสามารถกำจัดพวกดูมไนท์จนสิ้นซาก
ขณะที่ทุกๆคนต่างกำลังต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ทันใดนั้นเองก็มีท่วงทำนองอันแสนละมุนละไมดังขึ้นมา!

เบลลอตกำลังบรรเลงเครื่องดนตรีของเธอกลางสนามรบ เธอขับร้องบทเพลงศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มค่าความศรัทธาของเหล่านักบวชและค่าความแข็งแกร่งของพวกพาลาดิน
ส่วนโรมุนะเองก็สาดเวทย์ของเธอออกไปเป็นครั้งเป็นคราว เซอร์กะเองก็ต่อสู้กับดูมไนท์พร้อมกับเหล่านักดาบ เซเฟอร์และฮวายองก็จัดการกับพวกอันเดดที่ลงมาตรงทางบันไดพร้อมผู้เล่นคนอื่นๆ เพราะว่าการโจมตีระยะกว้างของเซเฟอร์กับทักษะหลับใหลทำให้พวกมอนสเตอร์หลับไปของฮวายอง พวกเขาจึงไม่ได้มาเข้าร่วมการต่อสู้กับบัลข่านโดยตรง
เจ้าพวกมนุษย์ไร้อารยะ ช่างเป็นการขัดขืนที่โง่เง่าซะจริง ดินแดนแห่งนี้ปกครองโดยอำนาจแห่งความมืด จงเผชิญหน้ากับพลังอำนาจแห่งกองทัพอันเดดชั่วนิรันดรซะเถอะ บัญญัติแห่งความมืด!(Dark Rule)”
นั่นคือหนึ่งในมหาเวทย์ทั้งสามของบัลข่าน เวทย์มนต์ที่เปลี่ยนให้ซากศพทุกๆร่างที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกลายเป็นอันเดด บัลข่าน ดีมอฟคือเนโครแมนเซอร์ระดับสูง อีกทั้งเพราะว่าในฐานะจอมเวทย์เขาจึงสามารถใช้เวทย์พิเศษทั้งสามอย่างได้นั่นเอง
มหาเวทย์ทั้งสามนั่นก็คือ บัญญัติแห่งความมืด ออร่าแห่งความตาย และข่ายเวทย์สูงสุด!
ข่ายเวทย์สูงสุดนั้นสามารถป้องกันแหล่งพลังเวทย์ใดๆก็ตามที่โจมตีมาจนไม่อาจทำอันตรายเขาได้เลยซักนิด หากว่ามีมหาเวทย์ทั้งสามนี้ร่ายออกมา พวกเขาคงไม่อาจแตะเสี้ยวเส้นผมของบัลข่านได้เลยแม้แต่น้อย และแน่นอนอยู่แล้วที่ความสามารถของโรมูนะนั้นด้อยกว่าของบัลข่านลิบลับ แต่เธอก็ยังคงมีประโยชน์อยู่ด้วยการร่ายเวทย์ใส่อันเดดตนอื่นๆ
ด้วยผลของเวทย์บัญญัติแห่งความมืด ทั่วทั้งบริเวณชั้นใต้ดินและป้อมปราการเวอร์โก้กลายเป็นสีแดงเข้ม ถ้าหากบัลข่านปลุกอันเดดขึ้นมาจากซากศพของพวกพาลาดินและพวกนักดาบ กำลังรบในการทำสงครามของเขาคงเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก
ส่วนพลังของเวทย์ออร่าแห่งความตาย เขายังสามารถสูบค่าพลังชีวิตกับมานาที่พวกอันเดดออกไปต่อสู้ได้โดยอัตโนมัติอีกต่างหาก
ทว่าเหล่าเนโครแมนเซอร์เฝ้ารอเวลานี้ให้มาถึง แล้วไหวตัวทันก่อนหน้าที่จะเจอกับบัลข่าน พวกเขาเข้ามาที่นี่โดยที่ไม่มีอะไรเลยเพราะว่ามันก็ชัดเจนอยู่แล้วละเมื่อเรียกอันเดดออกมา พวกมันคงตกอยู่ใต้อาณัติของบัลข่านเป็นแน่ ทว่าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เล่นๆหรอกนะ

จงตื่น ดวงวิญญาณ ผู้มิอาจหลับตา ผู้ยังมิเข้าสู่นิทรา คนเป็น ณ ที่แห่งนี้ที่สังหารพวกเจ้า จงล้างแค้นพวกมันซะ! ปลุกชีพความตาย
แล้วซากศพของเหล่าพาลาดินก็กลายเป็นโครงกระดูกระดับล่างแล้วก็ลุกขึ้นมา
ครึก ครึกกก?”
เจ้าพวกมนุษย์พวกแกกำลังโจมตีท่านบัลข่าน
พวกโครงกระดูกมองดูไปรอบๆแล้วจากนั้นพวกมันก็เริ่มต่อสู้ภายใต้อำนาจของบัลข่านในทันที
 อะไรกันว่ะ พวกตัวเห็บไรพวกนี้น่ะ
ขณะที่นักดาบ487 ผลักพวกมันออกไปให้พ้นทาง ร่างกายของพวกมันก็แตกหักอย่างไร้ค่า!
อันเดดระดับต่ำพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าเนโครแมนเซอร์ กลับไม่ใช่เวทย์บัญญัติแห่งความมืดของบัลข่านที่ทำลายพลังเวทย์ชำระล้างของพวกนักบวชได้ในเสี้ยววินาที ส่วนเหล่าเนโครแมนเซอร์เองก็สร้างความสำเร็จครั้งใหญ่ด้วยการสกัดเวทย์อัญเชิญอันเดดที่ถือว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของบัลข่าน (แอดชิน:อธิบายเสริมนะ คือ ถ้าบัลข่านเรียกอันเดดออกมาโดยการใช้ซากศพของพาลาดิน อันเดดที่บัลข่านเรียกออกมามีแต่ระดับสูงๆทั้งนั้น ส่วนเนโครแมนเซอร์ที่ตัดสินใจเรียกอันเดดโดยการใช้ซากศพของพาลาดิน เรียกอันเดดได้ออกมาในระดับล่างๆ จึงเป็นการสกัดกั้นการเพิ่มกำลังรบของบัลข่านในอีกทางหนึ่ง)
เมแพนดึงผ้าคลุมสีขาวออกจากรถม้าของเขาออก นี่ก็เพราะว่าเขาถูกลากมาที่นี่อย่างไม่เต็มใจนัก
ประติมากรรมการจุติของเทวทูตทั้งเจ็ดได้ปรากฏให้เห็นแล้ว เขานำผลงานระดับแม็คนั่มของเดย์แครมมาจากศูนย์ศิลปะ ด้วยการใช้อำนาจในทางที่ผิดในฐานะเจ้าของแห่งศูนย์ศิลปะและผลงานประติมากรรมชิ้นนี้!
เขาใช้ประติมากรรมที่ถูกขนมาเพื่อเพิ่มค่าเอฟเฟ็คของพลังศักดิ์สิทธิ์และเพิ่มความเร็วในการฟื้นตัวของมานาด้วย และที่แน่ๆถ้าหากว่าพวกเขาพ่ายแพ้ ประติมากรรมที่ทำมาจากมิธริลชิ้นนี้ก็คงได้กลายเป็นของบัลข่านแน่ๆ ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นการเสี่ยงครั้งยิ่งใหญ่สำหรับวีด

 “เราต้องไปทางนี้
วีดพร้อมกับนักดาบยอดฝีมือ 150 คนและนักบวช 30 คนบุกเข้าไปสู่ชั้นใต้ดินแล้วก็มุ่งเข้าไปสู่ปราการชั้นในของป้อมเวอร์โก้ ในช่วงแรกพวกอันเดดก็ไล่ตามเขาอยู่ แต่ไม่นานจากนั้นเหมือนกับว่าพวกมันตระหนักได้แล้วว่าพวกมันจำเป็นต้องปกป้องบัลข่านที่ชั้นใต้ดิน พวกมันจึงหยุดการไล่ตาม
 เราต้องทำลายภาชนะแห่งชีวิต(Life Vessel)ที่ผนึกพลังชีวิตของลิชเอาไว้
บัลข่านคือมอนสเตอร์ระดับตำนานที่แม้ว่าจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ก็ยังยากเกินไปที่จะฆ่าให้ตาย แม้ว่าความแข็งแกร่งด้านเวทย์มนต์จะถูกจำกัดเอาไว้ด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ปักตรงอกเขา แต่มันก็ยังเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดเดาเลเวลของเขาได้ เพื่อที่จะกำจัดบัลข่านให้สิ้นซากที่แม้ว่ามันจะไม่ตายทั้งที่มีดาบศักดิ์สิทธิ์ปักอกอยู่ก็ตาม วีดจึงต้องกำจัดภาชนะแห่งชีวิตก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะถ้าหากว่าบัลข่านถูกอัญเชิญย้อนกลับใกล้ๆกับภาชนะแห่งชีวิต มันก็จะสามารถควบคุมกองทัพอันเดดเต็มรูปแบบได้อีกครั้ง แล้วก็ฆ่าผู้เล่นทุกๆคนที่เข้ามาในป้อมปราการแห่งนี้
 มันอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้
มีสถานที่ที่วีดคิดว่าน่าสงสัยที่อาจมีภาชนะแห่งชีวิตอยู่ ขณะที่เขาสอดสายตามองไปรอบๆภายในป้อมปราการด้วยร่างดูมไนท์ของเขา
เหลือเวลาไม่มากแล้ว ออกวิ่งกันเถอะ
ก็ได้ ไปให้เร็วขึ้นกันเถอะ!”
วีดและเหล่านักดาบวิ่งลงไปตลอดโถงทางเดินด้วยความเร็ว พวกเขาไม่มีเวลามาให้ลังเลอีกต่อไปแล้วขณะที่ผู้คนมากมายกำลังล้มตายไปเพราะบัลข่าน
เหล่านักบวชไม่ได้เจ็บปวดทรมานทางร่างกายมากนักตลอดชั่วชีวิตของพวกเธอ พวกเธอเพิ่มค่าสถานะของพวกเธอโดยเฉพาะค่าความฉลาดหรือค่าความศรัทธา ดังนั้นพวกเธอจึงรู้สึกเหนื่อยง่ายเพียงแค่ออกเดินเป็นเวลานาน เพียงแค่พยายามที่จะย่างก้าวไล่ตามวีดกับเหล่านักดาบนั้นก็เกินพอที่จะทำให้ขาของพวกเธอสั่นสะท้านแล้ว
ขึ้นมาบนหลังข้าสิ
เหล่านักดาบแนบแขนแล้วยื่นออกมาที่ด้านหลัง
แต่นั่นจะดูไร้มารยาท…”
เหตุผลที่ว่าทำไมแผ่นหลังของผู้ชายถึงกว้างมากนั่นก็เพื่อสถานการณ์เช่นนี้ละ จนบัดนี้พวกเราก็ไม่เคยได้ใช้มันเลย แต่ว่ามันก็โอเคนะ
เหล่านักบวชกระโดดขึ้นไปบนหลังเหล่านักดาบอันแข็งแรงอย่างหวั่นๆ วีดผู้ที่นำบรรดานักบวชสาวๆมาก็เพื่อเหล่านักดาบนี้โดยเฉพาะ!
อันเดด!”
พวกมอนสเตอร์ที่เฝ้าอยู่บริเวณโถงมักจะปรากฏตัวออกมาบ่อยๆแต่ว่าวีดกับเหล่านักดาบผ่านพ้นมันไปได้ด้วยการเคลื่อนไหวอันสุดแสนพิสดาร
นี่ อยู่ทางนี้ ทักษะวิชาดาบเฮอเร็ม!”
ในตอนที่วีดชูคบเพลิงของประติมากรออกไป พวกอันเดดก็ถูกรบกวนด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ บีบอัดกะโหลกของพวกมันด้วยความเจ็บปวดแสนทรมาน ด้วยการใช้โอกาสครั้งนี้ฟันพวกมันด้วยดาบของเขาแล้วก็เดินหน้าต่อไป
ขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ส่วนบนของปราการชั้นใน วีดก็ได้เห็นว่ามีการต่อสู้อันดุเดือดละเลงอยู่ทั่วทุกพื้นที่ข้างนอกของป้อมปราการ เปลวไฟและกลุ่มควันกำลังลุกโชน เหล่าโครงกะโหลกวิ่งว่อนไปทั่วกำแพงปราการ ภูตผีบินวนไปมาทั่วทุกที่
เพื่อเกียรติยศของท่านบัลข่าน!”
ฆ่าพวกเอลฟ์นั่นซะ จงต้อนรับพวกเอลฟ์ให้มาเป็นหนึ่งในพวกเราซะ
มุ่งหน้าไปที่ชั้นใต้ดิน ไปช่วยท่านบัลข่านกันเถอะ
ระหว่างทางเดินพวกอันเดดรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆป้วนเปี้ยนไปมา ทุกๆครั้งที่พวกเขาเข้าไปใกล้ๆ วีด เหล่านักดาบและนักบวชก็จะเข้าไปในห้องที่ว่างๆเพื่อซ่อนตัว รอให้พวกมันผ่านไป
ศิษย์พี่ ไปต่อกันเถอะ
จุดหมายปลายทางที่วีดเลือกที่จะเดินทางไปคือชั้นสามของป้อมปราการชั้นใน เมื่อผ่านประตูเหล็กกล้าที่มีแวนดัลไนท์ 20 ตนเฝ้ายามอยู่ เขาคาดเดาว่าข้างหลังประตูนั้นอาจจะมีภาชนะแห่งชีวิตอยู่
อาจจะมาถูกที่แล้วก็ได้
พวกลิชจะซ่อนภาชนะแห่งชีวิตของพวกมันเอาไว้อย่างมิดชิดมากๆ วีดไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงจากการป้องกันที่แน่นหนาขนาดนั้น
ผู้บุกรุก
พวกมนุษย์ช่างบังอาจนักที่มาต่อต้านท่านบัลข่าน
ทันทีที่พวกเขาไปถึงประตูเหล็ก พวกแวนดัลไนท์ก็เข้ามาประจันหน้าต่อสู้กับพวกเขา ขณะที่เหล่านักบวชกำลังร่ายเวทย์พรศักดิ์สิทธิ์และเวทย์รักษา พวกนักดาบก็กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ส่วนวีดก็เข้าไปประจันหน้ากับแวนดัลไนท์ตัวหนึ่ง
ข้าคืออัศวิน นามว่าเอลเลียต
ข้าคือวีด ได้พบกันเช่นนี้ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก
ด้วยสัญชาตญาณ วีดจึงพยายามเพิ่มความใกล้ชิดกับเขาเอาไว้ สันดานของการเยินยอกับอันเดดระดับสูงยังคงฝังลึกอยู่ภายในตัววีด
มาถึงที่นี่ เจ้าก็ต้องตาย ทักษะวิชาดาบฟาร์เฮด
จากนั้นเจ้าแวนดัลไนท์ตัวนั้นก็ก้าวออกมาข้างหน้า ขณะที่วีดยังคงอยู่ในร่างของอันเดดอยู่นี่ เขาจึงอยากจะลองต่อสู้กับอันเดดระดับแวนดัลไนท์ดูบ้างซักครั้ง อุปกรณ์ที่พวกมันสวมใส่อยู่นั้นไม่ธรรมดาเลย แถมด้วยระดับเลเวลของวีดตอนนี้ การได้ฆ่าแวนดัลไนท์ซักตัวคงให้ค่าประสบการณ์เขามากโข
วีดที่เคยเรียนทักษะช่างตีเหล็กมาก่อน เพียงแค่มองแปบเดียวเขาก็สามารถประเมินราคาหรือข้อมูลเฉพาะของอุปกรณ์ได้แล้ว พวกแวนดัลไนท์ปกคลุมร่างกายเอาไว้ด้วยชุดเกราะอันหนักอึ้ง ดังนั้นพลังป้องกันของพวกมันจึงสูงมากๆ แต่ในทางกลับกันพวกมันก็มีความยืดหยุ่นต่ำลง
ไสหัวออกไปจากดินแดนของท่านบัลข่านซะ!”
ทุกครั้งที่พวกแวนดัลไนท์ฟันดาบของพวกมัน ก็จะมีพลังงานมืดมนแผ่ออกมา แล้วก็กวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในรัศมี 5 เมตร แค่สะกิดเพียงนิดเดียวมันก็กินค่าพลังชีวิตของวีดไปมากมายมหาศาล
ทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์!”
วีดฟันดาบที่ส่องแสงลุ่มลึกออกมาฟาดใส่เหล่าแวนดัลไนท์ เขาชอบที่จะเข้าไปต่อสู้แบบระยะประชิดแต่ทว่ามันคงยากไปที่จะโจมตีพวกมันได้ตรงๆ เพราะงั้นเขาถึงได้เลือกใช้ทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์นี้
 ว๊าววว น่าทึ่งมาก!”
มันสวยมากจริงๆ!”
แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันนี้ เหล่านักบวชก็ยังปล่อยความรู้สึกประทับใจที่มีต่อวีดออกมา
มันคือทักษะที่งดงามที่สุดเท่าที่พวกเธอเคยเห็นมา!
เมื่อเทียบกับแสงสีขาว สีดำ หรือสีแดงฉานที่พุ่งออกมาจากทักษะพิเศษของพวกนักดาบ ทักษะนั้นช่างดูลุ่มลึกและเจิดจรัส แต่ทว่าค่าความเสียหายนั้นยังด้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเอฟเฟคของมัน มันเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากโดยไม่สนค่าพลังป้องกันของศัตรู แต่มันกลับไม่สามารถผลักศัตรูออกไปด้วยแรงของมันได้ แถมระยะการโจมตีของมันยังไม่กว้างอย่างที่คิด เพราะยังงั้น มันจึงกินค่ามานาไปตั้งสามเท่าเมื่อเทียบกับทักษะใบมีดแกะสลักนี้

หลังจากที่เขาเชี่ยวชาญทักษะวิชาดาบเฮอเรม เขาก็แทบจะไม่ได้ใช้มันมาซักพักแล้ว แต่ทว่าตอนนี้เขาสามารถใช้มันได้เท่าที่เขาต้องการ เขาถือคบเพลิงที่แกะสลักมาจากฮีเลียมเพื่อช่วยเสริมค่ามานา มันให้ความรู้สึกเหมือนกับได้รับเงินเดือนเดือนแรกจากบริษัทแล้วก็ออกไปกินเลี้ยงกับเพื่อร่วมงาน!
ใช่แล้ว เข้าไปโจมตีพวกมันพร้อมๆกันไปเลย
วีดเริ่มเข้าไปโจมตีพวกแวนดัลไนท์จนสลายเป็นผุยผง อันเดดแวนดัลไนท์นั้นมีระดับสูงกว่าพวกดูมไนท์!
ทั้งสองฝ่ายต่างไม่สนใจการป้องกันของพวกเขา การต่อสู้ที่ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดนั้นดำเนินไปด้วยการที่ทั้งสองฝ่ายแลกการโจมตีกันไปมา วีดได้รับความเสียหายมาบ้างเหมือนกัน แต่เขาก็ได้รับการรักษาจากพวกนักบวช ส่วนค่าความยืดหยุ่น ค่าความคงทน และค่าพลังป้องกันจากอุปกรณ์ของเขาก็ค่อนข้างสูง เพราะว่ามีเหล่านักบวชอยู่ด้านหลัง เขาจึงสามารถมีสมาธิอยู่กับการล่าได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก

ท่านได้รับรองเท้าบูทของเอลเลียท
ท่านได้รับสื้อคลุมของเอลเลียท
ท่านได้รับเงิน 81 เหรียญทอง 34 เหรียญเงิน และ 58 เหรียญทองแดง
ได้รับไอเท็มยูนีค!
เมื่อเขาจัดการแวนดัลไนท์ได้แล้ว เหล่านัดดาบเองก็จบการต่อสู้แล้วด้วยเช่นกัน เหล่านักดาบที่ออกไปต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากจบลงด้วยคนบาดเจ็บมากมาย
 อึกเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาจริงๆ
แต่ทุกคนก็ต่อสู้ได้ดีนะ
พวกเขาออกไปต่อสู้กับทุกอย่างที่ปรากฏตัวออกตรงหน้านักบวชสาวทั้งหลาย แถมยังจงใจรับการโจมตีเพื่อที่จะได้รับการรักษาอีกซักครั้ง
 ทีนี้หละ ถ้าเราเปิดประตู….”
เหล่านักดาบกับนักบวชยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่วีดก็ยังตรงดิ่งไปที่ประตูเหล็กบานนั้น ยังคงมีพวกอันเดดเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆป้อมปราการเวอร์โก้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพักได้เลย นักดาบ15 เอากุญแจที่เขาดร็อปได้มาจากพวกแวนดัลไนท์ เขาเสียบลูกกุญแจเข้าไปข้างในแล้วก็ปลดล็อค
กริ๊ก!
ล็อคประตูถูกปลดแล้ว
ตอนนี้เราก็สามารถฆ่าบัลข่านได้แล้ว ช่วงเวลาสุดท้ายของลิชบัลข่าน ดีมอฟ มอนสเตอร์ระดับตำนานได้มาถึงแล้ว
วีดผลักประตูด้วยมือทั้งสองข้างเต็มแรง
แล้วเขาก็ต้องรู้สึกอึ้ง
โอ้โหวววววว ช่างเป็นที่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
เขาคาดเอาไว้ว่าภาชนะแห่งชีวิตจะต้องถูกเอาไว้ภายในห้องนี้แน่ แต่กลับกลายเป็นว่าห้องนี้เต็มไปด้วยกองภูเขาดาบโบราณ ชุดเกราะโบราณแล้วก็สมบัติล้ำค่าต่างๆนานา
สถานที่ที่วีดและเหล่านักดาบพึ่งเข้ามานี่ก็คือห้องสมบัติของป้อมปราการเวอร์โก้นั่นเอง

 “ทั้งหมดนี้มันมากแค่ไหนกันนะ
รอยยิ้มของวีดยืดออกกว้างราวกับว่ามันจะถูกฉีกออก เหรียญทองในหม้อโถและหีบสมบัติดูมีราคามากกว่า 100,000 เหรียญทอง แต่ทว่าตามราคาตลาดแล้วการมุ่งความสนใจไปที่ดาบกับชุดเกราะนั้นดูจะมีราคามากยิ่งกว่าซะอีก
อาจจะมีไอเท็มเวทย์มนต์ของบัลข่านอยู่บ้างก็ได้
จากข้อกำหนดของไอเท็มและค่าความหายาก ไอเท็มเวทมนต์ที่สร้างขึ้นมาด้วยฝีมือของบัลข่านจะทำเงินได้จำนวนมหาศาล
อย่างพวกคทาที่ขยายพลังเวทย์ได้มากขึ้น หรือว่ารองเท้าบูทที่ทำให้คุณสามารถลอยบนฟ้าแล้วก็เดินบนผิวน้ำได้
แจ๊คพอต!”
ขณะที่วีดกำลังรู้สึกดีใจอย่างเหลือล้น ก็มีความคิดอกุศลผุดขึ้นมา!
ฉันควรมาที่นี่เพียงลำพัง…’
เหล่านักดาบ นักบวชและมาเรย์ที่ตามเขามาเพื่อแต่งเพลงใหม่ เพราะว่ามีพวกเขามาด้วยเขาจึงจำเป็นต้องแบ่งให้คนอื่นด้วย ขณะที่วีดคือคนเดียวที่นำภารกิจครั้งนี้ เขาจึงมีได้รับสิทธิความเป็นเจ้าของในสัดส่วน 30% จากสมบัติที่พวกเขาพบ ส่วนที่เหลือก็จะถูกแบ่งออกไปตามจำนวนผู้เข้าร่วมภารกิจ
บนโลกใบนี้นั้นมันช่างเป็นโลกที่ทำให้เราใจสลายที่ต้องแบ่งปันถั่วซักเม็ดหนึ่งก็ถือว่ายากแล้ว แล้วคุณจะอยากแบ่งกองภูเขา ทอง เงิน สมบัติ แล้วก็ไอเท็มนั้นได้ยังไงกันหละ!
แล้วความคิดที่สองก็ผุดขึ้นมาในหัวของวีดที่คิดว่าการแบ่งสมบัตินั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย แต่พวกเขาจะสามารถโกยเอาทอง เงินแล้วก็สมบัติพวกนี้ได้ ถ้าพวกเขาชนะการต่อสู้ต่างหากละที่เป็นปัญหาหลัก
ใบหน้าของวีดกลับมาดุดันอีกครั้ง
ภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านไม่อยู่ที่นี่
จากความเป็นจริงแล้ว สถานที่แห่งนี้นั้นคือใจกลางของป้อมปราการชั้นในที่เต็มไปด้วยยามเฝ้าแน่นหนามากเอาการ เขาจึงมั่นใจว่าที่แห่งนี้ต้องใช่แน่ๆ
แต่กลับเป็นว่า……
วีดส่งกระซิบไปหาเมแพนอย่างเร่งรีบ
-สถานการณ์ทางบัลข่านเป็นยังไงบ้าง?
คำตอบถูกส่งกลับมาในไม่ช้า
-บัลข่านยังคงอัญเชิญพวกอันเดดออกมาเรื่อยๆเลยครับ
-ค่าพลังชีวิตของเขาละ?
-พวกนักบวชมานาเกือบจะหมดละครับ มันสูบมานากับค่าพลังชีวิตไปจากพวกนักดาบกับพวกพาลาดิน มันเลยยังโอเคอยู่ครับ
ตราบเท่าที่เขายังไม่สามารถทำลายภาชนะแห่งชีวิต เขาก็จะฆ่าบัลข่านให้ตายก็ไม่ได้ แล้วการต่อสู้ก็จะล้มเหลวไปโดยปริยาย แล้วก็มีความเป็นไปได้ว่ามนุษย์ทั้งหมดที่เข้ามาภายในป้อมปราการเวอร์โก้คงจะถูกฝังอยู่ที่นี่แน่
พวกเราต้องหาภาชนะแห่งชีวิตให้พบ มันต้องอยู่ในป้อมปราการเวอร์โก้แห่งนี้แน่ๆ คงไม่มีทางเป็นที่อื่นไปได้ ที่นี่คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด แถมยังมีการป้องกันหนาแน่นโดยพวกอันเดดอีก
ในสถานการณ์คับขัน สมองของวีดก็ยิ่งทำงานเร็วขึ้น! ภายในห้องที่บัลข่านอยู่ตอนนี้ ไม่มีสถานที่แน่ชัดให้ซ่อน ถึงแม้กระนั้นภาชนะแห่งชีวิตก็คงไม่ถูกซ่อนในขวดไวน์ซุกเอาไว้ใต้ดินแน่ๆ
 ‘มันต้องเป็นสถานที่ที่บัลข่านรู้สึกปลอดภัยไร้กังวลมากยิ่งกว่าสถานที่ที่ถูกเฝ้ายามโดยพวกแวนดัลไนท์
เมื่อมองกลับไปผ่านความทรงจำที่มีของเขาอย่างใจเย็น เขาก็จะสามารถนึกถึงสถานที่ที่เป็นไปได้ที่ซ่อนภาชนะแห่งชีวิตเอาไว้ มีหลายๆครั้งที่คิดได้ว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าปราการชั้นนอกหรือปราการชั้นใน มันอยู่ตรงที่ชั้นบนสุดของหอคอยกลางในป้อมปราการเวอร์โก้ตรงที่มีมังกรกระดูกทั้งสามบินอยู่รอบๆ!
ทุกๆคนรู้สึกเหนื่อยล้าจากการแทรกซึมเข้าไปปราการชั้นในของป้อมปราการเวอร์โก้และยังต้องตีฝ่าพวกอันเดดอีก แต่ทว่า ณ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องไปต่อสู้กับพวกมังกรโครงกระดูกทั้งสาม

กองทัพพันธมิตรของเหล่าเอลฟ์ คนเถื่อน และคนแคระยังไม่สามารถทำลายส่วนนอกของป้อมปราการเวอร์โก้และยังพยายามต่อสู้ไปเรื่อยๆ ถ้าหากว่านักรบทุกๆคนของแต่ละเผ่าพันธุ์มาต่อสู้ พวกเขาคงจะสามารถทำลายป้อมปราการส่วนนอกได้แล้ว แต่กองกำลังหลักของพวกเขาก็ไม่ได้กรีธาทัพมาต่อสู้เพราะว่าพวกเขาจำเป็นต้องปกป้องราชินีภูติ
โชคยังเข้าข้างกองกำลังพันธมิตร เพราะกองกำลังอันเดดก็ถูกแยกกำลังออกไปเช่นกัน ภายในป้อมปราการชั้นใน ก็ยังมีข้อจำกัดทางจำนวนของทหารที่สามารถต่อสู้จากโถงทางเดินแคบๆอีกด้วย
 ฆ่าพวกมันให้หมด
เพื่อความรุ่งโรจน์!”
จากบนพื้นภายในบริเวณเนินเขาที่อยู่ใกล้ๆ พวกอันเดดก็ลุกขึ้นมาแล้วก็มุ่งหน้าไปยังป้อมปรากรส่วนนอกอย่างกับกระแสน้ำ
ขับไล่พวกอันเดดออกไป จงกล้าหาญแล้วรู้ไว้ว่าเจ้ากำลังกอบกู้อิสรภาพเพื่อดินแดนของพวกเรา
เหล่าเอลฟ์ เหล่าคนแคระและเหล่าคนเถื่อนได้ต่อสู้อย่างดุเดือด ขณะที่ความโกลาหลที่กำลังดุเดือดตรงป้อมปราการชั้นนอก วีดกลับกำลังรู้สึกสั่นสะท้านแบบสุดๆ
มังกรกระดูกทั้งสามอย่างงั้นหรอ….’
 มังกรกระดูกธรรมดานั้นก็ถือว่าน่ากลัวมากพอแล้ว แต่นี่มันมังกรโครงกระดูกที่เป็นผลงานชิ้นเอกที่สร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของบัลข่าน
ฉันเดาว่าเราคงไม่มีทางเลือกสินะ
ความหัวดื้อเช่นนั้นจะเผาผลาญตัวเขาก็ต่อเมื่อตัวเขาเข้าไปสู่ความยากจนและย่างเท้าก้าวเดินเข้าไปต่างหากล่ะ!
ศิษย์พี่ครับ พวกเราจำเป็นต้องสู้กับพวกมังกรกระดูกตรงหอคอยกลางเพื่อที่จะฆ่าบัลข่านให้ได้ พวกพี่คิดว่าเราควรจะทำยังไงหรอครับ?”
เขาถามความคิดเห็นของเหล่านักดาบเผื่อว่าพวกเขามีความคิดดีๆ
 พวกเราก็แค่กำจัดพวกมันซะ
แล้วเราจะปล่อยให้ไอเท็มดาบเจ๋งๆนอนเอ้งเม่งอยู่ที่นี่น่ะหรอ?”
เป็นการตกลงใจในชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น!
จริงๆแล้ว วีดรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างขาดหายไปหากเขาไม่เข้าไปต่อสู้กับมังกรกระดูกพวกนั้น
ทางนี้
มีกำลังเสริมอันเดดเพิ่มมากขึ้นภายในโถงทางเดินขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่หอคอยกลาง หากพวกเขามัวแต่จัดการพวกอันเดดที่เข้ามาใกล้ตอลดทางไปหอคอยกลางนี่ มันคงใช้เวลานานมากและพวกเขาอาจจะโดนกวาดล้างเองก็ได้
 เราต้องไปทางลัด ผมจะนำไปก่อนนะ รักษาระยะแล้วก็ตามผมให้ทันหละครับ
จากนั้นวีดก็ทุบหน้าต่างแล้วออกไปตรงกำแพงข้างนอก ด้านนอกนี้มีสายลมหนาวสะท้านซัดมา พวกการ์กอยล์ก็กำลังบินไปมารอบๆ
มนุษย์นิ
ฆ่ามันนน!”
พวกนักธนูโครงกระดูกกำลังยืนเฝ้ายามอยู่บนกำแพงป้อมปราการหรือหอคอยพวกนั้นก็เริ่มยิงธนูไปที่วีด วีดยึดส่วนที่ยื่นออกมาเอาไว้แล้วก็ปีนออกไปตามกำแพง
ทักษะวิ่งสี่ขา!”
แซก แซก แซก แซก
เขาเคลื่อนที่ไปอย่างกับแมงมุมท่ามกลางลูกธนูที่ตกลงมาดั่งห่าฝน กระโดดขึ้นไปอยู่บนซากของกำแพงป้อมปราการที่ผุพังหรือส่วนหินที่ยื่นออกมา แล้วเขาก็โหนตัวเอาไว้กับมัน
ยิงเจ้ามนุษย์คนนั้นก่อน
มันดูเหมือนจะเป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุด เราต้องฆ่ามันให้ได้ก่อน เพื่อท่านบัลข่าน
พวกนักธนูโครงกระดูกเล็งการโจมตีไปที่วีด
กี๊กกกกกกกกกกกกกกก!
แม้แต่พวกการ์กอยล์ก็เข้ามาประชิดตัวพลางใช้จะงอยปากจิกไปที่ตัววีด
ทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์!”
ในสถานการณ์เสียเปรียบที่ต้องห้อยโหนอยู่บนกำแพงแบบนี้ วีดก็ยังสามารถใช้แขนซ้ายไม่สมประกอบของเขาเหวี่ยงดาบได้อยู่ดี เขากวาดดาบเล็งไปทางพวกศัตรูจนทำให้พวกนักดาบ มาเรย์และพวกนักบวชสามารถไปขึ้นไปถึงตรงยอดได้อย่างปลอดภัย
ฆ่าไอ้มนุษย์ที่ไต่อยู่บนกำแพงนั่นซะ
มาแสดงให้มันเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเหล่าอันเดดกันเถอะ
ตรงบริเวณพื้นดิน พวกนักเวทย์โครงกระดูกกำลังรวบรวมพลังเวทย์เอาไว้ที่มือแล้วก็ยิงออกไป
หน้าต่างข้อความที่แจ้งว่าเขาโดนโจมตีก็เด้งขึ้นมาเรื่อยๆ
ค่าพลังชีวิตคงเหลือ 36,789
 ‘ฉันกำลังจะตายอย่างนี้งั้นหรอ
วีดไต่กำแพงไปถึงตรงหลังคาของป้อมปราการวาร์โก้แล้ว
เพราะว่าหลังคาของปราการชั้นในนั้นมีลักษณะลาดเอียง เขาจึงสามารถมองเห็นหอคอยใหญ่หลังอื่นๆตั้งขึ้นสูงกว่าหลังคาที่เขายืนอยู่
ขณะที่กำลังไล่ล่าวีด พวกการ์กอยล์กับค้างคาวก็โจมตีเขาด้วยเวทย์มนต์ แถมยังมีลูกธนูยิงไปที่เขาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ตอนนี้ค่าพลังชีวิตของเขาเหลืออีกแค่ 15% เท่านั้น เขาจำเป็นต้องซื้อเวลาให้เหล่านักดาบและนักบวชที่กำลังขึ้นไปที่ยอดของหอคอยกลางด้วยทางลัด
 ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ เดาว่าฉันคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ
วีดเอาประติมากรรมของเขาออกมา ผลงานประติมากรรมชั้นเยี่ยมที่แกะขึ้นจากบรอนซ์ตั้งชื่อว่า พ่อค้าผู้โอบอุ้มแจปเท็ม’ (Japtem Embracing Merchant)
ฉันไม่อยากใช้ทักษะนี้อีกเลยแหะแต่ฉันคงอยู่ในสภาพที่จู้จี้มากไม่ได้ซะแล้วในเมื่อฉันต้องไปสู้กับพวกมังกรกระดูกพวกนั้น ประติมากรรมวินาศ! เพิ่มทุกอย่างไปที่ค่าความว่องไว
วีดบดขยี้ประติมากรรมด้วยมือของเขา
และในตอนนั้นเอง
ร่างกายของวีดก็เรืองแสงออกมา
ท่านได้ใช้ทักษะประติมากรรมวินาศ
ช่างน่าเศร้า! ความเศร้าโศกของการทำลายผลงานประติมากรรมชั้นเยี่ยม
ค่าสถานะทางศิลปะหายไป 5 แต้มแบบถาวร ค่าชื่อเสียงลดลง 100 แต้ม
ค่าสถานะทางศิลปะเปลี่ยนไปเป็นค่าความว่องไวในอัตราส่วน 1:4 เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
เพราะค่าสถานะทางศิลปะของท่านสูงเกินไป ค่าความว่องไวจึงต่ำ การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นในทันที

ค่าความว่องไว 850 แต้มถูกเปลี่ยนไปทำให้เกิดเป็นทักษะขั้นสูงเลเวล 8 ‘ทักษะโลดแล่นดั่งสายลม’ (Wind Sprinting) ด้วยการใช้มานาของท่าน ท่านสามารถวิ่งหรือแล่นไปตามสายลม
ค่าความว่องไว 410 แต้มถูกเปลี่ยนไป ทำให้เกิดทักษะขั้นสูงเลเวล 4 ‘ทักษะแทรกแซงโชค’ (Lucky Intervention) โชคลางที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ท่านสามารถใช้ทักษะนี้สามครั้งเพื่อเพิ่มค่าการโจมตีให้รุนแรงขึ้น
ค่าความว่องไว 520 แต้มเปลี่ยนไปทำให้เกิดทักษะขั้นสูงเลเวล 6 ‘ทักษะโจมตีแมนยำ’ (Accurate Attack) โอกาสในการโจมตีติดคริติคอลสูงขึ้น โอกาสโจมตีเพิ่มมากขึ้น

ความเชี่ยวชาญในการแกะสลักเพิ่มขึ้น
ร่างกายของวีดรู้สึกเบาราวกับขนนก
ดีพอเอาไปใช้วิ่งแข่ง100 เมตรเลยนะเนี่ย
ในโรยัลโร้ด การเปลี่ยนแปลงในค่าสถานะนั้นก็มีผลกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้วยเช่นกัน ในระดับเริ่มต้น มันใช้เวลาราวๆ 30 วินาทีเพื่อวิ่งระยะ 100 เมตร ถ้าหากว่าคุณสวมใส่ชุดเกราะอยู่ มันก็อาจจะใช้เวลาเป็นนาทีเลยทีเดียว
แต่ทว่าด้วยการเพิ่มค่าความแข็งแกร่งและค่าความว่องไว ความเร็วก็จะค่อยๆเพิ่ม ต่อมาก็จะวิ่งโดยใช้เวลา 10 วินาทีเทียบเท่านักกีฬาเลยทีเดียว และขณะที่เลเวลเพิ่มขึ้นความเร็วในการวิ่งก็จะเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ค่าความอดทนของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาคงไปวิ่งมาราธอนได้ตราบเท่าที่กำลังกายของเขายังเหลืออยู่
ลูกธนูที่ยิงออกมาสร้างรอยข่วน ค่าพลังชีวิตลดลง 130 หน่วย
ลูกธนูที่บินมาจากพวกโครงกระดูกไม่ได้โดนวีดอย่างจังแล้วก็หล่นลงไป มันคงเป็นผลของค่าความว่องไวที่เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนที่มากนักก็สามารถหลบหลีกได้แล้ว
 งั้นฉันควรโต้กลับไปดีหรือเปล่านะ?”
วีดดึงคันธนูไฮท์เอลฟ์แห่งยูโรกิออกมา ราคาของลูกธนูแต่ละดอกนั้นน่าเศร้ามาก แต่ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องใช้มันแล้ว! ถ้าไม้กับเหล็กนั้นหาได้ง่าย เขาก็คงสามารถใช้ทักษะช่างตีเหล็กสร้างลูกธนูได้ 300 ดอกไปแล้ว
วีดวิ่งไปมาบนยอดหอคอยและตรงหลังคา เขาเร็วเกินไปที่พวกค้างคาวกับการ์กอยล์จะไล่ตามเขาได้ทัน
วีดขึงลูกธนูใส่สายแล้วก็ยิงไปที่พวกโครงกระดูก
พวกมันดูเหมือนกำลังบินไปผิดทาง แต่พวกมันก็ค่อยๆเปลี่ยนทิศทางของพวกมันอีกทีแล้วก็ยิงโดนพวกศัตรูเข้าอย่างจัง!
จิตวิญญาณแห่งวารีได้สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น
น้ำวนปรากฏขึ้นมากวาดล้างพวกโครงกระดูกจนหมดสิ้น
โจมตีมัน!”
ฆ่าเจ้ามนุษย์นั่นก่อน
วีดฟันดาบใส่พวกการ์กอยล์ที่เข้ามาประชิดตัวเขาแล้วก็ยิงลูกธนูไปที่พวกนักธนูโครงกระดูกขณะที่กำลังวิ่งไปมารอบๆหลังคา ลูกธนูของพวกนักธนูโครงกระดูกทั้งหมดเล็งไปที่เขา ส่วนพวกการ์กอยล์ที่นั่งอยู่บนกำแพงป้อมปราการและบนหอคอยก็บินไปตรงจุดเดียวเพื่อโจมตี
ความรู้สึกยินดีที่เต้นระรัวทะลักออกมาจากความเร็วอันบ้าบิ่นนั้น!
วีดวิ่งไปรอบๆป้อมปราการเวอร์โก้ที่แสนอันตรายอย่างอิสระจนไม่อาจหาใครเทียบทาน
ในขณะที่วีดดึงมือของเขาออก ลูกธนูก็จะยิงออกไปที่พวกนักธนูโครงกระดูก แม่นราวกับจับวาง
-ท่านได้รับลูกธนูเหล็ก
เขายิงลูกธนูออกไปทันทีที่มันกลับคืนมาหาเขา

เพลมองไปที่บัลข่านด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
มอนสเตอร์ตัวนี้ แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะมีพวกเนโครแมนเซอร์มากมาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถอัญเชิญซากศพทุกซากมาต่อสู้กับบัลข่านได้ แถมพวกอันเดดที่ถูกบัลข่านอัญเชิญมาระดับอย่างต่ำก็เป็นดูมไนท์
ดูมไนท์ระดับหัวกะทิ
ดูมไนท์ระดับหัวหน้า
ดูมไนท์จอมเชือด
ดูมไนท์ที่เอาโรคระบาดมาด้วย
พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นมอนสเตอร์ระดับมีชื่อทั้งนั้น
แถมยังมีแวนดัลไนท์ถูกอัญเชิญออกมาอีกห้าตน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการโจมตีของบัลข่านเข้ามาผสมโรงอีก พวกพาลาดินและนักดาบจำต้องสู้กับพวกองครักษ์ระดับพระกาฬของบัลข่านต่อไปเรื่อยๆขณะที่ยังต้องทุกข์ทรมานจากคำสาปต่างๆนานาอีก
แถมบัลข่านยังต้านทานมนต์เยียวยาอันเดดจากพวกนักบวชได้อีก เนื่องจากเขาใช้เวทย์ออร่าแห่งความตาย เขาจึงสูบมานากับพลังชีวิตเอาไปให้พวกอันเดด เหล่าพาลาดินก็ไม่อาจขัดขืนได้แต่แสดงความหวาดกลัวออกมา
ข้าคิดว่าจำนวนอันเดดกำลังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆเลยนะ
บัลข่านจะตายเร็วๆนี้ใช่ไหม?”
เราจะฆ่าเขาได้ไหมเนี่ย? ฉันคิดว่าเราจะกลายเป็นฝ่ายที่โดนกวาดล้างแทนนะคะ!”
โรมุนะพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
ถ้ามันไม่สายเกินไป ฉันควรจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นเนโครแมนเซอร์ดีหรือเปล่านะ? ถึงแม้ว่ามันจะยากลำบาก ถ้าฉันได้กลายไปเป็นลิชละก็….”
ความแข็งแกร่งของลิชที่สามารถควบคุมทั้งอาณาจักรได้ ถึงแม้จะถูกจำกัดพลังเอาไว้ด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย

ณ เวลาเดียวกัน บรรดาสถานีออกอากาศก็ถูกปกคลุมไปด้วยความกังวลอันท่วมล้น การต่อสู้ที่อยู่ในชั้นใต้ดินตรงที่บัลข่านอยู่ เหล่าอันเดดกำลังห้ำหั่นกับเหล่าพาลาดินและเหล่านักบวช คงจะพูดได้ว่ามันคือการต่อสู้ระหว่างธรรมกับอธรรม
เหล่านักดาบกำลังเล่นบทบาทอันยิ่งใหญ่ แต่ว่ามนต์เนโครแมนเซอร์ของบัลข่านก็ทรงพลังจนน่าหวาดหวั่นที่สร้างความเสียหายมากมายจริงๆ กองกำลังอันเดดของเขาค่อยๆเพิ่มมาเรื่อยๆ ปัญหาอีกอย่างนั่นก็คือพวกเขายังต้องสกัดกองทัพอันเดดที่บุกเข้ามาทางบันได ดังนั้นกองกำลังรบของพวกเขาจึงจำเป็นต้องแยกออกจากกัน
ในทางตรงกันข้าม วีดกำลังวิ่งไปมารอบๆหลังคาของปราการเวอร์โก้ขณะที่ต้องต่อสู้ไปด้วย เขาต้องยิงธนูขณะที่ไถลลงมาตามหลังคาแล้วกระโจนออกไปอย่างไม่เกรงกลัว ฟาดฟันเหล่าการ์กอยล์ด้วยทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์สีสันสดใส ฉากการต่อสู้ที่กระตุ้นจังหวะหัวใจโดยมีฉากหลังเป็นป้อมปราการเวอร์โก้ มันคงเป็นฉากที่เพียงพอที่จะนำขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆของหอเกียรติยศ ด้วยการฉายภาพของช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด เหล่าผู้ชมจึงไม่อาจละสายตาออกไปจากมันได้เลย
 เราต้องออกอากาศทางฝั่งไหนหรอครับ?!”
เสียงส่วนใหญ่พวกเขารู้สึกว่าการต่อสู้กับบัลข่านนั้นสำคัญมากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงออกอากาศทางฝั่งนั้น แต่เพราะว่ามีหลายๆความคิดเห็นของผู้ชมก็ต่างสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้นทางฝั่งวีดเช่นกัน แล้วพวกเขาก็เปลี่ยนไปที่ฉากนั้นอีกครั้ง
-แล้วการต่อสู้กับบัลข่านเป็นยังไงบ้างหละ?
-ฉายภาพวีดที่อยู่บนหลังคาสิ

เขาต่อสู้ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์อย่างกับว่าเขาอยู่พื้นที่โล่งๆได้ยังไงกันนะ?
หรือเพราะว่าเขาคือวีด?
ฉันเริ่มเบื่อออกล่าในดันเจี้ยนละนะ ถ้าฉันกลายเป็นผู้เล่นระดับสูง ฉันจะต่อสู้แบบวีดได้หรือป่าวนะ? แต่ฉันก็ยังคิดว่าการไปต่อสู้กับมอนสเตอร์ทั้งฝูงอย่างในป้อมปราการเวอร์โก้เป็นการฆ่าตัวตายอยู่ดี
พวกเขาจะสามารถชนะการต่อสู้ได้หากฆ่าบัลข่านได้เปลี่ยนไปทางฝั่งบัลข่านสิโว้ยย
พวกแกทำอะไรนะ ฉันกำลังดูอยู่นะเว้ย! เปลี่ยนช่องกลับไปทางวีดสิเฟ้ย!
ด้วยคำร้องขอที่ดุเดือดลุกเป็นไฟจากเหล่าผู้ชม บรรดาสถานีออกอากาศก็ต้องทนรับคำก่นด่าต่างๆนานาไม่ว่าอะไรก็ตามที่พวกเขากระทำลงไป
จบตอน
ผู้แปล: Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


11 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ แยกออกไปหาหัวใจที่เก็บไว้แบบ คนมี่คุณก็รู้ว่าใครสินะครัช

    ตอบลบ
  2. - วีดเอ๋ย แกทำให้ผู้คนทั้งลุ้น ทั้งสับสนไปทั้งคนดูในนิยาย และคนอ่านเรื่องของแก -

    ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณแอดฯครับ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปเลยครับ

    ตอบลบ
  4. ทำให้ลุ้นทั้ง2ทาง ฮ่าๆ
    ไม่รีบหาให้เจอนี่ได้ตายกันเป็นเบือแน่

    ตอบลบ
  5. สวดยวดตามเคยคับ
    เราจะติดตามอ่านเพจท่านต่อไป

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณทีมแปลครับ อ่านสนุกมาก เนื้อเรื่องกำลังมันย์สุดๆ

    ตอบลบ
  7. สถานีปวดหัว ฉายคนละครึ่งจอเลยดิจะได้ไม่บ่น

    ตอบลบ
  8. แบ่งฉากแยกเป็น2ช่องใน1จอดอ

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...