วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เล่ม 18 ตอนที่ 2 การผจญภัยของชายหนุ่ม แปลโดย Dinako

เล่ม 18 ตอนที่ 2 การผจญภัยของชายหนุ่ม แปลโดย Dinako


อันฮุนโดกล่าว

"ใครอยากจะไปกับศิษย์น้องบ้าง?"

อันฮุนโด กำลังพยายามจะหาใครสักคนเดินทางไปด้วย

เมื่อเขายังเป็นหนุ่ม เขาได้เดินทางระหกระเหินไปในหลายๆประเทศ เค้าใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ

บรรยากาศในการพบปะสังสรรค์ค่อนข้างดีเพราะว่าเค้ากำลังจะไปพบปะกับสาวในรอยัลโรด

เหล่าผู้ฝึกสอนต่างก็รู้ แต่พวกเขาก็เงียบไม่พูดอะไร

ในหลักสูตรการเรียนวิชาดาบ พวกเขาได้เดินทางไปยังที่ต่างๆเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลก

มันดูจะเสียเปรียบที่จะพูดเป็นคนแรก ทุกคนจึงพากันอยู่ในความเงียบ

พวกเขาต่างยังคงอยู่ในท่านั่งอกผายไหล่ผึ่ง

พวกเขาได้แต่เหลือบมองกันและกัน ราวกับพวกเขากำลังจะขอร้องกันอยู่

อันฮุนโดมองเข้าไปในตาของเหล่าปรมาจารย์ผู้ฝึกสอน

ชองอิลฮุนดูภายนอกเหมือนจะเป็นคนขึงขัง แต่ที่จริงแล้วเค้าเป็นคนใจกว้างและเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา

เค้าเป็นคนที่มีความสามารถมาก และน่าจะเป็นศิษย์เอกที่น่าจะได้เป็นเจ้าสำนักในอนาคต

'ถ้าเขาจากไปแล้วหละก็ คงจะเป็นงานหนักสำหรับที่นี่แน่ๆ'

อันฮุนโดคิดว่ามันคงจะเป็นการดี ที่ได้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้สั่งสอน เขาไม่อยากจะให้พวกเค้าออกไป แล้วเสียเวลาอันล้ำค่าไปกับการทำงานในสำนัก

เค้าอยากจะไปเจอหญิงสาวที่เขาได้เจอในรอยัลโรดเมื่อเร็วๆนี้ และไปเที่ยวทะเลอีกสักครั้ง

'มันก็ไม่ควรจะเป็นเขาอีกนั่นแหละ'

เค้าได้สั่งการให้กับปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนลำดับที่สี่ไป

รอยลี เป็นปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนที่อายุน้อยที่สุด และมีความโดดเด่นในการบรรลุหนทางแห่งดาบหลายแขนง เหมือนที่คาดหวังในโลกเสมือนจริงในรอยัลโรด

มันมีสิ่งหนึ่งที่เขาคาดว่าจะใช้ประเมินการพัฒนาของเขา

ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ ความรู้สึกถึงความอ่อนแอในตัวเขา หรือการเรียนรู้ในวิถีแห่งดาบ

พวกเขามีชีวิตชีวาด้วยดาบ และโลกในรอยัลโรดช่างน่าเกรงขาม

โลกแห่งเวทมนตร์

ช่วงเวลาเส้นทางแห่งความเมตตากรุณาอาจนำไปสู่การถูกโจมตีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตั้งตัวจากฝูงของ Monster ในยามค่ำคืน

พวกเขาอาจได้พบปะกับเหล่าผู้ท้าทายจำนวนมากในรอยัลโรด และฟื้นฟูร่างกายในเวลาอันสั้นหลังจากประสบความล้มเหลว มันเป็นสถานที่ฟเขาสามารถฝึกฝนปณิธานของพวกเขาผ่านการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ

'ซังบอม มีเรื่องมากมายที่ต้องทำ'

มาซังบอมได้ใช้เวลาส่วนมากในการฝึกเหล่าผู้ฝึกฝน ดังนั้นถ้าให้เค้าไปอาจจะทำให้สำนักเกิดความขัดข้องได้

"จองบอมอา"
"ครับ อาจารย์!"
"ครั้งนี้เจ้าจะต้องพาศิษย์น้องไปด้วย"
"โอเค"
นั่นคือข้อสรุปของสำนัก
หน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้แก่หนึ่งในนักดาบ

***

"ได้รับตั๋วเครื่องบินมาแล้ว ที่เหลือก็คงจะเหลือแต่การหาที่ทาง มันน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเดินทางนี้"

"ฉันจะเริ่มเมื่อไหร่ดี?"
"พรุ่งนี้"
"ฉันจะกล่าวอย่างไรกับศิษย์น้อง?"
"ไม่มีความจำเป็นต้องบอกความจริงกับเขา ก็แค่พูดอะไรสักนิดหน่อยแล้วบอกเขาว่าจะไปเกาะเจจู"
"ได้ ฉันจะไป!"
ภาควิชาโลกเสมือนจริงโด่งดังสำหรับเหล่าผู้ท้าทาย ว่าพวกเขาจะออกไปทุกปีระหว่างการเดินทาง เค้าไม่ได้ตระหนักถึงความจริงในข้อนี้ ลีฮุนได้แต่ยุ่งอยู่กับการสอบปลายภาคในวิชาหลักของเค้า ลีฮุนแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน

'นี่มันเป็นครั้งที่สามแล้ว นี่มันคือปัญหา หัวข้อของวิทยานิพนธ์ในรอยัลโรดถูกเขียนโดยศาสตราจารย์'

ศาสตราจารย์หลายท่านจากมหาวิทยาลัยเกาหลี ได้ตีพิมพ์เอกสารมากมายเกี่ยวกับบริษัทยูนิคอร์น แต่สิ่งที่เป็นปัญหาไม่ใช่ชื่อเรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องราวที่ตีพิมพ์ ผู้คนที่สามารถจดจำสิ่งเหล่านั้นจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

เขาไม่ได้ใช้เวลามากมายในการตอบคำถาม

คำตอบของเค้าสั้นมากและอธิบายอย่างตรงไปตรงมาเท่าที่จำเป็น

ลีฮุนพูดกับตัวเอง
'เราไม่ค่อยได้ทำงานที่ได้รับมอบหมาย แต่เรามีความสนใจดี มันคงจะไม่เลวร้ายมากเท่าไหร่ เพราะเราเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าศาสดราจารย์ในช่วงออกค่าย ดังนั้นเราไม่น่าจะต้องติด F ในชั้นเรียนนี้!'

น่าพึงพอใจมากพอที่จะไม่ได้รับใบตักเตือนทางการเรียน

แผนการคือต่อให้เกรดแย่แค่ไหน ขอเพียงแค่ไม่ติด 'F' เค้าจะไม่ลงเรียนซ้ำอย่างเด็ดขาด

'ชั้นเพียงแค่ต้องเรียนให้จบ'

จุดมุ่งหมายนี้ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเหน็ดเหนื่อย!

ลีฮุนแก้ปัญหาของแบบทดสอบพอดีกับเวลาที่กำหนด

นี่มันเป็นการสอบหลักครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นก็จะเป็นการทัศนศึกษา

สำหรับนักศึกษา การทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนจะกินเวลามากกว่าสองเดือน

'ในช่วงเวลานั้น เราต้องทำสิ่งสิ่งเดียวเท่านั้น!'

เขาจะเล่นรอยัลโรดอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มเลเวล

ลีฮุนเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนใส่ในกระเป๋าราคาถูกของเขา

หลังจากนั้นประตูห้องเรียนก็เปิดออก และศาสตราจารย์ จูจองฮุน เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยของเขา

ผู้ช่วยได้ขนอุปกรณ์มามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่คือ กล้องดิจิตอลวิดีโอ , มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับถ่ายฉากเพื่อบันทึกภาพยนตร์!

ด้วยการพัฒนาเครื่องมือดิจิตอลนี้ เมมโมรี่สามารถบันทึกหนังสั้นขนาดความยาว 10 วัน

ศาสตราจารย์ จูจองฮุน เดินเข้าไปที่แท่นอัฒจันทร์พร้อมกับกล่าวว่า

"มันถึงเวลาสำหรับ การบ้านทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนแล้ว"

เหล่านักศึกษาทำมาดอวดภูมิ เนื่องจากพวกเขาแต่ละคนต่างก็ตั้งตารอการทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนหลังจากจบการสอบใหญ่

"โอ่, มีเรื่องอะไรเหรอ...."
"อีกการทดสอบหรอ? รึจะมีการทดสอบเพื่อหาสูตรทางคณิตศาสตร์อันซับซ้อน หรือจะเป็นการปลดปล่อยสิ่งของด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้หลักการทางฟิสิกส์?"

นักศึกษาในห้องหลายคนต่างก็เปล่งสิ่งที่พวกเขาครุ่นคิดออกมา

ลีฮุนเริ่มรู้สึกกังวล

'การทดสอบที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นแล้ว'

เค้าไม่ได้ทำงานที่ได้รับมอบหมายในชั้นเรียนสักชิ้นเลย อย่างไรก็ดี งานนี้ดูจะต่างจากงานอื่นๆ

ศาสตราจารย์จูจองฮุน เริ่มอธิบายถึงวิธีการใช้กล่องดิจิตอลวิดีโอ
"พวกคุณต่างก็รู้กันดีว่าในการที่จะสร้างภาพเสมือนจริงที่ดูดีนั้น คุณจะต้องรู้ว่ามันเป็นยังไงตอนที่อยู่ในชีวิตจริง ใช่มั้ย? การทดสอบในปีนี้คือ ให้ใช้เครื่องบันทึกภาพหรือบันทึกชีวิตของคุณในช่วงวันหยุด คุณอาจจะไปว่ายน้ำ ไปทำงานพิเศษ ท่องเที่ยว ทำอะไรก็ได้ ขอแค่ให้มั่นใจว่า พวกคุณได้บันทึกโดยใช้กล้องดิจิตอลวิดีโอนี้ระหว่างการเดินทางของพวกคุณ"

"..."

ห้องเรียนเงียบสนิท

ลีฮุนถูกมองหลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง

'คุณไม่สนใจเลยหรอ?'

นักศึกษาเริ่มที่จะสงสัยว่าใครกันนะที่ถูกศาสตราจารย์ จูจองฮุน เพ่งเล็ง 

"เพื่อที่จะให้คุณรู้จักกันดีมากขึ้น ทางภาควิชาได้ตัดสินใจว่าต้องการบททดสอบทัศนศึกษาภาคฤดูร้อนในครั้งนี้ การลงทะเบียนเรียนในวิชาสำคัญจะถูกยกเลิก ถ้าคุณทำมันไม่สำเร็จ"

เพื่อที่จะเรียนจบได้อย่างราบรื่น ต้องทำบททดสอบนี้ให้สำเร็จ!

มันเป็นบททดสอบที่ยากมากๆ

นอกจากการที่จะไปที่สำนักเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ลีฮุนก็ไม่ได้คิดจะทำอย่างอื่นเลยนอกเสียจากการจะเข้าไปเล่นรอยัลโรด

เหล่านักศึกษารอบตัวเขาเริ่มที่จะพูดคุยกันถึงเรื่องนี้

"ครอบครัวของฉันตั้งใจจะไปภูเก็ต... งั้น ฉันจะไปถ่ายทำที่นั่น"

"พวกเราวางแผนจะไปพักผ่อนที่รีสอร์ททะเลใต้"

"ฉันวางแผนจะไปเรียนการเป็นนายแบบ งั้นฉันจะไปถ่ายทำตรงนั้นแล้วกัน"

นักศึกษาแต่ละคนต่างก็ได้วางแผนว่าพวกเค้าจะใช้ช่วงเวลาอย่างไรในการทำบททดสอบภาคฤดูร้อน ในฐานะที่เป็นนักเรียนปีหนึ่งที่อายุ 20 เค้าไม่คิดที่จะไปท่องเที่ยวภาคฤดูร้อนครั้งแรกแบบจนๆ
สุดท้ายมันก็ถึงช่วงเวลาท่องเที่ยวที่รอคอยอันแสนยาวนาน!

***

วีด รู้สึกเหมือนลูกไก่ที่กำลังจะถูกนำไปทอด
"การพักผ่อนที่ฉันรอคอยสุดท้ายก็มาถึง"
เค้าไม่ได้ต้องการการท่องเที่ยวที่เลิศหรู
เค้าอยากจะใช้เวลาในทวีปเวอร์เซลล์ เพื่อเพิ่มเลเวลและทักษะความสามารถต่างๆขณะออกสำรวจ
"เรากำลังที่จะได้ซ่อมแซมส่วนที่เหลือของตราประทับ..."

เพื่อที่จะซ่อมแซมตราประทับแห่งราชวงศ์อารูเพ่น
เค้าจะต้องเพิ่มทักษะความสามารถของเขา เค้าต้องสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ แล้วลองทำลายมัน เพื่อที่เขาจะได้ซ่อมมัน

มันเป็นทักษะที่เรียนรู้ได้ยากมาก เนื่องจากมันต้องอาศัยความทรงจำที่แม่นยำและฝีมือ!

วีด ต้องอุทิศเวลาของเขาในการสร้างผลงานชั้นดีหลายชิ้น

"เราต้องค่อยๆทำลายมันทีละน้อย แล้วค่อยๆซ่อมมันทีละเล็กทีละน้อย"

ทักษะฟื้นฟูประติมากรรมถูกจัดว่าเป็นทักษะย่อย แม้ว่ามันจะยุ่งยาก เลเวลของทักษะนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วีดตั้งใจจะเพิ่มเลเวลให้ถึงระดับกลาง

"ถึงตอนนั้น ชั้นจะสามารถซ่อมแซมตราประทับอารูเพ่น แต่..."

วีดรู้สึกใจหวิวๆ และไม่สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับงานของเขาเพื่อที่จะซ่อมแซมประติมากรรม เพราะว่าว่ามีเควสจากวิหารเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ที่สูญหาย มันมีโอกาสเล็กน้อยที่ผู้อื่นจะเข้าไปยุ่งด้วย เขาพยายามที่จะซ่อมแซมมัน แต่ก็ไม่สำเร็จ 

"เมื่อวานนี้, ในเมือง, ตอนที่เราอยู่ในรถบัสมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังขูดล็อตเตอรี่? ต้องไม่ใช่แน่ ต้องเป็นผู้ชายในห้องน้ำที่เสื้อคลุมมีสัญลักษณ์เป็นรูปไฟ..."

หลังจากนั้นเขาก็มีไอเดียดีๆเกิดขึ้นทันที

"มาคิดดูแล้ว มันเกือบจะถึงเวลาที่การป้องกันจากวิหารเฟรยาจะสิ้นสุดแล้วใช่มั้ยนะ?"

ด้วยความที่มันดูเหมือนผ่านไปซัก 2-3 ปีแล้ว รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปยาวนานเหลือเกิน แต่ในความเป็นจริงเวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่สี่เดือน

"เราต้องลองดูสักหน่อย... สถานะทางการทหาร"
วีดเปิดหน้าต่างข้อมูล
กองกำลังทางทหารแห่งอาณาจักรโมราต้า

อัศวินฝึกหัด : 10
เลเวลเฉลี่ย : 219
ทหาร : 1187
เลเวลเฉลี่ย : 45
ความจงรักภักดี : 98%
ฝึกฝน : 79%

เลเวลของอัศวินอยู่ในระดับต่ำมาก การมีวินัยที่เคร่งครัดจำเป็นเพื่อที่จะทำให้อัศวินไม่หนีหาย ทหารโมราต้ามีความจงรักภักดีสูง แต่มีข้อยกเว้นสำหรับทหารบางคน เลเวลของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำและพวกเขาจำเป็นต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากตำรวจและเหล่ายาม

ไม่มีอาวุธสำหรับการปิดล้อม

กำแพงเมืองอยู่ในสภาวะที่ดีเยี่ยม

ระยะเวลาที่จะได้รับการป้องกันจากวิหารเฟรย่าจะสิ้นสุดลง ในอีกห้าวัน

ในเวลาอีกเพียงห้าวันการป้องกันจากวิหารเฟรย่าจะสิ้นสุด จากค่าอุทิศตนแก่สาธารณะของเขา วีดสามารถเข้าพบอัลเวรอนได้

"ข้าต้องการเข้าพบผู้สืบทอดตำแหน่งสันตะปาปา"

ถึงเวลาที่จะต้องกล่าวด้วยความเคารพ เค้ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับอัลเวรอนจากเควสที่เขาทำสำเร็จ สำหรับเขาแล้ว อัลเวรอนเหมือนกับเพื่อนคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะว่าค่าอุทิศตนแก่สาธารณะทำให้เขาสามารถพบกับอัลเวรอนได้

"มาคิดว่าท่านวีดตามหานักบวชเช่นตัวข้า ท่านมีอะไรต้องการให้ข้าช่วยอย่างนั้นเหรอ?"
"นี่คือโมราต้าใช่ไหม? สถานที่ที่อัลเวรอนและข้าได้ช่วยเหลือเหล่าผู้คนจากการพิชิตแวมไพร์ใช่มั้ย?"
มันเป็นเรื่องที่ดี ภายใต้ข้ออ้างในความเจ็บปวดจากเควสท์ที่เขาได้ทำร่วมกัน ค่าความสนิทสนมของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น

"เทพีแห่งเฟรย่าได้ทิ้งรอยประทับที่มองไม่เห็นไว้ในอาณาจักรโมราต้า ดวงประทีปแห่งความหวังนั้นได้นำพาแผ่นดินมาซึ่งความมั่งคั่งและความสงบสุข ใช่ไหม? สำหรับโมราต้า เทพีแห่งเฟรย่าถือเป็นเทพแห่งความหวัง"

"ท่านวีด ข้ารู้สึกดีใจที่ท่านคิดเช่นนั้น"
"มันค่อนข้างลำบากสักหน่อยที่ข้าจะพูดให้ชัดเจน ถ้างั้นข้าจะพูดตรงๆเลยละกัน ช่วยเพิ่มระยะเวลาในการปกป้องโมราต้าของวิหารเฟรย่า"

วีดอยากจะพูดมากกว่านี้อีกสักหน่อย แต่อัลเวรอนพูดขึ้นมาก่อนที่เค้าจะได้พูด

"อย่างไรก็ตามนี่มันไม่ใช่ทางตอนใต้ใช่ไหม? และกระทั่งว่าที่พระสันตะปาปาอย่างอัลเวรอน ระยะทางจากโมราต้านั้นช่างมาก..."
มันสุดความสามารถที่เค้าจะลองพยายามอีกรอบ
"เราได้ต่อสู้และหลั่งเลือดด้วยกันใช่ไหม?"
ความเกี่ยวดองญาติมิตร
"วิหารเฟรย่าได้สั่งสอนหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิต"
การสอน
สาธารณรัฐเกาหลีมีสายใยที่แยกกันได้ยากของสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นวีดใช้กานสอนเป็นข้อแก้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความที่อัลเวลอนนั้นซื่อสัตย์มากจะไม่ยอมรับสินบนแน่นอน
"ข้าขอโทษ, เทพธิดาเฟรย่าต้องการมากกว่าที่จะแค่ช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามมีผู้คนที่ทุกข์ยากอีกหลายแห่งที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่านี้ ดังนั้นเราเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์และเราเหล่านักบวชจะต้องออกในวันเวลาที่กำหนด"

พวกเขากินอยู่กันฉันเพื่อน แต่มันเหมือนกับเค้าขอซื้อข้าวจากอีกฝ่ายโดยไม่จ่ายเงินเลยสักบาทและเขาถูกปฏิเสธ เป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

"เพื่อที่จะได้รับการปกป้องโมราต้าโดยเฟรย่า ให้นานขึ้นนั้น มันขึ้นอยู่กับความสำเร็จที่คุณได้ทำให้กับทางวิหาร"

ตามเลเวลของค่าอุทิศตนแก่สาธารณะ เขาสามารถได้รับเครื่องมือและสมบัติหายาก วีดรู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง แต่มันเป็นที่พึ่งเดียวสุดท้ายของเขา โมราต้ามีการพัฒนาที่เจริญก้าวหน้าแต่มีกำลังทหารที่อ่อนแอมาก มันไม่มีกองกำลังทหารและอัศวินที่เพียงพอจะไปรบในสงครามจริง อัลเวรอน ทำสัญลักษณ์ของกางเขนและน้อมตัวคำนับ

"มันคงจะไม่มีปัญหามากสำหรับท่านวีด เนื่องจากท่านอุทิศตัวอย่างมากต่อวิหารเฟรย่า แต่มันคงจะเป็นเรื่องยากแม้ว่าจะให้ข้าเข้าไปถามก็เถอะ. ท่านคิดว่าท่านต้องการการปกป้องจากวิหารเฟรย่านานขึ้นอีกเท่าใด?"

ตึ๊ง!

ค่าอุทิศตนแก่สาธารณะต่อวิหารเฟรย่า : 13,290
สำหรับการอารักขาจากวิหารเฟรย่า, ต้องใช้ค่าสาธารณะ 110 ต่อวัน

เขาจำเป็นต้องใช้ค่าสาธารณะจำนวนมหาศาลเพื่อให้ทางวิหารเฟรย่าส่งบาทหลวงและพาราดินจำนวนมากมายังโมราต้า

วีดน้ำตาคลอเบ้า เค้าวางแผนที่จะใช้ค่าทางสาธารณะเพื่อไปซื้ออาวุธและเกราะป้องกันระดับสูงจากทางวิหาร

"อัลเวรอน ข้าต้องการให้ทางวิหารเฟรยาอยู่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้... เพื่อปกป้องข้า"

เค้าจำเป็นต้องซื้อมัน!

"ท่านต้องการให้ทางวิหารเฟรย่าปกป้องอาณาจักรโมราต้าโดยใช้ค่าทางสาธารณะรึ?"

"อื่อ ใช่"

"นักบวชจากทางวิหารจะอยู่เพิ่มอีก 120 วันแต่ด้วยความที่ท่านวีดได้มาขอกับข้าโดยตรง ข้าจะขอพวกเขาเพิ่มให้อีก 30 วัน"

อัลเวรอน ให้โบนัสแก่เขาด้วยความสุภาพอ่อนโยนอีก 30 วัน!

วีดกอดเขาทีหนึ่ง

"น้องชาย!"

วิหารเฟรยาทำให้กองกำลังอื่นๆต้องถอยร่นออกไป

แต่เวลาใกล้จะมาถึงแล้ว

***

เช้าวันต่อมาลีฮุนเริ่มที่จะเตรียมข้าวของและวางกล้องวิดีโอ ในกระเป๋าของเขา

"เกาะเจจู.... เกาะในฝัน รีสอร์ทที่ดีที่สุด! ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าฉันกำลังจะได้ไปเกาะเจจู"

อันฮุนโดได้โทรหาเขา พวกเขาได้เปิดสำนักแห่งใหม่บนเกาะเจจู และท่านเจ้าสำนักต้องการให้เขาไปดูมัน นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับลีฮุน

"เรากำลังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรจะบันทึกระหว่างการเดินทาง แต่พอคิดว่ามันเป็นเกาะเจจู"

เกาะเจจู แม้เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับคนอื่น มันไม่ดูด้อยกว่าเลยสักนิด

มันมีสภาพแวดล้อมที่ดูเป็นธรรมชาติ มีภูเขาฮัลลาสีฟ้าใส มีเหล่าฝูงม้า และทะเลที่เขาสามารถที่จะบันทึกได้

"นี่มันเป็นความสำเร็จ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถไปที่เกาะเจจูได้ เราเอาพาสปอร์ตไปด้วยดีกว่า"

ลีฮุนวางพาสปอร์ตลงในกระเป๋าของเขา

อันฮุนโดกล่าวว่าเขาจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อที่จะขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน เขาได้รับจดหมายรับรองและรูปภาพต่างๆเพื่อที่เค้าจะสามารถไปสำนักในต่างประเทศได้ โดยปกติแล้วคนมักจะรู้สึกกังวลเมื่อเขานึกถึงเรื่องนี้แต่เขาไม่มีความจำเป็นต้องกังวลในเรื่องเหล่านี้เลยสักเล็กน้อย

ตั๋วเครื่องบิน สัมภาระ และอาหารทุกอย่างต่างก็ฟรี

"พี่คะ ดูแลตัวเองด้วย"

"ได้ พี่จะไม่ลืมที่จะหาของฝาก"

น้องสาวของเขาเดินทางมาพบลีฮุนที่กำลังจะออกเดินทางที่สนามบินอินชอน

พนักงานภาคพื้นดินต่างก็ยุ่งอยู่กับการบอกชาวต่างชาติว่าสัมภาระของพวกเขาอยู่ตรงไหน

"มันเป็นแบบนี้เอง..."

นี่มันเป็นโลกใบใหม่สำหรับลีฮุน

เขามาก่อนเวลาที่เขานัดพบกับจองบอมอา 30 นาที

"อ่อ นายอยู่นี่นี่เอง"

"ใช่แล้วครับศิษย์พี่ ผมมาก่อนเวลา"

"นายมีพาสปอร์ตไหม"

"พาสปอร์ต?"

ลีฮุนรู้สึกงุนงง

เขาไม่เข้าใจ เนื่องจากมันจำเป็นก็ต่อเมื่อคนๆนั้นต้องการเดินทางออกจากเกาหลี

"คุณต้องใช้พาสปอร์ตในการเดินทางไปเกาะเจจูเหรอ?"

จองบอมอารีบตอบคำถามของเขา

"ก็พวกเราต้องขึ้นเครื่องบิน"

ลีฮุนมีความรู้คร่าวๆว่ามันเป็นยังไงในการขึ้นเครื่องบิน

ผู้คนต่างจะรู้ได้ว่ามันเป็นอย่างไรถ้าเขาได้ดูหนังหรือภาพยนตร์

"ผมเข้าใจละ มันต่างจากการเดินทางสาธารณะอย่างรถบัส และที่ผมไม่สามารถขึ้นไปได้"

"นี่มันเครื่องบินนะ"

ลีฮุนและจองบอมอา ไม่ได้มีสัมภาระอะไรมากมายมีเพียงแค่กระเป๋าใบเล็กๆ ลีฮุน ตรวจสอบตั๋วของเค้าซึ่งทั้งของเขาทั้งคู่กล่าวว่า ไคโร, อียิปต์

"ศิษย์พี่!"
"อะไรรึ"
"เครื่องบินจะเดินทางไปไคโร?"
ลีฮุนเคยได้ยินคราวๆเกี่ยวกับเมืองอียิปต์อยู่บ้าง
"เครื่องบินนี้ไม่ได้กำลังจะไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหรอ?"
"..."
หน้าตาของผู้โดยสารอื่นๆต่างก็ดูไม่น่าใช่คนในบ้านเมืองนี้
'เค้าไม่รู้ได้ยังไง?'
'หรือเค้าไม่รู้แม้กระทั่งอียิปต์อยู่ตรงไหน?'
"เท่าที่นายรู้คือพวกเรากำลังจะไปเกาะเจจู"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
"เครื่องบินที่บินตรงไปยังเกาะเจจูราคาแพง"
"งั้นคุณกำลังจะบอกผมว่า... มันเหมือนกับการขึ้นรถบัสแล้วจอดระหว่างทาง"
เรื่องนี้ฟังดูแล้วบ้าบอคอแตกมากสำหรับผู้คนที่อยู่หน้าบอร์ดดิ้งเกต ที่จะบอกว่าเกาะเจจูเป็นจุดหยุดระหว่างทางที่จะไปอียิปต์!

อย่างไรก็ตาม จองบอมอาดูหน้าตาอันธพาลและมีสายตาที่น่ากลัวจึงไม่มีใครกล้าหาญพอที่จะบอกความจริงกับเขา ลีฮุนจึงเดินเข้าไปในเครื่อง พร้อมออกบิน

หลังจากที่เครื่องขึ้น พนักงานบนเครื่องบินเริ่มที่จะเดินไปรอบๆเพื่อบริการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม

พวกเขาเดินผ่านบริเวณที่ลีฮุนและจองบอมอาไปเฉยๆ ทันทีที่พวกเขาขึ้นเครื่องเสร็จพวกเขาก็หลับสนิทในทันที เขาทั้งสองเดินทางผ่านทะเล ของเอเชียกลางที่ซึ่งเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังไคโร

***

สนามบินไคโร

ฤดูร้อนนั้นมีอากาศที่ร้อนในเกาหลี แต่เทียบไม่ได้เลยกับอียิปต์
อากาศที่ร้อนและแสงแดดที่แรงทำให้เหงื่อออกบนใบหน้าของพวกเขา
ไม่มีร่องรอยเลยว่านี่เป็นสนามบินของเกาหลี เนื่องจากมีแต่ชาวอียิปต์สวมใส่ผ้าโพกศรีษะ เขาไม่ได้โง่ขนาดที่จะเชื่อว่านี่มันคือเกาะเจจู

"ศิษย์พี่! ผมคิดว่านี่มันผิดที่นะ"
มีความสงสัยมากมายอยู่ในสายตาของลีฮุน
เค้านอนหลับตอนอยู่บนเครื่อง และคิดว่าเค้ากำลังจะไปเกาะเจจู
หลังจากเดินตามไปกับเหล่าชาวต่างชาติ พวกเขามาถึงจุดตรวจคนเข้าเมือง
จองบอมอากล่าวว่า
"มันมีเสี้ยวหนึ่งของความจริง... มันเป็นธรรมเนียมที่สำนักจะต้องส่งสมาชิกของเขาไปพบโลกแห่งความเป็นจริง"

"..."
"พวกเราวางแผนการเดินทางนี้อย่างรอบคอบมานานแล้ว"
พอมาคิดว่าเขาต้องมาอยู่ในที่ไหนก็ไม่รู้แบบนี้ สุดท้ายทุกอย่างก็ไขกระจ่าง เขาโกรธจองบอมอาไม่ลง มันมีหนทางที่จะเรียนวิชาดาบมากกว่าเพียงแค่ความแข็งแรงของร่างกาย เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจะต้องตื่นตัวเพื่อที่จะกวัดแกว่งดาบ

การเดินทางไปต่างประเทศเพื่อที่จะเรียนรู้อย่างถูกต้องในวิถีแห่งดาบ! แม้ว่าหลังจากละทิ้งการเดินทาง แม้ว่าจะประสบปัญหาต่างๆ ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจ

มากไปกว่านั้น นี่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศ เค้าไม่เคยมีโอกาสที่จะเห็นโลกภายนอกประเทศเกาหลี
ลีฮุนถามเพื่อยืนยัน
"ทั้งหมดนี้... ฟรีใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว ทั้งหมดนี้ฟรี"
"ฟิ้ววว"
ลีฮุนแสดงท่าทีโล่งอก
แม้ว่ามันจะดูน่ารำคาญใจและยุ่งยาก แต่เพราะมันฟรี เขาเลยไม่รู้สึกโกรธ
"ทุกอย่างฟรีหมด ฉะนั้นโล่งใจและก็สนุกไปกับมันเถอะ.  คูฮฮาฮาฮาฮา! มันเป็นการผจญภัยและมีคนอื่นจ่ายตังค์ให้ ถูกใจจริงๆ"
"พวกเราจะไปที่ไหนกันดี?"
"ตอนนี้ พวกเราจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์"
เฮลิคอปเตอร์รอพวกเขาอยู่ที่สนามบินไคโร
พวกเขาบินผ่านอากาศที่แห้งและทรายของทะเลทรายซาฮาร่าในอียิปต์ เพื่อที่จะไปดูสิ่งก่อสร้างอันงดงามที่สร้างจากอิฐและหิน

***

แอฟริกาเหนือ

รถจี๊บขับเคลื่อนสี่ล้อสองคันพร้อมสำหรับลีฮุน และจองบอมอา
รถจิ๊ปมีหลังคาเปิดประทุน และมีผ้าปิดที่ทำจากหนังซึ่งสามารถเปิดและปิดได้อย่างง่ายดาย
"ศิษย์น้อง"
"ครับ ศิษย์พี่"
"นายรู้วิธีขับรถไหม?"
"ผมไม่เคยขับรถมาก่อน แต่ผมเคยขี่มอเตอร์ไซค์บ้าง..."
เค้าไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เค้าเคยขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อส่งอาหารแก่ร้านอาหารจีนอยู่ครั้งหนึ่ง
"คุณมีซักอันไหม?"
"มันไม่จำเป็นเพราะว่าที่นี่ไม่มีตำรวจจราจร ขอแค่อย่าไปชนอะไรเท่านั้นหละ"
จองบอมอาโยนกุญแจรถให้กับเขา
"ป่ะ สตาร์ทมัน"
ลีฮุนนั่งที่ที่นั่งคนขับ เขาเสียบกุญแจเข้าไปยังช่องสตาร์ท
คูวววววฮฮาฮาฮาฮาฮ่าาาา!
เครื่องยนต์ถูกสตาร์ท เครื่องยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อสำหรับเดินทางผ่านทะเลทราย!
รถจี๊ปนี้ดูช่างมีพลังที่น่าเกรงขามถึงแม้จะดูไม่เข้ากับมันก็เถอะ
ข้างหลังที่นั่งคนขับเต็มไปด้วยอาหาร น้ำ น้ำมัน เต็นท์ และสิ่งของต่างๆรวมถึงหนังสือเกี่ยวกับแอฟริกา และยังมีกล่องยาสีขาววางซ้อนอยู่ด้านบน
"ดีเลย เริ่มกันเถอะ!"
จองบอมอาสตาร์ทเครื่องยนต์ของขาวและมุ่งหน้าออกไปสู่ทะเลทรายก่อน
รอรถยนต์เตะฝุ่นฟุ้งกระจาย
"ฉันจะไป!"
ลีฮุนเหยียบไปที่เบรค
รถเคลื่อนไหวอย่างไม่ถูกต้อง!
"คันเร่งมันอยู่ทางซ้ายหรือทางขวาอะ?"
ลีฮุนค่อยๆปล่อยขาของเขาแล้วเหยียบเข้าไปที่คันเร่งทางขวา รถกระโดดและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
มันเป็นสถานที่ที่น่าอัศจรรย์สำหรับมือใหม่หัดขับ
มันไม่มีเลนและคุณสามารถจอดตรงไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ
พวกเขาผ่านกองทรายมากมาย แมงป่องทะเลทราย และกระทั่งโอเอซิส
สายลมผสมกับทรายเกิดระหว่างทางที่รถทั้งสองมุ่งหน้าไปเคียงข้างกัน
แท๊งงงงงงงงงง!
ดูวดูวดูวดูว
มีกลุ่มที่กำลังขี่ม้าและยิงปืน
ลีฮุนขับรถจี๊ปขนาบข้างจองบอมอา
ลีฮุนถูกถามจากเครื่องส่งรับสัญญาณ
"ศิษย์พี่ พวกเขาเป็นใคร?"
-พวกเขาอาจจะเป็นกลุ่มโจร หรือฝ่ายทหาร
"พวกเขาจะโจมตีเราหรือเปล่า?"
-ไม่เป็นไรหรอก ทางสำนักได้ติดต่อสถานที่นี้ไว้แล้ว เพราะเขาจะไม่โจมตีรถที่ถูกทำเครื่องหมาย
รถของลีฮุนมีภาพเป็นรูปธงสีแดงติดอยู่
กลุ่มขี่ม้าติดอาวุธจะไม่โจมตีตามที่จองบอมอาได้กล่าวไว้ แต่พวกเขาได้เข้ามาใกล้คล้ายกับเป็นผู้คุ้มกัน รถจิ๊บสองคันเดินทางผ่านทะเลทรายและพวกเขาเห็นนักท่องเที่ยวอยู่บนอูฐ ลีฮุนเอาเครื่องบันทึกออกมาบันทึกการเดินทางในรถ บ้านเรือนถูกสร้างจากโคลนและฟางข้าวในเมืองแรกที่เขาได้พบกับเด็กรูปร่างผอม พวกเด็กๆมีผิวดำและพวกเขากำลังเล่นลูกบอล เขารู้สึกถึงพละกำลังของพวกเขาผ่านการแสดงออกของพวกเขา! ลีฮุนและจองบอมอา ไปพบกับหมอประจำหมู่บ้านเพื่อมอบหนังสือและกล่องยา
"ดี... ลงชื่อตรงนี้"
"..."
คุณหมอกล่าวขอบคุณพวกเขาตอนที่รับของ

หญิงชราสูงอายุเดินเข้ามาและให้สร้อยคอแก่พวกเขาซึ่งทำมาจากไม้และหินสำหรับความช่วยเหลือ

ลีฮุนถาม
"นี่มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?"
"อาจารย์มาที่นี่กับทัวร์แอฟริกาเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว"
"กล่องยานี้หนึ่งกล่องจะสามารถช่วยเหลือคนได้ประมาณกี่คน"
"น่าจะประมาณ 600 คนละมั้ง?"
"ช่างมากมายเหลือเกิน"
"ในประเทศเกาหลี ยาทั้งหลายแทบทั้งหมดถูกบรรจุไว้ในขวด แต่ที่นี่มีเด็กๆกำลังจะตายอยู่ทุกที่"
ในเต๊นท์พยาบาลเล็กๆที่ซึ่งเราเด็กๆนอนเรียงกันอยู่
เด็กทุกคนที่เข้าแถวรับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยกล่าวขอบคุณกับคุณหมอ
เด็กๆจากหมู่บ้านข้างๆจะเข้ามารับการฉีดวัคซีนแล้วจึงเดินทางกลับ

จากนั้นก็เป็นหมู่บ้าที่สองและหมู่บ้านที่สาม

ในหมู่บ้าน หมู่บ้านอื่นๆได้รับการพยาบาล เท่าที่พวกเขาได้แบ่งปันยา

มีกลุ่มคนคอยเฝ้าระวังผู้บุกรุก แต่ไม่ค่อยมีคนภายนอกมา เนื่องจากพวกเขาอยู่บนหน้าผาสูงชันเป็นเวลานานแล้ว

"ศิษย์พี่ ชีวิตในทะเลทรายช่างยากลำบากยิ่งนัก"

"ภูมิประเทศที่เป็นหินแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และมันดูคล้ายกับทรายในทะเลทรายของทะเลทรายซาฮาร่า มันไม่สามารถนำมาเทียบได้กับความกว้างใหญ่ของทั้งภูมิภาค"

จองบอมอารู้เกี่ยวกับโลก

ทรายของทะเลทรายซาฮาร่าแตกต่างกับที่คาดคิดไว้เนื่องจากมันเป็นทะเลที่เต็มไปด้วยทรายสุดลูกหูลูกตา แผ่นดินถูกครอบคลุมไปด้วยทรายเต็มไปหมด พวกมันจะจมลงไปไม่ลึกเนื่องจากทางรางนั้นมีก้อนกรวดและก้อนหินอยู่ มีต้นไม้ใหญ่มากมายอยู่ข้างๆและพุ่มไม้รวมถึงหินขนาดใหญ่เท่าบ้านตลอดระยะทาง การเดินทางมาเยี่ยมเยือนแอฟริกาสามารถช่วยชีวิตคนได้นับพัน!

สามวันหลังจากที่พวกเขามาถึง พวกเขาเดินทางกลับไปยังทะเลทรายและพวกเขาได้รับการคุ้มกันโดยกองกำลังทหารติดอาวุธ ตลอดทางที่รถผ่านหุบเขา เขามองไปยังเส้นขอบฟ้าและหลังจากนั้นร่างกายเขาเริ่มสั่นอย่างรุนแรง ในยามค่ำคืนอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็วดังนั้นเขาต้องการเสื้อผ้าที่หนาๆ ลีฮุนใส่น้ำเผื่อต้มในขวดที่ทำด้วยไม้พร้อมเปิดหัวตะเกียงแก๊ส ภายใต้แสงจากทางช้างเผือก เค้าดื่มกาแฟกลางทะเลทราย!
"น้ำตาลซักช้อนสองช้อน"
ลีฮุนเปิดเครื่องรับวิทยุเพื่อฟัง
มีรายการพูดคุยด้วยภาษาที่ไม่รู้จักและหลังจากนั้นก็เริ่มมีเสียงดนตรี เค้าเคยได้ยินมันสองสามทั้งในเกาหลี และมันคือเพลงของ จอง เฮียว ริน 'A Dialogue of Eyes' ในภาษาอังกฤษ
ผู้แปล: Dinako

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

19 ความคิดเห็น:

  1. ช่างทำกันได้น่ะอาจารย์ ทะเลทราย

    ตอบลบ
  2. ฮุนไหนๆนายก็มาแล้วไปถ่ายเซลฟี่ในพีระมิดบ้างนะ ถ้าว่างๆนะ
    ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ครับ

    ตอบลบ
  3. สองเดือนที่ไม่ได้เกบเวล ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  4. แกโดนหลอกไปใช่ไหม

    ตอบลบ
  5. แกโดนหลอกไปใช่ไหม

    ตอบลบ
  6. ไม่ได้เก็บเลเวลก็ไม่เป็นไรมีตัวช่วยเป็นว่าที่ภรรยาที่กำลังตะลุยกวาดล้างมอนเตอร์โดยไม่พักอยู่มันกลับมาตอนนั้นคงเลเวลสูงที่สุดในเกมเลยมั้ง

    ตอบลบ
  7. อยากรู้จริงๆว่าถ้าเอาไฟล์วีดีโอนี้ให้ศาสตราจารย์ดู แล้วศาสตราจารย์จะว่ายังไงกันบ้างนะ : 3

    ตอบลบ
  8. ไปถึง อียิปต์ทั้งที ยังจะเจอเพลงคน สาวที่มาชอบ ในที่แบบนี้มันก็ออกจะ พรหมลิขิตไปหน่อยนะ

    ตอบลบ
  9. ได้เดินทางไปในสถานที่ไม่คาดคิด ฮ่าๆ เอาเถอะประสบการณ์ใหม่ๆเผื่อเจออะไรเด็ดๆ

    ตอบลบ
  10. อยากอ่านตั้งแต่ตอนแรกใหม่ มีที่ไหนให้บ้านบ้างอะ ��

    ตอบลบ
  11. ขอบคุณสำหรับการแปลดีๆค่ะ

    ตอบลบ
  12. ขอบคุณเสมอมากับผู้แปลทุกๆท่านครับ

    ตอบลบ
  13. เพลงกิ๊กเก่าตามมาหลอกหลอนถึงอีหยิบ 555

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...