วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เล่ม 17 ตอนที่ 7 ชีวิตของเด็กสาว แปลโดย Pit

เล่ม 17 ตอนที่ 7 ชีวิตของเด็กสาว แปลโดย Pit
วีดนำหนังของคิงไฮดราและอิมูกิออกมา
แม้ว่าหลังจากการนำไปทำตุ๊กตาที่เป็นรูปสัตว์และรูปเด็กจะประสบความล้มเหลว แต่มันก็ยังเหลืออยู่มาก
เขาเก็บส่วนที่ดีที่สุดของหนังสัตว์ไว้เท่านั้น
เป็นธรรมดาที่งานศิลปะจะแย่ในการทำครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งต่อมาจะสมบูรณ์ขึ้นและสมบูรณ์แบบในที่สุด
แต่ว่าประติมากรที่ไม่มีความรู้สึกในการทำผลงาน ยังไงก็ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาผ่านงานประติมากรรมได้อยู่ดี

เขาเก็บวัสดุที่มีคุณภาพดีที่สุด ในกรณีที่เขาจำเป็นต้องใช้สำหรับทำงานประติกรรม!
 “เราสามารถทำตุ๊กตาอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้สัก 40 ตัว หวังว่าคงจะพอนะ
วีดตัดหนังสัตว์และเริ่มทำประติมากรรมเด็กทารก
เป็นเด็กทารกที่เกิดได้ไม่นานเท่าไหร่
มีผิวหนังเหี่ยวย่นและมีใบหน้าดูขี้หงุดหงิดเหมือนทารกจริง ๆ
มีขนาดตัวที่เล็กมาก แบบที่สามารถประคองด้วยมือข้างเดียวได้
 “ชีวิตที่เพิ่งเกิดเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เป็นครั้งแรกของทารกตัวน้อย ๆ ที่ลืมตามองดูโลก หลังจากออกมาจากครรภ์มารดาของเธอ

วีดได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมันโดลและภรรยาของเขามา ดังนั้นเขาคิดถึงอารมณ์ความเป็นพ่อแม่ในขณะที่ทำตุ๊กตานี้ขึ้น
แต่ก็ยังคงเป็นทารกที่ไม่ได้มีความพิเศษใด ๆ
 “เรียบร้อย ตอนนี้ตัวแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
วีดวางตุ๊กตาตัวแรกลงและหยิบหนังสัตว์ขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนนี้ วีดต้องการที่จะทำตุ๊กตาตัวที่สอง
วิธีการเคลื่อนไหวมือของวีด นั้นเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน
 “ทารกจะเริ่มเดินตอนอายุหนึ่งขวบ ผ่านการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นับเป็นช่วงที่พ่อแม่มักจะกังวลเกี่ยวกับลูกน้อย
เขามุ่งเน้นในการทำตุ๊กตา ในขณะที่คิดถึงความเป็นไปได้ในอนาคต
 “หล่อนต้องการเสื้อผ้าด้วยสินะ
เขาปกปิดตุ๊กตาทารกด้วยแผ่นผ้าทำความสะอาด(แพมเพิร์ส?)ในก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขาต้องเย็บชุดของเด็กทารก
ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงกำลังหัวเราะ เมื่อเธอมีปาร์ตี้วันเกิดเป็นครั้งแรก!
 “ตอนนี้พ่อแม่ของเธอตระหนักถึงช่วงของการเจริญเติบโตที่มากขึ้น
ต่อไปตุ๊กตาเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม
เธอสูงขึ้น นิ้วมือและนิ้วเท้ายาวมากขึ้น
วีดเพิ่มผมที่ถูกถักเป็นเปียเข้าไปให้เธอด้วย
 “เธอเรียนรู้การพูด และในช่วงอายุนี้เธอเริ่มกลายเป็นสาวน้อยตัวแสบ
ตุ๊กตาตัวที่สี่ เขาทำให้เธออยู่ในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนอนุบาล
ตุ๊กตาเด็กนักเรียนตัวน้อยใส่เสื้อผ้าและสะพายกระเป๋าอันน่ารัก
ตุ๊กตาตัวที่ห้าโตขึ้นมากกว่าเดิม และตอนนี้เธอมีอายุพอจะเข้าโรงเรียนประถม
กระทั่งตอนนี้ เธอเริ่มจะดื้อรั้นปากแข็งและทำอะไรผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างน่ารัก ตุ๊กตาตัวที่หก มีบางส่วนแสดงออกถึงเสน่ห์ของความเป็นเพศหญิง

 “เธอโตขึ้นมาเป็นเด็กหญิงผู้มีรอยยิ้มงดงาม และเด็กผู้ชายรอบ ๆ ข้างบางคน ต้องการจะกลั่นแกล้งเธอ

ความยากลำบาก วัยรุ่นและความคึกคะนอง เด็กสาวเติบโตขึ้นมาอย่างน่าสนใจ ดวงตาของเธอทั้งคู่เต็มไปด้วยความสนุกสนานร่าเริงที่ยังคงมีอยู่ แต่ตอนนี้ เธอทั้งเติบโตขึ้น เธอสูงขึ้น และดวงตาของเธอกระจ่างใสมากขึ้น
หลังจากนั้นตุ๊กตาตัวต่อไปก็สูงขึ้น สูงขึ้นอีก ผมของเธอก็ยาวขึ้น
จากผมยาวซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบ ก็เปลี่ยนไปเป็นผมสั้นที่มีชีวิตชีวา ทรงผมของเธอก็เปลี่ยนไปอีกหลาย ๆ ครั้ง
 “นี่เป็นการใช้แรงงานที่ค่อนข้างมากเกินไป
เขาซื้อผมมาจากร้านค้าวัสดุตกแต่ง แต่เขาก็ไม่เคยจะรู้สึกเหนื่อยจากความภาคภูมิใจในการทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเอง
ตุ๊กตาตัวที่สิบสี่ สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมและกลายเป็นผู้ใหญ่
เธอโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงและดูเหมือนเธอจะช่างพูดอีกด้วย
แก้มของเธอเป็นสีแดงดั่งดอกกุหลาบและมีการแสดงออกที่น่ารัก ราวกับเธอจะพาแฟนมาแนะนำให้กับครอบครัวของเธอได้ตลอดเวลา

วีดทำเครื่องประดับอย่างเช่น ที่คาดผมและสร้อยคอ เพื่อตกแต่งให้เธอ
ในระหว่างช่วงที่เธอเรียนในมัธยมศึกษานั้น กระเป๋าและยูนิฟอร์มของโรงเรียนก็เพียงพอ แต่ดูตอนนี้สิ เธอเป็นนักศึกษามหาลัย
เขาทำรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าให้เธอ ตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของหญิงสาว
 “เดี๋ยวสิ เราไม่สามารถใช้เงินกับสิ่งไม่จำเป็น!”
เขาถกเถียงและได้ข้อสรุปกับตนเองว่าจะทำเครื่องประดับของเธอจากขนกระต่ายราคาถูก ดังนั้นเธอจะมีกลิ่นอายความสุภาพชนแบบนักศึกษาหญิง
เครื่องประดับที่เข้ากันดีกับการแสดงออกโดยรวมของเสื้อผ้า ออร่าและกลิ่นหอม//น้ำหอม//
ทำราวกับเขากำลังดูแลลูกของตัวเอง ลูกที่เป็นนักศึกษามหาลัยผู้น่ารักและเป็นคนจริง ๆ
เขาใช้เวลาในการแกะสลักนานเกินกว่าที่คาดไว้ แต่วีดยังโฟกัสกับทุกสิ่งของเขาต่อไป เขาไม่สนอย่างอื่น ในขณะนี้
จากตุ๊กตาตัวที่สิบเจ็ดไป ราวกับจะแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเวลาที่ไหลผ่านได้ จากเด็กทารกตัวน้อย จนถึงตอนนี้ เธอต้องได้รับการดูแลเพื่อหางานทำในอนาคต
ตุ๊กตาตัวที่สิบแปด ออกไปทำงานบริการเพื่อชุมชน
ตุ๊กตาตัวที่สิบเก้าปรากฏซึ่งแฟนหนุ่ม และตุ๊กตาตัวที่ยี่สิบก็มีการจัดงานแต่งในท้ายที่สุด
เขาทำตุ๊กตาสามีที่ดูเอาใจใส่และเชื่อถือไว้ใจได้ ทั้งคู่เป็นคู่ที่เหมาะสมของกันและกัน เหมือนดั่งกิ่งทองใบหยก
แขกที่มาร่วมงานซึ่งทำจากขนกระต่ายและขนกวาง มาร่วมแสดงความยินดีกับอนาคตของพวกเขา
ตุ๊กตาตัวที่ยี่สิบสาม ให้กำเนิดทารกตัวน้อย
เธออาศัยอยู่กับครอบครัวเล็ก ๆ ของเธออย่างมีความสุข
เธอล้างจานกับสามีของเธอ ทั้งทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า และออกไปทำงานด้วยกันและอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุข
ช่วงเวลาของตุ๊กตาที่สมบูรณ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่เริ่มมีอายุ ใบหน้าที่สวยงามของเธอเริ่มมีริ้วรอยแห่งกาลเวลาอย่างเด่นชัด

ตุ๊กตาเด็ก ๆ ถูกสร้างขึ้นอาศัยอยู่กับสามี
 “เร็วเกินไปแล้ว ผู้คนพูดว่าชีวิตของคน ๆ หนึ่ง คล้ายกับการเจริญเติบโตของถั่วงอก ที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ แต่ยังคงอยู่และดำเนินไปอย่างรวดเร็วเช่นเดิม
หลังจากผ่านวัยสาว และเวลาที่สดใสดั่งแก้วเจียระไน ที่เป็นตัวเร่งริ้วรอยของเธอ
เมื่อถึงตุ๊กตาตัวที่สามสิบหก เธอใช้เวลาอยู่คนเดียว เป็นเพราะว่าลูก ๆ ของเธอต่างเติบโตมีการมีงานทำกันหมดแล้วและได้แต่งงาน
หลังจากกลายเป็นคุณย่าคุณยาย เธอใช้เวลาไปกับการงีบหลับ อ่านหนังสือหรือแม้กระทั่งถักผ้าพันคอสำหรับหลาน ๆ


หนังอิมูกิและไฮดรา ที่ราวกับมีว่ามากมาย บัดนี้ก็เกือบหมดเสียแล้ว
ตุ๊กตาตัวที่สี่สิบเอ็ดนั้น เป็นไปอย่างมีความสุขและเธอหลับใหลไปอย่างสงบ เป็นช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับครอบครัวของเธอ
***

เสร็จสิ้นสักทีกับการทำตุ๊กตา วีดยังคงนั่งอยู่ที่เดิม และรู้สึกว่างเปล่าเป็นอย่างมาก
ไม่มีหนังสัตว์และไม่มีสิ่งใดมากพอที่เขาสามารถทำได้อีก
กรุณาตั้งชื่อประติมากรรมที่คุณสร้างขึ้น
หน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาในขณะที่วีดยังคงอยู่กับที่โดยไม่แม้แต่จะขยับมีดแกะสลักของเขา
วีดส่ายหัวของเขาไปมา
 “ผมจะไม่ตั้งชื่อ
ถูกแล้ว เขาไม่ได้ต้องการที่จะตั้งชื่อใด ๆ ให้กับรูปปั้น

ผลงานประติมากรรมไร้ชื่อ ประติมากรผู้สร้างอาจไม่เป็นที่รู้จักและอาจนับเป็นงานศิลปะที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ คุณยังจะไม่ตั้งชื่ออยู่หรือไม่?
 “ผมไม่สน ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ตั้งชื่อให้กับสิ่งนี้
ติ้ง!
ประติมากรรมในตำนาน ที่ไม่ได้ถูกตั้งชื่อ
ของขวัญแด่โลกที่มอบโดยประติมากร ผู้มีความมุมานะพยายามที่ดีในการสร้างสรรค์และมีพรสวรรค์ที่แม้แต่พระเจ้ายังอิจฉา!
เขาอธิบายถึงช่วงชีวิตต่าง ๆ ทั้งหมดของมนุษย์ ตั้งแต่เกิดจนถึงวายชนม์ ลงไปในงานประติมากรรมนี้
ประติมากรผู้เปี่ยมไปด้วยทักษะอันสมบูรณ์แบบ สามารถรับรู้ได้จากความบากบั่นในการตัดเย็บของเขา

การตัดเย็บที่ไม่แม้แต่จะเอียงหรือมีส่วนอื่นใดขาดหายเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีใครรู้จักประติมากรที่ทิ้งผลงานศิลปะลึกลับนี้ไว้
คุณค่าทางศิลปะ : นี่เป็นการอวยพรแห่งการแกะสลัก
กลายเป็นส่วนที่จะพัฒนาทักษะทางการแกะสลักของทวีป
คุณสมบัติพิเศษ: ผู้ที่พบเห็นประติมากรรมไร้ชื่อในตำนานนี้
·       อัตราการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตและค่ามานาเพิ่มขึ้น 32 % เป็นเวลาหนึ่งวัน
·       เพิ่มค่าพลังชีวิตและค่ามานาสูงสุดถึง 30 % เป็นเวลาหนึ่งวัน
·       ผลของเวทย์อวยพรจะคงอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งวัน
·       ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20
·       นอกจากนี้ค่าความคล่องตัวและความกล้าหาญเพิ่มขึ้นอีก 7 %
·       ความสามารถในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 30 % ระยะทางมากขึ้น สามารถเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้นกว่าเดิม
·       อัตราการเกิดในเมืองหรือภูมิภาคที่งานประติมากรรมนี้อยู่เพิ่มขึ้น 100 %
·       แนวโน้มของการใช้ความรุนแรงในประชากรพลเรือนลดลง ช่วยให้สังคมมีความเป็นระเบียบ สงบและปลอดภัย แต่การเพิ่มขึ้นของนักรบและทหารตามปกติลดลงแบบมีนัยสำคัญ
·       ค่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 500
·       ความฉลาดและสติปัญญาของมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างถาวรได้ไม่เกิน 15
·       ส่งผลไม่ทับซ้อนกับงานประติมากรชิ้นอื่น
·       งานศิลปะในตำนานที่ยังไม่เสร็จสิ้น
- ความชำนาญในทักษะการแกะสลักเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ความชำนาญในทักษะเกี่ยวกับงานฝีมือเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ความชำนาญในทักษะการเข้าใจเกี่ยวกับงานประติมากรรมเพิ่มขึ้น 1
- จากประติกรแห่งงานประติมากรรมไร้ชื่อ ค่าเชื่อเสียงเพิ่ม 2
- ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 89
- ค่าความอดทนเพิ่มขึ้น 41
- ค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้น 26
- ค่าความฉลาดเพิ่มขึ้น 10
- นอกจากนี้ สำหรับการสร้างประติมากรรมไร้ชื่อในตำนาน ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5
- พรจากรูปปั้น สำหรับการสร้างประติมากรรมที่เกี่ยวกับการเกิดและการตาย ค่าสถานะที่เกี่ยวกับการต่อสู้เพิ่มขึ้น 8 % เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ อัตราการฟื้นตัวและค่ามานาเพิ่มขึ้นสูงสุด 65 %
รางวัลเหล่านี้ทำให้หัวสมองของวีดรู้สึกว่างเปล่าไปเลย
ดูเหมือนว่าจะเป็นกฎตายตัวไปแล้วที่เราจะคิดว่าอาชีพอย่างประติมากร จะเป็นงานที่เลวร้ายสุด ๆ เป็นงานที่เลวร้ายยิ่งกว่าการเป็นนักรบหรืองานอื่น ๆ เสียอีก แต่ก็นั้นแหละ ควรเอาความคิดนั้นโยนทิ้งไปซะ
 “ตรวจสอบทักษะการแกะสลัก!”
การแกะสลักขั้นสูง 7 (65%): สามารถแกะสลัก งานประติมากรอันงดงามที่สามารถขายได้ในราคาสูง ชื่อเสียงขจรขจายไปทุกหนทุกแห่งในทวีป ผ่านงานศิลปะอันโดดเด่น
ดีต่อการสร้างความประทับใจสำหรับผู้หญิง
นับเป็นชั้นแนวหน้าแห่งโลกศิลปะในทวีปเวอร์เซลส์
ประติมากรคนอื่นช่างโชคร้าย ที่ไม่สามารถสัมผัสถึงทักษะของประติมากรผู้พิเศษนี้
การเรียนรู้ทักษะงานแกะสลักเพิ่มขึ้น 29 %
หลังจากการดูแลเอาใจใส่และทุ่มเทความพยายามอย่างมาก วีดก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงการสร้างผลงานของเขา
 “เราก็แค่ทำตุ๊กตา นั่นคือทั้งหมด
วีดเพิ่งจะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง 
ว่านี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเหล่าเด็ก ๆ และคุณผู้หญิงทั้งหลายถึงชอบตุ๊กตานัก
มันเป็นสัญชาตญาณที่จะแสวงหาสิ่งหรูหรา!
แม้ว่าเขาจะทำตุ๊กตาตามคำขอสำหรับหนึ่งทองแดงเท่านั้น แต่ยังมีหลายสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์อยู่มาก
จำนวนของตุ๊กตาที่สำเร็จมีมาก
เขาทำไว้อย่างไม่เป็นระเบียบและใช้พื้นที่บางส่วนในปราสาทเจ้าเมืองเป็นที่ทำงานในครั้งนี้ แต่เขาจะต้องโยกย้ายและจัดวาง เพื่อให้มันโดลและภรรยาของเขาสามารถมองดูได้อย่างสะดวก
เขาสามารถใช้ห้องว่างในปราสาทโมราต้า แต่เขาไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้น
 “จะต้องมีพื้นที่ที่แยกต่างหากสำหรับเด็ก
วีดพึมพำอย่างเงียบ ๆ
 “ ปลดล็อคการสนทนา
ติ้ง!
การจำกัดการกระซิบถูกปลดล็อค
การจำกัดพูดคุยแบบสมาคมถูกปลดล็อค
เมื่อเขากลับมาถึงโมราต้า เขาก็ล็อคการสนทนาทั้งแบบกระซิบและการพูดคุยแบบกลุ่ม
ในรูปแบบการจำกัด เขาไม่สามารถได้ยินหรือเห็นสิ่งใด ๆ จากสมาคม และเมื่อมีใครสักคนกระซิบเขา เขาสามารถได้ยินเฉพาะเมื่อเขาอนุญาตเท่านั้น
ตั้งแต่มีผู้คนจำนวนมากตามหาวีดนั้น เขาก็เริ่มป้องกันพวกเขาไม่ให้มาวุ่นวาย
ซาบีน่า : เร็วเข้า แล้วก็ตบตีมันซะ
เอ็ดวิน : คุณยังตีมันไม่แรงพอนะ
พิน :ว้าววว นั่นทนทานเป็นบ้าเลย
เอ็ดวิน : ผมยังคิดว่าเราเกือบจะทำมันได้แล้ว
ดูเหมือนว่าคนของสมาคมนักเดินทางต่างเต็มไปด้วยความพลุ่งพล่าน เมื่ออยู่ในระหว่างการล่าที่แสนพิเศษ
วีดข้ามผ่านในส่วนของกิลด์ แม้ว่าเขาจะปลดล็อคการสนทนาแล้วก็ตาม มีหลาย ๆ คนที่เป็นนักอ่านเงาอย่างเคย
- มิสเตอร์พาโบ
เขากระซิบถึงสถาปนิกพาโบ เขาได้พบกันในคณะสำรวจทางเหนือ แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงครู่เดียว และนานมาแล้ว แต่เขาไม่เคยที่จะลืมผู้เล่นคนนี้ที่เขาจะสามารถใช้การได้
 ‘เขาเป็นสถาปนิกที่มีฝีมือมาก
สถาปนิกผู้มีความกระตือรือร้น ผู้ทำบันไดเพื่อทิวทัศน์ที่ดีขึ้น สำหรับชมรูปแกะสลักเทพธิดาเฟร์ย่าในโมราต้า คนนั้นคือสถาปนิกพาโบ
- วีด! นั่นใช่คุณหรือเปล่า?
พาโบไม่มีทางที่จะลืมวีดได้เหมือนกัน แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลืม ตั้งแต่รู้จักวีดที่เป็นเป็นเจ้าเมืองโมราต้าแล้ว
- คุณอยู่ที่ไหนหรือ?
- อยู่ในโมราต้า ผมได้ยินข่าวลือว่าคุณกลับมาแล้วและกำลังทำงานแกะสลักอยู่ ส่วนผมกำลังสร้างร้านค้าที่สี่แยก ขอโทษทีนะที่ไม่สามารถไปเยี่ยมคุณได้
- คุณเกือบจะทำงานของคุณเสร็จแล้วหรือยัง?
- เหลือแค่ใส่บานประตูเข้าไปเท่านั้น ถ้ารีบเสียหน่อย คิดว่าน่าจะเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงนะ
- แล้วมิสเตอร์แกสตันล่ะ?
- เขาก็ทำงานอยู่กับผมนี่แหละ ตอนนี้ เขาวาดเพดานและผนังอยู่ แต่เขาเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของงานแล้ว
- นั่นเยี่ยมไปเลย ผมมีคำขอ ผมอยากให้คุณสร้างบ้านให้ผมสักหลังน่ะ
- เจ้าเมืองโมราต้าต้องการบ้าน?
ดูเหมือนกับพาโบจะยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
เพราะว่าวีดมีปราสาทอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องการบ้านเพิ่มอีก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไอเท็ม การนอนหลับพักผ่อนบนเตียง หรืออื่น ๆ ทุก ๆ อย่างสามารถทำได้ในปราสาท
- ที่จริงแล้ว ผมต้องการพื้นที่ที่จะสามารถแสดงผลงานประติมากรรมน่ะ
- โอ้วว แล้วคุณต้องการบ้านที่เป็นโกดังขนาดใหญ่หรือเปล่า?
- ไม่ใช่เป็นโกดังหรอกนะ ผมต้องการให้คุณสร้างบ้าน ที่สามารถแสดงผลงานอยู่แบบเป็นห้อง ๆ มากกว่า
- ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกที่จะทำ แล้วงานประติมากรรมของคุณอยู่ที่ไหน?
- อยู่ในปราสาทน่ะ ผมจะบอกคนเอาไว้ ว่าคุณสามารถเข้ามาข้างในที่ ๆ ผมทำประติมากรรมเอาไว้
- ตกลง ผมจะเข้าไปตอนบ่าย ๆ นะ แล้วจะตัดสินใจค่าใช้จ่ายหลังดูผลงาน
- ขอบคุณ
เมื่อวีดพูดคุยกับพาโบเสร็จแล้ว ก็มีผู้เล่นคนหนึ่งชื่อฮอนกระซิบมาหาเขา
- สวัสดี ผมชื่อฮอนจากคณะเดินทางสำรวจเรือนจำใต้ดิน พวกเราเกือบจะพิชิตดันเจี้ยนสำเร็จแล้ว
- พวกคุณหานักโทษของวิหารมาทัลรอสพบหรือยัง ?
- ใช่ พวกเราพบ และพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว
- ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ ผมจะไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้แหละ
ตอนนี้ วีดต้องการไปที่เรือนจำใต้ดินเพื่อทำภารกิจ
***

แม่น้ำโหยหวนนั้นเชื่อมต่อกับเมืองโมราต้าและประตูเทเลพอต!
นี่คือขั้นที่สอง สำหรับเควสความยากระดับ S ภารกิจการช่วยเหลือนักโทษของวิหารมาทัลรอส กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อวีดกลับไปที่แม่น้ำโหยหวนพร้อมกับเจ้าเหลือง ปรากฏภาพกลุ่มผู้คนชุมนุมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น
 “เห้ย นั่นวีด…”
 “เขาคือคนที่ถูกเรียกว่าเทพสงครามหรือ?”
 “ชู่ววว! เงียบซะ เขาอาจจะได้ยินเสียงแกนะ!”
หลังจากได้รับข่าวจากเพื่อนที่อยู่โมราต้าว่าวีดหยุดทำงานประติมากรรมชั่วคราว และเตรียมตัวจะมายังแม่น้ำโหยหวน ผู้คนก็มาชุมนุมกันที่นี่เพื่อรอพบเขา
มีผู้เล่นเลเวลสูงจำนวนมากในภาคเหนือจ่ายค่าธรรมเนียมและล่าสัตว์ในบริเวณแม่น้ำโหยหวนนี้
บางครั้ง มีปาร์ตี้ต้องการเข้าไปส่วนลึกของภาคเหนือ แต่บ่อยครั้ง หากพวกเขาไม่ระมัดระวังมากพอ สมาชิกทั้งหมดของปาร์ตี้จะถูกล้างบางไปเลย
แม่น้ำโหยหวนเป็นที่ที่สามารถไปขอความช่วยเหลือได้ตลอดและเป็นที่ล่าที่ดี

วีดมองไปรอบ ๆ เหล่าผู้เล่นที่ชุมนุมกันด้วยสายตาเย็นชาและสงบ
 ‘มีผู้คนมากจริง ๆ
ในเมืองโมราต้า เขาดูเป็นเจ้าเมืองที่ค่อนข้างบ้าบอ ที่เอาแต่ขายอาหารหรือไอเท็มต่าง ๆ แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้บนพื้นที่แห่งการล่าแห่งนี้
แล้วในตอนนี้มีหลายคนที่มองมาที่วีดด้วยสายตาท้าทายต้องการแข่งขันกับเขา
ถ้าผู้เล่นระดับสูงเหล่านี้ทั้งหมดโจมตีมาที่วีดเพียงครั้งเดียว เขาก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความตายได้เลย
เพราะว่าเขามีไอเท็มระดับสูง เช่น คัมภีร์เนโครแมนเชอร์ ชุดเกราะทัลลอค โล่โบราณ ดาบปีศาจโคลด์เดอร์ริม(Coldream’s Demon Sword) อื่นๆ เขาจำเป็นต้องตื่นตัวระแวดระวังให้มากขึ้น
 ‘เพราะที่นี่ไม่ใช่เมืองโมราต้าน่ะสิ
ในโมราต้า ไม่มีใครแม้แต่จะคิดฝันที่จะท้าทายวีด เพราะ มีทหารและอัศวิน หากมีใครแม้ชี้ดาบมายังเจ้าเมือง ทหารจะเข้าจับกุมคนนั้นเสีย หรือ อัศวินแห่งเฟร์ย่าจะกำจัดมันซะ
แต่พื้นที่การล่า ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้
ไอเท็มเขาจะดรอปหลังจากการโดนฆาตกรรม
เพื่อที่จะไม่โดนดูถูก วีดมองไปที่กลุ่มคนทั้งยังทำท่าเป็นธรรมชาติ
 “เศษสวะมีอยู่ในทุก ๆ ที่จริง ๆ
 “..........”
ในฝูงชนเกิดความเงียบงันในทันใด
วีดเทพสงครามที่พวกเขาจินตนาการ
นี่มันเป็นความยโสที่เข้ากันพอดีกับความแข็งแกร่งในคอนทิเนนท์ ออฟ เมจิก
 “พวกคุณทั้งหมดหยุดการล่าไว้ เพื่อจะรอพบผม? มอนสเตอร์น่ะ มีอยู่ทุก ๆ ที่นะ จิ๊ ๆ ๆ
วีดจิ๊ปากเขาอย่างเปิดเผยและมองไปที่คนอื่น ๆ
เหล่าคนที่เคยซื้ออาหารหรืองานประติมากรรมจากวีดในโมราต้า รู้สึกประหลาดใจและผงะกับทัศนคติที่ต่างไปของวีด
มันมีความคิดที่เกิดขึ้นกับพวกเขาแล้ว!
 ‘นี่อาจจะเป็นตัววีดที่แท้จริง
 ‘เขาแกล้งทำเป็นนักเล่นเริ่มต้นหรือผู้เล่นเดี่ยว? อย่างไรก็ตามเขากล้าที่จะวิจารณ์ฝูงชน เขาอาจจะเป็นคนแบบอ่อนนอกแข็งในก็ได้
กล้าทำตัวเปิดเผยแบบไม่สนใจเมื่อมีผู้เล่นที่เลเวลมากกว่า 200 รวมตัวกันอยู่
แต่ไหนแต่ไร ผู้คนที่มีเลเวล 300 ขึ้นไป มีความหยิ่งทะนงอย่างมาก
สายสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นและความแข็งแกร่งที่แสดงออกในระหว่างการล่า กลายเป็นเป้าหมายของการให้ความเคารพ
แม้ว่าในทวีปเวอร์เซลล์มีจำนวนผู้เล่นที่น่าทึ่ง เพราะมีขนาดใหญ่ ผู้เล่นระดับสูงก็มี ผู้เล่นระดับต่ำก็มาก หากใครเลเวล 300 ไม่ว่าที่ไหนก็จะไม่ได้รับการเพิกเฉย เขาสามารถเข้าไปในกิลด์ที่มีชื่อเสียง แต่สามารถออกเสียงความคิดเห็นของเขาได้เล็กน้อยในกิลด์ระดับกลางหรือกิลด์ระดับต่ำ
ผู้เล่นระดับสูงมีความหยิ่งยโสและมีภาคภูมิในตัวเอง แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะตอบวีดกลับไป
อาจมีใครในนี้ สักคนที่กล้าจะพูด แต่ว่าเนื่องจากคนอื่น ๆ ยังเงียบ มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะไปตอบโต้
วีดครอบงำฝูงชนด้วยคำพูดง่าย ๆ เพียงไม่กี่คำ
 “ช่างน่าสมเพชอะไรเช่นนี้
 “.........”
ไม่มีคนตอบโต้แม้แต่คำเดียว
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องปกติที่วีดจะพูดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
เขาใจดีในโมราต้า แต่หยิ่งยะโสใส่กลุ่มผู้เล่นระดับสูง
มันเป็นกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ตอนนี้มีใครบางคนเริ่มจะฝันถึงมันบ้างแล้ว
แต่มีบางคนรู้สึกโกรธเคืองที่ยังโดนคำพูดต่อว่าแบบไม่ใส่ใจอย่างต่อเนื่อง เหล่าผู้คนที่แข็งแกร่งเริ่มจะเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ พื้นที่การล่า และปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ออกมา
เพื่อการตายอย่างมีเกียรติ ดังนั้น พวกเขาต้องการที่จะท้าทายวีดอยู่ดี
ท่ามกลางฝูงชนผู้ถูกกดขี่ เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ เกิดขึ้นในอารมณ์
ทันใดนั้น วีดใช้สกิลราชสีห์คำรามขึ้นมา
 “ปิงหลง! ฟีนิกซ์! ทำไมพวกแกไม่ทักทายข้าเสียหน่อยล่ะ เมื่อในตอนนี้ข้ามาถึงที่นี่แล้ว!”
เสียงที่ดังกังวานดั่งสายฟ้าฟาดนั้น
เมื่อได้ยินวีดเรียกขาน ปิงหลงและฟีนิกซ์บินมาหาวีดจากที่ไกล ๆ ด้วยปีกของพวกมันแผ่กระจายออกปกคลุมไปทั่ว
ด้วยขนาดของมังกร พวกเขากำลังหวาดกลัว สิ่งมีชีวิต ที่สามารถทำให้เกิดความเย็นยะเยือกแล่นผ่านไปยังกระดูกสันหลังของบุคคลที่พบเห็นในครั้งแรกได้
ปิงหลงและฟีนิกซ์คำรามครั้งหนึ่งไปทางท้องฟ้า ก่อนจะร่อนลงไปที่ภูเขาหิน
ฮึม โหก!
ก๊าซซซ!
ภูเขาหินเริ่มที่จะปรากฏรอยร้าวและทรายก็เริ่มที่จะร่วงลงมา
 “เจ้านาย ข้าได้ยินเสียงท่านเรียก
 “เจ้านาย ข้าเจ้ามาแล้ว
ปิงหลงปรากฏตัวได้ค่อนข้างเพริศแพร้วเลยทีเดียว เขาเหมือนมังกรตัวอื่น ที่มีแรงดึงดูดบางอย่าง ทั้งมีดวงตาที่แหลมคนและปากที่ปราดเปรียว!
ฟีนิกซ์มีท่าทางไม่แยแสต่อสิ่งใด แต่ยังปรากฏความเย็นชาที่มีลักษณะเฉพาะของสัตว์จำพวกนก และเหมือนระเบิดที่อาจจะเผาผลาญทุก ๆ สิ่งที่ซ่อนไว้อยู่ภายในได้
แต่สิ่งที่เหมือนของปิงหลงและฟีนิกซ์ คือความสุภาพที่แสดงออกโดยการน้อมหัวลงต่ำแสดงความเคารพต่อวีด
 “วู้ววววว
 “นั่นมันน่าเหลือเชื่อ
ฝูงชนรู้สึกถึงกำแพงที่ยากต่อเข้าถึงระหว่างวีด คนที่สามารถควบคุมสองสิ่งมีชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนว่า หากพวกเขาต้องการจะทุบตีฝูงชนก็สามารถทำได้
ขี้บ่น ใจเสาะและใจฝ่อนั้นคือปิงหลง และฟีนิกซ์เป็นตัวปัญหาเพราะว่าเขานั้นโครตโง่ สำหรับผู้ที่ไม่รู้ความจริงระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาและวีดที่เป็นคนจู้จี้และเป็นความทรมานของพวกมัน เขาดูน่าตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย
ไม่มีใครที่อยากจะท้าทายวีดอีก หลังจากที่เห็นปิงหลงและฟีนิกซ์ก้มหัวลงต่ำมายังเขา
 “เจ้างั่ง ข้าเริ่มจะโกรธเมื่อได้เห็นหน้าพวกแก
วีดหน้านิ่วคิ้วขมวด
ปิงหลงและฟีนิกซ์ ดูเหมือนจะยอมรับอย่างเงียบ ๆ ต่อการวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้
 ‘ก็แค่คำพูดที่น่ารังเกียจที่เขากำลังพล่ามออกมา
 ‘แค่เมินเฉยซะก็สิ้นเรื่อง อาจจะมีบางอย่างที่เราทำผิดล่ะมั้ง
วีดยังพูดต่อไป
 “ตัวถ่วงความเจริญที่ไร้ประโยชน์
ปิงหลงและฟีนิกซ์ กลอกตาไปรอบ ๆ อย่างวุ่นวาย พยายามจะรับรู้ถึงอารมณ์ของวีดที่แสดงออกมาอย่างไม่มีมูลความจริง ไม่มีความรู้สึกผิดและไม่มีความเสียใจ
จะมีเหตุผลคอขาดบาดตายเสมอเมื่อเขาตะโกนใส่พวกมัน หากแต่เมื่อพวกมันโต้กลับ การระบายใส่ การตะโกนหรือความจู้จี้ก็ยังคงมีต่อไปอีกนานกว่าเดิม ดังนั้นพวกมันจะไม่ถามหาเหตุผล ในเวลานี้ก็เช่นกัน พวกมันแค่หมอบคลานอยู่กับพื้น และคิดว่า โอ้ว เรื่องปกติก็เท่านั้น!
วีดส่ายหัวของเขาไปมาและมองไปทางปิงหลงและฟีนิกซ์ คล้ายว่าเขารำคาญเต็มทน

ข้าไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเจ้าอีก ดังนั้น ออกไปจากระยะสายตาของข้าซะ!”
ปิงหลงและฟีนิกซ์ กางปีกของพวกเขาและออกบินไป ขณะคิดถึงอิสรภาพไปด้วย
พวกมันบินไปให้ไกลที่สุดที่สามารถไปได้ ก่อนวีดจะเปลี่ยนใจ

พวกมันรีบหนีไป จนภูเขาหินนั้นสั่นสะเทือนจากแรงลมอันโหดร้ายของทั้งคู่
ฝูงชนยิ่งท้อแท้มากขึ้น
มากกว่าการท้าทายหรือส่งจิตวิญญาณการต่อสู้มา ก็คือการที่พวกเขารู้สึกอิจฉาและมีสายตาของความเคารพ
สามารถดูถูกปิงและฟีนิกซ์ที่ไม่มีใครกล้าจะหาเรื่องด้วยไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ระดับนี้ พวกเขาเริ่มที่จะรู้สึกว่า หากจะดูถูกพวกเขาอีกสักหลาย ๆ คนก็คงไม่แปลกมากไปกว่านี้หรอก
วีดมุ่งหน้าไปยังป้อมปราการเอ็มบินยู
***

ภารกิจช่วยเหลือนักโทษแห่งวิหารมาทัลลอส
คุกใต้ดินของป้อมปราการเอ็มบิยูก็มีมอนสเตอร์คลานไปตามเขาวงกตขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมด
 ‘เพื่อการพิชิตดันเจี้ยนให้สำเร็จ มันจะดีกว่าหากมีสองหัวดีกว่าหัวเดียว
ในกรณีที่มีการใช้พิษหรือคำสาป มันจะมีประโยชน์มากหากมีเพื่อนมาอีกสักคนสองคน

พาโบเดินทางไปยังปราสาททมิฬพร้อมกับแกสตัน และยังมีพลั่วไปด้วย
 “คุณมาตามคำสั่งของเจ้าเมืองใช่ไหม?”
ผู้เฝ้าประตูที่ถือหอกถาม
เขาสามารถจำพาโบได้ เพราะว่ามาเยือนที่ปราสาทบ่อยครั้งและมีความสนิทสนมอยู่

 “ใช่ ถูกต้องแล้ว
 “เจ้าเมืองบอกผมว่าจะให้สร้างบ้านเพื่อเก็บผลงานศิลปะของเขาน่ะ
 “งั้นผมจะนำทางคุณไปที่งานประติมากรรมอยู่ก็แล้วกันนะ
 “ขอบคุณ
พาโบและแกสตันเข้าไปในปราสาทและเดินตามคนรักษาประตูไป
พวกเขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าเมืองที่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับอนุญาต
บนผนังไม่มีแม้แต่งานศิลปะธรรมดา ๆ แขวนไว้และพวกเขาไม่พบทองหรือเงินหรือใด ๆ ที่นำมาตกแต่ง
 “ไม่มีอะไรพิเศษเลย
แกสตันพูดออกมาด้วยท่าทางผิดหวัง
เขาที่เป็นศิลปินผู้หนึ่ง ยิ่งเขามองงานศิลปะมากเท่าไหร่ ค่าสถานะหรือความเข้าใจทางศิลปะนั้นก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
คนทำงานเกี่ยวกับศิลปะ มักปรารถนาที่จะคอยมองหางานศิลปะเป็นเรื่องปกติ
 “ห้องนี้แหละ
คนเฝ้าประตูเปิดห้องของท่านเจ้าเมืองที่ถูกล็อคอยู่
ในขณะนั้นเอง!
แสงสว่างสาดส่องออกมาจากภายในห้องในทันใด
คุณได้ค้นพบรูปปั้นในตำนาน
การกำเนิดและการดับสูญ!
คุณคือผู้ค้นพบงานศิลปะนี้เป็นคนแรก งานศิลปะที่แม้แต่คนแคระยังอิจฉาและกษัตริย์ยังต้องการทำสงครามเพื่อที่จะได้มันมา
ประติมากรที่แกะสลักนี้ไม่ต้องการสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักแต่อย่างใด
- สำหรับการค้นพบที่เขย่าโลกนี้ เกียรติยศของคุณได้เพิ่มขึ้น 1,290
- คุณได้รับฉายาแห่ง ผู้คนพบประติมากรรมในตำนาน
หากคุณพูดถึงว่าคุณค้นพบงานประติมากรรมนี้ได้อย่างไรคุณจะได้รับอาหารและเครื่องดื่มอย่างไม่มีขีดจำกัด
ขุนนางและกษัตริย์ผู้คลั่งไคล้ความงดงามจะยินดีต้อนรับการมาเยือนของคุณและต้องการฟังถึงรายละเอียดในเรื่องนี้

เมื่อกี้ที่พวกเขาเปิดประตู ค่าชื่อเสียงที่พวกเขาพยายามกันอย่างอุตสาหะเพื่อจะให้มันมีมากขึ้น กลับเพิ่มขึ้นทีเดียวมากกว่าหนึ่งพัน
หน้าต่างข้อความอีกอันเด้งขึ้นมา ก่อนความคิดต่าง ๆ ของพวกเขาจะเข้าที่เข้าทาง
คุณได้เห็นงานประติมากรรมไร้ชื่อในตำนาน
ดอกไม้แห่งศิลปะ
งานศิลปะที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์
ประติมากรไร้ชื่อผู้นี้ เขาใช้ทักษะสร้างงานประติมากรรมในรูปแบบการเกิดและการตาย ผู้ที่เข้าใจหลังจากการเห็นงานประติมากรรมของเขาจะได้รับเวลาของชีวิตเป็นการอวยพร
อัตราการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตและค่ามานาเพิ่มขึ้น 32 %
เพิ่มค่าพลังชีวิตและค่ามานาสูงสุดถึง 30 %
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20
นอกจากนี้ค่าความคล่องตัวและความกล้าหาญเพิ่มขึ้น
ค่าความคล่องตัวเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเดินทางระยะไกล จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ได้รับความสุขจากของการมีชีวิตอยู่ พลังชีวิตเพิ่มอีกเป็นจำนวน 500 อย่างถาวร
เนื่องจากสติปัญญาของคุณต่ำ คุณไม่สามารถเข้าใจในงานศิลปะนี้
ความฉลาดและสติปัญญาเพิ่มขึ้น 2 อย่างถาวร
เพื่อการเข้าใจในงานศิลปะจำเป็นต้องมองดูและสังเกตในรายละเอียดให้บ่อยครั้ง
สถาปนิกอย่างเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจำเป็นต้องใช้ปัญญากับอะไรแบบนี้
การสร้างตึก เขาต้องรู้เพียงเวทย์มนต์อย่างง่าย
อย่างไรก็ตามค่าความฉลาดและสติปัญญาของเขาก็ไม่เพียงพอต่อการทำการเข้าใจในงานชิ้นนี้อยู่ดี
ในกรณีของพาโบ เขาหยุดอยู่เพียงระดับนี้ แต่ฝั่งของแกสตัน เขาช็อคคล้ายคนโดนฟ้าผ่า

 สำหรับการสังเกตประติมากรรมในตำนานค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 47
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
ในกรณีของนักมายากล นักเรียนสามารถเรียนรู้จากการสั่งสอนของอาจารย์และสามารถเติบโตได้รวดเร็ว
แต่ศิลปินจะสามารถพัฒนาตัวเองจากผลงานของพวกเขาเอง!
ตุ๊กตาที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟดูเหมือนจริงมาก และความจริงที่ว่านั้นเป็นเพียงผิวหนังของตุ๊กตามันดูเหลือเชื่อสุด ๆ
เสื้อผ้าหรือแม้แต่กระดุมมีความถูกต้องดี ไร้ข้อบกพร่องไม่มีที่ติ
 “สำหรับงานศิลปะนี้ นับเป็นความสามารถแท้จริงของวีด
แม้ว่าผู้ทำตุ๊กตาเหล่านี้จะไม่เป็นที่รู้จัก หากแต่ไม่ใช่เจ้าเมืองโมราต้า วีด แล้วจะเป็นใครไปได้อีก
ตั้งแต่ที่ท่านเจ้าเมืองวีดถามพวกเขาเพื่อจะสร้างบ้านสำหรับผลงานศิลปะ มันต้องเป็นเขาแน่ ๆ
พาโบกระซิบไปหาวีดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ
- -คุณ ยุ่งอยู่หรือเปล่า
วีดตอบกลลับอย่างรวดเร็ว
- ไม่เป็นไร คุยได้
- ผมมีบางอย่างที่อยากจะรู้น่ะ
- อะไรหรือ?
- ทำไมคุณไม่เปิดเผยชื่อล่ะ? ผมได้รับชื่อเสียงจากการค้นพบ ขอบคุณคุณนะ แต่...
มันเป็นอะไรที่พาโบและแกสตันรู้สึกขอบคุณมาก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ หากเขาทำงานประติมากรรมนี้ขึ้นมา ทำไมไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ด้วยว่าเขาเป็นคนสร้าง?
ถ้าหากเป็นแกสตัน เขาจะนำผลงานศิลปะในตำนานนี้ออกไปโชว์ให้ทุก ๆ ได้รับรู้ซะ
- เพราะผมอายน่ะสิ
- อะไรนะ? อายอะไรนะ?
- เพราะมันมีข้อผิดพลาดมากและทักษะอันไม่ละเอียดอ่อนมากพอ ผมก็เลยอายที่จะเปิดเผยชื่อ...
- *อ้าปากค้าง*

รู้สึกอายแม้กระทั่งเปิดเผยชื่อหลังจากทำงานประติมากรรมในตำนานแบบนี้!
ลมหายใจของพวกเขาแทบจะหยุดลงจากความเจียมเนื้อเจียมตัวของวีด
ผู้แปล: Pit
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ที่มา: http://japtem.com/lms-volume-17-chapter-7/

ไฟล์: https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM

22 ความคิดเห็น:

  1. อายเฉย ระดับตำนานนะนี้!

    ตอบลบ
  2. วี๊ดดดดดดดดด พูดแบบนี้เหมือนเจียมเนื้อเจียมตัว แต่มันทำร้ายจิตใจของใครหลายๆคนเลยนะครับ !!

    ตอบลบ
  3. ด้านแบ๊วๆ ของวีดก็มีนะ

    ขอบคุณผู้แปลมากครับ. ^^

    ตอบลบ
  4. วีด เอ็งหวังจะให้ คนขอให้สร้างมาตั้งชื่อให้เอ็งละสิ ถูกไหม เพือจะได้รางวัลมากขึ้น

    ตอบลบ
  5. แกอายเป็นด้วยเหรอ วีด........

    ตอบลบ
  6. 5555555 ขำมากกกก วีดอายเป็นด้วยยยย

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณค้าบ แกล้งทำเป็นอายสิวีด มันเป็นแผนอย่าไปเชื่อมานนน

    ตอบลบ
  8. เกิดหน้าบางขึ้นมากระทันหัน

    ตอบลบ
  9. ขออนุญาติ "the flower of artistry" น่าจะแปลว่า "สุดยอดของงานศิลป์" หรือ "ความงดงามของงานศิลป์"

    ประติมากรไร้ชื่อ = ปฎิมากรนิรนาม พอได้ไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ปฎิมากร แปลว่าพระพุทธรูป

      ลบ
    2. ใช่ครับ ขอบคุณ
      ต้องเป็น ประติมากร = ช่างปั้น

      ลบ
  10. สกิลข่มมันมาอีกแล้ว

    ตอบลบ
  11. สกิลข่มมันมาอีกแล้ว

    ตอบลบ
  12. นี่ขนาดแค่เห็นนะยังขนาดนี้ แตปัญหามันต่อจากนี้ต่างหาก ปฏิมากรรมในตำนานอยู่ในบ้านธรรมดาไม่ได้หรอกนะ สองคนนี้อัพสกิลกระจายแน่

    ตอบลบ
  13. เหมือนเพจจะหายไปอ่าครับ

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...