วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 21 ตอนที่ 8 การตอบโต้ท่ามกลางสายฝน ลมพายุและเมฆหมอก แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 21 ตอนที่ 8 การตอบโต้ท่ามกลางสายฝน ลมพายุและเมฆหมอก แปลโดย Cole’s Myth

บาร์ดเรย์ดึงดาบขึ้นมาจากซากของมอนสเตอร์
ทันทีที่เขากระชากดาบออกมา ศพของมอนสเตอร์ก็กลายเป็นสีเทาในทันที
 ช่างยาวนานเหลือเกิน แล้ววันนี้ก็มาถึงซะที
ฉันออกล่าจนเก็บเลเวลได้ 465 แล้ว
นี่ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีแต่ว่ายังมีหนทางที่เร็วยิ่งกว่าที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มเลเวลของพวกเขาได้อย่างง่ายๆ อย่างเช่นการต้อนมอนสเตอร์ทั้งหมดมาอยู่ที่เดียวกัน แต่ว่าบาร์ดเรย์อยากจะต่อสู้แบบโต้งๆมากกว่า
คนทั่วไปสามารถรู้ได้เพียงแค่เลเวลของเขาเท่านั้น แต่ไม่อาจติดตามทราบถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้
 “ได้เวลาที่จะทำให้กิลด์เฮอร์มีสตาสว่างซะที
ถึงเวลาแล้ว ที่จะได้แสดงพลังของกิลด์ที่บาร์ดเรย์ค่อยๆสร้างขึ้นมา
กิลด์เฮอร์มีสกับกิลด์ที่มีชื่อเสียงอีก 93 กิลด์ ได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งกลุ่มสมาพันธมหาอำนาจ(United Supremacy)และเตรียมพร้อมจุดไฟชนวนแห่งสงคราม
กลุ่มสมาพันธมหาอำนาจใช้ยุทธการวอนแท (Wondae Formation) ด้วยการใช้ดาบและเวทย์มนต์ พร้อมมุ่งหน้าไปยังหลายๆกิลด์และหลายๆปราสาทที่กลุ่มสมาพันธมหาอำนาจไม่ได้ครอบครองอยู่ และแน่นอนว่ากลุ่มสมาพันธมหาอำนาจนี้เป็นเพียงแค่สมาคมที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น
วงจรอุบาทว์ของการก่อตั้งกิลด์ที่พยายามสั่งสมอำนาจไปเรื่อยๆ แถมแต่ละกิลด์ก็ยังมีความทะเยอทะยานของตนอีก การที่จะล้มเลิกกลุ่มสมาพันธ์นี้ลงคงทำให้เกิดความขัดแย้งมากมายขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนจากสงครามที่กำลังจะตามมาในภายภาคหน้า
แต่บาร์ดเรย์เฝ้ารอแล้วรอเล่าให้วันๆนั้นมาถึง
 “คนสองคนไม่สามารถปีนไปยังจุดบนสุดและครอบครองอำนาจสูงสุดได้” (ผู้แปล: เสือสองตัวไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้)
ทวีปเวอร์เซลคือสนามรบอันดุเดือด ณ ดินแดนทวีปทางตอนกลาง  เพราะว่ากิลด์อันทรงอิทธิพลได้สั่งสมพลังอำนาจและเฝ้ารออย่างอดทนอดกลั้น พร้อมกับครอบครองสิทธิ์พื้นที่ออกล่าไว้แต่เพียงผู้เดียวซึ่งเต็มไปด้วยไอเท็มและอุปกรณ์มากมายเหลือล้น
หลังจากสงครามในวันนี้ ทุกๆคนจะได้รู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของกิลด์เฮอร์มีสอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
ณ ฐานที่มั่นของอาณาจักรฮาเว่น เมืองเวลส์ตัน
เหล่าผู้เล่นทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลกำลังจับตาดูการต่อสู้แบบสดๆตามเวลาจริงระหว่างวีดกับกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นที่อยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์

 “สุดยอดไปเลย!”
 “เกมส์แมวไล่จับหนูบนธารน้ำนั่นไม่ใช่เล่นๆเลย ขอเบียร์เพิ่มอีก ทางนี้ด้วย
กลุ่มโจรสลัดบางกลุ่มได้ทำสัญญากับผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ด้วยการส่งวิดีโอมาก่อนแล้ว
เพราะว่ามีเครือข่ายแบบโทรทัศน์ วิดีโอจึงสามารถเห็นได้ทั่วทั้งร้านอาหารหรือว่าผับจากภายในเกมส์
สถานี KMC media ก็ไม่ได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เพราะมีการออกอากาศการต่อสู้จากมุมมองภาพของวีด
เหล่าผู้ประกาศข่าวก็กำลังรายงานข่าวการเผชิญหน้าของเขากับกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและกลุ่มพันธมิตรโจรสลัด พร้อมกับถ่ายทอดภาพออกมาจนทำให้ผู้ประกาศข่าวสถานีอื่นไม่อาจทัดเทียมได้
ภาพจากสถานี KMC media ที่ได้มาจากมุมภาพของวีด ได้เพิ่มยอดผู้ชมขึ้นอย่างล้นหลามเมื่อเทียบกับสถานีอื่นแล้ว เพราะว่ามีเพียงมุมภาพนั่นที่ทำให้คุณเพลิดเพลินกับความระทึกใจของการถูกไล่ตามได้
และแน่นอนขณะที่ออกอากาศภาพวิดีโออันยาวยืดนั่น ความแตกต่างด้านเวลาในโรยัลโร้ดกับโลกจริงก็ได้ก่อให้เกิดช่องว่างของเวลาขึ้น แต่ว่าส่วนนั้นได้ถูกแก้ไขด้วยการเอาโฆษณาเข้ามาแทรกกลางไว้


ในปัจจุบัน ผู้รายงานข่าวเกี่ยวกับเกมส์นั้นได้รับผลลัพธ์ที่ลึกซึ้ง(เงินที่ได้)บนการเติบโตจากยอดขายของบริษัทเกมส์ตามองค์ประกอบพื้นฐานที่มีมาอย่างต่อเนื่อง (ได้เงินจากยอดขายเกมส์)
เพื่อที่จะทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อกับโรยัลโร้ด ข่าวของทวีปเวอร์เซลได้ถูกเรียบเรียงและฉายออกไปพร้อมๆกับการเปิดเพลงคลอไปด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศ
เหล่าปาร์ตี้ออกล่าที่ไม่ได้ออกไปทำภารกิจกำลังรับชมวีดีทัศน์ขณะที่ดื่มด่ำเบียร์และลิ้มรสชาติของเนื้อไปพร้อมกันด้วย ถนนหนทางภายในเมืองโล่งเตียนไปหมด
เมื่อใดที่การต่อสู้ของวีดออกอากาศ ร้านเหล้าทั้งหลายก็จะคับคั่งราวกับมีการถ่ายทอดสดการแข่งฟุตบอลคู่ใหญ่
 อ้า! นมสตรอเบอรรี่นี่รสชาติสุดยอดเป็นบ้าเลย
 “ค่อยๆดื่มละกัน มันแก้วละ 30 เหรียญทองแดงเลยนะ
พวกมือใหม่กับนักเรียนที่ยังอายุไม่ถึงเกณฑ์ถูกจำกัดให้เฉพาะเครื่องดื่มที่เป็นนมหรือว่าน้ำผลไม้เท่านั้น
บรรยากาศอึกทึกครึกโครมก่อตัวขึ้นในตอนที่การถ่ายทอดของวีดแสดงออกมาพร้อมกับบรรดาแขกก็เริ่มเข้าไปในบาร์แล้วเช่นกัน
 วีดหนีไปได้อย่างปลอดภัยหรอ? เกือบแล้วเชียว นั่นน่ากลัวสุดๆไปเลย
 “ตอนนี้การไล่ล่ายังดำเนินต่อไป ถ้าหากว่าเขาไม่ออกไปให้ไกลกว่านั้น พวกเขาก็คงตามเขาทันในอีกไม่ช้านี้แน่ๆ
เรือรบของกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นจมลงไปเพราะเชิงผาที่พังทลายลงมา
กองทัพเรือติดกับดักจากก้อนน้ำแข็งและจมดิ่งลงไป แถมมันยังทำลายตัวเรือกับใบเรือให้เสียหายอีกด้วยจนทำให้สภาพเรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินเรือต่อไปได้
ถึงเป็นอย่างนั้นก็ตาม ดรินเฟลด์ก็ยังคงไล่ตามวีดไปติดๆโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะพยายามสลัดพวกเขาออกไปและตีระยะออกห่างได้ไกลมากพอควรด้วยการใช้ประโยชน์จากเชิงผาถล่มลงมา แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงอยู่ในระยะการยิงของพวกอาณาจักรฮาเว่นอยู่ดี มันถือว่าเป็นการไล่ล่าแบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มขึ้นมา
เม็ดฝนเม็ดใหญ่เริ่มโปรยปรายลงมาลงสู่ธารน้ำไร้เยือกจนทำให้เกิดเมฆหมอกหนาทึบ
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าทำไมฝนถึงเริ่มตกลงมาบนท้องทะเลปุบปับเช่นนี้ได้ แต่ความจริงแล้วคือ วีดได้ใช้ทักษะแกะสลักเมฆาเพื่อที่จะใช้เรียกฝนมาเพื่อช่วยให้พวกเขาหนีไปได้
 ถ้าฝนตกลงมาแบบนี้ ก็จะทำให้พวกมันได้เปรียบในการหลบหนีรึเปล่านะ?”
 “ข้าไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนั้นครับ จะมีอะไรเกิดขึ้นในทิศทางเดียวกับตรงที่ฝนตกหรือเปล่านะ?”

 “เพราะคลื่นที่สูงขึ้น ข้าว่ามันก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเรือแล้วละ ธรรมดาแล้วเรือใบนั้นก็ถือว่าเหมาะ ส่วนพวกโจรสลัดที่อยู่บนเรือแจวก็คงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเสียเปรียบเช่นกัน
 “แต่พลังทำลายปืนใหญ่ก็คงด้อยลงไปเลยนะ แล้วพวกมันคงใช้ข้อได้เปรียบจากกลยุทธ์ทางระเบิดไม่ได้แน่ๆ อย่างพวกลูกปืนไฟนั่น แถมระยะการมองเห็นก็คงลดต่ำลงไปด้วย
เมื่อฝนเม็ดหนาโปรยปรายลงมา บรรดาทหารเรือที่อยู่บนเรือใบขนาดกลางและขนาดใหญ่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบทันที
เป็นเพราะว่ามีหมอกที่ก่อตัวขึ้นมาจากธารน้ำไร้เยือก ฉากของกองเรือที่แล่นผ่านไปจึงดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
และแล้วแรงระเบิดก็ได้ทำลายฉากอันน่ากลัวนั้นไป พวกเขาต้องหนีให้พ้นออกโดยเร็ว หรือไม่งั้นพวกเขาก็คงโดนจับและการต่อสู้อันยิ่งใหญ่นั้นก็คงจะเริ่มต้นขึ้นทันที
ผู้ประกาศข่าวได้เตรียมรายงานถึงสงครามน่านน้ำที่เกิดขึ้นภายในเขตลาส ฟาลังคซ์ ทันใดนั้นเองการรายงานข่าวของสถานี KMC media ก็แทรกขึ้นมาด้วยข่าวด่วน
ชินเฮมินรายงานข่าวออกไปด้วยความรวดเร็ว                                    
 “ดิฉันอยู่ที่นี่พร้อมกับข่าวด่วน เหตุการณ์ปัจจุบันภายในทวีปเวอร์เซลที่มีการโจมตีต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นบนตอนกลางของทวีปค่ะ” (ข่าวของบาร์ดเรย์)
เหล่าผู้เล่นที่กำลังกินอาหารและดื่มภายในผับไม่ได้รู้สึกสนใจข่าวด่วนนั่นเลย
สงครามที่อยู่ในทวีปเวอร์เซลนั้นแทบจะมีผู้ชนะทนโท่แล้ว บ่อยครั้งดินแดนของมอนสเตอร์ที่ตกอยู่ในการโจมตีทำลายล้างก็เกิดการเปลี่ยน ผลสรุปของการต่อสู้ครั้งนั้น ทำให้ดินแดนแห่งนั้นกลายเป็นดินแดนของมนุษย์ไปโดยปริยาย
จะมีก็แต่ที่แห่งนี้เท่านั้นแหละ ที่คุณจะสามารถพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ได้อยู่บ่อยๆ
มักจะมีผู้ติดตามการผจญภัยของวีดมากมายอยู่เสมอ แต่หลายคนก็พบเจอกับเหตุการณ์ที่อยู่ในทวีปเวอร์เซลที่น่าสนใจยิ่งกว่า ซึ่งมันอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายด้วยเช่นกัน
 ราชอาณาจักรฮาเว่น ราชอาณาจักโทรูแพน ราชอาณาจักรมาเซ่น ราชอาณาจักรธอร์ ราชอาณาจักรไอเดล ราชอาณาจักรบริทเทนกับคัลลามอร์ ซึ่งมีลอร์ดมากกว่า 200 คนเข้าร่วมการต่อสู้ภายในทวีปตอนกลางค่ะ ท่านผู้ชม
 “อะไรนะ ลอร์ด 200 คนหรอ?”
 “การต่อสู้แบบไหนกันที่มีคนเข้ามาเอี่ยวหลายพวกขนาดนี้นะ?”
เหล่าผู้เล่นที่กำลังดื่มอยู่ภายในผับรู้สึกงงงวยเพราะว่ามีผู้เข้าร่วมการการต่อสู้นั้นมากมายเกินไปจริงๆ

ทวีปทางตอนกลางนั้นมีขนาดกว้างขวางอย่างมาก แถมเมืองส่วนมากก็ถูกปกครองโดยเหล่าผู้เล่นที่ไม่สามารถสู้รบปรบมือได้
ท่ามกลางคนเหล่านั้น ลอร์ด ผู้ปกครองแต่ละหัวเมืองก็ล้วนเป็นผู้เล่น
 “มีการต่อสู้ระหว่างบรรดากิลด์กับพวกลอร์ดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของยุ้งฉางกับเหมืองแร่ที่อยู่ภายในภูเขาค่ะ คุณโอจูวานคะ นี่จะทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อมากเป็นพิเศษไหมคะ?”
 “ใช่แล้วละครับ ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น แถมมันยังเป็นการประกาศสงครามที่กะทันหันและการต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไปอีกด้วยครับ
 “แล้วนี่เป็นการต่อสู้ระดับไหนกันคะ?”
 “มีผู้เข้าร่วมรบมากกว่า 10,000 คนในการบุกโจมตีครั้งนี้
 “ทั้งหมดนั่นล้วนแต่เป็นทหารที่ผ่านการฝึกมาแล้ว ถูกไหมคะ?”
 “ถูกต้องแล้วครับ เกิดการต่อสู้ภายในดันเจี้ยนที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพื่อชิงเอาสิทธิ์ความเป็นเจ้าของพื้นที่ออกล่าเพื่อผลประโยชน์ด้านทรัพยากร มีการอัพเดตข่าวเข้ามาอยู่เรื่อยๆ สนามรบกำลังลุกลามขยายออกไปและตามธรรมชาติของการต่อสู้แล้ว บอกได้เลยว่าจะต้องรุนแรงมากขึ้นกว่านี้แน่ๆ สำหรับผู้ที่ออกเดินทางอยู่ในตอนนี้ โปรดเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยนะครับ
 “ที่จริงแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้จะกลายเป็นการต่อสู้อันเป็นตำนานมากที่สุดบนดินแดนแห่งนี้และก็จะถูกบอกต่อไปในภายภาคหน้า
เนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทวีปทางตอนกลางทั้งทวีป ได้ถูกปกคลุมไปด้วยความโกลาหลในตอนที่มันได้เริ่มขึ้น

***
 “โยนของที่ทิ้งได้ออกไป!”
 “ทิ้งกระสุนปืนใหญ่ลงไปในธารน้ำก่อนเลย
บนดาดฟ้าเรือมีขยะ ปืนใหญ่ และกระสุนปืนใหญ่อยู่มากเกินไปที่พวกไฮนส์ แฟรคตัล และบอร์ดเมียร์กำลังพยายามทิ้งลงไปในธารน้ำกันอยู่
เพื่อที่จะลดน้ำหนักของเรือแม้ซักนิดเพื่อทำให้ความเร็วของเรือเพิ่มมากขึ้น
 “แค่เราสามคนไม่มีทางออกไปต่อสู้ได้หรอก มีเพียงอย่างเดียวที่เราทำได้ก็คือหนีไปในทันที!”
เหล่าประติมากรรมสลักชีพเองก็เข้ามาช่วยกันทิ้งปืนใหญ่ลงไปในธารน้ำ
กองทัพเรือของราชอาณาจักรฮาเว่นและโจรสลัดอยู่ทางขวาของท้ายเรือพวกเขา
หนทางเพื่อที่จะหลบหนีไปสู่ท้องทะเลยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ


ส่วนวีดก็สร้างก้อนเมฆอย่างต่อเนื่องขณะที่สังเกตการณ์กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและเรือโจรสลัดไปด้วย
ในขณะที่โบยบินอยู่กลางอากาศ เจ้าฟีนิกซ์กับยักษ์เพลิงก็ถูกไล่ตามมาโดยฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนกลายไปเป็นไอน้ำ
ฟีนิกซ์ที่แสนแข็งแกร่งไม่อาจทนต่อแรงยั่วยุภายในใจได้ แล้วก็บินสูงขึ้นไป จนหายตัวเข้าไปในกลีบเมฆ
 “ปริมาณฝนมันมากมายมหาศาลจริงๆเลย
สายลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรงและทำให้ใบเรือพองขึ้น
ถึงแม้ว่าวีดจะสร้างก้อนเมฆเอาไว้มาก แต่เขาก็ไม่อาจคาดการณ์ถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศแย่ๆที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ได้
แต่เดิมแล้วเขตลาส ฟาลังคซ์ เป็นดินแดนที่มีความแปรปรวนของสภาพอากาศอันโหดร้ายเกิดขึ้นอยู่เสมอ
สายลมร้อนระอุและสายลมอันเย็นสะท้านผสานรวมกันทำให้เกิดสายลมกรรโชกอย่างรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่ากลับมันไปไม่ได้เลยที่จะมีฟ้าร้องและพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
วีดสอบถามไฮน์ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน
 ช่างเหมาะจริงๆที่จะหลบหนีตอนที่ฝนกำลังตกครับ?”
ไฮนส์ตอบคำถามไปขณะที่มองดูหนทางของธารน้ำไร้เยือกในตอนที่หมุนพังงาไปมาอย่างลนลานเพราะว่าระดับความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขานั้นต่ำมาก
 การหลบหนีคงจะยากมากขึ้นในไม่กี่นาทีนี้เพราะสภาพอากาศที่โหดร้ายนี้แน่ๆ ความแม่นยำของปืนใหญ่ของพวกมันก็จะลดลงนิดหน่อยเพราะแรงคลื่น แล้วก็สามารถหลบหนีหายไปจากสายตาได้ด้วยหมอก แต่ว่าทางที่เราจะผ่านไปคือตรงธารน้ำนั่น แถมยังไม่มีที่ให้ซ่อนอีก เราก็คงได้แต่มอบข้อได้เปรียบให้พวกมันซะเปล่า
มากมายหลายปีที่ผ่านมา ที่พวกเขาได้ทำสิ่งร้ายๆและเพิ่มพูนค่าชื่อเสียงเสียทำให้เขาถูกขับไล่ไสส่งออกมา
สามสหายรวมถึงไฮน์นั้นมีประสบการณ์การล่องเรือผ่านสภาพอากาศที่เลวร้ายมาค่อนข้างมาก
แต่ละคนในสามสหายนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า
 “พวกเราต้องหาวิธีออกจากเขตธารน้ำแข็งนี้หรือไม่งั้นเราอาจจะถูกจับได้ในที่สุด
 “ถึงแม้ว่าเราหลบหลีกและหลบหนีอยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์ได้ ในสงครามน่านน้ำ กองเรือของดรินเฟลด์ได้รับฉายาว่าเป็นอาร์มาด้า(Armada) กองเรือที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตไปได้ในตอนที่พวกเขาออกไล่ล่าบนท้องทะเล” (ผู้แปล: อาร์มาด้า: ตั้งชื่อแบบกองเรือที่แข็งแกร่งที่สุดของสเปนในรัชสมัยของพระเจ้าเฟลิเปที่ 2)

 “แต่กลุ่มโจรสลัดที่ไล่ตามเรามาก็เป็นฝันร้ายเหมือนกันนะ มันคงจะสาหัสมากที่จะหลบหนีพวกนั้นไปได้อย่างปลอดภัยบนท้องทะเลแห่งนี้
เห็นทีฉันควรจะต้องระดมเอาพวกทาสออกมาพายเรือซะแล้ว ถึงแม้ว่าคลื่นจะอ่อน มันถือว่าเสียเปรียบอยู่ดีในการเดินทางเป็นเต่าคลานแบบนี้
ในการต่อสู้แบบระยะประชิด พวกโจรสลัดคงจะทำให้พวกเขาหลบหนีได้ยากขึ้นไปอีก
-มาเตรียมทางหนีออกเอาไว้กันเถอะ
-ดูนี่ ฉันพึ่งได้แผ่นกระดานไม้มาด้วยละ
-เส้นเชือกก็เตรียมเอาไว้แล้ว พวกเราต้องผูกตัวกับแผ่นกระดานเอาไว้ให้แน่นๆนะ
สามสหายได้เตรียมตัวที่จะทิ้งตัวเองจากบนเรือลงสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ในกรณีที่เรือเกิดจมลงไป
พวกเขาพร้อมที่จะลอยละล่องซัดเซไปขณะที่โอบรัดกระดานไม้ไปด้วย
แม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะล่องลอยข้ามคลื่นลูกแล้วลูกเล่าไปสองถึงสามวัน พวกเขาก็คงมีความสุขมากๆแล้ว
เรือใบขนาดกลางแล่นอยู่ท่ามกลางสายฝนอันรุนแรง
เนื่องจากระดับน้ำในธารน้ำเพิ่มขึ้น เรือจึงเริ่มโคลงเคลงจนน่าหวั่นขณะที่เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
หมอกหนาทึบบนท้องทะเลทำให้ยากที่จะระบุสิ่งที่เข้ามาใกล้ทางด้านหน้าได้
พวกเขาหลบหลีกหินโสโครกได้อย่างฉิวเฉียด ขณะที่ล่องผ่านมันไปภายใต้สภาพฝนตกหนักและลมกรรโชกรุนแรง
ในช่วงที่พวกเขาแล่นเข้าไปสู่ทะเล เมฆฝนเบาบางลงและหมอกก็จางลงไป ทัศนะวิสัยเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตริ้ง!
-ท่านได้พบเจอกับความโชคร้ายที่ต้องเผชิญหน้ากับเรือผีสิงเร่ร่อน
บนเรือมีพวกหนูเดินว่อนเต็มไปหมด
มีโอกาสสูงที่เรือจะนำโรคติดต่อร้ายแรงมาด้วย
โอกาสที่จะถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตทะเลขนาดใหญ่ เพิ่มสูงขึ้น
กำลังใจของลูกเรือตกลงจนถึงระดับต่ำสุด
ในขณะที่กำลังใจยังคงอยู่ในสถานะต่ำสุด มีแนวโน้มจะทำให้เหล่าลูกเรือเสียสติและทำให้โอกาสเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
มีกองทัพเรือผีสิงปรากฏขึ้นอยู่มากมายมหาศาลสุดลูกหูลูกตา ถึงแม้ว่าบรรดาเรือผีสิงจะเก่าแก่มาก แต่ขนาดของเรือแต่ละลำนั้นใหญ่โตมโหฬารสุดๆ
นอกจากนั้นพวกเขาก็ยังคงโดนไล่ตามจากด้านหลังอีกด้วย
วีดสร้างเรือผีสิงขึ้นมาจากเมฆฝน
แต่ถึงแม้อย่างงั้นเขาก็ยังแล่นเรือต่อไปเรือ หลังจากที่เรือผีสิงปรากฏขึ้น จากนั้นกระแสลมก็รุนแรงมากขึ้น
บนท้องทะเลถือว่าสำคัญอย่างมากที่ต้องใส่ใจถึงสภาพอากาศอยู่เสมอและทำให้มันมีประโยชน์เหมาะสมกับการล่องเรือ
 อึ๊ก
สามสหายรู้สึกตกใจในตอนที่วีดชูแขนทั้งสองข้างขึ้นมา
ที่ถูกเขียนไว้อยู่บนคัมภีร์ของบัลข่านคือทักษะอัญเชิญอันเดดชั้นสูง
ในที่สุดก็ถึงเวลาใช้มันแล้ว
 “เหล่าดวงวิญญาณแห่งความชั่วร้ายที่หลับใหล ณ ที่แห่งนี้ โปรดรับเครื่องบูชานี้ไปและคืนชีพจากส่วนลึกภายใต้ผืนมหาสมุทรสีครามแห่งนี้ ข้าขออัญเชิญเรือผีสิงมาเรีย
เรือใบขนาดกลางที่วีดกำลังนั่งอยู่เริ่มเก่าลงไปอย่างรวดเร็ว
เสากระโดงเรือ ดาดฟ้าเรือ และสิ่งของชิ้นอื่นๆที่ทำมาจากไม้เริ่มบิดเบี้ยวและมีน้ำหนักมากขึ้น
ใบเรือหมองๆขาดๆที่เต็มไปด้วยรูมากมาย ถูกคลี่ออกและโบกสะบัดดั่งผืนธง
จากส่วนล่างของตัวเรือมีตะไคร่น้ำกับราเกาะลามเต็มไปหมดและกลายไปเป็นเรือผีสิงที่สมบูรณ์ในที่สุด!
 “คิคิคิ กัปตัน ไม่ได้เจอกันนานนะครับ! ท่านดูเจ๋งกว่าครั้งที่แล้วที่ข้าเจอนะครับ ท่านดูสง่าผ่าเผยจริงๆ
สหายผีดิบตัวแรกของเรือผีสิงปรากฏตัวขึ้นและจากนั้นผีดิบมากมายจำนวนมหาศาลเริ่มฟื้นคืนชีพในฐานะลูกเรือของเรือลำนี้
ในขณะที่วีดอัญเชิญเรือผีสิงมาเรียกลับมา กองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นยังคงล่องเรือตามหลังมาจากในเขตลาส ฟาลังคซ์
ตรงบริเวณปากน้ำของธารน้ำไร้เยือกมีเรือผีสิงลอยอยู่คับคั่งหนาแน่นเต็มไปหมด
จากนั้นวีดก็ใช้ทักษะราชสีห์คำรามระดับสูงเลเวล 7
 “เตรียมตัวต่อสู้!”
-ทักษะ: ท่านได้ใช้ทักษะราชสีห์คำราม
ขวัญกำลังใจของพวกพ้องทั้งหมดที่มีผลอยู่ในระยะของทักษะราชสีห์คำรามเพิ่มขึ้น 200%
ค่าสถานะความงุนงงใดๆที่มีอยู่จะถูกชำระออกไป
ค่าความเป็นผู้นำที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ 285% จะถูกใช้เป็นเวลาห้านาที

***

 “อีกไกลแค่ไหนกว่าเราจะไปถึงที่นั่นกันนะ?”
 “เราคงจะไปถึงบริเวณธารน้ำไร้เยือกในตอนเช้าๆนะ ผมคิดว่าพวกเราคงจะไปถึงที่นั่นภายในหนึ่งวัน
เพลและคนอื่นๆกำลังล่องเรือตรงไปยังเขตลาส ฟาลังคซ์
ถึงแม้ว่าจะเป็นการล่องเรือด้วยระยะทางที่ยาวไกล เซเฟอร์ก็ได้ตุนเสบียงปลาสดๆด้วยการตกปลา ในตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการหลงทางถ้าหากว่าพวกเขาแล่นตามบรรดาเรือผีสิงไป
สายฝนเริ่มตกลงรุนแรงมากขึ้นในขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปทางเขตลาส ฟาลังคซ์
เบลลอตกำลังรองน้ำฝนเอาไว้ในอุ้งมือของเธอ
เมแพนพยักหน้าไปมาด้วยความขึงขัง
 ฝนตกบนท้องทะเลนี่โรแมนติกมากจริงๆ
เมแพนมองผ่านลูกแก้วเวทย์มนต์และเฝ้าดูการหลบหนีของวีดจากพวกทหารเรือของดรินเฟลด์
พวกเขาหวังว่าเรือของพวกเขาจะไปถึงที่นั่นเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 “ค่อยๆเคลื่อนที่ไปทีละหน่อยขณะที่มองทางด้านหน้าของพวกแกไปด้วย
 “ระวังอย่าขับเรือไปทางแนวหินโสโครกด้วยละ
ทันใดนั้นเองที่ระดับน้ำของธารน้ำไร้เยือกเพิ่มขึ้นปุบปับ
มันยากมากที่จะหลบโขดหินขนาดใหญ่ที่โพล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาได้แม้จะเป็นวันที่มีท้องฟ้าแจ่มใสจนคุณสามารถเห็นพวกมันได้ง่ายๆ
กองทัพเรือของดรินเฟลด์นั้นยังคงปรับตัวท่ามกลางหินโสโครกแบบนี้ไม่ได้
สามฉลามโฉดแห่งคาบสมุทรเบคกี้นินพยายามล่องผ่านไปด้วยเรือเพียงลำเดียว จึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากกว่า
แต่ยังไงก็ตามเรือหลายๆลำที่พยายามล่องผ่านแนวโขดหินโสโครกนั่นไป ก็ต้องเข้าไปพันจนยุ่งเหยิงทำให้ยากที่จะล่องผ่านไปได้
ส่วนพวกหินโสโครกที่จมอยู่ใต้น้ำ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อหลบไม่ให้เข้าไปติด
 “ไอ้พวกไม่เอาไหนเอ้ย นี่มันทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้วนะ
เรือใบขนาดกลางของวีดนั้นแล่นช้ามาก ดังนั้นพวกเขาจึงยังไปได้ไม่ไกลมากนัก นั่นจึงทำให้ดรินเฟลด์เร่งรัดลูกเรือของเขารุนแรงอย่างไร้เหตุผล
 “เมื่อไรที่เราไปถึงทะเลเปิดแล้วละก็ เราคงสามารถจับพวกมันได้ง่ายๆด้วยการแล่นแบบเต็มที่ครับ
รองพลเรือเอกพยายามแนะนำพลเรือเอกดรินเฟลด์ แต่ว่าเขากลับไม่ได้ยินซักนิด
เขากินอยู่อย่างมีความสุขขณะที่ปั่นหัวเราตอนที่อยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์นั่น
เรือหลายลำจมลงสู่ธารน้ำไร้เยือกลำแล้วลำเล่า
พวกเขารู้สึกร้อนรนใจเป็นอย่างมากว่า วีดจะล่องเรือไปไกลจนออกทะเลไปได้ในขณะที่พวกเขายังคงถูกห่อหุ้มไว้ด้วยมวลหมอกเหล่านี้
 “ส่งกองกำลังเรือออกไปข้างหน้าเรื่อยๆ บอกพวกเขาให้ไล่ตามวีดด้วยกำลังทั้งหมด
 “รับทราบครับ!”
ภายใต้คำสั่งของดรินเฟลด์พวกเขาได้เตรียมเรือรบเพื่อต่อสู้แบบตัวต่อตัวในระยะประชิดเอาไว้แล้วเพราะว่าการบรรจุกระสุนปืนใหญ่นั้นไม่รวดเร็วมากพอตอนที่อยู่บนธารน้ำ
เพื่อช่วยย่นระยะทางระหว่างพวกเขากับวีดลง พวกเขาจึงเคลื่อนกำลังเรือรบกำปั่นฟลัทนำหน้าเรือธงที่มีขนาดพอๆกันแต่มีความเร็วสูงกว่าออกไป (Flagship: คือเรือธงที่มีพลเรือเอกอยู่) (Fluyt: ออกเสียงตามภาษาดัตช์ เป็นเรือเร็วที่มีเนื้อที่ในเรือมาก มีความเร็วสูง สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ของชาวดัตซ์ ส่วนใหญ่ใช้เป็นเรือขนสินค้า)
เรือฟลัท 13 ลำของกองทัพเรือดรินเฟลด์ได้รับภารกิจพิเศษแล้ว
ก่อนหน้านี้ พวกเขาล่องตามเรือธงอยู่ครึ่งทาง แต่บัดเดี๋ยวนี้พวกเขาได้กางใบเรือเต็มที่แล้ว
 คำบัญชาการของพลเรือเอกได้สั่งการออกมาแล้ว! แล่นเรือด้วยความเร็วเต็มที่!”
เหล่ากัปตันของเรือเร็วพวกนั้นตะโกนร้องออกมาด้วยเสียงดังสนั่นเพื่อรายงานผล
ใบเรือโอบรับสายลมเข้ามาและกางออกอย่างเต็มที่ บรรดาเรือฟลัทเร่งความเร็วล่องข้ามบนธารน้ำไร้เยือกด้วยความเร็วอันน่าหวาดหวั่น
พวกเขาใช้ทักษะการล่องเรืออันยอดเยี่ยมเพื่อเพิ่มความเร็วของพวกเขาในตอนที่ต้องข้ามแนวหินโสโครกไป
และอีกครู่หนึ่งก็มีการรายงานจากกองเรือเหล่านั้นเข้ามา
-ท่ามกลางมวลหมอก เราสามารถเห็นเรือที่พวกเรากำลังไล่ตามจากตำแหน่งปัจจุบันของพวกเราครับ ล่องลงมาตามกระแสน้ำเลยครับ
ในขณะที่พวกเขาไม่ได้อยู่ไกลมากจากวีด ดรินเฟลด์จึงเร่งความเร็วอย่างรีบร้อน
กองกำลังหลักเคลื่อนตัวมาอย่างเงียบๆในขณะที่พวกเขายังสามารถติดตามไปได้อย่างง่ายดายในระยะห่างเพียงเท่านี้
ในสงครามน่านน้ำถ้าหากว่าคุณมีเรือที่เร็วมากกว่ากองเรือของดรินเฟลด์ คุณก็จะสามารถอยู่นอกระยะของปืนใหญ่ได้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย
แต่ว่าเรือของวีดนั้นไม่ใช่เรือเร็วแบบนั้น
-ดูเหมือนว่าพวกเราจะเข้าไปอยู่ในระยะของปืนใหญ่เร็วๆนี้แน่
ถึงแม้ว่าจะไม่มีปืนใหญ่มากมายที่ถูกติดตั้งเอาไว้บนเรือเร็วพวกนั้น แต่เพื่อใช้โจมตีเรือของวีดนั้น พวกเขาถือว่ามีมากพอแล้ว
แต่ว่าดรินเฟลด์ไม่ได้อยากส่งตัววีดให้กับคนอื่น
-ยิงเลย แต่ว่าอย่าจมเรือมันนะ สร้างความเสียหายให้มันในจุดที่มันไม่สามารถหนีไปได้อีก
-รับทราบครับ พลเรือเอก
ในที่สุด บรรดาเรือกำปั่นฟลัททั้งหลายก็เดินหน้าไปจนถึงบริเวณที่หมอกเบาบาง
และพวกเขาก็ถึงกับสะดุ้งตกใจในตอนที่พวกเขาเข้าสู่บริเวณที่ทัศนะวิสัยกระจ่างชัดเจนและพบกับเรือใบขนาดกลางลำนั้น
มันเหมือนกับเรือขนาดกลางที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แต่ว่าเก่าลงไปถึง 100 ปี
ธงของราชอาณาจักรฮาเว่นถูกลดต่ำลงและถูกแทนที่ด้วยธงหัวกระโหลกตาเดียว
 “มันกลายเป็นเรือผีสิงงั้นหรอ?”
 “แถมยังมีเรือมากมายหลายลำเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ทำไมถึงได้มีเรือมากขึ้นในแถบเขตลาส ฟาลังคซ์ปุบปับขนาดนี้ละ?”
 “นั่นมันเรือผีสิงทั้งหมดเลยหรอ เรือผีสิงทุกลำที่ร่ายล้อมทั่วท้องทะเลมารวมตัวอยู่ที่นี่หมดเลยงั้นหรอ เตรียมตัวพร้อมรบ!  
เรือของวีดล่องอยู่ทางแนวหลังของกองทัพเรือผีสิงจำนวนมาก
เหล่าเรือเร็วพยายามที่จะหยุดและถอนตัวกลับไปหลังจากที่รายงานกลับไปยังกองทัพเรือของดรินเฟลด์แล้ว แต่ว่าพวกเขาได้ล่องอยู่บนทะเลเปิดไปแล้ว
ทักษะราชสีห์คำรามของวีดดังก้องกังวานไปทั่วท้องทะเลทุกหนทุกแห่ง
 “เหล่าเรือผีสิงทั้งหลาย! เตรียมยิงปืนใหญ่!”
 “คี๊คีคี ปืนใหญ่เตรียมพร้อม
 “ว่าอะไรนะ ตอนที่ข้ายังหนุ่มๆข้าหูดีกว่านี้นะเจ้าหมายถึงปืนใหญ่ใช่ไหม? แต่ว่ามีบางอย่างอุดตันอยู่ข้างในนะ
สถานการณ์เดียวกันที่เกิดขึ้นกับเรือผีสิงทุกลำที่ล่องอยู่บนท้องทะเล กลายมาเป็นภาพที่เผยให้เห็นอยู่ในขณะนี้
ปืนใหญ่หลายกระบอกไม่ได้ถูกใช้งานมาราว 50 ปี ถูกอุดตันเต็มไปด้วยแผงสาหร่ายและตะไคร่น้ำ
เหล่าผีดิบกำลังใช้มีดหินทำความสะอาดช่องปืนใหญ่ที่อุดตันอยู่
สะเก็ดไฟจากมีดหินของพวกมันทำให้ดินปืนของปืนใหญ่ติดไฟขึ้นทันที
 ไฟฟฟฟฟฟ!”
ตู้ม ตู้ม ตู้ม! การระเบิดจากกระบอกปืนใหญ่ทำให้ส่วนเล็กๆของตัวเรือถูกทำลาย แต่กระนั้นการซ่อมแซมเรือผีสิงก็เสร็จสิ้นในทันที
 “ครั้งนี้จุดไฟถูกวิธีอยู่ใช่ไหม?”
จากนั้นก็มีเจ้าอันเดดโครงกระดูกตนหนึ่งแหย่หัวเข้าไปในปากกระบอกปืนขณะที่ได้ถูกจุดชนวนไปแล้ว
แกร๊ก ตู้ม! ปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกไปดีดกระบอกถอยกลับ แล้วหัวของเจ้าโครงกระดูกก็หายไปในขณะที่มันโดนเป่าด้วยปืนใหญ่นั่น
 สำเร็จแล้ว เรายิงออกไปได้แล้ว ยังไงก็เถอะ มีใครเห็นหัวฉันไหม?”
เจ้าโครงกระดูกเดินออกไปรอบๆดาดฟ้าเรือเพื่อตามหาหัวของมันด้วยส่วนตัวที่เหลือแค่คอของมันเท่านั้น
 ไม่มีลูกกระสุนเหลือแล้ว เมื่อวานข้ารู้สึกหิวๆ ข้าได้กินมันไปรึเปล่านะ? บางทีเจ้าอาจจะทำหายตอนที่เจ้าเล่นกับมันก็ได้มั้ง?”
 “เพราะเรือของพวกเราเป็นเรือสินค้า ดังนั้นธรรมดาอยู่แล้วที่เราจะไม่มีกระสุนปืนใหญ่เลยนะ
 “งั้นเรามายิงด้วยปลาแห้งแทนละกัน
บรรดาเรือสินค้ากับเรือขนส่งผู้โดยสารก็ได้กลายไปเป็นเรือผีสิงทั้งหมดแล้ว และก็เป็นธรรมดาที่แต่ละลำที่ไม่จำเป็นต้องมีลูกปืนใหญ่
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกระสุนปืนใหญ่ที่ลอยละล่องอยู่บนท้องทะเลที่หลุดมาจากเรือลำอื่นก็สามารถเอามาใช้ได้
 “ข้าจะเข้าไปเอง คี๊คีคี ข้าจะไปเอง!”
พวกผีดิบดำเนินการรบด้วยตัวพวกมันเองโดยหย่อนตัวเข้าไปในกระบอกปืนและใช้ผงดินปืนเพื่อจุดชนวน ถึงแม้ขั้นตอนจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ว่ามันค่อนข้างจะเป็นเรื่องปกติของเรือผีสิงไปแล้ว
กระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกไปจากเรือผีสิงอย่างพร้อมเพียงกัน ตรงไปที่เหล่าเรือเร็วที่มุ่งหน้าไปหาเรือของวีด
แต่เนื่องจากความแม่นยำต่ำ กระสุนปืนที่ยิงไปยังบรรดาเรือเร็วก็ตกลงไปในน้ำ และทำให้เกิดระลอกคลื่นซัดกระเซ็นขึ้นสูง
แถมกระสุนก็ปะทะชนกันไปมาอยู่บนอากาศและระเบิดออกราวกับดอกไม้ไฟ
 แปรขบวนตั้งรับการโจมตี!”
 “มันมีเยอะเกินไป พวกเราไม่อาจหลบหลีกได้เลย! เตรียมตอบโต้ ยิงงงงงง!”
เหล่ากัปตันของเรือเร็วแปรขบวนในรูปแบบฟันปลาและพยายามที่จะเตรียมยิงปืนใหญ่ออกไป
แต่ทว่าเรือผีสิงยิงออกไปแบบมั่วๆและไม่มัวกังวลว่าจะเล็งยิงไปยังไงเลย
กระสุนปืนใหญ่หล่นลงสู่ทะเล แต่บางลูกก็ระเบิดออกมาตูมตามภายในเรือเร็วทั้งหลาย
ลูกกระสุนหล่นลงใส่ดาดฟ้าเรือและทำให้เกิดประกายแสงสว่างวาบจากการระเบิดภายในตัวเรือ! ตัวเรือหลายส่วนแตกออกและติดไฟ
 ไฟไหม้!”
บรรดาเรือเร็วยังยิงตอบโต้กลับไปแม้ว่าจะโดนโจมตีใส่ แต่ว่าเรือหลายลำก็เริ่มโคลงไปโคลงมาและสั่นสะเทือนทุกๆครั้งที่มีการระเบิดขึ้น
 คุฮี๊ฮีฮี่ พวกมนุษย์ละ
เหล่าผีดิบปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือกำปั่นฟลัทมากขึ้นเรื่อยๆ และความโกลาหลก็ได้ละเลงอย่างไปต่อเนื่อง
จากนั้นหนวดลื่นๆหยุบหยับสิบหนวดก็ปรากฏออกมาแล้วคว้าตัวพวกลูกเรือที่อยู่บนดาดฟ้าเรือไป
ที่เกาะหนึบติดกับตัวเรือก็คือส่วนหัวละหม้ายคล้ายคลึงกับคราเค่น! กัปตันของเรือเร็วจึงเร่งเปิดห้องสนทนาของกิลด์เฮอร์มีสอย่างเร่งด่วน
สติงเกอร์: พวกเรากำลังโดนโจมตีโดยกองเรือผีสิง เรากำลังโดนกำจัดลำแล้วลำเล่าครับ
จากนั้นรองผู้บัญชาการกองเรือที่สองแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นก็ถามขึ้นว่า
พาเชล: ที่นั่นมีเรือผีสิงอยู่กี่ลำ?
กองทัพเรือของราชอาณาจักฮาเว่นที่อยู่ในลาส ฟาลังคซ์แบ่งปันหน้าต่างสนทนากับกิลด์เฮอร์มีส และก็กำลังรับฟังอยู่ภายในหน้าต่างสนทนาแบบเปิดด้วยเช่นกัน
สติงเกอร์: สถานการณ์ตอนนี้….ยาวนะครับ ไม่มีเวลามาอธิบาย
นี่อาจจะเป็นบนสนทนาครั้งสุดท้ายก่อนจะจมลงไป  วีดอัญเชิญเรือผีสิงออกมาหลายลำ แถมเรือที่เรากำลังไล่ตามอยู่นั้นก็กลายไปเป็นเรือผีสิงด้วยเช่นกัน พวกเรากำลังโดนโจมตีครับ เรือเร็วของพวกเรากำลังโดนกวาดล้าง! นี่คือการเรียกฉุกเฉิน
พาเชล: นี่มันเร่งด่วนแค่ไหนเข้าใจละ ฉันจะไปให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้
กองเรือเร็วจมลงและกลายเป็นเหยื่อของคราเค่น ส่วนฝั่งดรินเฟลด์ก็นำกองกำลังหลักออกจากธารน้ำไร้เยือก
การได้เห็นเหล่าเรือรบโดนโจมตีโดยกองเรือผีสิงและคราเค่น  พวกเขาจึงไม่อาจซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ได้
 ฮึ่มมม พวกเขาพึ่งออกไปได้มีกี่นาทีเองนะ เรื่องก็เกิดเรื่องขึ้นซะแล้ว
เจ้าคราเค่นยังเกาะหนึบอยู่ที่ตัวเรือของเรือเร็ว ดูท่าว่าพวกเขานั้นไม่มีทางเลือกอีกต่อไป คงได้แต่ยอมแพ้
เหล่าผีดิบหลั่งไหลออกมา ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือแล้ว และเข้าสู่การโจมตีแบบตัวต่อตัว
เปลวไฟแผดเผาบนเรือที่กำลังจมลง มันสายเกินไปแล้วที่จะช่วยมันคืนมาได้


 “การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายสาหัสเอาการ
พวกเขาพึ่งจะออกมาจากบริเวณธารน้ำแล้วก็ต้องพบกับฉากที่ยุ่งยากที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้ สำหรับเหล่าผู้เล่นที่เฝ้ารับชมภาพอยู่ ก็ได้เห็นสิ่งที่กองเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและดรินเฟลด์ได้เห็นเช่นกัน
กองเรือผีสิงกระจายตัวออกจากกันและประจำตำแหน่งบนท้องทะเลแล้วยิงปืนใหญ่ออกมา
ภายใต้สถานการณ์ในเช่นนี้ ถ้าหากพวกเขาออกไปเป็นแนวหน้าก็คงได้กลายเป็นอาหารสัตว์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์อันมากมายของดรินเฟลด์จากสงครามน่านน้ำ เขาจะเป็นคนนำพวกเขาไปสู่ชัยชนะ! แม้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่ว่ายังไงซะเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว
 ระดับความแม่นปืนใหญ่ของเรือผีสิงนั้นห่วยที่สุดละ เรือรบหุ้มเกราะที่เป็นกำลังเสริมประจำอยู่ที่แนวหน้า อย่าหลบหนีหรือว่าทำลายแนวหน้าไป กองเรือรบหน่วยแรกและหน่วยที่สามมุ่งตรงไปตามทางธารน้ำพร้อมกับแบ่งออกไปทางซ้ายและทางขวา โจมตีจากทางด้านนอกระยะของเรือผีสิงนั่น
พวกเขาตัดสินใจที่จะรับความเสียหายและทนการโจมตีของกองเรือผีสิงกับพวกมอนสเตอร์ทะเล
มันถือว่าเป็นภารกิจเสี่ยงที่จะฉีกกระชากทำลายเรือผีสิงพวกนั้นด้วยการใช้ดินปืนที่มีอยู่มากมาย
คาดว่าเขาจะสามารถชดใช้ความล้มเหลวของเขาคืนได้ และถ้าหากว่าการต่อสู้ครั้งนี้นำไปสู่ชัยชนะทางน่านน้ำอันยิ่งใหญ่สำหรับดรินเฟลด์ เขาก็จะได้รับค่าชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีก
มีกรณีมากมายของเรือผีสิงที่โดนโจมตีอยู่บ่อยๆ หากว่าคุณเทียบมันกับการต่อสู้ภายในดันเจี้ยนบนพื้นดิน ก็จะได้รับค่าชื่อเสียงและของลูทจากชัยชนะที่ถือว่าเทียบไม่ได้เลย เพราะโดยปกติแล้วเรือผีสิงหลายๆลำจะบรรจุไว้ด้วยวัตถุโบราณและสมบัติล้ำค่ามากมาย
จบตอน
ผู้แปล:Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

11 ความคิดเห็น:

  1. เร็วทันใจ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  2. เริ่มล่ะๆ รอให้ซัดกันนัวกว่านี้ น่าจะมัน

    ตอบลบ
  3. ขอบบคุณมากครับสนุกฝุดๆไปเลย

    ตอบลบ
  4. คำตอบ
    1. ฝากชุบเรือโมบีดิก กับหนวกขาว+เอส ด้วยนะครับ

      ลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ11 กรกฎาคม 2560 เวลา 04:59

    ขอบคุณค่ะ ถ้าทำเป็นหนังคงมันส์หยด

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณทีมแปลครับ

    ตอบลบ
  7. สุดยอด กำลังมันส์ ขอบคุณมากคะ

    ตอบลบ
  8. ยังกะไพเรทออฟเดอะแคริเบียน​

    ตอบลบ
  9. Wow...มองการณ์ไกล
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...