วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 21 ตอนที่ 10 เพื่อน แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 21 ตอนที่ 10 เพื่อน แปลโดย Cole’s Myth


 “เร็วเข้า จงสู้ต่อไป!”
ถึงแม้ว่ากัปตันของเหล่าโจรสลัดจะตะโกนออกไปอย่างนั้น เหล่าโจรสลัดก็ยังตกอยู่ในภวังค์ขณะที่ปากยังคงเปิดอ้าจนน้ำลายไหลยืดออกมา
 โอออ พวกเราก็อยากเบนสายตายไปอยู่หรอกนะแต่ว่า….พวกเราไม่สามารถมองไปทางอื่นได้เลย
 “เธอช่างงดงามจริงๆ อา ถ้าฉันมีแฟนอย่างนั้นนะ ฉันคงจะใช้ชีวิตอยู่กับเธอทุกๆวันเลย อึก! ขึ้นมาบนเรือโจรสลัดแบบนี้พวกนายก็จะเจอแต่กับพวกผู้ชาย ได้เห็นผู้หญิงยกเนื้อปลามาให้ก็ทำให้เรามีความสุขสุดๆแล้ว
 “มันไม่ใช่แค่ใบหน้าที่งดงามเท่านั้น แต่ทั่วทั้งเรือนร่างของเธอ นั้นช่างเป็นความงามที่สมบูรณ์แบบไปเลย ขอเพียงแค่ฉันใส่ชื่อเธอลงในรายชื่อเพื่อน…”
แม้นจะอยู่ในระยะที่ห่างมาก เหล่าลูกเรือและโจรสลัดก็สามารถมองเห็นใบหน้าของฮวายองได้ ราวกับเธอมาอยู่เบื้องหน้าพวกเขาตรงนี้ หนึ่งในความสามารถของนักเต้นรำก็คือดึงดูดความสนใจเหล่าศัตรู ส่วนของไหปลาร้าของฮวายองเผยให้เห็นผ่านใยผ้าออกมา คนๆหนึ่งไม่สามารถทำไรได้เลยนอกเสียจากจับจ้องไปที่จุดๆนั้น ราวกับว่าพวกเขาได้ยินเสียงลมหายใจของเธออยู่ใกล้ๆ
เหล่าชายหนุ่มผู้ดูมีอายุ ถูกสะกดนิ่งเพราะแรงยั่วยวนจากการร่ายรำของฮวายอง
 “ฉันอยากมองดูเธอ ต่อให้เมียของฉันจะตบตีหรือว่าฆ่าฟันฉันก็ตาม!”
สัมผัสแห่งความเร้าร้อนหลั่งไหลออกมาจนสามารถรู้สึกได้ เหล่าคนที่อยู่นอกระยะการเต้นรำของฮวายองที่ไม่ได้อยู่ในสถานะมึนงง ยังคงอยู่ในการต่อสู้อันดุเดือด
 “อุว๊ากกกกก!”
 “ฆ่ามอนสเตอร์ทะเลนั่นซะ!”
เรือโจรสลัดลำหนึ่งกระแทกเข้ากับมอนสเตอร์ทะเลเหมือนปลาหมึกที่มีรูปร่างแบบคราเค่นอยู่ตรงหน้าเรือของพวกเขา
แกร๊วววววววว! (เสียงคราเค่นร้อง) (แอดชิน: แน่ใจนะว่าคราเค่นร้องอย่างนั้น 555)
เจ้าคราเค่นที่เกรี้ยวกราดแผ่หนวดทั้งสิบของมันออกไปและยึดรอบเรือโจรสลัดลำนั้นเอาไว้ แล้วใช้แรงบีบเรือทั้งลำ
 โจมตี! เข้าไปโจมตี!”
เหล่าโจรสลัดปีนขึ้นไปบนหนวดทั้งสิบของคราเค่นและตวัดดาบของพวกเขา เจ้าคราเค่นก็พยายามต่อสู้กลับไปเรื่อยๆขณะที่ว่ายน้ำตามไปด้วย แม้ว่าร่างบางส่วนของมันจะถูกเฉือนออกไปและตกลงไปในทะเลก็ตาม
กองเรือทั้งหลายที่ล่องเข้ามาบรรจบหันลำใส่กองเรือผีสิง และเสียงโหยหวนของเหล่าอันเดดก็ไม่อาจหยุดลงได้บนท้องทะเลแห่งนี้ แม้แต่เหล่าโจรสลัดก็ขึ้นไปบนเรือที่มีวีดอยู่
 ฉันไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับสงครามที่เหลือแล้ว เราต้องจัดการวีดให้ได้
 “คี๊ฮี๊ฮิฮิฮิ เราจะกลายเป็นวีรบุรุษที่สามารถจัดการวีดได้ เราควรจะทำยังไงกับไอเท็มที่เขาดร็อปมาดีนะ?”
 “ตามหากัปตันของเรือลำนี้ ย่องไปหาเขา จนเขาไม่ทันสังเกตเห็นเราให้ได้
เหล่าโจรสลัดลักลอบเข้าไปถึงตัววีด ขณะที่เขาวุ่นอยู่กับการต่อสู้
มันไม่มีทางอยู่แล้วที่วีดจะมองไม่เห็นพวกเขา แท้ที่จริงแล้ว ที่นี่คือบ้านแห่งไอเท็มอันยอดเยี่ยมต่างหาก โดยเฉพาะระหว่างการต่อสู้แบบนี้!
 ‘พวกมันใส่เสื้อโค้ทโจรสลัดถูกๆ ไอเท็มที่ดีอย่างเดียวก็คือพวกรองเท้าบูทกับเข็มขัดที่จำกัดเลเวลมากกว่า 300 ขึ้นไป
โดยปกติแล้ว ไอเท็มจำพวกเข็มขัดนั้นไม่ดร็อปบ่อยมากนัก ในตอนที่พวกโจรสลัดขึ้นไปบนเรือลำอื่นบ่อยๆและปล้นสะดม พวกมันไม่ค่อยสวมใส่อุปกรณ์ที่ดีมากนักเมื่อเทียบกับพวกอัศวินนาวี
 แม้ว่าฉันจะเอาพวกมันไปขาย ก็คงจะได้ไม่มากนัก
อุปกรณ์ของโจรสลัดนั้นไม่ดีมากพอที่จะเก็บขึ้นมาหรอก
วีดจึงไม่สนใจพวกมันโดยสิ้นเชิงและตั้งหน้าตั้งตาสู้ต่อไป
 “คุฮ่าฮาฮาฮาฮา! เอาพลังชีวิตกับมานาของพวกแกมาให้หมดซะดีๆ หืมมม ฉันรู้สึกใจอ่อนหน่อยๆตอนที่ใช้ทักษะสูบชีพสูบมานาแหะ แต่ว่าก็คงไม่มีใครมาว่าฉันได้นิ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก
นั่นเป็นการแสดงที่แสนห่วยแตกโดย วีด
เขาต้องการที่จะกวาดล้างพวกโจรสลัดที่เข้ามาใกล้ให้หมดในคราวเดียว แต่ว่าตอนนั้นเองที่พวกโจรสลัดย่องเข้ามาใกล้จนถึงหลังของเขาแล้ว จึงไม่มีใครหน้าไหนขวางทางพวกมันได้
ซอยูนวนเวียนใกล้วีดอยู่ตลอดเวลา ทันทีที่เธอเห็นพวกโจรสลัดพุ่งเข้าไปหาเขา เธอจึงชักดาบของเธอออกมา
 ชิ เราถูกเจอตัวแล้ว
ฆ่าหล่อนซะ!”
ซอยูนเผชิญหน้ากับเหล่าโจรสลัดที่มุ่งหน้าเข้ามาและกวัดแกว่งดาบของเธออย่างเงียบเชียบ
 “…..”
ซอยูนลงดาบของเธอใส่เหล่าโจรสลัดอย่างไร้ซึ่งความเสียใจใดๆต่อพวกเขา
วีดมองด้วยหางตาไปที่หญิงสาวผู้เป็นห่วงเป็นใยเขาด้วยความเชื่อใจ
แม้ว่าจะมีหญิงสาวที่แข็งแกร่งคอยปกป้องเขา แต่เขาก็ไม่ชอบที่จะพลาดโอกาสในการกำจัดพวกโจรสลัดทั้งสิบสองคนด้วยตัวเอง
 ‘เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวง่ายด้วยหัวใจที่อ่อนโยนของเธอ แถมเธอยังคอยดูแลฉันด้วยวิธีของเธอเองอีกด้วย
แค่ในตอนที่เขาชื่นชมเธออยู่เงียบๆนั้น ซอยูนก็ก้มลงหยิบพวกไอเท็มที่ดร็อปลงมาจากพวกโจรสลัด
รองเท้าบูทกับเข็มขัด!
โจรสลัดบางคนถึงขนาดดร็อปอัญมณีมรกตกับเครื่องประดับที่พบเห็นได้จากพวกครอบครัวชนชั้นสูงเท่านั้น
 อย่างงี้นี้เอง” (-.-)
วีดรู้สึกเคืองมากๆที่เขาไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้
ทั้งพวกมอนสเตอร์ทะเลและพวกประติมากรรมสลักชีพ ก็ได้เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้แบบประชิดตัวด้วยปืนใหญ่อันแสนดุเดือดนั้นแล้ว
แม้ว่าเรือผีสิงหลายลำจะอับปางลงไปแล้ว แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า ในขณะที่เรือรบและเรือโจรสลัดหลายลำก็จมลงไปเช่นกัน
ภาพของพวกพ้องโจรสลัดของดรินเฟลด์ที่กำลังกระเสือกกระสนอย่างเอาเป็นเอาตายต่อสู้กับเหล่าอันเดดของวีด
 “คี๊คี๊คีคี ข้าอยากจะดื่มน้ำมะนาวซักหน่อยจัง! คอข้ารู้สึกแห้งจริงๆ
จากเสียงร้องขอของเหล่าอันเดด ก็มีหนึ่งในโจรสลัดคนหนึ่งยื่นน้ำมะนาวให้กับมันไปตามสัญชาตญาณ
เจ้าอันเดดตนนั้นกลืนลงไปเสียงดังอึกใหญ่ขณะที่มันดื่มน้ำผลไม้ลงไป
 “ได้ผลไหม? ฉันให้เครื่องดื่มกับแกแล้ว งั้นตอนนี้แกหันเรือของแกกลับไปได้รึยัง
แต่อย่างไรก็ตาม เหล่าอันเดดก็เริ่มออกไปสู้อีกครั้งด้วยความกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น
 ในที่สุดข้าก็ดับกระหายได้ซะที ตอนนี้ถึงเวลาฆ่าพวกแกแล้ว โอฮี้ฮี้ฮีฮี!”
ในตอนที่พวกมันต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง พวกมันก็ได้เพิ่มค่าเสียหายให้กับร่างกายของพวกมันอย่างสาหัสด้วยการออกไปต่อสู้ในแต่ละครั้ง
วีดคิดว่าหมู่นี้เขาจำต้องเข้าร่วมการต่อสู้ใหญ่ๆมากมายเหลือเกิน
 “ฉันก็แค่อยากมีชีวิตอยู่นานๆและใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่ว่าไม่มีวันไหนเลยที่จะได้พัก
ดังนั้น เขาจึงไม่มีเจตนารมณ์ที่อยากจะเป็นฮีโร่แม้แต่น้อยเลย
ฉันก็แค่อยากจะอยู่แบบสบายๆด้วยการรับรางวัลขณะที่ออกไปทำภารกิจ แล้วก็ออกไปล่าก็เท่านั้นเอง!
สงครามยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนถึงเช้ามืด ดูเหมือนสงครามใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เพราะว่าปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกไปเริ่มลดลง บวกกับค่าสถานะพลังกายที่ลดต่ำลงของเหล่าผู้เล่นที่แสดงออกมาให้เห็น
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! (เสียงกลองดังขึ้นมา)
ท่ามกลางสายฝน กองทัพเรือนาวีของกองทัพอันเดดที่ประดับไว้ด้วยธงหัวกะโหลกโหยหวนกำลังโบกสะบัดเคลื่อนตัวแล่นตรงมาที่พวกเขาจากทางทะเล
กองเรือรบกลุ่มนั้นระดมยิงปืนใหญ่ไปที่กองเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและกองเรือโจรสลัด
 “นั่นมันบ้าอะไรว่ะเนี๊ย?”
ดรินเฟลด์รู้สึกตกตะลึงกับภาพที่เห็น
เท่าที่เขารู้ในท้องทะเลเปิดแห่งนี้ มีแค่เมืองการค้ากับราชอาณาจักรเท่านั้นถึงจะเป็นเจ้าของเรือรบได้
แต่ว่ากองเรือรบติดอาวุธนับสิบที่จู่ๆกลับปรากฏตัวขึ้นมาแบบกะทันหันตรงเบื้องหน้าพวกเขา ณ ขณะนี้!
ด้วยสายตาอันยอดเยี่ยมของพวกเขา พวกเขามองเห็นเหล่าอันเดดเรียงรายอยู่บนดาดฟ้าเรือ

มีทั้งซอมบี้ กูล โครงกระดูกแผดเผา อันเดดธรรมดาชั้นต่ำ พร้อมกับพวกแม่มด และก็เดทไนท์ มีแม้กระทั่งเหล่าจอมขมังเวทย์กับดูลลาฮาน
พวกมันร่ายเวทย์มนต์ดำใส่กองเรือแห่งราชอาณาจักรฮาเว่นและเรือของโจรสลัด
 นั่นมันธงของกองทัพอมตะที่วีดจัดการไปนิ!”
บ้าอะไรวะ ทำไมพวกมันโจมตีเราละ? ปกติแล้วมันควรโจมตีไปที่วีดที่มีความบาดหมางกับพวกมันไม่ใช่หรอ
ทั้งกองทัพเรือของดรินเฟลด์และโจรสลัดรู้สึกพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
แม้ว่าตอนที่พวกเขาจะยังไม่ได้ทำอะไรผิดกับอันเดดพวกนั้น แต่สำหรับพวกเขาคงต้องรวบรวมกำลังรบทางน้ำที่แข็งแกร่งที่สุด ถึงจะต่อกรกับพวกมันได้
ส่วนวีดเองก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่เช่นกัน เขาได้สานความสัมพันธ์ที่จบไม่ดีนักกับพวกกองทัพอมตะพวกนั้น
 “ฉันได้ส่งลิช ไชร์ให้หลับใหลไปชั่วนิรันดร์ด้วยมือของฉันแล้วนิ ตอนนั้นฉันสามารถกำราบกองทัพอมตะมากมายพวกนั้นด้วยความช่วยเหลือของพวกออร์คและพวกดาร์คเอลฟ์ ฉันถึงขนาดอัญเชิญบัลข่านออกมาสู้กับพวกวิหารเอ็มบินยู…”
เหล่ากองทัพอมตะพวกนั้นดูไม่เหมือนเป็นมิตรหรือว่าเป็นศัตรูเลย
กองเรือประกอบไปด้วยเรือรบสีเงินเข้ม 45 ลำ! พวกมันมีเลเวลพอๆกับเรือรบขนาดใหญ่ของดรินเฟลด์ แถมมีอาวุธปืนมากมายมหาศาลบนเรือด้วย (เรือรบขนาดใหญ่ (ship of line) เป็นเรือรบชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ถึง 19 ถือเป็นกลยุทธ์ทางน่านน้ำ)
นอกจากนี้ ที่เรียงแถวอยู่บนดาดฟ้าเรือคือเหล่าอันเดดที่ปกติจะจัดการไม่ได้ง่ายๆเลย
วีดคนที่เคยต่อสู้กับกองทัพอมตะมาก่อน รู้เป็นอย่างดีว่าพวกมันทรงพลังมากแค่ไหน
 “ถึงแม้จะไม่มีเนโครแมนเซอร์อยู่ มันก็ยังคงยากอยู่ดีที่จะจัดการกับกองทัพอมตะพวกนั้น
คงสิ้นคิดมากที่จะไปต่อสู้กับพวกกองทัพอมตะในตอนที่พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวมาสู้กับพวกนั้นเลย
มีความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในเรือผีสิงของกองทัพเรือในสังกัดของวีด อาจขัดคำสั่งเขา แล้วเข้ามาโจมตีกองทัพของเขาก็เป็นได้
แม้ว่าปิงหลง ฟีนิกซ์ และพวกประติมากรรมสลักชีพพวกนั้นไม่ได้ออกไปโจมตี แต่พวกมันก็คงถูกจัดการไปด้วยอยู่ดี
กองทัพอมตะที่นำเรือรบ เข้าไปโจมตีเรือรบของพวกดรินเฟลด์และโจรสลัด เปิดฉากโจมตีก่อน ด้วยการยิงปืนใหญ่และเวทย์มนต์
เปลวไฟที่ปะทุออกมาจากกองเรือรบพวกนั้น เรือรบก็ได้จมลงไปเพราะถูกระดมยิงใส่!
การต่อสู้ที่กองทัพอมตะได้เริ่มขึ้นกินเวลาไปถึง 2 ชั่วโมง และสิ้นสุดลงด้วยกองทัพเรือของดรินเฟลด์และโจรสลัดล่าถอยกลับไปจากการต่อสู้
พวกเขานั้นยังสามารถเริ่มการต่อสู้ขึ้นอีกครั้งได้เพราะยังมีทหารอีกครึ่งที่อยู่ใกล้เคียงยังคงต่อสู้อยู่ แต่ทว่าในตอนนี้มันกลับเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้วที่จะจับตัววีด
ทันทีที่พวกเขาทั้งหมดวางอาวุธลง สงครามก็ยุติไปเรียบร้อยแล้ว
ในตอนที่เสียงยิงปืนใหญ่อันกึกก้องหายไปสนิท เรือธงของกองทัพอมตะก็แล่นเข้าไปใกล้วีด
เรือผีสิงแหวกเข้ามาตรงกลางและเส้นทางแล่นเรือก็ถูกเปิดออกทันที มันไม่ใช่เพราะว่าเป็นคำสั่งของวีด แต่เป็นเพราะอันเดดบางกลุ่มนั้นรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาจึงหลีกทางกองทัพอมตะนั้นต่างหากละ
ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักที่เหล่าอันเดดหวาดกลัวรุ่นพี่ของพวกมัน
 ฮึ่มมมม
อย่างไรก็ตามภายในหัวของวีดที่เคยผ่านการต่อสู้มาโชกโชนก็กำลังประมวนผลอย่างรวดเร็ว
 ‘ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ถ้าหากว่าฉันกำลังจะตาย ฉันก็อยากลดความเสียหายลงให้น้อยที่สุด

โอกาสของเขาที่จะออกไปจากสถานการณ์นี้อย่างมีชีวิต ก็คงเหมือนกับตามหาตั๋วลอตเตอรี่ที่จะถูกรางวัลที่หนึ่งอยู่ข้างๆทางนั่นแหละ
ฮวายองหยุดเต้นไปแล้ว และความสนใจทั้งหมดในตอนนี้มุ่งไปที่เรือของวีด
ขณะที่เขายืนอยู่ตรงหัวเรือที่โคลงเคลงไปมา วีดก็ปล่อยออร่าแห่งความตายอันแข็งแกร่งมากออกมา
ถ้าหากอยู่บนพื้นดินเขาคงปอดแหกทิ้งหน้าที่ของเขาแล้วก็วิ่งแจ้นหนีไป แต่ว่านี่เขาอยู่บนท้องทะเล
 ‘ดูท่าว่าพวกมันไม่ได้เริ่มเข้ามาโจมตีพวกเราแบบโต้งๆ อาจจะเป็นไปได้ที่จะเจรจานิดๆหน่อยๆกับพวกมัน บางทีตอนนี้ที่ฉันอยู่ในสภาพอันเดดเหมือนกับพวกมัน พวกมันอาจจะมาตรวจสอบฉันหรือป่าวนะ?’
ท่ามกลางสนามรบ พวกไวเวิร์นและปิงหลงกำลังรวบรวมไอเท็มที่หล่นออกมาอย่างเอาจริงเอาจัง (แอดชิน: นี่ก็ขยันไม่ดูเวลาเล้ยเจ้านายพวกเอ็งกำลังมีปัญหาอยู่นะเว้ยเฮ้ย)
ชุดเกราะทัลลอคของเขา อุปกรณ์แล้วก็สมบัติฝากเอาไว้กับพวกเจ้าวิหคทองคำ วิหคเงิน และเจ้าเหลือง ดังนั้นตอนนี้เขาไม่มีเงินซักแดงเดียว! วีดบ่นอุบอิบด้วยฟันเหลืองๆของเขา
 มันก็โอเคถ้าฉันตายไปซักสองครั้งหรือสามครั้ง จากนั้นฉันค่อยไปขูดรีดเอามามากขึ้นซักสองเท่า หรือซักสามเท่าก็ได้ กองทัพอมตะงั้นเรอะ! ฉันจะกลับไปล้างแค้นพวกมันแน่ๆ
ถ้าหากพวกกองทัพอมตะฆ่าเขาตายไป เขาก็ค่อยกลับไปล้างแค้นทีหลัง
 ‘ซักห้าปี ไม่สิ ฉันจะไปเจอพวกแกในยี่สิบปี จากนั้นฉันก็จะมีเลเวลสูงมากๆแล้วฉันก็จะกลับไปแก้แค้นพวกแก
ไม่มีเวลาจำกัดสำหรับการล้างแค้นหรอก!
วีดรออยู่ที่หัวเรือด้วยหน้าอกที่ผายออกอย่างมั่นใจพร้อมกับไหล่ที่ผึงดึงกลับไปด้านหลัง แต่ไม่ว่าด้วยกรณีแบบไหนก็ตาม เขาก็ไม่ได้อยากจะต่อสู้กับพวกกองทัพอันเดดพวกนั้น
แม้ว่าเลเวลของเขาจะสูงกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสเลยที่จะทำมันได้เพียงลำพัง ถึงแม้เขาจะมีเพื่อนของเขาและเหล่าลูกสมุนของเขา พวกเขาทั้งหมดก็คงได้รับความเสียหายมากมายมหาศาลแน่ๆ
ถ้าหากประติมากรรมสลักชีพทุกตัวตายไป เขาก็คงไม่มีอะไรเหลือแล้วจริงๆ เขาไม่อยากแบกรับความเสี่ยงร้ายแรงถึงขนาดนั้น
 ‘ฉันจะยอมตายเพื่อพวกนั้น เพราะงั้นฆ่าฉันแค่คนเดียวเถอะ
ในใจของเขาได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว แม้จะอยู่เบื้องหน้าต่อกองทัพอมตะ เขาก็ไม่รู้สึกเป็นรองเลยแม้แต่น้อย
บนใบหน้าและแววตาของเขา กองทัพอมตะนั้นไม่มีค่าอะไรกับเขาเลย เขาจึงแสดงท่าทีออกมาอย่างยโสโอหัง เขามีอำนาจและบารมีที่จะเหยียบย่ำพวกมันอย่างง่ายดายและหายไปจนสิ้น
-ทุกๆคนออกไปจากที่นี่ ถอยกลับไปแล้วไปรออยู่บริเวณที่เจ้าเหลืองอยู่ ปิงหลงกับพวกไวเวิร์นลงมาที่พื้นดินแล้วก็ปกป้องเจ้าเหลืองกับคนอื่นๆเอาไว้ แล้วให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแบบเดียวกับเจ้าโกลมินิอีกครั้ง..
ในขณะที่เรือรบเข้ามาหยุดอยู่ใกล้ๆกับวีด ก็มีอันเดดรูปร่างมนุษย์ที่มีหน้าตาดูเหมือนมนุษย์กบเดินออกมาข้างหน้า
-ท่านได้เจอกับมอสเตอร์ในตำนานนามว่า ฮาชิลซา (Hashilsa) ผู้ปกครองเรือผีสิงแห่งท้องทะเล พลเรือเอกผู้มีแววเกิดในเมืองแห่งอิสรภาพและรักที่จะออกไปผจญภัย ระหว่างการออกเดินทางครั้งหนึ่งเพื่อตามหาตำนานของทะเลที่ไม่รู้จัก โชคร้ายที่เขาได้รับคำสาปร้ายแรงจนทำให้เขากลายเป็นกบ
รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไปจนน่าเกลียดน่ากลัวหลังจากที่เขาถูกครอบงำด้วยพลังที่เหนือกว่า เขาผูกขาของลูกเรือของเขาเข้ากับก้อนหินขณะอยู่บนมหาสมุทรและไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะถ่วงพวกเขาลงไปด้วยความโหดร้ายทารุณ
ในท้ายที่สุดเขาก็ล่องเรืออีกลำกลับไป จากนั้นเขาก็เกิดใหม่อีกครั้งด้วยมนต์ดำของนายเหนือหัวแห่งเหล่าอันเดดบัลข่าน เพื่อให้เขากลายเป็นลูกสมุน ท่ามกลางสงครามอันยิ่งใหญ่แห่งเหล่าอันเดด เหล่าอันเดดจำนวนมากมายได้หายตัวไป แต่เพราะมนต์คืนชีพของบัลข่านจึงทำให้พวกมันฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง
-เป็นผลมาจากรูปลักษณ์ของฮาชิลซา ผู้คนเริ่มเข้าสู่สถานะความหวาดกลัว ความสามารถทางกายภาพลดต่ำลง
-ขวัญกำลังใจของลูกเรือลดลงจนถึงระดับต่ำสุด เป็นไปไม่ได้ที่จะออกคำสั่งถอยทัพ
ร่างกายของสามฉลามโฉดแห่งคาบสมุทรเบคกี้นิน เหล่าอัศวินนาวี หรือแม้แต่เหล่าโจรสลัดแข็งทื่อเนื่องจากเห็นรูปลักษณ์ของฮาชิลซา
จิตวิญญาณนักสู้ของวีดนั้นสูงมากพอที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากมัน
 สร้อยคอแห่งเอลคาเย่ มันคือสร้อยคอล้ำค่าที่ยังคงตามหาเจ้าของที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ของมัน มันถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือล้ำค่าของสมาคมนักเวทย์ ค่าสถานะที่อยู่ในขอบเขตทักษะโจมตีและเอฟเฟคของไอเท็มเพิ่มขึ้น 35% ส่วนค่าการใช้มานาก็ลดลงกว่าครึ่งตามคาด งั้นเขาก็เป็นคนที่ถือดาบเวทย์อัศวินของราชอาณาจักรเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะพูดว่าเป็นดาบเวทย์มนต์แต่สร้อยคอนั่นเลเวลมากกว่า 600 ซะอีก
หากว่ามองไปในมุมมองบางมุม เหตุผลที่บัลข่านไม่สามารถแสดงความสามารถเต็มที่ได้นั่นคงจะเป็นเพราะหัวใจของเขาโดนแทงด้วยดาบ! เพียงแค่ตรวจสอบไอเท็มภายในความคิดของเขา นั่นก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมากแล้ว
 มาโจมตีฉันเลยสิ ฉันไม่กลัวตายหรอก ถ้าเขามีเลเวลสูงขนาดนั้นแล้ว ฉันคงจะตายไปอย่างรวดเร็วแน่ๆ
ถึงแม้ว่าวีดจะไม่สามารถตรวจสอบไอเท็มส่วนใหญ่ที่ฮาชิลซาสวมใส่อยู่ก็ตามที
มันก็เป็นไปได้ที่ไอเท็มทั้งหมดนั้นจะเป็นไอเท็มสมบัติเอกลักษณ์ ไม่ว่าใครก็คงสามารถคาดเดาความแข็งแกร่งของฮาชิลซาได้ว่าน่ายำเกรงมากแน่นอน! แต่วีดก็เริ่มออกปากพูดกับเขาไปก่อนอย่างจองหอง
 ฮาชิลซา แกมาหาฉันด้วยเหตุผลอะไร แกอยากจะพูดอะไรกับฉันงั้นหรอ?”
แน่นอนว่าฮาชิลซาไม่สามารถจัดการและควบคุมกองทัพอมตะทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่ว่าวีดก็ยังพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะที่แผ่ออร่าแห่งความตายออกไปด้วย
ถึงแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็ยังมีโอกาสที่จะพูดถ้อยคำสุดท้ายของเขาได้หรือแม้แต่ถามคำถามสุดท้ายออกไป
นี่เป็นสิ่งที่ชายชาตรีทั้งมวลควรเป็นไม่ใช่หรือไง


หนึ่งในคติประจำใจที่สำคัญของการเป็นดาร์คเกมเมอร์ก็คือ ถึงแม้ว่าเจ้าจะโดนโจมตีโดยมังกร พวกเจ้าก็จำต้องตื่นตัวเอาไว้ เช่นนั้นเจ้าจักสามารถเก็บเอาไอเท็มมากมายก่อนที่เจ้าจะโดนฆ่า
ฮาชิลซายกแขนข้างหนึ่งของเขาขึ้นมาทาบอกและค่อยๆโน้มตัวลงมาข้างหน้า
 “ข้าน้อยยินดีที่ได้พบท่าน เหตุผลที่ข้าน้อยมาที่นี่ก็เพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่า ท่านบัลข่าน ดีมอฟ ได้เรียกขานท่าน
สภาพที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอัดอั้นในใจอย่างหนักหน่วง! วีดโด่งดังแม้กระทั่งกับพวกมอนสเตอร์ นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้ต้องการเลย
วีดกลอกตาของเขาขณะที่ถามฮาชิลซากลับไป
 “เขาได้มาที่นี่ด้วยไหม?”
“…ไม่ขอรับ นายท่านไม่ได้มาด้วย
แม้ว่าบัลข่านจะไม่ได้มา มันก็ยังเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าอภิรมย์อยู่ดี
ถ้าหากว่ามีแค่ฮาชิลซาคนเดียว วีดก็คงจะสามารถฆ่าเขาได้
การที่มีความรู้สึกเกรงใจต่อฮาชิลซาอย่างมากนั้น ทำให้มันยากที่จะหลบเลี่ยงเขาออกไปได้ แถมยังทำให้เขารู้สึกว่าเขามีภาระหน้าที่ที่ต้องสานต่อบทสนทนากับฮาชิลซาต่อไปอีก

เช่นเดียวกัน บ่อยครั้งที่มีมอนสเตอร์ระดับบอสจำนวนมากต่างก็ที่มีเรื่องราวความหลังของพวกมัน
มันสำคัญมากที่จะรู้จักพูดคุยและเรียนรู้เท่าที่คุณจะสามารถทำได้ ดีเสียกว่าพยายามต่อสู้อย่างไม่ลืมหูลืมตา
 พวกมันอาจจะยอมให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ได้ ถ้าตอนนี้ฉันยอมใช้คำสุภาพซักหน่อย
แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน ก็มีทางเป็นไปได้อยู่ที่ฮาชิลซาจะกลายร่างเป็นคนที่มีลักษณะอ่อนแอและใช้คำที่ให้เกียรติกับคนที่อ่อนแอกว่ามัน
วีดจึงสวมรอยยิ้มอันเสแสร้งบนริมฝีปากเขา
 “จริงหรือ? ถ้างั้น เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อโจมตีฉันใช่ไหม?” (ผู้แปล: วีดอาจใช้คำสุภาพมากขึ้น)
เขาถามคำถามที่สำคัญออกไปอย่างโต้งๆตั้งแต่เริ่มบทสนทนา
จู่ๆก็มีความคิดหนึ่งสะกิดความคิดในหัวของเขาขึ้นมา
 อ๊า หรือว่าบางที?’
ตอนนี้เขาอยู่ในร่างลิช
แน่นอนว่ามันดูไม่สมเหตุสมผลกับพวกพ้องของเขาเลย ทันทีที่เขาได้รับความเคารพอย่างไม่ได้บังคับจากอันเดดรุ่นพี่พวกนั้น

แต่ในตอนที่เขาสลักประติมากรรมของลิชเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขา มันถูกจำลองแบบมาจากลิช ไชร์ แม้ว่าในตอนนี้เขาไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ของไชร์เลยซักชิ้นก็ตาม
 ‘หึหึ ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก แม้ว่าจะมีคนเจอฉันที่เป็นลิชเข้าโดยบังเอิญก็เถอะ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกมันจะเข้าใจผิดน่ะ
แต่อย่างไรก็ตามการใคร่ครวญคิดคำนึงของวีดก็ได้ถูกพิสูจน์ให้เป็นจริงด้วยถ้อยคำต่อมาของฮาชิลซา
 “ท่านคิดได้เช่นไรที่ข้าน้อยจักบังอาจโจมตีท่านไชร์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของท่านบัลข่าน?”
“…”
นายท่านไชร์ ท่านบัลข่านกำลังเร่งรีบตามหาท่านนะขอรับ
ใบหน้ากะโหลกของวีดบิดเบี้ยวเหยเก ด้วยการเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ เขาไม่สามารถเสแสร้งแกล้งบอกว่าเขาไม่ได้รู้จักลิชไหนซักตัวเลย
 ตอนนี้ข้ายุ่งๆนิดหน่อยนะ งั้นเอาไว้ข้าจะไปทีหลังละกัน
เขาเพียงแค่บอกเขาไปว่าจะไปหาบัลข่าน ดังนั้นพวกเขาจึงได้ยินในสิ่งที่พวกเขาอยากจะได้ยินชัดเจนแล้ว!
ถูกเรียกให้ไปยังดินแดนของมอนสเตอร์นั้นทำให้เขาปวดหัวมากจริงๆ
 นายท่านไชร์ ท่านเป็นลูกศิษย์ของท่านบัลข่าน ฉะนั้นท่านต้องมาตามคำเรียกขานของท่านบัลข่าน นายท่านไชร์ ข้าจะให้เวลาท่าน  120วัน เพื่อที่จะมาพบนายท่าน ข้าน้อยหวังว่าเวลานั้นจะเพียงพอ
-ตริ้ง!
คำเรียกขานของบัลข่าน
คำเรียกขานของเจ้าเหนือหัวแห่งอันเดด บัลข่าน ดีมอฟ
อันเดดทั้งหมดต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขา
ระดับความยาก: C
รางวัล: จุดเริ่มต้นของภารกิจต่อเนื่องที่จะต้องไปพบบัลข่าน
-ภารกิจเกี่ยวข้องกับลิชไชร์ได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว
ภารกิจลับได้ถูกปลดล็อคเป็นที่เรียบร้อย!
คำอธิบายความเป็นมา
ในฐานะที่เป็นรองผู้ควบคุมเหล่าอันเดดต่ำกว่าบัลข่านนั้น ลิชไชร์เป็นลิชชั่วร้ายเล่ห์เหลี่ยมจัดจนไม่มีใครเทียบเคียงได้ เขาสมคบคิดทรยศผู้เลี้ยงดูเขามาด้วยความชั่วร้ายของเขา และชักนำกองทัพอมตะเข้าสู่สงคราม
-จงกลายเป็นสายลับและแทรกซึมเข้าไปในกองทัพอมตะ
-จำเป็นต้องใช้ค่าชื่อเสียงเสียที่สูงและความสามารถในการบัญชาการ และจำเป็นต้องมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับไชร์

-ท่านถูกบังคับให้ทำภารกิจนี้
ในฐานะลิช ท่านไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของบัลข่านได้
 ‘พวกมันทำสิ่งที่โคตรขี้โกงแบบนี้กับฉันได้ยังไง
เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพเลย
ขณะที่วีดยังคงคร่ำครวญโอดโอยอยู่นั่น ฮาชิลซาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
 ถ้างั้น ข้าน้อยขอตัวก่อนและก็จะมุ่งหน้าไปหานายท่านบัลข่าน ไว้ข้าน้อยไปเจอท่านที่นั่นนะขอรับ นายท่านไชร์
วีดเองก็อยากให้เขาออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
 “ข้าเข้าใจแล้ว งั้นไปเถอะ
เขาอยากจะสาปแช่งพวกมันด้วยความโกรธ แต่เขาอยู่ในสภาพที่ไม่อาจเปิดปากของเขาได้เลย
มีผู้คนมากมายที่มีเลเวล 200 หรือมากกว่าออกไปอวดอ้างความแข็งแกร่งของพวกเขา
แต่สำหรับวีดผู้ที่เข้าใกล้เลเวล 400 แล้วในตอนนี้ ถูกทำให้ต้องไปพัวพันกับปัญหาของพวกมอนสเตอร์ระดับสูง
ในครั้งนี้ บัลข่านต้องกำลังวางแผนที่จะทำลายอาณาจักรทั้งหมดแน่ๆ วีดรู้สึกว่านั่นคือชะตากรรมของเขา
 ‘เพียงแค่โชคร้ายๆของฉันเท่านั้น อาจจะไม่มีผู้เล่นคนไหนในทวีปเวอร์เซลที่ต้องก้าวพ้นอุปสรรคแบบนี้เหมือนกับฉันแล้ว
แต่ว่าพวกคนที่กำลังมองดูเขาอยู่ก็ดูเหมือนจะมีความคิดที่แตกต่างออกไปเป็นประจำ
 ‘วีดได้ภารกิจเจ๋งๆอย่างอื่นอีกแล้ว
 ‘เป็นคนเดียวที่ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจที่เกี่ยงข้องกับกองทัพอมตะอีกครั้งหนึ่ง เขานี่สุดยอดจริงๆ
 ‘ฉันอิจฉาจังเลย แต่คงไม่เหมือนกับเขา พวกเราก็ทำได้แค่ปล้นจี้คนอื่นเพื่อกินเพื่ออยู่
 ‘อย่าบอกนะว่าเขาจะไปทำให้มันเสร็จๆ แล้วเขาก็จะโยนภารกิจกองทัพอมตะนั้นทิ้งไป? ฉันมั่นใจว่ามันคงไม่จบไป โดยการไม่ยอมไปพบบัลข่านหรอกนะ
จากนั้นเหล่าผู้เล่นพวกที่มีระดับเลเวลค่อนข้างสูงกว่าเขา ก็พากันเปลี่ยนความคิดของพวกเขาไปในทันที
 เอ่ออ ลองมาคิดเรื่องที่จะฆ่าวีดแล้วก็ขโมยภารกิจไปเนี่ย ตอนนี้มันจะดีกว่าไหมนะถ้าฉันไม่ไปขโมยมันมา
 ‘ถ้าเป็นภารกิจที่เกี่ยงข้องกับกองทัพอมตะ งั้นก็คงอาจจะต้องตายแบบไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ เขาอาจจะต้องตายอย่างน้อยซักห้าหรือหกครั้งเลย
 ‘ฉันคงต้องเจอกับปัญหามากมายแน่ๆ อยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์นี่ก็เจอมาเยอะมากเอาการละคงจะดีกว่าถ้าฉันแค่อยู่แบบสบายๆเจียมเนื้อเจียมตัวดีกว่า
พวกเขาทั้งหมดได้หมดความสนใจในการผจญภัยเหนือท้องทะเลของวีดไปจนสิ้นแล้ว
ในตอนที่ฮาชิลซาปรากฏตัวออกมา เรือผีสิงที่อับปางไปแล้วก็ผุดขึ้นมาจากทะเลราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในตอนที่เรือรบของพวกดรินเฟลด์และโจรสลัดได้รับความเสียหายร้ายแรง พวกเขาก็ไม่สามารถยืดเยื้อสงครามน่านน้ำนี้ได้อีกต่อไป
ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดก็คือพวกเขาอาจสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ว่ามันจะน่าลำบากใจมากขึ้นในตอนที่ต้องกลับไปยังทวีปเวอร์เซล
****

หลังจากที่สงครามแห่งท้องทะเลได้สิ้นสุดลง ในที่สุดก็ถึงเวลากลับไปยังทวีปเวอร์เซลพร้อมกับเพื่อนๆของเขา มันจะต้องเป็นการเดินทางที่สนุกสนานแน่ๆ
เหล่าประติมากรรมสลักชีพแบ่งพวกมันออกไปขึ้นเรืออีกสามลำ วีด เพื่อนของเขาและซอยูน ทั้งหมดนั่งอยู่บนเรือลำเดียวกัน
 “อะแฮ่ม! เจ้าวิหคเงินมานี่ แล้วก็ทักทายหน่อย

กรู๊ เจี๊ยบ จิ๊บ เจ้าวิหคเงินหดปีกของเธอลงและทักทายพวกเขาอย่างน่ารักน่าชัง
เซเฟอร์กำลังใช้เบ็ดตกปลาของเขาจับปลาอยู่ในขณะที่วีดทำซุปทะเลสูตรพิเศษของเขา
ในตอนที่พวกเขากำลังทานอาหารของพวกเขาอยู่ ฮวายองก็เริ่มเล่าเรื่องราวการมาถึงของพวกเขาตอนที่พวกเขาตามหลังเรือผีสิงมา
 “นี่อร่อยสุดๆไปเลย! ตอนที่พวกเราเห็นกองทัพอมตะ เราก็กังวลอยู่ว่าเราอาจจะมาถึงช้าไป…”
ความเร็วเรือของพวกเขาอืดมากจึงทำให้พวกเขามาทันแบบฉิวเฉียด
จากนั้นไอรีนก็อธิบายเพิ่ม
 ตอนนั้น พวกนางเงือกมาวนอยู่รอบๆตลอดเลยคงเป็นเพราะเบลลอตที่ร้องเพลงแล้วก็เต้นรำด้วย เซเฟอร์ก็ช่วยพวกปลาโลมาฝูงหนึ่งที่ถูกจับเอาไว้ออกมาด้วย
เบลลอตร้องเพลงออกมาด้วยน้ำเสียงที่ใสแจ๋วและโทนที่ไพเราะเพราะพริ้ง เป็นการร้องเพลงที่สดชื่นสนุกสนานอย่างมากหลังจากนั้นพวกนางเงือกก็มารวมตัวกันที่เรือ เซเฟอร์ก็ไม่ได้ใช้เหยื่อตกปลาอีกแล้วก็โยนออกไปเลี้ยงพวกปลาโลมาให้มารวมกลุ่มกันแทน (ผู้แปล: ตอนเล่ม 18 มันบอกว่าถ้ามีปลามาวนใกล้ๆเรือจะทำให้แล่นเรือให้เร็วขึ้น)
เพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงไปได้ทันเวลาพอดี
วีดแนะนำซอยูนให้กับเพื่อนของเขาให้รู้จักกันและกัน
พวกเขาเคยทำงานและออกไปล่าด้วยกันกับเธอและซีชวิอยู่ช่วงๆสั้น ดังนั้นจึงดูไม่เหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันเลย
 “….”
ใบหน้าของซอยูนนิ่งราวกับหน้ากาก เพราะว่าปกติแล้วเธอไม่คุยกับคนอื่น
ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอจำเป็นจะต้องพูดกับวีด มันก็ยากมากที่เธอจะยอมพูดออกมา
หลังจากสิ้นสุดการพบปะทักทายแล้ว วีดก็กางผ้าผืนหนึ่งลงบนพื้นที่เขาเอาไว้ใช้ตอนเย็บปักเสื้อผ้า
 “เอาละ มาเริ่มกันเถอะพวกเรา
เอ๋?”
ฮวายองที่ชนะเงิน 1,190 เหรียญทอง ได้โปรดเล่นเกมด้วยกันด้วยนะ
นั่นคือการเล่นไพ่โกสต๊อประหว่างการเดินทางเพื่อฆ่าเวลานั่นเอง! (Go-stop: ไพ่โกโดริของเกาหลี)
ขณะที่วีดกำลังชักชวนฮวายองและเบลลอต พวกไอรีน เซเฟอร์ กับโรมูนะก็ชำเลืองมองตากันและกัน
 ‘อย่างที่คิด ดูท่าว่าเขากำลังวางแผนที่จะเล่นมันอีกครั้ง
นั่นต้องเป็นแผนของเขาที่วางไว้ตลอดทางแน่…’
คงไม่ผิดแล้วละ
โดยปกติมันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะเลือกข้างในวงไพ่เอาไว้ก่อนแล้วหรือการเล่นพนันแบบโกงๆ แต่ตอนนี้มันเลือกได้แค่ฝั่งตรงข้าม(จากวีด)เท่านั้น!
พวกเขาจะทำให้วีดพอใจด้วยการแกล้งแพ้เขา วีดดึงแม้แต่ซอยูนเข้ามาเล่นเกมด้วย
 อย่าเอาแต่มองสิ เข้ามาเล่นด้วยกันมา
 “……”
 “เธอไม่รู้ใช่มั้ยว่าเล่นยังไง? ฉันจะสาธิตให้เธอได้เห็นวิธีเล่นละกัน ง่ายๆเอง ทั้งหมดที่เธอต้องรู้ก็แค่กฎสองสามข้อเท่านั้น
วีดรู้ความจริงที่ว่าซอยูนนั้นรวย ดังนั้นเขาจึงดึงเธอเข้ามาด้วยเพราะความโลภมากของเขา
 ทั้งหมดที่เธอต้องทำก็คือต้องเก็บแต้มให้ได้มากๆ มีไพ่สำคัญหลายๆใบเป็นไพ่ซังพี(ไพ่ขยะ)อยู่จำนวนหลายใบ แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะได้ไพ่กวางมัน (ไพ่สว่าง)อยู่ด้วย” (ผู้แปล: เล่นไม่เป็นเหมือนกันนะครับ ไม่รู้ว่าแปลถูกไหม อ่านกติกาดูแล้วมันให้จับคู่เพื่อนับแต้มจากไพ่จำนวน 48 ใบน่าจะเล่นคล้ายๆดัมมี่แต่กฎเยอะกว่า)
พวกเขาล้อมวงเล่นไพ่กินเวลาไปนานมากเอาการ
กลุ่มปาร์ตี้พยายามที่จะค่อยๆแกล้งแพ้และวีดคนที่กำลังพยายามกอบโกยเอาเงินจากคนอื่นมาได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าตอนนี้ของพวกเขาเคร่งเครียดอย่างมากขณะที่เล่นเกม
เบลลอตกับไอรีนหมอบไพ่ยอมแพ้ไปแล้ว ขณะที่วีด เพล และซอยูนยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ
เบื้องหน้าของซอยูนมีไพ่กองอยู่มากมาย ส่วนวีดและเพลกลับมีจำนวนไพ่บางตาพอควร พวกเขาเดินตาต่อไปหลังจากทำโบนัสได้แล้ว และในรอบที่สองก็มีคนน็อคได้อีกหนึ่งGo
และในตรงจุดที่มีคนทำน็อคGoได้ ก็เอ่ยออกมาถึงสองครั้งไปแล้ว
 ‘พีบัค(Pibak)กับกวางบัค(Gwangbak) บนกองนั้นมีสองGoแล้วที่ถูกเรียกออกมา…’
วีดกับเพลตั้งหน้าตั้งตาโกงให้ยิ่งกว่าเดิม
พวกเขามีไพ่อยู่แค่นิดเดียว ขณะที่ข้างหน้าซอยูนนั้นมีมากเอาการ
แม้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆนั้นจะคร่ำเครียดอย่างมาก แต่ในที่สุดก็มาถึงรอบของซอยูนแล้ว
แกร็บ
ฉับ! (เสียงจั่วไพ่)
ในตอนที่ซอยูนหยิบพัลกง(Palgong)ขึ้นมา แล้วเธอก็หงายไพ่ ซังพี (Sangpi)ออกมา
จากนั้นความเงียบก็เข้าครอบงำทั้งกลุ่ม
 นี่เธอเลือกที่จะไปสะสามGoจริงๆหรอ?”
วีดถามออกมาอย่างติดๆขัดๆ
ในตอนนี้นี่ทำให้เขาเป็นกังวลมากกว่าช่วงเวลาอื่นซะอีก
 ‘ถ้าเธอยังมีความรู้สึกอยู่ซักหน่อย เธอคงจะไม่ไปถึงสามGoหรอก
ชางทง (Changdong) สามารถกินเงินได้ตั้ง 10 เหรียญทอง (หมายถึงคนที่น็อคได้หนึ่งGo) แถมคนที่สามารถชนะเกมรอบนี้ได้ยังได้เงินไปตั้ง 2,000 เหรียญทอง
ซอยูนพยักหน้าเพื่อตอบคำถามของวีดกลับไป แล้วชูสามนิ้วให้เขาได้เห็น
ตลอดทั้งวันวีดเสียเงิน 6,290 เหรียญทองให้กับซอยูนคนที่กวาดเงินทั้งวงไปเรียบ
--------------------------------------------------

สถานี KMC Media ถ่ายทอดการต่อสู้แห่งเขตลาส ฟาลังคซ์ตลอดทั้งวัน แน่นอนว่าพวกเขาได้รับเรตติ่งสูงสุด แต่ว่ามันไม่ใช่การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาหวังไว้มากนัก
-ฉันคิดแล้วก็คาดหวังเอาไว้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่แท้จริง
-วีดเคยปราบมังกรได้ขณะที่เขาขี่ไวเวิร์น แถมในตอนที่เขาอยู่ในคอนติเนนออฟเมจิค เทพสงครามยังฆ่าพวกผู้เล่นจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
มีผู้เล่นมากมายที่ยังไม่เคยออกไปท้องทะเลอันกว้างใหญ่ของมหาสมุทร แต่ตอนนี้ความสนใจของพวกเขากลับดิ่งฮวบลงไปอย่างรวดเร็ว และพวกเขาทุกคนกลับไปสนใจทางฝั่งทวีปทางตอนกลาง
บรรดากิลด์ที่มีชื่อเสียงทั้งหลายเข้าร่วมสงครามและต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
มันเป็นสนามการต่อสู้ระหว่างดินแดนทั้งหลาย หมู่บ้านและปราสาทมากมาย
ทุกๆคนเข้าร่วมสงครามอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง แถมผู้เล่นแข็งแกร่งที่ไม่รู้จักหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาคนแล้วคนเล่า
เหล่าผู้เล่นเลเวลสูงที่มาจากกิลด์ที่มีชื่อเสียงกำลังต่อสู้กับศัตรูของพวกเขาภายในหมอกควันที่ลอยฟุ้งมากมายจนมืดมัว
บนสถานีโทรทัศน์เกมส์ พวกเขากำลังถ่ายทอดสดแบบ 24 ชั่วโมงในโหมดฉุกเฉิน รอยัลโร้ดกำลังลุกเป็นไฟอีกครั้ง
-------------------------------------------
 “เฮ้ออ ฤดูใบไม้ผลิที่แท้จริงนี่ช่างสั้นจริงๆ
ในขณะที่ลีฮุนมองดูใบไม้ร่วงหล่น เขาก็รู้สึกถึงความไม่มั่นคงจากเงินค่าเทอมของเขา
 เทอมนี้เดี๋ยวก็จะจบแล้ว แถมยังแพงมากๆด้วย หลังจากวันหยุดพักผ่อนฤดูหนาวผ่านไป ฉันก็จะต้องเรียนอีกเทอมหรอเนี่ยยย
เขาถอนหายใจขณะที่เดินกลับบ้านเพื่อพักผ่อน
ปัจจุบันพวกเขาอยู่ระหว่างการเดินทางจากเขตลาส ฟาลังคซ์ไปยังเมืองโมราต้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในอันตราย เขาก็ยังใช้ให้พวกเพื่อนของเขาให้ประจำตำแหน่งเพื่อคอยระแวดระวังเอาไว้
 “ฉันควรมีสมาธิอยู่กับการสร้างประติมากรรมแล้วก็ตัดเย็บชุดหนังบ้างจนกว่าพวกเราจะไปถึง
มีเพียงคนเดียวที่ตื่นเต้นอยู่กับการทำงานอย่างหนักก็คือ ลีฮุน แต่อย่างไรก็ตามในตอนที่เขามุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน เขาก็เห็นว่ามีรถสีดำคันหนึ่งและคนสวมสูทยืนรออยู่หน้าบ้านของเขา ขณะที่เขากำลังพยายามหลีกหนีจากพวกเขา พวกเขาก็ตรงมาพูดกับเขาในทันที
 ขอโทษนะครับ ว่าแต่คุณใช่คุณลีฮุนหรือเปล่าครับ?”
แล้วลีฮุนตอบก็ตอบกลับมาอย่างเฉยเมย
 ใช่? แล้วพวกนายละ?”
ถ้าหากจะมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือแกล้งทำเป็นไม่สนใจ!
เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินพวกเขา แต่ชายทั้งสองที่อยู่ตรงนั้นเขาเคยเห็นมาก่อนซักสองสามครั้ง พวกเขาคือบอดี้การ์ดของซอยูนนั่นเอง
 พวกเรามาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับคุณหนูซอยูน ท่านประธานกำลังรออยู่ คุณพอจะมีเวลาว่างซักครู่ไหมครับ?”
จากนั้นลีฮุนก็หยุดเดิน
พ่อของซอยูนเรียกเขางั้นหรอ
มันสุดยอดแล้วก็ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่ก็ยังมีลางสังหรณ์แปลกๆอยู่
เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยเพราะว่าเขารู้ว่าอะไรอย่างนี้จะต้องเกิดขึ้นซักวัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำดีกับเธอนัก
ทุกๆครั้งที่เธอมองมาที่เขาอย่างเพื่อน เขาก็คาดการไว้คร่าวๆแล้วว่าวันนี้จะต้องเกิดขึ้น
 “เข้าใจแล้ว งั้นไปกันเถอะ
จากนั้นลีฮุนก็เดินตามพวกเขาไป
--------------------------------------------
การเดินร่วมทางพร้อมบอดี้การ์ดมากมาย พวกเขาก็มาถึงข้างหน้าคฤหาสน์หรูหราพร้อมกับสวนอันน่าประทับใจ
 นี่คือบ้านของซอยูนงั้นหรอ?”
ในตอนที่วีดถามออกไปอย่างนั้น บอดี้การ์ดก็ผงะถอยหนีออกไป แต่ก็ตอบกลับมาราวกับพวกเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นความลับแต่อย่างใด
 “คุณหนูซอยูนไม่ได้อยู่ที่นี่ นี่เป็นบ้านพักร้อนที่ท่านประธานใช้ในบางโอกาสเท่านั้น
แล้วจากนั้นเขาก็ได้พบกับพ่อของซอยูน ประธานจอง ทึกซู(정득수)
จากนั้นเขาก็เชิญให้ลีฮุนนั่งลง
 “เข้ามานั่งก่อนสิ นายทานข้าวมาหรือยังละ?”
ในสถานการณ์แบบนี้ ปกติลีฮุนก็จะตอบกลับคำถามแบบนี้ว่า เขายังไม่ได้ทานอะไรมาเลย
เพราะนั่นคือความตะกละของเขานั่นเอง
เขารู้สึกกระอักกระอ่วมที่ต้องมาทานข้าวเร็วขนาดนี้ เพราะนี่มันยังไม่ 5 โมงเย็นด้วยซ้ำ แต่อย่างไรซะ เขาก็ไม่อยากทำให้ตัวเองขายหน้าอีกด้วย
 ขอบคุณครับ แต่ว่าผมอิ่มแล้ว ผมทานอาหารกลางวันมาเยอะแล้วครับ
 “’งั้นเรามาทานของว่างเบาๆขณะที่เราคุยกันดีกว่า
 “ถ้าท่านมีอะไรจะพูดกับผม ได้โปรดพูดมาเถอะครับ ผมไม่ถือ
 “โอ้ๆ ไม่ใช่ๆ เธอไม่ได้กำลังเจอกับปัญหาอะไรหรอก สำหรับฉันเธอคือแขกคนสำคัญ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลไป
จากนั้นประธานจอง ทึกซูก็ลุกขึ้นและนำอาหารว่างมาให้
 เธอคือเพื่อนสนิทของลูกสาวของฉัน ซอยูน ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเกาหลี(KNU) และฉันก็ได้ยินมาแล้วบ้างว่าพวกเธอกำลังออกไปผจญภัยสนุกๆด้วยกันในรอยัลโร้ด ส่วนใหญ่แล้วเธอมีการผจญภัยแบบไหนหรอ?”
 “ผมก็แค่ทำนู้นทำนี่นะครับ
 “การผจญภัยของเธอได้ออกรายการทีวีด้วยนิ มันโด่งดังมากขนาดนั้นเลยหรือ?”
ประธานจอง ทึกซูกำลังให้ความสนใจกับงานของลีฮุนเป็นอย่างมาก
ลีฮุนเล่าให้เขาฟังแบบย่อๆเกี่ยวกับภารกิจวิหารแห่งเทพีเฟรย่า ภารกิจลิชไชร์ และการต่อสู้ที่เขาเคยผ่านมา
แม้ว่าประธานจองทึกซูจะได้ฟังเรื่องราวคร่าวๆไปราว 10 นาทีเท่านั้น แต่มันก็ดูคลุมเครือมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงหมดความสนใจลงไปในทันที
อย่างเดียวที่จองทึกซูกำลังนึกถึงก็คือลูกสาวของเขา
 “แล้วซอยูน….เธอยิ้มบ้างไหม?”
 “ซอยูนยิ้มออกมาบางครั้งครับ แต่ก็ยิ้มเพียงแค่แปบเดียวเท่านั้น
 “ฉันได้ยินมาว่า….ซอยูนเริ่มพูดอีกครั้งแล้วหรอ แต่ฉันก็ได้ยินมาอีกว่าพูดแต่กับเธอแค่คนเดียวเท่านั้น” “ใช่ครับ
 “เธอคิดยังไงกับลูกสาวฉันหรอ?”
ลีฮุนคิดว่าการพูดคุยของพวกเขาได้มาถึงจุดที่อันตรายแล้ว
 ตั้งแต่ตอนที่เขามาถึงที่แห่งนี้ นี่จะต้องจะต้องเป็นสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่แน่ๆ
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็อยากจะรู้จริงๆว่าผู้ชายที่ลูกสาวพวกเขาคบหาอยู่เป็นคนยังไง
ในกรณีของลีฮุน เขาก็คงแสดงอาการเป็นกังวลในทันทีที่มันเข้ามาใกล้น้องสาวของเขา
ผู้ชายที่ดีที่สุดที่เธอเจอจะต้องไม่ใช่ผู้ชายเลวๆ แล้วก็ทางที่ดีที่สุดคือจะต้องตรวจสอบพวกศัตรูที่จะเกิดขึ้นมา เพื่อให้มั่นใจว่ามันไม่ใช่ผู้เล่น(ผู้แปล: พูดถึงเซเฟอร์รึเปล่าน๊า)
ลีฮุนต้องดูแลน้องสาวของเขาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเขาจึงเข้าใจถึงจุดยืนของความเป็นพ่อเป็นแม่ดี
เขาเข้าใจและเดาว่านั่นเป็นความรู้สึกที่ห่วงใยของประธานจอง ดึกซูที่มีต่อลูกของเขาแน่ๆ
มันก็ไม่มากเกินไปหรอก แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้จักถึงความเป็นพ่อแม่เพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
 “ก็อย่างที่ท่านกล่าวมาครับ….ผมมองตัวเองเป็นแค่เพื่อนของเธอเท่านั้น
ความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำแรกของซอยูน เพื่อนนั้นดูกำกวมกับลีฮุนมาก ทั้งหมดที่เขาอ้างกับเธอได้ก็คงมีเพียงแค่การเป็นเพื่อนเท่านั้น
 ฉันได้ยินมาว่าลูกสาวของฉันพึ่งพาเธออย่างมาก ยังไงก็เถอะ เธอมั่นใจเหรอว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกอย่างอื่นอีกน่ะ? ยังไงเธอก็เป็นผู้ชายนะ
 “ผมมองเธอเป็นเพียงแค่เพื่อนของผมครับ
ซอยูนทั้งสวย ฉลาด จิตใจดี เกือบจะเทียบเท่าเทพธิดาเลยทีเดียว
ถึงแม้เขาจะต้องทนทุกข์กับความพ่ายแพ้อย่างไร้ความปราณีในตอนเล่นไพ่โกสต็อป แต่ก็ยังคง…..
 ‘เธอก็ยังเป็นคนหนึ่งที่ใจดีกับฉันอยู่ดี
นอกจากนี้ เธอก็มาจากครอบครัวร่ำรวยด้วย
ลีฮุนคิดว่าไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถให้กับเธอได้ ในสิ่งที่เธอไม่มี
ตั้งแต่เขายังเด็กเขาต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากมาย
ที่โรงเรียนเพื่อนร่วมชั้นของเขาทั้งหมดก็เอาแต่คุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับการช๊อปปิ้งกับพ่อแม่ของพวกเขาว่าจะซื้อรองเท้า หรือตอนไหนที่พวกเขาอวดอ้างเสื้อผ้ากับของเล่นของพวกเขา เขาก็ต้องก้มหน้าคุดคู้ใส่โต๊ะของเขา ในตอนที่เขาต้องกังวลเกี่ยวกับบิลค่าไฟ บิลค่าน้ำ ค่าเช่าบ้านตอนไหนก็ตามที่เขากลับมาที่บ้าน
แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลมากนักเกี่ยวกับปัญหาค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เมื่อเทียบกับตอนอายุเท่านั้นเพราะว่าเขามีเงินเก็บจำนวนไม่น้อยเป็นของตัวเอง
ถึงแม้ตั้งแต่ที่เขาเป็นเด็กเมื่อเทียบวัยเด็กของอื่นๆ เขาต้องผ่านพ้นประสบการณ์ต่างๆนาๆ
การที่จะต้องเป็นเพื่อนชายให้กับเธอ คนที่มีทุกๆอย่าง มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ถึงแม้ว่าเธอจะต้องการแบบนั้น แต่มันก็คงดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงมันไป
หัวใจของซอยูนถูกทำให้ห่างเหินออกไปทุกที
ความห่างเหินเป็นบางอย่างที่ไม่สามารถที่จะขยับให้มันแคบลงมาได้ง่ายๆเลย
 “ลูกสาวของฉัน ตั้งแต่ที่เธอยังเด็ก เธอได้รับความบอบช้ำทางจิตใจมาเป็นเวลานานมากๆ จนเธอไม่สามารถพูดได้ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เพราะว่าเธออยู่กับนาย เธอจึงเริ่มพูดได้อีกครั้ง แต่ว่าเธอก็ยังคงพูดคุยแต่กับนายคนเดียวเท่านั้น….ลีฮุน
เขาพึ่งได้ยินหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับชีวิตของซอยูนจากปากพ่อของเธอ
 ‘เธอพูดไม่ได้จริงๆ…’
สิบปีที่เธอปิดตัวเองจากโลกภายนอกอยู่ในบ้าน ซอยุนอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร ครอบครัวที่ดูแลเธอ ก็รู้สึกเศร้าจนพูดไม่ออก
 สำหรับฉันเธอคือผู้มีพระคุณ ดังนั้นฉันจึงได้เตรียมรางวัลเอาไว้ให้เธอ ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่ค่าตอบแทนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอได้ทำลงไป แต่ได้โปรดรับนี่ไปและช่วยเป็นเพื่อนสนิทของซอยูนต่อไป แล้วฉันจะให้รางวัลกับเธออีกครั้ง ได้โปรดช่วยรักษาบาดแผลของลูกสาวของฉันต่อไป แต่ถ้านอกเหนือจากนั้น มันคงจะยากสักหน่อย ฉะนั้นฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ
จากนั้นประธานจองดึกซูก็วางซองกระดาษสีขาวข้างๆถ้วยชา
 ฉันได้ยินมาว่าเธอมีหลายอย่างมากมายให้ต้องใช้จ่าย เพราะงั้นฉันถึงใส่เงินไว้ในนี้
ลีฮุนเชิดหน้าของเขาขึ้นและจ้องตาประธานจองดึกซู หลังจากที่เขามองไปที่ซองกระดาษ
 ผมขอโทษครับที่ไม่อาจรับสิ่งนี้ไว้ได้ เหตุผลที่ซอยูนสามารถพูดออกมาได้ ก็เพราะความตั้งใจของตัวเธอเอง ผมไม่ได้ทำอะไรให้เธอเลย
 “จำนวนเงินนั่นมันไม่น้อย….มันอาจจะช่วยเธอในสภาพที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้ได้เลยนะ
 “นี่มันไม่เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของผมหรอกครับ
จากนั้นลีฮุนก็เริ่มนึกถึงค่าใช้จ่ายในเดือนนี้
ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันกับค่าอาหาร ค่าประกันชีวิตของน้องสาวเขาแล้วก็เงินเก็บ
แถมยังมีบิลค่ารักษาของคุณย่าของเขาที่เขาจำเป็นต้องจ่ายอย่างต่อเนื่อง
โรคข้อต่ออักเสบเรื้อรังกับการรักษามะเร็งที่ทำให้ร่างกายของเธออ่อนแอลง
ระหว่างการรักษาตัวกับทำกายภาพบำบัดอีกสองสามเดือน เขาเคยออกไปเที่ยวกับคนชราคนอื่นอีกหลายคน
ความคิดความอ่านของเขาเติบโตขึ้นมาได้ด้วยการเอาใจใฝ่รู้จากการนั่งอยู่ที่ตรอกในตลาดพูดคุยกับผู้คน
แม้ว่าเขาจะสามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้ แต่ก็ยังมีการบำบัดรักษาและจัดการดูแลอยู่เรื่อยๆที่โรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะอยู่ที่นั่น
ทุกๆเดือนเขาจำเป็นต้องจ่ายเงินไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นลีฮุนจึงพยายามเก็บเงินให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆจากการเล่นรอยัลโร้ด
 “เงินเป็นสิ่งที่มีค่ามากจริงๆครับ ผมคิดว่าผู้คนไม่จำเป็นต้องยืนหยัดขึ้นมาเพราะศักดิ์ศรีเพื่อเงินหรอกครับ มันก็จริงที่ว่าผมต้องการเงินจำนวนมากเพื่อครอบครัวของผม แต่ยังไงซะผมก็สามารถดูแลครอบครัวของผมเองได้ด้วยเงินของผมที่หามาได้ครับ” (ผู้แปล: หล่อเวอรรรร >.<)
ถ้าอยู่ในรอยัลโร้ด เขาก็คงจะปฏิเสธออกไปอย่างจงใจเช่นกัน นั่นก็เพราะว่าเขาสามารถรีดไถเงินได้มากกว่านั้นต่างหากละ!
แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงเขาไม่ต้องการรับเงินนั่น เขาสามารถดูแลครอบครัวของเขาด้วยกำลังของตัวเองได้ ถ้าด้วยเหตุผลเช่นนี้เขาคงสามารถประสบผลสำเร็จในอะไรก็ตามแต่ที่เขาหวัง
เลขานุการที่ยืนอยู่ถัดจากประธานจองดึกซูจึงเริ่มพูดขึ้นมา
 “นี่เป็นเงินที่ท่านประธานมอบให้ คิดดูซะว่ามันเป็นเครื่องหมายของการขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้ทำลงไปจนถึงตอนนี้
 “ผมไม่สามารถรับนี่ได้เพราะผมคิดว่าซอยูนเป็นเพื่อน
 “อะไรนะ?”
 “ผมไม่อยากรับเงินมาด้วยการขายมิตรภาพของผม ในฐานะเพื่อน คุณจะต้องอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือในตอนที่พวกเขาต้องก้าวผ่านเวลาที่ยากลำบากและผมก็คิดว่าคนเราไม่ควรที่จะหวังอะไรตอบแทนด้วย
ถ้าเขารับเงินนั่นมา มันคงจะช่วยเขาได้มากเลยทีเดียว เขารู้จักความทุกข์ทรมานของการเป็นหนี้เป็นสินมานานแสนนาน เขาไม่ต้องการที่จะเลี้ยงดูครอบครัวของเขาด้วยการใช้เงินที่หาได้มาจากการขายเพื่อนหรอก
ลีฮุนได้นึกถึงตัวเขาเอง
 สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ก็คือวิธีที่จะหาเงินมาให้ได้
ส่วนประธานจอง ดึกซูก็ไม่ได้แสดงข้อคิดเห็นใดๆเลย
 ฉันเชื่อในตัวเธอนะ ชายหนุ่มผู้เด็ดเดี่ยว จากนี้ไปได้โปรดช่วยให้ซอยูนไม่ต้องเจ็บปวดใดๆอีกเลย
 “ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
หลังจากที่ลีฮุนจบบทสนทนาของเขาแล้ว เขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง จากนั้นก็ตามบอดี้การ์ดออกไปจากบ้านพักและมองกลับไปที่บ้านอันน่าประทับใจที่พ่อของซอยูนเป็นเจ้าของ
พ่อของซอยูนเพียงแค่เสนอเงินให้กับเขาเพื่อจะได้เห็นแรงจูงใจของเขาได้ชัดเจนมากขึ้น
แม้ว่ามันจะเป็นการพบเจอกันที่ทิ้งไว้แต่รสชาติอันขมขื่น เขาก็ยังอิจฉาในความจริงที่ว่าเธอยังมีพ่อแม่อยู่
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน การมีตัวตนของเขาถูกเมินเฉย จากนั้นเขาก็สร้างประติมากรรมของเทพีเฟรย่าที่เหมือนกับเธอที่ผู้คนล้วนย่ำเกรง เธอเป็นคนประเภทที่มาพร้อมกับความล้ำค่าจนน่าเกรงขามที่คุณทำได้เพียงเฝ้ามองและคอยปกป้องเธอจากไกลๆเท่านั้น
 มันต้องเป็นเงินซักสิบล้านวอนแน่ๆ มันก็ดีนะที่ฉันไม่ได้รับไว้ จากนี้ไปฉันจะให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะออกล่าให้มากขึ้น ขูดรีดให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้ทำเงินที่พึ่งจะเสียไปกลับมาให้ได้
ขณะนั้นเองที่ประธานจองดึกซูก็กำลังดื่มไวน์จากแก้วของเขา
 “ความประทับใจที่ฉันได้จากเขาก็คือเขาเป็นคนดีจริงๆ เพื่อที่จะเยียวยาหัวใจของซอยูนให้ได้ ฉันก็ได้พบว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่จะทำหน้าที่นั้น ปฏิเสธเงิน หนึ่งพันล้านวอนงั้นที่ว่าเขาต้องการเงินก็คงรายงานมาผิดสินะ” (ผู้แปล: มันหาได้เยอะกว่านั้นนน5555+) (แอดชิน: หนึ่งพันล้านวอนนะครับ ไม่ใช่หนึ่งล้านวอน อิ อิ)
--------------------------------------------------------------------------------------------
กองกำลังที่ทรงอำนาจกำลังขยายอาณาเขตดินแดนของพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซล
เพราะว่ามันผ่านมานานมากแล้วที่มาสเตอร์ของกิลด์เฮอร์มีส ราฟาเอลกำลังต้อนรับแขกของเขาอย่างอบอุ่น
 “นี่มันก็พักหนึ่งละตั้งแต่ที่เราแยกกันตั้งแต่ที่นครแห่งท้องฟ้าลาเวียสนะ ทำไมเธอถึงกลับมาตอนนี้ละ?”
 “ฉันก็แค่เร่ร่อนไปที่นั่นที่นี่ไปเรื่อยๆน่ะค่ะ ฉันได้ออกไปผจญภัยต่างๆนาๆและได้ออกล่าด้วย
 “ยินดีต้อนรับกลับมานะ มีคนมากมายที่คงจะมีความสุข ถ้าพวกเขาทราบว่าเธอกลับมาแล้ว
ดาอินวางไม้เท้าของเธอลงแล้วนั่งบนเก้าอี้
ตั้งแต่ที่รอยัลโร้ดเปิดตัวมา เหล่าผู้เล่นหลักของกิลด์เฮอร์มีส ราฟาเอลและผู้เล่นคนอื่นๆที่ได้ออกไปล่าร่วมกันทั้งหมด ได้มารวมตัวกันที่นี่ตอนนี้แล้ว
 [ติดตามตอนต่อไป]
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

20 ความคิดเห็น:

  1. ถ้ารู้จำนวนเงินคงมีลังเลบ้างแหละ จบไปอีกศึกยังไม่อลังอย่างที่คิด เสียดายนิดหน่อย

    ตอบลบ
  2. พระเอกนี่มัน อุ้ยเสี่ยวป้อ ชัด ยึดทั้งขวและดำ

    ตอบลบ
  3. ดาอินหลุดโผไปแล้ว ซอยูนเข้าวิน

    ตอบลบ
  4. อ้าว..ดาอินเปนกองกำลังหลักกิลเฮอร์มัสรึเนี่ยยยยย?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ปล.ขอบคุณทีมแปลและแอดด้วยครับที่ให้งานดีและไวให้ผู้อ่านทุกคนครับ^____^

      ลบ
  5. วีดมันน่าจะอ้วกแตกออกมาเป็นเลือดท่าใด้ยินจำนวนเงิน ถถถถถถ ตีใว้สิบล้านใด้พันล้าน ปัดไปแบบหล่อๆเดินเข้าห้องน้ำมากระอักเลือด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กิ๊กอยู่กิลอริ่ งานงอกละไงงานนี้จะมีนองเลือดจากภายในหรือหัววีดจะนองเลือดถถถถ

      ลบ
  6. ดาอิน เราเชื่อว่าเธอคงมีเหตุผลของเธอนะ สู้ซอยูน หน่อยสิ

    ตอบลบ
  7. หนึ่งพันล้านวอนนะลีฮุน ไม่เอาจริงๆ หรอ

    ตอบลบ
  8. ตอนนี้มีลุ้นหลายๆแบบเลยแฮะ 1.อย่าวแรกกลับถึงเมืองโมลาต้าแล้ว อะไรจะรออยู่ที่นั้น 2.ภาระกิจที่วีดได้รับจะเป็นภาระกิจระดับไหนอาจจะเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำภาระกิจระดับ S สำเร็จก็จริง แต่นี้ก็อาจจะเป็นครั้งแรกเช่นกันที่จะได้รับภาระกิจระดับ S+ หรือ S++ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง!!!! 3.สิ่งที่เหนือความขาดหมายที่สุดคือซอยูนเล่นไพ่ครั้งแรกกินวีดเรียบไป6000กว่าGold และภาระกิจหน้าที่ตะมาถึง สอนให้รู้ว่าเวลาว่างอย่าชวนซอยูนเล่นไฟ่ เพราะ หมา ไก่ กระต่าย นางยังมาเอาถึงหน้าบ้านได้ประสาอะไรกับ เล่นไพ่!!!! คอมเม้นนี้อาจจะยาวสักหน่อยนะคันมืออิอิ

    ตอบลบ
  9. อ้อๆลืมไป แม่นางดาอิน มาแบบเงียบๆแฮะ คิดว่าจากนี้ไปบทของนางต้องมีความสำคัญอย่างมากต่อ เมืองโมราต้า อาจจะเป็นการส่งทูตมาเจริญความสำพันกับโมราต้า!!! หรือนางจะทำอะไรที่แม้แต่เราก็คาดไม่ถึง!!!

    ตอบลบ
  10. ดาอินคือใครอะลืมละ

    ตอบลบ
  11. กิลเฮอร์มิสนี้มันเคยมีบทออกมาตอนไหนนะ (สงสัยไม่ค่อยสำคัญ จำไม่ได้แล้วอะ)

    ตอบลบ
  12. ง่ายๆเลย ตอนเกาะลอยฟ้า ตอนวีดเจอดาอิน ดาอินบอกว่า เทอแยกทางกับเพื่อนๆในตี้ แล้วเหลือเทอคนเดียว แสดงว่าเพื่อนในตี้ของ ดาอิน ที่ดาอินของ แยกปารตี้ออกมา คือ สมาชิกหลักของ กิล เฮอรมีส แทบทั้งนั้น กรี๊ดๆๆ ไม่ดาอิน จะคอยสมานรอยร้าว ก็ เป็นเทพี แห่งการทิ่มแทง วีดด เอ็งโดนแน่ๆๆๆงานนี้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณสำหรับเม้นนี้มากเลยครับ
      ลืมไปเลยครับว่าดาอินแยกกันเพื่อน

      ลบ
  13. ความประทับใจที่ฉันได้จากเขาก็คือเขาเป็นคนดีจริงๆ
    คุณพ่อยังโดน55+

    ตอบลบ
  14. เหมือน จะ ประจวบ เหมาะ กะเควส ของ วีด กับ สงครามกลางทวีป แหะ น่าจะ ได้ กองทัพ อันเดต ปะทะ กองกำลังอำนาจ กะคราวนี้ ละ

    ตอบลบ
  15. ยาวๆปายยย...
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...