วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563

เล่ม 37 ตอนที่ 8 : ร่องรอยของประวัติศาสตร์ แปลโดย Acid กรด


เล่ม 37 ตอนที่ 8 : ร่องรอยของประวัติศาสตร์ แปลโดย Acid กรด


        อิกริกเป็นนักบวช ดังนั้นพลังชีวิตของเขาจึงไม่สูงนัก

        "ตรวจสอบสถานะของศัตรู!"

                - อิกริกผู้ฟั่นเฟือน

                        บาทหลวงที่เป็นสาวกเทพมารเอ็มบินยู

                        ในอดีตเขาเป็นเพียงชาวนาธรรมดา กระทั่งเขาได้พบแผ่นหินที่เอ็มบินยูทิ้งไว้
                และกลายเป็นสาวกคลั่งลัทธิ

                        เขาบัญชาการกองทัพด้วยพันธะสัญญาแห่งความเป็นอมตะ

                        พลังชีวิต : 51%

                        มานา : 79%

        อิกริกมีพลังชีวิต 430,000! เขาสวมเสื้อคลุมหายากที่จารึกด้วยอักขระพิเศษที่เสริมพลังป้องกัน
อันแข็งแกร่งให้แก่เขา

        อย่างไรก็ตาม, เขาไม่สามารถละเลยการโจมตีของ วีด, ซาฮับ, แวน ฮอร์ก และโทริได้
นักบวชนั้นเชี่ยวชาญในการให้พรแก่พวกพ้องหรือสาปแช่งเหล่าศัตรู พวกเขาอ่อนแอที่สุด
เมื่อมันกลายเป็นการต่อสู้ระยะประชิด

        - ข้าวิงวอนต่อท่าน หายนะได้มาเยือนเหล่าข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์, ในนามแห่งข้า อิกริก เหล่าสาวกเอ็มบินยู, จงมาที่นี่!

        ความสามารถในการบังคับบัญชากองทัพทั้งหมด! ทันใดนั้นพวกมอนสเตอร์และเหล่าสาวกคลั่ง
ในสนามรบก็กรูกันเข้ามา แม้กระทั่งพวกที่กำลังต่อสู้กับกองทัพทะเลทรายก็ผละจากพวกเขาและ
พยายามไปให้ถึงอิกริก พวกมอนสเตอร์ล้มตายลงขณะที่พวกมันพยายามหนี

        วีดเคลื่อนไปข้างหลังเจ้ายักษ์สัมฤทธิ์และใช้ทักษะเต็มกำลัง

        "ระเบิดมหาวินาศ!(Heavy Explosion)"

        เจ้ายักษ์สัมฤทธิ์ไม่ได้ถูกสังหาร วีดทุ่มเทเวทย์ทำลายล้างขนาดใหญ่ออกมา แต่พวกมันมีพลังชีวิตสูง
ดังนั้นจึงต้องโจมตีอย่างแม่นยำหลายครั้ง วีดเล็งเป้าหมายที่ขาเพื่อทำลายสมดุลของเจ้ายักษ์สัมฤทธิ์
ยักษ์สัมฤทธิ์ที่ล้มลงเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงแก่การเข้ามาของพวกมอนสเตอร์

        อิกริกกำลังเพ่งความสนใจในการป้องกัน แต่พลังชีวิตของเขากำลังลดลงอย่างรวดเร็ว บาทหลวงของ
วิหารเอ็มบินยูที่กำลังพยายามทำลายความสงบของทวีป! วีดและกลุ่มของเขากำลังพยายามกอบกู้โลก

        อัศวินอเวจี แวนฮอร์กถูกละเลยในขณะที่โทริรีบร้อนจะดูดเลือดของอิกริก

        ซาฮับเป็นทาสชีวิตของวีดเนื่องจากหญิงที่เขารัก! เขาได้มีชีวิตสนุกสนานในช่วงสูงวัยของเขา
จนกระทั่งเขาถูกบังคับให้กลับสู่ช่วงสงคราม

        มันเป็นการผสมผสานอันสุดยอดเพื่อจัดการกับบาทหลวงของวิหารเอ็มบินยู

        'เขาจะทนได้อีกไม่นาน!'

        โดยสัญชาตญาณของวีดรู้สึกได้ว่าอิกริกกำลังมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของเขาแล้ว คำสาปของเขา
ถูกลบล้างอย่างต่อเนื่องโดยซาฮับและรัศมีแห่งความมืดกำลังหายไป

        วีดรู้สึกมีบางอย่างผิดปรกติในขณะที่อิกริกเริ่มร่ายเวทย์

        "โอ้.เอกะศักดิ์สิทธิ์, เพื่อทำตามพันธะสัญญาแห่งความเป็นอมตะแก่ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของท่าน อิกริก..."

        วีดไม่เข้าใจแต่อิกริกสามารถใช้เวทย์กายาอมตะกับตัวของเขาเมื่อพลังชีวิตของเขาลดลงต่ำกว่า20%
ถ้าการร่ายเวทย์ของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้ว เขาจะอยู่ในสถานะที่ไม่อาจเอาชนะได้ พลังชีวิตของเขาจะไม่ลดลง
อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม, พันธะสัญญาแห่งความเป็นอมตะที่ดำเนินอยู่กับกองทัพเอ็มบินยูจะต้องถูกหยุดลง!
พวกมอนสเตอร์และสาวกคลั่งจะไม่มีชีวิตรอด แต่พลังชีวิตของอิกริกไม่สามารถทำให้ลดลงได้ภายในสองวัน

        วีดรับรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง คล้ายกับความตึงเครียดเมื่อเพื่อนที่จากกัน
ไปหลายปีโทรหา!

        "แวน ฮอร์ก, เอาเลย เขาต้องตาย! เอาตามสบายเลย!"

        "รับบัญชา!"

        แวน ฮอร์กปลดปล่อยรัศมีแห่งความมืดและกวัดแกว่งดาบของเขาไปยังอิกริก ไม่เหมือนจังหวะอื่นๆ,
การร่ายเวทย์ของอิกริกไม่ได้ถูกขัดจังหวะจากการโจมตี

        "ข้าจะบวงสรวงทุกชีวิตที่ยังหายใจบนแผ่นดินแห่งนี้ เพื่อทำให้ศัตรูของเจ้าได้รับรู้ความเจ็บปวดและ
ขมขื่น ... .

        การร่ายดำเนินต่อไป วีดยังโจมตีอิกริกมากกว่าเจ้ายักษ์สัมฤทธิ์

        เขามุ่งการโจมตีที่หัว, อก และหน้าท้อง! การโจมตีเป็นชุดอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก
อิกริกถูกฟันตลอดทั่วทั้งร่าง แต่เขายังคงร่ายเวทย์ต่อไป เวลานี้ซาฮับกวัดแกว่งดาบแห่งแสง
ขณะที่แวน ฮอร์กอัญเชิญพลังแห่งอเวจี

        ในเวลานี้, ผู้ที่มีพลังการโจมตีสุดยอดทั้งหมดในทวีปได้มารวมตัวกัน ณ. ที่แห่งนี้ และ...

        - อ๊าก.ก.ก.ก!

        อิกริกกางแขนออกและกรีดร้อง

        ครืน.น.น.น!

        สายฟ้าฟาดจากฟากฟ้าพุ่งตรงมายังพื้นแผ่นดิน ลำแสงแยกเป็นสายนับโหลๆเผาไหม้ร่างของอิกริก

                - บาทหลวงผู้ฟั่นเฟือนอิกริกแห่งวิหารเอ็มบินยูได้เข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหลอันเป็นนิรันดร์

                        เนื่องจากบาปของเขา, วิญญาณของเขาจึงไม่สามารถพักผ่อนได้ แต่เขาจะรู้สึกอิสระ
                เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกครอบงำโดยเทพปีศาจ

                - พวกมอนสเตอร์และสาวกคลั่งของนิกายที่ 6 แห่งวิหารเอ็มบินยูตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน

                - ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 32,392 เนื่องจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

                - เป็นรางวัลพิเศษสำหรับการต่อสู้, ค่าสถานะความศรัทธาเพิ่มขึ้น 120

                - เทพองค์หนึ่งอำนวยพรแรงกล้าแก่คุณ

                        เฮสเทีย, เทวีแห่งคะหะกรรม!

                        การอำนวยพรของเทวีจะเพิ่มการทำลายด้วยไฟ 135% เป็นเวลา 1 สัปดาห์

        "ตอนนี้ก็จากไปแล้วหนึ่ง"

        มีรอยยิ้มอันชั่วร้ายบนใบหน้าของวีด!

        "ไม่นะ!"

        โมตุลกรีดร้องโหยหวน

        แน่นอน, โมตุลก็เป็นบาทหลวงเช่นกัน วีดต้องระมัดระวังในการทำภารกิจนี้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง

        ทว่าเปเช็ทและอิกริกได้สิ้นชีพไปแล้ว ดังนั้นภาระในใจของเขาก็เบาลงอย่างมีนัยยะ
มันเป็นการอำนวยพรให้พวกมอนสเตอร์และสาวกคลั่งที่ถูกกองทัพทะเลทรายกวาดล้างไปหมดแล้ว
จะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก

        ยิ่งกว่านั้น, พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เกิดการต่อต้านยามที่แวน ฮอร์กพยายามสร้างอันเดทจากซากศพ
ก็หายไป พวกโครงกระดูก, ดูราฮาน, อัศวินแห่งความตายระดับต่ำ ฯลฯ ได้ถูกสร้างขึ้นทุกหนแห่ง
การเคลื่อนไหวของพวกสาวกคลั่งถูกขัดขวาง

        วีดเตรียมแผนการจัดระเบียบ จนมาถึงเวลานี้, เขาได้รับการตอบสนองฉับพลันสอดคล้องกันกับ
สถานการณ์ในสนามรบ

        "โทริ"

        "นายท่านเรียกหา"

        "เจ้าไปที่นั่นก่อน"

        “…….”

        โมตุลอยู่ในเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มิอาจล่วงล้ำ! ผู้บุกรุกจะสูญเสียพลังชีวิต เช่นนั้นการป้องกันของโมตุลจึงแข็งแกร่งมาก

        ด้วยเหตุนั้นเขาควรจะโยนโทริลงในที่แห่งนั้น! โทริอ่อนแอที่สุดในเรื่องพลังการต่อสู้ แต่
เขามีคุณลักษณะพลังชีวิตพิเศษของเจ้าแห่งแวมไพร์

        "ข้าไม่อยากไป"

        "ทำไม?"

        "มันอันตรายน่าดู ทำไมข้าต้องไป?"

        "ข้าจะให้เจ้าเลือก ฆ่าเจ้าซะ หรือ เจ้าอยากจะไปตายตรงนั้น?"

        "อืม.ม.ม, ข้าคิดว่าไปตายตรงนั้นน่าจะดีกว่า"

        โทริเข้าสู่เขตแดนศักดิ์สิทธิ์และทั้งยังต่อสู้กับอัศวิน เขาถูกแทงโดยอัศวินชั่วร้ายหลายคนและ
หนีออกมาแทบไม่ทันโดยการเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาว

        "มันจัดการค่อนข้างยาก เขาต่างจากคนอื่นๆ"

        วีดวางแผนและชิ่งออกจากตำแหน่งของเขา

        ปฏิบัติการปิ่นโตเหล็ก!

        พันธะสัญญาแห่งความเป็นอมตะได้ขาดสะบั้นลง ดังนั้นพวกมอนสเตอร์และสาวกคลั่งได้ถูกกำจัดโดยกองทัพ
ทะเลทราย พลังของกองทัพเอ็มบินยูนั้นยอดเยี่ยมจริง กองทัพทะเลทราย 20,000 นายที่ไร้พ่ายก็ลดลง
อย่างรวดเร็ว

        อย่างไรก็ตาม, นักบวชจำนวนมากได้เสียชีวิตเช่นกัน นั่นเป็นเพราะเหล่านักรบทะเลทรายได้มุ่งตีฝ่าศัตรู
ไปยังพวกนักบวช ความเสียหายอย่างต่อเนื่องจากห่าฝนอุกกาบาตและการต่อสู้ที่ป้อมปราการดัลมอล์
หมายถึงกองกำลังในปัจจุบันของพวกเขามีอยู่ 80,000 นาย

        "ฉันจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากอันเดทและพวกแวมไพร์ควรจะกินให้กระตือรือร้นมากกว่านี้
เสบียงมีเพียงพอ...พวกนักรบทะเลทรายไม่เหน็ดเหนื่อยแม้หลังการต่อสู้มาตลอดทั้งวัน
ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเหล่านั้น"

        เหล่าลูกศรพุ่งเข้าใส่ยักษ์สัมฤทธิ์และโมตุล พวกมันทุ่มหินใส่ขณะที่เหล่านักรบทะเลทรายหลบเลี่ยง
และตอบโต้กลับด้วยลูกธนูไฟ

        พวกประติมากรรมสลักชีพของเขาก็ทำให้กลุ่มพวกศัตรูล้มตาย กองทัพเอ็มบินยูได้รวมตัวเข้าด้วยกัน
ดังนั้นพวกนักรบทะเลทรายโจมตีพวกมันอย่างรวดเร็ว

        นักรบ 1,000 นายจะขัดขวางมอนสเตอร์ขนาดยักษ์และจะโจมตีพร้อมกับล่าถอยขณะที่ทำการยิงลูกศร!
พวกเขาแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 20 คน และเต้นไปรอบศัตรูราวกับผีเสื้อ การกระจายการโจมตี
ของกองทัพทะเลทรายทำให้แนวรบพังทลายลง

        กองทัพทะเลทรายได้แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในการต่อต้านกองทัพเอ็มบินยู!
การแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์กลุ่มไม่ใช่เพราะประสบการณ์ที่มากมาย แต่เป็นเพราะความจู้จี้ขี้บ่นของวีด

        กองทัพเอ็มบินยูตอบโต้ด้วยการใช้เวทมนต์และคำสาปแต่กองทัพทะเลทรายก็แค่กระจายตัวออกไป
ทุกทิศทุกทาง พวกเขามีพลังชีวิตสูงและได้รับการสนับสนุนด้วยการรักษาจากพวกนักบวช

        กองทัพเอ็มบินยูแข็งแกร่งแต่พวกเขาซื่อสัตย์และเรียบง่ายเมื่อการต่อสู้มาถึง กองทัพหลักเพิ่งมุ่งมา
ด้านหน้าของพวกเขา ขณะที่พวกมอนสเตอร์ขนาดใหญ่เชื่องช้าและงุ่มง่าม

        การจัดวางกลยุทธ์และการโจมตีระยะไกลทำลายล้างกองทัพหลัก! กองทัพทะเลทรายยากที่จะต่อต้าน
เมื่อกล่าวถึงกลยุทธ์ พวกเขาเป็นเด็กๆที่เล่าเรียนกลเม็ดเคล็ดลับทุกชนิดจากวีด

        พวกเขาไม่มีโอกาสต่อสู้ในเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ กองทัพทะเลทรายทำการต่อสู้นอกระยะการควบคุมของโมตุล
ทุกครั้งที่มีการระดมยิงลูกศรโจมตี!

        ไม่ใช่แค่พลังการต่อสู้และความคล่องแคล่วของพวกเขา ความสามารถในการชนะของพวกเขาก็เช่นกัน
ขึ้นอยู่กับระยะการต่อสู้ของพวกเขา

        แน่นอน, วีดตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากการอยู่เพียงลำพังในกองทัพเอ็มบินยู แต่เขาค่อนข้างผ่อนคลาย
กองทัพเอ็มบินยูได้ถูกลดทอนลง 30% นับแต่ที่กองทัพทะเลทรายได้แรกปรากฏ เขาอยู่ที่
เป้าหมายสุดท้ายเพื่อเอาชนะโมตุล

        ทั้งๆที่นั่น, ยังมีมอนสเตอร์, พวกอัศวิน และนักบวชเหลืออยู่ค่อนข้างมากในกองทัพเอ็มบินยู

        "นักรบ-2"

        "ขอรับ!"

        นักรบทะเลทราย 200 นายในขบวนของวีดเสียชีวิตขณะที่เขาต่อสู้กับอิกริก นี่เป็นหนึ่งในกองกำลัง
ที่แข็งแกร่งที่สุด การบาดเจ็บล้มตายถึง 200 นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

        "ได้เวลาล่าเจ้าตัวใหญ่สุดแล้ว สนับสนุนข้าด้วย"

        "ขอรับ!"

        "นักรบ-1!"

        "รับคำสั่ง"

        "อย่าให้ใครมารบกวน"

        "ข้าจะทำตามบัญชา"

        นักรบ-1 และกองทหารของเขาป้องกันพวกมอนสเตอร์และสาวกคลั่งที่อยู่รอบๆ หากว่า
การรบกวนลดน้อยลงแล้ว เขาสามารถพุ่งความสนใจเพียงศัตรูในเขตแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

        วีดยังไม่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดของเขา

        "ท่านซาฮับ! เฮสไทเกอร์!"

        "ข้ารู้แล้ว"

        "ข้ากำลังรอฟังคำสั่งจากท่าน"

        ตอนนี้ ซาฮับ และเฮสไทเกอร์ เดินแถวเข้าสู่เขตแดนศักดิ์สิทธิ์! พวกอัศวินชั่วร้ายถูกโจมตีด้วยลูกศรจาก
ผู้คุ้มกันของพวกเขา เหล่านักรบทะเลทรายอยู่นอกเขตแดนศักดิ์สิทธิ์และยิงลูกศรอย่างต่อเนื่อง
ราวสายฟ้าแลบ

        "ระเบิดวินาศ!"

        แม้กระนั้น, วีดตอบโต้ศัตรูกลับด้วยระเบิดอย่างรุนแรงขณะก้าวเข้าสู่เขตแดนศักดิ์สิทธิ์

                -ท่านได้ก้าวเข้าสู่เขตแดนศักดิ์สิทธิ์ของเอ็มบินยู

                        พลังชีวิตลดลง

                        การป้องกันก่อเกิดความต้านทานที่สูงขึ้น

                        พลังชีวิตจะถูกลดลง 2,138 แต้มทุกๆ 5 วินาที

        เขตแดนศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนสิ่งนี้เป็นมานาสำหรับโมตุล ถ้าโมตุลได้รับการสนับสนุนด้านพลังเวทย์โดยไร้ขีดจำกัดแล้ว เขาสามารถใช้เวทย์ขั้นสูงของเขาได้อย่างต่อเนื่อง

        เขาเปรียบดั่งขุนเขาที่ขวางทางวีด

        "จบให้เร็ว"

        "ได้เลย!"

        วีดส่งซาฮับไปหาโมตุล เมื่อดูผลข้างเคียงแล้ว, รับประกันไม่ได้ว่าเขาจะปลอดภัย แต่เนื่องจากความจริง
ที่ว่าเขาเป็นอัจฉริยะในเชิงดาบและประติมากรรม, เขาทะยานผ่านศัตรูและหยุดลงตรงหน้าของโมตุล

        "เฮสไทเกอร์, เจ้าด้วย"

        "นับเป็นเกียรติ, มหาราช!"

        ตรงกันข้ามกับความภักดีของซาฮับ, เฮสไทเกอร์ติดตามวีดเนื่องจากความเห็นแก่ส่วนรวมของเขา
เขารูปหล่อ, อ่อนน้อมถ่อมตนและมีความนิยมในหมู่ลูกน้องของเขา คนดีจะสร้างความสำเร็จ
ผ่านการทำงานอย่างหนัก!

        ปัง ปัง ปุ๊ง!

        วีดส่งเฮสไทเกอร์ไปหาโมตุลด้วย

        'ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีแล้ว นี่อาจเป็นรางวัลใหญ่'

        เฮสไทเกอร์เป็นบุคคลดีงาม แต่เขาเพิ่มเลเวลของเขาได้สามส่วนสี่ของวีดระหว่างภาระกิจการเติบโตของโนดูล
เฮสไทเกอร์ปลดปล่อยความไม่พอใจที่สั่งสมไว้ทั้งหมดบนอัศวินแห่งความชั่วร้าย

        เขาโดดม้วนตัวและลงพื้นอย่างแผ่วเบาถัดจากโมตุล! อัศวินสองนายโจมตีที่ด้านข้างทั้งสอง
แต่เขากระโดดขึ้นและวาดดาบไปที่พวกมันทั้งสอง แน่นอน, ศัตรูยังไม่ตายแต่พวกมันก็ล้มไม่ลุก
ไประยะหนึ่ง

        "อย่างที่คาดไว้จากเฮสไทเกอร์!"

        "นั่นคือกองทหารราชสีห์แดงที่นำโดยเฮสไทเกอร์"

        หูของวีดได้ยินเฮสไทเกอร์ถูกยกย่องอยู่เรื่อยๆ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาอิจฉา ดังนั้น
วีดกระโจนตรงไปที่โมตุล

        ครืน.น.น.น!

        ทันใดนั้น, กำแพงก็ผุดขึ้นจากพื้น กำแพงปีศาจ! แนวป้องกันของโมตุล

        วีดผ่านสิ่งกีดขวางโดยใช้พลังร่างกายของตัวเอง พวกอัศวินและมอนสเตอร์ถูกล้มได้ง่ายดาย
ด้วยระเบิดวินาศ เขาล้มพวกมันอย่างรอบคอบภายนอกเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเหล่านักรบทะเลทราย
สามารถจัดการพวกมันได้

        "ผู้ที่ต่อต้านความประสงค์ของเอ็มบินยู พวกเจ้าจะต้องตายและโลกนี้จะถูกทำลาย!"

        ถ้าโมตุลเป็นนักบวชทั่วไปแล้วผลลัพธ์จะถูกตัดสินภายในหมัดเดียว แม้แต่อิกริกก็ไม่สามารถรอดชีวิต
จากการโจมตีต่อเนื่องเป็นชุด แต่โมตุลเป็นพระ, ไม่ใช่นักบวชธรรมดา! เขาใช้หมัดโจมตีศัตรูใน
ขณะที่ร่ายคาถาในเวลาเดียวกัน

        "หมัดโลหิตไถ่บาป!"(Blood Fist of Atonement)

        เขาเหวี่ยงหมัดไปที่วีด วีดเคลื่อนหลบมันไปทางขวา

        'นี่เสี่ยงไปหน่อย'

        หมัดโลหิตที่เขาหลบเลี่ยงแทนที่จะป้องกันที่ศีรษะ พุ่งตรงไปที่อัศวินชั่วร้ายข้างหลังเขา

        "อ๊าก.ก.ก!"

        หมัดโลหิตฟาดเข้าที่อัศวินผู้ชั่วร้ายในเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกมัน 4 นายถูกสังหาร นี่เป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้นวีดจึงไม่สามารถทำให้เกิดความเสียหายได้

        โดยปรกติของพระแปลว่าโมตุลมีพลังชีวิตและพละกำลังที่เยี่ยมกว่าอิกริก เรื่องที่แย่ลงไปอีก, เขามีการป้องกันเวทย์และการต้านทานเวทย์ระดับสูง ทำให้เขาสามารถต่อสู้กับเฮสไทเกอร์และซาฮับได้

        นอกจากนั้น, พวกอัศวินชั่วร้ายมีค่าสถานะมหาศาลเช่นกัน!

        "ภาระสำนึกผิด!"(Weight of Repentance)

        โมตุลใช้ทักษะเพิ่มน้ำหนักจำนวนมากไปยังพวกพ้องและศัตรูในระยะ

                - คุณได้รับคำสาป

                        ความเร็วในการเคลื่อนที่ช้าลง 24%

                        ได้รับความเจ็บปวด

                        มีโอกาสเกิดความเสียหายทุกๆ 10 วินาที
               
                        คำสาปจะทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

        เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้สนใจว่าใครจะได้รับผลกระทบ

        "อย่าไปสนใจคำสาป สู้ต่อไป! พรรคพวกด้านนอกจะช่วยพวกเรา!"

        "รับทราบ"

        วีดอาจทนต่อไปได้อีกเล็กน้อยแต่เฮสไทเกอร์และซาฮับมีพลังชีวิตเหลือน้อยกว่า 15%
พวกมอนสเตอร์และอัศวินที่อยู่ใกล้โมตุลเข้าขัดขวางโดยปกป้องเขา การจัดการกับการโจมตี
ของพวกมันในพื้นที่จำกัดค่อนข้างยาก

        "พวกเราจะจัดการมันเอง"

        พวกประติมากรรมสลักชีพถลันเข้าไป ซาฮับและเฮสไทเกอร์ได้รับการรักษาอย่างคร่ำเคร่งจากพวกนักบวช

        "ท่านบาทหลวงอยู่ในอันตราย"

        "ไม่นะ! ถ้าสิ้นท่านบาทหลวงแล้วพวกเราจะต้องอยู่ในขุมนรกตลอดกาล"

        นักรบ-1 และกองทัพทะเลทรายที่ได้กระจายตัวสกัดกั้นกองหนุนทุกส่วนอย่างสมบูรณ์!
เจ้ายักษ์สัมฤทธิ์ขว้างหินมาเป็นครั้งคราว แต่การเข้าถึงภาคพื้นดินถูกสกัดไว้สิ้น

        วีดมุ่งความสนใจไปที่อัศวินชั่วร้ายในเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ การเตะของเขากวาดล้างการป้องกันของศัตรู
จากนั้นเขาก็โจมตีด้วยดาบไฟบรรลัยกัลป์

                - พลังชีวิตลดลง

                        พลังชีวิตที่เหลืออยู่ปัจจุบัน 17.8%

                        คุณต้อง 7 คำสาป

        "ไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกมันทั้งหมด"

        วีดถูกเหวี่ยงออกไปนอกเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ทิ้งให้อยู่กับพวกประติมากรรมสลักชีพ
นอกจากพวกนักบวช, โมตุลถูกปกป้องโดยอัศวินชั่วร้ายอีก 20 นาย

        "ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์!"

        ลำแสงพุ่งขึ้นจากร่างของโมตุล บาทหลวงได้ถวายมานาบางส่วนของเขาแก่พระเจ้าเพื่อฟื้นคืน
พลังชีวิตของเขา พวกอัศวินที่บาดเจ็บจากการคุ้มครองเขาก็ได้รับการรักษาด้วย

        "ไม่มีทาง ไอ้ชั่วเอ๊ย!"

        วีดคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าเย้ยหยัน โมตุลสามารถใช้มานาที่ขโมยไปโดยเขตแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาตัวเอง
พลังการต่อสู้ระยะประชิดของบาทหลวงไม่สามารถละเลยได้อีกด้วย พวกประติมากรรมสลักชีพ
ก็มีพลังป้องกันและพลังโจมตีที่อ่อนด้อยลงเนื่องจากคำสาป

        "อย่าให้มีทหารป้องกันเขามากกว่า 30 คน นักรบ-1 สามารถกันพวกมันได้แน่นอน"

        จากนั้นโมตุลใช้คาถาอื่นอีก

        "คำสาบานของผู้พิทักษ์!"(Guardian’s Vow)

        ลำแสงพุ่งขึ้นอีกครั้งในเขตแดนศักดิ์สิทธิ์และปรากฏยักษ์สัมฤทธิ์ 4 ตน!
อัศวินชั่วร้ายมากกว่า 100 นายถูกอัญเชิญ

        "มันกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกแล้ว"

        วีดกระโจนกลับเข้าไปต่อสู้เมื่อพลังชีวิตมาถึง 67% เขาระเบิดทะลวงแนวป้องกันของพวกอัศวิน!
ปริมาณความต้านทานอันมิอาจคาดเดา

        พวกมันถูกทำลายโดยเหล่านักรบทะเลทรายแต่รูปแบบการป้องกันของกองทัพเอ็มบินยูนั้น
แข็งแกร่งและมั่นคง วีดเล็งเป้าหมายไปยังโมตุลเท่านั้น

        "ความประสงค์ของเอ็มบินยูจะไม่ถูกทำลาย"

        "พวกเจ้าช่างไร้เดียงสา พวกเจ้าไม่สามารถเชื่อถือสิ่งใดๆในโลกนี้"

        "จับมือข้าไว้ ข้าจะนำพวกเจ้าสู่แนวทางศรัทธาที่ถูกต้อง พวกเจ้าจะได้รับความแข็งแกร่ง
และพลังอันยิ่งใหญ่"

        "เงินเป็นสิ่งดีที่สุดในชีวิต!"

        เขายังโต้เถียงกับกับโมตุลขณะที่การต่อสู้ดำเนินอยู่! ซาฮับ, เฮสไทเกอร์, แวน ฮอร์ค และโทริ ร่วมมือกับเขา
พวกเขาจะเปลี่ยนมือกันกับพวกประติมากรรมสลักชีพเมื่อพวกเขาพลังชีวิตต่ำลง

        วีดและโมตุลทั้งคู่มีพลังชีวิตลดลง พวกอัศวินถูกเล่นงานด้วยลูกศรจากกองทัพทะเลทราย
และจำนวนของพวกมันลดลงถึงหนึ่งในสาม

        "หุ หุ หุ,ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานนี้ ถ้าเจ้าเชื่อในเอ็มบินยูแล้ว พระองค์จะสะสางนักรบของเจ้า
ด้วยพลังอันไร้ขีดจำกัดของพระองค์"

        หมัดของโมตุลค่อนข้างน่ากลัว ในด้านการทำลายล้าง, ยังมีคำสาปที่พิลึกพิลั่นอีกด้วย
การโจมตีของโมตุลมีผลกระทบเป็นวงกว้าง ดังนั้นวีดจึงหลบหลีกมันและกวัดแกว่งดาบไฟบรรลัยกัลป์
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันในสนามรบอันดุเดือด แต่โมตุลมีพลังชีวิตเหลือ 50% ขณะที่วีดมีเพียง 16%

        วีดจะเป็นคนแรกที่ตาย เขาสังเกตว่าโมตุลมุ่งเน้นไปที่เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ในขณะทำการโจมตี
เขาไม่สนใจจนกว่าวีดจะถูกฆ่าตาย

        "ฆ่ามัน มันเป็นประสงค์ของเอ็มบินยู"

        "ขอรับ!"

        พวกอัศวินชั่วร้ายมุ่งการโจมตีของพวกมันไปที่วีด

        "ข้าไม่สนใจจนกว่ามันจะตาย"!

        การต่อสู้ที่ผู้ที่ตายคนแรกจะเป็นผู้พ่ายแพ้! วีดผลักดันอัศวินชั่วร้ายตัวโต 10 นายเข้าไปเพื่อ
สร้างความเสียหายให้กับร่างของโมตุล มันเป็นภาวะวิกฤติเนื่องจากพลังชีวิตของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

        เขามีพลังชีวิตเหลืออยู่ 3.4% ความพยายามทั้งหมดที่เขาทำจะสูญไปอย่างไร้ประโยชน์

        โมตุลผู้ที่โจมตีได้อย่างคล่องแคล่วยังคงมีพลังชีวิต 35%

        การโจมตีของอัศวินชั่วร้ายมุ่งป้องกันวีดที่พยายามหนีออกจากเขตแดนศักดิ์สิทธิ์

        จังหวะนั้นเอง, วีดส่งเสียงตะโกนสนั่น

        "สราญใจฟื้นคืน!"(Recovery of Joy)

                - เป็นความสามารถเฉพาะของคนเถื่อน, สราญใจฟื้นคืนได้ถูกใช้

                        บาร์ดเจอร์(Bardger), เทพแห่งความกล้าหาญจะคืนร่างของคนเถื่อนสู่สภาพปรกติ

                        มันเป็นความอัปยศสำหรับคนเถื่อนที่จะพ่ายแพ้ศัตรูที่แข็งแกร่ง

                        ความภาคภูมิใจของคนเถื่อนจะไม่ยินยอมให้ศัตรูได้ชัยชนะ

                        คุณจะต้องล้มศัตรู!

                - พลังชีวิตได้ฟื้นคืนสมบูรณ์ (สกิลขี้โกงชะมัด)

                        คำสาปที่ตกค้างอยู่กับร่างของคุณได้ถูกขจัดออกโดยสมบูรณ์

                        ความต้านทานคำสาปและเวทย์มนต์จะเพิ่มขึ้น 370%

        ร่างของวีดได้กลับคืนสู่สถานะปรกติ และการเคลื่อนไหวของเขาก็เร่งขึ้นทันใดเมื่อคำสาปถูกขจัด

        'แค่โอกาสเดียว!"

        เขาเคลื่อนผ่านอัศวินชั่วร้ายและเหวี่ยงดาบของเขาไปทางโมตุล

        "ควับ!"

        โมตุลถูกฟันเป็นริ้วๆด้วยดาบไฟบรรลัยกัลป์ ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น, บาดแผลก็เล็กกว่าปรกติ
เนื่องจากเวทย์ป้องกัน

        วีดไม่สนใจ เขาแข็งแกร่งกว่ามากในการต่อสู้ตัวต่อตัว ระหว่างภาระกิจการเติบโตของโนดูล, เขาได้
ให้การโจมตีและการป้องกันของเขาเติบโตอย่างสมดุลอยู่เสมอ เลเวลของเขาสูงแต่
เขายังเชี่ยวชาญทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวกับการต่อสู้

        เหมือนเสือที่คืนสติ!

        "เจ้ากล้าขัดขืนต่อเอ็มบินยู!"

        "เอ็มบินยูสามารถให้อะไรข้าได้? ไงละ,อาจจริงก็ได้ที่ถูกติว่าข้าหล่อเกินไป!"

        วีดเคลื่อนไหวดาบไฟบรรลัยกัลป์อย่างต่อเนื่อง เขาเหวี่ยงดาบไปยังโมตุลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เขาใช้ก่อเกิดพลัง(Power of Birth) และอัศวินพิฆาต(Black Knight’s Strike)เพื่อโจมตีกองกำลัง

        เหล่าอัศวินชั่วร้ายกรีดร้องและพยายามปกป้องโมตุล แต่พวกมันถูกละเลย! โมตุลถูกบังคับผลักดันกลับ
ขณะที่การโจมตีอย่างต่อเนื่องทำให้เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของเขาไร้ประสิทธิภาพ

        "โลกนี้ทำงานถูกต้องงั้นหรือ? ถ้าเจ้าเชื่อในเอ็มบินยูแล้ว เจ้าจะตระหนักถึงความรู้แจ้ง"

        "ฉันไม่เคยเชื่อโลกนี้ตั้งแต่แรก"

        "โทสะของเอ็มบินยูเป็นเรื่องน่าสยดสยอง....."

        "ข้ากลัวแค่เจ้าของบ้าน!"

        วีดมีศรัทธาที่เข้มแข็งที่โมตุลมิอาจสั่นคลอน เขาเรียนรู้ว่าเงินคือสิ่งสำคัญอันดับแรกในสังคมสมัยใหม่!
พลังชีวิตของโมตุลลดลงอย่างมากถึงระดับ 10%

        "ฟื้นฟู สม...."

        "ฉันกำลังรอสิ่งนี้เลย ไป!"

                - คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย(critical blow)

                        พลังทำลายได้ถูกเพิ่มขึ้น 68%

                - คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย

                        พลังทำลายได้ถูกเพิ่มขึ้น 149%

                - คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย

                        พลังทำลายได้ถูกเพิ่มขึ้น 261%

                - คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย

                        พลังทำลายได้ถูกเพิ่มขึ้น 442%

        การโจมตีด้วยพลังแบบเดียวอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการโจมตีเข้าจุดตาย(คริติคอล)! วีดใช้การโจมตีอย่างมีไหวพริบ เพื่อสัมผัสหาจุดอ่อนของโมตุล ประสบการณ์การต่อสู้อันเหลือคณานับของวีดหมายถึงพลังชีวิตของโมตุล
จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเขาโจมตีตรงจุดได้อย่างแม่นยำ

        การต่อสู้จะง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้นเนื่องจากดวงตาที่เฉียบคมและ
รับรู้โดยสัญชาติญาณ การส่งนมและหนังสือพิมพ์ของเขาหมายถึงเขาสามารถเล็ง
ที่ประตูหรือกำแพงบ้านและตรวจสอบว่าพวกเขาต้องการนมสตรอเบอร์รี่หรือช็อกโกแลต

        'สุดท้ายแล้ว...'

        โมตุลพยายามที่จะใช้เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ของเขาในการฟื้นฟู วีดโจมตีที่อกของเขาต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง

                - ดาบแก่นสารประสบผลสำเร็จ

                        คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย

                        การป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้รับการลบล้างและความเสียหายถูกเพิ่ม 284%

                - ดาบแก่นสารประสบผลสำเร็จ

                        คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย

                        การป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้รับการลบล้างและความเสียหายถูกเพิ่ม 516%

                - ดาบแก่นสารประสบผลสำเร็จ

                        คุณได้สร้างความเสียหายเข้าที่จุดตาย

                        การป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้รับการลบล้างและความเสียหายถูกเพิ่ม 837%

        การโจมตีเท่าทวีคูณ!(An exponentially growing attack) ความเสียหายจากการใช้อาวุธโดยคนเถื่อน
ด้วยดาบไฟบรรลัยกัลป์นั้นมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ

        เขตแดนศักดิ์สิทธิ์ของโมตุลไม่อาจทนทานไปกว่านี้อีกแล้ว ร่างของโมตุลแตกละเอียดราวกับกระจกและ
พลังแห่งความมืดเริ่มสลายไป

        "เจ้า...เวลาของเจ้าใกล้หมดแล้ว เอ...เอ็มบินยู...จะคงอยู่เสมอ..."

                - โมตุล, บาทหลวงแห่งการบวงสรวงและการเซ่นสังเวยได้เข้าห้วงแห่งการหลับใหลอันเป็นนิรันดร์

                        เนื่องจากบาปของเขา, วิญญาณของเขาจึงไม่สามารถพักผ่อนได้ แต่เขาจะรู้สึกอิสระ
                เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกครอบงำโดยเทพปีศาจ

                - พวกมอนสเตอร์และสาวกคลั่งลัทธิของนิกายที่ 4 แห่งวิหารเอ็มบินยู ตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน

                - ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 42,138 เนื่องจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

                - เป็นรางวัลพิเศษสำหรับการต่อสู้, ค่าสถานะความศรัทธาเพิ่มขึ้น 130

                - พลังงานแห่งความมืดที่ครอบคลุมกองทัพเอ็มบินยูได้หายไป

                - การกำเนิดของผู้พิชิตได้เสร็จสิ้นลง

                        ผู้พิชิตหนุ่มที่เริ่มเดินทางจากทะเลทรายตอนใต้ได้ทำให้โลกสั่นสะเทือน

                        พวกขุนนางที่ขัดขืนจะยอมคุกเข่า ทุกๆย่างก้าวที่เขาพิชิตขณะที่เขาขยาย
                อาณาเขตออกไป

                        เหล่าทหารของเขากล้าหาญและเต็มไปด้วยความจงรักภักดี

                        อาณาเขตทะเลทรายของเขากว้างใหญ่ขึ้นและชาวเมืองยอมรับเขาในฐานะองค์
                จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

                        เงาที่ทำให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนอย่างล้ำลึกที่ถูกปลดปล่อยโดยบริวารของเอ็มบินยู
                ได้หายไป กษัตริย์โลภมากได้ก่อให้เกิดสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่าและฉุดดึงให้โลกนี้
                ให้เข้าสู่เทศกาลนองเลือด

                        หนึ่งในผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้มองดูพวกเขาจากที่อันสูงส่ง

                - ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 51,282

                - รอยเท้าอันยิ่งใหญ่ได้ถูกทิ้งไว้ในประวัติศาสตร์

                - การชดเชยเวลาโบนัสได้ถูกมอบให้กับภารกิจนี้

                        เวลาโบนัสจะมอบให้กับเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
                เมื่อคุณกลับสู่โลกเดิมของคุณ

                - เนื่องจากประสบความสำเร็จอย่างปาฏิหาริย์ในการผจญภัยครั้งนี้, ทุกค่าสถานะจะได้รับ 15 แต้ม

                        ค่าสถานะที่ได้รับจะยังคงอยู่แม้ว่าคุณจะกลับสู่โลกเดิมของคุณ

                - โปรดตั้งชื่อให้กับจักรวรรดิของคุณ

                        จักรวรรดิจะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของทวีปและจะหายไป หลังจากนั้นยังคง
                ร่องรอยไว้เบื้องหลัง

        "อืม.ม.ม, ชื่อของจักรวรรดิของฉัน"

        วีดมักคิดถึงชื่อ เขามีประสบการณ์กับการตั้งชื่อประติมากรรมของเขา แต่ไม่เคยคิดถึงชื่อของจักรวรรดิสักชื่อ

        "ยังไงก็ตาม, มันไม่สำคัญเพราะว่าความสัมพันธ์ของฉันกับจักรวรรดิจะหายไปหลังจากนั้นไม่นาน"

        เงินจำนวนมากจะไม่ได้มาจากมัน เขาจึงตั้งชื่อง่ายๆ

        "จักรวรรดิ พัลลอส"(Pallos Empire)

                - จักรวรรดิ พัลลอสถูกต้องหรือไม่?

        "ถูกต้อง"

                - ชื่อพัลลอส เป็นชื่อของลูกกวาดในความทรงจำอันนานแสนนานของเขา เขาอยากกินลูกกวาด
        แต่มันแพงเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถ บางครั้งเขาจะได้มานิดหน่อยเมื่อเขาเห็นเด็กเล็กๆกำลังกินมัน
        ช่างเป็นชื่อที่เหมาะกับอาณาจักรที่ก่อตั้งขึ้นจากการปล้นสะดมและการทำลายล้าง.

                - ชื่อจักรวรรดิพัลลอสได้รับการตัดสินใจ

                - โปรดเลือกระบบการปกครอง

                        ระบอบกษัตริย์ปกครองโดยจักรพรรดิ, การปกครองระบบศักดินา, สาธารณรัฐ, หรือสภาสูงสุด
                ปกครองโดยผู้นำของเหล่าขุนนาง

                        โปรดบันทึก

                        ถ้าคุณเลือกระบอบกษัตริย์แล้วคุณจำเป็นต้องสร้างทายาททันทีที่คุณสามารถมอบ
                พลังทั้งหมดของคุณให้ จักรพรรดิผู้ชาญฉลาดจะวางรากฐานของจักรวรรดิเป็นเวลานาน
                แน่นอน, สิ่งตรงข้ามอาจเป็นจริงได้ ถ้าจักรพรรดิเลือกทายาทไร้สามารถ

                        ถ้าคุณเลือกสาธารณรัฐแล้ว พลเมืองของจักรวรรดิพัลลอสจะเลือกจักรพรรดิโดยพวกเขาเอง
                อำนาจของจักรพรรดิแต่ละองค์จะถูกจำกัดและพวกเขาจะถูกแทนที่ช่วงเวลาหนึ่งเสมอ
                การค้าจะเติบโตอย่างรวดเร็วและจะมีการต่อต้านน้อยลงจากดินแดนที่ครอบครอง

                        ถ้าคุณเลือกการปกครองระบบศักดินาแล้ว แต่ละภูมิภาคจะถูกปกครองโดยเจ้าแคว้น(lord)
                มันเป็นระบบที่ดีในการปกครองพื้นที่ห่างไกลในจักรวรรดิอันกว้างใหญ่ แต่เจ้าแคว้นจะมี
                อำนาจมากกว่าองค์จักรพรรดิในพื้นที่นั้น จะไม่มีกบฏหรือหลีกเลี่ยงภาษี
                (ระบบในอดีตของอังกฤษและยุโรป)

                        สภาสูงจะประกอบด้วยผู้ที่มีชื่อเสียงและแข็งแกร่งมากที่สุดใน
                จักรวรรดิพัลลอส พวกเขาจะออกกฎหมายในเรื่องสำคัญร้ายแรงในการประชุม
                (แบบการปรกครองของกรีกในอดีต)

        "อืม.ม.ม."

        ใจของเขาต้องการเลือกเพียงระบอบกษัตริย์

        แน่นอน ระบอบกษัตริย์! จักรพรรดิผู้ปกครองเหนือดินแดนทั้งหมดและสามารถใช้ประโยชน์จาก
ชาวเมืองเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบสำหรับวีด พระเจ้าอาจบอกว่าการฆ่านั้นเป็นกฎแต่จักรพรรดิแห่ง
จักรวรรดิทรงพลังอำนาจทั้งปวง!

        "แต่ฉันไม่มีใครเลยที่จะมอบอาณาจักรให้" (ขาดรัชทายาท)

        สาธารณรัฐนี่ยากหน่อย กองทัพทะเลทรายของวีดเป็นกองทหารล้วนๆและมีอำนาจบนทวีปเวอร์เซลล์
อย่างไรก็ตาม, ระบบสาธารณรัฐหมายความว่าNPCจะเป็นผู้เลือก ถ้าอย่างนั้นก็มีโอกาสที่เฮสไทเกอร์
จะได้รับเลือกให้เป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิพัลลอส

        ระบบศักดินานั้นไร้สาระยิ่งกว่า เขาไม่สามารถควบคุมแคว้นต่างๆเหนือคนอื่นๆได้อย่างเต็มที่

        "ฉันจะตัดสินใจให้เป็นสภาสูง"

        ระบบการเมืองที่เลือกนั้นไม่สมบูรณ์แบบแต่ประชาชนเป็นผู้เลือกจะไม่เป็นปัญหา
จักรวรรดิพัลลอสจะทิ้งผลกระทบอันหนักหน่วงในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอล์เซลล์
แต่วีดเพิ่งตัดสินใจของเขาอย่างฉาบฉวย

                - ระบบการปกครองของจักรวรรดิพัลลอสได้รับการตัดสินใจให้เป็นกลุ่มสภาสูง

จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

7 ความคิดเห็น:

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...