วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

เล่ม 37 ตอนที่ 7 : จุดหมายปลายทาง แปลโดย Acid กรด


เล่ม 37 ตอนที่ 7 : จุดหมายปลายทาง แปลโดย Acid กรด


        ดวงตาของวีดแสดงให้เห็นว่าเขายังไม่ตาย จิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้เหมือนต้นหญ้า!

        "ฉันต้องไปที่อื่นอีก แล้ว, นี่กำลังจะตายอีกหนหรือไง? ถ้าฉันถูกฆ่าตายอย่างนั้นภารกิจจะเสียหาย
 แล้วไง,นี่ละชีวิต"

        แผนการที่เต็มไปด้วยอันตราย!

        โอกาสความสำเร็จของภารกิจนี้ไม่ได้สูงมากนัก ประตูนรกได้พังทลายแล้วแต่กองทัพสาวกอมตะที่บ้าคลั่งได้ปรากฏขึ้นแล้ว
เขาใช้กระทั่งมหาวินาศอย่างห่าฝนอุกกาบาต

        มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาความเป็นไปได้ของความสำเร็จ วีดเองไม่ทันได้ตั้งตัว แต่มันก็ไม่ได้เป็นครั้งแรก
ในชีวิตของเขา เพียงแค่ให้มีรัศมีแห่งความหวัง, อิกริก(Igrig)ใช้เวทย์ของเขาฟื้นฟูกองทัพเอ็มบินยู
ผู้คนหลายร้อยทยอยถูกชุบชีวิตขึ้นมา ทว่ามันยังไม่เสร็จสิ้นดี

        "มันจะเสร็จสิ้นในไม่ช้า"

        วีดอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงขณะที่เดินอยู่กับเจ้าอูฐแบ๊คเทรี่ยน เขาได้รวบรวมพลังชีวิตต้องขอบคุณพิภพเพลิง
แต่ร่างกายของเขาไม่อยู่ในสถานภาพที่ดีนักหลังการปะทะกับเปเช็ท มีคำสาปเป็นโหลๆเกาะติดมากับเขา
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเผ่นหนีได้อย่างรวดเร็ว!

        เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนแผดเสียงออกมา

        "พรืด.ด.ด.ด.ฮัก!" (นึกถึงเสียงอูฐพ่นน้ำลายในสารคดีนะครับ)

        การส่ายหัวของมันแสดงความหมายอย่างชัดเจนว่า 'ทิ้งข้าไว้ที่นี่เถอะและจากไปเพียงลำพัง!'

        "ไม่ต้องห่วง แกคิดจริงๆหรือว่าชั้นจะทิ้งแกแล้วหนีไปคนเดียวหรือไง?"

        "พรืด.ด.ด.ด.ฮัก!"

        "ไม่ต้องกลัว ชั้นทำได้น่า"

        วีดเดินแบกเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนอีกครั้ง

        พวกธาตุไฟเผาผลาญเหล่าศัตรูตรงหน้าเขาขณะที่พวกมันเปิดทางให้ เมื่อเขาเดินไปได้
ประมาณ 200-300 เมตร, พลังไฟก็อ่อนโทรมลง มานาที่ส่งให้พวกธาตุไฟขั้นสูงกำลังจะหมดลง

        "เราไม่มีเวลาแล้ว"

        วีดเร่งการหลบหนีของเขา

        พิภพเพลิงเพิ่มการทำลายล้างกองทัพเอ็มบินยูแต่พวกมันก็แค่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
เจ้าเต่าที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้ากำลังเข้ามาใกล้โดยพวกมันต้องการแก้แค้นวีด ขาของวีดบาดเจ็บ
ดังนั้นการก้าวเดินของเขาจึงไม่สะดวก

        สาเหตุจากความผิดปรกติของพื้นพิภพก่อให้เกิดภัยพิบัติ, แม้ว่าการขี่เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนก็ไม่ได้ไปได้เร็วขึ้น
อูฐแบ๊คเทรี่ยนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะของอุกกาบาตและพวกเขายังไม่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่
ด้วยปราศจากเวทย์รักษา

        วีดดูดซับพลังไฟให้ได้มากที่สุดเท่าที่เขาสามารถทำได้จากพวกเปลวเพลิง

        - ผู้อัญเชิญ, ข้ามีความสุขที่ได้รับมานาทั้งหมดนั่น ข้าจะรอคอยท่านเรียกหาข้าอีกครั้ง

        การอัญเชิญธาตุไฟขั้นสูงได้รับการปลดปล่อย! เปลวเพลิงได้กระจายออกเป็นวงกว้างท่ามกลางวิหารเอ็มบินยู

        "มีใครอยู่ตรงนั้นน่ะ"

        "มันเป็นเครื่องสังเวย ฆ่ามัน!"

        เหล่าอัศวินแห่งความชั่วร้ายกำลังวิ่งเข้ามา พวกมอนสเตอร์ก็กำลังวิ่งตามหลังเหล่าอัศวินแห่งความชั่วร้าย
พวกปีศาจที่โดนโจมตีไปแล้วเตรียมการต่อสู้

        แต่เขารู้สึกมั่นใจขึ้นเกี่ยวกับพวกปีศาจ พวกที่ถูกฆ่าไม่มีสิทธิ์เข้าถึงอำนาจ
ศักดิ์สิทธิ์ในการชุบชีวิต

        วีดให้เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนหมอบลงอีกครั้งและกระชับดาบไฟบรรลัยกัลป์(the Extermination Sword)

        "ที่นี่จะเป็นหลุมศพของแก"

        เขาไม่ได้จับจ้องเหล่าอัศวินแต่เป็นหน่วยเต่าบนท้องฟ้า พวกยักษ์สัมฤทธิ์โยนหินมากมายมา
อย่างต่อเนื่องบนสนามรบ

        "แกจะได้ตายเหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว"

        วีดปล่อยเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนไว้ข้างหลังและวาดดาบไปที่เหล่าอัศวินแห่งความชั่วร้าย
เหล่าอัศวินผู้ชั่วร้ายล้มกลิ้งลงเมื่อพลังมหาศาลพุ่งใส่พวกมัน!

        นี่คือวิชาดาบที่แท้จริง ทั้งทหารและเหล่าอัศวินตรงหน้าของเขาล้วนล้มลง พวกศัตรูมิอาจขัดขวาง
การโจมตีและล้มตายจากอาการบาดเจ็บสาหัส

        "โอ้ว.ว.ว."

        "เจ้าคนนอกรีต, เจ้ากำลังท้าทายความประสงค์ของเอ็มบินยู!"

        อัศวินแห่งความชั่วร้ายกล่าวออกมาหลังจากสังหารพวกมันไป 150 ตน มันมีเลเวล 600 บอสระดับกลาง
ในกองทัพของเอ็มบินยู

        -พลังชีวิตเหลืออยู่ 5.8%

        สถานะทางกายภาพของเขาเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เขาต้องต่อสู้ใน
สภาวะที่ผันแปร

        "ข้าขอแนะนำแกว่า มีอะไรเจ๋งๆจัดมาเลย!"

        วีดตะโกนบอกอย่างตรงไปตรงมา

        พลังชีวิตของเขาต่ำเตี้ยเรี่ยดินอีกครั้งแต่สถานการณ์เวลานี้ไม่สามารถประนีประนอมกันได้!
เหล่าอัศวินแห่งความชั่วร้ายทำการโจมตีอย่างต่อเนื่องและร่างไร้วิญญาณกองสุมกัน

        นี่ไม่ใช่สถานการณ์ชัยชนะที่ยุติธรรมและเท่าเทียม ทำเรื่องให้ย่ำแย่ลงไปอีก, เวทย์ของอิกริก(Igrig)
ทำให้ร่างของพวกอัศวินแห่งความชั่วร้ายลุกขึ้นมาอีกครั้ง

        การต่อสู้อันไร้สิ้นสุด!

        วีดใช้การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีจากการจู่โจมแบบไม่หยุดหย่อนของพวกอัศวิน
ดาบไฟบรรลัยกัลป์ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาระที่หนักอึ้งขึ้น

        'นี่คือเหตุผลที่ชั้นไม่ควรเป็นฮีโร่ ชั้นควรจะไปเข้าข้างเจ้าพวกตัวร้าย....'

        เมล็ดพันธุ์แห่งความยุติธรรมในโลกนี้! ณ.ขณะนั้น, รอยยิ้มน้อยๆอันน่ารังเกียจพาดผ่านใบหน้าของเขา

        'ความพยายามนี้มากพอสำหรับเหล่าผู้ชม ถึงแม้ว่าชั้นจะตาย, จะมีการยกย่องว่าชั้นต่อสู้ได้ดี'

        ความตายอันงดงามของวีรบุรุษ บทสรุปที่น่าเศร้าจะสะท้อนกลับสู่เหล่าผู้ชมอย่างยาวนาน

        'สถานการณ์เช่นนี้ใช้ได้ดีทีเดียว ชั้นจะสู้จนกว่าจะตายกันไปข้าง'

        เมื่อวีดตาย, วิหารเอ็มบินยูจะทำลายทวีปกลางอย่างแน่นอน ชะตากรรมของผู้ใกล้ชิด เมแพน
และอาณาจักรเบเนอก็จะต้องถูกตัดสินเช่นกัน เหล่าหัวเมืองจะถูกทำลายลงอย่างราบคาบ
โดยการกวาดล้างของวิหารเอ็มบินยู นี่ไม่ใช่วิธีการของวีดแต่มันได้บรรเทาความผิดหวังและเศร้าโศกเล็กๆของเขา

        "ดาบสังหารหมู่! (Sword of Mass Slaughter)"

        เหล่าอัศวินแห่งความชั่วร้ายรุมตอมเขาราวกับพวกมันเป็นแมลงวันบินเข้ากองไฟ
เขาถูกบังคับอย่างต่อเนื่องให้จัดการกับการโจมตีของเหล่าศัตรู ดังนั้นเขาจึงยินดีรับการโจมตีครั้งสุดท้าย

        ตอนนั้นสถานการณ์ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว

        "พรืด.ด.ด.ด.ฮิก!"

        เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนที่กำลังนอนและแสร้งทำเป็นตายกระโจนลุกขึ้นและวิ่งไปที่เขา

        - การวิ่งอย่างรวดเร็วในพายุทราย

        เทคนิคที่จะวิ่งจนกระทั่งค่าความแข็งแกร่งหมดลง

        ร่างกายของอูฐแบ็คเทรี่ยนยังไม่แข็งแรง แต่เป็นสถานการณ์ที่มันสามารถวิ่ง
สองขาหน้าและหนึ่งขาหลัง! มันโซเซแต่ทำการวิ่งถึงที่สุด
อูฐแบ็คเทรี่ยนวิ่งตรงสู่วงล้อมของพวกมอนสเตอร์เพื่อให้วีดได้ขึ้นขี่มัน

        "อัศวินทั้งหมด, ไล่ตามไป!"

        เหล่าอัศวินผู้ชั่วร้ายไล่ตามไปทันที

        "แกมาแล้ว"

        วีดรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิม ไม่เหมือนร่างกายที่ปรกติ, อูฐแบ็คเทรี่ยนไม่สามารถวิ่งตรงๆได้
เขาจะไม่สามารถออกจากที่ราบได้แม้ว่าจะไม่มีใครเข้าขัดขวางก็ตาม
เหล่าอัศวินแห่งความชั่วร้ายไล่ตามทันอย่างรวดเร็ว

        "ชั้นยังสามารถฆ่ามันเพิ่มได้อีก"

        เชาใช้ธนูเยือกแข็งเยอร์บูสิก้า(Yurbusika Frost Bow)! ลูกศรน้ำแข็งถูกโปรยปรายลงสู่พวกอัศวินที่ตามเขามา

        การรุดหน้าของพวกมันช้าลงแต่เหล่าศัตรูมีมากเกินไป และพวกมอนสเตอร์กำลังมาตามคำบัญชาของอิกริก
ยิ่งไปกว่านั้น, เจ้าพวกยักษ์สัมฤทธิ์กำลังเหยียบย่ำพวกมอนสเตอร์ขณะที่พวกมันใกล้เข้ามา

        วีดไร้ซึ่งความหวังสำหรับชีวิตของเขา ขณะที่มองดูการโจมตีอันรุนแรงของศัตรู! เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในเวลานั้น

        "พวกสวะของวิหารเอ็มบินยู, พวกแกจะไม่มีทางผ่านไปจากที่นี่"

        เหล่าอัศวินที่มีร่างกายทั้งหมดทำจากกระดูก แวนฮอร์ค, ผู้บัญชาการของกองทัพอันเดทและเหล่าดูมไนท์ได้ผุดขึ้นมา

        ไม่ใช่แค่พวกเขา เงามืดที่กำลังซ่อนอยู่ในพื้นคือพวกแวมไพร์! พวกมันได้ซุ่มซ่อนอยู่ในใจกลางของศัตรูอย่างเงียบๆ
และทำการจู่โจมขณะที่เขี้ยวอันแหลมคมของพวกมันจมลงที่คอของพวกมอนสเตอร์และเหล่านักบวชที่ไล่ตามวีด

        "อ๊าก.ก.ก.!"

        แวน ฮอร์ก และ โทริ

        พวกมันตกตะลึงด้วยอุกกาบาต กองทัพอันเดท 100,000 ตน แต่ว่าพวกแวมไพร์ไม่ได้หวาดหวั่น

        อัศวินอเวจี แวน ฮอร์กนำกองกำลังอันเดทครึ่งหนึ่งไปช่วยเหลือวีดอย่างรวดเร็ว

        โทริไม่สามารถแสดงพลังของเจ้าแห่งแวมไพร์ในสถานที่นี้ การโจมตีซึ่งๆหน้าจะไม่เป็นผล
ดังนั้นเขาจึงคอยโอกาสลอบโจมตีกองทัพเอ็มบินยู เป้าหมายของพวกเขาตั้งแต่แรกคือพวกนักบวชแสนอร่อย

        เลือดของพวกนักบวชเลิศรส แต่ผลกระทบคือ, พวกเขายังเป็นอันตรายถึงชีวิตกับแวมไพร์
อย่างไรก็ตาม, พวกนักบวชที่เชื่อฟังเอ็มบินยูมีพลังแห่งความมืด ดังนั้นจึง
ทำหน้าที่เป็นยาบำรุงสำหรับแวมไพร์

        การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเหล่าลูกสมุนของเขาทำให้วีดค่อนข้างประทับใจมาก
เมื่อธุรกิจล้มเหลว, การปรากฏตัวของผองเพื่อนเหมือนแสงสว่างในโลกมืด

        น้ำตาแห่งความปีติยินดีก็ปรากฏในทันที

        "พวกขยะนั่น, โชคร้ายแล้ว ไอ้พวกสาระเลว!"

        ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คาดหวังไว้, ก็คือกระแสการวิพากษ์วิจารณ์

        แวนฮอร์กใช้พลังของอัศวินอเวจีในการขัดขวางเหล่าอัศวินชั่วร้าย

        "ข้าคือแวน ฮอร์ก, ผู้บัญชาการกองทัพแห่งความมืด และข้าจะสอนกฎของอันธการ(ก็ความมืดนั่นแหละ)ให้เจ้า"

        "เอ็มบินยูไม่สนใจเรื่องของอันเดท! เอ็มบินยูจะให้แกรู้ว่าความตายกับความชั่วร้ายเหมือนกันในโลกนี้!"

        แวน ฮอร์กได้สำแดงให้เห็นถึงทักษะความแข็งแกร่งต้านทานเหล่าอัศวินชั่วร้าย

        ในกรณีของโทริและพวกแวมไพร์, พวกเขามีพลังการต่อสู้ปานกลางแต่ไหวพริบเลิศล้ำ
พวกเขาก่อกวนพวกนักบวชและขัดขวางพวกนั้นจากการใช้คำสาปและเวทย์โจมตี

        "เจ้าอูธ แบ็คเทรี่ยน, ไปกันเถอะ"

        "พรูด.ด.ด.ด.!"

        เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนมุ่งหน้าต่อไปทั้งที่แทบหมดแรง แวนฮอร์กและเหล่าดูมไนท์เป็นพวกเชี่ยวชาญการต่อสู้
ดังนั้นพวกเขากล้าเผชิญหน้ากับพวกยักษ์สัมฤทธิ์ การโจมตีหนึ่งครั้งจากหมัดยักษ์สัมฤทธิ์จะป่นทำลายกระดูก
แต่ร่างของพวกเขาฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

        อันเดทถือดีในพลังชีวิตอมตะของพวกมัน พวกนักบวชเอ็มบินยูสามารถส่งพวกมันกลับไปด้วยมนต์การชำระบาป
แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากพวกแวมไพร์ทำการยับยั้งพวกเขาไว้

        อิกริกได้ฟื้นฟูพวกมอนสเตอร์และเหล่าสาวกคลั่ง แต่แวนฮอร์กและพวกอันเดททำได้เร็วกว่า
เหล่าอันเดทถูกสร้างขึ้นอย่างเร่งด่วน ดังนั้นพวกนี้ยังใช้ไม่ค่อยได้ แต่พวกมันมีจำนวนมากมาย
มันจึงไม่สำคัญแม้กะโหลกมันจะมีข้อบกพร่อง

        "เยี่ยม!"

        แม้ว่าเขาจะละทิ้งการยึดติดกับชีวิตของเขา, วีดยืนหยัดขึ้นอีกครั้งราวเปลวเพลิง ราวกับการมีหุ้นลงทุน
ที่ร่วงหล่นลงแม่น้ำฮันแล้วถูกล๊อตเตอรี่อย่างไรอย่างนั้น อิกริกและขบวนทัพเข้ามาใกล้และร้องตะโกน

        "กำจัดพวกศัตรูของเอ็มบินยูทั้งหมด!"

        แวนฮอร์กและโทริทำการสกัดกั้นศัตรูจำนวนมาก แต่ศัตรูจำนวนมากก็ได้เล็ดลอดไล่ตามวีด
พวกเต่าที่บินอยู่บนฟ้าก็ไล่ตามเขา อิกริกและกองทหารของโมตุลกำลังใกล้เข้ามา
ดังนั้นแวน ฮอร์กไม่สามารถสกัดไว้ได้นานนัก

        วีดยิงลูกศรน้ำแข็งไปยังพวกศัตรูในบริเวณใกล้เคียง เขาขี่อูฐแบ็คเทรี่ยนกลับหลัง
ขณะที่เขาทำการค้นหาพวกมอนสเตอร์ กำแพงน้ำแข็งถูกสร้างขึ้นเพื่อสกัดกั้นพวกมอนสเตอร์
แต่ในไม่ช้าพวกมันก็ติดตามมา

        "ไม่สิ้นสุดจริงๆกับเรื่องนี้"

        มอนสเตอร์หลายตัว ชีวิตของพวกมันต้องจากไปเพราะศรน้ำแข็ง วีดนั้นแข็งแกร่งมากต้องขอบคุณ
ประติมากรรมวินาศ!

        อย่างไรก็ตาม, พวกมอนสเตอร์เชื่อฟังเพียงอิกริก ดังนั้นพวกมันจึงไม่สนใจเรื่องความตาย
ของสาวกของพวกมัน พวกมันเพียงวิ่งกรูกันผ่านการเยือกแข็งจากลูกศรน้ำแข็ง

        "พรืด.ด.ด.!"

        "ชั้น รู้!"

        เขาเล็งศรน้ำแข็งไปยังพื้นเพื่อให้แยกพวกมันออกจากกันและลดจำนวนพวกศัตรู อูฐแบ็คเทรี่ยน
ไม่สามารถวิ่งให้ดีได้และและกำลังอ่อนแรงลงกว่าเดิม ทำให้เรื่องกลับแย่ลง

        วีดกล่าวอย่างสงสารขณะกำลังยิงลูกศร

        "เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยน, อดทนอีกนิดนะ ชั้นจะเลี้ยงแครอทเจ้าไปตลอดชีวิตเลย"

        "พรืด.ด.ด."

        ลูกศรน้ำแข็งถูกยิงขึ้นท้องฟ้าปักลงตรงมอนสเตอร์ 7 ตัว แต่ว่าเขาสามารถทำได้อย่างไร?

        เขาสามารถตรวจจับได้ในไม่กี่วินาที กับพวกศัตรูที่อยู่ห่างไปหลายสิบเมตร

        "วิ่งต่อไปอีกหน่อย นี่เป็นภาวะวิกฤติ แต่ถ้าเป็นความเห็นฉันละก็..."

        วีดไม่มีเวลามากนัก พวกปีศาจที่บินได้เข้ามาใกล้เขาระยะ 10 เมตรโบกบินปะทะอยู่นาน
วีดทำการยิงลูกศรอีก ทว่าเขาไม่สามารถจัดการกับการโจมตีได้ เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงมันได้!

        แคว๊ก!

        แต่ก่อนที่มันจะแตะต้องวีด, เจ้าปีศาจบินได้ก็พุ่งกระแทกพื้นในทันทีด้วยชีวิตที่หาไม่ ลูกศรนับพันโบยบินบนท้องฟ้า
แล้วทิ่มแทงพวกมอนสเตอร์ของกองทัพเอมบินยู

        "อะไรน่ะ?"

        วีดมองไปด้านหลังเห็นพายุฝุ่นที่คุ้นเคยของกองคราวานอูฐ

        "ฆ่าทุกคนที่คุกคามองค์มหาจักรพรรดิ!"

        "หน่วยกริชแดงทะเลทราย, ทำลายพวกศัตรู"

        เหล่าทหารที่เชี่ยวชาญการยิงธนูน้าวคันศรของพวกเขา เหล่าลูกศรของนักรบทะเลทรายร่วงลงเต็มท้องฟ้า
พวกเขาตั้งมั่นการโจมตีศัตรูในบริเวณที่พวกมันจะมีชีวิตรอดไปไม่ได้ พวกลูกศรยังถูกเล็งเพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหว
ของกองทัพฝ่ายตรงข้าม

        การจัดกลยุทธ์ขั้นสุดยอดทำให้คาราวานอูฐพุ่งผ่านวีดไปอย่างรวดเร็ว พลังอำมหิตที่จะแสดงกันยาวๆ!
พวกมอนสเตอร์ที่พวกเขารุกไล่ถูกปราบ

        นักรบ-1 ผู้ดูแลกองทัพชั่วคราวก็ประชิดเข้าหาเขา

        "จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่, พวกเรามาตามที่ได้ปฏิญาณไว้"

        ถ้ามันดำเนินการไปตามที่วีดวางแผนไว้ แต่เดิมแล้วพวกนักรบทะเลทรายจะทำการต่อสู้บนพื้นที่ที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม, กองทัพทะเลทรายต้องหนีกันจ้าละหวั่นและเจอกับการปวดเศียรเวียนเกล้าเพราะการพร่างพรู
ของห่าฝนอุกกาบาต พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากการระเบิด แต่ร่องหลุมลึกบนพื้นทำให้พวกเขา
เคลื่อนที่ได้ช้าลง

        อย่างไรก็ตาม, พวกเขาได้มาถึงในเวลาที่พอเหมาะพอดีเพื่อเอาชนะพวกศัตรูที่ไล่ตามมา
แน่นอน, พวกเขามาถึงยังใจกลางกองทัพเอ็มบินยูด้วย

        วีดเพ่งมองไปยังนักรบ-3และกองทหารของเขากำลังต่อสู้กับยักษ์สัมฤทธิ์ เหล่าลูกศรและหอกพุ่งเข้าใส่อย่างดุเดือด
พวกยักษ์สัมฤทธิ์ถูกโค่นล้มลงโดยทะเลทรายมรณะ(the passing desert)

        การรบประชิด!

        บุคคลที่ต้องการจะล่วงล้ำ แน่นอน, ผู้ที่ใส่ใจในความอยู่รอดของตนเองจะไม่ทำเช่นนั้น

        วีดลงจากหลังอูฐแบ็คเทรี่ยน!

        "พวกแกนี่ไร้ความสามารถสาระเลว! ทำไมพวกแกเพิ่งมากันตอนนี้ หา?"

        “…….”

        "ยังไง, มันก็จบไปแล้ว ไปช่วยแวนฮอร์ก กับโทริและให้ความสนใจการป้องกันด้วย"

        "ขอรับ, น้อมรับพระบัญชา"

        นักรบ-1 ทำการคุ้มกันพื้นที่โดยรอบพวกเขาและวีดสัมผัสพื้นด้วยมือของเขา

        - เทวีแห่งพิภพ มิเน่ ได้อวยพรแก่ท่าน

        พลังงานจากพิภพได้ฟื้นฟูพลังชีวิตและพละกำลังของท่าน

        พลังชีวิตต่ำกว่า 20% ดังนั้นอัตราการฟื้นฟูจึงสูงขึ้น 4 เท่า

        "อืม.ม.ม"

        รู้สึกดีมากที่สัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของเขาเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น, วีดกระตือรือร้นมากขึ้น
เพื่อกลับไปยังสนามรบหลังการเติมพลังชีวิตของเขา

        อูฐแบ็คเทรี่ยนหมอบราบไปกับพื้นเนื่องด้วยหมดพลัง

        "พรืด.ด.ด.ด.!"

        อาการบาดเจ็บที่ขาอย่างรุนแรง ดังนั้นมันต้องการการพักฟื้นที่ดีมาก ถึงอย่างนั้นก็ตามเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยน
กระพริบตาและจ้องมองวีด

        วีดได้บอกไว้ก่อนหน้านี้

        ถ้าพวกเขาหนีจากวิกฤติได้แล้ว เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมบัติ
มันมีความผิดปรกติเพิ่มขึ้น วีดรู้สึกตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยน

        เขามีรายการสมบัติที่ยิ่งใหญ่จากทะเลทราย มันเพียงพอที่จะซื้อได้แม้กระทั่งประเทศหนึ่ง

        "อืม.ม., ใครๆก็ทำอย่างที่แกทำไปแล้วได้ ดังนั้นแกไม่ต้องลำพองใจไป"

        เขารีบพูดอย่างรวดเร็ว!

        "มันไม่มีความหมายอะไรหรอก แต่ฉันยังจะให้แก 20 เหรียญทองสำหรับความสำเร็จ เงินนี่เพียงพอ
ที่จะสร้างโรงนาดีๆกลางทะเลทราย"

        จำนวนที่เป็นไปได้ในการสร้างโรงนาในที่ที่มีน้ำกับทราย(กันเล่า)! ริมฝีปากของเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยน
ดูเหมือนมันกำลังหัวเราะ มันมีระดับความฉลาดอยู่บ้างแต่ยังคงความภักดีอย่างแท้จริงกับวีด

        ขณะที่กองทัพทะเลทรายและและเหล่าทาสต่อสู้อยู่, กองทัพของพวกขุนนางและนักบวชที่ยอมสวามิภักดิ์ได้มาถึง

        "ร่างทั้งหลายพร้อมด้วยรัศมีจางๆกำลังใกล้เข้ามา เทวีเฟรย่าคุ้มครองพวกเรา"

        - การสาปแช่งให้กระดูกอ่อนล้าได้รับการบรรเทา

        ความอ่อนล้าของกระดูกจะหายไป

        ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิต +27%

        - คำสาปของสะท้อนการทำลายได้รับการบรรเทา

        ความเป็นไปได้ของการได้รับความเสียหายย้อนกลับเมื่อทำการโจมตีศัตรูจะหายไป

        "ฟื้นฟู!

        "ทั่วเนินเขา!"

        - เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของแอทร้อก(Atrock)ได้ฟื้นฟูพลังชีวิต 3,872

        - เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของเทียร์(Tyr)ได้ฟื้นฟูพลังชีวิต 3,872

        การอำนวยพรและการรักษาอย่างเอาใจใส่กับวีดเพื่อบรรเทาคำสาป สภาพร่างกายของเขาก็พรวดพลาดขึ้นอย่างรวดเร็ว

                                        **************************

        กองทัพเอ็มบินยูและกองทัพทะเลทราย!

        เหล่านักรบทะเลทรายผลักดันพวกมอนสเตอร์และพวกสาวกคลั่งทั้งหมด

        "เดินหน้าต่อไป ตามกฎของทะเลทรายเรื่องการจัดการกับเหล่าศัตรู"

        "ประการแรกคือการฝ่าฟันพวกศัตรู ถ้าพวกนักบวชไล่ตามมาให้ฆ่าพวกมันให้หมด!"

        พวกอัศวินแห่งความชั่วร้ายไม่อาจต่อกรกับนักรบทะเลทรายได้ กองทัพเอ็มบินยูถูกทำให้แข็งแกร่งขึ้น
ด้วยเวทย์มนต์แต่กองทัพทะเลทรายได้ใช้ความเจนจัดชำนาญการ, กลยุทธ์หมู่ พวกเขาสาดลูกศรและขวาน
เข้าใส่พวกศัตรูขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ และพวกเขาใช้ดาบโค้งหนาโจมตีพวกศัตรู จากนั้นพวกอูฐสนับสนุน
จะเข้าเหยียบย่ำลงบนพวกมัน!

        ความเข้มแข็งของเหล่านักรบทะเลทรายยังฝังอยู่ในอูฐที่พวกเขาขี่ด้วย ในกรณีของพวกอัศวิน,
เกราะที่หุ้มให้พวกม้าสามารถมีอิทธิพลต่อการต่อสู้ แต่สำหรับพวกนักรบทะเลทราย, พวกอูฐเป็นสิ่งที่ขาด
ไม่ได้เพื่อข้ามผืนแผ่นทะเลทราย พวกมันจำเป็นต้องใช้ตามหาพวกศัตรูหรือแหล่งน้ำ
วีดฝึกฝนเหล่านักรบทะเลทรายให้ใช้พวกอูฐในการโจมตีด้วยวิธีการต่อเนื่องนี้

        นอกจากนี้, เหล่าทหารรับจ้างทะเลทรายที่ซอยูนดูแลก็เก่งกาจสามารถด้วย ทหารรับจ้างได้แก้ไขปัญหา
ที่ได้รับมอบหมายในทะเลทรายอันเกรี้ยวกราด ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าต่อสู้เช่นไรด้วยอาวุธที่หลากหลาย

        สถานการณ์ของพวกทาสศึกกับเชลยต่างออกไป

        "มะ-ไม่ พวกเราจะตายถ้าพวกเราไปในที่นั้น"

        "ทำไมพวกเราต้องสู้ด้วยละ? ข้าไม่รู้ว่าข้ากำลังสู้เพื่ออะไร ข้าอยากกลับบ้าน"

        การฝึกฝนและขวัญกำลังใจของพวกเขาตกต่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงลังเลที่จะหันหน้าสู้ ในเวลานั้น,
วีดใช้การกู่ร้องของแอทร้อค(Atrock’s Cry)

        "สู้! ถ้าพวกเจ้าสู้กองทัพเอ็มบินยูแล้วพวกเจ้าสามารถกลับบ้านเกิดของพวกเจ้าได้ ถ้าพวกมันชนะ
โลกนี้จะถึงจุดจบด้วยการถูกทำลาย เอาชนะพวกศัตรูเพื่อครอบครัวของพวกเจ้าได้อยู่รอด!"

        ทันทีที่วีดฟื้นตัว, เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องส่งกองกำลังเพิ่มเติมไปยังกองทัพทะเลทราย
ความหวาดกลัวของพวกทาสที่แสดงออกมาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
       
        "เราต้องกำจัดพวกมันให้หมด"

        "ข้ากำลังเล็งไปที่มอนสเตอร์ตัวโตๆเป็นอย่างแรก มันดูน่ารักดี ข้าจะตัดแขนตัดขาพวกมัน!"

        การกู่ร้องของแอทร้อคทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง!

        พลังอำนาจเพียงพอที่จะกวาดล้างพวกสาวกคลั่งที่อ่อนแอ ภารกิจของทาสศึกคือการปราบกองทัพ
เอ็มบินยูที่แข็งแกร่งอย่างน่าขำ(ไม่ออก)  รูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้แสดงว่าได้รับการฝึกใดๆทั้งสิ้น
จุดประสงค์ของพวกเขาคือการใช้หอกและโล่ของพวกเขาเพื่อสร้างกำแพงอันแข็งแกร่ง

        กองทัพทะเลทรายทำหน้าที่เหมือนเหยื่อล่อเพื่อให้เวลาพวกเขาทำภารกิจให้สำเร็จ
พวกนักบวชที่ไม่ได้ถูกรบกวนจากพวกแวมไพร์ได้ใช้วิธีการล้างสมอง

        "พวกเจ้าจะเชื่อฟังอย่างจริงใจและทำตามเอ็มบินยูเท่านั้น โลกนี้มีอะไรทำเพื่อพวกเจ้า?
ถ้าพวกเจ้าเชื่อมั่นในเอ็มบินยูแล้ว พวกเจ้าจะได้รับอำนาจและความแข็งแกร่ง พวกเจ้าจะ
สามารถมอบความเจ็บปวดให้แก่ผู้อื่น"

        "ไม่, พวกเราได้สามิภักดิ์ต่อองค์จักรพรรดิวีดผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าพระองค์อยู่เคียงข้างพวกเราแล้ว
พวกเราจะสามารถเอาชนะเหล่าศัตรู ไม่มีมนุษย์หน้าไหนสามารถสู้และเอาชนะเขาได้"

        "เอ็มบินยูจะปลดปล่อยพวกเจ้าจากความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน"

        "โอ้ว.ว จริงดิ, เทพเอ็มบินยู!"

        "แปลกที่เจ้ากำลังพูดถึงเอ็มบินยูอยู่"

        "ฆ่าเขา!"

        "ข้าจะได้รับพลังของเอ็มบินยู...คิกๆ!"

        "คนพวกนั้นกำลังพูดถึงเอ็มบินยู ฆ่าพวกมันให้หมด!"

        เหล่าคนทรยศถูกประหารทันทีโดยทหารคนอื่น! เวทมนตร์ของพวกนักบวชจับได้ทหาร
ที่อ่อนแอเท่านั้น ดังนั้นจึงรู้สึกเหมือนใช้เวทย์มนต์โดยไร้ประโยชน์

        แน่นอน, เหล่านักรบทะเลทรายไม่ตกเป็นเหยื่อของเอ็มบินยู พวกเขามี
ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะได้รับอำนาจและสมบัติมากมายจากการปล้นสะดมทั่วทั้งทวีป!

        หายนะอุกกาบาตทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อกองทัพเอ็มบินยู พวกทหารที่เสียชีวิตอาจ
ได้รับการคืนชีพ แต่ผู้ที่ยังรอดชีวิตความแข็งแกร่งรวมถึงพลังกายลดลงและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก!
กองทัพเอ็มบินยูไม่ได้แข็งแกร่งเต็มที่

        "นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ อาจไม่มีโอกาสอื่นเอาชนะพวกมันอีก"

        วีดกล้าเสี่ยงกลับสู่สนามรบหลังจากพลังชีวิตมาถึง 68%

        กองทัพเอ็มบินยูมีพลังอำนาจอันน่ากลัวและสถานการณ์จะไม่ได้รับการแก้ไข
จนกว่าเขาจะฆ่าอิกริกและโมตุล

        วีดใช้ประติมากรรมจำแลงเพื่อกลายเป็นคนเถื่อนอีกครั้ง เขาไม่สามารถทำทุกสิ่งสำเร็จเพียงลำพัง
เขาจะพิจารณามันหลังจากเจาะทะลวงแนวหน้าสู่กองทัพทะเลทราย

        เพียงเสียงร้องทุกข์ของเขา!

        "ข้าเป็นอัครสาวกแห่งความยุติธรรมที่จะปกป้องความสงบสุขของทวีป ซึ่งนี่คือแรงบันดาลใจอันยอดเยี่ยม"

        คนของเขาได้มีการพัฒนาความไว้วางใจได้อย่างมั่นคง ผ่านความทุกข์ยากมากมายและการกระทำสิ่งที่เลวร้าย
วิหารเอ็มบินยูคือคู่ต่อสู้เมื่อเขาได้ตรวจสอบมันมาอย่างยาวนาน

        "นักรบ-2"

        "ขอรับ"

        นักรบ-2 ยังไม่ได้ทำการต่อสู้

        ภารกิจของเขาคือจัดขบวนนักรบทะเลทราย 1,000 นายสำหรับวีด! นักรบทะเลทราย 200 นาย
ในขบวนนั้นเป็นพวกที่เติบโตมาด้วยกันกับโนดูล หมู่เล็กๆหมู่หนึ่งโอ้อวดได้ว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในทวีป

        วีดรู้สึกมั่นใจเมื่อมองดูพวกเขา ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด, บริวารของเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะหนี

        "ไปกันเลย หยุดพวกนักบวช"

        "รับบัญชา!"

        เหล่านักรบทะเลทรายดูแลรับผิดชอบจัดการกับพวกนักบวชแห่งการลงทัณฑ์ พวกเขายิงลูกศรไปยังพวกนักบวช
แนวทางการมีชีวิตเสรีที่พวกนักรบใช้ต่อสู้ในทะเลทราย

        เหล่านักรบทะเลทรายได้ดำเนินตามกลยุทธ์ที่วีดมอบให้พวกเขาแต่พวกเขาก็กล้ากระโจนเข้าหลังแนวศัตรูด้วย
การต้านที่ไร้เทียมทานและความแข็งแกร่งในการเอาชีวิตรอดทำให้ พวกเขาจะประมาทในสนามรบ!

        ในความเป็นจริงการกระทำของพวกเขาเป็นเรื่องโง่เขลาเมื่อต่อกรกับกลุ่มของผู้วิเศษ, นักบวช,
ผู้อัญเชิญ หรือพวกอัศวิน พวกเขาจะถูกทำให้อ่อนแอด้วยเวทมนตร์หรือคำสาปและในที่สุดก็ถูกฆ่าตาย

        เหล่านักรบทะเลทรายมีความเจนจัดในการใช้การเคลื่อนไหวของพวกเขาตีฝ่าไปได้
แต่ข้อได้เปรียบที่แท้จริงของพวกเขาคือการต่อสู้ระยะประชิดเมื่อพวกศัตรูแยกออกจากกัน

        "ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไป ศพเน่าๆกำลังเดินไปไปมารอบๆสนามรบ ถ้าพวกเจ้าติดตามเอ็มบินยู
จากนั้นพวกเจ้าก็สามารถกลับบ้านได้

        "หุบปากไปเลย อย่ามาพูดพล่อยๆแบบนี้กับข้า ลูกข้าก็มาจากเมียข้ามีชู้กับเพื่อนบ้าน!"

        "บ้านเหรอ? ข้านะท่องไปในสนามรบเท่านั้นดังนั้นข้าไม่มีอะไรจะสูญเสีย ข้าไม่มีอะไรจะทำนอกจากฆ่าพวกแก"

        เหล่านักรบทะเลทรายเรียงหน้าเข้าหาแนวศัตรูและแยกย้ายกันจัดการกับพวกนักบวช
วีดเป็นคนเถื่อนตัวมหึมาผู้ที่ตีฝ่าเข้าสู่ใจกลาง เขาบดขยี้พวกมอนสเตอร์ด้วยแขนทั้งสองแล้วเตะออกไป

        เขาหยุดก่อนที่กองทหารของแวนฮอร์ก และโทริที่ใกล้จะเสียที มันไม่ดีเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในกรณีที่กองทัพแวมไพร์ถูกลดทอนลงหนึ่งในสาม พวกเขากลับไปหาวีดเพื่อฟื้นฟู

        "นายท่าน!"

        "ดูเหมือนเจ้าปลอดภัยดี"

        บริวารของเขาแค่อยากได้ยินคำชมเชยไม่กี่คำ วีดก้าวไปข้างหน้าอัศวินชั่วร้ายและกำจัดพวกมันไปด้วย
ดาบไฟบรรลัยกัลป์ก่อนที่จะกล่าว

        "จุ๊ จุ๊ จุ๊, ข้าต้องเก็บกวาดที่พวกแกทำเลอะเทอะ"

        “…….”

        "แวนฮอร์ก, เจ้าเป็นถึงผู้บัญชาการอันยิ่งใหญ่ของกองทัพแห่งความมืด"

        “…….”

        "โทริ, จนถึงตอนนี้เจ้าได้ดื่มเลือดแค่หยดสองหยดเท่านั้นมั้ง ยังไงก็เถอะ, ข้าเจ็บปวดนักเพราะเจ้ามันเหลวเป๋ว"

        กลยุทธ์ที่กลืนกินและพ่นไม่ยั้งใส่เหล่าลูกสมุนของเขา! วิถีทางของเหล่าบริวารของเขาที่จะเรียนรู้สถานะตามปรกติ
ในการปกครองตามลำดับชั้นของพวกเขา

        อย่างไรก็ตาม, กองทัพเอ็มบินยูยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา

        อิกริกบีบเค้นการตอบสนองอันเครียดขึ้นจากเหล่านักบวชและอัศวิน พวกนักบวชอยู่ในความดูแลของแนวป้องกัน,
คำสาปและเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่พวกอัศวินเพียบพร้อมด้วยขวัญกำลังใจในการโจมตีสูงยิ่งโดยปราศจากความลังเลใดๆ

        เหล่านักรบทะเลทรายสามารถใช้การโจมตีอันน่าประทับใจในการเอาชนะพวกศัตรู
แต่เวทมนตร์คืนชีพอนันต์ของอิกริกหมายถึงพวกเขาจะต้องเหน็ดเหนื่อยในที่สุด

        โมตุล(Motuls)ยังมีทักษะพิเศษมากมาย

        "นี่คือกฎของดินแดนโดยเทพเอ็มบินยู พวกคนนอกรีตไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่นี้
ประกาศิตเขตแดนศักดิ์สิทธิ์!"

        - ประกาศิตเขตแดนศักดิ์สิทธิ์

        พลังประกาศิตของเอ็มบินยูได้กระจายครอบคลุมพื้นที่นี้

        สาวกทั้งหมดของกองทัพเอ็มบินยูจะมีสถานะที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้
เพิ่มขึ้น 70%

        ทักษะการทำลายล้างของพวกเขาเพิ่มขึ้น 120%

        ผู้คนเหล่านั้นที่ไม่ได้เป็นของเอ็มบินยูจะถูกดูดพลังชีวิต 3,892 แต้มทุกๆ 5 วินาที

        การดูดซึมพลังชีวิตจะถูกเปลี่ยนเป็นมานาสำหรับบาทหลวงโมตุล

        โปรดทราบ!

        แนวสิ่งกีดขวางจะก่อตัวขึ้นรอบๆ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์

        ความกล้าหาญที่แท้จริงนั้นจำเป็นสำหรับการฆ่าบาทหลวงโมตุลเพื่อที่จะฝ่าแนวป้องกันอันแน่นหนา

        อิกริกและโมตุล!

        บาทหลวงของกองทัพเอ็มบินยูมีเลเวลมากกว่า700 และความสามารถพิเศษ มันเพียงพอที่จะทำให้
นักรบเลเวล 700 รู้สึกอ่อนแอ พลังชีวิตของพวกเขาก็สูงด้วย ดังนั้นพวกเขาจะไม่ตายง่ายๆ

        พวกผู้วิเศษและนักบวชมีความสามารถพิเศษ ดังนั้นพวกเขาจะสร้างหายนะยามบัญชาการเหล่าสาวก
ขณะที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์, เหล่านักรบทะเลทรายจะถูกดูดพลังชีวิตของเขาและพวกเขา
ไม่สามารถถอนกำลังได้ด้วย

        "ป่นกระดูก(Bone Destruction), หายนะแห่งโกรธแค้นลึกล้ำ(Devastating Wrath and Deep),
หมอกพิษมืดมิด(Dark Poison Fog)!"

        โมตุลเริ่มดำเนินการอย่างเมามันในเวทย์มนต์หลังการใช้มนต์ดูดซับมานา บาทหลวงคนหนึ่งกับการ
เสริมมานาไร้ขีดจำกัดก็สามารถใช้เวทย์ขั้นสูงได้อย่างเสรี ควรจะมีขอบเขตว่าความสามารถพิเศษของนักบวช
และผู้วิเศษน่ากลัวแค่ไหน

        "ข้าต้องรีบหน่อยและจัดการพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้"

        ศัตรูยิ่งแข็งแกร่ง วีดยิ่งสนุกกว่าเดิม

        อิกริกและโมตุล นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของสองบาทหลวงที่จะแสดงความสามารถพิเศษของพวกเขา
มันจะเป็นประโยชน์ถ้าพวกเขายื้อเวลาไว้

        สายตาของวีดมองไปทั่วสนามรบอย่างว่องไว เขาพบเห็นเฮสไทเกอร์และซาฮับผู้ที่อยู่ในสถานะความเป็นทาส
อุกกาบาตได้ทำลายล้างแผ่นดินจนเปลวเพลิงแผดเผาทุกหนแห่ง

        "ตีฝ่าไป อย่าปล่อยให้ความกล้าหาญของศัตรูหยุดยั้งพวกเรา"

        "ว๊าว.ว.ว.! ตามท่านเฮสไทเกอร์ไป!"

        เฮสไทเกอร์นำกองทหารของเขาสังหารพวกมอนสเตอร์ เขาเป็นคนที่เด็ดเดี่ยว, สูงโปร่ง และหล่อเหลา 
พร้อมด้วยนิสัยความเห็นอกเห็นใจผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา วิชาดาบของเขาไม่เป็นที่สงสัย
และเขาได้รับความสำเร็จอย่างมากในสนามรบ เขาเปล่งความสง่างามปรากฏให้เห็น
ขณะที่เขาควบอูฐนำหน้าเข้าสู่การโจมตี

        ปรมาจารย์ดาบซาฮับเวลานี้กำลังใช้ดาบแสงฟันมอนสเตอร์ที่ใหญ่มหึมาขาดครึ่ง เขายังใช้
ประติมากรรมวินาศเพื่อเปลี่ยนสถานะของเขาเป็นพละกำลังด้วย ค่าสถานะทางศิลป์ของเขาเหนือล้ำกว่าวีด
เนื่องจากเขาอยู่มายาวนาน ดังนั้นดาบและทักษะการโจมตีของเขาจึงถึงจุดสูงสุดที่ทำให้
พวกมอนสเตอร์ไม่ใช่คู่มือเขา

        เขาเบี่ยงเบนบอลเพลิงของนักบวชที่ยิงมายังเขาด้วยมีดแกะสลักแสงจันทร์ เขาได้สร้างท่วงท่า
ขึ้นใหม่ที่สวยงามใต้แสงจันทร์ สิ่งนั้นเป็นตำนานในอาณาจักรโรเซนไฮม์

        "โอเค, พวกเขาจะเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ ฉันจะไม่ไปคนเดียว"

        วีดเปล่งเสียงตะโกนดังๆ

        "เฮสไทเกอร์!"

        "ขอรับ!"

        "นำกองกำลังของเจ้ามาร่วมรบกับข้า"

        "เป็นเกียรติยิ่ง"

        เฮสไทเกอร์มักมีมรรยาทกับวีดเสมอ เขานอบน้อม แต่สง่างาม

        "ท่าน ซาฮับ"

        "ข้ารู้"

        ซาฮับต้องการเป้าหมายอย่างพวกบาทหลวงอยู่พอดี เขามีวิชาดาบระดับปรมาจารย์ ดังนั้น
เขาจึงเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

        "นักรบ-2, ป้องกันไม่ให้กองกำลังอื่นของกองทัพเอ็มบินยูมาทำการขัดขวาง"

        "ข้าจะยอมพลีชีพเพื่อการนี้"

        วีดตัดสินใจมุ่งเป้าที่บาทหลวงอิกริกเป็นคนแรก ทั้งคู่เป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง
เป็นเวลานาน อิกริกยังคงฟื้นฟูกองทัพของเอ็มบินยูในขณะที่โมตุลสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วง
ให้กับกองทัพทะเลทราย

        อิกริกถูกเลือกเพราะเขาอยู่ใกล้ที่สุด

        "ลุยกันเลย"

        วีดวิ่งตรงเข้าหาอิกริกร่วมกับซาฮับและเฮสไทเกอร์ เขากวัดแกว่งดาบไฟบรรลัยกัลป์และโหมกระหน่ำ
สู่พวกมอนสเตอร์! อิกริกเป็นหนึ่งในหมู่ผู้นำ ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งราวสัตว์ประหลาดและ
เหล่าอัศวินที่รายรอบตัวเขา ยักษ์สัมฤทธิ์ในขบวนทำให้มันเป็นการป้องกันที่สุดอาจเอื้อมอย่างยิ่ง!
วีดต้องการสังหารเหล่าศัตรูนับพันก่อนการกำจัดอิกริก

        วีดกระทืบลงบนพื้น

        "ปฐพีสะเทือน(Earth Shaking)!"

        ผืนปฐพีที่แข็งแกร่งสั่นไหวขึ้นลงอย่างน้อยๆก็ 1 เมตร ด้วยเหตุนี้ทำให้พวกมอนสเตอร์และยักษ์สัมฤทธิ์
ไม่สามารถยืนคงตัวได้ เจ้ายักษ์สัมฤทธิ์ล้มลง, ทำให้พวกมอนสเตอร์ล้มต่อเนื่องกัน พวกนักบวชที่กำลัง
ร่ายเวทย์มนต์ก็สูญเสียสมดุล

        เหล่ากองทหารที่อยู่แนวหน้าของอิกริกถูกทำลายล้าง! วีดคิดว่ามีความเสี่ยงสูงแต่เป็นเรื่องยินดีที่
สร้างความสะดวกในการรับโอกาสดี

        "ตอนนี้ละ เฮสไทเกอร์!"

        "ราชสีห์แดงไปเลย!"

        กองทหารของเฮสไทเกอร์โลดแล่นราวสายลม รวมทั้งเหล่าลูกศรและเวทย์มนต์โจมตีในทันทีบินว่อน
โดยรอบพื้นที่ใกล้เคียง พวกเขาละเว้นกองทัพเอ็มบินยูและมุ่งโจมตีที่อิกริก

        พวกนักบวชแห่งการลงทัณฑ์ที่อยู่นอกเขตของปฐพีสะเทือนเล็งคำสาปไปยังพวกศัตรูที่มุงหน้าเข้าหาอิกริก
เฮสไทเกอร์และราชสีห์แดงตีฝ่าแนวป้องกันและกระโจนเข้าใส่เหมือนสิงโตหิวกระหาย

        ความกล้าหาญและความบุ่มบ่ามของกองทัพทะเลทรายได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ละคนล้วนเป็น
นักรบผู้ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมด้วยความสามารถในการเป็นผู้นำ ไม่มีการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่าขณะที่พวกเขา
ตีฝ่าศัตรู พวกเขาได้รับการโจมตีนับไม่ถ้วนแต่ความเสียหายนั้นต่ำมากและพวกเขามิอาจหยุดยั้งได้

        "ท่านซาฮับ, ไปกัน!"

        วีดติดตามหลังซาฮับ ไม่ว่าจะเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่งหรือหนึ่งต่อสิบ, ไม่มีอัศวินหน้าไหนสามารถ
หยุดพวกเขาได้ ซาฮับฟันพวกศัตรูอย่างว่องไวด้วยมีดแกะสลักขณะที่วีดแค่เอาชนะพวกเขา
ด้วยกำลัง

        "หลีกทางไป!"

        ดาบไฟบรรลัยกัลป์กระแทกพวกมันไปด้านข้าง! พวกโล่หรือดาบไม่สามารถป้องกันมันได้ ดังนั้นการฟาดฟัน
แบบนั้นจะทำให้กระเด็นออกไปมากกว่า 100 เมตร มีความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นคล้ายกับตีลูกเบสบอลหรือลูกกอล์ฟ

        กระนั้นการเฝ้าดูวีดจากข้างๆพบว่ามันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้น หลังจากอัศวินสองสามคนกระเด็นออกไป,
แนวป้องกันก็พังทลาย

        "อิกริก,นี่เป็นวันสุดท้ายของแก!"

        วีดตะโกนออกไปขณะที่เขามาถึงระยะ 70 เมตรตรงหน้าอิกริก นี่เป็นระยะทางที่ดีสำหรับ
คนเถื่อน ขนาดของเขานั้นทำให้ป้อมดัลมอร์(the Dulmore Fortress)และที่ราบของมันดูแคบลง!

        "สาปให้เลือดคั่งในปอด!"

        มานาสีแดงเข้มรวมตัวกันรอบๆอิกริก คำสาปโดนพวกอัศวินที่วีดทุ่มมา

        "อ๊าก.ก.ก.ก!"

        เลือดหลั่งรินจากเหล่าอัศวินเนื่องจากคำสาปที่โดนและพวกเขาสิ้นใจ

        'มีโอกาสไม่ถึง 10 วินาที'

        วีดสงบนิ่งอ่านสถานการณ์

        พวกอัศวินที่ตกลงบนพื้นก็ได้สติขึ้นในทันทีโดยอิกริก และที่ใจกลางกองทัพเอ็มบินยู
ประกอบด้วยนักบวชร่ายคำสาปแช่งวิเศษ

        คนเถื่อนมีพลังการโจมตีสูงสุด แต่พวกคำสาปจะทำให้ลดความสามารถของพวกเขาลงครึ่งหนึ่ง
ถ้าเขาพลาดช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้น กองทัพทะเลทรายจะถูกกำจัดโดยกองทัพเอ็มบินยู

        วีดเพียงคนเดียวไม่สามารถจัดการกับกองทัพเอ็มบินยูที่ฟื้นคืนชีพได้อย่างต่อเนื่อง

        "ท่านซาฮับ, นี่คือโอกาสของท่าน"

        "ถูกต้อง!"

        วีดนำซาฮับตรงเข้าหาอิกริก ซาฮับพุ่งตรงเข้าใส่ราวลูกศร

        "ดาบประกายแสง!"

        วิหคแสงปรากฏขึ้นจากดาบของซาฮับและโจมตีเหล่าอัศวินที่กำลังป้องกันอิกริก
ซาฮับกระโจนขึ้นเหนือร่างของพวกมันก่อนที่จะลงสัมผัสพื้นที่ตรงหน้าอิกริก

        "ศัตรูของเอเวน!"

        เยี่ยม,ดูเหมือนเขาจะเป็นคนดีอย่างแท้จริง แต่เขายังคงฝันถึงความสัมพันธ์กับ
หญิงที่แต่งงานแล้ว.

        "เจ้าเป็นใครวะ?"

        อิกริกยกไม้เท้าขึ้นป้องกันการโจมตี

        "เจ้าทะมัดทะแมงดี, เจ้ามนุษย์"

        "ข้าจะฆ่าแก"

        "ข้าเป็นตัวแทนความประสงค์ของเทพเจ้า เช่นนั้นมนุษย์จะสามารถฆ่าข้าได้อย่างไร?"

        มีมานาแพร่กระจายทุกครั้งที่ดาบและไม้เท้าปะทะกัน เขาเป็นบาทหลวงแต่เขายังมีพลังการต่อสู้ระยะ
ประชิดอย่างมีนัยยะ ลูกนัยน์ตาในหัวกะโหลกที่เชื่อมอยู่กับไม้เท้ามีความสามารถในการดูดซึมพลังของศัตรู

        "เจ้าแข็งแก่งพอที่จะได้เห็นทักษะของวิหารเอ็มบินยู!"

        "หุบปาก ข้าได้รับค่าชีวิตของเอเวน ดังนั้นข้าจะหยุดเจ้า"

        แน่นอน, มันไม่ยุติธรรมตั้งแต่ราชินีเอเวนประสูติและสิ้นพระชนม์ในอีกหลายปีข้างหน้า
ซาฮับนั้นสูงวัย แต่วีดไม่สามารถเดาอายุของเขาได้อีกต่อไป

        อย่างไรก็ตาม, วีดสามารถเล็งตัวเขาไปยังคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมได้

        "เคล็ดมีดแกะสลัก!"

        วีดก็ลงมือด้วยขณะที่ซาฮับจู่โจมเข้าหาอิกริก เขากวาดล้างพวกยักษ์สัมฤทธิ์และนักบวช
ที่ได้รับผลจากปฐพีสะเทือน ส่วนพวกที่เหลือโดนหยุดยั้งด้วยกองทหารของนักรบ-2
ดังนั้นจึ้งไม่มีใครเข้าไปยุ่งกับการกระทำของวีดได้

        "เหล่านักบวชจะทำให้บรรลุตามประสงค์ของเอ็มบินยู!"

        พวกยักษ์สัมฤทธิ์อาละวาดด้วยการโจมตีระยะไกล แต่วีดรู้ว่าจุดอ่อนของพวกมันคือการโจมตีระยะประชิด!
เขาไม่สนใจคำสาปที่กำลังโจมตีเขาและโจมตีเพียงพวกมอนสเตอร์และยักษ์สัมฤทธิ์

        วีดได้ร่วมมือกับซาฮับในการต่อสู้กับอิกริก

        ด้วยรูปลักษณ์ขนาดใหญ่ของคนเถื่อนทำให้ดูเหมือนว่ามีคนกำลังข่มขู่คนอ่อนแอแต่ความเป็นจริงนั้นต่างออกไป

        อิกริกโจมตีเขาด้วยไม้เท้าที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย นอกจากนั้น, โมตุลกำลังใกล้เข้ามา
พร้อมด้วยกองทหารของเขา

        ซาฮับป้องกันไม้เท้าขณะที่วีดสับเข้าที่ร่างของอิกริก

        -อิกริกถูกฟัน

        พลังงานที่ถูกบรรจุในดาบไฟบรรลัยกัลป์ทำให้เกิดการเสียหายด้วยไฟ 16%

        คำสาปแห่งพลังชีพ 87% ถูกเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูจากความเสียหาย

        - โจมตีจุดตาย(critical hit)!

        เทพปีศาจได้ใช้ภูมิต้านทานต่อความสับสน

        การโจมตีจุดตายได้ใช้จู่โจมอย่างต่อเนื่อง

        อิกริกยุ่งมากในการจัดการกับซาฮับที่เขาจะปล่อยจุดอ่อนไว้ให้วีดบ่อยๆ การทำลายของวีดเป็นของจริง
แต่ร่างกายของอิกริกได้รวมพรทุกชนิดไว้ในร่าง! นักบวชจะอ่อนแอเมื่อต่อสู้ระยะประชิดแต่กับบาทหลวง
ของวิหารเอ็มบินยูไม่อาจตายได้ง่ายๆ

        มันเป็นการต่อสู้กับเวลา พวกยักษ์สัมฤทธิ์และมอนสเตอร์มารวมตัวกันเหมือนพวกอีแร้งแต่
เขาไม่ได้สนใจพวกมันหรือปัดพวกมันไปข้างๆและสนใจไปที่อิกริก โมตุลและกองกำลังของเขา
ถูกกันไว้ด้วยนักรบ-2 ถ้าพวกเขาไม่จัดการกับอิกริกในเวลานี้แล้วความสามารถพิเศษของอิกริก
จะทำการคืนชีพกองกำลังอย่างต่อเนื่อง

        "แวน ฮอร์ก, โทริ!"

        "ข้ากำลังรออยู่, นายท่าน"

        "ข้าอยากรู้อยากเห็นมากๆว่าเลือดที่ชุ่มฉ่ำความชั่วร้ายจะมีรสชาติเช่นไร!"

        แวน ฮอร์ก และโทริเข้าร่วมการต่อสู้อย่างรวดเร็ว คนจำนวนมากถูกใช้เพื่อเอาชนะแค่คนๆเดียว!
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

7 ความคิดเห็น:

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...