วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

เล่ม 37 ตอนที่ 3: การอุบัติแห่งนักรบผู้ต่ำช้า แปลโดย PATTY


เล่ม 37 ตอนที่ 3: การอุบัติแห่งนักรบผู้ต่ำช้า แปลโดย Patty


 ปลดแนวล้อมศัตรู หากทำไม่ได้ให้ถอยกลับมาทันที!”

 จงสู้ต่อไปซะ พวกเราจะสละชีวิตของเราทีนี่ แด่องค์เหนือหัว!”

ไม่ ไม่ ข้าไม่อยากตาย ข้าไม่อยากให้พวกปีศาจบ้านั่นมันมารุมทึ้งกัดกินร่างกายข้า ข้าจะต้องหนีเอาชีวิตรอด
!”
 เจ้าพวกที่ไปเข้าร่วมกับวิหารเอ็มบินยูพวกมันเป็นได้แค่เศษสวะอันไร้ซึ่งศักดิ์ศรี จงสังหารพวกมันซะ พวกเราจะทำการทดสอบทัณฑ์ทรมานแบบใหม่ทั้ง 27 วิธี กับพวกสาวกเอ็มบินยู ทำให้พวกมันต้องเจ็บปวดทรมานและสำนึกถึงสิ่งที่มันทำกับเราเอาไว้ แล้วจับพวกมันพวกมันมาทำเนื้อตากแห้งแล้วเอาไปฝังเป็นปุ๋ยให้รากมะม่วงซะ(สรุปใครแม่งชั่วกว่ากันวะเนี่ย โหดเกิ๊น)

 พวกมันคือปีศาจร้าย ปีศาจจากขุมนรกที่พรากชีวิตสหายของข้าไป โอ้ ข้าช่างโศกเศร้านักเมื่อมันเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น บางทีศีรษะของเพื่อนข้าตอนนี้คงถูกมันย่อยไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าบ้านั่นยังไม่ได้คืนเงินที่เคยยืมข้าไปเลย(สรุปเอ็งคิดถึงเพื่อนหรือเอ็งงกวะ) แน่นอนว่าตัวข้าเองก็อาจเอาชีวิตรอดไปจากสถานทีบ้านี่ไม่ได้เช่นกัน แต่ว่า...

เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ได้กำลังทำการเข้าโจมตีและทำลายล้างกำแพงแห่งป้อมปราการดัลมอร์จนย่อยยับ เหล่ากองกำลังป้องกันปราการนั้นกำลังต่อสู้กับพวกสาวกคลั่งและมอนสเตอร์ทั้งหลายอยู่ ทว่าเหล่าผู้บุกรุกได้ทะลักทะลายกันเข้ามาโจมตีป้อมปราการอย่างมากมายมหาศาลจนเกินไป

 พระเจ้า ไยพระองค์จึงได้ประทานความฉิบหายให้พวกเราถึงเพียงนี้กัน พวกเราทำอันใดผิดไปหรือ

เหล่าพลทหารต่างติดอยู่ในความเศร้าโศก มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยสำหรับเหล่าราชอาณาจักรในการที่จะป้องกันการบุกรุกจากทั้งมอนสเตอร์และปีศาจจากขุมนรก และแล้วกระทั่งเหล่าชนชั้นสู้ของทั้งอาณาจักรมาปอนและเบย์เนอร์เองต่างก็ไม่สามารถที่จะยืนหยัดได้อีกต่อไป

และในขณะนั้นเอง วีด ผู้มาพร้อมกับดาบผลาญโลกาก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาก้าวย่างออกมาอย่างเชื่องช้าผ่านทางเดินที่เชื่อมต่อกับอาคารต่างๆในป้อมปราการ

ตึง! ตึง! ตึง

เมื่อเขาก้าวเดินไปนั้น ผืนพสุธาก็พลันส่งเสียงอันสะเทือนเลื่อนลั่นในทุกย่างก้าวที่เขาเหยียบย่ำลง ป้อมปราการทางการทหารนั้นไม่ได้มีทางเดินที่กว้างขวางมากนัก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่ามันช่างคับแคบนักเมื่อกำลังเดินไป (คิดว่าน่าจะเป็นเหมือนทางเดินตามช่องตึก ที่ 2 ข้างเป็นกำแพง)

ในความเป็นจริงแล้ว มันจะเร็วกว่าหากเขากระโดดข้ามไปบนอากาศเลย ทว่ามันก็ไม่มีเหตุอะไรให้จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบไปนัก และมันก็จะทำให้เขาดูไม่เท่ห์ด้วย ความภาคภูมิใจของลูกผู้ชายคือการรักษาความเท่ห์ไว้ในทุกอิริยาบถ (เอ่อ ปกติเอ็งเท่ห์หรอวะ แบบหลอกซื้อนมสตรอว์เบอร์รี่จากเด็กอนุบาลนี่อะนะ)

ปารีณา ( เอ๋)

เหล่าพลทหารต่างพากันรู้สึกแตกตื่นตกใจและขวัญหนีดีฝ่อ ณ วินาทีที่พวกเขาได้พบเข้ากับวีด ด้วยรูปร่างอันใหญ่โตที่มาพร้อมกับกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างอันราวกับว่ามันเกิดมาเพื่อการต่อสู้อย่างแท้จริง หนำซ้ำยังมีดาบผลาญโลกา ที่ตัวดาบเปล่งรัศมีแห่งเปลวเพลิงทำลายล้างออกมาตลอดเวลามันจึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะหวาดกลัวจนตัวสั่น มันช่างเปล่งประกายเจิดจ้า แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอันเกิดจากประตูนรกและเมฆฝนทั้งตั้งเค้าไปทั่วผืนแผนดิน

 เจ้ายักษ์หัวล้านนั่นมันอะไรกันน่ะ?”(ปากดีเหลือเกินนะพวกเอ็ง เดี่ยวชะตาขาดกันหมด)

 “…….”

ด้วยการใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายเป็นเวลานาน ความร้อนจากทะเลทรายได้แผดเผาผมบนหัวเขาไปจนสิ้น ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมศีรษะของเขาจึงได้ล้านเลี่ยนอย่างนี้ ด้วยร่างนี้เขามีใบหน้าอันหล่อเหลารวมถึงรูปร่างอันน่าหลงใหล ทว่าการที่ขาดองค์ประกอบสำคัญอย่างผมบนหัวไปทำให้เขาช่างดูป่าเถื่อน เขาคือบุรุษผู้เปล่งรัศมีอันแสนชั่วร้าย!

 ฉันเห็นของกินเยอะแยะไปหมดเลยล่ะ” (ตอนก่อนๆเคยเปรียบเทียบไว้ว่าวีดมองพวกพลทหารว่าเป็นได้แค่ข้าวสวยร้อนๆที่เขาจะกินเมื่อไหร่ก็ได้)

เขาได้พุ่งเข้าไปยังสมรภูมิรบแล้วทว่าเขากลับค่อยๆเยื้องย่างไปอย่างช้าๆหลังจากที่ไปถึง ใกล้ๆกันนั้น แมงมุมยักษ์จากวิหารเอ็มบินยูได้ดักจับเหล่ามนุษย์ไว้ด้วยใยแมงมุมของมันและจับพวกเขากินเป็นอาหาร

วีดค่อยๆก้าวย่างเข้าไปหามัน และจับขาข้างหนึ่งของมันเอาไว้

คว๊ากกก!(เสียงแมงมุมอะ ว่าแต่มันเป็นยังไงนะ)

 ไปให้พ้นซะ! ท่อนขาอันแสนหนึบหนับของข้าจะทำให้
เจ้าไม่สามารถล่าได้อีกเป็นอาทิตย์เลย(Sticky legs แปลว่าไรดีอะ แต่ประเด็นคือเอ็งกล้าขู่บุรุษผู้โฉดชั่วทีสุดในทวีปเวอร์เซลล์เรอะบักแมงมุม)

มันไม่สำคัญว่าเจ้าแมงมุมยักษ์นี่จะดิ้นรนหรือพูดจาข่มขู่ให้ตายยังไง! สุดท้ายเจ้าแมงมุมน้อยผู้น่าสงสาร(?)ก็ได้ถูกขว้างออกไปนับร้อยเมตร และลอยเข้าไปปะทะกับเหล่าสมาชิกกองทัพทั้งหลังของวิหารเอ็มบินยู

เขาใช้แค่เพียงพละกำลังของตัวเองล้วนๆ โดยปราศจากการใช้ทักษะใดๆ (โหดจัด)

 อ๊ะ! ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้

เหล่าทหารเผ่ามนุษย์ที่ติดอยู่ในใยแมงมุมต่างกุลีกุจอกันขอบคุณวีดเป็นการใหญ่ วีดนั้นหาได้สนใจเหล่าคำขอบคุณของทหารเหล่านั้นและก้าวเดินไปยังกำแพง ด้วยความสัตย์จริง ตัวเขานั้นไม่ได้สนใจเลยว่าทหารเหล่านั้นจะเป็นจะตายอย่างไร เขาแค่ไม่อยากเสียเวลารอให้เจ้าแมงมุมนั่นกินเจ้าพวกนี้จนเสร็จ เขาจึงจัดการมันไปก่อนเลย

เหล่าทหารถอนกำลังกลับเข้าไปยังป้อมปราการดัลมอร์ พวกเขาไม่กล้าที่จะโจมตีเข้าใส่วีด เมื่อชีวิตของพรรคพวกของพวกเขากำลังตกอยู่ในกำมือวีดและอาจถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ พวกเขาหลายคนมีวิจารณญาณที่ดีและขวัญกำลังใจต่ำต่างก็พากันเลือกที่จะหลบหนีไปแทนที่จะทำการต่อสู้

 เหล่ามอนสเตอร์จากวิหารเอ็มบินยูทั้งหลาย พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้กล้าเข้ามาที่นี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากข้า! ที่แย่ที่สุดคือ อ้าย อี พวกนั้นที่ไม่ได้ให้ข้าแม้แต่ค่าประการณ์หรือสตางค์ซักแดงเดียว!”


วีดจับพวกมอนสเตอร์มาและขว้างพวกมันออกไป

 ย๊ากกกกก จงกำจัดเหล่าศัตรูให้สิ้นซากซะ!”


ขวัญกำลังใจของเหล่ากองกำลังป้องกันปราการต่างก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อพวกเขาได้เห็นภาพเหล่านั้น จะอย่างไรก็ตาม มันยังมีอีกนับสิบๆสถานที่ ที่กำแพงได้พังทลายลงมาแล้ว ดังนั้นศัตรูจึงได้พากันหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งเหล่าพลธนูแห่งวิหารเอ็มบินยูยังได้คว้าคันธนูของพวกมันขึ้นมาแล้วเล็งยิงมาที่เหล่ากองกำลังป้องการปราการ

แม้ว่าจะด้วยความพยายามของวีด มันก็ยังคงมีมนุษย์จำนวนมหาศาลที่ตกตายลงอยู่ดี

 ถึงเวลาที่ฉันต้องใช้พลังตัวเองให้เป็นประโยชน์แล้วล่ะ

วีดกระโดดข้ามกองเศษซากอาคารต่างๆและปีนข้ามกำแพงไป ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของเขามันจึงทำให้ศัตรูสังเกตเห็นได้ทันทีเมื่อเขาปีนข้ามไป

 ถอยออกไปซะ!”

วีดไม่พูดพล่ำทำเพลงใดๆ พลันคว้าจับมอนสเตอร์บนกำแพงแล้วขว้างมันเข้าใส่กองทัพเอ็มบินยู (เอ็งคิดว่าเอ็งเล่นดอจบอลหรอ สำหรับคนที่งงว่าดอจบอลคืออะไร ให้นึกถึงฉากใน HxH ที่สู้กับเรเซอร์อะ ถถถ)

ฟิ้ววว ตู้มมมมม!

 พลังทำลายล้างอะไรกันนั่น...

 เจ้านั่นขว้างมอนสเตอร์ยักษ์อย่างกับลูกบอลเลย!.

เหล่านักบวชแห่งวิหารเอ็มบินยูและเหล่าผู้ถูกล้างสมองทั้งหลายต่างพากันขนลุกชันกับสิ่งที่เห็น

 ย๊ากกกกกกก!”

นี่คือทักษะ เสียงสะท้อนแห่งศิลา(Rock Echo) ที่ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสมรภูมิรบ! วีดได้ใช้คลื่นเสียงอันทรงพลังเพื่อท้าทายต่อเหล่าวิหารเอ็มบินยู

 ช่างน่าสมเพชนักที่พวกเจ้าหาเรื่องต่อตีกับเหล่ามนุษย์อันแสนอ่อนแอภายในป้อมปราการนี่! เข้ามาสู้กับข้านี่ ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รู้ว่าพลังอำนาจอันเหนือล้ำแท้จริงเป็นเช่นไร!” (แปลคำพูดให้เข้ากับอิริยาบถตอนคุยกับพวกศัตรูนิสนึง เพราะพวกนี้มันเป็นคนสมัยยุคกลาง ใช้คำพูดประมาณนี้ดูเท่ห์ดี)

การระเบิดครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่ลำแสงอันสุกสกาวปะทุออกมา เสียงคำรามที่ใช้ล่อลวงศัตรู  ด้วยร่างกายอันใหญ่โตเทอะทะของบาบาเรี่ยน ดังนั้นเขาจึงมีกล่องเสียงที่ใหญ่ตามไปด้วย นั่นทำให้เสียงคำรามของเขาดังกึกก้องราวฟ้าคำรณ

 พวกเราโดนเวทย์มนต์อันชั่วร้ายเข้าให้แล้ว

เหล่าพลธนูบนกำแพงได้ฟื้นคืนจิตวิญญาณที่แท้จริงของพวกเขาในทันที เวทย์ล้างสมองของวิหารเอ็มบินยูถูกทำลายลงจนสิ้นฤทธิ์ด้วยเสียงคำรามอันกึกก้องนั้นของวีด


 พวกเราจะร่วมสู้ไปกับท่านด้วย

เหล่าพลธนูได้ประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมมือกับวีดออกมา และก่อนทีการต่อสู้ที่แท้จริงจะอุบัติขึ้น วีดก็ได้เริ่มต้นร้องเพลงของเขา

 [หมู่เมฆดำพัดผ่านโลดแล่น
เหล่าตัวละครอันอ่อนแอทั้งหลายต่างพากันพยายามดำรงไว้ซึ่งสันติภาพได้พังทลายลง
ข้ามีชีวิตอยู่ในความมืดมิดอนันตกาลใต้พสุธา]

เหล่าผู้ชมได้โผล่เข้าไปในหัวของเขา(ฮะ?) ในอดีต วีดได้ร้องแต่เพลงที่มีเนื้อร้องที่แปลกประหลาด แต่ทว่าถึงแม้จะอย่างนั้น มันก็ให้ความรู้สึกเสมือนดั่งเป็นมหากาพย์การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่

กองทัพเอ็มบินยูนั้นกำลังกรีธาทัพเข้ามาภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมิด ได้ให้บรรยากาศอันเข้ากันอย่างพอดิบพอดีกับเพลงดังกล่าว

 [ฉันไม่อาจซักผ้าโดยปราศจากความรู้สึกอันแค้นเคืองได้เลย
ทั้งพื้นและวอลเปเปอร์ที่เปียกชื้น
ทั้งกลิ่นอับอันน่าคลื่นไส้!
ฉันนั้นเกลียดวันที่ฝนพร่างพรำเหนือสิ่งอื่นใด
แหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาพร้อมหมอกอันหนาทึบในห้องนอน
มันคือฝันร้ายหากต้องมากำจัดเชื้อราในกลางฤดูร้อน
เร่าร้อน เร่าร้อน ราคาอันบัดซบของเครื่องทำความร้อน]

นี่แหละคือชื่อเพลง!

วีดได้ร้องเพลงอันเต็มไปด้วยอารมณ์อันโกรธแค้นอย่างสุดแทน มันคือความอึดอัดคับข้องใจของการใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องใต้ดิน มันมีเพียงแค่ฟูกโทรมๆหลังเดียวเท่านั้น พร้อมด้วยทีวีหลังเต่าเครื่องเล็กๆและตู้พลาสติกเก่าๆ เขารำลึกถึงครั้งเมื่อเขาได้รับความทุกทรมานจากการที่ต้องพยายามหาเงินมาจ่ายค่าเช่ารายเดือนให้กับเจ้าของบ้าน

คนอื่นๆทั่วไปมักกำลังทะเลาะเบาะแว้งกันเองกับเพื่อนอยู่หรือไม่ก็กำลังฟังเสียงบ่นอันจู้จี้จุกจิกของมารดาตน ทว่าวีดกลับต้องคอยหักห้ามปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้พูดสิ่งใดออกไปไม่อย่างนั้นก็คงเสี่ยงที่จะต้องถูกเจ้าของบ้านไล่ออกจากที่พักไป ในตอนนั้นเขายังไม่ได้ทำความฝันของเขาที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองได้สำเร็จ ห้องใต้ดินอันสงบสุขที่ได้สร้างความหวาดกลัวอันลึกล้ำในเวลาเดียวกัน

 ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!”

แผนแต่เดิมของวีดนั้นคือการที่รออยู่บนกำแพงต่อไปอีกหน่อย เหล่ากองกำลังป้องกันป้อมปราการดัลมอร์นั้นยังคงมีชีวิตอยู่ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรีบออกไปนัก

ทั้งยังมีแวนฮอว์กที่นำทัพเหล่าอันเดดอยู่ ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นเลยสำหรับวีดที่จะต้องเข้าไปร่วมในสมรภูมิรบ แต่ทว่าด้วยโทสะอันคุกรุ่นของเขาได้ทำให้เขาเปลี่ยนแผนเดิม (WTF ร้องเพลงแล้วอารมณ์ขึ้นหรา ฮึกเหิมๆๆ 5555)
วีดวิ่งตะบึงออกมาจากภายในป้อมปราการ เขาได้ฟาดฟันดาบผลาญโลกาในมือของเขาท่ามกลางกองทัพวิหารเอ็มบินยู

อ๊ากกกก!

 ฉิบหายแล้ว หนีเร็วเข้า!”

เหล่าสาวกคลั่งกว่า 100 คนมอดไหม้เป็นเผ้าถ่ายภายใต้การโจมตีครั้งเดียว มันเป็นเช่นเดียวกับเหล่ามอนสเตอร์ของวิหารเอ็มบินยูที่รายล้อมเขาอยู่ พวกมันทั้งหมดที่อยู่ในระยะโจมตีของวีด ล้วนมอดไหม้และตายลงไปในที่สุด

-แบล็คไนท์สไตรค์! (แปลว่าการพุ่งชนของอัศวินดำ มันไม่เท่ห์อะเนาะ)
ทำการโจมตีไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเข้าใส่ศัตรูที่อยู่โดยรอบ






ตาย ตาย! ตายซะไอพวกเวรรร!”


ทักษะการโจมตีวงกว้างอย่างต่อเนื่องได้ประสบผลสำเร็จ!

วีดนั้นถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลเพลิงอันร้อนแรง การจ่ายค่าเช่ารายเดือนเพื่อเช่าบ้านก็ไม่ได้เป็นอะไรที่แย่นัก

แม้จะอย่างนั้น บางครั้งเขาก็เฝ้ามองอย่างอิจฉาขณะที่เหล่าสมาชิกครอบครัวของเจ้าของบ้านกำลังกินหมูสามชั้นกันอยู่ในสวนของบ้าน เขานั้นใช้ชีวิตอยู่มากับน้องสาวผู้มีหัวใจอันแสนบริสุทธิ์(???????? น้องเอ็งมันก็เอ็งร่างผู้หญิงนั่นแหละโว้ย คิดละก็สงสารเซเฟอร์น้อยผู้น่าสงสาร) ที่อยากจะได้กินเนื้ออร่อยๆ ทว่าพวกเขาก็สามารถทำได้เพียงแต่นั่งมองคนอื่นกำลังกินกันไป ราวกับเป็นขอทานเท่านั้น (รันทดเกิ๊น)

อีกทั้งเขายังรู้สึกตะขิดตะขวงใจเวลาที่หม้อไอน้ำเสีย หรือประตูเปิดไม่ออก มันเป็นห้องที่ต้องการการซ่อมแซมเป็นการใหญ่(หม้อไอน้ำ คือ ระบบทำความร้อนที่คนเกาหลีใช้ในบ้าน มันจะอยู่ใต้พื้นบ้าน เอาไว้กระจายความร้อน ทำให้บ้านอุ่นขึ้น)

เขามีความทรงจำอันนับไม่ถ้วนขณะที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การกดขี่ของเจ้าของบ้าน เขาจำทฤษฏีปีธากอรัสในวิชาคณิตในวัยเด็กไม่ได้แล้ว ทว่า เขายังจดจำชื่อของเจ้าของบ้านของเขา ณ ตอนนั้นได้อย่างไม่มีวันลืม

 พยุหะลัญจกรเพลิง!”

แม้เผ่าพันธุ์ของเขาจะเปลี่ยนแปลงไป ทว่าเขาก็ยังคงใช้งานทักษะต่างๆได้ดังเดิม

ฟ้าว ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รอบๆบริเวณ ขณะที่วีดได้วิ่งเข้าไปยังใจกลางกองทัพเอ็มบินยูเพียงลำพัง ด้วยการโจมตีนั้นกองทัพเอ็มบินยูได้สูญเสียไพร่พลไปทั้งสิ้นราว 3,000-4,000 ชีวิตในคราวเดียว

ในทันใดนั้น เสียงคร่ำครวญอย่างอ่อนระโหยโรยแรงของเหล่าทหาร ณ ป้อมปราการก็ดังแว่วมาให้ได้ยิน เนื่องด้วยสารธารอันเต็มไปด้วยแร่เงินบริสุทธิ์ที่คอยขวางกั้นไม่ให้เหล่ามอนสเตอร์ข้ามมา ได้ถูกถมด้วยเศษหินและดินโคลนจนมันสูญเสียความสามารถในการสกัดกั้นสิ่งชั่วร้ายไปแล้ว นั่นจึงทำให้การคืบคลานเข้ามาของเหล่ามอนสเตอร์ได้เริ่มต้นขึ้น

ปีศาจจากขุมนรกกว่า 100 ตน กระพือปีกร่อนลงมาและเล็งเป้าหมายไปที่วีด พวกมันมีสติปัญญาสูงและค่อนข้างจะเหลี่ยมจัด มันจึงเล็งในชั่วขณะที่วีดกำลังวอกแวกอยู่นั้นทำการตะครุบเข้าใส่วีดในทันที

 เหล่าผู้บาปหนาอันแสนโง่เขลาที่ไม่ได้ติดตามและศรัทธาในองค์เทพเอ็มบินยูจะต้องพินาศสิ้น!”

กองกำลังของกองทัพเอ็มบินยูนั้นหาได้กลัวความตายไม่ และยังคงคืบคลานไปเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง เหล่านักบวชและจอมเวทย์ทั้งหลายได้ทำการข้ามแม่น้ำไปเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายใหญ่สุดของพวกเขาคือการจัดการกับวีดให้ได้

 สังหารเจ้านั่นซะ!”

 ข้าล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของมันแล้ว พวกเราจักต้องกำจัดมันไปให้สิ้นซาก เพื่อสนองต่อพระบัญชาแห่งองค์เทพเอ็มบินยู (จริงๆแล้ว Embinyu’s aspirations จะแปลว่า ความปรารถนาของเอ็มบินยู แต่ผู้แปล แปลให้เข้ากับอิริยาบถจึงคิดว่าแบบนี้น่าจะเหมาะกว่า)

 เหล่าผู้ศรัทธาในองค์เทพเอ็มบินยูทั้งหลายเอ๋ย บุรุษผู้บาปหนาผู้นั้นคือเป้าหมายของพวกเราตามพระประสงค์ของพระองค์”

กองทัพเอ็มบินยูทั้งหมดได้มุ่งเป้ามายังวีด ภารกิจแต่เดิมทีของพวกมันคือการบุกทำลายป้อมปราการ ทว่าในตอนนี้การโจมตีระยะไกลทั้งหมดได้หันเหการโจมตีสาดเทเข้าใส่วีดจนหมดสิ้น

 ลิ่มระเบิด(Wedge Blast ลิ่มคือไอที่เป็นแท่งๆ ที่เอาไว้ตอก อกแวมไพร์อะ) โจมตี!”

 ประคำแห่งความหนาวเหน็บ!”(Beads of Cold)

เวทย์โจมตีทั้งหลายจากวิหารเอ็มบินยูได้พร่างพรมเข้าใส่วีดที่อยู่บนสนามรบ
 อัญเชิญดาบ การป้องกันสัมบูรณ์ หลับตาอดทน!” (Summon Another Sword, Absolute Defense, Close Eyes Tightly)

วีดได้ใช้ทักษะการป้องกันที่เขามีออกไป!

ในร่างโนดูลวีดได้เรียนทักษะหลับตาอดทนมาจากภารกิจจิปาถะอันหนึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยังมีดาบบินที่คอยทำลายเวทย์โจมตีที่ลอยมาในอากาศ
อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณเวทย์โจมตีอันมากมายมหาศาลทำให้มันมีจำนวนมากที่ดาบบินป้องกันเอาไว้ไม่หมดและมันได้ถาโถมเข้าปะทะกับร่างอันมหึมาของวีด เขาถูกระเบิดปูพรมเข้าใส่จากเวทย์โจมตีนับร้อย

วีดได้เตรียมพร้อมสำหรับรับแรงกระแทกและความเจ็บปวด พร้อมกับหลับตาลงและทนรับมัน

 ฮะ?”

วีดถูกกระแทกปลิวไปจากแรงระเบิดอันมหาศาล ทว่านั่นกลับไม่ได้ทำให้เขาล้มลง เขาได้เตรียมพร้อมสำหรับรอรอบอาการบาดเจ็บ แต่ว่ามันน่าประหลาดใจมากที่เขารู้สึกว่ามันแค่คันๆเหมือนมดกดเท่านั้น!  พลังชีวิตของเขาลดไปไม่ถึง 1 ใน 10 เสียด้วยซ้ำ เหล่ามหาอุปโรหิต รวมถึงอิกริก และโมตุล ยังไม่ได้เข้าร่วมในการโจมตีเมื่อครู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

เลเวลและทักษะแต่ละชนิดของวีดนั้นมีระดับสูงจนน่าหวาดหวั่น ยากจะหาใครเทียบเคียงได้ และเขายังสามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงนี้ออกไปได้เมื่อเขาได้ทำการเปลี่ยนร่างเป็นบาบาเรี่ยน เหล่าบาบาเรี่ยนนั้นมีค่าความต้านทานเวทย์มนต์ที่สูงมาก ยิ่งไปกว่านั้น พลังชีวิตที่ลดลงจะถูกฟื้นฟูจนกลับมาเต็มเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว! ความสามารถในการฟื้นฟูของเขาอาจไม่เหมือนอย่างของโทรล ทว่านี่ก็เรียกได้ว่าน่ากลัวมากแล้ว

วีดได้ทำการคำนวณผลต่างๆที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว

 บาบาเรี่ยนนี่ช่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ฉันค่อยมีความมั่นใจขึ้นมาหน่อยแล้ว แน่นอนว่ามันจะเป็นอันตรายนิดหน่อยหากการโจมตีแบบนี้โจมตีซ้ำมาบ่อยๆเข้า….”

มอนสเตอร์บินทั้งหลายสัมผัสได้ว่าวีดนั้นอ่อนแอลงและทำการโฉบลงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว มันจะค่อนข้างยุ่งยากหากพลังชีวิตของเขาตกลงไปถึงครึ่งหลอด

หลังจากที่ฝุ่นควันที่ฟุ้งตลบค่อยๆสลายหายไป วีดได้ร้องคำรามออกมาอย่างสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 เจ้าพวกตัวโง่งมบัดซบ! นี่หรือคือฤทธานุภาพของเทพเอ็มบินยูที่พวกเจ้านับถือหนักหนา ทำได้เพียงเท่านี้รึ?” (เรื่องเรียกทรีนไว้ใจวีด)

วีดได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก่อนที่เวทย์โจมตีจะตกลงมาถูกเขาอีกครั้ง เขาพุ่งปะทะเข้าไปยังสถานที่ที่พวกจอมเวทย์และนักบวชกำลังร่ายมนต์อยู่
มีจอมเวทย์และนักบวชจำนวนมหาศาลที่อยู่ภายในกองทัพเอ็มบินยู โดยปกติแล้วจอมเวทย์ที่สังกัดอยู่ในแต่ละอาณาจักรจะมีจำนวนที่ค่อนข้างจำกัดมาก ทว่า วิหารเอ็มบินยูกลับมีจอมเวทย์จำนวนมากที่สามารถใช้พลังความศรัทธาของเหล่าสาวกทดแทนพลังศักดิ์สิทธิ์

บางครั้งบางครา เหล่านักบวชหรือผู้ไต่สวนที่สังหารทหารมนุษย์ได้ในการต่อสู้ ก็จะได้รับการเลื่อนขั้น

 ค่านิยมของเจ้าพวกนี้นี่มัน…”

วีดรีบวิ่งไปอย่างเร่งร้อน ด้วยกล้ามเนื้อและร่างอันมหึมาของเขานั่นก็เพียงพอแล้วที่จะฉีกกระชากมอนสเตอร์ให้เป็นชิ้นๆและแสดงให้เห็นถึงพละกำลังอันมหาศาลของเขา ทว่า ขนาดร่างกาจของเขาก็ยังถือเป็นจุดด้วยของเขาอีกด้วย

ถึงแม้ว่าการร่ายเวทย์เพื่อโจมตีครั้งถัดไปจะต้องใช้เวลาสักพักในการร่ายออกไป ทว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำการหลบเลี่ยงฝนธนูนับร้อยที่ยิงมาใส่เขา เขาจึงกระแทกร่างตนพุ่งออกด้านข้างที่การโจมตีเบาบางกว่า

จับมันให้ได้ เพื่อเกียรติแห่งองค์เทพเอ็มบินยู!”

 จงจับมันมาให้ได้ แล้วจับมันมาถลกหนังทั้งเป็น และจับมันโยนใส่น้ำมันอันเดือนพล่าน

เหล่าอัศวินทมิฬต่างพากันกระโจมเข้าใส่เขาอย่างหนักหน่วง วีดจึงตอบโต้พวกมันด้วยหมัดหรือไม่ก็ฟาดฟันพวกมันดาบผลาญโลกาในมือ

 ข้าขอท้าเจ้าให้เข้ามาสู้กับข้า เจ้าขยะแห่งวิหารเอ็มบินยู!” (ท้าใครฟะ)

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เหล่าผู้ชมทั้งหลายต่างพากันรู้สึกว่ามีความเร่าร้อนเดือดระอุอยู่ในหน้าอกตนขณะที่ได้รับชมการผจญภัยของวีด

ในขณะเดียวกัน พวกเขานั้นกำลังมีความอยู่กับการผจญภัยอันแสนสนุกสนานและน่าตื่นเต้นเร้าใจ ทว่าในตอนนี้พวกเขาต่างก็พากันเฝ้าภาวนาให้วีดประสบความสำเร็จในภารกิจอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะด้วยผลลัพธ์จากภารกิจในครั้งนี้จะเป็นตัวตัดสินชะตะกรรมของทั้งโลก

ต่อให้เป็นเหล่าผู้ที่ไม่ใช้แฟนคลับของวีดเองก็ไม่ได้อยากให้พวกวิหารเอ็มบินยูเติบโตไปมากกว่านี้ และยิ่งไปกว่านั้น เหล่าผู้เล่นต่างก็มีความประทับใจอันใหญ่หลวงต่อวีดผู้ที่ทำการย้อนอดีตกลับไปเพื่อที่จะหยุดยั้งเหล่าวิหารเอ็มบินยูผู้ชั่วร้าย ที่กำลังทำให้ทั่วทั้งทวีปเกิดวิกฤติอยู่ในขณะนี้

เหล่าสถานีที่มีอิทธิพลสูงอย่าง KMC Media และ CTS Media ต่างก็ตั้งใจที่จะปลุกปั้นให้วีดนั้นกลายเป็นวีรบุรุษผู้หยุดยั้งกลียุค

 ความสงบสุขของทวีปเวอร์เซลล์แห่งนี้นั้นกำลังตกอยู่ในอันตรายจากน้ำมือของเหล่าวิหารเอ็มบินยู จนถึงตอนนี้ วีดได้ปรากฏตัวออกมาเสมอ และคอยแก้ปัญหาในทุกๆครั้งที่ทวีปเวอร์เซลล์ตกอยู่ในอันตราย เขาได้แสดงให้เห็นถึงหัวใจอันยิ่งใหญ่ที่ใฝ่หาความยุติธรรมของเขา”(เอิ่ม นี่พูดถึงวีดคนเดียวกันแน่นะ?)

 ไม่เพียงแค่นั้น วีดยังได้มีส่วนช่วยในการพัฒนาทวีปเวอร์เซลล์บางส่วนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขายังได้มีส่วนช่วยสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าของสายอาชีพการผลิตและศิลปะอย่างมหาศาล”

การออกอากาศในครั้งนี้มีอิทธิพลอย่างมหาศาล ขนาดที่ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างชัดเจนของเหล่าเด็กๆของครอบครัวที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดอยู่

 ผมอยากจะโตไปเป็นนักผจญภัยที่ยิ่งใหญ่เหมือนอย่างวีดฮะ!”

 หนูอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหมือนอย่างศิลปิน และได้แต่งงานกับออร์คที่แข็งแกร่งอย่าคาริชวิ”(มนุษย์กับออร์ค คิดดีไม่ได้เล๊ยยย)

ความนิยมของวีดนั้นเป็นดั่งพระเอกในเทพนิยาย เขาคือมนุษย์ผู้ปราบปรามเหล่ามอนสเตอร์ที่ชั่วร้ายไปพร้อมกับมังกรน้ำแข็งและเหล่าไวเวิร์น

ทั้งยังมีเจ้าเหลืองที่กำลังออกมาช่วยผู้คนในทุ่งกว้าง โกลมินิผู้หยิบยื่นเงินทองมาให้ และมีนางเอกผู้หิวโหยที่กำลังนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยว(ว็อททททท นี่มันเทพนิยายอะไรฟะ 555) สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่โบราณคร่ำครึ ทว่ามันก็เป็นที่นิยมและได้รับการพัฒนาเรื่อยมา ยังไงซะ เหล่าผู้ชมก็ไม่ได้อยากเห็นวีดพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเหล่าวิหารเอ็มบินยู

 “วันนี้หัวใจฉันเป็นกังวลมากซะจนฉันกินไก่ทอดไม่ลงเลยอะ”

 “ลุ้นซะจนไม่มีอารมณ์จะกินพิซซ่าเลยว้อยยย”

เรตติ้งของการออกอากาศพุ่งสูงจนขึ้นเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง สถานีทั้งหลายต่างก็ให้ความสนใจทั้งหมดของพวกเขาไปกับวีด และ ล้มเลิกความสนใจที่มีต่อสงครามปกป้องทวีปของกิลด์เฮอร์มีสในทวีปกลาง ในความรู้สึกของพวกเขา วีดได้รับการยอมรับให้เป็นวีรบุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของทวีปเวอร์เซลล์แห่งนี้

และในตอนนี้วีดได้มีส่วนร่วมอยู่ในภารกิจที่ตัวเขาเองมีโอกาสสูงมากที่จะล้มเหลว

 อ๊ะ ทำไมเขาถึงได้ใจร้อนรีบออกไปเสี่ยงอันตรายข้างนอกกำแพงขนาดนั้นกัน?”

 เขากวาดล้างทุกอย่างที่ขวางทางจนเกลี้ยง โคตรเท่ห์อะ

เหล่าผู้ชมต่างรู้สึกไม่สบายใจ

อนาคตของโลกใบนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสองทางขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการผจญภัยในครั้งนี้ ว่าจะอออกมาเป็นว่า กิลด์เฮอร์มีสสามารถรวบรวมทวีปให้เป็นหนึ่งเดียวได้ หรือไม่ ทั้งทวีปก็ถูกทำลายจนย่อยยับด้วยน้ำมือของวิหารเอ็มบินยู (รู้จักทางเลือกที่ 3 เปล่า เทพวีดอะรู้จักมั้ย เทพวีดดด)

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เหล่าศัตรูได้ทำการห้อมล้อมวีดเอาไว้

 เข้ามาเลยไอ้กร๊วก ข้าจะขี้พวกเจ้าทุกตัวให้เละ!”

วีดได้จัดการศัตรูนับร้อยที่เข้าทั้งหมดมาในเวลาเดียวกัน

 ไอ้พวกสวะเอ็มบินยู พวกแกมีดีแค่นี้เองหรือ? พวกแกยังห่างไกลจากการจะทำลายทั้งทวีปนัก!”

วีดได้ทำการยั่วยุจุดที่อ่อนไหวของศัตรู ทำให้เหล่าอัศวินทมิฬ สาวกคลั่ง และมอนสเตอร์ทั้งหลาย พากันเข้ามารุมทึ้งเขา ทั้งยังมีเวทย์โจมตีทั้งหลายแหล่ที่ระเบิดตูมตามอยู่รอบๆตัวเขา

-พลังชีวิตของท่านกำลังลดต่ำลง
พลังชีวิตปัจจุบัน คงเหลือ 68.7%

มันไม่ได้นับว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่มากมายอะไรนักทว่าในตอนนี้เขาถูกห้อมล้อมไว้โดยศัตรูจำนวนมหาศาล เขาได้การต่อสู้ท่ามกลางดงศัตรูอย่างนี้ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว นี่คือความมุทะลุของวีรบุรุษผู้มีใจใฝ่ความยุติธรรมที่กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องโลก! (ถามอีกที นี่ใช่วีดหรอ?)

และยิ่งวีดเล่นสนุก(?)ยืดเยื้อกับศัตรูได้นานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นโอกาสที่ดีให้เหล่าทหารแห่งป้อมปราการดัลมอร์เตรียมการรับมือกับผู้บุกรุกที่เยื้องกรายเข้ามาได้มากเท่านั้น  เหล่าปีศาจร้ายที่กำลังออกมาจากประตูนรกและเหล่าวิหารเอ็มบินยูกำลังมุ่งความสนใจของพวกมันไปทีวีด นั่นส่งผลให้ความกดดันที่ป้อมปราการจะได้รับน้อยลงไปอย่างมาก

วีดคว้าศีรษะของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วจับมันโยนขึ้นไปในอากาศ

ตู้มมมมม !

สายอสุนีบาตฟาดเข้าใส่มอนสเตอร์ตนนั้นแทนเขา เขาจับเหล่าศัตรูโยนเข้าใส่เวทย์มนต์และลูกธนูที่ถูกยิงเข้าใส่เขา ในทุกครั้งที่มีโอกาส บางครั้งเขาก็จับมอนสเตอร์มาขว้างใส่เหล่าอัศวินทมิฬและร้องคำรามออกมา

 อ่อนแอ ช่างอ่อนแอเกินกว่าจะมาเป็นเหยื่อของข้า เข้ามาให้หมดซะไอ้พวกสวะ!”

ในตอนนี้เขาคือมนุษย์ที่น่าหวาดกลัวที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ เขาสามารถต่อกรกับกองทัพแห่งวิหารเอ็มบินยูด้วยกำลังของตนเองเพียงลำพัง
ทว่าในสมองของเขากำลังขบคิดคำนวณวิถีทางทุกอย่างที่เป็นไปได้อย่างมั่นคงและเยือกเย็น

 เวทย์โจมตีเริ่มมีการชะงักลังเลไปนิดหน่อยแล้ว พวกมันกำลังเตรียมการใหญ่บางอย่างอยู่แน่

ด้วยไอซ์โบลท์(Ice Bolt)ธรรมดาๆ มันเป็นการยากที่จะสร้างรอยขีดข่วนใดๆบนร่างกายของเผ่าบาบาเรี่ยน เขาได้สังเกตเห็นถึงเหล่าจอมเวทย์แห่งวิหารเอ็มบินยูที่กำลังเตรียมการร่ายเวทย์โจมตีอันทรงพลังอยู่ และเหล่านักบวชได้ใช้วิธีการพลีชีพสังเวยชีวิตเพื่อร่ายคำสาปเข้าใส่วีด

พลังในการต่อสู้ของเหล่าอัศวินและเหล่านักรบนั้นทรงพลังอย่างมาก ทว่าพวกเขามีความต้านทานต่อคำสาปต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และรวมถึงเวทย์ดีบัฟของเหล่าชาแมน วอร์ล็อค และพ่อมด ฯลฯ หลังจากโดนดีบัฟพวกนั้นเข้าความสามารถในการต่อสู้อันทรงพลังของพวกเขาก็จะถูกทำให้อ่อนแอลง พลังป้องกันอันสูงลิบก็จะถูกเจาะทำลาย และการเคลื่อนไหวร่างกายของพวกเขาก็จะกลายเป็นช้าลงแถมหนักหน่วยไปทุกอิริยาบถ

เหล่านักบวชแห่งวิหารเอ็มบิยูผู้สามารถใช้เวทย์คำสาปขั้นสูงได้คือศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเหล่านักรบ มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดันเจี้ยนที่มีมอนสเตอร์ประเภทนักบวชมืดทั้งหลายจึงไม่เป็นที่นิยมในการใช้เป็นพื้นที่ล่า หากมีคนเข้าไปล่าพวกมัน ทั้งกลุ่มจะได้พบกับความตายโดยที่ไม่ทันได้รับรู้สึกตัวตนของนักบวชพวกนั้นด้วยซ้ำไป นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงไม่สามารถจะบอกได้ว่าฝั่งไหนเก่งกว่ากันในการต่อสู้ระหว่างนักรบและนักบวช

 เวลาผ่านไปสักพักแล้วสินตั้งแต่การโจมตีครั้งสุดท้ายนั่น มันคงใกล้ถึงเวลาแล้วล่ะมั้ง

วีดทำการเคลื่อนไหวภายในหมู่กองทัพเอ็มบินยูอันมหาศาล วีดได้เหยียบย่ำ บดขยี้ และข้างพวกมันออกไป! เขาได้กำจัดศัตรูไปนับสิบในแต่ละก้าวทีเขาเดินไป(โหดเกิ๊น ถ้ากลับไปเวลาเดิมแล้วเอ็งโหดขนาดนี้ คนอื่นคงเลิกเล่นหมดอะ)

โชคดีที่ตัวเขามีขนาดใหญ่เขาจึงสามารถไล่กระทืบผ่านพวกมันไปได้อย่างง่ายดาย

-เป็นมนุษย์ที่ดูดีจริงๆ

-ข้าล่ะอยากลิ้มลองรสชาติของมันนัก เฮะ เฮะ เฮะ

-หัวมันเป็นของข้า ข้าจะขย้ำหัวมันและกัดกินสมองมันซะ

เหล่าปีศาจจากขุมนรกร้องคำรามออกมาขณะที่พวกมันกำลังโฉบร่อนลงมา แม้ว่าจะด้วยสถานการณ์อันแสนวุ่นวายเช่นนี้ วีดก็ไม่ได้สูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเขาไป ในขณะนั้นได้มีปีศาจกว่า 1,000 ตนที่ผ่านออกมาจากประตูนรกและเข้าสู่โลกใบนี้แล้ว

 พวกเราไม่อาจปล่อยให้เจ้าบ้านั่นมาขัดขวางเหล่านักบวชได้

 การพิพากษาแห่งคาร์ล”(Karl’s Judgment)

เหล่าอัศวินทมิฬต่างพากันตาลีตาเหลือก กระเสือกกระสนพยายามที่จะหยุดยั้งการบุกทะลวงอันรวดเร็วของวีดให้ได้ ทว่าเหล่าวิหารเอ็มบินยูนั้นถูกกระจายกำลังกันอยู่รอบๆ จึงไม่มีใครสามารถที่จะหยุดยั้งวีดเอาไว้ได้

พวกมันมีทั้งกองกำลังที่กำลงปิดล้อมป้อมปราการดัลมอร์อยู่และทัพหลังของพวกมันที่กำลังต่อสู้อยู่กับกองทัพอันเดดที่นำโดยแวนฮอว์ค วีดนั้นถูกกองกำลังศัตรูอันมหาศาลรายล้อมอยู่ ทว่าพวกมันก็คือพวกที่ถูกวีดกวาดล้างไปเมื่อสักพักที่ผ่านมานี้ด้วยการบุกทะลวงอย่างรวดเร็วของเขา

 ฉันจำเป็นที่จะต้องเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด ความเสียหายบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมาก็คงปล่อยผ่านไม่ต้องไปสนใจได้ล่ะนะ

วีดนั้นไม่ได้สนใจพลังชีวิตที่กำลังลดลงเลยเพื่อที่เขาจะได้บุกทะลายผ่านศัตรูเข้าไปอย่างเหี้ยมหาญ กล้ามเนื้ออันใหญ่โตของเขาถูกโจมตีเข้าใส่ด้วยลูกธนู เวทย์มนต์โจมตีต่างๆ และหอกจากเหล่าอัศวิน ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกโจมตีเข้ามาในหลายๆตำแหน่ง

-พลังชีวิตในปัจจุบันของท่าน คงเหลือ 51.3%
นี่คือผลลัพธ์จากความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หน้าต่างข้อความได้แสดงการแจ้งเตือนขึ้นมา นี่คือวิกฤติอันใหญ่หลวงเมื่อพิจารณารวมเหล่าปีศาจจากขุมนรกเข้าไป ทว่าเหล่านักบวชอาวุโส(Senior Priests)และจอมเวทย์แห่งวิหารเอ็มบินยูยังคงอยู่ห่างออกไปอีกราว 1 กิโลเมตร

ร่างกายของวีดขยายขนาดใหญ่ขึ้น นั่นทำให้วีดเคลื่อนที่ได้ไวขึ้นเช่นกัน ทว่าเหล่าศัตรูนับหมื่นได้กำลังขัดขวางเขาเอาไว้อยู่ ทั้งเวทย์คำสาป มอนสเตอร์หลากเผ่าพันธุ์ และเหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ต่างถูกระดมพลมาเพื่อโจมตีและหยุดยั้งวีด

ด้วยเหตุนั้นวีดจึงสามารถที่จะเห็นว่าเหล่านักและจอมเวทย์ทั้งหลายกำลังใกล้จะร่ายมหาเวทย์จนเสร็จสิ้นแล้ว

 ตอนนี้แหละ ถล่มพสุธา!” (Earth Shaking อันนี้จริงๆแปลว่าแผ่นดินไหว)
วีดได้กระทืบเท้าขวาเของเขาข้าใส่พื้นดินอย่างหนักหน่วง!

นี่คือทักษะจำเพาะของเผ่าบาบาเรี่ยน

-ทักษะถล่มพสุธาได้ถูกใช้งาน
พลังชีวิตในปัจจุบันคงเหลือ 87.46%
ในการใช้งานทักษะค่าความอดทน 7.1% จะถูกเผลาผลาญไป
ท่านสามารถใช้พลังอันเกินขีดจำกัดได้ชั่วคราว ค่าความแข็งแกร่งสูงสุดของท่านลดลง 10% เป็นเวลา 15 นาที

ครึกๆๆ ตู้มๆๆ!

วีดได้ทำการกระทืบเท้าลงไปยังพื้นดิน และได้เกิดเสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้น ขณะที่ผืนพสุธาแยกออกจากกัน จากนั้นแรงสั่นสะเทือนได้แผ่นขยายออกไปตามพื้นดิน ขณะเดียวกันพื้นดินก็ได้แหลกเหลว และเคลื่อนไปดั่งสายน้ำ

เหล่าอัศวินทมิฬได้ล้มลงและถูกคลื่นพสุธากวาดพัดไปมาในขณะที่มอนสเตอร์ทั้งหลายต่างกลิ้งไปมารอบๆหลังจากที่พวกมันเสียสมดุลไป เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ที่สูงกว่า 20 เมตรต่างก็โงนเงนไปมาและบดขยี้เหล่ะพรรคพวกตนไปจำนวนมหาศาล(ตรงนี้ Eng แปลมาว่า Crushed numerous soldiers หรือก็คือบดขยี้เหล่าทหารจำนวนมหาศาล แต่ว่าวีดมันโดดมากลางดงพวกวิหารเอ็มบินยู และไม่น่าจะมีทหารอยู่ตรงนี้ เลยคิดว่า Eng อาจจะเขียนมาผิด)

นี่คือทักษะที่ขยายเพิ่มความแข็งแกร่งไปจนถึงขีดสุดที่ได้รับมาจากการใช้ประติมากรรมทำลายล้าง! นอกจากวีดที่เป็นเพียงผู้เดียวที่ยังยืนอยู่แล้ว ทุกสิ่งรวมถึงพื้นที่รอบๆตัวเขาต่างก็กลายเป็นโกลาหลยุ่งเหยิงไปจนสิ้น

 อั่กกก เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แค่กๆ

 พลังทำลายล้างเช่นนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์เทพเอ็มบินยู(พวกเอ็งนี่เป็นเอามากแล้วแหละ)

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ที่เสียชีวิตจำกัดอยู่แค่เหล่าสาวกคลั่งเท่านั้น มันคือทักษะอันพิเศษเฉพาะดังนั้นจึงไม่สามารถบ่นว่าอะไรได้เกี่ยวกับเอฟเฟคท์รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น (สกิลมันโกงอะทำไงได้) แรงสั่นสะเทือนค่อยๆจางหายไปตามระยะทางที่เพิ่มขึ้น(ยิ่งไกลออกไปแรงสั่นสะเทือนยิ่งน้อย)

ทว่าเหล่าจอมเวทย์และนักบวชในระยะต่างล้มลงหรือไม่ก็กระโดดขึ้นบนอากาศเพื่อหลบเลี่ยงแรงสั่นสะเทือนจากพื้นดิน มันจึงเป็นธรรมดาที่เวทย์ที่กำลังถูกเตรียมการร่ายอยู่จะถูกขัดจังหวะจนต้องยกเลิกไป

ดวงตาของวีดทอประกายเจิดจ้าขณะที่เขาฉวยโอกาสอันดีนี้เอาไว้ได้

 ตอนนี้แหละ

เขาวิ่งทะยานไปยังเหล่าศัตรูที่ล้มลงอยู่ ณ ใจกลางกองทัพเอ็มบินยู มันคือสถานที่ซึ่งเหล่าจอมเวทย์และนักบวชอันแสนสำคัญรวมตัวกันอยู่! เหล่าอัศวินทมิฬต่างพากันเร่งรีบลุกขึ้นจากพื้น

 มันเป็นไปไม่ได้หรอก เจ้าคนเถื่อน!”

เหล่าอัศวินไร้หนทางในการที่จะสกัดขัดกวางวีดเอาไว้ได้ พวกมันถือว่าเป็นกลุ่มมหาอำนาจในช่วงเลเวล 300-400 ทว่าพวกมันกลับถูกหมัดเพียงหมัดเดียวของวัดซัดจนร่วงลงไป วีดได้เจาะทะลวงเป็นเส้นตรงเข้าไปยังเหล่านักบวชอาวุโส(Senior Priest)แห่งวิหารเอ็มบินยู

 ความโกลาหลแห่งวายุทมิฬ!”(Riot of Black Wind)

มหาอุปโรหิตโมตุลส์ได้ร่ายเวทย์โจมตีเข้าใส่วีดอย่างรวดเร็ว

ฝูงอีกาที่ปรากฏตัวออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยได้เข้าโอบล้อมวีดเอาไว้ มันเป็นการตั้งใจที่จะทำให้ยากแก่วีด ในการจะโจมตีเหล่าจอมเวทย์และนักบวช วีดมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากฝูงกานับพันที่รายล้อมเขาอยู่

 นี่คงไม่ใช่เวลามาเลือกวิธีการอยู่แล้วล่ะ,  อาทิตย์อัสดง!” (End of the Day แปลว่าสิ้นสุดวัน หรือสิ้นสุดช่วงกลางวันก็ได้ เลยแปลเป็นอาทิตย์อัสดงที่หมายถึงตอนที่หมดช่วงกลางวันหรือตอนพระอาทิตย์ตกนั่นเอง)

วีดได้ใช้มานาทั้งหมดที่เขาสงวนเอาไว้ไปกับทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของนักรบสุริยะ ตำแหน่งที่เขาอยู่ในตอนนี้นั้น อยู่ลึกเข้าไปด้านในค่ายป้องกันของพวกวิหารเอ็มบินยู ดังนั้นเขาสามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้แม้ว่าเขาจะไม่เห็นตัวของเหล่านักบวชอาวุโสก็ตาม

 ดีไวน์โพรเท็คชั่น!”(Divine Protection การป้องกันศักดิ์สิทธิ์)

เหล่านักบวชอาวุโสได้ร่ายใช้เวทย์มนต์ป้องกันออกมาเพื่อเข้าต่อต้านเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่ปะทุเข้าใส่ ทว่าพวกที่อยู่ใกล้กับเปลวเพลิงมากเกินไปได้ถูกแผดเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน

ทั้งยังมีเหล่าอัศวินและจอมเวทย์ผู้โชคร้ายทั้งหลายที่อยู่ใกล้กับวีดก็ได้สูญสลายหายไปอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ(เมื่อเห็นเธอเดินจากป๊าย) เขาได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลแก่ภายในศูนย์กลางของกองทัพเอ็มบินยู ทว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอยู่อย่างสบายใจนัก

เหล่านักบวช จอมเวทย์ และพวกมอนสเตอร์แห่งกองทัพเอ็มบินยูที่ล้มลงไป ได้ถูกรวบรวมเข้าไว้ด้วยกันแล้ว ทั้งยังมีเหล่าปีศาจจากขุมนรกที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าผู้ที่ใช้โอกาสนี้ในการพุ่งเข้ามาประชิดวีดมากขึ้น

 เจ้าหนูสกปรกได้เข้ามาติดจั่นแล้ว!”

 มันเข้ามาถึงที่นี่ได้ต้องขอบคุณพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์เทพเอ็มบินยู เหล่าผู้เคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อของเจ้าคนเถื่อนผู้นี้เอ๋ย จงยินดีเสียเถิด ในวันนี้งานของพวกเราคือการสังหารตัวอุปสรรคใหญ่ที่คอยขวางทางพวกเราอยู่!”

โมตุลส์และอิกริกต่างพากันกระตุ้นขวัญกำลังใจของกองกำลังเอ็มบินยู
วีดได้ใช้มานาของเขาไปจนหมดสิ้น และถูกปล่อยทิ้งไว้ให้อยู่ในกลางกองทัพเอ็มบินยูเพียงลำพัง
โปรดติดตามตอนต่อไป…. (ตัดจบแบบละครไทย)
ผู้แปล : Patty
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

ปล.สารจากผู้แปล สวัสดีทุกท่านตอนนี้ก็พบกับผมอีกเช่นเคย วันนี้ก็มีข่าวร้าย เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นข่าวดีกันนะ
ข่าวร้ายก็คือ ผมจะไม่ได้แปลต่อในตอนที่ 4 แล้ว

ส่วนข่าวดีก็คือ มีผู้แปลท่านอื่นได้แปลตั้งแต่ตอนที่ 4-10 ของเล่ม 37 จบแล้วนั่นเอง ดังนั้น หากไม่มีอะไรผิดพลาด เราคงได้พบกันใหม่ในตอนที่ 1 หรือ 2 ของเล่มที่ 38

ปล.2 หากใครคิดถึงผลงานของผมแล้วอยากให้แปลนิยายเรื่องไหนในระหว่างที่รอจนถึงเล่ม 38 กึคอมเม้นท์มาบอกไว้ได้เลยนะครับ หากเรื่องน่าสนใจเดี๋ยวจะฝากแอดให้ช่วยมาประชาสัมพันธ์แล้วผมจะเปิดเพจแปลเรื่องนั้นๆให้ครับ ทั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้แปล ผมขอคนละ  1 คอมเม้นท์เหมือนเดิมนะครับ อิอิ


21 ความคิดเห็น:

  1. 4-10 ของเล่ม 37 how to read pl thank you

    ตอบลบ
  2. ชอบสำนวนการแปลมากครับ

    ตัดจบแบบละครไทย ผมนึกถึง นักแคสเกมส์ Bay Riffer เลย

    ตอบลบ
  3. แจ่มไปเลย ยังไงก็ได้ผมคนง่ายๆ ขอแค่มีให้อ่านต่อเนื่อง ขอคุณที่แปลให้ครับ

    ตอบลบ
  4. แปลได้สนุกมากครับ

    ตอบลบ
  5. ตอนนี้วงเล็บเยอะไปหน่อย(ผมเข้าใจว่าอยากแสดงความรู้สึก)
    ผมก็ไม่คิดจะห้ามเรื่องนี้ แต่บางอันลดได้ก็ลดครับ อย่างพวกลิ่มคืออะไร(ถ้าของยูนีคจริงๆค่อยอธิบายก็ได้)
    ขอบคุณสำหรับผลงานครับ แปลลื่นเหมือนเดิม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คุณน่าจะใช้คำที่ดีกว่านี้นะ เค้าแปลให้อ่าน

      ลบ
  6. ขอบคุณมากครับที่ช่วยแปลให้อ่านคร้าบ

    ตอบลบ
  7. โจ๊กหญ้าๆๆๆๆๆๆ😁😁😁

    ตอบลบ
  8. แปลสนุกจริง หวังว่าจะได้อ่านอีกนะครับ

    ตอบลบ
  9. ชอบการแปลช่วงนี้จริงๆ มี มุขเสริมตลอดเลย แขวะพวกการเมืองนิ ผมฮาเลย

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณมสกครับ แปลสนุกมาก

    ตอบลบ
  11. สำนวนแปลดีครับ อ่านสนุก มีหยอดมุก และอธิบายเพิ่มเติมในส่วนที่คิดว่าผู้อ่านจะงงด้วย ขอบคุณครับ อ่านแล้วอารมณ์ดีตามผู้แปลเลยครับ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...