เล่ม
37
ตอนที่ 10 : การรุกรานของจักรวรรดิฮาเว่น แปลโดย
Acid กรด
        "สงคราม..."
        "หุ หุ, วันนี้ก็มาถึง
        "คนพวกนั้นจะไม่หยุดจนกว่าพวกมันจะรวมทวีปได้ใช่ไหม?"
        ราชาโจรสไตเนอร์(The Bandit King Steiner)ที่ปกครองเขตเทือกเขาของจักรวรรดิฮาเว่น!
        เงาแห่งความตายซีซั่นแครบ(Seasoned Crab)!
        หัวขโมยแจ๊กสัน!
        พวกเขาได้ยินข่าวที่จักรวรรดิฮาเว่นกำลังเคลื่อนไหว
ผลกระทบของจักรวรรดิฮาเว่น
หมายถึงทุกการกระทำเล็กๆน้อยๆจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้เล่น
โดยเฉพาะบางสิ่งอย่างการเคลื่อนพลขนาดมหึมาเพื่อพิชิตแดนเหนือ
        "นี่เป็นโอกาสดีที่สุดของพวกโจร"
        สไตเนอร์ยิ้มขณะที่ถือขวานใหญ่
        มันค่อนข้างสนุกที่เป็นโจรซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา
พวกโจรในประเทศที่อ่อนแอไม่มีอันตรายเลย
        แต่ด้วยลักษณะของจักรวรรดิฮาเว่นหมายถึงชุมโจรขนาดใหญ่พอสมควร ขุมสมบัติ,
ไอเท็มเวทย์มนตร์ และทองคำ
อาจได้รับจากพวกเจ้าเมืองแห่งเมืองพาณิชย์ นอกจากนี้,
มันยังดีสำหรับการรับบุคลากรมนุษย์ด้วย
        เหล่าอัศวินที่มีความสามารถเร่ร่อนไปทั่วหลังจักรวรรดิฮาเว่นยึดครองอาณาจักรอื่นๆ
มันง่ายขึ้นที่จะรับสมัครพวกเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
พวกโจรต้อนรับเหล่าอัศวินเร่ร่อน
อย่างแข็งขันด้วยอุดมคติอย่างเช่นความยุติธรรม(นักการเมืองชัดๆ),
การรู้จักกันมาก่อน
หรือเรื่องจิตวิญญาณการต่อสู้
        พลเมืองธรรมดาก็ปฏิบัติตามพวกโจร
เหล่าชาวเมืองที่สูญเสียอาณาจักรของพวกเขา ที่อยู่ภายใต้สถานการณ์
รุนแรง หรือจำเป็นต้องหาอาหารให้ครอบครัว
ยินดีที่จะผ่านการฝึกฝนอันยากลำบากเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
        เก่งที่สุดและฉลาดที่สุดเพื่อปรับตัวเข้ากับเทือกเขาได้อย่างรวดเร็ว
พวกเขาได้รับรสชาติที่หอมหวาน
สำหรับการเพิ่มพลังของพวกเขา
        เหตุผลที่สไตเนอร์ตั้งถิ่นฐานในจักรวรรดิฮาเว่นก็เพราะมันมีความเสี่ยงมากกว่าและเขา
มีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่
วันหนึ่งเขาจะลงจากเขาและทำการปล้นเมือง
        เหล่าหน่วยจู่โจมและทหารของจักรวรรดิฮาเว่นไม่สามารถจับพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงครอบครอง
ภูเขาและป่าไม้
        มันเป็นคำกล่าวลอยๆ แต่เขาคือผู้ครองตำแหน่งราชาแห่งโจร!
        "มีมากมายเกินจะฆ่า"
        ซีซั่นแครบเร่ร่อนไปทั่วจักรวรรดิฮาเว่นและลอบสังหารพวกผู้เล่นและอัศวิน
ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต
แต่มันเป็นเรื่องง่ายที่จะป้ายความผิดไปที่วิหารเอ็มบินยู
        พวกมือสังหารที่ดีที่สุดในกิลด์เฮอร์มิสไม่สามารถเห็นร่องรอยของเขาและเขาจะรอคอยโอกาสเหมาะสม
ที่สุดเพื่อฆ่าพวกมัน
บางครั้งมีการลงความเห็นว่าพวกมือสังหารอยู่เบื้องหลังการฆ่า แต่จากนั้นเขาก็จะ
ตระเวนไปทั่วพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลของพวกผู้คุมและอัศวินแห่งความมืดของวิหารเอ็มบินยู
        ซีซั่นแครบรู้สึกกังวลใจในความคิดพิชิตแดนเหนือของจักรวรรดิฮาเว่น
        "ข้าควรจะสังหารในจักรวรรดิฮาเว่นต่อไปไหม? พวกเจ้าเมืองมันรวมตัวกันอาจจะไม่ยากเกินไปนัก"
        มีพวก NPC จำนวนมากท่ามกลางหมู่เจ้าเมือง
พวกเจ้าเมืองเก็บภาษีเพื่อเพิ่มจำนวนทหารของจักรวรรดิฮาเว่น
อัตราภาษีและนโยบายการปกครองขึ้นอยู่กับเจ้าเมือง
เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับซีซั่นแครบที่จะเจาะรูเล็กๆ
ผ่านเข้าไปในปราสาทเพื่อสังหารเจ้าเมือง
        "การฆ่าโดยไม่มีการขัดขืนมันไม่สนุก ข้าเดาว่าข้าต้องไปแดนเหนือ
คู่ต่อสู้ที่ท้าทายตัวจริง
พวกนั้นกำลังมุ่งหน้าไปแดนเหนือพร้อมกองทัพ"
        ซีซั่นแครบได้ตัดสินใจล่าผู้เล่นของกิลด์เฮอร์มิสที่กำลังมุ่งหน้าไปแดนเหนือ
        แจ๊กสันไม่ได้มีเป้าหมายหลากหลาย
เขาดื่มเบียร์ถูกๆในโรงเตี๊ยมที่ปราสาทอาเรน,
เมืองหลวงของจักรวรรดิฮาเว่นและรอคอย
        "โลกช่วยข้าแล้ว ในไม่ช้ามันจะเป็นเวลาให้ข้าได้ลงมือ"
        เขาไม่ต้องการให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในการต่อสู้หรือในการผจญภัยอันยิ่งใหญ่สำเร็จ
เขาค้นหาสิ่งเดียวเท่านั้น
        ตราพระราชลัญจกรแทนองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิฮาเว่น!
บาร์ดเรย์และราชองครักษ์ กำลังมุ่งหน้า
สู่แดนเหนือ
ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยรอบๆพระราชวังจักรพรรดิจะหละหลวมมากขึ้น
        เป้าหมายของแจ๊กสันแอบแฝงเข้าไปอย่างลับๆในพระราชวังจักรพรรดิเพื่อดวงตรา
        "บางทีข้าอาจขโมยมันได้ คริ คริ คริ"
                                                *************
        วีดไม่มีความสุขแม้หลังการทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว
        "มันเหมือนต้มข้าวให้หมากิน!"
        จักรวรรดิพัลลอสไม่ได้ทิ้งร่องรอยใหญ่ในหนังสือประวัติศาสตร์
ถ้าเขาเป็นพระที่ใช้ชีวิตแยกจาก
ทางโลกแล้ว เงินทองคงไม่เป็นเรื่องสำคัญ
        แต่การกระทำของเขาทำให้ช่วงเวลาสงครามสิ้นสุดลงก่อนกำหนด ดังนั้นสิ่งนี้เป็นการช่วย
ในการพัฒนาทวีปกลางในวันข้างหน้า
        "ฉันจะเอาหมามาต้มทำซุป"
        เขาได้ให้การช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่แก่กิลด์เฮอร์มิส
แต่พวกเขาไม่รู้สึกขอบคุณและตัดสินใจ
ไปพิชิตทางเหนือ
        วีดคิดว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่ยุติธรรม
        "แต่ฉันไม่สามารถหยุดภารกิจเพื่อกลับไปปกป้องอาณาจักอาร์เพน"
        ถ้าวีดกลับไปสู่ห้วงเวลาปรกติแล้วบาร์ดเรย์อาจฆ่าเขาได้ในตอนนี้
        ในอดีต, มันเป็นการต่อสู้ที่สูสีกันแต่พวกเขาถูกปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้รบกวน
สถานะความแตกต่าง
ของการออกล่าและการทำภารกิจมีขนาดใหญ่ขึ้นตั้งแต่เหมืองเมลเบิร์น
ถ้าเขาได้เจอกับบาร์ดเรย์แล้ว
เขาจำเป็นต้องสู้ร่วมกับผู้เล่นเลเวลสูงอื่นอีก3-4 คน
        เขาไม่สามารถจับคู่กับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างบาร์ดเรย์ในการต่อสู้ตัวต่อตัวได้ซึ่งมันจะดีกว่าในการเจอ
กับเขาด้วยผู้เล่นเลเวลสูงสักโหล
        ผู้เล่นทั่วไปคิดว่าวีดเป็นเทพสงครามไร้พ่าย เขามีอิทธิพลจริงๆในเวลานี้ แต่ว่าสิ่งนั้นจะจากไป
เมื่อเขากลับสู่ยุคเดิมของเขา
        ไม่นานมานี้, เขาได้สร้างและขายประติมากรรมในเมืองต่างๆเพื่อหารายได้
        "ฉันนี่โชคร้ายจริงๆบนโลกนี้
ความยากของภารกิจนี้เพียงพอที่จะคุกคามความสงบของทวีป และ
ฉันต้องมากลัวผู้เล่นที่เป็นศัตรูของฉันอีก"
        เขาต้องทำงานหนักอยู่เสมอ!
        ถึงกระนั้นก็ตาม, วีดก็ได้เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสุขเป็นครั้งคราวเสมอๆ
การซื้อเสื้อยืด5,000 วอน
แล้วคอเสื้อไม่ยืดเพิ่มหลังเอาไปซักหรือสนุกกับการล้างจานด้วยเครื่องล้าง
การใส่ถุงเท้าใหม่ หรือ
ความสนุกสนานกับการล้างห้องน้ำ
เป็นความทรงจำบางส่วนของความสุขในชีวิตของวีด เขายังอารมณ์ดี
อีกด้วยเมื่อกำลังกินจาจัมยองกับหัวผักกาด
        ชีวิตคงเป็นเรื่องยากที่จะอดทนหากไม่มีความสุขเล็กๆน้อยๆ
        "ยังไง, ฉันก็ไม่มีทางเลือกแต่ต้องทำภารกิจเคล็ดการแกะสลักลับสุดท้ายต่อไปจนกว่าจะจบ"
        เขาไม่สามารถกังวลเกี่ยวกับอาณาจักรอาร์เพนได้
ไม่มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่มหาศาลเพียงพอ
เพื่อปกป้องการรุกรานของจักรวรรดิฮาเว่นได้
        "แล้วการพูดที่ว่า, ฉันควรจะทำภารกิจล้มเหลว"
        เขามารู้สึกเสียใจเอาป่านนี้
ความสำเร็จของเขาในภารกิจยื่นโอกาสทองให้ให้กิลด์เฮอร์มิส
ในการรวมทวีป
        "อย่างไรก็ดี, แวน ฮอร์ก" 
        "กล่าวต่อไป, นายท่าน
        "เจ้าทำได้ดี ลูกน้องที่เชื่อถือได้และซื่อสัตย์"
        “…….”
        "เจ้าช่วยให้ได้ชัยในการศึกนี้ ขอบใจ"
        กระดูกซี่โครงของแวน ฮอร์กถึงกะสั่นไหว
ปรกติแล้ววีดจะคิดจับผิดเพื่อที่จะลงโทษพวกเขา
กลับตรงข้ามกับความกลัวของแวน ฮอร์ก,
วีดไม่มีเจตนาใดๆในการทำเช่นนั้น เขาตั้งใจว่า
มันจะเป็นสิ่งดี ถ้าแวน
ฮอร์กได้กลับไปยังห้วงเวลาปรกติ
        'ใช่ สิ, อาณาจักรอาร์เพนยังคงมีโอกาสถ้าฉันจบภารกิจนี้เร็วๆและกลับไป'
        แผนเพื่อปกป้องอาณาจักรให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
        "ท่านซาฮับ"
        "อืม.ม.ม.?"
        "ขอบคุณในความช่วยเหลือของท่าน"
        "ไม่เป็นไร แน่นอนว่าข้าต้องการบดขยี้ไอ้พวกวิหารเอ็มบินยู"
        ซาฮับ, ทาสตลอดชีวิตของวีดทำงานได้ดีก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในวัยชรา
        ‘โลกนี้ความสัมพันธ์ส่วนตัวโยงใยเกี่ยวข้องกัน ฉันจะทำให้พวกเขาทำงาน เมื่อฉันจับจุดอ่อน
ของพวกเขาได้'
        เขาได้สังหารเหล่าบาทหลวง ดังนั้นกองทัพเอ็มบินยูจึงอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ
รัศมีรอบๆ เหล่าสาวกคลั่ง
จางหายไปกระทั่งพวกเขาเป็นมนุษย์ปรกติธรรมดาและร่างกายของพวกมอนสเตอร์แตกกระจายไป
พวกบาเรท(Barate)ที่กำลังบินบนท้องฟ้าก็ร่วงกระทบสู่พื้นดิน
        มันไม่ยากสำหรับพวกนักรบทะเลทรายและทาสศึกในการบดขยี้พวกมัน
        "ว้าว, พวกเราชนะ!"
        "ฮูเร่ อาณาจักรเบเนอร์(Beiner Kingdom)!"
        สามารถได้ยินเสียงเชียอันกึกก้องจากป้อมปราการดัลมอร์ขณะที่พวกมอนสเตอร์ที่เข้ามาถูกบดขยี้
        สายฝนได้ชำระล้างและแสงสว่างปรากฏขึ้นบนแผนดินดัลมอร์
พวกซากศพของวิหารเอ็มบินยูหายไป
ขณะที่พวกเขาถูกชำระให้บริสุทธิ์ด้วยแสง
มีเพียงผืนแผ่นดินที่ถูกภัยพิบัติจากห่าฝนอุกกาบาตแสดง
ให้เห็นว่าการต่อสู้รุนแรงเพียงใด
        ลำแสงส่องลงมาจากฟ้าและชายชราเครายาวสีขาวคนหนึ่งปรากฏขึ้น
เขาถอนหายใจยาวขณะที่
เขาจ้องดูสนามรบก่อนจะหันกลับไปทางวีด
        "จักรพรรดิผู้สร้างจักรวรรดิบนกองเลือดและซากศพ, ขอแสดงความยินดีในชัยชนะ
เขาต่อสู้
อย่างยากลำบาก"
        “ท่านคือนักบุญอาเฮลลุน(Ahellun)งั้นหรือ?"
        "คนที่รู้จักข้าเรียกข้าด้วยชื่อนั้น"
        วีดเดาว่าชายชราคือนักบุญอาเฮลลุนจากลักษณะที่เขาปรากฏตัว
        ร่างของเขามีประกายรัศมีสีขาวที่ไหลซึมออกมาเต็มไปด้วยพลังอันศักดิ์สิทธิ์
แวน ฮอร์ก,
โทริ และอันเดท รู้สึกไม่ค่อยมีความสุข
ขณะที่พวกมันหลีกห่างจากเขาด้วย แต่พวกมนุษย์
รู้สึกได้ถึงรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์บาดแผลของพวกเขาได้รับการรักษาและพลังชีวิตก็เพิ่มพูน
        'เขาควรมาและช่วยให้เร็วกว่านี้สักหน่อย'
        วีดคิดเช่นนั้นกับเรื่องของอาเฮลลุน
        "องค์จักรพรรดิ, ใจของข้าคิดว่าเจ้าโหดร้ายเกินไป"
        "ยุคนี้ทำให้ข้าเป็นอย่างนี้"
        "ในยุคนี้, ดาบส่งเสียงได้ดังกว่าคำพูดและเจ้ารู้เพียงแค่การสังหารหรืออย่างไร"
        "ถ้าเจ้าลังเลในการฆ่าพวกอ่อนแอ แล้วผู้อื่นอีกนับพันจะต้องเจ็บปวดทรมาน"
        "เจ้าฆ่าและทำลายล้างมากเกินไป
วิญญาณบริสุทธิ์จะล่องลอยไปหาเหล่าเทพเจ้าของพวกเขา"
        "เหล่าทวยเทพได้ประทานให้พรข้า"
        การทะเลาะกันรุนแรงระหว่างอาเฮลลุนกับวีด
        ในช่วงเวลาสงครามนี้, การกระทำของวีดยอมรับว่ารุนแรงนัก
        ราชาแห่งคนเถื่อน, เพชฌฆาตที่โหดร้ายและเผด็จการ
มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ที่แข็งแกร่ง
เหยียบย่ำผู้อ่อนแอในยุคนี้
        ผู้ปกครองคนอื่นย่อมแสดงออกเพื่อหยุดพฤติกรรมของเขา ยิ่งกว่านั้น, ผู้ที่แอบรับใช้วิหารเอ็มบินยู
ไม่มีทางเลือก เขาฆ่าผู้แอบรับใช้ของวิหารเอ็มบินยูทีละคนๆ
        วีดไม่อยู่ภายใต้ภาพลวงตาว่าเขาเป็นคนดี
เขาไม่บ้าระห่ำพอที่จะเตรียมมีดไปหาใครบางคนแล้ว
พยายามเกลี้ยกล่อมพวกเขาด้วยคำพูด
มันจะไม่ดีสำหรับสุขภาพจิตของเขา
        นอกจากนี้, นี่คือบรรพบุรุษของทวีปที่เจริญรุ่งเรืองในอนาคต
เขารู้สึกเหมือนมันไม่ยุติธรรมที่
ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากใครบางคนในส่วนของผลลัพธ์
        "ข้าได้ช่วยเหลือโลกจากเงามืดของวิหารเอ็มบินยู
ข้าไม่ต้องการคนอ่อนแอที่ถูกพวกมันครอบงำ
ดังนั้นข้าจำเป็นต้องฆ่าพวกมันทั้งหมด"
        "พวกเราต้องปกป้องผู้อ่อนแอ"
        "แต่คนดีพวกนั้นจะตกอยู่ในความทุกข์ยากและความเจ็บปวด
ไม่ว่าพวกเขามีหัวใจบริสุทธิ์เพียงไร,
โศกนาฏกรรมไม่ควรเกิดขึ้น
ข้าชอบในการกวาดล้างปีศาจและตัดปมปัญหาแห่งภัยพิบัติ"
        "นี่ไง ทำไมเจ้าถึงถูกเรียกว่าเผด็จการ
อำนาจใหม่ที่จะถูกสร้างขึ้นบนแผ่นดินที่ชุ่มไปด้วยเลือด
ผู้คนนับล้านในอนาคตจะได้รับการไถ่บาปของพวกเขา
ดังนั้นข้าไม่สามารกล่าวได้ว่าการกระทำ
ของเจ้านั้นผิด
การเป็นเผด็จการในยุคนี้อาจเหมาะสม ข้าไม่โทษเจ้า"
        ตริ๊ง!
                -
คุณได้รับการยอมรับจากนักบุญอาเฮลลุน
                        ท่ามกลางความฉาวโฉ่ของท่าน ความภักดีของเหล่าทหารจะลดลง
        จากนั้นอาเฮลลุนก็รีบพูดเหมือนว่าเขาถูกเวลากดดัน
                "เจ้าต้องทำการหยุดยั้งพวกวิหารเอ็มบินยูให้ไว เจ้ากำลังจะยุ่งยาก"
        "ไง?"
        "องค์จักรพรรดิ, เจ้าต้องระวังว่าวิหารเอ็มบินยูมีแผนการขนาดใหญ่ที่จะทำลายโลกนี้"
        "แน่อยู่แล้ว"
        "พวกเขากำลังสร้างหอคอยปีนป่ายสู่เวหาเพื่อที่จะปลุกมังกรแห่งกลียุค…และ
เป้าหมายของพวกเขาจะสำเร็จภายในสิบวัน”
        "สิบวัน งั้นรึ?"
        ความฉาวโฉ่ของวีดแปลว่าเขาล่าช้าในการพบกับอาเฮลลุน โนดูลอาจมีเวลามากกว่า
แต่หอคอยเสียดฟ้า
ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์และแล้วเจ้ามังกรแห่งกลียุคก็จะตื่นขึ้น
        "ข้าคิดว่าอาจมีเวลาพอที่จะขัดขวางไอ้พวกวิหารเอ็มบินยู"
        "ในโลกนี้, พวกมันก่อให้เกิดโลหิตมากมายไหลนอง
พวกนักโทษถูกจับไปก่อสร้างหอคอยเสียดฟ้า
ให้เสร็จสมบูรณ์
และหลังจากความพ่ายแพ้ของวันนี้ พวกมันจะพยายามปลุกมังกรแห่งกลียุค
แม้มันจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม”
        "อืม.ม.ม"
        การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับภารกิจหลังการเอาชนะวิหารเอ็มบินยู
พลังอำนาจของพวกมัน
ในเวลานี้ถูกปิดกั้นอย่างมีนัยยะ
แน่นอนว่า วิหารเอ็มบินยูยังคงมีกองกำลังที่เหลืออยู่มหาศาล
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเร่งรีบลงมือ
        "มีเวลาไม่พอ รีบไปเดี๋ยวนี้
จักรพรรดิผู้เป็นเจ้าของขุมทรัพย์และดินแดนจำนวนมหาศาล, เจ้าจะละวาง
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเพื่อทำภารกิจอันสูงส่งให้เสร็จสมบูรณ์โดยทำการหยุดยั้งวิหารเอ็มบินยูหรือไม่?"
        ตริ๊ง
                -
กลุ่ม 7 คนกระโจนเข้าสู่ปากมังกร
                กองทัพเอ็มบินยูได้ถูกกำจัดโดยจักรพรรดิ ไม่น่าเชื่อว่ามันสำเร็จลงได้
        แต่อันตรายยังไม่จบสิ้น
                นิกายที่ 1 นำโดยบาทหลวง ฮอลเลอร์(Heuller) ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเริ่มต้นหรือยุติเมื่อไร
        เขาใช้เวลานานในการวางแผนสมคบคิดนี้
                ร่างกายของเขาไม่แสดงให้เห็นวัยของเขาและเขาสามารถเข้าถึงปัญญาอันลึกล้ำ,
        ความโลภ และความปรารถนาในการทำลาย
                หลังการฟังเรื่องเกี่ยวกับการพ่ายแพ้ของกองทัพเอ็มบินยู, เขาเร่งการก่อสร้างหอคอย
        เสียดฟ้าให้เร็วขึ้นเพื่อการปลุกมังกรแห่งความโกลาหล
                คุณต้องหยุดพวกมัน เพื่อทุกชีวิตที่อาศัยบนทวีป...
                ระดับความยาก : ภารกิจเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย
                เป้าหมาย : ทะลายหอคอยเสียดฟ้า
                สังหารมังกรแห่งกลียุค อัลซุลเล็ท (the Chaos Dragon Ausollet)
                ข้อกำหนดของภารกิจ : คุณต้องเอาตัวรอดอย่างปลอดในภารกิจ 
                ภารกิจจะล้มเหลวเมื่อคุณเสียชีวิต
                ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยน ถ้าคุณยอมแพ้หรือถูกล้างสมอง
                โปรด จดจำไว้!
                ถ้าคุณยอมรับภารกิจ, คุณสามารถเลือกผู้สนับสนุนได้ 5 คนรวมถึง NPC อาเฮลลุน
        เพื่อช่วยเหลือคุณ
                ทวีปจะได้รับความเสียหายอย่างมากถ้าภารกิจนี้ล้มเหลว
        "อืม.ม.ม, มังกรไม่ใช่ไก่ต้มนี่น่า"
        ในที่สุด, ภารกิจสุดท้ายของเขาเป็นการกำจัดมังกรแห่งกลียุค
เขารู้สึกเหมือนว่านิกายของ
วิหารเอ็มบินยูที่นำโดยฮอลเลอร์นั้นแข็งแกร่งกว่ามาก
และเขาจำเป็นต้องจบภารกิจด้วยคนเพียง 7
คน
ดังนั้นมันเป็นความยากระดับฆาตกรรมกันโดยแท้!
        ถึงอย่างนั้น, วีดไม่มีทางเลือกได้แต่ยอมรับภารกิจ
ความกล้าของเขาเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่
        "โลกกำลังเรียกหาข้า ข้าจะยอมรับภารกิจเพื่อเอาชนะวิหารเอ็มบินยูบนทวีปแห่งนี้"
                -
คุณได้ตอบรับภารกิจ
                        คุณสามารถเลือกอีกห้าคนเพื่อเริ่มเดินทางสำหรับภารกิจ
                        อย่างไรก็ตาม, พวกเขาต้องเข้าร่วมโดยสมัครใจ
        "เจ้ามีวิจารณญาณที่ดี เดินทางให้เร็วถ้าเจ้าอยากหยุดยั้งวิหารเอ็มบินยู"
        อาเฮลลุนกระตุ้นให้เขารีบเร่ง
        หากความความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของเขาไม่ดีแล้วอาจมีแค่สองคนเท่านั้นที่จะไปในภารกิจ
        'ฉันต้องการคนที่ฉันไว้ใจได้ โชคไม่ดีที่ฉันเลี้ยงลูกน้องไว้ไม่กี่คน'
        วีดเริ่มด้วย ซาฮับ
        "ท่านจะไปด้วยไหม?"
        "แน่นอน ข้าต้องการแก้แค้นให้เธอ"
                -
ซาฮับถูกรวมเป็นสมาชิกในภารกิจ
        การเจรจากับชายชราหนึ่งคนที่เต็มไปด้วยความพยาบาทเสร็จสิ้นแล้ว
และที่เหลือก็คือปัญหา
        เขามีผู้ใต้บังคับบัญชาให้เลือกมากมายแต่การสรรหาอีก 5 คน ค่อนข้างยาก เขาจำเป็นต้องปรับแต่ง
ปาร์ตี้ขณะที่ครุ่นคิดถึงคุณลักษณะที่แตกต่างกัน
        อาเฮลลุนเป็นนักบุญสามารถให้การรักษาขณะที่หัวขโมยหรือผู้วิเศษจะปลิวหายไปด้วยระเบิดเพียงครั้งเดียว
        "ปัญหาคือ...เลือกใครสักคนที่จะเป็นประโยชน์"
        สายตาของวีดจับจ้องไปยังมืออาชีพทั้งหลาย คนเหล่านั้นที่มีเลเวล 500-600 ดูเหมือนเปราะบาง
เกินไปราวกับเหมือนพวกเขาจะสิ้นใจได้ด้วยสัมผัสเดียว
        "นักรบ-1, นักรบ-2 และนักรบ-3!"
        "ขอรับ!"
        "มันคือเกียรติ" (ที่วีดมอบให้ คริ คริ)
        "ข้าจะไปทุกหนแห่งกับพระองค์"
                -
นักรบทะเลทราย นักรบ-1, นักรบ-2 และนักรบ-3 เข้าร่วมในภารกิจ
        และตอนนี้เหลืออีกเพียงคนเดียว!
        "เฮสไทเกอร์"
        "ข้ารู้ว่าท่านจะเรียกหาข้า นี่เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าจะทำให้สำเร็จสมบูรณ์
ข้าจะไปร่วมกับ
องค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่"
        "ข้าไม่ชอบมันเลย"
        "ข้ารู้ว่าท่านจะต้องพาข้าไป ท่านไม่ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับตัวข้า"
        "ได้ งั้นก็ดี, ข้าจะพาเจ้าไปด้วย
                -
เฮสไทเกอร์ได้เข้าร่วมในฐานะสมาชิกในภารกิจ
        วีดเกลียดเฮสไทเกอร์อยู่สองประการ
        เขาพบว่าความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเฮสไทเกอร์ชั่งขัดหูขัดตา
ขณะที่เขาทำใจกว้างสนับสนุน
ในระหว่างภารกิจการเติบโตของโนดูล,
เฮสไทเกอร์ดูแข็งแกร่งมากกว่าตัวเขาเอง
        เขามีพรสวรรค์ฝีมือเยี่ยมและทำด้วยความจริงใจ เฮสไทเกอร์ทำการออกล่ามอนสเตอร์และภารกิจกับวีด
เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นวีดจึงยอมรับความสามารถของเขา
        และเหตุผลประการที่สอง, วีดพบว่ามันน่าหมั่นใส้ที่เฮสไทเกอร์กินดีอยู่ดีอย่างไร
เขาช่วย
ขับไล่วิหารเอ็มบินยูและจะเป็นผู้นำจักรวรรดิพัลลอสในอนาคต
กระเพาะของวีดปั่นป่วนขึ้นมา
ขณะที่เขาคิดถึงการที่เฮสไทเกอร์ได้รับทองและขุมทรัพย์ทั้งหมด
        'ทีนี้ฉันจะได้ฆ่าเขาอย่างเหมาะสม'
        อาเฮลลุนผงกหัวที่รวบรวมสมาชิกได้อย่างนั้น
        "ไปกันเดี๋ยวนี้เลย ทุกคนที่จะปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ได้มารวมตัวกัน
วิหารเอ็มบินยูอยู่ในพื้นที่
ที่ความมืดครอบงำและเวทย์ศักดิ์สิทธิ์อาจไม่มีผล"
        อาเฮลลุนเคาะพื้นเบา ๆ ด้วยไม้เท้าสีขาว ทันใดนั้นประตูบานหนึ่งที่ประกอบขึ้นจากแสงถูกสร้างขึ้น
อาเฮลลุนเข้าไปก่อนตามหลังมาด้วยพวกประติมากรรมสลักชีพ,
ซาฮับ และเฮสไทเกอร์
        ในที่สุด, ถึงเวลาที่วีดต้องผ่านระตูเข้าไป
ถ้าเข้าสู่ประตูบานนี้แล้วบางทีการก่อตั้งและความมั่งคั่ง
ของจักรวรรดิพัลลอสจะหายไป
        หลังจากการทำภารกิจที่เกี่ยวพันกับวิหารเอ็มบินยูเสร็จสมบูรณ์, เป็นไปได้ว่าเขาจะถูกกีดกัน
ไม่ให้กลับมาที่นี่ 
        "นักรบ-4, นักรบ-5, นักรบ-6,
นักรบ-7, นักรบ-8, นักรบ-9,
นักรบ-10, อัลเวรัน, อัลเวเร็น"
        "ขอรับ, จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่"
        เหล่าประติมากรรมสักชีพของเขาคิดว่าวีดกำลังจะกล่าวอำลา
        "ข้าทำให้พวกเจ้าต่อสู้ฟันฝ่ามา
ดังนั้นข้าเตรียมสิ่งที่ดีสำหรับพวกเจ้า"
        “…….”
        "เมื่อจักรวรรดิถูกค้นพบ, ทุกๆคนควรดำรงตำแหน่งในสถานะที่สูงขึ้นและมีชีวิตอย่างอบอุ่น”
        “…….”
        เป็นการแสดงออกถึงความขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาแบ่งปัน!
        "ข้าจะไม่มีวันลืมความดีของพวกเจ้า"
        "ใช่, แน่นอน"
        "งั้นพวกเจ้าทุกคนเข้ามาใกล้ๆ"
        วีดเข้าไปพูดใกล้ๆกับพวกประติมากรรมสลักชีพ
มันมีกลิ่นของการสมรู้ร่วมคิดอันร้ายกาจ
        และเขาลูบหัวเจ้าอูฐแบ๊คเทรี่ยนก่อนที่จะเข้าสู่ประตู
        "อยู่ดีมีสุขในอนาคตนะ"
        "พรูด.ด.ด!"
        เจ้าอูฐแบ๊คเทรี่ยนมองออกไปในดินแดนที่ห่างไกล ท่าทางอันหยามเหยียด!
เจ้าอูฐแบ๊คเทรี่ยนกำลัง
ปลอบประโลมความเสียใจในแบบของมันเอง
        "เรื่องที่ผ่านมา, มันสาหัสสำหรับเจ้าจริงๆ
เจ้ายอดเยี่ยมพอๆกับเจ้าไวทรี"
        “…….”
        วีดหายไปอย่างภูมิใจผ่านประตูหลังจากกล่าวคำอำลา
        "จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!"
        "ถวายพระพรฝ่าบาท!"
        "พรืด.ด.ด.ด.!"
        และเสียงร่ำไห้ของผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถได้ยินจากด้านหลังของเขา
หยาดน้ำตาพร่างพรู
จากดวงตาของเจ้าอูฐแบ๊คเทรี่ยน
                                        ***************
        วีดมาถึงพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยทันทีที่เขาเดินผ่านประตู
        พื้นดินประกอบด้วยสีน้ำตาล, หินที่แตกร้าว
และรอยแยกลึกที่มีควันพุ่งออกมา บางอย่าง
        สีแดงพุ่งพรวดออกมาจากผิวโลกและมันกลายเป็นลาวา!
        "ข้าอยู่ที่ไหนเนี่ย?"
        วีดแอบอยู่ข้างๆหินก้อนหนึ่งและกรอกตาอย่างรวดเร็วเพื่อประเมินสถานการณ์
มีผนังหนาสูงสัก 12 เมตร
ในบางที่และกองปรักหักพังที่นั่นที่นี่
        มันเต็มไปด้วยพวกมอนสเตอร์และจะได้ยินเสียงแปลก ๆ
        ครู.รู..รู..รุก
        คู.วุก!
        และห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร, อาคารที่คล้ายกับป้อมปราการกำลังถูกสร้างขึ้นถัดจากกำแพงป้องกัน
ในใจกลางอาคาร,
รูปปั้นขนาดใหญ่ของเอ็มบินยูตั้งตระหง่าน
มีหอคอยที่หมุนวนรอบแล้วรอบเล่าเหมือน
งูที่ล่องลอยขึ้นสู่หมู่เมฆ
        วีดเคยเห็นวีดีโอของมันในอดีตเมื่อได้รับภารกิจเอ็มบินยู เจ้ามังกรแห่งกลียุคอาจ
กำลังนอนหลับที่ไหนสักแห่งเช่นกัน
        'มีหอคอยสังเกตการณ์มากมาย ฉันเห็นมาในวีดีโอเมื่อก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำตรงกลาง
ที่แพร่กระจายพิษออกมา
และฉันต้องระวังไม่ให้ถูกตรวจจับได้'
        เขาต้องเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้องเพื่อทำการวางแผน มันแตกต่างจากเมื่อนำกองทัพ
ทะเลทรายของเขากวาดล้างไปทั่วทวีป
นอกจากนี้, เวลาที่กำหนดในการทำภารกิจนั้นสั้นมาก
        เขาไม่เห็นสัญญาณของอาเฮลลุนและคนอื่นๆที่ผ่านประตูไปก่อนหน้าเขาทำให้สถานการณ์
เลวร้ายยิ่งขึ้น 
        "ไม่มีแม้แต่ขี้หมา ฉันคงถูกทิ้งแล้ว...เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม?"
        ความสามารถในการทำนายโชคร้ายของวีดนั้นเหนือกว่าหมอดู
        ตริ๊ง!
                -
คุณได้มาถึงยังซากปรักหักพังอันยิ่งใหญ่บาร์เรน(the Barren
Howling Ruins)
        นี่คือสถานที่ลึกลับของทวีปที่มีอยู่จริงในห้วงเวลาสงครามเท่านั้น
        ลัทธิที่เลวร้ายที่สุด, วิหารเอ็มบินยูกระจายพลังปีศาจของมันเพื่อขัดขวาง
วิธีการเทเลพอร์ตทั้งหมด
        อาเฮลลุนและเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆของคุณอยู่ที่ไหนสักแห่งในพื้นที่พิเศษอันกว้างใหญ่
        คุณสามารถค้นหาพวกเขาได้แต่พวกเขาอาจเสียชีวิตถ้าศัตรูสังเกตเห็นก่อน
        การอยู่รอดนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของเพื่อนสมาชิกของคุณ
        ความสามารถของวีดและผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสามารถเรียกได้ว่าสุดยอด
ความสามารถ
ในการต่อสู้ของพวกประติมากรรมสลักชีพที่เขาสร้างขึ้นนั้นยอดเยี่ยมอย่างปฏิเสธไม่ได้
        ในสถานการณ์เช่นนี้
เป็นไปไม่ได้ที่จะเดาว่าคนที่จะเอาตัวรอดเหลืออยู่เท่าไร ก่อนที่พวกเขา
สามารถพบกันได้อีกครั้ง
        'พวกเราไม่ได้กำหนดสถานที่เพื่อพบกัน
และเวลานี้ยากแล้วที่พวกเราทั้งหมดกระจัดกระจายไป
ถ้าฉันตามหาพวกเขาทีละคนๆแล้วการก่อสร้างหอคอยอาจสำเร็จและเจ้ามังกรแห่งความโกลาหล
จะตื่นขึ้น'
        จนถึงเดี๋ยวนี้, มันเป็นภารกิจที่ยากอย่างที่สุดและท้าทายมาก
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด, 
เขาจะไม่สามารถค้นหาพวกประติมากรรมสลักชีพของเขาหรือพวกเขาอาจเสียชีวิต
และเขาจำเป็นต้องต่อสู้เพียงลำพัง
        'ฉันไม่มีเวลามากังวลเรื่องอื่น อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้'
        วีดเคลื่อนไปด้านหลังก้อนหินใหญ่ พวกลูกน้องของเขามาถึงเป็นพวกแรกดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า
พวกเขาซ่อนตัวอยู่แต่เขาอาจเจอแค่โครงกระดูกเก่าๆ
        'ตอนนี้ฉันควรทำอะไรดี? ฉันควรแทรซึมพวกมันดีไหม?
        ภารกิจอาจไม่ใช่แค่แก้ปัญหาด้วยการต่อสู้และฆ่าฟัน ภารกิจนี้ต้องการให้วีดใช้กลอุบาย
ของเขาทั้งหมด
วีดซ่อนตัวอย่างระมัดระวังขณะที่ทำการสังเกตที่กำแพงป้องกัน
        'ภารกิจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้'
        การต่อสู้ทั้งหมดที่วีดผ่านมานั้นเกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนี้ สิ่งที่เหลือ
อย่างเดียวคือกิลด์เฮอร์มิส
        เขามีโอกาสสูงขึ้นในการเอาชนะถ้าได้รับเคล็ดการแกะสลักลับสุดท้าย ถ้าเขามีชีวิต
เขาจะทำภารกิจมากมายและล่ามอนสเตอร์สำเร็จจนกว่าเขาจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งพอๆกับ
ตัวเขาในทะเลทราย
        ในความเป็นจริง, เคล็ดการแกะสลักลับสุดท้ายอาจเป็นทักษะขี้โกงที่จะเพิ่มความสามารถของเขา
แต่ถ้าเขาทำภารกิจล้มเหลวแล้วเวลาทั้งหมดนั้นจะสูญไปโดยเปล่าประโยชน์ขณะที่เขากลับไปสู่
เวลาเดิม
        'มันเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่มีด้านสว่าง'
        วิหารเอ็มบินยูจะกวาดล้างไปทั่วทวีปอีกครั้ง
จักรวรรดิฮาเวนจะเจ็บปวดกับความเสียหายอันมหาศาล
และอาจจะไม่สามารถมาพิชิตอาณาจักรอาร์เพน
        'เวลานี้ฉันควรเริ่มได้แล้ว'
        วีดกังวลจริงๆกับความสำเร็จของภารกิจนี้
                                        ***************
        กองกำลังทหาร 12
กองพลของจักรวรรดิฮาเวนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
        แต่ละกองพลอยู่ในสภาวะดีที่สุดเพื่อพิชิตทวีปกลาง
        "ไปที่แดนเหนือ"
        "เหลืออีกนิดเดียวจนกว่าทวีปจะรวมเป็นหนึ่ง เคลื่อนขบวน!"
        กองทัพจักรวรรดิฮาเวนถูกทำให้แข็งแกร่งขึ้นจากการต่อสู้อย่างต่อเนื่องกับกิลด์ที่มีชื่อเสียง
พวกเขาเตรียมเผชิญหน้ากับวิหารเอ็มบินยูดังนั้นการมุ่งสู่แดนเหนือไม่จำเป็นต้องมี
การเตรียมการใดๆเพิ่มเติม
        "นี่อาจเป็นศึกสุดท้ายดังนั้นสะเพร่าไม่ได้
มุ่งสู่การจบที่สมบูรณ์แบบด้วยชัยชนะ."
        ลาฟาเย่และคณะแม่ทัพเสนาธิการของเขาตัดสินใจเคลื่อนไปพร้อมกับกองทัพ
        กองทัพเคลื่อนข้ามผ่านจักรวรรดิฮาเวนและมุ่งหน้าสู่แดนเหนือ
เมืองต่างๆที่ผ่านมามีชุดเสบียง
เตรียมไว้ล่วงหน้า
        มันเป็นไปไม่ได้ที่การบุกของจักรวรรดิฮาเวนจะไม่เป็นที่รับรู้
พวกเขาไม่ได้เคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว
เพื่อที่จะรักษาสถานภาพกองทัพให้ดีที่สุด
        กลุ่มพ่อค้าภายในจักรวรรดิฮาเวนติดตามกองทัพพร้อมด้วยเครื่องมือดังนั้นการการสนับสนุน
เพื่อการทำศึกจึงไม่เป็นปัญหา
        ลาฟาเย่และกลุ่มเสนาธิการอื่นๆสร้างคามมั่นใจว่าแต่ละกองพลมีความสะดวกสบายก่อนการต่อสู้
        "ให้รวม 7 กองพลที่หน้าแม่น้ำโพโรส"
        เรนโซล๊อตหาญกล้านำทัพข้ามแม่น้ำไปแดนเหนือ! ทหารมากกว่า 2 ล้านถูกรวบรวมมาต่อสู้กับศัตรู
        แน่นอนว่าการตอบโต้จากลัทธิโจ๊กหญ้าในแดนเหนือจะเริ่มต้นขึ้น
แต่พวกเขาเป็นสาขาหนึ่ง
ของพวกมือใหม่ที่ใช้คลื่นมนุษย์ในการโจมตีดังนั้นจักรวรรดิฮาเวนไม่วิตกกังวล
        7
กองพลเคลื่อนย้ายไปรักษาความปลอดภัยภูมิประเทศที่สำคัญในขณะที่ทำลายศัตรูใด ๆ ที่
กระโจนเข้าใส่
        จำนวนไม่ได้มีความหมายอะไรเลย พลังการต่อสู้อยู่ในหลักล้านดังนั้น
ไม่มีความหมายมากนัก
ในการชมว่ามีทหารมากแค่ไหนมารวมตัวกันที่แดนเหนือ
ในความเป็นจริง, กองทัพ 2
ล้าน
ก็เพียงพอที่จะแสดงพลังของจักรวรรดิฮาเวนให้โลกเห็น
กบฏมากมายอาจปรากฏขึ้นอีกเมือพวกเขารวมทวีปเป็นหนึ่ง
การต่อต้านเล็กน้อยเกิดขึ้นแล้ว
ในดินแดนที่ถูกครอบครอง
        ดังนั้นพวกเขาจะแสดงให้พวกมันได้เห็น!
พลังอำนาจอันเกรียงไกรของจักรวรรดิฮาเวน
        พวกเขาจะเหยียบย่ำอาณาจักรอาร์เพนในแดนเหนือ
พวกเขาคุ้นเคยกับการกำจัดพวกมือใหม่
ที่น่ารังเกียจและพวกที่ต่อต้านการยึดครอง
คนต่อมาก็จะเริ่มเข้าร่วมกิลด์เฮอร์มิสหลังจากไม่กี่เดือน
        "พวกเราจะชนะในการต่อสู้อันยิ่งใหญ่และทำลายแดนเหนือ"
        ลาฟาเย่กล่าวกับผู้หมวดในกองทัพ
        ไม่มีความสงสัยเมื่อเขากล่าว
พวกเขาจะจัดการกับแดนเหนือไม่ว่าพวกนั้นจะด่าว่าอย่างไรหรือ
จำเป็นต้องกวาดล้างผู้คนมากเท่าไร
        กิลด์เฮอร์มิสอยู่ยงคงกระพันเสมอ
พวกเขาประสบความพ่ายแพ้ด้วยพิษของวีดแต่พวกเขา
ไม่จำเป็นต้องกังวลในตอนนี้ 
        ส่วนที่เหลืออีก 3
กองพลกำลังเดินทัพผ่านภูเขานูดูลัน(Nudullan) และเข้าสู่ที่ราบนาดาลเลีย(Nadallia)
พวกเขาเป็นกองกำลังหลักของจักรวรรดิฮาเวนที่จะเข้าทำลายโมราต้าและวังโลกาของอาณาจักรอาร์เพน
        การเดินทางผ่านภูมิประเทศที่เป็นภูเขาถูกเลือกเพื่อบรรลุการโจมตีป้อมปราการเวอร์โก้
เป็นเวลายาวนาน
        จักรวรรดิฮาเว่นจะไม่ปล่อยให้แดนเหนือมีความหวังแม้สักชั่วขณะหนึ่ง กองกำลังหลัก
จะรวมตัวกันและทำลายโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้
        อีก 2
กองพลถูกจัดระเบียบเพื่อแยกอาชีพพวกเขาจะกระจายออกไปและทำลายล้างแดนเหนือ
แม้กระทั่งหมู่บ้านที่เล็กที่สุดก็จะถูกทำลาย
        เผด็จการวีดงั้นหรือ? พวกเขาจะแสดงให้เห็นถึงการทำลายล้างเกินกว่าที่เขาทำในระยะเวลาสงคราม
อาคารที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของแดนเหนือและเมืองต่างๆจะถูกกวาดล้างอย่างไร้ร่องรอย
        ลาฟาเย่ตั้งใจที่จะประทับความแข็งแกร่งและความกลัวที่แท้จริงให้กับผู้เล่นทุกคน
                                        *************
        อาจารย์นักดาบและพวกลูกศิษย์บางครั้งก็มีความคิดที่เรียบง่าย
        'ข้าหวังว่าพวกเราสามารถได้ต่อสู้'
        ถ้าพวกเขาพยายามเรียนหนังสือแล้วพวกเขาจะง่วงเหงาหาวนอนหรือปวดหัว
        เอกสารง่ายๆก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเหนื่อยหน่าย
แม้ว่ามันจะเป็นงานธุรการก็เกินทนกับจิตใจ
อันแข็งแกร่งของพวกเขา
พวกเขารู้สึกสดชื่นมากกว่าหลังจากทำงานในสถานที่ก่อสร้างแทน (เรื่องเรียน)
        นักดาบ- 2 กำลังวิ่งเข้ามาพร้อมกับใบประกาศ
        "ท่านอาจารย์, มันคือสงคราม"
        "วันที่พวกเรารอคอยได้มาถึงแล้ว"
        นักดาบ-3 เพิ่มเติมอย่างรีบร้อน
        เราจะลงมือปฏิบัติขึ้นอยู่กับคำสั่งของท่านอาจารย์ ข้าไม่ทราบว่าท่านอาจารย์ต้องการทำอะไร"
        อาจารย์นักดาบผู้กำลังมองท้องฟ้าดูเหมือนจะเตรียมพร้อมสำหรับสงครามแล้ว
เหมือน
คนที่อดทนรอเป็นเวลานานเท่านั้นที่จะได้ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนเมื่อมันมาถึง
        'ฉันอาจได้ต่อสู้อย่างยุติธรรมอีกครั้งในไม่ช้าใช่ไหม?'
        พวกลูกศิษย์ได้รอคอยวันที่พวกเขาจะได้ต่อสู้กับจักรวรรดิฮาเว่น
ดังนั้นพวกเขาให้ความสนใจใน
การออกล่าและฝึกฝนทักษะของพวกเขา
โดยตั้งเป้าหมายที่จะทำให้สำเร็จด้วยอาวุธของพวกเขา
        การแสวงหาความเชี่ยวชาญ สถานะพิเศษและทักษะที่ได้รับระหว่างการฝึกฝน
เวลานี้พวกเขากำลังสนใจ
พวกมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเพื่อเพิ่มเลเวลของพวกเขา
        นักดาบ-2
รู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับการต่อสู้แต่ด้วยตำแหน่งของเขาหมายถึงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่
ไม่ต้องกังวล
        พวกครูดาบและลูกศิษย์ไม่ได้อ่อนแอแต่ ไม่รู้ว่าถ้าพวกเขาสามารถต่อสู้
ต่อต้านกองกำลังอันทรงพลังของอาณาจักรเฮเวนได้หรือไม่
        "มันยาก มันยากที่จะรู้
พวกเราได้เห็นพวกมันต่อสู้ในทีวีดังนั้นพวกเรามีมุมมองของการประเมินทักษะ
ของพวกมันหากเราหลีกเลี่ยงเวทย์มนตร์จากนั้นเราสามารถเผชิญหน้ากับพวกมันในการต่อสู้ประชิด
มันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีในการเผชิญหน้ากับกองทัพที่แข็งแกร่ง”
        "ใช่ครับ, แม้ว่าพวกเราจะพ่ายแพ้อย่างน่าเสียดายในที่สุด"
        นักดาบ-2 พยักหน้า
        ชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่พวกเขาอ่อนแอและศัตรูพวกนั้นแข็งแกร่ง
        แน่นอน, นั่นไม่ได้หมายความว่าอาจารย์นักดาบและพวกลูกศิษย์อ่อนแอ
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหา
กลุ่มที่มีเลเวลพอๆกันบนทวีปเวอร์เซล
พวกเขามีเลเวลต่ำสุด 400
ศิลปะการใช้ดาบขั้นสูงเลเวล 9 
ข้อจำกัดกลุ่มของพวกเขาคือความเป็นเอกลักษณ์(หาที่เสมอเหมือนไม่ได้)
        เวลานี้ นักดาบ-3 ได้ถามปัญหา
        "แล้วแดนเหนือจะทำอย่างไร?"
        "พวกเขาต้องอดทนจนกว่าน้องเล็กจะกลับมา
        "น้องเล็กจะมาเมื่อไร?"
        นักดาบ-5 ถามไปด้วยสีหน้าสงสัย
        การรุกรานของจักรวรรดิฮาเว่น! ไม่ว่าพวกเขาจะชอบต่อสู้มากแค่ไหน, นี่เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าการต่อสู้เกิดขึ้นแล้ว
พวกเขาสามารถสังหารศัตรูเป็นร้อยตรงหน้าพวกเขาได้
        อย่างไรก็ตาม, วีดเท่านั้นจะสามารถเอาชนะกองทัพมหึมาของจักรวรรดิฮาเวน
        "ครั้งสุดท้ายข้าถามวีดว่าเขาสามารถเอาชนะกองทัพของจักวรรดิฮาเว่นได้หรือไม่
เจ้ารู้ไหมว่าคำตอบคืออะไร?
        "เขาสามารถชนะได้มั้ง?"
        "เขาไม่สามารถทำได้ การหยุดยั้งพลังอันสุดยอดเพื่อการรวมทวีปกลางเป็นหนึ่ง
นั้นเป็นงานที่น่ากลัว
ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังเพียงใด,
จะไม่มีเวลาพอในการเตรียมตัว"
        "แล้วมันจะถูกทำลายได้ไหม?
        "อาจจะเป็นไปได้ในการต่อสู้แต่เรื่องสงครามไม่ง่ายอย่างนั้น"
        อาจารย์นักดาบหัวเราะขึ้นราวกับพบบางสิ่งที่น่าสนใจ
        "พวกเราไม่สามารถรักษาการป้องกันพวกศัตรูได้
พวกเราไม่ต้องทุบพวกศัตรูให้ตาย
วีดจะเป็นผู้เดียวที่ฉีกจักรวรรดิฮาเว่นเป็นชิ้นๆ"
        "ท่านหมายความว่าอะไร?"
        "ฉันก็หมายความตรงตามตัวอักษรที่ฉันพูดนั่นละ"
        หัวใจของเหล่าครูดาบเริ่มเต้นเร็วขึ้น พรสวรรค์ล้นหลามมาจากความคิดเห็นเหล่านั้น
        ฉีกจักรวรรดิฮาเว่นเป็นชิ้นๆ!
        เพียงพอที่ทำให้พวกมันเต้นเร่าๆ
        วีดอาจตายในการต่อสู้แต่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในสายตาของพวกเขา
การเฝ้าดูการฟันฝ่า
ที่ทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาเริ่มร้อนแรงขึ้น
        แน่นอน, วีดพูดบางอย่างที่คล้ายๆกัน แต่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากปากของอาจารย์นักดาบ
                -
อ่า จริงๆแล้ว, ไอ้พวกนั้นน่ารำคาญจริงๆ
พวกมันเหมือนหมากฝรั่งที่ติดตามเสื้อผ้า
        นี่ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถป้องกันได้...ฉันจะฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆเมื่อเวลานั้นมาถึง
        โปรดติดตามตอนต่อไป
ผู้แปล :
Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ
เราอ่านนิยายแปล
