เล่ม 28 ตอนที่
9: เคล็ดวิชาดาบลับลำดับที่สอง แปลโดย Cole’s Myth
บนท้องถนน
ณ มหา’ลัยเกาหลี
ลีฮุนกำลังรู้สึกหงุดหงิดสุดๆ
“ฉันล่ะไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิงจริงจริ๊ง
ถ้ามีสูตรที่จะทำให้เข้าใจหัวใจของผู้หญิง ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารทั่วโลกล่ะก็ คงจะกลายเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่แน่ๆ”
เมื่อวานซอยูนเดินเข้าไปในครัวโดยไม่พูดไม่จาอะไร
เธอเตรียมวัตถุดิบมาและปรุงอาหารจานหนึ่งพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ
จากนั้นเธอก็ทำเรื่องอันแสนโหดร้ายทารุณด้วยการบังคับให้ลีฮุนกระเดือกแกงเผ็ดๆลงไป
ซอยูนยังคงดูสวยแม้ว่าจะมีน้ำเสียงที่ดูเชือดเฉือนและนั่งข้างๆเขาพร้อมกับแผ่รังสีที่ดูเยือกเย็นออกมา
ซึ่งทำให้ลีฮุนนึกถึงความสัมพันธ์อันเลวร้ายของเธอกับเขาเมื่อก่อน
เมื่อซอยูนจากไปและจองเฮียวรินก็เข้ามาตอนช่วงเย็น
เธอมาช้าหน่อยเพราะว่าเธอไม่สามารถยกเลิกตารางงานของเธอได้แถมเธอยังอยากจะไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไนท์คลับด้วย
แอลกอฮอล์นั้นไม่ดีต่อสุขภาพของเขาแถมยังต้องใช้เงินซื้ออีก
มันจึงไม่ใช่ตัวเลือกแรกของเขา
แต่ว่าลีเฮยอนอยากจะไป
พวกเขาสามคนจึงต้องไปด้วย
มันคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงเพลงดังๆ
เขาหาห้องเงียบๆได้ห้องหนึ่งเพื่อดื่มเหล้า ลีฮุนจำเป็นต้องจองห้องเอาไว้ก่อน
หลังจากคุยกันนิดๆหน่อยๆเขาก็รู้ว่ามันคือที่ที่ชอย จีฮุนมากับสาวๆอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ลีฮุนมาที่นี่
“ขอโทษนะคะ”
หญิงสาวที่เดินตามบริกรเข้ามาจำใจต้องเดินออกไปหลังจากที่เธอเห็นหน้าของลีเฮยอนและจองเฮียวริน
เขารู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้บนใบหน้าโหลๆของเขา
สุดท้ายพวกเขาทั้งสามคนก็ดื่มเหล้าและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆนานา
ลีเฮยอนและจองเฮียวรินร้องเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูสนุกสนาน
เพราะงั้นช่วงเย็นของเมื่อคืนก็ได้หายไปอย่างสูญเปล่า!
ตอนนี้ลีฮุนกำลังจะเดินไปมหา’ลัยแต่เช้า ปาร์ตี้ต้อนรับเด็กใหม่ สอบกลางภาค
งานเทศกาลและพักผ่อนหน้าร้อนก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
“เงินค่าเทอมปลิวหายไปเร็วจริงๆ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมอาชีพอาจารย์มหาลัยถึงได้เป็นงานที่ดีนัก”
การศึกษาช่วงมอต้นและมอปลายคือการเรียนเพื่ออนาคต
“งานสบายๆโดยที่อาจจะทำให้ตกงานได้ง่ายก็คงจะถูกเลือกเยอะอยู่หรอก”
วีดพูดออกมาขณะที่นั่งลงบนที่นั่งของรถประจำทาง
แล้วในที่สุดเขาก็มาถึงมหา’ลัยหลังจากที่แอบงีบหลับไปครึ่งทาง
นักศึกษาคนอื่นๆต่างจ้องมองมาที่ลีฮุนและกระซิบกระซาบกัน
“นั่นเขาใช่ไหม?”
“ใครหรอ?”
“บนเว็ปไซต์ของมหา’ลัยไง…นักศึกษาของสาขาโลกเสมือนจริงคนนั้นไง”
“คนนั้นน่ะเหรอ?”
“เขาดูเหมือนนักศึกษาที่อยู่ในรูปถ่ายค่ายกลางภาคเลย”
บรรดานักศึกษามหา’ลัยแสดงความสนอกสนใจอย่างมากในตัวลีฮุน พวกผู้หญิงที่ดูโตกว่าเขากับพวกผู้ใหญ่ต่างก็มองมาที่เขาขณะที่เขาเดินไปยังจุดหมายปลายทางของเขา
“เขามาถึงแล้ว”
ลีฮุนเดินไปถึงทางเข้าด้านหน้าของมหาวิทยาลัยเกาหลี
บรรดานักศึกษาต่างจับจ้องไปที่เขาขณะที่เขาเดินไปยังห้องเรียน
“สาขาโลกเสมือจริงสินะ…..”
“ใช่แล้ว”
“ฉันไปขอลายเซ็นเขาได้ไหมนะ?”
ผู้คนกำลังส่งเสียงเอะอะขณะที่มุ่งความสนใจไปที่ลีฮุน
ปกติเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร้ตัวตนดังนั้นการถูกจ้องมองแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องปกติ
ทันใดนั้นพวกนักศึกษาก็เริ่มฮือฮาในตอนที่ลีฮุนมาถึงห้องเรียนแล้ว
“รุ่นพี่ครับ!”
“สวัสดีค่ะ!”
“การต่อสู้เมื่อวานนี้เจ๋งจริงๆครับ
ถึงแม้ว่าจะน่าเศร้านิดหน่อยที่ตำนานความไร้พ่ายของพี่ถูกทำลาย”
“การได้ใกล้ชิดกับเทพสงครามวีด….รุ่นพี่ครับ พี่ช่วยให้คำแนะนำเรื่องรอยัลโร้ดหน่อยได้ไหมครับ?”
“ขอร้องล่ะครับ
ช่วยแนะนำเรื่องพื้นที่ออกล่าของอาชีพสายแรนเจอร์เลเวล 234 ให้หน่อยได้ไหมครับ”
บอร์ดของมหา’ลัยได้เปิดเผยตัวตนเทพสงครามวีดแล้ว ชอยซังจุนและรุ่นน้องอีกสองคนบอกเรื่องนี้กับบรรดาเพื่อนๆของพวกเขา
และมันก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งมหา’ลัย
รวมถึงบนกระดานข่าวของพวกเขา วีดผู้แสนโด่งดังจากรอยัลโร้ดไปมหา’ลัยของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นคนดังในทันที!
“รุ่นพี่ครับ
ผมเคารพคุณจริงๆ”
“รุ่นพี่ช่วยเล่าเรื่องการต่อสู้ให้ฟังซักหน่อยได้ไหมครับ?”
“พี่ได้เดทไนท์มาจากไหนหรอครับ?”
เหล่านักศึกษาที่ไม่เคยเป็นมิตรกับเขาเลยต่างกำลังรุมตอมลีฮุนอย่างกับแมลง
ส่วนพวกนักศึกษาจากสาขาอื่นเองก็มาถามคำถามลีฮุนเช่นกัน ชื่อเสียงของเขามันมากพอที่จะทำให้เขากลายเป็นเซเล็บในทันที
‘นี่คงเป็นเหตุผลที่เมื่อคืนฉันถึงนอนไม่หลับสินะ’
ลีฮุนไม่ได้แสดงความเป็นมิตรต่อเหล่าแฟนคลับของเขาเลย
“ความลับที่จะนำไปสู่หนทางแห่งความเก่งกาจในการต่อสู้ในโลกของรอยัลโร้ดคือ…..”
“มันคืออะไรคับ?”
“อึก!”
“ฉันไม่รู้
ก็แค่ออกล่า”
ลีฮุนเพิกเฉยพวกเขาแล้วก็ตรงไปยังที่นั่งของเขา
บริเวณโต๊ะนั่งของเขาก็ยังคงน่าอึดอัดเพราะคนยังรุมล้อมอยู่รอบๆอยู่
‘บาร์ดเรย์……’
คนที่ดูทีวีไม่ได้รู้อะไรเลยว่าในการต่อสู้ระหว่างลีฮุนกับบาร์ดเรย์
ลีฮุนนั้นโจมตีได้ดุเดือดมากกว่า
‘แต่ฉันก็เอาชนะเขาไม่ได้อยู่ดี’
ลีฮุนรู้สึกว่าจริงๆแล้วยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับบาร์ดเรย์
บาร์ดเรย์มีพลังป้องกันและพลังโจมตีที่ยากจะจัดการ
มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าทักษะการต่อสู่ของบาร์ดเรย์นั้นเหนือกว่าของเขา มีเพียงอย่างเดียวที่เขามีเหลือล้นมากกว่าบาร์ดเรย์ก็คือความเร็ว
แต่นั่นมันก็แค่ชั่วคราวจากทักษะประติมากรรมวินาศเท่านั้น
‘บาร์ดเรย์…..ฉันต่อสู้ระยะประชิดได้แน่ๆล่ะ แต่ยังไง แค่ทักษะของฉันในตอนนี้ก็ยังคงไม่มีทางชนะได้อยู่ดี’
ถ้าเป็นพื้นที่เปิดโล่ง
เขาคงตายจนวิ่งหนีแทบไม่ทันด้วยซ้ำ แม้จะไม่มีพวกนักเวทย์เข้ามาสู้ด้วยก็ตาม คงไม่มีทางที่เขาจะชนะได้อยู่ดีถ้าพวกเขาทั้งสองต่อสู้นานอีกนิดหน่อย
‘ขอเพียงแค่ฉันฟื้นคืนชีพด้วยพลังปฏิเสธความตายได้ละก็……’
บนบอร์ดที่เกี่ยวกับรอยัลโร้ดยังคงถกเถียงประเด็นนี้อย่างเข้มข้น
เทพสงครามวีดสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นร่างที่ทรงพลังยิ่งกว่าหลังจากที่ตายไปแล้ว
เขาจะลุกขึ้นมาเป็นอันเดดและนำเหล่าลูกสมุนเข้าสู่การต่อสู้อันแสนวิเศษ
ถ้าหากวีดฟื้นขึ้นมาได้ล่ะก็ เหตุการณ์เหนือความคาดหมายก็จะเกิดขึ้น
ชุดเซ็ตอุปกรณ์ของบัลข่านที่เขาเก็บมาได้
ไม่ว่าจะเป็น หัวกะโหลก เสื้อผ้า ชุดคลุม รองเท้า สร้อยข้อมือ แหวนและหนังสือเวทย์
ถ้าเขาสวมใส่ชุดอุปกรณ์ของบัลข่านจากนั้นพลังของเขาสามารถทัดเทียมพลังของกิลด์เฮอร์มีสได้อย่างแน่นอน
‘แต่มันก็ยังไม่พอที่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้อยู่ดี’
ลีฮุนสามารถสำแดงฤทธิ์เดชอันแข็งแกร่งในตอนที่เขากลายเป็นเนโครแมนเซอร์
ลิชที่สามารถสร้างกองทัพอันเดดขึ้นมา เพียงแต่ตอนเริ่มแรกที่พวกมันถูกปลุกขึ้นมานั้นค่อนข้างอ่อนแอ
จึงจำเป็นต้องฝึกฝนพวกมันก่อน และมันคงยากที่จะเอาชนะการแทรกแซงจากบาร์ดเรย์และพวกองครักษ์ขณะที่เขากำลังอัญเชิญอันเดดออกมา
‘ไม่อยากเลยจริงๆ’
ลีฮุนไม่อยากแพ้เพราะเขาต้องสูญเสียค่าความเชี่ยวชาญทักษะ
ค่าประสบการณ์และไอเท็มที่ถูกดร็อป แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนมากมายยังคงเคารพในตัวเทพสงครามวีดอยู่ดี
แม้ว่าเขาจะถูกกำราบโดยบาร์ดเรย์
เขาก็ยังคงเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดบนทวีปเวอร์เซล
ทุกคนต่างชื่นชอบในตัวเทพสงครามวีด
‘ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แค่นั้น’
ลีฮุนไม่พอใจในความแข็งแกร่งของเขา
ในวันที่เขาเล่นเกมส์เดอะคอนติเนนท์ออฟเมจิค เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนคนอันตราย
เขาพร้อมเหยียบย่ำผู้คน ฆ่าคนที่โจมตีใส่เขา และจัดการไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่มันขวางหูขวางตา
ชื่อของเทพสงครามวีดกลับมีน้ำหนักที่แตกต่างออกไปในรอยัลโร้ด
แต่สันดานที่แท้จริงของเขาก็ยังไม่แปรเปลี่ยนเลยซักนิด
***********
“สู้กันให้ตายกันไปข้างเลย
แล้วพวกนายจะได้รู้ว่า มือที่สามจะมาฉวยโอกาสนั้นไปจากพวกแก….”
สงครามระหว่างเหล่าผู้เล่นนั้นเป็นภาพที่สนุกมากสำหรับ
ยูบยองจิน การพัฒนาในทวีปทางตอนกลางนั้นถือว่าสูงมากดังนั้นสงครามจึงได้เกิดขึ้นอยู่เสมอ
มีสงครามปิดล้อมมากมายเกิดขึ้นเพียงเพื่อที่จะขยายอำนาจของพวกเขาออกไป
หลังจากที่กิลด์เฮอร์มีสยึดราชอาณาจักรคัลลามอร์ได้แล้ว
กิลด์อื่นๆก็ไม่สามารถสร้างกองบัญชาการที่นั่นได้อีกเลย ปราสาท
เมืองและป้อมปราการก็ถูกกวาดเรียบ บางกลุ่มมีการรวมตัวกันเพื่อต่อต้านพวกเขา
กษัตริย์ก็วางมือจากสงครามเหมือนที่เกิดขึ้นในอาณาจักรฮาเว่น
ส่วนดินแดนที่อยู่ไกลจากการโจมตีของกิลด์ก็พยายามรวบรวมกำลังคนให้มากเอาไว้
พวกวิหารเอ็มบินยูก็แพร่กระจายอย่างกับไฟลามทุ่งโดยพยายามที่จะรวบรวมสาวกลัทธิด้วยการล้างสมองและใช้ความกลัวข่มขู่
จากมุมมองของกิลด์ใหญ่ๆ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้กลับเป็นโอกาสอันดีของพวกเขา
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปแย่งพื้นที่ออกล่ากับกิลด์อื่นๆ ดังนั้นนี่จึงไม่ได้เป็นสถานการณ์ที่แย่สำหรับพวกเขาเท่าไร
ถ้าหากพวกวิหารเอ็มบินยูยึดพื้นที่ล่าเอาไว้ได้
ต่อจากนั้นการพัฒนาในตัวเมืองก็จะพังไม่เป็นท่า แต่ก็สามารถเอาความมั่งคั่งได้ด้วยการปล้นสะดมแล้วเอามาแจกจ่ายและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน
กิลด์ยักษ์ใหญ่ส่วนมากมักจะเติบโตด้วยการบุกรุกทำลายมากกว่าจะรู้จักการจัดการบริหารบ้านเมือง
“ถ้าหากว่าความวุ่นวายโกลาหลนี้
ยังคงเกิดขึ้นต่อไปจนรับมือไม่ไหว ทวีปทางตอนกลางคงได้เข้าสู่ยุคมืดแน่ๆ”
ยูบยองจินมีข้อมูลเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆในรอยัลโร้ดที่สถานีออกอากาศทั้งหลายต่างก็ไม่มี
วิหารเอ็มบินยูสร้างฐานอำนาจของพวกเขาขึ้นมาได้ด้วยการรวบรวมสาวก
การกระจายตัวที่รวดเร็วของพวกมันนั้นมากพอที่จะทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวนด้วยความกังวล
แถมความแข็งแกร่งที่ถูกซ่อนเอาไว้ของพวกมันยังเหนือจินตนาการซะอีก!
หากพวกมันกลายเป็นกองกำลังที่ทรงพลังที่สุดบนทวีปทางตอนกลาง
คงยากที่จะล้มพวกมันได้ หากพวกวิหารเอ็มบินยูพัฒนาจนกลายเป็นอาณาจักรใหม่ ดูท่าว่ายุดมืดคงขยายเข้าสู่ดินแดนที่เหลืออย่างแน่นอน
“คงจะกลายเป็นการปรากฏตัวที่เกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์
มันก็ไม่ได้น่าประหลาดใจขนาดนั้นที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นบนรอยัลโร้ด”
ยู บยองจินถามระบบปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังควบคุมทั้งรอยัลโร้ดอยู่
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับกิลด์เฮอร์มีสและกิลด์ราชสีห์ทมิฬ?”
-[หลังจากที่กิลด์ราชสีห์ทมิฬพ่ายแพ้ไป
กิลด์เฮอร์มีสก็เคลื่อนไหวอยู่ทุกที่
สมาพันธมหาอำนาจยังคงแข็งแกร่งอยู่
และยังทำสงครามกระจายออกไปเรื่อยๆ
กิลด์ราชสีห์ทมิฬดูเหมือนจะมีขนาดเล็กลง
นั่นเป็นเพราะเหล่าผู้เล่นในกิลด์ทยอยออกไปอยู่กิลด์อื่น] (ผู้แปล: จะใช้ blank[ ] แบบนี้เพื่อเป็นการรายงานผลของ Al ปัญญาประดิษฐ์นะครับ)
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแผนของกิลด์ราชสีห์ทมิฬที่จะไปยึดอาณาจักรทัลเลนล่ะ?”
-[พวกเขาใช้เวลาส่วนมากไปกับการควบคุมการบริหารภายใน
คาไลส์มีพลังและชื่อเสียงที่โด่งดัง
แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะฟื้นคืนชื่อเสียงนั้นกลับมาได้หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ให้กับบาร์ดเรย์อย่างน่าเวทนาผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์]
“พวกกิลด์เฮอร์มีสนี่เจ้าเล่ห์ชะมัด”
พวกเขามีโครงสร้างขนาดใหญ่
กำลังรบที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีกลวิธีกล้าได้กล้าเสียอีก
กิลด์เฮอร์มีสบดขยี้กิลด์ราชสีห์ทมิฬจนป่นปี้ในเหมืองเมลเบิรน์
ดังนั้นการจะฟื้นคืนกลับมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เหล่าผู้เล่นสูญเสียค่าประสบการณ์และค่าความเชี่ยวชาญทักษะไปมากมาย แถมความเชื่อมั่นของพวกเขายังแตกเป็นเสี่ยงจากความพ่ายแพ้นั่นอีก
กิลด์ราชสีห์ทมิฬโดนลูกเล่นของพวกกิลด์เฮอร์มีสตั้งแต่เริ่มต้น
ส่วนบาร์ดเรย์ก็ไม่ได้ถอนกำลังกลับไปแม้ว่าการล่ามอนสเตอร์ระดับบอสของเขาจะถูกถ่ายทอดออกไปแล้ว
คาไลส์กับกิลด์ราชสีห์ทมิฬที่โกรธจนหูเป็นไฟก็วิ่งไปหาที่ตายและโดนกำราบลงด้วยน้ำมือของกองกำลังอันทรงพลังและเหล่าราชองครักษ์
ผลที่ออกมายังคงเป็นเช่นเดิม
ถึงแม้กิลด์ราชสีห์ทมิฬปิดทางเข้าเหมืองเมลเบิร์นได้แล้วและรอพวกเขาออกมา ยู
บยองจินก็สามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ว่ากิลด์เฮอร์มีสได้ให้คน
200
คนแอบปิดล้อมเอาไว้ทั่วเหมืองเมลเบิร์น กลยุทธ์ของพวกเขาก็คือการถอนกำลังออกไปและล่อพวกกิลด์ราชสีห์ทมิฬเพื่อไปจัดการ
ผู้ที่ได้เปรียบที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือกิลด์เฮอร์มีส
“คนที่มีความเด็ดขาดนั่นแหละถึงจะเก่ง”
ลาฟาเย่ที่เป็นหัวหน้ากิลด์เป็นคนที่เก่งกาจมาก
“เขามีความสามารถในการจัดการกับกิจการภายในกิลด์
ส่วนแผนการของเขาที่ใช้บริหารอาณาจักฮาเว่นก็ไม่เลว”
ยูบยองจินสำรวจดูที่ต่างๆนานาในรอยัลโร้ด
สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งไหลบ่าไปด้วยผู้คน
หน้าผา ภูเขา ภูเขาไฟ ทะเลสาบ หนองบึง แม่น้ำและท้องทะเล
มีทิวทัศน์สวยงามมากมายและก็ผู้คนที่อาศัยอยู่อย่างมีความสุข
ไม่ว่าจะเป็นการทำไร่ทำสวนและการเก็บพืชผักพลไม้ที่แสนเพลิดเพลิน
พวกเขาสามารถมีความสุขได้และฝึกฝนตนเองได้ต่างๆนานาอย่างที่พวกเขาไม่สามารถพบเจอได้ในโลกแห่งความจริง
เหล่าผู้เล่นกำลังเพลิดเพลินกับบทบาทที่พวกเขาปรารถนา
ต่อสู้กำจัดมอนสเตอร์เพื่อทำให้ตนเองเติบโต
และการรู้จักขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็คือส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตด้วยเช่นกัน
จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นทุกๆวัน แต่ยังไงทวีปก็กว้างขวางมากพอ
ความสุ่มเสี่ยงและการผจญภัยอันไร้ที่สิ้นสุดสามารถพบเจอได้
สำหรับคนที่ไม่ลงทุนลงแรงไปกับการออกล่าและการผจญภัยก็สามารถอาศัยภายในเมืองที่โด่งดังได้อย่างปลอดภัย
“แล้วภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพของกลุ่มเกษตรกรมิเรทัสไปถึงไหนแล้วล่ะ?”
[พวกเขาทำภารกิจขั้นที่
9
สำเร็จแล้วและกำลังทำขั้นที่ 10 อยู่
ภารกิจปรมาจารย์เกษตกรเดินหน้าค่อนข้างช้าเพราะว่าพวกเขาต้องรอหว่านเมล็ดพืช]
“นักผจญภัยเชสล่ะเป็นไง?”
[เขาตามหาดาบเล็กสีม่วงที่สำคัญไม่เจอ
และยังไม่พบคำใบ้อีกสองอย่างที่สำคัญสำหรับการผจญภัยขั้นต่อไป]
“เขาติดแหงกอยู่ที่ภารกิจขั้นที่ 11
มาสักพักแล้ว ความสามารถในการแก้ไขปัญหาและเข้าสังคมของเขาก็ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับความสามารถในการหาเส้นทางในดันเจี้ยนของเขา”
ยูบยองจินตรวจดูเหล่าผู้เล่นที่กำลังทำภารกิจปรมาจารย์ของพวกเขาแต่ละคน
เวลาที่ใช้ในแต่ละภารกิจจะถูกปรับให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สถานีออกอากาศมากมายก็กระตือรือร้นที่จะได้สัมภาษณ์กับเหล่าผู้เล่นที่กำลังท้าทายภารกิจปรมาจารย์ของพวกเขา
หรือว่าขอใช้วิดีโอที่พวกเขาทำภารกิจสำเร็จ ถ้าหากยู
บยองจินให้ภาพที่เขากำลังดูอยู่ตอนนี้กับทางพวกผู้ประกาศข่าวคงจะทำให้เขาได้รับชื่อเสียงมากมายแน่ๆ
แต่ว่าเขาไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน
ขณะที่ภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพกำลังดำเนินไป
มันสามารถแปรเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้เลยทีเดียว
ผลลัพธ์แบบใหม่ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนจะถูกบันทึกลงไป
ดันเจี้ยนใหม่ๆจะได้รับการปลดล็อค
หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างประเทศก็จะดีขึ้นด้วย
“แล้ววีดล่ะ?”
[เขายังไม่ล็อคอินเข้าสู่ระบบ
ยังไม่ถึงเวลาที่เขาสามารถเข้าสู่ระบบได้]
หากผู้เล่นตาย
พวกเขาจะไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมงตามเวลาในโลกจริง
“เป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
บาร์ดเรย์กำราบเขาลงต่อหน้าสาธารณะ ดังนั้นเลเวลของเขาและค่าความเชี่ยวชาญก็คงจะลดลง
ตอนนี้แหละคือเวลาสำคัญแล้ว”
ประติมากรคือสายอาชีพที่ยากมากที่จะเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญทักษะเมื่อเทียบกับสายอาชีพอื่น
“บอกให้ฉันรู้เมื่อเขาเชื่อมต่อ
แล้วใส่วิดีโอของวีดเอาไว้ที่ด้านล่างของจอมอนิเตอร์”
[ดิฉันจะทำตามคำสั่งของท่าน
ถ้าวีดเชื่อมต่อ ภาพของเขาจะปรากฏบนจอที่ 8 หรือจอที่ 9]
ยู
บยองจินเตรียมพื้นที่ใหญ่ๆเพื่อให้เขาสามารถฉายภาพของวีดเอาไว้ได้
“มันคงสนุกไม่น้อยเลยที่จะได้เห็นเขาเชื่อมต่อเข้ามาแล้วรู้สึกสิ้นหวัง
คิคิคิ” (ยังแค้นเรื่องเงินค่าน้ำหยอดตู้หรอลุง555)
********
ลีฮุนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากที่มหา’ลัยเพราะว่าพวกนักศึกษาเอาแต่มารวมอยู่รอบๆตัวเขา
ข่าวคราวได้ยินไปจนถึงหูของพวกรุ่นน้อง
“คุณจะอยู่ที่โมราต้าใช่ไหมครับ?”
“ผมอยากจะไปกินข้าวกับรุ่นพี่ครับ”
เขาได้รับคำชวนไปที่ต่างๆมากมายจากพวกรุ่นน้องที่เขาไม่รู้จัก
ไม่มีรุ่นน้องคนไหนที่ไม่รู้จักลีฮุนหลังจากไปค่ายกลางภาค และงานเทศกาล
เขาเป็นนักศึกษาของสาขาโลกเสมือนจริง แถมตอนนี้พวกเขาก็ค้นพบแล้วว่าลีฮุนได้สร้างความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในรอยัลโร้ด
เขาเป็นแค่นักศึกษาปีสามเท่านั้นเอง
แต่ชื่อเสียงและอิทธิพลในฐานะลอร์ดโมราต้านั้นเป็นอะไรที่หาตัวจับได้ยาก
จากการลงคะแนนที่จัดขึ้นโดยทางสถานีออกอากาศ
เมืองโมราต้าถูกเลือกให้เป็นเมืองอันดับ 1 ที่ผู้คนต้องการอาศัยอยู่มากที่สุด
“ถ้าผมอยู่ที่โมราต้า
ผมก็เจอรุ่นพี่ได้สินะครับ?”
เขาเองก็ได้ยินคำสารภาพอันแสนน่าอายจากเหล่านักศึกษาหญิง
หรือแม้แต่พวกอาจารย์มหา’ลัยก็เปลี่ยนความคิดที่มีต่อลีฮุนไปในทางบวก
‘คงเป็นประโยชน์ตอนออกเกรดได้ละมั้ง’
ลีฮุนมุ่งหน้ากลับบ้านหลังจากเลิกเรียน
เขาไม่ได้เข้าเกมเมื่อวานนี้ เพราะว่าเขาเอาเวลาไปทำความสะอาดบ้านกับซอยูน
มันให้ความรู้สึกสดชื่นหลังจากเก็บกวาดบ้านเสร็จแล้ว!
“ได้เวลากลับเข้าสู่สนามรบ”
จากนั้นลีฮุนก็เข้าไปในแคปซูล
***************
วีดกลับเข้ามาเชื่อมต่อข้างใต้กำแพงของไทรพีค
“สวมใส่ชุดเกราะหนัง”
เขาสวมใส่ชุดสำหรับเลเวล
130
ในทันที
“การมีรูปร่างหน้าตาบ้านๆก็มีประโยชน์ตอนนี้นี่แหละ”
ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาๆก็แทบจะไม่มีคนจำเขาได้เลย
ไทรพีคยังคงอยู่ในพื้นที่ของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ
การปรากฏตัวของเขาที่นี่จะไม่สำคัญต่อพวกเขานัก เพราะว่าพวกเขายังคงปั่นป่วนจากการโจมตีของกิลด์เฮอร์มีสอยู่
“ฉันต้องตรวจเช็ค….ค่าประสบการณ์ที่เสียไป”
วีดต้องสำรวจข่าวร้ายสามอย่างที่เขาต้องเผชิญ
ค่าประสบการณ์ ค่าความเชี่ยวชาญทักษะและอุปกรณ์!
“หน้าต่างค่าสถานะ!”
ชื่อตัวละคร
วีด ตำแหน่ง วีรุบุรุษแห่งประวัติศาสตร์
|
เลเวล
409
สายอาชีพ ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน
|
ฉายา
ประติมากรผู้เปลี่ยนโลก ชื่อเสียง 92,007
|
พลังชีวิต
41,230
มานา 19,405
|
ความแข็งแกร่ง
1,443
ความว่องไว 1,097
|
พลังกาย 209 สติปัญญา 355 (+51)
|
ความฉลาด
505
(+55) จิตวิญญาณนักสู้ 525
|
ความอดทน
270
(+68) ความอึด 55 (+8)
|
ศิลปะ 2,430 บารมี 530
|
ความเป็นผู้นำ
787
โชค 143
|
ศรัทธา 207+435 เสน่ห์ 451+30
|
การฟื้นตัว
471
เกียรติยศ 153
|
สมาธิ 92 ความกล้าหาญ 200
|
ศักดิ์ศรี
43
ความใกล้ชิดธรรมชาติ 1,043
|
พลังโจมตี
7,103
พลังป้องกัน 1,941
|
ความต้านทานเวทย์มนต์
|
ธาตุไฟ 33% ธาตุน้ำ 39%
|
ธาตุดิน 39% ธาตุมืด 41%
|
+ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มเติม
20
หน่วย
|
+ค่าสถานะทางศิลปะที่จะได้รับเพิ่มเติม
80 หน่วย
|
+ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น
30% ในคืนที่มีแสงจันทร์
|
+ไอเท็มที่เสริมคุณสมบัติพิเศษ
|
+ทักษะการผลิตทั้งหมดสามารถเรียนรู้ได้จนถึงขั้นปรมาจารย์
คุณสมบัติพิเศษจะมีต่อไอเท็มทั้งหมดที่สร้างด้วยการหลอมเหลว คุณสามารถเรียนรู้ทักษะที่ดีที่สุด
|
+ประติมากรรมที่พิเศษหรือว่าประติมากรรมที่มีคุณค่าทางศิลปะสูงจะช่วยเพิ่มค่าชื่อเสียงให้กับคุณ
|
+ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น
178
หน่วยจากประติมากรรม ทักษะการผลิต
ประสบการณ์การต่อสู้และภารกิจที่ทำมา
|
+ค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น
15
หน่วยจากการสวมใส่สร้อยข้อมือของบาฮารัน
|
เลเวลของเขากลับมาอยู่ที่
409
ถึงแม้ว่าค่าประสบการณ์มันยากที่จะเพิ่ม แต่มันก็ง่ายกว่าค่าอื่นๆ
ค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักของเขาหายไป 11.4% และตอนนี้เขาอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 8 กับอีก 49.7% ค่าสถานะของทักษะช่างฝีมือ ช่างตีเหล็ก ช่างตัดเย็บ
ทำอาหาร ตกปลาและทักษะโจมตีลดลงเพียงเล็กน้อย
“จริงๆแหละน๊า…..คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่ฉันจะโชคดีได้ตลอด”
ค่าสถานะทางโชคของนักผจญภัยสามารถลดลงได้จากบทลงโทษของการตาย
แต่ว่าผลของโชคกลับไม่มีผลอะไรที่ดีมากนักกับสายอาชีพอื่นๆ โชคของวีดนั้นไม่ได้สูงมากพอที่จะลดบทลงโทษของการตายได้
“ต่อไปก็ไอเท็ม……..”
เขาลงมือตรวจเช็คไอเท็มข้าวของส่วนตัวด้วยตัวเอง
ผ้าพันแผลและสมุนไพร ลูกธนู เบ็ดตกปลา หินลับมีด วัสดุแกะสลัก แร่ไพลินสำหรับทำภารกิจ
เขาค่อยๆตวรจเช็คอย่างละเอียด!
“กะ..เกราะทัลล็อคแห่งโชคชะตาหายไป”
ชุดเกราะอันแสนวิเศษที่ปกป้องเขาจากการโจมตีของมอนสเตอร์มานานแสนนานได้หายไปแล้ว
“ความเสียหายนี้มัน…….”
วีดหลับตาลงอยู่ครู่หนึ่ง
เขาต้องเก็บความโกรธที่กำลังสูบฉีดอยู่ภายในอกของเขาเอาไว้
เขาอยากจะไปอาณาจักรฮาเว่นที่เป็นดินแดนของกิลด์เฮอร์มีสเพื่อล้างแค้นพวกมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
แต่ว่าผลลัพธ์ก็คงเป็นความตายของเขาเหมือนเดิม
“ฉันจะให้พวกมันได้ชดใช้อย่างสาสม”
วีดตัดสินใจที่จะเบนความสนใจของเขาไปที่ภารกิจเพื่อกดอารมณ์โกรธเอาไว้
“ฉันต้องรายงานกลับไปที่ภารกิจสายอาชีพของฉัน
แล้วก็ไปรับเทคนิควิชาดาบลับกลับมา”
ก้าวแรกเพื่อที่จะทำให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!
เขาสามารถได้รับทักษะดาบมาหากเขากลับไปพบกับปรมาจารย์ดาบแอช
วีดมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเพราะว่าทักษะความเชี่ยวชาญดาบของเขาเลื่อนระดับถึงขั้นสูงแล้ว
ทักษะเพลงดาบประกายแสงต้องไม่เป็นวิชาดาบลับเพียงอย่างเดียวที่เขาได้เรียน
“แต่ถึงยังไง
ค่าความเชี่ยวชาญเพลงดาบประกายแสงยังคงต่ำอยู่ คงจะดีกว่าถ้าไปเรียนเพิ่มอีกสักทักษะ”
การตัดสินใจอันแน่วแน่ของวีดคือทำมันทุกอย่างเลย!
เกาะของแอชเป็นสถานที่ที่เหล่านักดาบแล่นเรือไปเจอเข้าโดยบังเอิญและยากที่จะเจอได้อีกครั้ง
เส้นทางจะเปลี่ยนไปตามกระแสลมและกระแสน้ำทะเล ดังนั้นคงต้องลงทุนลงแรงใช้เวลาสองถึงสามเดือนเลยทีเดียว
แต่ว่าเขามียูรินที่ทำให้การเดินทางไปที่นั่นเป็นไปได้ด้วยการวาดภาพ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ซู่ววววว……….ซู่ววววววว……..
เหล่านกนางนวลบินไปมารอบเกาะยามเมื่อคลื่นทะเลซัดเข้าฝั่ง
วีดพร้อมด้วยอาจารย์นักดาบและนักดาบ2 ได้มาถึงเกาะที่ไม่รู้จักที่ที่แอชอาศัยอยู่
“วีด
ที่นี่แหละที่เราเรียนวิชาดาบกัน”
“เข้าใจแล้วครับ
ท่านอาจารย์”
“มันอาจจะไม่ได้ดีมากนัก
แต่เรียนไว้ก็ไม่เสียหายหรอก”
อาจารย์นักดาบ
นักดาบ2
และครูฝึกคนอื่นๆเองก็มาถึงเหมืองเมลเบิร์นเมื่อวานนี้พร้อมกับยูริน
แต่พวกเขามาสายเกินไป
พวกเขาโจมตีพวกกิลด์เฮอร์มีสที่กำลังเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตเพียงเพื่อขอที่จะเข้าไปตายอย่างกล้าหาญ!
อาจารย์นักดาบและนักดาบ2ภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งของตนเอง แต่พวกเขาก็โดนวีดชักชวนมาและตัดสินใจมาที่เกาะเพื่อเรียนรู้ทักษะวิชาดาบลับ
“ท่านอาจารย์ต้องเรียนรู้จากคนอื่นนะครับ…..”
“………….”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ
ที่ท่านอาจารย์ไม่จำเป็นต้องเรียนทักษะดาบ
แต่ว่าท่านจะดูเจ๋งมากเลยนะครับถ้าท่านใช้มันในการต่อสู้”
“…………..”
“แล้วท่านก็จะเนื้อหอมในหมู่ผู้หญิงด้วยนะครับ……”
“………..!!”
“………..!!”
เมื่อวีด อาจารย์นักดาบ
นักดาบ2
มาถึง แอชก็เดินออกมาจากดงต้นไม้
“เจ้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับวิชาดาบจากข้าหรือ? ถ้างั้นเจ้าก็ต้องพิสูจน์ว่ามีคุณสมบัติมากพอ”
แอชยกดาบขึ้นมาตั้งท่าทันทีที่เขาปรากฏตัว
“อย่าพูดให้เปลืองน้ำลายเลย”
ท่านอาจารย์นักดาบชักดาบของเขาออกมาและพิสูจน์คุณสมบัติของเขาได้อย่างง่ายดาย
การต่อสู้กินเวลาไม่ถึง 30
นาที เขาใช้เคล็ดวิชาดาบออกมาและยังสามารถใช้มานาเพื่อเพิ่มความเสียหายให้กับศัตรูได้ถึงสองเท่าและบีบให้ศัตรูจนมุมในที่สุด
แถมร่างแยกพวกนั้นยังอ่อนแอมาก อีกด้วย
อาจารย์นักดาบเพลิดเพลินกับการต่อสู้สองสามนาทีแบบสบายๆก่อนที่แอชถูกบังคับให้ยอมรับในทักษะของเขา
ท่านอาจารย์นักดาบเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อได้ถือดาบยาว!
ส่วนนักดาบ2ก็ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนๆกันเมื่อต่อสู้กับพวกโคลน
“ข้าชื่อวีด
ข้าเป็นประติมากรแต่ข้าก็ชื่นชมท่านมากจริงๆ ข้าอยากเรียนรู้วิชาดาบนี้เพื่อสร้างสันติสุขให้กับทวีป
ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบท่าน”
วีดมีข้อแตกต่างเล็กน้อย
ศัตรูของเขาเป็นถึงปรมาจารย์ดาบระดับสูง
ดังนั้นการประจบสอพลอจึงได้หลุดออกมาจากปากของเขาตามสันดาน
“อาชีพของเจ้าคือประติมากร
ถ้างั้นแปลว่าเจ้าคงจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเรียนรู้ทักษะดาบสินะ
ข้ากำลังคาดหวังการต่อสู้ที่ดีอยู่นะ”
วีดค่อยๆควบคุมลมหายใจของเขาอย่างระมัดระวังขณะที่เขาจ้องมองไปที่แอชที่กำลังสร้างร่างแยก
มันคงเป็นเรื่องยากที่จะตามหาร่างจริงท่ามกลางร่างแยกเหล่านั้น
วีดเลือกที่จะใช้วิธีการเข้าหาที่ง่ายที่สุด
เขาก็แค่ต้องสู้อย่างบ้าบิ่นจนพวกมันตายจนหมด!
“ข้าจะเริ่มละนะ”
วีดถูกล้อมรอบด้วยร่างแยกของแอช
ขณะที่ร่างแยกเหล่านั้นกำลังทะลักไหลตรงเข้ามาโจมตีเขา
วีดได้แสดงถึงสมาธิอันสูงส่งออกมา
‘ฉันต้องคิดให้เร็วขึ้นและเคลื่อนไหวให้ไวมากกว่าเดิม
ความเร็วในการตอบสนองร่างกายของฉันจะต้องดึงให้ถึงขีดสุด….เหมือนกับตอนที่ฉันเห็นเงิน
100 วอนตกอยู่บนพื้นถนน’
ตอนที่กำลังต่อสู้เขาต้องตั้งสมาธิไปที่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
ด้านข้างหรือแม้แต่การโจมตีจากทางด้านหลัง
ท่านรับบาดเจ็บที่ขาจากการโจมตีของร่างแยกแอช
|
จนกว่าบาดแผลนั้นจะได้รับการรักษา
ความเร็วในการเคลื่อนที่จะลดลง 7%
|
ค่าพลังชีวิตลดลง
983
หน่วยเนื่องจากค่าการฟื้นตัวของท่าน
|
ร่างแยกของเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนร่างจริง
การโจมตีก็ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนักเพราะว่าเขามีค่าการฟื้นตัวและค่าความอึดอยู่
ดังนั้นเขาจึงสามารถเหวี่ยวดาบได้อย่างบ้าคลั่ง
“ทักษะวิชาดาบเฮอเรม!”
วีดได้รับบาดแผลทุกครั้งที่เขาโจมตีใส่ร่างแยก
เขาดูเหมือนเบอร์เซิร์กเกอร์ผู้บ้าคลั่งที่กำลังต่อสู้ขณะที่โจมตีออกไปโดยไม่สนการป้องกัน
มันเป็นสิ่งที่โง่มากเมื่อเทียบสิ่งที่เหล่านักดาบพึ่งแสดงออกไป จากนั้นวีดก็กระโจนเข้าไปใจกลางวงล้อมของร่างแยก
การปะทะที่รุนแรงล่องลอยไปทั่วทุกสารทิศที่ดาบของเขาฟันไป
วีดต่อสู้อย่างกับว่าเป็นอัศวินคนสุดท้ายที่เหลือรอดภายในราชอาณาจักรที่ถูกโจมตี!
เขาหายใจอย่างหนักหน่วงขณะที่จัดการกับพวกร่างแยกของแอช
เขาไม่ยอมถอยกลับอีกต่อไปแล้วตั้งแต่ที่เขาต้องสูญเสียสิ่งนั้นให้กับบาร์ดเรย์
‘ถ้าฉันแพ้เจ้าพวกนี้…ฉันก็จะไม่เหลือทางเลือกอะไรเหลือแล้ว
คงทำได้แต่อิจฉาตาร้อนพวกลูกคนรวยไปวันๆ’
วีดเหลือค่าพลังชีวิตเพียงแค่
1
ใน 3 เท่านั้น
แอชได้ทำข้อเสนอให้เขากำจัดร่างแยกให้ได้ 10 คน
“ระดับแค่นี้ไม่เพียงพอที่จะหยุดพวกมันได้หรอก
ดูเหมือนเจ้ายังขาดความสามารถที่จะเข้าใจในเทคนิคของข้า”
วีดส่ายหน้า
“ข้าจะสู้ต่อไปครับ”
“ถ้างั้นอย่ามาเสียใจก็แล้วกัน
ถ้าข้าฆ่าเจ้าตาย”
“ข้าจะเสียใจแน่ แต่ก็จะสู้ต่อไป”
การต่อสู้ง่ายขึ้นสำหรับวีดขณะที่เขาลดจำนวนร่างแยกลงได้แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นพลังชีวิตของเขาก็กำลังตกลงด้วยเช่นกัน แถมยังมีบาดแผลอีกนิดหน่อยด้วย
การเคลื่อนที่ของเขาช้าลงเพราะบาดแผลที่เขาได้รับ
‘สิ่งเดียวที่ฉันเชื่อได้ก็มีแต่ร่างกายของฉันนี่แหละ
ฉันจะต้องชนะให้ได้!’
เขาเป็นลูกศิษย์ของเหล่านักดาบดังนั้นเขาจึงมีทักษะเฉพาะตัวระดับสูง
เขาสามารถเสริมการโจมตีของเขาให้ทำความเสียมากขึ้นได้ขณะที่แอชตัวจริงกำลังซ่อนอยู่
ทักษะความเชี่ยวชาญดาบของวีดอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 2
เนื่องจากความแตกต่างในพลังโจมตีและจัดการค่ามานา
มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสกัดการโจมตีของแอชตัวจริงได้
และมันยิ่งยากมากอีกเพราะแอชเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในร่างแยกของเขา
‘ฉันต้องกระหน่ำฟันทุกอย่างที่ขวางหน้า’
จากนั้นวีดก็พุ่งเข้าสู่ฝูงร่างแยก
จิตวิญญาณนักสู้ของท่านเพิ่มขึ้นเนื่องจากการต่อสู้อันดุเดือด
|
สถานะค่าพลังโจมตีและพลังป้องกันของท่านเพิ่มขึ้น
|
“อั่คคค!”
วีดเหลือค่าพลังชีวิตอีกแค่
4% แต่ถึงอย่างไรก็ตามร่างแยกทั้งหมดก็หายไปหมดแล้ว
คนเดียวที่เหลือก็คือแอชตัวจริง ถ้าเขาพุ่งเข้าไปมีโอกาสถึงสองในสามที่เขาจะตาย
“ทักษะเฉพาะของเจ้าอาจจะยังขาดอยู่
ทว่าเจ้ายังมีคุณสมบัติของการไม่ยอมแพ้ ข้าได้ตระหนักแล้วหลังจากที่ได้สู้กับเจ้ามาสักพัก”
ตริ้ง!
ท่านได้ต่อสู้กับแอชด้วยชุดเกราะและอาวุธที่ด้อยกว่ามาก
จึงทำให้ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3 หน่วย
|
จากการต่อสู้ของท่าน
ท่านได้รับทักษะ ‘ร่างแยกศาตรา’
|
จากนั้นอาจารย์นักดาบ
และนักดาบ2
ก็ไปที่เมืองโมราต้าเพื่อดื่มเบียร์กับพวกอาจารย์และลูกศิษย์คนอื่นๆ
แล้วก็ไปเรียนทักษะเพลงดาบประกายแสงจากรูปสลักที่ถูกเก็บไว้ภายในปราสาท
ส่วนวีดก็ไปที่ยูก็อธเพื่อรายงานผลภารกิจปรมาจารย์ของเขาให้กับพวกเอลลิออน
---จบตอน----
ผู้แปล : Cole’s
Myth
Editor : แอดชิน
เพจ เราอ่านนิยายแปล
ติดงอมแงม ขอบคุณคับ
ตอบลบได้ทักษะโจมตีเพิ่มแร้ว...ทะยอยตามมากันต่อไป...อะไรดีน้า...แต่ละอย่างนี่ไม่ได้มาง่ายๆเหมือนคนอื่นเขาเลย...วีดเอ๋ย
ตอบลบทีนี้ก็จะกลายเป็นกองทัพดาบไฟนีออน
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบวีคช่วงอัพเวล...เตรียมไว้ตอนจัดเต็ม..ขอบคุณทีมแปลครับ
ตอบลบได้สกิลเพิ่ม แต่ชุดหาย เวลลด งานนี้เจ็บเยอะ
ตอบลบรู้จักกันหมดล่ะ ขอบคุณครับ
ตอบลบกองทัพวีดที่พล่านไปทั่วสนามรบเพื่อลูทของ นรกสัส
ตอบลบถ้าพวกนักดาบ500คนใช้ทักษะเเยกร่างทุกคนมันจะกลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่เลยมั้ยหนิ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบแยกได้กี่ร่างนิ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบว้าว... ร่างแยก
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้อออ