วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 28 ตอนที่ 11: พิธีราชาภิเษก 30 เหรียญทอง แปลโดย Cole’s Myth


เล่ม 28 ตอนที่ 11: พิธีราชาภิเษก 30 เหรียญทอง แปลโดย Cole’s Myth


เมล็ดพันธุ์ไม้และดอกไม้ที่เขาได้มาหยั่งรากลึกลงสู่เมืองโมราต้า เหล่าสาวกแห่งวิหารเฟรย่าก็ช่วยฟูมฟักพวกมันจนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้และมวลบุพผานานาพันธุ์ บรรดาผู้เล่นก็เก็บเกี่ยวผลไม้เหล่านั้นให้เหล่าพ่อครัวเพื่อสร้างสรรค์ตำรับอาหารใหม่ๆขึ้นมา

สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ หอวิจัย โรงหลอมเฮสเทียเองก็ถูกสร้างขึ้นมาสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว เหล่าผู้เล่นและทหารต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่ป้อมปราการเวอร์โก้เพื่อขับไล่พวกมอนสเตอร์และรักษาความปลอดภัยเอาไว้ และแล้วในที่สุดวันราชาภิเษกที่วีดตั้งหน้าตั้งตารอก็มาถึง

 ในเมืองมีทหารเยอะแยะไปหมดเลย นี่มันวันอะไรกันเนี่ย?
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ดูเหมือนจะมีคนเยอะมากกว่าปกตินะ

บรรดาผู้เล่นที่กลับมาจากการออกล่าก็พบว่าบรรกาศภายในเมืองโมราต้านั้นต่างไปจากปกติ เหล่าทหารและอัศวินยืนเรียงแถวอยู่บนถนนตั้งแต่ประตูเมืองเป็นต้นมา

เจ้าพึ่งถามว่าวันนี้วันอะไรหรอ? นี่พวกเจ้าไม่รู้หรอว่าวันนี้เป็นวันราชาภิเษกของท่านเจ้าเมือง?
งานสำคัญเกิดขึ้น ณ ดินแดนเหนือ ท่านลอร์ดที่ข้าเคารพกำลังจะขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว

เหล่าผู้เล่นพึ่งจะทราบข่าวว่ามีงานราชาภิเษกเกิดขึ้นขณะที่เหล่าชาวเมืองกำลังกระจายข่าวอย่างเต็มที่ พวกเขารู้สึกแปลกใจมากที่วีดจะขึ้นเป็นกษัตริย์แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรพร่ำพรือออกมา เมืองโมราต้าเติบโตและแผ่ขยายอย่างรวดเร็วเพราะว่าวีด

ว่าแต่เขาจัดงานกันที่ไหนหรอ?”
จัตุรัสปิงหลงหรือว่าจัตุรัสไวเวิร์นนี่แหละ?”
ตั้งแต่จัตุรัสกลางไปหรอ?”
ไม่เห็นมีไรเลยนิ?”
ถ้างั้นก็คงอยู่แค่ตรงหน้ารูปสลักองค์เทพีนั่นแหละมั้ง?” 

เหล่าผู้เล่นในโมราต้าต้องการเข้าร่วมงานราชาภิเษก ปกติการจัดงานระดับเมืองเช่นนี้จะต้องเตรียมการกันแต่เนิ่นๆ โมราต้าเป็นเมืองที่ดีมีการพัฒนาที่สูงมาก ดังนั้นจึงมีจัตุรัสและสวนสาธารณะอยู่เป็นจำนวนมากเหมาะที่จะจัดงานพิธีสำคัญใหญ่โต

นายรู้หรือเปล่าว่างานราชาภิเษกจัดที่ไหน?”
ฉันไม่รู้

บรรดาสมาชิกลัทธิโจ๊กหญ้าออกตามหางานราชาภิเษกจนทั่ว แต่พวกเขาก็ยังไม่พบสถานที่ที่แน่ชัด เหล่าผู้เล่นในเมืองโมราต่างรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก พวกเขาอยากจะรู้ว่างานราชาภิเษกของวีดจัดขึ้นที่ไหน พวกเขาจะได้ไปเข้าร่วมได้ทัน! ตอนนั้นเองพระอาทิตย์ก็โผล่พ้นขอบฟ้า เหล่าทหารและอัศวินเองก็เตรียมตัวไปยังจัตุรัสกลาง

งานราชาภิเษกจัดขึ้นที่จัตุรัสกลางล่ะ
ไปเร็วเข้า!

เหล่าชาวเมืองและผู้เล่นมารวมตัวกันที่จัตุรัสกลางแล้วมากมายจนทำให้มีคนมาเข้าร่วมงานหลายพันคน เพื่อนๆของวีดเองก็อยู่ไม่ว่าจะเป็นเพลหรือคนอื่นๆต่างก็มาเข้าร่วมพิธีราชาภิเษกครั้งนี้ด้วย
ตรงจัตุรัสกลางมีโต๊ะไม้ตั้งอยู่พร้อมด้วยมงกุฎทองและน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว

อย่าบอกนะว่า……”
แค่นั้นหรอ…….
นี่มันไม่ต่างไปจากที่ฉันคิดไปหน่อยหรอ?”

หลังจากนั้นซักพัก วีดก็ถูกคุ้มกันเข้ามาโดยเหล่าอัศวิน เขาสวมใส่ชุดเกราะอัศวินแห่งเทพีที่พึ่งสร้างเสร็จหมาดๆพร้อมกับผ้าคลุมไหล่อันน่าตื่นตาตื่นใจ

เหล่าผู้เชี่ยวชาญภายในเมืองหลากสายอาชีพเตรียมงานพิธีราชาภิเษกเพื่อเฉลิมฉลองให้แด่ลอร์ดชองพวกเขา ช่างตัดเสื้อที่เก่งที่สุดของโมราต้าตัดเย็บผ้าคลุมให้เขา วีดปรากฏตัวพร้อมกับขี่ม้าสีขาวงามสง่าที่มีอัศวิน 30 นายคุ้มกันมาพร้อม! จากนั้นวีดก็ลงมายืนอยู่ตรงหน้าน้ำพุ สีแดงแจ๋ที่เปื้อนบนใบหน้าของเขานั้นไม่ได้เกิดจากความตื่นเต้น แม้ว่าเงินทุนในการจัดงานราชาภิเษกจะมีถึง 30 เหรียญทอง แต่มันก็ค่อนข้างน่าขายหน้าในตอนที่ต้องมายืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้

ฉันควรใช้เงินซัก 40 เหรียญทองดีกว่าไหมนะ?

วีดเดินไปอย่างเงียบเชียบไม่พูดไม่จาแล้วหยุดยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ อัลเวรอน ว่าที่สันตะปาปาแห่งวิหารเฟรย่าเองก็กำลังยืนอยู่ตรงนั้นด้วย อัลเวรอนโค้งให้เขาอย่างเคารพและเอ่ยขึ้นมาว่า

ไม่เจอกันนานนะครับ

อัลเวรอนเติบโตขึ้นจากเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก ตอนนี้เขาสูงขึ้นและหล่อเหลา แม้แต่พวกนักแสดงยังต้องอิจฉา ไม่มีริ้วรอยใดๆปราฏกบนผิวอันเรียบเนียนนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อก่อนเขาเคยร่วมเดินทางไปกับวีด ทว่าตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวิหารเฟรย่า เขาดูแลจัดการเรื่องวิหารและการเผยแพร่ศาสนาในดินแดนทางเหนือ! วีดพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำจนคนอื่นๆก็ไม่ได้ยิน

 ดีใจที่ได้พบเจ้าเช่นกัน เจ้าคงไม่ต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากอะไรหรอกใช่ไหม?
ต้องของคุณความเอื้อเฟื้อของท่านวีดที่ช่วยรักษาสงบสุขของทวีปแห่งนี้
ก็นะ ฉันก็ผ่านอะไรมาเยอะ ว่าแต่อัลเวรอน นายเลเวลเท่าไรแล้วล่ะ?

เมื่อก่อนเขารู้สึกหดหู่กับเลเวลที่สูงของอัลเวรอนมาก พวกเขาฆ่าแวมไพร์มาด้วยกันแต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกอิจฉาตาร้อน

ข้ารู้สึกละอายใจนักเพราะว่าข้ายังรับใช้องค์เทพีไม่ได้ดีมากนัก ข้าเลเวลแค่ 553 เองครับ
อึก!

มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเพิ่มเลเวลให้กับอาชีพสายนักบวช พวกเขาต้องเกาะกลุ่มออกไปล่าเป็นปาร์ตี้และต้องคอยดูคนอื่นๆอยู่เสมอ ทว่าความสามารถและทักษะอวยพรของพวกเขาสูงมากจนสายอาชีพอื่นเทียบไม่ติดเลย จากเลเวลของอัลเวรอนหมายความว่าเขาต้องสร้างปาฏิหารย์ได้อยู่ทุกๆวันหรือไม่ก็ใช้การอวยพรให้กับพวกมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมามากมาย

วีดต้องเก็บความอิจฉาที่มีต่ออัลเวรอนของเขาให้ลึกลงไป

อัลเวรอน ช่วงเวลาที่เราได้ออกล่าร่วมกันยังคงเป็นความทรงจำที่มีค่าสำหรับข้ามาก
ข้าก็เช่นกันครับ
ในภายภาคหน้าข้าก็ยังอยากจะเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้านะ
ข้าทราบครับ

จากนั้นอัลเวรอนก็เริ่มทำพิธี

การเดินสวนสนามของเหล่าทหารและอัศวินและการแสดงเพื่อสรรเสริญองค์กษัตริย์ถูกยกเลิก วีดคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเวลา พวกทหารและอัศวินเองก็มีค่าใช้จ่ายดำเนินการภายในที่แสนแพงอยู่แล้ว เขาจึงอยากจะให้พวกเขาออกไปกำจัดมอนสเตอร์ใกล้ๆเมืองแถวนี้มากกว่า

 ในนามของวิหารเฟรย่า วิหารลูห์ และอีกศาสนจักรทั้งสี่แห่งทวีปเวอร์เซล ขอสรรเสริญอวยพรแด่การกำเนิดของราชอาณาจักรอาเพนของท่านวีด

ท่านได้รับการรับรองตำแหน่งจากบรรดาศาสนจักร
ค่าศรัทธาเพิ่มขึ้น 25 หน่วย
ค่าเกียรติยศเพิ่มขึ้น 17 หน่วย
โชคเพิ่มขึ้น 10 หน่วย
ค่าความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น 10 หน่วย
ท่านได้รับการรับรองในฐานะกษัตริย์จากเหล่าเทพ
จะมีพิธีทางศาสนาระดับสูงมากมายเกิดขึ้นภายในราชอาณาจักรของท่าน
ความจงรักภักดีของเหล่าชาวเมืองจะไม่ลดลง
บรรดาศาสนจักรภายในราชอาณาจักรจะให้ความช่วยเหลือทางภารกิจและงานที่เกี่ยวกับทางการทหาร

อัลเวรอนสวมมงกุฎทองไว้บนหัวของวีด มันเป็นมงกุฎราคาถูกที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์เพียง 7 แต้มเท่านั้น แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ใส่มันไปต่อสู้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงจะทิ้งมันไว้ที่ปราสาท

ขอให้ฝ่าพระบาททรงตรัสอะไรซักหน่อยนะพะยะค่ะ

อัลเวรอนได้ดำเนินพิธีมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของงานราชาภิเษกแล้ว
ถึงเวลาของราชดำรัสขององค์กษัตริย์!

วีดดำรงตำแหน่งในฐานะกษัตริย์อย่างเป็นทางการและกำลังจะกล่าวคำปราศรัยแด่พลเมืองและเหล่าผู้เล่นเป็นครั้งแรก

อะฮึ่ม ฮึ่ม

จากนั้นวีดก็ขึ้นไปบนแท่นและมองไปทางผู้คน มีผู้เล่นจำนวนมากมารวมตัวกันที่จัตุรัสกลาง ไม่มีพื้นที่ว่างภายในจัตุรัสเลยซักนิดแถมตามท้องถนนยังแออัดคับคั่งไปด้วยผู้คนนับร้อยนับพันคน

ข้าจะกล่าวในฐานะกษัตริย์

ทักษะราชสีห์คำรามถูกใช้แล้ว

โอ้โหหหหห!
ท่านวีดกำลังพูดล่ะ!

องค์กษัตริย์ได้รับความรักมากมายเหลือล้นจากฝูงชน จัตุรัสที่เสียงดังอึกทึกครึกโครมเงียบลงทันทีที่วีดเริ่มพูด

ผู้คนต่างคาดหวังที่จะได้เห็นพิธีราชาภิเษกที่อลังการดังนั้นพวกเขาถึงรู้สึกผิดหวังที่มันกำลังจะจบลงง่ายๆแบบนี้ ทว่าพวกเขาก็มองดูอย่างเงียบเชียบเพื่อที่จะได้ยินคำกล่าวปราศรัยขององค์กษัตริย์วีด

ราชอาณาจักรอาเพ่นจะยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆในภายภาคหน้าร่วมกับพวกเจ้า จะมีอาคารพาณิชย์ถูกสร้างเพิ่มมากยิ่งขึ้น การค้าขายก็จะขยายเติบโตมากขึ้น ภารกิจก็จะมีให้ทำมากขึ้น ที่แห่งนี้จะกลายเป็นทรวงสวรรค์ของผู้คนที่อยู่อาศัย

มันสำคัญมากสำหรับผู้นำที่จะให้ความหวังแก่ราษฎรด้วยถ้อยคำแห่งความเชื่อมั่น แน่นอนว่าความคิดภายในใจของวีดนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง

 ฉันจะขูดรีดเอาภาษีจากทุกๆคนในอาเพนมาให้หมด!

มีภยันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่งเมื่อพวกเราออกประตูเมืองไป ทว่าเราจะเอาชนะอันตรายเหล่านั้นได้ มันจะเกิดขึ้นได้ถ้าเรามีความกล้าหาญ

พวกเขาต้องออกจากประตูเมืองไปเล่นเกมล่าบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะหมายถึงความตายก็เถอะ

ออกไปสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล ออกไปผจญภัย ไปสู้ ไปขุดแร่ และออกไปเก็บเกี่ยวพืชผล แล้วราชอาณาจักรอาเพ่นจะเป็นบ้านให้พวกเจ้าได้พักพิง

ยินดีต้อนรับสู่การจ่ายภาษีนะจ๊ะ

วีดได้รับความเคารพจากเหล่าผู้เล่นในฐานะเจ้าเมืองแห่งโมราต้า บรรดาผู้เล่นที่อยู่ทางตอนกลาง ตะวันออก ตะวันตก และทางตอนใต้ของทวีปเองก็ยกย่องชื่นชมในการครองราชย์ของวีด เหล่าผู้เล่นจดจ่ออยู่กับถ้อยคำของวีดและส่งเสียงป่าวร้องด้วยความสุขสันต์ดังสนั่นไปทั่ว

ตอนนี้ขอให้ทุกๆคนจงหลับตาลง

ผู้เล่นส่วนใหญ่ทำตามคำสั่งพูดของวีดและปิดตาลง พวกเขาเตรียมตัวสำหรับงานเซอร์ไพร์ต่างๆที่อาจจะตามมา พวกเขาต่างให้ความคาดหวังอย่างมากเพราะว่าพิธีราชาภิเษกนี้ดูธรรมดาจนเกินไป

แน่นอนว่าวีดไม่ได้เตรียมอะไรทำนองนั้นเอาไว้เลยซักนิด เขาไม่ต้องการที่จะใช้เงินไปกับอะไรแบบนี้

พวกเจ้าจงหลับตาและนึกถึง ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์เดินเตร็ดเตร่อยู่เต็มไปหมด..

ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงแค่เหล่าผู้เล่นที่กำลังจินตนาการวาดฝันกันอยู่ เป้าหมายภายในความฝันนั้นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเลเวลและประสบการณ์ของพวกเขา

โคบอลด์และกอบลิ้นที่เป็นภัยอย่างยิ่งกับเหล่าผู้เล่นใหม่ที่กำลังจินตนาการถึง ส่วนคนอื่นๆก็จินตนาการถึงมอนสเตอร์นานาชนิดอย่าง อันเดด โทรล ลิซาร์ดแมน ส่วนทางพวกผู้เล่นเลเวลสูงๆก็จินตนาการถึงมอนสเตอร์ที่อันตรายไม่มีใครทัดทานได้ และไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์เลเวลเท่าไรแบบไหน ล้วนแล้วแต่เป็นมอนสเตอร์ที่พวกเขาเห็นผ่านทางอินเตอร์เนทหรือว่าการออกอากาศเท่านั้นที่แล่นอยู่ในหัวของพวกเขา

ผู้คนที่ชื่นชอบในการผจญภัยของวีดก็จะเห็นช่วงเวลาที่เขาต่อสู้กับพวกอัศวินโครงกระดูกหรือว่ามังกรที่อยู่ในหุบเขาแห่งความตาย ช่วงเวลาที่เขากลายร่างเป็นออร์คราริชวิและบัญชาการเหล่าดาร์คเอลฟ์และออร์คไปต่อสู้กับกองทัพอันเดดที่กลายเป็นตำนาน!

ถ้าฉันเป็นตัวละครตัวนั้นละก็………’

พวกเขาต่างหวาดกลัวในพวกมอนสเตอร์แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน หัวใจของพวกเขาเต้นระรัวและสั่นไหวพลางตกลงสู่ห้วงความคิดจากการผจญภัยครั้งนั้น

และจงฟังด้วยหูของตัวเอง เสียงหายใจที่รุนแรง เสียงกู้ร้องที่บ้าคลั่งของพวกมอนสเตอร์.แล้วตอนนี้ก็ลืมตาขึ้น พวกเจ้าอยากไปที่แห่งนั้นหรือไม่?”
อยาก!
ข้าอยากไป!

รอยยิ้มที่สบายใจก่อตัวอยู่บนใบหน้าของวีด เขารู้จักที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อหลอกล่อด้วยการใช้อารมณ์ของพวกเขาสร้างพีระมิดแห่งความฝันขึ้นมา

อนาคตของราชอาณาจักรอาเพนอันแสนสดใส ภายในดินแดนเหนือแห่งนี้ มีมอนสเตอร์ที่เกิดขึ้นมาแผ่ขยายออกไปมากมาย จึงเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งที่มิอาจรู้ได้

ในความเป็นจริง ปัจจุบันนี้มีมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมากมายอยู่ทางตอนเหนือ ยิ่งสภาพอากาศอบอุ่นมากขึ้น การเติบโตของพืชผลก็ดีขึ้น พวกมอนสเตอร์เองก็เพิ่มจำนวนขึ้นตามธรรมชาติ

 พวกเจ้าจะเดินไปบนดินแดนที่อันตรายและต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ หากพวกเจ้าชนะและกลับมาที่อาณาจักอาเพนพร้อมกับไอเท็มที่ลูทได้ เจ้าก็อาจจะกลายเป็นวีรบุรุษได้เช่นกัน นี่แหละคือหัวใจหลักของราชอาณาจักรอาเพน!

วีดตะเบ่งเสียงร้องดังกึกก้องไปทั่วทั้งจัตุรัสด้วยทักษะราชสีห์คำราม

พวกเจ้าเชื่อหรือไม่?”
ข้าเชื่อ!
เจ้าจะเป็นชาวเมืองแห่งราชอาณาจักรอาเพ่นหรือไม่?”
ข้าจะเป็น!

ฝูงชนตอบกลับไปเป็นเสียงเดียวกัน ฉะนั้นแล้วพิธีราชาภิเษกก็จบลงด้วยถ้อยคำสร้างแรงบัลดานใจวาดฝันให้กับเหล่าชาวเมืองและผู้เล่นทั้งมวล
วีดพึ่งแสดงความสามารถในการเจรจาที่เหนือชั้นเสียยิ่งกว่าเจ้าลัทธิศาสนาจอมหลอกลวงเสียอีก!
จากนั้นหน้าต่างข้อความก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าเหล่าผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่บนทวีปเวอร์เซล
ราชอาณาจักรอาเพ่นได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาแล้ว
กษัตริย์วีดได้สร้างราชอาณาจักรขนาดเล็กที่มีโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้เป็นอาณาเขต
ที่นี่คือศูนย์กลางทางการค้าของทางตอนเหนือที่เป็นผู้นำทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม มันคือราชอาณาจักรที่มีอาวุธและเสื้อผ้ามีคุณภาพอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายทางอาชีพอีกด้วย
มีจำนวนชาวเมืองอยู่มากมายมหาศาลที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความสามารถ
เพราะว่ามีการเก็บเกี่ยวที่ได้มาจากผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ อัตราการเกิดจึงเพิ่มสูงขึ้น
เหล่าเอลลิออนเองก็ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ราชอาณาจักรอาเพ่นสถานที่ที่เป็นสนามเด็กเล่นใหม่ของพวกเขา ผลไม้และธัญพืชที่เต็มไปด้วยโภชนาการจะเติบโตขึ้นมาอย่างอุดมสมบูรณ์
ความสนใจของเหล่าเอลฟ์เพิ่มมากขึ้นจากการย้ายถิ่นฐานของเหล่าเอลลิออน
การสนับสนุนจากเหล่าชาวเมืองที่เสนอให้กับกษัตริย์จะมีให้อย่างเต็มที่ พวกเขาจะรวมเป็นหนึ่งเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับภัยคุกคามใดๆที่ย่างกรายเข้ามา เหล่าชาวเมืองจะฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามต่างๆมากมายที่เข้ามาด้วยทัศนคติที่มองโลกในแง่ดี
สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เหล่าชาวเมืองร่วมกันสร้างขึ้นมาจะกลายเป็นแสงสว่างอันโชติช่วงบ่งบอกถึงการกำเนิดของราชอาณาจักรอาเพน
ชื่อเสียงของเมืองโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้เพิ่มขึ้น
ท่านจะมีอิทธิพลอำนาจทางการเมืองบริเวณดินแดนใกล้เคียงที่ยังไม่ได้เป็นอาณาเขตของราชอาณาจักร
เกิดเหตุจลาจลเล็กๆขึ้นภายในปราสาทเว้นท์

★★★★★★★★★★★★★★

ปาร์ตี้ของบาร์ทกลับมาจากการล่าจนมาถึงเมืองโมราต้าช้าเกินไป ท้องถนนของเมืองโมราต้านั้นโล่งจนรถลากและม้าสามารถวิ่งไปมาได้อย่างคล่องตัว แต่ก็ยังมีผู้คนกลุ่มใหญ่เกาะกลุ่มกันเพราะพิธีราชาภิเษกของวีด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเข้าไปยังด้านในของจัตุรัสกลางได้ แล้วบาร์ทก็พูดกับปาร์ตี้ของเขาว่า

โห เทพสงครามวีดเป็นคนดังอย่างที่คิดจริงๆ ดูผู้คนที่มารวมตัวกันที่นี่สิ
 นี่เป็นครั้งแรกบนทวีปนี้ใช่ไหมที่ราชอาณาจักรถูกก่อตั้งขึ้นมา?
เหตุผลก็คงเป็นเพราะว่านี่เป็นราชอาณาจักรของท่านวีด เขาฟื้นฟูหมู่บ้านขึ้นมาด้วยตัวคนเดียวและพยายามรวบรวมผู้คนทั้งหมดให้มาอยู่ร่วมกันจนกลายเป็นราชอาณาจักร..

นี่เป็นอีกครั้งที่บาร์ทรู้สึกทึ่งในตัววีดหลังจากที่ได้ยินคำพูดจากปากของสมาชิกในปาร์ตี้ของเขา เขาเข้าใจแล้วว่าวีดเป็นคนที่โด่งดังมากและทุกๆคนก็ต่างชื่นชอบในการผจญภัยของเขา แล้วเขาก็มีอำนาจสูงสุดอีกด้วย

 ว่าแต่ เราควรไปเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าดีไหม?
พวกเขารับคนที่มีเลเวล 25 ด้วยหรือ?
ถ้าเราเป็นชาวเมืองโมราต้าพวกเขาก็ยินดีรับเรา แล้วคุณลุงบาร์ทล่ะครับ จะเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าด้วยกันไหม?

แน่นอนว่าบาร์ทเองก็อยากจะเข้าร่วมลัทธิโจ๊กหญ้าด้วย พวกเขาคือองค์กรที่มีกองกำลังมากที่สุด ถ้าเขาเข้าร่วมในลัทธิโจ๊กหญ้าการผจญภัยในแดนเหนือก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

★★★★★★★★★★★

ขณะเดียวกันการแข่งขันเพื่อกลายเป็นปรมาจารย์สายอาชีพก็กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดบนทวีปเวอร์เซล

เมื่อชื่อและตำแหน่งของผู้เล่นที่พยายามจะกลายเป็นปรมาจารย์สายอาชีพถูกเปิดเผยออกมา การพยายามลอบฆ่าและอุปสรรคต่างๆนานาก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน ทางสถานีออกอากาศเองก็สร้างความตื่นเต้นให้กับการต่อสู้เพื่อทำให้มันเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดเผ็ดร้อนมากยิ่งขึ้น!

อาจารย์นักดาบหาวปากกว้างขณะที่เขาพูดกับเหล่าลูกศิษย์ของเขา

ชัยชนะนี่น่าเบื่อชะมัด
ข้าเข้าใจครับ ท่านอาจารย์

ตอนนี้พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะเพลงดาบประกายแสงแล้ว การออกล่ารอบๆป้อมปราการเวอร์โก้จึงเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

การเพิ่มขึ้นของค่าความเชี่ยวชาญทักษะผู้ชำนาญศาตราวุธนั้นขึ้นง่ายกว่าเดิมมาก
ผมก็เหมือนกันครับ ท่านอาจารย์!

ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่พวกเขาเพียงแค่เหวี่ยงดาบอย่างบ้าคลั่งขณะที่ออกไปต่อสู้ นอกจากพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะป้องกันตัวแล้ว พวกเขาก็ใช้แต่พลังกายล้วนๆอีกด้วย นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่ได้มีมานามากพอที่จะใช้ทักษะของพวกเขานั่นเอง!

ตอนนี้พวกเขาได้มองไปที่ผลงานที่อยู่ในศูนย์ศิลปะของโมราต้า มันจึงช่วยเพิ่มแต้มสถานะค่าความฉลาดและสติปัญญาของพวกเขาทุกครั้ง จนทำให้พวกเขาเลเวลเพิ่มมากขึ้น ผลจากที่มานาของพวกเขาเพิ่มมากพอที่พวกเขาจะสามารถใช้เทคนิคดาบลับได้เพียงสองสามครั้ง มันก็เหมือนกับการสีแท่งไม้สองอันเพื่อทำให้เกิดประกายไฟเพื่อใช้ในการก่อกองไฟ!

 ทีนี้แหละ การต่อสู้ก็จะไม่ง่ายดายเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ครับ ท่านอาจารย์

นักดาบ นักดาบ2 นักดาบ3 กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มีมอนสเตอร์ 50 ตัวรวมกลุ่มกันอยู่

ก่อนหน้านี้พวกเขาพึ่งฆ่ามอนสเตอร์ตายไป 120 ตัว ก่อนที่ร่างกายของพวกเขาจะเมื่อยล้า พวกเขาพักอยู่ครู่หนึ่งและใช้ผ้าพันแผลสมานแผลตามร่างกายแต่ก็ไม่ค่อยได้ผลดีนัก พวกเขาอาจจะต่อสู้ได้เหมือนเบอร์เซิร์กเกอร์ แต่พวกเขาก็ยังต้องจัดการกับพลังการฟื้นตัวและกำลังกายของพวกเขา ระหว่างการต่อสู้พวกเขาก็จะฉีกกินซี่โครงเนื้อย่างไปด้วย!

 เด็กๆรีบเรียนทักษะนี่ให้ไวเลย เมื่อทุกๆคนมีระดับเลเวล 8 ถึง 10 แล้วเราก็จะออกไปทำภารกิจกัน
รับทราบครับ นักดาบ5จะไปเรียนก่อนจากนั้นคนอื่นๆก็จะตามไปครับ

ตอนนี้นักดาบ5ถึงมีทักษะผู้ชำนาญศาตราขั้นสูงเลเวล 8แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะไปทำภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพก่อน มันเป็นการตัดสินใจเพื่อเป็นการทดสอบและลดข้อผิดพลาดต่างๆให้กับนักดาบคนอื่น

★★★★★★★★★★★★★★

นักดาบ5พบกับคนเถื่อน แฮนสันและได้พูดคุยกัน เขาไปพบคนเถื่อนก่อนเพื่อที่จะรับภารกิจผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้

มันก็เกือบ 10 ปีมาแล้ว ที่ข้าได้พบกับนักรบผู้แข็งแกร่ง
ข้าต้องไปฆ่าเขาหรือ?”
เขาใช้อาวุธต่างๆนานาได้เก่งกาจมาก
ฆ่าเลยไหม? หรือว่าไปกระชากคอมันมา?”
เบริทันจากรังของมันไปแล้ว..ชาวบ้านที่เข้าไปที่รังของเจ้าเบริทันก็เห็นเพียงแต่ซากศพของพวกมอนสเตอร์ที่เหลือเอาไว้ ตอนนี้พวกมอนสเตอร์ก็เริ่มไปรวมฝูงกันที่รังของเจ้าเบริทันแล้ว
ข้าจะฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างเลย
ได้โปรดกำราบมอนสเตอร์เหล่านั้นและตามหาร่องรอยของนักรบผู้แข่งแกร่งที่ทิ้งซากศพเหล่านั้นเอาไว้

ภารกิจเฉพาะอาชีพนั้นน่าตื่นตาตื่นใจกว่าที่นักดาบ5คิดไว้มากนัก มีผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ผู้เก่งกาจคนหนึ่ง คำขอร้องครั้งนั้นก็คือให้ตามรอยของเขาไปและต่อสู้กับเขา

ในท้ายที่สุด ข้าจะต้องฆ่าเจ้านั่นให้ได้!

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

วีดเห็นหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาหลังจากที่เขากลายเป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอาเพน

กษัตริย์มีอำนาจที่จะสั่งการชาวเมืองได้ตามพระประสงค์
เหล่าชาวเมืองจะไม่สามารถปฏิเสธคำบัญชาของกษัตริย์ได้หากพวกเขาไม่อยากตาย
แต่ถึงกระนั้น หากเป็นคำบัญชาที่ไม่มีทางเป็นไปได้ความจงรักภักดีก็จะตกลง และกองกำลังต่อต้านก็จะถูกก่อตั้งขึ้นมา
ท่านสามารถแต่งตั้งชนชั้นสูงได้ เหล่าชนชั้นสูงที่จะตั้งขึ้นมาเพื่อมีหน้าที่จ่ายภาษีและผลกำไรภายในพื้นที่ของพวกเขา
อัศวินองครักษ์สามารถก่อตั้งขึ้นมาได้
ท่านสามารถเลือกศาสนาประจำอาณาจักรได้ ชาวเมืองมากมายนั้นเชื่อในองค์เทพีเฟรย่า เมื่อใดที่ศาสนาประจำอาณาจักรถูกตั้งขึ้น การเผยแพร่ความรู้ทางศาสนาจะราบรื่นมากยิ่งขึ้นเนื่องจากพรของเทพีแห่งความโชคดี
ทว่าก็อาจจะมีการต่อต้านรุนแรงเกิดขึ้นจากศาสนาอื่นๆ
การก่อสร้างพระราชวังนั้นสำคัญต่อการบริหารกิจการภายในและการปกครองของอาณาจักร
กษัตริย์สามารรถทำให้อำนาจเป็นปึกแผ่นได้ ชื่อเสียง เกียรติยศ และเสน่ห์คือสิ่งที่ดีที่สุดในตอนที่ใช้รับมือกับเหล่าชาวเมือง ท่านสามารถรับภารกิจใดๆก็ได้หรือว่าสามารถยึดทรัพย์สินใครก็ได้

 มีเหตุผลที่เราต้องพยายามรวบรวมอำนาจ

แม้ว่าพิธีราชาภิเษกจะจบสิ้นลงไปแล้ว เหล่าผู้เล่นและชาวเมืองก็ยังไม่แยกย้ายไปที่อื่นๆ สายตาของพวกเขายังเปล่งประกายไปด้วยความหวัง นี่เป็นครั้งแรกที่มีราชอาณาจักรก่อตั้งขึ้นบนทวีปเวอร์เซล
แม้ว่าจะมีการปล่อยเครื่องดื่มออกไปจากโกดังก็ยังดูน่ายินดีอยู่ แต่ว่าเมืองโมราต้าเป็นเมืองที่มั่งคั่งทางการเงินดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังมากกว่านั้น

มันคือวิกฤตการณ์ร้ายแรงของวีด! ผู้คนยังคงยืนเบียดเสียดอยู่ภายในจัตุรัสกลางและตามท้องถนน
แล้ววีดก็ใช้ทักษะราชสีห์คำรามอีกครั้ง

โมร้าต้าสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ตั้ง 4 อย่าง
เยยยยยยยยยยย้!
ฮ่าหหหหหหหหหห!

เสียงเชียร์ยังคงกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง

ราชอาณาจักรอาเพนจะกลายเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยม!
ชัยโย กษัตริย์วีด!

บรรดาผู้เล่นใหม่ที่เริ่มเล่นในโมราต้าก็ส่งเสียงตอบดังขึ้นเรื่อยๆ มันดังจนผู้เล่นที่นอกกำแพงเมืองโมราต้ายังได้ยิน จากนั้นก็ยิ่งมีคนเชื่อมต่อเกมเข้ามา เพื่อเข้ามาดูงานราชาภิเษก ตอนนี้มีผู้เล่นมากกว่า 500,000 คนกำลังส่งเสียงเชียร์องค์กษัตริย์วีด!
ไอรีนรู้สึกเป็นห่วงกับสถานการณ์ในตอนนี้

สถานการณ์เริ่มบานปลายแล้วนะคะ เขาจะทำยังไงล่ะทีนี้?”

เพลเองก็รู้สึกเป็นกังวลเช่นกัน แม้ว่าพิธีราชาภิเษกนั้นจะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่สุดท้ายเงินจำนวนมากมายมหาศาลก็คงต้องถูกเอาออกมาใช้อยู่ดี
 ถ้ายังเป็นยังงี้ต่อไปเรื่องคงจะยุ่งยากแน่……

สถานการณ์ของฝูงชนที่กำลังส่งเสียงดังกึกก้องด้วยความรู้สึกที่ปะทุขณะที่พวกเขากำลังรู้สึกถูกกดดัน!
เซอร์กะและเมแพนเองก็เช่นกัน

ฉันละเป็นห่วงจริงๆ เขาจะทำยังไงนะ?
ถ้าลองดูจากนิสัยส่วนตัวของวีด เรื่องใหญ่คงเกิดขึ้นแน่

สิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลกันอยู่หากแต่ไม่ใช่วีด มันคือฝูงชนที่กำลังรวมตัวกันที่เมืองโมราต้าต่างหากล่ะ! วีดมีวิธีที่จะใช้ประโยชน์เอาเปรียบจากกลุ่มคนที่มารวมตัวกันที่นี่ได้ ถ้าหากพวกเขารู้สึกหลงกลกับคำหวานๆของเขา หลายสิ่งหลายอย่างก็อาจจะควบคุมไม่ได้แล้ว

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

 ขณะที่การค้าขายและกองกำลังทหารของราชอาณาจักรกำลังเติบโตและขยับขยายออกไป ดินแดนแห่งนี้ก็จะมีความมั่นคง
ไชโย ฝ่าบาท!
การดูแลเหล่าช่างตีเหล็กและช่างเสื้อก็จะดีขึ้น และพวกเขาก็จะมีสมาธิกับการทำงานของพวกเขาได้
ฝ่าบาท ฝ่ายบาท ฝ่าบาท!
ข้าขอสัญญาว่าข้าจะทำให้นโยบายสนับสนุนเหล่าศิลปินประสบผลสำเร็จให้จงได้
ข้าเชื่อในราชอาณาจักรอาเพน!

ความสุขของฝูงชนเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด
ตามจริงก็มีคนมากมายที่สงสัยในทัศนคติของวีดแต่ก็เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และได้ให้สัญญากับเหล่าผู้คนมากมายหลายกลุ่ม!

วีดไม่มีทางเลือกจึงจำใจต้องพูดอย่างนี้

ชุมชนทางวัฒนธรรมและศิลปะแห่งโมราต้าก็จะได้รับการพัฒนาต่อไป โมราต้าจะกลายเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอาเพน!
เยยยยยยยยย้!

เสียงเชียร์องค์กษัตริย์และอาณาจักรอาเพนยังคงดังสนั่นไม่ขาดสาย
เขาสามารถพูดไปเรื่อยๆได้หากมันช่วยบรรเทาอาการคันของฝูงชนเหล่านั้นได้ หรือแม้แต่ยอมไปข่มเหงเจ้าเหลืองก็ยังได้ เขาเป็นคนที่มีนิสัยใจคอของคนลวงโลกเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว และก็รู้วิธีที่จะทำให้ฝูงชนเหล่านั้นคลั่งได้ยังไง!

หากศิลปะและวัฒนธรรมของเราไม่หยุดที่จะพัฒนา ราชอาณาจักรอาเพนของเราก็จะรุ่งโรจน์ จำนวนผลงานศิลป์ก็จะเพิ่มมากขึ้น การแสดงใหม่ๆก็จะมีอยู่เสมอ!

ถ้อยคำของวีดได้ปลุกเร้าอารมณ์ความคิดที่เห็นพ้องต้องกันของเหล่าผู้เล่นให้ลุกโหม ผู้เล่นหลายคนเพิ่มค่าสถานะของพวกเขาด้วยการมองดูเหล่าประติมากรรมและจิตรกรรมภายในโมราต้า แม้ว่าบางสถานะอย่างค่าความกล้าหาญและเสน่ห์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเอาไปใช้ต่อสู้เท่าไรนัก แต่ค่าสถานะทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นอย่างถาวร ถ้าหากวัฒนธรรมและศิลปะพัฒนาขึ้น คงจะง่ายที่จะเพิ่มค่าชื่อเสียงของผู้คนและใช้มันเพื่อขอภารกิจจากพวกพ่อค้าได้

เพราะงั้นข้าจึงอยากจะสร้างประติมากรรมระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อเฉลิมฉลองวันก่อตั้งของราชอาณาจักรอาเพน และจะให้พวกเจ้าได้เข้าร่วมด้วยหากพวกเจ้าต้องการ!

กษัตริย์วีดคือประติมากรที่เก่งกาจที่สุดบันทวีปแห่งนี้ ผู้ที่กำลังมอบโอกาสที่จะได้เข้าร่วมการสร้างผลงานร่วมกับเขา!

 ได้โปรดให้ข้าทำด้วยเถอะ!
ข้าอยากจะทำด้วย

เป็นได้ยิ่งกว่าที่ไหนๆ ที่เหล่าผู้เล่นโมราต้ากลายมาเป็นคนงานอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเคยข้องเกี่ยวกับการก่อสร้างศูนย์ศิลปะและสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆอีกสี่แห่ง

เหล่าผู้เล่นผู้ที่อพยพถิ่นฐานมาจากราชอาณาจักรโรเซนไฮม์เองก็ยังเคยเจอกับการร่วมก่อสร้างพีระมิดอีกด้วยซ้ำ หากวีดเป่าหูพวกเขาว่าเขาอยากจะสร้างประติมากรรมยักษ์ ฝูงชนก็คงจะน้อมรับพระบัญชาแต่โดยดี แถมเขายังมีกองกำลังสนับสนุนอันน่าเกรงขาม ลัทธิโจ๊กหญ้าที่มีสมาชิกถึง 3,700,000 คน!

 ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไป

ถ้าเทียบสายอาชีพอื่นๆ ค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักนั้นเพิ่มขึ้นค่อนข้างช้า ไม่ว่าจะการรวบรวมวัสดุที่ใช้ทำและยังทำงานด้วยมือล้วนๆมันก็จะใช้เวลานานพอดู เขาเคยสร้างประติมากรรมมามากมายตั้งแต่ที่เลื่อนระดับถึงขั้นสูงเลเวล 8 แต่ว่าการเติบโตของค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเขาก็ยังคงช้ามากอยู่ดี เพื่อที่จะก้าวข้ามมันไปให้ได้ วีดจึงตัดสินใจที่จะไม่สร้างประติมากรรมเพียงลำพังในครั้งนี้

 ภารกิจปรมาจารย์ของฉันยังเหลืออีกเพียงแค่ไม่กี่ขั้น ถ้าภารกิจที่เหลือต้องใช้พวกประติมากรรมสลักชีพออกไปสู้ละก็ มันอาจจะจบเร็วกว่าที่เราคิดก็ได้

หากเขามัวแต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมทำภารกิจยากๆ พวกประติมากรรมสลักชีพก็คงแข็งแกร่งขึ้นไปแล้ว แถมโอกาสที่จะทำภารกิจปรมาจารย์ครั้งนี้ให้สำเร็จก็คงจะเพิ่มขึ้น เขาควรเร่งมือทำประติมากรรมโดยเร็ว และเอาเวลามาเพิ่มค่าทักษะของเขาที่จะสามารถช่วยเขาทำภารกิจที่เหลือของเขาได้อย่างรวดเร็ว
นั่นก็คือภารกิจปรมาจารย์สายอาชีพนั่นเอง!

ชะตาฟ้าลิขิตให้พลิกกลับ ณ ตอนนี้ วีดได้ตั้งเป้าไปที่ขั้นสุดท้ายของภารกิจปรมาจารย์ของเขาแล้ว!

-----ติดตามเล่มต่อไป------

ผู้แปล : Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

9 ความคิดเห็น:

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...