วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เล่มที่ 28 บทที่ 2 บาร์ดเรย์และราชองค์รักษ์ แปลโดย Acid กรด


เล่มที่ 28 บทที่ 2 บาร์ดเรย์และราชองค์รักษ์ แปลโดย Acid กรด


ซาคิน: เก็บกวาดชั้นที่1อย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นดำเนินการเจาะทะลวงเปิดเส้นทางให้เพื่อบาร์ดเรย์ลงไปยังชั้นที่2

        เหล่าราชองครักษ์และนักฆ่ารัตติกาล 2 หมู่จากกิลด์เฮอร์มิส ได้ระดมกำลังเข้าต่อสู้ในเหมืองเมลเบิร์น
กิลด์นักฆ่ารัตติกาล มีมือสังหารไม่ต่ำกว่า 300 คน 2 กลุ่ม จาก 80 มือสังหารชั้นนำที่ถูกคัดเลือกมาด้วยพลังอันน่าหวาดหวั่น
เหล่านักฆ่ารัตติกาลสองกลุ่มนั้นเพียงพอที่จะจัดการกิลด์เล็กๆได้อย่างราบคาบ พวกนักฆ่ารีบวิ่งออกไปพร้อมอาวุธในมือ

        "อ๊าก.ก.ก.ก!"

        "ข้าจะไปจากดันเจี้ยนนี้ ขอชีวิตข้าเถอะ"

        "ทุกคนถูกฆ่าโดยไร้ความปราณี รีบหนีไป เร็วเข้า!"

        ผู้เล่นที่ออกล่าในเหมืองเมลเบิร์นถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น บ้างก็ร้องขอชีวิต บ้างก็สาปแช่งแต่พวกนักฆ่าจากกิลเฮอร์มิสไร้ซึ่งความเมตตา มันเป็นแหล่งรายได้ชั้นดีสำหรับพวกเขา(บาร์ดเรย์)ดังนั้นจึงฆ่าทุกคนไม่ให้ เล็ดรอดออกไปได้ บาร์ดเรย์กับราชองค์รักษ์เดินผ่านซากศพบนพื้นชั้นที่ 2

                        ************************

        "พี่ชาย, พวกเราจะทำยังไงดี? มีการโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวแล้วพวกเราจะตายไหม?"
       
        "ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจริงไหม? พวกเราก็แค่ก้าวไปอย่างระมัดระวัง"

        "นั่นน่ะ...."

        เฮเกลอธิบายเนื้อหาในช่องสนทนาของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ

        "โอ้ว, พวกมันช่างเลวจริงๆ"

        "โชคไม่ดีจริงๆ"

        อลิส(Alice) กับ ไดน์ (Dine)ทำให้วีดรำคาญ แต่เขาเป็นคนชอบดื่มนมให้หมดจนหยดสุดท้าย
แม้ว่านมจะหมดอายุมาสองเดือนแล้ว เพราะฉะนั้นวีดจึงอยู่กับพวกเขาและพบว่าปัญหาร้ายแรงนี่สายเกินแก้แล้ว

        "กองกำลังจากกิลด์สิงโตทมิฬจะหยุดพวกมันได้ ใช่ไหม?"

        "เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นในหลายๆที่ ณ ช่วงเวลาเดียวกัน สงครามกำลังเกินเลย ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะส่งความช่วยเหลือมาที่นี่ "

        กิลด์สิงโตทมิฬมีประสบการณ์ผ่านสงครามมาแล้วมากมาย เฮเกลก็มีประสบการณ์ในการเอาชนะเหนือศัตรูมาแล้วด้วยเช่นกัน
แต่เวลานี้มันเป็นสถานการณ์ที่หายากมากที่พวกเขาจะถูกโจมตี!

        โดยปกติถ้ามีพื้นที่ออกล่าหรือดันเจี้ยน หมู่บ้านก็จะอยู่ในบริเวณนั้นเป็นธรรมชาติ การส่งปาร์ตี้เข้าจู่โจม จัดได้ว่าเป็น
กลยุทธ์ที่อันตราย เพราะไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย

        วีดถอนหายใจเมื่อเขาพบว่ากิลด์สิงโตทมิฬกำลังวุ่นวายมากในการควบคุมสถานการณ์

        "ค่ารักษาพยาบาลลดลงคงเกิดขึ้นตอนนี้ละ" (คงหมายถึง ตายไม่ต้องรักษากันเลย - ผู้แปล)

        "เอ๊ะ?"

        "เป็นอย่างที่ว่านั่นละ"

        เขาคิดว่านี่จะเป็นเรื่องไม่ลำบากที่จะขอบคุณเฮเกล, เพียงแค่มีเหตุร้ายแบบนี่เกิดขึ้นอีกครั้ง

        "ผมไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด ถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนระหว่างที่ กิลด์บีเดนกำลังเข้าโจมตี"

        บางสิ่งแบบนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไม่รู้แม้แต่ตัวตนของศัตรู มันอาจจะสายเกินไปเมื่อพวกเขาประเมินมัน
วีดหยุดการทำประติมากรรมและยืนขึ้น

        "พวกสมาชิกของกิลด์สิงโตทมิฬในเหมืองตัดสินใจจะทำยังไง?"

        "พวกเขาพยายามโจมตีโต้กลับ แต่ผมได้ยินรายงานว่าพวกศัตรูที่ชั้นแรกไม่ได้กระจอกเลย ดังนั้นพวกเราตัดสินใจรวมกำลังกันที่ชั้นสี่"

        "เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ? แล้วฉันจะไปที่นั่นได้ไหม?"

        "คงไม่เป็นไรหรอกถ้าผมจะนำรุ่นพี่ไปด้วย"

        "ขอบคุณ ไปกันเถอะ"

        วีดตรวจสอบกระเป๋าสะพาย

        เขาเก็บอุปกรณ์บางส่วนไว้ในกรณีที่จำเป็นต้องพบกับพวกขุนนางหรือชนชั้นสูง แต่ดาบปีศาจโคลเดอริม(Kolderim’s Daemon Sword),
เกราะทัลล็อค(Talrock’s Armour), โล่โบราณ(the Ancient Shield), ไม้เท้าเทพ(Saint’s Staff), ชุดเต็มยศบัลข่าน(Barkhan’s
full set), สร้อยข้อมือบาฮาราน(Baharan’s Bracelet) และแหวนแต่งงานซึลโร(Seulroeo’s Wedding Ring) ที่มีอยู่ตอนนี้
ถ้าเขาสูญเสียสิ่งหนึ่งสิ่งใดในไอเทมเหล่านี้ไป มันจะส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างใหญ่หลวง

        'ต่อให้พลังของกิลด์สิงโตทมิฬแผ่ขยาย, อำนาจที่แท้จริงของผู้รุกรานก็ไม่ธรรมดา'

        วีดไม่อาจคาดคิดว่าผู้คนในเหมืองเมลเบิร์นเป็นบาร์ดเรย์และกิลด์เฮอร์มิส แม้กระนั้น, พวกเขาจำเป็นต้องมีในเลเวลสูงมาก ถ้าพวกเขาจะก้าวข้ามกิลด์สิงโตทมิฬ การตัดสินจากการแสดงออกของเฮเกลและผู้บุกรุกจำนวนมาก, นี่เป็นวิกฤตครั้งใหญ่จริงๆ เหมืองเมลเบิร์นทั้งหมดเป็นสนามรบดังนั้นการออกจากระบบจึงเป็นไปไม่ได้

        "ลงบันไดไปชั้นล่างๆกันเถอะ"

        วีดมีแผนที่ของเหมืองด้วย ดังนั้นเขารู้เส้นทางคร่าวๆ

        "รุ่นพี่ครับ, ผมจะเปิดทางให้เอง"

        เฮเกลกล่าวขณะที่กระชับดาบและโล่

        "ไม่มีเวลาแล้วตอนนี้"

        วีดชักดาบปีศาจออกมา

        แต่แล้วก็มีความรู้สึกน่าขนลุก! วีดกระโดดข้ามช่องว่างและโจมตีใส่เจ้าเมนชูร่า(Menchura - แมลงสาปพ่นไฟ)
ที่ตัวแข็งทื่อด้วยเสน่ห์ความเป็นผู้นำและจิตวิญญาณการต่อสู้ของวีด มันไม่สามารถแม้แต่จะโจมตีวีดและยังคงสั่นสะท้านอย่างน่าสมเพช

        ฉับๆ!

                - เจ้าเมนชูร่าได้ตายลงจากการโจมตีแบบล้างผลาญ

        เขาไม่ได้เล็งไปที่จุดสำคัญเลย มันตายจากการถากของดาบปีศาจ! เจ้าเมนชูร่าทั้งหมดที่ปิดกั้นเส้นทางได้ล้มตายเพียงแค่การสัมผัสของวีด

        "โอ้ว?"

        เฮเกลรู้สึกเจ็บแค้นใจ เขาเพิ่มเลเวลมากถึง 330 ด้วยการออกล่ากับกิลด์ของเขา เจ้าเมนชูร่ายังคงเป็นที่น่ากลัวแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับนี้ แต่เพียงแค่การกวัดแกว่งดาบของวีด มันเหมือนเป็นเรื่องตลกและการฆ่าเจ้าเมนชูร่าแทบจะเป็นไปไม่ได้

        'พี่ชายทุกคนที่ก่อตั้งกิลด์สิงโตทมิฬก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก'

        เฮเกลไม่อาจแสดงความสามารถเต็มที่ของเขาในการต่อสู้ เพราะเขาขาดการตัดสินใจและสัมผัสของตนเอง
แต่ผู้เล่นมากมายรวมทั้งเฮเกล ต่างก็อ่อนแอเมื่อเทียบกับเลเวลของพวกเขา

        เมื่อวีดเลเวล 330, เขาได้ต่อสู้กับมังกรกระดูกและออกท่องไปในเมืองโทเดียม
นี่เป็นเพราะเขาเพิ่มค่าสถานะมากว่าส่วนอื่นๆและเขายังยกระดับทักษะอีกมากมายอยู่เสมอ
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นอื่นๆที่เคยชินกับการสวมใส่อุปกรณ์ดีๆและเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ปานกลาง
ขณะที่วีดกำลังกินขนมปังข้าวบาเลย์, ผู้เล่นอื่นๆมีชีวิตท่ามกลางการกินสเต็กเนื้อปรุงอย่างดี

        วีดจัดการเจ้าเมนชูร่าแล้วถาม

        "เมื่อไรกองหนุนจากกิลด์สิงโตทมิฬจะมา?"

        "ผมก็ยังไม่ทราบ ขณะนี้สถานที่อื่นๆมีความเร่งด่วนมากกว่า ผมไม่สามารถบอกเวลาพี่ได้"

        วีดต่อสู้อย่างต่อเนื่องระหว่างที่ทำการสำรวจพื้นที่ บางปาร์ตี้ยังคงออกล่าเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้รับข่าวสารเลยและผู้เล่นบางคนก็พูดคุยกันด้วยเสียงดัง

        "พวกคุณมีข้อมูลอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับศัตรูที่ปิดเส้นทาง?"

        "ผมไม่ทราบเลย"

        "งั้นคุณก็ไม่ทราบสิว่าศัตรูมีจำนวนมากแค่ไหน?"

        "มีข้อมูลนิดหน่อยที่เพิ่งจะมาจากเหมืองเมลเบิร์นเมื่อตะกี้นี้เอง มีพวกมันอย่างน้อย 300 คน"

        "ประเมินเลเวลของพวกเขาได้ไหม?"

        "สถานการณ์กำลังบานปลาย ผู้เล่นคนหนึ่งจากกิลด์ของเราที่ออกล่าในชั้น4 ได้เข้าต่อสู้กับหนึ่งในพวกมันที่ชั้นแรกและเสียชีวิต ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขามีเลเวลถึง 367"

        เมื่อถึงระดับนี้, ไม่ใช่แค่ใบเสร็จเก็บเงินของโรงพยาบาล แต่ค่าประกันก็ต้องจ่ายด้วยเช่นกัน

        'มันเป็นเรื่องอันตรายจริงๆ'

        วีดเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น

        เขาได้เรียนรู้วิธีที่จะมีชีวิตอย่างเหมาะสม(เอาตัวรอด - ผู้แปล) เมื่อเขายังเป็นเด็ก เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากสังคม
ในขณะที่เขาเจริญวัยขึ้น อดทนต่อความอยุติธรรมได้อย่างไร ทำอย่างไรเมื่อการทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย
วิถีทางที่จะเหยียบย่ำเหนือผู้อื่นเพื่อแย่งชิงมันมา
( takeaway - an act of taking the ball away from the opponent
เป็นความหมายในวงการกีฬา หมายถึงการแย่งบอลมาจากคู่ต่อสู้ - จาก facebook English Nid Nid - ผู้แปล)

        "มันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะอยู่อย่างซื่อสัตย์.....ไม่ต้องประหลาดใจคนดีอย่างฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทนทุกข์ทรมานและแค้นเคืองโลกใบนี้"

        "เอ่อ?"

        "ไม่เป็นไร"

        เมนชูร่าฝูงหนึ่งได้มารวมตัวกันที่ทางเข้าลงไปชั้นสาม เจ้าพวกมอนสเตอร์ในเหมืองเมลเบิร์นเกิดการ
ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วมากปรกติ แล้วมันเป็นเงื่อนไขสำหรับการออกล่าที่ดี แต่มันเป็นแค่อุปสรรคในสถานการณ์แบบนี้

        "ฉันจะเปิดทางให้เอง"

        วีดมีทักษะดาบมากมาย แม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนทักษะทั้งหมด, เขาให้ความสนใจกับทักษะพิเศษบางอย่าง

        เพลงดาบจักรพรรดิไร้รูป!( Imperial Formless Sword style)

        มันสามารถใช้ได้อย่างเหมาะสมสำหรับการออกล่าตราบเท่าที่เขาไม่ทำลายอาวุธของฝ่ายตรงข้าม
เขาอาจชนะในการต่อสู้แต่บอกไม่ได้ว่าของดรอปแล้วเขาอาจจะไม่ได้รับอะไรเลยถ้าเขาพลั้งมือทำอุปกรณ์พัง

        เคล็ดมีดแกะสลัก, เพลงดาบเฮอร์ริม และ เพลงดาบประกายแสง, วีดมีทักษะหลากหลายที่สามารถใช้ได้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการต่อสู้
เพลงดาบประกายแสงเป็นการต่อสู้ในวงกว้างโดยใช้แสงได้อันงดงาม

        "ถ้าฉันกินไก่อบทั้งตัวเป็นของว่างเที่ยงคืน มันจะทำให้ฉันไม่สามารถกินเนื้อย่างริบอาย*ได้"

        มีดฆ่าไก่ไม่สามารถใช้ฆ่าโคได้ (น่าจะคล้ายๆ ฆ่าไก่ใยต้องใช้มีดฆ่าโค - ผู้แปล)

        สร้างระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมนชูร่า, โดยใช้เพลงดาบประกายแสงแค่นี้เป็นการเหยียดหยามมอนสเตอร์

        "หา?"

        เฮเกล, อลิซ และไดน์ ไม่เข้าใจความหมายของคำที่วีดกำลังบ่นพึมพำออกมา

        "พี่ชาย, ให้พวกเราช่วยกันสู้เถอะ"

        "ไม่ ฉันจะจัดการมันคนเดียว"

        วีดเดินหน้าตรงเข้าหาเมนชูร่าที่รวมมาตัวกันอยู่ตรงชั้นที่3

        ครี๊ก.ครี๊ก.ก.ก!

        ครุย.ยุ.ยุ!

        เจ้าพวกเมนชูร่าไม่สามารถข่มขู่เขาได้ ในสายตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างล้ำลึก
จิตวิญญาณการต่อสู้ของวีดถูกปลดปล่อยออกมาอย่างร้อนแรงเมื่อเริ่มการต่อสู้

        เทพสงคราม

        วีดต่อสู้ทำศึกมานับไม่ถ้วนกับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ ดังนั้นเจ้าเมนชูร่าจึงพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะต้านทานจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา เจ้าเมนชูร่าหลีกไปด้านหลังแต่
โดยดีเพื่อหลบหนี เพียงแค่คนคนเดียวเคลื่อนเข้าหา แต่แมนชูร่าทั้ง 17 ตัวกำลังวิ่งหนี
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับวีดที่จะทิ้งค่าประสบการณ์ และไอเท็มเพื่อลงไปยังชั้นที่3

        "เคล็ดมีดแกะสลัก!"

        ดาบของวีดพุ่งตรงเข้าหาเจ้าแมนชูร่า

        เหล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดกลายเป็นกองซากภายใต้รัศมีดาบ! มันเป็นเรื่องน่าตกใจกับทุกคนที่ได้เห็นเจ้าแมนชูร่าหายไปพร้อมกันหมด

        เวลานี้เจ้าแมนชูร่าหมดท่าที่จะโจมตีกลับ ถึงแม้ว่ามีแรงกดดันจากจิตวิญญาณการต่อสู้ของวีด
วีดยินดีต้อนรับการโจมตีของพวกมันด้วยร่างกายของเขา วีดอยู่ในสถานะที่เขาไม่ได้สวมเกราะที่เหมาะสม
เพราะมันถูกเก็บไว้

                        -การโจมตีของแมนชูร่าถากคุณไป

                พลังชีวิตลดลง 46

                        - การโจมตีของแมนชูร่าได้โจมตีสำคัญ

                ความอึดของคุณได้เพิ่มขึ้นจากความเจ็บปวด

                คุณได้อดทนต่อความเสียหาย ต้องขอบคุณต่อความยืดหยุ่น

                พลังชีวิตลดลง 159

        วีดรู้สึกจั๊กจี้!

        "มาเก็บกวาดให้เรียบร้อยกัน"

        พวกมอนสเตอร์ที่รวมตัวกันรอบๆทางเข้าชั้นบริเวณ3 หายวั๊บไปอย่างรวดเร็ว วีดจะทำภารกิจปรมาจารย์ของเขา
สำเร็จได้ไม่เพียงแค่ในเหมืองเมลเบิร์น ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถต่อสู้ได้มากอย่างที่เขาต้องการ เขาต้องการให้แน่ใจว่าหลังกวาดล้างพวกมันจะไม่มีชีวิตรอดไปได้สักตัว

        "ว๊าว! พี่ชาย, คุณนี่เยี่ยมสุดๆเลย"

        "แข็งแกร่งมาก! ทักษะการต่อสู้นี้ชื่ออะไรคะ?"

        อลิส และไดน์ เริ่มการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่น่าสนใจ

        เฮเกลใช้เวลาไปอย่างน่าอายและมันเป็นฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

        'อ้า...มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน'

        ช่างประติมากรรมคนแคระวีด! เขาจำได้ถึงการเคลื่อนไหวที่น่าแปลกประหลาดของวีดในดันเจี้ยนคาร์มาดอร์
และเมื่อพวกเขาลงไปยังชั้นที่3, พวกผู้เล่นก็รู้สึกได้และเตรียมรับมือ

        "คนพวกนั้นมาจากไหนกัน?"
       
        "ฉันก็ไม่รู้แต่ดูเหมือนพวกเราต้องสู้กันอย่างดุเดือด ดังนั้นพวกเราจะต้องเตรียมตัวต่อสู้"

        เหล่าสมาชิกกิลด์สิงโตทมิฬกำลังให้คำแนะนำแก่ผู้เล่นที่ลงไปยังชั้นที่4 เหมืองเมลเบิร์นชั้นที่4 เป็นอุโมงค์
ซึ่งทางเข้าแคบเป็นอุปสรรคอย่างมาก ถึงกระนั้นก็เป็นชัยภูมิที่เหมาะกับการต่อสู้ เหล่าสมาชิกเชื่อว่ากิลด์สิงโตทมิฬ
จะส่งกำลังมาเสริมมา แม้ว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นพวกเขาจึงนำผู้เล่นจากชั้นที่3ลงมา

        "รุ่นพี่ครับ,รีบไปกันเร็วๆ"

        เฮเกลจะรู้สึกโล่งใจมากขึ้นถ้าเขาได้อยู่กับสมาชิกในกิลด์ของเขาดังนั้นเขาจึงต้องการเร่งรีบ
แต่วีดมีงานต้องทำที่ชั้น 3

        "ดูเหมือนมีผู้คนมากมายอยู่ข้างล่าง...นี่เป็นโอกาสอันดี"

        "โอกาสแบบไหนกัน?"

        "ฉันไม่สนใจหรอกนะถ้านายจะลงไปก่อน"

        วีดเอาอีเต้อออกมาจากกระเป๋าสะพายและมุ่งหน้าไปยังบริเวณเหมือง ยิ่งเหมืองลึกเท่าไหร่,แร่เหล็กที่เกิดก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น แน่นอนเขายังขุดเอาพวกไพลินออกมา

        แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!

        ได้ไพลินออกมามากมาย ต้องขอบคุณทักษะการใช้อีเต้อของเขา มันเป็นเทคนิคที่ควบคุม
การใช้พลังให้สอดคล้องกับน้ำหนักของอีเต้อและเล็งที่จุดอย่างแม่นยำ มันคล้ายกับการโจมตีที่ใช้ในการต่อสู้กับศัตรูตัวโตๆ

        -คุ คุ อิ อิ อิ

        -ปลดปล่อยความขุ่นเคืองใจของพวกเราเถอะ คนเลวพวกนั้นขังลืมพวกเราไว้ที่นี่เพื่อไห้อดตาย

        -แกต้องเป็นผู้รับใช้ที่ส่งมาจากกษัตริย์ทัลเลน

        วิญญาณแห่งความโกรธแค้นปรากฏกายบริเวณชั้น 3 ทุกๆครั้งที่มีใครสักคนเริ่มขุดเหมือง พวกเขาเป็นอัศวินล้มตายด้วยความเกลียดชังต่อเหล่าผู้บุกรุก การต่อสู้จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาปรากฏตัวเหล่าทหารจึงจำเป็นต้องปกป้องชาวเหมือง และแน่นอน, ชาวเหมืองทั้งหมดต้องเคลื่อนย้ายไปกับกลุ่มปาร์ตี้ที่ออกล่า
นี่เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับนักบวชในการออกล่าด้วยเวทมนตร์ชำระบาปของพวกเขา

        "รอสักครู่"

        - เขาพูดอะไรน่ะ? การแก้แค้นคือความปรารถนาของพวกเรา.....

        "เอ้าเอานี่ไปแล้วกินมันด้วย"

        วีดโยนแอปเปิ้ลให้พวกวิญญาณ

        -แอ๊ปเปิ้ล

        -มันสุกงอมและอร่อย

        พวกวิญญาณปีศาจต่อสู้กันเองเพื่อแย่งแอปเปิ้ล ด้วยความโลภแอปเปิ้ลก็หายไปด้วยการกัดเพียงไม่กี่คำ

        -หวาน

        -ขอกินอีกหน่อยเถอะนะ

        -พวกเราจะไม่ฆ่าเจ้าหรอก

        "ฟิ้ว"

        วีดถอนหายใจขณะที่กำลังเคลื่อนอีเต้อของเขาและเริ่มโยนผลไม้ไปให้ทีละตัวๆ

                        -ความเป็นเพื่อนของคุณกับวิญญาณเพิ่มขึ้น

                สายใยแห่งความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้เกิดขึ้นกับเหล่าวิญญาณในเหมืองเมลเบิร์น

        ถ้าเขามีเวลาแล้วการจับวิญญาณในเหมืองเมลเบิร์นจะไม่เป็นเรื่องยาก เคล็ดมีดแกะสลักและเพลงดาบประกายแสงเป็นเทคนิคที่แม้จะสามารถจัดการกับพวกวิญญาณได้ แต่ขณะนี้กองกำลังที่เป็นอันตราย
ได้เข้ามาในเหมือง ดังนั้นวีดไม่อยู่ในสถานะที่ต้องทำอย่างนั้น

        "ยังมีชีวิต และให้ผลไม้กับพวกวิญญาณ, ชะตากรรมของพวกเขา...."

        วีดร้องเพลงขณะที่เขาเพ่งความสนใจไปที่อีเต้อของเขา

        -ลอยไปลอยมา, ดูนั่นซิ

        -เจ้ากำลังหาอัญมณีสีฟ้าที่ส่องประกายอยู่ใช่ไหม? มีบางส่วนอยู่ทางด้านขวา

        วีดไปขุดยังบริเวณที่พวกวิญญาณบอกเขาและด้วยทักษะการทำเหมืองขั้นกลางของเขาไพลินจำนวนมากก็ร่วงเทออกมา
พวกวิญญาณชอบผลไม้และให้ข้อมูลที่มีค่ากับเขาเรื่องตำแหน่งของเหมือง

                        -หินอัญมณีไพลินขนาดกลางได้ถูกขุดพบ

                โชคเพิ่มขึ้น 1

                        -หินอัญมณีไพลินขนาดใหญ่ได้ถูกขุดพบ

                โชคเพิ่มขึ้น 2

                ระดับความเชี่ยวชาญในทักษะการทำเหมืองเพิ่มขึ้น

        "สำหรับทักษะการทำเหมืองที่ใช้ในภารกิจปรมาจารย์แกะสลัก....."

        มันหมายว่าตัวละครนั้นจำเป็นต้องทำได้ทุกอย่างเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ
เขาต้องการไพลินเพื่อใช้ทำภารกิจให้สำเร็จ ดังนั้นการหาได้เยอะๆจึงเป็นเรื่องดี
เขาจำเป็นต้องใช้พวกมันเพื่อทำประติมากรรม ฉะนั้นความแตกต่างของของขนาดก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน
วีดยังคงก้มหน้าก้มตาขุดต่อไปแม้ว่าจะพอใจในปริมาณบรรดาอัญมณีทั้งหลาย

        "ฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรฉันจะได้ภารกิจแบบนี้อีก"

        ทักษะการทำเหมืองของวีดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่เขาขุดเอาไพลินหลากหลายคุณภาพออกมา
ไพลินนั้นสวยงาม ดังนั้นพวกเขาจะนำไปเข้ากระบวนการทำเครื่องประดับหรือมอบให้ผู้วิเศษอาวุโส,
มันยังเพิ่มคุณสมบัติให้กับพวกดาบและชุดเกราะ เครื่องประดับที่เพิ่มค่าความเสียหายการโจมตีสามารถขายได้ในราคาสูง

        "รุ่นพี่ครับ, ตอนนี้หยุดก่อนเถอะ"

        พวกเขาไม่กล้าผละออกจากวีด ดังนั้นเฮเกลและรุ่นน้องทั้งสองของเขาจึงกระวนกระวายใจ
วีดที่ถูกรายล้อมด้วยเหล่าวิญญาณยังคงง่วนอยู่กับการขุดเหมือง

        -มันอยู่ที่นี่, ตรงนี้

        - มีก้อนอัญมณีขนาดมหึมา....ถ้าเขาต้องการกินของเปรี้ยวดังนั้นเขาควรจะซื้อทับทิมดีไหม? (อดเปรี้ยวไว้กินหวาน?-ผู้แปล)

                                ************************

        กิลด์เฮอร์มิสไม่ได้ประสบความยากลำบากในการกวาดล้างบริเวณชั้นที่ 1 ของเหมืองเมลเบิร์น
มือสังหารจากกิลด์นักฆ่ารัตติกาลกวาดล้างเหล่าปาร์ตี้ทั้งหมด ชื่อของพวกมือสังหารกระพริบเป็นสีแดง

        แต่พวกเขามีทักษะที่จะซ่อนมันไว้ ดังนั้นความฉาวโฉ่ของพวกเขาจึงไม่ได้แสดงให้เห็นเมื่อเข้าไปในหมู่บ้าน
แน่นอน, ถ้าอีกฝ่ายมีการสังเกตที่ยอดเยี่ยม หรือทักษะการตรวจตรา พวกเขาจะถูกค้นพบและความยุ่งยากก็จะตามมา
อย่างไรก็ตามดินแดนในครอบครองที่กิลด์เฮอร์มิสยินยอมนิรโทษกรรมให้กับพวกเขา ดังนั้นพวกมือสังหารจึงไม่สนใจเรื่องความฉาวโฉ่ของพวกเขา

        "ไปกันต่อ"

        บาร์ดเรย์และเหล่าราชองครักษ์ลงไปยังเหมืองใต้ดินชั้นที่ 2 ราชองครักษ์ส่วนหนึ่งได้นำล่วงหน้าไปก่อนแล้วและกำลังเข่นฆ่าผู้เล่น
ด้วยพลังที่เหนือกว่ามากมายมหาศาล ผู้เล่นบางคนพยายามหลบหนีไปตามอุโมงค์ แต่พวกนักฆ่ารัตติกาลก็จับกุมได้และจบชีวิตพวกเขา

                                        ************************

        ยู เบียง-จุน รู้สึกเหมือนว่าเขากลายแก่ขึ้นในทุกๆเช้า
       
        "หวนคิดถึงอดีต, ความเยาว์วัยของฉัน ช่างผ่านไปเร็วนัก"

        เขาไม่รู้ว่าเวลาเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างไร เมื่อตอนที่เขายังหนุ่ม เขาใช้เวลาทั้งหมดในการสร้างสรรค์รอยัลโร้ด
ตอนนี้ร่างของเขากำลังแก่เฒ่าแล้วมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

        ความเสมือนจริงได้ดึงเอาเส้นทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติออกมาได้อย่างชัดเจน มีศักยภาพต่อการพัฒนาในอนาคตแต่ ยู เบียง-จุน คิดว่าเขาอาจจะไม่ได้เห็นมัน
       
        "สักวันหนึ่งฉันอยากจะอยู่อย่างเงียบๆในสถานที่ที่ผู้คนไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน"

        เมื่อมองย้อนกลับไปความทะเยอทะยานได้เผาไหม้ในตัวเขาแน่นอนเพิ่มภาระและทำให้ชีวิตดำเนินไปด้วยความยากลำบาก ยู เบียง-จุน ต้องการหาผู้สืบทอดต่อจากเขา ดังนั้นเขาจึงเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นในรอยัลโร้ดเป็นประจำทุกวัน

        "ติ๊ก ติ๊ก, ความโลภไม่มีสิ้นสุด ถ้ามันไม่หยุดลง...."

        ความโลภของกิลด์ขนาดมหึมา ความโลภของมนุษย์ย้ายไปอยู่ในกลุ่มชนและก่อให้เกิดข้อพิพาทอันไร้ที่สิ้นสุด
นี่คงสามารถเรียกได้ว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้น ยู เบียง-จุน จึงเฝ้ามองมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน

        "โมราต้า...อาณาจักรอาร์เพ่นอาจจะกลายเป็นเมืองค่อนข้างใหญ่ การเติบโตก็ค่อนข้างเร็วจนน่าประหลาดใจ"

        ไม่มีสิ่งใดอาศัยในแดนเหนือ ดังนั้นมันจึงเป็นพื้นที่อัตคัดขัดสน การผจญภัยของวีดที่ได้รับนั้นเกินความคาดหมายอย่างแท้จริง เขาได้ผ่านการผจญภัยมามากมาย เนื่องจากการเป็นประติมากรแสงจันทร์ในตำนานและการยกระดับอาณาจักร
การกระทำของเขาเป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ในโลกที่ปกครองโดยเหล่ามอนสเตอร์, ดาบ และเวทย์มนต์

        "ถ้าฉันเล่นรอยัลโร้ด เป็นไปได้มากว่าฉันจะเริ่มในโมราต้า"

        ถ้าผู้คนถูกรวบรวมเข้าด้วยกันนั้น พลังอันมหาศาลก็จะก่อเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ยู เบียง-จุน ได้เห็นเหตุการณ์หลากหลายที่เกิดขึ้นทุกวันในโมราต้า

        นักผจญภัยประสบความสำเร็จกลับมาพร้อมกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ นักรบออกไปยังสถานที่ห่างไกลมากขึ้นในการออกล่าและนำข่าวการมีชัยในดันเจี้ยนกลับมา นักกวีประสบความสำเร็จในการจัดการแสดงอันยิ่งใหญ่ ช่างตัดเสื้อทอผ้าอย่างพิถีพิถันเหมือนกันกับช่างตีเหล็กเพื่อพัฒนาทักษะของพวกเขา ประติมากรและจิตรกรสร้างงานศิลป์ที่งดงามตามถนนหนทาง คนสวนดึงเอาวัชพืชออกไปพร้อมๆ กับปลูกดอกไม้และต้นไม้ที่มีราคา

        โมราต้าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทุกส่วนเริ่มทยอยดีขึ้นทุกวัน ความมหัศจรรย์ที่ไม่เด่นนี้จะนำไปสู่การเป็นอาณาจักร
นี่เป็นเหตุผลที่ยู เบียง-จุน เฝ้ามองวีดอยู่บ่อยๆ ขณะที่สงครามแบ่งเมืองบนทวีปเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับพวกมือใหม่, โมราต้าเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ดีได้อย่างน่าประหลาดใจ นอกจากนี้, ปัจจุบันวีดเป็นส่วนหนึ่งของคู่แข่งในอนาคตข้างหน้าผู้ที่กำลังแข่งทำภารกิจปรมาจารย์

        "เขาอาจจะเจอเข้ากับบาร์ดเรย์ในเหมืองเมลเบิร์น"

        ทั้งสองคนไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ในดันเจี้ยนเดียวกัน โดยปรกติแล้วคนเป็นล้านเฝ้าดูการผจญภัยของบาร์ดเรย์และวีดแต่เหตุการณ์ปรกติทั่วไปแล้วหมายถึงว่ามันไม่สามารถออกอากาศสดได้ มีเพียงคนเดียวที่เห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบคือ ยู เบียง-จุน

        "จะเกิดอะไรขึ้นอีก....."

        ยู เบียง-จุน จับจองหน้าจอด้วยอยากรู้อยากเห็น

        แล้วเขาก็กระวนกระวายใจมากขึ้นเมื่อเขาได้เฝ้ามองวีดขุดเหมืองไพลินอย่างต่อเนื่อง

                                                ***************

        "นี่มันมากไปไหม?"

        ตาของวีดเป็นประกายเมื่อเขามองไปยังบรรดาก้อนไพลินในตะกร้า เขายังได้แร่เหล็กเกรด 2 และ 3 ค่อนข้างมาก
พวกแร่ธาตุมีน้ำหนักค่อนข้างมากแต่เขาไม่คิดเลยว่าพวกมันหนัก

        "เพื่อที่จะทำเงินในดินแดนนี้ ... เป็นการเรียนรู้ที่มีคุณค่ากับทักษะการทำเหมือง"

        มันเป็นทักษะหนึ่งที่ใช้ทำเงินได้ในรอยัลโร้ด

        "เวลานี้ฉันจะขุดต่ออีกสักนิด"

        "รุ่นพี่ครับ, พวกเราต้องรีบไปกันแล้ว ไม่มีเวลาให้เสียกับที่นี่อีกแล้ว

        เฮเกลกล่าวข้างๆวีด เขารู้สึกหงุดหงิดเมื่อพบว่าเหมืองเมลเบิร์นถูกโจมตี ในขณะเดียวกันกิลด์สิงโตทมิฬกำลังรวบรวมผู้เล่นอยู่ที่ชั้น 4  เฮเกลเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและต้องการเข้าร่วมกับพวกเขาทันทีแต่วีดกำลังทำบางสิ่งที่ไม่คาดดิด

        'เลเวลของรุ่นพี่มีความสำคัญ ผมสามารถบอกได้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาไม่ธรรมดาเพียงแค่ผมได้เห็นจากการต่อสู้เพียงเล็กน้อย เขาจะมีประโยชน์มากในศึกวันนี้ เสียแต่ว่าถ้าผมไม่สามารถแงะเขาออกจากไพลินพวกนี้ได้.....'

        วีดตกอยู่ใต้มนต์เสน่ห์ของไพลินเข้าเต็มเปาซะแล้ว เขาได้รับอัญมณีและสินแร่จากคำบอกเล่าฟังของพวกวิญญาณ
ถ้าเขารวมทักษะการแกะสลักและช่างตีเหล็กของเขาในอนาคตเพื่อหารายได้อย่างนั้น เขาคงจะพอใจได้จริงๆ

        "พี่ชายคะ ไปกันเถอะ เร็วๆ"

        "คุณไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ที่นี่!"

        ไดน์และอลิสไม่สามารถรั้งรอการสนทนาของพวกเขาได้อีกต่อไป ความทรงจำเรื่องพรสวรรค์ของวีดเมื่อต่อสู้กับเมนชูร่าได้สูญสลาย
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญเพราะวีดกำลังยุ่ง

        "คริ คริ คริ เจ้าไพลิน เป็นสินค้าชั้นนำที่ไม่มีรอยขีดข่วนใดๆ"

        วีดไม่ควรขุดแร่อย่างประมาท เขาจำเป็นต้องระมัดระวังเมื่อใดก็ตามที่เขาพบไพลิน ถ้าเขาไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆกับพื้นผิวของอัญมณีด้วยอีเต้อ ราคาจะสูงขึ้นได้อีก

                                        ************

        ยูรินได้พบผู้คนมากมายดั่งสาวนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างเสรีไปทั่วทวีปเวอร์เซลล์
               
        "นี่คุณจิตรกรสาวแสนสวย, ผมจะขอให้ช่วยอะไรหน่อยได้ไหมครับ?"

        ชายที่สวมชุดยาวของผู้วิเศษเดินเข้ามาใกล้

        "ความเข้าใจในการใช้สีของคุณดีมาก ผมอยากได้สักภาพ.....ผมจะซื้อเครื่องดื่มให้คุณด้วยแล้วเรามาคุยกัน"

        อัศวินนายหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้

        "ผมสามารถมอบภาพนี้ที่ผมขุดค้นพบให้คุณยูริน ได้ไหม?"

        นักผจญภัยซื้อภาพที่ได้เขียนขึ้นนานมาแล้ว เธอชอบวาดภาพเมืองและทัศนียภาพสวยงามที่เห็นขณะที่พูดคุยกับผู้คน
พวกผู้เล่นและชาวบ้านบางครั้งเล่าถึงเรื่องราวให้เธอฟังเกี่ยวกับเส้นทางลับและดอกไม้บานสะพรั่งในหุบเขา

        "สถานที่นี้ยังถูกซ่อนไว้ วาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

        ระหว่างที่ดื่มนมและทานขนมปังข้าวบาเลย์, ภาพวาดยังคงอยู่ในความคิดของเธอไม่ใช่เพียงบนผืนผ้าใบ
เธอยังหลงอยู่ในความคิดขณะวาดภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม, และมีความสุขไปกับอิสระ และเป็นเวลาที่น่าพอใจจนกระทั่งมันเสร็จสมบูรณ์ เธอยังพูดคุยกับผู้คนระหว่างที่วาดภาพเหมือน มันอยู่ในขอบเขตที่เป็นเพื่อนของเธอและความสัมพันธ์นั้นไม่สามารถละเลยได้

        แต่ยูรินก็มีความสุขมากเมื่อเธออยู่ในโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้ เธอออกล่ากับพวกมือใหม่และแจกภาพวาดเล็กๆน้อยๆ

ความสามารถในการวาดภาพของเธอก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

        "หนูอยากไปทานอาหารด้วยกันไหม? พี่รู้จักกุ๊กฝีมือดี พี่คิดว่าเธอจะต้องชอบมัน"

        บางครั้งยูรินเจอกับฮาวายองที่มีช่วงเวลาออกล่าอย่างยากลำบากกับพวกนักดาบ

        "ตกลงค่ะ พี่สาว"

        ทั้งสองได้ทานอาหารและชมการแสดง โมราต้าเป็นเมืองแห่งศิลปะและการแสดง ดังนั้นสัดส่วนของผู้เล่นหญิงจึงสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นๆ

        "คุณวีดเมื่อตอนเป็นเด็กนี่เจ๋งใช่ไหมคะ?"

        "เขา...เขาตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนูสวมชุดชั้นในหนาสองชั้น แม้กระทั่งในบ้าน"

        สองสาวสนทนาเรื่องวีดกันบ่อยๆ ยูรินมีความสัมพันธ์พี่น้องร่วมสายโลหิตที่ดีกับวีดขณะที่ฮาวายองก็สนใจเขา

        "ว่าแต่ฉันถามได้ไหมว่าเธอสองคนเคยทะเลาะกันบ้างไหม?"

        "เมื่อตอนที่หนูยังเด็ก หนูเคยเข้าใจพี่ชายผิด แต่ตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่หนูรักมากที่สุดในโลก"

        "ช่ายเลย เชื่อว่าไม่มีอะไรที่ต้องทะเลาะกัน ฉันถามอะไรที่ไม่จำเป็นเลย"

        ยูรินกับวีดมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเหมือนอย่างที่ฮาวายองคาดไว้

        "ไม่เลย พี่สาว หนูยังรู้สึกโกรธพี่ชาย...แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นบางครั้งเมื่อนานมาแล้ว"

        "หนูทำอะไรเหรอ?"

        "มันเป็นเรื่องเมื่อหน้าหนาวที่แล้ว"

        นัยน์ตาของยูรินเปียกชุ่มเพียงแค่คิดถึงมัน

        "รองเท้าบูทกันหนาวคู่นั้นที่หนูอยากซื้อจริงๆ...."

        เด็กสาวที่อยากสวมรองเท้ากันหนาวหนังแกะในหน้าหนาวเพราะว่ามันเจ๋งและน่ารัก แต่เหตุผลหลักก็เพราะมันอุ่นและใหญ่ ดังนั้นมันจึงสวมใส่ได้สบาย ยูรินอยากสวมเจ้ารองเท้าบูทเมื่อต้องเรียนในห้องสมุด

        "หนูขอให้พี่ชายซื้อบูทคู่นั้นให้หนู"

        "แล้วไง?"

        ดวงตาของฮาวายองกระพริบครั้งหนึ่งเธอรู้สึกเห็นใจเรื่องราวเกี่ยวกับรองเท้า

        "เขาซื้อบูทกันหนาวสวยๆให้หนูไหม?

        พวกผู้ชายมักจะไม่ค่อยมีการตอบรับกับเรื่องรองเท้าหรือกระเป๋าสตรีมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผู้ชายหลายคนที่ไม่ชอบรองเท้าบูทกันหนาว

        "เขาไม่ได้ซื้อมัน เขานำมันมาเป็นคำประกาศเลยว่าปล่อยให้เท้าของหนูเย็นแล้วให้ ถุงเท้าหนู...."

        "อึ๋ย!"

        "แต่มันเป็นถุงเท้าหนาที่ไม่อุ่นสบายกับรองเท้า เขาทึกทักเอาว่ารองเท้าบูทมันก็เหมือนๆกันหมด แม้ว่าจะอธิบายเรื่องรองเท้าบูทกันหนาว ฮือๆ"

        ฮาวายองตบไหล่ยูรินด้วยความรู้สึกท่วมท้น

        มันเป็นเรื่องเศร้าที่สุดที่เธอได้ยินมาสดๆร้อนๆ
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

8 ความคิดเห็น:

  1. พี่วีดครับ พี่โดนตามล่าอยู่นะครับ

    ตอบลบ
  2. กิลด์สิงโตทมิฬจะได้มาสยบต่อท่านวีดแล้วล่ะมั้ง

    ตอบลบ
  3. เลี้ยงวิญญาณด้วยแอพเปิ้ล มึงก้อมักกินเนอะบักวิญญาณ
    แล้วยังชี้เป้าแลกผลไม้อีก

    ขุดเหมืองกลางสงคราม
    แล้วพี่จะขนออกไปยังไงคับพี่

    ตอบลบ
  4. วิญาณนะไม่ใช่ยมทูต ให้กินแอปเปิ้ลซะกูนึกว่าลุคเลย

    ตอบลบ
  5. ไหนว่าปกป้องไพลินไง ชี้จุดให้อีก คงได้กระทู้ใหม่ "ให้อาหารวิญญาณ จะขุดได้ไม่ต้องสู้"

    ตอบลบ
  6. ว้าว...โลภมาก​จริง
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...