วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 27 ตอนที่ 7 องค์ราชาของอาณาจักร แปลโดย Cole’s Myth


เล่ม 27 ตอนที่ 7 องค์ราชาของอาณาจักร แปลโดย Cole’s Myth


อาจจะเป็นเพราะว่ามีสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ถึงสองแห่งที่ถูกสร้างขึ้นในโมราต้า ทำให้มีผู้คนเข้าเมืองจนเนืองแน่นอย่างต่อเนื่อง

มีการขยายอาณาเขตตัวเมืองออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างการขยับขยายถนนหนทาง และจัตุรัสที่ดูกว้างขวางมากขึ้น แถมยังมีการขยายชุมชนไปยังแถบชานเมือง จนตอนนี้มีตึกรามบ้านช่องสร้างขึ้นมาบ้างแล้ว

โอ้โห นี่สินะโมราต้า!

สิ่งก่อสร้างพวกนี้ใหญ่โตมโหฬารจนแทบไม่น่าเชื่อเลย ใหญ่กว่าที่คิดซะอีก

มันก็เหมือนที่ฉายตามช่องออกอากาศนั่นแหละน่า แถมยังมีผลงานศิลป์เต็มไปหมด..นี่มันเสียงเพลงนิ..มีคอนเสิร์ตด้วยหรอ ลองฟังดูสิ

ไปดูเร็วเข้าๆ!

เพราะว่ามีจิตวิญญาณของเหล่าผู้เล่นใหม่เกิดขึ้นภายในเมือง แถมยังมีผู้คนทั่วไปอีกเป็นจำนวนมาก จนทำให้แทบจะไม่มีพื้นที่ให้ขยับไปไหนมาไหนภายในเมืองได้เลย
-         จำนวนประชากรและเศรษฐกิจของเมืองโมราต้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากสภาพการค้ามีการเคลื่อนไหวจากการผลิตและบริโภคอยู่เสมอ เศรษฐกิจของเมืองจึงมีความเฟื่องฟู
เนื่องจากความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจนี้ จึงช่วยเพิ่มอัตราการผลิต 25% และคุณจะเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอีก 10% จากผู้อยู่อาศัยภายในเมือง

วีดอยากเพิ่มภาษีมากจนแทบทนไม่ไหว!

ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตนี้มีผลเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ก็ยังคงความจริงที่ว่าเขาอยากเพิ่มภาษีขึ้นมา นี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเขา

***

วีดเดินไปแถวทะเลสาบและแม่น้ำที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อเอาดินมาทำเครื่องปั้นดินเผา

ขณะเดียวกัน การซ่อมบำรุงที่อยู่ภายในปราสาทของเจ้าเมืองก็เสร็จสมบูรณ์ จากเดิมที่ห้องเหล่านั้นเคยเต็มไปด้วยบานหน้าต่างแตกหัก หยากไย่ และฝุ่นละออง รวมถึงอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย ส่วนห้องว่างๆก็กลายไปเป็นคลังเก็บอาหารและอาวุธ คอกเลี้ยงม้า โรงเก็บไวน์ ห้องค้นคว้า และห้องนอนส่วนตัวที่แสนสะดวกสบายของท่านลอร์ดก็ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยในขณะที่วีดกำลังปลูกต้นพืชภายในสวน

ถ้างั้น เรามาเริ่มทำมันแบบเบาๆมือกันก่อนดีกว่า

ภายในห้องนอนที่อยู่ในปราสาทของเจ้าเมือง เขาไม่ได้กำจัดพวกประติมากรรมไม้และหิน หรือแม้แต่แจปเท็มที่อยู่ภายในนั้นด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าพวกมันอาจจะเกี่ยวข้องกับภารกิจก็ได้ แถมยังมีกองดินพูนแยกออกเป็นชนิดๆอยู่เต็มไปหมด

เรามาทำเหมือนอย่างที่เคยดีกว่า!

ฮวายองและเบลลอตที่ดูเหมือนจะยึดติดกับเครื่องปั้นดินเผาของวีด พวกเธอต่างพากันอยากจะเข้าไปร่วมสนุกกับการปั้นพวกมันอย่างกระตือรือร้น ดังนั้นพวกเธอถึงไปที่ปราสาทเจ้าเมืองพร้อมกับไอรีน

ส่วนคนอื่นๆที่มีจุดประสงค์แตกต่างออกไป ก็ได้พากันแยกย้ายออกเดินทางไปยังตัวเมืองโมราต้าผ่านทางทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายของยูริน
บางคนก็เอาอุปกรณ์ของพวกเขาไปตรวจสภาพ ขณะที่บางคนก็ไปเดินเล่นที่จัตุรัสภายในเมือง

เอ่อออผมจองที่นั่งเอาไว้ที่ร้านอาหารนะ อยากไปด้วยกันไหมครับ?”

เซเฟอร์ชวนยูรินไปเลี้ยงอาหารอร่อยๆ

ฉันหิวจริงๆถ้างั้นโอเค

เช่นนั้นเอง ทั้งสองคนก็เดินหายไปในถนนและร้านค้าที่เต็มไปด้วยผู้คนคับคั่ง และแน่นอนวีดในฐานะลีฮุนก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาได้อยู่กันตามลำพังแน่ๆและส่งคนคอยติดตาม

วีดได้ขอร้องซอยูนเป็นการส่วนตัว

 แอบตามพวกเขาไปนะ ถ้าหากว่าพวกเขาจับมือกันหรือว่าเข้าไปในซอยเปลี่ยวๆ หรือเธอสงสัยว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นฆ่ามันได้เลยนะ

ถ้าหากว่าซอยูนคิดจะฆ่าใครซักคนล่ะก็ เธอคงทำมันทันที ไม่มัวมาเสียเวลาให้ยุ่งยาก

วีดอยากจะคลายความกังวลลงบ้างและอุทิศตัวเองตั้งหน้าตั้งตาทำเครื่องปั้นเผาเพียงอย่างเดียว

ความโค้งกำลังดี แถมรูปร่างก็ทำออกมาได้งดงามมาก การขัดเงาผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้ดูมีสีสันสวยงาม แลมีความเป็นเครื่องเคลือบเซรามิคจริงๆ มันดูไม่แตกต่างจากงานศิลปะเลย!

 ค่อยๆใช้มือช้าๆ ฉันต้องกดลงไปเบาๆแทนที่จะใช้แรงบีบมัน

วีดกำลังปรับเครื่องปั้นให้เป็นรูปเป็นร่าง ขณะที่เจ้าเดิร์ทแมน(Dirtman = มนุษย์ดิน, มนุษย์ฝุ่น) ก็พลิกแผ่นหินไปด้วย

หัตถ์แห่งจิต(Mind Hand)!

ถึงแม้ว่ามือที่สามนั่นจะมีรูปร่างแปลกๆไปบ้าง เขาก็ไม่วอกแวกและเพ่งสมาธิอยู่กับการทำเครื่องปั้น การเคลื่อนไหวนิ้วของเขาปรับเปลี่ยนไปตามชนิดของดินที่ใช้ทำ หากมีการใช้แรงกดมากเกินไป มันแทบจะทำให้เครื่องปั้นนั้นแตกเป็นชิ้นๆได้เลยในทันที

ในช่วงเวลานั้นขณะทำเครื่องปั้น บรรดาเครื่องปั้นที่วีดทำขึ้นมาแทบจะไม่มีความผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นเลย เครื่องเซรามิคที่มีด้ามจับถูกทำขึ้นมาจนสำเร็จด้วยความงามตามสัดส่วนที่ได้อย่างโดดเด่น
แถมยังมีเครื่องปั้นอีกมายมายที่ทำขึ้นมาให้มีพื้นที่ภายในกว้าง เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องใส่อะไรลงไป

 พลังแห่งจินตนาการไม่มีขีดจำกัดหรอกนะ ฉันจะสร้างอะไรที่ไม่ธรรมดาให้ดู

ทักษะการแกะสลักราวกับปรมาจารย์ ความทนทานของผลงานก็ค่อนข้างสูง คงเป็นเพราะทักษะงานฝีมือที่เขามีอยู่ ทำให้ตอนนี้ดินเหนียวที่ใช้ปั้นแทบจะมีไม่มากแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะสร้างให้มันมีรูปร่างเพรียวและเบาบาง มันดูไม่มีทีท่าว่าจะแตกได้ง่ายๆเลย ไม่มีขีดจำกัดในเรื่องรูปร่างของการสร้างสรรค์เครื่องปั้นจริงๆ

แถมเขายังปั้นไวเวิร์นที่กำลังพ่นน้ำออกมาจากปาก และยังมีเจ้าเหลืองผู้ใสซื่อที่เขาปั้นมันออกมาให้เป็นคนโทที่ดูเตะตาสุดๆ หรือแม้กระทั่งสร้างผลงานออกมาอีกหลายชิ้นที่มีคุณค่าทางศิลปะต่ำๆทว่ากลับเป็นที่เตะตาสำหรับคนทั่วไป
และพิเศษอย่างยิ่ง เครื่องปั้นดินเผารุ่นลิมิตเต็ดอีดิชั่นที่ได้ถูกทำออกมามากมาย!

ยิ่งทำให้มันหายาก ราคาของเครื่องปั้นก็ยิ่งสูงขึ้น ดังนั้นเขาจึงปล่อยของออกมา 12 ชิ้นในแต่ละแบบ การใช้รูปวาดลงไปในเครื่องปั้นก็เป็นอีกเคล็ดลับหนึ่งของวีดเพื่อใช้ในการเพิ่มราคา

เป็นคนโทที่สวยจริงๆ แต่ตรงนี้มันกว้างไปหรือเปล่านะ?”

ฮวายองที่นั่งข้างๆเขาก็ให้กลวิธีหลายอย่างกับเขาเช่นกัน จากคำพูดของเธอที่บอกว่าพวกคนโทนั้นก็สวยดีอยู่หรอก แต่ว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับรสนิยมของคนจนซักเท่าไร

เบลล็อตที่ดูใจเย็นก็ปั้นชามดินเผาออกมาสวยพอตัวจากพรสวรรค์ที่เธอมีอยู่แล้ว ทว่าเพราะเธอไม่มีทักษะหัตถกรรมจึงทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับเธอพอสมควร  ในทางกลับกันไอรีนทำได้เพียงแค่แจกันดอกไม้เรียบๆง่ายๆสำหรับเอาไว้ใช้ปลูกดอกไม้ตามกระท่อม  

รูปร่างพื้นฐานแบบนี้ควรจะให้มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมัน งั้นทำส่วนที่เหลือก่อนละกัน

วีดใช้น้ำที่มีอุณหภูมิต่างกันตามชนิดของดินเหนียวและเครื่องปั้นที่เขาอยากจะปั้น

ดินเหนียวจะแห้งกรอบในที่ร่มเพราะยังไม่ได้เคลือบ ขณะที่รอให้น้ำและดินเซรามิคที่ต้องใช้เวลาเพื่อผสานให้เข้ากัน สีของมันก็จะเปลี่ยนไปอย่างลึกลับ

วีดใช้เครื่องเคลือบที่เขาเก็บมาจากวัตถุดิบตามธรรมชาติเพื่อทำให้มันเป็นเซรามิคเครื่องลายครามที่มีสีขาวและน้ำเงิน
ขั้นตอนการเผาเครื่องปั้นก็ไม่ได้ใช้กลวิธีที่ใช้กันแบบปกติธรรมดาในการทำเครื่องปั้น แต่ว่าก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนักเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องปั้นที่เขาเคยทำมาก่อน

น่าจะดูดีแล้วนะ ถ้าเราวาดรูปหรือแกะสลักเพิ่มเข้าไปด้วยล่ะ

เขาใช้ดินเหนียวก้อนหนึ่งเพื่อปั้นคนโท จากนั้นก็ใช้มีดแกะสลักรูปบนพื้นผิว

ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามแกะสลักรูปออกมาให้มีรูปร่างเด่นชัดแค่ไหนก็ตาม ลักษณะรูปร่างก็มักจะแปรเปลี่ยนไปอยู่ดีหลังจากที่มันโดนความร้อนอบหรือว่าผ่านการเผา

หลังจากที่เผามันอีกครั้งในเตาเผา สีของดินก็ยังติดอยู่เหมือนเดิมขณะที่สีจากการวาดภาพลงบนเซรามิคก็เปลี่ยนไป

ถึงแม้ว่าวีดจะไม่สามารถวาดรูปลงไปเหมือนกับการวาดลงบนกระดาษขาว แต่การใช้กลวิธีแบบกัดกรดบนเครื่องเซรามิคก็เป็นอีกทางหนึ่ง ที่ทำให้ผลงานดูพิเศษขึ้นเช่นกัน ประติมากรรมและจิตรกรรมเป็นอะไรที่แตกต่างกันมาก และนี่ก็ถือเป็นการฉีกกฎทั่วไปที่ผู้คนรู้จัก

วีดตระหนักได้ว่าเขาสามารถสร้างความหลากหลายภายในผลงานประติมากรรมของเขาร่วมกับงานจิตรกรรม

ความเชี่ยวชาญทักษะจิตรกรรมเพิ่มขึ้น

จริงๆแล้วสิ่งที่ช่างฝีมือทั้งหลายควรจะรู้ก็คือ คนเราต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอเมื่อทำงาน

ในตอนนั้นนั่นเอง ทักษะจิตรกรรมก็กลายเป็นอีกหนึ่งในเป้าหมายของวีด

จากนั้น ขั้นตอนสุดท้ายในการทำเครื่องปั้นให้สำเร็จก็คือการเอาไปใส่ในเตาเผา
บางสิ่งบางอย่างจะงดงามจริงๆ บางทีเราก็ต้องดูก่อนว่าสิ่งๆนั้นจะออกมาเป็นยังไง

ดวงตาของฮวายองและเบลล็อตลุกโพลงสดใสขณะที่พวกเธอมองไปยังเครื่องปั้นชิ้นนั้น

ดินเหนียวสีขาวนวลน้ำนมมันวาวดั่งปุยหิมะได้ปรากฏออกมา

เครื่องเซรามิคสีเขียวตัดน้ำเงินของมวลดอกไม้และฝูงสัตว์ป่าถูกปลดปล่อยออกมาดูมีชีวิตชีวาถึงแม้ว่ามันพึ่งจะออกมาจากเตาเผาได้ไม่นาน!

ในที่สุดหลังจากการพยายามเคลือบแบบหยาบๆซ้อนทับกันไปมาถึงสามครั้ง พวกเธอใช้น้ำล้างมันออกอย่างพิถีพิถันด้วยความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณแห่งวารีและปฐพีของวีด จากนั้นทั้งสองก็เอาแต่จับจ้องมองไปที่ความงดงามที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาด้วยตาทั้งสองข้าง

ประติมากร ช่างทำเครื่องปั้นดินเผา และจิตรกร คงไม่พูดเกินไปหรอกว่าพลังแห่งมนตราได้ปรากฏอยู่ตรงปลายนิ้วพวกเขาแล้ว

 ฉันยังคิดอยู่ว่าจะวาดอะไรตกแต่งลงไปเพิ่มอีกนิดนึงควรจะวาดยังไงให้มันสวยขึ้นนะ?”

ด้วยผลงานประติมากรรมชิ้นนี้ของวีด ตอนนี้เขาจึงกำลังพยายามปีนป่ายขึ้นไปให้สูง เพื่อไปให้ถึงขั้นปรมาจารย์ให้ได้

มันคงจะดีที่สุดที่จะแกะสลักลวดลายหรือว่าวาดภาพลงไปบนดินเหนียวขณะที่มันยังชื้นๆอยู่ แต่อย่างไรก็ตามเครื่องปั้นชิ้นนี้ก็คงจะพูดไม่ได้ว่าเป็นประติมากรรมบริสุทธิ์

ความสมดุลของดินเหนียวและไฟ.มันควรจะมีความรู้สึกของการมีชีวิตเหมือนกับพวกประติมากรรมสลักชีพพวกนั้น..

วีดกำลังครุ่นคิดว่าจะทำยังไงให้เครื่องปั้นออกมามีหลากหลายสไตล์ออกมา รูปแบบสีสันที่สลักลงไปบนเครื่องปั้นในช่วงนี้มันดูจำเจมากเกินไป ส่วนการเคลือบก็เข้าถึงความรู้สึกไม่ค่อยได้แถมยังดูไม่โดดเด่นอีก เพราะมันมัวฝังตัวอยู่แต่กับการใช้ลวดลายและการวาดรูปลงไป

ฉันควรลองใช้สีสันที่ต่างออกไปตอนวาดภาพลงบนเซรามิค แทนที่จะมัวแต่บังคับให้สีดินเหนียวเปลี่ยนไปตามการใช้ทักษะการวาดภาพกับการเคลือบ งั้นลองมาใช้เอกลักษณ์ตามธรรมชาติของเครื่องปั้นกันดีกว่า

เขาใช้มีดแกะสลักลวดลายลงไปอย่างคล่องแคล่ว เน้นเฉพาะบริเวณที่เป็นสีขาว ดินเหนียวที่ถูกเผาในเตากลายเป็นสีแดงบ้าง สีดำเข้มบ้าง และหลังจากที่เอาไปอบในเตาแล้ว สิ่งที่ได้อกมาก็คือ เซรามิคสีฟ้าใสปนดำตัดกับลวดลายสีขาวนวล

คี๊ฮ่า!

ชิ้นนี้โคตรสวยเลย!

ถึงแม้ว้าวีดจะไม่สันทัดเรื่องการวาดภาพ แต่สีของเครื่องเซรามิคก็ยังดูสวยมากอยู่ดี ถึงแม้คนพวกนั้นจะไม่มีตาให้มองก็ตาม
รูปภาพที่ฝังอยู่บนเครื่องเซรามิคดูมีพลัง ตามด้วยเส้นที่ดูนุ่มนวลและประณีต

สังคโลกแห่งมวลพฤกษา
ค่าความคงทน: 33/33
ผลงานของประติมากรวีดที่ได้พรรณนาถึงความงดงามของดินเหนียว
ความอัจฉริยภาพในความแก่งกาจของเขาที่สรรสร้างศิลปะแบบใหม่ขึ้นมาบนทวีป
การวาดภาพสลักลงบนเครื่องเซรามิคเป็นสิ่งที่ล้ำลึกมากจนมิอาจบรรยายพอสังเขปได้
พรสวรรค์ของเขาในการใช้แร่ดิน บวกกับความสามารถในควบคุมความร้อนในการใช้ไฟได้แสดงให้เห็นแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีความผิดหวังเล็กน้อยกับผลงานที่ถูกสร้างขึ้นมานี้
กระบวนการสร้างทั้งหมดนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของประติมากร ผลงานชิ้นนี้มีมูลค่าที่ดีที่สุดท่ามกลางเหล่าเครื่องเซรามิคทั้งหลายในทวีปเวอร์เซลแห่งนี้
คุณค่าทางศิลปะ: 3,986
คุณสมบัติพิเศษ: ผลงานที่มีคุณค่าทางศิลปะสูงมาก
มันจะมอบโชคดีอันแสนวิเศษให้กับท่านทุกวัน
หากท่านเอาไปไว้ที่บ้าน ค่าเกียรติยศ เสน่ห์และโชคเพิ่มขึ้น 5%
ท่านสามารถใช้ผลของเอฟเฟคได้สูงสุด 10 อย่างในแต่ละครั้งจากเครื่องปั้น

ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักเพิ่มขึ้น
ค่าความเชี่ยวชาญงานหัตถกรรมเพิ่มขึ้น
ทักษะจิตรกรรมของท่านเพิ่มขึ้นเป็นขั้นต้นเลเวล 5 ลายเส้นในการวาดภาพของท่านมีความแม่นยำมากขึ้น ขณะที่ท่านสามารถใช้เครื่องมือวาดภาพได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
ค่าความเชี่ยวชาญช่างตีเหล็กเพิ่มขึ้น

เนื่องจากเครื่องปั้นชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยขั้นตอนการสร้างที่หลากหลาย ทักษะต่างๆของเขาจึงมีเลเวลเพิ่มขึ้นภายในครั้งเดียวที่มันถูกสร้างเสร็จแล้ว
ส่วนครั้งนี้ฮวายองเองก็ไม่กล้าขอชิ้นนี้ให้เป็นของขวัญสำหรับเธอ
เธออยากจะได้งานชิ้นนี้มากๆ แต่ทว่าในฐานะเพื่อน เธอก็ไม่อาจขอเขาให้เป็นของขวัญในทุกๆครั้งได้ มันคงดูไม่สุภาพซักเท่าไรที่จะรบกวนเขา อีกอย่างการที่เธอจะขอให้เขาขายเครื่องปั้นชิ้นนี้ก็ดูจะหยาบคายและดูไม่มีหัวคิดอยู่ดี

ฉันไม่รู้เลยว่าควรจะจ่ายไปเยอะซักแค่ไหน ไว้ฉันค่อยตามหาเจ้าของใจดีแล้วขอซื้อต่อจากเขาละกัน

เธอมองไปที่ผลงานชิ้นอื่นๆของวีดที่กำลังอยู่ในเตาเผาเช่นกัน

ฉันจะซื้อพวกมันทันทีที่ส่งตรงถึงร้านค้าเลย

ส่วนเบลล็อตเองก็จับจ้องเล็งเครื่องปั้นเอาไว้หลายชิ้นแล้วเช่นกัน

ชิ้นนี้สวยจัง ชิ้นนั้นก็น่ารัก เขาแกะลายสวยๆแบบนั้นได้ยังไงกันนะ? รูปร่างก็สวยและดูลงตัว ดูมีชีวิตชีวา อยากได้จังเลยยยย

วีดยังไม่ได้ใช้ข้อดีจากความงามในการวาดภาพลงไปในเครื่องปั้นของเขา

เขาทำเครื่องปั้นดินเผาโดยปั้นออกมาให้มีหลากหลายรูปแบบที่พิเศษเช่น ชามยักษ์ จุลประติมากรรมรูปนางฟ้า อีกอย่างเพราะเขาใช้ทักษะประติมากรรมของเขาด้วย จึงทำให้เขาได้ฝึกฝนและพัฒนาเทคนิคของตัวเองขณะที่สร้างเครื่องปั้นพวกนี้ด้วยวัสดุที่ไม่มีวันหมดสิ้น

 ตรวจสอบ!

คนโทรูปดอกไม้:
ความคงทน: 17/17
ถูกทำขึ้นโดยศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ วีด
เครื่องปั้นชิ้นนี้คงพอที่จะเอ่ยได้ว่าเป็นผลงานของทวีปเวอร์เซล ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การผสานกันระหว่างดินเหนียวและไฟ แต่ก็คงจะไม่ดูเกินจริงหากพูดว่ามันคือต้นกำเนิดของผลงานทางศิลปะอันสุดแสนมหัศจรรย์
มวลดอกไม้ที่เปิดปากกว้างบวกกับกลีบที่แสนเบาบาง ดูเหมือนมันกำลังเบ่งบานอยู่ภายในเครื่องปั้นชิ้นนี้อยู่เสมอ
ผลงานที่น่าประทับใจและแสนวิเศษที่สร้างขึ้นมาด้วยฝีมือหัตถกรรมอันไร้ที่ติ
นี่คือสิ่งที่เป็นมากกว่างานศิลป์ ความลึกลับของผลงานชิ้นนี้คือความน่าดึงดูดและนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้มันเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
คุณค่าทางศิลปะ: 598
คุณสมบัติพิเศษ: หากงานปั้นชิ้นนี้อยู่ใกล้กับพืชพันธุ์ พวกมันก็จะไม่แห้งเหี่ยวแม้นปราศจากน้ำหล่อเลี้ยง
แถมยังสร้างรสชาติให้กับชาและไวน์ดียิ่งขึ้นด้วย
ค่าเกียรติยศ: +16
เสน่ห์: +22

วีดผู้ที่ไม่รู้วันรู้คืนเอาแต่หมกมุ่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานของเขาต่อไป
ขั้นตอนการทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก และคุณต้องมุ่งความสนใจให้ลึกซึ้งถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆด้วยซ้ำไป

แต่ไม่ว่าคุณจะเจอกับความทุกข์ยากลำบากแสนเข็ญซักแค่ไหน คุณก็จะรู้สึกชื่นชมยินดีเสมอเมื่อได้เห็นเครื่องปั้นที่ออกมาจากเตาเผา

แค่นี้น่ะหรอ มันยังไม่จบหรอก

วีดยังทำถ้วยและจานขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลางเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

การทำขั้นตอนเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ไม่ได้อะไรกลับมาจริงๆมากนัก นี่ยังรวมถึงการแกะสลักลวดลายและวาดรูปลงไป

โมราต้าเองก็มีผู้เล่นใหม่ที่ไม่ได้มีเงินมากมายนัก พวกเขาก็คงจะมีเงินซื้อเครื่องปั้นพวกนี้ได้ ถ้าฉันสร้างผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กขึ้นมา

ถึงแม้จิตวิญญาณของเขาคือศิลปิน เขาก็ยังคิดที่จะรีดไถเงินจากเหล่าผู้เล่นใหม่ที่มีปัญญาแค่จับกระต่ายตัวเล็กๆเท่านั้น!

สมาชิกปาร์ตี้คนอื่นๆของเขากลับมาและไม่ได้ออกไปไหนได้ซักพักแล้ว เพราะว่าพวกเขาเองก็พากันมาทำเครื่องปั้นของตัวเองเช่นกัน เขาง่วนอยู่กับการทำเครื่องปั้นแบบเงียบๆไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นั่นทำให้เขาดูเป็นผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด

 มูลค่าวัสดุที่ใช้ทำไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะเอามาตั้งราคาได้จริงๆ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือคุณสมบัติอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษ.

เวลาผ่านไปคืนแล้วคืนเหล่าเขาเอาแต่สร้างงานศิลป์ออกมามากมาย ผลงานที่ทำออกมาก็เป็นมาสเตอร์พีสบ้าง ระดับแมคนั่มบ้าง!
เครื่องปั้นกองพะเนินเป็นภูเขาภายในห้องที่ว่างเปล่าในปราสาทของเจ้าเมือง

เขาตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ทำเครื่องปั้น จนทำเสร็จไปแล้วถึง 400 ชิ้นด้วยกัน ความเชี่ยวชาญทักษะการแกะสลักของเขาเพิ่มขึ้น 9.5%
เพราะค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักของเขาอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 8 อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าสถานะจึงไม่ได้รวดเร็วมากนัก

แถมการทำเครื่องปั้นดินเผาแต่แบบพื้นฐานอย่างนี้ และความเกี่ยวข้องกันระหว่างทักษะแกะสลักกับการทำเครื่องปั้นก็มีน้อยมากอีกด้วย

แต่ถึงยังไง เมื่อไรก็ตามที่เขาควบคุมการใช้ไฟได้จนสำเร็จแม่นยำ ค่าความเชี่ยวชาญทักษะช่างตีเหล็กของเขาก็เพิ่มขึ้นมาพอสมควร

แต่บางครั้งเขาก็ล้มเหลวในขั้นตอนการก่อรูปร่างของเครื่องปั้น แต่ก็มีหลายครั้งที่มันออกมาแย่มากจนแทบจะไม่อยากมองดูพวกมันเลยด้วยซ้ำ

และในไม่ช้า วีดก็ทำเครื่องปั้นไปได้ถึง 700 ชิ้น
ณ ตอนนี้ ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักของเขาอยู่ที่ 52.6% ขั้นสูงเลเวล 8
ไม่เพียงแค่นั้น ทักษะช่างตีเหล็กของเขายังเพิ่มขึ้นไปจนถึง 75% ขั้นกลางเลเวล 8
ส่วนทักษะจิตรกรรมของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นขั้นต้นเลเวล 9

หากคนๆหนึ่งพยายามที่จะไตร่ตรองว่าการทำเครื่องเซรามิคนี่มันยากซักเท่าไรเชียว พวกเขาก็จะรู้ในที่สุดว่ามันยากมากจริงๆ

แต่ทว่าวีดกลับทำเครื่องปั้นดีๆมากมายออกมาได้แถมยังสนุกกับการได้ทำมันอีกด้วย
***

ปาร์คจุนซุคคิดถึงซอยูนตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน

โถ่ เธอได้รับความเจ็บปวดทางใจมานานแค่ไหนกันแน่นะ

ถึงแม้ว่าซอยูนจะโหดร้ายมากในตอนที่เขาและเพื่อนของเขาโดนโจมตีใส่ และถูกฆ่าตายยกทีมภายในป่าด้านหลังปราสาทของเมืองเซราบอร์ก

เขาก็ยังทำใจยอมรับมันได้

ถึงยังไงก็เห็นได้ชัดเลยว่า หัวใจของเธอยากที่จะเปิดออก เขารู้สึกแย่จริงๆเกี่ยวกับมัน แต่ทว่าสามัญสำนึกของโลกใบนี้ได้บัญญัติเอาไว้แล้วว่าไม่ว่านิสัยสาวสวยคนนั้นจะเป็นเช่นไร เธอก็ควรจะได้รับการให้อภัยเสมอ

งั้นก็แปลว่าจริงๆแล้วเธอคือสาวเบอร์เซิร์กเกอร์ที่อยู่กับวีดตลอดสินะ

ซอยูนเป็นคนที่มีความงดงามมากจนมิอาจหาผู้ใดมาเทียบเคียงได้

ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังแข็งแกร่งมากอีกด้วยภายในโรยัลโร้ดแห่งนี้

ปาร์คจุนซุคยิ่งปลื้มมากขึ้นไปอีกเมื่อได้รู้ว่าตัวละครนั้นเป็นตัวละครของเธอ

ฉันจะออกเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งบนทวีปเวอร์เซล และก็หวังว่าฉันจะไปได้ไกลยิ่งกว่าวีด

เธอดูมีความสุขมากจริงๆราวกับว่า พวกเขาโดนยิงด้วยศรรักของคิวปิดเมื่อไรก็ตามที่พวกเขาออกไปผจญภัยด้วยกัน นี่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่าเธอไม่ยอมเปิดใจให้ใครเลยนอกจากเขาเพียงคนเดียว

 ฉันต้องไล่ตามเลเวลของพวกเขาให้ทันถึงแม้จะต้องใช้เวลามากสักแค่ไหนก็ตาม

เอาสมุนไพรมาให้ข้าซักอย่างสิ

ใครที่มีดาบชำรุดหนักๆ หรือพวกหน้าใหม่ที่กำลังตามหาคนซ่อมมันให้ เอามาให้ฉันซ่อมให้สิ คุณจะได้ใช้ใหม่อีกครั้งเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

นักล่านามว่า โรบิ้นกลับเข้ามาเชี่อมต่อกับเกมอีกครั้งที่ราชอาณาจักรพอลเล็ต เมืองที่เขาอยู่เป็นประจำ (โรบิ้นคือชื่อตัวละครของปาร์คซุนจุค)

เหล่าผู้เล่นมากมายที่กำลังพากันค้าขายอย่างแข็งขันในฐานะพ่อค้าตามที่ต่างๆอย่างร้านขายอุปกรณ์ทั่วไป

ทุกๆคนต่างพากันให้ความสนใจกับโรบิ้นอยู่ชั่วครู่หนึ่ง

โห เลเวลของเขาสูงมากจริงๆเมื่อเทียบกับฉัน ดูอุปกรณ์ที่เขาใส่อยู่นั่นสิ

นั่นเป็นไอเท็มที่ทำขึ้นมาด้วยฝีมือของเบอร์แบงไม่ใช่หรอ?”

ดูที่ตัวของเขาสิ ฉันว่านั่นมันตราทองคำนะ

ฉันได้ยินมาว่ามันแพงชิบหายเลยนะเว้ย.เสื้อผ้าเบอร์แบงทำขึ้นมาราคาไม่ใช่เล่นๆเลยนะ คงต้องจ่ายไปเยอะแง๋ๆ

โรบิ้นยักไหล่เบาๆ

เหอะ แค่นี้ไม่เท่าไรหรอกวะ
เขาสวมใส่อุปกรณ์ที่พูดได้ว่าดีของดีที่สุดจากเลเวล 355

เขามีทั้งรองเท้าขัดเงา ชุดเกราะหนังเบาบางสีดำขำ แถมยังมีเครื่องประดับอย่างสร้อยคอ สร้อยข้อมือกับแหวนที่ช่วยเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญทักษะของเขาอีก

และแน่นอน เขาไม่ได้ของพวกนี้มาจากการล่าหรือว่าทำภารกิจสำเร็จหรอก

แม้แต่กับวีด ผู้ที่ทำภารกิจที่ดีที่สุดมามากมาย แม้ว่าเขาจะทำพวกมันสำเร็จจนหมด อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพแกะสลักก็ยังไม่ออกมาเป็นพวงอย่างนั้นอยู่ดี

และที่แน่ๆ วีดคงรู้สึกผิดหวังมากกว่าที่ไอเท็มที่เขาได้จากภารกิจที่แสนยากแสนเข็ญนั้น เป็นเพียงแค่ไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับอาชีพสายประติมากรเท่านั้น

โรบิ้นซื้ออุปกรณ์และเครื่องประดับเลเวลสูงๆด้วยเงินจำนวนมหาศาล

เขาทุ่มเงินไปกับการซื้ออุปกรณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เข้ามาเล่นเป็นผู้เล่นใหม่

เพราะงั้นระดับพลังของเขาจึงเพิ่มขึ้นเสมอเมื่อเทียบกับเลเวลจริงๆของเขาแล้ว
เขารู้สึกพอใจอย่างมากเมื่อผู้คนต่างพากันรู้สึกประหลาดใจหลังจากที่เห็นอุปกรณ์เลเวลสูงของเขา

 ฉันอยากจะออกไปล่าซะหน่อย

โรบิ้นมุ่งหน้าตรงไปที่ภัตตาคารเพื่อซื้ออาหาร
แล้วหน้าต่างแชทของกิลด์ก็ลอยขึ้นมาตรงหน้าเขา

คูเวร่า: นายมาถึงแล้วหรอ โรบิ้น พวกเราพึ่งเข้ามาเชื่อมต่อเอง
ริทซ์: พวกเราอยู่ที่เมืองหลวง นายอยู่ไหน?

โรบิ้นเข้าร่วมกิลด์ที่ชื่อว่า คูล กายส์(เหล่าคนเก๋า)

ประกอบไปด้วยบรรดาลูกชายลูกสาวของมหาเศรษฐี พวกเขาใช้เงินอย่างกับห่าฝนที่ตกลงบนป่าฝนเขตร้อนซะอีก

โรบิ้น: ที่ไหนงั้นหรอ? ฉันก็อยู่ที่เมืองหลวงเหมือนกัน
คูเวร่า: งั้นดีเลย นายได้รับภารกิจหรือยัง?
โรบิ้น: ยังเลย ฉันกำลังจะไปออกล่า ฉันไม่อยากเสียเวลาคุยกับคนพวกนั้น น่ารำคาญจะตายไป (คนที่จะให้ภารกิจ)
ริทซ์: งั้นไปด้วยกันไหม เจอกันที่จัตุรัสกลางนะ

คูเวร่าและริทซ์ได้มาถึงที่จัตุรัสกลางก่อนแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนเองก็สวมใส่ชุดเกราะระดับเพลทตินั่มเต็มเซ็ต ประดับตกแต่งด้วยขนหางนกยูงที่ปักอยู่บนหมวกของพวกเขา

 ฮี๊ย่า

ไปซื้ออาหารแล้วออกไปล่ากันเถอะ

ไปเลยงั้นหรอ? แล้วเราควรจ้างพวกทหารรับจ้างคนไหนดีหล่ะ?”

เราค่อยไปหาที่กิลด์ทหารรับจ้างฟาเวล่าก็ได้

เราจะเอาพวกมันไปด้วยจริงๆหรอ? เราอ่อนแอมากเลยนะ คงยากที่จะเพิ่มเลเวลได้.

ทุกวันนี้ ใครๆเขาก็อยากให้พวกมันมาร่วมปาร์ตี้กันทั้งแหละน่า

ตอนนี้โรบิ้น คูเวร่า และริทซ์อยู่ที่เลเวล 300 กลางๆ

อุปกรณ์ที่พวกเขาสวมใส่อยู่สำหรับผู้เล่นใหม่แล้วถือว่ายอดเยี่ยมมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงออกล่าได้เร็วขนาดนี้

ขอแค่มีเพียงแค่อุปกรณ์สวมใส่เป็นตัวช่วย พวกเขาก็สามารถออกล่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

อย่างไรก็ตาม ยิ่งเลเวลของพวกเขาสูงมากเท่าไร มันก็ยิ่งเพิ่มความยากให้กับพวกเขามากขึ้นเท่านั้น

ปัญหาหลายๆอย่างก็เกิดขึ้น เช่นความล้มเหลวในการตัดสินใจยามสถานการณ์คับขัน หรือว่าการขาดความเป็นทีมเวิร์กไม่อาจจะทดแทนได้ด้วยอุปกรณ์สวมใส่เลเวลสูงของพวกเขา

และผลที่ตามมาก็คือพวกเขาถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายจากค่าสถานะและระดับที่แสนจะธรรมดาของพวกเขา

ถึงแม้ว่าเลเวลของพวกเขาจะอยู่ที่ 300 กลางๆ แล้วก็ตาม ทว่าพลังความสามารถในของต่อสู้ของพวกเขาถือว่าเป็นจุดอ่อนอย่างยิ่ง

ฉะนั้นเพื่อที่จะก้าวข้ามมันไปให้ได้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องจ้างเหล่าทหารรับจ้างหรือว่าดาร์กเกมเมอร์เพื่อออกไปทำภารกิจด้วย

***

ณ ร้านแลกเปลี่ยนเครื่องประดับแห่งเมืองโมราต้า มีสิ่งๆหนึ่งที่ยอดเยี่ยมกำลังเกิดขึ้น

เจ้าของร้านกำลังพูดคุยกับชายคนหนึ่งด้วยวาจาอันสุภาพนอบน้อม พร้อมกับมีเหล่าผู้คนที่กำลังจ้องมองสินค้าเหล่านั้นแบบไม่ละสายตา

ท่านจะขายของพวกนี้จริงๆหรอครับ?”

ใช่แล้ว เจ้าจะให้ราคาเท่าไรละ?”

เป็นการตัดสินใจที่ลำยากบากสำหรับข้าจริงๆที่จะตีราคางานศิลป์พวกนี้ออกมาได้ครับ ข้าไม่อยู่ในระดับที่จะปรารถนาของล้ำค่าเหล่านี้เอาไว้ในความครอบครองของข้า ของเหล่านี้ควรจะถูกขายให้กับเหล่ากษัตริย์ทั่วทั้งทวีปจะดีกว่า ได้โปรดบอกมูลค่าที่ท่านต้องการกับข้ามาเถอะ

เจ้าของร้านถามชายคนนั้นเพื่อที่จะประเมินมูลค่าของสิ่งนี้เพื่อที่จะให้เจ้าตัวตั้งราคาขึ้นมาเอง

บรรดาไอเท็มที่ถูกขายไปนั้นมีทั้งสีขาวหรือว่าสีน้ำเงิน
มีรูปวาดพืชพันธุ์นานาชนิดที่คนชื่นชอบตามแต่รสนิยมของบุคคลที่ชื่นชอบ แถมยังมีลวดลายสีสันสวยงามสลักลงไปราวกับมังกรทองกำลังผงาด รูปเจ้าไวทรีที่กำลังสยายปีกของมันล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ แถมยังมีรูปเจ้าปิงหลงสลักด้วยเช่นกัน

วีดไม่ได้ขายผลงานระดับมาสเตอร์พีสกับระดับแมคนัมที่เขาทำขึ้นมา เพราะเขาคิดจะเอาพวกมันไปไว้ในศูนย์ศิลปะ เพราะว่ามีพลเมืองภายในเมืองโมราต้าอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นก็มากพอที่มองออกได้แล้วว่าพวกนั้นจะกลายเป็นรายได้จากค่าเข้าชม ดูน่าจะทำกำไรได้มากกว่า

ส่วนพวกเครื่องปั้นธรรมดาๆก็ถูกกำจัดออกไป และขายพวกมันด้วยราคางามๆเพราะพวกมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษ

เครื่องปั้นพวกนี้..ถ้าจะให้ตีมูลค่าพวกมันช่างยากจริงๆ เพราะข้าทำมันขึ้นมาอย่างยากลำบากจนเหงื่อไหลเป็นสายเลือด การที่จะให้พวกมันออกไปสู่โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ ผู้คนมากมายคงจะพากันถามหาและหวังที่จะได้ซื้อพวกมันในราคา 789 เหรียญทองต่อชิ้น และมันคงจะมีความหมายต่อพวกมันมากแน่ๆหากพวกมันมีมูลค่าถึงขนาดนั้น

การจะตั้งราคาซัก 800 เหรียญทองก็รู้สึกว่าจะแพงเกินไป ดังนั้นเขาจึงอุตส่าห์ลดราคาลงให้ตั้ง 2 เหรียญทองแน่ะ!

แม้ว่าการทำเครื่องปั้นจะไม่ใช่ทักษะหลักของวีด ทักษะส่วนมากที่เขาใช้ไปกับการสร้างมันก็มีแต่เลเวลสูงๆทั้งนั้น

หากลองพิจารณาถึงคุณค่าทางศิลปะของพวกมัน ราคานั้นก็พอจะยอมรับได้
ราคาตั้ง 789 เหรียญทองเลยหรอ.แพงขนาดนั้นเลยหรอ?”

เจ้าก็รู้จักวีดนิ ช่องว่างระหว่างเรากับเขามันสูงมากจริงๆ จนข้าเทียบไม่ติดเลยหล่ะ

แต่ว่า เงินแค่นั้นเอาไปซื้อชุดเกราะแบบเจ้าก็ยังได้เลยนิ

ถ้ามันมีราคาพอๆกับชุดเกราะของพวกมือใหม่ ข้าก็จะซื้อมัน แต่ว่าระดับของผลงานชิ้นนี้มันไม่ได้มีราคาแพงขนาดที่เจ้าว่ามาซะหน่อย

ถ้าหากราคาที่เสนอมามันสูง ยากเกินกว่าที่จะยอมรับได้ การค้าขายก็คงจบลง บางครั้งหากราคาที่เขาบอกไปนั้นมันดูเกินกว่าราคาที่ควรเป็น เขาก็จะถูกจับไปลงโทษ แถมค่าชื่อเสียงในฐานะศิลปินของเขาก็จะลดลงอีก

วีดตอบสนองได้ดีมากกับความจริงเช่นนั้น และนั่นจึงกลายเป็นเหตุผลที่เขาจำต้องขายที่ร้านนี้อย่างไม่เต็มใจนัก

หลังจากที่ไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่หนึ่งเจ้าของร้านก็พูดขึ้นมาว่า

ถ้าหากนี่เป็นสถานการณ์ทั่วๆไป ข้าคงจะซื้อในราคาจริงของมันแล้ว แต่ว่าเครื่องเซรามิคแบบนี้เป็นของหายากมากของคนหลายคน ถึงแม้ว่าคงต้องใช้เวลาอยู่บ้างที่จะเอาพวกมันไปแยกขาย แต่ก็คงคุ้มค่าพอละมั้ง ตอนนั้นเราค่อยทำให้มันเป็นสินค้าพิเศษแล้วตีราคาเพิ่มไปอีก 500 เหรียญทองก็ได้ ขอบคุณที่ขายเครื่องเซรามิคของท่านให้ข้า ท่านลอร์ด

-การซื้อขายครั้งแรกของท่านประสบผลสำเร็จแล้ว
บัดนี้เมื่อไรก็ตามที่ท่านขายสินค้า ท่านจะได้รับค่าเกียรติยศ 3 หน่วย

ปกติแล้วมูลค่าของเครื่องปั้นนั้นมีค่ามากว่าที่เขาคิดไว้มาก
อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านก็พูดขึ้นมา

แต่ถึงยังไง หากข้ารับซื้อผลงานศิลปะพวกนี้ ข้าคงไม่มีเงินทุนเหลือพอข้าขอจ่ายเป็นเงินต้น 220 เหรียญทองต่อชิ้นได้ไหมครับ?”

ตกลง ข้าขายให้เจ้า

บรรดาเจ้าของร้านเองก็ละเอียดรอบคอบตรวจสอบพวกเครื่องเซรามิคแต่ละชิ้นที่ได้มา พวกเขามองหารอยแตกรอยร้าว หรือว่าสีที่เกลี่ยลงไปไม่เท่ากันหรือแม้แต่ลวดลายที่เคลื่อนออกจากกัน ถ้าเป็นแบบนั้นได้ราคาที่ตีไว้คงลดลงแน่ๆ

แต่ถึงยังไง มันก็ค่อนข้างยากที่จะหาเจอรอยตำหนิเหล่านั้น หนำซ้ำบางชิ้นของเขายังถูกตีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าชิ้นอื่นอีก

-ท่านเก็บเกี่ยวผลกำไรได้เป็นจำนวนมาก จากการขายผลงานศิลปะ
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 3589 หน่วย
เกียรติยศในฐานะประติมากรเพิ่มขึ้น 9 หน่วย
เสน่ห์เพิ่มขึ้น 7 หน่วย
ค่าชื่อเสียงภายในเมืองโมราต้าเพิ่มขึ้น 1 หน่วย

เขาได้รับกำไรถึง 268,000 เหรียญทอง!

เพียงแค่มีชื่อเสียงของวีด เขาก็สามารถสร้างความตื่นเต้นฮึกเหิมให้กับเหล่าผู้อาศัยภายในโมราต้าและดินแดนอื่นๆมากพอแล้ว

แถมตอนนี้เครื่องปั้นดินเผาของเขายังได้ถูกขายออกสู่ตลาดแล้วด้วย พวกมันก็จะกระจัดกระจายไปในแต่ละดินแดนทั่วทั้งทวีปแล้วก็ไปพบกับเจ้าของคนใหม่

แม้แต่ตอนนี้เองก็มีบางคนพยายามมองหาเครื่องปั้นจานของวีด

และบางทีคนส่วนใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดในโมราต้าก็คงจะมีฝันอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะกลายเป็นช่างทำเครื่องเซรามิคก็ได้

นี่คงเป็นเพราะความอุดมสมบูรณ์ของแร่ดินที่มีอยู่ทั่ว แถมยังมีเตาหลอมแห่งเฮสเทียที่ถูกสร้างขึ้นมา บวกกับการลงทุนไปกับการสร้างวัฒนธรรมของเมืองให้เจริญกว่าที่อื่นๆที่มีอยู่บนทวีปแห่งนี้

เพราะว่าตอนนี้เมืองโมราต้าได้ส่งขายเครื่องปั้นดินเผาคุณภาพดีออกไปเป็นจำนวนมาก มันจึงได้ถูกลงบันทึกให้เป็นสินค้าพิเศษประจำท้องถิ่น และตอนนี้ไอเท็มล้ำค่าพวกนั้นก็จะมีการซื้อขายในฐานะสินค้าพิเศษ (specialty product: สินค้าเจาะจงซื้อ) แล้วก็กลายมาเป็นสินค้าติดเทรนด์ในที่สุด

 ท่านลอร์ดผู้น่ายกย่อง ข้าขอขอบคุณสำหรับการซื้อขายของท่าน

เจ้าทำการค้าเก่งนี่

วีดพึ่งจะออกมาจากย่านการค้า

หลังจากที่เหล่าผู้เล่นได้ยินข่าวว่าเขาปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็ไปหาวีดราวกับฝูงผึ้ง
คุณคงจะมั่งคั่งจากการค้าขายพวกนั้นแน่ๆเลยสินะครับ

ช่างน่านับถือจริงๆครับ

นั่นเป็นสินค้าของคุณวีด มันคงไม่ใช่อะไรที่พิเศษมากใช่ไหมครับ? คุณคงไม่พอใจกับข้อตกลงแบบนั้นแน่

ก็จริงที่วีดขายเซรามิคและได้เงินมามากมาย เขาวางมือบนปากของเขาเพื่อไม่ให้หลุดหัวเราะออกมา

ถึงแม้ว่านั่นไม่ใช่รากสมุนไพรยาที่แสนล้ำค่า เขาก็ยังรู้สึกค่อนข้างพอใจกับมันอยู่ดี

คิคิ อะแห่มๆ!

ขณะพยายามรักษากิริยามารยาทเอาไว้ เขาก็ยังต้องแสดงท่าทีที่ดูสง่าผ่าเผยและเคร่งครึมด้วย

ความโด่งดังของวีดภายในรอยัลโร้ดพุ่งทะลุจนอยู่จุดสูงสุดแล้วตอนนี้

มันยากมากจริงๆที่จะเห็นคนไหนในโมราต้าที่จะไม่ชอบเขา

จากนั้น ผู้อาวุโสแห่งโมราต้าก็เดินเข้ามาพร้อมกับไม้เท้าค้ำยัน

ท่านลอร์ด ข้าน้อยเอง

วีดปรับท่าทีให้ดูเคร่งครึม

ผู้อาวุโสประจำหมู่บ้านที่ตอนนี้กลายเป็น ท่านเอิร์ลแห่งเมืองโมราต้า ได้นำความทรงจำอันแสนเจ็บปวดจากการใช้เงินของเขาไปเป็นจำนวนมากกลับคืนมาอีกครั้ง! (Earl of Morata: ขุนนางแห่งเมืองโมราต้า)

 จากการปกครองของท่านลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ ทำให้หมู่บ้านโมราต้าได้กลายมาเป็นเมืองและเป็นสถานที่อยู่อาศัยอันยอดเยี่ยม

แน่นอน นั่นคือสิ่งที่ข้าจำเป็นต้องทำ

บัดนี้ ดินแดนแห่งนี้.

หัวหน้าหมู่บ้านหยุดพูดไปครู่หนึ่ง และมองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

ไม่มีทางน่า เขาคงไม่ขออะไรอีก.

จากมาตรฐานทางเศรษฐกิจของเมืองโมราต้า วีดไม่ได้มีฐานะยากจนพอที่จะสั่นคลอนต่อสิ่งที่จะเกิดอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าเขาจะได้กำไรมากมายมาจากมัน แต่การทำให้เงินที่หามาได้อย่างยากลำบากนั้นหายไปในชั่วพริบตาก็ทำให้คนเราใจฝ่อได้เหมือนกัน

และตอนนี้เขาก็ไม่อยากจะเสียไปแม้แต่สตางค์เดียว
ดินแดนแห่งนี้ได้รับการพัฒนาเป็นไปด้วยดี ความเป็นผู้นำอันไม่ย่อท้อของท่านลอร์ด ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ที่นี่เองก็ทำงานอย่างหนักด้วยใจที่สุจริต หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดินิฟล์เฮม ชาวเมืองต่างทุกข์ทรมานจากพวกมอนสเตอร์และความหนาวเย็น แต่ก็ยังคงยินดีได้ด้วยชีวิตเป็นอยู่อันแสนปลอดภัยและอุดมสมบูรณ์ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่านลอร์ด

อะแฮ่ม..

วีดรู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้นไปอีกขณะที่เขาได้รับการสรรเสริญยกยอ
จริงๆ นี่ก็มากพอแล้ว เขาคงมีคำขอบางอย่างโดยการพยายามที่จะชักแม่น้ำทั้งห้ามานานแสนนาน

เมื่อก่อนเขาคงรู้สึกคุ้นเคยกับการโดนบ่นโดนด่าทอมากกว่าโดนยกย่องเชิดชูแบบนี้

ตราบใดที่อยู่กับท่านลอร์ด แม้จะอยู่ในถ้ำมอนสเตอร์ พวกเราจะตามท่านไปโดยไร้ข้อกังขา ข้ากล่าวสิ่งนี้ในฐานะตัวแทนของเหล่าชาวเมือง เพื่อยืนยันว่าการพัฒนาและความรุ่งเรืองของโมราต้าจะยังคงสานต่อไป ข้าได้มีคำขอร้องอันสำคัญในฐานะเอิร์ลแห่งเมืองโมราต้า เพื่อนำฝูงชนสู่ดินแดนอันเกรียงไกรและได้สัมผัสทั่วทั้งดินแดนเหนือ

ตริ้ง!

ราชอาณาจักรเล็กได้กำเนิดขึ้นบนแดนเหนือแล้ว
จำนวนประชากรและกำลังทางเศรษฐกิจของเมืองโมราต้าได้บรรลุเป้าที่เป็นไปตามมาตรฐานของเมืองแล้ว
เหล่าชาวเมืองมีศรัทธาที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ง่ายๆ อีกทั้งยังมีอิสระทางศาสนาและความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดินิฟล์เฮม ท่านถือเป็นผู้ที่ครอบครองเมืองที่พัฒนาการมากที่สุดของแดนเหนือ
การผจญภัยและการค้าขายที่อยู่ภายในโมราต้านี้มากพอสำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว
จงนำความมั่นคงของผู้คนที่ท้อแท้กลับคืนมา
การเริ่มต้นของราชอาณาจักรของท่านจะกลายเป็นอาณาจักรเล็กที่มีอาณาเขตเพียงนิดเดียว มันจะกลายเป็นเป้าการโจมตีของฝูงมอนสเตอร์และจากอันตรายไม่สามารถระบุได้ มันอาจจะไม่ราบรื่นอย่างที่ท่านคาดไว้
ทว่าเหล่าชาวเมืองก็ยินดีกับคำขอครั้งนี้ เพราะพวกเขาเชื่อว่าลอร์ดของพวกเขาจะนำอนาคตที่ดีกว่ามาให้พวกเขาจงได้
ท่านสามารถเอาภาระอันหนักอึ้งของการนำเมืองโมราต้ามาไว้บนบ่าของท่านได้หรือไม่?
หากท่านยอมรับข้อเสนอของผู้อาวุโส ท่านจะได้รับการสถาปนาแจ่งตั้งขึ้นเป็นองค์ราชาของอาณาจักรหลังจากงานพิธีราชาภิเษกของท่าน
เมืองโมราต้าและป้อมปราการเวอร์โก้จะถูกประกาศเป็นอาณาเขตที่อยู่ในราชอาณาจักรของท่าน
และนอกจากพื้นที่ที่เป็นเมืองแล้ว การขยายอาณาเขตที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบก็จะเพิ่มขึ้นมาด้วย
อำนาจทางการเมืองของท่านจะเพิ่มขึ้นตามพื้นที่ใกล้เคียง
เพราะว่าขนาดของกำลังทางทหารของท่านกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ชาวเมืองจึงยังรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
และยิ่งขนาดของกองทัพเล็กเกินไปยิ่งจะทำให้ความกังวลนี้แย่ลงไปอีก
ท่านสามารถเจรจาต่อรองทางการทูตกับราชอาณาจักรอื่นได้
เกี่ยวกับกิจการภายในและพื้นที่สิ่งก่อสร้าง ท่านสามารถบริหารอำนาจของท่านให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นได้ ท่านสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นได้
ผลลัพธ์ของการเจรจาต่อรองทางการทูตอาจจะมีความเกี่ยวโยงถึงค่าชื่อเสียงของกษัตริย์ งานรื่นเริงที่เกิดขึ้นจะขึ้นอยู่กับค่าทางโชคของท่าน

อาณาจักรขององค์กษัตริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว!

เนื่องจากการกำเนิดของราชอาณาจักรฮาเว่น เมืองเล็กๆทั้งหลายที่เป็นของผู้เล่นก็จะปรากฏขึ้นมาด้วย

ไม่เหมือนกับอาณาจักรอื่นๆที่มีความเพียบพร้อมอยู่แล้ว โมราต้านั้นต้องได้รับการพัฒนาจากผู้คน

 วีดคิดคำนวณภายในหัวของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

สิ่งๆนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการสวดมนต์อ้อนวอนขอให้ได้มา

ความบันเทิง การเลี้ยงดู การติดสินบน การใช้เงินปิดปาก และค่าสถานะที่สูง

ที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ต่างหากล่ะที่ถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เติมเต็มรสชาติให้ชีวิตเมื่ออยู่บนโลกใบนี้

ข้าจะเดินไปข้างหน้าและก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหลายร่วมกับชาวเมืองของโมราต้าและอุทิศชีวิตทั้งหมดที่มีให้กับมัน

ความฝันที่จะได้เป็นจอมเผด็จการอย่างถาวร บังเกิดเป็นจริงขึ้นมาแล้ว!

ท่านตอบรับบัลลังก์ของกษัตริย์แล้ว

สิทธิ์ทั้งหมดจะตกเป็นของท่านหลังจากพิธีราชาภิเษก
รูปร่างของราชอาณาจักรของท่านที่ยังเป็นเมืองเล็กๆ สามารถทำให้กลายเป็นราชอาณาจักรอย่างเต็มรูปแบบได้ขึ้นอยู่กับขนาดของอาณาเขตของท่าน
โปรดเลือกนามของราชอาณาจักรของท่าน

นามของราชอาณาจักรคือ.

ไม่มีชื่อดีๆผุดขึ้นมาในหัววีดเลย

ทว่าจากวิธีการตั้งชื่อเรียบๆง่ายๆที่เขาตั้งให้พวกเจ้าเหลือง ไววัน ไวทู ไวทรี คงจะไม่ดีแน่ที่จะตั้งชื่อเมืองโดยใช้หลักเกณฑ์แบบนั้น

บางทีเขาคงเป็นผู้เล่นคนแรกที่สร้างราชอาณาจักรขึ้นมาในดินแดนเหนือแห่งนี้ และคงถูกหัวเราะเยาะจากชื่อที่เขาตั้งขึ้นมาตามวิธีการตั้งชื่อแบบนั้น

แต่ทว่าวีดก็ตัดสินใจชื่อของราชอาณาจักของเขาได้ในทันที

ประติมากรผู้ที่รวมทั้งทวีปเป็นหนึ่งและสร้างจักรวรรดิอาเพ่นขึ้นมา!

แม้ว่าความรุ่งโรจน์ของพวกเขาจะผ่านมาแล้วหลายปี คุณก็ยังสามารถปลุกสิ่งที่ล่มสลายไปแล้วให้ลุกขึ้นมาได้ ถ้าหากว่าคุณรู้จักตามรอยบนเส้นทางที่นำไปสู่ความรุ่งโรจน์นั้นได้

ท่านเลือก อาเพ่นเป็นนามแห่งราชอาณาจักรของท่าน

กิจการต่างๆในราชอาณาจักรของท่านจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการหลังจากพิธีราชาภิเษกเสร็จสิ้น
โปรดตั้งจำนวนเงินทุนที่ใช้ในพิธีราชาภิเษกของท่าน
พิธีราชาภิเษกที่โอ่อ่าและอลังการจะนำไปสู่ค่าชื่อเสียงที่สูงของราชอาณาจักรของท่านรวมถึงค่าความจงรักภักดีที่สูงของเหล่าทหาร

วีดไม่เคยชอบพิธีรีตองอะไรแบบนี้เลย

ความหรูหรามั่งคั่งไม่ได้มีความสำคัญอะไรสำหรับเขา ถ้าหากว่าเขาลองคำนวณดีๆแล้วเกี่ยวกับพิธีราชาภิเษกนี้ เขาก็อยากจะให้เมืองโมราต้าเป็นในแบบที่มันเป็น

ค่าใช้จ่ายในพิธีราชาภิเษก..ช่างมันเถอะ ฉันให้ใช้เงิน 30 เหรียญทองเท่าที่จำเป็นต้องใช้ละกัน

ในความคิดของเขา เขาคิดว่าอยากจะแค่เสิร์ฟน้ำให้พวกคนที่มาร่วมงานคนละแก้วเท่านั้นเองด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศเลยนะ (ก็เลยเพิ่มเงินให้อีกเล็กน้อยให้สมกับงาน-.-)

ข้าคิดว่านั่นมันน้อยไปหน่อยนะครับ ในฐานะเจ้าเมือง การจะเป็นกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจก็ควรจะจริงจังให้มากอย่างยิ่ง พสกนิกรเองก็ต่างคาดหวังในตัวกษัตริย์เช่นกัน ราชทูตที่มาจากต่างแดนคงจะหัวเราะเยาะเรา และนั่นคงไม่เพียงพอที่จะแจ้งข่าวให้ทั่วทั้งดินแดนเหนือนี้ได้รู้จักราชอาณาจักรอาเพ่นของเราด้วยซ้ำไป

 ข้าเองก็รักและเอาใจใส่ชาวเมืองทุกคนเช่นกันในฐานะกษัตริย์หรือว่าเจ้าเมืองของที่นี่ และความจริงนั้นจะไม่แปรเปลี่ยน ข้าเพียงแค่อยากจะจ่ายเงินจัดพิธีราชาภิเษกให้น้อยที่สุดก็เท่านั้น และถึงแม้จะเหลือเงิน 10 เหรียญทอง โปรดใช้เงินนั้นไปจ่ายค่าบำรุงและเงินค่าจ้างสำหรับคนยากคนจนภายในเมืองโมราต้าเถอะ
ถ้างั้นก็ได้ครับ ข้าจะทำตามความต้องการของท่านลอร์ด

ท่านจ่ายเงิน 30 เหรียญทองเป็นค่าใช้จ่ายในพิธีราชาภิเษก

แล้วก็เสร็จสิ้นวันนั้นภายในเมืองโมราต้า และด้วยความช่วยเหลือของยูริน พวกเขาก็เคลื่อนย้ายไปยังป้อมปราการเวอร์โก้
ฉันต้องใช้เงินที่ได้จากการขายเครื่องปั้นพวกนี้เพื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง
ป้อมปราการเวอร์โก้ยังไม่ถูกแตะต้องเลยแม้แต่ครั้งเดียว

จัตุรัสมหาพงไพร  โรงอาบน้ำชาวออร์ค ถนนสีน้ำตาลแดงหลายเส้นก็ได้ถูกสร้างขึ้นมา

 แล้วก็ได้สั่งให้ก่อสร้างบ้านเรือนตามแบบสิ่งก่อสร้างของเมืองรัทเซเบิร์ก สถานที่ที่ทั้งสี่เผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ด้วยกัน

นอกจากนี้ก็ยังมีข้อดีของการก่อสร้างของพวกเขาคือใช้งบประมาณต่ำมาก บรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหลายต่างก็พากันชื่นชอบด้วย เหล่าคนเถื่อน คนแคระ และเอลฟ์ที่อยู่ร่วมกันก็สามารถเพิ่มสรรถภาพให้กับสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ได้ด้วย

ดีจริงๆที่ราคาถูกขนาดนี้!

การสร้างบ้านเรือนภายในเมืองรัทเซเบิร์กใช้เงินไป 150,000 เหรียญทอง ส่วนเงินที่เหลือก็เอาไปใช้สร้างร้านค้า ตลาดกลาง และอื่นๆ

การค้าขายระหว่างเผ่าพันธุ์นั้นจะช่วยเพิ่มภาษีการค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนั้นเขายังสร้างเตาหลอมที่เหล่าคนแคระสามารถใช้ได้

ส่วนผู้เล่นที่เป็นเผ่าพันธุ์เอลฟ์ เขาก็ได้สร้างศูนย์ฝึกยิงธนูไว้ให้พวกเขา ที่แห่งนี้อาจจะทำไว้เพื่อพัฒนาความแม่นยำในการยิงและเปลี่ยนสายอาชีพเป็นนักยิงธนูหรือว่าเรนเจอร์

 ที่นี่คงจะเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเพิ่มเลเวลให้กับนักยิงธนูล่ะ

เนื่องจากมีพวกมอนสเตอร์มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆกำแพงเมือง อาชีพสายนักธนูจึงสามารถยิงพวกมันได้ไม่จำกัดเวลา นี่จึงเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดเพื่อเป็นบันไดในการเติบโตของพวกเขา เหล่านักธนูจึงสามารถเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญของพวกเขามากเท่าที่พวกเขาต้องการ อย่างทักษะศรทะลวง (Penetrating arrows) กับทักษะศรติดตาม (Tracking arrows)

เพื่อที่จะให้บางสิ่งบางอย่างกับเหล่าคนเถื่อน สนามประลองของเหล่านักรบจึงได้ถูกสร้างขึ้นมาเช่นกัน มันเป็นสถานที่ที่สอนพวกเขาหลายสิ่งหลายอย่าง เช่นวิธีการควบคุมร่างกาย และได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ

เดาว่าแค่นี้ก็คงจะพอแล้วนะ

จากนั้นวีดก็มุ่งหน้าไปยังเมืองธอร์ อาณาจักรของเหล่าคนแคระ
***

เมืองคนแคระที่ใหญ่ที่สุดภายในเทือกเขานอร์น

เมืองไอรอน แฮมเมอร์นั่นเอง! (Iron Hammer: ค้อนเหล็ก)

มันคือเมืองหลวงของอาณาจักรธอร์และเป็นแหล่งผลิตแร่เหล็กรายใหญ่ที่สุดของทวีปเวอร์เซล

หลังจากที่มองดูบรรดาเหล่าคนแคระตัวจิ๋ววิ่งวนรอบๆน้ำพุ ยูรินก็พูดขึ้นมาว่า

เหล่าคนแคระตอนอยู่ด้วยกันนี่น่ารักจังเลยนะคะ พวกเขาไม่เห็นจะวิ่งช้าเลยซักนิด

น้องไม่เคยเห็นคนแคระปรากฏตัวในเมืองมาก่อนหรอ?”

ถึงแม้ว่าบางครั้งหนูจะเคยเห็นคนแคระมากมายตามสถานที่ท่องเที่ยว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หนูเห็นพวกเขาในแบบนี้

วีดมุ่งหน้าไปยังฝ่ายปกครองของอาณาจักรธอร์พร้อมกับยูริน

ภายในอาณาจักรธอร์นั้นไม่มีกษัตริย์ แต่มีบรรดาผู้อาวุโสคนแคระแทน

นักผจญภัยมนุษย์เอ๋ย พวกเราเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้ามาบ้าง เจ้ามีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่า? เข้ามาก่อนสิ

เหล่าคนแคระที่เฝ้าทางเข้าเปิดทางให้พวกเขาเข้าไปอย่างยินดีเนื่องจากค่าชื่อเสียงที่สูงของวีด

เนื่องจากค่าคุณงามความดีของเขา เขาจึงสามารถเข้าพบกับผู้อาวุโสคนแคระได้ในทันที

อะไรพาเจ้ามาพบข้าล่ะ?”

ผมมาที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ของพวกท่านกับชาวออร์ค

ไอ้พวกออร์ค ไม่มีทางที่พวกเราจะไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้พวกโสโครกที่เอาแต่พ่นลมเหม็นๆออกมานั่นหรอก อย่าพยายามทำเรื่องโง่ๆอะไรแบบนั้นเลย

ตริ้ง!

สร้างมิตรภาพกับผู้อาวุโสคนแคระ
คนแคระ ไอน์ฮานด์ รู้สึกรำคาญใจที่รู้เรื่องเกี่ยวกับออร์ค
เผ่าพันธุ์คนแคระและออร์คจะต่อสู้กันเมื่อใดก็ตามที่เจอหน้ากันระหว่างการออกเดินทาง
แต่ว่าหากท่านสร้างความเป็นมิตรกับไอน์ฮานด์ เขาก็จะใจอ่อนยอมรับฟังท่าน
ความยาก: D
ข้อจำกัดของภารกิจ: เพื่อที่จะทำภารกิจการเจริญความสัมพันธ์ระหว่างออร์คและคนแคระ ท่านต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จก่อน

 ได้โปรดฟังเรื่องราวของข้าซักนิดก่อนเถอะ มันเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ

ท่านได้ตอบรับภารกิจแล้ว

วีดเรียนรู้เกี่ยวกับตัวละครที่ชื่อ ไอน์ฮานด์จากบอร์ดเกมส์

เขาชอบเครื่องประดับ ชุดเกราะทำมือกับเหล้า

ถ้าหากว่าวีดเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องการประจบสอพลอ เขาคงจบได้เป็นด็อกเตอร์ไปแล้วแน่ๆ!

และก็กลายเป็นที่จดจำตามนิตยสารต่างชาติดังๆ

แล้วเขาก็ค่อยๆหยิบถ้วยเซรามิคให้เขาดู

แม้ว่านี่จะไม่ใช่อะไรที่มีค่ามากนัก ผมก็อยากให้ถ้วยนี้เป็นของขวัญกับท่านผู้เฒ่าผู้ที่ข้าชื่นชมเสมอมา

นี่มัน.ช่วงนี้เครื่องปั้นนี่กำลังเป็นที่นิยมมากนิข้าแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าทำสิ่งที่วิเศษขนาดนี้ขึ้นมา ข้าชื่นชมทักษะของเผ่ามนุษย์จริงๆ ทว่าช่างน่าเสียดายที่เราเผ่าคนแคระชื่นชอบโลหะมากกว่า

การประเมินผลวีดของไอน์ฮานด์ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาแล้ว

เผ่าพันธุ์ที่มีทักษะช่างฝีมือมักจะไม่ธรรมดา ดังนั้นหากพวกเขาได้เห็นผลงานที่ยอดเยี่ยม เป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะกล่าวชื่นชม

ข้าคงยังไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น ข้าคิดว่าการใส่จิตวิญญาณลงในดาบที่สร้าง มันเป็นสิ่งที่ทำให้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แสนโดดเด่นจริงๆ และอีกอย่าง นี่เป็นของที่ข้าเจอเข้าโดยบังเอิญ ลองชิมดูสิครับ

วีดเอาขวดไวน์ออกมา

ขวดนั้นคือเหล้าเอล ที่เขาพบในเมือง มอนท์เวอร์ทรูเรีย
มีผลไม้นานาชนิดบรรจุอยู่ภายในถัง แล้วก็ให้พวกไวเวิร์นนำกลับมาที่โมราต้า
เขาใช้ให้ไวทรีส่งไปให้พวกนักดาบหนึ่งถังเพื่อทดสอบดูว่ามันรสชาติเหมือนไวน์หรือเปล่า

หลังจากนั้น เขาก็ส่งมันกลับมาที่โมราต้ามากขึ้น

ปกติแล้วเมื่อไหร่ที่ถังหมักเหล้าถูกเปิดออก พวกสัตว์ก็มักจะไปรวมตัวกันเพราะกลิ่นของมัน

ขณะที่วีดมาเพื่อพบเหล่าคนแคระ เขาก็จงใจเอาไวน์มาด้วยขวดนึง

ดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวของไอน์ฮานด์ ย่นจนดูบึ้งตึง

 ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกมนุษย์ถึงได้ชอบดื่มไวน์กันนัก.ใครจะไปกระเดือกของเปรี้ยวๆแบบนั้นลงกันละ?”

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ ที่ข้าพูดถึงเรื่องขวดไวน์นี่ขึ้นมาเพราะมันคงคุ้มค่าที่จะเอามาเก็บไว้ที่นี่น่ะครับ

ปกติแล้วข้าเป็นคนเข้มงวดเรื่องเครื่องดื่มนะ หากเจ้ากล้าดูถูกข้าด้วยเจ้าสิ่งนี้และลิ้นข้ารับรสชาติอะไรไม่ได้นอกจากเหล้าห่วยๆ เจ้าจะได้เห็นดีกันแน่

วีดดึงจุกไม้ออก

ป๊อก!พร้อมด้วยเสียงใสแจ๋วบวกกับกลิ่นของเหล้าลอยมาเตะจมูก

อึก! นี่ กลิ่นนี่มัน……”

เหล้านี้ผมพบเจอที่เมืองมอนท์เวอร์ทรูเรียครับ ถ้าท่านอยากได้ยิน เอาไว้ข้าจะบอกทีหลังละกัน ข้าแค่หวังว่าท่านจะลองชิมซักหน่อย

งั้นเจ้าจะบอกว่ากลิ่นนี้เป็นเหมือนกับรสชาติของมันสินะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้กลิ่นหอมหวนอันเย้ายวนใจแบบนี้ เจ้านี่เป็นเหล้าจริงๆน่ะหรอ?”

เครื่องดื่มนี่ ท่านอยากจะลองดื่มดูสักหน่อยไหมละครับ?”

วีดรินเหล้าเอลลงในแก้วที่เขาเอามาด้วย

เมื่อเขาเห็นฟองอากาศเป่าขึ้นมาเหนือเหล้า สายตาของไอน์ฮานด์ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง

ขอบใจนะ! อึก รสชาติดีชะมัดเลย

-         หลังจากที่ดื่มเหล้าเอลลงไป ไอน์ฮานด์ก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา

ภารกิจ: สร้างความเป็นมิตรกับผู้อาวุโสคนแคระสำเร็จแล้ว
หลังจากที่ทำภารกิจนี้สำเร็จแล้ว ไอน์ฮานด์ผู้หัวรั้นก็ชื่นชอบนักผจญภัยมนุษย์ที่พบในทันที
แม้ว่าเขาจะทำได้ดีเยี่ยม ทว่าเรื่องราวที่จะเล่านี้ดูเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกับความสามารถของนักผจญภัยและเหล้าไวน์
คนแคระคนนี้ได้รับการประจบสอพลอแบบทวีคูณ แถมยังมีของขวัญ และยังได้รับเหล้าเป็นสินบนมาอีก จนติดกับดับในที่สุด!

แม้แต่ในสาธารณรัฐเกาหลี การติดสินบนและการดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถหยุดเอาไว้ได้

จากนั้นวีดก็ได้เริ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับพวกออร์ค

นานมาแล้ว เผ่าพันธุ์คนแคระ มนุษย์ เอลฟ์และออร์คได้อาศัยอยู่ร่วมกัน ด้วยการร่วมมือร่วมแรง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

บุคคลที่ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มักมีท่าทีไม่เห็นด้วยมากกว่าปกติ แล้ววีดก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับรัทเซเบิร์ก

แน่นอน จุดศูนย์รวมของเรื่องนั้นส่วนใหญ่อยู่ที่เผ่าพันธุ์คนแคระ

 ผมก็ไม่อยากจะพูดเกินไปหรอกนะครับว่าเผ่าพันธุ์คนแคระที่มีแร่เหล็กสามารถค้ำยันให้เผ่าพันธุ์ทั้งสามคงอยู่ได้

ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเมื่อก่อนนี้มีเรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นด้วย ข้าเชื่อในคำพูดของเจ้า
เหล่าออร์คเองก็ได้สำนึกถึงเรื่องนี้แล้ว และคิดว่าจะมาเพื่อขอโทษเหล่าคนแคระด้วยความจริงใจ

ถ้างั้น ข้าเดาว่าพวกออร์คเองก็คงจะมีจิตสำนึกอยู่บ้างเช่นกัน

ตริ้ง!

ภารกิจ: สานความสัมพันธ์ให้กับเผ่าพันธุ์คนแคระและออร์ค สำเร็จแล้ว
เหล่าคนแคระยอมรับคำขอร้องสงบศึกของเหล่าออร์ค
ในอนาคต การต่อสู้ระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์จะลดลงเล็กน้อย
-ความเป็นมิตรระหว่างออร์คและคนแคระเพิ่มขึ้น
-ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 157 หน่วย

ไอน์ฮานด์พูดขึ้นมาว่า

พวกเราเหล่าคนแคระที่แสนใจกว้างก็จะส่งของขวัญเล็กๆน้อยๆไปให้พวกออร์คป่าเถื่อนพวกนั้นเช่นกัน ข้าจะให้ช่างตีเหล็กทำดาบขึ้นมาให้พวกออร์คแล้วก็ส่งไปให้พวกมัน
เหล่าออร์คคงจะชอบมันมากแน่ๆครับ เมื่อพวกเขาได้รับของขวัญนั่น จริงๆแล้วความสามารถในการสร้างอาวุธนั้นไม่ว่าพวกออร์คจะพยายามซักแค่ไหนก็คงไม่สามารถทัดเทียมกับเหล่าคนแคระได้หรอกครับ

การสร้างและการขนส่งอาวุธดาบที่จะส่งไปให้ออร์คสามารถรับมาไว้เป็นภารกิจได้ และถ้าหากคุณคิดให้ดีแล้ว นี่อาจจะนำมาซึ่งแก่นแท้ของความสำเร็จในการสานความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์
และแน่นอน ถ้าหากภารกิจขนส่งครั้งนี้ล้มเหลว ก็จะกลับกลายเป็นว่ามันจะยิ่งยากมากขึ้นที่จะให้ทั้งสองเผ่าพันธุ์กลับมาเป็นมิตรกันได้อีก

ไอน์ฮานด์กล่าวต่ออีกว่า

ดูจากสภาพของพวกออร์ค ข้าคิดว่าคงจะดีหากเจ้าช่วยสอนเกี่ยวกับเส้นทางการแกะสลักให้กับเหล่าคนแคระ

ในบรรดาเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทักษะของผมก็ถือว่าพอใช้ได้ครับ ข้าจะไปกล้าทัดเทียมกับทักษะของเหล่าคนแคระได้อย่างไรหล่ะครับ?”

เปล่าเลย ชื่อเสียงของเจ้าเป็นที่รู้จักดีท่ามกลางเราเหล่าคนแคระ เจ้าได้สร้างผลงานเอาไว้มากมายและได้นำศิลปะเปิดกว้างสู่โลกของทวีปเวอร์เซล

วีดรู้สึกภูมิใจอย่างมากในทักษะความสามารถของเขา และนี่ไม่ได้เป็นการยกยอตัวเองแต่กลับเป็นเหล่าคนแคระต่างหากที่กำลังชื่นชมเขา

ไอน์ฮานด์ยังคงพูดต่อไป

ทว่าเมื่อใดก็ตามที่ข้าเห็นประติมากรรม ข้าก็รูสึกผิดหวังอยู่เสมอ

เอ๋?”

เจ้ารู้เกี่ยวกับแร่เหล็กมากแค่ไหนหรือ? การทำแบบพิมพ์และการตัดเชื่อมเหล็กด้วยการใช้วัสดุต่างๆนานานั้นถือว่าง่ายดายสำหรับพวกเรา คงไม่พูดเกินไปหรอกว่าเราเหล่าคนแคระได้นำความรุ่งเรืองเฟื่องฟูมาสู่อารยธรรมมนุษย์ของเจ้า

แร่เหล็กถือว่าเป็นวัตถุดิบอันสำคัญบนโลกใบนี้
มันถูกใช้เป็นวัสดุในการสร้างอาวุธส่วนมาก รวมถึงเป็นวัสดุในการก่อสร้างด้วยเช่นกัน



เหล็กคือวัสดุสำคัญเพื่อใช้ในการพัฒนาบ้านเมือง

ประติมากรส่วนมากใช้วัสดุหลายๆชนิดอย่าง ต้นไม้และหินนั่นจึงเป็นเรื่องง่ายดายที่จะจัดการแกะสลักได้ หากเขามีฝีมือมากพอก็จะสามารถทำประติมากรรมเหล็กที่สวยงามออกมาได้ ในฐานะประติมากร หากเจ้าสามารถสร้างประติมากรรมที่แสดงออกถึงความงดงามของแร่เหล็ก เจ้าก็จะกลายเป็นที่จดจำของเหล่าคนแคระ

ตริ้ง!

เผ่าพันธุ์คนแคระผู้รักในแร่เหล็ก
หากประติมากรอยากจะเป็นที่จดจำของเหล่าคนแคระ เขาต้องสร้างประติมากรรมจากแร่เหล็กได้
ท่านต้องมีทักษะอันโดดเด่นที่สามารถจัดการกับแร่เหล็ก
ระดับของทักษะต้องมีความโดดเด่นในสายตาของเหล่าคนแคระ
ความยาก: ภารกิจปรมาจารย์ประติมากร
ข้อจำกัดการทำภารกิจ: ทักษะแกะสลักขั้นสูงเลเวล 8 หรือมากกว่า
ทักษะช่างตีเหล็กต้องอยู่ที่ขั้นต้นเลเวล 8หรือมากกว่า
หลังจากที่ทำภารกิจนี้สำเร็จ ค่าความใกล้ชิดกับไอน์ฮานด์จะเพิ่มขึ้น

 อ๊ะ บ้าจริง เมื่อคืนนี้ข้าดื่มเยอะเกินไปหรือเปล่านะ? ข้ามองคนผิดไปจริงๆ คนส่วนมากก็รู้ว่าเจ้ามีความรู้เกี่ยวกับการตีเหล็ก คงไม่จำเป็นที่เจ้าต้องทำภารกิจนี้แล้วล่ะ!

ภารกิจของท่านสำเร็จแล้ว
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 350 หน่วย
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะช่างตีเหล็กเพิ่มขึ้น
ความใกล้ชิดกับคนแคระไอน์ฮานด์เพิ่มขึ้น นี่ก็มากพอที่จะให้ท่านดื่มฉลองกับเขาทั้งคืนได้แล้ว

วีดสามารถผ่านภารกิจนี้ไปได้ในทันทีเพราะระดับทักษะช่างตีเหล็กที่สูงมากของเขา

งั้นนี่คงจะเป็นชะตาลิขิตที่ทำให้ฉันได้มาเป็นประติมากรเป็ด สินะ (Jack of all trades: ทำได้หลายอย่างแต่ไม่เก่งสักอย่าง)

มีเพียงมนุษย์เป็ดแค่คนเดียวเท่านั้นที่สามารถรับมือกับวัสดุแกะสลักได้นานาชนิด

แล้วไอน์ฮานด์ก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

คิคิคิ จากความสามารถทักษะช่างตีเหล็กของเจ้า ค่อยสะดวกที่จะคุยด้วยหน่อย ในบรรดาเราเหล่าคนแคระเองก็มีเรื่องราวที่กล่าวถึงจุดอ่อนของพวกเรา.

มีอะไรที่ท่านกังวลอยู่รึเปล่าครับ?”

วีดผู้แสนเจ้าเล่ห์มักจะมาพร้อมกับคำพูดหวานๆเต็มไปด้วยการประจบสอพลอ เขาเปลี่ยนสีหน้าให้ดูจริงจัง และแสดงออกว่าเขากำลังรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ
ทักษะการแสดงของเขานั้นบดบังรัศมีของนักแสดงละครตัวจริงได้เลยด้วยซ้ำไป
เจ้ารู้จักไคเบิร์นไหม?” (Kaybern/ Qyburn: ชื่อเรียกน่าจะแบบเดียวกับในเรื่อง Game of Thrones เพราะเป็นมังกรแบบเดียวกัน)
ครับ ผมรู้จักมัน
มันคือมังกรปีศาจ อาครีย์ออง ไคเบิร์น นั่นเอง (ผู้แปล: เคยพูดถึงเล่ม 13ตอนที่ 10 )
มันคือผู้อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งอาณาจักรธอร์
เหล่าคนแคระอยู่อาศัยภายในเทือกเขาแห่งนี้ สถานที่ที่ซึ่งเป็นดินแดนที่ตั้งบนอาณาเขตของไคเบิร์น

จบตอน

ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

12 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับรอติดตามตลอดครับ

    ตอบลบ
  2. ค่าเป็นกษัตริย์ 30 เหรียญทอง ที่เหลือเด๋วประชาชนระดมทุนมั้ง

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากๆครับเป็นกำลังใจให้จ้าา

    ตอบลบ
  4. สู้ๆ ครับ ช่วงนี้ผมติดงานแหงกมาก แปลกันไปก่อนเน้อ555

    ตอบลบ
  5. เจ้ารู้จักสม็อฟมั้ย?

    ขอบคุณครับ สู้ๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เจ้าเห็นลูกธนูดำนั่นมั้ย เจ้าจงจักใจ้มันเพื่อกำจัดมังกรชั่วนั้น

      55555(มั่วบทขึ้นร่วนๆ)

      ลบ
  6. มีผมคนเดียวรึเปล่าที่ไม่รู้จัก คนโท จนต้องเปิด google?
    เซเฟอ โดนฆ่าไปแล้วมั้ง แค่ท่าทางมันก็ไม่น่าไว้ใจแล้ว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คนโท คือ คนเสียตังค์คับ คนรับสาย ฟรี๊ อิอิ

      ลบ
  7. เหอะๆ...นิแหละ...วีด
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...