วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 27 ตอนที่ 8 : เครื่องบรรณาการของเหล่าคนแคระ แปลโดย Cole’s Myth


เล่ม 27 ตอนที่ 8 : เครื่องบรรณาการของเหล่าคนแคระ แปลโดย Cole’s Myth


 พวกเราเหล่าคนแคระจะต้องนำอัญมณีและทองแท่งไปมอบให้กับไคเบิร์น หึหึ เรามิอาจขัดขืน ได้แต่จำใจทำตามที่มันต้องการ หากเรายังอยากจะขุดแร่เหล็กภายในถ้ำที่อยู่ในอาณาเขตของพวกมังกรต่อไป

ผมเข้าใจครับ แต่ว่า ไอ้เจ้าไคเบิร์นนี่มันตัวร้ายจริงๆที่บังคับให้ท่านส่งเครื่องบรรณาการไปให้มันแบบนั้น

ข้าก็คิดเช่นนั้นแต่ถึงยังไง เราก็ยังต้องยกเครื่องบรรณาการไปให้มันทุกๆสามเดือนอยู่ดี

ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถในการผลิตและแรงขับเคลื่อนทางการค้าที่แข็งแกร่งของเหล่าคนแคระภายในอาณาจักรธอร์ พวกเขาก็ยังไม่ได้กลายเป็นหนึ่งของเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจบนทวีปเวอร์เซลอยู่ดี นี่ก็เป็นเพราะว่าพวกเขาถูกจำกัดให้ต้องมอบเครื่องบรรณการกับพวกมังกรอยู่ตลอด 

อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณการคุ้มครองจากเหล่ามังกร ที่ทำให้การพัฒนาการทำเหมืองของพวกเขาเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวพวกมอนสเตอร์หรือภัยคุกคามจากภายนอกที่ทำให้พวกเขามีข้อได้เปรียบทางด้านความปลอดภัย

และเดือนหน้าเองก็เช่นกัน ถึงกำหนดการที่พวกเราต้องส่งมอบเครื่องบรรณาการมังกรตัวอื่นน่ะยังไม่ใช่ปัญหาหรอกเพราะพวกมันยังมาเอาแค่จำนวนนึงที่พอรับได้ แต่กับเจ้าไคเบิร์น เขาเป็นพวกอารมณ์ฉุนเฉียวมาก

ภายในอาณาจักรธอร์ สิ่งเดียวที่มักจะนำปัญหาชวนปวดหัวมาให้กับเหล่าคนแคระก็คือเจ้าไคเบิร์น ที่เป็นหนึ่งในมังกรทั้งห้า

หากไม่มีผู้เล่นสายพันธุ์มนุษย์ เอลฟ์ หรือว่าคนแคระออกผจญภัยแบบบ้าบิ่น การที่จะได้เห็นมังกรเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะว่าวีดรู้ดีว่าพลังทำลายล้างที่พวกมันสามารถทำได้มีมากขนาดไหน แต่เพราะปกติเขาไม่ค่อยได้ออกเดินทางตะลอนไปทั่ว เขาจึงไม่เคยเห็นมังกรเลยซักครั้งเดียว

แต่ถึงกระนั้น เหล่าคนแคระก็ยังต้องพบเจอกับความยากลำบากมากมายนานัปการ เพราะมีพวกมังกรที่คอยมายังหมู่บ้านเรียกร้องจะเอานู้นเอานี่อยู่เรื่อย เหล่าคนแคระจึงต้องจำใจจมปลักอยู่กับการหลอกหลอนของพวกมังกรที่นำมาซึ่งความโกลาหล
ความต้องการของเจ้าไคเบิร์นมีแต่จะแย่ลงๆ แม้ว่าพวกเราเหล่าคนแคระจะยังพอสามารถเอาอัญมณีกับทองที่ขุดได้จากเหมืองไปให้มัน แต่ข้าว่ามันจะไม่ดีกว่าเหรอหากจะมอบผลงานสวยๆให้กับพวกมัน? แต่ถ้าหากว่าพวกมังกรไม่พอใจกับเครื่องบรรณการของเราเผ่าคนแคระ เราคงต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสแน่ๆ.โชคดีจริงๆที่มีประติมากรอยู่ตรงนี้ ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะพอทำอะไรได้บ้าง

ตริ้ง!

เครื่องบรรณาการล้ำค่าแด่ไคเบิร์น
จงสร้างผลงานประติมากรรมที่ทำจากทองและอัญมณีจำนวน 2,800 ชิ้นเพื่อมอบให้กับ อาครีย์ออง ไคเบิร์น
ไอน์ฮานด์จะส่งลูกมือคนแคระเพื่อช่วยเหลือท่าน
บรรดาประติมากรรมควรจะสร้างให้ตรงกับรสนิยมของพวกมังกร
หากท่านทำสำเร็จ ท่านจะกลายเป็นที่จดจำของเหล่าคนแคระในฐานะประติมากร
ระดับความยาก: ภารกิจปรมาจารย์ประติมากร
ข้อจำกัดการทำภารกิจ: มีทักษะประติมากรรมขั้นสูงเลเวล 8 หรือมากกว่า
มันควรจะถูกสร้างให้เสร็จก่อนวันที่ 25 ของเดือนหน้า
หากท่านล้มเหลว ความเป็นมิตรกับเหล่าคนแคระจะลดลงและท่านจะเสียความเชื่อใจจากพวกเขา
เพื่อที่จะให้ได้รับภารกิจนี้อีกครั้ง ท่านต้องกลับไปเพิ่มค่าความสนิทสนมกับเหล่าคนแคระอีกครั้งเพื่อให้ได้ความเชื่อใจกลับคืนมาจากการทำภารกิจต่างๆ
นับจากวันนี้ เหลือเวลาอีก 52 วัน

ฉันต้องทำให้ได้ 60 ชิ้นต่อวัน
มันคืองานใหญ่ที่มาแบบไม่คาดคิด!

ผมจะหันหลังและมองเหล่าคนแคระทั้งหลายทุกข์ทรมานได้ยังไงกันล่ะครับ? ในฐานะประติมากร ผมจะทุ่มเทแรงกายทั้งหมดที่มีทำงานนี้สำเร็จให้จงได้

ท่านได้ตอบรับภารกิจแล้ว

ถ้างั้นข้าจะยอมเชื่อใจเจ้า

มีอัญมณีอยู่หลากหลายขนาด และคุณภาพของทักษะช่างฝีมือนั่นเองที่ทำให้มีรูปแบบแร่ดิบพวกนี้ออกมา จากนั้นเขาก็ไปสร้างประติมากรรมทองคำจำนวนหนึ่งด้วยการใช้กระบวนการเติมทองเหลวลงในเบ้าหล่อ

เพราะว่าพวกมังกรชอบของที่เป็นประกายระยิบระยับ ผลงานที่ทำออกมาต้องดูหวือหวาสะดุดตา

แล้ววีดก็เริ่มทำงานของเขา

ภายในเมืองไอเอิร์น แฮมเมอร์ (Iron Hammer) มีอุปกรณ์พื้นฐานมากมายที่เขาไปหยิบยืมมาจากไอน์ฮานด์ที่เขาคิดว่าน่าจะเอามาใช้งานได้

ค้อนช่วยเพิ่มความทนทานบวกกับเตาหลอมก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเหล็ก ทำให้มีแร่ดิบที่นำมาใช้มีความบริสุทธิ์

ไอน์ฮานด์พร้อมกับเหล่าช่างตีเหล็กฝีมือเยี่ยมจากทั่วเมือง ไอเอิร์นแฮมเมอร์เองก็เข้ามาช่วยเขา

พวกเขาต่างก็มีสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสมกับพวกเขา
 พวกเขาขุดอัญมณีออกมาจากเหมืองและขนใส่รถขนแร่ไปไว้ที่เก็บแร่อัญมณีของพวกเขา

 ชุดแรกมาก่อนเลย ฉันจะขุดมันจนให้ได้ห้ารถเข็นแล้วค่อยเอาไปทีเดียว

ความโลภของวีดเริ่มลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง

อึก! ถ้าฉันแอบหนีไปหลังจากที่เอามาจนหมดแล้วล่ะก็.

แม้จะอยู่ในระหว่างการทำภารกิจ ประติมากรผู้นี้ก็ยังจะพยายามหลบหนีไปพร้อมกับสมบัติทั้งหมดของเหล่าคนแคระ!

แต่หลังจากนั้น สิ่งเดียวที่หยุดยั้งเขาไว้ก็คือ การทำแบบนั้นไปแล้วคงทำให้มังกรไคเบิร์นไล่ล่าเขาแน่ และเมืองโมราต้าก็ต้องเผชิญหน้ากับมังกร

จากนั้นผู้คนมากมายก็จะล้มตาย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามดิ้นรนขณะที่มีท่าทีพฤติกรรมที่ดูน่ากลัวจากความคิดที่จะหลบหนีไปจากที่นี่

เหล่าคนแคระที่เดินผ่านไปมาต่างพยักหน้า

ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นแค่มนุษย์ แต่เจ้านี่ช่างกระตือรือร้นในการทำงานของเจ้าจริงๆ
ข้าเห็นด้วยกับคำพูดนั้นนะ

เพื่อที่จะจบช่วงเวลาที่แสนกระอักกระอ่วนนี้ให้ได้ วีดจึงหยิบมีดแกะสลักของซาฮับออกมาในที่สุด

ให้ข้าทำสักชิ้นนะครับ

แซก แซก แซก!

วีดลองนึกย้อนกลับไปดูผลงานประติมากรรมทุกแบบที่เขาเคยทำมา

แทนที่จะมัวแต่เสริมคุณค่าทางศิลปะลงไปในผลงาน ฉันควรให้ความสำคัญกับจำนวนดีกว่า

ขณะที่เขาต้องรักษาคุณภาพของผลงาน เขาก็ยังต้องคิดถึงจำนวนที่ต้องการเช่นกัน

เขาทำแม่พิมพ์รูปสัตว์และมอนสเตอร์ขึ้นมา

เขาเคยทำแม่พิมพ์ของเครื่องเซรามิคออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปขาย หากเขาจะสร้างแม่พิมพ์เพื่อใช้กับทองคำ ก็ยังมีพวกช่างตีเหล็กคนอื่นๆเป็นลูกมือคอยช่วยเขาอยู่

จากการเททองเหลวลงในแม่พิมพ์ พวกเขาก็จะสามารถสร้างประติมากรรมทองคำแวววาวออกมาได้มากมาย

สำหรับประติมากรแล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่ชวนหลงใหลจริงๆ

 มีคนเคยบอกว่าไม่มีใครไม่ชอบทองหรอก มีแต่ความอยากได้ที่ไม่เคยพอต่างหากและจากนั้นความทุกข์ก็จะคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ ถึงแม้คนเราจะเป็นถึงเจ้าของร้านขายอัญมณี แต่คนๆนั้นก็อาจจะยังไม่รู้จักความสุขของชีวิตอยู่ดี

ถ้าหากวีดกลายเป็นเจ้าของร้านอัญมณีในภายภาคหน้า เขาก็คงไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้จิตใจสงบลง และก็คงไม่อาจข่มตาลงนอนได้เพราะมัวแต่กลัวว่าจะมีขโมยมาฉกอัญมณีเขาไปหรือเปล่า

อัญมณีถูกตัดออกอย่างประณีตด้วยมีดแกะสลักของเขา

สำหรับอัญมณีเหล่านี้ แม้ว่าจะมีตำหนิเล็กๆน้อยๆบ้างก็คงไม่เป็นไร เพราะยังไงเจ้าก็ค่อยทำมันใหม่อีกครั้งก็ได้นิ

ถึงแม้ว่าไอน์ฮานด์จะพูดแบบนั้นก็ตาม แต่การทำผิดพลาดนั้นจะทำให้ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเขาในฐานะประติมากรเสื่อมเสีย หากอัญมณีเสียหายไปซักนิดนึงมันก็ไม่อาจจะฟื้นกลับมาให้เป็นเหมือนเดิมได้

เพชร ทับทิม ไพลิน และอัญมณีอื่นๆ ส่วนมากแล้วอัญมณีพวกนี้ถูกแกะเป็นรูปนางฟ้าบนพื้นผิว มันทำให้อัญมณีดูมีความแพรวพราวตามขนาดตัวของนางฟ้าที่แกะลงไป วีดกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแกะสลักประติมากรรมด้วยแสงระยิบระยับ เพราะเขาได้ฝึกฝนการแกะสลักที่เกี่ยวกับทักษะแกะสลักแสงจันทร์มาเยอะพอสมควร

อะไรที่จะสร้างความพอใจให้พวกมังกรกันนะ พวกมันมักจะชื่นชอบลักษณะภายนอกมากกว่าคุณค่าทางศิลปะ

เพราะว่ามังกรชื่นชอบอัญมณีและทองที่แวววาว เขาจึงตั้งสมาธิไปแค่จุดๆนั้นเพียงอย่างเดียว

ในฐานะประติมากร เขาคงจะค่อยๆทำไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องเปลืองแรงมากนัก

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับโอกาสทองอย่างนี้ โอกาสที่เขาจะได้แกะสลักทองและอัญมณีจำนวนมหาศาลนั้นหาได้ยากเหลือเกิน

แม้ว่าค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักของเขาจะเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ค่าความศรัทธาของเขากลับตกลงไป

เมื่อไรก็ตามที่เขามองดูทองและอัญมณีใกล้ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรความศรัทธาของเหล่าคนแคระที่มีต่อเขากลับลดลงไปในทันที

ขณะที่อยู่ภายในเมือง ไอเอิร์นแฮมเมอร์ ก็มีคนเตรียมอาหารเอาไว้ให้เขาแบบไม่จำกัด แต่ก็ต่อเมื่อตอนที่เขาทำงานอยู่เท่านั้น
***

กิลด์เฮอร์มีสเรียกหน่วยจู่โจมของพวกเขาไปกำจัดวีดอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าวิธีนี้ไม่ค่อยจะได้ผลสักเท่าไร

วีดนี่ลื่นอย่างกับปลาไหล ยากมากที่จะจับตัวได้ทัน ตะลอนเร่ร่อนไปทั่วทวีปเวอร์เซล

ตอนที่หน่วยจู่โจมของพวกเขาไปถึงเบอร์ซิเลีย พวกออร์คกลุ่มใหญ่ก็กระโจนใส่พวกเขาทันที และแทนที่พวกเขาจะได้โจมตีวีด กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้รับการบุกจู่โจมอย่างรุนแรงจากพวกออร์คซะงั้น

แม้ว่าด้วยพลังรบของหน่วยจู่โจมที่พวกเขามี จะสามารถกำราบพวกออร์คไปได้อย่างง่ายดาย แต่เพราะว่ามันกินเวลาต่อสู้ไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็โดนศัตรูที่แพ้ไปแล้วกลับมาโจมตีคืนอีกตั้ง 17 ครั้ง

ล้างแค้นพวกมันซะ ชวิชิชิชวิ!

บางทีความคิดของพวกเขาก็คือการต่อสู้ไปด้วยออกตามหาคาริชวิไปด้วย เพราะว่าพวกเขาอาจจะไม่มีทางรู้เลยว่าวีดจะอยู่ในกลุ่มออร์คนั่นหรือเปล่า ขณะที่พวกเขาต่อสู้ไปพลางตามหาเขาไปพลาง พวกเขากลับไม่รู้เลยซักนิดว่าจุดจบของพวกเขาได้มาถึงแล้วขณะที่กองทัพออร์คอันน่ากลัวได้ปรากฏตัวขึ้นมาและค่อยๆบีบพวกเขาและกวาดล้างหน่วยจู่โจมของพวกเขาจนสิ้น ไม่ว่าเลเวลของพวกเขาจะสูงมากซักแค่ไหน กองกำลังของพวกเขาก็ไม่อาจต้านทานกองกำลังออร์คจำนวนมากขนาดนั้นได้อยู่ดี

และในที่สุด หน่วยจู่โจมก็พ่ายแพ้และถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้น

ถ้าหากพวกเขายอมล่าถอยออกมาจากกองทัพออร์คตั้งแต่แรกเริ่ม ผลที่ออกมาคงไม่เป็นแบบนี้

แม้ว่าภายในหน่วยจู่โจมจะยังมีคนอยู่จำนวนมาก แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้แบบยอมเสี่ยงชีวิตยังไงพวกเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะเอากลยุทธ์แบบไหนไปใช้ต่อสู้กับกับวีด แต่ถึงยังไงตอนนี้พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการกับการโจมตีต่อเนื่องของพวกออร์คได้
หลังจากที่หน่วยจู่โจมถูกกวาดล้างจนหมดท่า เหล่าผู้บัญชาการออร์คก็เอ่ยบางคำขึ้นมา

มีออร์คตายไปเป็นจำนวนมาก ชวิชวิชชวิ กลับบ้านไปทานข้าวแล้วนอนซะ ชวิชวชิวิค!

แล้วก็อย่าเอาแต่นอน ตื่นมากินข้าวแล้วมาทำลูกออร์คเยอะๆ สู่ความรุ่งโรจน์ของเรา เหล่าออร์ค!

และนี่คืออีกครั้ง ที่เหล่ากิลด์เฮอร์มีสจำต้องทนทุกข์จากความเสื่อมเสียเกียรติอีกครา ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับวีดและยังพ่ายแพ้กลับมาอีก ด้วยฉากที่โดนล้อมไปด้วยพวกออร์ค หน่วยจู่โจมถูกบดขยี้จนป่นปี้ มันเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้
เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้น จึงได้มีมติลงมาจากเหล่าผู้บริหารหลักของกิลด์เพราะมันยากเหลือเกินที่จะไล่ตามไปก่อกวนวีด

 ส่งหน่วยนักฆ่าไปตามที่เราเคยวางแผนเอาไว้ และต้องไม่ให้ใครรู้ข่าวคราวเรื่องนี้เด็ดขาด ถ้าเห็นตัวมัน ตามมันไปอย่าให้คลาดสายตาเหมือนกับเงาของมันเลย.

ตำแหน่งของหน่วยจู่โจมถูกเปิดเผยแล้ว พวกเขาควรล่าถอยออกมา มันคงยากเกินไปที่จะไปตอบโต้กับพวกออร์ค ใครมีความคิดที่ดีกว่านี้บ้างไหม?”

บัดนี้เหล่าผู้บริหารหลักของกิลด์ต่างอยู่ในจุดที่ต้องมารับรู้ความขายขี้หน้าจนแทบอยากจะเอาปี๊บมาคลุมหัว

พวกเขาคือกิลด์เพียงหนึ่งเดียวที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้ปกครองราชอาณาจักรฮาเว่นและราชอาณาจักรคัลลามอร์

จากแนวทางการปกครองที่พวกเขาได้ตัดสินใจสร้างขึ้นมาก็อาจทำให้สถานการณ์ภายในทวีปทางตอนกลางเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังรู้สึกไม่ยอมปล่อยวางจากมือที่ถูกผูกติดเอาไว้กับสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายเล็กๆน้อยๆอย่างการออกไล่ล่าวีด

แล้วตอนนี้ท่านบาร์ดเรย์เป็นยังไงบ้าง?”

ตอนนี้เขากำลังทำภารกิจที่สิบของเขาอยู่ครับ

นั่นถือว่าเร็วมากจริงๆ คงจะเร็วกว่าวีดด้วยซ้ำไป?”

มีข้อมูลรายงานมาว่าเขามีพวกราชองครักษ์ติดตามไป พวกเขาคอยช่วยอยู่เบื้องหลังจึงลดเวลาที่ใช้ในการทำภารกิจลงมากเลยทีเดียว ส่วนวีด จากรายงานของพวกสายสืบที่เราส่งไปฝังตัวในโมราต้า มันอยู่ในเมืองโมราต้าพักหนึ่ง และพึ่งจะใช้เวลาทำเครื่องปั้นดินเผาไปชั่วครู่

ข้าคิดว่ามันคงถูกถ่วงลงไปมากเอาการนะ แล้วเรื่องภารกิจของบาร์ดเรย์ที่ต้องไปเอาชุดเกราะใหม่ละเป็นไง?”
เรากำลังเริ่มดำเนินการครับ ไม่มีอุปสรรคอะไรในการขุดเจาะดันเจี้ยนครับ

ถ้าเป็นไปได้ก็เพิ่มคนเข้าไปที่สุสานอัศวินทมิฬเทรูที่ราชอาณาจักรคัลลามอร์อีก

ขอบคุณครับท่าน เราคิดว่าคงจะได้เริ่มขุดภายในสัปดาห์นี้ครับ

กิลด์เฮอร์มีสได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนภายในราชอาณาจักรคัลลามอร์ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

บรรดาสมาชิกกิลด์อาชีพสายนักผจญภัย โจร อัศวิน และอื่นๆได้รวมตัวกันในฐานะกลุ่มสำรวจ เจาะเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อระบุถึงตำแหน่งของสมบัติที่อยู่ข้างใน

เพราะว่ามีนักผจญภัยที่คอยเป็นกำลังเสริมให้กับกิลด์เฮอร์มีส จึงเป็นงานง่ายสำหรับพวกเขาที่จะเพิ่มค่าทักษะพร้อมกับการตามหาสมบัติให้กิลด์ไปด้วย ถึงแม้ว่าสมบัติส่วนมากจะถูกมอบให้กับกิลด์แถมยังไม่ได้เป็นเจ้าของพวกมันอีก แต่การได้เป็นแค่คนสนับสนุนให้กิลด์นั้นก็ดีมากพอสำหรับเหล่านักผจญภัยแล้ว

 แต่ว่าพวกนักผจญภัยก็ได้ยินข่าวลือไม่ดีที่พูดถึงเกี่ยวกับราชอาณาจักรของเราด้วยครับ

ได้ยินว่าไง?”

ถึงแม้ว่าเราจะทำอะไรไม่ได้เพราะว่ามันเป็นสงคราม แต่ดูเหมือนว่าการชิงเมืองมาจากราชอาณาจักรคัลลามอร์จะลดค่าชื่อเสียงเรามากกว่าที่เราคิดครับ และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น แทนที่เราจะมั่นคงมากขึ้น กลับมีคนด่าทอมากมาย แถมยังมีการก่อกบฏเกิดขึ้นเรื่อยๆ
ก็แล้วแต่สิ ธนูจะยิงมากจากไหนก็เรื่องของมัน มันเป็นแบบนั้นไม่จบไม่สิ้นอยู่แล้วนิ แล้วการเคลื่อนไหวของกิลด์อื่นๆล่ะเป็นไง?”

มีกิลด์ขนาดใหญ่กว่า 5 กิลด์คอยเป็นกำลังให้เราครับ กิลด์เมฆา (Cloud Guild) กิลด์ดาวราชสีห์ (Lion Star Guild) กิลด์นักพเนจร (Roam Guild) กิลด์ทหารรับจ้าง ดาบทมิฬ (Black Sword Mercenary Guild) แล้วก็กิลด์ราชสีห์ทมิฬครับ ดูท่าว่าพวกเขาจะยอมรับข้อตกลงแล้วครับ และไม่นานพวกมันก็จะกลายเป็นของราชอาณาจักรเรา

 ในที่สุด ดูเหมือนหลายสิ่งหลายอย่างกำลังเป็นไปตามคาด

อีกทั้งก็ยังมีกิลด์โด่งดังอื่นๆอีกมากมายมาเข้าร่วมกลุ่มสมาพันธ์มหาอำนาจ นั่นจึงทำให้ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขายังไม่เป็นที่ชัดเจน

หากรวมกิลด์เฮอร์มีสเข้าไปด้วยแล้ว อีกทั้งยังมีกิลด์ยักษ์ใหญ่อีกหกกิลด์จนทำให้เกิดเป็นอำนาจอันมหาศาลขึ้นมา

ราชอาณาจักรต่อไปที่เราจะจู่โจมคือ ลาเซล

ในบรรดาอาณาจักรเพื่อนบ้านของเรา กองกำลังของพวกมันถือว่าอ่อนด้อยกว่ามาก

ถูกต้อง เราจะทำลายมันในชั่วพริบตาแล้วจากนั้นก็ยึดมาซะ แล้วจากนั้นก็ไปโจมตีราชอาณาจักรพันธมิตรแห่งบริทเท่นทันที

เหล่าผู้บริหารหลักได้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามครั้งต่อไปแล้ว
ถ้าหากพวกเขายึดราชอาณาจักรลาเซลและราชอาณาจักรพันธมิตรแห่งบริทเท่นได้สำเร็จ พวกเขาคงจะกลายเป็นจักรวรรดิที่ทรงอำนาจอย่างแน่นอน

ราชอาณาจักรพันธมิตรแห่งบริทเท่นอาจจะไม่ได้มีกำลังรบที่ไร้เทียมทานขนาดนั้นหรอก

ถึงแม้ว่ามันพึ่งจะถูกสร้างขึ้นจากอาณาเขตและเมืองอิสระจำนวนมาก แต่พวกมันก็รวมตัวกันมานานนับหลายปีแล้ว และอย่างที่ท่านรู้ว่าดินแดนนั่นยังมีสาขาย่อยของกิลด์เมฆาอยู่ด้วย

การสู้รบปรบมือกันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเราได้ไตร่ตรองกันกับพวกกิลด์เมฆามาก่อนแล้ว

 เราได้เตรียมตัวพร้อมรบเรียบร้อย พวกมันคงคิดไม่ถึงหรอกว่าเราจะไปโจมตี

แล้วกำลังรบของราชอาณาจักรพันธมิตรแห่งบริทเท่นละเป็นยังไง

ระดับของพวกผู้ใช้จิตวิญญาณธาตุกับจอมเวทย์ถือว่ายอดเยี่ยม แถมกองกำลังทหารก็มีผู้เล่นอยู่เป็นจำนวนมาก

ถ้าพวกผู้เล่นต่อต้านเรา ข้าเดาว่าคงได้กลายเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อแน่ ข้าก็ไม่ได้อยากให้สงครามครั้งนี้มันยืดเยื้อมากนัก

ทันทีที่กิลด์ของเราเริ่มโจมตี พวกผู้เล่นเลเวลสูงๆที่มีสมองหน่อยก็คงยอมแพ้ไปเองแหละน่า

ขณะที่ท่านบาร์ดเรย์กำลังดึงความสนใจพวกมันอยู่นี่ ทำให้แน่ใจว่าเราได้เตรียมตัวออกรบแบบรัดกุมแล้ว
แน่นอนครับ

เหล่าผู้บริหารหลักทำการประชุมจนดึกดื่น พวกเขาเป็นคนที่ได้ทำการตัดสินใจสำคัญๆอย่างต่อเนื่องภายในราชอาณาจักรยักษ์ใหญ่ของพวกเขา

จริงๆแล้ว พอพูดถึงเจ้าวีด.

เราต้องใช้คนไปเยอะแค่ไหนกันเนี่ย ว่าก็ว่าเถอะ เอาแต่ไล่ตามหลังมันไปอยู่แบบนี้ไม่ค่อยได้ผลจริงๆเลยซักที

มันลื่นเป็นปลาไหลเลย การจะเข้าใกล้จับตัวมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย

ด้วยทักษะช่างตีเหล็กและปักเย็บของวีด เขาจึงสามารถสวมใส่เสื้อผ้าส่วนมากได้ ขณะที่ใช้ทักษะประติมากรรมจำแลงของเขาเพียงแค่แปบเดียวก็สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้แล้ว มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจอตัวเขา มันจึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับพวกเขามากจริงๆ

เพราะว่ามีหน้าตาโหลๆบวกกับเงินรางวัลล่าฆ่าหัวของเขาจึงทำให้ยากที่จะเห็นเขาเดินเล่นไปมาในเมือง

นอกจากนี้ เขายังไหวตัวเร็วกับกลุ่มนักล่าที่พวกเขาส่งไปก่อกวนเขาอีก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะส่งหน่วยจู่โจมที่เป็นนักฆ่าออกไปไล่ล่า เขาก็ยังไม่ตกหลุมพรางอยู่ดี

จากนั้นท่ามกลางเหล่าผู้บริหารหลัก พวกพ่อบ้าน พวกผู้เล่นที่ถูกเรียกตัวอยู่บ่อยๆก็มีไอเดียอันชั่วช้าต่ำทรามโหดร้ายผุดขึ้นมา แล้วก็พากันพูดออกมา

ถ้าพวกเราอยากกำจัดวีดเอ่อ ก็ยังยุ่งยากสินะ งั้นทำไมเราไม่ก่อกวนเมืองโมราต้ากับชาวเมืองของมันล่ะ?”

ก่อกวนพวกมันหรอ?”

ส่งพวกโจรกับนักฆ่าไปจับตัววีดมา ขณะที่ส่งคนเข้าไปในเมืองโมราต้าปล้นสะดมแล้วก็ก่อวินาศกรรมซะ…”

เราอาจสร้างความเสียหายให้พวกมันมากเอาการเลยนะ

ถึงแม้ว่าเมืองฝั่งนั้นจะไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมายนัก แต่กิลด์เฮอร์มีสของพวกเราจะต้องให้พวกมันชดใช้ และถ้าหากการลอบโจมตีแบบลับๆนี้ได้ผล พวกมันก็จะหนีหัวซุกหัวซุนหลบอยู่แต่ในเมืองหลวง

ราฟาเอลได้ทำการตัดสินใจแล้ว

อำนาจในกิจการหรือการบริหารนอกเหนือไปจากกิลด์เฮอร์มีส ส่วนใหญ่แล้วล้วนอยู่ในกำมือของเขา
***

 ชวิค!

เหล่าออร์คข้ามมหาสมุทรมาจนถึงโมราต้าแล้ว
กลิ่นนั่นหอมหวนยั่วใจชะมัด ชวิคชวิค!

วีดหวังว่าพวกเขาจะเจอเรื่องร้ายๆกลางมหาสมุทรบ้างเพื่อลดจำนวนพวกเขาลงไป

ทว่าพวกเขาได้รับการดูแลอย่างดีจากสามฉลามโฉดแห่งเบกกี้นิน

เพราะว่ามีกิจการทางการค้าขายเกิดขึ้นแถวๆท่าเทียบเรือของเมืองโมราต้าอยู่ เหล่าผู้เล่นและชาวประมงทั้งหลายจึงร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือพวกมันอย่างสุดความสามารถ

 ออร์คพวกนี้มายังทวีปทางเหนือ.พวกเราจึงได้ช่วยเหลือพวกเขา เราพามาตามคำขอของวีด

ดูสิ พวกออร์คกำลังตกปลามากินกัน พวกออร์คอาจจะชอบสตูเนื้อปลาละมั้ง

บรรดาเรือประมงและเรือพาณิชย์กำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าไล่ตามกองเรือของเฮนท์ไป

เหล่าออร์คนั่งอยู่บนเรือ ขณะที่เรือแล่นไปๆมาๆจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก

เรือหลายลำบรรทุกน้ำหนักเป็นจำนวนมาก ในเมื่อมันเต็มไปด้วยพวกออร์ค ถึงแม้ว่าความเร็วในการแล่นเรือของพวกเขาตกลงไปบ้าง แต่ถึงยังไงพวกเขาทั้งหมดก็เดินทางมาถึงอย่างปลอดภัย

ว้ายยย! พวกออร์คนั่นน่ารักจังเลย

ดีจริงๆที่ได้เห็นออร์คในแดนเหนือแบบนี้

ถ้าพวกเจ้าหิว อยากได้โจ๊กหญ้าซักหน่อยไหมล่ะ?”

เหล่าผู้เล่นใหม่และเหล่าออร์คได้เจอหน้ากันแล้ว

แม้ว่านี่จะเป็นการพบกันระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์กับออร์ค ก็ไม่มีอคติที่เกิดขึ้นมาจากความแตกต่างของเผ่าพันธุ์เลย

ฉันอยากเป็นออร์คจัง

ใช่แล้ว เราเลือกเผ่าพันธุ์ออร์คตอนเริ่มเล่นเพราะเราอยากจะเป็นเลยล่ะ เราไม่มีที่ให้เดินทางไปมากนักดังนั้นเราเลยมาที่โมราต้าน่ะ

เหล่าออร์คพ่นลมออกมาจากจมูกขณะที่พวกเขามาถึงประตูเมืองโมราต้า

เพราะว่าพวกเขากินอาหารได้เยอะ จำนวนประชากรออร์คจึงพุ่งไปอยู่ที่ 175,000 ตน

มีประติมากรรมหินเยอะแยะไปหมดเลย ชวิชวิ!

พวกมนุษย์ที่นี่ร้องเพลงห่วยชะมัด ชวิชวิค!

เหล่าออร์คยังปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมการแสดงและศิลปะของที่นี่ได้ไม่ดีนัก

เจ้านี่ถูกชะมัด ชวิชิว!

ฉันอยากจะซื้อเจ้านี่จัง ชวิชวิ

ณ บริเวณจัตุรัสของเมืองโมราต้า พวกเขากำลังขายของตามราคาตลาด
แต่เพราะความละโมบของเผ่าพันธุ์ออร์ค พวกเขาจึงพยายามที่จะขายดาบไม้ในราคาตั้ง 4,000 เหรียญทอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมพวกเขาคิดว่าไอเท็มหลายอย่างราคาถูกมากๆ

ข้าซื้อนี่มาได้ในราคาถูกๆ ชวิชวิ!

หลังจากที่พวกออร์คซื้ออุปกรณ์สวมใส่มาได้มากมาย พวกมันก็พยายามที่จะขายมันกลับในราคามากกว่า 70,000 เหรียญทอง แน่นอนล่ะว่าไม่มีใครหน้าไหนซื้อของเหล่านั้น

และบัดนี้ คือเวลาที่เหล่าออร์คจะตั้งรกราก

เหล่าออร์คที่กระจายตัวอยู่ตามจัตุรัสและถนนของเมืองโมราต้ามานั่งรวมกลุ่มกันที่ทางเข้าเมือง


ถึงแม้ว่ามันดูยากลำบากสำหรับพวกเขา เหล่าออร์คก็ยังได้ยินข่าวดีอยู่บ้าง

-ณ ป้อมปราการเวอร์โก้ มีประติมากรรมใหญ่ยักษ์ของออร์คคาริชวิ!
-ประติมากรรมของออร์คที่สร้างขึ้นด้วยดินและหินสำเร็จแล้ว
-มีแคมป์สำหรับเหล่าออร์คที่มีการสร้างโรงอาบน้ำและห้องทานอาหารค่ำ

วีดได้ใช้อำนาจของเขาในฐานะลอร์ดสร้างหมู่บ้านออร์คให้พวกเขาได้อยู่อาศัยใกล้ๆกับเมืองปราการเวอร์โก้

มันตั้งอยู่บริเวณภูเขาที่เต็มไปด้วยภยันตรายมากมายซึ่งเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาจนเป็นเรื่องธรรมดา

ไปกันเถอะ ชวิค! ขอเพียงแค่คาริชวิอยู่ที่นี่ เขาก็จะช่วยเราได้

เหล่าออร์คมุ่งหน้าไปยังเมืองป้อมปราการเวอร์โก้ด้วยคำสั่งของผู้บัญชาการออร์ค

เมืองป้อมปราการเวอร์โก้เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อย่างโมราต้านั้นถือว่าด้อยกว่ามาก

แม้ว่าจะมีสิ่งก่อสร้างที่สร้างเสร็จแล้วจากรัทเซเบิร์ก ทว่าตั้งแต่วัฒนธรรมไปจนถึงการพัฒนาทางการค้าขายรวมถึงสิ่งก่อสร้างก็ยังถือว่าหม่นหมองมาก

เจ๋ง เราจะได้วิ่งไปไหนมาไหนได้แบบอิสระซะที ชวิ พวกเราจำเป็นต้องมีที่อยู่นะ ชวิ!

เหล่าออร์คชื่นชอบพื้นที่ขรุขระห่างไกลจากตัวเมืองมากกว่า พวกเขาแค่หวังที่จะอยู่อาศัยในที่ที่ดูยากลำบากเพียงพอให้ปลูกพืชผักและออกไปสู้กับพวกมอนสเตอร์เท่านั้นเอง

แม้ว่าชีวิตของพวกเขาจะอยู่ในความเสี่ยง มันก็ยังถือว่าเป็นสถานที่ที่พวกจะสามารถสนุกสนานไปกับอิสรภาพของพวกเขาได้!

เหล่าออร์คต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่ขณะที่เอาชนะสิ่งแวดล้อมอันเลวร้ายนี้ด้วยกำลังของเผ่าพันธุ์พวกเขา และเช่นนั้นเองพวกเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองป้อมปราการเวอร์โก้

และในที่สุด เผ่าพันธุ์คนแคระ คนเถื่อน เอลฟ์ ออร์ค และมนุษย์ก็จะได้พบปะเจอหน้ากันและกันภายในเมืองป้อมปราการเวอร์โก้แห่งนี้แล้ว
***

วีดยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานร่วมกับเหล่าช่างเหล็กคนแคระในการสร้างสมบัติเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการให้กับพวกมังกร

ภารกิจ: ความปรารถนาในดาบของไคเบิร์น
เหล่าคนแคระต้องแสดงทักษะทั้งหมดที่พวกเขามีเพื่อสรรสร้างดาบที่พวกมังกรปรารถนา
หากท่านทำงานไม่ทันเวลาที่กำหนด ท่านจะปลุกปั่นความพิโรธของเหล่ามังกร
ระดับความยาก: A
ข้อจำกัดการทำภารกิจ: ทักษะช่างตีเหล็กขั้นสูงเลเวล 4 หรือมากกว่า
เช่นกันนี้ท่านต้องสร้างดาบในระดับที่สูงที่สุดออกมาให้ได้
และต้องได้รับความร่วมมือมากที่สุดจากเหล่าช่างตีเหล็กคนแคระ
หากเหล่าคนแคระทำภารกิจในการสร้างครั้งนี้ล้มเหลว สิ่งที่อันตรายที่สุดนั่นคือมังกรเหล่านั้นจักปรากฏ

แม้ว่าข้อดีของภารกิจนี้คือพวกเขาสามารถใช้วัสดุใดก็ได้อย่างเต็มที่ภายในอาณาจักรธอร์ เว้นเสียแต่ว่าไอ้ของดีๆพวกนั้นได้มอบให้กับพวกมังกรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในฐานะช่างตีเหล็กพวกเขาจึงทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปด้วยแขนทั้งสองข้างที่มีเพื่อสร้างเครื่องบรรณาการออกมาให้ได้

เนื่องจากวีดไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าร่วมภารกิจ เขาจึงทำได้เพียงแค่ศึกษาเรียนรู้เทคนิคต่างๆที่สามารถช่วยเขาในการแกะสลักประติมากรรมจากช่างเหล็กคนอื่นๆ

ถึงแม้ว่าจะมีผลงานมากมายที่เขาต้องทำออกมา แต่พวกมังกรก็คงไม่ได้คิดว่าคุณค่าทางศิลปะเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรอยู่ดี จากการสนใจแต่เรื่องปริมาณ เขาจึงสามารถช่วยงานเหล่าช่างตีเหล็กคนอื่นๆได้ แถมยังสามารถเรียนรู้เทคนิคต่างๆจากพวกเขาได้อีก

เจ้านี่ช่างทุ่มเทจริงๆ โอเคถ้างั้นข้าก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่สอนให้เจ้า

พวกช่างเหล็กแคระไม่ได้ให้กลวิธีลับระดับสูงอะไรกับเขาเลย ก็แค่พวกเทคนิคพื้นๆธรรมดาๆ

ถึงอย่างไรก็ตาม วีดผู้ที่สามารถพูดได้ว่ามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการประจบสอพลอผู้คน ค่อยๆเบียดตัวเข้าไปอยู่ในพื้นที่เดียวกับปรามาจารย์ เอบุ และค่อยๆสอนเรื่องพื้นๆเขาทีละนิดทีละหน่อย

-ท่านได้เรียนรู้การขัดเงาเหล็กจากคนแคระโรฮานด์
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะตีเหล็กของท่านเพิ่มขึ้น
ท่านสามารถสร้างเกราะหุ้มอกที่มีค่าการป้องกันสูงได้แล้วตอนนี้

เทคนิคที่เขาพยายามเรียนรู้จากเหล่าคนแคระก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
ตั้งแต่วิธีทำเครื่องทองเหลืองไปจนถึงเทคนิคการตีค้อนเหล็ก มีอะไรหลายอย่างมากมายที่เขาได้เรียนรู้จากงานที่พวกเขาทำ

เนื่องจากทักษะช่างตีเหล็กเป็นทักษะที่ค่อนข้างกว้างมาก มันจึงครอบคลุมในหลายๆศาสตร์ความรู้

เจ้าไม่ใช่คนแคระ โห เหล้านี่รสชาติดีเลยนิ.ข้าสอนเทคนิคของข้าให้เจ้าไม่ได้หรอก.โหจานนี่ยอดไปเลย เจ้าไปเรียนรู้เทคนิคการทำอาหารมาจากไหนหรอ? ถึงแม้ว่าข้าไม่ชอบรับศิษย์มั่วซั่ว แต่ดูจากความตั้งใจของเจ้าแล้ว งั้นข้าจะสอนเรื่องพื้นฐานให้เจ้าซักหน่อยละกัน
***

ณ เมืองไอเอิ้น แฮมเมอร์ เมืองหลวงแห่งอาณาจักรธอร์ ไม่มีฝูงมอนสเตอร์เข้ามาโจมตีเลยแม้แต่น้อยนั่นจึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมถึงไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นระหว่างเหล่าคนแคระเลย

แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ท่ามกลางเหล่าคนแคระ ส่วนใหญ่กลับมีการแข่งขันอย่างดุเดือดภายในเตาหลอมของพวกเขาแทน

เหล่าผู้เล่นที่ถูกเลือก พวกเขาใฝ่ฝันอยากจะเป็นช่างตีเหล็กคนแคระที่เก่งที่สุด ต่างพยายามสร้างดาบขึ้นมามากมาย

ณ บริเวณเทือกเขานอร์น เทือกเขาอัลต้า เทือกเขาไซกอร์น ซึ่งเป็นเทือกเขาที่เต็มไปด้วยแร่เหล็กคุณภาพสูงที่ถูกขุดไปมากมาย และเป็นตัวช่วยให้เพิ่มทักษะช่างตีเหล็กของเหล่าคนแคระ

 แร่เหล็กพวกนี้เยอะแยะไปหมดเลย ข้าจะตีพวกมันจนมืดค่ำไปเลย ฟอร์ฮานด์ เจ้าตีดาบได้กี่เล่มแล้วล่ะ?”

ข้าตีได้ 17 เล่มแล้ว เจ้าละ?”

“21 เล่มแล้ว วันนี้ข้าว่าจะไปหาซื้อเหล้าด้วยสักหน่อย

ข้าก็รู้สึกเปรี้ยวปากแล้วเช่นกัน ตีดาบเล่มนี้ให้เสร็จแล้วไปกันเถอะ

ภายในเมืองไอเอิ้น แฮมเมอร์ เหล่าผู้เล่นคนแคระอาชีพช่างตีเหล็กต่างพากันตีดาบออกมาได้ค่อนข้างเยอะแล้วในตอนนี้

พวกเขาต่างจ้องมองเข้าไปในเตาหลอมวันแล้ววันเล่า เงื้อมตีเหล็กเป็นกิจวัตรโดยซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้ความบากบั่นอะไรมากมายในการทำอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย

แต่ถึงยังไงรางวัลอันล้ำค่าสำหรับเหล่าช่างตีเหล็กก็คืออาวุธของเขาแต่ละคนได้กลายเป็นผลิตผลที่ได้รับการจารึกชื่อลงจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพื่อที่จะสร้างอาวุธหรือชุดเกราะที่โดดเด่นถึงขนาดนั้นให้ได้ ก็ต้องมีการตั้งเป้าหมายและมีความตั้งใจเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่!

แต่ถึงกระนั้นจากการเอาแต่สร้างผลงานที่น่าเบื่อหน่ายและซ้ำซากเหล่านั้น พวกเขาก็ต้องผลักให้ตัวเองไปเสพสุขกับการดื่นสุราบ้างเป็นบางครา จากลักษณะนิสัยเฉพาะของเผ่าพันธุ์ที่ชอบหาข้ออ้าง เมื่อไรก็ตามที่พวกเขารู้สึกอยากดื่ม พวกเขาก็จะชอบปลีกตัวเพื่อไปลิ้มลองรสชาติของสุรา เนื่องจากเผ่าพันธุ์คนแคระนั้นชื่นชอบในรสสุรา เวลาส่วนใหญ่พวกเขาจึงมักจะฝังตัวอยู่แต่ในเมืองหลวง พวกเขาจะยึดทุกๆพื้นที่ภายในเมืองอย่างโรงเหล้า ย่านการค้า และโรงตีเหล็กที่บริเวณจัตุรัสของเมือง ไอเอิ้น แฮมเมอร์อยู่เสมอ

 คิคิ.รสชาติดีชะมัด
วีดเองก็ดื่มเหล้าของเขา
ภายในเมืองไอเอิ้น แฮมเมอร์ ช่างตีเหล็กที่อยู่ระดับกลางหรือมากกว่าจะได้รับเหล้าฟรีสองแก้ว
ในที่สุด วันนี้ก็มาถึงแล้วสินะ
นี่คือวันที่พวกเขาต้องมอบสมบัติเป็นเครื่องบรรณาการให้กับพวกมังกร!
โชคดีที่จำนวนของประติมากรรมทองและอัญมณีทะลุเป้าที่ได้ตั้งไว้ วีดเองก็มอบประติมากรรมทองที่เปล่งประกายแวววาวซึ่งเขาได้ทำขึ้นมากับมือของเขาเอง ไอฮานด์ก็ชื่นชมเขาด้วยเช่นกัน
ถ้ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แม้แต่ไคเบิร์นจอมเข้มงวดก็ต้องหลงรักมันเหมือนกันแหละ
จริงหรอครับ?”
แม้แต่ในสายตาของเราเหล่าคนแคระยังถือว่ายอดเยี่ยมมากจริงๆ
ไอน์ฮานด์และเหล่าคนแคระออกเดินทางไปเพื่อมอบเครื่องบรรณาการให้กับเหล่ามังกร

ตอนนี้พวกเขาคงจะถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขาแล้ว ณ ถ้ำของเหล่ามังกร

หลังจากที่ทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จเสร็จสิ้น เขาก็จะไปทำภารกิจปรมาจารย์ประติมากรลำดับที่สิบของเขาต่อไป

เมื่อไรมันจะเสร็จซักทีนะ

วีดกำลังค่อยๆกินส่วนแบ่งจากถั่วลิสงกับเหล้าสองแก้วที่เขาได้รับมาแบบฟรีๆ

เวลาผ่านมา 52 วันแล้วที่เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากแกะสลักประติมากรรม

โดยธรรมชาติแล้วคนเราคงอยากจะมอบรางวัลให้กับตนเอง

ฉันอยากจะพักไปจนถึงเวลาเย็นเลย ทักษะช่างตีเหล็กของฉันก็เพิ่มขึ้นเยอะแล้วด้วย แถมยังได้กำไรมาอื้อซ่าเลยทีเดียว!

ตอนนี้แม้จะมีเวลาอยู่บ้าง เขาก็ไม่ออกไปล่าค่าประสบการณ์หรือออกไปลูทของเลยซักนิด

แต่ถึงกระนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้วัสดุแพงหูฉี่พวกนี้สร้างประติมากรรมเลย แต่ค่าความเชี่ยวชาญการแกะสลักของเขาก็ยังเพิ่มขึ้นมาอยู่ดี

ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักของเขาตอนนี้อยู่ที่ขั้นสูงเลเวล 8 และอีก61.1%

ขณะที่ทักษะช่างฝีมือของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทักษะช่างตีเหล็กของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอีกขั้นด้วยเช่นกัน
เหอะ จริงๆแล้วฉันก็เหมือนกรรมกรจริงๆเลยนะเนี่ย คงจะดีไม่น้อยเลยถ้าในอนาคตมีภารกิจแบบนี้อีก
เพราะอย่างนี้นี่เองเขาจึงใช้เวลาภายในโรงเหล้านั่งรอหน้าต่างข้อความให้ลอยขึ้นมา

ภารกิจ: มอบสมบัติเป็นเครื่องบรรณาการให้กับเหล่ามังกรสำเร็จแล้ว
มังกรไคเบิร์นไม่ได้ยกย่องในความพยายามของเหล่าคนแคระเลย
แต่เพราะมีสมบัติที่เหล่าคนแคระส่งไปให้ เหล่ามังกรจึงรู้สึกพอใจก็เลยไม่ได้ลงมือฆ่าเหล่าคนแคระ
เหล่ามังกรจอมยโสเพิกเฉยต่อผลงานของประติมากรผู้อุตส่าห์สร้างสรรค์ผลงานศิลป์ขึ้นมา
รางวัลภารกิจ: ท่านจะได้รับจากคนแคระไอน์ฮานด์
ค่าชื่อเสียงของท่านในฐานะปะติมากรเพิ่มขึ้นมาเพราะเหล่าคนแคระ
แต้มการช่วยเหลือ เพิ่มขึ้น 61
ท่านได้รับฉายา ประติมากรผู้ยิ่งใหญ่ที่เหล่าคนแคระยอมรับ
คนแคระคือเผ่าพันธุ์ที่มีความเคารพเอาใจใส่ในผลงานมากที่สุด
นอกจากนี้พวกเขายังไม่ดูถูกประติมากรรมที่ท่านสร้างขึ้นมาด้วย
เหล่าคนแคระจะชื่นชมผลงานของท่านมากกว่าคุณค่าทางศิลป์ปกติถึง 6% เมื่อใดก็ตามที่ท่านขายผลงานของท่าน
ชื่อเสียงของท่านจะขจรขจายอย่างรวดเร็วท่ามกลางเหล่าคนแคระ

ท้ายที่สุด ภารกิจครั้งนี้ของเขาก็คือความสำเร็จ

ในบางครั้งเมื่อคุณมองดูพวกเขาเหล่าคนแคระ คุณก็จะเข้าใจว่าเผ่าคนแคระช่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสงสาร!

ดีจริงๆที่ฉันไม่ได้เลือกเล่นเป็นเผ่าคนแคระ

ขณะที่พวกเขาได้รับความสามารถในการจัดการกับเหล็กและมีทักษะฝีมือที่ดีอย่างกับเทพมาจุติ พวกเขาก็ยังใช้ชีวิตไปพร้อมกับการที่ต้องมาแบกรับการกดขี่ข่มเหงจากพวกมังกร

ถึงแม้พวกเขาจะเป็นผู้เล่นรอยัลโร้ด แถมเลเวลพวกเขาก็ยังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเมื่อไรที่พวกเขาจะมีกำลังมากพอที่จะล่ามังกรพวกนั้นได้ ถึงแม้เหล่าคนแคระของอาณาจักรธอร์จะสามารถรวมกำลังทั้งหมดของพวกเขาและลองออกล่าพวกมันร่วมกัน แต่ถ้าหากล้มเหลวลง พวกเขาก็คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากบทลงโทษของพวกมังกรได้แน่

ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คงจะเป็น อาณาจักรของพวกเขาย่อยยับพังพินาศในพริบตา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พยายามที่จะทำอย่างนั้นและลงข้างพนันไปกับการลงทุนลงแรงตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักต่อไป

 ยังไงซะ ถึงแม้ว่าภารกิจนี้กินเวลาไปค่อนข้างนาน แต่ตอนนี้มันก็จบลงแล้ว

วีดกำลังใช้ถ้อยคำยกยอประจบสอพลอสาวคนแคระหน้าตาน่ารักที่ทำงานในโรงเหล้า

จากถ้อยวาจาที่ชื่นชมของเจ้า เจ้าช่างเป็นประติมากรรู้จักวิธีดูของสวยๆงามๆจริงๆ

มีหญิงสาวคนแคระที่มีส่วนสูงน้อยกว่าวีดมากมายกำลังนั่งอยู่ใกล้ๆเขา

เจ้าอยากได้ถั่วลิสงหน่อยไหมล่ะ?”

หากคุณผู้หญิงจะกรุณาข้าก็ยินดีรับ

แค่ให้เบียร์เพียงแก้วเดียวกับวีดก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากแล้ว
***

เหล่าคนแคระที่ออกไปส่งเครื่องบรรณาการกลับมาได้อย่างปลอดภัย

วีดไปเข้าพบไอน์ฮานด์และได้รับฟังผลลัพธ์ของภารกิจ

ไคเบิร์น.ฟิ้วว มันน่ากลัวชะมัด

มันดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอครับ?”

ก็ไม่เชิง คำพูดของมันต่างหากที่ทำให้ข้ากลัว ข้าไม่กล้ามองหน้าของมันด้วยซ้ำ น้ำเสียงกระหายเลือดบวกกับรังสีอำมหิตนั่นก็เกินพอที่จะทำหัวใจของข้าหลุดออกจากอกแล้ว!

เหล่าคนแคระที่ออกไปส่งเครื่องบรรณาการ ต่างไม่มีกระจิตกระใจ ได้แต่ก้มหน้าตัวงอมองลงพื้น เนื่องจากนี่เป็นธรรมชาติของเผ่าพันธุ์คนแคระ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูเพียงกลุ่มเดียวของพวกมังกรที่อยู่ใกล้ๆ แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงมุดตัวเข้ารู หลบหนีจากความน่าสะพรึงกลัว เพราะงั้นพวกเขาถึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร

ถึงแม้ปกติแล้วเผ่าพันธุ์คนแคระมีจะลักษณะนิสัยแสดงออกถึงความกล้าหาญ ทว่าพวกมังกรกลับเป็นข้อยกเว้น ถ้าหากว่าลองย้อนไปดูบันทึกประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซล เหล่าคนแคระไม่เคยสร้างความวุ่นวายใดๆกวนใจพวกมังกรเลยแม้แต่น้อย

พวกเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานชั่วชีวิตภายในเหมืองถ่าน หรือว่าขุดๆแล้วก็สร้างเครื่องประดับตกแต่งเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการ

คนแคระคนไหนที่ไม่ยอมเชื่อฟังก็จะกลายเป็นของว่างให้กับพวกมังกร มันกลายเป็นสัญชาตญาณที่ฝังลงลึกในสายพันธุ์ของพวกเขาแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความกลัวนี้ได้ฝังรากหยั่งลึกเข้าไปในร่างกายและจิตใจของพวกเขาจนหมดสิ้น

 ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าประติมากรรมของข้าจะได้รับการยอมรับอย่างง่ายดายขนาดนี้

เจ้าก็เห็นข้านิ มันไว้ชีวิตข้า เพราะงั้นข้าก็คิดว่ามันโอเคนะ อีกอย่างนั่นก็เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของเจ้า

ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ข้าก็แค่ทำงานนี้เพื่อเหล่าคนแคระเท่านั้น

ข้าขอมอบนี่ให้กับเจ้า รางวัลจากอาณาจักรของเรา

ท่านได้รับแร่มิทธิล 15 ชิ้น
ท่านได้รับแร่อดาแมนเที่ยมระดับท๊อป 6 ชิ้น
ท่านได้รับแร่เหล็กเกรดดี 35 ชิ้น

 นี่มันมาก.

แม้แต่วีดยังรู้สึกประหลาดใจกับรางวัลของเขา

พวกเราเหล่าคนแคระจะไม่ลืมความช่วยเหลือในครั้งนี้เลย

แม้ว่าพวกเขาจะถูกข่มเหงโดยพวกมังกร แต่อาณาจักรธอร์เดิมทีก็ยังเป็นเมืองที่แสนมั่งคั่ง

อีกอย่างเพราะว่าพวกเขามีเหมืองแร่อยู่เป็นจำนวนมาก เหล่าคนแคระก็แค่ต้องเจียระไนของที่พวกเขาขุดขึ้นมาเท่านั้นเอง

 ถ้าฉันใช้เจ้าพวกนี้ คงทำอุปกรณ์ป้องกันได้มากมายแน่ๆ

ตอนนี้วีดสามารถสร้างชุดเกราะให้ดีขึ้นได้แล้ว

นี่จะช่วยให้การออกล่าในเขตที่อันตรายง่ายขึ้นกว่าเดิม

เมื่อเขาเพิ่มค่าพลังป้องกันให้สูงขึ้น ค่าความว่องไวของเขาก็คงต่ำลง แต่กลับกับถ้าคำนึงถึงน้ำหนักที่เบาขึ้นก็จะช่วยเพิ่มค่าความว่องไวแต่กลับไปลดพลังป้องกันลง

มันจะช่วยให้ค่าพลังชีวิตของเขาไม่ลดลงไปมาก ถ้าคนเราไม่ต้องมัวแต่ระวังตัวขณะที่ต่อสู้และโจมตีอยู่ มันก็คงจะทำให้การออกล่าเร็วยิ่งขึ้น

ทำไมพวกเขาถึงได้เลือกเล่นเป็นเผ่าคนแคระในตอนเริ่มเล่นเกมส์นะ?’

หัวใจของวีดเบาเสียยิ่งกว่าหญ้าแห้งซะอีก (หมายถึงโล่งใจ)

ครั้งหนึ่งเขาเคยตัดสินใจใช้วัสดุไปมากมายเพื่อสร้าง โรงหลอมแห่งเฮสเทีย จนสำเร็จ

 ในฐานะคนแคระ ข้ารู้สึกสนใจในผลงานอันสร้างสรรค์ของเจ้าอย่างมาก ข้าเคยได้ยินเรื่องของเจ้ามามากมาย

เรื่องเกี่ยวกับอะไรหรอครับ?”

ตำนานบอกว่าเจ้าเปลี่ยนเหล็กให้เป็นทองได้

เอ่อ ท่านไอน์ฮานด์ครับ!

ใช่แล้ว สิ่งนี้สำคัญสำหรับพวกเราเหล่าช่างตีเหล็กมาก ข้าก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้กับเจ้าหรอกนะ เกี่ยวกับการแกะสลัก ข้ารู้ว่ามีเรื่องราวแปลกๆมากมายเกี่ยวกับมัน พวกเราเหล่าคนแคระเคยได้เรียนรู้ทักษะหนึ่ง..ข้าบอกเจ้าได้นะ

ไอน์ฮานด์ดูเหมือนจะกำลังพูดเกี่ยวกับภารกิจต่อไป

เคยมีตำนานเกี่ยวกับประติมากรรมที่มีชีวิตขึ้นมา เรื่องนี้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเหล่าจิตวิญญาณธาตุ ข้าก็ไม่รู้หรอกว่านี่จะนำไปสู่สิ่งใด นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับจุดสูงสุดของทักษะประติมากรรมหรือว่าทักษะวิชาดาบ เจ้าอยากได้ยินเรื่องราวมากกว่านี้ไหมล่ะ?”

มันคือเรื่องราวเกี่ยวกับทักษะลับทั้งสามของทักษะประติมากรรม
แน่นอนว่าวีดรู้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับทักษะพวกนั้นเพราะว่าเขาได้รับมันมาแล้ว

นานมาแล้ว เหล่าประติมากรรมได้รับชีวิต และข้าเองก็รู้สึกสงสัยมากเกี่ยวกับตำนานอันนี้

เขาเคยเจอซาฮับและเห็นทักษะดาบประกายแสงของเขามาก่อน ดังนั้นเขาจึงสามารถไปพบเขาอีกครั้งในภายหลังได้

เขาคงจะอ้าแขนต้อนรับเขาอย่างยินดีสำหรับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเพื่อราชินีเอเวน

พวกจิตวิญญาณธาตุเองก็ได้ถูกสร้างมาเช่นเดียวกับพวกประติมากรรม จึงไม่มีคำถามข้องใจเขามากนักเพราะว่าพวกมันได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว

ครั้นเมื่ออดีตกาล เคยมีจักรวรรดิอาเพ่นที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพลังของศิลปะ ในตอนที่สงครามได้ก่อเกิดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ได้รวมทั้งทวีปเป็นจักรวรรดิอันเกรียงไกรเพียงหนึ่งเดียว.

นี่ได้นำไปสู่การเล่าเรื่องที่ยืดยาวของไอฮานด์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิอาเพ่น

วีดนั่งก้มหน้าแอบงีบหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นี่ดูเหมือนอยู่ในคาบเรียน ที่เขาต้องจำใจนั่งฟังเรื่องราวมากมายภายในห้องเรียน!

เทคนิคแบบนี้เขาใช้ตอนอยู่ในคาบเรียนบ่อยๆตอนที่อยู่มหาลัย และตอนนี้เขาก็ได้เอามาใช้กับไอน์ฮานด์
ดินแดนนั้นมันแห้งแล้ง พวกมันจึงรับหน้าที่ป้องกันการโจมตีของพวกมอนสเตอร์ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการแกะสลัก เจ้าจินตนาการออกไหมล่ะ จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิอาเพ่นเองก็เป็นประติมากรนะ!

ไอนฮานด์ตะโกนร้องออกมาดังสนั่นด้วยความตื่นเต้น

วีดเองก็พยายามแกล้งทำท่าประหลาดใจบ้างบางครั้ง

สำหรับคนที่มีอาชีพสายประติมากร ตำนานอันน่าทึ่งนี้ก็มากพอที่จะปลุกความภาคภูมิใจขึ้นมาได้แล้ว!

อ๋อ! งั้นหรอครับ?”

วีดตอบกลับไปอย่างเหนื่อยหน่าย

แต่เดิมเขาก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับพวกประติมากรรมสลักชีพอยู่แล้ว นั่นจึงไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับเขาเลย

มันไม่ต่างกับช่องรายการพิเศษที่ฉายหนังหรือโชว์ตลกเดิมๆซ้ำๆตอนช่วงวันหยุดประจำปี

 จักรวรรดิอาเพ่นอันยิ่งใหญ่มีสิ่งที่คล้ายคลึงกับเหล่าคนแคระมากจริงๆ เพราะพวกเราเองก็ชื่นชอบในการเป็นศิลปินและช่างฝีมือ เรายินดีที่ได้อยู่บนจักรวรรดิอันรุ่งโรจน์ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมา

จากนั้นไอน์ฮานด์ก็ค่อยๆพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาและทุ้มต่ำต่างจากก่อนหน้านี้

องค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิอาเพ่น! พระองค์อาจจะเป็นบุคคลที่น่าทึ่งที่สุดบนประวัติศาสตร์ของทวีปด้วยซ้ำ ประติมากรรมของพระองค์ช่างแสนวิเศษ หากเจ้าต้องการรู้เรื่องราวเกี่ยวพวกประติมากรรมที่มีชีวิตมากขึ้น ลองไปตามหาไรฮานด์ดูสิ เขาเป็นผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับจักรวรรดิอาเพ่นตลอดชีวิตของเขา ที่อยู่ปัจจุบันของเขาอยู่ที่ไหนข้าก็ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในเทือกเขาอัลต้าและเทือกเขานอร์น

ตริ้ง!

เหล่าประติมากรรมของจักรพรรดิอาเพ่น
ช่วงเวลาที่เหล่าประติมากรรมของเขาถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ของทวีป จักรวรรดิอาเพ่นก็ได้ถือกำเกิดขึ้นมา
จักรพรรดิเกฮา  วอน อาเพ่น
หากท่านอยากจะรู้เกี่ยวกับประติมากรรมที่องค์จักรพรรดิสร้างขึ้นบนทวีป ท่านจงตามหาไรฮานด์ก่อนเป็นอันดับแรก
ท่านจะได้รู้เรื่องราวมากยิ่งขึ้น
ระดับความยาก: ภารกิจปรมาจารย์แห่งประติมากรรม
ข้อจำกัดการทำภารกิจ: ทักษะแกะสลักขั้นสูงเลเวล 8 หรือมากกว่า
จำเป็นต้องใช้ทักษะซ่อมแซมประติมากรรม
จำเป็นต้องใช้ทักษะประติมากรรมรำลึกชาติ

ภารกิจลำดับที่ 11 ของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีหน้าต่างข้อความอีกจอเด้งขึ้นมา

ตริ้ง!

-เทคนิคการแกะสลักลับ ท่านได้เรียนรู้ทักษะลับของจักรพรรดิเกฮา วอนอาเพ่นไปแล้ว
ท่านได้รู้เกี่ยวกับเส้นทางการแกะสลักขององค์จักรพรรดิอาเพ่นแล้ว ท่านสามารถดำเนินภารกิจถัดไปได้โดยไม่จำเป็นต้องทำภารกิจนี้
เหล่าประติมากรรมของจักรพรรดิอาเพ่นสำเร็จแล้ว
ในฐานะประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน ท่านทราบทุกอย่างแล้ว
ทักษะแกะสลักของจักรพรรดิเกฮา วอน อาเพ่นได้ตกทอดมาสู่ท่านแล้ว
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 1,980 หน่วย
เพราะได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นี้ ค่าเกียรติยศเพิ่มขึ้น 12 หน่วย
เนื่องจากความสัมพันธ์ของท่านกับจักรพรรดิเกฮาวอน อาเพ่น ท่านอาจได้รับการเคารพนับถือจากผู้ที่เคารพองค์จักรพรรดิด้วยเช่นกัน
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 หน่วย

----จบตอน-----
ผู้แปล : Cole’s Myth
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

12 ความคิดเห็น:

  1. ช่วงแข่งทำภารกิจ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  2. หุหุ ภาระกิจสำเร็จเฉย ต่อไปก็ ลำดับภาระกิจที่12สินะครับ ขอบคุณครับเป็นกำลังใจให้ครับผม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตามหลังอยู่ดีๆ กดไนตรัสแซงเฉย

      ลบ
  3. ขอบคุณครับ ค้างอะ ค่อนข้างค้างระดับนึงเลย

    ตอบลบ
  4. มีทั้งหมดกี่ภารกิจครับ

    ตอบลบ
  5. ทำเสร็จก่อนแบบชิวๆ เดี้ยวบาร์ดเรย์ก็ช็อคตายแหงๆ

    ตอบลบ
  6. Yes!!! 2 ตอน
    ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  7. มีแบบไม่ต้องทำด้วย สบายเลย 2 ภารกิจแล้วผ่านเลยแบบนี้

    ตอบลบ
  8. ขออีกครับ...ขออีก...จะลงแดงแร้วววว

    ตอบลบ
  9. ออร์ค 175000 คน ที่มาใหม่ มีที่อยู่ดีกินดี
    นี่มันโรงงานปั้มทหารชัดๆ ว่าแต่กิลด์เฮอมิสรู้ละยังนะ หึหึ

    ตอบลบ
  10. แหล่มเลย...จบภารกิจทันที
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...