วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 24 ตอนที่ 7: การเรียกขานมหาวาตภัย แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 24 ตอนที่ 7: การเรียกขานมหาวาตภัย แปลโดย Cole’s Myth

วีดปล่อยตัวเองให้โลดแล่นไปตามสายลมที่โบกพัด พลางยิงธนูออกไปขณะที่ไถลไปกับพื้นทุกๆ 5 เมตรบ้าง 10 เมตร
นี่ต้องเป็นเหตุผลว่าทำไมอาชีพนักธนูถึงได้เป็นที่นิยมนัก
วีดบ่นพึมพำขณะที่กำลังยิงธนูออกไป
เข้าเป้า 100%!
ไม่เพียงแต่เป็นการยิงที่แม่นยำเหมือนจับวางจนแทบไม่น่าเชื่อ แต่ยังเป็นคันธนูเอลฟ์ระดับสูงที่ช่วยเสริมค่าการสร้างความเสียหายทางจิตวิญญาณอีกด้วย
ฟิ้ววววววววว!
ลูกธนูที่ถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่องพุ่งปักเหล่าโครงกระดูกที่ยืนประจำตำแหน่งบนกำแพงปราสาทตนแล้วตนเล่า จิตวิญญาณแห่งไฟก่อให้เกิดการระเบิดรุนแรง ส่วนจิตวิญญาณแห่งน้ำก็สร้างพายุลูกเห็บให้ตกลงมา จิตวิญญาณแห่งปฐพีทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นโคลน ส่วนจิตวิญญาณแห่งลมก็ผลักพวกโครงกระดูกตกลงไปสู่พื้นดิน
นี่คือกลยุทธ์สมรภูมิมอดไหม้!
เขาคิดว่าเขาเข้าใจถึงความสนุกที่พวกผู้เล่นเลือกอาชีพนักธนูหรือว่าเรนเจอร์แล้วหละ แต่ทว่าเขากลับไม่รู้ว่าพวกผู้เล่นสายนักธนูหรือเรนเจอร์ที่กำลังดูเขาผ่านโทรทัศน์อยู่นี้ต่างอ้าปากค้างอย่างเลี่ยงไม่ได้
 “แต่ยังไงซะ อาชีพสายนักธนูนี่ก็ไม่เหมาะกับฉันอยู่ดี
การโจมตีมอนสเตอร์ในระยะไกลด้วยลูกธนูนั้นให้ความรู้สึกสนุกอย่างมาก อันเดดบางตนสลายหายไปโดยที่พวกมันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายได้ยังไง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ตระหนักได้ขณะที่เขากำลังยิงอันเดดไกลๆแบบนี้ มันมีแต่จะกินลูกธนูของเขาไป แถมยังทำให้เขาไม่สามารถไปเก็บของดร็อปได้ซักอัน
เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับไอเท็มที่เขาไม่สามารถยื่นมือออกไปเก็บเอามาได้ ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ไปออกล่าแบบอิสระในพื้นที่ปิดกั้น เขาก็คิดว่าอาชีพนักธนูนี้เป็นคลาสที่แย่มาก อย่างเช่นภายในสนามรบแบบนี้
จริงๆแล้ว ฉันจำเป็นต้องใช้ดาบนะ
การเข้าไปฆ่าพวกศัตรูโดยตรงนั้นจะรับประกันการที่จะไปหยิบไอเท็มเอามาได้อย่างแน่นอน วีดได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการเก็บออมเงินของเขา
ณ เวลาขณะเดียวกัน เหล่านักดาบ มาเรย์และเหล่านักบวชก็ขึ้นไปถึงบริเวณหลังคาแล้วเช่นกัน
พวกโครงกระดูกที่ยืนอยู่ตามยอดหอคอยปราการเวอร์โก้และตามหลังคาต่างพากันยิงลูกธนูตรงไปที่พวกเขา พวกเขารู้สึกว่ากำลังติดกับดักราวกับติดอยู่บนเกาะร้างที่มีพวกมอนสเตอร์ล้อมรอบพวกเขาอยู่ทั่วพื้นดินและท้องฟ้า!
 “เอาหละ เริ่มกันได้แล้ว
นักดาบ3เหวี่ยงดาบของเขาออกไปแล้วก็ฟันเข้าใส่การ์กอยล์ที่อยู่ใกล้ๆ ในที่สุดการโจมตีโต้กลับก็ได้เริ่มประเดิมใส่เจ้าการ์กอยล์ที่บินปกคลุมไปทั่วทุกที่ราวกับเมฆหมอกสีดำทะมึน
ฆ่าพวกมันให้หมด
จัดการเจ้าพวกนั้นก่อน แล้วค่อยไปฆ่าเจ้าพวกมังกรกระดูก!”
เหล่านักดาบเข้าสู่เหตุการณ์บ้าบิ่นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทว่าเป้าหมายของพวกเขาครั้งนี้ที่กำลังไล่ตามอยู่ช่างแข็งแกร่งเทียบกับครั้งไหนๆไม่ได้เลย กลวิธีเคล็ดลับความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขามนั้นก็คือการทะลุทลวงก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดของตัวเอง
 แค่เริ่มโจมตีใส่ พวกมันก็ตายแล้วหละ!”
กวาดล้างพวกมันให้สิ้นซาก!”
เหล่านักดาบวิ่งไปมารอบๆฟาดฟันใส่พวกกากอยล์ด้วยดาบของพวกเขา ความอลหม่านวุ่นวายได้ก่อกำเนิดขึ้นมาบนดาดฟ้าของป้อมปราการเวอร์โก้ ทันใดนั้นเหล่ามังกรกระดูกก็ร่อนลงสู่พื้นดินด้วยการใช้ทักษะการบินของพวกมัน
พวกมนุษย์ได้มาถึงที่นี่แล้ว
มังกรกระดูกตัวหนึ่งที่มีความสูงต่ำกว่าหอคอยเล็กน้อยตรงดิ่งเข้ามาใกล้ด้วยการกระพือปีกไร้เนื้อหนังของมัน ตรงบริเวณศีรษะของเจ้ามังกรกระดูกตัวนั้นมีกลิ่นอายดำมืดระเหยออกมา

-ท่านกำลังตกอยู่ในสถานะของความหวาดกลัว ทว่าท่านสามารถเอาชนะมันได้
ค่าความว่องไวลดลง 4%
ค่าทางสติปัญญาลดลง 25%

พวกมังกรกระดูกเองก็สามารถแพร่เชื้อใส่พวกเขาด้วยความกลัวได้เช่นกัน แต่ทว่าพลังของมันนั้นด้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับพลังของบัลข่านดังนั้นพวกเขาจึงสามารถต้านทานมันได้
มังกรกระดูกตนนั้นเปิดปากออกกว้างแล้วก็สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ มันคือการตั้งท่าสำหรับการโจมตีลมหายใจมังกรอย่างแน่นอน! ระยะห่างนั้นถือว่าใกล้มากจริงๆ แถมยังไม่มีสถานที่ซ่อนอันใดที่เหล่ามนุษย์สามารถหลบซ่อนได้เลย
วีดตะเบ็งเสียงด้วยทักษะราชสีห์คำรามออกมา
 มาสู้กับฉันก่อนสิโว้ย! เป้าหมายของฉันที่มาที่นี่ก็เพื่อฆ่าบัลข่าน ถ้าแกไม่ฆ่าฉัน ก็อย่าหวังว่าจะแตะต้องคนอื่นได้เลย
การแสดงความเป็นลูกผู้ชายตัวจริงนั้นสร้างความตกตะลึงให้กับเหล่านักดาบอย่างยิ่ง!
ถ้าหากว่าวีดตายไป มันคงกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ แม้ว่าเขาจะสามารถฟื้นคืนชีพมาได้ด้วยทักษะ ปฏิเสธความตายแต่ก็คงไม่อาจขัดขืนคำสั่งของบัลข่านได้แน่ๆ แล้วคงจะจบลงด้วยการแปรพักตร์ไปอยู่ฝั่งพวกมังกรกระดูก ถูกบีบบังคับให้ออกไปต่อสู้กับพวกนักดาบ ถึงกระนั้นเขาก็ยังเลือกที่จะตะโกนเช่นนั้นออกไป
 ไม่ต้องสงสัยเลย ข้ารู้ว่า ณ ที่แห่งนี้ แกคือมนุษย์ที่ชั่วร้ายที่สุด
วีดที่อยู่ไกลจากพวกนักดาบพอประมาณ เริ่มวิ่งออกไปบนยอดหอคอยด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี ภาพนั้นสลับผ่านไปมาด้วยความเร็วอันน่าหวาดหวั่นในทุกๆย่างก้าวของเขา!
ถึงแม้ว่าแกจะหนีไปตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว
ด้วยการเลือกวีดเป็นเป้าหมายที่แน่นอนแล้ว เจ้ามังกรกระดูกก็เปิดขากรรไกรของมันออกกว้าง แล้วก็เป่าลมออกไปด้วยทักษะพิเศษของมัน ลมหายใจกรด!
แกร็ววววววววววววววววว!
ลมหายใจกรดนั้นพ่นออกไปข้างหน้าจากบนฟ้า วีดวิ่งอยู่บนดาดฟ้าหอคอยด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีให้พ้นจากลมหายใจกรดนั้น
ทักษะลมแล่น(Sprinting Wind)

-ท่านเปิดใช้ทักษะ ลมแล่น
อัตราการใช้ค่ามานาและค่าพลังชีวิตเพิ่มเป็นสามเท่า

ร่างกายของวีดเร่งความเร็วพุ่งออกไปราวกับว่าร่างทั้งร่างของเขาถูกเหวี่ยงออกไป เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อที่สามารถวิ่งผ่านม้าที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มฝีเท้าเพียงเสี้ยววินาที ในเวลาไม่นาน เขาก็หายตัวไปราวกับว่าพึ่งร่ายเวทย์เทเลพอร์ต เขาหย่อนตัวลงไปหลบในหลุมบนดาดฟ้าที่เขาได้เล็งเอาไว้แล้วตั้งแต่ที่มังกรกระดูกปรากฏตัวขึ้น ลมหายใจกรดกวาดล้างตรงตำแหน่งที่วีดเคยอยู่ แล้วหลอมละลายกำแพงส่วนนอกของป้อมปราการเวอร์โก้ ขณะที่สิ่งก่อสร้างหลายส่วนถูกทำลายและละลายไป โครงสร้างของมันก็เริ่มผิดรูปผิดร่างผุพังมากพอจนสามารถมองเห็นพรมเก่าๆ เครื่องเรือน และรูปวาดภายในอาคาร
 ฮี่ๆ มีลมโชยเย็นๆลอดเข้ามาข้างในด้วยแหะเจ้าโครงกระดูกหนุ่มพูดขณะกำลังติดหัวของมันเข้ากับข้อต่อ
ในตอนที่วีดกลับขึ้นมาบนดาดฟ้า เจ้ามังกรกระดูกก็กำลังบินโฉบลงมาต่ำแล้วก็กระทืบไปตรงที่เหล่านักดาบรวมตัวกันอยู่
นี่สำหรับบาปของพวกแกที่บังอาจมาบุกรุกดินแดนของท่านบัลข่าน
ป้อมปราการสั่นสะเทือนราวกับกำลังมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น กำแพงป้อมปราการล้มพังทลายไปเรื่อยๆ เพราะว่าพวกนักดาบเกาะกลุ่มกันเป็นกระจุก พวกเขาบางคนจึงหลบไม่พ้นแล้วก็โดนมังกรกระดูกกระทืบเข้าอย่างจัง
ในตอนที่มังกรกระดูกบินอยู่บนท้องฟ้า มันยากมากที่จะโจมตีโดนตัวมัน หากว่ามันพ่นลมหายใจแล้วก็ใช้เวทย์มนต์จากบนอากาศ เหล่านักดาบคงไม่มีโอกาสเลยซักนิด หากพวกนักดาบสามารถฝึกพวกกริฟฟอนหรือว่าไวเวิร์นได้ พวกเขาก็คงจะสามารถต่อสู้บนอากาศได้ แต่ทว่ามันกลับไม่มีทางเลือกแบบนั้นอยู่เลย
เนื่องจากโครงสร้างของหอคอยและสิ่งก่อสร้างที่อยู่ภายในป้อมปราการเวอร์โก้นั้นทำให้พวกเขาไม่มีที่กำบังมากนัก แต่เพราะว่ามันมีเนื้อที่กว้างขวาง ขอบเขตของเวทย์ของเจ้ามังกรกระดูกจึงมีประสิทธิภาพลดลง ถึงกระนั้นเจ้ามังกรกระดูกก็ยังนั่งอยู่บนดาดฟ้าอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เหล่านักดาบเคลื่อนไปข้างหน้าต่อได้
ส่วนมังกรกระดูกอีกสองตัวที่เหลือยังไม่ออกมาจากหอคอยกลาง
นั่นก็หมายความได้เพียงอย่างเดียว!
ตอนนี้แหละใช่แน่ๆ ภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านต้องอยู่ภายในหอคอยกลางแน่ๆ
ทุกครั้งที่มังกรกระดูกขยับตัว ทั่วทั้งป้อมปราการก็สั่นสะเทือน พื้นที่รอบๆตัวมันก็พังทลายลง
มังกรกระดูกอันแสนดุร้ายที่มิอาจหาที่ใดเปรียบได้ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว
กระจายกำลังออกไป
ฆ่ามันให้ตาย!”
ทันใดนั้นเหล่านักดาบที่ซ่อนอยู่ตรงที่กำบังก็กระโจนออกไปล้อมเจ้ามังกรกระดูกแล้วเริ่มโจมตี
โจมตีที่ปีกของมันก่อน
หักข้อเท้ามันซะ!”
เหล่านักดาบขึ้นไปเกาะอยู่บนตัวของเจ้ามังกร แล้วก็แทงๆ ฟันๆ โจมตีใส่มันไปเรื่อยๆ
กระดูกมันแข็งจริงๆ โจมตีไม่เข้าเลย!”
พลังชีวิตมันแทบจะไม่ลดลงเลยด้วยซ้ำ
ขณะที่เข้าไปโจมตีที่ขาหน้าของมัน ค่าพลังชีวิตของพวกเขาตกลงไปจนอยู่ในขั้นวิกฤติ แถมโอกาสที่จะโดนกระทืบตายยังมีสูงอีกด้วย โอกาสที่พวกเขาจะมีชีวิตรอดได้ก็ต้องใช้ดวงล้วนๆ ด้วยการใช้ซากปรักหักพังสกัดกั้นการโจมตีเอาไว้
วีดใช้ทักษะลมแล่นแล้วก็วิ่งไปหลบข้างหลังมังกรกระดูก เขาไต่ขึ้นไปบนหางกระดูกของมันปานบันไดแล้วขึ้นไปยืนบนคอของมัน
วิชาดาบเฮอเรม!”
เขาใช้ทักษะโจมตีเล็งไปตรงจุดๆเดียวที่เล็กปานเมล็ดงา เหล่านักดาบที่กำลังต่อสู้กับมังกรกระดูกเองก็ใช้การโจมตีที่เล็งไปตรงจุดเดียวเช่นกัน แต่เพราะว่ามังกรกระดูกเคลื่อนที่ไปมาอย่างดุดัน การโจมตีของพวกเขาจึงไม่ค่อยได้ผลซักเท่าไร
 ไปโจมตีมันพร้อมกันเลยเถอะ
โจมตีจากตรงนี้สะดวกกว่าเยอะเลย
เหล่านักดาบกระโจนขึ้นไปบนร่างของมังกรกระดูกเหมือนกันกับวีด
เจ้าพวกมนุษย์ จงคุกเข่าต่อหน้าอำนาจอันยิ่งใหญ่ของท่านบัลข่านซะ!”
โครมมมมมม!
ขณะเจ้ามังกรสะบัดร่างของมันอย่างรุนแรงเพื่อที่จะสลัดมนุษย์ออกไป ป้อมปราการเวอร์โก้ก็พังทลายลงอย่างหนัก
สิ่งก่อสร้างบางหลังก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และทำลายตึกที่สองที่สามด้วยเช่นกัน
การโจมตีจากส่วนตัว ขาหน้า อุ้งปาก และหางของมังกรกระดูกนั้นเป็นปัญหา แต่สิ่งก่อสร้างที่กำลังพังครืนลงมานั้น สร้างความเสียหายให้กับเหล่านักดาบเสียยิ่งกว่า
เจ้ามังกรตะเบ็งเสียงคำรามของมันอย่างลำพองขณะที่เขมือบนักดาบไปคนหนึ่ง
กรรรรรรรรรร โฮกกกกกกก!”
ดราก้อนเฟียร์!
เหล่านักดาบทำตามวีดแล้วเดินยั้วะเยี้ยอยู่บนหลัง ปีก และคอของมังกรกระดูกหยั่งกับมด พลางแทงดาบของพวกเขาโดยไม่หยุดไม่หย่อน การโจมตีใส่ร่างของมังกรกระดูกที่ไร้เทียมทาน ค่าความคงทนของดาบจึงลดลงอย่างรวดเร็ว

-ดาบกระแทกใส่ผิวกระดูกของมังกรกระดูก ค่าความคงทนของดาบท่านลดลง
พลังโจมตีลดลง 3 หน่วย

ยิ่งรวบรวมพลังทั้งหมดของพวกเขาโจมตีใส่มังกรกระดูกรุนแรงเท่าไร ค่าความคงทนของดาบก็ยิ่งลดลงมากเท่านั้น และมันคงจะดีกว่ามากที่จะใช้อาวุธหนักอย่างขวานหรือกระบองเพื่อทำให้ค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกลดลง
ขณะที่ค่าความคงทนของอาวุธตกลง ค่าพลังโจมตีสูงสุดของอาวุธก็ลดหลั่นลงไปตามๆกัน ทว่าพวกเขาไม่มีเวลาที่จะมาลังเลอะไรกับมันอีกแล้ว
ด้วยการโจมตีแบบไม่หยุดไม่หย่อน ค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกลดลงไปต่ำกว่า 50% แล้ว เหล่านักดาบที่อยู่บนดาดฟ้าเองก็พยายามหลบหลีกไปมาขณะที่เกือบจะโดนเหยียบหรือโดนเขมือบไปพลางโจมตีใส่มันจากด้านข้าง
 ศิษย์พี่ อย่าลดการป้องกันลงหละครับ เจ้ามังกรกระดูกนั่นมีอัตราการการฟื้นค่าพลังชีวิตสูงเป็นบ้าเลยนะครับ!”
พวกเราจะโจมตีใส่มันไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะแหลกเป็นชิ้นๆเอง
วีดเล็งไปที่เป้าหมายเดียวแล้วก็โจมตีใส่มันอย่างต่อเนื่อง
ใบมีดแกะสลักแสงจันทร์ วิชาดาบเฮอเรม!”

ความเชี่ยวชาญทักษะดาบเพิ่มขึ้น

มังกรกระดูกนี่คือเป้าหมายในอุดมคติเพื่อเอาไว้เพิ่มระดับทักษะดาบ
พวกนักธนูกับนักเวทย์โครงกระดูกไต่ขึ้นมาบนดาดฟ้าของป้อมปราการ แล้วยิงลูกธนูและเวทย์น้ำแข็งใส่เหล่านักดาบและมังกรกระดูกโดยไม่สนว่ามันจะโดนลูกหลงไปด้วย

ลูกธนูถูกเบี่ยงออกไป
ลูกธนูกรดสร้างรอยขีดข่วน

เนื่องจากผลของค่าความว่องไวที่สูงมากของวีด การโจมตีพวกนั้นจึงไม่โดนเขา เหล่านักดาบยืนประจันหน้าใส่การโจมตีที่เข้ามาด้วยการใช้ความอดทนและค่าความอึด พวกเขาสามารถอดทนได้มากอีกหน่อย เพราะว่ามีค่าความอึดที่เพิ่มขึ้นจากการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรและการฝึกเหวี่ยงดาบอย่างต่อเนื่อง
 “ด้วยการฝึกฝนมากขนาดนี้ มันคงไม่มีทางขัดขวางเราให้ไม่ให้เหวี่ยงดาบของเราได้ ข้าจะตายก่อนหรือแกจะสิ้นก่อน แล้วเราจะได้เห็นกัน!”
เหล่านักดาบต่างต่อสู้โดยปราศจากซึ่งความกลัวตาย!
พวกเขาถูกโจมตี สั่นไหวอยู่บนตัวของมังกรกระดูกพลางเหยียบย่ำอยู่บนตัวมัน บางคนสามารถหลบหนีจากสถานการณ์เช่นนั้นได้หากพวกเขาโชคดีพอที่จะได้รับการรักษาจากเหล่านักบวช แต่ก็มีบางคนที่ตายไปแล้วก็ฟื้นคืนมาเป็นอันเดดหันดาบโจมตีเข้าใส่สหายของพวกเขา
ขณะที่วีดปักตัวอยู่คอมังกร เขาก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ต่างๆได้
ทุกครั้งที่เจ้ามังกรง้างหัวของมันขึ้นและคำราม มันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาอยู่บนยอดภูเขาสูงและเบิกทัศนียภาพของเขาให้เปิดกว้างออกไป
ขณะที่ขี่อยู่บนตัวมังกรกระดูกที่อยู่บนดาดฟ้าป้อมปราการเวอร์โก้ มันก็ทำให้เขาเปิดทัศนียภาพของเขาออกสู่อิสระสอดส่องสายตาให้เห็นไปทั่วทุกพื้นที่ เขาสามารถมองเห็นการต่อสู้ด้านนอกป้อมปราการหากเขาต้องการ
พวกศิษย์พี่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไปแล้ว
จากจำนวนเหล่านักดาบที่กำลังต่อสู้อยู่นี้ ดูเหมือนว่าจะมีพวกเขาอย่างน้อย 30 คนตายไป พวกเขาส่วนมากได้รับบาดเจ็บ ป้อมปราการก็พังทลายลงไปอีก แล้วก็จะยิ่งมีคนตายมากขึ้นเรื่อยๆ
เหล่านักดาบที่ตายไปก็ฟื้นขึ้นมาเป็นอันเดดด้วยทักษะอาณัติแห่งความมืด ยิ่งพวกอันเดดอย่างดูมไนท์และแวนดัลไนท์มาถึงตรงหลังคาและบนหอคอย สถานการณ์ก็ยิ่งแย่เกินจะควบคุมเข้าไปใหญ่
เป้าหมายอันดับแรกของพวกมันก็คือปกป้องบัลข่าน แต่ทว่าขณะที่พวกเขาเข้ามาใกล้หอคอยกลางที่เก็บภาชนะแห่งชีวิตเอาไว้ ก็ยิ่งมีพวกอันเดดเคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
 ปัญหาตอนนี้ก็คือเวลา
เพราะว่าค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกนั้นเหลืออยู่ไม่มากแล้วขณะที่วีดกำลังโจมตีใส่มัน หลังจากนั้นสักพักเขาก็โจมตีใส่มันต่อไปเรื่อยๆ ต้องทำให้จบลงไปให้เร็วที่สุดโดยที่ไม่ให้สูญเสียเหล่านักดาบไปมากกว่านี้
มันก็น่าเศร้านะแต่ฉันคงไม่มีทางเลือกแล้ว ศิษย์พี่ครับ มาอยู่ตรงนี้แทนผมด้วยครับ
วีดลงไปจากคอของมังกรกระดูกที่เป็นจุดยุทธศาสตร์อันยอดเยี่ยมเพื่อโจมตีมัน และในตำแหน่งของเขานั้นก็มีนักดาบ4มาแทนที่
วีดออกตัววิ่งตรงไปที่หอคอยกลางแล้วก็ตะเบ็งเสียงราชสีห์คำรามออกมา
 ข้าจะไปที่หอคอยกลางเพื่อทำลายภาชนะแห่งชีวิตของบัลข่านซะ!”
มันคือเสียงดังสะท้อนอันก้องกังวานที่แม้แต่เหล่าอันเดดที่อยู่ข้างนอกปราสาทก็ยังได้ยิน
กรี๊ซซซซซซ
มังกรกระดูกที่กำลังต่อสู้กับเหล่านักดาบตอบสนองในทันทีและหมุนตัวเพื่อไปฆ่าวีด มังกรกระดูกไล่ตามหลังวีดไปอย่างบ้าคลั่งพลางทำลายสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่ขวางทาง ส่วนนักธนูโครงกระดูก นักเวทย์ และแม่มดก็เปลี่ยนเป้าหมายเล็งไปที่วีด
ลูกธนูและกระสุนเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วนกระหน่ำโจมตีไปแล้ว!
วีดหลบลูกธนูและเวทย์ทีละดอกๆ ในตอนที่เขาไม่มีเวลาให้หลบกระสุนพวกนั้น เขาก็จะปล่อยให้มันแค่ถากๆตัวเขาไป ค่าพลังชีวิตของวีดฟื้นกลับคืนมาจนถึง 87% แล้วนี่ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเหล่านักบวช
ลูกธนูถากไหล่ขวาของท่าน
ท่านหลบเวทย์เพลิงได้
ท่านหลบแท่งน้ำแข็งแหลมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
บรรดาลูกธนูและเวทมนต์ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างจังเพราะว่าค่าความว่องไวที่สูงของวีดและทักษะการหลบหลีกของเขา ถึงแม้ว่าค่าพลังชีวิตเขาจะลดไปจนถึง 0 หน่วย เขาก็จะได้รับการช่วยเหลือจากซอยูนแล้วก็ยืนหยัดสู้ต่อไปได้อีกซักพัก
หลบได้ ฉันหลบมันได้
วีดมองตรงไปข้างหน้าและโยนร่างของเขาออกไปอย่างกับกระสวยอวกาศ ขณะที่ร่างของเขาพุ่งไปพลางโจมตีอุ้งปากและขาหน้าของเจ้ามังกรไปด้วย แถมยังหลบหลีกลูกธนูและการโจมตีเวทย์นับไม่ถ้วนได้แบบฉิวเฉียด
การเคลื่อนที่อันน่าเหลือเชื่อของเขาดูราวกับได้รับการฝึกฝนมานับร้อยครั้งเพื่อที่จะให้มันออกมาได้อย่างนี้
การเคลื่อนไหวอันสง่างามของเขาล้อมรอบเอาไว้ด้วยฉากการระเบิดเป็นภาพพื้นหลังที่เกิดจากการปะทะกันของเวทย์ไฟและเวทย์น้ำแข็ง วีดกำลังเคลื่อนที่ราวกับกับเขากำลังเต้นรำ!
 เขาหลบได้เก่งจริงๆ
เมื่อไรกันนะที่ความสามารถของลูกศิษย์ของพวกเราจะไปถึงระดับนั้น…”
แม้แต่เหล่านักดาบเองต่างก็ตกใจอยู่ชั่วขณะกับการต่อสู้ของวีด
การรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวของคนๆหนึ่งด้วยประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมและยังหลบหลีกลูกธนูและเวทมนต์ที่บินตรงมาหาเขาแบบต่อเนื่องอีก ทักษะการหลบหลีกแบบนี้ถือว่าเป็นก้าวหนึ่งสู่การก้าวข้ามขีดจำกัดที่มนุษย์สามารถทำได้ แน่นอนว่าความสามารถส่วนมากนั้นเป็นของตัววีดเองแต่ก็ยังมีทักษะศิลปะการหลบหลีกเป็นตัวช่วยอีกแรงด้วย เพราะว่าเป็นการโจมตีระดับต่ำเพียงการเคลื่อนที่ลื่นไหลไปตามกระแสเขาก็สามารถหลบพวกมันส่วนมากได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว นั่นคือความสามารถของตัววีดเองบวกกับทักษะเข้าไปด้วยนั่นเอง

ท่ามกลางการโจมตีมากมายนับไม่ถ้วน การเคลื่อนที่ของเขานั้นช่างดูสง่างาม คงไม่มีใครลืมภาพๆนี้ไปชั่วชีวิตของพวกเขาแน่ๆ
จากมุมมองของผู้ที่มองดูพวกเขาต่างอ้าปากค้าด้วยความทึ่ง เพียงแค่การบิดตัวเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้พวกเขาเป็นหรือตายได้ภายในสนามรบ
งั้น มาทำทุกอย่างที่เราทำได้กันเถอะ
วีดเปิดใช้งานทักษะด้วยมานาที่ยังเหลืออยู่ของเขา
ทักษะแกะสลักแสงจันทร์!”
ทั่วทั้งร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงจางๆ แสงที่คอยตอบโต้กับเวทย์ที่เป็นภัยคุกคาม มันจะคอยยืดออกไปและสกัดกั้นเวทมนต์เอาไว้
ทักษะแบบนี้กินมานาเป็นทวีคูณ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเขาจะตายวันนี้หรือเปล่าก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับการจ่ายค่าบัตรเครดิต!
วีดตะโกนออกมาขณะที่กำลังวิ่งย้อนกลับไปทางหอคอยกลาง
มาสิวะ! ฉันจะไม่ยอมแพ้ขี้ก้างอย่างแกหรอกนะ ไอ้ศพกิ้งก่าแห้งผอมกะหร่องเอ้ย!”
นั่นคือการเยาะเย้ยที่แสนเจ็บปวด!
ตรงจมูกของเจ้ามังกรกระดูกมีควันพวยพุ่งออกมา
ข้าจะฆ่าแกให้ได้อย่างแน่นอน
มันไม่ใช่การโจมตีของลมหายใจ เจ้ามังกรตบตีด้วยขาหน้าของมันและพยายามที่จะกระทืบด้วยเท้าหลังของมัน วีดหมุนตัวหลบเท้าของมันได้อย่างว่องไว
เพราะว่าขนาดของมังกรกระดูกนั้นใหญ่เกินไป วีดจึงต้องมุ่งเน้นไปที่การหลบหลีกเพียงอย่างเดียว ในขณะเดียวกัน เขาต้องคอยหลบการโจมตีจากพวกอันเดดไม่ให้พลาดแม้แต่ครั้งเดียว
โครมมมมม!
อุ้งปากของเจ้ามังกรกระดูกเข้าไปขบอยู่ตรงที่วีดเคยอยู่ กำแพงหินส่วนหนึ่งแหลกอยู่ภายในปากของมัน ส่วนในบริเวณใกล้เคียงตรงที่วีดอยู่ ลูกธนูก็พุ่งโจมตีลงมาเป็นพรวน เวทมนต์ก็ผ่านไปทำลายที่ตรงนั้นจนสิ้นซาก
กรรรรรรรรรรรรซ!”
มังกรกระดูกโจมตีใส่กำแพงหิน แถมลูกธนูกับเวทย์ก็ยิงไปโดนมันอีก แต่แทนที่จะพยายามปกป้องค่าพลังชีวิตของมัน มันกลับใส่การโจมตีไปให้กว้างอีกเพื่อจะฆ่าวีดให้ได้
ทว่าวีดมุ่งเน้นไปที่การหลบหลีกการโจมตีของมันเพียงเท่านั้น มันดูเหมือนกับว่าเขาสามารถตายได้ทุกเมื่อถ้าหากว่าเขาประมาทเลินเล่อพยายามโจมตีตอบโต้ออกไป ดังนั้นเขาจึงได้ถูกผูกติดอยู่กับการหลบการโจมตีและมีชีวิตรอดให้ได้
 ด้วยอำนาจแห่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยชีวิตให้กับคนที่ทุกข์ทรมาน หัตถ์แห่งการเยียวยา!”
เหล่านักบวชต่างช่วยกันผนวกค่าพลังชีวิตของวีดด้วยมนต์รักษา นี่คือเหตุผลว่าทำไมอาชีพสายบู้ถึงได้รู้สึกซาบซึ้งและไม่ได้ตะขิดตะขวงใจเหล่านักบวชจากสถานการณ์เช่นนี้เลย
ขณะที่วีดกำลังถอยหลบกลับไปแล้วเตรียมป้องกันเอาไว้ เขาก็เตรียมตัวพร้อมเคลื่อนตัวหลบไปในเสี้ยววินาที นี่คือการต่อสู้ที่แท้จริง มันไม่ใช่การต่อสู้ที่สู้โดยเหล่าผู้เล่นเลเวลสูงๆที่จะเตรียมอุปกรณ์สวมใส่ให้ดีกว่ามอนสเตอร์ที่ไปสู้ด้วย มันคือการต่อสู้ที่เขาต้องใช้ความสามารถทั้งหมดของเขา แล้วใช้การตัดสินใจในเสี้ยววินาที ณ ที่ตรงนั้นที่อาจหมายถึงความเป็นความตายได้
เจ้ามังกรกระดูกสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่
การโจมตีลมหายใจมาแล้ว!
มันกำลังเตรียมตัวโจมตีครั้งสุดท้ายใส่วีดที่มันไม่สามารถจัดการได้ คนที่สามารถหลบการโจมตีได้ดีจนน่าหมั่นไส้
แต่ทว่าก่อนที่มันจะได้ทำ กระดูกในร่างกายมันก็เริ่มแตกออกและพังทลายลงไป
ในที่สุดค่าพลังชีวิตของมังกรกระดูกก็ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
มันคือการโจมตีลมหายใจส่งท้ายก่อนที่มันจะตาย!
 “ถ้ามันอยากทำอย่างนั้นงั้นฉันจะไม่หลบละกัน
วีดเดินออกไปอยู่ตรงขาหน้าของเจ้ามังกรกระดูกแล้วก็กระโดดขึ้นสูงมากพอที่จะอยู่ตรงหน้าของมัน
ทักษะวิชาดาบเฮอเรม!”
วีดขึ้นไปเหยียบตรงจมูกของมังกรกระดูกแล้วก็เล็งไปที่หน้าผากของมัน จากนั้นก็ลงดาบใส่ ไม่ว่าค่าความคงทนของดาบเขาจะตกลงไปหรือไม่เขาก็ยังโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยความว่องไวอันสูงส่งของเขา
รอยแตกเริ่มปรากฏบนหัวของมังกรกระดูก ทุกครั้งที่วีดโจมตีใส่มัน รอยแตกนั่นก็จะเริ่มใหญ่ขึ้น ลมหายใจที่รวบรวมเอาไว้ภายในปากของมันก็เยอะมากขึ้นแล้วเช่นกัน
ปลุกเสกศาสตราศักดิ์สิทธิ์!”
หนึ่งในนักบวชร่ายเวทย์เพื่อผนึกเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ลงใส่อาวุธ รอยแตกปริแยกลามลงไปจนกระจายไปทั่วทั้งหัวของมัน!
โครมมมมมมมม!
ส่วนกระดูกตรงที่เหล่านักดาบกำลังฟันใส่อยู่ก็เริ่มแตกลงแล้วเช่นกัน แล้วในตอนที่วีดลงดาบใส่มันอีกครั้ง พลังที่พยุงร่างกายของมังกรกระดูกเอาไว้ก็สลายหายไปในทันที ตั้งแต่หัวลงมากระดูกของมันก็เริ่มแตกเป็นเสี่ยงจนทั่วทั้งร่างแล้วร่วงลงสู่พื้นดิน
ณ เวลาเดียวกัน หน้าต่างข้อความก็เด้งขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าของวีด
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น
มังกรกระดูก ดิอาร์คแห่งป้อมปราการเวอร์โก้ได้หวนกลับคืนสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร
ด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 915 หน่วย
ค่าบารมีเพิ่มขึ้น 1 หน่วย
จิตวิญญาณแห่งนักสู้เพิ่มขึ้น 4 หน่วย
ด้วยการรับหน้าที่สำคัญในการออกล่ามังกรกระดูกที่เกี่ยวโยงกับกองทัพอันเดด ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น 2 หน่วย

นี่คือความตายของมังกรกระดูก!
ท่านเลเวลถึง 400 แล้ว

ในที่สุดวีดก็เลเวล 400 แล้ว

ท่านได้รับ สัญลักษณ์ภาพแห่งการทำลายล้าง(Glyph of Destroyer)
ท่านได้รับ เคล็ดลับของเนโครแมนเซอร์ กลวิธีการสร้างมังกรกระดูก
ท่านได้รับกระดูกมังกรเน่าเปื่อยจำนวนหนึ่ง
ท่านได้รับหนังสือเก่าหนึ่งเล่ม หนังสือประวัติศาสตร์โบราณของทวีปเวอร์เซลเล่มที่ 19
ท่านได้รับเสื้อคลุมโบราณ
ช่างโชคไม่ดีเท่าไรที่ของดร็อปจากมังกรกระดูกนั้นต้องถูกแบ่งให้กับผู้เข้าร่วมการต่อสู้อย่างเท่าเทียมที่ไม่เหมือนกับตอนที่ได้ของดร็อปจากอันเดดธรรมดาทั่วไป หลังจากที่ร่างกายของมังกรกระดูกโดนทำลาย
วีดกับเหล่านักดาบก็ออกไปจากบริเวณดาดฟ้า
ฆ่าพวกมนุษย์นั่นซะ!”
พวกเราต้องปกป้องท่านบัลข่านจากพวกมนุษย์
พวกอันเดดแกว่งตัวเต็มแรงเพื่อไต่ขึ้นไปบนหลังคา บนภาคพื้นดินวีดและเหล่านักดาบจะได้เปรียบเล็กน้อยแต่ทว่าตอนนี้พวกอันเดดไต่ขึ้นมาจากทุกทิศทุกทาง
ตอนนี้แหละทุกคน มุ่งหน้าไปที่หอคอยกลางได้เลย พวกนักบวช วิ่งตามให้ทันด้วยล่ะครับ ถ้าพวกคุณคิดว่ากำลังจะตาย ขอร้องละครับ ให้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายโจมตีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ไปที่มังกรกระดูกด้วย
มันช่างเป็นคำร้องขอที่น่ากลัวสำหรับเหล่านักบวชซะจริง แต่ทว่าวีดไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
เราเข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ!”
เมื่อได้เห็นการต่อสู้นองเลือดที่วีดและเหล่านักดาบพึ่งเผชิญมา เหล่านักบวชจึงยอมเห็นด้วยแล้วตามไปแต่โดยดี
ไปกันเถอะ
ขณะที่วิ่งไปบนหลังคา วีดและพวกนักดาบก็จัดการพวกอันเดดตัวใดก็ตามที่เข้ามาขวางทางพวกเขา จากทางด้านหลัง พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกนักบวชกำลังรักษาค่าพลังชีวิตและกำลังกายให้กับพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
จุดหมายของเราอยู่ตรงหน้าแล้ว
ขณะที่วิ่งไปตามหลังคา ไม่นานก็เห็นเพียงแค่บางสิ่งสูงราว 60 เมตรใกล้ๆกับหอคอยยืนโด่เด่อยู่ตรงกลาง
มังกรกระดูกสองตัวกำลังจ้องมองมาที่เหล่าผู้บุกรุก
จากนั้นก็ปล่อยทักษะลมหายใจราวกับว่าพวกมันกำลังเฝ้ารอช่วงเวลานี้!
กระแสคลื่นลมหายใจอันทรงพลังทั้งสองพุ่งตะบันใส่พวกเขาด้วยระยะห่างพอประมาณ มันหลอมละลายบางส่วนของกำแพงปราสาทและอาคารบางหลังไป หรือแม้แต่กวาดล้างพวกอันเดดไปด้วยเช่นกัน
วีดและเหล่านักดาบกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทางแล้วก็ซ่อนตัวอยู่ภายในป้อม
โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาตายไป มากแค่ พวกเขาก็รวมกลุ่มกันอีกครั้งแล้วก็ออกวิ่งไปทางหอคอยกลางต่อไป เวทมนต์หลายชนิดที่ถูกร่ายออกมาจากพวกมังกรกระดูกพุ่งมาแล้วก็ระเบิดออก
ใช้อาคารเป็นที่กำบังแล้วก็เคลื่อนต่อไปข้างหน้า
วีดและเหล่านักดาบทำได้เพียงเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
หลังจากที่สยายปีกออกแล้ว มังกรกระดูกตัวหนึ่งก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเจ้าตัวนั้นกำลังจะใช้เวทมนต์ ส่วนอีกตัวก็ใช้พื้นดินเป็นที่ต่อสู้ของมัน
เจ้าพวกมนุษย์ ฆ่าพวกมันให้หมด
พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปที่สถานที่อันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า
จงสู้เพื่อปกป้องท่านบัลข่าน!”
เมื่อลองพิจารณาถึงพวกอันเดดที่อยู่บนหลังคา ถ้าหากพวกเขาโดนพวกมังกรกระดูกยื้อเอาไว้พวกเขาคงโดนล้อมแล้วก็โดนกำจัดแน่ๆ
วีดหยิบประติมากรรมอีกชิ้นออกมา
ท้ายที่สุด ฉันก็ต้องใช้มันอีกสินะ ไม่อยากใช้มันเลยจริงๆ…”
มันคือประติมากรรมที่สร้างขึ้นมาจากความชอกช้ำทางจิตใจต่างๆนานาของวีด

พายุหนาวสะบั้น: ค่าความคงทน 20/20
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันแสนรุนแรงที่เคยหยั่งรากลงสู่ทวีปเวอร์เซลทางตอนเหนือ
มันได้แสดงถึงพายุน้ำแข็งที่นำน้ำแข็งและหิมะมา
ผลงานประติมากรรมระดับดีเยี่ยมที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนจากเหตุการณ์ที่ประติมากรเคยประสบมา
มันแสดงถึงสิ่งสวยงามแต่ก็ยังมีคุณลักษณะพิเศษของธรรมชาติออกมาอยู่
เพราะการเพิ่มขึ้นของประชากรทางแดนเหนือ โอกาสที่จะมีพายุหิมะนั้นต่ำมากๆ
คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประติมากรรมจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไป
คุณค่าทางศิลปะ: 854
คุณสมบัติ: ช่วยพัฒนาเอฟเฟคของเวทย์น้ำแข็ง 3%
พลังชีวิต +200
เสน่ห์ +13

ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติ!”

ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว
ค่าสถานะทางศิลปะหายไปถาวร 20 หน่วย
ค่าพลังชีวิตและมานาถูกใช้ไปอย่างละ 20,000
ทุกค่าสถานะลดลงไป 15% เป็นเวลา 4 วัน
ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติลดลง
ทักษะแกะสลักมหาภัยพิบัติสามารถใช้ได้แค่หนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น
เมื่อมหาภัยพิบัติอันแสนอันตรายถูกเรียกใช้นั้นจะส่งผลให้ค่าชื่อเสียงดีหรือชื่อเสียงเสียขึ้นอยู่กับความเสียหาย
ท่านสามารถตายท่ามกลางภัยพิบัติได้ ฉะนั้นโปรดระวังตัวด้วย

ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

16 ความคิดเห็น:

  1. หนาวแน่พวกอันเดด

    ตอบลบ
  2. หนาวจับจิต ติดยันกระดูก 555

    ตอบลบ
  3. เรียกภัยพิบัติมาแล้ว หึหึหึ

    ปล.ขอบคุณครัช

    ตอบลบ
  4. คำตอบ
    1. มีมังกร3ตัวเหมือนกันด้วย 5555

      ลบ
  5. ค้าง!!! ขอบคุณครับแอด

    ตอบลบ
  6. ทักษะแรงก็จริงแต่เสียค่าสถานะไปหลายอย่างเช่นกัน คงคุ้มแหละ?ตอนนี้ต้องแข่งกับเวลาสุดๆ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณครับสนุกมาห

    ตอบลบ
  8. เอ่อ...นักดาบคงไม่ปลิวไปด้วยนะ นักบวชอีก

    ตอบลบ
  9. มังกร 2ตัว จะDrop อะไรหว่าอิอิอยากรู้

    ตอบลบ
  10. หากองไฟได้เลยพวกกระดูกเวร ขอบคุณครับที่แปลให้อ่าน รอตอนต่อไปอยุ่ครับ

    ตอบลบ
  11. แมลงสาปอย่างวีคหรือจะตาย

    ตอบลบ
  12. ไม่ระบุชื่อ22 ตุลาคม 2560 เวลา 00:49

    ทำทั้งหมดเพื่อโมราต้า ชาบูสุดๆ

    ตอบลบ
  13. 555 แกจะมาทุบหม้อข้าวของชั้นใช่ไหม 55โมราต้าของบักวีด

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...