วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 31 ตอนที่ 5 : ชะตากรรมของดาร์คเกมเมอร์(Dark Gamer’s Fate) แปลโดย Acid กรด


เล่ม 31 ตอนที่ 5 : ชะตากรรมของดาร์คเกมเมอร์(Dark Gamer’s Fate) แปลโดย Acid กรด


        ปราสาทอาเร็นแห่งจักรวรรดิฮาเวน

        งานก่อสร้างขนาดใหญ่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่พระราชวังของจักรพรรดิ บาร์ดเรย์ตัดสินใจสร้าง
พระราชวังอันวิจิตรงดงามแทนที่จะเป็นยุ้งฉาง

        "จงไปรวบรวมเหล่าศิลปินและสถาปนิกมาเดี๋ยวนี้"

        ในระหว่างที่กิลด์เฮอร์มิสกำลังกดค่าแรงพวกศิลปิน

        หลังจากที่วีดได้เริ่มทำการแกะสลัก, บรรดาประติมากรจำนวนมากได้รับการยกระดับความสำคัญในกิลด์ อย่างไรก็ตามเหล่าประติมากรรมที่พวกเขาผลิตขึ้น ล้วนดูเหมือนงานศิลปะโบราณที่ถูกขุดขึ้นมา
การสนับสนุนสำหรับพวกจิตรกรและประติมากรหายไปและเหล่าศิลปินจึงละทิ้งจากอาณาจักรฮาเวนเพิ่มมากขึ้น

        แต่การคงอยู่ของพวกเขาเป็นสิ่งจำเป็นต่อพระราชวังขององค์จักรพรรดิ

        "พระราชวังขององค์จักรพรรดิจะเป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มความภักดีของประชากรด้วยเหตุนี้พวกเราสามารถเพิ่มภาษีได้อีก 2 %"

        "ส่งพวกทหารทั้งหมดที่ยอมแพ้ในสงครามไปที่เหมือง"

        ลาฟาร์เย่ได้จัดประชุมผู้นำเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเตรียมไว้บีบบังคับพลเมืองของจักรวรรดิ

        ภาษีฉลองชัยชนะจากสงคราม

        ภาษีการก่อสร้างพระราชวังจักรพรรดิ

        ภาษีพิเศษเพื่อบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกของปราสาทอาเรน(Aren Castle)

        ภาษีเพื่อการเดินทัพผ่านเมือง (คงหมายถึงลาดตระเวนผ่านเมือง)

        ภาษีพิเศษเพื่อการแผ่ขยายอาณาเขต

        ถ้าวีดได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้วเขาคงจะตบเข่าด้วยความชื่นชมยินดี

        "พวกคนแคระจำนวนมากอาศัยในอาณาจักรลาเซล เราควรจะจับพวกมันมาทำงานเยี่ยงทาส"

        "มีการก่อจลาจลในบางพื้นที่ การปราบปรามจะไม่เป็นปัญหาแต่ความมั่นคงจะลดลงและ
วิหารเอ็มบินยูจะแพร่กระจายไปทั่ว"

        จักรวรรดิฮาเว่นได้รับความเสียหายจากทางวิหารเอมบินยูที่กำลังแพร่กระจายราวกับไฟป่า แต่พวกผู้นำระดับสูงในกิลด์เฮอร์มิสไม่ได้กังวลใจในเรื่องนั้น

        ผู้คนที่เปลี่ยนไปเป็นพวกวิหารเอ็มบินยูเป็นคนยากจนและกิลด์เฮอร์มิสมั่นใจว่าพวกเขาสามารถเอาชนะ
พวกวิหารเอมบินยูได้ถ้าพวกนี้ต้องการทำสงครามแน่นอน, ภาษีใหม่จะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการทำสงครามกับ
วิหารเอมบินยู

        กิลด์เฮอมีสมีความมุ่งมั่นในการครองครองทวีปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นพวกเขาต้องบำรุงรักษากองทัพอย่างเคร่งครัด
***********************************
        "ไอ้ตัวร้ายพวกนั้น"

        วีดสาปแช่งทันทีหลังจากที่ได้ยินว่ากิลด์เฮอร์มีสวางแผนหยุดยั้งสงคราม เขารู้สึกถึงบางสิ่งแปลกๆได้ทันที

        "พวกมันมีจุดมุ่งหมายแอบแฝง ยังไงก็ตาม,พวกมันเป็นคนเลวดังนั้นไม่มีทางที่จะเชื่อถืออะไรพวกมันได้"

        ทฤษฎีของนักปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวว่าสันดานของมนุษย์มีพื้นฐานมาจากความชั่วร้าย!

        วีดกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่ทำการต่อสู้ร่วมกับบาฮาม็อกและซอยูน เขาทำพวกจานสูงค่าจากส่วนผสม
ที่ได้มาจากดันเจี้ยน ทั้งทักษะการทำอาหารของเขาในที่สุดก็มาถึงขั้นสูงแล้ว

                - ทักษะการทำอาหารขั้นกลางของคุณได้มาถึงระดับ 10และได้เปลี่ยนเป็นขั้นสูง
                        เป็นไปได้ที่จะลดผลข้างเคียงเมื่อจัดการกับส่วนผสมที่ใช้ยากและอาหารหมักดอง
                        คุณสามารถยืดอายุการเก็บรักษาอาหารต่างๆได้เพิ่มขึ้น
                        สามารถทำอาหารระดับมืออาชีพได้
                        ทุกสถานะจะเพิ่มขึ้น 20 แต้ม

        ในเวลานี้เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นพ่อครัว สำหรับเขาแล้วเป็นไปได้ว่าเขาสามารถเลี้ยงชีพได้แม้เขาจะปิ้งขนมปังขายในเมืองอย่างเดียวก็ตาม งานทั้งหมดในช่วงแรกถือว่าคุ้มค่าแล้ว แต่วีดยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเขา

        "ฉันไม่ได้กินเงินบำนาญเต็มจำนวนหรือเป็นลูกค้าในสี่ประกันภัยใหญ่ ถ้าฉันออกจากงานอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้เงินชดเชยซิ"

        เวลานี้เขากำลังมีรายได้แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่อาจล่วงรู้ได้แน่ชัด เขาไม่ได้มีงานมั่นคงเหมือนเช่นพวกคนที่ทำงานอิสระทั้งหลาย

        มีหัวข้อเขียนลงในกระดานของพวกดาร์คเกมเมอร์เรื่องทัศนคติที่สะท้อนกับเขา

                หัวข้อ: ผมพยายามจะแต่งงาน
                ผมได้รู้จักกับผู้หญิงที่ผมรักมา 3 ปี
                เมื่อวานผมได้พบกับพ่อตาของผม และตอนนี้ผมกำลังร้องไห้
                คนรักของผมสบายดีแต่คนที่ผมทนไม่ได้คือตัวผมเอง ผมต้องการแชร์เรื่องสั้นๆระหว่างพ่อตากับตัวผม
                "ไง, แกกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้"
                "ครับ, คุณพ่อ(ตา) คุณพ่อรู้จักอะไรบางอย่างที่เรียกว่า รอยัลโร๊ด ไหมครับ?"
                "ฉันรู้จักมันนะ! ทั้งหนังสือพิมพ์และทีวีกำลังเสนอเรื่องบริษัทร้อนแรงสุดๆที่ชื่อ บริษัทยูนิคอน
                พวกเขาได้รับรับผลกำไรมหาศาลทุกปีไม่ใช่เหรอ? ฉันนึกไม่ออกเลยนะถึงผลประโยชน์สวัสดิการ
                ที่พวกลูกจ้างได้รับจากบริษัทยูนิคอน โฮ-ซังของฉันก็ได้เจอกับผู้ชายแบบนั้นคนนึง"
                "ไม่ใช่มั้งครับ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้างแต่เป็นคนหาพวกไอเทมในรอยัลโร้ดและขายมันเป็นเงิน"
                "....งั้น,เธอก็สะสมเงินได้นิดๆหน่อยๆใช่ไหม?"
                "ก็นิดหน่อย"
                "สักเท่าไรกัน?
                             "ถ้าผมขายอุปกรณ์ที่ผมกำลังสวมอยู่ออกไปแล้ว ผมสามารถวางมัดจำสำหรับบ้านได้พอดี
                             นั่นก็เพราะว่าราคาของชุดนี้เพิ่งเพิ่มขึ้นในการประมูล"
                "....."
                "....."
                "เธอจะไม่พา โฮ-ซัง ไปลำบากใช่ไหม?
                "ครับ ผมจะรีบเข้าแค๊ปซูลรอยัลโร๊ดสัก 18 ชั่วโมงต่อวันเลย"
                "....."
                ผมไม่ได้เรียนมากกว่ามัธยมปลายเลย คุณเข้าใจความเศร้าใจนี้ไหม?

        วีดไม่ได้เห็นอกเห็นใจกับเรื่องราวของพวกดาร์คเกมเมอร์ มันเป็นอุตสาหกรรมบริการแต่มันเร็วเกินไปที่จะเปิด
เผยต่อโลก ไม่มีความมั่นคงในอาชีพ, ทั้งเงินเดือนและสวัสดิการผลประโยชน์

        นอกจากนี้, การขยายตัวของกิลด์เฮอร์มีสก็เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ มีผู้เล่นคนอื่นๆที่รู้สึกถูกกดดันโดยกิลด์
เฮอร์มีสแต่แรงกดดันพุ่งตรงสู่วีดในฐานะกษัตริย์แห่งอาณาจักรอาเพ่นนั้นยิ่งใหญ่กว่า

        แม้ว่าวีดจะกลายเป็นปรมาจารย์แกะสลักคนแรก, มันไม่สำคัญอะไรเลยถ้าบาร์ดเรย์และกิลด์เฮอร์มิสได้
ควบรวมทวีปกลางไปแล้ว เหล่าพลทหารของจักรวรรดิฮาเว่นจะตบเท้าสู่แดนเหนือของอาณาจักรอาเพ่น สิ่งก่อสร้างที่วีด
ลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลจะถูกครอบครองโดยกิลด์เฮอร์มีส

        วีดได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในส่วนหนึ่งของจิตใจ

        "ความแค้นใจนี้ก็พอทำให้ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลได้แล้ว"

        ถ้าเขากลายเป็นปรมาจารย์เอกจากนั้นจะได้รับความสนใจจำนวนมากจากสถานีออกอากาทั้งหลาย วีดไม่อยู่
ในสถานการณ์ที่เขาจะต้องกังวลเรื่องแบบนั้น

        "อาณาจักอาร์เพ่นคือชามข้าวของฉัน"

        วีดมีความผูกพันกับชามข้าวพิเศษของเขา ดังนั้นเขาไม่สามารถปล่อยให้สุนัขข้างบ้านบางตัวมากินข้าวในชาม
ของเขาได้!

        "ฉันต้องหาทางปกป้องชามข้าวของฉัน"

        เขาต้องป้องกันอาณาจักรอาร์เพ่นจากการคุกคามทุกๆรูปแบบ

        "ฉันต้องปรึกษาท่านอาจารย์กับพวกศิษย์พี่"

        โดยปรกติแล้วเขาต้องการให้ภารกิจยากๆกับผู้คนที่ใกล้ชิดเขา

        พวกเขาจะทำมันถ้าวีดยื่นข้อเสนอในการปรุงเนื้อและเครื่องดื่มให้กับพวกเขา แต่ไม่ว่าพวกนักดาบจะเก่งแค่
ไหน, พวกเขาก็จะถูกกำจัดด้วยการโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่รุนแรงในสงครามขนาดใหญ่ พวกเขายังบกพร่องอย่างมาก

        "ถ้าฉันรวบรวมเจ้าพวกประติมากรรมสลักชีพแล้ว ฉันสามารถใช้พวกมันให้ทำงาน"

        เขาได้วางแผนเอาชนะสถานการณ์ด้วยการแสวงหาผลประโยชน์

        วีดต้องการเอาชนะแต่เขายังไม่สามารถเผชิญหน้ากับกิลด์เฮอร์มีสได้ในช่วงเวลานี้ จะต้องใช้เวลาค่อนข้าง
มากเพื่อหาพวกประติมากรรมสลักชีพและสร้างความสนิทสนมและบรรลุผลสำเร็จ

        ถ้าพวกมันไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้แล้ว พวกมันจะไม่เป็นประโยชน์ พวกมันจะเป็นประโยชน์เพื่อ
การเติบโตของอาณาจักรอาร์เพ่นในระยะยาวแต่จะมีภัยคุกคามในระยะสั้น

        "ฉันต้องตระเตรียมกองทัพเพื่อป้องกันอาณาจักร แต่พวกเขากำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่ระดับนี้...
แม้ว่าฉันลงทุนทั้งเวลาและเงิน, มันยังไม่พอที่จะสกัดกั้นจักรวรรดิฮาเว่น"

        วีดยังไม่สามารถหาทางจัดการกับจักรวรรดิฮาร์เว่นได้แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้หลายทาง นั่นเป็นเพราะการเอา
ชนะเมืองต่างๆที่ได้พัฒนาแล้วในทวีปกลางเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าพวกที่ค่อยๆพัฒนา

        "เมื่อตรวจตรามันอย่างใจเย็น, ฉันก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกในพื้นที่อื่นๆ ประชากรและการพัฒนาในอาณาจักรของ
ฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขา, ไม่ต้องเอ่ยถึงกองกำลังของฉันถ้าสงครามแผ่ขยายมาแล้วฉันคงจะไม่ชนะ"

        เมื่อพิจารณาถึงอนาคต, มันเป็นการตัดสินที่สมเหตุสมผลแล้วที่หมดหวังกับอาณาจักรอาร์เพ่นตอนนี้
ไม่มีกองกำลังใดๆในทวีปกลางที่สามารถต้านทานกับกิลด์เฮอร์มีส จำนวนประชากรและกำลังทางการทหารก็มีขนาด
ใหญ่มาก ดังนั้นมันจะเป็นความยากสำหรับกิลด์ใหญ่ทั้ง5ที่จะต่อต้านพวกมัน

        "ฉันต้องทำบางสิ่งเพื่อชัยชนะ....."

        วีดมองย้อนกลับไปถึงสิ่งต่างๆที่เขามี

        เขามีความสามารถของปิงหลง, เจ้าเหลือง, ฟินิกส์ และเหล่าประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆจากลาส ฟาลั้งซ์
พวกมันจะมีพลังอำนาจที่น่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนถ้าพวกมันเติบโตขึ้นเรื่อยๆไปสัก 2-3 ปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการชนะสงคราม ปัญหายังไม่ได้ถูกแก้ไขแม้ว่าจะเสนอโกล์มินิให้เป็นสินบน

        "ยังมีโอกาสที่จะทำอะไรบางอย่างด้วยการแกะสลัก ฉันยังไม่ได้สร้างทักษะของตัวฉันเองเลยและยังมีความ
ลับสุดท้ายของเทคนิคแกะสลักจากตำนาน"

        หลังจากการเรียนประติมากรรมประทานชีพ, ประติมากรรมจำแลง, เคล็ดมีดแกะสลัก, แกะสลักพิบัติภัย
และการสร้างธาตุ ดังนั้นวีดสามารถเรียนรู้เทคนิคลับสุดท้ายของการแกะสลัก

        เขาฝันถึงมากมายหลายครั้งเกี่ยวกับทักษะที่ฟุ้งเฟ้อขณะที่กำลังนอนหลับตอนกลางคืน

        "บางทีเทคนิคลับสามารถสร้างประติมากรรมที่จะนำความหายนะมาสู่เป้าหมายหรือ..บางสิ่งที่สามารถ
แสดงความงดงามของประติมากรรม...หรือบางอย่างที่สามารถเพิ่มศักยภาพของพวกประติมากรรมสลักชีพของฉัน"

        เขามีความกังวลและความคาดหวังมากมาย เขาไม่สามารถคาดเดาว่าเทคนิคแกะสลัก สามารถเป็นได้โดย
ไม่คำนึงถึงเมื่อก่อน เทคนิคลับการแกะสลักอาจทำให้เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาแต่มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้
อย่างไรก็ตาม, สถานการณ์บนทวีปก็ไม่มีความมั่นคง ดังนั้นวีดจึงได้ตัดสินใจ

        "ฉันเพียงแค่ต้องเพิ่มทักษะฝีมือของฉันและทำภารกิจปรมาจารย์ให้เสร็จ ฉันไม่รู้ว่าการเรียนรู้
ทักษะหรือไม่ก็การสร้างพวกประติมากรรมจะทำให้ภารกิจสำเร็จ ถ้าฉันกระตุ้นเทคนิคลับสุดท้ายได้แล้วอย่างนั้น..."

        ถ้าเขาได้พบการแกะสลักสุดท้ายแล้ววีดจะสามารถกระตุ้นเทคนิคลับ

        "ถ้าฉันเรียนรู้เทคนิคลับช้าไปกว่านี้แล้วมันอาจจะสายเกินไป"

        เขาคาดหวังอย่างแน่วแน่ในการค้นหาเทคนิคลับ อนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับชนิดของเทคนิค
อะไรก็ตามที่จะปรากฏออกมา

        "ถ้าทักษะที่อยู่เหนือการคาดเดาปรากฏออกมาแล้วฉันคงสามารถต่อสู้กับกิลด์เฮอร์มีสได้ คนอื่นๆอาจจะต่อสู้
ต้านทานพวกมันได้เช่นกัน แล้วถ้าทักษะนั้นไม่ได้มากพอแล้ว...."

        นี่เป็นเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้าย(จริงๆ)

        "ฉันจะคุกเข่าลงและยอมแพ้ทันที"

        วีดตัดสินใจที่จะไม่ล่าช้าเรื่องเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้าย เขาจะเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญทักษะของเขา
อย่างต่อเนื่องระหว่างการออกล่า แต่การแสวงหาเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้ายถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

        "ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะยากขนาดไหน ดังนั้นฉันต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์"

        เขากำลังพนันเกมนี้ไว้กับเทคนิคแกะสลักลับอันสุดท้าย

        วีดตัดสินใจท้าทายมันทั้งๆที่สถานการณ์บนทวีปยังน่ากังวล

        "สักวันฉันอาจจะเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้"

        ชะตากรรมของเขาคือการออกไปผจญภัยขนานใหญ่ซ้ำๆซากๆทั้งๆที่ความปรารถนาของเขาคือมีชีวิตที่ยืนยาว

                                ******************************

        วีดได้สร้างประติมากรรมจำนวนมากมายบนทวีป พวกมันถูกขายให้ผู้คนหรือหรือเป็นชิ้นงานที่ได้แกะสลักลง
บนผนังหรือก้อนหิน

        "นี่คือ....ชิ้นงานหนึ่ง"

        มันเป็นมนุษย์วิหก(กินนร)ที่มีปลายหางแยกเป็นสองแฉก! วีดค้นหาประติมากรรมที่เขาได้ทิ้งไว้เบื้องหลัง
ระหว่างที่กำลังเดินทาง

        "มันเป็นประติมากรรมที่ยอดเยี่ยม ทักษะนี้มีค่าเพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นยอดนักประติมากร"

        เขาครุ่นคิดถึงบางสิ่งก่อนที่จะกล่าวอีกครั้ง

        "พวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง"

        มันไม่ใช่แค่มนุษย์วิหก

        ในช่วงนั้นเขาได้แกะสลักประติมากรรมที่ยอดเยี่ยมเอาไว้มากมาย ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งทวีป

        นอกเหนือจากที่แกะสลักไว้บนก้อนหินและต้นไม้, ประติมากรรมจำนวนมากได้แพร่กระจายผ่านการขาย เหล่า
ประติมากรรมได้ถูกขายตกทอดกันไประหว่างผู้เล่นและกระจัดกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง ถ้าไม่มีคุณสมบัติพิเศษใดๆ
อย่างนั้น พวกเขาจะให้มันแก่ชาวบ้านเพื่อเพิ่มความสนิทสนมคุ้นเคย พวกประติมากรรมบางส่วนยังหายไปด้วยโดย
ถ้าพวกมันตายจากการออกล่าในดันเจี้ยนแล้วพวกมันจะถูกทิ้งเอาไว้ที่นั่น

        ประติมากรรรมเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของวีด

        "ทักษะของฉันยังไม่พอ"

        "ผมต้องจัดการเพื่อให้ได้ชิ้นงานจากวีด"

        ประติมากรรมสลักชีพบางส่วนในที่ห่างไกลก็พบว่าสร้างขึ้นโดยวีด ประติมากรรมสลักชีพเหล่านั้นได้ตัดสินใจ
ถอนตัวหลังจากจักรวรรดิอาเพ่นล่มสลายลง พวกมันอยากจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันมากกว่าอยู่กับพวกมนุษย์

        และประติมากรรมสลักชีพส่วนน้อยได้สูญพันธุ์ พวกที่เหลือที่ยังมีชีวิคอยู่บ้างก็กลายเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้าย
หรือหลบซ่อนตัว บ้างก็ยังคงนอนหลับเว้นแต่ว่าประติมากรปลุกพวกมันขึ้นมาโดยตรง

        แม้ว่าวีดได้สำรวจสถานที่มากมายบนทวีป, พวกประติมากรรมสลักชีพยังคงซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ห่างไกล
เขาไม่พบแม้แต่ประติมากรรมสลักชีพบางส่วนที่อยู่ลึกในภูเขาไฟจิโกลาส(เขตลาสฟาลังค์)

        "ประติมากรมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้"

        "อะไรกันนี่? ข้าอยากพบประติมากร"

        "เขาให้ชีวิตกับข้าด้วย"

        หัวหน้ารุ่นที่8ของสมาคมประติมากรได้สร้างงานศิลปะชิ้นเอก มันมีชีวิตเงียบสงบที่หอคอยในจิโกลาส(ลาส ฟาร์ลัง) จนกระทั่งได้รับชีวิตจากวีด พวกประติมากรรมสลักชีพจะบอกเกี่ยวกับวีดเมื่อไรก็ตามที่พวกมันได้พบปะกับตัวอื่นๆ ประติมากรรมของวีดมากมายได้กระจัดกระจายไปทั่วทั้งทวีป

        "ฉันอยากรู้จักตัวตนของประติมากร(คนนั้น)"

        "ข้าไม่เจอะเจอเขามานานแต่ดูๆแล้ว เขาเหมือนพวกขี้เหนียว"

                                ***********

        บาร์ดเรย์ได้หาเวลาในการออกล่าแม้ว่ากำแพงกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เขาสามารถออกล่าได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการช่วยเหลือของกิลด์ และเขาหลีกเลี่ยงงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะของจักรวรรดิฮาเว่นโดย
การไปออกล่า

        "ทักษะการโจมตีค่อนข้างดี"

        ขณะนี้บาร์ดเรย์อยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งกับมอนสเตอร์จำนวนมาก พวกมันเป็นตัวตุ่นพวกเดียวกับมอนสเตอร์
ที่มีหนามบนร่างกายของพวกมันจะผุดโผล่ขึ้นมาจากพื้นของดันเจี้ยน

        พวกมอนสเตอร์เลเวลตั้ง 500! พลังชีวิตของพวกมันก็สูง และหนังก็แข็งแกร่งปานเหล็กกล้า ดังนั้น เขาจึงได้
รับความเจ็บปวดเสียหายจากพวกหนามทุกๆครั้งที่พวกมันพองขึ้น บาร์ดเรย์ได้นำการโจมตีจุดเดียวที่ใช้มาแสดง
ให้ดูขณะที่กำลังออกล่ากับพวกราชองค์รักษ์

        "เขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ"

        "ดั่งที่ท่านบาร์เรย์ได้คาดหวังไว้"

        วีธีการเล็งโจมตีเด่นล้ำกว่าการป้องกันระดับสูงของพวกมอนสเตอร์ บาร์ดเรย์ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในการใช้วิธีการโจมตีแบบใหม่นี้ เขาเองก็ประหลาดใจในพลังการทำลายของการโจมตีที่จุดเดียว
       
        บาร์ดเรย์ใช้เวลามากมายไปกับการออกล่ากับคนอื่น และไม่แม้แต่จะพักเพื่อรอคอยพวกมอนสเตอร์

        ถ้าเป็นวีดแล้วเขาจะแกะสลักพวกประติมากรรมและฟื้นพลังชีวิตขณะกำลังรอให้พวกมอนสเตอร์ปรากฏตัว
แต่บาร์ดเรย์ไม่ได้เรียนรู้ศิลปะอันใดหรือทักษะการแกะสลักและสามารถเติบโตได้ในสนามรบเท่านั้น

        แทนที่เขาจะนอนหลับท่ามกลางการออกล่าทุกครั้ง การนอนหลับจะทำให้พลังชีวิตและพละกำลังกลับคืนมา
ได้เร็วกว่าปรกติถึงแม้ว่าการสู้รบอาจจะนานขึ้น, การนอนหลับท่ามกลางการออกล่าทุกครั้งแท้จริงแล้วเป็นการเสียเวลา
สำหรับเขาในการนอน

                                ************************

        "ท้ายที่สุด ก็ถึงคราวล่มสลาย"

        บาร์ดเรย์ยืนเพียงลำพังที่เชิงเขา

        พวกเขายังคงผลักดันให้จักรวรรดิเป็นเอกภาพและจักรวรรดิฮาเว่นก็แตกแยกจนไม่สามารถควบคุมได้ บาร์ดเรย์
ไม่อาจเทียบเคียงได้กับเกียรติภูมิของวีด เขาแทบจะไม่สามารถเลียนแบบการบัญชาการแบบของวีดและวิธีการรบได้

        "หุ หุ  หุ, ฉันรู้สึกโล่งใจ มีบางสิ่งที่ผลักดันฉันให้ไปต่อ"

        บาร์ดเรย์รู้สึกปลอดโปร่ง เป็นเวลานานแล้วที่เขาสัตย์ซื่อต่อกิลด์เฮอร์มีสและทุกๆสิ่งได้จบลงด้วยน้ำมือ
ของกิลด์โลภมาก

        นั่นเป็นเรื่องน่าเสียใจ ชายผู้ที่ต้องการจุดหมายเพื่อความท้าทาย และฝันนั้นก็พังทะลาย ด้วยเหตุนั้นเวลานี้
บ่าของเขารู้สึกเบาขึ้น

        เขาสามารถเริ่มจากต้นใหม่ได้อีกครั้ง

        "ข้าจำเป็นต้องผจญภัยและทำภารกิจ"

        บาร์ดเรย์ต้องการท่องเที่ยวไปในทวีปและมีความสุขเงียบๆกับชีวิต เขาสามารถสนุกสนานได้อย่างเต็มที่
กับรสชาติของทวีปเวอร์เซลล์หลังการล่มสลายของกิลด์เฮอร์มีส

        มีชายคนหนึ่งเดินช้าๆตรงมาหาบาร์ดเรย์

        เทพสงครามวีด เวลานี้เขามีอำนาจมหาศาลและปรากฏตัวขึ้นเป็นผู้ปกครองคนใหม่ของทวีปเวอร์เซลล์
เดทไนท์แวนฮอร์ค และเจ้าแห่งแวมไพร์โทริที่เขามักเห็นในบริเวณใกล้เคียงของวีดก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน

        "เจ้าจะไปไหน?"

        วีดถามด้วยน้ำเสียงลึกต่ำคุกคาม บรรยากาศทำให้เขารู้สึกราวกับชีวิตนี้ไม่อาจถูกเหยียดหยาม

        "เวลานี้ข้าจะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ของข้า"

        บาร์ดเรย์สับสนกับจิตใจที่ดีงาม ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน,มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามวีด กิลด์เฮอร์มีส
ได้แหลกสลายไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่ได้เป็นแม้แต่ฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไป

        วีดส่ายหน้า

        "ฉันไม่สามารถปล่อยแกไปได้หรอก"

        "อย่างนั้น...."

        บาร์ดเรย์ก็คาดการณ์เรื่องนั้นไว้แล้วเขามีความสามารถในการควบคุมทวีปไว้ได้ วีดและผองเพื่อนของเขา
จะไม่ปล่อยให้เขาได้รับโอกาสนั้น

        'โอกาสนั่นสามารถปรากฏขึ้นอีกครั้ง และถ้าข้าเพิ่มพลังขึ้น....'

        ความทะเยอทะยานได้พลุ่งพล่านในตัวเขา แต่วีดได้เหยียบย่ำจินตนาการของเขา

        "เครื่องไม้เครื่องมือที่เจ้ากำลังสวมใช้ได้ดีทีเดียว"

        "แล้วไง...."

        "ฉันจะกระชากมันมาหลังจากที่ฉันฆ่าแก"

        ชิ้ง.ง.ง.ง

        วีดชักดาบ

                                        ****************

        "อ๊าก.ก.ก"

        บาร์ดเรย์เปิดเปลือกตาของเขา ร่างของเหล่าราชองครักษ์กำลังยืนนิ่งอยู่ด้านหน้าของเขา

        'มันเป็นความฝัน'

        บาร์ดเรย์จัดการกับจิตใจของเขาขณะที่กำลังหายใจลึกๆ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพวกราชองครักษ์ที่เขาได้ทุ่มเท
เวลาให้มากมาย, บาร์ดเรย์ไม่ต้องการบอกพวกเขาถึงฝันร้ายของตน บาร์ดเรย์ต้องการให้ดูเข้มแข็งอยู่เสมอเมื่ออยู่
ต่อหน้าพวกเขา

        แต่ไม่ใช่วันนี้ เขาเหมือนฝันอยู่หลายครั้ง

        'ฉันฝันถึงความพ่ายแพ้ต่อเขาตั้งแต่ในช่วงที่ฉันอยู่ในคอนทิเน้นท์อ๊อฟเมจิคอย่างนั้นหรือ?'

        มันมีผลต่อจิตใจของเขา วีดไม่เคยแม้แต่จดจำเขา แต่เขาไม่สามารถคิดถึงเรื่องราวในอดีตได้ในตอนนี้

        'เสี้ยนหนาม(คู่แข่ง)ของข้าในรอยัลโร๊ด....'

        มีกิลด์พเนจร(Roam Guild), กิลด์ดาราราชสีห์(Lion Star Guild) และนักรบรับจ้างดาบทมิฬ(Black Sword Mercenaries) พวกเขาอ่อนแอกว่ากิลด์เฮอร์มิสในหลายๆพื้นที่

        บาร์ดเรย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาสารมารถเอาชนะได้แม้กระทั่งสู้กับพวกผู้นำของพวกเขาแบบตัวต่อตัว เลเวล
ของบาร์ดเรย์, ทักษะการต่อสู้และกลยุทธ์ก็แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา ถ้าแผนการครอบครองทวีปเป็นไปตามแผนแล้ว
บาร์ดเรย์จะได้พบกับพวกเขา

        ไม่มีเวลาให้เสียมากนัก

        'วีดเป็นสิ่งที่ยากเกินจะเข้าใจ.....'

        วีดทำให้เขาพิศวงอยู่เสมอ

        เขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงนั้นในช่วงเริ่มต้นของรอยัลโรดถึงกระนั้นเขาก็ถูกไล่ตามโดยคนที่ฉลาดล้ำด้วยความ
เร็วที่น่ากลัว วีดได้ทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้สำเร็จโดยปราศจากการสนับสนุนจากกองกำลังใดๆ เขามีความเป็นผู้นำ
ของการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ แต่บาร์ดเรย์ได้ปกครองกิลด์เฮอร์มีส ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องจำเป็นให้เขาต้องกังวล

        มีขุนนางเป็นอันมากบนทวีปแต่ไม่มีที่สำหรับวีด แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้จัดการตั้งอาณาจักรขึ้นในทางเหนือ
พื้นที่ที่ผู้คนอาศัยอยู่ได้ยากยิ่ง

        ทั้งความสามารถในการต่อสู้ของเขายิ่งไม่สามารถมองข้ามได้ เลเวลของเขายังต่ำในช่วงแรกๆ แต่วีดก็สามารถ
ที่จะทำได้สมบูรณ์ด้วยตัวเขาในเหมืองเมลเบิร์น

        วีดแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างแน่นอน เหมือนกับวัชพืช, เขาดูเหมือนจะกลายเป็นความน่ากลัวมากขึ้นเมื่อ
เวลาผ่านไป

        เขาเป็นเป้าหมายที่บาร์ดเรย์มีเพื่อต้องการชัยชนะเหนือเขา!

        'แน่นอนฉันจะต้องพบเขาอีกครั้ง'

        บาร์ดเรย์รอคอยช่วงเวลานั้น ที่เขาได้ใช้วิธีการโจมตีวีดที่จุดเดียวให้เป็นประโยชน์เพื่อเติมเต็มจุดอ่อนของเขา

        'อาจเป็นฝันนั้น...'

        บาร์ดเรย์ตัดสินใจที่จะยอมทนความกลัวเล็กๆนี้ เส้นทางที่จะพิชิตทวีปเวอล์เซลล์เป็นเรื่องสนุกจนถึงขณะนี้
ได้มีการดำเนินการตามแผนที่วางไว้

        'ฉันจะกระทืบมัน(วีด)ให้เละเมื่อฉันได้เจอมันคราวหน้าฉันจะไม่ปล่อยให้มันวิ่งสนุกสนานได้อีก....'
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ สวัสดีปีใหม่ มาเป็นชุดเลย ของขวัญปีใหม่

    ตอบลบ
  2. ชอบเรื่องนี้ ขอบคุณที่แปลให่อ่าน
    สวัสดีปีใหม่ครับ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...