วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เล่ม 25 ตอนที่ 4 : เหล่าประติมากรรมที่ซาฮับอยากทิ้งไว้เบื้องหลัง แปลโดย Cole’s Myth

เล่ม 25 ตอนที่ 4 : เหล่าประติมากรรมที่ซาฮับอยากทิ้งไว้เบื้องหลัง แปลโดย Cole’s Myth


วีดเดินดูงานประติมากรรมอยู่ในเวิร์คชอปของซาฮับมานานมากแล้ว
ถ้าหากว่าฉันแอบเอาพวกมันทั้งหมดไปซ่อนไว้ในที่ลับๆได้ล่ะก็…”
แล้วก็เอามันไปเก็บไว้ในศูนย์ศิลปะของโมราต้า จากนั้นเขาคงจะเพิ่มค่าเข้าชมได้มากขึ้นแน่ๆ
หากว่าฉันสร้างห้องแสดงประติมากรรมของซาฮับเป็นพิเศษล่ะก็ ฉันคงจะเก็บเพิ่มซักสิบเท่า แล้วทุกคนก็คงยอมจ่ายมาดูอยู่ดี
แววตาของวีดลุกโชนไปด้วยกิเลสขณะที่เขามองดูเหล่าประติมากรรมทั้งหลาย
เจ้าต้องชื่นชอบประติมากรรมมากจริงๆเลยนะเนี่ย
แน่นอนครับ การขายประติมากรรมที่แสนวิเศษพวกเอ่อ ผมหมายถึง พวกมันเป็นสมบัติล้ำค่าที่มิอาจประเมินมูลค่าได้เลย
วีดแอบชำเลืองมองไปทางซาฮับ
ขอเพียงแค่มีมอนสเตอร์ซักตัวปรากฏตัวละก็…’ (วีดแกกะจะเก็บเขาเลยหร๊ออ)
ในฐานะประติมากรคนหนึ่ง ซาฮับคงไม่ใช่คนที่จะอ่อนแอและล้มได้ง่ายๆแน่ จากข่าวลือที่ได้ยินมาจากนางสนองพระโอษฐ์ชรา เขาเคยจัดการพวกนักฆ่าได้ขณะที่กำลังแกะสลักแสงจันทร์ไปด้วย
นั่นก็คือทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์นั่นเอง!
มันยังคงเป็นตัวเลือกแรกสุดที่เขาเอาไว้ใช้ในการต่อสู้ การได้เห็นว่าซาฮับสร้างบ้านขึ้นมายังไง แถมยังอาศัยอยู่ในเขตกราพาสนี่อีก ความแข็งแกร่งของเขาคงจะไม่มีทางจินตนาการถึงแน่ อย่างน้อยที่สุด ความแข็งแกร่งของเขาคงเหนือกว่าพวกอัศวินองครักษ์อย่างแน่นอน
 ประติมากรรมรูปร่างอิสระ ต้องถูกแกะขึ้นมาด้วยจินตนาการ ดังนั้นกลวิธีการแกะสลักแบบธรรมดานั้นไม่มีทางทำได้แน่ แต่ถึงยังไงก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้หรอกหากทำด้วยทักษะแกะสลักอย่างนี้
วีดเป็นมือฉมังเรื่องการแกะสลักประติมากรรมให้มีความสมมาตรและละเอียดลออ ขณะที่เขาท่องไปทั่วทั้งทวีปเวอร์เซล เขาจะแกะสลักอะไรก็ตามที่ถูกใจและตรงตามรสนิยมของเขา ดังนั้นเขาจึงเชี่ยวชาญทั้งทักษะแกะสลักและการสังเกตผลงาน
ทว่าประติมากรรมของซาฮับดูยอดเยี่ยมแม้จะเป็นแค่การแสดงออกธรรมดาทั่วไปของรูปสลัก
ประติมากรรม หนุ่มขี้อายที่กำลังสารภาพกับผู้หญิงด้วยคำพูดที่ดูตะกุกตะกัก รูปร่างของประติมากรรมดูสมส่วนกำลังพอดี มือเท้าก็ดูธรรมดาทั่วไป แต่ว่าการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดูกังวลแกมมีความสุขนั้นช่างตราตรึงอย่างยิ่งถึงจะมีเพียงแค่การแสดงออกทางอารมณ์และท่าทางของประติมากรรมอย่างเดียว
ประติมากรรม กวางน้อยที่อยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้มองไปรอบตัวราวกับเฝ้ารอใครบางคนมันเป็นภาพของกวางน้อยน่ารักที่กำลังเฝ้ารอแม่ของมันอย่างใจจดใจจ่อ เพียงแค่มองไปที่ประติมากรรมก็สามารถจินตนาการและเข้าถึงความรู้สึกนั้นได้อย่างดีเลยหล่ะ
ด้วยความรู้สึกตราตรึงถึงรัก ประติมากรคนหนึ่งจึงสามารถแสดงอารมณ์ที่อ่อนโยนให้ถึงจุดสุดยอดได้!
พวกนี้ดูแพงมากเลยครับเอ่อ ข้าหมายถึง ช่างเป็นประติมากรรมที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆครับ
เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ งั้นข้าก็รู้สึกดีใจมากจริงๆ หากเจ้าไม่ได้ยุ่งอยู่ งั้นจะช่วยข้าสร้างประติมากรรมของข้าซักหน่อยได้ไหม?”
ท่านกำลังสร้างประติมากรรมแบบไหนอยู่หรอครับ?”
มีผลงานสองชิ้นที่ข้าอยากจะทำมานานมากแล้ว ข้าต้องสร้างมันให้ได้ก่อนที่ข้าจะตายข้าก็แค่ไปจากที่นี่ไม่ได้หากแกะสลักพวกมันไม่เสร็จน่ะ ด้วยทักษะของเจ้าคงช่วยได้มากพอควรเลยล่ะ แล้วเจ้าอยากจะทำงานร่วมกับข้าดูไหมล่ะ?”

ผู้ช่วยของซาฮับ
มีประติมากรรมบางชิ้นที่ซาฮับปรารถนาจะสร้างมานานแสนนาน
ช่วยเขาในการสร้างประติมากรรมเหล่านั้นให้เสร็จ!
ในฐานะประติมากร ไม่มีเกียรติใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว
ความยาก: ภารกิจเฉพาะอาชีพ
ข้อจำกัดของภารกิจ: จำกัดเฉพาะอาชีพประติมากร ต้องเชี่ยวชาญเทคนิคการแกะสลักขั้นสูง จนกว่าภารกิจนี้จะสำเร็จ ซาฮับไม่สามารถออกไปจากเขตกราพาสได้
หากท่านปฏิเสธภารกิจนี้ ท่านจะไม่ได้รับอีกครั้ง
ไม่มีเหตุผลอะไรที่วีดจะปฏิเสธภารกิจนี้ มันไม่ใช่ประติมากรรมของเขา ดังนั้นเขาก็ไม่ต้องสนใจว่าจะทำมันเละ!
ครับ ผมจะทำ
ท่านยอมรับภารกิจแล้ว
ว่าแต่ประติมากรรมที่ท่านอยากจะสร้างอยู่ไหนหรอครับ?”
ซาฮับเอากระดาษแผ่นหนึ่งที่ห่อบางอย่างไว้ซึ่งถูกเก็บเอาไว้ภายในเวิร์คช็อปของเขาออกมา
มันคือประติมากรรมแก้วสีขาวนวลที่มีรูปร่างของผู้หญิงคนหนึ่ง!
ข้ามั่นใจว่ามันคงจะดูเหมือนกันประติมากรรมอื่นๆทั่วไป แต่ว่าข้ากลับตกใต้มนต์เสน่ห์ความงดงามที่พบได้เฉพาะในประติมากรรมเท่านั้น ช่วงนี้ข้าอยากจะสร้างประติมากรรมที่แสดงออกถึงเลือดเนื้อและชีวิตด้วยสัดส่วนที่ดีที่สุด มันคือความใฝ่ฝันของข้าที่อยากจะสร้างหญิงสาวที่มีความงดงามดั่งเทพี
ในด้านศิลปะ ผู้หญิงคือธีมที่โดดเด่นมากสำหรับผลงานส่วนใหญ่
ทว่าการมาอาศัยอยู่ในเขตกราพาสมาเป็นเวลาเนิ่นนาน มันเลยทำให้ข้าดูเหมือนจะลืมเลือนเกี่ยวกับความงดงามของหญิงสาวไปจนหมดแล้ว ตอนนี้นี่เป็นประติมากรรมที่ยากที่สุดที่ข้าพยายามทำมา เพราะงั้นข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถช่วยข้าสร้างมันได้
แล้วผลงานอย่างอื่นหล่ะครับ?”
ข้าได้เลือกแบบที่จะทำไว้แล้วนะ แต่ยังไม่เริ่มทำมันเลย ตอนนี้ข้าว่าเราควรทำอันแรกก่อนหลังจากเสร็จแล้ว ข้าค่อยบอกเจ้าทีหลัง
ซาฮับจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์จากเวิร์คช็อปของเขาเพื่อเอามาให้วีดใช้ อุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นวัสดุระดับพรีเมียม หากใช้แบบประหยัดก็จะสามารถสร้างประติมากรรมได้ซัก 16 ถึง 17 ชิ้นด้วยซ้ำไป
แม้ว่าแต่เดิมแล้วซาฮับจะขอความช่วยเหลือจากวีด แต่ความเป็นจริงแล้วซาฮับต่างหากที่เป็นคนคอยช่วยวีดผู้เป็นคนร่างแบบและแกะสลักวัสดุออกมา แถมนอกจากนั้น นี่ก็ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ซาฮับได้ช่วยในการสร้างสรรค์ประติมากรรมที่ออกแบบโดยวีด
ฉันจะแกะอะไรถึงจะทำให้ซาฮับพอใจได้นะ?’

การสร้างประติมากรรมแบบดาษดื่น รังแต่จะสร้างปัญหาตามมาซะเปล่าๆ มาตรฐานความงดงามของซาฮับนั้นค่อนข้างสูงเพราะว่านั่นคือรักแรกของเขา ราชินีเอเวนนั่นเอง ขณะที่วีดตกลงสู่ห้วงความคิด ซาฮับก็หยิบดาบที่ห้อยอยู่บนพนังขึ้นมา
วีดเคยเห็นดาบเล่มนั้นขณะที่เขาเดินดูผลงานประติมากรรม ไม่มีคุณสมบัติอะไรพิเศษมากมายเลย มันเป็นแค่ดาบธรรมดาๆที่มีค่าการโจมตีปกติ
ข้าจะออกไปข้างนอกซักครู่นะ
ท่านจะออกไปไหนหรือครับ?”
ออกไปสูดอากาศ แล้วก็หาวัสดุแกะสลัก จากนั้นก็ไปล่ามอนสเตอร์ซักหน่อย
วีดแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ!
ทีนี้แหละ ขอแค่เขาโดนฆ่าตาย…’
วีดแทบรอไม่ไหวที่จะมีโอกาสแบบนี้ อีกอย่างเขาก็รู้สึกสงสัยที่จะได้เห็นวิธีการต่อสู้ของซาฮับด้วย
ข้าขอไปด้วยได้ไหมครับ?”
 “ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะเร่งทำให้เสร็จเร็วๆหรอกนะ งั้นเจ้าก็มาได้
จากนั้นวีดก็รีบตามเขาไปทันทีด้วยความคาดหวังที่จะได้เห็นว่าซาฮับต่อสู้อย่างไร เพราะว่ามันอาจจะเป็นอันตรายได้ โกลมินิ เจ้าเหลือง และประติมากรรมสลักชีพตัวอื่นๆจึงถูกปล่อยไว้ให้พักที่กระท่อม
ถ้าเป็นไปได้ ยิ่งอันตรายยิ่งดี ขอให้มอนสเตอร์ระดับบอสของเขตกราพาสปรากฏตัวออกมาด้วยเถอะ คงจะดีไม่น้อยเลย…’

*****

ซาฮับเดินผ่านป่าแล้วก็เข้าไปในโพรงที่ถูกซ่อนเอาไว้ มันคือทางเข้าดันเจี้ยนนั่นเอง! มันคือดันเจี้ยนแห่งกราพาสที่แม้แต่วีดก็ไม่กล้าย่างกรายเข้าไป
จงตามหลังข้ามาให้ดี อย่าประมาทเชียวล่ะ
ดันเจี้ยน ท่านได้เข้าสู่ถิ่นที่อยู่ของเหล่าคาราแจ๊ค
เฮี๊ยกกก!”
วีดร้องเสียงหลงออกมาอย่างกับออร์คคาริชวิ คาราแจ๊คคือมอนสเตอร์ที่มีเขายาวเรียวอย่างกับนกกระจอกเทศ
มันเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถฆ่าคุณได้ก่อนที่คุณจะมีโอกาสได้หัวเราะเยาะรูปร่างตลกๆของมันด้วยซ้ำ!
มันมีค่าพลังการโจมตีที่แข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อที่ผนวกเข้ากับความเป็นปฏิปักษ์ที่มีต่อสายพันธุ์มนุษย์ การเคลื่อนที่ที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า และยังมีความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ในเสี้ยววินาที คาราแจ๊คมักจะเคลื่อนไหวรวมกันเป็นฝูง ดังนั้นจึงไม่มีกิลด์ไหนที่คิดจะล่ามอนสเตอร์พวกนี้มาก่อน
ก็มีการออกล่าที่สำเร็จอยู่บ้างในบางครั้งเช่นพวกที่แยกตัวออกจากฝูงซัก 1-2 ตัว ทว่าความบังเอิญเช่นนั้นหาได้ยากมาก ไม่มีใครเคยค้นพบดันเจี้ยนที่พวกคาราแจ๊คปรากฏตัวออกมา ดังนั้นชื่อของมันถึงได้ถูกลืมเลือนหายไป

 ดูท่าแล้วนี่คงเป็นรังของพวกคาราแจ๊ค คงไม่เจอแค่ 3 ถึง 4 ตัวแน่ๆ ไม่ๆ คงจะแย่กว่านั้นแน่
เมื่อดูจากชื่อของดันเจี้ยน ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะต้องมีคาราแจ๊คอาศัยอยู่มากมายมหาศาลแน่นอน หนูคาราแจ๊ค คาราแจ๊คโตเต็มวัย คุณแม่คาราแจ๊ค คุณพ่อคาราแจ๊ค คุณลุงคาราแจ๊ค คุณตาคาราแจ๊ค เพื่อนบ้านคาราแจ๊ค แล้วก็คาราแจ๊คชนิดอื่นๆต่างๆนานา! และ บัดนี้ มนุษย์น่าโง่สองหน่อก็พึ่งจะจัดส่งอาหารจานด่วนมาให้ครอบครัวคาราแจ๊ค!
วีดไม่รู้ว่าเขาควรจะสุขหรือเศร้าดี สถานการณ์เช่นนี้มันดูคลุมเครือมากจนเกินไป

จากนั้นไม่นานนัก ในระยะที่ไกลออกไปก็มีคาราแจ๊คกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นแล้วก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาในชั่วอึดใจ
ทักษะใบมีดแกะสลัก!”
ทว่าทันทีที่ซาฮับสะบัดดาบของเขาฟันเข้าใส่พวกมัน พวกมันก็ตายอย่างง่ายดาย ดูราวกับว่าพวกคาราแจ๊คเดินผ่านเขาไปอย่างไงอย่างงั้น แต่ไม่รู้ว่าด้วยวิธีใดพวกมันก็สลายหายไปภายในแสงสีเทา
กรี๊ซซซซซซซ!
เมื่อพวกคาราแจ๊คต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนั้น พวกมันก็ร้องเรียกฝูง จากนั้นก็มีพวกมันอีกหลายฝูงเพิ่มมากขึ้น ซาฮับเหวี่ยงดาบที่ปกคลุมด้วยแสงอันเปล่งปลั่งสดใสออกไป จากนั้นพวกมันก็ล้มตายไปง่ายๆราวกับหุ่นไล่กา

ซาฮับกำลังฆ่าพวกคาราแจ๊คที่รวดเร็วปานสายฟ้าได้หยั่งกับปอกกล้วยเข้าปาก
รึว่าพวกมอนสเตอร์นั่นจะอ่อนแอกว่าที่ฉันคิดนะ? ก็นะ ฉันไม่เคยสู้กับพวกคาราแจ๊คมาก่อนซะด้วยสิ ว่าก็ว่าเถอะ ข้อมูลที่อยู่บนบอร์ดข้อความใช่ว่าจะถูกหมดเสมอไปนี่เนาะ
วีดรู้สึกสงสัยและเดินออกไปสองสามก้าวห่างจากซาฮับ
ป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ!
เขาโดนพวกคาราแจ๊คเตะใส่เข้าอย่างจัง พวกมันวิ่งมากระหน่ำทุบหัวของเขาด้วยเช่นกัน (ให้คิดซะว่าโดนนกคาซโซวารี่เตะ นกที่อันตรายที่สุดในโลก)
ท่านได้รับการโจมตีคริติคอล
ลมหายใจของท่านติดขัด
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีค่าพลังชีวิตของเขาก็ลดลงไปตั้ง 20% ถ้าเขายังคงโดนยำด้วยพลังป้องกันที่ต่ำต้อยแบบนี้ต่อไป คงได้ตายในอีกไม่นานแน่ หลังจากที่เขาโดนกระหน่ำใส่จนหนำใจแล้วเขาก็กลับไปอยู่ข้างๆซาฮับ
ดาบของซาฮับยังคงไล่ฆ่าพวกคาราแจ๊คต่อไปอย่างไร้ความปราณี
ทักษะดาบของเขาช่างน่าทึ่งพอๆกับทักษะแกะสลักของเขาเลย
เหตุการณ์เมื่อตอนที่โดนนักฆ่าโจมตีนั้นคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
แข็งแกร่งขนาดนี้…’ 
วีดกำลังเฝ้ารอขอกินเศษเล็กเศษน้อยในบางครั้งเมื่อมีโอกาส ทว่าความเร็วในการออกล่าของซาฮับนั้นรวดเร็วมากจนเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปแทรก ขณะที่ซาฮับไล่ฆ่าพวกคาราแจ๊ค เขาก็หยิบพวกเครื่องหนังหายาก เนื้อและอัญมณี
ด้วยการติดตามเขามาออกล่าเช่นนี้ จึงทำให้วีดตัดสินใจได้
ฉันต้องสนิทกับเขาให้มากกว่านี้ซะแล้ว
*****

หลังจากที่กลับมาจากการสังเกตการณ์การออกล่า วีดก็หยิบมีดแกะสลักของเขาขึ้นมา
สัดส่วนรูปร่างของสตรีที่ครอบครองความงดงามอันบริสุทธิ์งั้นหรอ...”
มันคือธีมทางศิลป์ที่เหล่าศิลปินทั้งยุคโบราณจนถึงยุคใหม่ต้องเหงื่อตกเพื่อที่จะทุ่มเทสร้างมันออกมาให้ดีที่สุด แถมยังมีการถกเถียงเรื่องนี้อย่างดุเดือด ทั้งๆที่หาข้อสรุปของนิยามนี้ไม่ได้เลย
ถึงแม้ว่ามันจะนิยามถึงคนๆหนึ่ง แต่การจะใช้หลักตัดสินถึงความงดงามแบบสตรีที่ต้องร่วงโรยไปตามกาลเวลาก็ยังยากเกินไป หากจะให้กล่าวถึงสตรีผู้งดงามทุกอณูก็มิอาจเป็นไปได้เลย มีการนิยามอ้างอิงที่แตกต่างมากมายไม่จบไม่สิ้นจากผู้คนมากหน้าหลายตา แล้วเขาจะแสดงสัดส่วนหน้าตาของสตรีผู้ครอบครองความงดงามอันบริสุทธิ์เช่นนั้นได้ยังไงล่ะ?
แต่ถึงกระนั้นก็มีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวีด
ยังมีซอยูนอยู่นี่นา
เมื่อมองจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็ไม่มีใครดูสมบูรณ์แบบไปมากกว่าเธอแล้ว หลายครั้งหลายคราที่เขาใช้รูปลักษณ์ของเธอเป็นแบบเพื่อพัฒนาทักษะแกะสลักของเขา ความผสมกลมกลืนของซอยูน ทั้งตา จมูก ริมฝีปากและผิวพรรณนั้นก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวเมื่อตอนที่เขาแกะสลักรูปร่างของเธอ!
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ประติมากรรมของเธอ มันก็ยังคงความงดงามเอาไว้จนเขาอยากจะจับตามองเอาอยู่อย่างนั้นตลอดไป คนอื่นๆที่เคยพบเจอเธอมาแล้ว คงแทบไม่อยากจะเชื่อจนคิดว่าพวกเขาอยู่ในฝันหรือเปล่า และไม่อาจละสายตาออกไปจากเธอไปได้เลย
เขาไม่เคยแกะสลักประติมากรรมรูปซอยูนผิดพลาดมาก่อน คงพูดได้ว่าเธอคือแบบศิลป์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ใช่แล้ว เอาอย่างนี้ละกัน
นี่คือความมั่นใจอันเปี่ยมล้นที่หลั่งไหลออกมาในฐานะประติมากร!
ถ้าลองคิดถึงมาตรฐานของซาฮับแล้ว ธีมกับท่าทางของประติมากรรมต้องสำคัญมากจริงๆ
ถ้าเขาใช้แบบจากสิ่งอื่นทั่วๆไป ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรให้เขาปวดหัวแล้ว
เอาละ มาติดเครื่องเริ่มแกะสลักกันได้แล้ว...”
ด้วยการใช้วัสดุอุปกรณ์ของซาฮับ เขาจึงได้เริ่มแกะสลักประติมากรรม
ทั้งคาราแจ๊ค ทั้งเคลค้อก
พวกมันคือผลงานแกะสลักรูปมอนสเตอร์ที่เขาพบในเขตกราพาส
ในตอนนี้ เขาสร้างประติมากรรมตามกลวิธีของซาฮับที่ไม่ได้สร้างประติมากรรมเพียงชิ้นเดียวโดดๆ แต่กลับสร้างพร้อมกันทีละหลายๆชิ้น
เริ่มแรกเขาแกะสลักเด็กผู้ชายที่โดนห้อมล้อมไปด้วยพวกเคลค้อกและคาราแจ๊ค ฉากที่สุดแสนอันตรายถูกสื่อออกมาราวกับเทพนิยาย ภายในฉากนั้น เด็กชายไม่ได้แสดงความหวาดกลัวใดๆออกมาเลยขณะที่ยื่นมือออกไปแตะที่ตัวพวกมอนสเตอร์
แล้วเขาก็ได้สร้างผลงานระดับไฟน์พีชออกมา ชื่อว่า อาหารว่างของเหล่าคาราแจ๊คและเคลค้อก
นี่เป็นเพียงแค่การซ้อมมือเพียงเท่านั้น
หลังจากนั้นวีดก็ตัดสินใจเริ่มสร้างประติมากรรมตามภารกิจของซาฮับ
จะดีกว่าไหมที่เจ้าจะผ่อนมือลงซักนิดหน่อย? แล้วข้าก็จะให้เวลากับเจ้าเพียงพอที่จะจินตนาการถึงธีมที่จะแกะสลัก ข้าว่าเจ้าสามารถเริ่มทำได้หลังจากใช้เวลาคิดซัก 1 ถึง 2 เดือน
ไม่เป็นไรครับ ข้าจะเริ่มเดี๋ยวนี้เลย
จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างประติมากรรมร่วมกันกับซาฮับ
ปลายแขนจะต้องลื่นไหลแบบนี้...เส้นข้อต่อก็ดูยากเกินไป งั้นข้าจะทำส่วนนี้ละกัน
ขณะที่วีดกำลังออกแบบโครงร่างของประติมากรรมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาก็แนะแนวการสร้างให้กับซาฮับราวกับผู้เชี่ยวชาญไปด้วย
ความงดงามของสตรีมิใช่ความงามเพียงภายนอกเท่านั้น ความดึงดูดเย้ายวนคือสิ่งที่มีค่ามากกว่าและทำให้ดูตราตรึงยิ่งขึ้นไปอีก วีดคือคนที่เปิดเผยมนต์เสน่ห์ที่อยู่ในตัวของซอยูน แม้ว่าเขามิอาจหักห้ามใจไว้ได้แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดว่านั่นคือสิ่งที่งดงาม หลายวันมานี้เขาอยู่กับซอยูนอยู่บ่อยๆ ดังนั้นจึงมีหลายครั้งที่เขาคิดว่าเธอก็สวยอยู่เหมือนกัน
ทว่าขณะที่เขาเดินวกไปวนมาพลางตัดแต่งรูปลักษณ์ประติมากรรม ก็ยิ่งทำให้เธองดงามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เธอสวยขึ้นแล้วแหะ
เขารู้สึกว่าเขาสามารถเข้าใจได้แล้วว่าทำไมปรมาจารย์ดารอนถึงได้เอาแต่แกะสลักรูปผู้หญิงเพียงอย่างเดียว
ณ บัดนี้ ขณะที่เขาแกะสลักซอยูน อารมณ์ต่างๆนานาก็ปรากฏขึ้นบนผลงาน เขาอยากจะสลักจิตวิญญาณและสีหน้าท่าทางที่แสนล้ำค่าของซอยูนออกมาให้ถึงที่สุด
เขาคิดว่าเขาพบความสนุกจากการที่สามารถแกะสลักคนแล้วในตอนนี้
 แต่ว่าตอนนี้ ทำภารกิจให้เสร็จดีกว่า...’
ช่างน่าเศร้าที่การพบปะกับซาฮับไม่สามารถถ่ายทอดทางสื่อได้
กิลด์เฮอร์มีสคงได้สร้างปัญหาปวดหัวให้เขาแน่ถ้าได้ชมการถ่ายทอดนั้นแล้วก็คงมาไล่ล่าเขาอีก แต่ที่สำคัญกว่าสิ่งนั้นก็คือ การแกะสลัก ที่เป็นตัวทำเงินของเขาต่างหากละ เขาจำเป็นต้องปกป้องความลับนี้เอาไว้
และแน่นอนอยู่แล้วที่เขาเองก็ไม่ต้องการถ่ายทอดประติมากรรมของซอยูนออกสื่อซักเท่าไรด้วย

ชีวิตทุกชีวิตล้วนมีค่า!
โอ้โห สตรีผู้งดงามนางนี้..นี่แหละคือความงามดั่งเทพีที่แท้จริง!”
ด้วยผลงานที่ออกมานั้น ได้ทำให้ซาฮับรู้สึกลุ่มหลงความงดงามที่มิอาจจินตนาการได้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประติมากรรมรูปซอยูนถูกสลักออกมาด้วยชุดที่ดูสง่าผ่าเผย สิ่งทั้งหมดที่ถูกถ่ายทอดออกมานั้นล้วนเป็นความรู้สึกส่วนตัวของเขาที่มีต่อเธอทั้งนั้น
ซอยูนดูดีจริงๆตอนที่เธอสวมชุดเดรสแบบนั้น
หากเธอสวมใส่เสื้อผ้าที่ต่างออกไป ความงดงามของเธอก็มิอาจบดบังได้อยู่ดี ถึงแม้เธอจะสวมใส่ชุดเกราะอันแสนสกปรกโสโครกก็มิอาจบิดเบือนเอาไว้ได้
แต่ถ้าหากเธอได้สวมใส่ชุดอันแสนวิจิตรงดงามที่ไม่ว่าใครหากได้สวมใส่แล้วดูงดงามไม่น้อย มันก็จะกลายเป็นอาภรที่เชิดชูความงดงามเธอจนถึงที่สุด
ด้วยการใช้ทักษะพื้นๆอย่างทักษะเย็บปัก วีดก็สามารถสรรสร้างชุดเดรสอันแสนเลิศหรู ผนวกกับทักษะการแกะสลักอันยอดเยี่ยมของซาฮับเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การแกะสลักรอยโบกพลิ้วของเนื้อผ้าดูสมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีก!
เธอถูกสลักออกมาให้เหยียบย่างอยู่บนฐานสูง ย่างก้าวของเธอตรงดิ่งไปข้างหน้าราวกับกำลังไปไหนซักที่ที่ไกลออกไป แววตาก็ฉายแสงแห่งความอบอุ่นออกมา!
มันคือประติมากรรมที่สร้างออกมาจากจินตนาการอันที่ไร้ที่สิ้นสุดจากชายผู้คอยป้วนเปี้ยนเฝ้ามองอยู่รอบๆ แต่ถึงกระนั้นวีดก็รู้ถึงความลับที่ถูกซ่อนเอาไว้เบื้องหลัง
มันคือประติมากรรมที่แสดงออกถึงความสับสนงุนงง ตอนที่เธอกำลังพยายามทำอาหารเช้า ตอนที่พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันต่างหากล่ะ
มันคือความหมายที่มีเพียงแค่ผู้สรรสร้างเท่านั้นที่รู้
มาตั้งชื่อให้มันดีกว่า งั้นชื่อประติมากรรมที่ถ่ายทอดความงดงามละกัน

ซาฮับและวีดได้ผสานความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาและตั้งชื่อให้ประติมากรรมออกมาว่า

ผลงานระดับแมคนัม! ‘ประติมากรรมที่ถ่ายถอดความงดงามสำเร็จแล้ว
ด้วยความร่วมมือระหว่างประติมากรผู้ยิ่งใหญ่นามว่า วีดและซาฮับผู้ที่นั่งอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพนักแกะสลัก
พวกเขาได้สร้างผลงานเพื่อถ่ายทอดถึงความงดงามของสตรี
เมื่อเทียบกับค่าชื่อเสียงของพวกเขาแล้ว ผลงานที่ยอดเยี่ยมชิ้นนี้ก็มากพอแล้วที่จะเอาไปเทียบทานผลงานด้านสุนทรียศาสตร์ชิ้นอื่นๆบนทวีปเวอร์เซล
คุณค่าทางศิลปะ: 16,290
คุณสมบัติพิเศษ: ใครก็ตามที่ได้เห็น ประติมากรรมที่ถ่ายทอดความงดงามจะได้รับอัตราการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 40% เป็นเวลาหนึ่งวัน
ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น 35 หน่วย
ค่าความต้านทานเวทย์มนต์เพิ่มขึ้น 37%
ขีดพลังชีวิตเพิ่มขึ้นสูงสุด 14%
ค่าความฉลาด สติปัญญาและเสน่ห์เพิ่มขึ้น 15 หน่วย
ขวัญกำลังใจของทหารเพิ่มขึ้น
มอบค่าความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นให้กับทักษะการชื่นชมงานศิลป์ของอาชีพสายนักผจญภัย
ในอาชีพสายประติมากร จิตรกร นักเต้น และนักปราชญ์ ค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้น 14 หน่วยเป็นการถาวร
อัตราการเกิดของเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกับประติมากรรมเพิ่มขึ้น 80%

ประติมากรรมชิ้นนี้ได้รับการอวยพรจากเทพีเฟรย่าที่ได้พรรณนาถ่ายทอดถึงรูปร่างของความงดงามออกมา
เอฟเฟคจะไม่ทับซ้อนกับประติมากรรมชิ้นอื่นๆ
จำนวนประติมากรรมระดับแมคนัมจนถึงบัดเดี๋ยวนี้: 10
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักเพิ่มขึ้น
ค่าความเชี่ยวชาญทักษะหัตถกรรมเพิ่มขึ้น
ระดับของทักษะความเข้าใจในตัวประติมากรรมเพิ่มขึ้น 1 เลเวล
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 968 หน่วย
ค่าสถานะทางศิลป์เพิ่มขึ้น 48 หน่วย
ค่าความฉลาดเพิ่มขึ้น 12 หน่วย
ค่าทางสติปัญญาเพิ่มขึ้น 6 หน่วย
เสน่ห์เพิ่มขึ้น 25 หน่วย

เทพีเฟรย่าได้มอบพรแด่ประติมากรรมที่ได้ถ่ายทอดรูปร่างของความงดงาม
เหล่าพาลาดินและนักบวชแห่งวิหารเทพีเฟรย่าจะได้รับค่าความแข็งแกร่งพิเศษและค่าความกล้าหาญเมื่อพวกเขาเห็นประติมากรรมชิ้นนี้
ด้วยการสร้างประติมากรรมที่หวนรำลึกถึงเทพีเฟรย่า ค่าความศรัทธาเพิ่มขึ้น 19 หน่วย
จากการสรรสร้างประติมากรรมระดับแมคนัมขึ้นมา ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น 3 หน่วย

ความสำเร็จของวีดในครั้งนี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ทว่าประติมากรรมชิ้นนี้จะไม่มีทางสำเร็จได้เลยหากไร้ซึ่งความช่วยเหลือจากซาฮับ หากไม่นับประติมากรรม ดวงประทีปที่ทิ้งไว้โดยประติมากรของเขาที่สร้างขึ้นมาจากฮีเลียม นี่คงจะถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา
ขณะที่ค่าสถานะต่างๆมากมายเพิ่มขึ้นมาอย่างเหลือล้น กลับไม่มีค่าสถานะไหนเลยที่เกี่ยวข้องกับด้านการต่อสู้

ค่าความแข็งแกร่งและความว่องไวเองก็แทบจะไม่เพิ่มขึ้นเลย ค่าความฉลาดและสติปัญญายังเพิ่มขึ้นมาเยอะกว่าซะอีก วีดเข้าใจความรู้สึกของเหล่านักดาบเลยว่าการได้ค่าความฉลาดกับค่าสติปัญญานี้ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย ได้แต่เพียงสะสมไว้เอาไว้ใช้ตอนสร้างประติมากรรมเท่านั้นเอง
จนถึงบัดนี้ ภารกิจผู้ช่วยของซาฮับได้มาถึงครึ่งทางแล้ว
เจ้ามีทักษะที่ช่างน่ายกย่องนัก ข้าไม่นึกมาก่อนว่าเจ้าจะสามารถทำได้ดีถึงขนาดนี้.. ประติมากรรมอีกชิ้นที่ข้าอยากจะแกะก็คืออะไรที่เป็นสิ่งที่แทนตัวข้าเอง
ประติมากรรมอีกชิ้นที่ซาฮับอยากจะทิ้งเอาไว้เบื้องหลังก็คือ ตัวแทนของเขานั่นเอง

 ซักวัน เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไปเนิ่นนาน เขตนี้หรือแม้แต่ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลจะไม่ลืมเลือนมัน ข้าจึงอยากจะทิ้งหลักฐานการมีตัวตนของข้าเอาไว้ในรูปแบบของประติมากรรม ทักษะของเจ้ายอดเยี่ยมมากพอที่จะสรรสร้างประติมากรรมของตัวข้า
ณ บัดนี้วีดต้องแกะสลักตัวของซาฮับเองแล้ว
คงจะไม่ยากเท่าไรหรอกมั้ง
จากการแกะสลักประติมากรรมของซอยูน เขาได้เพิ่มพูนระดับความพอใจของซาฮับจนถึงขีดสุด และจากการที่ได้สังเกตชีวิตการเป็นอยู่ของซาฮับและประสบพบเจอมา ประติมากรรมคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา! นี่คงไม่ต่างอะไรกับการแย่งอมยิ้มมาจากเด็ก แถมยังหน้าด้านแย่งหมากฝรั่ง และเงินค่าขนมของพวกเขามาอีก และยังมีหน้าไปดื่มนมต่อหน้าพวกเขาอีก
ซาฮับอยากให้มีประติมากรรมรูปร่างของเขาให้มีความแตกต่างกันถึง 7 แบบ
ชีวิตของข้ามิอาจนิยามขึ้นมาได้ด้วยประติมากรรมเพียงชิ้นเดียว จากที่ข้าคิดไว้ ว่าจำเป็นต้องมีประติมากรรมที่มีหลากหลายอิริยาบถ
ซาฮับได้จัดท่าทางของเขาเพื่อสร้างประติมากรรมออกมา ขณะที่เขาต้องสร้างประติมากรรมหลากหลายรูปแบบนั้น วีดก็ไม่สามารถบ่นอะไรได้มากนักในเมื่อต้องแกะสลักไปตามที่สั่งมา
อิริยาบถแรกก็คือตอนที่ซาฮับกำลังแกะสลักประติมากรรมอยู่! นั่นมันก็ค่อนข้างชัดเจนดีอยู่แล้วที่ประติมากรคนหนึ่งปรารถนาที่จะทิ้งฉากของวิชาชีพหลักของตนออกมาไว้เบื้องหลัง
ฉันควรจะสร้างออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่ก็เพื่อรางวัลหลังจากที่ฉันทำภารกิจสำเร็จแล้ว

เนื่องจากนายแบบการแกะสลักเป็นตาเฒ่า มือไม้ก็เหี่ยวย่นไปหมด
แกร็ก แกร๊ก
ไม่จำเป็นจะต้องลงรายละเอียดมากมายในประติมากรรมมากนัก
นี่มันไม่ใช่ผลงานศิลปะ ที่สำคัญกว่าก็คือคนต้องรักมันตั้งแต่แรกเห็นต่างหากหล่ะ
การเติมแต่งสีสันบนหน้าของซาฮับเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันดูเหมือนกับการให้เขาไปแต่งหน้ามาก็ไม่ปาน ริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ถูกปรับแต่งมากมาย ทรงผมอันกระเซอะกระเซิงก็ถูกปรับแก้ให้ดูเป็นธรรมชาติ
ทักษะของเจ้านี่ไม่เลวเลยจริงๆ
ข้าเพียงแค่อยากจะแสดงรูปลักษณ์ของแบบสลักอันยอดเยี่ยมที่อยู่ตรงหน้าของข้าออกมาให้ดีที่สุดก็เท่านั้นเอง
งั้นข้าจะให้เจ้าแสดงฝีมือแกะสลักประติมากรรมชิ้นอื่นด้วยก็แล้วกัน
ผลงานชิ้นต่อไป เขาต้องแกะสลักซาฮับที่กำลังเดินเล่นอยู่ในป่า ไม่มีอะไรยุ่งยากมากนักเกี่ยวกับผลงานชิ้นนี้ แต่ก็ใช้เวลาไปสองสามวันอยู่พอสมควรกับการเก็บงานเกี่ยวกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
ซาฮับเมื่อยามพลบค่ำเขามักจะออกไปล่าภายในดันเจี้ยนในพื้นที่ใกล้ๆ
ต่อไป ประติมากรรมอีกชิ้นที่เจ้าต้องแกะสลักก็คือการต่อสู้ของข้า ฉะนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะจับตาดูข้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนนะ
ข้าเข้าใจแล้วครับ
เนื่องจากมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปใกล้ซาฮับระหว่างที่เขาต่อสู้ วีดจึงต้องตามเขาไปห่างๆและคอยสังเกตการณ์ การมองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเรียนรู้ วีดสามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงความแข็งแกร่งที่มิอาจทัดเทียมของซาฮับเมื่อตอนที่เขาจับดาบ
ใบมีดแกะสลักแสงจันทร์!”
วีดใช้ลูกเล่นของเขาล่าเฉพาะพวกมอนสเตอร์ที่อ่อนแรงแล้วเท่านั้น ด้วยความวางใจว่าซาฮับจะสามารถกำจัดพวกมอนสเตอร์ที่กำลังรุมพวกเขาอยู่ เขาจึงใช้โอกาสนั้นสำรวจทั่วๆดันเจี้ยนด้วยตัวเองไปด้วย
*****
 ‘อาจจะทางนี้ละมั้ง
ซอยูนกำลังออกตามหาวีดในเขตกราพาส เธอตะลอนไปทั่วเพียงลำพังและโจมตีมอนสเตอร์ตัวไหนก็ตามที่เข้ามาโจมตีเธอ
ฉันจะต้องหาเขาเจอที่นี่ให้ได้
แม้ว่าจะอยู่ที่หนึ่งในสิบเขตต้องห้าม ซอยูนก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เพราะปกติเธอก็มักจะต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับสูงเป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว เธอเพียงแค่ต้องซ่อนตัวจากมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่เท่านั้นเอง ทว่าเวลาส่วนมากที่เธอใช้ไปกลับเพียงเพื่อตามหาวีดให้พบเท่านั้น
เธอเข้าไปลึกถึงส่วนข้างในของป่าใหญ่ภายในเขตกราพาสพลางต่อสู้ไปตลอดทาง ความหวังที่จะได้เจอวีดช่วยพลักดันให้เธอลืมเลือนความยากลำบากทั้งหมดและฉุดตัวเองมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ!
ภายใต้ราตรีที่มีแสงจันทร์สาดส่อง ก็มีเสียงคำรามของมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งดังกึกก้องมาแต่ไกล
โฮกกกกกกก กรรรรร
นั่นก็คือดราก้อนเฟียร์นั่นเอง!
เงาดำทะมึนขนาดมหึมาจากฟากฟ้า ทอดกายภายใต้แสงจันทร์ลงมาก็คือเจ้าปิงหลงนั่นเอง! มันกำลังออกล่ากับพวกเหล่าประติมากรรมสลักชีพมีบินได้ตนอื่นๆ
ปิงหลง...”
ซอยูนเปล่งเสียงเรียกออกมาทว่าเจ้าปิงหลงบินอยู่สูงมากเกินไป มันจึงบินผ่านเธอไป มวลต้นไม้ซ่อนเธอหลุดพ้นจากสายตาของเจ้าปิงหลง
ช่างเป็นโอกาสที่สูญเปล่าที่ปล่อยให้หลุดมือไป!
จากนั้นเธอก็หยิบหินขึ้นมาแล้วก็ขว้างออกไป
เคี๊ยกกก! ใครมันกล้า!”
ทันทีที่ก้อนหินหลุดออกจากมือของซอยูนพุ่งไปด้วยความเร็วสูงกระแทกใส่หัวของเจ้าปิงหลงอย่างจัง ทว่าปฏิกิริยาตอบกลับนั้นคือความเกรี้ยวกราด เจ้าปิงหลงหันตัวกลับและเหลียวมองไปที่พื้นดิน
จากนั้นมันก็พบกับซอยูน
เพื่อนของนายท่านนิ...”
เขาจำเธอได้ตอนที่มันเคยออกเดินทางร่วมกับซอยูน
 ท่านมาที่นี่เพื่อพบนายท่านหรือ?”
ซอยูนพยักหน้าตอบรับ
งั้นกระโดดขึ้นมาเลยครับ ข้าจะพาท่านไปหาเขาเอง
ปิงหลงบินร่อนลงไปที่พื้น มันกระแทกเข้ากับต้นไม้จนล้มระเนระนาดระหว่างทางลง มันพยายามก้มหัวลงและดูแลเธออย่างเต็มที่เพื่อให้เธอกระโดดขึ้นมาได้ แล้วซอยุนก็เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า
เจ้าช่วยเรียกไวทรีแทนได้ไหม ได้โปรด?” (สงสารไวทรี>.<)
*****
 “กร๊าวว กร๊ากกก!”
ด้วยการขี่อยู่บนเจ้าไวทรีจอมพยศ ซอยูนก็มาถึงกระท่อมของซาฮับได้ในที่สุด
ลมอะไรหอบเธอมาถึงนี่หรอ?”
การที่ได้พบเธอภายในเขตกราพาสอย่างนี้ วีดรู้สึกประหลาดใจมากจริงๆ
ใบหน้าของซอยูนแดงระเรื่อเพราะว่าเธอไม่สามารถดึงใจตัวเองให้พูดออกไปได้ว่าเธออยากจะเจอเขา หรือว่าอยากอยู่เคียงข้างเขา ครั้งแรกตั้งแต่ที่เธอพูดได้ เธอไม่เคยพูดหรือว่าสบตาใครเลย
วีดได้แต่เพียงพยักหน้าเท่านั้น

 เอ่ออออ ก็ดีล่ะนะที่เธอมาแล้ว ดีจริงๆที่ได้เจอเธอในสถานการณ์แบบนี้
วีดต้อนรับเธออย่างเต็มใจ แต่ก็เก็บซ่อนความข้องใจของเขาเอาไว้!
ตลอดทางมาที่นี่ เธอคิดว่าฉันกำลังหาสมบัติในเขตกราพาสนี่อยู่รึเปล่านะ? อย่างน้อยเธอก็คงมีความละอายใจอยู่บ้างล่ะนะ ดูจากหน้าแดงๆนั่นแล้วน่ะ
ซอยูนมาถึงในตอนที่เขากำลังมีช่วงเวลาดีๆกับซาฮับอยู่ ทว่าการปรากฏตัวของเธอกลับไม่ใช่การรบกวนอะไรมากมายเลย

 สตรีผู้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเทพีแห่งความงดงามนี่นา
ซาฮับได้แสดงถึงความประทับใจที่มีต่อเธอ อาชีพสายประติมากร จิตรกร ล้วนแล้วเป็นศิลปินที่ชื่นชมหญิงสาวผู้สวยสดงดงาม ดังนั้นจึงทำให้ซอยูนสนิทสนมกับซาฮับได้อย่างง่ายดาย
ก่อนที่ข้าจะตาย ได้โปรดขอให้ข้าได้แกะสลักรูปของเจ้าได้ไหม เจ้าจะอนุญาตให้ข้าได้แกะสลักตัวเจ้าไหม?”
ซาฮับขอร้องให้ซอยูนมาเป็นนางแบบให้ในการแกะสลักประติมากรรมของเขา
ภารกิจ!
รางวัลที่ได้ไม่ทราบแน่ชัด ทว่ามันคือคำขอร้องจากปรมาจารย์ประติมากร มันต้องเป็นอะไรที่ดีมากแน่ๆ แต่ว่าซอยูนกลับส่ายหัวและปฏิเสธเสียงแข็ง
ฉันทำไม่ได้ค่ะ
ข้าจะให้อัญมณีหรือว่าประติมากรรมชิ้นใดก็ตามที่เจ้าปรารถนาเลยนะ
ก็ข้าไม่อยากจะทำนิค่ะ
ซอยูนปฏิเสธภารกิจจนถึงที่สุด สำหรับเธอแล้ว มันคือประเด็นที่ค่อนข้างทิ่มแทงใจวีดเพราะว่าเขามักจะใช้เธอเป็นแบบอยู่เสมอ
เอ่ออ จริงๆแล้ว ฉันทำประติมากรรมรูปของเธออยู่ที่นี่ด้วยนะ...”
วีดได้สารภาพว่าเขาใช้เธอเป็นแบบในการแกะสลักประติมากรรม ประติมากรรมของเธอนั้นได้ถูกเก็บเอาไว้อยู่ในห้องทำงานของซาฮับ เพราะหลังจากนั้นเธอคงจะเจอมันเข้าอยู่ดี มันคงง่ายกว่าที่จะยอมบอกความจริงเธอไปตอนนี้แทนที่จะถูกจับได้คาหนังคาเขา
ขอบคุณนะ
เอ๋?”
ที่แกะสลักรูปฉันน่ะ
“…”
วีดเคยคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจได้ยาก ย่าของเขาเคยบอกว่าแกไม่อยากกินเนื้อทอดหรือว่าหมูเปรี้ยวหวาน เพราะว่ามันเป็นอาหารที่น้ำมันเยิ้ม ตอนที่เขาหาเงินมาได้มากมายแล้วก็พาแกไปกินข้าวเย็นที่เป็นของโปรดของแก แต่แกก็ไม่ยอมสั่งเนื้อทอดแถมยังแสดงท่าทีผิดหวังอีก!
ส่วนน้องสาวของเขา ตอนที่เธอไปทำผมเธอก็แสดงท่าทีไม่พอใจอย่างเวอร์กับการที่ช่างทำผมตัดแต่งผมเธอไม่สวย เขาพยายามที่จะปลอบเธอด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจเธอไม่ให้สนใจว่าพวกเขาทำผมของเธอออกมาแย่ขนาดไหน หลังจากนั้น เธอก็ขังตัวเองอยูในห้องและยังไม่ยอมมากินข้าวเย็นอีกด้วย

 อย่ายอมเชื่อในคำพูดของผู้หญิงเด็ดขาด
ณ บัดนี้ทริปออกล่าของซาฮับได้รวมซอยูนเข้าไปด้วย หลังจากที่กลับมาจากเขตลาส ฟาลังคซ์ วีดเพิ่มเลเวลและแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เขาต้องประสบพบเจอกับการต่อสู้มากมาย ทว่าตอนนี้ซอยูนเองก็แข็งแกร่งมากขึ้นเช่นกันเมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ในเขตลาส ฟาลังคซ์ แม้มันจะยังทัดเทียมกับซาฮับไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับการต่อสู้กับคาราแจ๊คที่วีดต่อสู้ด้วยอย่างยากลำบาก ซอยูนคงจะกำจัดพวกมันได้อย่างง่ายดาย
---------------------------------------------------------------------------------------------
ประติมากรรมชิ้นที่สองของซาฮับ ในฉากที่เขาเดินเล่นอยู่ในผืนป่าได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
หลายครั้งที่ข้ารู้สึกเพลิดเพลินกับการออกสำรวจ ได้ไปสำรวจยังดินแดนที่ไม่มีอยู่ในแผนที่ เจ้าเคยไปยังดินแดนที่ไม่มีผู้ย่างกรายแล้วหรือยังล่ะ?”
เขากำลังแกะสลักซาฮับที่กำลังออกสำรวจดันเจี้ยนอยู่
เมื่อใดก็ตามที่เจ้าได้เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตอันสันโดษ เจ้าก็จะได้มัวเมาไปกับการได้สรรสร้างบางสิ่งที่ไร้ขอบเขต ไร้ซึ่งพรมแดนอันหาที่สุดมิได้
ประติมากรรมของซาฮับผู้ตกสู่ห้วงความคิดสำเร็จแล้ว
การต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตข้า
ซาฮับคือชายแก่หัวหงอกแต่ก็เอิบอิ่มไปด้วยพลังงานอันหนักอึ้ง แถมทักษะการต่อสู้อันโดดเด่นอีก
วีดแกะสลักซาฮับที่กำลังประจันหน้ากับพวกมอนสเตอร์อยู่ เขาแกะสลักเสร็จไปแล้วห้าชิ้น ตอนนี้เหลืออีกแค่สองชิ้นเท่านั้น
อีกชิ้นหนึ่งข้าอยากจะให้มีซักชิ้นที่เป็นประติมากรรมที่บอกถึงช่วงวันเวลาที่ผ่านมาเนินนานแล้ว แม้แต่กับเจ้าเองงานนี้ก็คงไม่ง่ายแน่มันจะต้องมีโชคชะตากำหนดให้เจ้ารู้ถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อน จนเจ้าได้มาเจอข้าที่นี่
ประติมากรรมที่ซาฮับต้องการก็คือฉากของเขาที่กำลังยืนหยัดต่อสู้กับพวกนักฆ่าที่พยายามจะลอบปลงพระชนม์ราชินีเอเวน สำหรับซาฮับแล้วมันต้องเป็นความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนแน่ๆในตอนที่ราชินีเอเวนย้ายเข้าวัง พร้อมกับคำมั่นสัญญาของเขาที่จะสร้างประติมากรรมที่งดงามที่สุดในโลกเพื่อเธอ
ผมจะพยายามครับ
วีดเคยมีโอกาสได้เข้าไปในปราสาทของราชอาณาจักรโรเซนไฮม์ ดังนั้นจึงเคยแกะสลักปราสาทขนาดย่อส่วนมาก่อน มันไม่ใช่งานที่ต้องใช้ฝีมือที่ประณีตมากนัก แต่เขาก็ยังลงทุนลงแรงสร้างมันขึ้นมา ภารกิจของซาฮับไม่ใช่อะไรที่จะทำได้ครึ่งๆกลางๆ
ทำให้พวกนักฆ่าดูเป็นพวกวายร้าย..ฉันอาจจะใช้แบบจากพวกศิษย์พี่มาแกะก็ได้นิ แกะออกมาเป็นตอนที่พวกศิษย์พี่แสดงท่าทีตอนที่มีผู้ชายหน้าไหนก็ตามจับมือกับหญิงสาวสวยๆ
แกร๊ก แกร๊ก

 ความชั่วร้ายของพวกนักฆ่าจะต้องแสดงออกมาให้ดีมากๆ ถึงจะเป็นการวายร้ายโฉดชั่วเลวทรามที่แท้จริง
ส่วนพวกอัศวินในปราสาทก็ไม่จำเป็นเท่าไร เพราะงั้นเขาจึงแกะสลักให้พวกเขานอนเล่นอยู่เฉยๆ
วีดเคยเห็นราชินีเอเวนในวิดีโอที่ฉายออกมาตอนฉากความทรงจำในอดีตกาล
แต่ว่านอกจากนั้นเขาก็ใช้เวลาไปสังเกตดูรูปพระฉายาลักษณ์ของราชินีที่ปราสาทโรเซนไฮม์ด้วยเช่นกัน ในตอนที่เขาเดินไปตามทางตอนนั้น มันก็เป็นแค่รูปวาดอีกอันที่เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรมาก แต่เพราะว่านี่มันเกี่ยวข้องกับซาฮับ เขาจึงร่างภาพคร่าวๆเอาไว้และก็ได้กลายมาเป็นตัวช่วยใหญ่หลวงในตอนนี้จริงๆ

 งดงามและทรงเกียรติ..แต่ก็ต้องมีเสน่ห์ด้วย ก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่ามันจะเหมาะสมสำหรับการเป็นราชินีหรือเปล่า แต่ก็ควรจะทำให้มันออกมาดูดีเข้าไว้ดีกว่า
จากนั้นก็ถึงเวลาของการแกะสลักซาฮับ
ใบมีดแกะสลักแสงจันทร์!”
ด้วยการใช้ทักษะประติมากรรมแสงจันทร์ วีดจึงสามารถแกะซาฮับวัยหนุ่มออกมาได้ สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ได้ตราตรึงสายตาเหล่าราชวงศ์มากนัก ทว่าซาฮับก็ได้กำราบเหล่านักฆ่าและใช้ทักษะแกะสลักแสงจันทร์ด้วยดาบของเขา
นั่นคือการออกแบบที่ดีที่สุดอย่างไรข้อกังขา!
ค่อนข้างโรแมนติกอยู่เหมือนกันนะเนี่ย
วีดแอบมองไปที่ซอยูน ในยามเมื่อเธอไร้ครอบครัวคอยเกื้อหนุน หากโดนคุกคามจากเหล่านักฆ่าแล้ว...
ฉันจะไม่เสียเวลาไปฆ่าพวกมันให้หมดหรอก!’ (เกือบจะโรแมนติกละเชียววีด)
ในตอนที่ประติมากรรมเกือบจะแกะจนเสร็จแล้ว ซาฮับผู้ที่กำลังจับตาดูเขาก็ขับร้องบทเพลงขึ้นมา

ข้าอยู่นี่แล้ว
ทว่าเมื่อใดที่ข้าจากไป
ดวงใจข้าก็จักอยู่กับเจ้าเสมอ
ข้าจะสลักประติมากรรมอันแสนงดงามเหมือนดั่งคำมั่นสัญญาเมื่อวัยเยาว์
แต่จะให้ข้าทำอย่างไรล่ะ?
เมื่อเจ้างดงามกว่าผลงานทุกชิ้นที่ข้าสลักได้
ข้ามิอาจลืมเลือนช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกับเจ้า
ข้าอยากจะทิ้งหัวใจของข้าเอาไว้ที่นี่ดั่งเช่นประติมากรรม
เช่นนั้นข้าจักใส่ดวงใจเอาไว้ภายใต้แสงจันทรา และสลักมันเอาไว้ตราบนิรันดร
เพราะว่าบทเพลงดังก้องกังวานจนน่าขนลุก เหล่าประติมากรรมก็เริ่มขยับตัว
ประติมากรรมของซาฮับ ราชินีเฮเวน เหล่าอัศวินและเหล่านักฆ่าเริ่มเคลื่อนไหวดูราวกับมีชีวิต เมื่อใดที่หนุ่มซาฮับฟาดฟันดาบของเขา แสงจันทร์จากดาบของเขาก็เคลื่อนคล้อยไปตาม พุ่งลงฟาดดาบใส่ศัตรูและรวมตัวอยู่ในการร่ายรำอันแสนโชติช่วง

ประติมากรรมระดับไฟน์สำเร็จแล้ว

ระดับของทักษะแกะสลักแสงจันทร์เพิ่มขึ้น ทักษะตอนนี้คือขั้นกลางเลเวล 3 บรรดาประติมากรรมที่สร้างจากแสงจะให้เอฟเฟคที่มากยิ่งขึ้น
ทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์เพิ่มขึ้น 1 เลเวล
ทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์เพิ่มขึ้น 1 เลเวล
ทักษะความเชี่ยวชาญทางดาบเพิ่มขึ้น
ท่านได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ ติดตามสมบัติของซาฮับ

บทเพลงอันจับใจของซาฮับยังให้ความรู้สึกอันแสนวิเศษด้วย แต่แล้วในที่สุด ภารกิจต่อเนื่องที่ต้องร่วมงานกับเขามาตั้งแต่เริ่มก็ใกล้ถึงเวลาที่ต้องชดใช้แล้ว
 แค่ต้องไปหานางสนองพระโอษฐ์แล้วก็ร้องเพลงให้นางฟัง
แล้วก็ทำประติมากรรมชิ้นสุดท้ายตามที่ซาฮับต้องการ
ซาฮับเงียบกริบราวกับกำลังรำลึกถึงอดีตอยู่ วีดไม่รู้ว่าเขาคิดถึงราชินีเอเวนหรือว่าคิดถึงความวัยเยาว์ที่ร่วงโรยไป
งั้นประติมากรรมสุดท้ายที่เหลือ..”
วีดคาดการณ์ไว้ว่าประติมากรรมชิ้นสุดท้ายนี้ต้องไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาๆแน่
ถ้างั้น ฉันทำประติมากรรมแบบไหนก็ได้หรอ

เขาก็แค่ต้องทำประติมากรรมที่ซาฮับอธิบายมาเท่านั้น
สิ่งที่ข้าเชี่ยวชาญก็คือการแกะสลักและทักษะดาบ
ในฐานะประติมากร ซาฮับถือว่าเป็นคนที่พิเศษมากเพราะเขามีทักษะดาบอันยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน
หลังจากที่ข้าจากเอเวนมา และมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ข้าจำเป็นต้องใช้วิชาดาบมากพอๆกับทักษะแกะสลักของข้า วิชาดาบจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญเทียบเท่ากับทักษะแกะสลักของข้า

ซาฮับต้องต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตของเขาจากพวกมอนสเตอร์
วิชาดาบของเจ้ายังดูไม่ค่อยแข็งแกร่งซักเท่าไร
ยังคงขาดอีกหลายอย่าง
ทักษะดาบของวีดตอนนี้อยู่ที่ขั้นกลางเลเวล 9
ทักษะการโจมตีไม่ได้ทำให้ความเชี่ยวชาญของวิชาดาบเพิ่มขึ้นมากนัก ทักษะการโจมตีมักจะกินค่ามานาเป็นจำนวนมาก ในตอนที่วีดออกล่าเพียงลำพัง เขาก็พยายามใช้ทักษะให้น้อยที่สุด
แต่ถึงกระนั้น ค่าความเชี่ยวชาญของเขาก็ยังคงขึ้นช้ากว่าพวกอาชีพสายนักดาบหรืออัศวินอยู่ดี
การเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ของอาชีพนักดาบ พวกเขาสามารถปลุกศักยภาพของวิชาดาบขึ้นมาได้
ความแข็งแกร่งจากการโจมตีทางดาบจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญของทักษะได้สบายๆ
แม้ว่าจะมีค่าสถานะมากมายมหาศาลที่อุตส่าห์สะสมมา เขาก็ยังต้องใช้ความแข็งแกร่งในการโจมตีมาเติมเต็มอยู่ดี แต่ว่าเมื่อเทียบกับสายอาชีพที่ใช้ดาบจนเชี่ยวชาญแล้ว ทักษะของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นรวดเร็วมากนัก
เขาขัดเกลาทักษะดาบของเขาอยู่เสมอ แต่ความจริงที่ว่าทักษะนี้ยังค้างอยู่ที่ขั้นกลางเลเวล 9 มาตลอด
หากเจ้าแกะสลักท่าทางของข้าไว้ เจ้าอาจจะตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
จบตอน
ผู้แปล: Cole’s Myth

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

13 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ สนุกๆมากๆเลยตอนนี้

    ตอบลบ
  2. อ้าว...ซอยูนถึงก่อนแหะ ตอนนี้ซาฮับจะพัฒนาทักษะดาบให้วีด โบนัสหลายต่อจริงๆ

    ตอบลบ
  3. ถือว่าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้เยอะจริงๆสำหรับช่วงเวลานี้ อ่านแล้วลุ้นตาม

    ตอบลบ
  4. ซาฮับจะสอบเพลงดาบให้วีด ผ่านประติมากรรม!!

    ตอบลบ
  5. สอนดาบ แล้วอย่าลืมสอนร้องเพลงน่ะ

    ตอบลบ
  6. อัพเวลแล้วไปโชว่าเทพครับ

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปรัวๆ รถไฟจะชนกันตอนไหน5555

    ตอบลบ
  8. ได้ทักษะดาบเพิ่มคราวนี้...
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ
  9. ซอยูรคือนางเอก แล้วพระเอกคือใครหว่า 555

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...