วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เล่ม 25 ตอนที่3 : งานศิลป์ของซาฮับ แปลโดย Cole’s Myth

Volume 25 Chapter 3 : Zahab’s Artwork

เล่ม 25 ตอนที่3 : งานศิลป์ของซาฮับ แปลโดย Cole’s Myth


 กร๊ากกกก!”
ฝูงไวเวิร์นโบยบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยปีกที่สยายออกเป็นวงกว้างของพวกมัน ปิงหลง ฟีนิกซ์ วิหคทองคำและวิหคเงินบินตามพวกมันไปในขณะที่การโบยบินของพวกมันดูราวกับมีอิสรเสรีและสนุกสนานเบิกบานใจ เลเวลของพวกมันที่เคยสำคัญมากแต่ตอนนี้กลับไม่ใช่แล้ว
ขณะที่บินอยู่เหนือปุยเมฆสีขาว พวกมันก็มักจะบินผ่านพวกนกขนาดมหึมาอยู่บ่อยๆ วีดนั่งอยู่บนหลังของเจ้าไวทรี ส่วนเจ้าเหลืองกับโกลมินิก็อยู่บนไววันกับไวทู
เราหยุดกินอะไรซักหน่อยได้ไหมนะ?”
น่ากินจังเลย!”
ไวไฟว์ ไวซิก กับไวเซเว่นที่กำลังบินอยู่แบบไร้ภาระใดๆ สามารถไล่ตามกินของว่างนกพวกนั้น แล้วจากนั้นก็กลับมารวมกลุ่ม
งั่มๆอร่อยจังเลย
เจ้าพวกนี้ไม่มีกลิ่นคาวด้วยหล่ะ


แล้วความคับข้องใจที่สั่งสมมานานของเจ้าไวทรีก็ระเบิดออกมาจนเกินต่อมความรู้สึกของมัน
นายท่าน
ว่าไง?”
มีไวเวิร์นตัวอื่นอีกตั้งเยอะ ทำไมท่านถึงขี่แต่บนหลังข้าตลอดเลยหล่ะครับ?”
แกเกลียดมันขนาดนั้นเลยหรอ?”
มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ การมีคนมาขี่มันทั้งหนักแถมยังต้องใช้แรงเยอะมากอีกต่างหาก แล้วข้าก็ยังรู้สึกว่ามันไม่แฟร์...”
วีดพูดออกมาขณะที่เขากำลังนอนอยู่บนหลังอันแบบราบของเจ้าไวทรี
ในตอนที่ฉันสร้างแก ฉันก็แค่รู้สึกรำคาญใจ ก็เลยสร้างหลังแกให้มันแบนๆหน่ะ
เอ่อออ” (TT)
มันนอนสบายพอกับตอนที่นอนอยู่บนเสื่อเลยนะเพราะงั้นจึงไม่มีทางหรอกที่ฉันจะยอมไปขี่หลังพวกไวเวิร์นตัวอื่น แกหน่ะดีที่สุดแล้วหล่ะ

การได้รู้ถึงความลับในการสร้างของตัวมัน เจ้าไวทรีก็ยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยวใจมากขึ้นไปอีก
เขตกราพาสตั้งอยู่ภายในราชอาณาจักรไอเดิร์นแถบทวีปทางตอนกลาง มันเป็นดินแดนที่มีพวกมอนสเตอร์ป้วนเปี้ยนอยู่เต็มไปหมด เนื่องจากระยะทางจากป้อมปราการวาร์โก้ไปที่นั่นค่อนข้างไกลเอาการ วีดจึงตัดสินใจที่จะบินไปด้วยการขี่บนพวกประติมากรรมสลักชีพ แถมยังไปถึงที่นั่นด้วยเวลาไม่นานมากด้วย
ถ้าคิดดู...ใช้เวลาซัก 20 วันก็คงจะหาเขาเจอล่ะมั้ง

เมื่อมองช่วงเวลาที่แสนยากแค้นในเขตลาส ฟาลังคซ์ที่เป็นหนึ่งในเขตต้องห้ามทั้งสิบ เขตกราพาสนี่ถือว่าไม่ใหญ่อย่างที่คิด เขาไม่ได้ยินข่าวลือใดๆเกี่ยวกับพวกเขาวงกตอันซับซ้อนอย่างที่เจอในดันเจี้ยนใต้ดินของเขตลาส ฟาลังคซ์ เพราะงั้นวีดจึงคิดว่ามันคงจะไม่ยากเท่าไรที่จะหาซาฮับให้เจอ
วีดเอาไอเท็มภารกิจที่เขาได้มานานแล้วออกมา นางสนองพระโอษฐ์เคยบอกว่าไอเท็มภารกิจชิ้นนี้จะนำเขาไปสู่ที่พักของซาฮับ แถมอีกอย่างไอเท็มภารกิจชิ้นนี้ยังเป็นรูปร่างของจิตวิญญาณแห่งวารีด้วย

 ฉันควรจะเริ่มค้นหาอะไรที่ใกล้เคียงกับรูปร่างของวารีนี่ แต่ว่าสถานที่แห่งนี้ดูอันตรายสุดๆไปเลยแหะแถมยังมีมอนสเตอร์อยู่เต็มไปหมด ถ้างั้นซาฮับอาจจะตายไปแล้วมั้ง!”
เหล่าพวกผู้อยู่อาศัยเดิมที่ ถ้าไม่ใช่ผู้เล่นของรอยัลโร้ดเองก็คงจะตายแบบไม่เหลือซาก ในขณะที่พวกผู้เล่นที่ตายไปก็จะฟื้นคืนมาหลังจากต้องทุกข์ทรมานจากบทลงโทษนั้น แต่การตายของเหล่าNPC นั้นคือการตายแบบถาวรต่างหากหล่ะ! ถ้าหากว่าซาฮับตายไปแล้ว ภารกิจก็คงถูกยกเลิกก่อนเวลาที่กำหนดเป็รแน่

เมื่อตอนที่เหล่าปรมาจารย์ของสายอาชีพนั้นๆตายไปหรือว่าหายสาบสูญไป ภารกิจหรือว่าทักษะที่เกี่ยวข้องก็จะหายไปด้วย แน่นอนว่าก็จะมีผู้คนที่มีฝีมือมากมาย กลายมาเป็นปรมาจารย์คนใหม่ แล้วก็สร้างทักษะลับใหม่ๆ จากนั้นก็จะมีภารกิจใหม่ๆถูกสร้างขึ้นมาขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ว่านี่แหละคือความไม่แน่นอนจริงๆ สำหรับวีดแล้วนี่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่คับขันอันตรายอย่างยิ่งในเมื่อเขามัวแต่หน่วงเหนี่ยวภารกิจของนางสนองพระโอษฐ์มานานมาก

*****

 เอาหล่ะเริ่มกันได้แล้ว พวกแกทุกตนคงได้พักสบายๆมานานมากแล้วสินะ?”
ด้วยคำพูดของวีดท้องไส้ของเจ้าเหลืองเริ่มปั่นป่วน
มออออ ทุกๆวันพวกเราเอาแต่ออกล่า ออกผจญภัย...จนถึงตอนนี้ท่านทำอะไรให้เราแล้วบ้างหล่ะ?”
นั่นคือการประท้วงด้วยหลักเหตุผลของเหล่าประติมากรรมสลักชีพ มันถูกต้องแล้วหรือที่จะมอบชีวิตให้กับเด็กๆเพื่อที่จะเอาไปใช้แรงงานอย่างเอาเป็นเอาตาย? เจ้าเหลืองผู้ที่ทำงานตรากตรำมาอย่างไม่จบไม่สิ้นเพราะว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต มันจึงมีสิทธิ์ที่จะประท้วงออกไป

วีดเริ่มที่จะคิดถึงมันอย่างเอาจริงเอาจัง
จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยทำอะไรพิเศษๆให้กับเจ้าเหลืองเลย ลากมันไปในเขตลาส ฟาลังคซ์อันสุดแสนอันตราย บังคับให้มันออกไปต่อสู้ด้วย บังคับให้มันแบกของหนักๆอยู่ตลอด มันคงรู้สึกว่าตัวเองถูกมองข้ามแน่ๆ
ตอนที่แกยังหนุ่มยังแน่นเป็นธรรมดาที่แกจะต้องผจญกับความยากลำบาก การเที่ยวเล่นเที่ยวกินไม่ใช่สิ่งที่แกควรแสวงหา ถ้าแกไม่คำนึงถึงสิ่งนั้นแล้วคิดว่า ฉันอยากจะเลิกทำงานแล้วแล้วทีนี้เมื่อแก่ตัวไปแกคงอยากจะมีชีวิตสะดวกสบายใช่ไหมหล่ะ? มันจะไม่ดีกว่าหรอ ถ้าแกจะเตรียมพระราชวังให้ตัวเองซักหลัง แถมยังมีหญ้าสดๆเอาไว้ให้แกกับครอบครัวกินอีกนะ? ”

เจ้าเหลืองถูกโน้มน้าวในทันทีทันใดเนื่องจากค่าความซื่อสัตย์ที่สูงของมัน
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันจะจ่ายให้แกวันละ200 เหรียญทอง แล้วฉันก็จะเก็บเอาไว้ให้แก แล้วก็จะเพิ่มส่วนที่เหลือให้จากเงินของฉันเอง จากนั้นแกก็จะมีเงินหลังเกษียนจำนวนมากเอาไว้จับจ่ายใช้สอย โอ้ใช่แล้ว! แถมฉันจะใส่ซองค่างานแต่งให้กับเจ้าสาวที่แกชอบมากๆอีกด้วยนะ
ขอบพระคุณมาก นายท่าน
เจ้าเหลืองชอบความคิดที่ว่าจะมีชีวิตที่สะดวกสบายในตอนแก่ แถมวีดยังมอมเมามันด้วยความยินดีที่จะจ่ายเงิน200 เหรียญทองที่ได้มาแบบไม่นึกไม่ฝันอีกด้วย

 ฟีนิกซ์ ปิงหลง พวกแกดึงดูดความสนใจมากเกินไปรออยู่ซักที่ ตรงที่พวกแกมาช่วยพวกเราได้ทันท่วงที
รับทราบนายท่าน
ปิงหลงและฟีนิกซ์เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ หากพวกมันบินไปตรงพื้นดิน พวกมันคงไปปลุกปั่นพวกมอนสเตอร์ที่อยู่แถวนั้นแน่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการค้นหาจึงต้องทำโดยวีด พวกไวเวิร์น เจ้าเหลืองและโกลมินิ
วิหคทองคำ วิหคเงิน
ครับ มาสเตอร์
ท่านพ่อ จงสั่งพวกเรามาเถอะค่ะ
อยู่ตรงนี้พวกนายรู้สึกปลอดภัยหรือเปล่า?”

วิหคทองคำกับวิหคเงินผงกหัวเล็กๆของพวกมันเป็นการตอบรับ พวกนกไม่ได้มีผลดึงดูดอะไรกับพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ในป่า ไม่ว่าพวกมอนสเตอร์จะอดอยากซักแค่ไหน พวกมันก็คงไม่พอจะเอามาแทะเล่นให้อิ่มได้หรอก
แต่ถึงแม้ว่าพวกมันจะโดนโจมตีใส่ พวกมันก็ยังสามารถบินหนีเข้าไปในต้นไม้ได้ทันที หรือว่าพวกมันสามารถแปลงร่างกลายเป็นมนุษย์ปักษา(Avian Humanoids: นึกถึงฮาร์ปี้ไว้นะ มนุษย์วิหคแบบในโดราเอมอนก็ได้เหมือนกัน)จากนั้นสถานการณ์คงจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าจากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าซะเอง

 การค้นหาซาฮับให้เจอเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก พวกแกสองตัว ค้นหาไปเรื่อยๆเลยแล้วก็ลองไปตามหาในป่าดูด้วยหล่ะ"
ตามคำสั่งครับ
ฉันจะทำอย่างที่ท่านพ่อสั่ง ฉันอาจจะกลับมาช้าหน่อยนะค่ะ เพราะคงต้องกินพวกแมลงน่าอร่อยๆภายในป่าให้หมดซะก่อน
จากนั้นวิหคทองคำและวิหคเงินก็บินเข้าไปในป่า ไอเท็มภารกิจบ่งบอกถึงธาตุน้ำ แต่ถึงกระนั้นร่องรอยของซาฮับก็อาจจะอยู่ที่ไหนก็เป็นได้ เจ้าสองตัวนั้นจึงแยกกันออกไปเพื่อค้นหาร่องรอย
“‘ถ้าอย่างนั้น เราไปกันเลยมั้ย?”

วีดกับโทริ แวนฮอร์ค เจ้าเหลืองโกลมินิและพวกไวเวิร์นวางแผนที่จะเริ่มออกค้นหาไปตามกระแสน้ำ
ในกรณีฉุกเฉิน ฟีนิกซืกับปิงหลงก็จะถูกเรียกมาต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ในกราพาสได้ แต่ทว่าบริเวณตรงแม่น้ำและพื้นที่ใกล้เคียงไม่ได้มีมอนสเตอร์ที่ดูน่ากลัวสำหรับวีดและพวกประติมากรรมสลักชีพมากนัก
มีมอนสเตอร์ที่ชื่อเคลค้อกรวมกลุ่มกันเป็นฝูงเพื่อมากินน้ำที่ตรงแม่น้ำอยู่บ้าง

 ยูก้า ยูก้า!”
ตามธรรมชาติเคลค้อกคือสัตว์เลื้อยคลาน ถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันจึงต้องติดกับแหล่งน้ำ พวกมันเดินสองขาแบบมนุษย์และใช้หอกเป็นอาวุธ ขณะที่อยู่ในน้ำหรือบนบกพวกมันมีความสามารถในการกระโดดจนน่าหวั่น แถมยังมีการเคลื่อนที่ที่เฉียบคมอีก ทั้งยังชอบเคลื่อนไหวไปเป็นฝูงด้วย เลเวลโดยเฉลี่ยของพวกมันอยู่ที่400 เหอะไม่ใช่เรื่องน่าขำเลยหล่ะ! การจะออกล่าให้ได้อย่างมั่นคงในเขตกราพาส มันจำต้องเป็นมีเลเวลมากกว่า 400 ขึ้นไป แน่นอน การทำให้จุดแข็งของปาร์ตี้เพิ่มถึงขีดสุดจะสามารถช่วยให้ก้าวข้ามข้อเสียเปรียบในด้านความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี

ไวเวิร์น พวกแกบินล้อมพวกเราเอาไว้แล้วก็สู้ซะ ตอนที่พวกเคลคอกกระโจนออกมาก็ขย้ำมันเลย
รับทราบ
พวกไวเวิร์นที่เดินตุปัดตุเป๋ไปมาบนพื้นดินในที่สุดพวกมันก็ได้บินกลับขึ้นไปสู่ท้องนภา
อัญเชิญเดทไนท์ แวนฮอร์ค อัญเชิญลอร์ดแวมไพร์โทริ!”
ท่านเรียกข้าหรือนายท่าน?”
การออกมาต่อสู้บ่อยๆได้ฝึกฝนให้แวนฮอร์คและโทริรู้จักการระแวดระวังตัวเองทันทีที่พวกมันถูกเรียกออกมา
ออกไปสู้ซะ!”
รับทราบครับ
 “`กลิ่นฉุนแสบจมูกชะมัด ข้าไม่คิดว่าเลือดพวกมันจะรสชาติน่าอร่อยซักเท่าไร
เพราะว่าโทริเป็นชนชั้นสูง เขาจึงค่อนข้างต่อต้านที่จะลิ่มรสพวกสัตว์เลื้อยคลานอย่างมาก
แกไม่สามารถกินแต่อาหารเลิศรสได้เสมอไปหรอกนะ งั้นเอาไว้ฉันทำซุปต้มเลือดวัวให้แกทีหลังละกัน (선지해장국: อ่านว่าซอนจิเฮจอนกุกเป็นซุปเลือดวัวของเกาหลี)”
ถ้างั้นข้าจะออกไปสู้เต็มที่เลยครับ
นี่คือการโจมตีจากเดทไนท์และแวมไพร์ลอร์ดแวนฮอร์คโจมตีไปขณะที่ขี่อยู่บนอาชาปีศาจของมันส่วนโทริก็บินขึ้นไปด้วยชุดคลุมที่สยายออก
ฮี๊ย่าห์!”
เมื่อสังเกตเห็นแวนฮอร์คและโทริ เคลค้อกกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนมากกว่า 20 ตัว ก็ตั้งท่าเตรียมตัวต่อสู้ พวกมันเดินเตาะแตะอย่างกับไก่ที่กำลังถือหอกอยู่เป็นสภาพที่เหมาะที่สุดที่จะพุ่งเข้าไปโจมตี!
ดูอันตรายพอควรเลยนะเนี่ย

แวนฮอร์คกับโทริอาจจะได้รับการโจมตีคริติคอลจากหอกแหลมพวกนั้นได้
อัญเชิญเดิร์ทแมน(Dirtman) จงสร้างกำแพงโคลน
ทันทีที่พวกเคลค้อกขว้างหอกของพวกมันมา จิตวิญญาณธาตุดินเดิร์ทแมนก็ถูกอัญเชิญออกมา แล้ว
หลังจากที่มันลืมตาขึ้น เจ้าเดิร์ทแมนก็วางมือของมันไว้ข้างหน้า จากนั้นกำแพงดินก็โผล่ขึ้นมาจากพื้น
กำแพงยักษ์นั่นปกป้องแวนฮอร์คและโทริเอาไว้

แรงปะทะของหอกถูกบั่นทอนลงไปในขณะที่มันแทงทะลุกำแพงดิน แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังลอยต่อไปสาดแสงสีเงินระยิบระยับ แวนฮอร์คและโทริยังโชคดีพอที่จะหลบมันได้ทันท่วงที ถึงกระนั้นก็มีหอกอีกหลายด้ามยังลอยทะลุแทงไปที่ต้นไม้ และระเบิดออกในตอนที่พวกมันกระแทกเข้ากับพื้นดิน
โดนแทงเข้าคงเจ็บแหง๋ๆ
นี่คือการโจมตีที่ดุเดือดจริงๆ! หากไม่ใช่เพราะมีค่าพลังป้องกันจากชุดเกราะที่สูง การโจมตีพวกนั้นคงจะฆ่าพวกมันไปแล้ว! เมื่อได้รู้ซึ้งถึงภัยคุกคามระดับสูงของพวกศัตรู  แวนฮอร์คและโทริก็โจมตีอย่างดุเดือดเลือดพล่าน

วีดตามหลังพวกมันไป แล้วก็กระโจนเข้าไปในแนวของพวกเคลค้อก
วิชาดาบเฮอเรม!”
ด้วยกระบอกที่เก็บหอกทั้ง 12 ด้ามที่แบกไว้บนหลังของพวกมัน พวกเคลค้อกจึงสามารถโจมตีได้หลายครั้ง ด้วยการโจมตีแบบระยะประชิด วีดจึงสามารถหยุดยั้งไม่ให้พวกมันขว้างหอกเพิ่มได้ วีดฟันดาบของเขาออกไป วาดดาบออกไปใส่แนวรบพวกเคลค้อกอย่างบ้าคลั่งโดยไม่หยุดมีการหยุดพักเลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงกระนั้นพวกเคลค้อกก็เก่งกาจเรื่องการทิ่มแทงด้วยหอกของพวกมันเช่นกัน

หอกเฉือนเข้าที่ไหล่ของท่าน
จากบาดแผลนั้นค่าความแข็งแกร่งของท่านลดลง
ด้วยค่าความอดทนที่สูงจึงทำให้เกิดผลยกเลิกจากการลดของค่าพลังโจมตี
ค่าพลังชีวิตลดลง 2,980

เคลค้อกกว่า 7 ตัว เล็งการโจมตีไปที่วีด โทริและแวนฮอร์ค! เพราะว่าแวนฮอร์คกำลังโจมตีอยู่บนอาชาปีศาจของมัน จึงทำให้หอกส่วนใหญ่ลอยตรงไปที่มัน
โกลโกลโกล ถึงทีของเราบ้างหล่ะ
เจ้าโกลมินิที่ขี่อยู่บนหลังเจ้าเหลืองก็โจมตีเข้ามาดั่งสายลม บรรดาประติมากรรมสลักชีพมีค่ามากเกินกว่าจะสูญเสีย ดังนั้นพวกมันจึงบุกเข้าโจมตีหลังจากการบุกของแนวหน้าแล้วเท่านั้น!
วงล้อมปรากฏขึ้นอยู่บนอากาศ พวกไวเวิร์นต่างพยายามทำลายการโจมตีของพวกเคลค้อก
คลื่นพลังความมืด
ใบมีดทอร์นาโด!”
แวนฮอร์คและโทริใช้การโจมตีพิเศษของพวกมันโดยไม่กั๊กเลยซักนิด!
หลังจากที่พวกเขาชนะการต่อสู้ที่ใช้เวลาไปพอสมควร ทั่วทั้งร่างของวีดก็ปกคลุมไปด้วยบาดแผลกับหอกแหลมที่ยังติดอยู่บนหลังของเขาถึงสามด้าม
ทำได้ดีกว่าที่คิดแหะ
วีดเสียค่าพลังชีวิตไป 19,000 หน่วยหลังจากการต่อสู้ แต่บาดแผลของพวกไวเวิร์นค่อนข้างเหวอะหวะ ส่วนขาหน้าของเจ้าเหลืองก็ดูกะโผลกกะเผลก
จากนี้ไปคงจะอันตรายมากกว่านี้แน่
แม้ว่ามันจะไม่ได้อันตรายอย่างมหัตภัยทางธรรมชาติในเขตลาส ฟาลังคซ์ ทว่าระดับของมอนสเตอร์นั้นสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ถ้ามันยากเกินไปก็ค่อยบอกให้พวกวิหคทองคำกับวิหคเงินหยุดการค้นหาแล้วมาช่วยทางนี้แทน ส่วนทางปิงหลงกับฟีนิกซ์ก็ค่อยเรียกมาสมทบ ไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่ที่นี่นี่นา
ถ้าโชคเข้าข้างเขา ถ้าหากตอนนี้พวกเจ้าเหลืองกับโกลมินิตกอยู่ในอันตราย ก็ค่อยให้พวกมันขี่ไวเวิร์นหนีออกไปจากการต่อสู้ แต่ถ้าพวกมันเข้าไปในดันเจี้ยนของเขตกราพาส แม้แต่สถานการณ์เช่นนั้นก็คงยากเกินจะรับมือไหว
 งั้นตอนนี้ไปต่อกันเถอะ ทักษะพันแผล
เพราะว่าไม่มีนักบวชมาค่อยรักษาพวกประติมากรรมสลักชีพ  วีดจึงต้องทำหน้าที่พันแผลให้พวกไวเวิร์น เจ้าเหลือง และตัวเขาเอง

ท่านได้รับ อัญมณีสีคราม 2 เม็ด
ท่านได้รับ อัญมณีสีดำ 3 เม็ด

วีดหยิบอัญมณีที่ให้ค่าพลังเวทย์ขึ้นมา นี่ช่างเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากที่ตอบแทนด้วยไอเท็มที่สมน้ำสมเนื้อจริงๆ! เขาสามารถเอาอัญมณีพวกนี้ไปขายให้กับพวกเอนชานเตอร์ได้ แต่ถ้าหากว่าเขาสร้างประติมากรรมจากอัญมณีพวกนี้ ประติมากรรมชิ้นนั้นก็จะส่องแสงมันวาวขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเวทย์ที่มีอีกด้วย

*****
ขณะที่ต้องระแวดระวังการเคลื่อนไหวของพวกมอนสเตอร์  วีดก็พยายามสำรวจเขตกราพาสอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้ว่าพวกเคลค้อกจะอันตรายมาก แต่การต่อสู้นั้นก็พอรับมือได้ แต่ถ้าหากว่ามีมันตัวหนึ่งหนีไปได้ มันก็จะกลับมาเป็นฝูงด้วยจำนวนที่มากกว่า 200 ถึง 300 ตัว
เพื่อที่จะป้องกันสถานการณ์แบบนั้น เขาจึงต้องขี่อยู่บนพวกไวเวิร์นแล้วก็ออกไล่ล่าเจ้าตัวสุดท้ายนั่นให้ได้
แมลงพิษกับอสุรกายดุร้ายเองก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วก็สามารถเอาชนะมาได้ด้วยการผสมผสานความแข็งแกร่งของพวกเขา

 ทุกครั้ง ถ้าฉันปรับตัวกับอะไรได้แล้ว จากนั้นทุกอย่างก็จะเริ่มเข้าที่เข้าทางเอง
ทักษะและเลเวลของวีดนั้นมากพอที่จะสำรวจทั่วทั้งเขตกราพาส แน่นอนหล่ะว่าพวกประติมากรรมสลักชีพทั้งหลายจำต้องรับภาระนั้นไปกับเขาด้วยเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ได้รับเลเวลกลับมามากพอสมควร ด้วยการต่อสู้ภายในเขตกราพาส วีดสามารถเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญทักษะดาบของเขา รวมถึงค่าความอึดและค่าความแข็งแรงอีกด้วย ทักษะพันแผลของเขาขึ้นถึงระดับมาสเตอร์แล้ว มันจึงทำให้วีดรู้สึกผิดหวังท้อแท้ที่เขาไม่อาจเพิ่มระดับของมันให้สูงกว่านี้ได้แล้ว

 เดินเลียบไปตามลำน้ำเอาไว้ ฉันมั่นใจว่าต้องมีบางอย่างโผล่ออกมาแน่ๆ
ขณะที่เดินไปตามทางแม่น้ำ วีดก็สอดส่องพื้นที่ใกล้เคียงไปพลางขณะที่เขาตรงไปยังต้นน้ำ
วิหคทองคำและวิหคเงินได้รับคำสั่งให้มาออกสำรวจส่วนลึกภายในป่าที่สุดแสนอันตราย
มีจุดๆหนึ่งซึ่งผืนป่าและหนองน้ำกลืนเข้าหากัน เป็นจุดศุนย์รวมเหล่านักล่าระดับสูงของเขตกราพาสอาศัยอยู่  เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์เหล่านี้ เคลค้อกก็เป็นเพียงแค่พวกเร่ร่อนคอยหาซาก เพื่อพยายามมีชีวิตรอดในแถบธารน้ำให้ได้เท่านั้นเอง

 ปิงหลง ออกมาได้แล้ว มายั่วโมโหพวกมันหน่อย
รับทราบ นายท่าน
ปิงหลงและฟีนิกซ์มาช่วยสนับสนุนระหว่างการต่อสู้ เมื่อตอนที่พวกเคลค้อกมากมายจับกลุ่มกันออกมา ลมหายใจของปิงหลงหรือว่าเพลิงของฟีนิกซ์ก็พ่นออกมาก่อนที่พวกมันจะได้ตอบโต้ซะอีก
มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ทางโน้นครับ นายท่าน
ไวเวิร์นรายงานผลการตรวจตราทางอากาศ
ภายในเขตกราพาสมีแม่น้าสามสายไหลผ่าน จึงไม่มีอะไรบ่งบอกชัดเจนได้ว่าซาฮับจะยังคงมีชีวิตอยู่ในเขตกราพาสแห่งนี้ ฉะนั้นเขาจึงต้องไปตรวจสอบด้วยตนเอง

ขณะที่ตรงไปข้างหน้าอย่างระแวดระวังพร้อมกับเหล่าประติมากรรมสลักชีพของเขา ทะเลสาบกว้างใหญ่ที่อยู่ตรงปลายแม่น้ำปรากฏออกมาให้เห็น เป็นทะเลสาบที่สวยงามเต็มไปด้วยน้ำที่ใสสะท้อนเงาต้นไม้และแสงอาทิตย์ยามอัสดง ใกล้ๆบริเวณทะเลสาบมีกระท่อมไม้อันดูมีเสน่ห์ตั้งตระหง่านอยู่
เจ๋ง บางทีดูเหมือนว่าซาฮับอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้…”
วีดมองดูคุณภาพของท่อนไม้ที่ใช้สร้างและรอยตัดของมัน  มันเป็นทักษะช่างที่เกินกว่าคำว่าธรรมดาทั่วไปซะอีก
แล้วทีนี้หละ ของขวัญสำหรับการพานพบกันครั้งแรก…..”

วีดเอาของขวัญที่เมแพนเตรียมเอาไว้ให้ออกมาจากกระเป๋าสะพายของเขา ถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อซาฮับ มันก็ยังเป็นไอเท็มที่สามารถสร้างความใกล้ชิดได้อยู่ดี! คนที่อาศัยอยู่ภายในเขตกราพาสได้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะสร้างความประทับใจเอาไว้ก่อน
บางครั้งบางคราวตอนที่ออกไปผจญภัย ก็มีความเป็นได้อยู่ที่จะเจอเข้ากับผู้อาศัยท้องถิ่น ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่เป็นมิตรซักเท่าไร เหล่าเอลฟ์ คนแคระ และคนเถื่อนนั้นปกติจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นมิตรอยู่เสมอ ในขณะที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างหากละที่ดูโหดร้ายป่าเถื่อน ตอนนั้นแค่โชว์ลูกแก้วส่องแสงระยิบระยับ หรือว่าเครื่องจานครบชุดเป็นของขวัญ เพียงแค่นั้นก็ทำให้พวกเขาพอใจได้แล้ว
มีใครอยู่ไหมครับ?”
วีดเปล่งเสียงร้องออกมาขณะที่อยู่ตรงหน้าบ้าน จากนั้นสักพักประตูก็เปิดออก คนที่กำลังออกมานั้นคือคนแก่ 100%อย่างไม่ต้องสงสัย
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่มีคนมาบ้านข้า แล้ว เจ้ามีเหตุอันใดถึงได้มาหาข้าหล่ะ?”
วีดคิดว่าเขาอาจจะเป็นซาฮับ เขาจึงต่อบทสนทนาต่อไป
ข้ามาที่นี่เพื่อพบคนคนหนึ่งครับ

ข้าก็อยู่ที่นี่มาได้พักใหญ่ละนะ ก็ไม่เคยพบเจอมนุษย์คนอื่นเลย ป่าทางด้านโน้นก็มีนายพรานคนหนึ่ง แล้วก็พวกคนชั่วที่หนีความผิดอีกสองคนว่าแต่เจ้ากำลังตามหาใครอยู่หรอ?”
กลิ่นทะแม่งๆลอยมาจากสายตาและท่าทางของเขาจนรู้สึกได้
ข้ามาตามหาซาฮับแห่งโรเซนไฮม์ครับ
ชายชราลูบเคราของเขาพลางพยักหน้าของเขา
ชื่อของข้าคือซาฮับ เจ้ามาหาถูกคนแล้วล่ะ
แม้ว่าจะมีวิหคทองคำกับวิหคเงินอยู่ วีดก็คิดว่าเขาน่าจะเสียเวลาไปซัก 20 วันเพื่อตามหาเขาให้เจอ แต่ว่าโชคเข้าข้างเขาที่ทำให้หาซาฮับเจอเร็วกว่าที่คิด
ภารกิจนี้ไม่ยากอย่างที่คิดเลยแหะ

ตอนนี้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นมามากแล้วตั้งแต่ที่เขาได้รับภารกิจนี้จากนางสนองพระโอษฐ์ชรา และคงเป็นเพราะมีพวกประติมากรรมสลักชีพจึงทำให้หาซาฮับเจอได้อย่างง่ายดาย
ถ้าหากว่าวีดมาคนเดียว มันคงจะยากแท้หยั่งถึงเป็นแน่ แถมการออกไปต่อกรกับพวกเคลค้อกก็คงไม่มีทางเป็นไปได้อีกต่างหาก
แต่ว่าอย่างน้อยตอนนี้ฉันก็หาเขาพบแล้ว

หัวใจของวีดเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะว่าในที่สุดเขาก็ได้พบกับปรมาจารย์ประติมากรแล้ว ด้วยชื่อตำแหน่งประติมากรแสงจันทร์ แถมยังมีชื่อเสียง เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางในช่วงประวัติศาสตร์ตอนต้น นี่มันคือการพบปะทางประวัติศาสตร์ชัดๆ
เด็กชายและเด็กหญิง
ประติมากรรมที่ได้เก็บคำมั่นสัญญาของเขาเอาไว้ สัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสาวผู้ที่กลายเป็นราชินี เพียงเพื่อที่จะแสดงให้เธอได้เห็นประติมากรรมที่งดงามที่สุดในโลก
วีดเพียงแค่อยากมาเรียนรู้บทเพลงที่เขาต้องกลับไปร้องเท่านั้น
ข้ามาที่นี่ด้วยคำขอร้องในฐานะประติมากรคนหนึ่งเท่านั้น แต่การมาให้ถึงที่นี่ก็ไกลพอสมควร ข้าค่อนข้างจะหิวแล้วล่ะ ท่านพอจะมีอาหารให้ข้าบ้างไหม?”

*****
โอ้ววในที่สุดก็มาถึงความศิวิไลซ์ซะที!
เปตรอฟเดินตะลอนไปทั่วตลาดภายในหมู่บ้านคอทเท่น เขาเฝ้ารอมานานมากเพื่อที่จะได้พบกับยูรินอีกครั้งที่ปราสาทเซนท์จอร์จ แต่ถึงกระนั้นเขาจำต้องยอมรับความจริงอันแสนเจ็บปวดที่เธอจะไม่มีทางยอมกลับมา
เปตรอฟไอ้งี่เง่า ไอ้ลูกหมา
ช่างเป็นภาพกราฟิตี้ที่แสนเจ็บปวดเหลือเกิน
ฉันจะต้องได้พบกับเธออีกแน่ๆถ้าฉันตะลอนไปทั่วทั้งทวีป ฉันจะไล่ตามไปทั่วทุกที่ที่มีร่องรอยของเธอ

โลกของเปตรอฟเติมเต็มด้วยความทะเยอทะยานอันแปลกประหลาด
ถ้าฉันทำให้ทุกๆคนในทวีปนี้รู้จักชื่อของฉัน ยูรินจะไม่มาหาฉันเลยหรือไงนะ?”
การวาดภาพสามารถทำให้คุณโด่งดังได้ แค่มีทักษะวาดภาพขั้นต้นก็ทำให้คนคนนั้นได้รับค่าธรรมเนียมจากสมาคมจิตรกรแล้ว ส่วนการได้วาดรูปชนชั้นสูงหรือกษัตริย์ก็จะทำให้ได้ทักษะการใช้พู่กันใหม่ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกเส้นทางที่ง่ายที่ทำให้ได้ค่าชื่อเสียงมา
ทว่าเปตรอฟตัดสินใจเลือกที่จะทำมันด้วยกลวิธีเชิงรุกมากกว่า(:กลวิธีมั่นหน้าละสิไม่ว่า)
 “รู้มาว่าโมราต้าเป็นเมืองขึ้นชื่อเรื่องศิลปะสินะ
วีดพัฒนาโมราต้าได้อย่างมากจนน่าทึ่งด้วยการใช้ประติมากรรมของเขา เหล่าศิลปินต่างรู้สึกปลื้มปีติราวกับว่านั่นเป็นผลงานของพวกเขาเองแล้วก็รู้สึกภูมิใจกับมันอย่างมาก
เหอะ ฉันก็ใช้รูปวาดของฉันทำแบบนั้นได้เหมือนกันแหละน่า
เปตรอฟดูวิดีโอการออกอากาศของศัตรูแห่งโชคชะตาของเขา วีด ที่พึ่งได้รับอาณาเขตของป้อมปราการวาร์โก้

ฉันจะต้องไปเริ่มที่นั่น
ป้อมปราการวาร์โก้คือดินแดนที่ปราศจากประติมากรรมผู้มากผีมืออย่างวีด ถ้าเขาไปแสดงผลงานวาดภาพของเขาที่นั่น จะไม่ทำให้เขามีอิทธิพลเหนือกว่าลอร์ดของดินแดนนั้นหรอกหรือ?
ด้วยการใช้ภาพวาดของฉัน ฉันก็จะยึดป้อมปราการวาร์โก้มาจากวีดได้ คงไม่มีชื่อเสียงใดยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว
แถมมันยังเป็นโอกาสทองที่จะแสดงให้เห็นว่าจิตรกรนั้นเหนือชั้นกว่าประติมากร ไม่มีกลุ่มองค์กรไหนในแดนเหนือที่สามารถยึดอาณาเขตไปจากวีดได้ แต่ว่าการยึดครองที่นี่แหละจะเป็นการประกาศชัยชนะของจิตกรที่แท้จริง!
ฉันต้องไปที่ป้อมปราการวาร์โก้
เปตรอฟจัดเตรียมอุปกรณ์การวาดภาพของเขาแล้วก็รีบเดินโหยงเหยงมุ่งหน้าตรงไปที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่าน
นั่นก็เพื่อที่จะใช้ทักษะจินตภาพเคลื่อนย้ายเพื่อไปยังป้อมปราการวาร์โก้ได้ในทันทีนั่นเอง

*****

อึก อึก
มันเผานี่อร่อยจริงๆครับ
วีดกินมันเผาบางส่วนที่ซาฮับวางเอาไว้ในตะกร้า ทักษะปรุงอาหารขั้นกลางเลเวล9 ของเขาช่วยให้เขาได้ลิ้มลองอาหารเลิศรสมากมาย แต่ที่อร่อยที่สุดก็คืออาหารฟรี
มออออออ ข้ากินหญ้าตั้งแต่เมื่อวาน หิวชะมัดเลย
ข้าด้วย ให้ข้ากินด้วยสิ โกลโกล!”

ซาฮับแบ่งมันเผาให้พวกเจ้าเหลืองและโกลมินิไป
ส่วนพวกไวเวิร์นก็มัวแต่สู้กันเองอยู่ด้านนอก
ข้าสูงที่สุด
จะงอยปากข้าดูดีที่สุด
แล้วปีกของใครกว้างสุดหล่ะ?”
หลังข้าแบน”(ฮ่าๆๆอีนี่ไวทรีชัวร์)

มันคือการแสดงการทะเลาะเบาะแว้งแบบเด็กๆนั่นเอง!
ซาฮับตบเข้าที่ตรงหัวไหล่ของเจ้าไวเวิรน์
กินเยอะๆหล่ะ มีดแกะสลักกับรูปสลักไม้ที่ข้าทิ้งเอาไว้กับสาวใช้ คงตกทอดมาถึงเจ้าสินะ
ใช่ครับ อย่างที่ท่านพูด
 “ว่าแต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีสิ่งมีชีวิตรูปร่างแบบนี้ด้วยรูปร่างของพวกมันดูไม่ค่อยสมประกอบนัก แต่ว่าสัดส่วนของพวกมันก็พอดูได้ละนะ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างจากประติมากรรมใช่ไหม?”
เป็นครั้งแรกที่มีคนอื่นดูออกว่าเจ้าพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างจากประติมากรรมด้วยการมองเพียงแวบเดียว วีดโยนมันเผาอีกส่วนเข้าไปในปากแล้วก็ตอบคำถามเขาไป

 ใช่ครับ ถูกต้องแล้ว
ทักษะในตำนานของจักรพรรดิเกฮาได้ปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้งแล้ว ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ การได้เห็นทักษะแกะสลักตกทอดสู่คนรุ่นหลังไม่จางหายไปนี่ช่างเป็นบุญจริงๆ
มันก็ยากลำบากอยู่นะครับ แต่ถึงอย่างไรเพราะว่าข้าดูแลเหล่าประติมากรรมสลักชีพมาด้วยรักและเอาใจใส่พวกมันเป็นอย่างดี ก็ทำให้ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเข้ามาอยู่ในหัวใจของข้าแล้วล่ะครับ ข้าคิดว่าทักษะแกะสลักขององค์จักรพรรดิเกฮาช่างน่าทึ่งจริงๆ แน่นอนว่าทักษะใบมีดแกะสลักแสงจันทร์ของท่านเองก็เป็นหนึ่งในทักษะแกะสลักที่งดงามที่สุดในโลกครับ

นี่คงเป็นสิ่งที่คุณเรียกกันว่า การยกยอปอปั้นไปเรื่อย นั่นแหละ!
ด้วยการได้เรียนรู้เรียนทักษะแกะสลักของข้าและขององค์จักรพรรดิเกฮา พรสวรรค์ของเจ้าช่างดูโดดเด่นจริงๆ
ข้ามีความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อการแกะสลักครับ ข้าได้เรียนรู้ทักษะแกะสลักอื่นๆมาจากการผจญภัยของข้าเช่นกัน
วีดคือคนที่ได้เรียนรู้ทักษะแกะสลักลับมาห้าอย่างแล้ว ซาฮับได้แสดงออกถึงความชื่นชมขณะที่เขาได้รับฟังเรื่องราวต่างๆนานาจากที่วีดได้ทักษะแต่ละอย่างมา
ได้สืบทอดทักษะแกะสลักของข้า และยังได้เรียนทักษะประติมากรรมจำแลงของดารอนมา แถมยังอัญเชิญจิตวิญญญาณธาตุออกมาได้ หรือแม้แต่เรียกภัยพิบัติออกมาได้ ช่างน่าทึ่งมาก!”


ด้วยการเล่าเรื่องความหลังของทักษะประติมากรรม ค่าชื่อเสียงของท่านเพิ่มขึ้น 469 หน่วย

การที่สามารถรวบรวมมรดกการแกะสลักทั้ง 5 จากการไล่ตามประติมากรรมเพียงชิ้นแรกชิ้นเดียวเท่านั้น ช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ
วีดกินหัวมันจนอิ่ม แถมยังห่อที่เหลือกลับใส่กระเป๋าสะพายไปอีกด้วย
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น นางสนองพระโอษฐ์แห่งราชอาณาจักรโรเซนไฮม์ปรารถนาที่จะฟังบทเพลงที่ท่านร้องในตอนที่ท่านแกะสลักแสงจันทร์ ก่อนที่นางจะจากโลกนี้ไป
นี่คือธุระที่สำคัญที่สุดที่ลากเขามาจนถึงเขตกราพาสแห่งนี้ก็คือการเรียนรู้บทเพลงจากซาฮับ และกลับไปร้องให้นางสนองพระโอษฐ์ชราฟังที่ป้อมปราการเซราบอร์ก(Serabourg Citadel)

 มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยหรอ? ข้ามัวแต่แกะสลักประติมากรรมอยู่ที่นี่จนไม่เคยได้กลับไปที่ราชอาณาจักรโรเซนไฮม์อีกเลยงั้น ในเมื่อเรากำลังพูดถึงเรื่องประติมากรรมกันอยู่ เจ้าอยากจะเห็นของข้าบ้างไหม?
แน่นอนอยู่แล้วครับ ข้าอยากจะเห็นพวกมันเป็นที่สุด
ในฐานะที่วีดเป็นประติมากร เขาจึงปรารถนาที่เห็นผลงานระดับมาสเตอร์พีสของซาฮับอยู่แล้ว
บางที นี่อาจจะได้รางวัลที่ยอดเยี่ยมกว่าการทำภารกิจของนางสนองพระโอษฐ์สำเร็จซะด้วยซ้ำไป

*****
ซาฮับนำทางเขาไปที่ถ้ำที่อยู่ข้างหลังทะเลสาบ
ที่นี่คือที่ทำงานของข้า เข้าไปสิแล้วก็ใช้เวลาได้เต็มที่เลย
ภายในถ้ำ มีต้นไม้หลายต้น หินก้อนใหญ่หลายก้อน และมีกำแพงที่มีบรรดาประติมากรรมตั้งอยู่ มวลดอกไม้และต้นมอสเติบโตลุกลามไปทั่วทั้งตัวของประติมากรรมบางชิ้น วีดมองดูประติมากรรมที่ชิ้นใหญ่และดูมีสไตล์มากที่สุดเป็นอันดับแรก


ท่านได้เห็นช่วงเวลาสุดท้ายของมนุษยชาติ
ผลงานที่สร้างขึ้นมาโดยปรมาจารย์ประติมากร ซาฮับ
ฉากของเหล่ามวลมนุษย์ที่กำลังยืนประจันหน้าครั้งสุดท้ายเพื่อต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่ถูกแกะสลักขึ้นมา
ประติมากรรมนั้นดูประณีตและทุกๆรายละเอียดนั้นดูสุดยอดอย่างมาก หากปราศจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทักษะดาบ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะเข้าใจในตัวผลงานได้อย่างถ่องแท้
อัตราการฟื้นคืนค่าพลังชีวิตและมานาเร็วขึ้น 35% เป็นเวลาหนึ่งวัน
ค่าสถานะที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพิ่มขึ้น 12 หน่วย
ทักษะที่เกี่ยวข้องกับอาชีพสายนักรบพัฒนาขึ้น 2 เลเวล
จิตวิญญาณนักสู้เพิ่มขึ้น 2 หน่วยอย่างถาวร
ค่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้น450 หน่วยเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 4 หน่วย
การสังเกตมองประติมากรรมด้วยสายตาอันมีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยม ค่าความเชี่ยวชาญทักษะแกะสลักจะค่อยๆเพิ่มขึ้น

นี่คือผลงานประติมากรรมระดับมาสเตอร์พีสที่ถูกแกะสลักขึ้นมาใกล้กับกำแพงทางเข้า!!! ฉากนั้นเป็นฉากของนายทหารสิบคนสิ้นชีพไปขณะที่กำลังต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ที่เป็นมอนสเตอร์ที่แกะสลักขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

 นี่มันระดับมาสเตอร์พีสส่วนนั่นก็เป็นไฟน์พีส
วีดสับขาเดินอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่เขามองดูผลงานเหล่านั้น ค่าสถานะทางศิลปะและความเชี่ยวชาญการแกะสลักของเขาก็เพิ่มขึ้น
เวิร์คชอปนี่มีผลงานหลากหลายมากกว่า 70 ชิ้นที่เป็นผลงานระดับไฟน์พีส มาสเตอร์พีสและแมคนัม

ท่านได้เห็นผลงาน จันทรา ดารา และบุปผาแห่งพงไพร
ผลงานที่สร้างขึ้นมาโดย ปรมาจารย์ประติมากร ซาฮับ
ผลงานชิ้นนี้ถูกฝังเอาไว้ตามกำแพงและผนังถ้ำ
ความมีชีวิตชีวาของธรรมชาติได้ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริง
หลังจากที่ทำเสร็จแล้วกลับไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีมากนัก
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 1 หน่วย
การสังเกตมองประติมากรรมด้วยสายตาอันเฉียบแหลม ค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น 5 หน่วย

อีกอย่างยังมีประติมากรรมธรรมชาติด้วยเช่นกัน
การได้เห็นเจ้าจับจ้องไม่อาจละสายตาไปจากผลงานเหล่านั้นได้ เจ้าคงชื่นชอบธรรมชาติจริงๆสินะ
ใช่ครับ ข้ารักธรรมชาติจริงๆ
วีดเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขณะที่เขาจ้องมองบรรดาประติมากรรมส่วนมากที่อยู่ภายในเวิร์คช็อปที่เป็นผลงานที่เผยความเป็นธรรมชาติออกมา เพราะความใกล้ชิดกับธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้พลังของทักษะประติมากรรมธรรมชาติมหาภัยพิบัติแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

เพราะว่าระดับของวีดนั้นสูงมาก แม้ว่าผลงานเหล่านั้นจะถูกแกะสลักด้วยฝีมือของซาฮับ ค่าความเชี่ยวชาญของทักษะแกะสลักขึ้นมาแค่ 4.9% เท่านั้นเอง ตอนนี้ทักษะของเขาอยู่ที่ขั้นสูงเลเวล8 กับ 19.8% ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้นมาแค่ 137 หน่วย ส่วนทักษะอื่นๆเพิ่มขึ้นมาแค่นิดเดียวเท่านั้น
ผลงานระดับแมคนัมและมาสเตอรร์พีสที่อยู่ในเวิร์คช็อปนั้นยอดเยี่ยมกว่าพวกที่อยู่ในศูนย์ศิลปะของโมราต้าซะอีก

ประติมากรรมเหล่านั้นล้วนเป็นประติมากรรมที่ดีเลิศ ละเอียดอ่อน ประณีต นิ่มนวลอ่อนช้อย และ สง่าเลิศหรู หรือว่าประติมากรรมที่ทำขึ้นมาจากแสงที่ส่องแสงเรืองรองสว่างไสว!
ซาฮับล้วนสร้างผลงานหลายๆชิ้นออกมาอย่างอิสระไร้รูปแบบและไร้กฎเกณฑ์
ผลงานของข้าเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
น่าชื่นชมจริงๆครับ รู้สึกราวกับว่าประติมากรรมที่แสนโดนเด่นทั้งหลายของทวีปเวอร์เซลมารวมกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้

ประติมากรรมเหล่านี้คงได้ร้อยคะแนนเต็มแน่นอน มันก็ไม่เหมือนกับพวกกระต่ายและจิ้งจอกมากมายที่วีดเอาไว้ขัดเกลาฝีมือของเขาหรอก เพราะผลงานศิลปะแต่ละชิ้นนี้ ล้วนสร้างขึ้นมาด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ




 อะแฮ่ม การได้ล่องไปทั่วก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย
อาจารย์นักดาบกำลังยืนอยู่ตรงส่วนหน้าของเรือซึงเป็นเรือเร็วที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทวีปทางตอนเหนือ
สายลมโบกปะทะผลักใบเรือให้เปิดออกกว้าง ขณะที่เรือเร็วถูกปรับทิศทางและแล่นไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะบนเรือไม่ได้บรรทุกสินค้าหนักมากนัก

การได้มาสูดอากาศสดชื่นในดินแดนต่างถิ่นนี่ก็ดีเหมือนกันเนาะ
ผู้คนที่นั่งอยู่หลังอาจารย์นักดาบนั้นคือคน5คนอายุราว 20 ต้นๆได้ร่วมเดินทางไปร่วมกับเขา
สายลมที่นี่สดชื่นจริงๆเลย
นี่แหละคือข้อดีของการได้ออกทะเล
ฉันได้ยินมาว่าคนออกเดินเรือเยอะมาก พวกเรือสินค้ากับเรือออกผจญภัยก็เพิ่มขึ้นหลังจากการผจญภัยของวีด ดูท่าจะจริงแหะ
ขณะที่แล่นเรืออยู่นั้นก็มีเรืออีกหลายลำแล่นอยู่เต็มไปหมด แม้แต่พวกรักการผจญภัยก็ต่างพากันเอาเรือออกมาแล่นทั้งๆที่ใบเรือมีรูอยู่เต็มไปหมด!

บรรดาผู้มาใหม่ทั้งหลายที่มาเยือนท้องทะเลนั้นอาจจะยังไม่รู้  แต่สำหรับกะลาสีเรือผู้มากประสบการณ์นั้นจะสามารถรับรู้ถึงความน่าสนใจของทะเลได้เพียงแค่ขยับปลายนิ้วของพวกเขาเท่านั้น
ท่าเรือกำลังคับคั่งไปด้วยกัปตันเรือและกะลาสีมือใหม่ และไม่นานท้องทะเลก็คงจะเต็มไปด้วยภาพของเรือบดที่กำลังจมลงสู่ใต้น้ำและพวกเขาก็คงหนีตายอยู่ตามแนวโขดหิน วีดได้มอบให้เพียงแค่รสชาติของการเดินเรือออกทะเลเล็กน้อยเท่านั้น แต่มันกลับกลายเป็นโอกาสทองของเหล่ากะลาสีผู้มากประสบการณ์เพื่อหวังที่จะขยับขยายมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเลให้มากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ชาวประมงหรือว่ากะลาสี รอยัลโร้ดก็ทำให้เขาได้มีโอกาสออกสู่ทะเลอย่างที่เขาปรารถนา!
พวกนายได้ยินข่าวคราวหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับสามฉลามคลั่งแห่งเบคกี้นินที่ออกเรือไปกับวีด? ที่ชื่อบอร์ดเมียร์ แฟรคตัล กับเฮนท์นั่นนะ?”
แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ?”
ฉันได้ยินว่าพวกมันกลับไปที่เบคกี้นินแล้วก็กำลังควบคุมกลุ่มโจรสลัดขนาดใหญ่อยู่ตอนนี้ พวกมันรับโจรสลัดทุกๆคนที่ไปสมัครและออกปล้นสะดมตามเส้นทางการค้าทุกๆเส้นโดยไม่สนใจใครหน้าไหน…”
พวกมันนี่โคตรชั่วเลย
ใช่แล้วล่ะ ชั่วจนหาคำมาด่าไม่ไหวเลย
พวกมันได้ประยุกต์ใช้คำสั่งสอนของวีดที่ได้ถ่ายทอดความรู้ให้พวกมันตอนที่บอกลากัน แล้วก็กลายเป็นปีศาจชั่วไร้สามัญสำนึก
ทว่าอาชีพสายโจรสลัดเป็นอาชีพที่น่าสงสารมาก พวกเขาไม่สามารถขึ้นฝั่งใดๆได้ถ้าหากว่าพวกเขามีค่าชื่อเสียงฉาวโฉ่ของประเทศนั้นๆสูงมาก เมื่อโดนพวกทหารเรือเจอตัวเข้า พวกเขาก็ต้องหนีหางจุกตูด และยิ่งกว่านั้นยังต้องแบกรับความเกรี้ยวโกรธจากผู้เล่นทั้งหมดอีก
พวกเขาไม่สามารถเอาไอเท็มที่ลูทออกไปขายในตลาดได้แล้วก็ต้องยอมโยนทิ้งไปอยู่บ่อยๆ พวกเขาต้องระมัดระวังตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงเป็นสายอาชีพที่ยุ่งยากและน่าเหนื่อยหน่าย
แต่ทว่าบนท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลและมีอิสรเสรี ก็คือการมีความสนุกสนานกับการออกผจญภัยที่เหล่าโจรสลัดสามารถโบยบินได้

*****

 “เนื่องจากสงคราม ผู้คนมากมายล้มตายไปเป็นจำนวนมากในช่วงนี้
เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ อย่าไปเข้าร่วมต่อสู้แบบมั่วซั่วล่ะ สถานการณ์ตอนนี้ใกล้จะปะทุแล้วนะ
ตอนไปออกล่าก็ปิดปากให้สนิท พยายามเพิ่มเลเวลเป็นดีที่สุดแล้วตอนนี้
ณ โรงเหล้าที่เหล่าดาร์คเกมเมอร์รวมตัวกันอยู่! พวกเขากำลังนั่งพักถือน้ำผลไม้หรือเบียร์ภายในมือ เมื่อตอนที่พวกเขาเข้าไปในพื้นที่ออกล่า ก็จะไม่กลับออกมานานกว่าเดือนหนึ่งหรืออย่างต่ำเป็นสิบๆวัน เช่นนั้นการได้มีโอกาสเสพสุขภายในตัวเมืองเช่นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก

ทักษะทำอาหารคือสิ่งสำคัญสำหรับเหล่าดาร์กเกมเมอร์  แต่ก็ไม่เท่าวีดเพราะพวกเขาไม่ได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมมากนัก พวกเขาทำได้เพียงแค่แค่การปิ้งย่างหรือว่าการต้มแบบง่ายๆเท่านั้น ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว หากได้มาดื่มด่ำเบียร์และเครื่องเคียงบ้างก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาผ่อนคลายมากแล้ว
ตอนที่ฉันเข้าไปในดันเจี้ยนที่สอง…”
ทางเข้าลับก็คือทางซ้ายของเตาผิงแล้วก็จะมีเส้นทางออกไปทางด้านนอก…”
พวกเขาต่างแบ่งปันข้อมูลชั้นดีให้แก่กันและกัน
ตำแหน่งของโรงเหล้าอยู่ที่เมืองหลวงเนฮัลเลส แห่งราชอาณาจักรเบรนท์คือสถานที่ที่เหล่าดาร์กเกมเมอร์ผู้เก่งกาจมากมายรวมตัวอยู่ ดังนั้นมันจึงคับคั่งอยู่เสมอ

ปึ่งงงง!
ประตูโรงเหล้าเปิดออก จากนั้นก็มีผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังสวมชุดกระโปรงสีม่วงแพรวพราวเดินเข้ามา
ตอนนั้นข้ากำลังออกล่าอยู่แล้วก็….”
ครั้งหน้าข้าคิดว่าจะไปข้ามโรเซนด์รูท…”
บทสนทนาของเหล่าผู้เล่นสลายหายไปในพริบตา เพราะผู้เล่นที่พึ่งเข้ามาเป็นถึงนักเต้น
อาชีพสายนักเต้นนั้นมักแต่งชุดแพรวพราวและเครื่องประดับระยิบระยับอยู่เสมอ นักเต้นเป็นสายอาชีพที่กระเป๋าหนักที่เหล่าดาร์เกมเมอร์ต้องการอย่างยิ่ง เพราะว่าสายอาชีพนี้มีความต้องการในการว่าจ้างสูงเพื่อให้ไปต่อสู้อย่าง การว่าจ้างพวกนักดาบ นักรบ ทหารรับจ้างหรือว่าพวกนักเวทย์

 คงเป็นผู้ว่าจ้างแน่ๆ
เธอทั้งสวย แถมดูที่อุปกรณ์ที่เธอสวมใส่คงเป็นผู้เล่นเลเวลสูงด้วยแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น จำนวนของดาร์กเกมเมอร์ที่จะได้เซ็นสัญญาว่าจ้างกับเธอคงมีน้อยแน่
คำขอร้องของฉัน……..”
ก่อนที่จะทราบเนื้อหาภารกิจ เลเวล ความน่าเชื่อถือของทหารรับจ้าง หรือว่าระยะเวลาในการทำภารกิจ คำขอร้องก็ถูกตอบรับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และขณะที่นักเต้นคนนั้นกำลังจะออกจากโรงเหล้าไป เบด เพสัน ยูเมโร่ เอพริลโวลค์ และแดริมก็เดินตามเธอไปด้วย และแล้วเหล่าดาร์กเกมเมอร์ที่เก่งกาจและยอดเยี่ยมที่สุดแห่งราชอาณาจักรเบรนเท่นก็ตัดสินใจเดินทางไปกับเธอซะแล้ว หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว เหล่าดาร์เกมเมอร์ก็เริ่มสานต่อบทสนทนาของพวกเขา การได้เห็นแบบนั้น มันจึงไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพวกเขาและจึงไม่มีใครสนใจอีกต่อไป

จบตอน
ผู้แปล:Cole’s Myth
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


13 ความคิดเห็น:

  1. คนที่ติดต่อคงเป็นฮวายาอง

    ตอบลบ
  2. เยี่ยมจริงๆครับ ไม่เคยผิดหวังเลย กับงานแปล เล่าเรื่องได่สนุกมาก.ก.ก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. งานแปลของคุณ Acid GD ก็ดีมากเช่นเดียวกันคับ แถมช่วงนี้แปลได้เยอะอีก สู้ๆคับ

      ลบ
  3. อยากจะร้อง รอนานจังอ่านแปปเดียว ขอบคุณครับบบ

    ตอบลบ
  4. ซอยูนกับฮวายอง ใครจะไปเจอวีดก่อนกันน้อ

    ตอบลบ
  5. มาติดต่ออะไรน่าาาาาาอยากรู้ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  6. เดานะ ตามวีดไปที่กราพาส ขอบคุณผู้แปลคับ

    ตอบลบ
  7. ลากไปซวยแหงๆ ตอนนี้ยังไม่เจอตอ
    แต่เดี๊ยวคงมีอะไรมาขัดขวาง ไม่น่าจะราบรื่น

    ตอบลบ
  8. แมพมหาโหด...กราพาส...ยาวๆป้ายยยย
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ
  9. ผมอ่านนิยายอยู่3เรื่องครับ อาทิตย์นี้มีนิยาย2เรื่องถูกซื้อลิขสิทธิ์บอกเลยว่าเศร้ามาก ทั้งเห็นใจผู้แปลด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าจะได้อ่านนิยายเรื่องนี้ต่อและได้อยู่กับผู้แปลไปนานๆ

    ตอบลบ
  10. สุดยอดทั้งคู่เลยครับ. สู้ๆครับ. เดี๋ยวใกล้ถึงคิวผมล่ะ 555. ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  11. มันเผานี่อร่อยจิงๆ5555. คิดถึงตอนมันกินมันเผาที่โมราต้า

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...