วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เล่ม 25 ตอนที่ 2: กราพาส(Grapass) แปลโดย Acid กรด

เล่ม 25 ตอนที่ 2: กราพาส(Grapass) แปลโดย Acid กรด

"ความรู้สึกอันโดดเดี่ยวยามท่องเที่ยวตามลำพัง...ร่อนเร่พเนจร ท่องไปไร้ข้อผูกมัด ขจัดเหล่ามอนสเตอร์, มันช่างรู้สึกสุดยอด!"
เหล่าไวเวิน, ปิงหลง, ฟินิกซ์, โกลมินิ และเจ้าเหลือง ติดตามมาข้างหลังวีด
"นั่น,อย่าให้มันร่วงซิ! ถือแจ๊บเทมให้มันดีๆหน่อย!"
เหล่าไวเวินใช้กรงเล็บและจะงอยปากของพวกมันจับแจ๊บเทมเอาไว้
ทุกครั้งที่มีการต่อสู้, มันจะสร้างความทุกข์ทรมานใหม่ไม่สิ้นสุดให้พวกมัน
'แยกกันเลยดีไหม?'
'เอาเปรียบพวกเราอย่างนี้...'
ขณะที่พวกมันอยู่กันตามลำพัง พวกมันออกล่าอย่างเกียจคร้าน, แต่เมื่อต้องมาติดตามวีด ภาระที่พวกมันได้รับก็เพิ่มขึ้น
ออกล่า, เก็บแจ๊บเทม, ทำงานบ้าน, ช่วยทำกับข้าว แล้วยังต้องทำการขนส่งทางอากาศให้อีก
"ต.ต.ตายดีกว่า!"
เจ้าวิหกเงินเกาะบนหลังเจ้าเหลือง มันส่งเสียงพึมพัม, หุบปีกของมันและล้มพับลงทันที วิธีนี้ไม่ได้ผลกับวีดหรอกนะ
"แกยังตายไม่ได้นะเว้ย หลังจากนี้ยังมีงานอีกเยอะเลย ลุกขั้นเร็วๆเข้า"
วีดเคยผ่านประสบการณ์โดยไม่สนใจความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเกินกำลังมาแล้ว หลายครั้งที่เขาเบื่อหน่ายกับมัน, เรื่องแกล้งทำเป็นป่วยไม่เคยหลอกเขาได้เลย
 +++++++++++++++++++++++
ใกล้ๆป้อมปราการเวอร์โก้ มีดันเจี้ยนมากมายรายรอบ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป
มีแม้กระทั่งถ้ำ, รัง และที่หลบซ่อน ของพวกมอนสเตอร์อยู่มากมาย 
เป็นโอกาสให้กลุ่มปาร์ตี้อื่นๆได้เข้ามาสำรวจและออกล่าเป็นพวกแรกๆ แต่ว่าพื้นที่รอบๆป้อมปราการเวอร์โก้กำลังอยู่ในระหว่างการจัดสรร, มันเป็นเรื่องปรกติธรรมดามากสำหรับวีดกับเหล่าเพื่อน หรือพวกประติมากรรมประทานชีพที่จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ก้าวเข้าไปก่อน

สิ่งที่ดี ระหว่างมีกลุ่มปาร์ตี้สมาชิกที่รู้ใจ หรือออกล่ากับประติมากรรมประทานชีพแบบนี้
เขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหาคนที่พอเชื่อใจได้หรือเสียเวลาทดลองเข้าร่วมกับปาร์ตี้ใหม่
เรื่องขัดใจกันมักจะเกิดขึ้นเสมอ เมื่อออกล่าร่วมกับสมาชิกปาร์ตี้ใหม่ อย่างพวกเรื่องความเห็นขัดแย้งกันหรือวิธีการที่ใช้, แต่วีดไม่เคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้
"ทุกคน ได้เวลานอนแล้ว"
จนกว่าวีดจะบอกว่าการล่าในดันเจี้ยนสิ้นสุดลง, เจ้าเหลืองจะอยู่ในสภาวะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้มันไม่สามารถลดหางของมันลงได้
เนื่องจากแต่ละคนมีหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องทำในแต่ละบทบาทในดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันแข็งแกร่ง จึงไม่มีเวลามามัวประมาทแต่อย่างใด 
เมื่อมีมอนสเตอร์ที่อ่อนแอจำนวนหนึ่งปรากฏ, พวกเขาเร่งความเร็วเพื่อออกล่าให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิมภายในหนึ่งชั่วโมง
"อากาศวันนี้ มีเมฆมาก และ ฝนกำลังจะตก, อย่างนั้นมาใช้เวลาทั้งวันออกล่าในดันเจี้ยนกันเถอะ"
มีเพียงวีดคนเดียวเท่านั้นที่มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจว่าจะออกล่าหรือหยุดพัก
"แสงแดดช่างอบอุ่นจริงๆ อากาศแบบนี้มาเตรียมอาหารกลางวันสักหน่อยแล้วออกล่าในดันเจี้ยนกันเถอะ!"
เขามันนักล่าจอมเผด็จการตัวจริง
*****
"พบดันเจี้ยนใหม่ เมื่อสองวันก่อน กำลังหาเพื่อนร่วมปาร์ตี้ ใครก็ได้ที่สามารถตัดสินใจได้ในวันนี้ และเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางทันที"
 “ออกล่าหาสมบัติ, กำลังมองหาบุคคลที่มีสายอาชีพต่อสู้(combat class) ผมเป็นนักผจญภัย ผมมีเบาะแสแรกของสมบัติ แต่มันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไร ดังนั้นผมจึงต้องการคนที่สามารถมาแบ่งปันความลำบากกับผม" 
"มีนักบุกเบิกคนไหนสนใจไปทางตะวันตกบ้าง? ปาร์ตี้ 6 คนกับนักผจญภัยเลเวล 330 กำลังหาใครสักคนที่มีความสามารถในการเขียนแผนที่ระหว่างการสำรวจ"
ไม่ได้มีแต่งานซ่อมแซมอย่างจริงจังในป้อมปราการเวอร์โก้เท่านั้น, สถานการณ์ปัจจุบันได้ดึงดูดให้มีผู้เล่นมากมาย ที่ต้องการออกล่าและท่องเที่ยวผจญภัยใกล้ๆป้อม

และเมื่อมอนสเตอร์บุกโจมตีเข้ามาบ่อยๆ, มาตรฐานของพวกผู้เล่นจึงขยับสูงขึ้น
"ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร มาออกล่าด้วยกันกับพวกเราไหม?"
"อะแฮ่ม, ผมก็ไม่ค่อยยุ่งเท่าไร..."
พวกนักดาบยังคงเป็นที่ชื่นชอบอยู่เสมอ เมื่อได้เห็นความสามารถในการรบของพวกเขา เหล่าอัศวินและพลดาบ(swordsmen)ก็ได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างจากพวกเขาเหล่านั้น
พวกเขา เหล่านักดาบ, ผ่านการต่อสู้มาอย่างฉกาจฉกรรจ์ ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเชี่ยวชาญสูงสุดในการออกล่า
โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกเขามักจะออกตัวเป็นแนวหน้าเสมอตลอดเส้นทางในดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยอันตราย
ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เหล่านักผจญภัยรู้สึกสนุกสนาน
"ถ้าพวกเขาอยู่ด้วย พวกเราสามารถไปที่ไหนก็ได้"
"แม้ว่าเรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่เคยสิ้นหวัง"
ในระหว่างที่นักผจญภัยต้องพบกับความตายอยู่บ่อยครั้ง
พวกนักดาบเสียชีวิตไปกับการต่อสู้เมื่อต้องปะทะเข้ากับพวกมอนสเตอร์ หรือตกลงไปในกับดัก, แต่ความผิดหวังของพวกเขาคือไม่สามารถทำตามคำสัญญา ด้วยความจริงที่ว่าพวกเขาไม่สามารถปกป้องสมาชิกในปาร์ตี้ของพวกเขาจนจบภารกิจ พวกเขาเป็นดั่งชายชาตรีที่แท้จริง! 
เมแพนคิดอยู่ว่าทำยังไงดีถึงจะพัฒนาเลเวลพ่อค้าให้เร็วขึ้นได้
"คุณพี่ครับ, ผมนำไวน์กับเนื้อมา"
"โอ้ว!"
"ถ้าพี่รู้สึกเบื่อ พวกเราไปออกล่ากันดีไหม? ผมจะได้พัฒนาทักษะการทำอาหารของผม, ผมนำเหล้ามีราคามาด้วยสองเกวียน และผมยังไม่มีแผนจะกลับไปจนกว่าของในสต๊อกจะหมด!”
"ลุยกันเลย!"
พวกพ่อค้ามีกฎอยู่ว่า, จงใช้ทุกวิธีที่เป็นไปได้ อย่างเมแพนที่ติดตามไปกับปาร์ตี้พวกนักดาบ เลเวลของเขาจึงขึ้นอย่างง่ายดาย
"ผลไม้นั่น, มันคือสมุนไพรหนิ!"
"พวกเราถลุงเหล็ก และตีมันให้เป็นดาบที่แข็งแกร่ง มีใครต้องการมั้ย , เอ้าเร่เข้ามาจ้า!"
เหล่าพลเมืองและผู้เล่นมีความเชื่อมั่นในตัววีด, ผู้ที่พิชิตป้อมปราการและกลายเป็นเจ้าของมัน, พวกเขาก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในป้อมปราการแห่งนี้
งานซ่อมแซมยังคงมีให้ทำอย่างต่อเนื่องภายในป้อมปราการ พวกเอลฟ์และคนแคระที่อยู่ใกล้ๆ ก็มาค้าขายสินค้าของพวกเขาทุกวัน ราวกับการค้าได้กลับคืนมาครึกครื้นอีกครั้ง
เมื่อมองจากที่ไกลๆ ป้อมปราการถูกสร้างมาให้ดูน่าขนลุก, ดำทะมึน, ระเกะระกะไปด้วยก้อนหิน สร้างความรู้สึกให้สถานที่แห่งนี้เหมือนจะมีพวกอันเดทผุดขึ้นมาได้ทุกวินาที
แต่ความคึกคักและมีชีวิตชีวาภายในป้อมปราการกำลังกลับมา
และแล้วป้อมปราการที่ถูกบดขยี้ทำลายจนพังพินาศ ก็ได้รับการซ่อมแซมฟื้นฟูอย่างเต็มที่, สิ่งก่อสร้างใหม่ๆถูกสร้างแทนที่
เริ่มจากปาโว, เหล่าสถาปนิกคนอื่นๆที่ได้ฝึกฝนขัดเกลาทักษะมาแล้วในโมราต้า ตอนนี้ได้แห่กันไปยังป้อมปราการเวอร์โก้
"ผมคิดว่าสิ่งก่อสร้างอย่างบ้านพักอาศัยเอาไว้สร้างทีหลังก็ได้"
"ใช่, ผมเห็นด้วย"
บ้านพักอาศัยไม่ใช่ปัญหา เหมือนกับกระท่อมมากมายที่สามารถสร้างขึ้นบนเนินเขาตลอดจนเส้นทางที่มาบรรจบยังป้อมปราการเวอร์โก้  
แน่นอน, พวกบ้านหรูเอาไว้ทีหลังถ้ามันจำเป็น แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก่อนคือการซ่อมแซมป้อมปราการ
ช่างก่อสร้างที่ทักษะไม่พอต้องหยุดงานเพื่อความปลอดภัยของพวกคนงานที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมกำแพง
นักก่อสร้างอันดับหนึ่ง ผู้ที่มีส่วนร่วมในการสร้างศูนย์ศิลปะของปาโว และแหล่งธุรกิจการค้าของโมราต้า เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบในการซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างภายในป้อมปราการ
"เรามาเริ่มบูรณะสิ่งก่อสร้างนี้ให้อยู่ในรูปแบบดั้งเดิมกันเถอะ"
"หินสีดำมีความต้องการใช้เป็นจำนวนมาก"
"ท่านเจ้าเมืองลงทุนด้วยกองทุนมหาศาลในการซ่อมแซมป้อมปราการ ทำให้เกิดเควสเพื่อรวบรวมวัตถุดิบต่างๆขึ้นที่นี่
พวกพลเมือง และพวกพ่อค้าสมัครเล่น ได้นำวัตถุดิบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นพวกช่างก่อสร้างจึงมีวัตถุดิบเพียงพอที่จะใช้ในตอนนี้"
วีดใช้เงินลงทุนอย่างมโหฬารเพื่อซ่อมแซมป้อมปราการเวอร์โก้
ในโมราต้าเมื่อมีกองทุนมหาศาลมาลงทุน มันส่งผลให้เกิดเป็นงานมหกรรม, ที่นี่ ท่ามกลางความเสื่อมโทรม เหล่าทหารเพิ่มจำนวนขึ้น และพลเมืองก็ผลัดกันมาทำงานซ่อมแซม 
"ตรงที่มังกรกระดูกอาละวาดนี่แก้ไขยากจริง...ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องทำมันขึ้นมาใหม่เยอะแค่ไหน?"
"ให้มากที่สุดเท่าที่พวกเราจะสามารถทำได้ พวกเราทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน พื้นที่มันหลอมละลายจากลมหายใจที่มันปล่อยการโจมตีออกมา และเสาค้ำยันนั่นก็เสียหาย, กว่าครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดต้องถูกสร้างขึ้นมาใหม่"
 “อืม.ม.,ถ้าขนาดมันใหญ่กว่านี้คงต้องทำเป็นโครงการก่อสร้างแบบจริงจังกันละ"
พวกช่างก่อสร้างที่เป็นแรงงานบูรณะป้อมปราการเวอร์โก้ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ได้หมายตาเอาไว้
ความตื่นเต้นของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากกองทุนของเจ้าเมืองและภาษีที่จัดสรรมาใช้ในงานซ่อมแซม
"หอคอยนั่นที่มังกรกระดูกเคยอยู่ข้างใน, ดูมันสิ, มันเอียงลงไปมากเลย"
หอคอยกลางที่เป็นลานต่อสู้หลักของป้อมปราการเวอร์โก้! เมื่อมองจากไกลๆ หรือแม้แต่จะมองเข้าไปใกล้ มันก็ยังเอียงอยู่ดี ทำให้รู้สึกหวั่นๆเวลาเข้าไปใกล้แถวนั้น
มันน่าประหลาดใจมากที่ยังไม่ถล่มหรือพังลงมา
พวกช่างก่อสร้างสำรวจที่พื้น พบว่าฐานรากสร้างมาอย่างดีมีความมั่นคง, ไม่มีอันตรายจากหอคอยถล่ม
"คุณวีด สั่งให้ปล่อยหอคอยไว้อย่างนั้นในตอนนี้" (จะทำ หอเอนปิซา ละซิ - ผู้แปล)
สำหรับวีด, การฟื้นฟูป้อมปราการเวอร์โก้ ให้สมบูรณ์เหมือนที่มันเคยเป็นมาก่อนหน้านี้ มันจะกลายเป็นเงินที่ต้องใช้จ่ายอย่างมหาศาล
"ทำภายในตัวอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆให้เสร็จก่อน, ยามเมื่อเงินเริ่มจ่ายไปแล้ว, ยังไม่ทันได้เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั่นก็ทำให้ฉันหมดเนื้อหมดตัวเสียแล้ว"
ไม่ใช่แค่หอคอยกลางจะดึงดูดสายตาผู้คน, มันยังเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งมีการปกป้องภาชนะบรรจุชีวิดของจอมปีศาจพ่อมดบัลข่าน (Lich Balkan’s Life Vessel)
สิ่งก่อสร้างที่สูงและใหญ่โตโอฬารเป็นสิ่งล้ำค่าเกินกว่าจะรื้อและสร้างใหม่
"งั้นปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ"
วิธีที่ดีที่สุดในการอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์คือการปล่อยมันไว้จะได้ไม่ต้องเสียเงินอีก!
อย่างที่เรียนรู้ได้จากหอคอยปิซา, หอคอยเอียงกลางเมืองได้กลายมาเป็นเสน่ห์ของป้อมปราการเวอร์โก้
เหล่าผู้วิเศษที่มีเลเวลสูงและได้กลายมาเป็นบุคคลผู้มั่งคั่ง,ได้สร้างหอคอยของพวกเขาเอง
แต่เมื่อลองเปรียบเทียบสิ่งเหล่านั้น ก็ไม่อาจนำมาเทียบกับหอคอยกลางที่เอียงและสูงใหญ่ได้เลย
"ความรู้สึกเหมือนจวนจะล้มพังลงมาของหอคอยกลางนี้ ไม่สามารถหาได้ที่ไหนในทวีปเวอร์เซลล์!"
ปัจจุบัน สภาพทั้งป้อมปราการเวอร์โก้ถูกทำลายและมันดูไร้ค่า พวกมอนสเตอร์บุกรุกเข้ามาขัดขวางการพัฒนาพื้นที่ แต่กลับทำให้การออกล่าง่ายขึ้น
ถ้าจะมีวิธีที่จะปลอบประโลมยามที่บรรยากาศหดหู่ห่อเหี่ยวเช่นนี้, มันต้องเป็น ประติมากรรม!
วีดสั่งให้พวกไวเวินขนหินก้อนใหญ่อย่างระมัดระวัง เอาไปไว้บนยอดหอคอยกลางที่เอียง
"ถ้าฉันทำประติมากรรมที่นี่, จะทำให้ทุกๆคนในป้อมฯสามารถมองเห็นมัน"
มันไม่มีข้อกังขาอันใด, นี่คือที่ที่ดีที่สุดในการแสดงประติมากรรม มันเป็นสถานที่ของประติมากรรมที่ต้องยืนท้าลมและฝน,
ชิ้นงานที่ละเอียดอ่อนเปราะบาง แตกหักง่ายไม่เหมาะกับสถานที่นี้อย่างยิ่ง
"ฉันจะทำชิ้นที่เหมาะกับความรู้สึกของป้อมปราการเวอร์โก้"
ดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา, วีดไม่ได้คิดนานนักกับชิ้นงานที่เขาอยากจะทำ
"ผลงานชิ้นนี้ต้องถูกสร้างขึ้นที่นี่"
วีดเริ่มแกะสลักก้อนหินขนาดใหญ่ที่วางอย่างมั่นคงให้เป็นรูปประติมากรรม
พวกพลเมืองและเหล่าผู้เล่นที่เพิ่งกลับมาจากการทำงานของพวกเขาหรือจากการออกล่า เฝ้ามองวีดที่กำลังทำผลงานชิ้นใหม่ 
"เขากำลังทำประติมากรรมที่นี่ด้วย ผมอยากเห็นจริงๆว่ามันจะออกมาเหมือนอะไร"
ยามเมื่อวีดเริ่มทำประติมากรรมชิ้นใหม่, มันสร้างความสนใจอย่างมากเสมอกับผู้คน 
ถ้าเขาสร้างประติมากรรมที่ยอดเยี่ยมเหมือนในโมราต้า มันจะช่วยได้หลายทาง ดังนั้น พวกเขาจึงตั้งตานับวันนับคืนรอให้ประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์
แต่ว่าวีดมาทำแล้วก็ออกไปล่าในดันเจี้ยน, ความคืบหน้าของประติมากรรมจึงล่าช้า
"มันคงเป็นเพราะงานประติมากรรมสร้างด้วย เลือด หยาดเหงื่อ และความเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นมันถึงต้องใช้เวลานาน"
"งานศิลปะสักชิ้น ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำมันได้ง่ายๆ"
เหล่าผู้เล่นรอคอยอย่างมีความสุข!
วีดทำประติมากรรมสูง 6 เมตร ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุม ขณะนี้วีดใช้เวลากับประติมากรรมมากขึ้น,
รูปประติมากรรมก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจมากขึ้นและมากขึ้น มันแลดูเสร็จสมบูรณ์
และในที่สุดมันก็ชัดเจนว่าเป็นรูปร่างของวีดในรูปลักษณ์จอมปีศาจพ่อมด (the Lich turned Weed), สวมใส่ไอเทมของบัลข่านอันอลังการบนร่างกายของเขา
ในอดีต เขาเล่นเป็นปีศาจพ่อมดในลาซฟารั้งค์, แต่เขาก็สงสัยว่า ถ้าเขาสามารถกลายเป็นทายาทของบัลข่าน, ได้สืบทอด และเป็นผู้นำของกองทัพอมตะ
ด้วยความโลภของเขา วีดจึงได้ทำตามคำสั่งของบัลข่านอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยสายตาใสซื่อบริสุทธิ์,
จากนั้นก็หักหลังเขา และยึดเอากองทัพอมตะมาเป็นของตัวเอง
มันเป็นอนาคตที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น! ถ้าวีดไม่ได้เดินบนเส้นทางของประติมากรเมื่อนานมาแล้ว, ประติมากรจึงกลายเป็นตัวกำหนดความชัดเจนในอนาคตของเขา
"ฉันก็ไม่รู้ว่าผลของประติมากรรมจะเป็นอย่างไร, แต่มันต้องออกมาในแนวประวัติศาสตร์แน่นอน"
บางครั้งประติมากรรมก็สร้างอุบัติการณ์อันยิ่งใหญ่ อย่างที่เขาทำประติมากรรมจอมปีศาจพ่อมดเสร็จสมบูรณ์, ถ้าคิดในเชิงลบนี่ก็เป็นประติมากรรมที่ล้มเหลว หรือในความคิดเขา เขาอยากให้มีอันเดทเพิ่มขึ้นอีกครั้งในบริเวณใกล้ๆนี้
รูปจอมปีศาจพ่อมดบนหอคอยเอียงจะเป็นตัวบอกทักษะประติมากรรมของวีด ซึ่งรายละเอียดของมันไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลย
เมื่อมองไปที่หอคอยกลางจากที่ไกลๆ, มันยากที่จะบอกความแตกต่างว่าจอมปีศาจพ่อมดนั้นเป็นตัวจริงๆหรือไม่
"มันยัง, มันยังขาดอะไรบางอย่าง"
ดูนั่นซิเขาทำประติมากรรมเสร็จแล้ว, วีดตัดสินใจทำมันต่อและพยายามค่อยๆแต่งเติมงานทีละเล็กทีละน้อย
"ตัวจอมปีศาจพ่อมดไม่ควรมีผู้ติดตามแค่คนเดียว"

เมื่อสร้างประติมากรรมจอมปีศาจพ่อมดขนาดใหญ่เสร็จแล้ว, วีดทำประติมากรรมดูมไนท์ และ เดทไนท์ขนาดความสูง 2 เมตรเพิ่มอีก
แต่ว่ารูปลักษณ์ของปีศาจพ่อมดก็ยังขาดสง่าราศี
เมื่อเปรียบเทียบประติมากรรมกับกองทัพอมตะของบัลข่าน, ประติมากรรมจอมปีศาจพ่อมดยังแปลกแยกและโดดเดี่ยว
"มันต้องมีบางอย่างที่พิเศษสักหน่อย"
วีดดึงวัตถุดิบที่ยังพอใช้ทำประติมากรรมได้ออกมาจากกระเป๋าเป้
พวกกระดูกมังกรที่เน่าเฟะ!
ถ้ามันเป็นกระดูกมังกรจริง มันจะล้ำค่ามากกว่าทองคำและมิธลิธ, แต่เมื่อมันกลายเป็นอันเดท ถ้าใช้มันเป็นเสมือนวัตถุดิบของช่างตีเหล็ก ค่าศักยภาพ และความทนทานของมัน จึงกลายเป็นการลดค่าของไอเทมลงอย่างมาก
และเมื่อเป็นมังกรกระดูกในกองทัพอมตะซึ่งฟื้นคืนชีพเมื่อนานมาแล้ว, ค่าความทนทานของกระดูกจึงค่อนข้างต่ำ ดังนั้นมันจึงใช้ประโยชน์ได้ไม่นานถ้านำมาทำเป็นอย่างอื่น
ไอเทมที่ดรอปจากมังกรกระดูกถูกแบ่งไปท่ามกลางผู้เล่นคนอื่นๆ, แต่พวกกระดูก พวกมันดูเหมือนไม่สามารถเอาไปทำสิ่งอื่นๆที่เป็นของดีได้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่น่าสนใจ
ในอดีตพวกนักดาบใช้อุปกรณ์ที่ทำจากกระดูกมังกรที่ประดิษฐ์โดยวีด, แต่พวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์และเหล่านักบวช
ไม่สามารถใช้สิ่งของใดๆที่ทำจากกระดูกของพวกอันเดท
จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมวีดถึงยืนยันว่ากระดูกมังกร 2 ชุด นั้น พวกผู้เล่นควรเลี่ยงๆไปเสีย
"ฉันคงจำเป็นต้องใช้วัตถุล้ำค่านี้แล้วละ"
วีดใช้วิธีเดียวกับการหลอมเหล็กเพื่อเชื่อมกระดูกมังกรเข้าด้วยกัน
มีส่วนหัวสามชุด, แต่ผู้เล่นบางคนต้องการเก็บกระดูกชิ้นเล็กๆของร่างกายมันไว้เป็นของที่ระลึก
โดยการหลอมทองเหลืองและเสริมเข้าไปในชิ้นส่วนเหล่านั้น, และแล้วมังกรกระดูก 3 ตัวก็เสร็จสมบูรณ์บนหอคอยกลาง
"ตอนนี้มันดูเหมือนอะไรสักอย่าง"

เหมือน ราเมงใส่กิมจิ, ซุนแด(ไส้กรอกเลือด - soondae)รวมกับต๊อกโบกี้(เกี้ยมอี๋เกาหลี - tteok-booki) และ จาจังเหมี่ยน(หมี่ราดเต้าเจี้ยว - jajangmyeon)ใส่ทังซูยุก(หมูเปรี้ยวหวาน - tangsuyuk)
มันคงให้ความสัมพันธ์กัน(chemistry)เหมือนฝัน(เลยเชียว)
ติ๊ง
โปรดตั้งชื่อประติมากรรมของท่าน

"แสนดี, จริงจัง, เย็นชา, หล่อ, รวย, สูง, จอมปีศาจพ่อมดวีด กับเหล่าลูกสมุนอันเดท!"
'แสนดี,จริงจัง,เย็นชา,หล่อ,รวย,สูง, จอมปีศาจพ่อมดวีด กับเหล่าลูกสมุนอันเดท!' ถูกต้องหรือไม่?

"เดี๋ยวๆ, มันยาวไปนิดเวลาเรียกชื่อมันจะยากไปหน่อย.."
ประติมากรรมมีมากกว่าจอมปีศาจพ่อมด, อย่างดูมไนท์, เดทไนท์, ภูตผี และอันเดทอื่นๆจากกองทัพอมตะที่ถูกแกะสลักและวางรวมกับจอมปีศาจพ่อมด
เนื่องจากวีดเป็นบุคลากรส่วนหนึ่งในเควสต่อเนื่องของกองทัพอมตะ เขาสามารถสร้างภาพลักษณ์ของอันเดทด้วยทักษะอันน่าทึ่งของเขา
"ไม่เอา ชื่อของประติมากรรมจะเป็น 'จอมปีศาจพ่อมดผู้บัญชาการเหล่าอันเดท'"
'จอมปีศาจพ่อมดผู้บัญชาการเหล่าอันเดท' ถูกต้องหรือไม่?

"ใช่"

ประติมากรรมระดับแมกนั่ม! 'จอมปีศาจพ่อมดผู้บัญชาการเหล่าอันเดท' ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
สถานที่พักผ่อนของกองทัพอมตะ, ประติมากรรมจอมปีศาจพ่อมดถูกสร้างขึ้น ณ สถานที่พักผ่อนนิรันดร์กาลของมอนสเตอร์ในตำนาน บัลข่าน!
บัลข่านเป็นผู้หนึ่งที่กระทำผิดมากมายสุดโหดเหี้ยมในทวีปเวอร์เซลล์ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า,   เขามีอิทธิพลต่อการกระแสการไหลของประวัติศาสตร์
ท่ามกลางความยากลำบากแสนสาหัสของผู้ฝึกทักษะเนโครแมนเซอร์, เขาจึงได้รับการยอมรับว่า
เป็นพ่อมดที่มีความสำเร็จยิ่งใหญ่ในการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่าเวทย์มนต์
ด้วยความเคารพสูงสุดสำหรับงานศิลป์และชื่อเสียงอันเลิศล้ำของวีด ไม่มีใครจะสามารถวิจารณ์ประติมากรรมที่ วีด, ผู้ที่นำการพักผ่อนนิรันดร์กาลมาสู่บัลข่าน, สร้างขึ้นมาได้เลย 
ค่างานศิลป์ : 8,980
คุณสมบัติพิเศษ: ผู้ที่ได้ชื่นชมประติมากรรม, 'จอมปีศาจพ่อมดผู้บัญชาการเหล่าอันเดท' จะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตและมานาเร็วขึ้น 32%
ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 16
สติปัญญา และภูมิปัญญา เพิ่มขึ้นอย่างถาวร 3
ในพื้นที่ข้างเคียง, เหล่าเนโครแมนเชอร์มีความสุข ทำให้เลเวลทักษะของพวกเขาเพิ่มขึ้น +2
อันเดทได้รับสติปัญญาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ป้องกันการโจมตีจากพวกอันเดทเร่ร่อน
ลดปริมาณการใช้มานาลง 6 %
พลังมนต์ดำแข็งแกร่งขึ้น 2%
เมื่อพลังชีวิตลดต่ำกว่า 50% ความรู้สึกของความทรหดอดทนเพิ่มขึ้น และพลังการโจมตีเพิ่มขึ้น 14% 
ผลของเอฟเฟ็คไม่ทับซ้อนกับประติมากรรมอื่นๆ
จนถึงขณะนี้ได้สร้างชิ้นผลงานระดับแมกนั่มจำนวน : 9 ชิ้น
ความเชี่ยวชาญทักษะด้านประติมากรรมเพิ่มขั้น
ความเชี่ยวชาญทักษะด้านงานหัตถศิลป์เพิ่มขึ้น
ทักษะความเข้าใจในงานประติมากรรมเพิ่มขึ้น 1 เลเวล
ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 875 
ค่าสถานะทางศิลป์เพิ่มขึ้น 33
บารมีเพิ่มขึ้น 3
ภูมิปัญญาเพิ่มขึ้น 2
สำหรับการสร้างประติมากรรมระดับแมกนั่มสำเร็จ, ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3

ทักษะความเชี่ยวชาญงานประติมากรรมขั้นสูง(advance)เลเวล 8 เพิ่มขึ้น และมันคืบคลานขึ้นอย่างช้าๆจาก 6% ถึง 14.6% 
เหล่าผู้เล่นที่เฝ้ามองจากข้างล่าง, พวกที่เฝ้ารอตั้งแต่วีดเริ่มต้นจนถึงตอนนี้, ตั้งแต่การทำประติมากรรมเริ่ม พวกเขาก็ตะโกนโห่ร้องอย่างสนุกสนาน
"นี่มันผลงานระดับแมกนั่ม!"
เหล่าเนโครแมนเซอร์ ผู้ที่กำลังระงับอารมณ์ต่างๆ เพราะผลประโยชน์ที่ได้จากประติมากรรมต่อพวกเขานั้น ทำให้ตอนนี้ พวกเขากำลังมีความสุขท่ามกลางเหล่าผู้เล่น
เป็นลิขิตของเหล่าเนโครแมนเชอร์ที่ไม่เคยพลัดพรากไปไกลจากป้อมปราการเวอร์โก้
*****
ศึกต่อต้านบัลข่าน ดี มอฟ, ได้ถูกบันทึกว่ามีเรตติ้งสูงถึง 24.3% มันกลับมาออกอากาศซ้ำ ชื่อเสียงของวีดสูงเสียดฟ้า
เขาเป็นผู้เล่นยอดนิยมอันดับหนึ่งของทวีปเวอร์เซลล์
วีด, เจ้าเมืองผู้รอบรู้แห่งแดนเหนือ
สถานีออกอากาศรายการเกมส์ ยังออกอากาศรายการพิเศษของวีดอย่างต่อเนื่อง สถานีเหล่านี้ยังคงมีเรตติ้งคงที่และผู้ชมให้การตอบรับที่ดี
มีรายงานข่าวความเปลี่ยนแปลงรายวันในป้อมปราการเวอร์โก้ด้วยเช่นกัน
เหล่าผู้เล่นในทวีปทางตอนเหนือมีความสนใจอย่างมากต่อภาพลักษณ์ของป้อมปราการเวอร์โก้, ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยึดครองโดยกองทัพอมตะ, และได้เปลี่ยนกลับมาเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์, เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆเขตในทวีป, จำนวนผู้เล่นในเขตเหนือยังถือว่าน้อยอยู่
แต่ถ้าเปรียบเทียบตั้งแต่เริ่มแรก, การเติบโตของมันไม่มีสิ่งใดให้ดูแคลนได้กับผู้เล่นจากทวีปกลางและตะวันออกก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งกับเขตเหนือเช่นกัน
แม้ว่า, เป็นเขตที่อยู่ภายใต้การปกครองของเทพสงครามวีด, ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม มันก็ยังคงอยู่ในความสนใจของผู้คน
มันเป็นเพราะการทำเกษตรกรรมได้เองและการพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าของปราสาทและหมู่บ้าน นั่นทำให้เกิดแรงบันดาลใจไม่สิ้นสุดในการผจญภัย
และจำนวนผู้เล่นที่มาเยี่ยมเยือนจากทวีปกลางก็เพิ่มขึ้นทุกวัน 
"ผู้ที่กำลังไปที่ภูเขาเรสซ์ไรท์(Leserite Mountain), โปรดมาให้ไว พวกเรากำลังจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้แล้ว"

"ตั้งกลุ่มออกล่าในเหมืองแทนรอล(Tanroa) คาดว่าต้องการคนเข้าร่วมประมาณ 200 คน มันเป็นคำขอร้องจากพวกคนแคระที่ต้องการกำจัดมอนสเตอร์ในเหมือง"
มันมีสภาพแวดล้อมดีๆมากกว่าที่คาดหวัง ดังนั้นผู้คนที่มาโมราต้าเป็นครั้งแรก พบว่ามันยากที่จะปรับตัวและสับสนอยู่บ่อยครั้ง
พวกเขามาเพื่อเรียนรู้เรื่องมหาวิหาร, หอสมุด และสิ่งก่อสร้างอื่นๆที่มีประวัติศาสตร์คล้ายกัน

พวกเขาได้ยินเรื่องราวมากมายของรูปปั้นเทพีเฟรย่า และหอคอยแห่งแสง
พวกงานประติมากรรมและงานศิลปะเป็นดั่งที่พวกเขาเคยได้ยินมา จึงชื่นชมพวกมันเพื่อตัวพวกเขา, มีงานศิลปะจำนวนมากถูกวางเกลื่อนกลาด 
เมื่อเปรียบเทียบกับเขตอื่นๆ, ศิลปะและวัฒนธรรมได้รับการดูแลเป็นพิเศษในโมราต้าและได้มีการจัดแสดงขึ้นบ่อยๆ
มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ชม รายทางเต็มไปด้วยสถานบันเทิง
เช่นเดียวกับเขตนี้ที่อยู่ภายใต้การอำนวยพรแห่งความอุดมสมบูรณ์ของวิหารเฟร์ย่า, จึงมีอาหารการกินมากมายไม่หมดสิ้น
งานเทศการจัดขึ้นบ่อยๆ และผู้ร่วมงานและบรรยากาศของงานก็สนุกสนานรื่นเริง, เหล่าผู้เล่นร้องเล่นเต้นรำที่ลานจัตุรัสจนถึงเช้าเพื่อออกล่าและทำเควส
พวกพ่อค้าที่แม้จะไม่รู้ราคาเหมาะสมของพวกแจ๊บเทม ก็มักจะขายของของพวกเขาข้างถนนและพวกมือใหม่ก็จะเล่นกันอย่างสำราญท่ามกลางหมู่พวกเขา
เสียงดัง, อึกทึกครึกโครม, ให้บรรยากาศสนุกสนาน มันทำให้เมืองดูงดงามสนใส
เมื่อคณะสำรวจประกาศการออกล่าเพื่อทำเควส, ผู้คนสัก 100 คนมารวมตัวกันทันที เหล่าผู้เล่นแสดงออกอย่างสนุกสนานขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปออกล่า
"ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงบอกว่า โมราต้าเนี่ยเหมือนสรวงสรรค์ มีการออกล่าเกิดขึ้นมากมายจริงๆ"
"ราคายังถูกอยู่เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ มีที่มากมายให้ท่องเที่ยวและธุรกิจก็เฟื่องฟูคุณจะไม่ขาดแคลนอะไรเลยที่นี่ ผมเพิ่งจะมาถึงโมราต้าเมื่อเร็วๆนี้เอง"
ดินแดนอื่นๆเต็มไปด้วยความรู้สึกเล็กๆของการกดขี่และเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆในทวีปนี้
ที่จัตุรัสเมือง พวกเขาต้องเอาใจใส่ต่อกฎระเบียบของกิลด์ต่าง, และพึงระลึกอยู่เสมอว่า อย่าได้ต่อต้านพวกเขา
เมื่อเปรียบเทียบกัน, โมราต้าให้อิสระและกระตือรือร้นสนับสนุนเรื่องการผจญภัย
วีดไม่ได้ให้ความสนใจแค่พวกศิลปิน แต่ยังดูแลจัดการให้เท่าเทียมกันสำหรับพวกนักผจญภัยด้วย 
การพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับการผจญภัยและมีผลตอบแทน จะได้รับมอบถึง 16 % ของงบประมาณ
การค้นหาพื้นที่อื่นๆขยายออกจากภายในสู่ภายนอก, เป็นสถิติที่ดีที่สุดไม่สามารถหาที่เปรียบได้และนำไปไกลลิ่ว
ในหมู่บ้านอื่นอยู่ในระดับที่ดีที่สุดก็แค่ประมาณ 2%, 3% มีบางกรณีที่ บางเมืองมีคณะผู้เล่นผู้ปกครองอื่นไม่ให้งบด้านนี้เลย
สิ่งที่น่าเสียใจคือเจ้าเมืองไม่รู้สึกถึงความต้องการของนักผจญภัย และใช้จ่ายเงินทุนของพวกเขาอย่างตระหนี่ แต่วีดคิดคนละอย่าง
จากการนำ เครื่องมือ, สมบัติ, สิ่งที่ถูกค้นพบ, สิ่งประดิษฐ์ และหนังสือของทวีปเหนือที่ถูกซ่อนไว้กลับคืนมา ทำให้เมืองเจริญพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
การพัฒนาเมืองนำมาซึ่งภาษีรายได้ที่มากขึ้นในอนาคตซึ่งวิธีนี้ถูกมองว่าเป็นทางลัด
แม้นว่าหลังจากโมราต้าเติบโตแล้ว, เงินก็ยังถูกจ่ายให้อย่างเต็มที่สำหรับเหล่านักผจญภัย
เควสในโมราต้าเกิดขึ้นเหมือนเขื่อนแตก, ผู้คนมากมายมารับเควสแล้วออกไปทำ
"ไม่มีการยับยั้งหรือหน่วงเหนี่ยว ผู้คนเต็มใจที่จะรับความเสี่ยงจากความตายและความทุกข์ทรมาน" 
มันเป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นด้านภาษีอากร!
วีด, โมราต้า, และป้อมปราการเวอร์โก้มีการเปลี่ยนแปลงในชั่วพริบตาแม้จะอยู่ภายใต้การรุกรานของมอนสเตอร์
และเหล่านักข่าววงการเกมส์ได้รายงานข่าวมากมายเกี่ยวกับมัน
แต่เมื่อเร็วๆนี้มีเหตุการณ์ที่ทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์ต้องตกอยู่ในอาการตกตะลึงขนานใหญ่ 
กิลล์เฮอร์มีสทำสงครามสายฟ้าแลบกับอาณาจักรคัลลาร์มอร์!
สงครามท้องถิ่นอาจเกิดขึ้นบ่อยๆ, แต่พวกเขาก็แค่ยึดครองป้อมเล็กๆ หรือปราสาท และพวกเขาสนใจแต่เขตแดนของพวกเขา
"กิลล์เฮอร์มีสบุกโจมตีอย่างรวดเร็วอีกครั้ง"
"สถานการณ์ปัจจุบันช่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง กองทัพของกิลล์เฮอร์มีสบดขยี้กองทหารรักษาการณ์ชายแดนอาณาจักคัลลามอร์ได้อย่างเด็ดขาด" 
"บาร์ดเรย์สามารถสังเกตเห็นได้จากทัพหน้า เขากำลังเข้าร่วมสงครามด้วยตัวเขาเอง" 
"กองกำลังอัศวินดำ(The Black Knights forces), ความแข็งแกร่งของพวกเขาสุดประมาณ! จับตาดูการกระทำของบาร์ดเรย์ด้วยตัวคุณเองเลย"

"ผู้เล่นของกิลล์เฮอร์มีสประมาณหนึ่งแสนคนเข้าจู่โจมอย่ารวดเร็ว มนต์ทั้งหลายของพวกผู้วิเศษกำลังสาดกระจายและทุ่มเทลงบนตำแหน่งของพวกศัตรู!"
พละกำลังอันมหึมาของกิลล์เฮอร์มีสกำลังถูกแพร่สัญญาณออกอากาศ 
ระหว่างที่อาณาจักรฮาร์เว่นกำลังปองร้ายต่ออาณาจักรคัลลามอร์, พวกเขาพยายามที่จะรวบเขตแดนทั้งหมดเข้าเป็นดินแดนของพวกเขา
เพื่อให้ได้อู่ข้าวอู่น้ำที่กว้างใหญ่และเทคโนโลยีจากอาณาจักรคัลมอร์, อาณาจักรฮาร์เว่นจะกลายเป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดบนทวีปกลาง
กิลล์เฮอร์มีสได้เริ่มสงครามเพื่อสร้างตัวเองขึ้นใหม่ในฐานะประเทศที่ไม่มีใครสามารถยืนหยัดต้านทานได้
ลองจิตนาการไปในอนาคตถึงความแข็งแกร่งของกองทัพพวกเขา, ไม่มีผู้เล่นคนใดจะซ่อนความประหลาดใจของพวกเขาได้
*****
วีดได้ยินข่าวกิลล์เฮอร์มีสเข้ายึดครองและมีชัยเหนืออาณาจักรคัลลาร์มอร์จากในป้อมปราการเวอร์โก้
"เอ้านี่, เรียบร้อยแล้ว 34 เหรียญทอง"
"ขอบคุณครับ, ผมจะใช้มันอย่างระมัดระวังที่สุดเลย"
สำหรับวีด, มันเป็นธุรกิจเหมือนอย่างเคย เขาใช้ทักษะช่างตีเหล็กและการตัดเย็บในการทำธุรกิจ
ถ้าเขาไม่ได้ฝึกฝนทักษะช่างตีเหล็ก หรือ การตัดเย็บ เป็นเวลานาน, มันจะทำให้ระดับทักษะของเขาลดลง
ขณะที่กำลังทำประติมากรรม, เขาได้ยินเสียงพ่อค้าพูดจาเหลวไหลใกล้ๆบริเวณนั้น
"กิลล์เฮอร์มีสมีกองทัพใหญ่โตจริงๆ, อำนาจการโจมตีที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาจะทำให้คุณอ้าปากค้าง และตอนนี้พวกเขากำลังเข้าครอบครองเหนืออาณาจักรคัลลามอร์ทั้งหมดแล้ว
วีด, ในขณะนี้, กำลังใช้ไม้ชนิดพิเศษแกะสลักรูปนกอินทรีย์
เขาพยายามเก็บความมีชีวิดชีวาของนกอินทรีย์, ต้องการแกะสลักอย่างละเอียดและประณีตเพื่อให้มันแสดงความโดดเด่นยามเมื่อมันโบยบินอยู่ในท้องฟ้า และอิสรภาพของมัน
ระหว่างที่เขากำลังเงี่ยหูฟังการสนทนาของพวกพ่อค้า, มือของเขาหยุดนิ่งแข็งเกร็ง

"อาณาจักรคัลลามอร์จะสามารถยืนหยัดได้นานเท่าไร?"
"พวกเขาทำไม่ได้ ผมก็ไม่รู้จริงๆกิลล์เฮอร์มีสกำลังซ่อนกองกำลังขนาดใหญ่เอาไว้ ปัจจุบันกองทหารรักษาการณ์ชายแดนอาณาจักคัลลาร์มอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น ผู้คนประมาณ หกหมื่นคน, เหลือรอดไม่มากนัก"
แคร๊ก!
วีดทำพลาดเสียแล้วด้วยมีดแกะสลักทำให้เกิดรอยยาวด้านข้างของประติมากรรม
"กองทหารม้าเลเวล 400 ของกิลล์เฮอร์มีสเดินทางล่วงหน้ามา, พวกเขาใช้เวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมงทำลายและยึดครองป้อมฮอสแลน แม้แต่สื่อก็ยังไม่รู้ว่ากองทัพกิลล์เฮอร์มิสแข็งแกร่งถึงเพียงนี้"
"คุณคิดว่าพวกเขาแข็งแกร่งจริงๆหรือ?"
"มันไม่ใช่เรื่องพูดเกินจริงที่จะบอกว่าเป็นกองทัพภาคพื้นดินที่แข็งแกร่งที่สุด,ด้วยจำนวนผู้ที่เข้าร่วมในสงครามก็...เฮ้อ,พูดไม่ออก แค่ได้ยินชื่อคนที่เข้าร่วมรบ คุณต้องนึกถึงตำแหน่งพวกเขาออก, พวกเขาอยู่ในสายพวกนักเล่นที่แข็งแกร่ง"(สายแข็ง)
"แต่ต่อต้านท่านวีดหรือ?"
"ก็...แม้จะเป็นท่านวีดก็คงต้องพ่ายสักครั้งละเมื่อต้องปะทะกับกิลเฮอร์มีส"
"ถึงท่านวีดจะเป็นเทพสงคราม, เขาแพ้กิลเฮอร์มีสมาสองครั้งแล้ว"
วีดเพียงทำงานประติมากรรมของเขาอย่างเงียบๆ งานประติมากรรมถูกสร้างในช่วงอารมณ์ที่ปั่นป่วน
มันจึงเป็นนกอินทรีย์หัวล้านอารมณ์หงุดหงิด! โอ้ว ประติมากรมากชื่อเสียง, ชิ้นงานที่ไม่น่าพอใจถูกสร้างขึ้น
ค่าชื่อเสียงลดลง 15

มันค่อยรู้สึกผ่อนคลายเมื่อเขาได้ทำงานประติมากรรมที่มุมห่างไกลจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของพวกพ่อค้า
ป้อมปราการเวอร์โก้แม้กระทั่งโรงแรมจิ้งหรีดก็ยังไม่มี จากวีดีโอที่ออกอากาศก็ไม่เห็น
แต่ในส่วนภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของกิลเฮอร์มีสมันสามารถรู้สึกได้
เงินลงทุนจำนวนมหาศาลจำเป็นต้องใช้ในการจัดตั้งกองทุนให้กับกองกำลังเพื่อยึดครองปราสาทหรือเมืองใหญ่
แต่สำหรับวีด, มีเพียงภาษีเงินได้รายเดือนเป็นจำนวนมหาศาลเท่านั้นหลังจากที่โมราต้ามีการพัฒนาอย่างมโหฬาร

และ อาณาจักรฮาร์เวนกล่าวได้ว่าเป็นไข่แดงของทวีปกลาง และกำลังถูกครอบครอง จากคำกล่าวทั้งมวลล้วนกล่าวถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา
เมื่อกิลเฮอร์มีสยิ่งใหญ่ขึ้น, อำนาจของวีดก็เล็กกระจ้อยร่อย
มันเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถเดินท่องไปทั่วทวีปกลางได้อย่างอิสระอีกต่อไป, นี่แค่เพียงจิตนาการว่าถ้ากิลเฮอร์มีสสามารถครองครองทวีปกลางได้อย่างสมบูรณ์!
'มันคงจะเป็นเรื่องของเวลาจนกว่าพวกด้อยพัฒนาทางเหนือ, ตะวันออก, ตะวันตก, และใต้ที่จะถูกยึดต่อไป'
อย่างที่วีดมักออกล่าเพียงลำพัง
ดังนั้น ในตอนนี้ พวกมือสังหารสามารถตามหาเขาได้ทุกเมื่อ
เมื่อป้อมปราการเวอร์โก้ เต็มไปด้วยผู้เล่นที่จะอยู่ข้างวีด, โอกาสลงมือของมือสังหารจึงมีจำกัด
แต่ในดินแดนอื่น, พวกเขาจะได้กลิ่นเงินค่าหัวของวีด และเป็นเหตุให้เกิดความโกลาหลกันไปทั่ว
'สิ่งเดียวที่เหลือสำหรับฉันคือเควสมาสเตอร์ประติมากรรมและมรดกความลับสุดท้ายของการแกะสลัก!
ถ้ากิลล์เออร์มีสหรือกิลล์อื่นที่มีชื่อเสียง ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าในปัจจุบัน, ความสงบสันติคงไม่อาจเกิดขึ้นได้ 
ในขณะนี้สิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำได้คือตระเวนไปในทวีป, ซ่อนตัวตนของฉันด้วยประติมากรรมจำแลง และเปลี่ยนรูปโฉมของฉันบ่อยๆ'
ดังนั้นวีดจึงเตรียมตัวออกเดินทาง เพื่อทำให้ทักษะแกะสลักกลายเป็นขั้นมาสเตอร์ เขาต้องการเวลาเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย 
การได้รับมรดกความลับสุดท้ายของการแกะสลักน่าจะเป็นเรื่องดี, แต่การจะเป็นปรมาจารย์ด้านการแกะสลักจัดเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นวีดมีแผนที่จะไปพบ ปรมาจารย์ประติมากร ซาฮับ
*****
ป่ากกแดง (The Red Reed Forest ป่าต้นอ้อแดง)
ณ บริเวณพื้นที่ในเควสที่ราชินีนางฟ้าเทเนดอน(the queen of fairies Teneidon)ได้กล่าวถึง, พวกมือสังหารเฝ้ารอและเตรียมการซุ่มโจมตีอยู่
ตามกฎ พวกเขาจะไม่คุยกันเสียงดังแต่จะใช้เพียงการกระซิบ

-         -แกคิดว่าวีดมันจะมาที่นี่เมื่อไร?
-         -ถ้าแกรอเดี๋ยวเขาก็มา

พวกมือสังหารเคลื่อนกำลังและเตรียมตัวอยู่ในพงหญ้า และบนต้นไม้ พวกเขาคอยด้วยความเบื่อหน่าย
มือสังหารที่มีเลเวลสูงชอบฆ่าคนที่แข็งแกร่งมากกว่าทำการล่าแบบธรรมดา
เพราะมันทำให้พวกเขาได้ค่าประสบการณ์มากและได้เรียนรู้ทักษะเพิ่มมากขึ้น
เพื่อที่จะฆ่าวีด พวกเขามุ่งหน้าไปยังพื้นที่เริ่มต้นของเควสและรอคอยเขา
"พวกเขาบอกว่าวีดจะมาที่นี่,ใช่ไหม?"
"ถ้าพวกเราจับวีดได้พวกเราคงได้รับรางวัลจากกิลล์เฮอร์มีสแน่นอน ฉันจะเปลี่ยนอุปกรณ์ของฉันทั้งหมดและยังจะขอหนังสือทักษะด้วย"
"มันเป็นเทพสงครามวีด พอวีดปรากฏตัว พวกเราต้องรุมเข้าไปโจมตีมันพร้อมกัน"
"ไม่ต้องห่วงเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรี เมื่อพวกเราฆ่ามันได้แล้ว พวกเราเอารางวัลมาแบ่งเท่าๆกัน"
แม้แต่นักล่าเงินรางวัล, พยายามทำให้โชคในครั้งนี้สำเร็จเพื่อเงินรางวัล, พวกเขากำลังลาดตระเวนรอบๆป่ากกแดง(ป่าต้นอ้อแดง)
จริงๆแล้วมีพวกที่ตรงไปตรงมาไม่มากนักท่ามกลางพวกนักล่าเงินรางวัล (นักล่าฆ่าหัว)
พวกเขามักหัวเราะขณะที่พวกเขาทรยศหรือหลอกลวงคู่หูโดยไม่รู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย
พวกเขารู้ว่าอาชีพนี้มักโดนดูถูกเหยียดหยามเป็นปรกติ แต่บัดนี้พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะร่วมมือกันเพื่อความแข็งแกร่งของพวกเขา
"ขอเพียงให้วีดมา..."
"มันต้องตายแน่นอน!"
"คุ หุ หุ, ไปรับเงินรางวัลของพวกเรากันเถอะและสมัครเข้ากิลเฮอร์มีส"
"แล้วพวกเขาจะยอมรับพวกเราไหม?"

"พวกเขาบอกกิลเฮอร์มีสรับทุกคน ถ้าแกมีความแข็งแกร่งพอ"
"อย่างนั้นพวกเราต้องเข้าได้แน่นอน เพียงแค่ลงชื่อสมัครเข้า พวกเราก็จะมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และสุขสบาย"
*****
ลี ฮุน ล๊อกอินเข้า บอร์ดข่าวสารของ ดาร์กเกมเมอร์
เขาพยายามรวบรวมข่าวสารเรื่องเกี่ยวกับ กราพาส (Grapass) หนึ่งในสิบพื้นที่ต้องห้ามของทวีป, ซึ่งเป็นที่ที่ซาฮับเดินทางไป
"จะมีข้อมูลดีๆที่นี่ไหมนะ?"
มันนานมาแล้วตั้งแต่เขาได้รับเควสจากนางสนองพระโอษฐ์ชรา  
วีดคาดหวังให้มีผู้คนจำนวนมากไปสำรวจพื้นที่และมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ตอนนั้น
แต่ในความเป็นจริง, มีผู้คนมากมายที่ไปท้าทายดินแดนต้องห้ามเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
แล้วพวกเขาก็มีเลเวล 100 กับ 200กว่าๆ, วีดข้ามเรื่องของพวกนี้ไปอย่างไว
เพียงแค่มองผ่านๆ, มีเรื่องมากมายที่เกี่ยวกับการถูกกวาดล้างราบเรียบโดยมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง และพวกเขาจะกลับไปลองอีกครั้งทีหลัง
ฉันไม่น่ามาที่นี่เลย ล่าตอนเช้ามันก็ยังโอเคแต่พอตกกลางคืน, มันน่ากลัวจริงๆ
นักผจญภัยเลเวล 351 มากับปาร์ตี้ 7 คนที่เลเวลใกล้กัน
มีหนอนตัวใหญ่ในหนองน้ำ( wasteland-พื้นที่ชุ่มน้ำ)
เมื่อคุณพยายามเข้าใกล้, หนอนตัวใหญ่จะโผล่ขึ้นมาพยายามกินคุณ, ฉะนั้นอย่าได้เข้าใกล้มัน
นักผจญภัย เลเวล 369

เขตกราพาสไม่เป็นที่รู้จัก, ดังนั้นเราเตรียมกลุ่มปาร์ตี้เพื่อเพิ่มเลเวลในที่ที่พวกเราจะไม่ไปแออัดกับคนอื่นๆ
พวกเราเป็น 7 ดาร์คเกมเมอร์ ผู้มีประสบการณ์
พื้นที่ราบมีกองหิน, สามารถทำการล่าได้
ในเวลากลางคืน ฝูงปีศาจจะออกมายั้วเยี้ย, ดังนั้นถ้าคุณจะออกล่าที่นี่คุณต้องมีสัมผัสไวเป็นพิเศษ
ถ้าคุณชนะ , พวกมันจะดรอป ดวงตราเวทย์มนต์ (magic seals ตราประทับเวทย์) และเหล่าอัญมณี (Jewels - จิว)
นักผจญภัย เลเวล 382 สมาชิกปาร์ตี้ 7 คน

มันดูเหมือนยังมีการออกล่าอยู่บ้างในเขตกราพาส

เมื่อเวลาผ่านมาถึง ณ จุดๆหนึ่ง, หลังจากเมื่อเลเวลขยับไปได้ระดับหนึ่งแล้ว, การหาพื้นที่ออกล่าใหม่ๆกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
นี่เป็นความจริงแท้สำหรับเหล่าดาร์กเกมเมอร์, สำหรับสถานที่ที่จะพัฒนาตัวตนของพวกเขาและสถานที่มอนสเตอร์ดรอปเป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้นดูเหมือนว่าจะมีหลายคนพยายามออกไปผจญภัยในเขตกราพาส ในช่วงไม่กี่วันนี้ พวกผู้เล่น เลเวล 100 หรือ 200 เข้ามาในเขตโดยไม่หวาดหวั่น และถูกจัดการจนหมดสิ้น
ปัจจุบัน, พวกเลเวล 300 สามารถจัดการเขตนี้ด้วยความยากลำบากอยู่บ้าง
ท่ามกลางเหล่าดาร์กเกมเมอร์มีผู้เล่นมากมายที่มีเลเวลสูงกว่า 400, แต่พวกเขาไม่โพสข่าวสารบนกระดานข่าวเหล่านี้
ด้วยเลเวลของพวกเขา, ข่าวสารเรื่องวิธีการออกล่า หรือพื้นที่ออกล่า เป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นพวกเขาจะไม่เปิดเผยข้อมูลมากนัก
ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากลำบากสำหรับวิถีการดำรงอยู่ของดาร์เกมเมอร์อย่างพวกเขา
การจัดอันดับของสมาคมขึ้นอยู่กับการจัดหาข้อมูลพื้นฐานของเควสหรือข้อมูลดันเจี้ยน, มันไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเขา 
"ที่เลเวล 400...ดูแล้วจุดนี้มันน่าจะจัดการได้"
ในเขตกราพาส, ดวงตราเวทย์มนต์ และอัญมณี สามารถได้รับผ่านทางมอนสเตอร์ดรอป มันมีราคาสูงพอๆกับมิธลิธ
มันมีการพูดว่ามีหลายกลุ่มที่มีความสามารถพิเศษในการออกล่า ทำการสำรวจกราพาส เพื่ออัญมณีเหล่านั้น และวัตถุเวทย์
กล่าวได้ว่า กลุ่มออกล่าพิเศษเหล่านี้ เป็นพวกดาร์เกมเมอร์ที่เก่งที่สุด และจะว่าเป็นพวกนักรบก็ไม่น่าจะเกินจริง
โอกาสที่จะพบพวกเขาคงจะยากยิ่ง เพราะพวกเขามักจะอยู่ใกล้พื้นที่ที่เจอพวกมอนสเตอร์ได้บ่อยๆ
"มันยังดูเหมือนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปรมาจารย์ประติมากรซาฮับ..."
ใครบางคนได้พบกับซาฮับ, หรือบางทีอาจจะรู้บ้านที่เขาอยู่อาศัยอาจจะเป็นตอนท้ายๆของข้อมูลก็ได้! เขาก็จะสามารถจบเควสได้ง่ายดาย, แต่แม้ไม่มีโชคเช่นนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกว่าการหาซาฮับจะเป็นเรื่องยาก
"มนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางเหล่ามอนสเตอร์ในเขตกราพาส จะต้องเป็นคนที่น่าสนใจมากๆ ฉันควรจะขี่หลังเจ้าไวเวินและออกค้นหานอกเขต..หรือถ้าท้องฟ้าเต็มไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์ ฉันควรจะเปลี่ยนเป็นอีกาแล้วค้นหาอย่างนั้นดีกว่า"
ลี ฮุน ชื่นชมตัวเอง ตั้งแต่เขาทำเควสที่เป็นไปไม่ได้สำเร็จตั้งแต่แรก, เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไปหรือกลัวที่จะไปกราพาส, หนึ่งในสิบเขตต้องห้าม
"มันใกล้มากแล้ว และดีกว่ามากๆ เมื่อเทียบกับการเดินเรือไปลาสฟาลังค์(Jigolaths)"
เมื่อเผชิญหน้ากับความยากลำบากใดๆ, ไม่ว่าฟ้าจะถล่มหรือดินทลาย, เขามีความมั่นใจในตัวเองอย่างน่าทึ่ง เขาสามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้!
*****
วีดเรียกพวกประติมากรรมประทานชีพ ระหว่างนั้นปิงหลงกำลังออกล่า, พวกไวเวิน, ฟินิกซ์, โกล์มินิ, เจ้าเหลือง, วิหกทองคำ และวิหกเงิน ทั้งหมดล้วนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง 
เลเวลของปิงหลง คือ 470, นอกจากพวกไวเวินแล้ว, พวกประติมากรรมประทานชีพตัวอื่นๆมีระดับอยู่ราวๆช่วงกลางถึงปลายๆ 400 ผ่านความพยายามอย่างต่อเนื่องของพวกมัน (โดยมีท่านวีดเป็นแรงขับดัน ชิมิ - ประชดใช่ไหมเนี่ย)
"ฉันอยากจะบอกข่าวดีนิดหน่อยให้พวกแก"
วีดต้องการจะเพิ่มขวัญกำลังใจให้พวกประติมากรรมประทานชีพที่เหนื่อยล้า
"ตอนนี้เราจะพักจากการออกล่า"
"โกล์! โกล์!"
โกล์มินิ,ถึงแม้ว่าจะดีใจสุดขีดกับข่าวนี้, แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกได้ ถ้ามันแสดงอาการว่าดีใจสุดๆ
มันอาจจะเห็นว่าเป็นความผิดหรืออะไรก็ได้ที่จะทำให้เกิดความทุกข์ทรมานมากขึ้นในอนาคต (โกล์มินิ ฉลาดขึ้นนะแก)
"มูออออออออ ถ้าเป็นคำสั่งของนายท่าน ผมจำต้องเชื่อฟัง" (เจ้าเหลือง ประจบสุดๆ หรือมันฉลาดกว่า?)
 (เพราะ)อยู่ในระเบียบวินัยของเจ้านายที่นิสัยแสนร้ายกาจ, พวกมันเลยได้เรียนรู้วิธีหาข้ออ้างง่ายๆ(เบๆ)และการทรยศหักหลัง
เจ้าเหลืองทำเป็นไม่สนใจ ทำเหมือนเล็มหญ้านิดๆหน่อยๆแถวๆนั้น, แต่ชันหูคอยฟังว่าจะมีโกหกอะไรอีก
"ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่เรื่องตลกหรือไม่ได้มีสัญญิง สัญญาอะไรหรอก"
จนกระทั่งบัดนี้วีดยังคงหลอกลวง, ยักยอกและเอาเปรียบพวกมันอย่างหนัก แต่เขาไม่เคยโกหกสักครั้ง
"เอาละ, เราออกเดินทางกันดีกว่า"
เดินทาง!
ออกเดินไปตามทางและพบผู้คนใหม่ๆ, สนุกกับการเดินทางทุกๆวันเป็นประจำ ฟินิกซ์พ่นไฟออกมาจากจะงอยปากของมันด้วยความดีใจ
"คุ รา ร่า รา ร่า จริงๆแล้วพวกเราจะไปไหนกัน?"
ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนๆกันมากนักระหว่างวีดกับพวกประติมากรรมประทานชีพ, ปิงหลงยังคงมีแฮปปี้ดี
"มันคงจะดีนะถ้าเป็นสถานที่ที่มีหญ้าสดๆ"
สำหรับเจ้าเหลือง ถ้าหลังมันอุ่นและท้องอิ่ม, ที่ไหนๆก็คือสวรรค์ มันก็ดูจะเป็นความคิดที่ไม่เลว
ท่องเที่ยวไปให้ทั่วกินอาหารให้อร่อยในช่วงวันหยุดพักผ่อน
ส่วนเจ้าวิหกทอง และเจ้าวิหกเงิน, ยังไงก็ยังเป็นธรรมชาติของนกที่มักจะมีความสุขอยู่เสมอเพราะพวกมันท่องไปทั่วได้อย่างอิสระ
วีดพูดต่อ
"ที่ไหนที่เราจะไปนะเหรอ, มันคือกราพาส... หนึ่งในสิบเขตต้องห้ามบนทวีป เอาละพวกเราทั้งหมด ไปกันได้แล้ว!"
มันไม่ใช่การเดินทางเฉยๆแล้ว, ด้วยวลี 'ออกจากบ้านเป็นทุกข์' (leaving home is suffering) ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าจริง
เหล่าประติมากรรมประทานชีพหมดความอยากที่จะไปทันทีทันใด
"ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการขยันออกล่าที่นี่ แล้วเจ้านายทำไมไม่ไปคนเดียวละ?"
ปิงหลงพูดขณะที่กระพริบนัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์. แต่มันใช้กับวีดไม่ได้หรอก
"พวกเราต้องไปด้วยกัน แกทนไม่ได้หรอกที่ไม่ได้มาร่วมการเดินทางอันแสนสนุกนี่"
"มีพวกมอนสเตอร์เยอะแยะเลยที่นี่ ข้าคิดว่าข้ามีดินแดนใหม่ที่ต้องปกป้องดินแดนแห่งใหม่ของเจ้านาย  ข้า, ปิงหลง จะปกป้องดินแดนนี้อย่างดีจากการต่อต้านของพวกมอนสเตอร์"
"แกไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น พวกมอนสเตอร์ก็แค่ต้องการกินและมีชีวิต พวกมันทำเพื่อความอยู่รอด, ดังนั้นอย่าไปดูถูกพวกมัน"
ความเมตตาปราณีต่อเหล่ามอนสเตอร์ก็ปรากฏขึ้นทันใด

"โมราต้าได้รับการปกป้องอย่างดีจากเจ้าอิมูกิดำและราชันย์ไฮดร้า, ดังนั้นฉันจึงเรียกประติมากรรมประทานชีพตัวอื่นๆมาที่นี่"
อิมูกิดำและราชันย์ไฮดร้าเป็นประติมากรรมที่มีการแกะสลักขึ้นเมื่อครั้งในอดีตตอนที่มีการสู้รบต่อต้านกลุ่มพันธมิตรแดนเหนือ
หลังจากนั้นพวกมันก็จัดการพวกมอนสเตอร์ใกล้ๆโมราต้าจนหมด ทำให้บ้านเมืองสงบเงียบเรียบร้อย
พวกมันค่อยๆพัฒนาเลเวลขึ้นมากและกลายเป็นพวกร่ำรวย
เจ้าอิมูกิดำมีด้านฉลาดกลิ้งกลอกและสุขุม
เจ้าวิหกเงินนินทาทุกๆเรื่อง อย่างเจ้าอิมูกิดำอ้างสถานะมอนสเตอร์หายากของมันเพื่อยึดครองถ้ำและเริ่มสะสมทรัพย์สมบัติของตัวเองจนกองพะเนินเป็นภูเขาเลยกาภายในถ้ำของมัน
"มันช่างเลวบริสุทธิ์, ไอ้ปีศาจงูดำติดปีก ถ้ามันตัวเล็กๆเหมือนหนอนฉันจะกลืนมันทั้งตัวเลย จิ๊บ จิ๊บ! ฉันคิดว่า น้ำหนักฉันจะเพิ่ม ฉันเลยยั้งตัวเองไว้ก่อน ตอนฉันขอให้มันเอาอาหารดีๆเยี่ยมๆของมันให้ฉันบ้าง, มันก็ไม่ให้ หรือเมื่อฉันพยายามจะสร้างรังในถ้ำของมัน, มันก็ไม่ให้ฉันเข้าไป ฉันว่ามันต้องซ่อนของบางอย่างไว้"
"ใช่, ใช่ วิหกทองรู้บ้างไหม มันเป็นอะไร?"
"จริงๆ ฉันก็ไม่ได้สนใจจริงจังหรอกนะ แต่! เขาปฏิบัติดูแลฉันอย่างดี ฉันคิดว่าเขาล่าพวกมอนสเตอร์มา ฉันยังคิดว่าเจ้าเหลืองออกจะขี้เกียจด้วยซ้ำ"
"คอยติดตามการกระทำของสหายพวกเจ้าเอาไว้ละกัน"
เพื่อป้องกันไม่ให้ความสงบเรียบร้อยแย่ลง, มันคงจะดีถ้ามีประติมากรรมประทานชีพคอยป้องกันป้อมปราการเวอร์โก้
และนี่เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่แม้แต่ตัวเดียว เขาสามารถปล่อยให้พวกประติมากรรมประทานชีพที่นำมาจากลาสฟาลังค์ทำแทน
พวกมันอาจยอมรับได้ที่จะร่วมกับพลเมืองเพื่อป้องกันกำแพงป้อม, เป็นไปได้ว่าซ่อนพวกมันแยกๆกันไว้ในป่า หรือให้ค้นหาและทำลายรังพวกมอนสเตอร์ 
วีดเหลือบไปมองป้อมปราการเวอร์โก้
กำแพงป้อมปราการค่อยๆแข็งแรงและหนาขึ้น, มีสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารถูกสร้างมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกปิดล้อม
เหล่าทหารเริ่มถูกฝึกให้ป้องกันป้อมปราการและขับไล่พวกมอนสเตอร์
ยิ่งกว่าการพัฒนาเศรษฐกิจ, ตอนนี้ ความปลอดภัยต้องมาก่อน
พวกผู้เล่นยังคงได้รับเควสออกล่า ดังนั้นพวกมอนสเตอร์ที่กำลังจับกลุ่มกันอยู่บริเวณใกล้เคียงจะค่อยๆลดลง
พวกเขาจะต้องเพิ่มเลเวลและเริ่มสุมของดรอปที่ได้จากการผจญภัย
และเมื่อกองทัพได้เตรียมพร้อมความแข็งแกร่งของพวกเขาแล้ว, พื้นที่ว่างเปล่าและเหมืองทั้งหลายก็สามารถเข้าควบคุมและพัฒนาได้ทันที
ขณะนั้น ไว-ทรี บ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ มันเจตนาทำเพื่อให้วีดได้ยิน
"พวกเราตัดสินใจว่าจะมีชีวิดอิสระ  อีกนานเท่าไรที่พวกเราต้องติดตามเจ้านาย?" 
ไวทรีพูดจากความคาดหวังของเขาที่อยากจะมีอิสระเต็มที่เสียที
"ให้ทุกๆชีวิตได้มีความสุขร่วมกันเถอะ การออกล่าและแม้การออกเดินทางแบบนี้..มันจะเป็นความสุขชั่วชีวิต  แล้วแกไม่คิดบ้างหรือว่าพวกเราจะได้ไปหนึ่งในสิบเขตต้องห้ามด้วยกันอย่างน้อยก็สักครั้ง?" 
"..."
วีดกำลังท้าทายพวกประติมากรรมประทานชีพเพื่อเบี่ยงเบนแผนการร้ายของเขา
*****
"ผมได้ยินมาว่าวันนี้ท่านวีด??พักอยู่ที่นี่
"ผมอยากขอให้ท่านทำดาบให้ผม...ช่างตีเหล็กคนอื่นๆในโมราต้าไม่สามารถทำมันได้, แต่ถ้าท่านวีดทำมัน, มันคงจะออกมาดีกว่า"
พวกผู้เล่นตั้งใจมาจากโมราต้าถึงป้อมปราการเวอร์โก้เพื่อปรับปรุงอุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขา
อุปกรณ์สวมใส่ที่วีดทำมีการตกแต่งได้ละเอียดอ่อนสวยงาม
ใช้ทักษะการแกะสลักลงในดาบ, ชุดเกราะ, และรองเท้า วีดจะทำการแกะพวกลวดลายพิเศษ
และแน่นอนค่าแรงต้องแพงกว่าช่างตีเหล็กคนอื่นๆ
แต่ด้วยการเลื่อนทักษะงานฝีมือไปเลเวล 8, งานจึงไร้ตำหนิและความทนทานก็สูง
พวกเขายังสามารถคุยโอ้อวดได้ว่าอุปกรณ์ของพวกเขาทำโดยวีด ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามอย่างยิ่งเพื่อมาที่นี่
พวกช่างตีเหล็กหรือข่างตัดเย็บมีทักษะขั้นต้นและมีชื่อเสียง หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรับงานเพิ่มอีกเลย
แต่มันเป็นงานใช้แรงที่น่าเบื่อ โอกาสที่จะเบื่อหน่ายกับมันก็สูง
"อะไรนะ? ท่านวีดไม่อยู่แล้ว?
พวกเราอุตส่าห์เดินทางมาจากโมราต้า...เขาออกไปทำเควสในป่ากกแดง(ป่าต้นอ้อแดง)แล้วอย่างนั้นหรือ?" 
วีดได้หายไปจากป้อมปราการเวอร์โก้เสียแล้ว
แต่กระนั้นงานของพวกช่างก่อสร้าง ช่างซ่อมแซมยังคงดำเนินต่อไป และพวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์, พวกนักบวช,
พวกนักดาบ และเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ ทั้งหมดกำลังวุ่นวายกับการทำเควส หรือออกล่าด้วยกันอยู่
สำหรับพลเมืองที่มากันมากมายจากโมราต้า, ข้าวของเครื่องใช้จำเป็นที่พวกเขาต้องการ ก็ถูกเติมเต็มโดยเหล่าพ่อค้า  
แต่กับพวกเอลฟ์, คนเถื่อน, คนแคระ, และพวกภูติ ที่มาเยี่ยมเยือนป้อมปราการเวอร์โก้บ่อยๆ, ก็ทำให้มีเควสหลากหลายเกิดขึ้น
และเหล่านักผจญภัยเสร็จสิ้นการต่อสู้มากมาย, พวกพ่อค้าก็เริ่มพอใจที่จะตั้งร้านค้าเบ็ดเตล็ด, ร้านค้าอาวุธ, ทำเสื้อเกราะ, ค้ายาสมุนไพร และค้าอัญมณี +++++++++++++
"มันเป็นดินแดนของท่านวีด, พวกเราต้องกระจายความศรัทธาไปยังพลเมืองที่ย้ายมาจากโมราต้า"
วิหารเทพีเฟร์ย่าเริ่มก่อสร้างสาขาใหม่ของพวกเขา
ผู้เล่นไม่มีข่าวสารที่ชัดเจนของวีด ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่คาดเดา
"ผมคิดว่าเขาคงไปทำเควสป่ากกแดง" (ป่าต้นอ้อแดง)
"เขาไม่ได้เกรงกลัวกิลล์เฮอร์มีส" 
"ท่านวีดเป็นคนแปลกจริงๆ"
การแพร่กระจายข่าวลือนี้และนักล่าเงินรางวัลรอคอยด้วยใจจดใจจ่อมากขึ้น
กิลล์เฮอร์มีส, ตระเตรียมไว้ทุกสถานการณ์, ส่งกองกำลังจู่โจมไปที่ป่ากกแดง(ป่าต้นอ้อแดง)เช่นกัน, คิดๆดูแล้วความพ่ายแพ้ครั้งที่สามของวีดไม่อาจเป็นไปได้
*****
ซอยูนกำลังออกล่าและตระเวนลึกเข้าไปในตอนเหนือ เธอรู้สึกว่ากำลังของเธอไม่เพียงพอยามเมื่อเธอติดตามวีดไปในลาสฟาร์ลังค์
'ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้น'
เธอมีประสบการณ์เรื่องความยากลำบากในการออกล่าเพียงลำพังระหว่างการสำรวจดันเจี้ยนหลายแห่ง
ด้วยสถานะเบอร์เซิร์กเกอร์(นักรบวิปลาส)เธอต้องโดดเดี่ยวอยู่ตลอดเวลาดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรพิเศษ
ต้องตกอยู่ในกับดัก, ถูกโจมตีโดยเหล่ามอนสเตอร์, และมึนเมาจากสิ่งมีพิษ
คลาสเบอร์เซิร์กเกอร์ต้องข้ามผ่านความกลัวตาย, ต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อที่จะเติบโตขึ้น
ซอยูนเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์, ต่อสู้กับพวกมันและกลับออกมาอย่างมีชีวิต
'ฉันต้องกลับมาอีก'
ด้วยความรู้สึกเช่นนี้ ซอยูนได้เพิ่มเลเวลของเธอ ทั้งยังทำให้ทักษะการโจมตีทั้งหลายของเธอสมบูรณ์
ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องวีดยามเมื่อบางสิ่งที่อันตรายได้บังเกิดขึ้น
เธอยังคงคิดที่จะติดตามเขาไปทำเควสจากราชินีภูตเทเนดอน 
บางครั้งเธอส่งกระซิบถึงวีด
-         -ฉันพบดันเจี้ยนใหม่ มีพวกมอนสเตอร์มากมาย พวกมันมีเลเวลสูง มันเป็นสถานที่ดีที่จะออกล่า
ยามที่วีดไม่ยุ่ง, เขาจะตอบอย่างไว
-         วีด-ยินดีด้วย
และเมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเย็นนั้นเอง
-         -ระหว่างที่กำลังออกล่ามอนสเตอร์ ฉันพบดาบสั้น มันดูดีกว่าอันที่ฉันใช้ก่อนหน้านี้
-         วีด-ดีใจที่ได้ยิน
และตอนรับประทานอาหารเช้า
-         -ฉันล่าบอสมอนสเตอร์ด้วยนะ
-         วีด-ปะ, ปลอดภัยนะ?

-         -มันก็ยากอยู่, หลังจากจัดการพวกมอนสเตอร์คุ้มกันตัวหลังได้ ฉันก็ทำสำเร็จ
เผชิญหน้ากับความยากลำบากที่ยากจะอธิบาย, ซอยูนโจมตีเหล่ามอนสเตอร์ และเสี่ยงภัยในดันเจี้ยน จนกระทั่งร่างของเธอถูกคลุมไปด้วยผ้าพันแผลเพื่อให้บรรลุชัยชนะ
ถ้าเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องของวีด, แล้วมันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะให้เธอใช้เวลาทั้งหมดในการออกล่า
-         วีด-พวกไอเทมละ?
-         -หมวกนักแม่นธนู ฉันได้บางอย่างมา แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันจะทิ้งมันมันไปเมื่อฉันไปถึงโมราต้า
หมวกนักแม่นธนู! มันเป็นไอเทมที่เหล่านักธนูทุกคนเสาะหาด้วยความหลงใหล
มันเพิ่มความแม่นยำ, ระยะการยิง, และ อำนาจทะลุทะลวง, ไม่มีไอเทมอะไรจะดีไปกว่านี้สำหรับนักธนู
มันสามารถกล่าวได้ว่าผู้เล่นเลเวลสูง ผู้ที่มีเลเวลมากว่า 400 สามารถขายแม้กระทั่งธนูของตนเพื่อที่จะซื้อสิ่งนี้
คงไม่ต้องพูดซ้ำว่ามันจะแพงขนาดไหน ถ้ามันถูกขายในโมราต้าพวกพ่อค้าทุกคนต้องรุมเข้าหามัน
-         วีด-ดะ, ดี
นอกเหนือจากกิจวัตรประจำวันแล้ว, เมื่อใดก็ตามที่มีสิ่งดีๆเกิดขึ้น ซอยูนจะบอกกับวีด
-         -เลเวลของฉันเพิ่มขึ้น
-         วีด-เพิ่มขึ้นแล้วหรอ?
-         -ฉันเก็บไอเทมมาชิ้นนึงไม่นานนี่เอง
-         วีด-อีกทีแล้วหรอ?
-         -เลเวลทักษะ'ระบำนักรบวิปลาส' ของฉันเพิ่มขึ้น (Dance of the Insane Warrior)
-         วีด-เร็วไปไหม?
-         -ยินดีกับฉันหน่อย ฉันเพิ่งทำเควสจบ
-         วีด-…….
ซอ ยูนมีความสุขที่ได้สนทนากับวีด ดังนั้นเธอจึงไปออกล่ามากขึ้น
ดันเจี้ยนที่เธอไปเยือนเป็นระดับเหนือกว่าที่วีดเคยจัดการได้ หนึ่งหรือสองขั้น
ไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริงว่าวีดมีความรวดเร็วในการออกล่าสูงที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์
แต่ซอยูนก็ตามหลังมาไม่ห่าง
ตั้งแต่เริ่มเข้าไปในดันเจี้ยน, ทักษะถูกใช้อาละวาดจนจบและบดขยี้ทั้งดันเจี้ยนได้สำเร็จ 
ไม่มีคลาสไหนที่กัดไม่ปล่อยแบบเบอร์เซิกร์เกอร์
แต่การต่อสู้อย่างยากลำบากเพียงลำพัง, โอกาสตายก็สูง ทางเดียวที่จะคงไว้ซึ่งพลังการต่อสู้คือการเติมเต็มระดับพลังชีวิตและการต่อสู้โดยไม่หยุดยั้ง
คำพูดใดๆไม่สามารถอธิบายความยากลำบากนี้ได้
ทำให้ดันเจี้ยนจบช่างบั่นทอนความแข็งแกร่งทั้งหมดของร่างกาย และต้องใช้เวลากว่าจะเรียกฟื้นพลังกลับคืนมา
ระหว่างเวลาที่พักฟื้นกำลัง, ซอยูนก็ค้นหาดันเจี้ยนอื่นๆ หรือทำเควสง่ายๆ
-         -อะไรคืออัญมณีของจักโบรา(Jukbora)? มันดรอปเรื่อยๆเลยที่นี่
-         วีด-ดะ. ดี เธอคุณเก็บมาให้สักอันได้ไหม? มันเป็นอัญมณีที่เธอสามารถขายมันให้พวกนักเวทย์ได้ 
วีดรู้จักเกือบทุกสิ่งยามเมื่อพวกเขาคุยกัน, มันช่วยซอ ยูนได้มากเลยทีเดียว
หลังจากที่จบดันเจี้ยน ซอยูนเอนตัวไปบนต้นไม้เพื่อพักผ่อนและสอบถาม
-         -ตอนนี้นายกำลังพักอยู่ที่ป้อมปราการเวอร์โก้ใช่ไหม
-         วีด-ไม่, ฉันเพิ่งทำประติมากรรมเสร็จ ดังนั้นมันก็ได้เวลาต้องไปแล้ว
-         -ที่ป่ากกแดง(ป่าต้นอ้อแดง)งั้นหรือ?
ถ้าเขาบอกว่าเขากำลังจะไปที่ป่า, ซอยูนจะต้องล่วงหน้ามาและกำจัดพวกนักล่าเงินรางวันกับมือสังหารหมดสิ้นแน่ๆ
โอกาสแห่งความสำเร็จในศึกใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเธอไม่ได้อยู่ในสมการ
-         วีด-ฉันกำลังจะไปกราพาส, หนึ่งในสิบเขตต้องห้าม ฉันมีเควสที่นี่ ฉันต้องทำให้สำเร็จ
ทันทีที่เธอได้ยินสถานที่ ซอยูนเอาแผนที่ออกมาจากระเป๋าของเธอและมุ่งตรงสู่กราพาส
ขณะที่วีดกำลังมุ่งหน้าไปที่นั่น, เธอก็กำลังไปเช่นกัน
เพราะเควสต่อเนื่องของกองทัพอมตะต้องทำให้สำเร็จโดยอันเดทและในขณะเดียวกัน, เธอก็ยุ่งมากในการเพิ่มเลเวลและหารายได้ เพื่อเธอกับวีดจะได้ไปเที่ยว ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เข้าร่วมกับเขาด้วย  แต่ตอนนี้, ซอยูนมุ่งหน้าตรงไปที่เขตกราพาสเพื่อพบกับวีด
-         -ฉันกำลังมุ่งหน้าไปที่เขตกราพาส แล้วมาล่าด้วยกันนะ
-         วีด-ฉันจะเตรียมซุปฉลามร้อนๆอร่อยๆไว้ให้
กระซิบจากวีดยังส่งไปบอกถึงเพลและปาร์ตี้ของเขา
ฮวายองเปลี่ยนจากรองเท้าส้นสูงเป็นบูท
"ฉันต้องไปที่เขตกราพาสด้วยเหมือนกัน"  (รถไฟชนกันแร้วเว้ยวีดเอ๋ย)
"พี่สาว, จะไปจริงๆงะ? ที่นั่นมันอันตรายมากเลยนะ..."
เบลล๊อตพยายามโน้มน้าวให้เธอเปลี่ยนใจ, แต่ฮวายองไม่ยอมง่ายๆ
"กินกับท่านวีดหลังจากทำงานหนัก...เราต้องการช่วงเวลาแบบนั้น" (หลงท่านวีดขนาดน้าน)
แผนของฮวายองที่จะทำให้วีดหลงเสน่ห์ของเธอ, ใช้การเต้นรำที่เย้ายวนใจทุกคืนต้องสำเร็จแน่ๆ
เธออยากให้วีดเป็นคนแรกที่ได้ดูการแสดงการเต้นที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความเป็นนักออกแบบท่าเต้นของเธอระหว่างที่เตรียมออกอัลบั้มใหม่ของเธอ
ด้วยเหตุนี้, ฮวายองสะสมชุดที่สวยที่สุดและเครื่องแต่งตัวที่ส่งตรงจากทวีปกลางผ่านช่องทางของพวกพ่อค้า
"พวกเราควรไปด้วยกันนะ"
เพลคิดว่าจะไปกับเธอเพื่อความปลอดภัยของเธอ, แต่ฮวายองส่ายหน้า
"คุณไม่ต้องมา!"
"อะไรนะ?"
"มันจะรบกวนเวลาอันมีค่าของพวกเรา"
"...." 
อย่างที่กล่าวไปแล้ว มันเป็นหนึ่งในสิบเขตต้องห้าม, แต่ต่อหน้าความรักของฮวายอง มันเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมากเมื่อคิดว่ามันเป็นสถานที่เดทของเธอ
แล้วฮวายองก็ควบม้าไปที่กราพาส
*****
ส่วนเส้นทางของนักดาบผู้พวกเดียวดาย ปัจจุบันเขากำลังเสียเวลาไปกับการเดินทางไปมาระหว่าง อาณาจักรโรเซนไฮม์(Rosenheim Kingdom)กับที่ราบแห่งความสิ้นหวัง(the Plains of Despair)

"ตอนนี้ไม่มีอะไรทำเลย"
เขากำลังทำคะแนนอย่างมากกับครอบครัวของผู้เล่นสาวที่เขาเป็นเพื่อนด้วย
แต่ไม่นานนี้เธอต้องไปเรียนต่างประเทศ 3 เดือน, ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ได้ออกล่าด้วยกัน
"วินาทีนี้มันช่างยุ่งเหยิงซะจริง.."
นักดาบ2 อยู่กับออร์คซีชวิค เดินทางขึ้นเหนือเพื่อเล่นให้สาแก่ใจเขา
เจ้าแห่งออร์ค(Orc Lord)!
ไปเป็นเพื่อนซีชวิคกับเควสของเธอ, ปะปนกับพวกออร์ค, เขากำลังเล่นอย่ามีความสุข ณ ที่ราบแห่งความสิ้นหวัง และ ภูเขายูโรกิน่า(Yurokina Mountains)
ถ้าออร์ค 3 ตนได้อาหารและเจริญเติบโต, หลังจากนั้น 1 เดือนมันจะกลายเป็น 20 ตน หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน มันจะขยายไปเป็นร้อย
แต่ว่าความเป็นผู้นำของซีชวิคต่ำ, มีพวกออร์คมากมายต้องการเป็นอิสระและจากไป
แต่เกือบทั้งหมดยังอยู่ร่วมสู้ด้วยกันในตอนเหนือ และอาณาเขตของพวกมันก็เติบโตขึ้น
ออร์คเหล่านี้ออกล่าร่วมกันกับนักดาบ2และออร์คซีชวิค,และบางครั้งพวกมันก็ถูกฆ่าตาย
แต่ถ้าพวกนี้มีชีวิตรอดและแข็งแกร่งขึ้นจะกลายเป็นออร์คนักสู้ และนักรบออร์ค
ไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและใหญ่เท่าพวกออร์ค
"ฉันรู้สึกอิจฉาที่พวกเขาสนุกสนาน"
ในตอนเหนือของทวีปเวอเซลล์, เหล่าลูกศิษย์ของเขาเข้าร่วมในศึกโด่งดังหลายแห่งและได้ปรากฏในโทรทัศน์
นักดาบ(ผู้เป็นอาจารย์)รู้สึกขมขื่นเล็กน้อย ที่มักจะคิดกันผิดๆว่าคนแก่ต้องการใช้เวลาของพวกเขาเงียบๆตามลำพัง!
"ขยับร่างกายของพวกคุณและใช้ความแข็งแกร่งเพื่อทำลาย สิ่งเหล่านี้สำคัญที่สุด
- การฝึกฝนจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ
- กฎระเบียบอยู่เหนือความแข็งแกร่งที่เก็บไว้ในดาบ

มันเป็นสิ่งที่เขาบอกสอนเหล่าลูกศิษย์อยู่ตลอดเวลา แต่การได้รับความแข็งแกร่งและไม่ใช้มันจึงเป็นเส้นทางที่แท้จริง
"ฉันควรจะใช้ประโยชน์จากเวลาว่างที่ฉันมีอยู่ในขณะนี้"
นักดาบไปที่เมืองหลวงของอาณาจักรโณเซนไฮม์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางของเขา  ผู้คนมากมายมารวมตัวกันเพื่อไปพื้นที่ออกล่า, ดันเจี้ยน, หรือแม้กระทั่งออกไปท่องเที่ยวยังพื้นที่ใกล้ๆอาณาจักร
และในมุมหนึ่งมีใครบางคนกำลังตะโกนออกมา
"ใครก็ตามที่กำลังมองหาพื้นที่ผจญภัยทางเหนือ, ไปด้วยกันเถอะ! ไปตั้งถิ่นฐานกันที่ตอนเหนือภายใต้ความเป็นผู้นำของวีด, เทพสงคราม อย่างแรกเราไปที่โมราต้า, จากนั้นใครที่เต็มใจจะไปก็ให้มุ่งหน้าไปยังป้อมปราการเวอร์โก้"
พวกพ่อค้าพยายามที่จะเอาชนะเหล่าผู้เล่น มันเป็นเส้นทางซึ่งประกอบด้วยการเดินทางไปอาณาจักรโรเซนไฮม์ด้วยรถม้า,
จากนั้นแล่นเรือไปทางเหนือ
ถ้าพวกเขานำผู้เล่นที่สนใจไปโมราต้าในขณะที่จัดส่งสินค้าไปทางเหนือ พวกเขาสามารถได้รับค่าเดินทางพิเศษและได้รับการปกป้องจากพวกมอนสเตอร์
ในระหว่างที่เดินทางมันก็เป็นไปได้ที่จะสอบถามพูดคุยกับพวกเขา หรือแม้แต่เปลี่ยนพวกเขาเป็นลูกค้าผู้ซื่อสัตย์, ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามค้นหานักเดินทางที่มุ่งหน้าไปทางเหนือ
"ฉันควรไปหาความสนุกสักหน่อย ดีมั้ยนะ?"
นอกจากนี้, นักดาบก็สามารถไปพบลูกศิษย์ของเขาได้ เมื่อเขาตกลงไปกับพวกพ่อค้า
จบตอน
ผู้แปล: Acid กรด

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

13 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ...กดรอทุก2-3ชม.เลยอิอิ

    ตอบลบ
  2. เยกเข้ เควสนี้จะรวมตัวโหดๆ

    ตอบลบ
  3. ผมว่าผมเสพติดนิยายเรื่องนี้มากเลยนะ ในหนึ่งวันนี่กดเข้ามาดูประมาณ5-6 ครั้ง ทำไงได้ก็มันสนุกสุดๆเลย ขอบคุณสำหรับท่านผู้แปลด้วยครับ

    ตอบลบ
  4. อ้าวท่านอาจารย์ไม่ได้ไปออกเดทกับเค้าหรอกหรือ

    ตอบลบ
  5. เสพติดวีดเหมือนเสพติดวีด ฮ่าๆๆๆๆๆ (ควันเต็มบ้าน)

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆจร้า

    ตอบลบ
  7. รถไฟกะลังจะชนกันแล้ว โหดกว่านักล่าเงินรางวัลอีก

    ตอบลบ
  8. ตอนนี้ยาวอ่านจุใจมาก ทำเควสนึงหลอกให้คนไปดักรออีกเควสนึง ฮ่าๆ
    สำเร็จภารกิจนี้ไม่รู้จะเลื่อนทักษะแกะสลักถึงขั้นมาสเตอร์รึเปล่า?

    ตอบลบ
  9. นักฆ่าเอ่ย...รอไปเถอะอีกนานนนนนนนอิวีดจะโผล่ไปป่ากกแดง

    ตอบลบ
  10. กราพาสเป็นเรื่องจิ้บจ้อยเมื่อมันเป็นสถานที่เดท5555

    ตอบลบ
  11. ศึกสิงนางโว้ยยย555

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...