วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เล่ม 25 ตอนที่ 1: สรวงสวรรค์ของบาร์ดเรย์ แปลโดย SR

เล่ม 25 ตอนที่ 1: สรวงสวรรค์ของบาร์ดเรย์ แปลโดย SR

สมบัติเป็นภูเขากองอยู่ตรงหน้าวีด เหล่านักดาบ พรีสต์และพาลาดิน หลังจากที่ราชาอันเดด บัลข่านและกองทัพอมตะได้พ่ายแพ้ พวกเขาได้รับเงินทอง,สมบัติ,ของเก่าแก่ และอุปกรณ์สวมใส่ ของเหล่านั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล
ว้าว นายจะแบ่งของพวกนี้จริงๆเหรอเนี่ย?”
น่าจะมีเกือบหลายหมื่นเหรียญทองเลยนะนั่น แต่ถ้ารวมพวกชุดเกราะด้วยก็น่าจะมากกว่าหนึ่งแสนเหรียญทอง
พวกผู้เล่นต่างรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินข่าวนี้
 ถ้าได้ของพวกนี้ ฉันจะสามารถซื้อบ้านในโมราต้าได้แล้ว
ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณ คุณวีด ที่ทำให้พวกเราได้ฉลองกับความสำเร็จในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ลืมบุญคุณคราวนี้แน่นอน
ได้โปรดเพิ่มเพื่อนฉันด้วย ถ้าเป็นคุณวีดแล้วล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณทันทีที่คุณเรียก
วีดรู้สึกโมโหและโกรธเคืองอยู่ภายในใจเมื่อเขาได้ยินคำขอบคุณจากเหล่าผู้เล่นพาลาดินและพรีส
'นี่แหละคือเหตุผลที่ว่า ทำไมคนใจดีถึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน!'
ในการแบ่งปันทรัพย์สิน พวกเขามักจะถูกเติมเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรมและความรู้สึกแร้นแค้น มีแต่จะทำให้อายุขัยของพวกเขาสั้นลงเท่านั้น

 ทุกคนมาเอาส่วนแบ่งได้
เมเพนและเหล่าพาลาดินที่มีชื่อเสียงเริ่มแบกกองภูเขาทองและสมบัติมาแจกจ่ายแก่เหล่าเพลเยอร์ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยกับไอเทมที่ตกระหว่างการต่อสู้ แต่กับสมบัติของกองทัพอมตะ พวกเขากลับแบ่งมันให้แต่ละคนอย่างยุติธรรมตามผลงานที่ทำได้
 พวกเรายังไม่ต้องการที่จะแบ่งเงินกัน ตอนนี้มาดื่มกันดีกว่า!”
ฉันสามารถซื้อธนูเวทมนต์สำหรับการออกล่าได้แล้ว เย้!”
ท่ามกลางความดีใจของเหล่าผู้เล่นที่ได้รับเงินและทอง พวกเขาเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อวีด
'นี่มันฝันร้ายชัดๆ ถ้าฉันหลับตาและลืมตาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาจะหายไปรึเปล่านะ'
ภายในจิตใจอันดำมืดของวีดกำลังถูกเผา เขาหลับตาลงจนสนิทก่อนจะเปิดตาขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังคงมีเหล่าผู้เล่นในสีหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เพราะพวกเขาได้รับเงินทองและสมบัติ
การแบ่งปันทรัพย์สมบัติฆ่าคนได้เร็วกว่าการดื่มเหล้า,สูบบุหรี่หรือแม้แต่เล่นยา
วีดรู้สึกได้ว่าเลือดในตัวของเขากำลังถูกสูบออกไปทุกครั้งเมื่อกองภูเขาไอเท็มที่ลูทมาได้กำลังเล็กลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าไอเทมหนึ่งในสามส่วนที่ลูทมาได้จากกองทัพอมตะจะเป็นส่วนแบ่งของเขา แต่นั่นก็ยังคงเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลอยู่ดี
และทุกคนเองก็ต่างฉลองให้กับชัยชนะในการต่อสู้อันยากลำบาก
*****
 ลีฮุนเปิดทีวีขึ้นในตอนที่เขากำลังรับประทานอาหารเย็น เขาดูช่อง KMC media อยู่นาน แต่ไม่ใช่เพียงช่องเดียวที่มีรูปการปรากฏตัวของเขาโดยที่รายการแต่ละอย่างล้วนเล่าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมาก

 ดูกองสมบัติตรงนั้นสิครับ มันกำลังลดลงเรื่อยๆตั้งแต่เมื่อเช้าเพราะว่าเหล่าผู้เล่นที่สู้ร่วมกับเทพสงครามวีดกำลังแบ่งกันอยู่
ดูเหมือนว่าวีดจะรักษาสัญญานะครับ
 แน่นอนครับ ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งผมก็ยังตื่นเต้นอยู่ที่ได้เห็นฉากแบบนี้ เทพสงครามได้ส่งบัลข่านและกองทัพของเขาเข้าสู่ห้วงนิทรานิจนิรันดร์! คุณไม่คิดว่ามันน่าตื่นเต้นบ้างเหรอครับ!”

ความหิวของลีฮุนถึงกับหายไปชั่วขณะ
*****
การแบ่งสมบัติที่ได้รับจากกองทัพอมตะลายเป็นหัวข้อใหญ่ที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ในเวลานี้ พวกเขาเข้าร่วมสงครามก็จริงแต่กับเรื่องสมบัติมันคนละเรื่องกันเลย
การโกหก หลอกลวง! ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ไม่สามารถอยู่รอดได้บนโลกที่ไม่มีความเชื่อใจนี้. นั่นเป็นเรื่องที่น่าเร้าใจและตื่นเต้นที่ผู้คนในทวีปเวอร์เซลล์ควรจะภูมิใจ
ความตั้งใจที่แท้จริงของวีดคือการเอาทุกสิ่งมาเพื่อตัวเองราวกับเปลวไฟร้อนแรงท่ามกลางฤดูหนาว ความโล่งอกเพียงอย่างเดียวของเขาคือการได้ป้อมปราการเวอร์โก้และสิทธ์ในการใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ของวิหารลูห์

 “ตรวจสอบ!”
ดาบแห่งลูห์ : ความคงทน 140/140, พลังโจมตี 165~317

ดาบที่ถูกส่งมาจากพระเจ้าเพื่อมวลมนุษย์
ดาบเล่มนี้ถูกฝังติดตัวอยู่กับลิช บัลข่านเป็นระยะเวลาอันยาวนาน เพื่อสะกดพลังเวทมนต์แห่งความมืด หากดาบได้รับการฟื้นฟูพลังจากดวงอาทิตย์ วิหารลูห์จะสามารถฟื้นฟูอาวุธของเทพได้

ข้อจำกัด : พาลาดินจากวิหารลูห์
ค่าความศรัทธา : 1,350
ต้องได้รับการอนุญาตจากมหาวิหารในการใช้งาน
ความสามารถพิเศษ : ป้องกันพลังความมืด
ในช่วงสงครามศักดิ์สิทธิ์ มันสามารถสร้างปาฏิหาริย์
ไม่สามารถถูกทำลายได้
ทักษะการควบคุมมอนสเตอร์ต่ำกว่าขั้นกลาง
*ยังเหลือความสามารถพิเศษที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
มันคือไอเทมที่ต้องกลับคืนสู่วิหารลู์
 มีวิหารลูห์อยู่ในโมราต้า ฉันค่อยเอามันไปคืนที่นั่นละกัน
วีดได้รับมันจากนักดาบ121 ที่เป็นคนลงดาบสุดท้ายใส่บัลข่านและได้เก็บมันไว้ช่วงหนึ่ง
 ถ้ามีไอเทมที่ใครสักคนอยากขโมยละก็ คงจะเป็นเจ้านี่ละ...”
ความคิดมากมายวนเวียนเข้ามาในหัววีดอีกครั้ง, แต่เนื่องจากอาวุธชิ้นนี้จะต้องถูกใช้โดยพาลาดินและต้องได้รับอนุญาตในการใช้ด้วย การที่ขโมยและเอามันไปใช้งาน นั่นจะทำให้เขากลายเป็นศัตรูของวิหารลูห์ในทันที ซึ่งนั่นก็หมายความว่าดาบเล่มนี้จะกลายเป็นเหมือนคำสาปไปโดยปริยาย
 ช่างมัน ยังไงฉันก็ต้องเอามันไปคืนอยู่ดีนั่นแหละ!”
ความเอื้อเฟื้อได้แผ่ขยายเข้าไปในใจของเขา เพราะเขาตัดสินใจที่จะคืนดาบแห่งลูห์! วีดตัดสินใจที่จะเดินทางไปที่มหาวิหารลูห์ในโมราต้าและคืนมันด้วยตัวเอง เมื่อเขาได้คืนดาบเรียบร้อยแล้ว เหล่าผู้เล่นได้ร่วมต่อสู้กับเขาต่างได้รับค่าศรัทธา
 ฉันคิดว่าในโมราต้าคงไม่มีอะไรที่ต้องรีบทำหรอก
สิ่งของที่ดรอปมาหลังจากการตายของบัลข่าน ส่วนใหญ่จะเป็นไอเทมพิเศษสำหรับเนโครแมนเซอร์อย่าง หัวกะโหลกของบัลข่าน, รองเท้า, ชุดคลุมเวทย์, ผ้าคลุม, แหวนและสร้อยคอ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นชุดเซ็ทไอเทมของบัลข่าน! แน่นอนว่าราคาของมันต้องแพงมากแน่ๆ
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักดาบ 121 ไม่ได้ต้องการเลย รวมถึงตำราเวทย์มนต์ที่วีดได้รับ เมื่อรวมกันแล้ว มันถึงจะเป็นเซ็ทไอเทมของบัลข่านอย่างสมบูรณ์
เมื่อเซ็ทไอเทมของบัลข่านทั้งหมดถูกรวบรวมมาอยู่ในที่เดียวกัน
ถ้าคุณเป็นเนโครแมนเซอร์แล้วละก็ ทักษะพิเศษอย่างอำนาจแห่งลิช(Lich Power)จะสามารถใช้งานได้
ไอเทมเหล่านั้นถือว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ได้ครอบครองมรดกของบัลข่าน ในการที่จะกลายเป็นลิชในป้อมปราการเวอร์โกและใช้ไอเทมหัวกะโหลกของบัลข่าน จะสามารถใช้มหาเวทย์ทั้งสามได้ ซึ่งมันจะเป็นไอเทมที่น่ากลัวและไม่ยุติธรรมเลย!
แต่เพราะไอเทมพวกนี้มีผลกระทบร้ายแรงคือ มันจะเป็นการยากที่จะเปลี่ยนร่างกลับคืนมาเป็นมนุษย์ แน่นอนว่าด้วยความร่วมมือของนักดาบ121ที่ถูกล่อลวงด้วยเนื้อย่างฟรี, อาวุธ, ชุดเกราะ และเหล้าอีก 2000 ถัง นั่นคือสิ่งที่เขาจะได้รับจากวีด
แต่การสวมใส่อุปกรณ์พิเศษของเนโครแมนเซอร์ ความรู้สึกไม่ดีจะค่อยๆซึมซาบเข้าไปในใจของคุณเมื่อไม่ได้ใช้มัน วีดจึงเลือกที่จะเก็บมันไว้ก่อน

 มีคนมากกว่าหนึ่งชนิดบนโลกนี้ แน่นอนว่าต้องมีบางคนที่อยากจะเป็นเหมือนบัลข่าน เหล่าเนโครแมนเซอร์จะไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุขแน่ ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว ฉันจะขายมัน
เมื่อคนที่ฝันอยากจะกลายเป็นราชาลิชปรากฏตัวขึ้น วีดจะเป็นคนแรกที่เข้าไปเจรจาเรื่องไอเทมแทนที่จะไปขัดขวางพวกเขา. อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ของบัลข่านถูกจำกัดด้วยเลเวลที่สูงและทักษะต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขายมันได้สักพัก
พวกคนที่ไม่ได้มีสกิลช่างตีเหล็กเหมือนกับวีดจำเป็นต้องมีเลเวลอย่างน้อย 460 เพื่อใช้ไอเทมของบัลข่าน รองเท้าของบัลข่านถือเป็นไอเทมที่มีข้อจำกัดน้อยที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นอุปกรณ์จำพวกผ้าคลุม, แหวน และ สร้อยคอจำเป็นต้องมีเลเวลมากกว่า 520
ตราบใดที่อุปกรณ์เหล่านั้นยังเป็นที่ต้องการในหมู่เนโครแมนเซอร์ พวกเขาจะยังคงชื่นชอบวีด พวกเขาต่างตกหลุมพรางเจตจำนงของตนเอง
*****
ไอเทมทั้งหลายที่ถูกนำมายังป้อมปราการเวอร์โก้โดยเหล่าพ่อค้าได้ถูกขายออกไปจนหมด ต้องขอบคุณการแบ่งปันเงิน, ทอง และสมบัติที่พวกเขาได้รับอย่างอิสระ ป้อมปราการเวอร์โกเริ่มครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีเอลฟ์, เผ่าคนเถื่อน, คนแคระ และเหล่าภูติ ซึ่งมันทำให้มีคนมากมายต้องการมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่นี่
เมแพนตัดสินใจที่จะตั้งร้านรับแลกของเพื่อรับแลกเปลี่ยนเหรียญทองเก่าแก่และเพื่อหารายได้ในทันที
 อาห์ ตอนนี้ฉันมีเงินเยอะแล้ว ฉันจะทำอะไรดีนะ?”
เราไปหาดาบเล่มใหม่กันมั้ย?”
รู้สึกว่ามันล่าง่ายกว่าเมื่อก่อนมั้ย? พรุ่งนี้ฉันจะไปแลกอุปกรณ์เกือบทั้งหมดของฉันเป็นอุปกรณ์ของพวกคนแคระ
ป้อมปราการเวอร์โกเต็มไปด้วยผู้เล่นที่ต้องการจับจ่ายใช้สอยเงินของพวกเขา สำหรับพื้นที่ล่าใกล้เคียงกันนั้นยังไม่มีใครค้นพบ. ภูเขา, เนินเขา, ป่า และหุบเขาในละแวกใกล้เคียงนั้นมีพื้นที่สำหรับการออกล่ามากมาย เหตุผลที่หลากหลายเผ่าคนเถื่อนเลือกที่จะอาศัยอยู่ใกล้ๆกับป้อมปราการเวอร์โกนั้นก็เพื่อที่จะออกล่าและต่อสู้
วีดพูดคุยกับผู้อาวุโสและหัวหน้าเผ่าต่างๆ ด้วยค่าชื่อเสียงที่มากมายและความสนิทสนม เขาก็ได้รับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับดันเจี้ยนในละแวกใกล้ๆ
 เท่าที่รู้มาพวกคนแคระจากเผ่าฮาร์ดเดนเอิร์ท(Hardened Earth)บอกว่ามีดันเจี้ยนใกล้ๆนี้...
ไปไกลอีกหน่อยตามที่คนแคระพวกนั้นบอกมา ก็น่าจะเป็นที่นี่แหละ
วีดพร้อมด้วยเพล, ไอรีน,โรมูนะ, ฮวายองและเซอร์กะ ช่วยกันหาดันเจี้ยนในบริเวณใกล้เคียง
 ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ดื่มอยู่ดังนั้นฉันมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มาถูกต้องแน่นอน
และพวกเขาก็พบทางเข้าดันเจี้ยนที่อยู่ใต้แผ่นหิน

คุณพบดันเจี้ยนหลุมที่ถูกซ่อน(The Hidden Pit) เป็นคนแรก

สิทธิพิเศษ: ค่าชื่อเสียง +415
ค่าประสบการณ์และอัตราการดรอปไอเทม 2 เท่าเป็นเวลา 1 อาทิตย์
มอนสเตอร์ที่ถูกกำจัดเป็นตัวแรกจะมีโอกาสดรอปไอเทมที่ดีที่สุด
การค้นพบดันเจี้ยนใกล้ป้อมปราการเวอร์โก! หากพื้นที่ล่าสอดคล้องกับเลเวลของท่านจงเริ่มทำการกวาดล้าง หากมุทะลุเกินไปในการสำรวจดันเจี้ยนที่ไม่รู้จักจะนำพาอันตรายที่แท้จริงมาได้ กับดักได้ถูกติดตั้งเอาไว้ บางพื้นที่อาจจะมีมอนสเตอร์รูปร่างแปลกประหลาดและมีจำนวนมากกว่าปกติ
แน่นอนว่าในตอนนี้ทักษะการเต้นของฮวายองสามารถทำให้พวกมันหลับได้ และเหมือนกับตอนที่บัลข่านตาย วีดสามารถอัญเชิญเดธไนท์และแวมไพร์ลอร์ดได้โดยปราศจากปัญหา
 จงออกมา! แวนฮอว์ค, โทริ
วันหยุดที่แสนยาวนานของพวกมันได้จบลงแล้ว
 ขอบคุณที่เรียกข้าออกมา, นายท่าน
ข้าโหยหาเลือดอุ่นมานานแค่ไหนแล้วนะ
นี่เป็นเวลาสำหรับ แวนฮอว์คและโทริ

เคลียร์ทางให้เรียบร้อยด้วย
ด้วยความร่วมมือของทั้งสองที่ทำงานกันอย่างเข้าขาเพราะต่อสู้ร่วมกันมาอย่างยาวนาน ทำให้การล่าเป็นไปอย่างรวดเร็ว
วีดยังคงสลับปาร์ตี้ในการล่ากับพวกนักดาบเพื่อจะให้พวกเขาเลเวลเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งเหล่าคนเถื่อนและคนแคระ พวกเขาต้องการที่จะพูดคุยกับวีดเรื่องที่เขาพบพื้นที่ล่าได้อย่างง่ายดาย
 ข้าอยากสู้กับพวกมอนสเตอร์
 พวกมันคอยรบกวนพวกเรามานานแล้ว ร่องรอยของพวกมันกำลังเดินทางขึ้นเหนือ. . . นักรบของข้าได้ติดตามไป แต่พวกมันก็หายไปเข้าในป่าและพุ่มไม้ ถ้าเจ้าเจอมัน ข้าขอรบกวนเจ้าด้วย
 พวกเจ้าไม่เอาเบียร์งั้นเหรอ?”
ถ้านี่ถือว่าทำเพื่อเบียร์ข้าจะทำมันทุกเมื่อ

 ไม่มีอะไรแตกต่างระหว่างเหล่าสหายผู้ร่วมรบและคนแคระที่ได้ต่อสู้กับอันเดด ข้าอยากรู้ว่าเจ้ามีปัญหาอะไรกวนใจอยู่งั้นรึ

 “ฮืม ตอนนี้แร่เหล็กดีๆก็หายาก ถ้าเจ้ามีแร่เหล็กดีๆสักอันละก็บอกข้าได้ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา เมื่อก่อนตอนที่ป้อมปราการยังคงเป็นปกติ ภูเขาด้านหลังมีเหมืองแร่ที่พวกเราไปขุดเอาเหล็กมา. . . ถ้ามนุษย์อย่างพวกเจ้าสามารถช่วยคนแคระอย่างพวกเราได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยขุดแร่มาให้
 แน่นอนว่าเราเป็นพันธมิตรทางการค้ากัน ด้วยแร่เหล็กจำนวนมาก เหล่าคนแคระเช่นพวกท่านสามารถสร้างอาวุธและชุดเกราะที่เอาไว้ขายในป้อมปราการเวอร์โกเพื่อที่เจ้าจะได้จ่ายภาษีเยอะๆ. . . ข้าหมายความว่า มันน่าจะดีถ้าเจ้าซื้อเบียร์กลับไปด้วยน่ะ
ที่ป้อมปราการเวอร์โกมีงานให้ทำมากมาย
 ขอโทษที่รบกวนนะ ข้ามีแร่อยู่เจ้าช่วยแกะสลักให้ข้าจะได้มั้ย?”
ทองพวกนี้ยังไม่บริสุทธิ์ มันจะทำให้การแกะสลักยากขึ้นกว่าเดิม. . . ช่างเถอะ ผมจะทำให้คุณเป็นพิเศษละกัน
ขอบคุณมากนะ แล้วมันจะเสร็จเมื่อไหร่ล่ะ?”
ผมมีงานค้างอยู่ โปรดรอสักครู่
เขาแบ่งอัญมณีล้ำค่าที่มีให้คนในป้อมปราการเวอร์โก การขายผลงานแกะสลักของเขาทำให้ตอนนี้แร่ของเขาเหลือในกระเป๋าไม่มาก! มีวิธีมากมายที่จะเอากระต่าย 3 ตัวเข้าไปในร้านอาหารเพื่อที่จะทำซุปกระต่ายโดยใช้หม้อใบใหญ่!

  มันคงจะเป็นวิธีที่ทำให้รวยเร็วกว่าถ้าเราแอบเก็บแร่พวกนี้ไว้แทนที่จะขายแต่ผลงานประติมากรรม!”
ด้วยชื่อเสียงของวีดในด้านประติมากรรม พวกเขายินยอมมอบแร่ราคาสูงเพื่อทำประติมากรรมโดยปราศจากความลังเล. ซึ่งปกติแล้วเขาจะสร้างรูปปั้นแกะสลักจากไม้ในระหว่างที่ออกล่าอยู่ แต่ตอนนี้พวกเขากลับนำทองและเงินคุณภาพดีหรือแม้แต่มิทธริลคุณภาพสูงมาให้วีดเพื่อแกะสลัก
เขาต้องแกะสลักงานให้ตรงกับความต้องการของคนๆนั้น ทำให้เขาไม่ต้องใช้ความพยายามมากในผลงานแต่ละชิ้น. แต่การแกะสลักพวกมันทีละครั้งนั้นก็ยังคงเพิ่มทักษะการแกะสลักขั้นสูงอยู่. มักจะมีแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นที่ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่มีคุณค่าทางศิลปะสูงจะปรากฏออกมาให้เห็น. แต่หลังจากที่ทักษะการแกะสลักของเขาก้าวเข้าสู่ขั้นสูงเลเวล 8 ค่าความเชี่ยญก็เพิ่มขึ้นช้าลง
 ไม่เป็นไร ยังเหลืออีกตั้งสองเลเวล ฉันไม่จำเป็นต้องรีบ
พวกเขาต่างฉลองปีใหม่ระหว่างการล่า. ฮวายอง,เบลล็อตและเมล่อนมีงานต้องทำ พวกเธอจึงอดฉลองด้วย ส่วนคนที่เหลือก็ออกไปเตรียมอาหารสำหรับฉลองแบบง่ายๆในขณะที่กำลังชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับกล่าวคำอธิษฐานขอให้คำขอของพวกเขาเป็นจริงด้วย
'ขอให้ได้ทุนทีเถอะ แล้วฉันจะไปเที่ยวกับเมล่อน'
'ฝีมือในการล่าของฉันดีขึ้นมากแล้ว ฉันจะล่ามันให้มากกว่านี้'
'ฉันจะเปลี่ยนเป็นเนโครแมนเซอร์ดีมั้ยนะ? แต่ฉันก็อยากเห็นเวทย์ไฟขั้นสุดท้ายจริงๆ. . .'
'ขอให้ปีนี้ไม่ต้องมีใครตายด้วยศัลยกรรมเถื่อนด้วยเถอะ'
'ขอให้ฉันได้ออกเดทกับยูรินตอนปีใหม่ด้วยเถอะ'
'ขอให้มีเงินไหลมาเทมาเหมือนคุณวีดด้วยเถอะ. . . '
พวกเขาต่างมีคำขอมากมายที่หลากหลายแต่เมื่อเทียบกับวีดแล้วนั้น คำขอของเขาดูธรรมดากว่าที่เคย
'ขอให้มีสุขภาพที่ดีแล้วก็ไม่มีค่ารักษาจากโรงพยาบาลด้วยเถอะ'
สุขภาพร่างกายแข็งแรง นี่แหละดีที่สุดแล้ว
*****

เหล่าประติมากรรมประทานชีพทั้งหมดมาถึงป้อมปราการเวอร์โก้หลังจากที่ถูกเรียกมาจากโมราต้า
มออออ
เจ้าเหลืองบังคับขาตัวเองให้ก้าวเข้ามา ที่นี่เป็นสถานที่ที่มันไม่คิดอยากจะมาเหยียบเลยสักนิด!
 ข้าดีใจที่เห็นท่านสบายดี แต่ถ้าท่านคิดถึงข้า อย่าทิ้งข้าไว้อีกนะมอ!!!
ปิงหลงและฟีนิกซ์มีร่างกายใหญ่โตอยู่แล้ว พวกมันจึงไม่สามารถเข้ามาล่าในดันเจี้ยนได้ แต่โกลด์มินิ, วิหคทองคำและวิหคสีเงินร่วมกันต่อสู้ในดันเจี้ยนที่อันตราย และเหมือนจะไม่มีอะไรมาหยุดพวกมันได้. ดันเจี้ยนเลเวล 440 นั้นมีบรรยากาศหรือมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
รังมอนสเตอร์บนเทือกเขาคิลเดเก้ร์(Nest on Kildeke Mountain)!
พื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นพื้นที่สำหรับล่า. พื้นที่อันกว้างขวาง เต็มไปด้วยหุบเขาและมอนสเตอร์ที่บินได้
เมื่อเปรียบเทียบเขากับสมาชิกคนอื่นๆในปาร์ตี้แล้วนั้น เวลาการเชื่อมต่อของเขานานกว่า. ระหว่างนี้เพลกับเพื่อนของเขาไม่ได้เข้ามาด้วย เขาจึงออกล่าร่วมกับเหล่านักดาบหรือไม่ก็ออกล่าทางอากาศบริเวณเทือกเขาคิลเดเก้ร์กับพวกฟีนิกซ์, ไวเวิร์นและปิงหลง
กึงงง!!
เสียงฟ้าผ่าดังไกลออกไปพร้อมกับสายฟ้าแล่บสว่างวาบชั่วขณะ ถึงแม้ว่าฝนจะเริ่มปรอยปรายลงมาจากฟากฟ้า วีดก็ยังขึ้นขี่บนหลังของไวทรี
 เจ้านาย ถ้าเราบินสูงกว่านี้ เราจะไม่ถูกฟ้าผ่าเหรอ?”
ไม่เป็นไรหรอกน่า
 แต่มันน่าจะเจ็บ..”
ถ้าพวกเรายังไม่ตายก็จงอย่าหยุด แม้อากาศจะเลวร้าย(ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป)”
วีดและเหล่าไวเวิร์นไม่ได้เป็นพวกเดียวที่บินอยู่บนท้องฟ้า มันยังคงเต็มไปด้วยมอนสเตอร์บินได้ที่คอยปกป้องอาณาเขตเทือกเขาคิลเดเก้ ถึงแม้จะมองเห็นไม่ชัดเจนเพราะสภาพอากาศ แต่เขายังคงกวัดแกว่งดาบในมือ
 เคล็ดมีดแกะสลักแสงจันทร์!”
ด้วยการร่วมกับไวทรี ทำให้ปีกของมอนสเตอร์พวกนั้นถูกตัดขาด . เมื่อมองสูงขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นฟีนิกซ์และเมื่อมองลงมาข้างล่างอีกนิดก็จะเห็นปิงหลง ผู้ที่กำลังต่อสู้อย่างระมัดระวังปราศจากซึ่งการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง
แวนฮอว์คเองก็ถูกอัญเชิญออกมาพร้อมกับอาชาปีศาจของเขา. แวมไพร์ลอร์ดโทริเองก็มีฝูงค้างคาวกระหายเลือดร่วมต่อสู้ด้วย
พวกมันสู้ได้ดีเลย

วีดรวบรวมบรรดาประติมากรรมประทานชีพที่อยู่ในลาสฟาลั้งค์ให้มาเป็นลูกน้องของเขา แต่เขาสัมผัสได้ถึงพลังความรู้สึกอันยิ่งใหญ่จากประติมากรรมที่เขาสร้างขึ้นราวกับเขาและมันได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันเป็นระยะเวลาอันยาวนาน
รักษาไอ้พวกเวรที่เลี้ยงไม่เชื่อง แล้วสั่งให้พวกที่ว่านอนสอนง่ายไปออกล่าเป็นร้อยเท่า
ดังนั้นแล้วการเลือกที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่างและมุ่งมั่นอยู่กับการออกล่า ทำให้เขาเลเวลอัพถึงสามครั้ง ตอนนี้วีดเลเวล 403 แล้ว และเหล่าเพลเยอร์ที่เลเวลเกิน 400 นั้นมีจำนวนไม่มาก แต่ได้รับการยอมรับจากทุกคนเพราะว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่ง
ถึงแม้ว่าการประสบความสำเร็จอาจจะช้าไปบ้างเพราะการมอบชีวิตให้กับประติมากรรม แต่ด้วยทักษะสายอาชีพการผลิตและแม้กระทั่งการสร้างผลงานประติมากรรม ทำให้เขามาถึงระดับนี้พร้อมกับค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล
*****
หนึ่งเดือนในชีวิตจริงผ่านไป ระหว่างนั้นเอง ป้อมปราการเวอร์โก้ก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 30,000 คนและกำแพงที่พังทลายก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง. แต่ตัวป้อมปราการเองกลับมีเงินเหลือไม่เยอะนักในการสร้างหรือซ่อมแซมส่วนอื่นๆ ดังนั้นลาภลอยที่วีดได้มา จึงหายลับเข้าไปในป้อมปราการ ไม่มีหลงเหลือเผื่อไว้ให้เขาเลยแม้แต่เศษเสี้ยวสักนิดก็ยังไม่มี
ตามถนนที่คดเคี้ยวตลอดแนวกำแพงที่ถูกซ่อมแซม บ้านหลายหลังได้ถูกสร้างขึ้นมา. หลังจากที่เริ่มทำความสะอาดและจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ค้นพบกับหอฝึกตนสำหรับอัศวิน, ศูนย์ฝึกหัดขั้นพื้นฐานและสมาคมอัศวินที่สามารถบูรณะขึ้นมาใหม่ให้เหมือนกับที่เคยเป็นได้
ถึงแม้ว่าครึ่งหนึ่งของสถานที่เหล่านั้นที่ถูกทำลายจากมังกรกระดูกได้มีการทำความสะอาดไปแล้วบ้าง เหล่าผู้เล่นนับหมื่นคนก็ยังเดินทางมาที่นี่
 มืดแล้วงั้นเหรอ?”
เหล่าผู้เล่นที่อยู่ที่จัตุรัสมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ดวงตะวันลับขอบฟ้าและยามราตรีอันมืดมิดก็มาเยือน ดวงจันทร์และดวงดาวก็เริ่มปรากฏ
 ใกล้ได้เวลาแล้ว พวกมันกำลังมา
ผู้คนที่กำลังพักผ่อนและดูแลอาวุธตัวเองอยู่ก็ได้ลุกขึ้นยืน ทหารที่กำลังทานอาหารในร้านอาหารต่างออกมาข้างนอกด้วยชุดเกราะเต็มยศ ชุดเกราะของอัศวินและทหารนั้นหนักเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นในยามที่ไม่มีสงครามจึงหาได้ยากมากที่พวกเขาจะสวมใส่มัน
ผู้คนเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงเพื่อใช้หาคนเข้าปาร์ตี้
 หาคนไปป้องกันป้อมฝั่งตะวันตกด้วย
หาคนที่มีสกิลชิลด์แบช (Shield Bash)ขั้นกลาง ไปกำจัดมอนสเตอร์ทางประตูทิศเหนือ
กำแพงฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการพรีสต์ด่วน ตามมาเลย!”
ที่จัตุรัสนั้นได้มีการรวมกลุ่มขึ้นสู้เป็นจำนวนมาก นักเวทย์หลายคนเริ่มจุดตะเกียง,คบเพลิงตลอดทั้งแนวที่มีสิ่งปลูกสร้าง
ฝูงมอนสเตอร์กำลังใกล้เข้ามาเพื่อปล้นสะดมและโจมตี
มอนสเตอร์บุกมาทุกคืน! มอนสเตอร์ที่เหล่าเนโครแมนเซอร์ได้ขับไล่ไปในเควสกองทัพอมตะนั้นกำลังรุกรานป้อมปราการเวอร์โก้อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ เมื่อมีกำแพงคอยป้องกัน มันจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำออกล่า เหล่าผู้เล่นเมื่อร่วมต่อสู้แล้ว บรรดาประชาชนที่มาตั้งถิ่นฐานในป้อมปราการ ต่างยิงธนูและปาก้อนหินจากบนกำแพงใส่ศัตรู
การต่อสู้ปะทุขึ้นทุกคืนในป้อมปราการเวอร์โก้ ไม่มีที่ไหนในทวีปที่มีมอนสเตอร์บุกโจมตีป้อมปราการบ่อยเท่านี้อีกแล้ว นั่นเป็นเพราะป้อมเวอร์โก้นั้นค่อนข้างจะอยู่ไกลจากโมราต้าและด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาในทางตะวันตกและตอนเหนือ ซึ่งนั่นเองทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์มอนสเตอร์ จึงทำให้พวกมันบุกเข้ามาโจมตีด้วยจำนวนมหาศาล
เมื่อครั่งที่กองทัพอมตะยังอยู่ บัลข่านได้เปลี่ยนซากศพของพวกมันให้กลายเป็นอันเดด แต่ในเมื่อตอนนี้กองทัพอมตะได้หายไปแล้ว จึงทำให้เหล่าผู้เล่นต้องทำการปกป้องป้อมปราการเวอร์โก้เอง และถ้าพวกมันสามารถผ่านป้อมปราการเวอร์โกไปได้ มันก็จะบุกเข้าสู่แดนเหนือทันที
ในการที่จะป้องกันป้อมปราการจากฝูงมอนสเตอร์นั้น วีดจำเป็นต้องลงทุนในเรื่องการเก็บภาษีสำหรับการซ่อมแซมตัวป้อมปราการและกำแพงต่อไปจนกว่ามอนสเตอร์จะถูกกำจัดจนหมด
นั่นคือหน้าที่ที่ลอร์ดควรจะเตรียมการให้พงกผู้เล่นสำหรับการซ่อมแซมสิ่งต่างๆ และคงจะมีเพียงวีดเพียงคนเดียวที่มีค่าชื่อเสียงและสถานะที่เป็นถึงลอร์ดแห่งโมราต้า นั่นจึงทำให้มีเหล่าผู้เล่นมากมายต่างก็พากันเดินทางมาที่ป้อมปราการเวอร์โก้แห่งนี้
หากเขาคิดจะหนีจากป้อมเล็กๆแห่งนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าถูกมอนสเตอร์บุก นั่นจะทำให้เขาทิ้งคนอื่นให้ตกอยู่ในอันตราย เมืองทางตอนเหนือหลายเมืองจะได้รับผลกระทบถ้าเหล่าผู้เล่นเลือกที่จะทิ้งป้อมปราการเวอร์โก้ เพราะมอนสเตอร์จะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและสร้างความสับสนอลหม่านได้
วีดแทบจะร้องไห้เป็นสายเลือดในตอนที่ยืนอยู่บนยอดหอคอยกลางเมืองในป้อมปราการเวอร์โก้
 ประชาชนมาเพิ่มขึ้น การล่าเองก็เพิ่มขึ้น แต่กลับไม่มีเงินภาษีแล้ว
รายได้ทางภาษีหายไปอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ(ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว) หากจะให้อดทนรอเงินภาษีอีกสักหน่อยคงจะเป็นเรื่องยากสำกรับป้อมปราการเวอร์โก้ที่มีอาณาเขตกว้างขวางและยังคงซ่อมแซมต่อไปอย่างไม่มีหยุดพัก เงินอันมีค่าที่เขาได้มาก่อนหน้านี้ ก็ได้ปลิวหายไปกับการลงทุนในด้านการทหาร
กำลังทางทหารในป้อมปราการเวอร์โก้

อัศวินฝึกหัด : 58 นาย
เลเวลเฉลี่ย : 196
ทหารขาดประสบการณ์: 4,312 นาย
เลเวลเฉลี่ย : 52
ความจงรักภักดี : 91%
การฝึกฝน : 46%

กองทัพได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยผู้อพยพจากโมราต้า การคัดเลือกทหารนั้นเน้นไปที่การออกล่าและชายหนุ่มที่มีความแข็งแรง. เหล่าอัศวินจะต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่จะอยู่รอดต่อไป
บรรดาทหารต่างให้เคารพต่อท่านลอร์ดของพวกเขาและยินดีรับใช้สุดลมหายใจ แต่พวกเขาเองก็ยังคงกังวลที่จะเข้าต่อสู้โดยปราศจากการฝึกซ้อมอันเหมาะสม แต่การที่พวกเขาต่อสู้ด้วยความรัดกุมอยู่หลังกำแพงนั่น ทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น
พวกเขาไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่สถานการณ์เช่นนี้ หากปราศจากพวกเขาแล้ว มันจะเลวร้ายมากยิ่งขึ้น

กำแพงป้อมปราการถูกซ่อมแซมอย่างรวดเร็วพอๆกับที่มอนสเตอร์บุกเข้ามา หากละสายตาไปจากงานที่ทำ นั่นอาจทำให้ป้อมปราการเวอร์โก้กลายเป็นหมู่บ้านมอนสเตอร์ได้ในทันที

ไม่ได้มีกองทัพสนับสนุนจากวิหารเฟรย่ามาคอยปกป้องเหมือนตอนที่อยู่ในโมราต้า วิธีการของวีดเพื่อทำให้กองกำลังเติบโต คือ ถ้าพวกเขามีชีวิตรอด พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น!
ทหารทั้งหมดต่างเคยเป็นนักธนูมาก่อนและนั่นทำให้พวกเขาใช้ธนูเป็นและโจมตีจากบนกำแพงได้
ในอนาคตเมื่อพวกเขาถูกปลดประจำการ วีดมีแผนที่จะเกณฑ์พวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทหารราบเพื่อมุ่งสู่รังของพวกมอนสเตอร์ ถ้ากองทัพสามารถกำจัดกองกำลังที่ซ่องสุมของพวกมอนสเตอร์ได้ พวกเขาจะได้รับสมบัติและอันตรายจากการถูกมอนสเตอร์จู่โจมบริเวณรอบๆป้อมปราการก็จะลดน้อยลงด้วย
ในขณะเดียวกันร้านค้าและสมาคมถือเป็นสิ่งจำเป็น งานจิปาถะต่างๆล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นที่ป้อมปราการเวอร์โก้
 ถึงตอนนั้นเราก็กินอยู่อย่างสุขสบายล่ะ(เอาเปรียบอย่างเต็มที่)
มีงานหลายอย่างที่ต้องทำในป้อมปราการเวอร์โก้และมีแรงงานมากมายให้เลือกใช้ เขาเริ่มกระตือรือร้นที่จะทำการเอาเปรียบอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเริ่มจัดลำดับความสำคัญกับการเพิ่มงานจิปาถะต่างๆ

การต่อสู้ยังคงปะทุขึ้นเรื่อยๆบนกำแพงและแต่ละที่นั้นล้วนแต่อันตราย ผู้เล่นหลายคนยอมทิ้งการลงดันเจี้ยนและการผจญภัยของพวกเขา มีหลายโอกาสที่จะป้องกันป้อมปราการจากการโจมตีแต่พวกเขาก็ยังคงต่อสู้อย่างหนักและพยายามอย่างมาก
ป้อมปราการหลายแห่งในทวีปกลางมีการเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานของมอนสเตอร์เป็นอย่างดี พวกเขายังขุดคูเมืองในกรณีที่มีการปิดล้อมป้อมปราการ แค่ความคิดที่ว่ามอนสเตอร์จะโจมตีหมู่บ้าน พวกเขายังแทบจะไม่สนใจเลย
แต่ไม่มีความน่าเบื่ออีกต่อไปถ้ามาอยู่ที่ป้อมปราการเวอร์โก้ เพราะมอนสเตอร์ฝูงเล็กและฝูงใหญ่ที่เข้ามาโจมตีอย่างไม่ขาดสาย หรือจะพูดได้อีกนัยหนึ่งว่าตัวป้อมปราการเวอร์โก้เองก็เป็นพื้นที่สำหรับการล่าเช่นกัน
 ฉันล่าที่นี่ได้ใช่มั้ย?”
มีธนูชั้นดีแล้วก็ลูกธนูอีกหลายชุดและก็ไปที่กำแพงป้อมปราการกันเลย
สำหรับนักดาบและอัศวินนั้นพวกเขาได้รับคำแนะนำที่ต่างออกไป
 ถ้าเจ้าอยากสู้เจ้าก็ออกไปด้านนอกป้อมปราการแล้วก็อยู่ตรงนั้นสักพัก ไม่ว่าจะเป็นความตายหรือเกียรติยศ เมื่อมันจบลงมันจะเหลือเพียงแค่หนึ่งเท่านั้น!”
มอนสเตอร์จำนวนมากเริ่มเดินหน้าเข้ามาที่ป้อมปราการ
ถ้ามองจากอีกมุมหนึ่ง กองทัพอมตะเองก็ไม่ได้ด้อยไปเลย พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีคลังเก็บอาหารให้ขโมยและหากมอนสเตอร์เข้ามาใกล้เกินไป พวกมันจะถูกทำให้กลายเป็นอันเดด แค่เพียงข่าวที่ว่ามนุษย์ได้ยึดครองป้อมปราการ พวกมอนสเตอร์ก็หวังจะเข้ามาโจมตีพวกเขา และอย่างน้อยพวกมันก็สามารถขโมยอาหารจากคลังออกไปได้
วีดสามารถนำกองทัพจากโมราต้ามาที่นี่ได้ หรือไม่ก็ถอนตัวออกจากการลงทุนในป้อมปราการเวอร์โกทั้งหมด
 ฉันไม่แน่ใจว่าถ้าทำอย่างนั้นมันจะสูญเปล่ามั้ยนะ. . . แต่มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน
โมราต้าเป็นเมืองที่น่าประทับใจและไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นผู้อาศัยและเหล่าผู้เล่นต่างก็หลั่งไหลกันมาที่ป้อมปราการเพื่อพัฒนาการก่อสร้าง ยังมีแม้กระทั่งคนสอนทักษะที่มาจากโมราต้าและช่วยเพิ่มความเร็วในการพัฒนาเมืองในด้านการเงินได้มากเลยทีเดียว หากเป็นแบบนี้ต่อไปที่ป้อมปราการเวอร์โก้ได้ความช่วยเหลือจากโมราต้านั้น ป้อมเวอร์โก้ก็จะเป็นสถานที่ที่เยี่ยมที่สุดอีกที่หนึ่งในทวีปทางตอนเหนือ
การต่อสู้แทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันในป้อมปราการเวอร์โก แล้วก็มีประเด็นมากมายผุดขึ้นมาบนกระดานสนทนา
หัวข้อ: พื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการล่า จะรอช้าทำไม รีบมาที่นี่เร็วๆ

เพื่อที่จะเพิ่มเลเวลและเพิ่มความสามารถสกิลมาที่นี่สิ! ที่นี่มีทุกอย่างแม้กระทั่งกระท่อมสำหรับอาศัย มาร่วมออกล่าไปด้วยกันเถอะ
หัวข้อ: วันนี้โคตรอันตรายเลย

สวัสดีฉันคือลิซ นี่เป็นอีกครั้งแล้วที่ฉันอัพโหลดคลิปที่มอนสเตอร์โจมตีป้อมปราการเวอร์โก วีดีโอของวันนี้ยาว 2 ชั่วโมง ในการต่อสู้วันนี้ กำแพงเมืองทางตะวันออกที่เพิ่งมีการซ่อมแซมไปเมื่อหลายวันก่อนก็พังลงมาอีก
การก่อสร้างกำแพงในตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันเร็วขึ้นกว่าเดิม มันอาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนกองทุนเรามีน้อยรึเปล่า? หรือเจ้าเมืองใช้วัตถุดิบราคาถูกกันนะ? ช่างมันเถอะ ฉันยังรู้สึกสงสัยนิดหน่อยที่ว่ามันพังมานาน ดังนั้นฉันจะหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้มันเพื่อความปลอดภัยในชีวิตล่ะนะ.

มอนสเตอร์ผ่านกำแพงเมืองมาทางรอยแยกของกำแพงและในขณะเดียวกันการต่อสู้ข้างนอกก็ยังคงดุเดือดต่อไป. . . ทุกอย่างเริ่มบ้าคลั่งมากขึ้น ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องมีความที่ว่า ทำไมพวกเราต้องดิ้นรนกันขนาดนี้ด้วยล่ะ?’ หรือ ทำไมพวกเราไม่ไปล่าในดันเจี้ยนหรือพื้นที่ล่าอื่นๆล่ะ?’

แน่นอนว่าเมื่อรุ่งเช้ามาถึงมอนสเตอร์จะกลับไป ผู้คนทั้งหลายจะผูกมิตรกันเมื่อพวกเขาถูกเติมเต็มด้วยความสนุกสนาน นี่คือความสุขที่มีเพียงผู้เล่นที่เคยต่อสู้แบบนี้เท่านั้น ถึงจะรู้ได้
วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับป้อมปราการเวอร์โก้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามเหมือนกับวิดีโอกองทัพอมตะหน้านี้ที่มีวีดเป็นผู้บัญชาการทัพ
ในตอนแรก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป็นวีด พวกเขากลับคิดว่าวีดจะยอมแพ้ต่อกองทัพอมตะเพราะความอันตรายของมัน แต่พวกเขาก็ยังอดที่จะดูไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรวีดได้ แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกชื่นชมเหมือนกับวิดีโอที่เหล่าผู้เล่นคนอื่นๆและพลเมืองต่างพร้อมใจกันร่วมปกป้องป้อมปราการ
ไม่มีวันไหนที่ปลอดภัย พวกเขายังคงต่อสู้เพื่อปกป้องป้อมปราการ นี่คือดินแดนที่พวกเขาต้องดิ้นรนต่อสู้ในแต่ละวันและที่นี่คือป้อมปราการและพื้นที่ล่า
โดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าการพัฒนาของป้อมปราการเวอร์โก้จะเป็นสถานที่ที่ดึงดูดจำนวนประชากรมากขนาดนี้ ที่นี่คือแนวหน้าที่นักรบของแดนเหนือจะสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้ที่อันตรายจากมอนสเตอร์ได้
*****

หมู่บ้านบารานตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรโรเซนไฮม์ ที่นี่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่ผู้เล่นหลายคนสามารถรับเมล็ดพันธุ์โดยการทำเควสจากผู้อาวุโสแกรนดิลวาห์เพื่อใช้เป็นทางผ่านไปสู่นครลอยฟ้า ลาเวียส ที่นั่นมีรูปปั้นเทพีเฟรย่าที่วีดเป็นคนสร้างในอดีตด้วยความสามารถที่ยังไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่ด้วยผลงานชิ้นนี้ที่เขาสร้างโดยมีต้นแบบจากซอยูน ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
 จริงหรือเนี่ย นี่มัน ผลงานชั้นเยี่ยมเลยนะ
ถ้าถ้ามีผู้หญิงแบบนี้อยู่บนโลก แค่ได้เห็นใบหน้าของเธอ ฉันคงจะมีความสุขจนตายเลยล่ะ
อย่าพูดบ้าๆน่า ไม่มีผู้หญิงแบบนี้อยู่ในโลกนี้หรอก นี่มันเพราะเป็นรูปแกะสลักของวีดต่างหากที่ยอดเยี่ยมเกินไป
นักผจญภัยต่างแวะมาเพื่อดูประติมากรรมสักครั้งก่อนจะออกล่าหรือบางครั้งพวกเขาก็แวะไปพูดคุยกับชาวบ้านคนอื่นๆ การที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านทำให้พวกเขาได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเควส,พื้นที่การล่าหรือแม้แต่ดันเจี้ยนใหม่
ที่นั่นมอนสเตอร์สามารถสร้างดันเจี้ยนได้ด้วยการรวมกลุ่มกันและสร้างมันขึ้นมา ชาวบ้านหรือแม้แต่นักล่าสามารถรู้ล่วงหน้าได้ และเมื่อมีผู้เล่นที่ทำให้พวกเขาไว้วางใจแล้ว พวกเขาก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับมันด้วย
อย่างไรก็ตามในวันหนึ่ง ผู้คนที่เข้ามาในหมู่บ้านก็น้อยลงอย่างผิดปกติ
ข้ายินดีรับใช้ท่านทั้งกายใจ
ห๊ะ?”
จงรับฟังคำสอนของมหาเทพเพื่อปกป้องทวีปที่ไร้ค่านี้ซะ
“……”
ชาวบ้านหลายคนเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาว่างเปล่า เมื่อผู้เล่นขยับเข้าไปใกล้พวกเขาเพื่อที่จะพูดคุยด้วย พวกเขาก็เริ่มเล่าเรื่อง
 ข้าจะบริจาคเงินให้มหาวิหารเพื่อสร้างกองทัพที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม! เงินภาษีของข้าจะต้องไม่สูญเปล่า
อะไรเนี้ย...”
กองทัพจะมาช่วยพวกเรา
กองทัพไหนที่จะมาช่วยพวกคุณล่ะ?”
อ้าก! ข้าไม่สามารถบอกท่านได้มากกว่านี้ ถ้าท่านไม่มีจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ จงออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้ซะ มีแต่เทพเอ็มบินยูเท่านั้นที่จะสามารถชำระล้างโลกที่เต็มไปด้วยบาปได้.”
เหล่าผู้เล่นที่เข้ามาในหมู่บ้านหาเพื่อข้อมูลเกี่ยวกับเควส ต่างพากันแปลกใจกับท่าทีของชาวบ้านที่ไม่เป็นมิตรอีกต่อไป ไม่ใช่ว่าเป็นวิหารเอ็มบินยูที่โจมตีและพาทวีปกลางเข้าสู่ความวุ่นวายเหรอ?
และวันหนึ่ง ผู้อาวุโสของหมู่บ้านก็ไม่ได้ให้เควสอะไรอีก
 ผู้ที่มีศรัทธาในคำสอนของวิหารเอ็มบินยูจะได้รับเมล็ดพันธุ์ฟรี
มันเป็นทางเลือกที่ยากสำหรับผู้เล่นในการตัดสินใจ แต่ด้วยความจริงที่ว่าจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ความเปลี่ยนแปลงจึงบังเกิด
และก็มาถึงวันที่รูปสลักเทพีเฟรย่าที่วีดสร้างขึ้นได้ถูกทำลายลง.
*****

บาร์ดเรย์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม
 นี่มันก็นานมากแล้วตั้งแต่ก้าวเท้ามุ่งหน้าสู่สมรภูมิ
หลังจากการสร้างรากฐานมั่นคงได้แล้ว กิลด์เฮอร์มีสก็ไม่ได้พบเจอกับการต่อสู้ขัดขืน
การออกล่ามอนสเตอร์ หรือได้รับการยอมรับจากหอนักรบ พวกเขาก้าวล้ำไปมากกว่านั้น พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเรื่องกำลังทางทหารในรอยัลโร้ด
แต่เหตุผลที่พวกเขาเริ่มก่อสงครามก็เพราะกิลด์เฮอร์มีสเป็นผู้กำหนดมัน(เหมือนปลุกปั่น)
 พวกเราจะแสดงความแข็งแกร่งให้ทุกคนได้เห็น พวกเราจะต้องชนะ
บริเวณป้อมตรงชายแดน บาร์ดเรย์ได้เตรียมอาวุธพร้อมแล้ว และเดินออกมาข้างนอก ทหารราบ,อัศวิน และนักเวทย์ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับปิดล้อมและเตรียมพร้อมในการเดินทัพ เป้าหมายของพวกเขาคืออาณาจักรคัลลามอร์!
เมื่ออาณาจักรฮาเวนปลอดภัย กิลด์เฮอร์มีสก็ได้นำกองกำลังจู่โจมเพื่อทำการยึดอาณาจักรคัลลามอร์ในทันที
รูปลักษณ์ของอัศวินในชุดเกราะสีดำของบาร์ดเรย์ได้ปรากฏสู่สายตาของทหารและเหล่าผู้เล่นอย่างเงียบงัน
เขาเป็นดั่งตัวแทนของกิลด์เฮอร์มีสนี่คือการแสดงความยิ่งใหญ่ของคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ บาร์ดเรย์ปีนขึ้นม้าและเตรียมพร้อมรบโดยที่ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
 “เดินทัพ
เมื่อสิ้นเสียงคำสั่งของผู้บัญชาการรบอย่างบาร์ดเรย์ ประตูของป้อมปราการก็เปิดออก กองทัพของอาณาจักรฮาเวนก็เดินเท้ามุ่งหน้าสู่อาณาจักรคัลลามอร์
 กองทัพของอาณาจักรฮาเวนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
ส่งสัญญาณเตือนภัย!”
กองกำลังที่อยู่เขตชายแดนของอาณาจักรคัลลามอร์ตอบสนองโดยทันที เพื่อที่จะขับไล่จากการรุกรานของกองทัพศัตรู ประตูป้อมปราการก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเหล่าทหารที่ออกมาป้องกัน
 “โจมตี! โจมตี!”
บาร์ดเรย์ที่อยู่บนหลังม้า พุ่งตรงเข้าสู่สงคราม
 บาร์ดเรย์เข้าร่วมสงครามด้วย!”
เหล่าทหารและผู้เล่นที่สังกัดกิลด์เฮอร์มีส ต่างจับจ้องไปที่บาร์ดเรย์ที่อยู่ในแนวหน้า เพียงความจริงที่ว่าเขาได้เข้าร่วมสงครามก็เพียงพอที่จะเพิ่มขวัญกำลังใจให้กองทัพได้แล้ว
 อัศวินดำบาร์ดเรย์อยู่ข้างอาณาจักรฮาเวนงั้นเหรอ?”
แล้วจะสู้ได้ยังไงล่ะ? หรือว่าเราควรจะยอมแพ้?”
ที่ปราสาทของอาณาจักรคัลลามอร์ ด้วยความจริงที่ว่าบาร์ดเรย์ได้เข้าร่วมนำทัพการโจมตีอาณาจักรคัลลามอร์ ความกลัวก็เริ่มค่อยๆซึมเข้าไปในจิตใจพวกเขา ชื่อเสียงของเขาในด้านการต่อสู้นั้นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปที่เก่งกาจและเป็นที่หวาดกลัวของทหาร
 บุกทะลวงสังหาร(Unblockable Assault)!”
Bardray and his Black Knight guards rode together.
บาร์ดเรย์และเหล่าอัศวินดำขี่ม้านำทัพไปพร้อมกัน
สกิลของอัศวินที่สามารถเรียนได้เฉพาะอัศวินเท่านั้น! ตอนนี้ในทวีปเวอร์เซลล์นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสกิลการโจมตีที่ดีที่สุด ไม่เพียงแค่การเพิ่มความเร็วของม้า แต่ยังคงโจมตีทะลุทะลวงเป็นเส้นตรงและทะลวงแนวกั้นของศัตรูที่อยู่ในระยะ
บาร์ดเรย์และเหล่าอัศวินดำเจาะทะลุแนวป้องกันของศัตรูมาได้และตั้งแนวโจมตี ราวกับผู้คนถูกครอบงำ ทหารของอาณาจักรฮาเวนต่างส่งเสียงคำรามดังลั่น
 ทุกคนโจมตี!”
ยึดปราสาทวัตเท่นให้ได้(Vatten Castle)! บดขยี้อาณาจักรคัลลามอร์ให้กลายเป็นฝุ่นไปซะ!”
เหล่าผู้เล่นและทหารของกิลด์เฮอร์มีสชูดาบและโล่ของพวกเขาขึ้นมาและเข้าโจมตี เมื่ออาวุธป้องกันเมืองพัง กำแพงเมืองที่แตกร้าวรวมถึงประตูที่พังทลายลง บาร์ดเรย์ก็ก้าวเข้ามาในปราสาทเป็นคนแรก
 ฆ่าบาร์ดเรย์ซะ
เพื่อปกป้องอาณาจักรคัลลามอร์ จงตายซะบาร์ดเรย์ โจมตี!!”
ศัตรูที่พุ่งเข้ามาหาบาร์ดเรย์ลงไปกองกับพื้น10-20 คนทุกครั้งที่บาร์ดเรย์ตวัดดาบของเขา นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่ไม่ว่าจะในวิดีโอไหนเขาก็ไม่ได้แสดงออกมา
ขุมกำลังของบาร์ดเรย์นั้นแตกต่างไปจากเดิมและต่างจากผู้เล่นคนอื่นในทวีปเวอร์เซลล์หลังจากยึดปราสาทที่ชายแดนของอาณาจักรคัลลามอร์ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นกิลด์เฮอร์มีสได้ทำการวางแผนการรบต่อ และทิ้งไว้เพียงเศษซากปรักหักพังของเมือง ก่อนจะเดินทัพต่อไป
ผู้แปล: SR
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล



10 ความคิดเห็น:

  1. มาแล้วๆ. รอก่อนเฮอมิส รอวีดกอบโกยก่อน ตอนนี้วีดกำลังช้ำใจเรื่องแบ่งของอยุ่

    ตอบลบ
  2. อิทธิพลเหนือกว่ากันมาก ไม่รู้วีดจะไปช่วยโคเดอริมสู้รึเปล่า?

    ตอบลบ
  3. แล้วกิลเฮอร์มิสก็คงตกไปอยู่ในกำมือวิหารเอ็มบินยู ตอนนี้แทรกซึมไปทุกพื้นที่แล้ว แต่เจ้าบาร์ดเรย์ยังไม่รู้ตัว มัวแต่ยึดเมือง ส่วนตาวีดสร้างเมืองใหม่อยู่...ไม่ว่าง

    ตอบลบ
  4. วีดต้องไปช้วยแล้วละ อยากเห็นสองคนนี้ มาเผชิญหน้ากันจริงๆ

    ตอบลบ
  5. เอาบาร์เรย์ไปสู้กับวิหาร mbu ก่อนพี่วีดจะได้ไม่เหนื่อย

    ตอบลบ
  6. ไม่อยากดห็นบาร์ดเรย์เก่งขึ้นเลย แต่ถ้าศัตรูไม่เก่งกว่าก็มาชนกับวีดเราไม่ได้หรอก พลังที่มาจากความงกของพี่แกไม่ใช่เล่นๆ เงิบมาหลายรายละ 55 ลุ้นต่อไป รอคู่นี้มาเจอกัน cheer.

    ตอบลบ
  7. บาร์ดเรย์ใส่ item มาซะขนาดนั้นมีหรือวีดจะปล่อยไป

    ตอบลบ
  8. ตัวเงินตัวทอง...
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...