เล่ม 21 ตอนที่ 2 ห้องแสดงผลงานประติมากร แปลโดย koichii
วีดมองย้อนกลับไปที่ถนนด้านหลังพวกเขาอยู่หลายครั้ง ระยะห่างจากเจ้าเหลือง วิหคทองคำและวิหคสีเงินนั้น ค่อนข้างห่างพอสมควร
"ไม่ใช่ทางนี้หรอกเหรอ?"
“….”
"ถ้างั้น
ลองย้อนกลับไปอีกทางดู"
พวกเขาเลือกทางผิดมากกว่านับสิบครั้ง
ทั้งทางตัน,ทางเดินที่ถูกปิดกั้น,อุโมงค์ที่คับแคบและอันตรายสุดๆ!
แต่วีดไม่สามารถระบุเส้นทางที่ถูกต้องได้
เนื่องจากอุโมงค์มืดๆทั้งหมด มันดูเหมือนกันมาก จนทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจเลือกทิศทางว่าจะไปทางไหนดี
ทิศเหนือ,ทิศใต้,ทิศตะวันออก, หรือ
ทิศตะวันตก
นอกจากนี้ ยิ่งลงไปลึกมากเท่าไหร่จะมีทางเชื่อมต่อไปอีกหลายทาง
เหมือนอุโมงค์ของมดขนาดมหึมา และอันซับซ้อนเกินไป มีหลายร้อยทางแยก, โพลงที่เปิดออก และ พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ในทางที่ซับซ้อนมาก การหาทางไปยังตำแหน่งที่ต้องการคือเมื่อสิ้นสุดการดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งระยะทางสั้น
ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น
สถานที่ที่จะบอกว่าเหมืองฮีเลียมอยู่ตรงไหน ไม่ได้มีการทำเครื่องหมายเอาไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่
ซอยูน
ลังเลยื่นมือออกมา
"ให้ฉันดูแผนที่บ้าง จะได้มั้ย?"
ในตอนแรก
เธอพูดติดๆขัดๆอยู่สองสามครั้ง แต่ตอนนี้มันเริ่มนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ
วีดมอบแผนที่ใต้ดินให้เธอ
"ทำตามที่เธอต้องการได้เลย แต่ดันเจี้ยนนี้มีความซับซ้อนมาก มันไม่ง่ายที่จะหาเส้นทางที่ถูกต้อง
"
‘ถ้าเธอจะเข้ามาเป็นผู้นำ
เธอต้องพยายามไม่ให้พลาดเหมือนกันกับเขา!’
ซอยูน
มองดูแผนที่สักครู่หนึ่ง แล้วชี้ไปทางขวา
"ฉันคิดว่าเราควรจะไปทางนั้น"
"เธอคุณอย่างนั้นหรือ? ก็นะ คนเราก็สามารถทำผิดพลาดได้
ฉันหมายความว่า เธอยู่ไหน ... ไปทางนั้นกันเถอะ "
วีดต้องการจะพูดมากกว่านี้
แต่แล้วเขาก็คิดว่าเขาควรที่จะแสดงความใจกว้างและปฏิบัติตามเธอ
"มีหินย้อยที่คมมากในระยะ 200 เมตร"
ซอยูน
ให้ความสนใจและระมัดระวังรายละเอียดรอบตัวเธอ
"ไม่ว่าเธอจะมองจากที่ไหน มันก็มีหินย้อยอยู่ทุกหนทุกแห่ง"
ซอยูน
นำทางพวกเขา เลี้ยวไปยังสถานที่ที่มีรอยแตกระหว่างหินย้อยคมๆพวกนั้น
หินย้อยทั่วไปจะเห็นได้จากบนเพดานถ้ำเป็นรูปทรงกรวยอันเกิดจากแร่ธาตุแล้วมีน้ำหยดลงมา
มันไม่ใช่เรื่องปกติที่คุณสามารถพบเห็นมันได้ทั่วไป
คุณสามารถดื่มน้ำแร่ที่หยดจากมันได้เช่นกัน
เมื่อวีดกลับคืนสู่ร่างมนุษย์
ตอนนี้เขาต้องการน้ำและอาหารอีกครั้ง เจ้าเหลือง, ซอยูน,
วิหคทองคำ และ วิหคสีเงิน ก็ต้องการน้ำเช่นกัน
ขณะที่ กระแสลาวาทำให้ลำคอแห้งมาก
"ตั้งแต่ทางข้างหน้าจะถูกกั้นโดยกระแสลาว
า ฉันจะเข้าไปในช่องว่างใหม่ที่ถัดจากหินย้อยเหล่านี้"
ลาวาที่ไหลผ่านทางด้านข้างนี้
มีการปะทุเกิดขึ้นน้อยและมีหินแข็งกว่าที่สามารถเดินไปข้างหน้าได้
จากนั้นทางเดินก็เปิดออกเข้าไปในดันเจี้ยนขนาดใหญ่
วีดพาพวกเขาหลงทางครั้งแล้วครั้งเล่า
พยายามที่จะพาไปในทิศทางที่ถูกต้อง, ในทางตรงกันข้าม,ซอยูน ก็สามารถหาเส้นทางที่ถูกต้อง กับการลองครั้งแรกของเธอ
พยายามที่จะรักษาหน้าของตัวเอง
วีด พูดคุยเงียบ ๆ กับ เจ้าเหลือง
"เดิมทีแล้ว ฉันเป็นคนที่พบเส้นทางนี้เองแหละ"
“มอออ”
"ฉันแค่จะบอกว่าฉันคือคนที่ทำงานหนักทั้งหมดนี้จริงๆนะ จนทำให้เรามาได้ไกลขนาดนี้"
เจ้าเหลือง
เปิดปากของมันกว้างมาก แลบลิ้นไปมา แล้วหาว จากนั้นก็เดินต่อไป เห็นได้ชัดเลยว่าคำพูดของวีดนั้น
เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ต้องขอบคุณ
ซอยูน ในที่สุด พวกเขาก็สามารถจะหยุดการสูญเสียเวลาและหาเส้นทางที่แท้จริง
ในขณะที่มอนสเตอร์ปรากฏตัว
พวกเขาก็มีอาหารมากขึ้น มีประชากรมอนสเตอร์ขนาดกลางอยู่ในส่วนของดันเจี้ยนนรกโลกันตร์แห่งนี้
นอกจากนี้แล้ว
เนื่องจากทางเดินใหม่มีขนาดใหญ่กว่า พวกเขาสามารถต่อสู้ได้ง่ายขึ้น เนื่องจาก โทริ และ แวนฮ๊อกค์ สามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้กับ
ลิซ และการควบคุมกองทัพ อันเดด แต่ก็เพียงพอสำหรับดันเจี้ยนนี้ วิหคทองคำและวิหคสีเงินสามารถร่วมต่อสู้เป็นทีมได้
แม้ว่าทักษะของวิหคสีเงินนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำก็ตามที
*
ติ๊ง! *
==================================
คุณได้เห็น
"ความหวังของนักพเนจร"
โดยประติมากร
พรีช
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น
2
สำหรับการชื่นชมงานศิลปะอันยอดเยี่ยม
ความชำนาญทักษะการแกะสลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
==================================
พวกเขาเริ่มพบเจอประติมากรรมในอุโมงค์อันใหม่
ซึ่งกว้างขวางมาก รูปปั้นอันแรก เป็น รูปคนกำลังถือคบเพลิงทำท่าจะออกไปสำรวจ!
เอฟเฟ็คจากรูปปั้น
ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและอัตราการฟื้นพลังกาย
"ประติมากรรมพวกนี้ทำในลักษณะเดียวกับผลงานจากประติมากรรมมรดก ลาสฟาลั้งค์"
ถึงแม้ว่าระยะทางประมาณของเหมืองฮีเลียมจากจุดนี้ยังค่อนข้างห่างไกลนัก
ประติมากรพวกนี้ฉลาดพอที่จะทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นเครื่องหมายระบุเส้นทาง เพื่อให้สามารถหาทางผ่านอุโมงค์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้
"ตรวจสอบ!"
วีดต้องการใช้ประโยชน์จากทักษะความทรงจำประติมากรรม
... ในกรณี.
การระบุอาวุธและชุดเกราะนั้นจะเป็นแบบตรงไปตรงมา
คุณจำเป็นต้องมีแค่เลวลสกิลในระดับที่สูงพอประมาณ การใช้ ตรวจสอบ บนประติมากรรมจะทำให้เกิดความทรงจำลักษณะพิเศษและแสดงความทรงจำเหล่านั้นให้เขาดู
แต่มันก็ขึ้นอยู่กับบริเวณหรือตำแหน่งที่เขาสัมผัสพวกมันด้วย
วีดกำลังพยายามค้นหาความทรงจำของประติมากรรมและสิ่งที่มันเห็น
สัมผัสมือที่กำลังถือคบเพลิง ความทรงจำที่ฝังอยู่เริ่มปรากฏออกมาให้เห็น
"มันมืด
มืดมาก."
“….”
ดันเจี้ยนมืดๆและประติมากรรมก็ถูกสร้างขึ้นในที่มืด
มันไม่เคยเห็นอะไรเลย ดังนั้นมันจึงไม่ค่อยมีความทรงจำอะไรมากมายนัก
เมื่อคุณสร้างประติมากรรมตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์
คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะออกเป็นรูปแบบไหน
ไม่มีทางรู้เลยว่าทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่คุณกำลังแกะสลัก จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเกิดความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งคุณไม่สามารถแก้ไขได้
"ไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหนต่อ
จากที่นี่มันยากที่จะบอกได้ว่าทางไหนคือทางที่สั้นที่สุด? "
"ฉันจัดการเอง"
ประติมากรผู้ที่ค้นพบสถานที่แห่งนี้
ได้แกะสลักผลงานอันโดดเด่นในทางเดินใต้ดิน ผลงานเหล่านี้เป็นเหมือนการค้นหาสมบัติเล็กๆ
และทำได้ดีไม่ยากที่จะมองหาของที่ซ่อนอยู่ มันดูเหมือนจะเป็นของที่ผิดพลาด ที่ทำออกมาจากหิน
ที่ยังไม่ได้ค้นพบในดันเจี้ยน
'ก็นะ ... มันไม่เพียงแต่ได้รับค่าสถานะทางศิลปะมากขึ้น แม้กระทั่ง
เราเองก็ยังปรารถนาที่จะแสดงความเคารพต่อจิตวิญญาณอันประเสริฐของเหล่าประติมากรผู้อุทิศชีวิตให้กับสถานที่แห่งนี้
'
******
เหล่าผู้เล่นจากราชอาณาจักรฮาเว่น
และ โดยเฉพาะ ดรินเฟลด์ กำลังหัวเสียแบบสุดๆ
(แอดชิน:ถ้าสมัยนี้ ก็หัวร้อนล่ะนะ 555)
ผลการรายงานจากกลุ่มโจรและทีมสะกดรอยคนอื่นๆจบลงด้วยการกลายเป็นตัวตลกในหมู่ผู้คน
ดรินเฟลด์ถึงกับเซ็งเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้
กองกำลังเสริมที่มาใหม่จากกิลด์เฮอร์มีสก็ด้วย
รวมไปถึงทุกคนในหมู่พวกเขา ต่างก็แสดงออกอย่างโกรธเคืองและไม่เป็นที่พอใจมาก
"เราวนเวียนอยู่ที่เดิมมาสองชั่วโมงกว่าแล้วนะ
"
"นายดูมีความมั่นใจในตอนแรกนะ ไหนนายบอกว่าจะตามพวกมันทันในอีก 3-4 วันไง พอมาดูตอนนี้สิ นี่มันกี่วันมาแล้ว นายจะมาบอกว่า นายไม่รู้ว่าจะเป็นพรุ่งนี้หรือเมื่อไหร่กันแน่”
การที่จะพบกับ วีด
ภายนอกดันเจี้ยน อาจเร็วกว่า ณ จุดๆนี้
การต่อสู้จำนวนมากที่พวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วม
ทำให้พวกเขาทั้งหมดรู้สึกเหน็ดเหนื่อย กังวลและประหม่า มันไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไม
เพราะสมาชิกของกิลด์เฮอร์มิส ต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์นั่นเอง
หลังจากระบุเป้าหมายหลักไปที่ยักษ์อัคคี
บรรดาพ่อมดแม่มดและหมอผี ใช้วิธีการต่างๆอย่างมีแบบแผนในล่าพวกมัน
การต่อสู้เหล่านี้
ล้วนเป็นการต่อสู้กับบอสทั้งนั้น เนื่องจากพวกมันมีขนาดใหญ่มาก ทำให้การต่อสู้เหล่านี้ส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ
อย่างไรก็ตาม การใช้เวทมนตร์น้ำแข็งได้ผลดีมาก ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถล่าพวกมันได้ด้วยอัตราความสำเร็จที่ค่อนข้างดี
ยักษ์อัคคีและเวทมนตร์น้ำแข็ง
พวกเขาจบปัญหานี้ด้วยการใช้คุณสมบัติที่มีพลังโจมตีสูงอย่างสลักเกลียวน้ำแข็ง(ice bolt) เมื่อรวมกับการโจมตีทั้งหมดจากนักเวทย์
เล็งไปที่จุดๆเดียวบนร่างกายของยักษ์อัคคี
เทคนิคนี้จึงสามารถทำลายเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์
การออกล่ากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ
ในขณะที่ช่วยกันทำลายมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้กิลด์เฮอร์มีส เพิ่มระดับความเร็วในการค้นหาก้าวหน้ามากขึ้นและยังสามารถกวาดล้างดันเจี้ยนที่ผ่านมาได้จนหมด
จนถึงวันที่ห้า
หลังจากเข้าไปในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ วันนั้นพวกเขาค้นพบวงมนตราและค่าสถานะจำนวนมากก็เพิ่มขึ้น
ทำให้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
"เพียงแค่สิ่งนี้เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้การผจญภัยครั้งนี้ คุ้มค่ากับอุปสรรคทั้งหมดที่ผ่านมา"
"รู้สึกสดชื่นอะไรขนาดนี้ ที่ได้รับการชดเชย
หลังจากคืนและวันอันย่ำแย่ภายในสถานที่ที่ทั้งร้อนและสกปรก"
ย้อนกลับไปในพื้นที่ล่าของอาณาจักร
ฮาเวน มันเหมือนกับพวกสุนัขแย่งกันกิน เพียงเพื่อพยายามยกระดับทักษะและเลเวลด้วยจำนวนเล็กน้อย
แต่เมื่อพวกเขาออกมาจากพื้นที่ล่าอันเป็นบ้านเกิดและมาถึง ลาสฟาลั้งค์แห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดจึงได้สัมผัสกับประสบการณ์อันสุดยอดในการเพิ่มลเวลของพวกเขา
แต่แล้วพวกเขาก็ต้องสะกดรอยตามวีดไป
จากการค้นพบวงมนตราแห่งเปลวเพลิง พวกโจรและมือสังหารไม่ได้ประสบการณ์อะไรเลย
นอกเสียจากความยากลำบาก
"ผมขอโทษ แต่ทุกอย่างมันดูคล้าย ๆ กัน ... อย่างที่คุณรู้ว่ามีมอนสเตอร์จำนวนมากอาศัยอยู่ที่นี่
พื้นของดันเจี้ยนใต้ดินส่วนใหญ่ทำด้วยหิน แล้วมอนสเตอร์ก็เดินผ่านร่องรอยที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด
... . ดังนั้นจึงมันเป็นเรื่องยากที่จะ หาเส้นทางที่ถูกต้อง ... "
"ฉันได้ยินแบบเดียวกันนี้ 20 ครั้งแล้ว"
"ให้เวลาพวกเราสักหน่อยนะครับ"
"มันเป็น
‘ให้เวลาอีกสักนิด’ มาทั้งวันแล้ว ฟังนะ พวกเราไม่มีทางเลือกมากนัก
แต่ทั้งหมดนี้ไอ้ขอเวลาเพิ่มเนี่ย มันทำให้เราดูเหมือนคนโง่โดยสมบูรณ์แบบ "
พวกโจรต้องการสิ้นสุดการรับผิดชอบเรื่องสะกดรอยตาม
เพราะมันมากเกินไป
การตามหาเส้นทางของ
วีด ไม่ใช่เรื่องง่าย ดันเจี้ยนลึกและกว้างโดยไม่มีแหล่งกำเนิดแสงจากธรรมชาติ
ดังนั้นคุณจึงต้องพึ่งเวทมนตร์เพื่อดูเส้นทาง
แน่นอนว่าพวกเขาเดินตามรอยเท้า
แต่หลังจากนั้นไม่นานเส้นทางบนพื้นดินก็หายไปหรือถูกกลบไป แล้วคุณต้องหยุดและปรึกษากันควรจะไปทางไหน
โดยปกติจะมีคำสาปแช่งบางคำปนมาด้วย
"เห็นได้ชัดว่าเขาเดินไปตามเส้นทางนี้"
พวกโจรและมือสังหารคนอื่น
ๆ ก็เห็นด้วย นี่คือเส้นทางที่วีดใช้อย่างไม่ต้องสงสัย
"แล้วทำไมพวกเรายังวนกลับมาอยู่ที่เดิมอีกล่ะ?"
โจรที่เป็นนำทางถอนลมหายใจอย่างหนัก
มือสังหารคนหนึ่งก็เดินมาข้างหน้า
"ผมไม่เข้าใจ"
ดันเจี้ยนของลาสฟาลั้งค์
ช่างมีความซับซ้อนจริงๆ
แม้กระทั่งวีด
ผู้ซึ่งมีแผนที่ ตัวเขาเองยังเดินหลงทางท่ามกลางถนนหลายสายและหลายต่อหลายจุด
ทางยาวบางครั้งก็ถูกปิดกั้นโดยสิ้นเชิงและไม่มีหนทางที่จะไปข้างหน้าต่อได้
ดังนั้นพวกเขาจะต้องเดินตามเส้นทางแยกซึ่งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วจบลงโดยการวนกลับไปยังจุดที่
พวกเขาได้เริ่มต้น ทำให้ทุกคนเกิดความรำคาญกับวงวานแบบนี้
แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงสำหรับการเดินของพวกเขาในขณะที่สะกดรอยตาม
แม้จะมีเส้นทางที่อันตราย
ตราบเท่าที่คุณยังรักษาหัวของคุณและเดินตามร่องรอยที่ทิ้งไว้ข้างหลังอย่างระมัดระวัง
คุณจะไม่เดินวนเป็นวงกลมอย่างแน่นอน ไม่ว่าเส้นทางนั้น มันจะซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม
ปัญหาก็คือรอยเท้าของ
วีด และ ซอยูน ค่อยๆเปลี่ยนไป
วีดกับทักษะช่างตีเหล็กของเขาและทักษะการตัดเย็บ
ทำให้เกิดรอยเท้าปลอมจำนวนหนึ่งที่เลียนแบบรอยเท้าของมอนสเตอร์เช่นนักรบแห่งความหายนะและอัศวินโลกันตร์
พวกเขาสวมใส่แทนรองเท้าปกติของพวกเขา
มอนสเตอร์และร่องรอยอื่น
ๆ ถูกผสมปนเปเข้ากับเส้นทางเป็นจำนวนหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้เหล่านักล่าที่กำลังติดตามหมดความอดทนอดกลั้น
มากไปกว่านั้น
สิ่งที่ร้ายกาจมากคือความคิดที่ให้ เจ้าเหลืองเดินบนกีบทั้งสอง
โดยให้วิหคสีเงินและวิหคทองคำ เป็นคนคอยช่วยพยุง
"ผมคิดว่านี่เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ส่วนทางนั้นจะนำไปยังเส้นทางที่ผิด...
"
ขณะที่พวกเขาสะกดรอยตามเส้นทาง
พวกเขาก็วาดแผนที่ของดันเจี้ยนอย่างต่อเนื่องและค้นพบส้นทางที่แตกต่าง
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมัน มันเป็นแผนที่ที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
คดเคี้ยวเลี้ยวไปเลี้ยวมาเหมือนงู ซึ่งวีดเป็นคนวางแผนเอาไว้
จากนั้น
เมื่อพวกเขาเดินไปตามเส้นทาง ร่องรอยทั้งหมดก็หายไป
"ไม่น่าเชื่อ!! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย เขาทำอะไรที่มันไร้สาระอย่างนี้ได้ยังไง?"
ความคิดของทีมค้นหา
อยู่ในหัวสมองของวีดเรียบร้อยแล้ว
'ตั้งแต่พวกเขาออกอากาศเหตุการณ์ในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ คงจะปลอดภัย ถ้าพวกเขาไล่ตามเรามาจนถึงที่นี่'
ด้วยภูมิประเทศของดันเจี้ยนที่แตกต่างกันปรากฏขึ้นในฉากของการออกอากาศ
มันไม่เรื่องยากที่จะระบุตำแหน่งที่ตั้งของเขาได้
การสนใจสิ่งเล็กๆน้อยๆเป็นเพียงการป้องกันกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ถ้าพวกเขาเจอมันโดยบังเอิญ มันจะทำให้พวกเขาใช้เวลามากขึ้นในการหาตัววีด
อันตรายของการพบกับมีดคมๆในอุโมงค์อันเงียบสงบบางแห่ง
มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ กริฟฟิท และ ดรินเฟลด์ ที่กำลังหัวร้อนต้องการแก้แค้นแบบสุด
(แอดมิน: โมโหจนขาดสติในการคิดวิเคราะห์แยกแยะนั่นเอง)
ไม่มีอะไรผิดกับการสร้างตำแหน่งและทำเส้นทางแบบหลอกๆภายในดันเจี้ยนแห่งนี้
นอกจากนั้นแล้ว เขายังมีเหล่าจิตวิญญาณธาตุอีกด้วย
"ปราชญ์แห่งผืนผิภพ จงกำจัดสิ่งขีดขวางที่ปิดกั้นอุโมงค์ซะ"
"ขอรับ เจ้านาย"
"และทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
"ข้าจะพยายาม"
"ซ่อนรอยเท้าปัจจุบัน ใช้ชุดอื่นเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าฉันเดินไปที่นั่น
"
พวกเขาเปิดเส้นทางหรือปิดกั้นทางข้างหน้า
แล้วใช้รอยเท้าของพวกเขาสร้างเส้นทางหลอกๆ
จิตวิญญาณแห่งผืนพิภพดูจะเหมาะสมที่สุดในการทำสิ่งเหล่านี้เพื่อจัดการเส้นทางในดันเจี้ยน
มันก็เหมือนกับการสะกดรอยตามเอลฟ์ในป่าใหญ่
อย่างไรก็ตาม
บรรดานักสะกดรอยทั้งหลายก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน พวกเขาสามารถสังเกตเห็นรายละเอียดที่เล็กที่สุดได้
หากเส้นทางถูกปิดกั้น พวกเขาจะใช้พลั่วและแม้กระทั่งเดินย้อนกลับมายังเส้นทางเดิมก็ตาม
เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางปลอมแปลงและกลับมายังเส้นทางที่ควรจะเป็น ถึงมันจะช้าแต่ก็แน่นอนกว่า
(แอดมิน:ช้าแต่ชัวร์)
==================================
คุณได้เห็น
"ชื่นชมดอกไม้" โดยประติมากร มุรุนิ
+
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 1
+
สำหรับการชื่นชมผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม ค่าความชำนาญด้านการแกะสลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
คุณได้เห็น
"ประติมากรรมการยกจอบขุด" ซึ่งเป็นของ ไอวานซ์
โดยปรมาจารย์ประติมากรปีแอร์
+
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 3
+
สำหรับการชื่นชมผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม ค่าความชำนาญด้านการแกะสลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
==================================
ขณะที่วีดและ
ซอยูน เดินลึกเข้าไปในดันเจี้ยน พวกเขาค้นพบประติมากรรมที่ทำโดยคนที่มาขุดเหมืองแร่ฮีเลียม
ประติมากรรมเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มเลเวลโดยที่พวกเขาไม่ต้องเสี่ยงชีวิต
แน่นอนว่ายิ่งทำให้มันง่ายขึ้น เนื่องจาก ซอยูน และเหล่าประติมากรรมสลักชีพพบพวกมันตลอดเส้นทางของพวกเขา
"ฉันเห็นว่ารัดเกล้านั่นทำมาจากเงิน แถมงานฝีมือก็มีคุณภาพสูงอีกด้วย
มันน่าจะขายได้ราคาดีแน่ๆเลย"
ทุกครั้งที่เขาเดินผ่านประติมากรรมโลหะมีค่าและแร่ธาตุที่มีราคาแพงที่อยู่ตรงนั้น
ทุกอย่างหายไปภายในพริบตา!
แน่นอน
วีด คือผู้ที่ถอนแม้กระทั่งฟันทองเล็กๆพวกนั้นออกมาจากประติมากรรม
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดสิ้นสุดของทางเดินและพบว่ามีป้ายสัญลักษณ์เก่าๆผุๆพังๆ
อยู่แถวนั้น
==================================
=
เหมืองฮีเลียม =
-
มันยังไม่สายเกินไป เหล่าคนหนุ่มสาวที่มีความฝัน จงหันหลังกลับไปซะ ข้าเรียนรู้ช้าไปว่าชีวิตนั้น
ก็เหมือนกับศิลปะ.-
==================================
พวกเขามาถึงเหมืองที่ซึ่งประติมากรคนแรกที่ได้มาสำรวจยังสถานที่แห่งนี้
ลาสฟาลั้งค์ เพื่อมาหาฮีเลียม
ทางเข้าเหมืองดูเหมือนปากที่เปิดกว้าง
ข้างในดูดำๆ มีคานไม้เน่าเปื่อยยื่นออกมา เปรียบเหมือนฟันที่พร้อมจะกลืนกินนักผจญภัย
แม้แต่กลุ่มนักสำรวจเหมืองก็ยังลังเลที่จะเข้าไปในเหมืองฮีเลียมในสภาพนี้ พวกเขาจำเป็นต้องแยกออกเป็นกลุ่มย่อยๆ
มีเพียงแค่ 1
หรือ 2 คนเท่านั้น
ที่จะเข้าไปในเหมืองได้อย่างปลอดภัย
"ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้"
การสำรวจเหมืองของวีดกำลังกลายเป็นเรื่องยากกว่าที่คาดไว้
ประติมากรไม่ได้มีทักษะที่เป็นประโยชน์ในการตามหาแร่ธาตุคุณภาพสูง ท้ายที่สุด
เขาคงต้องพึ่งโชคเท่านั้น
เขาจะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด
"นี่เป็นอะไรที่มีแต่ประติมากรเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ ฉันไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนจนกว่าจะหามันพบ"
เขามุ่งมั่นที่จะขุด
ฮีเลียม!
วีดมองเข้าในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา
เขามีขนมปังข้าวบาร์เลย์
20
ก้อนและขวดบรรจุน้ำจืดมากกว่า 10 ขวด เขาต้องการมัน
เพื่อให้มีชีวิตรอด เพราะตอนนี้เขาอยู่ในร่างมนุษย์
พวกเขากินอาหารที่เก็บมาจากงานแต่งงานของ
ซึลรโย จนหมดเรียบร้อยแล้ว มันมีอายุในการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น
ฉะนั้นมันจึงไม่เป็นไร
สิ่งที่เหลืออยู่นอกเหนือจากขนมปังข้าวบาร์เลย์และน้ำเป็นปริมาณมาก คือปริมาณอาหารแห้ง
หากไม่มีอาหารที่วีดจะกินได้ ก็เหลือเจ้าเหลือง ที่ยังสามารถพอจะกินได้
“เราจะต้องแบ่งอาหารกันก่อน”
การใช้ประติมากรรมจำแลงเพื่อเปลี่ยนร่างเป็น
ลิช จะหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกิน
แต่ถ้าเขาต้องการที่จะต่อสู้ พวก อันเดด ก็ยากที่จะเรียกมาในเหมือง
การต่อสู้โดยตรงจะทำให้คุณไปได้ไกลขึ้น
ขณะที่วีดเตรียมตัวเข้าไปในเหมือง
ซอยูน ก็กำลังตรวจสอบกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ
วีดส่ายหัว
"ฉันต้องการให้เธออยู่ที่นี่เพื่อปกป้องประตูทางเข้า"
ซอยูน อยากเข้าไปในเหมือง
แต่พวกเขาก็ต้องการใครสักคนเฝ้าอยู่ข้างนอกด้วย
มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการควบคุมทางเข้าและปกป้องมันจากทีมค้นหา
อย่างไรก็ตาม เจ้าเหลีอง วิหคทองคำและวิหคเงิน รวมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าทีมค้นหาได้ทั้งหมด
"ถ้าพวกนั้นปรากฏตัวออกมา ฉันอยากให้คุณหนีไปและซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ปลอดภัย
จนกว่าฉันจะออกมา ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำเสร็จเมื่อไหร่"
วีดหันเหความสนใจไปที่บรรดาประติมากรรมสลักชีพของเขา
เขาต้องการคนที่จะช่วยในเหมืองฮีเลียม
*จิ๊บ
จิ๊บ*
วิหคทองคำร้องเพลง
พลางเงยหัวขึ้นไปบนท้องฟ้า แสดงบทบาทคนนอกอันใสซื่อบริสุทธิ์
วิหคสีเงินกลิ้งไปมาบนพื้น แสร้งทำเป็นป่วย
แม้กระทั่งเจ้าเหลืองก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ด้วยการเดินเซไปเซมา
'เขาจะไม่เลือกฉัน'
ประติมากรรมสลักชีพทั้งสาม
มีความคิดแบบเดียวกัน พวกเขาไม่ต้องการเข้าไปในเหมือง พวกเขาปวดหัวกับดันเจี้ยนมากพอแล้ว
แต่การที่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็ง ทนทรมาน ทำงานในเหมือง มันแย่ ซะยิ่งกว่าแย่
ซะอีก!
"เจ้าเหลีอง เราไปเดินเล่นกันเถอะ"
สำหรับ
เจ้าเหลือง การตัดสินใจแบบนี้ก็เหมือนกับโดนสายฟ้าฟาดใส่
'เมื่อคุณกำลังหิว แม้กระทั่งเนื้อดิบๆ ... ' วีดเลียริมฝีปากของเขา
"ไปหาฮีเลียมกันเถอะ"
วีด
นำ เจ้าเหลีอง ที่ไม่เต็มใจจะไปโดยจับคอของเขา
เดินเข้าไปในเหมือง
==================================
คุณกลายเป็นเจ้าของเหมืองฮีเลียมเก่าและไม่ได้ใช้แล้ว
+
รางวัล: ชื่อเสียง +100
+
ทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่าและอัตราการดรอปไอเทมเพิ่มขึ้นสองเท่า
+
ไอเทมที่ดีที่สุดจะตกจากการฆ่ามอนสเตอร์ตัวแรกที่พบขึ้นอยู่กับชนิดของมัน
==================================
วีดและ
เจ้าเหลีอง เดินไปตามเส้นทางอันคับแคบและเล็กมาก
จากที่ไหนสักแห่งข้างหน้าในที่ปราศจากแสงและมืดมน
เสียงที่น่าขนลุกของน้ำหยดก็ยังได้ยิน
ในบรรยากาศชวนขนหัวลุก
เสียงฝีเท้าปริศนาค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างทาง
วีดพบร่างไร้วิญญาณอยู่ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง
"มีดแกะสลักของประติมากร"
==================================
คุณได้รับมีดแกะสลักของเพรุน
มันไม่ได้ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับมีดแกะสลักของ
ซาฮับ แต่มันก็ยังเป็นมีดแกะสลัก
มันเป็นเครื่องมือของช่างฝีมือดี
นอกจากนี้คุณยังพบแร่มรกตอันเลอค่าและวัตถุดิบหินดวงจันทร์!
==================================
"นี่คือมีดของประติมากรที่ตายแล้วสินะ"
บรรยากาศใกล้กับทางเข้าเหมืองฮีเลียมนี้
น่ากลัวมาก เหมือนหนังสยองขวัญยังไงยังงั้น
"มันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
เครื่องมือของประติมากรมักจะขายกันถูกๆ"
เครื่องมือที่ใช้ในการทำงานโดยตรงกับวัสดุ
ขายได้ค่อนข้างถูก เนื่องจากเงินใช้ในการผลิตนั้น ต่ำจนน่าผิดหวัง
มันจะดีมาก
ถ้ามีป้ายบอกทาง แต่ไม่มีเลย ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องมีทักษะในการสะกดรอย เพื่อหาทางเดิน
"ทุกคนที่มาที่นี่จะได้เห็นสิ่งนี้"
เหมืองฮีเลียมเป็นเหมือนเขาวงกตขนาดใหญ่และให้ความรู้สึกเป็นลางไม่ดี
“ดูเหมือนว่าประติมากรหลายคนจะล้มเหลวเพราะความยากลำบากของมัน
แต่ถ้ามันได้แค่นั้น มันก็คงไม่คุ้มค่ากับความพยายามที่จะมาที่นี่ “
ความมุ่งมั่นตั้งใจของคนงานก่อสร้าง
เพื่อขยันทำงานหนัก!
ทั้งสองคนมาถึงพื้นที่ทำเหมืองแร่ตรงทางแยก
แต่เพดานถล่มลงมา ทำให้เศษชิ้นส่วนและลาวาไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่อื่น
"ฉันเดาว่าเราจะต้องไปดูทั้งหมด
6 แห่ง"
บางครั้ง
พวกเขาก็โล่งใจที่ค้นพบประติมากรรม อาหารและน้ำของพวกเขาค่อยๆหมดไปทีละนิดๆ อุโมงค์นำพวกเขาไปที่ทางเดินส่วนแรกและจากนั้นอีกเส้นทางก็แตกกิ่งก้านสาขาไปตามเส้นทางนั้น
ดูหน้าหวาดกลัว,
เหมืองเป็นเขาวงกตที่เชื่อมต่อกันและดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
"เจ้านาย
แล้วพวกเราจะกลับไปที่ทางเข้าได้ยังไง?"
นี่เป็นความคิดของ
เจ้าเหลีอง แต่วีดเคยคิดถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว
การติดตามเส้นทางของคุณตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้คุณไม่หลงทางในเขาวงกต
แต่ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าติดกับหรือถูกคุมขัง จากจุดนี้คุณจะรู้สึกกังวลมากจนคุณขยับตัวไปไหนไม่ได้
นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก
"ข้ารู้
แต่ข้าคิดว่าเราหลงทางซะแล้วล่ะ ... "
วีดมองย้อนกลับไป
เฉพาะความมืดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ในขณะที่เส้นทางเหล่านั้นเชื่อมต่อกันโดยการเจาะผ่านช่องทางอุโมงค์ที่แยกออกมา
เส้นทางเหล่านั้นถูกครอบคลุมไปด้วยความมืด
คุณจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะนำคุณไปยังที่ไหน
"ลองไปตรวจสอบดูกันเถอะ
ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน"
วีดและเจ้าเหลืองกำลังเดินย้อนกลับไปยังทิศทางที่ที่พวกเขาแยกกันกับซอยูน
ใช่แล้ว วีด เขาขาดทักษะในทางเขาวงกต การหาเส้นทางที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่เรื่องตลกเลย
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะหาทางกลับไปเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ดี
สำหรับพวกเขาแล้ว
การลองและพยายามทำแผนที่เขาวงกต พวกเขาต้องการเวทย์มนต์พิเศษ แม้กระทั่งผู้คนในแผ่นดินใหญ่จะพบว่ามันยากมาก
แม้แต่เส้นทางอันคับแคบ ซึ่งดูเหมือนเส้นทางตรง ในไม่ช้ามันกลับกลายเป็นเส้นทางที่บิดเบี้ยว
นอกจากนี้ ถ้าคุณไม่ทราบว่าคุณอยู่ที่ไหน แล้วคุณก็ไม่รู้ว่าจะไปหา ฮีเลียม ได้ที่ไหน!
วีดไม่เคยยอมแพ้
จนในที่สุด พวกเขาก็สามารถหาทางกลับไปยังทางเข้าได้แล้ว
"เราไปผิดทางตั้งหลายครั้ง โดยที่พวกเราไม่มีทางรู้เลยว่าทางที่กำลังเดินไปนั้นมาจากไหนและสิ้นสุดที่ใด
นั่นเป็นเรื่องยากมากทีเดียวสำหรับการหา ฮีเลียม
"
ในขณะนั้น
วีดมองไปที่เจ้าเหลืองด้วยสายตาอันคมกริบ สายตาคู่นั้นมองดูแล้วคล้าย ๆ
กับการได้เห็นเหรียญทองแดงบนพื้นดิน
“นี่คือที่ที่ประติมากรและมนุษย์คนอื่น ๆ เข้ามา แต่ไม่มีอะไรน่าจะเป็นที่นี่
บรรยากาศแบบนี้น่าจะมีมอนสเตอร์อยู่ด้วยนะ..”
ถ้ามีมอนสเตอร์ที่คุณมักจะออกล่าอยู่เป็นประจำตามเส้นทาง
จะมีมอนสเตอร์และเส้นทางต่างๆ อยู่ร่วมกัน เพื่อให้เงื่อนงำหรือเบาะแสแก่คุณ ทางเดินเล็ก
ๆ กลิ่นเน่าเหม็นโชยมา มันจะนำพาให้ไปพบกับก๊อบลิน ฯลฯ
'นี่คือสถานที่ที่ประติมากรกับผลงานอันมีคุณค่ามากมายถูกทิ้งไว้ในสถานที่แห่งนี้
ดังนั้นพวกเขาก็คงละทิ้งเส้นทาง เพื่อตามหาเส้นทางของตัวเอง '
วีดคิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี
เขาไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหน ที่เขาวงกตนี้ถูกออกแบบโดยประติมากรและคนอื่นๆ
แต่เขารู้ดีว่าพวกนั้นต้องทิ้งคำแนะนำหรือคำบอกใบ้อะไรบางอย่างไว้เบื้องหลัง
"พวกเขาไม่ต้องการให้ผู้บุกรุกคนอื่น ๆ มาที่นี่ มีเพียงแค่ประติมากรเท่านั้น’
ดังนั้นพวกเขาอาจทำเขาวงกตเพื่อกำจัดผู้บุกรุกที่ไม่ได้รับอนุญาต
"พวกเขาเป็นประติมากร ... พวกเขาทิ้งผลงานประติมากรรมเอาไว้!"
วีดรู้ว่ามีประติมากรรมอยู่บ้างตามทางเดิน
นี่คือสิ่งที่ได้ผลกับทุกความคิดที่เขาเคยมีมา
"นี่เป็นหนทางของประติมากร คำเชื้อเชิญที่เพิ่มขึ้นมา ตรวจสอบ!"
วีดสามารถมองเห็นความทรงจำที่เก็บรักษาไว้ในประติมากรรม
ประติมากรรมจากทางเดินแต่ละแห่งนั้น มีอันนึงถือคบเพลิง ได้ชี้ไปในทิศทางหนึ่ง เขาสามารถใช้แนวทางเหล่านั้นเป็นตัวบอกทิศทาง!
"มันต้องอย่างนี้สิ"
วีดเดินอย่างมั่นใจ
มีประติมากรรมที่บอกทางที่ถูกต้อง เมื่อเขาเสร็จสิ้นแล้ว เขาจะดึงความทรงจำจากอันต่อไป
เขาขี่เจ้าเหลืองมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากความอึดและความอดทนของวีด เขาสามารถเดินทางไปได้โดยไม่กินอะไรเป็นเวลานานๆ
มันคล้ายกับฝูงแมลงสาบอันล้นหลามที่พยายามจะอยู่มีชีวิตรอด
แม้ว่าโลกจะแตกในวันพรุ่งนี้ วีดก็ยังจะออกไปซื้อผงซักฟอกขนาดใหญ่ที่ร้านค้าเพื่อให้ได้ขอเสนอซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง
เมื่อมาด้วยกันกับเจ้าเหลืองเป็นเสมือนสัตว์ที่แพ็คแล้ว
พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารในบางครั้ง เนื้อสัตว์แห้งและพืชที่ทำขึ้นมาจากอาหารในถุงบรรจุ
เป็นแพ็คๆเป็นซองๆ ซึ่งช่วยให้เก็บไว้ได้เป็นเวลานาน สุดท้าย หลังจากเดินทางมาเป็นระยะเวลานาน
ณ จุดสิ้นสุดของเขาวงกต, พวกเขาพบรถบรรทุกเหมืองแร่ที่วางอยู่บนรางรถไฟรางคู่ รางรถไฟที่นำไปสู่อุโมงค์เชื่อมต่อกับความมืดมิด
"ถ้าเรานั่งรถบรรทุกเหมืองแร่
เราสามารถไปได้เร็วขึ้นเล็กน้อย."
เจ้าเหลืองค่อนข้างมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับความคิดเรื่องรถเข็นนี้
"เจ้านาย มันดูเหมือนว่าข้าชอบที่พวกเราเดินมากกว่านะ."
"เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน รถเข็นจะช่วยให้พวกเราไปได้เร็วขึ้น"
"ข้าอยากให้ท่านขึ้นขี่บนหลังของข้ามากกว่านะ"
"เชื่อข้าเถอะ มันไม่ยากหรอกที่จะทำแบบนี้น่ะ ... ข้าจะนั่งหน้าเอง"
วีดผูกเจ้าเหลีอง
และเสบียงเข้ากับส่วนหลังของรถบรรทุกเหมืองแร่
วัวผูกติดกับด้านหลังของรถบรรทุกเหมืองแร่!
มีคำแนะนำง่ายๆที่กล่าวว่า
การที่จะขับเคลื่อนรถลากให้ได้นั้น จำเป็นจะต้องดันแท่งเหล็กที่อยู่ตรงกลาง
ให้ดันขึ้นดันลง ด้วยจังหวะและความเร็วที่สม่ำเสมอ
วีดดันแท่งเหล็กขึ้นลงและล้อเริ่มค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้าภายใต้กำลังของมัน
*คลึกกกกกก*
รถบรรทุกเหมืองแร่ทำให้เกิดเสียงรุนแรงขณะที่มันกำลังเคลื่อนไป
ขณะที่แท่งเหล็กได้รับการดันขึ้นดันลงอย่างหนัก
รถเข็นค่อยๆ มีกำลังเพิ่มมากขึ้น
"มันค่อนข้างเร็วนะ"
วีดหยุดปั๊มแท่งเหล็กและใช้กล่องไฟส่องสว่างเพื่อพยายามมองไปข้างหน้า
มันยากที่จะยืนยันได้ เนื่องจากอุโมงค์มันโค้งค่อนข้างมาก
ก็นะ
รถบรรทุกเหมืองแร่นี้ จะทำให้แน่ใจได้ง่ายขึ้น เพื่อที่จะออกจากเขาวงกตนี้!
มุ่งไปข้างหน้าลงด้วยความเร็วสูง
เจ้าเหลืองก็ได้พูดขึ้นมาว่า
"เจ้านาย ท่านช่วยลดความเร็วลงหน่อยได้ไหม"
วีดไม่รู้ว่าทางข้างหน้าของรถรางนั้นมีอะไรรอยู่
เขาก็เหมือนกันมีความรู้สึกว่า 'คุณต้องลดความเร็ว'
"งั้นเราไปช้าลงหน่อยก็แล้วกัน"
เสาเหล็กด้านข้างทางขวามือติดกับแผ่นแรงเสียดทานที่กดต่อล้อเพื่อให้รถเข็นทำงานช้าหรือหยุดลง
วีดดึงแท่งเหล็กอันนั้น
*คา แก แกะ แก็ก แกร็ก แกร๊ง!*
ประกายไฟจำนวนมากออกมาจากข้างใต้รถเข็น
ช่วยชะลอความเร็วของพวกเขาให้ลดลงเล็กน้อย
"เจ้านาย ท่านช่างน่านับถือมาก เพียงเพื่อทำให้ข้านั้นรู้สึกสบายใจ......
"
เมื่อวีดได้ยินคำเหล่านั้น
เช่นเดียวกับรถเข็น ที่กำลังกดหัวลงไปตามทางลาดอย่างรวดเร็ว ความเร็วของรถเข็นค่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเร็วกว่าเดิมค่อนข้างมาก
"เจ้านาย นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว"
"เอาล่ะ ข้าจะหยุดพวกเราเดี๋ยวนี้แหละ!"
วีดดึงเสาเหล็กแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเขาลงทุนไปกับค่าสถานะความแข็งแกร่งและค่าสถานะความคล่องตัวมากสุดๆ ทำให้แรงที่ใช้นั้น
มากกว่าคนธรรมดาสามัญทั่วไป หรือ ก็คือเกินมนุษย์มะนานั่นเอง ง่ายๆ
พละกำลังเหนือมนุษย์นั่นเอง รถเข็นโยกไปตามแรงเบรกที่ใช้ ล้อและเบรกมันเก่ามาก ด้วยความเร็วที่มากเกินไป
ทำให้ไม่สามารถที่จะต้านทานแรงกดอันมหาศาลได้ เบรกเริ่มใช้การไม่ได้แล้ว
มันหักจนไม่เหลือชิ้นดี ตอนนี้มันกลายเป็นของไร้ประโยชน์ไปซะแล้ว
รถเข็นสั่นสะเทือนและแกว่งไปทางขวาและทางซ้ายแล้วพุ่งไปข้างหน้า!
วีดตัดสินใจ
"อืม อาจจะพุ่งชนอะไรสักอย่างก็เป็นได้"
ความเสี่ยงจำเป็นจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างสงบโดยไม่ใช้อารมณ์
วีดวิเคราะห์สถานการณ์ให้เจ้าเหลืองฟังอย่างเปิดเผย
"ข้าไม่คิดว่าจะมีอะไรที่สามารถทำให้ข้าหยุดรถเข็นนี้ได้"
มอออออออ!
"ถ้าเกิดรางมันเบี่ยงออกจนพวกเราหลุดโค้ง
พวกเราจะลอยไปไกลและชนเข้ากับอะไรบางอย่าง จนถึงขั้นที่ว่าพวกเราอาจได้ในทันที...
"
ไม่ว่ามันจะมีความหวังมากสักแค่ไหน
มันก็ถูกบดขยี้ด้วยคำอธิบายอันสิ้นหวังนี้!
รถบรรทุกเหมืองแร่ยังคงมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ เมื่อมันวิ่งตามรางอุโมงค์ ยิ่งไปเข้าลึกมากขึ้นและเร็วขึ้นตามแนวรางรถไฟใต้ดิน
"แต่ก็ยังมีความหวังอยู่นะ ... คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อคุณตาย"
เจ้าเหลืองที่ตื่นตระหนกตกใจกลัวเหมือนวัวที่กำลังถูกนำเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์
ทางเดินผ่านไม้รองรับสร้างลม
ขณะที่รถเข็นเร่งผ่านอุโมงค์เหมืองใต้ดินด้วยความเร็วที่ยิ่งยวดมากขึ้น
"ก้มตัวลงและหาที่จับให้แน่น"
รางรถไฟไม่ได้เป็นเส้นตรงตลอดทาง
มันมีทางโค้งด้วย การนั่งกลายเป็นหลุมเป็นบ่อทำให้ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่จะมุ่งหน้าไปสู่ความสูญเสีย
เป็นระยะเวลานานนับตั้งแต่ที่ได้มายังลาสฟาลั้งค์
มันทำให้พวกเขารู้สึกหนักอึ้งจนเต็มกระเพาะ!
ไม่มีโอกาสที่จะให้คิดแม้กระทั่งเรื่องการพักผ่อนไปกับสภาวะอันตึงเครียด
หลังจากนั้นสักครู่ เส้นทางเปลี่ยนไปกลายเป็นเนินเขาและเริ่มที่จะชะลอตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เจ้าเหลืองถึงกับต่อมน้ำตาแตก
ระเบิดออกมาเป็นน้ำตาแห่งความสุข
"เจ้านาย ดูเหมือนว่าพวกเราจะยังมีชีวิตอยู่นะ!"
ด้วยความคิดที่คล้ายคลึงกัน
วีดพูดอย่างมีความสุข
"แต่เราโชคดีมาก เราไม่ได้ข้ามไปรางที่เสียหายแล้วยังไปตามเส้นทางของเรา
เนื่องจากไม่มีใครใช้อุโมงค์เหล่านี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว มันช่างมหัศจรรย์มาก ที่ยังคงเป็นไม่เป็นอะไร"
จากด้านบนนี้
พวกเขามองเห็นระยะทางที่ห่างออกไป ทางข้างหน้าเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่มีความลึกที่มิอาจทราบได้
สะพานเหล็กขยายจนเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ สะพานยาว
30
เมตร ตามสะพานรถไฟและเกือบจะตรงกลางของรอยแยก สะพานขาดออกจากกันจนเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ในราง
ผิวของเจ้าเหลืองถึงกับซีดในทันที
เมื่อได้รู้ว่าความตายกำลังจะมาเยือน
"เจ้านาย ขอบคุณที่ท่านให้ข้าได้มีชีวิตอยู่จนตอนนี้ ได้โปรด ข้ามีคำขอครั้งสุดท้าย
ฝากลูกเมียข้าด้วย... "
เจ้าเหลือง
ผู้ที่จมอยู่กับความสิ้นหวัง ได้ข้อร้องเป็นครั้งสุดท้าย มันคือการดูแลบรรดาลูกวัวตัวน้อยๆด้วยความรัก
และไม่ลุกหนีไปไหน ขอตายเพียงคนเดียว
วีดตอบเป็นปกติเหมือนไม่รู้สึกอะไร
"แกจะตายอย่างไม่มีจุดหมายอย่างงั้นหรือ
แกจะตามไปเหมือนเจ้าโกลด์มินิใช่มั้ย ที่ปล่อยให้ตัวเองตายไปและบังคับให้ข้าต้องสร้างเค้าขึ้นมาใหม่เนี่ยนะ? "
เจ้าเหลืองรู้สึกปลื้มปริ่ม เมื่อได้ฟังคำพูดแสดงความห่วงใยของวีดในนาทีสุดท้าย
วีด กำลังอยู่ในช่วงจบการแสดง ได้ระบายอารมณ์ออกมาทั้งหมด
"เนื้อซี่โครงจะเสียไป
ถ้าแกตาย ปริมาณไขมันยังไม่สูงพอ แกจะไม่ได้รับอนุญาตให้ยอมแพ้ "
วีดคาดคั้นพลังทั้งหมดที่มี
เร่งปั้มแท่งเหล็กของรถเข็น ทำให้พวกเขาไปเร็วมากขึ้น เพียงแค่พริบตาเดียว พวกเขาก็มาถึงสะพานที่ขาดออกจากกัน
รถลากวิ่งไปตามทาง
แล้วไหลลึกลงไปในราง พวกเขาวิ่งขึ้นลงแล้วพุ่งขึ้นไปในอากาศ ในช่วงระยะเวลากัดฟัน
เป็นช่วงเวลาสั้น
ๆ พวกเขาออกจากทางรถไฟทั้งหมดและลอยไปในอากาศด้วยความเร็วที่เงียบและดูน่ากลัว
สิ่งนี้ผลักดันพวกเขาให้พ้นจากกำแพงด้านหลังสุดของรถบรรทุกเหมืองแร่!
เอี้ยด
เอี้ยด เอี๊ยด!
เมื่อรถเข็นแล่นลงบนทางรถไฟที่อยู่ไกลออกไป
มันสร้างประกายไฟเหมือนเม็ดฝนขนาดใหญ่ รถเข็น เด้งไปมาบนรางรถไฟแคบๆ มุ่งตรงไปหน้าโดยปราศจากราง
'ข้าเดาว่าเจ้าจะไม่ตายที่นี่แน่นอน "
เจ้าเหลืองได้แต่สูดหายใจลึกๆ
วีดดูมีความสุขมาก
"เมื่อกี้นี้มันยอดเยี่ยมมาก"
“…?”
"พอลองมาคิดดูแล้ว มันเป็นระยะเวลานานที่รางอันนี้ยังคงอยู่ และ ทุกที่ยกเว้นสถานที่นั้น
มันดีอยู่แล้ว มันก็ยังอยู่ในสถานที่ที่ฉันสามารถทำบางสิ่งบางอย่างที่จะผ่านมันไปได้, แตกต่างจากที่ได้มีการพูด, สิ่งกีดขวางบนเส้นทาง"
ในขณะนั้น
ดูเหมือนว่ามันกำลังตกลงมาจากเนินเขา ก้อนคริสตัลสีแดงขนาดใหญ่เท่าบ้านที่มองเห็นได้ชัด
ปิดกั้นทางไปข้างหน้าอยู่
"พุ่งไปข้างหน้า ไปเลย!"
วีดและ
เจ้าเหลือง ก้มตัวลงและรถบรรทุกแร่ก็พุ่งเข้าไปด้วยสภาพทั้งๆอย่างนี้
คลึกคลากกก
รถลากพุ่งเข้าชนจนคริสตัลแตกเป็นเศษนับร้อยๆชิ้น
วีดเพื่อให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้า
เขาจึงใช้ทักษะประติมากรรมแสง ทำให้ร่างกายของเขาเรืองแสงดั่งเช่นเมฆสีเงิน
ผลึกคริสตัลแตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อยและหมุนวนและส่องแสงเป็นประกาย
มันช่างเป็นปรากฏการณ์ที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ แต่ช่างน่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีเวลาได้เห็นมากพอ
เนื่องจากพวกเขาผ่านมันไปในทันที
วีดได้แต่แสดงความคิดเห็นและวิจารณ์ออกมา
"อย่างไรก็ตาม เรายังโชคดีเพียงครั้งเดียว ... "
*คว้าง!*
"ตอนนี้โชคดีเป็นสองเท่า"
"ฉิบหายแล้ว! ...”
รถเข็น
ขณะที่ตัวของมันกำลังฉีกขาดออกจากกัน กำลังชะลอตัวลง
ด้านหน้าของรถเข็นที่ประสบกับแรงกระแทกหลายครั้งกำลังถูกบดขยี้
พลังชีวิตของวีดและเจ้าเหลืองลดลงอย่างมากจากผลกระทบ
หากไม่มีประสบการณ์การใช้หลับตาอดทน
วีดอาจตกอยู่ในอันตรายแล้วก็เป็นได้
วีด
ที่เป็นคนนั่งข้างหน้าได้รับความเสียหายจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับพลังชีวิตของเจ้าเหลือง มันยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก!
"ยังคงเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่เรายังมีชีวิตอยู่ ...... "
ทันทีที่เขากล่าวเช่นนั้น
รถบรรทุกเหมืองแร่กำลังจะมาถึงจุดจบทันที ที่ปลายสุดของรางรถเป็นกำแพงหินที่แข็งแรงมาก!
มอออออ!
เจ้าเหลืองส่งเสียงกรีดร้องออกมา
ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
"ปีกแห่งแสง
บินไปเลย!"
หลังจากโกลด์มินิตาย
ปีกแห่งแสงก็กลับคืนสู่วีด
วีดเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ตายเพราะปีกแห่งแสง!
มันเป็นเรื่องสนุกที่หยอกล้อเล่นกับเจ้าเหลืองผู้ขวัญอ่อน
แต่เขาพร้อมที่จะกางปีกออกทุกเมื่อ ทันทีที่ถึงเวลาเหมาะสม
วีดยืนยันว่ามันถึงเวลาแล้ว
เขากางปีกออก ปีกแห่งแสงที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ และหนีออกจากรถเข็นไปพร้อมกับเจ้าเหลือง
พวกเขาบินเป็นระยะทางกว่า
40 เมตร เร่งความเร็วผ่านฝ้าเพดานและผนังด้านข้าง จนกว่าเขาจะสามารถชะลอตัวลงและหย่อนตัวพวกเขาให้ยืนอยู่บนกำแพงหินที่ปิดกั้น
รถเข็นพุ่งชนเข้าไปในกำแพงพร้อมกับเสียงดังสนั่น
ขณะที่ชิ้นส่วนสุดท้ายของรถเข็นพุ่งออกมา มีเพียงแค่ส่วนล้อเท่านั้นที่หยุดลง หลังจากการชนเข้ากับกำแพง
วีด
กระพือปีกแห่งแสง แล้วพูดขึ้นมาว่า
"เจ้าเหลือง ขากลับอยากลองนั่งดูอีกมั้ย?"
จบตอน
ผู้แปล: koichii
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ขอบคุณมากครับแอด
ตอบลบอู้ย!หวาดเสียวแทน น่าใช้ปีกบินมาตามรางตั้งแต่ต้น เจ้าเหลืองหัวใจวายตายแล้วมั้ง ฮ่าๆ
ตอบลบแหม่ ยังมีอารมณ์ไปแกล้งเจ้าเหลือง 5555555555
ตอบลบแค่คิดก็มันแล้วเหลืองบอก
ตอบลบยังจะแกล้งกันอีกบักวีดนี่
ตอบลบขอบคุณครับผม
ตอบลบเสียวดี
ตอบลบน่าตื่นเต้นอ่าา...
ตอบลบขอบใจหลายๆเด้ออ
RIP เจ้าเหลือง
ตอบลบช็อกตายแล้วเจ้าเหลืองกุ
ตอบลบสวัสดีฉัน aM clinton nancy หลังจากที่ได้มีความสัมพันธ์กับแอนเดอร์สันมานานหลายปีแล้วเขาเลิกกับฉันฉันทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาได้ แต่ทั้งหมดก็ไร้ผลฉันต้องการให้เขากลับมามากเพราะความรักที่ฉันมีต่อเขา, ฉันขอร้องเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างฉันทำสัญญา แต่เขาปฏิเสธ ฉันอธิบายปัญหาของฉันกับเพื่อนของฉันและเธอบอกว่าฉันควรจะติดต่อล้อสะกดที่สามารถช่วยฉันโยนคาถาเพื่อนำเขากลับมา แต่ฉันเป็นประเภทที่ไม่เคยเชื่อในการสะกดฉันไม่มีทางเลือกกว่าที่จะลองฉัน ส่งคาถลลวงและเขาบอกผมว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ที่ทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนสามวันที่อดีตของฉันจะกลับมาหาฉันก่อนสามวันเขาได้ให้การสะกดและในวันที่สองก็แปลกใจคือประมาณ 4 โมงเย็น อดีตของฉันเรียกฉันว่าฉันประหลาดใจมากฉันตอบสายและสิ่งที่เขาพูดก็คือเขาเสียใจมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการให้ฉันกลับไปเขาว่าเขารักฉันมาก ฉันมีความสุขมาก ๆ และไปหาเขานั่นคือสิ่งที่เราเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันได้สัญญาว่าใครที่ฉันรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันก็จะช่วยคนดังกล่าวโดยการแนะนำให้เขาเป็นครูผู้ชำเถียงในการสะกดเฉพาะที่แท้จริงและทรงพลังที่ช่วยฉันด้วยปัญหาของตัวเอง อีเมล์: drogunduspellcaster@gmail.com คุณสามารถส่งอีเมลถึงเขาได้หากคุณต้องการความช่วยเหลือในความสัมพันธ์หรือกรณีอื่น ๆ
ตอบลบ1) รักคาถา
2) Lost Love Spells
3) การหย่าร้าง
4) เวทมนตร์สมรส
5) มัดสะกด
6) คาถา Breakup
7) ขับไล่คนที่ผ่านมา
8. ) คุณต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งในการสะกดของสำนักงาน / สลากกินแบ่งของคุณ
9) ต้องการที่จะตอบสนองความรักของคุณ
ติดต่อคนที่ยิ่งใหญ่นี้หากคุณมีปัญหาใด ๆ สำหรับโซลูชันที่ยั่งยืน
ผ่าน DR ODOGBO34@GMAIL.COM