วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เล่ม 21 ตอนที่ 2 ห้องแสดงผลงานประติมากร แปลโดย koichii

เล่ม 21 ตอนที่ 2 ห้องแสดงผลงานประติมากร แปลโดย koichii


วีดมองย้อนกลับไปที่ถนนด้านหลังพวกเขาอยู่หลายครั้ง  ระยะห่างจากเจ้าเหลือง วิหคทองคำและวิหคสีเงินนั้น ค่อนข้างห่างพอสมควร

 

"ไม่ใช่ทางนี้หรอกเหรอ?"
“….”
"ถ้างั้น ลองย้อนกลับไปอีกทางดู"

พวกเขาเลือกทางผิดมากกว่านับสิบครั้ง ทั้งทางตัน,ทางเดินที่ถูกปิดกั้น,อุโมงค์ที่คับแคบและอันตรายสุดๆ!

แต่วีดไม่สามารถระบุเส้นทางที่ถูกต้องได้ เนื่องจากอุโมงค์มืดๆทั้งหมด มันดูเหมือนกันมาก จนทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจเลือกทิศทางว่าจะไปทางไหนดี ทิศเหนือ,ทิศใต้,ทิศตะวันออก, หรือ ทิศตะวันตก

นอกจากนี้ ยิ่งลงไปลึกมากเท่าไหร่จะมีทางเชื่อมต่อไปอีกหลายทาง เหมือนอุโมงค์ของมดขนาดมหึมา และอันซับซ้อนเกินไป มีหลายร้อยทางแยก, โพลงที่เปิดออก และ พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ในทางที่ซับซ้อนมาก การหาทางไปยังตำแหน่งที่ต้องการคือเมื่อสิ้นสุดการดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งระยะทางสั้น ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ที่จะบอกว่าเหมืองฮีเลียมอยู่ตรงไหน ไม่ได้มีการทำเครื่องหมายเอาไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่

ซอยูน ลังเลยื่นมือออกมา
"ให้ฉันดูแผนที่บ้าง จะได้มั้ย?"

ในตอนแรก เธอพูดติดๆขัดๆอยู่สองสามครั้ง แต่ตอนนี้มันเริ่มนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ
วีดมอบแผนที่ใต้ดินให้เธอ
"ทำตามที่เธอต้องการได้เลย แต่ดันเจี้ยนนี้มีความซับซ้อนมาก มันไม่ง่ายที่จะหาเส้นทางที่ถูกต้อง "

 ‘ถ้าเธอจะเข้ามาเป็นผู้นำ เธอต้องพยายามไม่ให้พลาดเหมือนกันกับเขา!

ซอยูน มองดูแผนที่สักครู่หนึ่ง แล้วชี้ไปทางขวา

"ฉันคิดว่าเราควรจะไปทางนั้น"
"เธอคุณอย่างนั้นหรือ? ก็นะ คนเราก็สามารถทำผิดพลาดได้ ฉันหมายความว่า เธอยู่ไหน ... ไปทางนั้นกันเถอะ "
วีดต้องการจะพูดมากกว่านี้ แต่แล้วเขาก็คิดว่าเขาควรที่จะแสดงความใจกว้างและปฏิบัติตามเธอ
"มีหินย้อยที่คมมากในระยะ 200 เมตร"

ซอยูน ให้ความสนใจและระมัดระวังรายละเอียดรอบตัวเธอ
"ไม่ว่าเธอจะมองจากที่ไหน มันก็มีหินย้อยอยู่ทุกหนทุกแห่ง"

ซอยูน นำทางพวกเขา เลี้ยวไปยังสถานที่ที่มีรอยแตกระหว่างหินย้อยคมๆพวกนั้น

หินย้อยทั่วไปจะเห็นได้จากบนเพดานถ้ำเป็นรูปทรงกรวยอันเกิดจากแร่ธาตุแล้วมีน้ำหยดลงมา มันไม่ใช่เรื่องปกติที่คุณสามารถพบเห็นมันได้ทั่วไป
คุณสามารถดื่มน้ำแร่ที่หยดจากมันได้เช่นกัน

เมื่อวีดกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ ตอนนี้เขาต้องการน้ำและอาหารอีกครั้ง เจ้าเหลือง, ซอยูน, วิหคทองคำ และ วิหคสีเงิน ก็ต้องการน้ำเช่นกัน ขณะที่ กระแสลาวาทำให้ลำคอแห้งมาก

"ตั้งแต่ทางข้างหน้าจะถูกกั้นโดยกระแสลาว า ฉันจะเข้าไปในช่องว่างใหม่ที่ถัดจากหินย้อยเหล่านี้"

ลาวาที่ไหลผ่านทางด้านข้างนี้ มีการปะทุเกิดขึ้นน้อยและมีหินแข็งกว่าที่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ จากนั้นทางเดินก็เปิดออกเข้าไปในดันเจี้ยนขนาดใหญ่

วีดพาพวกเขาหลงทางครั้งแล้วครั้งเล่า พยายามที่จะพาไปในทิศทางที่ถูกต้อง, ในทางตรงกันข้าม,ซอยูน ก็สามารถหาเส้นทางที่ถูกต้อง กับการลองครั้งแรกของเธอ

พยายามที่จะรักษาหน้าของตัวเอง วีด พูดคุยเงียบ ๆ กับ เจ้าเหลือง

"เดิมทีแล้ว ฉันเป็นคนที่พบเส้นทางนี้เองแหละ"
 “มอออ
"ฉันแค่จะบอกว่าฉันคือคนที่ทำงานหนักทั้งหมดนี้จริงๆนะ จนทำให้เรามาได้ไกลขนาดนี้"

เจ้าเหลือง เปิดปากของมันกว้างมาก แลบลิ้นไปมา แล้วหาว จากนั้นก็เดินต่อไป เห็นได้ชัดเลยว่าคำพูดของวีดนั้น เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

ต้องขอบคุณ ซอยูน ในที่สุด พวกเขาก็สามารถจะหยุดการสูญเสียเวลาและหาเส้นทางที่แท้จริง

ในขณะที่มอนสเตอร์ปรากฏตัว พวกเขาก็มีอาหารมากขึ้น มีประชากรมอนสเตอร์ขนาดกลางอยู่ในส่วนของดันเจี้ยนนรกโลกันตร์แห่งนี้

นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากทางเดินใหม่มีขนาดใหญ่กว่า พวกเขาสามารถต่อสู้ได้ง่ายขึ้น เนื่องจาก โทริ และ แวนฮ๊อกค์ สามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้กับ ลิซ และการควบคุมกองทัพ อันเดด แต่ก็เพียงพอสำหรับดันเจี้ยนนี้ วิหคทองคำและวิหคสีเงินสามารถร่วมต่อสู้เป็นทีมได้ แม้ว่าทักษะของวิหคสีเงินนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำก็ตามที

* ติ๊ง! *
==================================
คุณได้เห็น "ความหวังของนักพเนจร"
โดยประติมากร พรีช
ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 2
สำหรับการชื่นชมงานศิลปะอันยอดเยี่ยม ความชำนาญทักษะการแกะสลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
==================================
พวกเขาเริ่มพบเจอประติมากรรมในอุโมงค์อันใหม่ ซึ่งกว้างขวางมาก รูปปั้นอันแรก เป็น รูปคนกำลังถือคบเพลิงทำท่าจะออกไปสำรวจ!

เอฟเฟ็คจากรูปปั้น ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและอัตราการฟื้นพลังกาย

"ประติมากรรมพวกนี้ทำในลักษณะเดียวกับผลงานจากประติมากรรมมรดก ลาสฟาลั้งค์"

ถึงแม้ว่าระยะทางประมาณของเหมืองฮีเลียมจากจุดนี้ยังค่อนข้างห่างไกลนัก ประติมากรพวกนี้ฉลาดพอที่จะทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นเครื่องหมายระบุเส้นทาง เพื่อให้สามารถหาทางผ่านอุโมงค์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้

"ตรวจสอบ!"

วีดต้องการใช้ประโยชน์จากทักษะความทรงจำประติมากรรม ... ในกรณี.

การระบุอาวุธและชุดเกราะนั้นจะเป็นแบบตรงไปตรงมา คุณจำเป็นต้องมีแค่เลวลสกิลในระดับที่สูงพอประมาณ การใช้ ตรวจสอบ บนประติมากรรมจะทำให้เกิดความทรงจำลักษณะพิเศษและแสดงความทรงจำเหล่านั้นให้เขาดู แต่มันก็ขึ้นอยู่กับบริเวณหรือตำแหน่งที่เขาสัมผัสพวกมันด้วย

วีดกำลังพยายามค้นหาความทรงจำของประติมากรรมและสิ่งที่มันเห็น สัมผัสมือที่กำลังถือคบเพลิง ความทรงจำที่ฝังอยู่เริ่มปรากฏออกมาให้เห็น

"มันมืด มืดมาก."
“….”

ดันเจี้ยนมืดๆและประติมากรรมก็ถูกสร้างขึ้นในที่มืด มันไม่เคยเห็นอะไรเลย ดังนั้นมันจึงไม่ค่อยมีความทรงจำอะไรมากมายนัก

เมื่อคุณสร้างประติมากรรมตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์ คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะออกเป็นรูปแบบไหน ไม่มีทางรู้เลยว่าทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร เนื่องจากความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่คุณกำลังแกะสลัก จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเกิดความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งคุณไม่สามารถแก้ไขได้

"ไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหนต่อ จากที่นี่มันยากที่จะบอกได้ว่าทางไหนคือทางที่สั้นที่สุด? "
"ฉันจัดการเอง"

ประติมากรผู้ที่ค้นพบสถานที่แห่งนี้ ได้แกะสลักผลงานอันโดดเด่นในทางเดินใต้ดิน ผลงานเหล่านี้เป็นเหมือนการค้นหาสมบัติเล็กๆ และทำได้ดีไม่ยากที่จะมองหาของที่ซ่อนอยู่ มันดูเหมือนจะเป็นของที่ผิดพลาด ที่ทำออกมาจากหิน ที่ยังไม่ได้ค้นพบในดันเจี้ยน

'ก็นะ ... มันไม่เพียงแต่ได้รับค่าสถานะทางศิลปะมากขึ้น แม้กระทั่ง เราเองก็ยังปรารถนาที่จะแสดงความเคารพต่อจิตวิญญาณอันประเสริฐของเหล่าประติมากรผู้อุทิศชีวิตให้กับสถานที่แห่งนี้ '
******
เหล่าผู้เล่นจากราชอาณาจักรฮาเว่น และ โดยเฉพาะ ดรินเฟลด์ กำลังหัวเสียแบบสุดๆ (แอดชิน:ถ้าสมัยนี้ ก็หัวร้อนล่ะนะ 555)
ผลการรายงานจากกลุ่มโจรและทีมสะกดรอยคนอื่นๆจบลงด้วยการกลายเป็นตัวตลกในหมู่ผู้คน ดรินเฟลด์ถึงกับเซ็งเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้
กองกำลังเสริมที่มาใหม่จากกิลด์เฮอร์มีสก็ด้วย รวมไปถึงทุกคนในหมู่พวกเขา ต่างก็แสดงออกอย่างโกรธเคืองและไม่เป็นที่พอใจมาก
"เราวนเวียนอยู่ที่เดิมมาสองชั่วโมงกว่าแล้วนะ "
"นายดูมีความมั่นใจในตอนแรกนะ ไหนนายบอกว่าจะตามพวกมันทันในอีก 3-4 วันไง พอมาดูตอนนี้สิ นี่มันกี่วันมาแล้ว นายจะมาบอกว่า นายไม่รู้ว่าจะเป็นพรุ่งนี้หรือเมื่อไหร่กันแน่
การที่จะพบกับ วีด ภายนอกดันเจี้ยน อาจเร็วกว่า ณ จุดๆนี้
การต่อสู้จำนวนมากที่พวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วม ทำให้พวกเขาทั้งหมดรู้สึกเหน็ดเหนื่อย กังวลและประหม่า มันไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไม เพราะสมาชิกของกิลด์เฮอร์มิส ต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์นั่นเอง
หลังจากระบุเป้าหมายหลักไปที่ยักษ์อัคคี บรรดาพ่อมดแม่มดและหมอผี ใช้วิธีการต่างๆอย่างมีแบบแผนในล่าพวกมัน
การต่อสู้เหล่านี้ ล้วนเป็นการต่อสู้กับบอสทั้งนั้น เนื่องจากพวกมันมีขนาดใหญ่มาก ทำให้การต่อสู้เหล่านี้ส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างไรก็ตาม การใช้เวทมนตร์น้ำแข็งได้ผลดีมาก ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถล่าพวกมันได้ด้วยอัตราความสำเร็จที่ค่อนข้างดี
ยักษ์อัคคีและเวทมนตร์น้ำแข็ง
พวกเขาจบปัญหานี้ด้วยการใช้คุณสมบัติที่มีพลังโจมตีสูงอย่างสลักเกลียวน้ำแข็ง(ice bolt) เมื่อรวมกับการโจมตีทั้งหมดจากนักเวทย์ เล็งไปที่จุดๆเดียวบนร่างกายของยักษ์อัคคี เทคนิคนี้จึงสามารถทำลายเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์        
การออกล่ากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ในขณะที่ช่วยกันทำลายมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้กิลด์เฮอร์มีส เพิ่มระดับความเร็วในการค้นหาก้าวหน้ามากขึ้นและยังสามารถกวาดล้างดันเจี้ยนที่ผ่านมาได้จนหมด
จนถึงวันที่ห้า หลังจากเข้าไปในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ วันนั้นพวกเขาค้นพบวงมนตราและค่าสถานะจำนวนมากก็เพิ่มขึ้น ทำให้มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
"เพียงแค่สิ่งนี้เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้การผจญภัยครั้งนี้ คุ้มค่ากับอุปสรรคทั้งหมดที่ผ่านมา"
"รู้สึกสดชื่นอะไรขนาดนี้ ที่ได้รับการชดเชย หลังจากคืนและวันอันย่ำแย่ภายในสถานที่ที่ทั้งร้อนและสกปรก"

ย้อนกลับไปในพื้นที่ล่าของอาณาจักร ฮาเวน มันเหมือนกับพวกสุนัขแย่งกันกิน เพียงเพื่อพยายามยกระดับทักษะและเลเวลด้วยจำนวนเล็กน้อย แต่เมื่อพวกเขาออกมาจากพื้นที่ล่าอันเป็นบ้านเกิดและมาถึง ลาสฟาลั้งค์แห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดจึงได้สัมผัสกับประสบการณ์อันสุดยอดในการเพิ่มลเวลของพวกเขา

แต่แล้วพวกเขาก็ต้องสะกดรอยตามวีดไป จากการค้นพบวงมนตราแห่งเปลวเพลิง พวกโจรและมือสังหารไม่ได้ประสบการณ์อะไรเลย นอกเสียจากความยากลำบาก

"ผมขอโทษ แต่ทุกอย่างมันดูคล้าย ๆ กัน ... อย่างที่คุณรู้ว่ามีมอนสเตอร์จำนวนมากอาศัยอยู่ที่นี่ พื้นของดันเจี้ยนใต้ดินส่วนใหญ่ทำด้วยหิน แล้วมอนสเตอร์ก็เดินผ่านร่องรอยที่หลงเหลือเพียงน้อยนิด ... . ดังนั้นจึงมันเป็นเรื่องยากที่จะ หาเส้นทางที่ถูกต้อง ... "

"ฉันได้ยินแบบเดียวกันนี้ 20 ครั้งแล้ว"

"ให้เวลาพวกเราสักหน่อยนะครับ"

"มันเป็น ให้เวลาอีกสักนิด มาทั้งวันแล้ว ฟังนะ พวกเราไม่มีทางเลือกมากนัก แต่ทั้งหมดนี้ไอ้ขอเวลาเพิ่มเนี่ย มันทำให้เราดูเหมือนคนโง่โดยสมบูรณ์แบบ "

พวกโจรต้องการสิ้นสุดการรับผิดชอบเรื่องสะกดรอยตาม เพราะมันมากเกินไป
การตามหาเส้นทางของ วีด ไม่ใช่เรื่องง่าย ดันเจี้ยนลึกและกว้างโดยไม่มีแหล่งกำเนิดแสงจากธรรมชาติ ดังนั้นคุณจึงต้องพึ่งเวทมนตร์เพื่อดูเส้นทาง

แน่นอนว่าพวกเขาเดินตามรอยเท้า แต่หลังจากนั้นไม่นานเส้นทางบนพื้นดินก็หายไปหรือถูกกลบไป แล้วคุณต้องหยุดและปรึกษากันควรจะไปทางไหน โดยปกติจะมีคำสาปแช่งบางคำปนมาด้วย

"เห็นได้ชัดว่าเขาเดินไปตามเส้นทางนี้"

พวกโจรและมือสังหารคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วย นี่คือเส้นทางที่วีดใช้อย่างไม่ต้องสงสัย

"แล้วทำไมพวกเรายังวนกลับมาอยู่ที่เดิมอีกล่ะ?"

โจรที่เป็นนำทางถอนลมหายใจอย่างหนัก มือสังหารคนหนึ่งก็เดินมาข้างหน้า

"ผมไม่เข้าใจ"

ดันเจี้ยนของลาสฟาลั้งค์ ช่างมีความซับซ้อนจริงๆ

แม้กระทั่งวีด ผู้ซึ่งมีแผนที่ ตัวเขาเองยังเดินหลงทางท่ามกลางถนนหลายสายและหลายต่อหลายจุด

ทางยาวบางครั้งก็ถูกปิดกั้นโดยสิ้นเชิงและไม่มีหนทางที่จะไปข้างหน้าต่อได้ ดังนั้นพวกเขาจะต้องเดินตามเส้นทางแยกซึ่งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วจบลงโดยการวนกลับไปยังจุดที่ พวกเขาได้เริ่มต้น ทำให้ทุกคนเกิดความรำคาญกับวงวานแบบนี้

แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงสำหรับการเดินของพวกเขาในขณะที่สะกดรอยตาม

แม้จะมีเส้นทางที่อันตราย ตราบเท่าที่คุณยังรักษาหัวของคุณและเดินตามร่องรอยที่ทิ้งไว้ข้างหลังอย่างระมัดระวัง คุณจะไม่เดินวนเป็นวงกลมอย่างแน่นอน ไม่ว่าเส้นทางนั้น มันจะซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม

ปัญหาก็คือรอยเท้าของ วีด และ ซอยูน ค่อยๆเปลี่ยนไป

วีดกับทักษะช่างตีเหล็กของเขาและทักษะการตัดเย็บ ทำให้เกิดรอยเท้าปลอมจำนวนหนึ่งที่เลียนแบบรอยเท้าของมอนสเตอร์เช่นนักรบแห่งความหายนะและอัศวินโลกันตร์ พวกเขาสวมใส่แทนรองเท้าปกติของพวกเขา

มอนสเตอร์และร่องรอยอื่น ๆ ถูกผสมปนเปเข้ากับเส้นทางเป็นจำนวนหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้เหล่านักล่าที่กำลังติดตามหมดความอดทนอดกลั้น

มากไปกว่านั้น สิ่งที่ร้ายกาจมากคือความคิดที่ให้ เจ้าเหลืองเดินบนกีบทั้งสอง โดยให้วิหคสีเงินและวิหคทองคำ เป็นคนคอยช่วยพยุง

"ผมคิดว่านี่เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง ส่วนทางนั้นจะนำไปยังเส้นทางที่ผิด... "

ขณะที่พวกเขาสะกดรอยตามเส้นทาง พวกเขาก็วาดแผนที่ของดันเจี้ยนอย่างต่อเนื่องและค้นพบส้นทางที่แตกต่าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมัน มันเป็นแผนที่ที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ คดเคี้ยวเลี้ยวไปเลี้ยวมาเหมือนงู ซึ่งวีดเป็นคนวางแผนเอาไว้
จากนั้น เมื่อพวกเขาเดินไปตามเส้นทาง ร่องรอยทั้งหมดก็หายไป


"ไม่น่าเชื่อ!! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย เขาทำอะไรที่มันไร้สาระอย่างนี้ได้ยังไง?"

ความคิดของทีมค้นหา อยู่ในหัวสมองของวีดเรียบร้อยแล้ว

'ตั้งแต่พวกเขาออกอากาศเหตุการณ์ในดันเจี้ยนนรกโลกันตร์ คงจะปลอดภัย ถ้าพวกเขาไล่ตามเรามาจนถึงที่นี่'

ด้วยภูมิประเทศของดันเจี้ยนที่แตกต่างกันปรากฏขึ้นในฉากของการออกอากาศ มันไม่เรื่องยากที่จะระบุตำแหน่งที่ตั้งของเขาได้

การสนใจสิ่งเล็กๆน้อยๆเป็นเพียงการป้องกันกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ถ้าพวกเขาเจอมันโดยบังเอิญ มันจะทำให้พวกเขาใช้เวลามากขึ้นในการหาตัววีด

อันตรายของการพบกับมีดคมๆในอุโมงค์อันเงียบสงบบางแห่ง มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ กริฟฟิท และ ดรินเฟลด์ ที่กำลังหัวร้อนต้องการแก้แค้นแบบสุด (แอดมิน: โมโหจนขาดสติในการคิดวิเคราะห์แยกแยะนั่นเอง)

ไม่มีอะไรผิดกับการสร้างตำแหน่งและทำเส้นทางแบบหลอกๆภายในดันเจี้ยนแห่งนี้ นอกจากนั้นแล้ว เขายังมีเหล่าจิตวิญญาณธาตุอีกด้วย

"ปราชญ์แห่งผืนผิภพ จงกำจัดสิ่งขีดขวางที่ปิดกั้นอุโมงค์ซะ"
"ขอรับ เจ้านาย"
"และทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
"ข้าจะพยายาม"
"ซ่อนรอยเท้าปัจจุบัน ใช้ชุดอื่นเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าฉันเดินไปที่นั่น "
พวกเขาเปิดเส้นทางหรือปิดกั้นทางข้างหน้า แล้วใช้รอยเท้าของพวกเขาสร้างเส้นทางหลอกๆ

จิตวิญญาณแห่งผืนพิภพดูจะเหมาะสมที่สุดในการทำสิ่งเหล่านี้เพื่อจัดการเส้นทางในดันเจี้ยน มันก็เหมือนกับการสะกดรอยตามเอลฟ์ในป่าใหญ่
อย่างไรก็ตาม บรรดานักสะกดรอยทั้งหลายก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน พวกเขาสามารถสังเกตเห็นรายละเอียดที่เล็กที่สุดได้ หากเส้นทางถูกปิดกั้น พวกเขาจะใช้พลั่วและแม้กระทั่งเดินย้อนกลับมายังเส้นทางเดิมก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางปลอมแปลงและกลับมายังเส้นทางที่ควรจะเป็น ถึงมันจะช้าแต่ก็แน่นอนกว่า (แอดมิน:ช้าแต่ชัวร์)
==================================
คุณได้เห็น "ชื่นชมดอกไม้" โดยประติมากร มุรุนิ
+ ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 1
+ สำหรับการชื่นชมผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม ค่าความชำนาญด้านการแกะสลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

คุณได้เห็น "ประติมากรรมการยกจอบขุด" ซึ่งเป็นของ ไอวานซ์ โดยปรมาจารย์ประติมากรปีแอร์
+ ค่าสถานะทางศิลปะเพิ่มขึ้น 3
+ สำหรับการชื่นชมผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม ค่าความชำนาญด้านการแกะสลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
==================================
ขณะที่วีดและ ซอยูน เดินลึกเข้าไปในดันเจี้ยน พวกเขาค้นพบประติมากรรมที่ทำโดยคนที่มาขุดเหมืองแร่ฮีเลียม

ประติมากรรมเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มเลเวลโดยที่พวกเขาไม่ต้องเสี่ยงชีวิต แน่นอนว่ายิ่งทำให้มันง่ายขึ้น เนื่องจาก ซอยูน และเหล่าประติมากรรมสลักชีพพบพวกมันตลอดเส้นทางของพวกเขา

"ฉันเห็นว่ารัดเกล้านั่นทำมาจากเงิน แถมงานฝีมือก็มีคุณภาพสูงอีกด้วย มันน่าจะขายได้ราคาดีแน่ๆเลย"

ทุกครั้งที่เขาเดินผ่านประติมากรรมโลหะมีค่าและแร่ธาตุที่มีราคาแพงที่อยู่ตรงนั้น ทุกอย่างหายไปภายในพริบตา!

แน่นอน วีด คือผู้ที่ถอนแม้กระทั่งฟันทองเล็กๆพวกนั้นออกมาจากประติมากรรม

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดสิ้นสุดของทางเดินและพบว่ามีป้ายสัญลักษณ์เก่าๆผุๆพังๆ อยู่แถวนั้น
==================================
= เหมืองฮีเลียม =
- มันยังไม่สายเกินไป เหล่าคนหนุ่มสาวที่มีความฝัน จงหันหลังกลับไปซะ ข้าเรียนรู้ช้าไปว่าชีวิตนั้น ก็เหมือนกับศิลปะ.-
==================================
พวกเขามาถึงเหมืองที่ซึ่งประติมากรคนแรกที่ได้มาสำรวจยังสถานที่แห่งนี้ ลาสฟาลั้งค์ เพื่อมาหาฮีเลียม

ทางเข้าเหมืองดูเหมือนปากที่เปิดกว้าง ข้างในดูดำๆ มีคานไม้เน่าเปื่อยยื่นออกมา เปรียบเหมือนฟันที่พร้อมจะกลืนกินนักผจญภัย แม้แต่กลุ่มนักสำรวจเหมืองก็ยังลังเลที่จะเข้าไปในเหมืองฮีเลียมในสภาพนี้ พวกเขาจำเป็นต้องแยกออกเป็นกลุ่มย่อยๆ มีเพียงแค่ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น ที่จะเข้าไปในเหมืองได้อย่างปลอดภัย

"ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้"

การสำรวจเหมืองของวีดกำลังกลายเป็นเรื่องยากกว่าที่คาดไว้ ประติมากรไม่ได้มีทักษะที่เป็นประโยชน์ในการตามหาแร่ธาตุคุณภาพสูง ท้ายที่สุด เขาคงต้องพึ่งโชคเท่านั้น

เขาจะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด

"นี่เป็นอะไรที่มีแต่ประติมากรเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ ฉันไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนจนกว่าจะหามันพบ"

เขามุ่งมั่นที่จะขุด ฮีเลียม!
วีดมองเข้าในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา
เขามีขนมปังข้าวบาร์เลย์ 20 ก้อนและขวดบรรจุน้ำจืดมากกว่า 10 ขวด เขาต้องการมัน เพื่อให้มีชีวิตรอด เพราะตอนนี้เขาอยู่ในร่างมนุษย์
พวกเขากินอาหารที่เก็บมาจากงานแต่งงานของ ซึลรโย จนหมดเรียบร้อยแล้ว มันมีอายุในการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น ฉะนั้นมันจึงไม่เป็นไร สิ่งที่เหลืออยู่นอกเหนือจากขนมปังข้าวบาร์เลย์และน้ำเป็นปริมาณมาก คือปริมาณอาหารแห้ง หากไม่มีอาหารที่วีดจะกินได้ ก็เหลือเจ้าเหลือง ที่ยังสามารถพอจะกินได้
เราจะต้องแบ่งอาหารกันก่อน

การใช้ประติมากรรมจำแลงเพื่อเปลี่ยนร่างเป็น ลิช จะหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องกิน แต่ถ้าเขาต้องการที่จะต่อสู้ พวก อันเดด ก็ยากที่จะเรียกมาในเหมือง การต่อสู้โดยตรงจะทำให้คุณไปได้ไกลขึ้น

ขณะที่วีดเตรียมตัวเข้าไปในเหมือง ซอยูน ก็กำลังตรวจสอบกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ
วีดส่ายหัว
"ฉันต้องการให้เธออยู่ที่นี่เพื่อปกป้องประตูทางเข้า"
ซอยูน อยากเข้าไปในเหมือง แต่พวกเขาก็ต้องการใครสักคนเฝ้าอยู่ข้างนอกด้วย
มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการควบคุมทางเข้าและปกป้องมันจากทีมค้นหา อย่างไรก็ตาม เจ้าเหลีอง วิหคทองคำและวิหคเงิน รวมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าทีมค้นหาได้ทั้งหมด
"ถ้าพวกนั้นปรากฏตัวออกมา ฉันอยากให้คุณหนีไปและซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ปลอดภัย จนกว่าฉันจะออกมา ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำเสร็จเมื่อไหร่"
วีดหันเหความสนใจไปที่บรรดาประติมากรรมสลักชีพของเขา เขาต้องการคนที่จะช่วยในเหมืองฮีเลียม
*จิ๊บ จิ๊บ*

วิหคทองคำร้องเพลง พลางเงยหัวขึ้นไปบนท้องฟ้า แสดงบทบาทคนนอกอันใสซื่อบริสุทธิ์ วิหคสีเงินกลิ้งไปมาบนพื้น แสร้งทำเป็นป่วย แม้กระทั่งเจ้าเหลืองก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ด้วยการเดินเซไปเซมา

'เขาจะไม่เลือกฉัน'

ประติมากรรมสลักชีพทั้งสาม มีความคิดแบบเดียวกัน พวกเขาไม่ต้องการเข้าไปในเหมือง พวกเขาปวดหัวกับดันเจี้ยนมากพอแล้ว แต่การที่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็ง ทนทรมาน ทำงานในเหมือง มันแย่ ซะยิ่งกว่าแย่ ซะอีก!

"เจ้าเหลีอง เราไปเดินเล่นกันเถอะ"

สำหรับ เจ้าเหลือง การตัดสินใจแบบนี้ก็เหมือนกับโดนสายฟ้าฟาดใส่
'เมื่อคุณกำลังหิว แม้กระทั่งเนื้อดิบๆ ... ' วีดเลียริมฝีปากของเขา
"ไปหาฮีเลียมกันเถอะ"

วีด นำ เจ้าเหลีอง ที่ไม่เต็มใจจะไปโดยจับคอของเขา เดินเข้าไปในเหมือง
==================================
คุณกลายเป็นเจ้าของเหมืองฮีเลียมเก่าและไม่ได้ใช้แล้ว
+ รางวัล: ชื่อเสียง +100
+ ทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่าและอัตราการดรอปไอเทมเพิ่มขึ้นสองเท่า
+ ไอเทมที่ดีที่สุดจะตกจากการฆ่ามอนสเตอร์ตัวแรกที่พบขึ้นอยู่กับชนิดของมัน
==================================
วีดและ เจ้าเหลีอง เดินไปตามเส้นทางอันคับแคบและเล็กมาก

จากที่ไหนสักแห่งข้างหน้าในที่ปราศจากแสงและมืดมน เสียงที่น่าขนลุกของน้ำหยดก็ยังได้ยิน

ในบรรยากาศชวนขนหัวลุก เสียงฝีเท้าปริศนาค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างทาง วีดพบร่างไร้วิญญาณอยู่ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง

"มีดแกะสลักของประติมากร"
==================================
คุณได้รับมีดแกะสลักของเพรุน
มันไม่ได้ดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับมีดแกะสลักของ ซาฮับ แต่มันก็ยังเป็นมีดแกะสลัก มันเป็นเครื่องมือของช่างฝีมือดี
นอกจากนี้คุณยังพบแร่มรกตอันเลอค่าและวัตถุดิบหินดวงจันทร์!
==================================
"นี่คือมีดของประติมากรที่ตายแล้วสินะ"
บรรยากาศใกล้กับทางเข้าเหมืองฮีเลียมนี้ น่ากลัวมาก เหมือนหนังสยองขวัญยังไงยังงั้น
"มันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เครื่องมือของประติมากรมักจะขายกันถูกๆ"

เครื่องมือที่ใช้ในการทำงานโดยตรงกับวัสดุ ขายได้ค่อนข้างถูก เนื่องจากเงินใช้ในการผลิตนั้น ต่ำจนน่าผิดหวัง

มันจะดีมาก ถ้ามีป้ายบอกทาง แต่ไม่มีเลย ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องมีทักษะในการสะกดรอย เพื่อหาทางเดิน

"ทุกคนที่มาที่นี่จะได้เห็นสิ่งนี้"

เหมืองฮีเลียมเป็นเหมือนเขาวงกตขนาดใหญ่และให้ความรู้สึกเป็นลางไม่ดี

 “ดูเหมือนว่าประติมากรหลายคนจะล้มเหลวเพราะความยากลำบากของมัน แต่ถ้ามันได้แค่นั้น มันก็คงไม่คุ้มค่ากับความพยายามที่จะมาที่นี่

ความมุ่งมั่นตั้งใจของคนงานก่อสร้าง เพื่อขยันทำงานหนัก!
ทั้งสองคนมาถึงพื้นที่ทำเหมืองแร่ตรงทางแยก แต่เพดานถล่มลงมา ทำให้เศษชิ้นส่วนและลาวาไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่อื่น
"ฉันเดาว่าเราจะต้องไปดูทั้งหมด 6 แห่ง"

บางครั้ง พวกเขาก็โล่งใจที่ค้นพบประติมากรรม อาหารและน้ำของพวกเขาค่อยๆหมดไปทีละนิดๆ อุโมงค์นำพวกเขาไปที่ทางเดินส่วนแรกและจากนั้นอีกเส้นทางก็แตกกิ่งก้านสาขาไปตามเส้นทางนั้น ดูหน้าหวาดกลัว, เหมืองเป็นเขาวงกตที่เชื่อมต่อกันและดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด

"เจ้านาย แล้วพวกเราจะกลับไปที่ทางเข้าได้ยังไง?"

นี่เป็นความคิดของ เจ้าเหลีอง แต่วีดเคยคิดถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว

การติดตามเส้นทางของคุณตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยให้คุณไม่หลงทางในเขาวงกต แต่ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าติดกับหรือถูกคุมขัง จากจุดนี้คุณจะรู้สึกกังวลมากจนคุณขยับตัวไปไหนไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก

"ข้ารู้ แต่ข้าคิดว่าเราหลงทางซะแล้วล่ะ ... "

วีดมองย้อนกลับไป เฉพาะความมืดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ในขณะที่เส้นทางเหล่านั้นเชื่อมต่อกันโดยการเจาะผ่านช่องทางอุโมงค์ที่แยกออกมา เส้นทางเหล่านั้นถูกครอบคลุมไปด้วยความมืด คุณจึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะนำคุณไปยังที่ไหน

"ลองไปตรวจสอบดูกันเถอะ ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน"

วีดและเจ้าเหลืองกำลังเดินย้อนกลับไปยังทิศทางที่ที่พวกเขาแยกกันกับซอยูน ใช่แล้ว วีด เขาขาดทักษะในทางเขาวงกต การหาเส้นทางที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่เรื่องตลกเลย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะหาทางกลับไปเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ดี

สำหรับพวกเขาแล้ว การลองและพยายามทำแผนที่เขาวงกต พวกเขาต้องการเวทย์มนต์พิเศษ แม้กระทั่งผู้คนในแผ่นดินใหญ่จะพบว่ามันยากมาก แม้แต่เส้นทางอันคับแคบ ซึ่งดูเหมือนเส้นทางตรง ในไม่ช้ามันกลับกลายเป็นเส้นทางที่บิดเบี้ยว นอกจากนี้ ถ้าคุณไม่ทราบว่าคุณอยู่ที่ไหน แล้วคุณก็ไม่รู้ว่าจะไปหา ฮีเลียม ได้ที่ไหน!

วีดไม่เคยยอมแพ้ จนในที่สุด พวกเขาก็สามารถหาทางกลับไปยังทางเข้าได้แล้ว

"เราไปผิดทางตั้งหลายครั้ง โดยที่พวกเราไม่มีทางรู้เลยว่าทางที่กำลังเดินไปนั้นมาจากไหนและสิ้นสุดที่ใด นั่นเป็นเรื่องยากมากทีเดียวสำหรับการหา ฮีเลียม "

ในขณะนั้น วีดมองไปที่เจ้าเหลืองด้วยสายตาอันคมกริบ สายตาคู่นั้นมองดูแล้วคล้าย ๆ กับการได้เห็นเหรียญทองแดงบนพื้นดิน
นี่คือที่ที่ประติมากรและมนุษย์คนอื่น ๆ เข้ามา แต่ไม่มีอะไรน่าจะเป็นที่นี่ บรรยากาศแบบนี้น่าจะมีมอนสเตอร์อยู่ด้วยนะ..
ถ้ามีมอนสเตอร์ที่คุณมักจะออกล่าอยู่เป็นประจำตามเส้นทาง จะมีมอนสเตอร์และเส้นทางต่างๆ อยู่ร่วมกัน เพื่อให้เงื่อนงำหรือเบาะแสแก่คุณ ทางเดินเล็ก ๆ กลิ่นเน่าเหม็นโชยมา มันจะนำพาให้ไปพบกับก๊อบลิน ฯลฯ

'นี่คือสถานที่ที่ประติมากรกับผลงานอันมีคุณค่ามากมายถูกทิ้งไว้ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาก็คงละทิ้งเส้นทาง เพื่อตามหาเส้นทางของตัวเอง '

วีดคิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี เขาไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหน ที่เขาวงกตนี้ถูกออกแบบโดยประติมากรและคนอื่นๆ แต่เขารู้ดีว่าพวกนั้นต้องทิ้งคำแนะนำหรือคำบอกใบ้อะไรบางอย่างไว้เบื้องหลัง

"พวกเขาไม่ต้องการให้ผู้บุกรุกคนอื่น ๆ มาที่นี่ มีเพียงแค่ประติมากรเท่านั้น

ดังนั้นพวกเขาอาจทำเขาวงกตเพื่อกำจัดผู้บุกรุกที่ไม่ได้รับอนุญาต

"พวกเขาเป็นประติมากร ... พวกเขาทิ้งผลงานประติมากรรมเอาไว้!"

วีดรู้ว่ามีประติมากรรมอยู่บ้างตามทางเดิน นี่คือสิ่งที่ได้ผลกับทุกความคิดที่เขาเคยมีมา

"นี่เป็นหนทางของประติมากร คำเชื้อเชิญที่เพิ่มขึ้นมา  ตรวจสอบ!"

วีดสามารถมองเห็นความทรงจำที่เก็บรักษาไว้ในประติมากรรม ประติมากรรมจากทางเดินแต่ละแห่งนั้น มีอันนึงถือคบเพลิง ได้ชี้ไปในทิศทางหนึ่ง เขาสามารถใช้แนวทางเหล่านั้นเป็นตัวบอกทิศทาง!

"มันต้องอย่างนี้สิ"
วีดเดินอย่างมั่นใจ มีประติมากรรมที่บอกทางที่ถูกต้อง เมื่อเขาเสร็จสิ้นแล้ว เขาจะดึงความทรงจำจากอันต่อไป เขาขี่เจ้าเหลืองมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากความอึดและความอดทนของวีด เขาสามารถเดินทางไปได้โดยไม่กินอะไรเป็นเวลานานๆ
มันคล้ายกับฝูงแมลงสาบอันล้นหลามที่พยายามจะอยู่มีชีวิตรอด แม้ว่าโลกจะแตกในวันพรุ่งนี้ วีดก็ยังจะออกไปซื้อผงซักฟอกขนาดใหญ่ที่ร้านค้าเพื่อให้ได้ขอเสนอซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง

เมื่อมาด้วยกันกับเจ้าเหลืองเป็นเสมือนสัตว์ที่แพ็คแล้ว พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารในบางครั้ง เนื้อสัตว์แห้งและพืชที่ทำขึ้นมาจากอาหารในถุงบรรจุ เป็นแพ็คๆเป็นซองๆ ซึ่งช่วยให้เก็บไว้ได้เป็นเวลานาน สุดท้าย หลังจากเดินทางมาเป็นระยะเวลานาน ณ จุดสิ้นสุดของเขาวงกต, พวกเขาพบรถบรรทุกเหมืองแร่ที่วางอยู่บนรางรถไฟรางคู่ รางรถไฟที่นำไปสู่อุโมงค์เชื่อมต่อกับความมืดมิด

"ถ้าเรานั่งรถบรรทุกเหมืองแร่ เราสามารถไปได้เร็วขึ้นเล็กน้อย."

เจ้าเหลืองค่อนข้างมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับความคิดเรื่องรถเข็นนี้

"เจ้านาย มันดูเหมือนว่าข้าชอบที่พวกเราเดินมากกว่านะ."

"เราไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน รถเข็นจะช่วยให้พวกเราไปได้เร็วขึ้น"

"ข้าอยากให้ท่านขึ้นขี่บนหลังของข้ามากกว่านะ"

"เชื่อข้าเถอะ มันไม่ยากหรอกที่จะทำแบบนี้น่ะ ... ข้าจะนั่งหน้าเอง"

วีดผูกเจ้าเหลีอง และเสบียงเข้ากับส่วนหลังของรถบรรทุกเหมืองแร่

วัวผูกติดกับด้านหลังของรถบรรทุกเหมืองแร่!

มีคำแนะนำง่ายๆที่กล่าวว่า การที่จะขับเคลื่อนรถลากให้ได้นั้น จำเป็นจะต้องดันแท่งเหล็กที่อยู่ตรงกลาง ให้ดันขึ้นดันลง ด้วยจังหวะและความเร็วที่สม่ำเสมอ

วีดดันแท่งเหล็กขึ้นลงและล้อเริ่มค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้าภายใต้กำลังของมัน

*คลึกกกกกก*

รถบรรทุกเหมืองแร่ทำให้เกิดเสียงรุนแรงขณะที่มันกำลังเคลื่อนไป

ขณะที่แท่งเหล็กได้รับการดันขึ้นดันลงอย่างหนัก รถเข็นค่อยๆ มีกำลังเพิ่มมากขึ้น

"มันค่อนข้างเร็วนะ"

วีดหยุดปั๊มแท่งเหล็กและใช้กล่องไฟส่องสว่างเพื่อพยายามมองไปข้างหน้า มันยากที่จะยืนยันได้ เนื่องจากอุโมงค์มันโค้งค่อนข้างมาก

ก็นะ รถบรรทุกเหมืองแร่นี้ จะทำให้แน่ใจได้ง่ายขึ้น เพื่อที่จะออกจากเขาวงกตนี้!

มุ่งไปข้างหน้าลงด้วยความเร็วสูง เจ้าเหลืองก็ได้พูดขึ้นมาว่า

"เจ้านาย ท่านช่วยลดความเร็วลงหน่อยได้ไหม"

วีดไม่รู้ว่าทางข้างหน้าของรถรางนั้นมีอะไรรอยู่ เขาก็เหมือนกันมีความรู้สึกว่า 'คุณต้องลดความเร็ว'

"งั้นเราไปช้าลงหน่อยก็แล้วกัน"

เสาเหล็กด้านข้างทางขวามือติดกับแผ่นแรงเสียดทานที่กดต่อล้อเพื่อให้รถเข็นทำงานช้าหรือหยุดลง วีดดึงแท่งเหล็กอันนั้น

*คา แก แกะ แก็ก แกร็ก แกร๊ง!*

ประกายไฟจำนวนมากออกมาจากข้างใต้รถเข็น ช่วยชะลอความเร็วของพวกเขาให้ลดลงเล็กน้อย

"เจ้านาย ท่านช่างน่านับถือมาก เพียงเพื่อทำให้ข้านั้นรู้สึกสบายใจ...... "

เมื่อวีดได้ยินคำเหล่านั้น เช่นเดียวกับรถเข็น ที่กำลังกดหัวลงไปตามทางลาดอย่างรวดเร็ว ความเร็วของรถเข็นค่อยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเร็วกว่าเดิมค่อนข้างมาก

"เจ้านาย นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว"

"เอาล่ะ ข้าจะหยุดพวกเราเดี๋ยวนี้แหละ!"
วีดดึงเสาเหล็กแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาลงทุนไปกับค่าสถานะความแข็งแกร่งและค่าสถานะความคล่องตัวมากสุดๆ ทำให้แรงที่ใช้นั้น มากกว่าคนธรรมดาสามัญทั่วไป หรือ ก็คือเกินมนุษย์มะนานั่นเอง ง่ายๆ พละกำลังเหนือมนุษย์นั่นเอง รถเข็นโยกไปตามแรงเบรกที่ใช้ ล้อและเบรกมันเก่ามาก ด้วยความเร็วที่มากเกินไป ทำให้ไม่สามารถที่จะต้านทานแรงกดอันมหาศาลได้ เบรกเริ่มใช้การไม่ได้แล้ว มันหักจนไม่เหลือชิ้นดี ตอนนี้มันกลายเป็นของไร้ประโยชน์ไปซะแล้ว

รถเข็นสั่นสะเทือนและแกว่งไปทางขวาและทางซ้ายแล้วพุ่งไปข้างหน้า! วีดตัดสินใจ

"อืม อาจจะพุ่งชนอะไรสักอย่างก็เป็นได้"

ความเสี่ยงจำเป็นจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างสงบโดยไม่ใช้อารมณ์ วีดวิเคราะห์สถานการณ์ให้เจ้าเหลืองฟังอย่างเปิดเผย

"ข้าไม่คิดว่าจะมีอะไรที่สามารถทำให้ข้าหยุดรถเข็นนี้ได้"

มอออออออ!

"ถ้าเกิดรางมันเบี่ยงออกจนพวกเราหลุดโค้ง พวกเราจะลอยไปไกลและชนเข้ากับอะไรบางอย่าง จนถึงขั้นที่ว่าพวกเราอาจได้ในทันที... "

ไม่ว่ามันจะมีความหวังมากสักแค่ไหน มันก็ถูกบดขยี้ด้วยคำอธิบายอันสิ้นหวังนี้!

รถบรรทุกเหมืองแร่ยังคงมีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมันวิ่งตามรางอุโมงค์ ยิ่งไปเข้าลึกมากขึ้นและเร็วขึ้นตามแนวรางรถไฟใต้ดิน

"แต่ก็ยังมีความหวังอยู่นะ ... คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อคุณตาย"

เจ้าเหลืองที่ตื่นตระหนกตกใจกลัวเหมือนวัวที่กำลังถูกนำเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์

ทางเดินผ่านไม้รองรับสร้างลม ขณะที่รถเข็นเร่งผ่านอุโมงค์เหมืองใต้ดินด้วยความเร็วที่ยิ่งยวดมากขึ้น

"ก้มตัวลงและหาที่จับให้แน่น"

รางรถไฟไม่ได้เป็นเส้นตรงตลอดทาง มันมีทางโค้งด้วย การนั่งกลายเป็นหลุมเป็นบ่อทำให้ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่จะมุ่งหน้าไปสู่ความสูญเสีย

เป็นระยะเวลานานนับตั้งแต่ที่ได้มายังลาสฟาลั้งค์ มันทำให้พวกเขารู้สึกหนักอึ้งจนเต็มกระเพาะ!

ไม่มีโอกาสที่จะให้คิดแม้กระทั่งเรื่องการพักผ่อนไปกับสภาวะอันตึงเครียด หลังจากนั้นสักครู่ เส้นทางเปลี่ยนไปกลายเป็นเนินเขาและเริ่มที่จะชะลอตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ

เจ้าเหลืองถึงกับต่อมน้ำตาแตก ระเบิดออกมาเป็นน้ำตาแห่งความสุข

"เจ้านาย ดูเหมือนว่าพวกเราจะยังมีชีวิตอยู่นะ!"

ด้วยความคิดที่คล้ายคลึงกัน วีดพูดอย่างมีความสุข

"แต่เราโชคดีมาก เราไม่ได้ข้ามไปรางที่เสียหายแล้วยังไปตามเส้นทางของเรา เนื่องจากไม่มีใครใช้อุโมงค์เหล่านี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว มันช่างมหัศจรรย์มาก ที่ยังคงเป็นไม่เป็นอะไร"

จากด้านบนนี้ พวกเขามองเห็นระยะทางที่ห่างออกไป ทางข้างหน้าเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่มีความลึกที่มิอาจทราบได้ สะพานเหล็กขยายจนเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ สะพานยาว 30 เมตร ตามสะพานรถไฟและเกือบจะตรงกลางของรอยแยก สะพานขาดออกจากกันจนเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ในราง

ผิวของเจ้าเหลืองถึงกับซีดในทันที เมื่อได้รู้ว่าความตายกำลังจะมาเยือน

"เจ้านาย ขอบคุณที่ท่านให้ข้าได้มีชีวิตอยู่จนตอนนี้ ได้โปรด ข้ามีคำขอครั้งสุดท้าย ฝากลูกเมียข้าด้วย... "

เจ้าเหลือง ผู้ที่จมอยู่กับความสิ้นหวัง ได้ข้อร้องเป็นครั้งสุดท้าย มันคือการดูแลบรรดาลูกวัวตัวน้อยๆด้วยความรัก และไม่ลุกหนีไปไหน ขอตายเพียงคนเดียว

วีดตอบเป็นปกติเหมือนไม่รู้สึกอะไร

"แกจะตายอย่างไม่มีจุดหมายอย่างงั้นหรือ แกจะตามไปเหมือนเจ้าโกลด์มินิใช่มั้ย ที่ปล่อยให้ตัวเองตายไปและบังคับให้ข้าต้องสร้างเค้าขึ้นมาใหม่เนี่ยนะ? "

เจ้าเหลืองรู้สึกปลื้มปริ่ม เมื่อได้ฟังคำพูดแสดงความห่วงใยของวีดในนาทีสุดท้าย วีด กำลังอยู่ในช่วงจบการแสดง ได้ระบายอารมณ์ออกมาทั้งหมด

"เนื้อซี่โครงจะเสียไป ถ้าแกตาย ปริมาณไขมันยังไม่สูงพอ แกจะไม่ได้รับอนุญาตให้ยอมแพ้ "

วีดคาดคั้นพลังทั้งหมดที่มี เร่งปั้มแท่งเหล็กของรถเข็น ทำให้พวกเขาไปเร็วมากขึ้น เพียงแค่พริบตาเดียว พวกเขาก็มาถึงสะพานที่ขาดออกจากกัน

รถลากวิ่งไปตามทาง แล้วไหลลึกลงไปในราง พวกเขาวิ่งขึ้นลงแล้วพุ่งขึ้นไปในอากาศ ในช่วงระยะเวลากัดฟัน

เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ พวกเขาออกจากทางรถไฟทั้งหมดและลอยไปในอากาศด้วยความเร็วที่เงียบและดูน่ากลัว สิ่งนี้ผลักดันพวกเขาให้พ้นจากกำแพงด้านหลังสุดของรถบรรทุกเหมืองแร่!

เอี้ยด เอี้ยด เอี๊ยด!

เมื่อรถเข็นแล่นลงบนทางรถไฟที่อยู่ไกลออกไป มันสร้างประกายไฟเหมือนเม็ดฝนขนาดใหญ่ รถเข็น เด้งไปมาบนรางรถไฟแคบๆ มุ่งตรงไปหน้าโดยปราศจากราง

'ข้าเดาว่าเจ้าจะไม่ตายที่นี่แน่นอน "

เจ้าเหลืองได้แต่สูดหายใจลึกๆ วีดดูมีความสุขมาก

"เมื่อกี้นี้มันยอดเยี่ยมมาก"

“…?”
"พอลองมาคิดดูแล้ว มันเป็นระยะเวลานานที่รางอันนี้ยังคงอยู่ และ ทุกที่ยกเว้นสถานที่นั้น มันดีอยู่แล้ว มันก็ยังอยู่ในสถานที่ที่ฉันสามารถทำบางสิ่งบางอย่างที่จะผ่านมันไปได้, แตกต่างจากที่ได้มีการพูด, สิ่งกีดขวางบนเส้นทาง"

ในขณะนั้น ดูเหมือนว่ามันกำลังตกลงมาจากเนินเขา ก้อนคริสตัลสีแดงขนาดใหญ่เท่าบ้านที่มองเห็นได้ชัด ปิดกั้นทางไปข้างหน้าอยู่

"พุ่งไปข้างหน้า ไปเลย!"

วีดและ เจ้าเหลือง ก้มตัวลงและรถบรรทุกแร่ก็พุ่งเข้าไปด้วยสภาพทั้งๆอย่างนี้

คลึกคลากกก

รถลากพุ่งเข้าชนจนคริสตัลแตกเป็นเศษนับร้อยๆชิ้น

วีดเพื่อให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้า เขาจึงใช้ทักษะประติมากรรมแสง ทำให้ร่างกายของเขาเรืองแสงดั่งเช่นเมฆสีเงิน

ผลึกคริสตัลแตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อยและหมุนวนและส่องแสงเป็นประกาย มันช่างเป็นปรากฏการณ์ที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ แต่ช่างน่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีเวลาได้เห็นมากพอ เนื่องจากพวกเขาผ่านมันไปในทันที

วีดได้แต่แสดงความคิดเห็นและวิจารณ์ออกมา

"อย่างไรก็ตาม เรายังโชคดีเพียงครั้งเดียว ... "

*คว้าง!*

"ตอนนี้โชคดีเป็นสองเท่า"

"ฉิบหายแล้ว! ...

รถเข็น ขณะที่ตัวของมันกำลังฉีกขาดออกจากกัน กำลังชะลอตัวลง

ด้านหน้าของรถเข็นที่ประสบกับแรงกระแทกหลายครั้งกำลังถูกบดขยี้ พลังชีวิตของวีดและเจ้าเหลืองลดลงอย่างมากจากผลกระทบ

หากไม่มีประสบการณ์การใช้หลับตาอดทน วีดอาจตกอยู่ในอันตรายแล้วก็เป็นได้

วีด ที่เป็นคนนั่งข้างหน้าได้รับความเสียหายจำนวนมาก ตรงกันข้ามกับพลังชีวิตของเจ้าเหลือง มันยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก!

"ยังคงเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่เรายังมีชีวิตอยู่ ...... "

ทันทีที่เขากล่าวเช่นนั้น รถบรรทุกเหมืองแร่กำลังจะมาถึงจุดจบทันที ที่ปลายสุดของรางรถเป็นกำแพงหินที่แข็งแรงมาก!

มอออออ!
เจ้าเหลืองส่งเสียงกรีดร้องออกมา
ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
"ปีกแห่งแสง บินไปเลย!"
หลังจากโกลด์มินิตาย ปีกแห่งแสงก็กลับคืนสู่วีด

วีดเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ตายเพราะปีกแห่งแสง!

มันเป็นเรื่องสนุกที่หยอกล้อเล่นกับเจ้าเหลืองผู้ขวัญอ่อน แต่เขาพร้อมที่จะกางปีกออกทุกเมื่อ ทันทีที่ถึงเวลาเหมาะสม

วีดยืนยันว่ามันถึงเวลาแล้ว เขากางปีกออก ปีกแห่งแสงที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ และหนีออกจากรถเข็นไปพร้อมกับเจ้าเหลือง

พวกเขาบินเป็นระยะทางกว่า 40 เมตร เร่งความเร็วผ่านฝ้าเพดานและผนังด้านข้าง จนกว่าเขาจะสามารถชะลอตัวลงและหย่อนตัวพวกเขาให้ยืนอยู่บนกำแพงหินที่ปิดกั้น

รถเข็นพุ่งชนเข้าไปในกำแพงพร้อมกับเสียงดังสนั่น ขณะที่ชิ้นส่วนสุดท้ายของรถเข็นพุ่งออกมา มีเพียงแค่ส่วนล้อเท่านั้นที่หยุดลง หลังจากการชนเข้ากับกำแพง

วีด กระพือปีกแห่งแสง แล้วพูดขึ้นมาว่า

"เจ้าเหลือง ขากลับอยากลองนั่งดูอีกมั้ย?"
จบตอน
ผู้แปล: koichii

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

11 ความคิดเห็น:

  1. อู้ย!หวาดเสียวแทน น่าใช้ปีกบินมาตามรางตั้งแต่ต้น เจ้าเหลืองหัวใจวายตายแล้วมั้ง ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  2. แหม่ ยังมีอารมณ์ไปแกล้งเจ้าเหลือง 5555555555

    ตอบลบ
  3. แค่คิดก็มันแล้วเหลืองบอก

    ตอบลบ
  4. ยังจะแกล้งกันอีกบักวีดนี่

    ตอบลบ
  5. น่าตื่นเต้นอ่าา...
    ขอบใจหลายๆเด้ออ

    ตอบลบ
  6. ช็อกตายแล้วเจ้าเหลืองกุ

    ตอบลบ
  7. สวัสดีฉัน aM clinton nancy หลังจากที่ได้มีความสัมพันธ์กับแอนเดอร์สันมานานหลายปีแล้วเขาเลิกกับฉันฉันทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาได้ แต่ทั้งหมดก็ไร้ผลฉันต้องการให้เขากลับมามากเพราะความรักที่ฉันมีต่อเขา, ฉันขอร้องเขาด้วยทุกสิ่งทุกอย่างฉันทำสัญญา แต่เขาปฏิเสธ ฉันอธิบายปัญหาของฉันกับเพื่อนของฉันและเธอบอกว่าฉันควรจะติดต่อล้อสะกดที่สามารถช่วยฉันโยนคาถาเพื่อนำเขากลับมา แต่ฉันเป็นประเภทที่ไม่เคยเชื่อในการสะกดฉันไม่มีทางเลือกกว่าที่จะลองฉัน ส่งคาถลลวงและเขาบอกผมว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ที่ทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนสามวันที่อดีตของฉันจะกลับมาหาฉันก่อนสามวันเขาได้ให้การสะกดและในวันที่สองก็แปลกใจคือประมาณ 4 โมงเย็น อดีตของฉันเรียกฉันว่าฉันประหลาดใจมากฉันตอบสายและสิ่งที่เขาพูดก็คือเขาเสียใจมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการให้ฉันกลับไปเขาว่าเขารักฉันมาก ฉันมีความสุขมาก ๆ และไปหาเขานั่นคือสิ่งที่เราเริ่มใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันได้สัญญาว่าใครที่ฉันรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันก็จะช่วยคนดังกล่าวโดยการแนะนำให้เขาเป็นครูผู้ชำเถียงในการสะกดเฉพาะที่แท้จริงและทรงพลังที่ช่วยฉันด้วยปัญหาของตัวเอง อีเมล์: drogunduspellcaster@gmail.com คุณสามารถส่งอีเมลถึงเขาได้หากคุณต้องการความช่วยเหลือในความสัมพันธ์หรือกรณีอื่น ๆ

    1) รักคาถา
    2) Lost Love Spells
    3) การหย่าร้าง
    4) เวทมนตร์สมรส
    5) มัดสะกด
    6) คาถา Breakup
    7) ขับไล่คนที่ผ่านมา
    8. ) คุณต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งในการสะกดของสำนักงาน / สลากกินแบ่งของคุณ
    9) ต้องการที่จะตอบสนองความรักของคุณ
    ติดต่อคนที่ยิ่งใหญ่นี้หากคุณมีปัญหาใด ๆ สำหรับโซลูชันที่ยั่งยืน
    ผ่าน DR ODOGBO34@GMAIL.COM

    ตอบลบ

เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล

  เล่มที่ 52 บทที่ 7 เคย์เบิร์นเคลื่อนไหวแล้ว แปลโดย Teerawat และ แอดชินเพจเราอ่านนิยายแปล ลาเฟย์หลับตาลง ' เราจบสิ้นแล้ว '...