วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เล่ม 30 ตอนที่ 7 : ความโลภไม่มีที่สิ้นสุดของกิลด์เฮอมิส แปลโดย Smith Rex


เล่ม 30 ตอนที่ 7 : ความโลภไม่มีที่สิ้นสุดของกิลด์เฮอมิส แปลโดย Smith Rex

วีดกลับมาเชื่อมต่อโรยัลโรดอีกครั้งหนึ่ง
 วันนี้ที่จัตุรัสมีผู้คนเยอะแยะไปหมด
มันสามารถรับรู้ถึงการพัฒนาของโมราต้า เมื่อมองไปที่จัตุรัส เขาได้ยินเรื่องราวจากเหล่าพ่อค้าและบรรดาผู้เล่นที่เดินผ่านไปมา
'ตอนนี้เหลือเพียง 6 วันเท่านั้น'
ภารกิจนี้เขาต้องใช้เวลา 1 เดือน เขาเบื่อที่ยังคงเป็นรูปปั้น แต่มันก็เป็นภารกิจที่เขาสามารถทำตามได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีคนที่มาปรากฏตัวที่จัตุรัสในยามสาย รุ่งอรุณผ่านพ้นไป ยังคงมีผู้คนเริ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก เขาเห็นฝูงนกบินผ่านไปในขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และยังได้รับแสงอบอุ่นจากดวงอาทิตย์
 วันนี้ไม่มีอะไรที่ดูเคร่งเครียดเลยแหะ
ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ที่อันตราย ณ จัตุรัสใจกลางเมือง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสนุกที่ได้เฝ้าดูผู้คน
วีดมักทำงานในเชิงธุรกิจที่ปราสาทเซราบ็อคในอาณาจักรโรเซนไฮม์ เขาทำธุรกิจเป็นช่างแกะสลักช่างทำอาหารและช่างตีเหล็กเพื่อที่เขาจะสามารถเรียกราคาจากลูกค้าได้เมื่อนานมาแล้ว
พ่อค้าที่ประสบความสำเร็จในการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่และได้รับผลกำไรที่ยอดเยี่ยมจากการค้าปรากฏให้เห็นเป็นประจำในโมราต้า
"เจ้าจะบอกว่าคุณสเปนซันพบสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารลูในอาร์โกเดียเช่นนั้นรึ"
 โอ้ ในที่สุดพวกเขาก็ทำจนได้.”
"พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการคืนพลังอำนาจของดาบ พวกที่อยู่จนถึงจุดสิ้นสุดของภารกิจได้รับรางวัลใหญ่สมบูรณ์แบบ "
นอกจากนี้ยังคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับเหล่านักผจญภัยและสินค้าที่ได้รับความนิยม เขายังมีข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจในแต่ละสายอาชีพจากผู้คนหลากหลายในขณะนี้ด้วย
ความสามารถทางทักษะที่จำเป็นสำหรับสายอาชีพด้านการต่อสู้นั้นอยู่ในระดับต่ำมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีชื่อเสียง แต่คนที่ยกระดับทักษะพื้นฐานก็พรวดพราดเข้าสู่ภารกิจระดับปรมาจารย์ในสายอาชีพนั้น
พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังคงคุ้มค่าที่จะทำ และมันก็เป็นไปได้ที่จะยกระดับชื่อเสียงของพวกเขา ดังนั้นจำนวนคนที่กำลังจะทำให้สำเร็จก็เพิ่มขึ้นเป็น 54 คน
วีดนั้นเกือบจะอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจคู่แข่งคนอื่น ๆ
'ข่าวเกี่ยวกับบาร์ดเรย์ในวันนี้น้อยมาก ... ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ฉันหวังว่าเขาจะปลูกเมล็ดฟักทองที่ไหนสักแห่ง '
ความเกลียดชังที่ก่อตัวขึ้นมาจากเกราะทัลล๊อค!
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วันแห่งการตัดสินใจของกิลด์เฮอมิส
"สงครามจะเริ่มต้นตั้งแต่รุ่งเช้าในวันนี้"
ลาฟาเย่ประกาศในที่ประชุมผู้นำ กองทัพพร้อมรบกำลังรออยู่ที่ชายแดนของอาณาจักรลาซาล บาร์ดเรย์ได้หยุดความคืบหน้าในการทำภารกิจปรมาจารย์ของเขาเพื่อสั่งการกองทัพของอาณาจักรฮาเว่น
ลาฟาเย่พูดย้ำอีกครั้ง
"พวกเราจะออกจากสมาพันธ์มหาอำนาจ ยามเมื่อพวกเราโจมตีอาณาจักรลาซาล "
มันเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของสมาคมอันทรงเกียรติแห่งทวีปเวอร์เซลล์  สมาพันธ์มหาอำนาจแทนที่จะขยายและต่อสู้กัน พวกเขาจะรวบรวมกองกำลังและรักษาดินแดนที่ตนครอบครองอยู่
กิลด์เฮอร์มีสถือเป็นตัวอย่างของการทำลายข้อตกลงจากการบุกรุกเหมืองเมลเบิร์นของกิลด์ราชสิห์ทมิฬ
พวกเขาได้รับการแจ้งเตือนจากกิลด์อื่น ๆที่มีชื่อเสียง ในกลุ่มสมาพันธ์มหาอำนาจ ฉะนั้นการเคลื่อนทัพสู้รบกับอาณาจักรลาซาลเหมือนเป็นการประกาศสงครามต่อทั้งทวีป
เหล่าผู้นำค่อนข้างกังวลเพราะประเด็นนี้
"มีแนวทางรับมือไหม หากเราออกจากการเป็นพันธมิตร?"
"กิลด์เฮอมิสของพวกเราแข็งแกร่ง แต่มันจะกลายเป็นเรื่องยาก หากพวกเขาร่วมกันต่อต้านเรา"
ถึงแผนการยึดครองอาณาจักรลาซาลได้รับการตัดสินใจไปแล้วก็ตาม แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกกังวลเลย
ลาฟาเย่อธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ
"ตามสถานการณ์ปัจจุบันกิลด์อื่น ๆ ยังไม่เสร็จสิ้นการขยายอาณาเขตของตน พวกเขายังต่อสู้กับศัตรูของพวกเขาอยู่ในอาณาจักร ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะทุ่มกำลังทหารมาสู้กับเรา "
ลาฟาเย่นั้นถือว่าเป็นหัวเรือใหญ่ของกิลด์
การที่บาร์ดเรย์สามารถการควบคุมกิลด์เฮอมิสได้แบบเบ็ดเสร็จนั่นเป็นเพราะลาฟาเย่ยินยอมให้กับเขา  เป้าหมายที่สำคัญและรายละเอียดในแผนการต่างๆของกิลด์จะมาจากลาฟาเย่ และที่ปรึกษาของเขา สิ่งต่างๆเช่นการพัฒนาของอาณาจักร การประเมินบุคลากร การศึกษาทางทหาร และการเจรจาทางการทูตล้วนทำโดยลาฟาเย่
กิลด์เฮอร์มิสนั้นเติบโตขึ้นมาได้ขนาดนี้คงต้องขอบคุณลาฟาเย่ ด้วยการอาศัยความเฉลียวฉลาดที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังของลาฟาเย่ และการสนับสนุนจากที่ปรึกษาของเขา การตัดสินใจของเขาจึงนับว่าอยู่ในมาตรฐานที่ยอดเยี่ยม
"และข้าได้เตรียมพร้อมรับมือจากการคาดกราณ์ในการรับมือกับบางกิลด์อยู่บ้างแล้ว นั่นคือสิ่งที่พวกเราควรให้ความสนใจ"
"ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ แผนคืออะไร?"
พื้นที่ของกิลด์เฮอมิสมีขนาดใหญ่และพวกเขามีผู้นำนับ 100 คน ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนจะได้รับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแผนการ
"มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกเจ้า ข้าจะมอบอำนาจแก่ศัตรูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขา มีการก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร นั่นจึงเป็นกุญแจหลัก และการสนับสนุนบางอย่างอย่างเช่ยในกรณีให้กิลด์บีเดนเข้าควบคุมอาณาจักรทัลเลน "
"นั่นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในกรณีของกิลด์ราชสีห์ทมิฬ และ อาณาจักรทัลเลน  ถ้าแผนการไปได้ดีเราก็สามารถทำให้พวกเขาหงุดหงิดได้ แต่พวกเรามีกองกำลังและเงินทุนที่จะจ่ายสำหรับการทำสงครามกับอาณาจักรลาซาลเช่นนั้นรึ ? "
"ข้าตัดสินใจที่จะใช้กองกำลังที่ข้าถอนกำลังมาจากโมราต้าที่ส่งไปจัดการวีด การเตรียมกองรบแบบลับๆได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ภาษีจากอาณาจักรคัลลาร์มอร์นั้นได้มาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพวกเราจึงมีกำลังสามารถจ่ายได้ "
"หากพวกเราโผล่หางออกมามากเกินไป แล้วพวกเขาสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเรากำลังทำ ทีนี้พวกเราจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ยากยิ่งกว่าเดิมกับกิลด์อื่น ๆ อีกงั้นหรือ "
"ทุกคนกำลังเฝ้าดูเราอยู่แล้ว กองกำลังของพวกเรายิ่งใหญ่กว่าในปัจจุบัน หากพวกมันโจมตีมาก็ตาม ไม่มีความหมายใดเลยถ้าการที่สมาพันธ์มหาอำนาจจะแตกออก และเหล่าพันธมิตรจะตั้งเป้ามาที่กิลด์เฮอมิส คงจะดีกว่าถ้าหากได้เป็นฝ่ายจู่โจมก่อน. "
อย่างไรก็ตามกิลด์เฮอมิสจำเป็นต้องต่อสู้กับบรรดากิลด์ที่โด่งดัง หากพวกเขาต้องการที่จะพิชิตทวีปนี้ ความร่วมมือชั่วคราวเป็นเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน!
กิลด์เฮอมิสได้ซ่อนพลังของพวกเขาเอาไว้ และสามารถครองอาณาจักรคัลลาร์มอร์ได้อย่างรวดเร็ว บรรดากิลด์ที่มีชื่อเสียงล้วนตึงเครียดและคอยเฝ้าดูพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ยุทธวิธีในการชิงโจมตีก่อน การขยายกำลังทหารของกิลด์เฮอมิสเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยชื่อเสียงของบาร์ดเรย์
พวกเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของอำนาจที่ครอบงำกิลด์อื่น ๆ จนไม่สามารถเปรียบเทียบได้.
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
การรุกรานของกิลด์เฮอมิสในอาณาจักรลาซาลแบบกระทันหัน!
กองรบเวทมนตร์เคลื่อนตัวไปเป็นจำนวนมาก ทำลายปราสาท และเริ่มทำสงคราม เหล่าอัศวินได้รับการฝึกด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุด ในขณะที่กองทหารราบและกองทหารหุ้มเกราะนับว่าเป็นกองทัพที่ดีที่สุดในทวีป
ภาพของกองทัพที่กำลังเคลื่อนพลเข้าสู่ที่ราบแห่งอาณาจักรลาซาลถือว่าเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
ข่าวด่วน! อาณาจักรฮาเวนซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจสำคัญในทวีปได้ประกาศสงครามกับอาณาจักรลาซาลแล้ว
อาณาจักรลาซาลคงจะไม่สามารถกันไว้ได้ และมันคงขึ้นอยู่กับเวลาจนกว่าพวกเขาจะถูกยึดครอง!
การดำเนินการที่ฉับไวของอาณาจักรฮาเว่นมีผลกระทบอย่างมากต่อทวีปนี้

จากการแพร่สะพัดจนไม่มีข่าวไหนสำคัญไปกว่าข่าวนี้ สงครามมักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในทวีปกลาง แต่สงครามระหว่างอาณาจักรไม่ได้เกิดขึ้นกันง่ายๆ
อาณาจักรฮาเว่นกำลังก้าวหน้าในด้านอาณาเขต ประชากร กำลังพล และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ดังนั้นมันจึงเป็นการรุกรานฝ่ายเดียว และสถานีโทรทัศน์ได้รายงานเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง อาณาจักรลาซาลคงจะต้านอาณาจักรฮาเว่นได้ไม่ถึง 5 นาที เมื่อพิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขา
คงไม่มีทางพลาด ด้วยทั้งคุณภาพและปริมาณของทหารที่ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย
- กิลด์เฮอร์มิสได้รุกรานอีกแล้วรึ ? จะมีผู้ใดยอมจำนนหรือไม่?
- ข้าเป็นพ่อค้า ทุกคนได้ปิดร้านค้าและกำลังเคลื่อนย้ายออกไป แต่นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยจริงหรือ?
- ข้ารู้ว่าบาร์ดเรย์ต่อสู้อย่างไร สงครามจะสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของอาณาจักรลาซาล โดยไม่ต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง
บรรดาอัศวินในกิลด์เฮอร์มิสต่างก็ได้รับการฝึกฝนด้านยุทธวิธีการโจมตีที่หลากหลาย ซึ่งได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มที่กับกองทัพอันอ่อนแอของอาณาจักรลาซาลจนราบเป็นหน้ากลอง
กองทัพของอาณาจักรฮาเว่นมีชัยเหนืออาณาจักรลาซาลอย่างท่วมท้น มันคงเป็นเพียงแค่การรอเวลาเท่านั้นก่อนที่จะถูกยึดครองอย่างสมบูรณ์
- สงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง ข้าเหนื่อย และรู้สึกเบื่อหน่าย
- กิลด์เฮอมิส พวกมันแย่มาก พวกมันต้องการทำสงครามเพื่อขยายอาณาเขตของพวกมัน ในขณะที่ทวีปกลางกำลังทุกข์ทรมานจากวิหารเอ็มบินยูเช่นนั้นรึ ?
- นั่นเป็นเพราะพวกมันมีความเข้มแข็ง คนที่ทนทุกข์ทรมานคือคนที่อ่อนแอ แน่นอนในหัวของพวกมันคงไม่ค่อยคิดอะไร
พวกเกรียนคีย์บอร์ดต่างละเลงบนบอร์ดสนทนา และประณามความทะเยอทะยานของกิลด์เฮอมิส กิลด์ที่เป็นกลุ่มสมาชิกของสมาพันธ์มหาอำนาจก็ได้มีการจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหามาตรการตอบโต้
การรุกรานอาณาจักรลาซาลของกิลด์เฮอมิสเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาออกจากพันธมิตร แต่ถ้าพวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามแล้ว หากไม่สามารถจัดเตรียมกองทัพขนาดใหญ่ได้ มันก็ไม่สามารถหยุดกิลด์เฮอมิสด้วยกองทัพเล็ก ๆ ได้
"กิลด์นักพเนจรจะช่วยพวกเราไหม ?"
"กิลด์เมฆาสามารถจ่ายไหว ดังนั้นเราจึงจะเข้าร่วมกับคุณ"
"กลุ่มทหารรับจ้างดาบทมิฬล่ะ ?"
"เมื่อไม่นานมานี้เราได้รับมอบหมายให้ทำคำขอที่ยากลำบาก ดังนั้นเราจึงมีคนไม่มากนัก"
สมาพันธ์มหาอำนาจต่างเห็นใจซึ่งกันและกัน แต่ยังไงซะแต่ละคนต้องการลดความเสียหายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีกิลด์ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ แต่กิลด์เฮอมิสได้ให้การสนับสนุนอย่างลับ ๆ
การประชุมยังคงดำเนินต่อไป แต่การรวบรวมกองกำลังกลับไม่เกิดขึ้นจากพันธมิตรอย่างเป็นทางการ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
อุปกรณ์ที่ดีที่สุด ทักษะ พื้นที่การล่า และทหารรับจ้างที่ได้รับการว่าจ้างมาสำหรับชาแมนเพียง 1 คน
ดาอินได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดเหล่านี้เมื่อทำการออกล่าในดันเจี้ยน กิลด์เฮอร์มิสปฏิบัติกับเธออย่างแตกต่างจากผู้เล่นทั่วไปในกิลด์ กิลด์เฮอมิสมีนโยบายในการรักษาสิทธิพิเศษตามความสามารถของแต่ล่ะคน แต่ดาอินได้รับการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าปกติ
"นางเป็นใคร?"
"ข้าไม่รู้ ท่านหัวหน้ากิลด์รู้จักเธอเป็นการส่วนตัว เขาบอกพวกเราว่าควรให้การสนับสนุนทุกสิ่งที่เธอต้องการ "
ดาอินมีทักษะความชำนาญสูงในฐานะชาแมน เพื่อให้เลเวลของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทีมสนับสนุนของ กิลด์จึงติดต่อเธอเป็นระยะ
"ท่านต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม"
"ตอนนี้ ยังไม่เป็นไร"
"ถ้าท่านต้องการไอเทมใด ๆ ที่ต้องใช้บอกพวกเรามา และถ้ามีเมืองหรือปราสาทที่ท่านต้องการปกครองแล้ว เพียงแค่เอ่ยมาแค่นั้น "
ผู้ที่มีความสามารถในกิลด์เฮอมิสจะได้รับการเสนอพื้นที่ อย่างไรก็ตามหากพวกเขาไม่ได้แสดงทักษะของพวกเขาในสนามรบ พวกเขาก็จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง
พวกเขายังคงให้ตำแหน่งกับดาอิน แม้ว่าจะไม่มีทักษะมากมายนัก รวมถึงบาร์ดเรย์ และลาฟาเย่ เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกหลัก 7 คนที่ก่อตั้งกิลด์เฮอมิสในช่วงแรกของโรยัลโร้ด ถึงแม้ว่ากิลด์เฮอมิสจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะดูแลผู้ก่อตั้งที่แตกต่างกันออกไป
ดาอินไม่สนใจเรื่องอำนาจ แต่เธอก็สนใจในอาณาจักรคัลลาร์มอล์
หลังจากที่ถูกยึดครองจากกิลด์เฮอมิส ไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยในอาณาเขต พวกเขาจะตายจากความอดอยาก
"พื้นที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในราชอาณาจักรคัลเลอร์มอล์นั้นยังอยู่ในสภาพดี"
"การได้รับอนุญาตจากท่านหัวหน้ากิลด์ในการร้องขอสำหรับอาณาจักรคัลลาร์มอล์ ... ข้าจะติดต่อท่านหลังจากการยืนยันเรียบร้อยแล้ว"
กิลด์ตอบกลับภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาณาจักรคัลลาร์มอล์ไม่สำคัญ ดังนั้นพวกเขาเสนอดินแดนให้แก่เธอ
"โปรดบันทึกประชากร ที่นี่มีความปลอดภัยต่ำ "
"สถานที่ที่มีความปลอดภัยต่ำ? อันที่จริง ... สถานที่เหล่านี้เหมาะสำหรับการออกล่า ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะยกระดับค่าชื่อเสียง ข้าเข้าใจ."
วันรุ่งขึ้นกิลด์เฮอมิสตัดสินใจที่จะมอบปราสาทอีวาลุคให้แก่ดาอิน มันเป็นพื้นที่ที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งในอาณาจักรคัลลาร์มอล์ แต่ปัจจุบันมีการจลาจลเกิดขึ้นเนื่องจากภาษีที่มากเกินไป มอนสเตอร์ก็มักจะปรากฏตัวถี่ขึ้น ฉะนั้นจึงเป็นสถานที่อันตรายจริงๆ
"พวกอัศวินและทหารจะสนับสนุนท่าน และท่านไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเป็นเวลา 3 เดือน "
มันเป็นความต่อเนื่องของการสิทธิพิเศษที่ได้รับการยกเว้น
เมื่อดาอินเป็นเจ้าเมืองเธอตัดภาษีสำหรับชาวบ้านและมุ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกและกำแพง การบุกรุกของมอนสเตอร์ลดลง ดังนั้นอัตราการเป็นปฏิปักษ์ของชาวบ้านลดลง สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้าน
เธอเป็นคนเดียวในอาณาจักรคัลลาร์มอล์ที่ลงทุนด้านศิลปะ มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการสำหรับประติมากรและจิตรกร
คัลลาร์มอล์ อาณาจักรแห่งอัศวิน หลังจากที่มันถูกครอบครอง ดอกไม้แห่งศิลปะก็เริ่มเบ่งบานขึ้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดได้ยินข่าวเกี่ยวกับสงครามในขณะที่เขายังคงเป็นรูปปั้นในจัตุรัส บรรดาพ่อค้าที่เดินตามถนนและข่าวลือที่แพร่กระจายมีแต่เรื่องราวเฉพาะเกี่ยวข้องกับสงคราม
"ผู้เล่นในอาณาจักรลาซาลดิ้นรนเพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่พวกเขาจะตาย ข้าได้ยินมาว่าปราสาทเจ็ดแห่งถูกยึดภายในหนึ่งวัน "
"หวา นี่น่ากลัวจริงๆ ทำไมพวกเขาเดินทัพได้เร็วขนาดนั้น ? "
"ข้าได้ยินมาว่ากองทัพแบ่งออกเป็นสามทัพ และบุกดั่งคลื่นโหมกระหน่ำ แต่ละทัพมีกองกำลัง 150,000 หน่วย ... ข้าไม่สามารถจินตนาการได้เลย "
พ่อค้าในจัตุรัสเป็นกังวล สงครามบนทวีปกลางมีอิทธิพลต่อพวกเขา
จะมีผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลและราคาของสิ่งต่างๆเช่นธัญพืชและเหล็กกล้าก็จะไม่เสถียรเนื่องจากเงินเฟ้อจำนวนมหาศาล
วีดภาวนาในขณะที่เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับชัยชนะของกิลด์เฮอมิสอย่างต่อเนื่อง
 ตาย ตายซะให้หมด '
เขามีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับกิลด์เฮอมิส ดังนั้นมันจะเป็นปัญหาถ้าพวกมันเติบโตขึ้น
นักผจญภัยวิ่งมาและพูดขึ้นว่า
"ช่วงเวลานี้มันช่างยากลำบาก แต่กิลด์เฮอร์มีสยึดป้อมซัวคุนได้แล้ว!"
แต่วีดไม่ได้ผิดหวัง กิลด์เฮอมิสมีขนาดใหญ่ แต่ก็มีตัวแปรมากมายในสงคราม
  แพ้ แพ้ จงแพ้ซะ
พ่อค้าที่ทำธุรกิจอยู่รอบ ๆ รูปปั้นยังคงคุยกันให้แซ่ด
"ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเพิ่งยึดทุ่งราบแอลลาบาส อัตราการรุกคืบเร็วมาก "
ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ และเขายังถูกบังคับให้ฟังข่าวเกี่ยวกับชัยชนะของกิลด์เฮอมิส บางครั้งเขาก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับกิลด์นักพเนจร หรือพวกนักรบรับจ้างดาบทมิฬ
พวกเขาเริ่มออกจากอาณาจักรของตัวเอง และเริ่มทำสงครามรุกรานไปยังอาณาจักรอื่น ๆ การรุกรานของกิลด์เฮอมิสต่ออาณาจักรลาซาลแพร่สะพัดไปทั่วทวีปอย่างรวดเร็ว
เมื่อสมาพันธ์มหาอำนาจถูกทำลาย บรรดาสมาชิกต่างกระโจนเข้าสู่สงครามโดยไม่สนใจสิ่งใด
"ตอนนี้มันคงเป็นช่วงเวลาแห่งสงครามจริงๆสินะ"
"ชีวิตของพวกเราจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นในทวีปกลาง"
"การต่อสู้ครั้งนี้อาจเป็นการกำเนิดของจักรวรรดิ จากนั้นพวกเราจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของพวกมันในอนาคต "
ข่าวสงครามทำให้ผู้คนลดความสนใจภารกิจระดับปรมาจารย์ลง จำนวนคนในจัตุรัส และทางสถานีโทรทัศน์ ต่างพากันพูดคุยเกี่ยวกับภารกิจเหล่านั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ภารกิจระดับปรมาจารย์เป็นการแข่งขันที่รุนแรง แต่นักผจญภัยเชส , นักรบไพทัน, ชาวสวนมิเรตัส และ วีด กลับไม่ก้าวหน้าเร็วนัก พวกเขาต้องไปยังสถานที่ห่างไกล, เอาชนะความชั่วร้ายในตำนาน หรือหาสิ่งที่เป็นตำนาน
ภารกิจปรมาจารย์ในแต่ละสายอาชีพมักเป็นการเปิดเผยประวัติซ่อนเร้นของทวีปเวอร์เซลล์ ภารกิจช่างยากลำบาก อัตราความคืบหน้าช้าลง และความรู้ที่พวกเขาได้รับมาไม่ได้แสดงใหเห็นในรายการที่ออกอากาศ
ถ้าเป็นคนแรกที่ทำภารกิจปรมาจารย์สำเร็จ พวกเขาจะได้รับเกียรติและได้รับการยกย่องว่าโดดเด่นที่สุดในสายอาชีพของพวกเขาในทวีป
แต่ทวีปเวอร์เซลล์กำลังจมดิ่งเข้าสู่สภาวะสงครามอีกครั้ง และวิหารเอ็มบินยูก็แพร่กระจายลุกลามดุจไฟป่า ดังนั้นพวกผู้เล่นต่างหันมาสนใจสถานการณ์ของสงคราม
 ท่านวีดเป็นผู้เดียวที่เราสามารถไว้วางใจได้.”
 ใช่ เทพสงครามจะปกป้องพวกเรา.”
 ท่านวีดจะต้องสังหารบาร์ดเรย์.”
ผู้คนมากมายกำลังค้นหาวีด แต่ความจริงเขาเป็นรูปปั้นที่ปกคลุมด้วยฝนและฝุ่น สภาพอากาศที่ย่ำแย่ตลอดจนความชื้นยามกลางคืน
เหลืออีกเพียง 2 วันจนกว่าภารกิจของเขาจะเสร็จสมบูรณ์ ช่วงระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน แต่ช่างน่าเบื่อดังนั้นเขาจึงอยากออกล่า
'สภาพอากาศเช่นนี้คงสร้างความรำคาญกับเจ้าเหลือง ... '
วีดใช้เวลาอีก 2 วันในการเป็นรูปปั้นก่อนที่จะจบภารกิจอย่างสมบูรณ์แบบ
ตริ้งงงง!

- ดวงตาแห่งประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ท่านรับรู้การกลายเป็นประติมากรรมได้ในช่วงเวลาที่กำหนดจนสำเร็จ
- ความชำนาญการแกะสลักดีขึ้น
- ได้รับค่าชื่อเสียง 2,002 จากการกลายเป็นประติมากรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงเมือง
- ความเพียรของคุณเพิ่มขึ้น 39 สำหรับการใช้เวลาในการเป็นประติมากรรม
- ความอดทนเพิ่มขึ้น 17
- โชคเพิ่มขึ้น 21
- จากประสบการณ์ใหม่ทำให้ค่าสถานะทางศิลป์ของคุณเพิ่มขึ้น 51
- คุณค่าทางวัฒนธรรมของราชอาณาจักรอาเพ่นได้เพิ่มขึ้น
- ความชำนาญทักษะแกะสลักเพิ่มขึ้น 0.9%

วีดตระหนักได้ถึงบางสิ่งเมื่อตอนทำภารกิจ เขาไม่รู้จุดมุ่งหมายของภารกิจแต่ตอนนี้เขาสามารถเข้ารับรู้ได้ถึงจิตใจของประติมากรรมขึ้นมานิดหน่อย
"มันน่าเบื่อ"
นั่นคือทุกอย่าง! ประติมากรรมคือสิ่งที่ดีจากมุมมองของผู้คนที่เดินผ่านไปและเห็นมัน แต่สำหรับประติมากรรมมันช่างน่าเบื่อ
"มันไม่ยากที่จะขาย"
รูปปั้นของเขาเป็นที่นิยมมากที่สุด ปรัชญาของวีดในชีวิตคือความพยายามและการซื้อของแม้ราคาจะต่างกันเพียง 200 วอน
- ภารกิจดวงตาแห่งประติมากรรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากการเป็นประติมากร ท่านเป็นคนแรกที่ค้นพบรัทเซเบิร์กซึ่งเป็นเมืองแรกในทวีปนี้
ข้อสงสัยของเหล่าเอลฟ์ได้รับคำตอบแล้ว
พวกออค์จะได้รับการสอนการแกะสลัก
บรรดาคนแคระนั้นได้จดจำทักษะการแกะสลักของท่านไว้แล้ว
การแกะสลักของจักรพรรดิอาร์เพนกำลังขจรขจายสู่โลกอีกครั้ง
เผ่าพันธุ์เอลลิออนถูกค้นพบ
เผ่าพันธุ์อาร์นินได้รับการช่วยเหลือแล้ว
ท่านได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในขณะที่เดินไปตามเส้นทางแห่งปรมาจารย์ประติมากรรม
ศิลปินและประติมากรของทวีปจะมองหาคุณ ตอนนี้เป็นไปได้ที่จะก้าวไปสู่ขั้นต่อไปของภารกิจระดับปรมาจารย์ กรุณาพบ
กับพวกเอลลิออน และฟังเรื่องราวของพวกเขา

- ผลของทักษะประติมากรรมจำแลงได้สิ้นสุดลง

ร่างกายที่แข็งอยู่ของเขากลับมาเป็นปกติ ในแววตาของวีดสั่นเหมือนดูหนังภาพยนตร์ที่น่าเศร้า แต่น้ำตากลับไม่ไหลออกมา! เขาเดินตามเส้นทางของภารกิจปรมาจารย์แกะสลักมาเป็นเวลานาน
"ตอนนี้มันคงใกล้จบแล้ว"
เขาจำได้ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อได้เรียนรู้การแกะสลัก
"ข้าคิดว่าชีวิตของข้าถูกทำลายลงไปแล้ว ... แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ข้าก็ไม่ยอมละทิ้งศิลปะ
ในตอนแรกเริ่ม เขาจำใจขายประติมากรรมออกไปแค่ 2 เหรียญเงิน เขาทำประติมากรรมแม้ในขณะที่ออกล่า และการทำภารกิจ
'คิดไปแล้ว ฉันก็สนุกมากเลย'
นอกจากนี้เขายังได้สร้างปิงหลงหลังจากเดินทางไปยังแดนเหนืออันหนาวเหน็บและต่อสู้กับแวมไพร์
'ฉันได้รับความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับศิลปะท่ามกลางพายุน้ำแข็ง ศิลปะนั้นไม่แตกต่างจากธรรมชาติ
เขาสามารถทำประติมากรรมโดยใช้ทุกอย่างในธรรมชาติ พีระมิดและสฟิงค์ที่ถูกทำลายจากวิหารเอ็มบินยูยงคงเก็บไว้เหลืออยู่เพียงแค่ความทรงจำ
เขาใช้ความแข็งแกร่งของการแกะสลัก เพื่อต่อสู้กับกองทัพอมตะ
แม้แต่ไวเวิร์นที่เขาได้มอบชีวิต ก็ยังคงถูกใช้สอยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
วีดประสบความสำเร็จในการผจญภัยของเขาด้วยการแกะสลัก ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะแยกจากพวกมันได้ การพัฒนาของโมราต้าเกิดจากการแกะสลัก การสร้างอาวุธ, การเย็บปัก,การตกปลา, การทำเหมืองแร่, การเดินเรือเป็นทักษะทั้งหมดที่ได้เรียนรู้ด้วยการช่วยจากการแกะสลัก
นี่คือเส้นทางอันเจ็บปวดของประติมากร ความทรงจำที่สำคัญนั้นได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาคิดถึงเกี่ยวกับมัน
'มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันได้เข้าใจการแกะสลัก ฉันต้องเข้าใจการตีเหล็กด้วย '
แน่นอนว่าเขาจะสามารถใช้ทักษะดาบของเขาได้อย่างชำนาญเมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์
เป้าหมายของวีดคือเป็นปรมาจารย์ในทุกทักษะของเขาทั้งหมด!
อย่างไรก็ตามตอนนี้ความสำคัญอันดับหนึ่งของเขาตอนนี้ก็คือการหนีออกจากใจกลางจัตุรัส  เขาใช้เวลา 1 เดือนในการเป็นรูปปั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจสำหรับเขาที่จะเคลื่อนไหวทันที ยังมีผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่รอบน้ำพุ ฉะนั้นวีดจึงรักษาท่าทางของเขาไว้ดั่งเป็นประติมากรรม เขาถือดาบปีศาจ และมีดแกะสลัก ขณะจ้องมองที่ท้องฟ้า แม้กระทั่งกระพริบตา เขายังไม่ทำเลย เมื่อมีคนจ้องมองมาที่เขา
'เฮ่ออ ... .. ' มันยากที่จะพยายามอยู่นิ่งๆ ในเมื่อฉันสามารถขยับได้ '
ไม่มีงานเทศกาลเกิดขึ้นที่ใจกลางจัตุรัสของโมราต้า แต่มันกลับเต็มไปด้วยผู้คน
'โอกาสจะต้องมาถึง'
ยามเย็นกำลังใกล้เข้ามา วีดจึงยังคงรักษาท่าทางของเขา และหลังจากที่มืดสนิทแล้ว เขาก็เห็นรถม้าที่กำลังแล่นเข้ามาตรงพื้นที่ของเขา วีดเคลื่อนตัวในช่วงเวลาที่รถม้าผ่าน เขารีบสวมเสื้อคลุมและใช้ทักษะการวิ่งสี่ขาวิ่งออกจากตำแหน่งที่เขาเคยอยู่
 เอ๋? ประติมากรรมของท่านวีดหายไปแล้ว ? มันอยู่ที่นี่เมื่อกี้นี้เองนะ "
"มันอยู่ไหน?"
"ข้าไม่รู้ จู่ๆมันก็หายไป "
"ไม่มีอะไรแบบนี้หรอก มันคงไม่ใช่ว่ารูปปั้นมันขยับเองได้หรอกมั้ง. "
 ★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
วีดได้กลับไปพบกับพวกเอลลิออนที่กำลังทำงานอยู่ในเหมืองแร่
"โปรดบอกข้า ว่าข้าควรทำสิ่งใดต่อ"
จากการที่ไม่ค่อยได้อะไรมากจากการเดินทางอันยาวนาน ดังนั้นจิตใจของเขาหวั่นไหวเล็กน้อย เอลลิออนวางพลั่วของพวกมันลงและรับเอาเนื้อวัวที่วีดยื่นให้พวกมัน
- ถ้ามันคือท่านแล้ว พวกเราสามารถเชื่อถือได้ นี่คือเรื่องราวที่ข้ายังมิได้บอกท่าน ในอดีตมนุษย์เริ่มเข้าสู่สงครามหลังจากที่จักรวรรดิอาร์เพนล่มสลาย ประติมากรรมสลักชีพดั่งเช่นพวกเรานั้นระหกระเหินกระจัดกระจายอยู่ทั่วทวีปและอาศัยตามที่ต่างๆ
วีดพยักหน้า
"มันดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น เจ้าต้องการให้ข้ารวบรวมตามหาเผ่าพันธุ์อื่นเช่นนั้นรึ "
เป้าหมายของเขาคือการไขว่คว้าประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆ และใช้พวกมันทำงาน !
- ไม่ ไม่เชิงซะทีเดียว พวกเราเคยมีสหายผู้ซึ่งตายจากไปแล้วพร้อมกับเหล่ามนุษย์ และคอยปกป้องพวกเราในทวีปนี้
"ผู้ใดกัน ?"
วีรบุรุษบาฮาม๊อคแห่งอาณาจักรอาเพ่น เขาถือกำเนิดมาพร้อมกับพวกเรา
ตอนนี้ภาพวิดีโอที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าวีด
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
หลังจากที่จักรวรรดิอาร์เพนล่มสลาย พวกมนุษย์ก็เริ่มทำสงครามกันเอง
ในระหว่างช่วงยุคสงครามครั้งนั้น อาณาจักรบิทเท่น,คัลลาร์มอล์, ทัลเลน,มาเซน, กราเดียน,นอร์ตั้น,เมพอน และบรอมบา ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นมา
พลังของเผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและพวกมอนสเตอร์ก็กลับมารุกรานอีกครั้ง ประติมากรรมสลักชีพของจักรพรรดิอาร์เพนต่างถูกจับไปเป็นนักโทษ หรือค้นหาถิ่นฐานที่อยู่ใหม่
บาฮามอค
ยามเมื่อจักรวรรดิอาร์เพนเป็นหนึ่งเดียวในทวีป เขาเป็นวีรบุรุษผู้ที่นำประติมากรรมสลักชีพ
 ฮี้ ฮ่าห์!”
เขาตะโกนลั่นขณะที่เขาต่อสู้กับศัตรูและพวกมอนสเตอร์ เขาเป็นวีรบุรุษผู้โลดแล่นอย่างเข้มแข็งในสถานที่ที่มีเวทมนตร์กำลังถูกระดมยิงอย่างดุเดือด
ไม่มีอาวุธชิ้นไหนที่เขาไม่สามารถใช้ได้และเขาก็จัดการสยบพวกมอนสเตอร์ขนาดใหญ่และเหล่าจอมเวทย์
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
 เขาแข็งแกร่งมาก.’
วีดคิดขณะที่กำลังดูวิดีโอ โดยดูได้จากการต่อสู้ของเขา เขาแข็งแกร่งกว่าเจ้าวิหคทองคำมาก เขาอาจจะเทียบเท่าได้กับคนที่เสียบดาบปักบัลข่าน! ในฐานะผู้พิทักษ์แห่งจักรวรรดิ เขาถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มของมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด
'มันคงจะดี ถ้าฉันสามารถใช้งานเขาได้'
ขณะที่พวกเอลลิออนและอาร์นินเป็นพวกคนงานที่หมั่นเพียร บาฮามอคเป็นวีรบุรุษที่เกิดมาเพื่อทำสงคราม
"แล้วเกิดอะไรขึ้น?"
- เขาต่อสู้เพื่อการตั้งถิ่นฐานของเหล่าสหายคนอื่นๆ ถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้นแล้วมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะอยู่รอดได้โดยง่าย เขาไม่เคยหยุดพักและย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อต่อสู้เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนของเรา
วีดยังคงชอบในจุดนี้ มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอีกจำนวนมาก แต่ถ้าทำให้พวกมันซื่อสัตย์ได้แล้วเขาก็จะทำให้พวกมันทำงานออกมาได้ดีจริงๆ
วีดจะอาศัยประโยชน์จากสิ่งที่พวกมันต้องการจนทำให้เขาใช้พวกมันทำงาน
- แต่เมื่อพวกเราเห็นเขาครั้งสุดท้ายนั้น บาฮาม๊อคเต็มไปด้วยบาดแผลและพิษร้ายนั่นอาจจะทำให้เขาตายได้ทุกเมื่อ
โอ้!”
วีดคิดว่ามันช่างไร้ค่า ประติมากรรมสลักชีพที่ยอดเยี่ยมสมควรให้เขาสามารถใช้งานไปจนตาย

- วีรบุรุษบาฮาม๊อค
บาฮาม๊อคผู้ซึ่งแสวงหาความแข็งแกร่งมาตลอดชีวิต!
ประติมากรรมสลักชีพที่เกอิฮา วอน อาร์เพน จักรพรรดิอาร์เพนสร้างจากความอิจฉาหลังเห็นความแข็งแกร่งของเผ่าคนเถื่อน( Barbarians)
เขาคือนักรบที่โด่งดังผู้ที่ยืนอยู่แนวหน้าของการต่อสู้ทุกครั้ง หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิอาร์เพน ชื่อเสียงของบาฮาม๊อคกลับเลือนหายไป
พวกเอลลิออนต้องการรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาสุดท้ายของเขา
นี่เป็นการผจญภัยครั้งสุดท้ายในภารกิจระดับปรมาจารย์
ถ้าท่านบรรลุภารกิจนี้จะทำให้ก้าวไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายกลายเป็นปรมาจารย์สายอาชีพ
ระดับความยาก: ภารกิจปรมาจารย์แกะสลัก
ข้อจำกัดของภารกิจ : ทักษะการแกะสลักขั้นสูงเลเวล 8
ทักษะประติมากรรมประทานชีพเป็นสิ่งจำเป็น


- ข้าเสียใจกับบาฮาม๊อค ท่านสามารถหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาได้หรือไม่? เขาอาจจะกลับไปที่เมืองหลวงของ จักรวรรดิอาร์เพน มันช่างยาวนานเหลือเกินนับตั้งแต่ที่เขาจากไป แต่มันยังคงมีข่าวดีอยู่บ้าง
"ในที่สุดก็ถึงจุดสิ้นสุดของการผจญภัยอันยาวนาน"
ตามที่คาดไว้คำขอครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มันเหมือนกับการโยนเหรียญ 100 วอนทิ้งและพยายามที่จะหามันอีกครั้งใน 1 ปีต่อมา หรือเมื่อหมูย่างที่เขาซื้อมากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แต่เขาไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ วีดเป็นคนประเภทที่จะฝ่าออกไปถ้าเขาถูกต้อนจนมุม!
"เมืองหลวงของจักรวรรดิอาร์เพน ... ข้าจะตามหามัน"
แอนทาโรซาอันยิ่งใหญ่!
โบราณสถานที่ครั้งหนึ่งเป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิอาร์เพน และสิ่งปลูกสร้างประจำเมือง
พวกมอนสเตอร์มีอยู่เกลื่อน ณ สถานที่แห่งนั้นยามกลางคืน แต่เศษซากปรักหักพังทุกแห่งจึงทำให้มันอันตรายมากขึ้น ไม่มีที่กำบังจากกำแพงและไม่มีผู้คุ้มกันอยู่ที่นั่น!
ในช่วงวันแรก ๆ ของรอยัลโร้ดมีนักผจญภัยหลายคนออกผจญภัยไปที่นั่น มีการค้นพบไอเท็มเวทมนตร์จำนวนมาก และมีหนังสือประวัติศาสตร์ถูกค้นพบ
ความรู้จำนวนมาก และสมบัติในทวีปเวอร์เซลล์ล้วนนำออกมาจากแอนทาโรซาซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงของ จักรวรรดิอารเพนและมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ทุกรูปแบบ
โบราณวัตถุและสมบัติล้ำค่าในอดีตยังคงถูกค้นพบจนถึงตอนนี้ จึงมีนักผจญภัยจำนวนมากที่มุ่งเป้าไปที่การหาค้นหารางวัลใหญ่จากสมบัติเหล่านั้น
"ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้"
- ท่านได้ตอบรับภารกิจแล้ว
ข้าจะรอข่าวดี บาฮาม๊อคเป็นวีรบุรุษที่ปกป้องพวกเรา
"ข้าจะทำให้คำขอของพวกเจ้าเสร็จสิ้นโดยไม่ย่อท้อ เขาต้องมีชีวิตอยู่ ... "
จบตอน
ผู้แปล : Smith Rex
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

8 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ ใกล้จะมันละ

    ตอบลบ
  2. ทาสผู้ที่อนาคตจะต้องถูกใช้แรงงานอย่างบ้าคลั่ง "บาฮาม็อค"

    ตอบลบ
  3. ต้องอยู่เพื่อถูกใช้งาน ถึงใกล้ตาย วีดก็ทำให้ฟื้นได้

    ตอบลบ
  4. RIP. บาฮาม็อคล่วงหน้า
    ปล.ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  5. อ้อ นี่เอง ทาษใหม่ ที่ทำให้ สองคู่หูโดนทิ้ง

    ตอบลบ
  6. วีดจะได้สร้างกองทัพแล้วซินะ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...