วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2561

เล่ม 26 ตอนที่ 11: ประวัติศาสตร์ของเผ่าออร์ค แปลโดย Smith REX


เล่ม 26 ตอนที่ 11: ประวัติศาสตร์ของเผ่าออร์ค แปลโดย Smith REX

แซ่กแซ่กซึบซัก~
วีดขยับมีดแกะสลักอย่างมั่นใจ
' ฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับเผ่าออร์ค '
มันเป็นการยากจริงๆที่จะสร้างประติมากรรมที่คุณไม่คุ้นเคย และมันก็ยากในการที่จะหาความสมดุลระหว่างความโดดเด่นในแต่ละเผ่าพันธุ์ เนื่องจากพวกเขานั้นต่างมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่เนื่องจากการผจญภัยของวีดในฐานะคาริชวิคภายในชนเผ่าออร์ค  เขาย่อมรู้จักลักษณะต่างๆของออร์คมากกว่าใครๆ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูเห็นแก่ตัวไปนิด และดูชั่วร้ายก็ตาม แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรูปร่างหน้าตาของเขา วิถีชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขาทำให้ทั้ง 4 เผ่าพันธุ์สามารถอาศัยอยู่ในทวีปเวอร์เซลล์ พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทนทาน และจากการเข้าควบคุมเขตแดนหลายแห่ง พวกเขาจะต้องปีนป่ายหน้าผาและมุ่งหน้าไปยังถิ่นทุรกันดารที่พวกมอนสเตอร์อาศัยอยู่ พวกเขาควรจะภูมิใจ และจากการได้สามารถควบคุมอิสรเสรีของตัวเองได้ด้วยการมีชีวิตอยู่เยี่ยงออร์ค
พาราชวิคถือหอกใหญ่(glaive )ไว้ในมือ พร้อมด้วยท่าคำราม และแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่  วีดกำลังทำประติมากรรม ณ ฐานที่มั่นของออ์คเบิร์นซิลลา อยู่ในตำแหน่งเหนือประตูทางเข้า
 ชวิคค !”
"คาริชวิคกำลังทำอะไรบางอย่าง ชวิคชิควิค!”
"ความสามารถของเจ้าดูแล้วช่างยอดเยี่ยมนัก คาริชวิค ชวิคชวิควิค !
ชวิคชิกก ! ออกไปดูคาริชวิคกันเถอะ  "
จากปากต่อปาก เหล่าออร์คที่ได้ยินต่างก็เริ่มเดินทางมามุงดูกัน
ถ้าเป็นประติมากรมนุษย์คนอื่น ลำพังแค่นี้ก็นับว่าเป็นความกดดันที่ยิ่งใหญ่มากพอแล้ว พวกออร์คนั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ป่าเถื่อน และชั่วร้าย นั่นจึงเป็นเหตุให้เกิดความกลัวขึ้นในระดับหนึ่งจนคุณมิอาจทำอะไรได้จนประสบความสำเร็จ
ในทางตรงกันข้าม มันกลับเป็นความแตกต่างโดยสิ้นเชิงในกรณีของวีด
"ชวีส อย่าทำให้ข้ารำคาญ ข้าต้องหลอมมันให้ละลายให้หมด ก่อนที่จะเอาอะไรออกมา ชวิคชิคค ! "
"ชวิ , ชวิกก, คาริชวิคนั้นคงจะทำได้ยอดเยี่ยม."
"ช่างน่าเกรงขามนัก , ชวิตชวิค !"
"เมื่อเจ้าได้สิ่งใดกลับมาจากการออกล่า, แบ่งมันมาให้ข้ากินด้วย ,ชวิคค!"
"โอ้ รับทราบ ชวิคชิค !”
วีดกำลังขู่กรรโชกเหล่าออร์ค แม้กระทั่งจากสิ่งของที่พวกเขากิน
ใบหน้าของคาริชวิคมีความแตกต่างมากพอสมควรที่จะทำให้ออร์คเพศชายเกรงกลัว ในขณะที่บรรดาออร์คสาวๆ พวกนางมักจะชอบแอบมองไปที่ใบหน้าของเขาด้วยท่าทางเขินอาย ออร์คตัวเมียที่แข็งแรงกำยำมักจะโยนเนื้อม้าตากแห้งมาให้เขาพร้อมกับแสดงความเขินอายและวิ่งหนีไป
นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับการเป็นไอดอลยอดนิยมในโลกของออร์ค!
***
ประติมากรรมขนาดใหญ่ของพาราชวิคมีความสูงประมาณ 4 เมตร ไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมความเข็มแกร่งของออร์ค หรือ ศักดิ์ศรีของพวกเขา มันก็จะกลายเป็นที่รู้จักแม้จะอยู่ในที่ห่างไกล
ฮีโร่ของเหล่าออร์คที่กำลังยืนอยู่บนเบอร์ซิลเลีย !
ประติมากรรมของวีดชิ้นนี้อาจดูเหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยการแสดงออกถึงพละกำลังเพียงอย่างเดียว  แต่ทว่าถ้าลองมองดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่ามีรายละเอียดที่ดีมาก
ดวงตา และคางของประติมากรรมมีสีน้ำตาล ถึงแม้ว่ามันจะทำมาจากหินแต่กระนั้นริ้วรอยบนคอก็ถูกแกะสลักออกมาได้เป็นอย่างดี ขณะที่มันสวมชุดเกราะหนังหยาบ และรองเท้าเหล็กปื้นซึ่งให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับสิ่งที่พวกช่างเหล็กตีเหล็กของพวกคนแคระทำขึ้นมา ความหนาและความยาวในตัวหอกของเขานั้นให้ความรู้สึกดีที่จะใช้มันในการบดขยี้  นอกจากนี้ยังมีมีดที่เข้ากันได้ดีกับออร์คพาราชวิคอีกด้วย ถึงมันดูออกจะใช้ประโยชน์ได้เพียงเล็กน้อยสำหรับเขาก็ตาม
"นี่คงจะดีพอแล้ว ... ชวิคค!"
 กรุณาตั้งชื่อให้ประติมากรรม

"ชื่องั้นรึ ชวิค  ข้าตัดสินใจแล้ว ออค์ลอร์ดพาราชวิค "
 ออค์ลอร์ดพาราชวิค ถูกต้องหรือไม่?

ในตอนแรกเขาทำประติมากรรมเพราะภารกิจ แต่หลังจากได้เรียนรู้เรื่องราวของพาราชวิค เขาจึงอยากจะทำประติมากรรมนี้ด้วยใจจริงไม่ว่าอะไรก็ตาม. ถึงแม้ว่าในใจของเขายังคงเสียใจอยู่บ้างกับการที่ทักษะยังด้อยเกินไป
"ผลงานของคาริชวิค , ชวิคชวิคค!"
 ฮึ่ย ! หลังจากที่ข้าเห็นสิ่งนี้ ข้าอยากเป็นนักรบออร์คที่แข็งแกร่ง , ชวิคชวิคชวิควิค !”
"หล่อจัง ชวิค  เขาดูเหมือนพึ่งพาได้ "
การได้เห็นเหล่าออร์คต่างโห่ร้องขณะที่พวกเขามองไปยังประติมากรรมของพาราชวิค วีดก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขานั้นพองโตทันที
อย่างน้อยประติมากรรมนี้ก็สามารถกุมจิตใจของพวกออร์คได้
"ออค์ลอร์ดพาราชวิค ตกลงตามนั้น ชวิคชิค!”
ติ้ง !
ผลงานระดับแม๊กนั่ม ! คุณได้สร้างประติมากรรมออค์ลอร์ดพาราชวิคเสร็จสิ้นแล้ว
เรื่องราวของวีรบุรุษที่หายไป ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์อันยาวนานของทวีปเวอร์เซลล์ สิ่งนี้คือประติมากรรมของ เจ้าแห่งออร์คพาราชวิคได้ถูกสร้างขึ้นบนโลกใบนี้แล้ว ประติมากรรมถูกสร้างขึ้นโดยประติมากรที่ค้นพบประวัติศาสตร์ของทวีปโดยการใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ของเขา มันเป็นภาพลักษณ์ที่ดุจดั่งเจ้าแห่งออร์คพาราชวิคในทุกรายละเอียด ซึ่งทำให้เหล่าออร์คต่างรู้สึกถึงความภาคภูมิอันไม่รู้จักจบสิ้น
คุณค่าทางศิลป์: 21,328
เป็นผลงานศิลปะที่อิงกับประวัติศาสตร์ของเผ่าออร์ค
คุณสมบัติพิเศษ : เพิ่มพลังชีวิตและความแข็งแรงของเผ่าออร์คทั้งหมด 4%
เพิ่มค่าเสน่ห์และความเป็นผู้นำของบรรดาหัวหน้าเผ่าออร์คทั้งหมด 14%
เพิ่มอัตราการเจริญพันธุ์
ลดเหตุการณ์ของเผ่าออร์คอ่อนแอลงยามเมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง แม้จะมีค่าสถานะที่ต่ำกว่า
เหล่าออร์คหนุ่มยามเมื่อได้ชื่นชมออค์ลอร์ดพาราชวิคจะเพิ่มความเร็วในการเติบโต 20%
อัตราการเกิดของออร์คลอร์ด  และนักรบออร์คเพิ่มขึ้น
เพิ่มอัตราการฟื้นฟูของเหล่าออร์ค 65% ยามเมื่ออยู่รอบรูปปั้น
จำนวนผลงานระดับแม๊กนั่มเสร็จสมบูรณ์: 11 ชิ้น
- ทักษะการแกะสลักเพิ่มขึ้น
- ทักษะงานฝีมือเพิ่มขึ้น
- ความเข้าใจเกี่ยวกับงานประติมากรรมเพิ่มขึ้น 1
- ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 2,178.
- ค่าสถานะทางศิลป์เพิ่มขึ้น 49
- บารมีเพิ่มขึ้น 22
- ความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น 22
- ความอึดเพิ่มขึ้น 25
- ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3 สำหรับการทำผลงานระดับแม๊กนั่มจนสำเร็จ

  ชวิคคค!”
วีดรู้สึกดีจนเขาแทบสำลัก และกำลังจะหลั่งน้ำตา ประติมากรรมออร์คลอร์ดพาราชวิคของเขานั้นกลับเป็นผลงานระดับแม๊กนั่มที่ประสบความสำเร็จ และในครั้งนี้ทักษะการแกะสลักของเขาก็เพิ่มขึ้น 6.2%
'เหตุผลก็คงต้องเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่ของพาราชวิค แม้ว่าฉันจะทำมันได้ดีด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องง่ายในตอนเริ่มต้น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นไปด้วยดี!
บุลชวิคเดินเข้ามาหาวีด
"ทำได้ดีมาก. ชวิคค !. ออร์คผู้ยิ่งใหญ่กำลังถือมีดพกที่ใช้สำหรับการถลกหนัง ชวิค และข้าก็สงสัยว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เลยทีเดียวแหละ ชวิค ! นี่คือสิ่งที่ออร์คพาราชวิคชอบทำใช่ไหม ? ชว..ชว..ชวิค.”
"ถูกต้อง. ชวิคค !”
"ดูเหมือนว่ามันอาจจะกินเหยี่ยวทั้งตัวได้ด้วยการเขมือบทีเดียว ! ชวิคค.”
 ชวิคค ได้อย่างง่ายดาย.
"ข้าชอบหินก้อนหินก้อนนี้ งานที่ยอดเยี่ยม เจ้าคือคาริชวิคจริงๆหรือนี่   ชวิชวิชวิค!”
ประติมากรรมของออร์คลอร์ดพาราชวิคเสร็จสมบูรณ์
ผ่านรูปลักษณ์ของออร์คลอร์ดพาราชวิค  ความชอบธรรมทางประวัติศาสตร์ ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญของออร์ค ล้วนปรากฏออกมาให้เห็น
ดวงตาของออร์คในยามนี้เปิดกว้างให้กับงานศิลปะ เหล่าออร์คที่เห็นประติมากรรมนี้จะเข้าใจมนต์ขลังแห่งศิลปะ วัฒนธรรม
คุณได้เสร็จสิ้นการสร้างประติมากรรมของออค์ลอร์ดพาราชวิคในระหว่างการทำภารกิจปรมาจารย์ประติมากรเป็นคนแรก
ผลงานนี้จะถูกผนวกเข้าเป็นสมบัติของเหล่าออร์คทั้งหลาย
วัฒนธรรมจะถูกสร้างขึ้นในเมืองออร์ค และในหมู่บ้าน
เนื่องจากประโยชน์ของวัฒนธรรม เหล่าออร์คจะสามารถเพลิดเพลิน และเรียนรู้จากการได้เห็นผลงานศิลปะ
มิตรภาพกับ เผ่าออร์ค เลื่อนระดับเป็น "พี่น้อง"
เหล่าออร์คจะไม่ยอมอยู่เฉยยามเมื่อวิกฤติเกิดขึ้นกับเหล่าพี่น้องของพวกเขา
เหล่าออร์คจะเฉลิมฉลองความสำเร็จให้กับงานประติมากรรมชิ้นนี้ และจะจัดงานเทศกาลภายในเผ่าทั้งหมด
เทศกาลจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 25 วัน โดยจะมีอัตราการเกิดเพิ่มขึ้น 300% ในช่วงเวลานี้

ข่าวนี้เป็นเหมือนดั่งพรสำหรับผู้เล่นเผ่าออร์คทั้งหมด!
โดยปกติแล้ว พวกออร์คก็มีอัตราการขยายพันธุ์ได้น่ากลัวอยู่แล้ว แต่เมื่อจบเทศกาลนี้ บางทีอาจจะมีออร์คเพิ่มมาอีกนับพันตนแน่นอน
ผู้เล่นที่เลือกอาชีพเป็นนักรบออร์คมักจะถูกจัดวางให้รับงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาอยู่ในปาร์ตี้ออกล่า แต่ในหมู่ผู้เล่น บางทีมักจะรวบรวมเหล่าออร์คหนุ่มในเมือง เมื่อจะออกล่าก็ผลักภาระงานหนักไปให้พวกเขา  ตอนนี้เหล่าออร์ค หนุ่มกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากประติมากรรมออร์คนี้ มันจึงทำให้ผู้เล่นมีความสุขจริงๆ
ทวีปเวอร์เซลล์เป็นสถานที่กว้างใหญ่และยังมีพรมแดนที่ห่างไกลออกไป ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ทางเหนือก็มีสถานที่มากมายอยู่รายล้อมรอบโมราต้า ซึ่งเป็นสถานที่มีพวกมอนสเตอร์หลากหลายประเภทปรากฏออกมาให้เห็น
ถ้าวัฒนธรรมนี้ส่งไปถึงเหล่าออร์คที่แข็งแกร่งกว่าในทางทิศตะวันออก และทิศใต้แล้วล่ะก็ คงจะมีสักวันหนึ่งที่จะเกิดอาณาจักรของเหล่าออร์คขึ้นมาก็ได้
'เมื่อมองไปที่พลังการขยายเผ่าพันธุ์อันรวดเร็วของออร์คเหล่านี้ พวกมันอาจจะใช้เวลาไม่นานนัก.’
จนถึงตอนนี้ คงเหลือเพียงแค่เก็บเกี่ยวรางวัลชิ้นใหญ่จากภารกิจปรมาจารย์การแกะสลักเท่านั้น
วีดรอคอยบุลชวิคย้อนกลับมา
"คาริชวิค ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเพียงออร์คธรรมดาตนหนึ่ง ชวิคชิคชีส แต่ดูเหมือนไม่ใช่เลย ชวิคชิก .”
"ข้าอยากตอบแทนสักเล็กน้อยกับสิ่งที่สุดยอดเช่นนี้   ชวิคชวิคชิ  ยังไงซะ ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอก.
"ขอบคุณเจ้ามาก ข้าจะมอบฝูงออร์ค 1 ฝูงให้กับเจ้า ประมาณ 250,000 ตน ชวิคชิค ! "
วีดไม่ต้องการค่าตอบแทนเช่นนี้อย่างแน่นอน
ชวิคชิชชิค ไม่จำเป็นเลย อย่าทำเช่นนั้นเลย. "
"รับไปเหอะ ชวิคชวิ ชวิค! และยามใดเมื่อข้าได้เห็นประติมากรรมพาราชวิค ข้าเหมือนเคยได้ยินเสียงเพลงที่ตอนที่ข้ายังเยาว์วัยอยู่ ทว่าข้ากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเพลงนั้นเลย

"เพลงอะไร ชวิค !"
"ข้าไม่เคยนึกถึงมันมาก่อนเลย จนกระทั่งบัดนี้ ชวิค"
บุลชวิคกระแทกหอกด้วยมือทั้งสองข้างของเขา ซึ่งทำให้เกิดประกายไฟแลบขึ้นในขณะที่เขาร้องเพลง
นอกถ้ำที่แสนสบาย, เคล้ง !
ที่ทั้งสูง ทั้งยาก หากคิดบุกเข้าไป เคล้ง !
ผ่านแนวหินที่ขวางกั้น เคล้ง !
ข้าเดินต้านสายลม, เคล้ง !
แม้นช่วงฤดูหนาวมาเยือน เคล้ง!
ข้าเคลื่อนผ่านกลีบดอกไม้ , เคล้ง !
มายังสถานที่ที่เราอยู่ เคล้ง !
เพื่อให้ได้น้ำอันล้ำค่า เคล้ง !
เจ้าจึงจักหว่านเมล็ด เคล้ง !
เจ้าจึงจักหว่านเมล็ด เคล้ง !
แต่มอนสเตอร์เหล่านั้นช่างน่ากลัว เคล้ง !
พวกเราจะต่อสู้ จนกว่าจะสิ้นสุด, เคล้ง !
เพื่อเผ่าออร์ค  เคล้ง !
ออร์คแม้นไม่รู้หนทางเดินเข้าหาศัตรู เคล้ง!
มืดบอดเพียงใดก็ต้องไป เคล้ง !

การออกเสียงของเขาไม่เพียงแค่ไม่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในช่วงกลางเพลง เสียงเคล้งกลับกลบคำสำคัญบางคำที่แฝงอยู่ในนั้น การกระแทกแต่ละครั้งของด้ามหอกเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง การกระแทกมันลงไปบนหิน ช่างรุนแรงลงและชวนให้นึกถึงจังหวะของคนกำลังตีกลอง
แม้จะมีปัญหาอย่างมากในการฟังเพลงก็ตาม วีดยังคงตบมือ แม้ว่าเผ่าออร์คนั้นความจริงเป็นเผ่าพันธุ์ที่เสียงทื่อด้าน
"ร้องเพลงได้ยอดมาก ! ชวิค!”
" ไม่ว่าออร์คตนใดก็รู้ดี ชวิสวิคชิค. แม้ว่าข้าจะร้องเพลงได้ดี ชวิกก! แต่แน่นอนว่าคงจะสู้เจ้าไม่ได้ คาริชวิค "
 คุณได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับทั้งสี่เผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำ

บุลชวิคยังกล่าวต่ออีกว่า
"คาริชวิค  ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร  ชวิกก! พวกเราก็จะอยู่ข้างเจ้าเสมอ  เกี่ยวกับเพลงที่ออร์คในวัยเยาว์ได้ร้องออกมานั้น ชวิคค  เจ้าช่วยออกไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับมันได้หรือไม่? "
ทุกตนต่างรู้เกี่ยวกับเพลงของเผ่าออร์คด้วยกันทั้งนั้น !
นับตั้งแต่ที่ผู้เล่นสามารถใช้งานเผ่าออร์คได้ พวกออร์คก็มักจะร้องเพลงบางเพลง แต่คำถามคือ เพลงเหล่านี้นั้น ความจริงชี้นำไปยังภารกิจ หรือสมบัติ แต่ถ้าคุณไม่ทราบตำแหน่งที่แน่นอนของรัทเซเบิร์ก  มันถือว่าเป็นเพลงที่ไร้ประโยชน์จริงๆ
พวกออร์คไม่มีการเขียนบันทึกใดๆเพื่อส่งต่อไปยังแต่ล่ะรุ่น  และด้วยการออกสู้รบอยู่บ่อยครั้ง เพียงเขาจึงเริ่มบางเบา และตายลง พวกเขาจึงมีหนทางเดียวที่จะส่งผ่านข้อมูลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อเผ่าพันธุ์ของพวกเขาได้โดยอาศัยผ่านทางบทเพลง
ติ้งง !
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสี่เผ่าพันธุ์(The Sanctuary of the Four Races)
มนุษย์ คนแคระ เอลฟ์และออร์ค อาศัยอยู่ด้วยกันในถ้ำ!  ทั้งสี่เผ่าพันธุ์ได้ร่วมมือกัน จึงสามารถอยู่รอดร่วมกันได้
จงค้นหาว่าพวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันภายในถ้ำได้อย่างไร
ระดับความยาก : ภารกิจปรมาจารย์การแกะสลัก
ข้อจำกัดภารกิจ : ทักษะการแกะสลักขั้นสูงเลเวล 8 หรือมากกว่านั้น
 ชวิคค ย่อมแน่นอน ข้าจะออกไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ "
- คุณได้ตอบรับภารกิจแล้ว

***
"อุ๊ก."
ผมของลีฮุนนั้นยุ่งมาก และร่างกายของเขาก็เหนื่อยล้า ถึงเขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า แต่ในเมื่อตอนนี้เขาต้องไปเรียนที่มหาลัย และเล่นรอยัลโร๊ด แน่นอนมันทำให้เขาเกิดความเหนื่อยล้าสะสมเป็นธรรมดา
"บางทีฉันควรจะพักสักวัน"
ช่วงเวลานี้เขาต้องลำบากจากเหตุการณ์สำคัญในอาณาจักรโรเซนไฮม์ และหลังจากนั้นเขาก็ติดอยู่กับการทำภารกิจต่อเนื่อง
เขาปวดหัวมากกับการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรัทเซเบิร์กในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งดูเหมือนจะสูบเอาพลังของเขาไปจนหมด ร่างกายมีความสำคัญและต้องมีการดูแลเฉกเช่นสมบัติอันมีค่า. เมื่อเขายังเป็นเด็ก เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความมีค่าของร่างกายว่าเป็นอย่างไร จนอาการเจ็บป่วยรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนหนักเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะทนไหว
"คนหนุ่มสาวต้องมีสุขภาพที่ดี หรือไม่เช่นนั้นพวกเขาจะจบลงด้วยการจ่ายบิลค่ารักษาพยาบาล"
บิลค่ารักษาพยาบาลน่ากลัวเสียยิ่งกว่ามังกร!
วันนี้เป็นวันเสาร์ ลีฮุนกระโจนออกจากผ้าห่ม แล้วเริ่มทานอาหารเช้า
 ครอกกก.”
แล้วตรงเข้านอนทันที !
มันใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที เขาก็กลับไปหลับอีกครั้งได้อย่างสมบูรณ์ มีความชื้นปานกลางในห้องที่เต็มไปด้วยผ้าปูที่นอนและวางกระถางต้นไม้ และสมุนไพรที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
 อา หลับสบายดีจัง มันได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว "
ลีฮุนลุกขึ้นมารับประทานอาหารกลางวัน และกินข้าว จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าสู่วงโคจรของเขาด้วยการมุดกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มของเขา
 ครอกฟี้ บรือ  บรือ คร่อกกกก.”
เขาหลับยาวไปจนถึงเย็นแล้วก็กินข้าวอีกครั้ง
"ต้องมีคืนที่ฉันจะสามารถนอนหลับได้สนิท ความกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆมากเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้ คร่อกฟี้ฟี้คร่อกฟี้ฟี้คร่อกฟี้ฟี้คร่อกฟี้ฟี้คร่อกฟี้ฟี้.”
เขาทิ้งตัวลง และนอนหลับลึกในทันทีที่ไฟดับลง หลังจากการนอนหลับมาตลอดทั้งวัน เขาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงนกร้องในตอนเช้า
ลีฮุนก็กระโดดออกมาจากเตียง
ร่างกายของเขารู้สึกเบาตัว และสดชื่น เขากำลังใคร่ครวญถึงการไปอาบน้ำเย็นเพื่อทำหัวให้โล่ง
"ช่างเป็นการนอนหลับที่สมบูรณ์แบบ"
นี่ถือเป็นยาที่ดีที่สุดเพราะมันไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงจิตใจที่ผ่อนคลาย และเริ่มรับประทานอาหาร ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่ดีพร้อมเริ่มต้นในวันที่ดี
เขาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบการเงินสำหรับภายในบ้าน แต่ทันใดนั้นเขาก็จำคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ได้ขึ้นมา
"โอ้วันนี้เป็นวันที่จะไปเดินป่านี่หว่า?"
แผนที่เขาวางไว้กับเฮียว ริน จุง เพื่อไปไต่เขาก็คือวันนี้ [T / N: เฮียว ริน จุง  คือฮวางยรอง ]
ทำให้ลีฮุนลืมไปเลยว่าเขากำลังมองไปที่ตารางงบประมาณงบประมาณภายในบ้านของพวกเขาอยู่
เขาจำเป็นต้องเดินขึ้นไปบนภูเขาในตอนเช้า เพราะเธอต้องการใครสักคนไปดูแลเธอ.
"เฮ้อ.... ~ ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อม"
ลีฮุนร้องบอกน้องสาวให้ลุกขึ้นอาบน้ำทันที และเตรียมอาหารให้เธอกิน จากนั้นก็สวมเสื้อยืด และกางเกง
เฮียว ริน จุง เกิดมาเพื่อเป็นอัจฉริยะด้านดนตรี
สำหรับเฮียว ริน จุง ไม่สมควรตกอยู่ในสถานการณ์ที่เคอะเขิน แม้ว่าลีฮุนจะไม่ได้อยากไปปีนเขาก็ตาม เขาก็แค่คิดว่าเป็นการออกกำลังกายและไปสูดอากาศสดชื่น การตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าแล้วออกวิ่งเป็นประจำ มันจะช่วยให้มีสุขภาพดี ซึ่งดีกว่าการเดินไกลแค่บางครั้งบางคราว ลีฮุนไม่ได้มีอารมณ์ณุ้สึกอยากจะไปเดินป่าสักเท่าไหร่ เนื่องจากการที่เขาเคยส่งหนังสือพิมพ์ จำนวน 500 ฉบับ และนม โดยการวิ่งขึ้นและลงเนินเขาสูงชันในวันที่หิมะตกในช่วงกลางของฤดูหนาว
"ฉันอยากรู้ว่าบนภูเขามีจุดชมวิวดีๆบ้างไหมนะ แต่ฉันไม่รู้จริงๆเลยว่าจะไปที่ไหนดี"
ลีฮุนรอขณะที่เขายังเล่นคอมพิวเตอร์ของเขา ก่อนที่จะขายอุปกรณ์สวมใส่ของเขาออกไป และยืนยันราคาตลาดเป็นอันดับแรก
ราคาการซื้อขายสำหรับดาบนั้นคงที่ ในขณะที่ตอนนี้ราคาคทาจะตกลง เพราะราคาสำหรับอุปกรณ์สายเวทย์เดิมทีมันก็มีราคาแพงอยู่แล้ว ดังนั้นการที่บางครั้งถูกปฏิเสธก็เป็นเรื่องปกติ.
เมื่อเร็ว ๆ นี้ในหอแห่งเกรียติยศ  วิดีโอของนักผจญภัยอิสระกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่แสดงสงครามกิลด์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในขณะที่บอร์ดสนทนาส่วนใหญ่ ผู้คนพูดถึงกันอยู่สามหัวข้อที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งรวมถึงการคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับกิลด์เฮอมิส , วิหารเอ็มบินยู และกิลด์อื่น ๆ แต่ตอนนี้เรื่องที่ครองบอร์ดสนทนาคือเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของวีด และภารกิจของเขา
วีดรู้สึกภูมิใจในบอร์ดของออร์คที่เต็มไปด้วยการสรรเสริญเขา ผู้เล่นออร์คหญิงกล่าวว่า ชายในอุดมคติของพวกเธอคือ คาริชวิค และสมควรไว้วางใจได้ ในขณะที่คนอื่น ๆ บอกว่านับวันเขายิ่งโหดขึ้นเรื่อยๆ
 มันดูเหมือนว่ามีผู้เล่นจำนวนมากกำลังเลือกเล่นเป็นเผ่าออร์คในตอนนี้

บางทีอาจเป็นเพราะความไม่สะดวกในเทือกเขายูโรกิ และเมืองยังไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา นั่นจึงทำให้ผู้เล่นมักจะไม่ค่อยเลือกการเล่นในเผ่าพันธุ์นี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นไปตามธรรมชาติของเผ่าพันธุ์เอง เพราะมันจะช่วยยกระดับของตัวคุณเองจากเหล่าออร์คหนุ่ม ซึ่งหลายคนคงเริ่มที่จะซาบซึ้งกับเหล่าออร์คมากขึ้น
การมีเหล่าออร์คหนุ่มอยู่ในเผ่า มันจะเติบโตและเติบโตไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจะมีจำนวนนับเป็นพัน ๆ
เนื่องจากลักษณะของสายพันธุ์ของพวกเขา พวกเขาจึงสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่นี้ ผู้เล่นที่โด่งดังบางคนก็เล่นเป็นออร์คและค่อนข้างประสบความสำเร็จจากการใช้กองกำลังขนาดใหญ่
เอก อี้ เอ่ก เอ้ก! เอก อี้ เอ่ก เอ้ก!
เขาเล่นอินเทอร์เน็ต ในขณะที่รอน้ำซุปที่ต้มจนเดือดค่อยๆเย็นตัวลง มันเป็นเวลา 6 โมงเช้า และการไต่เขาตามสัญญาที่ให้ไว้ก็ใกล้เข้ามาเต็มที ลีฮุนทำพาจอน(พิซซ่าเกาหลี) และทำการเตรียมแค่เพียงคิมบับ และมักกอลลี่ (ไวน์ข้าว)
'เอาล่ะ ฉันมีของกินแล้ว'
ช่วงขณะที่เขากำลังทำอาหารกลางวันราคาถูก เขาก็ยื่นหน้าโผล่มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วรถของเฮียว ริน จุง ก็มาจอดอยู่ข้างหน้า เธอได้ไปแสดงจนถึงรุ่งเช้าแล้วก็ตรงมาที่นี่ เธอสวมหมวกและแว่นตากันแดด และหลับอยู่บนที่นั่งคนขับจริงๆ ลีฮุนเคาะกระจกเบา ๆ และเฮียว ริน จุง ก็ตื่นขึ้นมาแล้วทักทายเขาด้วยเสียงสดใส
"อรุณสวัสดิ์"
"เอ่อ มีน้ำลายไหลที่อยู่ในปากของคุณ ... "
 อ้า!
และก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น เขาก็ตรงดิ่งเข้าไปในภูเขา
***
รถจอดอยู่ที่ลานจอดรถใกล้กับทางเข้าของภูเขาและลีฮุนนำอาหารกลางวันของพวกเขาติดมือไปด้วย
"เราไปกันเลยมั้ย ?"
"ใช่. ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นเรื่องสนุก เพราะมันเป็นเวลานานแล้วที่ฉันไม่ได้เดินป่า "
เมืองไม่ไกลจากภูเขา แต่พวกเขามาถึงตั้งแต่เช้า ในลานจอดรถจึงเงียบมาก  เฮียว ริน จุง ใส่รองเท้าเดินป่าของเธอพร้อมกับเป้สะพายหลัง ด้วยกันกับอุปกรณ์เดินเขาของเธอ และมันก็พร้อมแล้ว
"ชีวิตในมหาลัยเป็นไงบ้าง ?"
"ผมเข้าเรียน แค่พอไม่ให้ถูกดรอป."
"ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม แค่สงสัยเฉยๆน่ะ อย่าเข้าใจผิดนะ คุณเคยวางแผนว่าจะมีลูกหลายๆคนไหม ?”
"ทุกวันนี้การเลี้ยงลูก คุณจำเป็นต้องหาเงิน มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ "
"คุณไม่คิดหรือว่า การมีครอบครัวใหญ่มันจะช่วยให้มีความสัมพันธ์อันอบอุ่นหรือ ?"
"ผมควรรักครอบครัวของผมมากกว่าการรักใครที่มีเงินเป็นจำนวนมาก ข้าวนั้นคงมีเพียงพอที่จะเลี้ยงดูใครสักคน ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องการในชีวิตก็คือคนที่คุณรัก ใช่มั้ย? ?”
"แต่ยังไง คุณก็ยังต้องการเงิน ...... "
พวกเขาเดินขึ้นไปตามทางขณะที่พวกเขามีการสนทนาแบบนั้นประมาณ 20 นาที เฮียว ริน จุง กำลังเดินขึ้นเขาด้วยความปรารถนาที่จะอยู่กับลีฮุนให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ สักประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็คงดี
"นี่มันเหมือนกับการทดสอบเลยแหะ "
ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการฝึกฝนทางด้านร่างกาย เช่นการเต้นบนเวที แต่กับการการเดินเขาตอนเช้าในทันทีก็เหมือนมีแรงมาดึงเธอลงไปที่พื้น
"เครื่องสำอางทั้งหมดของฉันละลายหายไปแล้ว ... .. "
เฮียว ริน จุง หยุดและสูดลมหายใจ
ขณะที่พวกเขาเดินขึ้นเขา หัวใจของเธอก็เต้นถี่รัว และอุณหภูมิร่างกายของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่มีเหตุผลที่จะไปต่อ!.
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หลังจากนั้นพวกเขาจึงหยุดพัก  ถึงแม้ว่าเธออยากจะไปต่อ หนทางที่เธอเห็นก็คือการต้องลงกลับไปเนื่องจากหมดแรง
"รอสักครู่ ขอพักบ้าง"
หลังจากการเดินเขาอีก 30 นาที มันก็ถือว่าเป็นความยากลำบากของ เฮียว ริน จุน มามากแล้ว
เธอพักอยู่บนก้อนหินที่อยู่ใกล้กับลีฮุนในขณะที่เธอรอพลังฟื้นคืนมา แล้วเขาก็พูดว่า
"ไหวมั้ย? คุณอยากจะลงไปตอนนี้หรือเปล่า "
"ไม่แน่นอน! ฉันบอกแล้วว่าพวกเราต้องไปให้ถึงจุดสูงสุด หมอกที่ด้านบนสุดกำลังลอยตัว ดังนั้นถ้ามันกระจายหายไป ฉันคงจะผิดหวัง เพราะฉันต้องการที่จะรับรู้ถึงมัน. "
ลีฮุนรอคอยเฮียว ริน จุง ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆเขาเพื่อลุกขึ้นและออกเดินทาง แต่พอถึงจุดหนึ่ง เฮียว ริน จุง ก็เอียงหัวของเธอลงบนไหล่ของเขา
เธออดนอน เพราะเธอต้องเตรียมตัวหลังจากการแสดงคอนเสิร์ตของเธอ และสามารถนอนหลับได้เพียงเล็กน้อยในช่วงรุ่งสาง
ลีฮุนนั่งอยู่ที่นั่นและรู้สึกถึงสายลม ในขณะที่เขาฟังเสียงนกร้อง เฮียว ริน จุง ก็ยังคบซบหัวของเธอลงบนไหล่ของเขาและค่อยๆหลับลงไปอย่างช้าๆ ลีฮุนก็พยายามที่จะปลุกเธอให้ตื่นขึ้น
"อืม ...ฉันรู้สึกว่านอนตรงนี้แล้วมันหนาวจัง  คุณเอายาของคุณมาหน่อยได้ไหม หรืออะไรก็ได้ที่กำจัดความหนาวไป."
ลีฮุนถอดเสื้อสเว๊ตเตอร์ของเขาออก และคลุมด้านหลังของเฮียว ริน จุง อย่างแผ่วเบา เธอหลับลึกลงไป แม้กระทั่งการปลุกเธอก็คงไม่สามารถช่วยอะไรได้
"ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันควรจะแบกเธอไว้ที่หลังของฉันสินะ"
ลีฮุนดึงแขนของเฮียว ริน จุง ขึ้น
"ตอนนี้ พวกเราควรไปที่ไหนดี?"
ในเวลาต่อมาเขาก็เริ่มเดินขึ้นภูเขาอีกครั้ง
"ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนฉันเคยออกไปส่งข้าวในภูเขาที่สูงแบบนี้ "
ย้อนกลับไป เขาเคยเดินทางประมาณ 20 กิโลเมตรในการแบกข้าว 3 กระสอบ ดังนั้นลำพังน้ำหนักของเฮียว ริน จุง จึงถือว่าค่อนข้างเบา
การแบกผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นไปบนภูเขาไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงเพราะแค่ฝึกฝนร่างกายมาก็ไม่อาจทำได้โดยง่าย
เขาสามารถเดินไป และแบกเธอได้โดยไม่ต้องพัก
หยาดเหงื่อเริ่มไหลออกมาจากหน้าผากของเขา พร้อมกับเสื้อยืดของเขาที่เริ่มเปียกโชกจากเหงื่อ และความชื้นของหมอก มันเป็นการยากจริงๆที่จะเคลื่อนย้ายโดยไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตัวกับเธอ
"วันนี้ฉันจะต้องไม่ออกไปไหนทั้งนั้น ในวันนี้ทั้งวัน ฉันจะอยู่แต่ในรอยัลโรดเท่านั้น"
ลีฮุนได้นำเฮียว ริน จุง แบกขึ้นหลัง และเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตัวเอง เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาในการแบกกระสอบข้าวสารอันหนักอึ้งก็เคยผ่านมาแล้ว
เฮียว ริน จุง ยังคงหลับฝันหวาน
เมื่อใดก็ตามที่เธอกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็จะมีชายคนหนึ่งคอยให้กำลังใจ แม้ว่าจะเป็นนักวิชาการที่ยากจน เขาก็คอยดูแล และอบอุ่นเหมือนคนรักครอบครัว! ถึงแม้ว่าเขาจะรูปร่างหน้าตาท่าทางประหลาดอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังเป็นคนตลกและน่าเชื่อถือ นี่คือชีวิตแต่งงานในฝันของเธอ
"ชายผู้ที่คอยรีดผ้า ซักผ้า ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน และหารายได้ แล้วก็มีเด็ก ๆ และแบ่งปันความยากลำบากขณะที่พวกเขาโตขึ้น "
ครอบครัวในฝันของเฮียว ริน จุง นั้นสมบูรณ์แบบตลอดกาล ในทีวีนั้นสิ่งที่เป็นจุดขายมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาตู้เย็น และโฆษณาเครื่องซักผ้า ทั้งหมดล้วนนำเอาบรรยากาศความฝันอันแสนหวานใส่ลงไปทั้งนั้น
เฮียว ริน จุงก็ตื่นขึ้นมาจากความฝันของเธอ และค่อยๆลืมตาขึ้น และกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง,เธออยู่บนหลังของลีฮุนที่กำลังเดินขึ้นไปบนภูเขา
'โอ้ ... เขาให้ฉันขี่หลัง.'
เฮียว ริน จุง อยากจะถามว่าทำไม แต่เมื่อคิดแล้วว่ามันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับลีฮุน และอาจจะแปลกใจเขาถ้าเธอทำ เช่นนั้น เธอจึงแอบหลับซบลงไปรับรู้ถึงความอบอุ่นจากลีฮุน เธอไม่รู้สึกเลยว่ากลิ่นของผู้ชายที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจหรือสกปรก
"ฉันต้องการจะไปบนยอดเขา คุณจึงทำแบบนี้เพราะอยากเอาใจฉันใช่ไหม ?"
เฮียว ริน จุงรู้สึกอบอุ่นอยู่ภายในจนถึงจุดที่เธอเองก็ไม่สามารถจินตนาการได้
เป็นความอบอุ่นที่ไม่สามารถอธิบายได้
การหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้น และร่างกายของเขาเริ่มเหงื่อออกขณะเดินขึ้นเขาไปอย่างเงียบ ๆ !
"ผมไม่ทราบจริงๆว่าคุณอยากจะเห็นอะไรที่ด้านบนยอดของภูเขา แต่ในไม่ช้าพวกเราก็จะไปถึงที่นั่น พวกเราจะกินคิมบับ และ หลังจากนั้นก็กลับลงมา "
เขาไม่เคยนึกถึงสิ่งที่เธอกำลังคิด
เฮียว ริน จุง ซบหน้าของเธอไว้บนตัวลีฮุน
'ฉันดีใจที่เรามาที่ภูเขา ในวันนี้มันจะเป็นความทรงจำที่เต็มไปด้วยความสุขเหลือเกิน '
และ ลีฮุน ...
"หนักจัง หนักชะมัดเลย ...... "
***
วีดกลับเข้ามาเชื่อมต่อยังสถานที่ที่ว่าเป็นรัทเซเบิร์ก จากเนื้อเพลงของเผ่าออร์ค สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสี่เผ่าพันธุ์ต้องตั้งอยู่ในถ้ำ
"ฉันต้องมองหาสถานที่ที่เป็นภูเขา หรือเทือกเขาในบริเวณโดยรอบ"
ที่ราบใหญ่อิลซู เป็นภูมิประเทศที่มีเทือกเขาสูงชัน
"เดินต้านสายลม ดังนั้นมันต้องเป็นเส้นทางลมผ่าน การเดินผ่านดอกไม้ที่แบ่งบาน แม้ว่าจะอาจเป็นฤดูใบไม้ผลิในเวลานั้น มีหลายพื้นที่ที่มีดอกไม้บาน ... . "
วีดผู้ที่ตอนนี้อยู่ในรัทเซเบิร์กจึงตัดสินใจที่จะไปยังสถานที่ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดด้วยการอาศัยภูมิประเทศที่เหมือนกัน ทางทิศตะวันออก
เขาสามารถเอาพวกไวเวิร์นไปที่ภูเขาที่ดูน่าจะเป็นไปได้ แต่อาจต้องผ่านบางสิ่งบางอย่าง และไปไกลกว่านั้น เพื่อให้เขาได้เลือกที่จะเดินตรงไปยังจุดหมาย เนื่องจากการเดินช่วยให้คุณได้เห็นมากขึ้น คิดมากขึ้น และมีประสบการณ์กับสิ่งต่างๆมากมาย
สวนวาเนสซ่า
เนื่องจากเทศกาลชมผีเสื้อจะมีผู้คนในพื้นที่นี้มากขึ้น ดอกไม้ทั้งหมดเบ่งบานสะพรั่ง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมวีดจึงระมัดระวังไม่ไปเหยียบโดนพวกมัน
"อย่าทำลายธรรมชาติ"
เขาค่อยๆเดินบนพื้น ขณะที่ดอกไม้ถูกสายลมโชยพัดเอียงไปมาจนมองเห็นได้
"สวยจัง."
ผู้คนจำนวนมากที่เข้าร่วมกำลังเด็ดดอกไม้ริมทาง
ดอกไม้บางชนิดที่ถูกเด็ดออกจากต้น สักพักก็จะถูกวางไว้ริมทางแล้วก็เหี่ยวเฉาไป

 สำหรับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการไม่ทำลายดอกไม้ที่รายล้อมรอบตัวคุณ ทักษะการเรียนรู้เพิ่มขึ้น
 ความใกล้ชิดกับธรรมชาติเพิ่มขึ้น 1

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวีดทันที
"แจ๋ว ไม่ได้คาดหวังอะไรแบบนี้จริงๆ ... แต่นี่ก็ถือว่าไม่เลว!"
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เด็ดดอกไม้ออกมา เพราะค่าความใกล้ชิดกับธรรมชาติ เขาก็สามารถทำแผนที่ของพื้นที่แถบนี้ และขายให้กับร้านขายดอกไม้ได้
เขายังคงเดินต่อไปในสวน และพบกับสถานที่ที่มีซากปรักหักพังกองสุมกันอยู่ มันอาจดูเก่าแก่  และเป็นประเภทที่ว่าเมื่อคุณพบมันคุณจะผ่านมันไปโดยไม่ทันสังเกตเสียด้วยซ้ำ แต่วีดยังคงต้องการที่จะเข้าไปดูใกล้ๆเศษซากนั้นในกรณีแบบนี้
ตอนนั้นเอง….
ติ้ง !
คุณได้พบสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของกำแพงเปตราแล้ว
ชื่อเสียงของคุณเพิ่มขึ้น 230
ค่าความฉลาดของคุณเพิ่มขึ้น 3
ขณะนี้คุณสามารถสร้างกำแพงเปตราในเมืองที่ภายใต้การปกครองของคุณได้
กำแพงเปตราจะช่วยลดขวัญกำลังใจของเหล่ามอนสเตอร์ด้วยการใช้ต้นทุนการก่อสร้างต่ำ

ภาพปรากฏขึ้นตรงหน้าวีด
คนแคระกำลังแยกผ่าก้อนหินขนาดใหญ่ พวกเขากำลังตัดหินให้มีขนาดที่เหมาะสมและนำไปให้เหล่าออร์คไปสร้างต่อ หินเหล่านี้จึงกลายเป็นอุปสรรคในการป้องกันไม่ให้พวกมอนสเตอร์บุกเข้าสู่ที่ราบใหญ่อิลซู
"ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ฉันคงไม่มาที่นี่"
วีดยืนอยู่ใกล้กับเศษหินหรืออิฐ ในขณะที่บรรดาผู้เล่นที่อยู่ใกล้ ๆ ผ่านไปผ่านมา ผู้เล่นเหล่านั้นกำลังตรงไปยังพื้นที่ออกล่า และเดินผ่านกองเศษหินจากนั้นก็เดินจากไป วีดเริ่มอธิษฐานทันที แต่ถ้ามีใครบางคนเช่นวีดได้ทำการค้นพบบางสิ่งบางอย่าง หรือการได้รับค่าประสบการณ์พิเศษไปแล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
เขากำลังพิจารณาในการเข้าร่วมงานเทศกาล แต่แล้วสิ่งที่วีดต้องการจริงๆก็คือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับรัทเซเบิร์ก
'ฉันต้องรู้ว่าอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้คืออะไร จึงจะรู้ได้ถึงภูมิประเทศของพวกเขา'
วีดเดินไปรอบ ๆ และค้นหาสิ่งที่เขาสามารถทำได้บนซากปรักหักพังของที่ราบใหญ่อิลซู
สิ่งที่เขาได้รับอาจจะไม่สำคัญมากนัก เขาได้รับอาวุธของเผ่าออร์คที่เก็บไว้ในคลังของพวกเขา พร้อมด้วยเมล็ดพันธุ์ที่เป็นของเผ่าเอลฟ์ที่พบบนเนินเขาที่ทำมาจากหิน เพราะมันยาวนานเกินไปตั้งแต่รัทเซเบิร์กยังคงอยู่ สิ่งที่เขาพบก็คือเศษชิ้นส่วนของเครื่องปั้นดินเผากับ เศษโลหะบางอย่าง จากนั้นเขาก็ไปตกปลาที่แม่น้ำไทนัส
การตกปลาในรัทเซเบิร์ก
นี่คือสถานที่ที่มนุษย์เคยจับปลา
เมื่อไม่มีเนื้อสัตว์อยู่รอบ ๆ คนแคระก็มักมาที่นี่
ความชำนาญด้านการตกปลาของคุณเพิ่มขึ้น
การใช้จุดตกปลานี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับปลาได้ถึง 37%

หลังจากการค้นพบครั้งนี้ วีดก็ค่อยๆเดินไปทางทิศตะวันออก
หลังจากใช้เวลาในการค้นหาอย่างยาวนาน เขาก็มาถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขา ด้วยเลเวลของเขา วีดไม่ต้องกังวลกับการเอาตัวรอดจากสัตว์ที่พำนักอยู่ที่นั่น ผู้เล่นเริ่มต้นจะเริ่มต้นในโบโรนิสซึ่งอาจมีบางครั้งก็มาที่นี่ มันมีภูมิประเทศที่ขรุขระอยู่ห่างไกลกว่าปกติแล้วยังเกือบจะรกร้าง
"ดูเหมือนว่าจะอยู่ในบริเวณนี้"
เขามาถึงสถานที่ที่มีดอกไม้บาน หลังจากเดินลงไปตามเส้นทางในภูเขาของรัทเซเบิร์ก
"มันสูงมากและยากที่จะเข้าไป ฉันจะต้องค้นหาในส่วนที่อยู่สูงขึ้นไปบนภูเขา."
จากการตรวจสอบยอดเขาหลายแห่งเพียงอย่างเดียวก็จะช่วยลดพื้นที่ที่จะค้นหาได้
ไว-ทรี!
วีดขี่ไวเวิร์นของเขาในขณะที่ทำการมองลงไปบนภูเขา
"ถ้าฉันเผยตัวมากเกินไป; มอนสเตอร์บนภูเขาสูงจะค้นพบฉันได้อย่างรวดเร็ว ทั้งสี่เผ่าพันธุ์จะต้องเลือกสถานที่ที่จะทำให้พวกเขาหลบรอดจากกองกำลังที่ไม่พึงประสงค์. "
เขาออกไป และจ้องมองที่ยอดเขาเหล่านี้
"ภูมิประเทศต้องสูงชันมาก ถ้ากลิ้งตกลงไปตรงหน้าผานี้ต้องตายแน่นอน "
สถานที่มีแต่ต้นไม้ที่ดูธรรมดา ในขณะที่สถานที่ที่ใกล้ที่สุดกับหุบเขานี้ค่อนข้างดูดี
ในภารกิจนี้ วีดได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งจากคลังเก็บของที่บ้านเอาไว้มากมาย
"ที่นี่แคบเกินไป แม้ว่าจะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ แต่ก็ยากเกินไปที่จะ ... ผ่านเข้าไป!"
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แสนสบายที่ยังซ่อนอยู่!
ต้นไม้โตขึ้นมากมาย ในขณะที่หินขนาดใหญ่และเล็กตั้งอยู่ด้านล่าง สัตว์จำนวนมากไม่กล้าที่จะมาที่นี่ แต่นั่นอาจเป็นเพราะมีมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ ที่ดักซุ่มอยู่ใกล้หุบเขา
วีดเดินไปรอบ ๆ และตรวจสอบก้อนหิน
เขายังลองผลักดันก้อนหินขนาดใหญ่ และมองหาช่องว่างที่ซ่อนอยู่ ซึ่งอาจยังไม่ได้รับการสำรวจ
มีก้อนหินที่ดูผิดแผกแตกต่างจำนวนมากบนยอดเขานี้ แต่ช่างน่าเศร้ามีเพียงก้อนเดียวที่เป็นประโยชน์สำหรับประติมากร แม้ว่าประติมากรจะไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง เขาก็สามารถใช้เคล็ดลับที่ดีกับหินนี้ได้ และเพียงแค่กะเทาะมันออก และเจาะเซาะมัน มีวัสดุหลายอย่างที่สามารถใช้ได้อยู่ที่นี่ แม้ว่าเขาเพิ่งค้นพบว่ามันเป็นเรื่องแปลกมาก
"มีร่องรอยบางอย่างที่นี่ ดูเหมือนจะเป็นเครื่องหมายที่ใช้ตอกสกัด ... "
มีรอยขีดข่วนบางส่วนถูกพบอยู่รอบ ๆ ก้อนหิน!
"ตรวจสอบ !"
 คุณได้เห็นเครื่องหมายของเผ่าออร์ค

"มันอยู่ใกล้ ๆ "
วีดมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาอันเฉียบแหลม
บริเวณที่น่าสงสัยที่ต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ต้นไม้มีความสูงมากและมีกรวดหิน และก้อนหินจำนวนมากกองอยู่ด้านล่าง
'ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะตั้งอยู่ที่นี่ตั้งแต่ต้น'
วีดเริ่มจากด้านบน และเคลียร์หินทีละก้อน
แจ๋บๆ แจ่บๆๆ  ! (เอ่อ ผมถามคนที่ผมรู้จักไม่เคยมีใครเคยได้ยินเสียงกระรอกตกใจ แปลได้แค่นี้ล่ะ ถ้าแปลตามอิ้ง ทูดา ดาดั๊ก )

กระรอกกระโดดขึ้นมาจากที่ซ่อนและสะดุ้งจากวีด
วีดรื้อหินที่ดูเหมือนจะมีลักษณะคล้ายกับวางสุมซ่อนต่างกับก้อนหินอื่น ๆโดยอาศัยสัดส่วนและขนาด
"เอาล่ะ ได้เรื่องแล้ว "
จากการที่หินทั้งหมดถูกย้ายออกไป ก็พบทางเข้า เป็นช่องที่ใหญ่พอที่จะรองรับสองหรือสามคนเข้าไปได้
จบเล่ม
ผู้แปล : Smith REX
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

9 ความคิดเห็น:

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...