วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

เล่ม 26 ตอนที่ 5 : วิหารลูห์ แปลโดย Smith Rex

เล่ม 26 ตอนที่ 5 : วิหารลูห์ แปลโดย Smith Rex

กระแสแห่งความอลหม่านพัดผ่านทวีปเวอร์เซลล์อีกครั้ง
ป้อมปราการเซราบ็อร์คกำลังลุกไหม้ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เหล่าผู้เล่นและบรรดาชาวบ้านทั้งหลายที่อยู่ในนั้น ต่างเสียชีวิตไปมากกว่าครึ่ง ถึงแม้ว่าผู้เล่นจะสามารถกลับมามีชีวิตได้ หลังจากนั้นก็จะได้รับบทลงโทษ แต่ป้อมปราการ และผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น ต้องสูญหายไปตลอดกาล
การปิดล้อมป้อมปราการเซราบ็อร์ค และการอพยพของชาวบ้านที่วีดเป็นผู้นำ การกลับมาของอัศวินหลวงเพื่อต่อสู้กับอริศัตรูของพวกเขา ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในป้อมปราการเซราบ็อร์ค และทักษะการแกะสลักลับที่สามารถเรียกอุทกภัยมาได้ วิดีโอเหล่านี้มีแนวโน้มผู้ติดตามจนถึงจุดสูงสุดตลอดทั้งวัน
หลังจากทำการเผาป้อมปราการเซราบ็อร์ค กองกำลังเอ็มบินยูที่กระจัดกระจายออกไป ได้หันมาเผชิญหน้ากับกองทัพอาณาจักรโรเซนไฮม์แบบตรงไปตรงมา ด้วยการอาศัยช่วงเวลาที่เหมาะสมนี้ ในทุกๆภูมิภาคของอาณาจักรโรเซนไฮม์ก็ได้ทำการยุแยงให้เกิดการก่อจลาจล
และในทุก ๆ พื้นที่ของอาณาจักรโรเซนไฮม์ การจลาจลก็เกิดขึ้น
"แม้กระทั่งอาณาจักรโรเซนไฮม์ก็ยังไม่เสถียรในตอนนี้"
ลีฮุนกำลังทานจัมปง* ขณะที่กำลังดูทีวีไปด้วย (ก๋วยเตี๋ยวทะเล)
"นี่คือสถานที่ที่ป้อมปราการเซราบ็อร์คเคยตั้งอยู่ สถานที่แห่งนี้ได้ถูกเผาจนเป็นกองเถ้าถ่าน และหลักฐานเดียวที่สถานที่แห่งนี้เคยเป็นป้อมปราการก็คือซากปรักหักพังเหล่านี้ และเศษซากต่างๆ.
"คุณ โอจูวาน คะ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าสถานที่แห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรเซนไฮม์ที่เฟื่องฟู "
"ใช่ครับ ผมเองก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นฉากนี้เป็นครั้งแรก คุณเคยไปเยี่ยมชมอาณาจักรโรเซนไฮม์มาก่อนไหมครับ คุณอาริน ? "
"ยังเลยค่ะ. มันเคยเป็นสถานที่ที่ฉันอยากไปอย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของมันที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ "
นี่เป็นผลพวงจากไฟที่เผาทำลายป้อมปราการเซราบ็อร์ค ถึงขนาดที่ว่าควันไฟนั้น พวยพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนที่น้ำจะท่วมจนดับไฟได้ มีเพียงเค้าโครงของสิ่งก่อสร้างที่ถูกเผาไหม้ ถูกทิ้งไว้ในซากปรักหักพังของป้อมปราการเซราบ็อร์ค
ปัจจุบัน คุณชินเฮมิน ผู้ประกาศข่าวของสถานี KMC มีเดีย ได้หลบทางให้ผู้ประกาศข่าวดาวรุ่งอารินให้มาแทนที่ตำแหน่งของเธอ
"บรรดาผู้เล่นที่กลับเข้าสู่ระบบหลังจากสัปดาห์นั้น กำลังยืนอยู่ที่จัตุรัส และมองไปรอบ ๆ ด้วยอาการมึนงง "
มีเพียงบรรดาผู้เล่นที่ออกจากระบบก่อนการสู้รบแห่งป้อมปราการเซราบ็อร์คจะเกิดขึ้น พวกเขาได้ล็อกอินกลับเข้ามาในระบบจนถึงตอนนี้ หลังจากกองทัพของวิหารเอ็มบินยูได้จากไปแล้ว
"ตอนนี้ฉันกำลังสัมภาษณ์พ่อค้าอยู่ค่ะ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง? "
"ผมไม่รู้ มันช่างห่อเหี่ยว "
"ความเสียหายที่เกิดจากวิหารเอ็มบินยูดูเหมือนจะมีนัยยะสำคัญ แล้วตอนนี้คุณจะทำอะไรต่อคะ?"
 “ไปที่อื่นและดำเนินธุรกิจของผมต่อที่นั่น มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกยกเค้า "
พ่อค้าจากไป โดยลากเกวียนที่อยู่ข้างหลังเขาไปด้วย
หลังจากนั้น เธอสัมภาษณ์ผู้เล่นคนอื่น ๆ อีกหลายคน แต่ส่วนใหญ่ก็ได้ให้คำตอบแบบเดียวกัน
การออกเดินทางไปยังปราสาทอีกแห่ง หรืออาณาจักรอื่นๆ
"แต่กระนั้น คุณโอจูวาน คะ ผู้เล่นหลายคนอ้างว่าได้เห็นแสงแห่งความหวังในป้อมปราการเซราบ็อร์ค "
"ใช่ครับ ผมแน่ใจว่ามีผู้ชมมากมายที่ได้เห็นมันผ่านการออกอากาศถ่ายทอดสด."
"ซึ่งการที่คุณจะบอกว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดค่ะ ซึ่งนั่นเป็นคนที่ฉันต้องการพบมากที่สุด คนที่ฉันต้องการออกไปพบข้างนอก! และแน่นอนต้องขอบคุณเขาที่ทำให้คนเป็นจำนวนมากปลอดภัย "
"มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าแปลกประหลาดที่เทพสงครามวีดอยู่ในป้อมปราการเซราบ็อร์ค ผมคิดว่าเขาออกไปในป่ากกแดง และแยกไปเก็บตัว เนื่องจากไม่มีข่าวเกี่ยวกับเขามาสักระยะแล้ว แต่ผมประหลาดใจที่เขาปรากฏตัวในป้อมปราการเซราบ็อร์ค และมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ในครั้งนี้ "
"ฉันได้ยินมาว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ผ่านพ้นไป ความนิยมของวีดก็เพิ่มสูงขึ้นมาทีเดียว"
"นี่ไม่ใช่ข่าวใหม่ครับ คุณสามารถบอกได้จากจำนวนผู้ชมที่มีความสนใจในความก้าวหน้าที่แตกต่างกันของวีด เมื่อเทียบกับผู้เล่นติดอันดับอื่น ๆ วีดมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เกี่ยวกับตัวเขา "
 “เอ๊ะ! ใช่แล้วค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาทำเสียงชวิค ! เขาทำเสียงชวิคๆ มันดูน่ารัก เสียงนี้ทำให้ใจฉันแทบละลายเลยค่ะ.
"วีดเป็นแนวหน้าสำหรับขบวนของผู้ลี้ภัยที่กำลังหลบหนีออกจากป้อมปราการเซราบ็อร์ค ความแน่นอนของเขาคือการเป่าพวกวิหารเอ็มบินยูให้พ้นทางด้วยการมีสมาชิกปาร์ตี้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้คนในอาณาจักรโรเซนไฮม์ทั้งหมดล้วนสรรเสริญวีด และการผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้ บรรดาผู้เล่นที่ยังมีชีวิตรอดกำลังใช้โอกาสนี้ในการย้ายไปที่โมราต้า.”
ลีฮุนรู้สึกอายเนื่องจากคำทั้งหมดล้วนสรรเสริญเยินยอเขาในทีวี
"มันเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่ฉันได้รับการชมเชย ครั้งสุดท้ายคือตอนอยู่ในโรงเรียนประถมเมื่อครูบอกฉันว่า หากพยายามอีกนิด ฉันสามารถปรับปรุงการเขียนตามคำบอกของฉันได้มากกว่า 65%. "
ตอนนี้เขาได้รับคำสารภาพจากยูอาริน เธอเป็นนักร้องไอดอลและทำงานเป็นแขกรับเชิญในรายการทีวีด้วย ในรอยัลโร๊ด เธอพยายามที่จะเพิ่มความนิยมของเธอโดยการทอดสะพานให้ผู้ที่เป็นดั่งนักบุญ และเธอได้ประกาศต่อสาธารณชนให้เขาติดต่อเธอ
แน่นอนว่าลีฮุนไม่ได้ไร้เดียงสาและไม่มีแผนการที่จะติดต่อเธอ มีความแตกต่างกันมากระหว่างสิ่งที่เป็นจริงและจินตนาการ ถ้าเธอสนใจจริงๆและสิ่งที่เธอพูดก็ไม่ใช่บทพูด เธอก็สามารถใช้รายการติดต่อของสถานีเพื่อโทรหาเขาก่อนได้อยู่แล้ว
"ที่สำคัญมากกว่านั้น ฉันต้องออกจากอาณาจักรโรเซนไฮม์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเมื่อใดที่ไอ้พวกกิลล์เฮอมิสมันจะมาไล่ตามฉันทีหลัง"
จากข่าวที่ได้ เขาจึงรู้ว่าราชาได้หลบหนีไปอย่างปลอดภัยกับอัศวินของพระองค์ ราชาได้รวบรวมกองกำลังเรียบร้อยแล้ว และเริ่มทำการโจมตีโต้กลับ โดยสั่งการให้เหล่าขุนนางปราบปรามวิหารเอ็มบินยู
อาณาจักรยุ่งเหยิงไปด้วยสงครามกลางเมือง ผู้เล่นโดยส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่ฝั่งราชา อีเว้นท์ปกป้องอาณาจักรเป็นโอกาสอันดีในการเก็บสะสมค่าอุทิศตน
"บางทีอาจจะกลายเป็นการสู้รบขนาดใหญ่กับนักบวชชั้นสูงเบลโลนี  เบลโลนียังไม่ได้เปิดเผยความสามารถของเขาออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ถูกกดดัน "
ในที่สุดมันถึงจุดที่ลีฮุนนั้นกินจัมปงของเขาจนหมดถ้วยแล้ว
"และตอนนี้ พวกเราจะดำเนินการต่อไปกับการรายงานข่าวของเราเกี่ยวกับทางตอนกลางของทวีป คุณโอจูวานคะ เห็นได้ชัดเลยว่ามันเป็นอีกชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับกิลด์เฮอมิส ถูกต้องมั้ยคะ? "
"อ่า.ใช่ครับ ถ้าไม่ใช่สำหรับการปรากฏตัวของวิหารเอ็มบินยูในอาณาจักรโรเซนไฮม์ นี่จะเป็นสิ่งแรกที่ผมจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟังครับ กิลด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเวอร์เซลล์ กิลด์เฮอมิสนั่นเองครับ ! เป็นอีกครั้งที่พวกเขาได้กำราบกองทัพของอาณาจักรคัลลามอร์ลงได้ "
"เกิดอะไรขึ้นกับผู้บัญชาการสูงสุดโคลเดอร์ริมเหรอคะ? ”
"อัศวินเหนืออัศวินทั้งปวง โคลเดอร์ริมก็ได้เข้าร่วมการรบในวันนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากเจ็บปวดจากความพ่ายแพ้ในการรบก่อนหน้านั้น เขาแทบจะไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ แต่ ......
ในศึกก่อนหน้านี้ โคลเดอร์ริม และอัศวินของเขาสู้จนหมดท่า ด้วยการตีฝ่าเข้าไปในวงล้อมของอาณาจักรฮาเว่น และถอยทัพ บรรดาผู้เล่นของกิลด์เฮอมิสพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของโคลเดอร์ริม แต่เขาสามารถหนีจากไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
โดยรวมแล้วอาณาจักรคัลลามอร์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ได้ เหมือนมันถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ด้วยความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ขนาดของกองทัพลดลงอย่างเห็นได้ชัด
"น่าเสียดาย พวกเราไม่อาจได้เห็นโคลเดอร์ริมอีกครั้ง บาร์ดเรย์นั้นท้าสู้ตัวต่อตัวกับโคลเดอร์ริมและได้รับชัยชนะซะด้วยครับ "
สงครามระหว่างอาณาจักรฮาเว่นกับอาณาจักรคัลลามอร์นั้นเกิดการปะทะกันในทุกๆ วัน  พวกเขาไม่สามารถยืนหยัดและปล่อยให้อาณาจักรฮาเว่นพิชิตอาณาจักรคัลลามอร์และชีวิตของโคลเดอร์ริม แม้ว่าโคลเดอร์ริมจะขาดแคลนกองกำลังที่มีประสิทธิภาพ เขาก็ยังออกไปยังแนวหน้าเพื่อปกป้องอาณาจักรของเขาตลอดเวลา และแทบจะไม่สามารถกลับมาแบบมีชีวิตได้
ในศึกครั้งนี้  โคลเดอร์ริมเหนื่อยล้า และได้รับบาดเจ็บสาหัส ในสภาพนี้ เขาจึงยอมรับการท้าประลองกับบาร์ดเรย์ และถูกฆ่าตายในการกระทำเช่นนั้น
"ตอนนี้พวกเราจะโชว์ให้คุณได้เห็นภาพการต่อสู้ของบาร์ดเรย์ และโคลเดอร์ริม"
ลีฮุนติดตามดูอย่างใกล้ชิด โคลเดอร์ริมมีบาดแผลร้ายแรงหลายแห่งจนยากที่จะเห็นว่าเป็นบริเวณใดบ้าง ในขณะที่ยังบาดเจ็บและทุกข์ทรมานจากผลกระทบด้านลบจากคำสาป ในทางตรงกันข้าม บาร์ดเรย์ได้รับคำอำนวยพรมากมาย และดูราวกับว่าเขาเพิ่งตื่นจากการหลับนอนหลับมาอย่างสดชื่น
"บางทีบาร์ดเรย์อาจกินข้าวเพื่อเพิ่มพลังก่อนหน้านี้ก็เป็นได้"
ด้วยการประลองที่เกิดขึ้นพร้อมกับเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้ บาร์ดเรย์ย่อมเป็นผู้ชนะอย่างหมดจด แม้ว่าจะเป็นเพราะบาร์ดเรย์ มันก็ไม่ได้หมายความว่าโคลเดอร์ริมจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แม้ในสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนี้ โคลเดอร์ริมใช้ทักษะที่ไร้คู่เปรียบของเขาในการต่อสู้กับศัตรู
ในวินาทีสุดท้ายเมื่อผู้ชนะได้ถูกตัดสิน บาร์ดเรย์เอาดาบของเขาพาดไปคอของโคลเดอร์ริม และแสดงความเมตตาครั้งสุดท้าย
"เข้าร่วมกับอาณาจักรฮาเว่น ถ้าเจ้าสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อข้า ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป "
บาร์ดเรย์ต้องการผู้ใต้บังคับบัญชาเหมือนโคลเดอร์ริม แต่โคลเดอร์ริมปฏิเสธข้อเสนอ
 “ อย่าดูถูกอัศวินก่อนที่แกจะฆ่าเขา ข้าจักกลับมาจากความตาย ดังนั้นข้าจึงไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด เพียงสิ่งเดียวที่ข้าเสียใจคือการที่ข้านั้นไร้ความสามารถในการปกป้องอาณาจักรคัลลามอร์ก็เท่านั้น "
นั่นคือจุดจบของโคลเดอร์ริม แม้กระทั่งทางช่องทีวีก็ยังรู้สึกถึงความเสียใจที่เขาส่งผ่านออกมา
"เป็นความตายที่น่าสลดมากค่ะ มีแฟนๆมากมายหลายคนที่ชื่นชอบโคลเดอร์ริม "
"ใช่ครับ. แต่ถึงกระนั้นความเสียหายของอาณาจักรฮาเว่นที่โคลเดอร์ริมสร้างกลับไม่มีนัยยะสำคัญมากนัก ถ้าคุณลองคำนวณดู มันจะเป็นเรื่องยากที่จะปล่อยให้เขามีชีวิตรอดอยู่ต่อไป. "
"เมื่อใดก็ตามที่โคลเดอร์ริมมีส่วนร่วมในการรบ เหล่าทหารและพลอัศวินจะมีขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด จนสามารถแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดของพวกเขาออกมา และทำให้พวกเขาต่อสู้ดุจดั่งปีศาจเลยทีเดียว "
"ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เห็นโคลเดอร์ริมอีกครั้งในสนามรบ ฉันคาดการณ์ว่าอาณาจักรฮาเว่นคงจะครอบครองพื้นที่ได้ง่ายขึ้น "
****
งานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของมหาวิทยาลัยเกาหลีนั้น คุณจะผิดหวังมากหากคุณพลาดมันไป ! เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ลีฮุน กลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และทุกคนไม่ว่าจะชั้นปีไหนก็อยากไปกับเขา. สถานที่จับจองในปีนี้ได้รับความนิยมมากกว่าปีที่ผ่านมา
"รุ่นพี่ค่ะ โปรดพาฉันไปด้วยได้ไหมคะ ได้โปรดเถอะค่ะ นะคะ?"
"มีผู้หญิงจำนวนมากอยู่ในกลุ่มของฉัน พวกพี่สาวบอกว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรโดยไม่มีรุ่นพี่น่ะค่ะ."
มีกลุ่มคนหลายกลุ่มที่พยายามทำให้ลีฮุนเข้าร่วมกับพวกเขา ถ้าหนึ่งในกลุ่มนั้นจัดการกับเขาได้ พวกเขาก็จะไม่มีปัญหากับอาหาร และการเตรียมการที่หลับที่นอน รวมถึงจะมีข้อได้เปรียบในระหว่างการแข่งขันกีฬา
สิ่งนี้มันคือปัญหาสำหรับลีฮุน
แม้ว่าสถานที่สำหรับจัดค่ายสานสัมพันธ์**จะเป็นความลับ มันอาจจะเป็นเกาะหรืออาจจะเป็นภูเขา เขาจำเป็นต้องมีวัสดุก่อสร้างเพียงพอในการทำเพียงแค่หลังคาและกางผ้าลงมาคลุมก็จบ.
ไม่ว่าจะสถานที่ไหน มนุษย์นั้นน่ากลัวกว่าสัตว์ใด ๆ
"ถ้าพวกเขาต้องการที่จะทำให้ค่ายสานสัมพันธ์นั้นยาก พวกเขาก็ควรจะให้พวกนั้นแบกอิฐในการสร้างอะไรหลายๆอย่างหรือเย็บตาตุ๊กตาเป็นเวลา 4 วัน "
ลีฮุนนั้นอาจเหนื่อยเล็กน้อยในค่ายสานสัมพันธ์ ไปๆมาๆมันก็แค่เป็นวันหยุดที่เพิ่มขึ้นมา ในท้ายที่สุดเขาก็คิดว่ามันเสียเวลาที่จะไปค่ายสานสัมพันธ์ และตัดสินใจที่จะไม่ไป แน่นอนว่าเขายังไม่ไปในพิธีเปิดตัวแนะนำนักศึกษาใหม่ด้วย!
"ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะถูกหวย และพวกเขาต้องเสียค่าลงทะเบียนแสนแพงเป็นประจำทุกปี ทำไมถึงต้องมาทำพิธีการเหล่านี้ด้วยนะ ? ”
เขานั้นยังตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอีกด้วย
"วันนี้หัวใจผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นการวิ่งคงจะเกินขีดจำกัดของผม มันจะทำให้ผมรู้สึกวิงเวียนและสั่น ๆ "
ถึงจะพูดไปอย่างนั้น เมื่อเขาฝึกฝนทักษะดาบ เขาพยายามทำให้ร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ลีฮุนเป็นคนที่ไม่มีใครรู้ว่ามีอยู่ในห้องบรรยาย ถ้าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจค้นหาเขา เหตุผลเดียวที่ทำให้ค้นพบเขาเจอได้ง่ายก็คือซอยูนที่อยู่กับเขาเสมอ เพราะนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อพิจารณาจากคนรุ่นราวคราวเดียวกัน
"อะไรที่สามารถล่อลวงเขาได้? ฉันไม่รู้เลย "
"บางที พวกเราอาจจะไม่ได้เข้าใจผู้ชายอย่างที่เห็น "
เหล่านักเรียนหญิงรู้สึกท้อแท้เกี่ยวกับปัญหานี้

ในปีนี้ ลีฮุนได้ลงทะเบียนเรียนวิชาศิลปะเอาไว้มากมายซึ่งเป็นวิชาเสรีในบรรดาตัวเลือกหลักของเขา เพียงเพราะว่ามันเป็นมหาวิทยาลัยจึงไม่จำเป็นต้องมุ่งเน้นเฉพาะวิชาเอกเท่านั้น การทำกาแฟ การเมือง การศึกษาภาพยนตร์ ประวัตศาสตร์โลก ด้วยการเรียนวิชาเหล่านี้ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ได้เชื่อมโยงกัน แต่หลังจากได้เรียนเกี่ยวกับวิชาเหล่านี้ มันให้ความรู้สึกแปลก เหมือนได้ดำดิ่งลงไปอยู่กับอะไรสักอย่าง
 วิชาพวกนี้ไม่ได้มีการเช็คชื่อเข้าเรียนสักเท่าไหร่ ฉันสามารถโดดเรียนวิชานี้ได้ในภายหลังและพวกเขาบอกว่าวิชาพวกนี้มักให้เกรดมาก "
ลีฮุนได้ศึกษาหลักสูตรต่างๆ มันรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้นำเสนอวิชาที่ยากจะเรียนรู้จนเกินไป
"ฉันไม่ควรเข้ามหาวิทยาลัยโดยไร้เหตุผล การจบการศึกษาสมควรได้วุฒิการสอนติดมาด้วย รู้สึกเหมือนเป็นการวางแผนที่ดี."
ถ้าลีฮุนได้สอนนักเรียนในอนาคต คงเป็นธรรมดาที่บรรดาพ่อแม่จะต้องนำสินบนติดตัวมาด้วย
"ของขวัญแห่งความทุ่มเท การทุ่มเทอย่างเต็มที่ "
ลีฮุนมีความปรารถนาเล็กๆ ที่จะกลายเป็นครูที่คอยบอกสอน เล่าเรื่องราวและถ่ายถอดบนเรียนในชีวิต
*****
สถานที่ที่วีดกลับมาเชื่อมต่อคือที่ราบสูงฟอร์ท มันเป็นที่หลบภัยที่เขานำผู้ลี้ภัยและพวกผู้เล่นเหล่านั้นหนีรอดมาจากป้อมปราการเซราบ็อร์ค
 “ยินดีต้อนรับ”.
"คุณวีด มาแล้ว!"
บรรดาผู้เล่นที่รอดชีวิตต่างขอบคุณวีด และต้อนรับเขาด้วยความอบอุ่น นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่อยู่ในที่ราบสูงฟอร์ทที่พวกเขาต้องการเที่ยวชมป้อมปราการ
วีดเป็นคนที่ถูกถามหามากที่สุดในหมู่คนที่มาจากอาณาจักรโรเซนไฮม์ คนธรรมดาที่ถูกถามหามักจะรู้สึกรำคาญหรืออึดอัดใจเมื่อฝูงชนรายล้อมรอบเขา แต่วีดแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการที่เขาจับมือกับคนเหล่านั้น
"ผมมาแล้ว ทุกคนพักผ่อนสบายดีไหม? "
"พวกเราสบายดี!"
บางครั้งในอนาคตเขาอาจต้องขอความร่วมมือในการทำภารกิจขนาดใหญ่ การขายประติมากรรมราคาแพงหรือหลอกลวงพวกเขา ดังนั้นวีดจึงต้องรักษาความนิยมของเขาเอาไว้ นี่เป็นพรสวรรค์ของเขาที่โดดเด่น มันคือการเสแสร้งเป็นนักบุญผู้สูงส่ง! ถ้าวีดได้เข้าสู่เส้นทางการเมือง ย่อมแน่นอนที่เขาจะใช้ตำแหน่งของเขาอย่างเต็มที่ และกับโมราต้า และป้อมปราการวาร์โกที่เติบโตขึ้นทุกวัน มันก็เกือบสุกงอมพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว
วีดรีบไปหาเจ้าของร้านดอกไม้เซลิน่าเพื่อรายงานภารกิจของเขา
"ผมพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ผมไม่สามารถช่วยทุกคนเอาไว้ได้"
จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้นมากมายโดยเฉพาะชาวบ้านแห่งป้อมปราการเซราบ็อร์ค และไม่ใช่ชาวบ้านทั้งหมดจะติดตามวีด. ชาวบ้านบางคนเลือกที่จะหลบซ่อน เพราะเชื่อว่ากองทหารสามารถปกป้องพวกเขาได้ มีน้อยมากที่ถูกจับโดยวิหารเอ็มบินยูเพราะพวกเขาติดตามวีดและการเสียสละของวีด มีส่วนน้อยที่ถูกจับเป็นนักโทษและถูกล้างสมอง
ชาวบ้านแห่งป้อมปราการเซราบ็อร์คที่ติดตามวีดมายังที่ราบสูงฟอร์ตมีอยู่ประมาณ 98,000 คน
"มีคนตายมากมาย ผมรู้สึกหนักอกหนักใจจากความตายของพวกเขาเหล่านั้น "
"ไม่ ข้าต้องขอบคุณท่านสำหรับคำขอร้องที่ไม่สมควรดังกล่าว ข้าแน่ใจว่าผู้คนที่รอดชีวิตเนื่องจากความกล้าหาญของท่านย่อมรู้สึกเหมือนกัน. "
"ขอบคุณพระเจ้า."
"ท่านได้แสดงให้พวกเราได้เห็นถึงความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น ความเสียสละ และการช่วยเหลือได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ในขณะที่ท่านนำผู้ลี้ภัยหนีออกมาจากป้อมปราการเซราบ็อร์ค ต้องขอขอบคุณท่าน ข้าเชื่อว่ามีผู้คนมากมายหลายชีวิตที่ถูกช่วยไว้ "
ติ้งงง !
ภารกิจการอพยพพลเรือนเสร็จสิ้น
ท่านได้นำชาวบ้านที่ติดอยู่ในป้อมปราการเซราบ็อร์คเนื่องจากการปิดล้อมเมืองของวิหารเอ็มบินยูไปยังที่พักที่ปลอดภัยพวกเขาจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ตลอดชีวิต
ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 10,236 อันเนื่องมาจากความสำเร็จของภารกิจและการกระทำของคุณ
ความกล้าหาญเพิ่มขึ้น 9
เกียรติยศเพิ่มขึ้น 21.
บารมีเพิ่มขึ้น 8
เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น
ความสนิทสนมกับชาวบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือเพิ่มขึ้นสูงสุด

เซลิน่าคลายสร้อยข้อมือออกและส่งมันให้กับวีด
โปรดดูแลมันอย่างดี แล้วพลังแห่งพฤกษาจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
คุณได้รับสร้อยข้อมือดอกไม้ของเซลิน่า

"ตรวจสอบ!"

หลังจากที่ได้รับไอเท็มมาแล้ว วีดใช้ทักษะการตรวจสอบทันที

สร้อยข้อมือดอกไม้ของเซลินา ความทนทาน 18/20 พลังป้องกัน 19.
สร้อยข้อมือดอกไม้ของขวัญจากไฮเอลฟ์ ทำมาจากต้นดอกสัตตบงกช*** และต้นหน้าวัว**** ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ดอกไม้นี้เพลิดเพลินไปกับสถานที่ที่มีแสงแดดและต้องการการรดน้ำอย่างเพียงพอ เมื่อดอกไม้นี้ได้รับความเสียหายมันสามารถฟื้นตัวได้ด้วยตัวมันเอง และมอบพลังให้ผู้สวมใส่ทั้งค่าพลังชีวิต และค่าความแข็งแกร่ง สร้อยข้อมือนี้ทำจากดอกไม้สองชนิดที่แตกต่างกัน ถ้าดอกใดดอกหนึ่งตายมันย่อมส่งผลให้อีกดอกหนึ่งตายด้วย
ข้อจำกัด :
ต้องมีเลวลมากกว่า 450
คุณสมบัติ :
พลังแห่งธาตุสถิตอยู่ภายใน
มานา +2,500
ทักษะผู้อัญเชิญธาตุ +1
ทักษะเวทย์มนต์ +1
ทักษะธนู +2
ความทนทานจะฟื้นตัวทุกๆ 3 วัน ทักษะช่างตีเหล็กไม่มีผลต่อไอเทมชิ้นนี้ ถ้าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าพฤกษาในป่าและทุ่งหญ้า คุณสามารถได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาได้
ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ + 7%
ไอเทมเติบโตได้ เมื่อพืชโตขึ้น มันก็จะเพิ่มผลลัพธ์มากขึ้น ผลของไอเทมถูกขยายเพิ่มสามเท่าเมื่อเป็นเผ่าพันธุ์เอลฟ์ หรือ ภูติ

 “เจ๋งมาก.
วีดมีความสุขมากจนเขาอยากจะเต้นระบำซะตรงนี้เลย เขาสามารถขายสิ่งนี้ให้กับผู้อัญเชิญธาตุ, นักเวทย์ หรือนักธนู และแน่นอนว่าพวกเขาจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำให้พวกเขามีโอกาสได้ซื้อสร้อยข้อมือเส้นนี้
นอกจากนี้ไอเทมที่เพิ่มค่าความสนิทสนมกับธรรมมาชาตินั้นยากที่จะได้รับมันมา
"พลังของทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก!"
การใช้ทักษะอย่างไม่ระมัดระวังก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย แต่เขาค่อยคิดถึงมันอีกละกัน
การเพิ่มพลังแห่งภัยพิบัติต้องมาก่อน!
"ฉันจะรดน้ำให้แกเยอะๆเลย และพาแกไปอาบแสงแดด ดังนั้นแกต้องโตขึ้นทุกวัน"
เขาได้สวมใส่สร้อยข้อมือของบาฮารานที่สร้างจากอัญมณีที่แขนซ้ายของเขา มันเป็นสมบัติของจักรวรรดิ์นิฟเฮมที่เพิ่มความสามารถทางเวทมนต์ เขาใส่สร้อยข้อมือดอกไม้ไว้บริเวณแขนขวาของเขาและเดินทางผ่านประตูที่ราบสูงฟอร์ต
นักล่าเงินรางวัลที่ถูกชักจูงจากกิลด์เฮอมิสสามารถโจมตีได้ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงต้องหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
"คนนั้นคือวีดหรอ?"
"ดูอุปกรณ์ที่เขาสวมอยู่ มันน่าทึ่งมาก. มันทำให้รู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขานั้นสวมใส่เฉพาะไอเทมยูนิคเพียงเท่านั้น.
"ฉันไม่เคยเห็นอุปกรณ์ดังกล่าวในบอร์ดสนทนาเลย เขาคือเทพสงครามวีด ดังนั้นอุปกรณ์ของเขาต้องดีมากแน่นอน "
เหล่าผู้เล่นจ้องมองในขณะที่พวกเขาเดินตามหลังเขา

ชาวบ้านต่างชื่นชมกับความสำเร็จของวีดในทุกหนแห่ง ไม่เพียงแต่ในอาณาจักรโรเซนไฮม์เท่านั้น แต่เป็นฝั่งตะวันออกของ ทวีปเวอร์เซลล์ทั้งหมด
พวกผู้เล่นกำลังเข้ามายังเขตแดนฟอร์ต ได้พูดคุยกัน
"เขาคนนั้นเป็นวีดจริงๆหรอ? ช่างเถอะ เขาดูหล่อมากเลย ดูสิพี่ชาย มันคุ้มค่าที่ได้มาที่นี่
"ดาอึน เขาดูธรรมดามากเลย ทำไมเธอ...."
 “.......”
สามารถมองเห็นคนมาแย่งจีบได้ตรงนี้และตรงนั้น
ในรอยัลโร๊ด มันเป็นเรื่องทั่วไปที่จะได้รับการยอมรับจากอุปกรณ์ที่ทำให้ดูสมชายชาตรี วีดกำลังสวมชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทัลล๊อค พร้อมด้วยดาบปีศาจของเขา บนหัวและเท้าของเขาเป็นหมวกนักรบและรองเท้าบู๊ตซึ่งเป็นงานแฮนด์เมด เขาปิดฉากชุดของเขาด้วยการสะบัดผ้าคลุม เขายังมีแตรแห่งเทรูเซ๊คแขวนคอไว้ด้วยด้ายรอบคอ วีดดูแพรวพราวเพียงแค่ยืนอยู่นิ่งๆ
'ด้วยรูปลักษณ์ของฉัน มันยากที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้'
เขาไม่ค่อยได้สวมชุดเกราะหรืออาวุธภายในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก ผู้ที่ยอมรับเขา เขาก็ตัดสินใจในทันทีที่จะใส่มัน แล้วเดินโชว์รอบหมู่บ้านทั้งๆอย่างนี้เลย
 “ไว-ทรี !
ทันทีที่วีดเรียก จากดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น ไวเวิร์นกำลังบินตรงมาหาเขาพร้อมกับสยายปีกออกเป็นวงกว้าง.
"ว้าว ไวท์เวิร์นกำลังมาจริงๆด้วย"
"นั่นมัน ไวเวิร์นที่วีดมักจะขี่อยู่บ่อยๆ !"
บรรดาผู้เล่นรู้สึกปลาบปลื้มอย่างมากด้วยการที่ไว-ทรีร่อนลงมาบนพื้นด้วยความทรงเกียรติ วีดปีนขึ้นไปบนหลังไว-ทรี และเตรียมตัวออกไป
"ไว-ทรี, ไปโมราต้ากันเถอะ"
 “แกว๊วววก!”
ไว-ทรีเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไกลด้วยการออกตัวอย่างทรงพลัง ไว-ทรีชินกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะว่ามันจะไม่หลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป มันอาจจะคิดว่านี่เป็นการเดินทางท่องเที่ยวไปกับนายของมัน,ด้วยการแหวกผ่านสายลมพร้อมกับเร่งความเร็ว ขณะที่พวกเขาบินผ่าน ก็ชมทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปด้วย เมื่อเขามาถึงโมราต้า เขาสามารถแบ่งเบาปัญหานี้ให้กับเหล่าพี่น้องไวเวิร์นได้
"โอ้ ฉันจำได้ว่า ซอยูนจะมาในวันพรุ่งนี้"
 “คุค?”
"พาเธอมาที่นี่ตอนพรุ่งนี้ด้วยนะ"
"คุค คุค คุค"
น้ำตาร่วงหล่นลงมาจากดวงตาของไวทรี ขณะมันบินออกไปด้านหน้าประตูที่ราบสูงฟอร์ต
ในป่ากกแดง เหล่านักล่าเงินรางวัลมารวมตัวกันเพื่อฆ่าวีด ตอนนี้ พวกเขากำลังมีปากเสียงกันเองซะอย่างนั้น
"บัดซบ วีดมันจะมาถึงตอนไหนวะเนี่ย"
"ชัดเจนเลย, ขณะที่พวกเรากำลังรอ เขาไปโผล่ที่อาณาจักรโรเซนไฮม์ นี่มันช่างเสียเวลา และความพยายามไปอย่างเสียเปล่า "
เหล่านักล่าเงินรางวัลที่มารวมตัวกันประกอบไปด้วย นักรบและนักเวทย์ ขณะที่ไม่มีนักบวชในหมู่พวกเขาเลย พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ต้องอดทนอยู่ในป่ากกแดง หน่วยลอบสังหารของกิลด์เฮอมิสยังใช้เวลาต่อสู้กับมอนสเตอร์ แม้แต่กำลังเสริมที่กิลด์เฮอร์มีสส่งมา กำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับฝูงมอนสเตอร์ในป่า
"พวกเราคงได้แต่ต้องรออีกสักหน่อย วีดทำธุระของเขาในอาณาจักรโรเซนไฮม์เสร็จแล้ว ดังนั้นเขาต้องมาที่นี่ในไม่ช้า "
"ไม่มีสถานที่ไหนที่วีดจะไปต่อ ถ้าพวกเรารออยู่ที่นี่ พวกเราจะจับเขาได้แน่นอน "
กิลด์เฮอร์มิสไม่ทราบว่าวีดจะมาถึงเมื่อไร แต่พวกเขาแยกกันไปกันไปตามจุดต่างๆที่เตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มโจมตี พวกเขาตั้งกับดักที่ครอบคลุม และรอคอยอย่างอดทนเพื่อที่จะฆ่าวีด.
ป่ากกแดงยังคงดึงดูดเหล่าทหารรับจ้าง บรรดานักล่าเงินรางวัล และพวกมือสังหารมามากมาย ดังนั้นในป่าแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยคนเหล่านั้น
ในตอนนี้เหล่าทหารรับจ้าง บรรดานักล่าเงินรางวัล และพวกมือสังหารยังคงจับกลุ่มเดินหน้าไปตามแนวป่ากกแดงต่อไป
*****
ป้อมปราการวาร์โก นั้นมีความพิเศษตรงที่ว่า มีฝูงมอนสเตอร์บุกเข้ามาโจมตี!
"พวกมันกำลังมา."
"พลธนูเตรียมพร้อม!"
มอนสเตอร์ที่หิวโหยมาจากที่พวกมันอยู่ห่างไกลออกไป พวกมันเดินตะกุยจนฝุ่นตลบ แต่กองทหารแห่งป้อมปราการวาร์โก้ที่ได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์การสู้รบจริง มีพลธนู 1,500 นายที่อยู่บนกำแพงและยิงธนูของพวกเขาไปยังมอนสเตอร์เหล่านั้น
ฟิ้ว-ฉึกกกกกกกก!
ลูกธนูนั้นก่อให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยกับมอนสเตอร์เหล่านั้น ในแง่ของเลเวลของพวกเขากับมอนสเตอร์เหล่านั้น ทำให้ทหารของป้อมปราการวาร์โก้ช่างดูอ่อนแอ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถทำให้เกิดความเสียหายได้มาก ถ้าวีดอยู่ที่นี่เขาคงได้ร้องไห้ทั้งน้ำตากับลูกธนูที่พวกเขาเสียไป
"เตรียมตัวโจมตี!"
เหล่าอัศวินสั่งให้พลธนูสร้างระดมยิงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทำการเรียกพลดาบขึ้นมาบนกำแพง
พลดาบเริ่มทำการสู้กับมอนสเตอร์ทุกชนิดที่กำลังปีนป่ายขึ้นมาบนกำแพง ทหารม้าถูกตั้งไว้เป็นทัพสำรองรอไว้ในกรณีที่กำแพงที่ถูกตีฝ่าเข้ามา
บรรดาผู้เล่นก็ได้ออกมาต่อสู้เคียงข้างกับกองทัพป้อมปราการวาร์โกด้วย
เหล่านักเวทย์เตรียมคาถาโจมตีของพวกเขาทันที เมื่อพวกเขาเห็นลมฝุ่นที่ฟุ้งมาจากเหล่ามอนสเตอร์ที่เตะขึ้นมา พวกเขาได้เตรียมคาถาของพวกเขาในสถานที่ปลอดภัยด้วยเวลาอันมากมาย การเพิ่มพลังและอัตราความสำเร็จในการร่ายคาถาของพวกเขาย่อมดีแน่นอน นักเวทย์ใช้การโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่เหมาะสำหรับพื้นที่วงกว้าง
'นี่เป็นเวลาที่จะเพิ่มพูนการเรียนรู้และได้รับค่าประสบการณ์มากขึ้น ใครจะรู้ได้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะได้รับโอกาสเช่นนี้อีกครั้ง? ’
ข่าวของป้อมปราการวาร์โกที่ดึงดูดฝูงมอนสเตอร์มาทุกวัน ได้แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง เป็นสาเหตุให้บรรดานักเวทย์รวมกลุ่มมุ่งหน้ามายังป้อมปราการอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ฝูงมอนสเตอร์จะมาทุกวัน พวกเขายังสามารถเก็บสะสมค่าชื่อเสียง และค่าอุทิศตนในป้อมปราการวาร์โกได้อีกด้วย
ก๊าซซซ !
เพียงแต่ก่อนที่ฝูงมอนสเตอร์จะมาถึงกำแพง ก็เกิดสิ่งผิดปกติเล็กน้อยออกมา ด้วยการระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว และกำลังจะเข้าถึงตัวพวกมัน แต่พวกมอนสเตอร์ก็หยุดทันพอดี และเริ่มขู่คำรามอยู่ที่กำแพง
บนผนังกำแพงคือภาพวาดของเหล่าคนเถื่อน, ศัตรูโดยธรรมชาติของพวกมัน กำลังถือหอก ภาพเขียนที่ทำได้ออกมาสมจริงทำให้พวกมอนสเตอร์จ้องไปที่ภาพวาดบนผนังอย่างจริงจัง
ภาพฉากดังกล่าวอาจสามารถเห็นได้จากที่อื่น ๆ ภาพวาดการนึ่งย่างบาร์บีคิวนั้น พวกมอนสเตอร์เอาปากไปกินน้ำที่ยังอยู่บนภาพวาดบนผนังที่ถูกสร้างขึ้นในตอนกลางของดินแดนรกร้าง
บนผนังได้ทาสีเหล่านี้ให้กลายเป็นจุดสนใจเพื่อดึงดูดเหล่ามอนสเตอร์
คนที่รับผิดชอบงานศิลปะบนผนังทั้งหมดนี้คือเปตรอฟ ชื่อของเขาโด่งดังไปทั่วป้อมปราการวาร์โก เป็นคนที่สามารถวาดผลงานชิ้นเอกที่สามารถทำให้มอนสเตอร์สับสนกับความเป็นจริงได้
"โจมตี!"
ลูกธนูถูกยิงออกมาต่อเนื่องดุจห่าฝน พุ่งปักเข้าใส่พวกมอนสเตอร์ ขณะที่นักเวทย์ใช้เวทมนตร์ของพวกเขาเพื่อกำจัดมอนสเตอร์ที่จ้องมองอย่างรวดเร็ว มันเป็นชัยชนะสำหรับเหล่าทหารหาญและบรรดาผู้เล่นที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญอยู่ด้านหลังกำแพง
เมื่อมอนสเตอร์วิ่งเข้ามา กองกำลังป้องกันบางคนอาจจะทำผิดพลาดและตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย แต่เหล่าทหารหาญและบรรดาผู้เล่นปกป้องกันและกัน บรรดาผู้เล่นสามารถได้รับค่าประสบการณ์เป็นจำนวนมาก นี่เป็นสถานการณ์ที่หายาก มันเป็นสิ่งที่ดีที่ผู้เล่นทุกคนที่มายังป้อมปราการวาร์โกต้องการมาเข้าร่วมในการป้องกันมอนสเตอร์
"อีกครั้งหนึ่ง ชัยชนะอันง่ายดายเช่นนี้คงต้องขอบคุณภาพวาดของฉัน."
เปตรอฟสามารถเก็บเกี่ยวค่าอุทิศตนมากมายมหาศาลในป้อมปราการวาร์โกได้ด้วยเหตุนี้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เปตรอฟทำ
งูชนบท, เซอร์เบรัส, เจ้าหนอน และเหล่าประติมากรรมสลักชีพตนอื่น ๆ ที่ได้รับชีวิตในเขตลาสฟาลั้งค์ ได้มาอาศัยอยู่ที่ป้อมปราการวาร์โก พวกมันมาที่นี่ภายใต้คำสั่งของวีดเพื่อปกป้องป้อมปราการ และทำลายมอนสเตอร์ที่หนาแน่น เก็บทีละตัวทีละตัวไปเรื่อยๆ หนอนแห่งความตายทำการร่วมกับอัศวินเพื่อเอาชนะมอนสเตอร์ เปตรอฟสร้างมิตรภาพกับบรรดาประติมากรรมสลักชีพกลุ่มใหญ่นี้
มันเกิดขึ้นในวันหนึ่งเมื่อเขากำลังวาดภาพชิ้นใหม่ หนอนแห่งความตายที่วีดตั้งชื่อง่ายๆให้มันว่าเจ้าหนอน มันโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน มองดูและจากไป นับจากวันนั้น ประติมากรรมสลักชีพตนอื่นๆ อีกหลายตัวก็เข้ามาแนะนำตัวเอง
"พวกนายดูเป็นกลุ่มที่เป็นมิตร ให้ฉันได้วาดอะไรสักอย่างให้พวกนายเถอะ "
เปตรอฟได้วาดภาพให้พวกมันในบางครั้ง หรือโชว์ผลงานที่เขาเคยทำมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อเพิ่มมิตรภาพให้มากขึ้น และเนื่องจากประติมากรรมสลักชีพเหล่านี้เกิดจากงานศิลปะ พวกมันจึงค่อนข้างชอบงานศิลป์ด้วยเช่นกัน
"ช่างเป็นพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์."
"เขาดีกว่าเจ้านายของพวกเรามาก"
"เจ้าพูดถูก เจ้านายของพวกเราให้ชื่อแปลก ๆกับพวกเรา และทำร้ายพวกเรา ฉันเริ่มจะชอบจิตรกรคนนี้ซะแล้วสิ."
เปตรอฟสร้างมิตรภาพกับบรรดาประติมากรรมสลักชีพทั้ง 47 ตัว นอกจากนี้ยังซื้ออาหารให้พวกมันบ่อย ๆ
"ทานเถอะ. ข้าจะนำมาเพิ่มอีกถ้ามันยังไม่พอ "
"งั่ม งั่ม  อร่อยจัง. มันมีรสชาติเหมือนน้ำผึ้งเลย "

"พรุ่งนี้เอาเนื้อมานะ และเอิ่ม ข้าอยากจะดื่มน้ำองุ่น"
"ข้าก็ต้องการเคี้ยวกระดูกบ้าง."
เปตรอฟได้เติมเต็มความปรารถนาทั้งหมดของพวกมัน
'ในไม่ช้า พวกเขาจะทอดทิ้งวีดและติดตามฉัน'
*****
บนเส้นทางที่จะไปยังโมราต้าของเขา  วีดได้แวะเข้ามาเยี่ยมเยือนในสถานที่ที่ราชันย์ไฮดราและอิมมูกิดำออกล่า
"งัย พวกแก!"
ด้วยการใช้หัวทั้ง 9 หัวของมันสลับไปมา ราชันย์ไฮดรากำลังวิ่งพล่านอยู่ในป่าพร้อมกับออกล่าไปด้วย
 นายท่าน.
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ."
หัวทั้ง9ของมันกลืนไฟที่ปากของมันลงไปตรงๆ ราชันย์ไฮดราเดินเข้าไปหาวีด ปากของมันใหญ่จนสามารถกลืนวีดได้ทั้งตัวในชั่วอึดใจเดียว เมื่อมันเดินมาถึงตรงหน้าวีด ราชันย์ไฮดราก็หยุดทันที
"ออกไป ข้ามาถึงที่นี่ก่อนนะ"
"เจ้าหัวที่ 4 เมื่อวานนี้เจ้ากินไปเยอะมากเลยนะ จำได้ไหม?"
"ข้า! นายท่านชอบข้ามากที่สุด! "
ราชันย์ไฮดราเป็นมอนสเตอร์ดุร้ายซึ่งมีลักษณะชั่วร้าย และไม่สนใจคำสั่ง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นการยากสำหรับวีดที่จะจัดการกับเจ้าไฮดรา มันมีร่างกายใหญ่โต; การทุบตีคงไม่ช่วยให้มันฟังคำสั่ง; และแม้กระทั่งการพยายามชักจูงให้หัวใดหัวหนึ่ง มันง่ายที่จะกลับกรอกลิ้นอันปลิ้นปล้อนโดยมีหัวอื่นๆอยู่ด้วย
ความรอบรู้ของ 'การทำให้มั่นใจว่าจะไม่คบเพื่อนผิด' ถูกนำมาใช้กับเจ้าราชันย์ไฮดราผู้คดโกง ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มต้น หัวทั้งหมดของมันยังไงก็ติดอยู่ในร่างเดียวกันอยู่แล้ว.
วีดไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เพราะเขานั้นเห็นได้ชัดว่าพุงของราชันย์ไฮดรายื่นออกมา
 ‘แกกลายเป็นตัวตะกละไปซะแล้ว
โดยนิสัยส่วนตัวของราชันย์ไฮดรานั้นไร้ยางอายและขี้ระแวงนั่นจึงไม่ต้องอาศัยคำชมเชยใด ๆให้พวกมันเชื่อฟังวีด
วีดขมวดคิ้ว
"ใครบอกให้แกกินเยอะแบบนั้น ห๊า?"
 “..........”
"แก ฉันยังไม่ได้บอกแกไปแล้วหรือ ว่าไม่ให้ออกล่าแบบนั้นทุกวัน ใช่ไหม?"
 “เจ้าหัวที่ 4 ฉันกำลังพูดกับแกอยู่ แกสมควรฟังแล้วก็เข้าใจซะด้วย "
"เจ้าหัวที่ 7 ฉันรู้ว่ามันคือแก."
"ตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อฉันไปแล้ว ทำให้แน่ใจว่าแกจะไม่เขมือบมอนสเตอร์มากเกินไป พวกมันยังมีค่ายามเมื่อพวกมันยังมีชีวิตอยู่ "
"ข้าเข้าใจแล้ว."
"จากนี้ไปข้าจะกินให้น้อยลง"
ราชันย์ไฮดรายอมรับอย่างรวดเร็ว
แต่วีดรู้
'เมื่อฉันไปแล้ว พวกเขาจะขยันขันแข็งออกล่ามากขึ้น'
จิตวิทยาย้อนกลับ! เมื่อคุณบอกให้พวกมันไม่กิน พวกมันยิ่งต้องการกินมากกว่าเดิม!
"แก เมื่อฉันเห็นแกในครั้งต่อไปทำให้แน่ใจด้วยนะว่าแกจะรีดไขมันพวกนั้นออกไปน่ะ."
"ข้าจะพยายาม. แต่เพียงแค่การหายใจในอากาศก็ทำให้ข้าอ้วนแล้ว "
"พวกเรามีกัน 9 หัว แม้การกินอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่ละชิ้นมันก็ทำให้พวกเราอ้วนได้ ... .. ช่างไม่เป็นธรรมเอาซะเลย"
"ฉันไม่สนใจ จงแน่ใจว่าแกต้องรีดเอาไขมันพวกนั้นออกไปซะ นอกจากนี้ต้นไม้สีม่วงมันอันตราย จงแน่ใจเสมอว่าจะไม่เข้าใกล้มัน ที่เลเวลของแก แกยังไม่สามารถจัดการมันได้ แต่ฉันได้ยินมาว่ามีมอนสเตอร์ที่ดูน่าอร่อยอยู่นะ.......
"จริงรึ?"
"พวกมันอร่อยขนาดนั้นเลยหรือ?"
"มันคือรสชาติแห่งสรวงสวรรค์ เมื่อแกเริ่มกินมันเข้าไป แกจะรู้ได้เลยว่าหัวหนึ่งหัวใดของแกหายไป มอนสเตอร์ตัวนั้นมีส่วนผสมของ 6 รสชาติที่แตกต่างกัน ได้แก่ รสหวาน เปรี้ยว เผ็ดร้อน ... และอะไรอีกน้า อีกสองอย่าง? ไม่ว่าจะเป็นอะไร รสชาติย่อมเหลือเชื่อ มันเป็นบางสิ่งที่แกต้องออกไปลองเองจะดีกว่าการแค่ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับมัน "
เอื้อก!
หัวทั้งหัวเก้าของราชันย์ไฮดราถึงกับน้ำลายสอเมื่อได้คิดถึงการได้ลิ้มลองรสชาติเหล่านั้น
การใช้วิธีการนี้เพื่อให้ราชันย์ไฮดราตรงไปในพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการล่าของมันมากที่สุด วีดแกล้งทำเป็นว่าจะออกไป แล้วก็ตั้งใจจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวทั้ง 9 หัวกระซิบกระซาบในหมู่พวกมันเอง และรีบตรงไปยังบริเวณป่าที่มีต้นไม้สีม่วง
วีดพบกับเจ้าอีมูกิดำตอนมันกำลังอาบน้ำอยู่ที่ทะเลสาบด้านบนยอดภูเขา
"เจ้าเป็นยังไงบ้าง?"
"ข้าสบายดีมาก ข้ามีความสุขกับชีวิตที่ท่านได้มอบให้กับข้าอย่างเต็มที่ "
"ข้าได้ยินว่าเจ้าสร้างรังใหม่ ... "
"มันเป็นเพียงแค่หลุมเล็ก ๆ ที่อยู่ในพื้นดิน"
"ฉันควรจะเรียกปิงหลง และฟินิกซ์มาร่วมงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ในวันนี้ดีมั้ยนะ?"
 “นายท่าน!
เจ้าอีมูกิดำเป็นผู้ที่รักถ้ำของเขาเหนือสิ่งอื่นใดในโลกนี้ การมอบอัญมณีจำนวนเล็กน้อยให้กับวีดเพื่อให้ถ้ำของมันเป็นความลับ วีดทำแม้กระทั่งรับเงินเพื่อแลกเปลี่ยนจากเหล่าประติมากรรมที่เขามอบให้ชีวิตให้นั่นเอง!
หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมเยือนอันเรียบง่าย วีดบินตรงไปยังโมราต้า ขณะที่เขาไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวของเขาในโมราต้า เขาจึงตัดสินใจที่จะบินตรงที่นั่นขณะขี่อยู่บนไวท์เวิร์น
"ฉันควรใช้โอกาสนี้ไปเยี่ยมเยือนวิหารลูห์ในเมืองโมราต้าซะหน่อย"
ดาบแห่งลูห์ เขายังคงมีธุระที่ต้องไปคืนดาบ วีดสามารถทำได้ง่ายๆโดยการอ้อมไปคืนดาบระหว่างทางจากป้อมปราการวาร์โก ไปยังเขตทุ่งเขียวขจี แต่เขาไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมกับดาบอันล้ำค่าเช่นนี้
*****
วิหารลูห์ เป็นวิหารที่ยังใหม่อยู่ในโมราต้า แต่มันกลับทำให้จ้างพาราดิน และนักบวชได้มากมาย ในขณะที่มันยังไม่นิยมสูงเท่ากับวิหารเฟรย์ย่า มันกำลังพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
วิหารลูห์ เป็นหนึ่งใน 5 วิหารหลักของทวีป มันค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับการประยุกต์ใช้เวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับแสงสว่าง ส่วนวิหารเฟรยานั้นจะเกี่ยวกับการอำนวยพรผลผลิต และการคลอดบุตร วิหารเฟรย์ย่ายังช่วยเพิ่มค่าเสน่ห์ และการประยุกต์ในด้านอื่น ๆ ด้วยการมีเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สามารถใช้ในการต่อสู้ได้โดยตรง ค่อนข้างมีหลายคนที่วิหารเฟรย์ย่า เพราะพวกเขาจะดูหล่อเหลา และน่าหลงใหลมากขึ้นเมื่อค่าศรัทธาของพวกเขาเพิ่มขึ้น
วีดสามารถมองเห็นอาคารหลายแห่งที่เขาก่อตั้งในโมราต้า
"อาคารสูงรอบ ๆ จัตุรัสค่อนข้างจะมองเห็นได้ง่าย"
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงจำนวนเงินค่าเช่าและภาษีอันมหาศาลที่หลั่งไหลออกมาจากอาคารเหล่านี้
ทัศนียภาพของโมราต้าที่เขาเห็นขณะที่เขาร่อนลงบนพื้นในขณะที่เขายังอยู่บนหลังของไวเวิร์น
โมราต้ากลายเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่อย่างเห็นได้ชัด กระท่อมครอบคลุมทั่วทั้งเนินเขา รูปปั้นเทพธิดาเฟรย์ย่าได้ปลดปล่อยความรู้สึกอันงดงามท่ามกลางพื้นที่ทั้งหมด การสร้างศูนย์ศิลปะอันวิจิตรพร้อมกับสวนขนาดใหญ่ ปราสาทสีดำของเจ้าเมือง หอคอยแห่งแสงตั้งอยู่บนยอดภูเขาหิน.
และถนนก็คึกคักไปด้วยบรรดาผู้เล่น รถม้าจำนวนมากมายจนมองเห็นได้ ต่างก็ลากจูงด้วยวัว และ ม้าบรรทุกคนและสินค้า
"ไวท์เวิร์นกำลังโจมตี!"
มีบางคนร่ำร้องออกมาและทุกคนก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นพวกเขาก็สามารถมองเห็นวีดที่ขี่อยู่ด้านบนหลังของไวท์เวิร์น กำลังร่อนลงมาทางพวกเขา
"ลอร์ดวีดกลับมาแล้ว!"
เก๊ง เก๊ง เก๊ง เก๊ง!
ระฆังจากปราสาททมิฬเริ่มถูกตีเพื่อแพร่กระจายข่าว
วีดไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงแค่ยิ้มกว้าง
"ที่เห็นนี่แน่นอนย่อมต้องเป็นท่าทางของความยินดี สิ่งที่กระตุ้นนั้นคือการมาถึงของฉัน .... "
วีดยังคงอยู่ห่างไกล ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถได้ยินว่าพวกผู้เล่นกำลังพูดอะไรอยู่
"ข้ายังไม่เคยเห็นเมืองไหนดีเท่าโมราต้า แต่บางที ... คุณไม่คิดว่าที่เขาทำมาเพื่อยกระดับภาษี? "
"ข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะกวาดล้างที่ต่อสู้กับกองกำลังอันเดธในป้อมปราการวาร์โก ด้วยการขาดข่าวสาร ข้าคิดว่าเขาวิ่งหนีไปพร้อมกับดาบแห่งลูห์ ... แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่แล้ว "
"แกโง่หรือเปล่า? ไม่มีทางที่ลอร์ดวีดจะหนีจากไปพร้อมกับดาบหรอก "
ถ้าวีดได้ยินการสนทนานี้ ลึกๆเขาคงจะหวั่นไหวพอควร ขณะที่เขาได้พิจารณาแล้วว่าในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดการจากไปพร้อมกับดาบ และขายมัน! แต่เห็นว่าไม่มีผู้เล่นที่มีคุณสมบัติในการใช้ดาบ ก็ไม่มีโอกาสได้ค่าธรรมเนียมการขายมาแบบฟรีๆ ถ้าเขาขายมัน.
บรรดาผู้เล่นบนถนนกำลังโบกมือทั้งสองข้าง พร้อมส่งเสียงเชียร์วีด
"ท่านลอร์ดกลับมาแล้ว!"
"ฮูเร่! มาไชโยสามครั้งแด่ลอร์ดแห่งโมราต้า, วีด! "
บรรดาผู้เล่นต่างกระตือรือร้นในการทักทายของพวกเขา!
ขณะที่วีดบินอยู่เหนือกระท่อม ก็มีเหล่าผู้เล่นตะโกนเสียงดังออกมา
"โจ๊กหญ้า! โจ๊กหญ้า!".
ชาวบ้านยังคงมอบโค้งคำนับอย่างอ่อนโยน
"ไวท์-ทรี บินตรงไปยังวิหารลูห์"
 “แกว๊วก!”
เหนื่อยจากการบินเป็นระยะทางอันยาวไกล ไวเวิร์นบังคับให้ปีกของมันบินตรงไปยังวิหารลูห์
*****
"ข้ามาพบกับท่านบิชอป"
จากชั้นดาดฟ้าของวิหารลูห์ วีดตระโกนบอกพาราดินที่อยู่ด้านล่าง ไวท์-ทรีร่อนลงตรงดาดฟ้าอันกว้างขวางของโบสถ์
"โอ้ นั่นท่านเจ้าเมืองผู้ทรงเกียรติแห่งโมราต้า ข้าจะนำท่านไปหาท่านบิชอบโดยตรง "
พาราดินเหล่านั้นแสดงท่าทางสุภาพและแสดงอัธยาศัยดีออกมา เนื่องจากผลของค่าชื่อเสียงอันมากมายยามอยู่ในโมราต้าที่เป็นอาณาเขตของวีดและเรื่องราวการผจญภัยส่วนใหญ่ของเขา เมื่อเทียบกับสถานที่อื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไปผลของค่าชื่อเสียงก็จะอยู่ในอีกระดับหนึ่ง
วีดถูกพาราดินนำไปที่ห้องส่วนตัวของท่านบิช็อปที่อยู่ภายในโบสถ์
"ต้องขอบคุณความเป็นผู้นำของคุณ โมราต้ากำลังเติบโตขึ้นทุกวัน"
นี่เป็นครั้งแรกที่พบกับท่านบิชอป
"ไม่ใช่เลยขอรับ. ทุกอย่างนั้นคงต้องขอบคุณความขยันขันแข็งของชาวบ้าน และเหล่าทหารที่ปกปักษ์อยู่ กระผมนั้นโชคดีที่พอมีความสามารถอยู่บ้างเล็กน้อยจึงสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ "
ความนอบน้อมถูกถ่ายทอดออกมาทางริมฝีปาก หลังจากเลียริมฝีปากของเขาจนเปียก วีดก็บรรเลงต่อ
"กระผมเคยไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆมากมายในฐานะนักผจญภัยที่สำรวจสถานที่ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยการผ่านเรื่องราวเหล่านี้ กระผมมีบางสิ่งบางอย่างเพื่อรายงานแด่วิหารลูห์ "
"ท่านมายังที่นี่เพื่อรายงานการค้นพบเช่นนั้นรึ? พวกเรายินดีรับรายงานดังกล่าว ที่แห่งใดที่ท่านเจ้าเมืองจากมา?"
วีดสามารถรายงานการค้นพบครั้งนี้ได้ที่ปราสาทของเจ้าเมือง แต่การทำเช่นนั้นวีดต้องจ่ายเงินค่าตอบแทน แทนที่จะจ่ายเงินออกจากกระเป๋าของตัวเอง เขาตัดสินใจที่จะรายงานการค้นพบนี้ที่วิหารลูห์
"กระผมได้กลับมาจากดินแดนแห่งลาสฟาลั้งค์ ซึ่งเป็นดินแดนที่ไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใดได้ย่างกรายมาเป็นเวลานานแล้ว."
ถ้าเขารายงานเรื่องนี้ต่อเทพธิดาแห่งผืนพิภพ หรือเทพธิดาแห่งเหมืองแร่ เขาอาจได้รับค่าอุทิศตน และค่าชื่อเสียงมากกว่าเล็กน้อย แต่ด้วยการรายงานผ่านทางวิหารลูห์ในโมราต้ามันจะยิ่งใหญ่กว่าและจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
 “ลาสฟาลั้งค์งั้นรึ? ข้าพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าท่านนั้นได้กลับมาจากดินแดนอันเป็นตำนาน และมีแต่ในเทพนิยาย "
"โปรดดู นี่เป็นหินที่กระผมได้นำกลับมาจากลาสฟาลั้งค์"
วีดนำเอาชิ้นส่วนของลาวาที่แข็งตัวออกมาแล้วให้ท่านบิช็อปดู หลังจากที่ท่านบิช็อปใช้เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ในการตรวจสอบชิ้นส่วนนี้ เขาก็พยักหน้า
"พระศิริแห่งลูห์สาดส่องไปยังผืนทวีปแห่งนี้แม้ในที่ที่มนุษย์ไปไม่ถึง หินก้อนนี้แน่นอนย่อมมาจากลาสฟาลั้งค์ ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการกลับมาจากการผจญภัยในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก.
ติ้งงง!
คุณได้รายงานการค้นพบเกาะลาสฟาลั้งค์แก่วิหารลูห์แล้ว
วิหารลูห์มีความสนใจในหน้าที่หลักอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาในการที่จะนำความชอบธรรมมาสู่ทวีป
ในขณะที่ลาสฟาลั้งค์อาจไม่ได้เป็นที่น่าสนใจมากนักสำหรับพวกเขา ด้วยการกระตุ้นความอยากผจญภัยของพวกเขา พวกเขาจะตอบแทนคุณอย่างดี
ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 850
ค่าอุทิศตนต่อวิหารลูห์เพิ่มขึ้น 192
คุณสามารถตรวจสอบค่าอุทิศตนกับวิหารอื่นๆได้ในแท็บศาสนา
ค่าอุทิศตนต่อวิหารลูห์รวมทั้งหมด: 315

วีดเป็นเจ้าเมืองซึ่งได้รับเงินจำนวนเล็กน้อยจากเงินอุดหนุน จากการที่มีโบสถ์ของพวกเขามาตั้งอยู่ในโมราต้า จะทำให้จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น จำนวนทหารที่ได้รับการฝึกฝนเพิ่มขึ้น มอนสเตอร์เข้ามาพื้นที่ใกล้เคียงได้รับการควบคุม ภารกิจสำเร็จ แล้ววีดได้รับค่าอุทิศตนจำนวนเล็กน้อย นี่อาจเห็นได้ว่าเป็นสิทธิพิเศษสำหรับเจ้าเมือง แต่ทางวิหารไม่ได้จ่ายค่าที่ดินหรือจ่ายค่าภาษีในด้านอื่นๆ


แม้ในขณะที่ทางวิหารช่วยในด้านความปลอดภัยของประชาชน ด้วยการสนับสนุนจากพาราดินของพวกเขา การเปลี่ยนสายอาชีพและภารกิจ เจ้าเมืองทุกคนล้วนคิดว่าพวกเขานั้นมีความสำคัญ
"และดังที่กล่าว ยังมีอีกหลายสิ่งที่กระผมยังได้ค้นพบมาด้วย."
วีดรายงานทุกอย่างที่เขาค้นพบระหว่างเส้นทางของเขาไปยังลาสฟาลั้งค์, หอคอยของประติมากร และดันเจี้ยน เขาได้เพิ่มค่าชื่อเสียง และค่าอุทิศตนโดยการรายงานเกี่ยวกับเหล่านางเงือก,พวกมอนสเตอร์และคุณลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แปลกประหลาด
ค่าความศรัทธาเพิ่มขึ้น 9
ความกล้าหาญเพิ่มขึ้น 6
ความแข็งแกร่ง และความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างล่ะ 2
ยังมีสถานที่อื่น ๆ อีกหลายแห่งที่เขาแวะไปเยี่ยมเยือนเช่น กราพาส, อาณาจักรแวมไพร์แห่งโทเดียม, แม่น้ำโหยหวน แต่เขารายงานเกี่ยวกับลาสฟาลั้งค์เท่านั้น นี้เป็นเพราะทางวิหารจะใช้ข้อมูลในการจัดส่งเหล่าพาราดินของพวกเขาไป และให้ภารกิจกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เพื่อบุกเบิกดินแดน
"มีดันเจี้ยนใหม่ที่ปรากฏอยู่ใกล้ ๆ กับโมราต้า วิหารลูห์ประเมินสถานการณ์ได้ว่ามันมีความอันตรายเป็นอย่างยิ่ง พวกเรากำลังวางแผนที่จะส่งพาราดินของพวกเราเพื่อกำจัดมอนสเตอร์ให้ได้มากที่สุด และข้ากำลังสงสัยว่า ถ้าข้านั้นสามารถขอความร่วมมือจากทหารของโมราต้าในการดำเนินการเช่นนี้จะยอดเยี่ยมเพียงใด "

ใช้อำนาจของคุณที่เป็นเจ้าเมืองสั่งให้กองทหารร่วมมือกับวิหารลูห์เพื่อโจมตีดันเจี้ยนหรือไม่ ?
กองอัศวินและทหารจะถูกส่งออกไปและภารกิจจะเริ่มต้น

"แน่นอน."
วีดยอมรับข้อรียกร้องของพวกเขา กองทหารของโมราต้าไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง หรืออยู่ในเลเวลที่ใช้งานได้ การลงทุนนี้จะส่งผลสู่อำนาจทางการทหาร กองทหารจะถูกเรียกกลับมาบรรจุใหม่ และเข้าโจมตีมอนสเตอร์เหล่านั้น
"ในความเป็นจริงแล้ว มีเหตุผลพิเศษในการมาเยือนวิหารลูห์ในครั้งนี้ "
มันถึงเวลาแล้วที่วีดจะเปิดเผยเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการมาเยือนวิหารลูห์
ริมฝีปากของวีดสั่นด้วยความตึงเครียดจากการจะคืนดาบแห่งลูห์กลับไป เขารู้ว่ามันยากที่จะหาดาบที่ดีกว่านี้ได้
"โปรดรับมันไว้ กระผมได้นำวัตถุที่เป็นดั่งคุณธรรม และความยุติธรรมของวิหารลูห์มามอบให้"
จากกระเป๋าเป้สะพายหลัง วีดนำดาบแห่งลูห์ออกมา และมอบมันให้กับบิชอป
ผู้แปล : Smith Rex
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
Note :
* จัมปง (บะหมี่ทะเลที่มีรสชาติเผ็ดร้อน มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น แต่ถูกคิดค้นโดยชาวจีน และนิยมอย่างมากในเกาหลี)
**  MT= Membership Training  คือการรวมตัวกันของกลุ่มคนในมหาวิทยาลัย หรือกลุ่มคนในสังคมทั่วไป เพื่อไปทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน โดยการออกไปเที่ยวและพักค้างคืนในที่ใดที่หนึ่งร่วมกัน ซึ่งปกติแล้ว MT จะสามารถจัดได้ตั้งแต่ผู้ใหญ่ไปยันเด็ก อย่างที่เราอาจจะได้เคยเห็นกันบ่อยๆ ตามรายกายต่างๆ ของเกาหลีที่นำศิลปินดาราไปออกค่าย MT กันค่ะ และในวันนี้จะพาน้องๆ มารู้จักกันกับ MT ที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัย หรือถ้าให้เรียกง่ายๆ ก็คือการรับน้องแบบของบ้านเรานั่นเองค่ะ REF : https://www.dek-d.com/studyabroad/46070/ สรุปแปลแบบเทห์ ๆ ค่ายสานสัมพันธ์นั่นเอง ----เล่มที่ 11 ตอนที่ 10 
*** ในตอนนี้คนแปล eng ใช้คำว่า The Roseum แปลไทยก็ ดอกสัตตบงกช หรือจะแปลบัวฉัตรแดงก็ดูดี REF : http://www.baanjomyut.com/library/lotus/03.html


8 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับ สนุกทุกตอนเลย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับ กว่่าจะคืนดาบได้นะวีด

    ตอบลบ
  3. ชอบการแปลตอนนี้มากเลยครับ สุดยอดมาก สำนวนการแปลตอนนี้ดีมากๆ ปล. ประโยคที่บอกว่า "แม้กระทั่งอาณาจักรโรเซนไฮม์ก็ยังไม่เสถียรในตอนนี้" น่าจะเป็นคำว่า มั่นคง มากกว่า เสถียร รึเปล่าคับ ไม่รู้นะครับ ไม่ได้เห็นต้นฉบับ

    ตอบลบ
  4. ยูอาริน คือ ฮโยรินหรือป่าวครับ วาโก้ กับเวอร์โก้ เผอิญอ่านแล้วมันเลยติดๆนิดหน่อย
    แต่ขอบคุณมากดกครับ รออ่านต่อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยูอารินคือชื่อจริงของ ฮวารยองครับ ฮวารยองเป็นชื่อที่ใช้ในเกมส์ปิดบังตัวตนดารา ส่วนวาโก้ กับเวอร์โก้มันคืออันเดียวกันครับ บางทีผมก็พิมพ์ วาร์โก เวอร์โก
      And with Morata and Vargo Fortress growing daily, ผมแปลข้ามตอนเลยไม่ได้อิงคนแปลคนเก่า

      ลบ
  5. ค้างงงง ขอบคุณค่พ

    ตอบลบ
  6. ยังเขี้ยวลากดินเช่นเคย แต่ก็ต้องคายสมบัติคืนไปจนได้
    โคลเดอริมม่องเท่งซะแล้ว บทบาทน้อยกส่าที่คาด

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...