วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

เล่ม 26 ตอนที่ 4 : อุทกภัยและสฟิงซ์ แปลโดย Smith Rex

เล่ม 26 ตอนที่ 4 : อุทกภัยและสฟิงซ์ แปลโดย Smith Rex

วีดตะโกนก้องออกมาด้วยทักษะราชสีห์คำราม
เขายืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับเชิดอก มือขวาของเขาจับบริเวณหอกเบาๆ ซึ่งเขาได้ปักมันลงไปบนพื้นแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยการยืนที่มั่นคง และสูงส่ง ร่างกายของเขาบ่งบอกถึงความอันตรายออกมา
"ฆ่าวีด!"
"พวกเราต้องฆ่าไอ้บัดซบนั่นก่อน! ท่านลอร์ดเบลโลนีสั่งพวกเราแล้ว "
เหล่าปีศาจเริ่มโผล่ออกมาจากเปลวเพลิงที่กำลังเผาผลาญป้อมปราการเซราบ็อร์ค กองทัพขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบป้อมปราการก็แตกตัวออกมา เป้าหมายเดียวของพวกมันคือการฆ่าวีด
ผลกระทบจากราชสีห์คำรามนั้นมีมากพอที่จะดึงความสนใจของวิหารเอ็มบินยู
 “ฮืม.
แม้แต่วีดก็ไม่ได้คาดหวังถึงปฏิกิริยาดังกล่าว
"ความคลั่งไคล้ในตัวฉัน มันช่างน่าทึ่งซะจริงๆ"
ทำให้ตระหนักได้ถึงชื่อเสียงของเขาในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้!
"......."
ซอยูนจ้องมองเขาด้วยท่าทางที่ว่างเปล่า เธอเพียงสงสัยว่าวีดมีแผนอะไร เขาถึงมั่นใจและถึงกับจงใจกระตุ้นวิหารเอ็มบินยูเช่นนี้ ช่วยไม่ได้ที่เธอจะสงสัยความปกติทางจิตใจในตัวเขา
"ฉันจะสามารถต่อสู้ได้มากเท่าที่ฉันต้องการ"
"เริ่มต้นเทศกาลละเลงเลือดกันเถอะ"
แวนฮอกค์ และโทริเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ และวีดหมุนตัวกลับไปด้านหลังแบบไม่ต้องคิดสักวินาทีเดียว
"วิ่งหนีพวกมัน!"
การตัดสินใจของวีดคือการวิ่งหนี
ย่อมแน่นอนว่าไม่มีทางที่วีดวางแผนที่จะตายจากการต่อสู้กับวิหารเอ็มบินยูจนมีจุดจบอย่างน่าอนาถ อย่างน้อยแผนการที่วีดใช้สมควรเปรียบได้เฉกเช่นเดียวกับการเทเงินฝากออมทรัพย์ทั้งหมดของเขาลงไปในการซื้อหวย หรือการพนัน
ซอยูนถอนหายใจด้วยความโล่งอกและติดตามไป
กับการที่เธอวิ่งหนี ดูเหมือนว่าจะเป็นการกระทำที่ถูกต้อง หลังจากการประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจของวิหารเอ็มบินยูได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะไรคือจุดประสงค์ของการปักหอกของเขาลงบนพื้นดิน หรือการส่งเสียงออกไปด้วยทักษะราชสีห์คำราม?
แต่เหมือนมันจะเป็นจุดเปลี่ยนที่มากมายในเชิงตรรกะจากทั้งสองอย่าง.
'ถึงจะไม่กี่วินาที ฉันต้องดูเท่ห์ไว้ก่อน.
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เขาก็อยากลองทำเช่นนั้น
ตอนนี้กองทัพทั้งหมดของวิหารเอ็มบินยูเคลื่อนทัพไล่ตามหลังเขามา คงมีเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้คือการวิ่งหนี
กองทหารพาราดินแห่งความมืดจ้องมองไปยังวีดที่กำลังพยายามหลบหนีแล้วควบม้าติดตามเขาไป
"ได้เวลาวิ่งหนีแล้ว แวนฮอกค์เปิดเส้นทาง "
 “ตามบัญชา นายท่าน.”
พร้อมกับการควบม้าปีศาจมุ่งไปข้างหน้า แวนฮอกค์ดึงดาบออกมา และวาดดาบเป็นวงกว้าง
ฮึ๋ยยยะ!
กองทหารพาราดินแห่งความมืด ล้มลมไปพร้อมกับม้าของพวกมัน
นี่คือแวนฮอกค์ที่วีดปฏิบัติด้วยความเย็นชาเพื่อระบายอารมณ์ของเขาและกลายเป็นแค่ของใช้ แต่หลังจากที่เลแวลเพิ่มมากขึ้น แวนฮอกค์แสดงให้เห็นถึงการใช้สอยในตัวเขาด้วยการใช้เวลาสั้นๆจัดการกับกองทหารพาราดินแห่งความมืด ไม่ว่าที่ใดก็ตามที่วีดยืนอยู่ ผู้คนมักจะนึกภาพของเดธไนท์ที่คอยติดตามเขาสะท้อนออกมาในทันที. เดธไนท์เป็นตัวตนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะมือขวาของเขา
 “ดันไปข้างหน้า! กดดันต่อไป! "
กองทัพของวิหารเอ็มบินยูขยับเคลื่อนพลทุกเหล่าทัพ โดยพยายามสกัดกั้นเส้นทางการหลบหนีของพวกเขา บรรดาผู้เล่นเริ่มต้นคอยเฝ้ามองอยู่บนเนินเขาและสามารถมองเห็นกลุ่มของสาวก และปีศาจเคลื่อนทัพออกมาอย่างสมบูรณ์แบบตามคำสั่งที่พวกมันได้รับและเข้าใกล้วีดอย่างช้าๆ
"อ่า ... ฉันคิดว่า เขาบอกว่าเขาจะออกไปสู้คนเดียว ... แล้ววิ่งหนีอย่างนี้ ก็ได้เหรอ!"
"มันต้องน่ากลัวมาก แค่จินตนาการถึงกองทัพนับหมื่นไล่ฆ่าคนเพียงคนเดียว "
 “อุว่ะ! มันต้องเป็นอะไรที่ ขนพองสยองเกล้า! "
การเฝ้าดูฝูงปีศาจที่มารวมตัวกันในจุดเดียว ทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่
"พวกเราไม่สามารถหยุดที่นี่ได้!"
วีดกวัดแกว่งหอกทวนอัคคีของเขาอย่างดุเดือด
พลังบดขยี้!( Crushing Blow)
หัวของศัตรูหลุดกระเด็นออกไป
พลังบดขยี้!( Crushing Blow)
พาราดินแห่งความมืดติดสถานะอัมพาต

แนวป้องกันที่เกิดจากพาราดินแห่งความมืด และฝูงปีศาจถูกตีแตกกระจุยกระจายไปในอากาศด้วยฝีมือของโทรลหิมะ ถึงแม้ว่าศัตรูส่วนใหญ่จะสามารถต้านทานการหวดใส่นั้นได้ แต่ก็ไม่มีเวลามากพอที่จะติดตามและฆ่าพวกเขาลงได้
"มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมากในการปล่อยให้เหยื่อมีชีวิตรอด ... ช่างเสียของ"
มันเป็นสถานการณ์ที่น่าสังเวชสำหรับวีด เมื่อมอนสเตอร์มากองรวมกันให้เขาทำลาย แต่เขากลับต้องวิ่งหนี ยังไงซะความคืบหน้าของการสู้รบก็เปลี่ยนไปภายในช่วงเวลาไม่กี่ลมหายใจ ปีศาจระดับสูงถูกเรียกตัวกลับมาจากการปิดล้อมและไล่ตามหลังมา ในบริเวณใกล้เคียงมีพวกสาวกอยู่เป็นจำนวนมาก, กองทหารพาราดินแห่งความมืด และพวกแม่มดหมอผี มีมากมายเกินกว่าที่วีดจะเห็นได้หมด
"พวกที่ไม่สามารถปฏิบัติตามความประสงค์ของเอ็มบินบู จงเป็นคนขลาดเขลาซะ!"
คำสาปกระตุ้นความกลัว จิตวิญญาณการต่อสู้ลดลง 56

"พวกนอกรีตที่ขลาดเขลาเหล่านี้จะต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดตลอดไป อย่าหวังว่าจะรอด"
ความทุกข์ทรมานถูกกระตุ้น ก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมต่อค่าพลังชีวิตของคุณ 17% ทุกครั้งที่โจมตี.

แม่มดหมอผีได้ร่ายเวทย์มนต์คาถาหลากหลายรูปแบบใส่ วีด , ซอยูน, แวนฮอกค์ และโทริ  ทั่วร่างกายของวีดเหมือนมีกระดูกชิ้นเล็ก ๆ แทงออกมารอบๆช่างน่าหวาดหวั่น บนหลังอันใหญ่โตของเขาลุกไหม้ขนาดเท่าฝ่ามือที่ลุกพึ่บขึ้นมาและดับไป พื้นที่มีหมอกหนาทึบเฉกเช่นริมฝั่งแม่น้ำยามรุ่งสาง วิสัยทัศน์ของทั้งกลุ่มถูกจำกัด
มันคือสิ่งที่พวกเขาอยากจะกล่าว แม่มดหมอผีของวิหารเอ็มบินยูนั้นยากที่จะรับมือ เพียงวูบเดียวมีการสาปแช่งคำสาปเจ็ดแบบที่แตกต่างกันร่ายใส่พวกเขาทั้งสี่
"การนินทาเกี่ยวกับคนอื่นเป็นเรื่องที่สนุกที่สุดเมื่อมีผู้คนมากมาย"
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังพูดจาลับหลังพวกเขาในช่วงเวลาผ่านไปเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมง!
ก่อนที่วีด และซอยูนจะออกไปประมือกับวิหารเอ็มบินยู  พวกเขาได้รับคำอำนวยพรจำนวนมากจากเหล่านักบวช แต่เพราะคำสาปนั้นคำอำนวยพรที่ได้รับมาล้วนถูกขัดขวาง ทำให้เกิดอาการป่วยและประสิทธิภาพการต่อสู้โดยรวมลดลง
"อย่าหยุดวิ่ง พวกเราจำเป็นต้องผ่านพวกพาราดินแห่งความมืดไปให้ได้!"
คำสาปแช่งสามารถขจัดให้หายไปได้เร็วขึ้นโดยการได้รับพรหรือมีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นอยู่กับความต้านทานและพลังแห่งความมุ่งมั่น ผลของเวทย์ศาสตร์มืดนั้นจะหายไปตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป แต่ตอนนี้พวกเขาต้องให้ความสำคัญกับการผ่านพวกพาราดินแห่งความมืดที่กำลังโจมตีทั้งสี่อย่างต่อเนื่อง
"ข้า อัศวินแห่งความตาย แวนฮอกค์ ขอท้าทายพวกเจ้ามาสู้กันตัวต่อตัว"
"ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเอ็มบินยู, เดิร์นริคด้าจะยอมรับคำท้าทายของเจ้า"
ด้วยทักษะมากมายของแวนฮอกค์คงจัดการพาราดินแห่งความมืดระดับสูงลงได้! วีดคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการเพิ่มเลวลของเดธไนท์ จนกระทั่งบัดนี้ วีด, ซอยูน และ โทริ ก็โผล่ขึ้นมา, ทำการกำจัดพาราดินแห่งความมืดตนอื่น ๆ ที่ปรากฎตัวเข้าใกล้พวกเขา
ซอยูนเปิดใช้ทักษะเบิร์กเซิกเกอร์อย่างเต็มที่ ความแข็งแกร่งในการโจมตีของเธอเริ่มเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ และพลังกายของเธอแทบจะไม่ลดลง เธอกำลังฆ่ามอนสเตอร์ทิ้งก่อนที่พวกมันจะสามารถเข้าใกล้วีด
ทั้งสี่คนสามารถจัดการฝ่าอัศวินแห่งความมืดไปได้ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เจอกับแนวรบของพวกสาวกที่กำลังถืออาวุธ การที่เคยเผชิญหน้ากับพวกเขามาก่อน พวกสาวกจึงไม่กล้าเสนอหน้าออกมาท้าทาย แต่การถูกทำให้ชะลอตัวลงโดยกองทหารพาราดินแห่งความมืด กองทัพหลักเอ็มบินยูที่เผาป้อมปราการเซราบ็อร์คก็ตามเข้ามาใกล้มากขึ้น
ดูเหมือนว่าเหล่าสาวกพยายามจะถ่วงเลาพวกเขาให้ล่าช้าขึ้นไปอีกและด้วยกองกำลังเอ็มบินยูที่กำลังลุกคืบเข้ามา ในไม่ช้าพวกเขาจะล้อมกรอบจนไม่มีทางหนีรอดออกไปได้
"นี่เป็นความรู้สึกเช่นเดียวกับการที่บัตรเครดิตทั้ง 6 ใบของคุณถูกปฏิเสธ"
มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และไม่เห็นทางออก!
วีดมองไปที่แวนฮอกค์ และโทริ ต้องขอบคุณประสบการณ์ที่พวกเขาติดตามเขาไปในพื้นที่อันตรายหลายแห่ง ด้วยการที่รู้ว่าพวกเขาเป็นอันเดธ ค่าความอดทนต่อการสาปแช่งและการติดพิษนั้นจึงสูง แวนฮอกค์ได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากการต่อสู้ของเขากับพาราดินแห่งความมืด แต่เขายังคงสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง
ซอยูนนั้นได้แสดงความแข็งแกร่งออกมาในการจัดการพวกพาราดินแห่งความมืด และเหล่าปีศาจที่เหลืออยู่ก่อนที่พวกมันจะสามารถมาเข้ามาประชิดตัวได้ ความสามารถของเบิร์กเซิกเกอร์ทำให้ศักยภาพในการโจมตีที่แท้จริงของเธอตื่นขึ้นมา ดังนั้นเธอจึงจัดการเหล่าศัตรูที่แข็งแกร่งลงได้
ส่วนวีด ด้วยการที่เขามีรูปลักษณ์เป็นโทรลหิมะ เขาจึงปล่อยไอเย็นสู่สภาพแวดล้อมโดยรอบทำให้ศัตรูชะลอตัวช้าลง
เนื่องจากศัตรูมีความต้านทานต่อความเย็นต่ำ พวกมันจึงถูกแช่แข็ง
วีดควงหอกวนไปรอบๆ บดขยี้พวกสาวกที่ถูกแช่แข็ง และเปลี่ยนพวกมันจำนวนมากเป็นแสงสีเทา
คำสาปเริ่มอ่อนลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาจึงไม่รุนแรงมากนัก แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือพวกเขาจะต้องทำอะไรต่อไป
 ‘ฉันไม่สามารถพูดให้รู้สึกดีว่า พวกเราสามารถหนีการไล่ล่าออกไปได้ ไม่ว่าพวกเราจะวิ่งหนีไปเท่าไร แต่ถึงกระนั้นถ้าพวกเราหนีเร็วเกินไป กองทัพวิหารเอ็มบินยูจะเกียจคร้านที่จะไล่ตาม และมุ่งเป้าไปที่ผู้ลี้ภัยแทน
พวกเขาต้องซื้อเวลาดึงความสนใจของวิหารเอ็มบินยูอย่างต่อเนื่อง และเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาต้องมีชีวิตรอด ไม่มีอะไรน่ารำคาญไปมากกว่านี้อีกแล้ว
"ฉันสามารถนอนหลับพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันสามารถเทจาจังเมี่ยม และ จาจังมยอนลงไปผสมกันในถ้วยเดียวกัน และกินมันให้จุใจฉัน ฉันสามารถดูโทรทัศน์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และปล่อยเวลาของฉันให้ผ่านพ้นไป เพียงแค่โชคของฉันมันเลวร้าย และตอนนี้ฉันต้องมาจัดการกับเรื่องแบบนี้ ... "
*****
โอ๊วววววววว!”
 “ก๊ากฮาฮาฮาฮา.”
"เหมือนกับที่ฉันบอกคุณ นี่คือวีดที่พวกเรากำลังพูดถึง มีเพียงวีดเท่านั้นที่สามารถมีการผจญภัยเช่นนี้!"
ณ ที่บาร์ บาร์ตเอะอะออกมาด้วยความสนุกสนาน บาร์ที่แออัดไปด้วยลูกค้าที่ลืมดื่มแม้กระทั่งเบียร์ และอาหารเรียกน้ำย่อยของพวกเขา โดยมีสิ่งมาแทนที่นั่นก็คือการดูการผจญภัยของวีดผ่านผลึกคริสตัลขนาดใหญ่
แน่นอน บาร์ตกำลังเฝ้าดูไปพร้อมๆกับฝูงชนเหล่านี้
'การเฝ้าดูสิ่งนี้มันสนุกตรงไหน? พวกเขากลัวมอนสเตอร์บางตัว การเดินผ่านเข้าไปในดันเจี้ยนบางแห่ง และตอนนี้พวกเขาดูเหมือนจะกำลังหลบหนีกันเป็นกลุ่ม '
แต่หลังจากเวลาผ่านไปเพียงเล็กน้อย ...
"ฮู่ว นี่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นทีเดียว มันช่างน่าประหลาดที่ดึงดูดคุณเข้าไป มันรู้สึกกระวนวายใจทุกครั้งที่กลุ่มผู้ลี้ภัยกำลังประสบพบเจอกับเหตุการณ์เฉียดตาย '
และหลังจากนั้นสักครู่ การเฝ้าดูวีดกับเพื่อนคนหนึ่ง และลูกน้องของเขาพุ่งไปข้างหน้าเพื่อทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อ
 ‘โอ๊! การตัดสินใจเช่นนี้ ... ... '
ที่บาร์เหล้าเงียบสงัดเป็นเป่าสาก พวกเขาดูจอผลึกคริสตัลขนาดใหญ่ราวกับว่าพวกเขาถูกสะกดจิตจนลืมที่จะเติมเบียร์ของพวกเขา ฝูงชนลืมเรื่องทุกอย่างที่เป็นอยู่ กลืนกินพวกเขาเข้าสู่ความตึงเครียดจากการเฝ้าดูวีด ซอยูน และลูกน้องของเขากำลังหลบหนีจากกองทัพเอ็มบินยูด้วยความทรหดในทุกย่างก้าว
บาร์ตไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในกลไกการต่อสู้ จึงไม่สามารถวัดได้ว่าวีดต่อสู้ได้ดีแค่ไหน
นอกจากพวกหมาป่า หมาจิ้งจอก และกระต่ายแล้ว เขายังไม่รู้ว่ามีมอนสเตอร์อื่นๆที่แข็งแกร่งอยู่อีก เขายอมรับว่าสิ่งที่ได้ยินมาล้วนมาอยู่ต่อหน้าแล้ว ผู้คนต่างสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของวีดในสนามรบ, ทักษะมหัศจรรย์ของเขา และการเคลื่อนไหวของเขาที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้
เขาสามรถรู้สึกว่าวีดกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง การพบกันของเขากับวีดนั้นเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ,แต่เขารู้ออกมาได้ด้วยความรู้สึกที่ว่าวีดไม่ใช่คนประเภทที่จะกระโดดเข้าหากองทัพทั้งหมดของวิหารเอ็มบินยู โดยปราศจากซึ่งแผนการ
"แต่ผู้หญิงสวมหน้ากากคนนั้นที่อยู่ติดกับเขา ... ดูเธอเหมือนจะคุ้นๆ ... มันไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะเป็นลูกสาวของฉันหรอกนะ "
*****
"โทริ จัดการทางซ้าย"
ทราบแล้วขอรับ นายท่าน!
โทริเรียกตระกูลแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ออกมา เหล่าแวมไพร์มีเลเวลเพิ่มขึ้น จากการที่พวกมันโจมตีเหล่าสาวก ในอีกมุมหนึ่งเหล่าสาวกเป็นศัตรูที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตระกูลแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์เพราะเลือดของพวกเขาเป็นเลือดที่บริสุทธิ์
การปะทะกันระหว่างแวมไพร์และกลุ่มสาวกกำลังเกิดขึ้นทุกที่ ขณะที่มีนักบวชของเอ็มบินยูหลายองค์อยู่ในนั้นด้วย พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงเหล่าแวมไพร์และทำเพียงแค่คอยไล่ตามวีดเท่านั้น
การฆ่าวีดนั้นเป็นความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อเลี้ยวไปทางซ้าย โทริก็เผชิญหน้าเข้ากับธารน้ำไหล นี่คือสถานที่ที่พีระมิดตั้งอยู่คู่กับรูปปั้นสิงโตเหี้ยม ยืนสูงตระหง่านเหนือแผ่นดิน
"อย่าปล่อยให้ผู้ดูหมิ่น วิหารเอ็มบินยูหนีรอดไปได้ !"
หน่วยอัศวินไวเวิร์นเข้าร่วมการไล่ล่าด้วยการบินโฉบลงมาต่ำแล้วโจมตีด้วยหอกของพวกมัน จากระยะไกลมีเวทมนตร์ และลูกธนูยิงออกมาอย่างตอเนื่อง พุ่งเข้าหาพวกเขาดุจห่าฝน กองทัพเอ็มบินยูย่างกรายเข้ามาใกล้ทุกทีๆ จากทางฝั่งอื่น ๆ ของพีระมิดและรูปปั้นสิงโตเหี้ยม มีเป็นกลุ่มของพวกปีศาจและเหล่าสาวกดักรอพวกเขาอยู่
พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระอีกต่อไป ถูกปิดล้อมรอบอย่างสมบูรณ์และโดดเดี่ยว กองกำลังเอ็มบินยูกำลังทำการปิดกั้นเส้นทางหนีทั้งหมดเพราะพวกปีศาจนั้นมีความเร็วมาก ยามนี้พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการตีดันพวกปีศาจและพวกสาวกให้ถอยกลับเพื่อเคลียร์เส้นทางจากวงล้อมของวิหารเอ็มบินยู
'ฉันล้มเหลวที่จะปกป้องเขาอีกครั้ง'
ซอยูนเตรียมที่จะสู้ต่อไปจนจบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็ตัดสินใจที่จะตายก่อน การต่อสู้เพื่อปกป้องวีดจนถึงวินาทีสุดท้าย
 “ห้ามหยุดอยู่ตรงนี้ ปีนขึ้นไป "
วีดเริ่มกะขนาดพีระมิด ขณะที่มันถูกสร้างขึ้นเป็นขั้นพีระมิด วีดมีปัญหาเล็กน้อยกับการปีนขึ้นไป
ซอยูนเกิดสงสัยอะไรบางอย่างว่าการกระทำเช่นนั้นกำลังนำไปสู่จุดจบแห่งความตายถึงชิงความได้เปรียบเรื่องสมรภูมิรบก็ตาม
 “อ้า!
เหมือนคิดอะไรได้บางอย่าง ซอยูนปีนขึ้นไปบนพีระมิด
"พวกเราอาจบาดเจ็บจากเวทมนตร์และลูกศรของศัตรูถ้าเราขึ้นมาที่นี่"
"การละทิ้งการหลบหนีของพวกเรา แล้วเลือกที่จะสู้ต่อไปจนกว่าจนถึงวาระสุดท้าย มันไม่เลวเลย นายท่าน"
โทริ และแวนฮอกค์ก้าวขึ้นสู่บันไดหินของพีระมิดและเริ่มไต่ขึ้นไป
กองทัพปีศาจ เหล่าสาวกและกองทหารของวิหารเอ็มบินยูยังคงไล่ติดตามพวกเขา พวกเขาถูกก่อกวนจากพวกอัศวินไวเวิร์นในทุกๆขั้น ขณะที่พวกเขาปีนขึ้นไป แต่ด้วยวีด และซอยูผู้ที่เปิดใช้ความสามารถของเบอเชิร์กเกอร์ที่เธอมี พวกอัศวินไวเวิร์นกลับไม่ได้เป็นอุปสรรคมากนัก ด้วยจำนวนเหลืออีกเพียงสามตัวจากพวกมันทั้งหมด พวกมันจึงมีความมุ่งมั่นมากขึ้นในการในการโจมตีของพวกมัน
ในที่สุด วีดก็มาถึงจุดสูงสุด มันเป็นสุสานของกษัตริย์ที่เขาสร้างขึ้นโดยการทุ่มเทจิตใจและจิตวิญญาณออกมา ขณะที่เขาถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองของโมราต้าในตอนนี้ ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้ประกอบการที่โหดเหี้ยมใช้ศักยภาพแฝงของเขาในการทำธุรกิจเพื่อหาผลประโยชน์จากคนอื่นอย่างไร้ความปราณีโดยไม่เสียใจในการสร้างสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่นี้
วีดตะโกนก้อง งานแปลนี้แปลไว้ใช้เป็นของขวัญปีใหม่ให้แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล ห้ามนำไปทำการค้านะครับ แปลฟรี ” (ยัดใส้มันตรงกลางนี่แหล่ะกันพวกเอาไปหาเงิน อิอิ) (แอดชิน: ขอบคุณครับ คุณ Smith Rex ส่วนนี้แอดจะไม่ลบ ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ 555)
ซอยูน, แวนฮอกค์ และโทริ มาถึงก้อนหินที่ด้านขวาใต้เขา
"ช่างเป็นมุมมองที่น่าประทับใจ"
มันเหมือนกับการมองจากยอดเขา เมื่อมองมาจากด้านบนกองกำลังเอ็มบินยูกำลังออรวมกันรอบๆพื้นที่ทำให้มองเห็นพื้นที่โดยรอบเปลี่ยนเป็นสีดำด้วยพวกปีศาจ กองทหารพาราดินแห่งความมืด แม่มดหมอผี เหล่านักบวชและกลุ่มสาวกที่มารวมตัวกันยั้วเยี้ยอยู่ด้านล่าง แม้กระทั่งนักบวชชั้นสูงเบลโลนีได้ละทิ้งป้อมปราการที่กำลังลุกไหม้ และได้นำกำลังพลส่วนตัวมาที่พีระมิดด้วย
"ฉันคาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วว่า ฉันสามารถซื้อเวลาได้ครึ่งหนึ่งของเวลาที่ฉันต้องการ"
นี่เป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับสองในสามของผู้ลี้ภัยที่จะหลบหนีได้อย่างปลอดภัยโดยปราศจากปัญหาใด ๆ
แต่ตอนนี้กับคนแก่และผู้ที่อ่อนแอที่ต้องเดินขบวนเป็นระยะทางไกลๆ ทำให้พวกเขาอพยพหนีภัยได้ช้าลง ดังนั้นจึงมีความสำคัญยิ่งที่วีดจะต้องดึงดูดความสนใจของวิหารเอ็มบินยูในตอนนี้ให้มากกว่าครั้งใด
"ปลดประติมากรรมจำแลง"
วีดทำการเปลี่ยนร่างจากโทรลหิมะกลับสู่ร่างเดิมของเขา เขานำเอาชุดเกราะหนังออกมา เขาติดตั้งชั่วคราวและยังเก็บหอกกลับเข้าไปในกระเป๋าเป้สะพายหลัง
ในช่วงเวลาที่กดดันที่สุดนั้นคือสถานที่ที่วีดต่อสู้ได้ดีที่สุด เขาโยนข้อไดเปรียบทางกายของโทรลหิมะทิ้งไป ! บรรดาผู้เล่นที่กำลังชมการออกอากาศสงสัยว่าทำไม ผู้ชมคิดว่าคงเป็นความร้อนรนของเขา วีดวางกลยุทธ์ผิดพลาด และปีนขึ้นพีระมิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ข้อสงสัยผุดขึ้นมาในใจของผู้ชม หรือบางทีคงคิดว่าวีดยอมแพ้แล้ว
"มีข้อดีอย่างหนึ่งที่จะต้องอาศัยอยู่ในเมืองบนภูเขา ไม่ว่าฝนจะตกเท่าไหร่ มันก็ปลอดภัย! "
วีดหยิบเอาประติมากรรมออกจากกระเป๋าเป้สะพายหลัง มันเป็นประติมากรรมชั้นดี ฝนตกหนัก และแม่น้ำไหลบ่า'. ประติมากรรมแกะสลักอย่างประณีตจากหิน และด้วยทักษะการแกะสลักธรรมชาติ วีดแกะสลักฝนและน้ำในแม่น้ำจนสำเร็จและเป็นผลงานชั้นดี

"ทักษะแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ!"( Great Disaster Nature Sculpting)

 

คุณได้ใช้ทักษะ "การแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ"
ค่าสถานะทางศิลป์ลดลง 20 อย่างถาวร
ค่าพลังชีวิตและมานาถูกใช้ไป 20,000
ทุกๆ ค่าสถานะลดลง 15% ในอีก 4 วันข้างหน้า
ความสัมพันธ์กับธรรมชาติลดลง
การแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติสามารถใช้ได้วันละครั้งเท่านั้น
เมื่อมหาภัยพิบัติถูกเรียกออกมา ค่าชื่อเสียงหรือความอื้อฉาวจะเพิ่มขึ้นตามค่าความเสียหาย
คุณสามารถตายท่ามกลางภัยพิบัติได้ดังนั้นจงระวังให้ดี

วีดใช้การแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติด้วยค่าความสัมพันธ์กับธรรมชาติที่เขาสะสมมาอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้อยู่ที่ 1,005
"ดี ฉันแน่ใจว่าพวกเราอยู่สูงพอที่จะหลีกเลี่ยงภัยพิบัติได้."
จนกระทั่งถึงตอนนี้สกิลนี้ถูกใช้แค่สองครั้ง เขาได้เรียนรู้บทเรียนที่เจ็บปวดของเขามาแล้ว การแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัตินั้นเป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบมากในการฆ่าผู้ใช้หากไม่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม หลังจากเสร็จสิ้นการปีนขึ้นไปบนพีระมิดแล้ว ตอนนี้เขาสามารถใช้สกิลนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
เมฆดำทะมึนเริ่มมารวมตัวกันบนท้องฟ้า และพรั่งพรูออกมาด้วยสายฝนที่กำลังโปรยปราย ตกลงมาอย่างหนัก มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนมาแอบเจาะท้องฟ้าจนทำให้ฟ้ารั่ว
สายฝนกระหน่ำไปที่ วีด, ซอยูน, แวนฮอกค์, โทริ และกองกำลังของเอ็มบินยู
"มันเริ่มต้นขึ้นแล้ว"
ฝนตกต่อไปอย่างไม่ลดละ จนกว่าจะเติมเต็มการแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติให้เกิดขึ้น ทั้งสี่คนต้องสู้กับกองทัพปีศาจที่กำลังคืบคลานขึ้นมาบนพีระมิดในสภาพอากาศที่รุนแรง
"เทพเอ็มบินยูกำลังรอคอยเครื่องสังเวย"
 “ปีนขึ้นไป! แสดงความกล้าหาญของพวกเจ้าให้ประจักษ์แด่วิหารเอ็มบินยู ! "
ฝูงปีศาจและเหล่าสาวกเนืองแน่นอยู่บนพีระมิด แม่มดหมอผี นักเวทย์ และนักบวชเอ็มบินยูส่งเวทย์มนต์ตามหลังเวทย์มนต์ที่ส่งไปก่อนหน้า
วีดเอาคบเพลิงฮีเลียมที่เขาได้แกะสลักไว้ออกมา คบเพลิงฮีเลียมนั้นสร้างม่านคุ้มกันขึ้นมา การโจมตีจากระยะไกลถูกบล็อก, มีขีดจำกัดในการต้านทานศาสตร์มืด และคำสาปแช่งจากผู้ใช้ และเพิ่มค่าการฟื้นฟูมานา
"ดาบประกายแสง!"( Radiant Sword)
จากดาบของวีด มีนกที่เกิดจากแสงออกมา ฝูงนกชะล้างวิญญาณปีศาจและสกัดกั้นคาถา ทำให้มันระเบิดกลางอากาศ ส่วนทางด้านของซอยูน สมกับที่เธอเป็นเบอเซิร์กเกอร์ ซอยูนต่อสู้ในแนวหน้าและตรงกลางต้านทานพวกปีศาจ
แสง และเวทมนตร์ระเบิดออก ฉาบไล้ด้านบนสุดของพีระมิดด้วยแสงเรืองรอง แต่สำหรับผู้ที่กำลังปักหลักยึดแนวที่จุดสูงสุดของพีระมิด มันเหมือนมีชีวิตอยู่ในนรก
เพียงเวลาประมาณ 3 ถึง 4 นาที แวนฮอกค์ก็จากไป
 “นายท่าน นี่คงเป็นจุดจบของข้า ข้านั้นรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถต่อสู้กับท่านได้จนถึงที่สุด "
แวนฮอว์คถึงขีดจำกัด ค่าพลังชีวิตของเขาถึงขีดจำกัดและถูกยกเลิกการอัญเชิญ
ถ้าวีดสามารถมีเวลาพอ เขาอาจจะใช้ผ้าพันแผลพันให้แวนฮอกค์ และส่งเขาไปด้านหลัง
แต่ก็ไม่มีโอกาสให้ทำเช่นนั้น เพราะสายตาของเขาไม่อาจละจากสถานการณ์นี้ได้เลย โครงข่ายเวทมนตร์จากเหล่านักเวทย์เอ็มบินยู ถูกส่งไปหาเขา และเขาแทบจะไม่สามารถหลบหลีก และต้านทานได้ทั้งหมดจากเทคนิคดาบประกายแสง

การโจมตีด้วยเวทย์มนต์ คุณถูกโจมตีจากหอกของนูรัน
ค่าพลังชีวิตลดลง 869

ค่าพลังชีวิตของวีดร่วงลงมาต่ำกว่า 34,000 และซอยูนที่เพียงประคองตัวเองอยู่ได้ด้วยจากความอดทนของเบอร์เซิกร์เกอร์ ซอยูนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ขณะที่เธอพุ่งออกไปต้านทานกับปีศาจที่กำลังวิ่งเข้าหาวีด และกลายเป็นเป้าของคำสาปแช่งและเวทมนตร์ เธอต่อสู้โดยไม่สนตัวเอง เธอสู้ถวายหัวเพื่อวีด
ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เวทมนตร์และลูกธนูอ่อนแรงลงเล็กน้อย และช่วยให้พวกเขาอดทนได้นานอีกสักนิด
"หากยังคงเป็นเช่นนี้ พวกเราทุกคนจะตายกันหมด .... "
หยาดฝนไหลรินลงมาจากใบหน้าของวีด หัวหน้านักบวชเบลโลนี และกองกำลังส่วนตัวของเขาได้มาถึงในระยะการโจมตีของพีระมิด ด้านล่างมีเสียงกรีดร้องของเหล่าปีศาจ และบรรดาสาวกจากการที่พวกมันสะดุดบนพื้นผิวของพีระมิดที่เปียกชุ่ม และล่วงลงไปใส่กองกำลังของตัวเองที่อยู่บนพื้นดิน ก่อให้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงโหยหวนจากความทุกข์ทรมาน
จากนั้นความหายนะที่วีดกำลังรอคอย ในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้น
สถานที่ตั้งของพีระมิดและสิงโตเหี้ยมนั้นถูกสร้างให้อยู่ใกล้แม่น้ำอารุดของอาณาจักรโรเซนไฮม์
วิหารเอ็มบินยูคิดว่าการที่ฝนตกหนักคงแค่เพียงยกระดับแม่น้ำขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มสังเกตเห็นว่ามันมากเกินไปและกำลังท่วม
 “อ๊าก!”
"น้ำ. น้ำกำลังพุ่งมาหาพวกเรา! "
น้ำเริ่มไหลบ่าทะลักทะลายไปทั่วทุกหนแห่ง ในไม่ช้าพวกสาวก ปีศาจ และนักบวชเหล่านั้นข้อเท้าได้จมอยู่ใต้น้ำ ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นไม่ได้แสดงอาการหยุดชะงักแต่อย่างใด มันเริ่มเพิ่มระดับขึ้นด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น จากทางต้นน้ำของแม่น้ำอารุด มวลน้ำที่น่าหวาดหวั่นก็แผ่พุ่งเข้ามา พื้นที่ต่ำที่ถูกปกคลุมด้วยภูเขา เนินเขา และพื้นที่ราบรอบพีระมิดเริ่มท่วม
การแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติ น้ำท่วมครั้งใหญ่!
คลื่นขนาดเท่าบ้านกระแทกใส่กองกำลังเอ็มบินยู
ครืนนน!
คลื่นหายนะนั้นโค่นฝูงเคลาคลอปล้มลงด้วยความแรงของมัน กลุ่มก้อนของกองกำลังเอ็มบินยูแตกกระจัดกระจาย สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดต่างพยายามที่จะหาวิธีเอาตัวรอด แต่บริเวณใกล้เคียงโดยรอบทั้งหมดถูกน้ำท่วมจนหมด
ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสูงเกินหัวเข่าและท่วมท้นเหล่าศัตรู อาคารและอาวุธปิดล้อมโค่นล้มลง หินและต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนแล้วไหลไปตามน้ำ เหล่าสาวกเอ็มบินยูที่กรีดร้องก่อนหน้านั้นจมน้ำตายภายใต้น้ำท่วม และถูกกวาดหายไป
วีดแสยะยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่เขาเฝ้าดูเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินไป
"ความจริงแล้วนี่คงเป็นทักษะการแกะสลักที่น่าพอใจมากที่สุด"
แต่วีดยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเสียหายจากน้ำท่วมที่ส่งผลกับกองทัพเอ็มบินยู  เขานั้นมั่นใจว่าพวกสาวกที่อ่อนแอคงจะไม่มีหวังที่จะรอดชีวิตจากน้ำท่วม พวกสาวกจะถูกฆ่าตายทันทีจากการที่พวกเขาถูกกวาดโดยสายน้ำที่เชี่ยวกราก
อย่างไรก็ตาม พวกปีศาจที่ทรงพลัง พาราดินแห่งความมืด และนักบวชแห่งความมืด มีค่าพลังชีวิต และค่าความต้านทานสูง
จึงมีความเป็นไปได้ที่พวกมันส่วนใหญ่จะรอดชีวิตจากน้ำท่วมสูง
ด้วยกองทัพเอ็มบินยูอยู่ในความระส่ำระสาย และถูกกวาดต้อนจากน้ำท่วม ตอนนี้ย่อมเป็นโอกาส!
วีดใช้ทักษะของเขาไปสู่รูปปั้นสิงโตเหี้ยม(Lion Monstrosity)
"ประติมากรรมประทานชีพ!"

คุณประทานชีวิตให้กับประติมากรรม
เนื่องจากค่าสถานะทางศิลป์ในปัจจุบันของคุณอยู่ที่ 2,281 ประติมากรรมนี้จึงได้จึงมีเลเวลอยู่ที่  469 ด้วยกันกับผลงานชิ้นนี้อยู่ในระดับมาเตอร์พีช สิ่งมีชีวิตนี้จะได้รับเลเวล เพิ่มเติม 10%
สี่คุณลักษณะถูกมอบเพิ่มให้กับการประทานชีพ ระดับของคุณลักษณะและความสามารถจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ
ลักษณะและคุณภาพของประติมากรรม คุณลักษณะของหิน  (100%), คุณลักษณะแห่งไฟ  (80%), คุณลักษณะเชิงศิลป์ (100%), คุณลักษณะอันทรงเกียรติ (100%)
คุณลักษณะของหินช่วยเพิ่มการป้องกันเป็นพิเศษให้กับประติมากรรมสลักชีพ
คุณลักษณะแห่งไฟสามารถใช้ในการเผาผลาญศัตรู
ประติมากรรมสลักชีพนี้ได้รับการต้านทานเวทย์มนต์ดำทุกรูปแบบ
ด้วยคุณลักษณะเชิงศิลป์ของประติมากรรมสลักชีพนี้จะมีความซาบซึ้งต่อประติมากรรมและศิลปะ ทำให้ได้รับผลเพิ่มเติมอีก 150% ต่อการทำงานด้านศิลปะ ซึ่งรวมถึงการมีชีวิตของตัวมันเอง และงานศิลปะที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด
คุณลักษณะอันทรงเกียรติทำให้ได้รับเกียรติและความสามารถพิเศษให้กับชีวิตที่เกิดมานี้ เมื่อต่อสู้กับกองทัพขนาดใหญ่มันก็จะเพิ่มความภักดีและขวัญกำลังใจของกองทัพ และทักษะการเป็นผู้นำของอัศวินจะเพิ่มขึ้น
มานาจำนวน 5,000 ถูกใช้ไป
การเรียนรู้ทักษะเพิ่มขึ้น เลเวลที่ต้องการและค่าสถานะถูกใช้ไปในระหว่างการประทานชีพลดลง 20% ค่าสถานะทางศิลป์ลดลง 6 อย่างถาวร ค่าสถานะที่ลดลงสามารถกู้คืนได้โดยการแกะสลักหรือการทำงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ
เลเวลลดลง 2 ในความเป็นจริงมันลดลง 10 เลเวลเมื่อเทียบกับเลเวลที่หายไป การกู้คืนค่าสถานะเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
โปรดดูแลประติมากรรมที่คุณได้มอบชีวิตให้ ถ้าถูกฆ่า คุณจะต้องให้ชีวิตมันอีกครั้ง เมื่อประติมากรรมถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ มันไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้อีกต่อไป

เลเวลของวีดลดลงเหลือ 405 และค่าสถานะทางศิลป์ของเขาก็ถูกใช้ไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือสิงโตเหี้ยมของอาณาจักรโรเซนไฮม์กำลังมีชีวิต
 โฮกกก !”
สิงโตเหี้ยมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงคำรามลั่น
 “โกร-อุ๊ย ?!”
เมื่อมันพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยขาหน้าของมัน มันลื่นและล้มลงในน้ำที่ท่วมมาครึ่งหนึ่งของร่างกายมัน อย่างน้อยมันก็พยายามทำตัวให้เด่นเป็นอันแรก แต่ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สอง วีดเห็นการกระทำดังกล่าวจากประติมากรรมของเขา
"ข้ามีนามว่าอะไร?"
ตอนนี้สิงโตเหี้ยมกำลังมีชีวิต มันก็หันหัวมันไปทางวีดแล้วถามออกมา สิงโตเหี้ยมมีขนาดคล้ายกับพีระมิดสูง ร่างกายของมันคือสิงโต แต่หัวของมันกลับคล้ายคลึงกันกับราชาองค์ก่อนธีโอเดริน
"ชื่อของแกคือ สฟิงซ์"
"มันไม่สำคัญว่าถ้านามของข้าจะคือสฟิงซ์ ข้าไม่มีแผนที่จะจงรักภักดีต่อเจ้านายที่ไม่รู้ว่าอะไรคือเกียรติยศ "
สฟิงซ์มีนิสัยที่แข็งกร้าวเนื่องจากลักษณะ และความเป็นอิสระในตัวตนของมันเอง ไม่ได้คิดว่าการที่วีดอยู่เหนือกว่าจะเป็นเจ้านายมัน
วีดไม่มีแผนจะสู้กับเรื่องแบบนี้ในตอนนี้
"พวกเราจะเรียงลำดับปัญหาออกมา เมื่อพวกเรามีเวลา ตอนนี้พวกเรากำลังต่อสู้กันอยู่ "
"ทะเลที่ฉันต้องการ"
สฟิงซ์ร้องไห้ขณะที่มันกระโดดลงไปในน้ำ มันบดขยี้นักบวชแห่งความมืดที่กำลังว่ายน้ำหนีกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากอยู่ ด้วยปากของมัน และบดขยี้พวกมันด้วยขาหน้า
"ทำลายสิงโตตัวนั้น!"
"วีดผู้ชั่วช้าอยู่ที่นั่น พวกเราต้องสังเวยวีดเป็นเครื่องบูชายัญ! "
นักบวชเอ็มบินยูขี่บนปีศาจที่กำลังว่ายน้ำ แต่บางคนถูกกวาดไปโดยกระแสน้ำเชี่ยว หรือหายไปภายใต้น้ำวน เหล่านักบวชเอ็มบินยูตกอยู่ในความระส่ำระสาย และภายใต้ความเมตตาของกระแสแม่น้ำที่ไหลล้น
สฟิงซ์ซึ่งมีขนาดเท่ากันกับอาคารขนาดใหญ่ กระโดดไปรอบ ๆ แม่น้ำ และล่าเหยื่อกองกำลังเอ็มบินยู
"ยี่สิบ. ยี่สิบเอ็ด. ยี่สิบสอง."
วีดติดอาวุธด้วยธนูเอลฟ์ชั้นสูงยูริกะ และยิงพวกปีศาจที่กำลังลอยอยู่ ซอยูน และโทริแทงปีศาจที่ยึดติดอยู่กับพีระมิด  น้ำท่วมขนาดใหญ่กำลังพัดถล่มกองกำลังเอ็มบินยู
ครึ้มมมมม!
ฟ้าผ่าลงมาในจังหวะสั้น ๆ แสดงให้เห็นร่างของวีดที่ด้านบนของพีระมิด มันแสดงให้เห็นถึงการปรากฏตัวของวีด การเล็งเป้าด้วยธนูของเขาในขณะที่อยู่ท่ามกลางสายฝน วีดต่อสู้ภายใต้ความมืดกับแสงสว่างวาบเป็นครั้งคราวสร้างฉากอันน่าประทับใจ
วีดยิงลูกศรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่นักบวชเอ็มบินยูแทน มันจะทำกำไรได้มากขึ้นในการกำหนดเป้าหมายเป็นพวกนักบวช ด้วยการได้ค่าประสบการณ์ที่มากกว่าการฆ่าพวกปีศาจที่ฆ่ายาก
แต่ช่วงเวลาที่ดีมักผ่านไปไวเสมอ
ผลของการแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัติได้ลดน้อยถอยลง และฝนก็กำลังหยุดตก แต่ระดับน้ำรอบพีระมิดยังคงเพิ่มขึ้นและกระแสน้ำก็เริ่มไหลแรงขึ้น
"เรื่องนี้มันมากเกินไป ฉันจะทำเท่าที่ฉันจะทำได้"
วีดไม่พอใจกับจำนวนของนักบวชเอ็มบินยูที่เขาจัดการเก็บเกี่ยวมาได้ แต่รู้สึกว่ามันถึงเวลาต้องออกไปแล้ว จำนวนกองกำลังเอ็มบินยูได้ลดลงอย่างมีนัยยะ เนื่องจากการปิดล้อมป้อมปราการเซราบ็อร์ค และน้ำท่วม แต่ถ้าพวกเขายังคงอยู่ที่นี่อีกต่อไป มีความเป็นไปได้จริงที่ว่ากองกำลังที่เหลือจะเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มกำลัง
แม้แต่ซอยูนก็หมดแรง เนื่องจากเธอต่อสู้กับพวกปีศาจเพียงลำพัง
"พวกเราควรจะซื้อเวลามากพอสำหรับผู้ลี้ภัย"
มันจะต้องใช้เวลาอย่างมากสำหรับกองกำลังเอ็มบินยูในการจัดระเบียบกองทัพของพวกมันเพื่อไล่ตามผู้ลี้ภัย  บรรดาสาวกจำนวนมาก และเหล่าปีศาจที่ลอยไปถึงตอนล่างของแม่น้ำอารุด  แม้ว่าจะมีพวกมันไม่มากที่ตกตายลงไป แต่ย่อมมีผลสะท้อนกลับอย่างใหญ่หลวงแน่นอน
ในสงครามระหว่างอาณาจักร การแกะสลักธรรมชาติมหาภัยพิบัตินั้นสามารถสร้างหายนะเหนือจินตนาการได้เลย มีผลข้างเคียงเล็ก ๆ เพียงอย่างเดียวก็คือ ทักษะนี้ไม่ได้แยกแยะระหว่างศัตรูและมิตร
"สฟิงซ์ได้เวลาไปแล้ว."
"ข้าอยากสู้ต่อ"
"ศัตรูกำลังปรับตัว พวกเราจำเป็นต้องหลบหนีตอนนี้ ก่อนที่มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี."
หัวหน้านักบวชเบลโลนี และกองกำลังส่วนตัวของเขา เหล่าปีศาจขนาดยักษ์กำลังกระจัดกระจายไปตามกระแสน้ำที่ท่วมอยู่
เมื่อภัยพิบัติสิ้นสุดลง พวกมันก็จะฟื้นตัวและเข้ามาอย่างเต็มกำลัง มันควรที่จะรีบออกไปจากสถานที่ที่พวกเขาอยู่ เมื่อพิจารณาจากประเภทของศัตรูที่กำลังตามมาด้านหลังพวกเขา
"ข้าไม่ปรารถนาออกไปจากสถานที่แห่งนี้"
"ทำไม?"
"ข้าจักปกป้องสถานที่แห่งนี้ ข้าจักปกป้องสุสานของกษัตริย์ธีโอเดอรินจนชีพวาย "
"......."
สฟิงซ์เลือกพีระมิดเหนือชีวิต
ผลข้างเคียงจากการประทานชีพให้กับประติมากรรม! เมื่อยามที่มันเป็นประติมากรรม มันถูกสื่อความหมายว่ามันคือผู้พิทักษ์แห่งพีระมิด มันเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ หลังจากที่ได้รับชีวิต ชีวิตใหม่ก็ไม่อาจลืมว่ามันมีหน้าที่และวางแผนจะสู้กับกองกำลังเอ็มบินยูจนลมหายใจสุดท้าย
"เจ้าจะตายถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ ชีวิตที่เจ้าได้รับมานั้นมีค่า เจ้าไม่เสียดายและโยนมันทิ้งไปงั้นรึ? "
"ชีวิตมีความหมายก็ต่อเมื่อเรามีอะไรต้องปกป้อง แล้วสิ่งใดกันที่ท่านต้องปกป้อง"
"ถึงกระนั้นแล้ว มากับข้า ถ้าเจ้ามา ข้าจะเตรียมเนื้อสำหรับเจ้าทุกวันและวันหยุดพักผ่อนสองวันในทุกปี "
แต่แน่นอนว่าไม่มีทางที่เขาจะรักษาสัญญานั้นได้!
"ข้าได้เลือกเส้นทางของข้าแล้ว ไปเถอะ ข้าจะปกป้องสถานที่แห่งนี้ "
ด้วยคำสัตย์ปฏิญาณของสฟิงซ์ สายตาของวีดนั้นห่อหี่ยว และน้ำตาเริ่มซึม
'มันดีแล้วที่ฝนยังไม่หยุดตก มันสามารถซ่อนน้ำตาของฉันได้ '
น้ำตานี้ แน่นอนย่อมไม่ใช่เพราะวีดสัมผัสและซาบซึ้งในคำพูดของสฟิงซ์ แต่มันคือค่าสถานะทางศิลป์และเลเวลของเขาที่ต้องจ่ายไปก่อนหน้านี้! วีดได้ลงทุนด้วยประสบการณ์อันล้ำค่าของเขาในการมอบชีวิตให้กับสฟิงซ์ และตอนนี้เนื่องจากความดื้อรั้นของมัน มันกำลังวางแผนที่จะตายในการต่อสู้
"ฉันควรจะคิดเรื่องนี้ก่อนที่จะทำการมอบชีวิต ฉันควรจะได้รับชีวิตมันมา เมื่อฉันมีเวลามากพอ ฉันจะทุบตีมันเพื่อเพิ่มการศึกษาให้มัน "
ตอนนี้ มันสายเกินไปที่จะเสียใจ การอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อโน้มน้าวสฟิงซ์นั้นอาจจะทำให้ตัวเขา และซอยูนตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย
 “ไว-ทรี!
วีดเปิดใช้ราชสีห์คำราม และเพียงชั่วครู่ต่อมา ไว-ทรีก็กำลังบินมาจากระยะไกลที่ยังสามารถมองเห็นได้
ไว-ทรีตื่นขึ้นตอนรุ่งสางโดยปราศจากการล้างหน้า ดังนั้นมันจึงสามารถมาหาพวกเขาได้ในทันที
เมื่อวีด และซอยูน ขึ้นไปบนหลังของไว-ทรี กระแสน้ำก็อ่อนแรงลง กองกำลังเอ็มบินยูที่ถูกกวาดไปในน้ำท่วมตอนนี้ ตอนนี้สามารถสัมผัสพื้นดิน ที่พื้นดินเกลื่อนกลาดไปด้วยปีศาจ และพวกสาวกที่จมน้ำตายไปเกือบครึ่ง
เหล่านักเวทย์เอ็มบินยู และพวกนักบวชเริ่มเตรียมการโจมตีของพวกเขา แต่สฟิงซ์ช่วยปกป้องพวกเขาด้วยร่างกายของมัน
"ตอนนี้แหละ ไปเลย!"
วีด และซอยูนหนีไปบนหลังของไว-ทรี ส่วนโทริบินหนีจากสนามรบด้วยพลังของตัวเอง
เมื่อมองมาจากที่ไกลๆ สฟิงซ์กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่ในไม่ช้า มันก็ถูกล้อมรอบไปด้วยกองกำลังเอ็มบินยู และยังคงต่อสู้อย่างอาจหาญ
"ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ทำมัน"
การพยายามหลบหนีด้วยสฟิงซ์ที่บินไม่ได้นั้นอาจเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่เริ่มแรก
แต่ต้องขอบคุณสฟิงซ์ วีดจึงสามารถหลบหนีได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
"ไว – ทรีอย่าบินไปทางผู้ลี้ภัย บินวนไปรอบ ๆ และใช้ทางอ้อมแทน "
 “สุดแล้วแต่ท่านจะบัญชา
เพื่อป้องกันความเป็นได้ใดๆที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา วีดสั่งให้ไวเวิร์นของเขาใช้เส้นทางอ้อม ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังผู้ลี้ภัย
ผ่านเนินเขาและสันเขาเป็นขบวนผู้ลี้ภัยยาวไม่มีที่สิ้นสุด! เมื่อมองเห็นวีดและไว-ทรี ผู้ลี้ภัยโห่ร้อง และโบกมือ
'ดูเหมือนว่ากองทัพเอ็มบินยูจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการไล่ล่า'
มีการโจมตีบ้างจากพวกมอนสเตอร์ที่ตระเวนผ่านมา แต่ด้วยจำนวนที่พวกผู้เล่นและพวกทหารสามารถรับมือ และจัดการได้ หลังวีดจากไปเพื่อเป็นเหยื่อล่อวิหารเอ็มบินยู  ผู้เล่นหลายคนได้ทำการล้อกเอาท์ออกจากระบบแล้ว
แต่ยังคงมีผู้เล่นจำนวนมากพอที่ยังอยู่ แล้วตัดการเชื่อมต่อจากพื้นที่อื่นในภายหลัง
วีดยังคงติดตามขบวนผู้ลี้ภัยจากบนหลังของไว-ทรี
"นี่ ฉันพอมีผ้าพันแผลเหลืออยู่บ้าง มันพอที่จะพันแขนให้เธอได้อยู่ "
วีดพันผ้าพันแผลรอบแขนของซอยูนผู้ซึ่งบาดเจ็บจากผลพวงของสกิลเบอร์เซิกเกอร์ หลังจากการต่อสู้จบลงแล้ว
หลังจากติดตามหลังพวกเขามาเป็นเวลานาน ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ผู้ลี้ภัยบริเวณแถวหน้าของขบวนก็ได้พบกับกองทัพของอาณาจักรโรเซนไฮม์ในที่สุด นี่คือกองทัพที่ถูกส่งมายังป้อมปราการเซราบ็อร์ค หลังจากตรวจพบสัญญาณไฟ
'ตอนนี้ฉันสามารถพักผ่อนได้แล้วสินะ'
วีดออกจากระบบ หลังจากนั้นก็รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย
ผู้แปล : Smith Rex

Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล 

14 ความคิดเห็น:

  1. มาแล้วยังไม่ได้อ่านแต่คิดถึงมากกก อย่าหายไปนานๆอีกนะเราคิดถึง

    ตอบลบ
  2. แปลตอนนี้สนุกมาก กว่าจะจบศึกลงแรงไปเยอะเลย..ขอบคุณทีมแปลครับ รอติดตามตอนต่อไป ^_^

    ตอบลบ
  3. T-T ยาวๆป้ายยยย...
    ขอบใจหลายๆเด้อออ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณครับอ่านจบแล้ว

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณ​ที่​ไม่​ทิ้ง​กัน...

    ตอบลบ
  6. สนุกมากค่ะ ซอยูนทุ่มสุดตัว สุ้ถวายหัวเพื่อวีดเลย555

    ตอบลบ
  7. มันมากครับตอนนี้. ขอบคุณทีมนักแปลทุกท่าน

    ตอบลบ
  8. มันสุดๆตอนนี้ ขอบคุณผู้แปลและทีมงานครับบ <<<รักน่ะครับ

    ตอบลบ
  9. ผมขำมากตัวหนังสือสีแดง จัดแบบนี้ทุกตอนเลยนะคับ 555

    ตอบลบ
  10. มื้อดึกอื้มเลยขอบคุณนะ

    ตอบลบ
  11. ขอบคุณมากนะครับสมการรอคอย

    ตอบลบ
  12. หนีพ้นจนได้ ลุ้นกันเหนื่อย

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...