วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

เล่ม 26 ตอนที่ 2 : ผู้ลี้ภัยจากป้อมปราการเซราบ็อร์ก แปลโดย Smith Rex

เล่ม 26 ตอนที่ 2 : ผู้ลี้ภัยจากป้อมปราการเซราบ็อร์ก แปลโดย  Smith Rex

แววตาของบรรดาผู้เล่นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
'ฉันต้องไม่ตาย'
'ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะติดตามคุณวีด'
 ‘ตั้งสติไว้ ฉันจะออกไปจากสถานที่แห่งนี้แบบมีชีวิต ฉันไม่สามารถตายแบบนี้ได้ หรือฉันจะติดอยู่ที่นี่แล้วกลายเป็นพวกมือใหม่ แม้กระทั่งฉันอาจจะไม่สามารถหาแฟนได้!
วีดดึงคันโยกไม้ที่ติดกับผนัง
ตึก ตึก ตึก ตึก !
ประตูหินที่ปิดกั้นทางออกเริ่มยกตัวขึ้นอย่างช้าๆ เผยให้เห็นเส้นทางที่นำไปสู่พื้นผิวด้านบน
"ตอนนี้คงได้เวลาแล้ว. มีแต่ต้องมุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น "
แม้จะเป็นช่วงพักสั้นๆ แต่มันก็เพียงพอสำหรับบรรดาผู้เล่นที่จะฟื้นค่าพลังบางส่วนในตัวพวกเขาได้ วีดมุ่งหน้าออกไปก่อนด้วยรูปร่างอันใหญ่โตของเขาลอดผ่านช่องที่เปิดออก ทันทีที่เขาโผล่ขึ้นมาบนพื้นผิวดิน บรรดาผู้เล่นส่วนที่เหลือเริ่มกระโดดตามออกไปทีละคน
 “อย่าปล่อยให้มีมนุษย์รอดชีวิตเด็ดขาด
"สำหรับผู้คนที่ไม่เชื่อในเทพเอ็มบินยู มันจะต้องตาย"
"ล้างบางป้อมปราการเซราบ็อร์กซะ!"
ด้านบนพื้นผิวดิน พวกผู้เล่นถูกโจมตีด้วยโดยเสียงร่ำร้องโหยหวนจากบรรดาเหล่าวิญญาณคลั่ง และกองกำลังแห่งความมืดของวิหารเอ็มบินยู  ถึงแม้ว่าทางออกจะถูกซ่อนไว้อย่างดีด้วยพุ่มไม้รก มันก็ห่างจากป้อมเซราบ็อร์กเพียงแค่  2 กิโลเมตรเท่านั้น พลทหารม้าสามารถครอบคลุมระยะทางนั้นได้ในทันที
สายตาของวีดหันไปทางป้อมปราการ  การจลาจลกับกองกำลังของเอ็มบินยู พื้นที่ตอนนี้คล้ายกับหลุมดำขนาดใหญ่ที่กินระยะทางออกไปไกล ควันไฟพวยพุ่ง ลอยอยู่เหนืออาคาร ขณะที่พวกมันกำลังเผาผลาญอย่างรุนแรง มีปีศาจขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้กำลังบุกโจมตีป้อมปราการอยู่
เหล่าพลทหารของราชอาณาจักรโรเซนไฮม์กำลังค่อยๆถูกบีบบังคับให้ถอยกลับเข้าไปในวัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาจะยืนหยัดได้เป็นครั้งสุดท้าย วีดสังเกตเห็นกลุ่มต่างๆที่ยังคงอยู่ในป้อมปราการ  โดยการอาศัยช่วงเวลานี้ พยายามจะหลบหนี
มันเป็นนรกที่น่ารังเกียจ! นี่เป็นสนามรบที่แท้จริง
 ‘โปรดตามออกมา ตอนนี้เป็นโอกาสของพวกเรา '
บรรดาผู้เล่นยังคงทยอยดันตัวออกมาตามทางออก แม้แต่เส้นทางหลบหนีที่อยู่ใกล้ที่สุดก็เริ่มแน่นไปด้วยพวกผู้เล่น ผู้เล่นใหม่ และบรรดาเหล่า NPC มากกว่าหมื่นคนที่ติดตามวีดมา และการจะช่วยให้ทุกคนหนีต้องใช้เวลา
กลุ่มผู้เล่นกลุ่มแรกที่หลั่งไหลออกมาจากเส้นทางหลบหนีนั้นมีเลเวลสูงพอสมควรและสามารถต่อสู้ได้ มีนักรบมากกว่า 200 คน ตามมาด้วยพวกมือใหม่ กลุ่มที่พยายามหลบหนีอย่างลับๆถ้าพวกเขานั้นสบโอกาส  แต่ด้วยคนจำนวนมากมันเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกอัศวินที่ขี่ไวเวิร์นนี้กำลังบินวนเวียนอยู่เหนือท้องฟ้าจะตรวจพบเจอพวกเขา
 “มนุษย์!
"ฆ่าพวกมัน! ใช้พวกมันเป็นเครื่องสังเวยแด่เทพเอ็มบินยู! "
บรรดาผู้เล่นร่ำร้องออกมาอย่างประหลาดใจ
"นั่นมันหน่วยอัศวินไวเวิร์นของวิหารเอ็มบินยูนี่!"
"พวกเราถูกพบแล้ว!"
เหล่าพลธนู พวกพรานป่า และคนอื่นๆที่มีคันธนูเริ่มยิงลูกศรของตนไปยังหน่วยอัศวินไวเวิร์น ห่าฝนลูกธนูที่วุ่นวายได้พุ่งออกมาจากพวกมือใหม่และพลธนูระดับสูง และสาดเข้าใส่ศัตรู
 “พวกมนุษย์ต้องถูกสังเวย!“
"สรรเสริญแด่วิหารเอ็มบินยู!"
พวกไวเวิร์นต่างหลบลูกธนูได้อย่างงดงาม ขณะที่พวกมันตรงดิ่งไปยังพื้นดิน
ความคล่องตัวของพวกไวเวิร์น มันช่างน่าประหลาดใจ! การโจมตีพวกมันในอากาศคงจะเป็นเรื่องยากและเวทมนตร์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกมัน เพราะพวกเขาใช้เวลานานในการเตรียมตัว
"หอกปีศาจ!"
สถานการณ์ที่คับขันคือเมื่อหน่วยอัศวินไวเวิร์นเข้ามาใกล้และใกล้มากพอที่พวกมันจะร่อนลงมาแล้วใช้ทักษะหอกของพวกมัน!
วีดเร่งความเร็วอย่างฉับพลัน และกระโดดสูงขึ้นไปบนฟ้า
 ‘มันจะได้ผลไหมนะ ? ความแข็งแกร่งของฉันบวกกับความว่องไวที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรุนแรง ดังนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้
ปัง!
พื้นดินที่ทรุดตัวลงเมื่อโทรลหิมะกระโดดขึ้นพร้อมด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ!
วีดสะบัดดาบออกไปกลางอากาศ ในทันที ไวเวิร์นบินต่ำลงเพื่อพยายามหลบเลี่ยงจากโทรลหิมะที่ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ก่อนที่สายตาของพวกมันจะสังเกตเห็น แต่ความพยายามของมันไร้ประโยชน์ มันอยู่ในระยะดาบของวีดเรียบร้อยแล้ว
 “แกว๊กกกก!”

คุณสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับอัศวินไวเวิร์น
อัศวินไวเวิร์นไม่สามารถเข้าร่วมรบได้อีกต่อไป

ความแข็งแรงอันมากล้นของโทรลหิมะll!
วีดไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ไวเวิร์น กลับเลือกจู่โจมใส่อัศวินที่ขี่ไวเวิร์น์อยู่แทน อัศวินไวเวิร์นกระเด็นพุ่งตกลงสู่พื้นดินด้วยการโดนการโจมตีของวีดจนกระเด็นจากจุดที่มันนั่ง  อาศัยความว่องไวและการเคลื่อนที่อันคล่องแคล่ว วีดรีบคว้าบังเหียนจนเขาสามารถขึ้นขี่ไวเวิร์น ฉากที่เห็นนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ และการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลแม้จะมีร่างกายอันใหญ่โตของโทรลหิมะก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คิดออกว่าภาพที่เห็นนั้นเปรียบได้ดั่งท่าทางการเต้นที่ถูกออกแบบมาอย่างดี
 “กว๊าววว!”
ไวเวิร์นตัวนั้นส่ายโงนเงนด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นกะทันหันจากน้ำหนักตัวของโทรลหิมะ
นี่คือการโจมตีด้วยน้ำหนักของโทรลหิมะ! จนไวเวิร์นต้องร่อนลงมาใกล้กับพื้นดินด้านล่างจนถึงขนาดที่ผิวมันสามารถขูดกับพื้นได้เลยทีเดียว มันฝืนตัวเองด้วยแรงเฮือกสุดท้ายเพื่อที่จะบินกลับขึ้นไป
วีดมองลงมา ผู้เล่นระดับสูงได้กระจัดกระจายกันออกไปและต้านทานการโจมตีของอัศวินไวเวิร์น แต่เหล่าผู้เล่นเริ่มต้นและ บรรดา NPC ยังคงถูกไล่ฆ่า
ชาวบ้านผู้อยู่อาศัย แดเรี่ยม ผู้ที่อาศัยอยู่หลังพระราชวังตาย ค่าชื่อเสียงลดลง 2.
วอลตูก้า ช่างตีเหล็กได้ล่วงลับไปแล้ว ค่าชื่อเสียงลดลง 6

ในขณะที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับผู้เล่นที่กำลังจะตาย ทุกๆความตายของ NPC จะมีผลต่อวีดโดยตรง คงเป็นข้อเท็จจริงของภารกิจเพื่อนำผู้ลี้ภัยไปสู่ความปลอดภัย มีโอกาสที่จะได้รับ หรือสูญเสียค่าชื่อเสียงจำนวนมหาศาล
วีดอาจไม่เคยนึกถึงความสำคัญของภารกิจว่ามันจะมากมายมหาศาลขนาดนี้ เมื่อครั้งแรกที่เขาได้เข้าไปหาเซลิเนีย ขนาดของภารกิจก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากมายที่อาศัยอยู่ในป้อมเซราบ็อร์กก็มารวมตัวกัน และมอบความเชื่อมั่นไว้กับวีด โชคดีที่ในที่สุดซอยูนก็แสดงความสามารถที่แท้จริงของเธอออกมาด้วยการที่เธอฆ่าอัศวินไวเวิร์น จัดการพวกมันจนกลายเป็นแสงสีเทา
"ไปกันเถอะ. พวกเราต้องล่าไอ้พวกเวรนั่นให้มากกว่านี้!
วีดดึงบังเหียนบนไวเวิร์นด้วยมือซ้ายของเขา เพื่อให้ไวเวิร์นเชื่อง  ผู้เล่นจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่ง และจิตวิญญาณการต่อสู้ที่มากพอ ในแง่มุมนี้ถือว่าวีดมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว และเขาก็มีประสบการณ์เยอะมากในการบังคับไวเวิร์นจากการบังคับ ไว-ทรี
แต่การกำราบอย่างสมบรูณ์ และการทำให้มอนสเตอร์เชื่อง ต้องการความสนิทสนมและเวลาในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันเป็นอันมาก วีดไม่ได้มีอย่างใดอย่างหนึ่งในนี้ แต่ไวเวิร์นที่วีดกำลังขี่อยู่กลับเชื่อฟังคำสั่ง และบินตรงไปทางอัศวินไวเวิร์นตนอื่นๆ
 “เร็วเข้า!
ฟวับ-ฟับ, ฟวับ-ฟับ, ฟวับ-ฟับ!
ไวเวิร์นรีบบินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันไม่ใช่เพราะมันยอมอ่อนน้อม และเชื่อฟังวีด แต่มันเกิดมาจากเสียงคร่ำครวญของอัศวินไวเวิร์นตนอื่นๆที่ถูกฟาดกระเด็นอย่างรุนแรงจากโทรลหิมะที่กำลังขี่อยู่บนหลังของมัน นอกจากนี้ความเย็นที่แผ่ออกมาจากโทรลหิมะทำให้ปีกของมันเริ่มแข็ง จนเป็นเหตุให้ความกลัวฝังลึกลงไปในตัวของมัน จากความเป็นไปได้ที่อาจจะถูกทุบตีจนต้องร่วงลงไป
โทรลหิมะตนนี้ตัวหนักและมันช่างเยือกเย็น มันเป็นปีศาจที่มีความชั่วร้ายอย่างแท้จริง
"ทำได้ดี."
ยามเมื่อไวเวิร์นเข้าตาจนมันเลือกที่จะปกป้องตัวเองด้วยการบินเข้าไปในควันไฟ ในขณะที่วีดเข้าปะทะกับพวกอัศวินไวเวิร์น และพวกมันถูกโจมตีจนปลิวหายไปหลายตน เป็นชัยชนะที่ปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด วีดใช้การต่อสู้ทางอากาศเข้าจู่โจมแลกเปลี่ยนกระบวนท่าในเสี้ยววินาที
ไวเวิร์นตัวนั้นบินตรงดิ่งไปหาพี่น้องคนอื่น ๆ ของมัน เพื่อหวังว่ามันจะรอดไปได้ แต่วีดกลับได้ชัยชนะทุกครั้งด้วยการสวนกลับเพียงครั้งเดียวในทุกการโจมตี
ก๊าซซซซซ!
ไวเวิร์นที่วีดกำลังขี่กำลังเหนื่อยหอบอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มันรู้สึกเหมือนการกระพือปีกของมันหนักขึ้น หนักขึ้น จนยากที่จะป้องกันไม่ให้มันร่วง แต่เพราะความเย็นที่มาจากโทรลหิมะ จึงทำให้ร่างกายส่วนใหญ่ของไวเวิร์นถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
วีดรอให้ไวเวิร์นของเขาถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์ทั้งหมดเสียก่อน จากนั้นก็จะทำการเข้ายึด ควบคุมไวเวิร์นตัวอื่นกลางอากาศ
เมื่อมองตามร่างอันใหญ่โตนั้นกระโจนไปมาในอากาศ ความจริงแล้วมันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ และเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ
บรรดาผู้เล่นมีอาการใจสั่นหวาดเสียวแทน จนใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากภาพที่เห็นอยู่ด้านบน
"เรียกขานเดธไนท์ แวนฮอกว์! เรียกขานแวมไพร์ลอร์ด โทริ! "
การอัญเชิญแวนฮอกว์ และ โทริ!
"นายท่าน ข้าต้องการสู้."
"สถานที่แห่งนี้มีกลิ่นอายของคาวเลือด ไม่มีอะไรที่จะทำให้สดชื่นเหมือนเลือดที่ฟุ้งอยู่ในอากาศ มันดีกว่าน้ำหอมชั้นยอดเสียอีก "
 “คว๊ากกกก!”
ไวเวิร์นตัวนี้ก็ตกอยู่ในความทุกข์ทรมานมากขึ้นไปอีก ด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาบนหลังของมัน
วีดให้คำสั่งง่ายๆแก่พวกเขา
"สู้ เท่าที่พวกแกต้องการ"
หลังจากที่พวกเขาได้ต่อสู้ที่ภูเขายูโรกินะ เขาต้องคอยกำกับดูแลและคอยออกคำสั่งพวกมันอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ทั้งสองตนต่างมีประสบการณ์การต่อสู้ในทุกรูปแบบกับวีด
ก่อนที่น้ำหนักของวีดจะทำให้ไวเวิร์นหมดสภาพ แวนฮอกค์ และโทริก็กระโดดออกมา แวนฮอกค์บินไปรอบๆ ทำการต่อสู้ด้วยการอัญเชิญม้าปีศาจของเขาออกมา ในขณะที่โทริแผ่ผ้าคลุมไหล่ของเขา และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับความมืด  โทริจะปรากฏออกมาจากที่ใดก็ได้ เช่นโผล่มาที่ด้านหลังของพวกอัศวินไวเวิร์นแล้วขย้ำเขี้ยวของเขาลงไปบนคอที่ไม่มีการป้องกัน
วู๊อออซ!
ตระกูลแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์นั้นเชื่อฟังโทริและได้ถูกอัญเชิญมาในรูปของค้างคาว แล้วจู่โจมอัศวินไวเวริ์นเหล่านั้น ไวเวิร์นไม่ได้กลัวค้างคาว แต่การเคลื่อนไหวของพวกมันถูกขัดขวางจากฝูงค้างคาวที่ยึดเอาทุกหนแห่งบนตัวของพวกไวเวิร์น และดูดเลือดของพวกมันออกไป
"มันคือโทรลหิมะตัวนั้น ถอยทัพ กลับฐาน! "
"พวกเราจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกองกำลังที่มากกว่าเดิม!"
ในที่สุดพวกอัศวินไวเวิร์นก็ถอยกลับ แวนฮอกค์ และโทริตามไล่ล่าและกลับมาด้วยจำนวนของที่ลูทมามากมายเป็นกอบเป็นกำ
ไวเวิร์นตัวนั้นที่ถูกใช้งาน ร่วงลงกระแทกกับพื้นโดยที่วีดยังคงขี่อยู่ด้านบน
ตูมมมมม!
การผสมผสานระหว่างน้ำหนักของโทรลหิมะ และไวเวิร์น ทำให้เกิดรอยแยกผ่านบนพื้นดินขณะที่พวกเขาตกลงมากระแทก
เนื่องจากการได้รับบาดเจ็บอย่างมหาศาลของไวเวิร์นที่ได้รับมาระหว่างการต่อสู้ บวกกับอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมจากการกระแทก จึงทำให้ไวเวิร์นกลายเป็นแสงสีเทาและจางหายไป
ค่าพลังชีวิตของวีดลดลงอย่างมาก แต่ต้องขอบคุณการรักษาของเหล่านักบวชด้วยการใช้มือของพวกเขาส่งถ่ายเวทย์มนต์ออกมาให้ เขาฟื้นคืนได้ในทันที นักบวชขั้นตัน และทุกคนที่สามารถใช้เวทมนตร์รักษาได้รีบกระโจนออกมาหาวีด และเชื่อมต่อพลังการรักษาด้วยเวทย์ที่ออกมาจากมือของพวกเขาส่งตรงไปยังตัวของวีด
ผู้เล่นยังคงพรั่งพรูออกมาจากทางออกทั้งสองจุดอย่างต่อเนื่อง การเคลียร์พุ่มไม้ในป่ารก ในขณะที่พวกเขาหลบหนีออกไปจากป้อมปราการเซราบ็อร์ก ช่วงเวลานี้ผู้ลี้ภัยหลายพันคนได้ออกจากอุโมงค์เรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าพวกอัศวินไวเวิร์นจะถอยกลับไป มันก็ไม่มีเวลามากนัก กลุ่มอื่นๆของศาสนานี้กำลังมุ่งหน้ามายังพวกเขา
"โทริ, แวนฮอกค์, พวกแกสะใจพอไหม?"
"กลิ่นคาวเลือดมันช่างอร่อย. ความกระหายของข้ายังไม่อาจดับลงได้ "
"ข้าต้องการที่จะสู้ต่อไป"
วีดเก็บดาบปีศาจของเขาลงฟัก และเก็บเอาหอกยาวที่เขาคว้ามาจากอัศวินไวเวิร์น
เพราะแขนของเขายาวมาก และร่างกายของเขาก็ใหญ่กว่าเดิมมาก วีดจึงสามารถออกแรงได้มากขึ้นด้วยการใช้หอกมากกว่าการใช้ดาบ
เขาไม่ได้มีทักษะการใช้อาวุธที่หลากหลายดั่งเช่นเหล่านักดาบ เนื่องจากทักษะการใช้หอกของวีดอยู่ในระดับต่ำ การโจมตีย่อมสร้างความเสียหายได้น้อยตามความเหมาะสม แม้หอกจะมีข้อด้อย แต่หากชั่งน้ำหนักระหว่างดาบที่ให้ค่าความเสียหายจากการโจมตีเป็นแบบพื้นฐานทั่วไป กับค่าสถานะความแข็งแกร่งของวีดที่อยู่ในร่างโทรลหิมะที่จะเพิ่มค่าความเสียหายได้มากขึ้น ดังนั้นวีดคิดว่ามันคงจะดีกว่ามากที่จะเผชิญหน้ากับพวกเลเวล  200 ต้นๆ จนถึงพวก 200 กลางๆ ด้วยการใช้หอก.
วีดถือหอกไว้ในมือและก้าวย่างไปข้างหน้า บรรดาสาวกของเอ็มบินยูที่มีจำนวนมากกว่า 500คน!
พวกสาวกเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์ มีเพียง พลั่วเล่มยาว หรือ ธนูที่ทำขึ้นมาลวกๆ ดาบ และขวาน ที่สำคัญพวกนี้ไม่มีชุดเกราะสวมใส่เลยสักคน
"แวนฮอกค์  โทริ ไปอยู่แนวหน้า "
"ฝูงชนที่ข้าต้องการ"
"นี่คือเวลาแห่งการดื่มด่ำ."
แวนฮอกค์พุ่งเข้าใส่เหล่าสาวกจากทางปีกด้านข้างด้วยม้าปีศาจของเขา
ไฮย่า ฮี่ ฮี่ห์!
เดธไนท์แวนฮอกค์ได้ควบม้าปีศาจของเขา วิ่งเข้าไปในกลุ่มสาวกเหล่านั้น และฆ่าพวกมัน โทริกับตระกูลแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ของเขาก็ไปประกบข้างหลังพวกสาวก และกัดจมเขี้ยวเข้าที่คอของพวกมัน
แวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ต้องดื่มเลือดมนุษย์เพื่อช่วยในการเติบโตอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกในช่วงชีวิตสำหรับการที่มีโอกาสให้เหล่าแวมไพร์ได้ทำเช่นนั้น เนื่องจากโอกาสดังกล่าวนั้นมีน้อยและห่างไกลเสียเหลือเกินในระหว่างที่พวกมันได้เริ่มติดตามวีด
"ถ้ามีเพียงพวกสาวกแค่ 500 คน มันง่ายดายนัก"
แวนฮอกค์  และโทริ มีลักษณะเฉพาะตัวตามแบบของอันเดธ คือ การมีความแข็งแกร่งที่ไร้ขีดจำกัด ไม่ว่ามันจะใช้เวลานานเท่าไหร่ พวกมันก็สามารถดูแลจัดการมันจนได้ แต่ตอนนี้ เวลาไม่ได้อยู่เคียงข้างพวกเขา ก่อนที่วิหารเอ็มบินยูจะส่งกองกำลังมามากขึ้น พวกเขาจึงต้องรีบกำจัดพวกสาวกเหล่านี้ และผลักดันให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมากหลบหนีไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะไม่ใช้มัน แต่ ... ทักษะประติมากรรมวินาศ! เปลี่ยนทุกสิ่งให้เป็นพลัง! "
วีดหยิบเอาประติมากรรมชั้นดีออกมา  'พ่อค้าปีศาจผู้ชั่วร้ายที่กำลังถือไม้ทุบตี' เขานำมันออกมาจากกระเป๋าเป้สะพายหลังและทำลายมัน
ประติมากรรมวินาศถูกใช้งาน
ความเจ็บปวด! ความทุกข์ทรมานจากการทำลายประติมากรรมชั้นดี
ค่าสถานะทางศิลป์ลดลง 5 อย่างถาวร ค่าชื่อเสียงลดลง 100
ค่าสถานะทางศิลป์เปลี่ยนเป็นค่าความแข็งแกร่งโดยคำนวณที่อัตรา 1: 4 ส่วน เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
การผนวกค่าความแข็งแกร่งเพิ่มเติมเข้าไป ได้ถูกนำไปใช้กับร่างกายที่ไม่คุ้นเคยเนื่องจากการเป็นประติมากรรมจำแลง จึงถูกปรับลดลง 30%
ค่าสถานะทางศิลป์ของคุณสูงเกินไป และค่าความแข็งแกร่งดั้งเดิมนั้นต่ำเกินไป การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิกขึ้นในทันที
ค่าความแข็งแกร่ง 870 ถูกเปลี่ยนเป็นทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงเลเวล 8 'กระบวนท่าตบเกรียน'(Crushing Blow’)
ศัตรูจะถูกอัดกระเด็นไปไกล ถ้าคุณโจมตีอย่างแม่นยำด้วยการใส่พละกำลังเต็มอัตราศึก
เพิ่มโอกาสของศัตรูที่จะตกอยู่ในภาวะอัมพาตและภาวะสับสน
ค่าความแข็งแกร่ง 950 ถูกเปลี่ยนเป็นทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงเลเวล 6 'กระบวนท่าหอกทะลวง'
การโจมตีที่ยิ่งใหญ่นี้จะทำลายเกราะและโล่ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสมบูรณ์
ค่าความแข็งแกร่ง 1,430 ถูกเปลี่ยนเป็นทักษะความเชี่ยวชาญขั้นสูงเลเวล 9 'เข้มแข็งไร้เทียมทานฉับพลัน '(Momentary Herculean Strength)
ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยทักษะนี้มันจะทำให้ค่าความแข็งแกร่งสูงสุดของท่านเพิ่มขึ้นสามเท่า ในยามที่ต้องใช้พละกำลังในปริมาณมหาศาล
ค่าความแข็งแกร่ง 690 จะช่วยให้คุณลักษณะจำเพาะของโทรลหิมะโดดเด่นมากขึ้น
ความหนาวเย็นจะส่งผลในระยะมากถึง 15 เมตร
ความเชี่ยวชาญของทักษะการแกะสลักเพิ่มขึ้น

วีดเสริมความแข็งแกร่งของโทรลหิมะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยประติมากรรมวินาศ ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งเดียวที่สมควรจะไว้ใจได้ โดยการใช้กำลังอย่างถูกต้อง เขาสามารถกระโดดเผ่นออกจากสนามรบได้อย่างง่ายดาย!
"แจ๋ว ได้เวลาสนุกล่ะทีนี้"
วีดควงหอกของเขาไปมา หอกที่รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับสัดส่วนร่างกายของเขา หอกนั้นเบาราวกับขนนก เขารู้สึกว่าเขาสามารถทำอะไรก็ได้
 “ย่าห์!”
ขณะที่วีดควงหอกของเขา เขาก็กระโดดไปทางปีกข้างของกลุ่มสาวก
พลั๊ว เพี๊ยะ เปรี้ยง!
ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงหอก เหล่าศัตรูปลิวถอยหลังไปหลายเมตร! แต่ ณ เวลาเดียวกัน พวกสาวกก็ประเดประดังใส่อาวุธทุกประเภทที่มี โดยเล็งเป้าหมายไปยังโทรลหิมะ เหล่าศัตรูอยู่รายล้อมรอบตัวเขา ฉะนั้นแล้วการป้องกันตัวคงเป็นไปไม่ได้
แต่การป้องกันตัวนั้นไม่ได้มีในพจนานุกรมของโทรลหิมะ มีแต่คำว่าโจมตีเท่านั้น วีดกวาดศัตรูออกไปด้วยการเหวี่ยงหอกของเขาไปรอบๆ เหล่าสาวกที่อยู่ในระยะหอกของวีด กลายเป็นแสงสีเทา
การโจมตีของวีดนั้นเป็นอะไรที่ทื่อด้าน กล้าหาญและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้!
บรรดาสาวกผู้อ่อนแอไม่สามารถสะกิดวีดผู้มีทั้งเลเวล และความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสูง มันเหมือนกับการเฝ้าดูผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ใช้กำลังปราบปรามผู้อ่อนแอ! สายตาของผู้เล่นใหม่เลเวลต่ำเบิกกว้างเท่าที่จะกว้างได้และเฝ้าดูด้วยความไม่เชื่อ
"อา, ฉันก็อยากเป็นแบบนั้นบ้างจัง"
"โทรลหิมะ โคตรเท่ห์เลย!"
"มันต้องใช้เวลานานสักเท่าไหร่ที่ฉันจะเพิ่มเลเวลแล้วออกไปสู้ได้แบบนั้น?"
การเฝ้ามองดูวีดทำให้ผู้เล่นเกิดขวัญและกำลังใจ บางคนถึงกับลืมเกี่ยวกับการหลบหนีของพวกเขาไปชั่วขณะ และเริ่มกินถั่วลิสงขณะเฝ้าดูปรากฏการณ์นี้
ซอยูนเริ่มตอบสนองต่อบรรยากาศอันน่ากลัวของเบอร์เซิร์กเกอร์ บรรดาสาวกที่อยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงของเธอถูกกวาดล้างด้วยการระเบิดของมานา และจางหายไป
"ไป!"
"ออกไปเพิ่มเลเวลของพวกเราให้เร็วเพื่อจะได้กินอาหารรสเลิศและหาหนุ่มๆกัน!"
การหลบหนีอันยอดเยี่ยม!
ในขณะที่วีด ซอยูน และผู้เล่นคนอื่น ๆ หยุดยั้งบรรดาสาวกของเอ็มบินยู  พวกเขาต้องหนีไปให้ไกลเท่าที่จะเป็นไปได้. เหล่าผู้เล่นและพวก NPC กำลังออกมามาทีละคนจากทางเดินใต้ดินและยังคงหลบหนีอยู่เหนือเนินเขา
ผู้อยู่อาศัยในป้อมปราการเซราบ็อร์กที่หนีรอดมาได้ พวกเขาต่างซาบซึ้งกตัญญูอย่างสุดซึ้ง
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 34
ผู้อยู่อาศัยเหล่านี้ต่างติดค้างในตัวคุณ พวกเขาจะเป็นสิ่งยืนยันในกิตติศัพท์ของคุณ
ความสนิทสนมกับผู้อยู่อาศัยในอาณาจักรโรเซนไฮม์ดีขึ้น

ข้อความเหล่านี้เด้งขึ้นมาบนหน้าต่างข้อความของวีด
จำนวนผู้ลี้ภัยมีเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ตอนนี้มีเพียงหลายพันคนที่สามารถผ่านทางเดินใต้ดินออกมาได้ และปีนขึ้นไปบนเนินเขา วีดต้องซื้อเวลามากขึ้นสำหรับผู้ลี้ภัยส่วนที่เหลือทั้งหมดให้ไปยังพื้นที่ปลอดภัย
'ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทนต่อเรื่องนี้ได้อีกนานเท่าไร'
การมองออกไปทางป้อมปราการเซราบ็อร์ก เขาเห็นว่ามันถูกปกคลุมไปด้วยไฟนรกและกำลังลุกไหม้โชติช่วง กองกำลังเอ็มบินยูจะตามล่าราชาและอัศวินของเขา หลังจากนั้นก็จะค้นพบผู้ลี้ภัย มันคงเป็นเพียงเรื่องของเวลา จนกว่ากองทัพใหญ่ของวิหารเอ็มบินยูจะมาถึงด้านหลังผู้ลี้ภัยที่วีดกำลังนำอยู่
"พี่สาวจ๋า!"
ในความสับสนวุ่นวาย ผู้เล่นใหม่ผู้หนึ่งมือของเขาลื่น และคว้าจับอยู่บนขอบหิน และพยายามที่จะดิ้นรนออกมาจากสถานที่ที่เหล่าสาวกได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับขวานของเขา
"ความตายเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับผู้ที่ปฏิเสธจะติดตามวิหารเอ็มบินยู!"
สำหรับผู้เล่นมือใหม่นั้นพวกสาวกไม่แตกต่างไปจากมอนสเตอร์ระดับบอสเลย
 “แชด!”
ช่วงเวลาที่พี่สาวร่ำร้องออกมาจากการได้เห็นสิ่งนั้น ภาพที่ปรากฏออกมาให้เห็นนั้นคือภาพของสาวกผู้หนึ่งกำลังเงื้อขวานแล้วฟันลงมากลายเป็นแสงสีเทา และจางหายไป ด้านหลังจุดที่สาวกผู้นั้นยืนอยู่คือโทรลหิมะที่กำลังถือหอกอยู่ในมือ
วีดผู้ที่กำลังต่อสู้อยู่ในแนวหน้าเห็นเด็กชายแชดกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาวิ่งไปที่เกิดเหตุด้วยฝีเท้าที่ไวสุดขีด
"กรุณารีบหน่อย."
วีดจับมือของแชด และยกเด็กผู้ชายคนนี้ขึ้น เหล่าผู้เล่นที่กำลังหลบหนีต่างอยู่ในความวุ่นวายเมื่อได้เห็นฉากนี้
"ขอบคุณฮะ."
"ไม่มีปัญหา. ฉันทำในสิ่งที่ฉันต้องทำ
ไม่มีอาการหลอกลวง หรือเสเสร้งใดๆที่ปรากฏออกมาจากใบหน้าของโทรลหิมะที่ดูโหดเหี้ยมนั้น
'วิ้ว! นี่มันสามารถเป็นหายนะได้เลย!'
วีดไม่เคยพลาดในแจปแทม! เขาพบว่าตัวเองโชคดีที่เห็นไพลินตรงจุดที่แชดหล่นลงมาก่อนที่คนอื่นจะสังเกตเห็น
*****
บรรดาผู้ลี้ภัยไม่ได้เคลื่อนตัวเร็วพออย่างที่วีดต้องการ พวกผู้เล่นใหม่สามารถออกจากระบบได้ถ้าพวกเขาเคลื่อนย้ายให้หนีไกลห่างออกไปจากป้อมปราการเซราบ็อร์ก และเขตสงคราม ดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลแค่เหล่า NPC ของป้อมปราการเซราบ็อร์กเท่านั้น และท่ามกลางฝูงชนเหล่านี้มีเด็กและผู้สูงอายุอยู่ค่อนข้างมาก  ไม่เพียงแค่ค่าความอดทนของพวกเขานั้นต่ำเท่านั้น มันยังมีเรื่องของขวัญกำลังใจของพวกเขามาเกี่ยวด้วย ดังนั้นความเร็วในการเคลื่อนตัวจึงช้า.
ถึงแม้ว่าซอยูน, แวนฮอกค, โทริ และผู้เล่นคนอื่น ๆ กำลังต่อสู้ป้องกันจากสาวกเอ็มบินยู การแสดงออกของวีดก็ยังดูมืดหม่น
"จุดจบของป้อมปราการเซราบ็อร์กนั้นคงใกล้เข้ามาแล้ว"
จากระยะไกลก็สามารถเห็นเปลวไฟและควันที่ลอยสูงขึ้นมาจากป้อมปราการเซราบ็อร์ก กองกำลังป้องกันคงทำได้เพียงถอยกลับจากการทำลายล้างทั้งหมดทั้งมวลนั้น และบางส่วนของพระราชวังยังมีเสียงโครมครามเมื่อมันเริ่มยุบตัวลง และจากระยะทางไกล ๆกองกำลังของวิหารเอ็มบินยูเหมือนกำลังมุ่งหน้ามายังวีด และเหล่าผู้ลี้ภัย
"พวกมันส่งฝูงเคลาคลอปออกมาในครั้งนี้!"
มอนสเตอร์นี้เป็นแรดขนาดมหึมา ความสูงของพวกมันคือ 6 เมตร และเลเวลของพวกมันอยู่ที่ประมาณ 360 ที่ด้านหลังของพวกเคลาครอปจะมีหอคอยขนาดย่อม มีพลทหารของเอ็มบินยูนั่งอยู่
นี่คือกองทหารหน่วยรบเคลาคลอปที่ถูกส่งออกไปโจมตีผู้ลี้ภัยหลังจากได้รับรายงานจากพวกอัศวินไวเวิร์น
"ฆ่าพวกมันให้หมด พวกที่ต่อต้านวิหารเอ็มบินยู และกำลังหลบหนี!"
พลธนูที่นั่งอยู่บนเคลาคลอปเตรียมคันธนูของพวกเขาพร้อมแล้ว
วีดก้าวไปข้างหน้าเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา
"จะไม่มีพวกแกแม้สักคนเดียวที่จะผ่านไปได้ ถ้าแกไม่สามารถผ่านข้าไปได้"
ด้วยการที่วีดมีค่าความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นมหาศาล เขาจึงกล้าที่จะเป็นเหยื่อล่อให้พวกมันมาโจมตีเขา
ปุก ฟิ้วฟ้าว!
ในการตอบรับ ลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนบินตรงมายังวีด และทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำด้วยห่าธนู
วีดสะบัดหอกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยมือทั้งสองข้างของเขา เหมือนกับในหนัง ลูกธนูกระเด้งกระดอนจากหอกของเขา
เคร้งแคร้ง!
แต่ลูกธนูยังคงหลุดลอดผ่านช่องว่างและเจาะร่างกายอันใหญ่โตของโทรลหิมะ
คุณถูกลูกธนูยิงใส่
ค่าพลังชีวิตลดลง 275
คุณถูกลูกธนูยิงใส่
เกราะของคุณลดความเสียหายได้บางส่วน
ค่าพลังชีวิตลดลง 89
คุณถูกลูกธนูยิงใส่
เกราะของคุณลดความเสียหายได้บางส่วน
ค่าพลังชีวิตลดลง 327

........
ร่างของวีดพรุนเหมือนเม่น!
ร่างกายของคุณได้ต้านทานลูกธนูจากศัตรูระดับสูง ความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 2

วีดประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจของศัตรู มันต้องขอบคุณค่าพลังชีวิตของโทรลหิมะที่มันมากจนดูเป็นเรื่องไร้สาระ ทำให้เขายังคงมีชีวิตรอดอยู่ แต่ถ้ามีสถานการณ์ไหลไปในทิศทางอื่น มันอาจทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปจนน่าหวาดหวั่น
มีทักษะหลายทักษะที่มันจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถฟันลูกธนูกลางอากาศได้ด้วยดาบหรือป้องกันลูกธนูเหล่านั้นด้วยการสร้างกำแพง วีดคงทำได้แค่เพียงเสียใจกับการที่เขาไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะดังกล่าวนั้น
ถึงแม้ว่าจะมีทักษะเหล่านั้น มานาของเขาก็ต่ำเกินไปที่จะใช้มันได้
"กระทืบพวกมัน!"
เหล่าเคราคลอปกระทืบเท้าลงบนพื้น ขณะที่พวกมันพุ่งเข้ามาหาพวกเขา
บรรดา NPC และเหล่าผู้เล่นเริ่มสูญเสียความกล้าหาญของพวกเขา
"อา เราต้องต่อสู้กับไอ้สิ่งนั้นจริงๆหรือ?"
"ฉันกลัว."
นอกเหนือจากในสนามรบแล้ว การวิ่งพุ่งเข้าไปโจมตีนั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยากและห่างไกล เหล่าผู้เล่นเคยได้แต่เพียงสู้กับมอนสเตอร์ธรรมดาเท่านั้นจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะถูกครอบงำ
 “หัตถ์แห่งการรักษา!”
พวกนักบวชรีบทำการรักษาวีดอย่างเร่งด่วน
วีด, แวนฮอกค์,โทริ และซอยูน ยืนอยู่เคียงข้างกันบนเนินเขา
"วันแห่งความสุขสันต์สำหรับการต่อสู้ ฉันจะต่อสู้ด้วยหัวใจของฉัน ทุ่มเททุกอย่างในวันนี้. "
และด้วยเหตุนี้ วีดเคลื่อนถอยหลัง
"ยามเมื่อข้ายังมีชีวิตอยู่ และอยู่ในอาณาจักรคัลลาร์มอ ข้าเคยมีการต่อสู้แบบนี้ในทุกวัน"
แม้แต่แวนฮอกค์ก็ก้าวถอยหลัง
ซอยูนไม่ต้องการยืนโดดเดี่ยวตามลำพังและดึงดูดความสนใจของศัตรู ดังนั้น เธอจึงเคลื่อนตัวถอยหลังด้วย
 “กร๊วม อึก อึก อึก.”
โทริ ผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับการพุ่งชนของศัตรูโดยอาศัยเขี้ยวของเขากลับไม่ได้สังเกตเห็นว่าตอนนี้ทุกคน ได้ถอนตัวถอยออกมา แต่การหนีช่างเป็นคำถามที่ขัดกับศักดิ์ศรีของแวมไพร์ลอร์ด
และฝูงรบค้างคาวแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์กำลังบินอยู่รอบๆ มันเป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้
"เลือด! ข้าโหยหาเลือด! "
ขณะที่โทริวิ่งตาลีตาเหลือกไปข้างหน้า เขาคลี่เสื้อคลุมของตัวเองและกระโดดสูงขึ้นไปด้านบนของพวกเคลาครอป
 “แวมไพร์
"จับแวมไพร์มาเป็นเครื่องสังเวยแด่วิหารเอ็มบินยูคงจะดีไม่น้อย ไม่มีอะไรที่มีค่าเกินกว่าจะนำมันมาบูชายันต์ สำหรับการทำลายล้างทวีปนี้อย่างสมบูรณ์! "
พลธนูของเอ็มบินยูยิงธนูไปทางโทริ และชาแมนร่ายคำสาปและทำการผสานเวทย์มนต์
"พายุ คมมีด!( Blade Tornado)"
โทริใช้สกิลของเขา คมดาบดาบโลหิตทำลายล้างพื้นที่โดยรอบ สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับฝูงเคลาครอปที่อยู่ภายในระยะโจมตี ในเวลานั้นค่าพลังชีวิตของวีดก็ฟื้นฟูและค่าพลังกายก็ฟื้นคืนกลับมาพอดี
"ไปกันเถอะ แวนฮอว์ค"
วีดชูหอกของเขาขึ้นมาและวิ่งไปข้างหน้า ฝูงเคลาครอปพยายามเหยียบเขาและ ทหารของเอ็มบินยูก็โจมตีด้วยเวทมนตร์ และลูกธนู เนื่องจากขนาดอันใหญ่โตของเขา วีดจึงไม่สามารถหลบการโจมตีทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่คอยระวังความเสียหายอย่างรุนแรงต่อค่าพลังชีวิตเขาเท่านั้น แต่ด้วยค่าความแข็งแรงเหนืออื่นใด เขาโค่นเคลาคลอปด้วยการทุบไปที่ขาหน้าของพวกมัน
 “โอ๊ค-คคคค!
เสียงคำรามลั่น พร้อมกับเหล่าเคลาคลอปที่มีขนาดกายใหญ่โตกำลังล้มลง!
ซอยูนใช้ทักษะเบอร์เซิกเกอร์ของเธออย่างจริงจังและเริ่มต่อสู้ ทุกครั้งที่เธอเริ่มสู้ เธอจะจริงจังสุดๆ อาชีพของเธอพิเศษตรงที่เมื่อเริ่มแล้วยากที่จะหยุด จนถึงตอนนี้มันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำการอุ่นเครื่องก่อน แต่เวลานี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับทักษะเบอร์เซิกเกอร์ที่เปิดใช้งานอยู่
เธอเคลื่อนผ่านเข้าไปในสนามรบ เผยพลังที่เหลือเชื่อของเธอไม่ว่าเธอจะขยับไปทางไหน เหล่าเคลาคลอป และทหารของเอ็มบินยูก็จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแสงสีเทา
แวนฮอกค์ขี่ม้าปีศาจของเขาบั่นคอเหล่าทหารด้วยการเคลื่อนไหวของเขา โทริบินอยู่ด้านบนฝูงเคลาคอป กับกองกำลังแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์ ยามเช้ายังมาไม่ถึง ดังนั้น แวมไพร์ยังคงมีความแข็งแกร่งอันน่าตกตะลึงในการจัดการกับพวกมนุษย์
ฝูงเคลาครอป และพลธนูของเอ็มบินยูถูกกักไว้ด้วยฝีมือของโทริจนไม่สามารถสู้กับคนอื่นๆได้
"การเอ่ยถ้อยคำบาปเหล่านั้นต้องตาย"
"แวมไพร์จะต้องถูกปลดปล่อยด้วยเอ็มบินยู ให้พวกเรานำพาไปสู่วิถีทางที่ถูกต้อง!"
บรรดาผู้เล่นที่ยังไม่ออกจากระบบ ให้การสนับสนุนด้วยเวทมนตร์และลูกธนู และเหล่านักรบต่อสู้อย่างกล้าหาญกับอันตรายด้วยเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะถูกฆ่าตายโดยอุ้งเท้าของเหล่าเคลาคลอป และลูกธนูของพลธนูก็ตาม แต่พวกเขายังต่อสู้จนวาระสุดท้าย
"แม่ ผมกำลังออกทีวี"
"ผมจะโม้ให้เพื่อนของผมฟังว่าผมตายจากการต่อสู้เคียงข้างวีด."
อา! ฉันสามารถเอาไอเทมนั้นมาได้!
พลังเวทย์ระเบิดไปรอบตัวพวกเขาและลูกธนูก็พรั่งพรูราวปับสายฝนที่กำลังโปรยปราย
วีดไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พลธนู กลับกัน เหยื่อของเขามีเพียงพวกเคลาคลอปเท่านั้น
ครืน! ครืน! คลืน!
คาลาคลอปตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาวีดและพยายามจะเหยียบตัวเขา

เข้มแข็งไร้เทียมทานฉับพลันถูกเรียกใช้งาน
ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น

ว๊ากกกกกก!”
วีดจับไปที่ขาของเคลาคลอบแล้วพลิกตัวมันไปอีกด้าน เมื่อใดก็ตามที่มีเคลาคลอปที่ตัวใหญ่เป็นพิเศษล้มลง มันก้จะทำให้พวกพลธนูและเหล่าชาแมนตายแถมมาด้วย จึงทำให้เหล่าศัตรูนั้นจำนวนลดลงไปมาพอสมควร
ในสงครามหรือการปิดล้อม ฝูงเคลาคลอปถูกใช้ให้มีบทบาทสำคัญในการต้านผลทหาร พวกมันมีความสามารถในการลดขวัญกำลังใจของกองทัพ ดังนั้นพวกมันสามารถถูกนำมาใช้งานได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ ในครั้งแรกฝูงเคลาคลอปจะเริ่มต้นด้วยการเอาตัวมันพุ่งเข้าใส่ ร่างกายของบรรดาผู้เล่นจะไร้ซึ่งวิญญาณการต่อสู้ ตัวแข็งทื่อ และถูกฆ่าตาย โดยไม่สามารถหลบหนีได้!
แต่วีด, ซอยูน ,แวนฮอกค์ และโทริเคยได้ต่อสู้กับมังกรโครงกระดูกมาก่อน ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาที่มีอยู่ ลำพังแค่บางสิ่งที่เหมือนกับพวกเคลาคลอปคง ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาสูญเสียจิตใจได้
จบตอน
ผู้แปล : Smith Rex

Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

12 ความคิดเห็น:

  1. เหนื่อยแทนเลย ผู้อพยพจำนวนมาก สุดท้ายรอดเกินครึ่งก็เก่งแล้ว

    ตอบลบ
  2. ไปช่วยเด็กเพราะตามองเห็น เพชร น่าดีใจแทนเนอะ แชดเอ้ย 555

    ตอบลบ
  3. สวัสดีปีใหม่ค่ะ แอดชิน ผู้แปลทุกท่าน และผู้อ่านทุกคน เริ่มต้นปีใหม่แล้ว ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขนะคะ ร่างกายแข็งแรง เงินทองไหลมาเทมา(ซื้อล็อตเตอร์รี่อย่าลืมถ่ายวีดีโอตอนซื้อ พร้อมเซ็นชื่อกำกับ) อุปสรรคใด ๆ ขอให้แคล้วคลาดไป ขอให้มีแต่สิ่งดี ๆ ทั้งปีเลยค่ะ

    ตอบลบ
  4. แปลตอนแรกของปีใหม่..ขอให้ทีมแปลทุกท่านมีความสุขรับปีใหม่ ขอขอบคุณสำหรับผลงานแปลเรื่องนี้ทุกๆตอน^_^

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณมากๆครับ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณค่า สนุกสุดๆเลย

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...