เล่ม 25 ตอนที่ 9 : การรุกรานของวิหารเอ็มบินยู แปลโดย SR

 “จงตายไปพร้อมกับราชาของแกซะ”

“ฆ่าพวกขุนนางให้หมด”

“นี่คือพระประสงค์ของเทพแห่งเอ็มบินยู ฆ่าพวกนอกรีตที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับวิหารเอ็มบินยูซะ!”

บริเวณรอบๆเมืองเซราบอร์ก ปรากฏกองทัพมากกว่า 400,000 นาย

การปรากฏตัวของพวกกบฏ! ความสงบสุขของหมู่บ้านรอบๆและกองทัพนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะวิหารเอ็มบินยู พวกนั้นอ้างสิทธิ์ในการโจมตี ในส่วนของอาณาจักรโรเซนไฮม์ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะชูธงของวิหารเอ็มบินยูอยู่ก็ตาม

กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเหล่าผู้เล่นที่อยู่ในป้อมปราการเซราบอร์กและอาณาจักรโรเซนไฮม์ในทันที

ติ๊ง!

วิหารเอ็มบินยูได้เข้าโจมตีเมืองหลวงของอาณาจักรโรเซนไฮม์ ป้อมปราการเซราบอร์กอย่างไม่ทันตั้งตัว การปิดล้อมเกิดขึ้นทั่วทั้งเมือง และอุปกรณ์เคลื่อนย้ายหรือเทเลพอร์ทต่างๆถูกรบกวนด้วยเวทย์มนต์ทำให้ไม่สามารถทำการเคลื่อนย้ายได้

 “เกิดอะไรขึ้นเนี้ย?”

“มารบกวนอะไรตอนกลางดึกเนี้ย?”

เหล่าผู้เล่นที่กำลังซื้อของเพื่อเตรียมตัวสำหรับการล่าในวันพรุ่งนี้ ต่างรีบเร่งมาที่กำแพงปราสาท เบื้องหลังกำแพงป้อมปราการเซราบอร์กนั้นเต็มไปด้วยกองทัพของวิหารเอ็มบินยู

 “นี่จะเกิดสงครามจริงๆใช่มั้ย?”

“พวกเราจะปลอดภัยมั้ย? แล้วพวกทหารป้องกันเมืองล่ะ?”

เหล่าผู้เล่นไม่สามารถซ่อนความหวาดกลัวในนัยน์ตาของพวกเขาเมื่อมองไปรอบๆป้อมปราการได้เลย และอย่างที่รู้กันว่าเมืองหลวงแห่งนี้ไม่ได้เตรียมการสำหรับการโดนปิดล้อม แม้แต่ประตูเมืองเองก็พึ่งปิดอย่างเร่งรีบหลังจากที่กองทัพโผล่ออกมา ทหารส่งข่าวเองก็รีบร้อนจนเกราะที่สวมอยู่ยังหลุดลุ่ย

 “ฉันพึ่งสร้างบ้านในเซราบอร์กเสร็จเองนะ”

“ฉันมีกิจการอยู่ที่จัตุรัสด้วย!”

“กองทัพของอาณาจักรจะไล่พวกนั้นไปได้มั้ยนะ?”

“ไม่เคยมีกองทัพของอาณาจักรต้านทานกองทัพของวิหารเอ็มบินยูได้เลย”

“งั้น... จะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าเมืองถูกยึด?”

เหล่าผู้เล่นต่างตกอยู่ในความกังวล ถ้าหากเป็นเพียงการโจมตีของมอนสเตอร์ กองทัพของอาณาจักรจะสามารถไล่พวกมันไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนั่นหมายความว่ามันไม่ง่ายเลยที่มอนสเตอร์จะสามารถโจมตีป้อมเซราบอร์กได้ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป วิหารเอ็มบินยูนั้นมีทั้งชาแมน, พรีสต์, ซัมมอนเนอร์, วอร์ล็อค และอัศวินแห่งความมืด แต่ไม่ใช่เพียงเท่านี้ สุดสายตาของพวกเขานั้นยังเต็มไปด้วยฝูงมอนสเตอร์ที่ถูกฝึกมาอย่างดีและเหล่าสาวกที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

สาวกแห่งเอ็มบินยู! พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านของอาณาจักรโรเซนไฮม์มาก่อน เลเวลขั้นต่ำของพวกเขาอยู่ที่ 200 และด้วยความศรัทธาที่พวกเขามีต่อเทพแห่งวิหารเอ็มบินยูนั้น พวกเขาจึงถูกครอบงำโดยสมบูรณ์ ทำให้พวกเขาไม่เกรงกลัวความตายและด้วยความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ทำให้เลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภายใต้แสงจากดวงจันทร์นั้นเผยให้เห็นรูปร่างของมอนส์เตอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำความเสียหายได้อย่างมหาศาลในสงครามปิดล้อมแบบนี้ นอกจากนี้ยังมี นักบวชระดับสูงลำดับที่ 9 ชื่อเบลโลนี่ จากนิกายที่ 11 ของมหาวิหารเอ็มบินยูอีกด้วย

กองทัพของวิหารเอ็มบินยูที่เหล่าผู้เล่นเคยเห็นในโทรทัศน์ ตอนนี้ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

“การปรากฏตัวของวิหารเอ็มบินยูต้องเกี่ยวข้องกับพวกที่ไม่เชื่อในเทพแน่ๆเลย”

“พวกเขาจะโจมตีพวกเราไปพร้อมกับกำลังทหารของอาณาจักรโรเซนไฮม์จริงๆเหรอ?”

“พวกเขาไม่ปราณีพวกผู้เล่นใหม่เลย นี้มันเป็นกลุ่มที่ทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางทางชัดๆ”

ความตื่นตระหนกแพร่ออกไปสู่ผู้คนที่อยู่หลังกำแพงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่หน้าต่างข้อความเรื่องการถูกล้อมผู้คนก็วิ่งหนีกันบนถนนและจัตุรัสการค้าอย่างอลหม่าน ในพระราชวังของอาณาจักรโรเซนไฮม์ เหล่าทหารและอัศวินที่เตรียมพร้อมรบได้ออกมาจากกำแพงวัง

 “พวกเขาจะไว้ชีวิตฉันมั้ยถ้าฉันยอมแพ้แล้วไปเป็นพวกกับวิหารเอ็มบินยู?”

“คุณสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมกับฝูงคนด้านนอกและปลอดภัยอยู่ตรงนั้นได้ แต่มันค่อนข้างจะเป็นตัวเลือกที่เลวร้ายที่สุดเลยล่ะ”

ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้เล่นหลายคนในทวีปกลางที่อยู่ภายใต้การปกครองของวิหารเอ็มบินยูจากการย้ายข้าง

 “ตอนแรก พวกมันก็ให้ไอเทมกับเวทย์มนต์ของวิหารให้ฟรีอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็ไม่สามารถเดินทางไปอาณาจักรอื่นๆได้และก็เริ่มจะได้รับชื่อเสียงที่ไม่ดี (ชื่อเสีย) หรือไม่ก็ค่าสถานะที่เริ่มเลวร้ายลง ผลสุดท้ายแล้วก็จะไม่สามารถหนีออกจากวิหารเอ็มบินยูได้และกลายเป็นหุ่นเชิดให้พวกเขา” จะยอมตายหรือย้ายข้าง มีเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่เลือกได้!

 “แล้วมันก็กำลังเกิดขึ้นกับพวกเราใช่มั้ย?”

“รอดูไปก่อนว่ากำลังของอาณาจักรโรเซนไฮม์จะตอบโต้วิหารเอ็มบินยูได้รึเปล่า”

 *****

 “ไปดูที่เมืองเซราบอร์กเดี๋ยวนี้ ที่นั่นกำลังเป็นประเด็นกันอยู่!”

“ส่งใครไปได้บ้างมั้ย?”

“มีผู้เล่นหญิงคนนึงชื่อ เลนเดอลิน่า”

“ติดต่อเธอเดี๋ยวนี้!”

ทุกช่องสถานีเริ่มตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน อาณาจักรโรเซนไฮม์กำลังตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากมหาวิหารเอ็มบินยู นี่คือเหตุการณ์ที่หาได้ยากที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยๆ และที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิหารเอ็มบินยู ที่แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งทวีปราวกับไฟป่า และนั่นคือเหตุผลที่ทางสถานีต่างๆให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้ด้วยอารมณ์ในความสนใจอันหลากหลาย

 “ถ่ายทอดสดทันทีที่พร้อม! ทุกๆช่องพร้อมแล้วใช่มั้ย?”

“CTS ออกอากาศไปเมื่อ 20 วินาทีก่อน”

“ฉันมีปัญหากับหัวหน้าเยอะมากหลังจากครั้งล่าสุดที่เราถ่ายทอดสดช้าไป4 นาที. . . ยังไงก็เถอะ รีบออกอากาศให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่ออกอากาศวีดีโอไปก่อนค่อยห่วงเรื่องอื่นทีหลัง รีบติดต่อทีมจัดตารางเวลาด้วยและรีบติดต่อทีมซัพพอร์ทที่มาช่วยได้ด้วย แล้วทำไม ผู้ประกาศข่าวของเรามาช้าอย่างนี้!”

ทุกช่องสถานีเต็มไปด้วยความโกลาหล ระหว่างที่พวกเขาไม่สามารถสับเปลี่ยนรายการออกอากาศเพราะมีการถ่ายทอดสดที่สำคัญกว่าอยู่  พวกเขาเริ่มที่จะนำการถ่ายทอดสดขึ้นจอเพราะว่านี่คือเหตุการณ์ใหญ่ที่วิหารเอ็มบินยูทำการรุกรานเมืองหลวงของอาณาจักรโรเซนไฮม์

แม้แต่สตาฟของ KMC มีเดียเองต่างก็วิ่งวุ่นไปทั่วเหมือนกัน แต่พวกเขาก็มีเหตุผลเหมือนกันในการทำแบบนี้ พวกเขามีทักษะการถ่ายทอดสดในรอยัลโร้ดเป็นพิเศษ และด้วยการที่พวกเขาครอบคลุมไปหลายพื้นที่ ทำให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลได้เร็วและได้รับการยอมรับจากคนดู

 “พวกเราเตรียมการเสร็จแล้ว”

“ระบุที่ตั้งให้คนที่จะเข้าไปถ่ายทอดสดด้วย อย่าลืมทำให้แน่ใจด้วยล่ะว่าสลับการออกรายการเป็นวิดีโอแล้ว จำไว้ด้วยล่ะว่านี่ไม่ใช่การซ้อมเพราะฉะนั้นทำให้มันสมบูรณ์แบบตั้งแต่แรกล่ะ”

นอกจากนี้ KMC มีเดียยังได้รับอนุญาตให้มีรายการถ่ายทอดสดได้ เมื่อการออกอากาศเริ่มขึ้น คนดูต่างเข้ามาดูและเริ่มที่จะโพสต์เกี่ยวกับอาณาจักรโรเซนไฮม์บนบอร์ดในหลายมุมมอง

 “มีคนที่ยังอยู่ในป้อมเซราบอร์กอีกกี่คน?”

“ถ้ารวมพวกเจนกิ้นส์กับร็อดส์ด้วยก็น่าจะประมาณ 20”

ข้อมูลต่างๆเริ่มหลั่งไหลมาที่ KMC มีเดีย ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกผู้เล่นที่ยังคงออนไลน์อยู่อย่างน้อยนิด นักรบและนักเวทย์ต่างสำคัญในสถานการณ์แบบที่มีการรุกรานของวิหารเอ็มบินยู

 “อืม...”

หัวหน้าฝ่ายโปรดิวเซอร์ 1 รู้สึกลังเลเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อำนวยการคัง

“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ในตอนที่มีการถ่ายทอดสดล่ะ?”

“ก่อนหน้านี้ชินเฮมินมาที่โต๊ะผมแล้วบอกอะไรบางอย่าง. . .”

“แล้วเธอบอกว่าไงล่ะ?”

“เธอบอกว่าเทพสงครามวีดตอนนี้อยู่ที่เมืองเซราบอร์กแล้วครับ”

“คุณแน่ใจนะ?”

เมื่อเหล่าสตาฟของ KMC มีเดียได้ยินว่าเทพสงครามวีดนั้นอยู่ในเมืองเซราบอร์กแล้ว พวกเขาไม่อาจจะข่มใจให้รู้สึกกังวลได้เลย ไม่ว่าพวกเขาจะเห็นอะไรแต่กองทัพของวิหารเอ็มบินยูก็น่ากลัวเกินกว่าที่วีดจะทำบางสิ่งบางอย่าง

วีดได้ยินข่าวเรื่องการรุกรานของวิหารเอ็มบินยูในขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่

คุณวีด จะเกิดสงครามที่เมืองเซราบอร์กนะ!

เมแพนส่งข้อความแบบกระซิบราวกับกำลังกังวลอยู่และสมาชิกในปาร์ตี้คนอื่นๆเองก็ส่งข้อความทำนองเดียวกันมาหาเขา  

คุณอยู่ไหน? ผมได้ยินมาว่าวิหารเอ็มบินยูกำลังโจมตีเมืองเซราบอร์กอยู่ คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย? นี่เพลเองนะ ผมหวังว่าคุณคงจะปลอดภัยและคงจะอธิบายได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้แหละ แล้วคุณได้ยินข่าวเรื่องนี้รึยังล่ะ? วิหารเอ็มบินยู….

ไม่ได้มีคนทักมาหาเขาเยอะมากนัก เพราะทุกคนที่ที่กระซิบมาหาเขาได้จะต้องได้รับอนุญาตจากเขาก่อน

ซาบริน่า : ตอนนี้ที่เซราบอร์ก

เอ็ดวิน : เจ้าพวกวิหารเอ็มบินยูมันเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแล้ว

พิน : ฉันคิดว่าเราน่าจะต้านทานมันได้ยากอยู่นะ

เขายังคงได้รับข้อความจากนักผจญภัยในกิลด์นักเดินทางแห่งความเกรี้ยวกราด(Travelers of the Wilderness Guild) และ...

นี่ศิษย์น้อง ไม่เป็นไรใช่มั้ย?

ฉันได้ยินอะไรบางอย่างมาว่า...

พวกศิษย์น้องในสำนักต่างบอกมาว่าที่ๆนายอยู่มันค่อนข้างอันตราย

นายกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ? หรือว่านายยังอยู่ที่เมืองเซราบอร์กจริงๆ?

เหล่านักดาบต่างส่งข้อความกระซิบมาหาเขา

วีดถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มีคนมักจะพูดกันว่าพวกนักเลงนั่นจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลถ้าหากก่อเรื่อง”

และนี่ก็เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ที่เขามาที่เมืองเซราบอร์ก แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอย่างยิ่งที่พวกวิหารเอ็มบินยูพึ่งจะโจมตีเมืองในตอนที่เขายังอยู่ในเมืองแบบนี้

 “สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือสังเกตการณ์ไปก่อน...  แน่นอนละก็นี่เป็นอย่างเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้นี่นา ฉันคงจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆถ้าพลาดโอกาสแบบนี้”

วีดรีบร้อนที่จะมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสการค้า ซอยูนตามหลังเขามาตลอดถึงแม้ว่าเธอจะถูกผู้เล่นหลายคนในจัตุรัสการค้าโจมตีเพราะสถานะ PK ของเธอก็ตาม สำหรับเพลเยอร์คิลเลอร์ (PK) อย่างซอยูนนั้นการวิ่งไปเรื่อยๆในขณะที่วิหารเอ็มบินยูนั้นตั้งค่ายพักแรมอยู่ด้านนอกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ยังไงก็ตามพวกทหารที่อยู่ใกล้ๆเธอก็ยังคงเฝ้าระวังและหลีกเลี่ยงที่จะขัดขวางเธอ

 “ฉันต้องซื้อของก่อน” วีดเริ่มต่อราคาที่ร้านค้าข้างทาง

“เพราะพวกวิหารเอ็มบินยูที่อยู่ด้านนอกกำแพงนั้น ถ้าหากไม่ระวังละก็จะทำให้เกิดการเสียคู่ค้าไปเลยนะ ยังไงก็เถอะรับข้อเสนอของฉันและขายมันถูกๆให้ฉันซะ”

ซื้อของในราคาขูดรีด!(ขูดรีดชาวบ้าน) วีดในตอนนี้นั้นมีทรัพย์สินมากกว่า 160,000 ทองจากการขายแจ็ปเทม(ไอเทมขยะ) หลังจากเห็นการกระทำของวีด พวกพ่อค้าต่างเริ่มเปลี่ยนจากย่านการค้าที่หนาแน่นด้วยผู้คนเป็นร้านรับเหมาสินค้า

 “ขายอาวุธถูกๆจ้า”

“ลองเกราะพวกนี้สิ เกราะพวกนี้จะช่วยปกป้องคุณจากการโจมตีของพวกวิหารเอ็มบินยูได้นะ!”

“ฉันมีของทั่วไปเยอะแยะ นี่แหละเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะ ฉันจะเคลียร์ของในสต้อคให้หมดเลย”

ก็ดีกว่าถูกโจรปล้นของไป พวกพ่อค้าต่างต้องการที่จะขายพวกมันให้ได้เงินเพียงเล็กน้อยก็ยังดี เหล่าผู้เล่นเองก็เข้ามาซื้อของที่ราคาถูกกว่าปกติ กลายเป็นว่าจัตุรัสการค้าในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่ถูกมนต์เสน่ห์(ของถูก)เข้าแล้ว

 “หะ พวก PK เหรอ?”

“นี่มันไม่ใช่เวลามาสู้กับพวกนั้นหรอกนะ รีบๆหาของที่นายต้องการได้แล้ว”

เพราะสินค้าราคาถูกที่วางขายอยู่ทั่วไปเหล่าผู้เล่นจึงไม่อยากพลาดโอกาสในการซื้อขายครั้งนี้ แทนที่จะจัดการผู้เล่นมีค่าหัว พวกพ่อค้าเองต่างก็ต้องการรายได้เช่นกัน เพราะว่าเมื่อพวกเขาตาย พวกเขาจะสูญเสียเงินหรือทรัพย์สินที่หามาได้ไปอย่างง่ายดาย

วีดเริ่มที่จะจัดการร้านค้าของตัวเอง

“ฉันจะซื้อทั้งหมด!”

ซอยูนไม่เข้าใจว่าทำไมวีดถึงมาที่ร้านขายของชำร่วยในขณะที่เมืองเซราบอร์กนั้นกำลังถูกล้อมรอบจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และการกระทำต่อไปของวีดคือการปีนขึ้นไปบนกำแพงปราสาทและตะโกนด้วยทักษะราชสีห์คำราม

 “ถั่ว, ปลาหมึกและเครื่องดื่มเย็นๆทุกอย่าง! มันเผาและมันหวานสำหรับกินระหว่างดูการต่อสู้!”

โอกาสแบบนี้ถือเป็นสิ่งมีค่าที่ถูกสร้างขึ้นโดยวิหารเอ็มบินยู และจะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้เด็ดขาด นี่คือโอกาสที่จะทำเงิน!

 “ฉันขอถั่ว 2 ชุด”

“เมืองเซราบอร์กนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่พวกนายคิดนะ แน่ใจว่าจะเอาแค่ 2 เหรอ?”

“งั้นฉันขอสี่ชุด”

วีดได้เงินมาหลังจากที่ขายถั่วไป ที่ร้านขายของแห่งนี้นั้นเขาได้จัดการขายขนมและของกินเล่นจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

 “นี่มันเป็นเอกลักษณ์ของคนที่เกิดมาเป็นพ่อค้าจริงๆ”

ความสุขที่สุดในชีวิตพ่อค้าคือการได้แหวกว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำที่เต็มไปด้วยเงิน นี่มันเป็นเสน่ห์ของการได้รับค่าตอบแทนที่สูงในการทำธุรกิจ!

 *****

กรุ้ป กรุ้ป กรึ้บ ง่ำ ง่ำ

“เมื่อไหร่พวกนั้นจะเริ่มโจมตีซะทีนะ?”

“พวกวิหารเอ็มบินยูนั้นน่าสนใจมาก พวกเขาจะจัดการกันยังไงกับกองกำลังที่มีขนาดใหญ่แบบนี้?”

“ฉันว่าน่าจะมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นที่นี่แน่ๆ”

เหล่าผู้เล่นที่อยู่ในเมืองเซราบอร์กต่างนั่งลงบนกำแพงเมืองและหลังคาของร้านค้าหรือตึกสูงก่อนจะจัดการขนมที่ซื้อมา(จากวีด)และรอชมการต่อสู้ มีผู้เล่นหลายคนที่เลือกที่จะดูปรากฏการณ์เหล่านี้ และอีกหลายคนต่างต้องการมีส่วนร่วมกับกองกำลังของอาณาจักรโรเซนไฮม์

กองกำลังป้องกันเมืองที่แข็งแกร่งของป้อมปราการเซราบอร์ก ต่อสู้กับวิหารเอ็มบินยู หากเจ้าเลือกที่จะยืนอยู่เคียงข้างอาณาจักรโรเซนไฮม์ เกียรติยศและชื่อเสียงจะเป็นของเจ้า

รางวัล : ขึ้นอยู่กับความสามารถของท่านในการทำผลงานในสนามรบ

คุณสามารถเป็นทหารในสังกัดของอาณาจักรได้

เงื่อนไขภารกิจ : หากอาณาจักรโรเซนไฮม์หายไป คุณจะไม่ได้รับรางวัล

มีผู้เล่นหลายคนที่เข้าร่วมการป้องกันการกระทำตามอำเภอใจของวิหารเอ็มบินยู เช่นการเข่นฆ่าผู้คนและการลอบวางเพลิง

ภารกิจนี้ยังคงปรากฏอยู่ตรงหน้าวีดเช่นกัน

“ฉันคงจะต้องปฏิเสธมันล่ะนะ”

หากเขาเข้าร่วมการป้องกันในครั้งนี้การกระทำด้วยการตีสองหน้าใส่อาณาจักรโรเซนไฮม์นั้นคงจะแพร่กระจายออกไปเพราะค่าชื่อเสียงที่มากมายของเขา เขาสามารถกลายเป็นคนที่นำทัพได้อย่างดีเยี่ยม และด้วยเหตุผลนี้เขาจะต้องต่อกรกับวิหารเอ็มบินยูโดยการบัญชาการรบด้วยทหารหนึ่งร้อยหรือหนึ่งพันนาย  และนั่นทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญของกองกำลังป้องกันนี่ได้อย่างไม่ยากเย็นด้วย

วีดให้ความสำคัญกับเรื่องจำนวนทหารป้องกันเมืองของเซราบอร์กที่มีอยู่ราว 20,000 นายเป็นที่สุด อย่างไรก็ตามกองกำลังฝ่ายศัตรูอย่างวิหารเอ็มบินยูนั้นมีทหารมากกว่า 400,000 นายรวมทั้งสาวกและมอนสเตอร์ด้วย ถ้าหากรวมถึงพรีสต์ของวิหารเอ็มบินยู, ชาแมนและพาลาดินของวิหารเอ็มบินยูก็สามารถข่มขวัญพวกมอนสเตอร์ได้ นี่ยังไม่รวมถึงพลังของปีศาจอีก  

 “คงจะเป็นเรื่องยากมากที่จะป้องกันการโจมตีแบบนี้”

ในขณะที่พวกเขานั้นสามารถวางใจในกำแพงเมืองที่พร้อมรับมือกับศึกยืดเยื้อได้ ผลสุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้ายของศัตรูอยู่ดี! ถ้าวีดสวมใส่อุปกรณ์ของบัลข่านด้วยทักษะประติมากรรมจำแลง เขาก็จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อสู้ แต่เพราะด้วยผลลัพธ์หลายอย่างทำให้เขาไม่สามารถปรากฏตัวโดยพละการได้ และถ้าเขาคิดไม่ผิดละก็ พวกวิหารเอ็มบินยูจะต้องรอล้างแค้นเรื่องที่เกิดขึ้นที่แม่น้ำโหยหวนแน่นอน!

“มีชีวิตอย่างสุขสบายดีกว่าการมีชีวิตอมตะหลังความตายเป็นไหนๆ”

หากเขาตอบรับภารกิจการป้องกันอาณาจักรโรเซนไฮม์และปล่อยมันทิ้งไว้หลังจากที่พบกับปัญหาที่ไม่สามารถรับมือได้ เขาคงจะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกไม่รักษาคำสัตย์แน่นอน วีด, ซอยูน และคนอื่นๆเลือกที่จะไม่เกี่ยวข้องในการต่อสู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเองและมองดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ใบหน้าของวีดเต็มไปด้วยความหวาดวิตกอย่างรุนแรง

“หวังว่าอาณาจักรโรเซนไฮม์จะชนะนะ...”

แล้วเขาก็เปลี่ยนสีหน้าจริงจังเป็นมีความสุขไปในพริบตา!

“เอาล่ะ อย่างน้อยฉันก็ได้เงินจากมันนะ”

ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องเงินเขาจะรู้สึกมีความสุขแต่สำหรับเหตุการณ์ในปัจจุบันนั้นไม่ได้ดีสักเท่าไหร่

เหล่าผู้เล่นทั้งสองกลุ่ม ทั้งที่ตกค้างอยู่ในเมืองเซราบอร์กและที่เข้าร่วมกับอาณาจักรโรเซนไฮม์นั้น ต่างเริ่มรู้สึกอึดอัด “ยิง!”

 ตอนนี้พื้นที่รอบๆภูเขา สามารถมองเห็นได้อยู่ไกลๆนั้น เริ่มปรากฏแสงสว่างออกมา มันคือสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังอาณาจักรรอบๆ เมื่อเมืองหลวงของอาณาจักรโรเซนไฮม์อย่างเมืองเซราบอร์กอยู่ในช่วงวิกฤติ

กองทัพอันหนาแน่นของวิหารเอ็มบินยูที่ยึดครองและปิดล้อมไปจนส่วนของปิรามิดและสฟิงซ์นั้นก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับลากเครื่องมือในการโจมตีเมืองมาด้วย กองทหารแปรขบวนทัพ มอนสเตอร์ทั้งหมดก็ตีเกราะและอาวุธจนเกิดเสียงดัง และยังคงส่งเสียงคำรามอันน่าหวาดกลัวออกมา

 “แย่แล้วสิ”

“ฉันเริ่มรู้สึกว่านี่มันน่ากลัวกว่าดูหนังผีซะอีกนะ”

ด้านอาณาจักรโรเซนไฮม์เอง อัศวินทั้งหลายต่างวิ่งขึ้นไปบนยอดของกำแพงปราสาทและชูดาบขึ้นเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้ทหาร

 “เพื่อกษัตริย์!!”

“รักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ แค่อดทนให้ได้อีกวันเท่านั้น กำลังเสริมที่เราขอไปก็จะมาถึงแล้ว”

เป็นฉากที่ซาบซึ้งและจุดประกายความหวังให้พวกเขาที่เต็มไปด้วยความกลัว

 “พวกมันมาแล้ว”

“มันเริ่มแล้วสินะ” 

เหล่าผู้เล่นเริ่มร้องไห้ออกมา ผลสุดท้ายแล้ววิหารเอ็มบินยูก็เริ่มเปิดฉากการโจมตีด้วยอาวุธปิดล้อม ในขณะที่ก้อนหินขนาดใหญ่และกระสุนปืนใหญ่ยิงตรงมาใส่กำแพงเมือง ทั้งปีศาจ,สาวกและทหารของวิหารเอ็มบินยูก็เริ่มโจมตีเพื่อที่จะเข้าสู่ตัวปราสาท

สงครามระหว่างป้อมปราการเซราบอร์กและวิหารเอ็มบินยูได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 “ยิง!!”

“ยิงทุกอย่างที่เป็นศัตรู ฆ่าพวกมันให้หมด!”

พลธนูและหน้าไม้ของอาณาจักรโรเซนไฮม์ต่างยิงลูกดอกและลูกธนูของพวกเขา แต่ด้วยเวทย์ของวิหารเอ็มบินยูทำให้ลูกศรพวกนั้นต่างพุ่งเข้าใส่กำแพงเมืองแทน

 “เล็งเป้าให้ดี”

กองกำลังของอาณาจักรโรเซนไฮม์ต่างตั้งสมาธิไปที่การยิงลูกศรเงินไปที่ปีศาจด้านล่าง เพราะจะเห็นผลได้ดีกว่าใช้งานกับมอนสเตอร์หรือมนุษย์ที่เป็นศัตรู

พลธนูที่อยู่บนกำแพงต่างร่ายบัฟให้ลูกธนูและยิงมันใส่พวกปีศาจที่กำลังปีนขึ้นมาบนกำแพงอย่างเชื่องช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นปีศาจจำนวนมากก็เริ่มถูกกวาดล้างจนเริ่มสูญเสียความสมดุลราวกับว่าพวกมันกำลังจะทำอะไรบางอย่าง และในความโกลาหลนั้นก็ปรากฏกองซากศพของปีศาจที่สูงกว่า 20 เมตรอยู่ต่อหน้าทหารของวิหารเอ็มบินยู

 “บูชายัญแด่เทพเอ็มบินยู!”

“จงฆ่าศัตรูที่พรากชีวิตของพวกเจ้าไป”

เหล่าสาวกและฝูงมอนสเตอร์เริ่มขยับเข้าหากำแพงเมืองอีกครั้ง

 “อดทนไว้!”

“พวกเราสู้มันได้”

เหล่าสาวกและมอนสเตอร์ของวิหารเอ็มบินยูพาดบันไดและโยนเชือกขึ้นก่อนจะปีนขึ้นมาบนกำแพง เวทย์โจมตีอย่าง ลมเยือกแข็ง(Frost Wind) และ ทรายดูด(Sand Vortex) ต่างพุ่งเข้าใส่ทหารที่อยู่บนกำแพงเมืองเซราบอร์ก

นักเวทย์ของอาณาจักรโรเซนไฮม์เองก็เข้าร่วมด้วย

“สายน้ำไม่มีที่สิ้นสุด!”

 เมื่อเหล่านักเวทย์ผลักมืออกไป พื้นดินก็เริ่มแตกตัวออกและเกิดเป็นน้ำท่วมขึ้นมา

ในตอนนั้นเอง เสียงคำรามได้ดังมาจากทางด้านบนของกองกำลังวิหารเอ็มบินยูเพราะผู้ใช้ไวเวิร์นได้ปรากฏตัวขึ้น ต่างจากไวทรีที่วีดเป็นคนสร้าง ไวเวิร์นพวกนี้นั้นว่องไว ปราดเปรียวและดุร้ายอย่างเทียบไม่ได้เลย ผู้ใช้ไวเวิร์นต่างเผยตัวออกมาจากก้อนเมฆก่อนจะขว้างหอกและเข้าประจัญบานกับนักเวทย์และทหารด้านล่างด้วยดาบ

หากนี้ไม่ใช่ในรอยัลโร้ดแล้วละก็ เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน

ผู้เล่นบางส่วนในเมืองเซราบอร์กเคยรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ชมเหตุการณ์ราวๆนี้มาก่อน แต่พวกเขาเองก็ยังคงถูกเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าดึงดูดความสนใจมากกว่าเหตุการณ์ในอดีตที่พวกเขาเคยเห็นมา   

เมื่อเวลาผ่านไป ปีศาจของวิหารเอ็มบินยูนั้นก็เริ่มดุร้ายขึ้น มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ราวๆ 3 เมตรก็ใช้กระบองฟาดเข้าใส่ประตูของปราสาท มอนสเตอร์อีกพวกหนึ่งก็ปีนขึ้นมาบนกำแพงราวกับฝูงแมงมุม สาวกของวิหารเอ็มบินยูต่างกระทบอาวุธจนเกิดเสียงดังไปทั่วราวกับระลอกคลื่น วอร์ล็อคเองก็เสกไฟร์บอลให้ตกลงมาจากท้องฟ้าใส่กำแพงเมืองเพื่อเติมเต็มเสียงกระทบอาวุธด้วยเสียงร้องโอดครวญของผู้เคราะห์ร้าย

*****

วีดที่แฝงตัวอยู่ในที่ห่างไกล กำลังมองดูการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่

"กำแพงนั่นอยู่ได้ไม่นานแน่"

แต่เดิมเมืองหลวงของอาณาจักรโรเซนไฮม์ซึ่งก็คือเมืองเซราบอร์กเองนั้นใหญ่อยู่แล้ว เหล่าอัศวินและทหารต่างสามารถต้านทานการรุกรานของศัตรูได้มาโดยตลอด  แต่ครั้งนี้นั้นผู้รุกรานคือมหาวิหารเอ็มบินยู ดังนั้นในตอนนี้ทั่วทั้งเมืองต่างเต็มไปด้วยกองไฟและเถ้าถ่าน กำแพงเองก็แตกร้าวราวกับมันได้ล่มสลายลงไปแล้ว

แต่ทางวิหารเอ็มบินยูผู้ริเริ่มการก่อสงครามในครั้งนี้นั้นก็ไม่ได้มีพลังมากพอที่จะชนะศึกนี้ต่ออาณาจักรโรเซนไฮม์โดยสิ้นเชิง ที่ชายแดนของอาณาจักรโรเซนไฮม์และอาณาจักรเบร้นท์ อาณาเขตและรังของมอนสเตอร์ถูกรบกวนเพราะทางอาณาจักรโรเซนไฮม์นั้นได้สร้างป้อมปราการเมืองหน้าด่านไว้และจัดตั้งกองกำลังรักษาการณ์ถาวร แต่ที่เซราบอร์กนั้นกลับมีเพียงอัศวินของวังหลวงและยามเฝ้าระวังเท่านั้นที่ต้านทานกองทัพของวิหารเอ็มบินยู

"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เมืองเซราบอร์กกับวังจะต้องถูกทำลายแน่ แล้วหลังจากนั้น..."

ทรัพย์สินส่วนรวมของอาณาจักรโรเซนไฮม์ก็จะถูกทำลาย วิหารเอ็มบินยูก็จะแพร่กระจายออกไปทั่วทุกที่และก็จะหลงเหลือไว้เพียงเศษซากของตำนานและอาณาจักร ทั่วทั้งอาณาจักรโรเซนไฮม์ก็จะกลายเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์เหมือนกับที่บางส่วนของทวีปกลางกล่าวถึงเมื่อวิหารเอ็มบินยูได้ขึ้นครองอำนาจ

และไม่ใช่เพียงผู้ที่สมัครใจหรือผู้ที่ยอมอยู่ภายใต้คำสั่งของกษัตริย์    เควสที่ยากและมีชื่อเสียงในรอยัลโร้ดนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการก่อจลาจลหรือการก่อกบฏ แต่ยังไม่มีอาณาจักรไหนเลยที่สามารถรับมือกับการรุกรานของมหาวิหารเอ็มบินยูได้เลย และผู้เล่นที่เป็นผู้อพยพจำนวนมากที่เข้ามาภายในอาณาจักรนั้นเป็นผู้นำความหายนะมาให้

"ฉันควรจะรีบหนีก่อนที่มันจะสายเกินไป"

วีดกลอกตาไปมา ด้านนอกเมืองนั้นกองทัพของวิหารเอ็มบินยูได้ควบคุมน่านฟ้าทั้งหมดไว้โดยผู้ใช้ไวเวิร์นกว่าร้อยคน การที่จะรอดไปได้ เขาจำเป็นต้องรีบหนีออกจากเมืองให้ไวแต่กลับเหลือเพียงหนทางเดียวที่จะหนีออกไปได้

วีดมองไปรอบๆที่ที่สมาชิกกิลด์หลายคนหรือเหล่าผู้เล่นที่จับกลุ่มกัน และเริ่มมองหาโอกาสในการหลบหนีออกไปด้านนอก

"ถ้าหาคนที่จะหนีไปด้วยกัน เรียกนักดาบได้นะ"

"มีใครขี่ม้าเป็นบ้างมั้ย? ฉันว่าจะหนีออกไปด้วยม้าที่ประตูทางใต้ หาคนที่มีประสบการณ์ขอเลเวลขั้นต่ำ 300!"

"มีใครจะปกป้องพ่อค้าได้มั้ย? ถ้ามีคนบอกทางที่ปลอดภัยละก็ฉันจะให้ 2000 โกลด์เพื่อเป็นค่าจ้างเลย ฉันไม่สนใจของของฉันแล้ว ขอแค่ออกไปด้านนอกให้ได้อย่างปลอดภัยก็พอ!"

จัตุรัสและถนนนั้นเต็มไปด้วยเสียงเอะอะโวยวายของเหล่าผู้เล่นที่กำลังเสาะหาช่องทางการหลบหนี และถึงแม้ว่าผู้อาศัยอยู่ในเมืองอย่าง NPC นั้นเคยวางแผนหลบหนีกันแล้วแต่การที่วิหารเอ็มบินยูจะฆ่าทุกคนไม่เลือกหน้าและไม่ละเว้นจะทำให้ผู้ที่อาศัยถูกสังหารและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบูรณะอาณาจักรโรเซนไฮม์ขึ้นมาอีกครั้ง

อย่างต่ำเควสทั้งหมดก็คงจะหายไป เทคโนโลยีก็จะหายไปตลอดกาลและแหล่งผลิตสินค้าทั้งหลายก็จะลดลงอย่างฮวบฮาบจนนำไปสู่การสุญเสียอย่างใหญ่หลวง

นี่ไม่ใช่คำพูดที่กล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อยหากกล่าวว่าการปรากฏตัวของวิหารเอ็มบินยูนั้นเป็น  มหันตภัยอย่างแท้จริง

"ในสถานการณ์อย่างนี้ พวกเราควรจะหนีสิ"

"ใช่ๆ"

วีดและซอยูนตัดสินใจที่จะหลบหนีไปพร้อมกับกลุ่มที่มีโอกาสรอดมากที่สุด

"ขอโทษนะ นักดาบสองคนนั้นน่ะ..."

"ปาร์ตี้ของพวกเราเต็มแล้วล่ะ"

"พอจะมีที่เหลือให้สักสองคนมั้ย?"

"พวกเราไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า"

  แม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้คนต่างยังคงไม่ไว้วางใจคนแปลกหน้า กลุ่มของผู้เล่นที่มีเลเวลสูงเลือกที่จับกลุ่มกันและหาทางรอดเอง หากมีคนอยากจะเข้าร่วมกลุ่มพวกเขาละก็จะต้องจ่ายค่าเข้าร่วมและหากพวกเขาไม่ยอมละก็ จะถูกปล่อยทิ้งไว้ท่ามกลางสถานการณ์ที่รุนแรงแบบนี้

"ขอโทษนะ นักดาบสองคนนั้นน่ะ ช่วยหน่อยได้มั้ย"

"อ้าว นี่มันพ่อค้าที่โก่งราคาถั่วนี่หว่า"

"......."

ไม่ว่าจะทางไหนมันก็ยังเป็นการยากอยู่ดีที่วีดและซอยูนจะเข้าร่วมกับกลุ่มไหนได้ ด้วยสถานะ PK ของซอยูน ทำให้พวกเขาต่างคิดแล้วคิดอีก ย้อนกลับไปถึงตอนที่วีดได้รับสถานะ PK หลังจากที่ล่าที่โทเดียม และหากเป็นกรณีร้ายแรงสุดพวกติดสถานะ PK ก็อาจจะถูกโจมตีจากทหารและนั่นจะทำให้การเดินทางของพวกเขาต้องหยุดชะงักลง

หัวหน้าของแต่ละกลุ่มและกิลด์ต่างๆได้เคยประชุมกันมาก่อนแล้ว

"ในช่วงที่กำแพงกับประตูใกล้จะพังลงมาน่ะ ทหารของอาณาจักรจะต้องออกไปสู้แน่ พวกเราอาศัยจังหวะนั้นออกไปพร้อมกันทีเดียวเลยดีกว่า"

"พวกเราต้องแยกกันออกไปคนละทาง ทางพวกผมจะไปทางตะวันออก"

"งั้นพวกเราจะไปทางตะวันตก"

"งั้นพวกผมจะไปทางใต้ วิหารเอ็มบินยูจะต้องเตรียมการบุกยึดและปิดล้อมป้อมปราการเซราบอร์กเอาไว้แน่ ถ้าพวกเราบุกทะลวงฝ่าวงล้อมของพวกมัน ผมไม่คิดว่าพวกมันจะไล่ตามพวกเรามาหรอกนะ"

ทุกกลุ่มร่วมมือกันในการวางแผนหลบหนี แต่ไม่ใช่กับกลุ่มที่วีดและซอยูนเข้าร่วมอยู่ พวกเขาต่างมองออกไปรอบๆตัว

"พวกเราควรไปทางไหนดี?"

"ผมจะไปทางตะวันออก รุ่นพี่คาร์เลสเองก็ไปทางนั้น ดังนั้นโอกาสที่เราจะรอดน่าจะสูงที่สุดถ้าไปทางนั้น"

"ฉันจะไปที่ประตูทางใต้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีมอนสเตอร์อยู่แถวนั้นนะ"

เหล่าผู้เล่นใหม่ได้ถูกทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิงแต่ว่ามันก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนหลบหนีด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่ได้รับการปกป้องเลยเมื่อแต่ละกลุ่มได้เดินทางออกจากเมืองเซราบอร์ก และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อของพวกมอนสเตอร์ แต่พวกเขาเหล่านั้นยังคงมีความหวังหลงเหลืออยู่ในนัยน์ตาของพวกเขา

"เอาว่ะ พวกเราไม่มีเวลาไปตามหลังพวกมันแล้ว"

"พวกเราที่เลเวลต่ำกว่า 100 จะสู้กับพวกมันให้ตายไปข้างนึงเนี้ยแหละ!"

เหล่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังต่างรวมกลุ่มกันที่จัตุรัสเมื่อแต่ละกลุ่มต่างแยกย้ายหนีไปตามแผนหลบหนี

วีดตกอยู่ในความรู้สึกกังวลอย่างที่สุด

"ไม่ มันไม่เคยเป็นแบบนี้นิ..."

หากเขาเปิดเผยตัวตนของเขาในตอนนี้ จะไม่มีใครเลยที่ปฏิเสธเขา เขาอาจจะถูกด่าว่าพวกขี้ขลาดที่เอาแต่หลบหลังคนอื่น แต่ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ หากไม่อดทนก็ไม่ได้ในสิ่งที่หวังเอาไว้ นี่คือสิ่งที่ปลดปล่อยพวกทาส!

ไม่ว่าจะหนังเกี่ยวกับจุดจบของโลกเรื่องไหนต่างก็มีการปรากฏตัวของฮีโร่เพื่อกอบกู้สถานการณ์ แต่ก่อนที่จะกลายเป็นฮีโร่ เขาเองก็อยากจะเป็นคนที่รอดออกไปในท้ายที่สุดเหมือนกัน ด้วยความเห็นอกเห็นใจในความเชื่อมั่นและความเสียสละนั้นทำให้การมีชีวิตอยู่นั้นยากขึ้นกว่าเดิม

"ฉันต้องหลีกเลี่ยงที่จะตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม ต้องไม่หลงใหลในของล่อตาล่อใจ"

วีดเห็นหลายคนนั่งลงอย่างไร้ความหวังอยู่ตรงหน้าเขา เมืองหลวงของอาณาจักรโรเซนไฮม์เป็นเมืองที่เหมาะแก่การเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ คนส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงเด็ก หัวหน้าหมู่บ้านและคนแก่

'ถ้าฉันเลือกที่จะไม่ช่วยพวกเขา ผลสุดท้ายแล้วพวกเขาต้องตายแน่นอน' วีดหลับตาลงพลางคิด

'ให้ฉันได้ใช้วิธีหลบหนีที่ขี้ขลาดเถอะ แถมตอนที่ฉันต้องการความช่วยเหลือก็ไม่เห็นมีใครเข้ามาช่วยเหลือฉันสักคน'

จบตอน

ผู้แปล: SR

Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล