วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เล่ม 25 ตอนที่ 10 : หลบหนีจากป้อมปราการเซราบอร์ก แปลโดย SR

เล่ม 25 ตอนที่ 10 : หลบหนีจากป้อมปราการเซราบอร์ก แปลโดย SR

"ใช่แล้ว ฉันยังมีโอกาสอีกครั้งนึง การที่ฉันจะต้องมาได้ยินเสียงด่าจากการที่มัวมางกอยู่แบบนี้ มันจะทำให้ไม่ได้อะไรเลย!"
วีดเริ่มตัดสินใจอีกครั้ง เขาเลือกที่จะหนีไปพร้อมกับซอยูน
 
และจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เซริน่าซึ่งเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ในเมืองเซราบอร์กนั้นก็ได้ปรี่เข้ามาหาวีดในทันที
"ขอร้องล่ะค่ะ ช่วยพวกเราด้วยเถอะ!"
"แต่ผมไม่มีพลังที่จะช่วยเหลือพวกคุณนะ..."
"ฉันได้ยินเสียงจากต้นไม้และดอกไม้ว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่จะช่วยพวกเราได้"
ติ๊ง!
เควสการอพยพของพลเรือน
ด้วยเสียงของต้นไม้ เซริน่าได้พบกับความจริงที่ว่าคุณได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในอดีต และในคำร้องขอที่ยากเย็นนี้ มีเพียงผู้เดียวที่จะสามารถปกป้องชาวเมืองจากวิหารเอ็มบินยูได้ ซึ่งก็คือคุณ ในเมืองเซราบอร์กนี้ คุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยชาวเมืองจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ได้ด้วยประสบการณ์ในการผจญภัยของคุณ
ความยาก: A
รางวัล: สร้อยข้อมือที่ทำจากดอกไม้โดยเซริน่า
ข้อจำกัดของภารกิจ: ค่าชื่อเสียงจะลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อพลเรือนเสียชีวิต
หากคุณปฏิเสธภารกิจ ชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของคุณจะถูกแพร่ออกไป และหลังจากนั้นคุณจะไม่ได้รับภารกิจจากอาณาจักรโรเซนไฮม์อีก มีเพียงการตอบยอมรับภารกิจเท่านั้นที่จะทำให้ค่าชื่อเสียงของคุณเพิ่มขึ้น

ภารกิจที่เกิดขึ้นมาจากการสั่งสมความสำเร็จในอดีต ชื่อเสียงและความสำเร็จในเควสทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาไม่ได้มาจากผู้คนเท่านั้น แต่ดอกไม้และต้นไม้เองต่างก็เคยขอร้องมาเหมือนกัน!
"อึก ทำไมการเป็นประติมากรมันช่างยากเย็นอะไรอย่างนี้นะ..."
วีดเหลือบตามองสร้อยข้อมือที่ทำจากดอกไม้ของเซริน่าที่เธอสวมอยู่ด้วยหางตา สร้อยข้อมือดอกไม้ของเซริน่าเป็นกำไลที่ร้อยด้วยดอกไม้สมชื่อของมันเลย ดอกไม้พวกนี้ดูเหมือนจะเป็นของที่เด็กๆทำเล่นกันในเวลาว่าง แต่วีดเองก็สังเกตุอย่างระมัดระวังว่ามันไม่ได้เป็นเพียงไอเทมธรรมดา
ดอกไม้หายากเหล่านี้มีความหมายบางอย่างคือมันถูกพบเพียงแค่ในป่าของไฮเอลฟ์เท่านั้น(High Elves) ดอกไม้พวกนี้เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งบางอย่าง เพราะมันไม่ได้เหี่ยวหรือตายไปหลังจากที่ถูกเด็ดออกมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ พวกมันยังคงมีประกายแห่งชีวิตอยู่บนข้อมือของเซริน่า
'ฉันเคยได้ยินเรื่องของไอเทมที่พวกไฮเอลฟ์ใส่'
สำหรับนักผจญภัยที่เคยไปเยือนหมู่บ้านของไฮเอลฟ์นั้นต่างเล่ากันในร้านค้า มันเกี่ยวกับราคาของสิ่งที่เกี่ยวข้องกับดวงดาวที่ถูกย้อมไปด้วยพลังของธรรมชาติ ถ้าหากเขาสามารถสวมใส่สร้อยข้อมือดอกไม้ของเซริน่าพร้อมกับสวมสร้อยข้อมือของบาฮารานแล้วละก็ เขาก็ไม่ต้องการสร้อยข้อมืออันอื่นอีกเลย
วีดเริ่มที่จะเปลี่ยนความคิด
"ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยมีพลังมากนัก แต่ฉันจะวางแผนอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยคนล่ะนะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากแค่ไหนก็เถอะ แต่ฉันจะยังคงยืนยันที่จะช่วยเหมือนเดิม!"
คุณได้ตอบรับภารกิจแล้ว
ชื่อเสียงของคุณท่ามกลางพลเมืองของอาณาจักรโรเซนไฮม์ตั้งให้คือ 'ผู้กอบกู้'

ในขณะที่ภารกิจที่ไม่คาดคิดนั้นเกิดขึ้น จำนวนของผู้อาศัยในเมืองที่วีดจะสามารถนำพวกเขาไปในขณะที่หลบหนีจากวิหารเอ็มบินยูนั้นมีจำนวนไม่มากนัก จะเหลือคนที่ยังมีความสามารถในการนำผู้คนให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยหลังกำแพงนี้กี่คนกันเชียว?
ที่จัตุรัสของเมืองเซราบอร์กนั้นมีผู้เล่นหน้าใหม่ถึงหนึ่งหมื่นคนที่ไม่รู้จะไปทางไหน และเลือกที่จะนั่งรออย่างไร้ความหวัง และด้วยการที่พวกเขามีเลเวลต่ำ มันจึงเป็นการง่ายกว่าที่พวกเขาจะยอมรับความรู้สึกสิ้นหวังในสงครามขนาดใหญ่นี้และยอมแพ้ พวกผู้เล่นหน้าใหม่นี้เป็นพวกที่ต่างกระโจนเข้าไปหลบในพุ่มไม้เพราะว่ากลัวกวางที่วิ่งมาจากทางต้นแอปเปิ้ลที่อยู่ไกลออกไป(กลัวจน...)
แต่ก็มีอีกกลุ่มหหนึ่งที่ยังไม่ได้แยกย้ายจากกลุ่มของครอบครัวตั้งแต่เริ่มเล่นเหมือนกัน บางคนก็เกียจคร้านเกินที่จะเตรียมตัวอพยพ และบางคนก็กลายเป็นว่าพลัดหลงและตกใจไปกับการหาสมาชิกในกลุ่ม ไม่ใช่เพียงพวก NPC เท่านั้นที่พยายามจะมีชีวิตรอด แต่เหล่าเพลเยอร์เองก็เช่นกันที่หวังจะมีชีวิตรอดในความหวังอันริบหรี่นี้ แต่ก็มีเพียงเพลเยอร์ที่เลเวลมากกว่า 200 เท่านั้นที่ต่อสู้กับความชั่วร้ายด้วยมโนธรรมของพวกเขา
  เสียงจากความโกลาหลในสงครามดังมาจากบนกำแพง นั่นหมายความว่าพวกเขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
วีดยกเลิกทักษะของเขา
"ยกเลิกประติมากรรมจำแลง"
รูปร่างของเขาเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะช่วยผู้คนให้ปลอดภัยในรูปร่างปกติของเขา
"ฉันคงต้องรีบสร้างมันหน่อยล่ะ"
วีดเรียกมีดแกะสลักออกมา  เขาหยิบรูปปั้นที่ประดับตกแต่งอยู่แถวนั้นมาก่อนและแกะสลักมันให้มีรูปร่างขนาดใหญ่เล็กน้อย พอทำมันให้เป็นรูปแกะสลักของมังกร
แซกๆ!
ทุกครั้งที่มีดแกะสลักของเขาขยับ จะต้องมีเศษชิ้นส่วนหลุดออกไปก็จะเผยให้เห็นร่างของผู้ต้องการมีชีวิตรอดออกไปทั้งผู้ชาย, ผู้หญิง และ เด็ก
*****
ทุกสถานีต่างกำลังถ่ายทอดสดฉากในเมืองเซราบอร์กที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและวิหารเอ็มบินยู
"นี่มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่วิหารเอ็มบินยูจะเข้ายึดเมืองเซราบอร์กสินะ"
"และด้วยอิทธิพลของวิหารเอ็มบินยูที่แผ่ขยายออกไปนั้นจากอาณาจักรโรเซนไฮม์ พวกมันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตเลยนะ"
"ตอนนี้ในทวีปกลางนั้นมีผู้เล่นหลายคนที่เดินทางไปยังอาณาจักรฮาเวนเพียงเพื่อจะหลบหนีจากการกวาดล้างของวิหารเอ็มบินยู"
"ช่างมันเถอะ เริ่มออกอากาศได้แล้ว! กำแพงพวกนั้นกับบ้านที่อยู่ใกล้ๆนั่นกำลังไหม้แล้ว.."
เหล่าผู้จัดการต่างพร่ำพรรณาถึงความวิตกกังวลที่จะเกิดขึ้นจากการแผ่ขยายออกไปของวิหารเอ็มบินยู พวกเขาเริ่มพูดคุยถึงเนื้อหาของการออกอากาศในเรื่องการบุกจู่โจมและเลเวลของมอนสเตอร์ที่ประกอบไปด้วยวิหารเอ็มบินยูและยุทโธปกรณ์ต่างๆอีกมากมาย
เมื่อการถ่ายทอดยังคงดำเนินการต่อ สถานี NKS ได้สับเปลี่ยนถึงมุมมองในจัตุรัสซึ่งแสดงถึงเหล่าผู้เล่นที่สิ้นหวังอย่างน่าถนาถใจ
พวกผู้เล่นต้องรีบวางแผนหลบหนีโดยเร็ว เมื่อกำแพงป้อมปราการเซราบอร์กพังลงมา ความตายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน นี่มันหายนะสำหรับผู้เล่นใหม่ชัดๆ
ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้คนที่มารวมตัวกันยังจัตุรัสแห่งนี้
ราวกับว่าสิ่งที่ผู้จัดการพูดเมื่อสักครู่ ไม่ใช่ฉากที่ปรากฏในตอนนี้ เพลเยอร์นับหมื่นคนต่างลุกขึ้นยืนและมองไปที่บางอย่าง
"นั่นมันอะไรน่ะ?"
"เหมือนจะมีอะไรบางอย่างตรงนั้นนะครับ เหมือนมีคนกำลังใช้ทักษะแกะสลักอยู่"
มีชายคนหนึ่งกำลังแกะสลักอยู่ รูปแกะสลักมังกรที่เอาไว้ใช้ประดับนั่นเริ่มเปลี่ยนรูปร่างเป็นอย่างอื่น ราวกับพวกเขาไม่เคยได้เห็นสิ่งที่น่าประหลาดใจแบบนี้มาก่อน ความละเอียดถี่ถ้วนและความกล้าหาญก็ราวกับจะออกมาจากมีดแกะสลัก
*****
 นั่นมันประติมากรนี่!”
รึว่าจะ...ไม่ ไม่มีทางเป็นไปได้แน่
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นเขา แต่ว่านี่เป็นที่ที่เขาเริ่มเล่น...”
คนที่กุมความหวังของทุกคนไว้นั่นคือ เทพสงครามวีด
เมื่อวีดเริ่มสร้างประติมากรรม ผู้คนที่รายล้อมรอบตัวเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป และยิ่งทำไปเรื่อยๆทุกคนก็ราวกับได้ลืมถึงหายนะที่กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้าและจ้องมองการกระทำของเขา
แซก แซก
รูปแกะสลักที่วีดกำลังสร้างนี้ห่างไกลจากคำว่าสวยงามอย่างมาก มีเพียงวีดเท่านั้นที่รู้จักทักษะประติมากรรมประทานชีพ แต่ก็ยังมีผู้คนบางส่วนที่คิดว่าบางทีคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาอาจจะเป็นวีด
 จะสร้างของธรรมดาๆไม่ได้ ฉันต้องช่วยเหลือในการต่อสู้อย่างเต็มที่ มันต้องเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งและสร้สงความประทับใจ บางอย่างที่มันมีชีวิตและเอาชีวิตรอดได้จนกระทั่งวาระสุดท้ายของมันเอง
หลังจากที่เขาตัดสินใจอย่างยากลำบาก รูปลักษณ์ของรูปปั้นที่วีดเลือกคือโทรล ถ้าเปรียบเทียบโทรลน้ำแข็งกับออร์คแล้วละก็ มันทั้งคู่ต่างมีแขนขาที่ใหญ่โตและมีกล้ามเนื้อที่ดีเยี่ยม แต่พวกมันก็ยังมีพุงย้วยๆนั่นอีกด้วยล่ะนะ
ยังไงซะพลังก็มาจากพุงย้วยๆนั่นแหละ!”
แต่ส่วนแขนขาที่เหลือก็ยังคงมีกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรงและหนาราวกับหมีขั้วโลก
เมื่อรูปสลักเริ่มมีความคืบหน้าขึ้นไป อีกด้วยความเร็วที่มากขึ้น ก็ปรากฏเป็นรูปร่างที่ให้ความรู้สึกโดดเด่นขึ้นมาในทันที ทักษะการแกะสลักที่ไม่ได้ใช้วีดก็ได้พัฒนามันในตอนที่กำลังขึ้นรูปออร์คนักรบตัวผู้ แต่ผลสุดท้ายแล้วด้วยการค้นพบสิ่งใหม่ๆทำให้ตอนนี้เขากำลังแกะสลักรูปโทรล
ไม่ได้ หน้ามันยังนิ่งเกินไปเหมือนกับแกะ ไม่มีทางแน่ที่หน้าแบบนี้จะทำให้คนกลัวในสนามรบได้เลย
วีดรู้สึกไม่ชอบรูปหน้าของโทรลที่ออกมาเลย เพราะด้วยเปลือกตาที่ต่ำเกินไปทำให้โหนกแก้มดูราวกับกำลังยื่นออกมา และด้วยหัวที่ใหญ่โตของมัน จึงต้องทำสมส่วนกับฟันที่มีขนาดใหญ่จนทำให้นึกถึงจระเข้ และเพราะขนาดของศีรษะมันทำให้การที่จะเจาะกะโหลกของมันได้ต้องใช้มีดอย่างน้อย 6 เล่มในการเจาะตั้งแต่กลางศีรษะถึงคาง
ถ้าออร์คคาริชวิถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งของเหล่าอันธพาลแล้วล่ะก็ เมื่อรูปลักษณ์นี้ถูกเผยออกไปความชั่วร้ายของออร์คคาริชวิก็จะเป็นแค่ข้าวกล่องเท่านั้น!
 หวา!”
ซึบ ซึง
ผู้หญิงและเด็กรวมถึงชาวเมืองเซราบอร์กเริ่มร้องไห้เมื่อเห็นประติมากรรมรูปนี้ แต่มือของวีดก็ยังคงขยับต่อไปจนทำให้มันดูคล้ายกับว่ามีชีวิตจริงๆ
 ต้องยอมรับอย่างแท้จริงว่ามันไม่ได้สมบูรณ์เพราะมันเป็นงานเร่งด่วน
ถ้าเขาสามารถทำได้อย่างในจินตนาการละก็ ส่วนหน้าผากของมันจะต้องยุบลงไปมากกว่านี้ คางก็น่าจะแหลมกว่านี้อีกเล็กน้อยและสิ่งที่ดูขัดตาที่สุดเลยก็คือหูทั้งสองข้างของมันที่ดูแสนจะธรรมดา
 มันน่าจะดีกว่านี้ถ้าเอาลิ้นโผล่ออกมาหน่อยแล้วก็มีเกล็ดขยับไปมา
ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นแหล่งรวมจุดเด่นที่หยิบมาจากสายพันธุ์โทรลน้ำแข็งเพื่อให้ความรู้สึกที่น่าหวั่นเกรง แต่วีดเองก็เป็นผู้ที่มีค่าศิลปะสูงอยู่แล้วด้วย

โปรดตั้งชื่อให้กับประติมากรรมของท่าน
 โทรลหิมะผู้กระหายการต่อสู้
วีดเลือกชื่อที่มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะสามารถสู้ได้จนจบสงคราม
'โทรลหิมะผู้กระหายการต่อสู้ใช่หรือไม่?'

 “ยืนยัน มาสู้กันจนกว่าจะตายไปข้างนึงเลยดีกว่า
ประติมากรรม 'โทรลหิมะผู้กระหายการต่อสู้' เสร็จ แล้ว!
หากให้ตีความแล้ว มันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวทางในการสร้างประติมากรรมทั้งหลาย จากมังกรเปลี่ยนเป็นโทรลหิมะ
ผลงานนี้ไม่ได้ตรงตามมาตราฐานสักเท่าไหร่นัก  จนถึงตอนนี้การปล่อยมันทิ้งไว้ก็คงจะดีที่สุด
คุณค่าทางศิลปะ : 3
คุณสมบัติพิเศษ : สำหรับผู้ที่ได้มองดูรูปปั้นโทรลหิมะผู้กระหายการต่อสู้จะได้รับอัตราการเพิ่มพลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 8% ตลอดวัน
ผลการรักษาอาการบาดเจ็บเร็วขึ้น 7% ตลอดวัน
ค่าพลังเวทมนต์และค่าความศรัทธาลดลง 25
ค่าเสน่ห์จะไม่ปรากฏ
ค่าความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 41
ค่าความว่องไวเพิ่มขึ้น 5
ทักษะการแกะสลักเพิ่มสูงขึ้นแล้ว
จากการแกะสลักรูปประติมากรรมของมอนสเตอร์ประเภทสัตว์อสูร ทำให้ค่าชื่อเสียงลดลงไป 16 แต้ม
จากการทำลายผลงานประติมากรรมตัวต้นแบบ ค่าชื่อเสียงลดลง 143 แต้ม
ค่าเกียรติยศและค่าศิลปะลดลงอย่างละ 1 แต้ม

วีดค่อนข้างพึงพอใจกับผลงานของเขาถึงแม้ว่าจะมีคนคอยนินทาเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
สิ่งสำคัญที่สุดในงานศิลปะคือ การทำให้ตนเองพอใจ
ประติมากรรมที่เสร็จสิ้นแล้วก็มีผู้พบเห็นเป็นจำนวนมากทั้งที่มาจากจัตุรัสกลางเมืองรวมถึงผู้ที่กำลังรับชมอยู่จากการออกอากาศ
เสียงกระหึ่มแห่งความวินาศและความโกลาหลดังขึ้นมาจากทางกำแพงเมืองอย่างไม่สามารถจะหาคำอธิบายใดๆได้เลย แต่ละกลุ่มเตรียมพร้อมที่จะหนีจากสถานการณ์นี้แล้ว ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดเมื่อสักครู่ วีดก็แฝงตัวเข้าไปหลบอยู่ในร่มผ้าใบผืนใหญ่ก่อนจะรีบใช้สกิลของตัวเอง
 ประติมากรรมจำแลง!”
เมื่อทักษะประติมากรรมจำแลงถูกใช้ ค่าความสามารถของประติมากรก็ถูกแทนที่โดยรูปแกะสลัก!
ร่างกายของวีดเริ่มใหญ่ขึ้น พุงเริ่มหนาและย้วยออกมา ผิวหนังของเขากลายเป็นสีขาวราวกับให้ความรู้สึกที่บริสุทธ์ แต่นั่นก็ทำให้เกิดความรู้ที่น่าเกรงขามเมื่อเผชิญกับสถานการณ์คับขันเช่นกัน

เพราะความไม่เหมาะสมของขนาดอุปกรณ์สวมใส่ เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่และอาวุธจึงถูกถอดออกและไม่สามารถใช้ได้
ท่านสามารถใส่เกราะเหล็กกล้าได้แล้วในขณะนี้
โปรดสวมใส่อุปกรณ์และเครื่องประดับที่เหมาะสมกับรูปลักษณ์หรือเผ่าพันธุ์ของคุณ

จากผลการใช้งานทักษะประติมากรรมจำแลง ค่าความแข็งแกร่งและพลีงชีวิตของท่านได้เพิ่มขึ้นสูง และเนื่องจากรูปลักษณ์ของท่านทำให้การฟื้นฟูพลังชีวิตไวขึ้น ค่าความฉลาดและสติปัญญาลดต่ำลงอย่างมาก อัตราการล้มเหลวในการใช้สกิลระหว่างการต่อสู้เพิ่มสูงขึ้น ค่าความฉลาด,สติปัญญา, ค่าศิลปะ, ค่าความศรัทธา, ค่าเสน่ห์, ค่าเกียรติยศ ทุกอย่างลดลงอย่างมาก และจะมีผลจนกว่าจะยกเลิกทักษะประติมากรรมจำแลง
ความสัมพันธ์กับธรรมชาติถูกใช้งาน ความสามารถในการต้านทานอากาศหนาวเย็นของโทรลหิมะ +239%

วีดที่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาไปแล้วก็พูดขึ้น
ด้วยค่าความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้น สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือสู้ล่ะนะ หน้าต่างสถานะ!”


ชื่อตัวละคร วีด
สถานะ มอนสเตอร์
เลเวล 406
เผ่า โทรลน้ำแข็ง
พลังชีวิต 376,271 มานา 1,650
ค่าความแข็งแกร่ง 1,428 ความว่องไว 1,395
ค่าพลังใจ  1,684 สติปัญญา 15 ความฉลาด 11
จิตวิญญาณนักสู้ 719 ความอึด 662
ความอดทน 959 ค่าศิลปะ 70
บารมี 462 ค่าความเป็นผู้นำ 761
โชค 3 ศรัทธา 5 เสน่ห์ 8
ความยืดหยุ่นของร่างกาย 881 ศักดิ์ศรี 6
สมาธิ 152 ความกล้าหาญ 170
*สถานะจากเผ่าโทรลน้ำแข็งทำงาน
การฟื้นฟูพลังชีวิตและค่ากำลังใจเพิ่มสูงขึ้น ความเย็นแผ่ออกมาจากร่างกาย และจากการเปลี่ยนแปลง ทักษะจะถูกปรับเพื่อให้เหมาะสม เป็นทักษะขั้นต้นเลเวล 8

นี่มันแค่มุมมองด้านเดียวเท่านั้น! ค่าสถานะต่างๆนั้นได้เพิ่มขึ้นตามเลเวลอย่างมีจุดประสงค์และมันก็อาจจะเพิ่มมากขึ้นอีกก็ได้ ในระหว่างที่เควสกำลังดำเนินต่อไป วีดได้วางแผนไว้ว่าจะเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของตัวเองให้สูงขึ้น แต่ผลสุดท้ายแล้วไม่ใช่เพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น ค่าความว่องไว, กำลังใจ, ความอดทนและความยืดหยุ่นของร่างกายต่างเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
 นี่มันเยี่ยมไปเลย
เสียงของเขาเปลี่ยนไป เป็นทุ้มลึกแต่ก็ก้องกังวานอีกด้วย
เมื่อผ้าใบที่เขาเข้าไปถูกเปิดออก ผู้คนด้านนอกต่างตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น รูปปั้นโทรลน้ำแข็งกับกลายเป็นสองตัวได้ยังไง แถมโทรลน้ำแข็งตัวใหม่ยังมีผิวสีขาวราวกับหิมะและยังขยับได้อีกด้วย นี่ทำให้ความลับอันยิ่งใหญ่ของทักษะประติมากรรมจำแลงถูกเปิดเผยออกสู่สายตาของคนทั่วทั้งโลก แต่มันไม่ใช่ปัญหามากนักเพราะหลายคนก็ยังไม่สามารถใช้มันได้จนกว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้มัน
วีดตะโกนออกมาพร้อมกับใช้ทักษะราชสีห์คำราม แต่ทำให้มานาก็ถูกใช้ไปเป็นจำนวนเพื่อทดแทนความล้มเหลวในการใช้ทักษะ
 ผมคือ วีด!”
ว๊ากกก!!!”
*****
เซอร์กะรู้ข่าวที่เกิดขึ้นที่เมืองเซราบอร์กโดยที่ในใจก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับสมาชิกในปาร์ตี้อยู่เล็กน้อย

 จะเกิดอะไรขึ้นกับพี่วีดมั้ยนะ? แถมพี่เขายังมีศัตรูตั้งเยอะแยะเลยนี่นาในรอยัลโร้ดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมากสำหรับผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่จะมีคนเกลียดและพร้อมที่จะแทงข้างหลังในตอนที่เผลอหรือไม่ระวัง และสำหรับผู้เล่นจากกิลด์เฮอร์มีสที่โดนลูกหลงและตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมวิหารเอ็มบินยูนั้น จะมีอะไรที่น่าอับอายกว่านี้อีกเหรอ!?
เพลสะกิดเซอร์กะเบาๆ
คนอย่างพี่วีดน่ะมีความสามารถในการเอาตัวรอดอยู่แล้วล่ะ เธอไม่ต้องห่วงมากนักหรอก ถึงแม้ว่าจะมีใครอยากฆ่าเขาแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะไม่ตายหรอก
ที่นายพูดมันก็ถูกแหละนะ ไม่ว่าจะทำยังไงพี่วีดก็กลับมาพร้อมกับความแข็งแกร่งที่มากขึ้น เหมือนกับแมลงสาบที่โดนฉีดยาฆ่าแมลงแล้วไม่ตายนั่นแหละ
แน่นอนเลยล่ะ!”
ถ้านี่เป็นวีดล่ะก็ เขาจะต้องไม่เป็นไรอย่างแน่นอน เขาเป็นคนที่พยายามหาเงินให้ได้ถึงแม้ว่าจะเป็นในฤดูร้อนที่อากาศร้อนราวกับนรก!
 ตอนนี้ปาร์ตี้ของวีดกำลังพักผ่อนอยู่ที่เมืองโมราต้า และชมการถ่ายทอดสดที่เกิดขึ้นในเมืองเซราบอร์ก หลังจากที่วิหารเอ็มบินยูนั้นเข้ามารุกรานอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเขามั่นใจมากว่าวีดจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถคิดหาทางหนีออกมาได้โดยง่าย
แต่แล้วภาพก็กลับไปที่ใครบางคนกำลังแกะสลัก ทุกคนที่อยู่ในร้านต่างตกตะลึงในสิ่งที่กำลังเห็น
หรือว่านั่นจะเป็นพี่วีด…”
แน่ใจนะ?”
คนที่แกะสลักท่ามกลางเหล่าผู้เล่นหน้าใหม่!
ฉันเดาไม่ออกเลยว่าทำไมพี่วีดถึงทำอะไรแปลกๆ ไม่สมกับเป็นเขาเลยแบบนี้
แต่นี่คือคนเดียวกันกับที่เอาเปรียบพวกผู้เล่นใหม่ที่เขารู้จักนั่นแหละ พวกเขาต่างคิดอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
หรือว่าคนที่อพยพอยู่ช่วยพวกผู้เล่นใหม่จะเป็นพี่วีดจริงๆ?
บนจอกลับโชว์ภาพของวีดที่กลายเป็นโทรลน้ำแข็งที่กำลังแผดร้องอยู่
ฉันคือวีด!”
ขณะนั้นเองก็ปรากฏเป็นเสียงเงียบกริบไปทั่วทั้งพวกผู้เล่นใหม่และผู้เล่นที่มารวมตัวกัน ณ จัตุรัสในเมืองเซราบอร์ก
 เฮ้ย!!!”
นั่นคุณวีด คุณวีดอยู่ในอาณาจักรโรเซนไฮม์!!”
 เทพสงครามวีดปรากฏตัวแล้ว
ท้องถนนทั่วทั้งโมราต้าต่างตกอยู่ในความยุ่งเหยิง
 แล้วคุณวีดไปอยู่ที่เมืองเซราบอร์กตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย?”
อย่างที่คิดเลย! ไม่มีทางที่เขาจะหนีไปโดยที่ทิ้งคนอ่อนแอไว้หรอก ฉันรู้ว่าเขาอยู่เพื่อช่วยเหลือคนอื่นแน่
แน่นอน มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน
พวกเราไม่ได้เคารพวีดอย่างเดียวเฉยๆหรอกนะ
เหล่าผู้เล่นในโมราต้าต่างชื่นชมกับการกระทำของวีด!
เพล, เซเฟอร์ รวมถึงเมเพนต่างไม่คาดคิดกับเหตุการณ์ตรงหน้า
มันเป็นอย่างนี้จริงๆใช่มั้ย?’
ผมไม่คิดเลยว่าจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาจนวันนี้ เขาช่างอ่อนโยนและดูเป็นมิตรสหายที่ดีคนนึง
ฉันว่าเขาน่าชื่นชมมากกว่าฉันซะอีก ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเขาแฝงตัวเข้าไปเพื่อช่วยเหลือผู้คน
เมื่อพวกเขาได้รู้จักวีดอย่างใกล้ชิด พวกเขาจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างธรรมดาและเมื่อพวกเขาคิดว่ารู้จักวีดดีพอแล้ว วีดต่างก็ทำให้ความเข้าใจของพวกเขาผิดอีกครั้ง และยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกผู้เล่นที่อาศัยในโมราต้า (ประมาณว่าขนาดคนใกล้ตัวยังตกใจ แล้วคนที่รู้จักแค่ผิวเผินอะไรประมาณนี้)
ทรัพย์สินทุกอย่างในโมราต้าต่างถูกพัฒนาขึ้นโดยวีด และด้วยกฎเกณฑ์ที่แตกต่าง ทำให้เหล่าผู้เล่นที่อาศัยอยู่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนน่าตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะมีอาชีพเป็นประติมากร แต่ก็ไม่มีใครเลยที่มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมเทียบกับเขาได้!
 คุณวีดเป็นคนใจดี แน่นอนว่าจะต้องช่วยเหลือคนอื่น
เขาไม่เคยเตรียมการอะไรแต่ก็ยังสามารถพัฒนาโมราต้าตั้งแต่ยังไม่มีอะไรด้วยทรัพยากรของตัวเอง ส่วนลอร์ดคนอื่นๆก็มัวแต่สนใจว่าจะทำยังไงถึงจะเพิ่มภาษีได้
มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะนับถือเขาโดยที่เหตุผลต่างๆมาจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นมากมายในโมราต้า
คนจิตใจดีแบบนี้ยังมีชีวิตอยู่บนโลกด้วยเหรอ…”
นั่นเป็นเพราะว่ามีแต่คนชอบคุณวีด เลยทำให้ทวีปเวอร์เซลล์ไม่ได้ตกไปสู่ความมืดมิดไงล่ะ
โจ๊กหญ้าจงเจริญ! โจ๊กหญ้าจงเจริญ!”
*****
วีดรวบรวมผู้คนที่มีเลเวลมากกว่า 300 ที่อยู่ในจัตุรัส ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนนี้ก็เทียบได้กับการฆ่าตัวตายหมู่หากเผชิญหน้ากับกองทัพของวิหารเอ็มบินยู ดังนั้นพวกเขาเลยหาทางที่จะหลบหนีออกไปแทน
 ลองไปทางใต้ดูมั้ย? พวกมันรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น ถ้าพวกเราฝ่าวงล้อมไปได้ล่ะก็น่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว
 แต่ทางตะวันตกมีพวกมันน้อยกว่านะ ฉันว่าพวกเราควรจะหลีกเลี่ยงพวกมอนสเตอร์น่าจะดีกว่า
เหล่าผู้เล่นเลเวลสูงที่ไม่ได้รีบร้อนหนีไปแต่แรกต่างพูดคุยกัน แต่เมื่อพวกเขาพบความหวังที่มีอยู่เพียงเล็กน้อย พวกเขาต่างเริ่มทุ่มสุดตัวในการหาทางหนีออกไป
วีดต่างรู้สึกสงสารพวกเขา
จะทางใต้หรือทางตะวันตกก็อันตรายทั้งคู่นั่นแหละ พวกเรามีเยอะเกินไปและรับภาระที่หนักเกินไปในการรวมกลุ่มอื่นๆเข้ากับพวกเรา
แล้วถ้าเราตามหลังพวกนายให้พวกนายเคลียร์ทางให้ล่ะ?”
แบบนั้นมันก็จะทำให้มอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาเปลี่ยนเป้าโจมตีไงล่ะ พวกเรามีเยอะกันเกินไปเลยทำให้การเคลื่อนที่นั้นช้าไปด้วย แถมมันก็ยากที่จะช่วยทุกคนจากมอนสเตอร์ด้วย
เมื่อจำนวนผู้เล่นมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งทำให้มีคนที่มีสกิลการป้องกันและช่วยเหลือจากมอนสเตอร์ไม่พอ และถ้ามอนสเตอร์กรูกันเข้ามามันก็จะกลายเป็นหายนะเลยทันที ไม่มีใครที่จะสามารถตัดสินใจได้อย่างง่ายดายว่าจะไปที่ไหนโดยที่มีชีวิตของผู้อื่นแขวนอยู่บนเส้นด้าย พวกเขาทั้งหมดต่างเฝ้ารอวีดและถึงแม้พวกเขาจะต้องตายที่นี่ แต่ในใจของพวกเขาต่างสลักไว้แล้วว่าครั้งหนึ่งวีดเคยช่วยเหลือพวกเขา
และตอนนั้นเองที่ซอยูน ส่งข้อความกระซิบไปหาวีด
มันมีทางลับที่จะพานายออกไปนอกตัวปราสาทได้
ทางลับงั้นเหรอ?
ทางลับอยู่ในวังหลวง ฉันเองก็ไม่เคยไปหรอกนะ แต่เคยได้ยินมาจากอัศวินของวังน่ะ
ซอยูนมอบแผนที่ให้เขาดู
ท่านได้รับแผนที่เส้นทางลับในอาณาจักรโรเซนไฮม์

วีดรีบกวาดตามองและคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะพบว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเส้นทางหลบหนีของพวกเชื้อพระวงศ์ยามเมื่ออาณาจักรโรเซนไฮม์เข้าสู่กลียุค
ไปได้มายังไงน่ะ?
ก็ตอนที่มุ่งหน้ามาที่พระราชวังแห่งดวงดาวด้วยสถานะ PK น่ะ พอดีอัศวินของวังเข้ามาโจมตีฉัน ฉันก็เลยได้มาตอนที่เจ้านั่นตาย  . . . . . . . . .
ตามปกติแล้วการป้องกันตัวกลับจนไปฆ่าอัศวินนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย และที่สำคัญที่สุดคือการได้รับแผนที่นี้มา มันเหมือนกับว่ายิงปืนนัดเดียวแต่กลับได้นกหลายตัว! แต่ด้วยวิธีการนั้นราวกับได้ใช้ทางลัดในการได้รับมันมา ตอนนี้มันกลับกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
 
 ถ้าทางนั่นมันพาเราออกจากตัวเมืองได้ มันน่าจะมีถึง 6 เส้นทางเขารู้สึกได้ว่าจะต้องมีทางออกอยู่หลายทางเพื่อที่จะช่วยเหลือพวกเชื้อพระวงศ์หนีอย่างแน่นอน
ปัญหาหลักคือทางที่ไป มันจะพาเราออกไปจากเมืองเซราบอร์กได้ไม่ไกลพอเนี้ยสิ. . .’
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถหนีออกไปได้แล้ว แต่หากระยะห่างมันสั้นเกินไปพวกเขาก็จะถูกพวกมันพบ แต่สิ่งที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการที่จะต้องหนีออกไปจากเมืองก่อน
วีดตัดสินใจที่จะเรียกความหวังจากเหล่าผูเล่นก่อนเป็นอันดับแรก
ตอนนี้พวกเราจะมุ่งหน้าออกจากเมืองผ่านเส้นทางลับของอาณาจักรโรเซนไฮม์
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาอะไรในการหนีออกไป หากคำพูดของเขามีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้คนอื่นเชื่อ
ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปแบบปากต่อปากอย่างรวดเร็ว
คุณวีดบอกว่าจะช่วยพวกเราทั้งหมดล่ะ!”
นี่แกพูดว่าไงนะ?”
พวกเรากำลังจะหนีออกไปผ่านเส้นทางลับในวังหลวง
ฉันเชื่อเขาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ เพราะฉันรู้ว่าเขาจะช่วยพวกเรา
อ๊า จะกังวลอะไรอีกเล่า ตรงนี้มีคุณวีดอยู่ทั้งคน แถมเขายังไม่ได้เป็นแค่คุณวีด แต่เขาเป็นเทพสงครามด้วย!”
ความศรัทธาต่อวีดของฝูงชนต่างพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด ตามปกติแล้วการที่มีความเห็นหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางคนนับพันนับหมื่นคนนั้น จะต้องมีการโต้แย้งกันเกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ในครั้งนี้พวกเขาทุกคนต่างตัดสินใจที่จะติดตามวีด เหล่าเอ็นพีซีของเมืองเซราบอร์กเองต่างก็ติดตามไปด้วยตามความเหมาะสมในเควสของเซลิน่าอยู่แล้ว
 งั้นก็ไปกันเลย
วีด, ซอยูน และเหล่าผู้เล่รที่มีความแข็งแกร่งต่างเดินนำเพื่อมุ่งหน้าสู่วังหลวง
หวา.. พวกเรากำลังไปแล้ว
 ไปได้แล้ว!”
เหล่าผู้เล่นที่อยู่ที่จัตุรัสต่างมุ่งหน้าไปยังพระราชวังด้วยน้ำหนึ่งในเดียวกัน อาจจะไม่เป็นการกล่าวผิดไปเลยว่าเหตุการณ์ตรงหน้านั้นเหมือนกับการก่อจลาจลไม่มีผิด
 พี่ พวกเรากำลังจะไปไหนงั้นเหรอ?”
คุณวีดกำลังช่วยพวกเราออกไปน่ะ พวกเราแค่ตามเขาไปก็พอ
เหล่าผู้เล่นที่อยู่รอบๆจัตุรัสรวมถึงผู้อาศัยในเมืองเซราบอร์กต่างรวมตัวกันตามไป
ทหารยามยังคงเฝ้าอยู่หน้าทางเข้าวัง แต่พวกเขากลับดูวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวที่จะต่อสู้กับวิหารเอ็มบินยู พวกอัศวินที่เฝ้าอยู่ในวังหลวงต่างไม่หลงเหลือเลยสักคน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มั่นใจแล้วว่ากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายต่างอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
 พวกเขาหนีไปก่อนแล้ว!”
วีดเปิดแผนที่ขึ้นมาตรงหน้าพร้อมกับเดินต่อไป มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยในการตามรอยเพื่อที่จะออกไปจากวังตั้งแต่ช่วงที่เขาเข้ามาในพระราชวังดวงดาวจนถึงตอนนี้ที่เขาออกล่า
 มันมีเส้นทางหลบหนีมากเกินไป ไปที่ๆใกล้ที่สุดก่อนละกัน…”
ทุกๆวังหลวงที่มีเชื้อพระวงศ์อาศัยอยู่ต่างก็มีทางเข้าไปยังเส้นทางลับ
ตอนนี้พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่วังของมกุฎราชกุมารลำดับ 3 ก่อน
 เข้าใจแล้ว ฉันจะล่วงหน้าไปสำรวจดูก่อนละกัน
เมื่อวีดบอกแผนออกไป ผู้เล่นที่เลเวลสูงด้านหลังเขาและผู้เล่นที่มีเลเวลอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ไม่มีกลุ่ม ต่างอาสาไปสำรวจก่อน
เมื่อการสำรวจเสร็จสิ้น พวกเขาก็พบว่าไม่มีแม้แต่คนหรือของมีค่าอื่นเหลืออยู่เลย
ไปได้!”
วังของมกุฎราชกุมารลำดับ 3 นั้นเล็กกว่าวังอื่นมาก แถมยังมีกำแพงอิฐและสวนที่มีงานศิลป์ต่างๆมากมาย และแม้กระทั่งที่นำทางผู้คนอยู่นั้น วีดก็ยังคงตรวจสอบงานศิลป์ตามรายทางไปด้วย และหยิบเอาผลงานที่มีราคาแพงติดไม้ติดมือกลับมาด้วย
 พวกเราสามารถเข้าไปได้จากห้องนี้
ในห้องบรรทมของมมกุฎราชกุมาร ทางลับนั้นตั้งอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า ผู้เล่นที่มีอาชีพเป็นนักสำรวจได้สำรวจทุกซอกทุกมุมและได้เปิดทางเข้าไว้ก่อนแล้ว
 เร็วเข้า!”
ดันเจี้ยน , ท่านได้เข้าสู่ทางเดินลับใต้ดินของวังหลวง
สิทธิพิเศษ : ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 315
ค่าประสบการณ์และอัตราการดรอปของไอเทมเพิ่มขึ้นสองเท่าตลอดหนึ่งสัปดาห์
สำหรับมอนสเตอร์ตัวแรกที่ถูกสังหารจะดรอปไอเทมที่ดีที่สุดออกมา

 “อ๊าา นี่มันดันเจี้ยน รอก่อน ขอตรวจสอบก่อน!”
นักผจญภัยนาดาล ก้าวเท้าเข้าไปก่อนและมองไปรอบๆ
ตรวจสอบดันเจี้ยน!”

ดันเจี้ยน, ทางเดินลับใต้ดินของวังหลวง
ทางเดินลับใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับเชื้อพระวงศ์ของราชอาณาจักรโรเซนไฮม์ เพื่อใช้ในวิกฤตการณ์ต่างๆ แต่ทางอาณาจักรเองก็ยังไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้มันมาเป็นเวลานาน ดังนั้นเชื้อพระวงศ์ต่างๆจึงใช้มันสำหรับการเดินทางที่เป็นความลับ(การเคลื่อนไหวทางการเมือง/ทางการทูต/การทหารหรือแม้กระทั่งหนีเที่ยว เป็นต้น) ด้วยความที่ทางลับนี้กว้างขวางจึงทำให้ถูกมอนสเตอร์ยึดครองมาเป็นเวลานานจนไม่สามารถล่วงรู้ได้ แต่พวกเขาก็ยังคงใช้ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตอยู่หลายครั้ง
ระดับความยาก : ยากระดับสูง
ระดับความใหญ่โต : กว้างขวางเป็นอย่างมาก
เป็นเพราะทักษะตรวจสอบที่ต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้ถึงจะได้ตัวเลขของข้อมูลที่แน่นอนเกี่ยวกับขนาดความกว้างขวางของสถานที่มากกว่าที่จะอ่านข้อมูลที่ปรากฏ! นักผจญภัยมีช่วงเวลาที่หาข้อเท็จจริงของข้อมูลได้ง่ายมาก
 ให้ตายเถอะ มันบอกว่ามีมอนสเตอร์อยู่ใต้นี้ด้วย แถมฉันยังรู้สึกว่ามอนสเตอร์พวกนี้ยังมีเลเวลประมาณ 300 ด้วยสิ
นักผจญภัยพูดขึ้นด้วยความกังวล
ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะวีดเองก็เคยได้พันธมิตรจากการแจ้งเตือนเมื่อครู่นี้เช่นกัน.. ซึ่งครั้งก่อนนั้นก็แค่กลุ่มของภูติที่ส่องแสงราวกับเป็นหิ่งห้อยปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่วีดได้เข้าไปในดันเจี้ยน
ราชินีส่งพวกเรามา
ทางนี้อันตราย ทางนั้นก็อันตราย
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นวีดจะสามารถเคลียร์ทางต่างๆได้อย่างง่ายดาย จนต้องร้องออกมาว่าเจ้าโทรลน้ำแข็งนี่มันเยี่ยมที่สุดเลย ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้
ฉันคิดว่าจะไปทางนี้หรือทางนี้ดี?
เหล่าภูติต่างแสดงความสนใจวีดโดยการบินไปรอบๆเขา และมีเพียงผู้ที่มีฐานะสูงศักดิ์เท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นเหล่าภูติได้ และถึงแม้ว่าพวกเขาอยากจะเห็นก็ตาม พวกภูติก็สามารถซ่อนตัวตนได้จากมนต์ของชาแมน และด้วยการที่ค่าศีลธรรมของวีดกลับคืนมาสู่ปกติมันก็เหมือนกับได้รับความโชคดีกกลับมาด้วย และเพราะภารกิจที่เขายอมรับจากราชินีภูติ พวกภูติจึงยอมปรากฏตัวต่อหน้าเขาและให้การช่วยเหลือเขา

 จบตอน จบเล่ม 25 ติดตามตามตอนต่อไป
ผู้แปล: SR
Editor: แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล


14 ความคิดเห็น:

  1. สนุกมากค่าาาา ขอบคุณผู้แปลและทีมงานทุกท่าน

    ตอบลบ
  2. เป็นช่วงที่เนื้อเรื่องสนุกมาก..ขอบคุณทีมแปลครับ

    ตอบลบ
  3. สนุกสุดๆไปเลย เราชอบอ่านนิยาย

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณที่แปลนะครับ สนุกทุกตอนเลย

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณครับ แต่ผมอยากอ่านต่อมันติดค้างในใจ

    ตอบลบ
  6. งานพรีเมี่ยม เทพวีดมีหักมุมตลอด

    ตอบลบ
  7. ยกโขยงพาหนี ไม่รู้มีวิกฤติอะไรรออยู่อีก

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...