วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2565

เล่ม 49 บทที่ 4 : การปลดปล่อยรัฐอิสระแห่งโซมุเรน พาร์ท 3 แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

 

เล่ม 49 บทที่ 4 : การปลดปล่อยรัฐอิสระแห่งโซมุเรน พาร์ท 3 แปลโดย แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

บุกกกกกกก!!!”

โซมุเรนจะเป็นรัฐอิสระอีกครั้ง!”

เราไม่เอาเผด็จการรรรร!”

มันเริ่มจากวีดเป็นตัวกระตุ้น จากนั้นมันก็ลามต่อด้วยไฟแห่งความโกรธแค้น ตอนนี้ทุกคนเต็มไปด้วยพลังใจอันโชติช่วงชัชวาล

จำนวนผู้เล่นเข้าร่วมเพิ่มขึ้นนับหมื่นทันทีที่พวกเขามาถึงพลาซ่า และผู้คนเริ่มรู้สึกได้ว่าพวกเขาสามารถทำมันได้ ยิ่งจะมีผู้เล่นเข้ามาสมทบกับพวกเขามากขึ้น พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งถึงหนึ่งหมื่นสามพันคนเมื่อตอนที่มาถึงบริเวณหน้าปราสาทของท่านลอร์ด และตอนนี้มีจำนวนถึงหนึ่งหมื่นเจ็ดพันคน

ด้วยการปรากฏตัวของวีด จำนวนผู้เล่นที่ออนไลน์หลั่งไหลเข้ามาในถนนและพลาซ่า บางคนก็เข้ามาจากทางประตูปราสาท

โค่นกิลด์เฮอร์มีส!”

พวกเราคือโจ๊กหญ้า! พวกเราคือโจ๊กหญ้าโซมุเรน!”

พวกผู้เล่นที่ติดตามวีด บ้างก็เด็ดดอกไม้หรือหญ้าจากพื้นดินและเอามาวางไว้บนผมของพวกเขา

โจมตี!”

ปราสาทของท่านลอร์ดที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยกิลด์เฮอร์มีสเพื่อช่วยในการบริหารรัฐอิสระโซมุเรน บัดนี้กลายเป็นเป้าหมายของการก่อกบฏ

กำแพงปราสาทสูงและแข็งแกร่ง เพียบพร้อมด้วยเครื่องป้องกันครบครัน ที่สามารถร่ายได้แม้กระทั่งเวทย์โจมตี

จากป้อมธนู ลูกศรขนาดกลางทรงพลังก็สาดลงมายังฝูงชน

อย่าให้พวกมันเข้ามา เตรียมน้ำมันร้อนและสั่งการพร้อมรบ!”

ครับท่าน!”

ในฐานะอัศวินผู้เปี่ยมด้วยพลังผู้นำอันยอดเยี่ยม บูชิริสั่งการทหารเพื่อป้องกันปราสาท มันเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคบริทเท่น กิลด์เฮอร์มีสได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างปราสาทหลังนี้ให้แข็งแกร่งเฉกเช่นป้อมปราการ เพื่อที่พวกเขาจะได้แสดงแสนยานุภาพในการขยายอาณาเขตเข้าควบคุมภูมิภาคใกล้เคียง

เมื่อทัพองรักษ์หลวงประจำการอยู่หน้ากำแพงปราสาทและจุดยุทธศาสตร์ทั้งหลาย พวกผู้เล่นที่อยู่ด้านนอกเริ่มตอบโต้กลับ

เน้นเวทย์ไปที่ประตูปราสาท!”

คนที่มีคลาสนักธนูหรือเรนเจอร์ อย่าไปอยู่แนวหน้า! ให้ปีนไปตามด้านบนสุดของอาคารจากในเมืองและยิงไปที่ปราสาทจากจุดที่คุณสามารถเข้าถึงได้!”

ผู้เล่นรัฐอิสระไม่มีสายการบังคับบัญชาที่เหมาะสม พวกเขาแต่ละคนต่างก็ค้นหาบทบาทของตนในการต่อสู้และจัดการเพื่อเอาชนะกองกำลังที่ประจำการในแต่ละเขตของเมืองได้

วีดขึ้นหอคอยเวทย์พร้อมกับเพล

อืมวิวสวยจัง

สมแล้วที่เป็นโซมุเรน ช่างเป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองอย่างแท้จริง

สถาปัตยกรรมสไตล์ยุคกลางที่สวยงามของเมืองดึงดูดสายตาพวกเขา หลังจากที่ประตูแห่งรอยัลโร้ดเปิดออก ความมั่งคั่งจำนวนมหาศาลที่สะสมอยู่ในเมืองนี้ได้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่หรูหรา วิหารของศาสนาต่าง ๆ รวมถึงวิหารเฟรย่าห์ ถนนพ่อค้าและอาคารสมาคมกระจายอยู่ทั่วเมืองอย่างสม่ำเสมอ คฤหาสน์ของขุนนางและเศรษฐีเพิ่มทัศนียภาพที่สวยงามเช่นกัน

จงสู้กับศัตรู!”

บุกเต็มกำลัง! อย่าไปถอย ปีนข้ามกำแพง!”

สามารถได้ยินเสียงจะโกนจากทั้งกิลด์เฮอร์มีสและผู้เล่นท้องถิ่นอยู่ทุกหนทุกแห่ง เปลวเพลิงเริ่มลุกไหม้ในหลายพื้นที่ ขวันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

รัฐอิสระโซมุเรนตกอยู่ในภาวะสงคราม

เพลหันไปมองหน้าวีด

เพียงแค่เขาปรากฏตัว ก็เกิดการต่อสู้ได้ถึงขนาดนี้เขามีบทบาททรงพลังจริงๆ

ก่อนที่ความคิดของเขาจะซับซ้อนมากเกินไป วีดเปิดปากพูด

ฉันคิดว่าน่าจะใกล้ได้เวลาแล้วแหละ

เวลาอะไร?”

แน่นอน กองทัพอันเดด จะมีอะไรเหมาะไปกว่าฝูงอันเดดในการต่อสู้ระดับนี้กันล่ะ?”

สนามรบที่ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมของทวีปกลางมีส่วนร่วมในการต่อสู้ ผู้พิทักษ์และกบฏเหมือนกัน ศพของพวกเขาสามารถฟื้นคืนสภาพเป็นมนุษย์หลังจากล้มลงในการต่อสู้ ค่าประสบการณ์และความชำนาญทั้งหมดที่จะได้รับจากการอัญเชิญอันเดดระดับสูงและนำพวกเขาเข้าสู่การต่อสู้!!!

ยิ่งไปกว่านั้น หากพวกกบฏไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติในโซมุเร็นได้อีกต่อไปหลังจากนี้ พวกเขาก็จะเลือกที่จะหนีไปที่อาณาจักรอาเพ่น ทิ้งไว้เพียงความขมขื่นสำหรับบาร์ดเรย์และลาเฟย์ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดแล้ว การทำลายเชลเจี้ยมซึ่งมีการสู้รบครั้งใหญ่ก็จะไม่เอื้ออำนวยต่ออาณาจักรฮาเว่นเช่นกัน จากมุมมองระยะยาว อาณาจักรฮาเว่นจะต้อป้องกันอาณาจักรอาเพ่นทางตอนเหนือและนักรบทะเลทรายทางตอนใต้ ยิ่งไปกว่านั้น จะมีแนวรบอันตรายก่อตัวขึ้นภายในอาณาจักรเอง ในการแลกเปลี่ยนการโจมตีกับศัตรูแต่ละครั้ง อาณาจักรฮาเว่นจะต้องประสบกับความสูญเสียและกำลังทหารของพวกเขาจะอ่อนกำลังลง มันจะถูกกีดกันจากผู้เล่น ชื่อเสียง และในที่สุด จากอาณาเขตของมัน

ว้าวร้ายกาจ ถึงว่าทำไมคุณเมแพนมักจะพูดอยู่เสมอว่าเขานั้นไม่อาจเปรียบเทียบได้กับคุณวีด เขาไม่ได้ถ่อมตัวเลยด้วยซ้ำ

สถานการณ์ทั้งหมดนี้ เปรียบได้กับเครื่องหยอดเหรียญของเล่น เพียงแค่เขาใส่เหรียญเข้าไป และก็รอรับของเล่นก็แค่นั้น (การหยอดเหรียญเปรียบได้กับตัวจุดชนวน จากนั้นก็ปล่อยให้กลไกทุกอย่างมันทำงานและรอเก็บเกี่ยว)

***

การปิดล้อมในรัฐอิสระโซมุเรน!

กองกำลังป้องกันที่นำโดยบูชีริกำลังทำงานอย่างน่าชื่นชมในการสกัดกั้นศัตรู แต่มันทำได้เพียงยืนหยัดต่อสู้กับการโจมตีที่เข้มข้นจากผู้เล่นเท่านั้น

จงกลับไปสู่ดินแดนที่เจ้าเคยเดิน ที่ซึ่งความมืดปกคลุม แผ่นดินที่ดำมืดและเสื่อมทราม จารึกพระบัญญัตินิรันดร์แห่งความมืดไว้ในใจของทุกสิ่งมีชีวิต ปลุกชีพอันเดด!”

วีดเรียกเดธไนท์และอสุรกายออกมา เมื่อทักษะอัญเชิญอันเดดของเขาถึงขั้นกลางเลเวล 7 ตอนนี้เขาสามารถเรียกนักรบหมาป่าจู่โจมที่ถือค้อนสงครามขนาดใหญ่ได้

"ต่อสู้ เหยียบย่ำ ข้าไม่ต้องการเครื่องเซ่นใดๆ ล้างบางพวกมันให้สิ้น!

เขาเปลี่ยนค่าสถานะศิลปะทั้งหมดของเขาเป็นภูมิปัญญาโดยใช้ทักษะประติมากรรมวินาศ วีดได้ส่งเหล่าอันเดดที่ไม่มีที่สิ้นสุดเข้าสู่การต่อสู้ เขาเรียกนักธนูโครงกระดูกออกมาครั้งละหลายร้อยตน สั่งให้พวกมันโจมตีจากระยะไกล แม้ว่าอาวุธปิดล้อมขนาดใหญ่จะโจมตีพวกมันโดยตรง โครงกระดูกก็ลุกขึ้นอีกครั้ง กระดูกที่หักของพวกมันก็ประกอบเข้าด้วยกัน

คิคิคิ เราไม่สามารถถูกฆ่าได้ เพราะเราตายไปแล้ว!

นักรบอมตะเรียก ใครจะยืนหยัดต่อสู้กับเรา?”

แม้แต่โครงกระดูกที่อ่อนแอก็ยังเป็นภัยคุกคามอย่างมากเมื่อพวกมันยิงธนูโดยไม่สิ้นสุด

กองกำลังป้องกันจะต้องออกไปนอกกำแพงปราสาทเพื่อจัดการกับพวกมัน แต่ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสมักหมกมุ่นอยู่กับความปลอดภัยของตนเองเกินกว่าจะก้าวออกไป ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการ แต่ทุกคนที่พยายามได้เสียชีวิตทันทีที่พวกเขาออกไปข้างนอก: บาฮามอร์ก นักรบที่รับใช้วีดอยู่ที่นั่น และขณะนี้ไม่มีผู้เล่นในสถานที่นี้ ที่สามารถเทียบเคียงพลังของเขาในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว

นอกจากบาฮามอร์กแล้ว ซีซั่นแครป(มิสเตอร์ปูดองขางเรา) ผู้ลอบสังหารกำลังเคลื่อนที่ไปในทางที่คาดเดาไม่ได้พาดผ่านสนามรบ และยังมีนักรบไพธอนและผู้เล่นระดับสูงจำนวนมากที่เก็บสะสมความแค้นต่อกิลด์เฮอร์มีสไว้ ผู้เล่นของเมืองก็ไม่เล็กเช่นกัน มีการโจมตีไปที่ผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสที่ก้าวออกจากกำแพง

เราพบเส้นทางเข้าไปในปราสาทแล้ว!

รูถูกสร้างขึ้นจากรอยร้าวในผนัง ในตำแหน่งที่บดบังด้วยอาคาร ขณะที่ผู้เล่นในเมืองกำลังเจาะเข้าไป การปิดล้อมรัฐอิสระโซมุเร็นก็มาถึงจุดไคลแมกซ์ ในขณะที่กองกำลังป้องกันในปราสาทของลอร์ดเริ่มหมดแรงและมีจำนวนน้อยลง ขนาดของกองกำลังกบฏก็เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเท่านั้น

ช่วงเวลาที่สำคัญคือเมื่อวีดปรากฏตัวบนท้องฟ้าด้วยปีกแห่งแสง กู่ก้องด้วยราชสีห์คำราม

เราต้องให้อภัยผู้ที่ยอมจำนนต่อเรา!

“…?”

จู่ๆก็พูดขึ้นมาซะอย่างนั้น จากปากของวีดที่อัญเชิญอันเดดและกระทืบกองกำลังป้องกันและผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสซะจนเละเทะ ก็มีคำแนะนำที่คาดไม่ถึง

นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้กับคนไม่กี่คนเหล่านี้ เราต้องต่อสู้เพื่อฟื้นฟูความยุติธรรมที่หายไปจากทวีปเวอร์เซลล์!

แม้แต่เด็กประถมก็ยังรู้ดีกว่าที่จะเชื่อสิ่งนี้: ผู้คนอยู่ในยุคที่เด็ก ๆ ต้องเปิดโทรศัพท์เท่านั้นเพื่อให้รู้ว่าโลกภายนอกนั้นไร้ความปรานีและอันตรายเพียงใด

สู้ เมื่อเราต้องสู้ แต่ถ้าใครบอกว่าพวกเขายอมแพ้ก็ให้อภัยพวกเขา การตอบโต้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะไม่ส่งผลดีต่อโลกของเรา!

แนวคิดเรื่องความยุติธรรมของวีด!

มีคนไม่มากที่เข้าใจเรื่องนี้ แต่เป็นความคิดที่น่าดึงดูดสำหรับผู้เล่นของกิลด์เฮอร์มีสที่คาดว่าจะถูกสังหารหมู่หรือถูกขังอยู่ในปราสาทของลอร์ดหลังจากที่กำแพงถูกทำลาย

'พวกเขาจะปล่อยให้เรามีชีวิตอยู่ถ้าเรายอมจำนน?'

จิตใจของพวกเขาถูกฉีกขาดระหว่างคุณค่าที่ขัดแย้งกันสองประการ: ประโยชน์ของการหลีกเลี่ยงความตายครั้งนี้และข้อเสียของการละทิ้งกิลด์เฮอร์มีส แน่นอนว่าอย่างหลังมักจะยิ่งใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก แต่สถานการณ์จะแตกต่างออกไปเล็กน้อยสำหรับผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีสที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคบริทเท่น พวกเขาคือผู้เล่นที่เข้าร่วมกิลด์หลังจากที่อาณาจักรฮาเว่นเข้ายึดครองทวีปกลาง เดิมทีพวกเขาเป็นคนของกิลด์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ แต่ได้แปรพักตร์เมื่อความแข็งแกร่งของพวกเขาได้รับการยอมรับจากกิลด์เฮอร์มีส

'ฉันอยากไปเก็บเลเวลในภูมิภาคนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวีดปลดปล่อยพื้นที่ทั้งหมดรอบ ๆ ที่นี่?'

จากนั้นพวกเขาอาจถูกบังคับให้ละทิ้งบ้านเกิดและย้ายไปยังภูมิภาคที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกิลด์เฮอร์มีส ในทางกลับกัน พวกเขาอาจจะต้องย้ายไปที่อาณาจักรอาเพ่น แต่อย่างน้อยนั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องตายที่นั่น นอกจากนี้ หากพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ก็อาจมีโอกาสที่จะลดการสูญเสียโดยการขายทรัพย์สินของตนให้เหลือน้อยที่สุด

ดังนั้น ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด ด้วยคำพูดเพียงคำเดียวของวีด ผู้เล่นก็เริ่มวางอาวุธลงกับพื้น

ฉันยอมแพ้!

เราจะไม่สู้อีกต่อไปแล้ว!

ด้วยการละทิ้งของผู้เล่นกิลด์เฮอร์มีส กองกำลังป้องกันของปราสาทก็พังทลายลงในเวลาไม่นาน มีผู้เล่นประมาณหนึ่งในสามที่เลือกต่อสู้จนจบ แต่ที่เหลือเลือกทิ้งกิลด์เฮอร์มีสไว้เป็นราคาสำหรับชีวิตของพวกเขา

***

ทราคิสผู้พิชิต!

แม้ในขณะที่เป็นผู้นำกองทัพของกองทัพที่สาม เขาก็ไม่สามารถคลายความตึงเครียดได้

'ฉันจะต้องต่อสู้กับวีด...ฉันไม่รู้ว่าคราวนี้เขาจะมีเรื่องไม่คาดฝันอะไรอีกบ้าง...แต่ถึงอย่างนั้น มันจะเป็นชัยชนะของฉัน'

การยอมให้ศัตรูยึดเชลเจี้ยมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของพวกเขา.. ตอนนี้ พวกเขากำลังถล่มเมืองจากภายนอกด้วยการโหมโจมตีอย่างหนักหน่วง โดยใช้อาวุธโจมตีประสิทธิภาพสูงจำนวนมากที่พวกเขานำมาจากอาณาจักรฮาเว่น การปรากฏตัวของอัศวินเหล็กเพิ่มความมั่นใจของพวกเขามากยิ่งขึ้น และกลยุทธ์คลื่นมนุษย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้เล่นทางเหนือก็จะถูกจำกัดอย่างรุนแรงในสถานที่นี้เช่นกัน

'ฉันควรจะรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาส่งฉันมารับผิดชอบการต่อสู้ หลังจากวันนี้ ฉันจะได้รับชื่อเสียงอย่างมากจากการเอาชนะวีดและอาณาจักรอาร์เพนของเขา'

มันเป็นโอกาสที่จะนำหน้าผู้เล่นที่โดดเด่นคนอื่นๆของกิลด์เฮอร์มีสไปหนึ่งก้าว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำลายกำแพงปราสาทและทำลายล้างเมืองทั้งเมือง เขาได้พัฒนาอาวุธปิดล้อมทีละน้อย

ขณะที่ทราคิสมองดูสมรภูมิรบอย่างน่าทึ่ง ทันเมล สมาชิกอีกคนหนึ่งของ กิลด์เฮอร์มีสเรียกเขา

ผู้บัญชาการกองพัน!

"อะไรฉันกำลังดำเนินการต่อสู้อยู่ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉันต้องไม่เสียสมาธิแม้แต่วินาทีเดียว-

"มันคือ! คุณได้ยินไหมว่าวีดปรากฏตัวในโซมุเร็น?”

"นายพูดว่าอะไรนะ?"

ขณะดำเนินการปิดล้อม ทราคิสได้ข่าวว่าวีดปรากฏตัวในโซมุเร็น เขาไม่เชื่อในตอนแรก แต่ไม่นานนักจากลูกบอลคริสตัลของเขายืนยันว่าสถานีออกอากาศได้ย้ายสตรีมสดไปยังโซมุเร็นด้วย

ความตึงเครียดของเขาซึ่งคมพอๆ กับปลายดาบเมื่อสักครู่นี้ หายไปอย่างนั้น อย่างไม่ดราม่ามาก

'วีดละทิ้งเชลเจี้ยม จากนั้นที่นี่ก็เหลือแต่ผู้เล่นทางเหนือบางคนเท่านั้น'

และแม้แต่ผู้เล่นทางเหนือเหล่านั้นก็ยังมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากพวกเขามีเลเวลต่ำกว่า 100 เช่นกัน พวกเขาเป็นเพียงศัตรูบางส่วนที่สามารถเอาชนะได้โดยไม่มีการท้าทายใดๆ

'การต่อสู้จะง่ายเพียงใด เมื่อเทียบกับสมัยนั้นเมื่ออาณาจักรฮาเว่นพิชิตทวีปกลาง!'

ทราคิสสั่งให้กองทัพเปิดการโจมตีเต็มรูปแบบ

ทำลายมันให้หมด มันจะเป็นความอัปยศที่จะลากสงครามครั้งนี้จนถึงคืนนี้

อาวุธปิดล้อมรุกล้ำหน้า พ่นไฟและน้ำแข็ง ทั้งอัศวินเหล็กกล้าและกองทัพองครักษ์รุดหน้าสังหารผู้เล่นทางเหนือ

โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า โจ๊กหญ้า!

"มันยังไม่จบมาต่อสู้ให้ถึงที่สุดกันเถอะ!

ผู้เล่นทางเหนือต่อสู้อย่างกล้าหาญและเสียชีวิต

พลังทางทหารที่ไม่มีใครเทียบได้! กองทัพที่ 3 ภายใต้การบังคับบัญชาของทราคิสได้ครอบงำผู้เล่นที่รวมตัวกันในเชลเจี้ยมด้วยความแข็งแกร่ง ในบางครั้งมีผู้เล่นที่ยอมจำนน แต่ส่วนใหญ่เสียชีวิตในการต่อสู้

ตามที่พวกเขาวางแผนไว้ กองทัพที่สามสามารถสรุปการโจมตีก่อนพลบค่ำ เมืองนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง และผู้เล่นจำนวนมากที่รวมตัวกันถูกทำลายล้าง ในทางกลับกัน มีผู้บาดเจ็บล้มตายน้อยกว่า 20,000 คนในฝั่งของกองทัพอาณาจักรฮาเว่น มันเป็นชัยชนะอย่างท่วมท้น

***

ขณะดูแลร้าน เมแพนดูการต่อสู้ของเชลเจี้ยมและโซมุเร็น

ฮา! นั่นคือคุณวีดของเรา!

เขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเกรงใจ การแทงข้างหลังของวีดมีมุมที่สมบูรณ์แบบ การเจาะในปริมาณที่เหมาะสมและการวางตำแหน่งที่ละเอียดอ่อน ไม่ต้องพูดถึงมาตรการหลังที่ยอดเยี่ยม

อมเงินเมีย ลูกพี่ลูกน้องของเมแพน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เขาแนะนำรอยัลโร้ดให้รู้จัก กล่าวว่า:

เอาเป็นว่าพี่

"ว่าไง?"

ทำไมท่านวีดถึงปล่อยให้คนเหล่านั้นมีชีวิตอยู่ถ้าเขาเป็นอย่างที่พี่พูด เขาจะล้างบางพวกเขาทั้งหมดเพื่อค่าประสบการณ์และความชำนาญของทักษะไม่ใช่หรือ?”

นายกำลังตัดสินเขาเพียงแค่ผิวเผิน

เมแพนลูบหน้าท้องใหญ่ๆของเขาเลียนแบบรอยยิ้มชั่วร้ายที่เขาได้เรียนรู้จากวีด

ค่าประสบการณ์และความชำนาญเป็นเพียงประโยชน์ครั้งเดียว

นั่นก็จริง

คุณวีดสามารถขยายอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของเขาโดยจบการต่อสู้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และเขายังแสดงความเมตตาอีกด้วย นั่นจะมีผลกระทบทั่วทั้งทวีปเวอร์เซลล์

แต่นั่นไม่ใช่ตัวตนปกติของเขา มันคุ้มกับผลประโยชน์ที่เขายอมเสียไปจริงหรือ?”

อมเงินเมีย เอียงศีรษะไปข้างหนึ่งด้วยความสับสน ตัดสินโดยบุคลิกของวีดที่เขาเคยได้ยินมามากขนาดนี้ ไม่น่าเป็นไปได้จริงๆ ที่เขาจะทำตามมโนธรรมของเขาเมื่อทำการตัดสินใจ พลาดผลประโยชน์บางอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขา เพียงเพื่อคุณค่าที่คลุมเครือและเป็นนามธรรมนั่นเป็นแง่มุมที่น่าประหลาดใจมากสำหรับเขาที่อมเงินเมียกำลังพิจารณาถึงความประทับใจของเขาที่มีต่อวีด

'ฉันจะต้องจากเขาไปถ้าเขาไม่คุ้มที่ฉันจะเชื่อฟัง'

เมแพนไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มที่สั่นเทาได้ราวกับว่าเขารู้ดีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

พวกมันจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับท่านวีด

"อะไรนะ?"

นายคิดว่ากิลด์เฮอร์มีสจะยอมรับพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะกลับมาหรือไม่พวกเขาจะไปออกล่า ทำภารกิจให้สำเร็จ และเข้าร่วมการต่อสู้ทั้งหมดเพื่ออาณาจักรอาเพ่นจากนี้ไป

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ละทิ้งศักยภาพในการเติบโตของเขาเอง! ขาดทุนขนาดนี้!

ฮ่าๆ

เมแพนรู้สึกพอใจมากเมื่อเห็นความกระหายหากำไรของลูกพี่ลูกน้อง คุณจะไม่สร้างพ่อค้าที่ดีเว้นแต่คุณจะมีความทะเยอทะยานเช่นนั้น

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณวีดสมควรได้รับความเคารพจากผู้คน

"อะไรกัน?"

พวกเขาเป็นเพียงผู้ล้มเหลว มีจำนวนไม่มากนัก ถ้าเขากำจัดคนพวกนั้นทั้งหมดด้วยอันเดดของเขา แน่นอนว่าจะต้องมีคนในหมู่ผู้เล่นทางเหนือที่อิจฉาพลังของเขา

"อา…"

นั่นคือกฎที่นายต้องจำไว้เมื่อนายได้รับอาหารฟรี นายจะไม่กินอาหารมื้อสุดท้ายจนหมด เกรงว่านายจะสูญเสียความปรารถนาดีจากเจ้าบ้าน จากนั้นนายจะได้รับอาหารฟรีอีกมื้อหนึ่ง

จบเล่ม 49 บทที่ 4 พาร์ท 3

ผู้แปล แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

1 ความคิดเห็น:

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...