วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563

เล่ม 36 ตอนที่ 9 : กองทัพเอ็มบินยู แปลโดย Patty


เล่ม 36 ตอนที่ 9 : กองทัพเอ็มบินยู แปลโดย Patty

 ชีวิตก็เหมือนกับกระเทียม ไม่สำคัญว่ามันจะสั้นแค่ไหน มันก็ยังคงเผ็ดร้อนเสมอ

วีดพยักหน้าอย่างเชื่อมั่นในตนเอง

เขานำกองทัพมุ่งหน้าไปยังป้อมกราการดัลมอร์ แต่ก็กังวลเกี่ยวกับภารกิจที่ยากลำบาก ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าตนเองนั้นช่างโชคร้ายเสียนี่กระไร แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขามองย้อนกลับไปในตอนนั้น...

 มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น ชาติที่แล้วฉันคงต้องขายประเทศขนาดใหญ่ไปแน่ๆ (เมื่อก่อนอิตาวีดมันคิดว่ามันซวยขนาดที่ว่าชาติที่แล้วคงหลอกขายกาแล็กซี่ไป)”

ผู้คนมักจะชอบแก้ปัญหาที่สำคัญๆ แต่วีดนั้นต้องการที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายๆไปพร้อมกับการกินผลไม้หวานๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานทุกครั้งในเหตุการณ์แสนสำคัญบนทวีปเวอร์เซลล์

 นี่คือความยากลำบากของการต้องมาทนทรมานเพียงลำพัง

วีดยังคงบ่นต่อไปด้วยความไม่สบายใจขณะกรีธาทัพ

ด้วยกฎแห่งทะเลทราย เขาได้ปกครองเหล่านักรบทะเลทรายด้วยความหวาดกลัว เหล่าประติมากรรมสลักชีพก็ยังพลอยเข้าใจธรรมชาติของวีดผิดไปด้วย
วีดนั้นทั้งชั่วร้ายและหยาบช้าต่ำตม แต่พวกเขาก็ยังมองวีดเป็นดั่งวีรบุรุษ เหล่านักรบทะเลทรายปฏิบัติตามคำสั่งของเขาในฐานะนายเหนือหัว

วีดเคยบ่นเมื่อตอนที่เขาร่วงลงมายังทะเลทราย

 ฉันพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในสถานที่ดีๆ ฉันไม่ชอบทะเลทรายเอาซะเลย เพราะว่ามันน่ารำคาญที่จะต้องมาคอยประหยัดน้ำ แถมมอนสเตอร์ไฟยังเพ่นพ่านไปทั่ว

ไม่มีใครเคยคิดที่จะใช้ชีวิตในทะเลทรายเลยจริงๆ แน่นอนว่าผู้คนที่เกิดที่นั่นก็ช่วยไม่ได้ที่ต้องทนทุกข์ด้วยความลำบาก ดังนั้น มันจึงยากที่จะพบเหล่าผู้เล่นในบริเวณทะเลทรายทางตอนใต้

มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ที่วีดได้ฟื้นฟูดินแดนทะเลทราย แต่ก็ไม่มีเลยสักคนที่ต้องการจะลงหลักปักฐานที่นี่

 ฉันเลี้ยงดูปูเสื่อพวกชนเผ่าเป็นอย่างดีราวกับแกะ แต่กระนั้นฉันก็ทำไม่ได้แม้กระทั่งจะขายพวกมันเพื่อหาเงิน

วีดยังคงบ่นๆๆต่อไปในขณะเดินทาง งานอดิเรกของเขาคือการบ่นๆๆๆ เรื่องเงินเพื่อที่จะได้ผ่อนคลายความเครียดจากสงคราม!!

เขาได้วิเคราะห์พลังที่ถูกเปิดเผยออกมาของวิหารเอ็มบินยูอย่างใจเย็น

 พวกมันค่อนข้างแข็งแกร่งกว่านิดหน่อย และในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุด...ฉันคงล้มเหลวในภารกิจนี้แบบสมบูรณ์

เขาได้สลัดภาพลงตาแห่งชัยชนะไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้มันแย่เสียยิ่งกว่าครั้งเมื่อเขาต้องปะทะกับกองทัพอมตะเพียงลำพังเสียอีก ในตอนนี้ ถ้าเขาพ่ายแพ้เขาจะล้มเหลวในภารกิจเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย

 ฉันจำเป็นต้องให้วิหารเอ็มบินยูกวาดล้างอาณาจักรมาปอนและเบย์เนอร์ไปก่อน

แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการที่จะใช้เหล่านักรับทะเลทราย พวกวิหารเอ็มบินยูก็จะกวาดล้างไปทั่วทวีปอยู่ดีในภายหลัง แต่ประวัติศาสตร์ได้มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่อาจปรากฏขึ้นเพื่อต่อกรกับวิหารเอ็มบินยู

 ฉันเกือบทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วสิ จะปล่อยให้ปิศาจภายในตัวซอยูนตื่นขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

แม้แต่การทำชั่วยังต้องใช้ความละเอียดอ่อน!(ทำอะไรต้องคิดให้ดี)

ถ้าภารกิจล้มเหลวความกดดันจากการต้องคอยดูแลเธอก็จะหายไป เนื่องจากสารเอนโดฟินที่หลั่งขณะเขากำลังคิดถึงการทำเรื่องชั่วร้าย ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของวีดนั้นอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด

นักรบ-1 ผู้ที่นำทัพอยู่ได้ถามขึ้นว่า

 “เหลือระยะทางอีก 2 กิโลเมตร จะถึงป้อมปราการดัลมอร์ พวกเราควรไปจัดการทัพม้าของศัตรูที่มาสอดแนมหรือไม่? กองทัพของราชอาณารักมาปอนและเบย์เนอร์ที่ปักหลักอยู่ที่ป้อมปราการดัลมอร์จะได้รู้ตัวว่าพวกมันกำลังถูกโจมตีและรู้สึกเสียขวัญ

 ไม่ต้อง, ปล่อยมันไป และเรามาถึงนี่เร็วก่อนกำหนด ดังนั้นพวกเราควรจะหยุดพัก

วิหารเอ็มบินยูจะมาในยามราตรี พวกมันมีอันเดดและใช้เวทย์มนต์ในการเคลื่อนที่ระยะไกลอย่างรวดเร็ว แม้พวกมันจะมาไม่ทันในวันนี้ อย่างช้าที่สุดก็คงไม่เกินช่วงเที่ยงพรุ่งนี้

 จากนั้นนั่นจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการต่อสู้

วิหารเอ็มบินยูไม่ได้สนใจแม้จะต้องโจมตีในตอนกลางคืน ทุ่งราบขนาดใหญ่ใกล้กับป้อมปราการดัลมอร์เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการใช้เปิดศึก
ยามราตรีนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเหล่าอันเดด วีดได้คิดถึงวิธีการและยุทธวิธีที่แตกต่างออกไปไม่สำคัญว่าการรบจะเกิดขึ้นเมื่อใด เขาก็ไม่ได้มีความทุกข์ร้อนหรือลังเลใดๆ

วิหารเอ็มบินยูค่อนข้างโชคร้าย ปัจจุบันโนดูลคือนักรบผู้กล้าที่หยุดยั้งความชั่วร้ายไม่ให้ฟื้นคืนสู่ทวีปอีกครั้ง แต่หลังจากที่วีดกลับไปยังอดีต มันกลายเป็นการต่อสู้ตัดสินเป็นตาย (น่าจะหมายถึงเมื่อก่อน โนดูลแค่เข้าไปหยุดยั้งวิหารเอ็มบินยูบางส่วน แต่ปัจจุบันก็ยังเริ่มแพร่กระจายกลับมาอีก แต่วีดได้ทำการเปิดสงครามเต็มรูปแบบ ที่ไม่ข้ามอด เอ็งก็ม้วย)

แตกต่างจากโนดูล วีดไม่ได้กระทำการใดด้วยเหตุผลอย่างเพื่อความถูกต้องหรือความยุติธรรม วีดสามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับวิหารเอ็มบินยูในอนาคต

ในยามเย็น ไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ดังนั้นยามราตรีจึงผ่านพ้นไปอย่างสบายๆ ทุ่งราบนั้นเต็มไปด้วยกองไฟและคบเพลิงขณะที่เหล่าทหารกำลังตั้งค่ายพักแรม ผู้ที่อยู่ไกลออกไปก็นั่งหรือไม่ก็ยืนอยู่ท่ามกลางความมืด
ความคืบหน้าของวิหารเอ็มบินยูนั้นค่อนข้างช้า ดังนั้นพวกมันคงมาถึงป้อมปราการดัลมอร์ในวันพรุ่งนี้ วีดจะทำให้แน่ใจว่าความหวังของพวกมันจะต้องสลายหายไป

และในวันต่อมา

วีดได้ทำการเลี้ยงอาหารเหล่าทหารอย่างเต็มที่

 กินได้เต็มที่เลย

 ขอรับ องค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

 ยังมีเหลืออีกมาก

เหล่าเชลยศึกนั้นอารมณ์ดีขึ้น แม้จะอยู่ในการต่อสู้ที่เสี่ยงอันตราย อย่างน้อยวีดก็ยังพอมีจิตสำนึกที่จะมอบอาหารให้กับพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะสละชีวิตในการต่อสู้!

วีดได้ทำการสำรวจป้อมปราการดัลมอร์ในวันรุ่งขึ้นแล้วพบว่า  เหล่าทหารแห่งราชอาณาจักมาปอนและเบย์เนอร์นั้นกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม

 นี่จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ในฐานะมหากาพย์แห่งศึกสงคราม

ประวัติศาสตร์จะจารึกการกระทำที่แท้จริงของวีด

อย่างที่คาดไว้ วิหารเอ็มบินยูได้มาถึงราวๆช่วงเที่ยงวัน และในที่สุดมหากาพย์การต่อสู้ที่จะชี้ชะตาของทั้งทวีปเวอร์เซลล์ก็ได้อุบัติขึ้น!

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

กองทัพของวิหารเอ็มบินยูทรงพลังเป็นอย่างมากเมื่อเหล่ายักษ์สัมฤทธิ์และสิ่งมีชีวิตบินได้ขนาดยักษ์ถูกเปิดเผยออกมา

บนพื้นดินเต็มไปด้วยเหล่าสาวกผู้บ้าคลั่งจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อที่จะควบคุมไว้ได้

อย่างไรก็ตาม เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์และสิ่งมีชีวิตบินได้ นั้นมีเหล่านักธนู อัศวิน พ่อมด และนักบวชโดยสารมาด้วย

มหาอุปโรหิต(High Priest)แห่งนิกายที่ 4 โมตุลส์นั้นเป็นผู้ควบคุมเหล่ายักษ์สัมฤทธิ์และเหล่าสิ่งมีชีวิตบินได้ขนาดยักษ์

อิกริก ผู้นำแห่งนิกายที่ 6 เป็นผู้นำกองทัพทมิฬ(Dark Army)

วิหารเอ็มบินยูเป็นเหมือนการรวมตัวกันอย่างมหาศาลของกลุ่มก้อนขนาดใหญ่

อะ-อะไรน่ะ?”

 มีคนแปลกๆโผล่ออกมาด้วย

เหล่าเชลยศึกต่างรู้สึกประหลาดใจ

 โอ้ วิหารเอ็มบินยูพบพวกเราแล้ว ทำลายมัน! ทำลายมัน! ทำลายมัน!”

 มาหาข้า มนุษย์ทั้งหมดที่ถูกรวบรวมมา ณ ที่นี่เพื่อที่จะถูกฆ่า!”

เหล่าสาวกคลั่งแห่งวิหารเอ็มบินยูร้องตะโกนอย่างกระตือรือร้น

(เชลยที่เป็นสาวกเอ็มบินยู)

ในขณะเดียวกัน วีดได้โยนเหล่าสาวกคลั่งที่เขาจับมาได้เข้าหาศัตรู หรือไม่ก็เปลี่ยนพวกมันเป็นแวมไพร์และอันเดด แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ถึกอย่างกับแมลงสาบ

มีมากกว่า 10,000 คนในกองทัพของเขาที่ร้องตะโกนออกมา วีดยักไหล่โดยที่ไม่พูดอะไร จากนั้นเหล่านักรบทะเลทรายก็เข้ามาจัดการกับเหล่าสาวกคลั่งอย่างรวดเร็ว

นอกเหนือจากนักรบทะเลทรายทั้ง 20,000 คน วีดเป็นกังวลว่าเหล่าทหารจะถูกทำให้ไขว้เขวโดยวิหารเอ็มบินยู

 พวกเจ้าทั้งหลาย จงตั้งใจฟัง!”

-เสียงคำรามแห่งแอทร็อกถูกใช้งาน
เหล่าทหารได้ลืมเลือนความกลัวไปจนหมดสิ้น
กองทัพจะได้รับโชคดีเกี่ยวกับการต่อสู้
เหล่าทหารที่ผ่านการฝึกจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
คำนวยพรแห่งแอทร็อกได้ถูกมอบให้กับเหล่าอัศวิน

เขาจำเป็นต้องใช้สกิลของเขาให้ถูกที่ถูกเวลา

ถ้าเขาไม่ได้ใช้ความเป็นผู้นำของเขาให้ถูกเวลา กองทัพที่เขาได้จากเหล่าขุนนางที่ยอมศิโรราบจะกระจัดกระจายหายไป แม้กระทั่งเหล่าเชลยศึกอาจพยายามหนีทัพขณะต่อสู้

 พวกมันคือวิหารเอ็มบินยู! พวกมันออกมาเพื่อที่จะทำลายผืนแผนดินที่เราอาศัยอยู่

วีดดึงดาบออกมาแล้วชี้ไปยังเหล่าวิหารเอ็มบินยู

 ความเป็นมนุษย์ของเหล่าสาวกคลั่งได้สูญสลายไปจนหมดสิ้นแล้ว! พวกมันรู้จักแต่การเข่นฆ่าและทำลายล้างเท่านั้น! วัตถุประสงค์เพียงหนึ่งเดียวของพวกมันคือการฆ่าล้างเพื่อเทพเอ็มบินยู พวกมันจะเหยียบย่ำเหล่าพืชผล เผาทำลายบ้านเมือง และสังเวยเหล่าเด็กน้อยอย่างโหดเหี้ยม จงใช้ดาบของพวกเจ้าเพื่อต่อกรกับพวกมันด้วยทุกสิ่งที่เจ้ามี !”

 โว้ววววว

เหล่านักรบทะเลทรายและเหล่าเชลยศึกกู่ร้องอย่างอึกทึกครึกโครม เหล่านักรบทะเลทรายคิดว่าการต่อสู้พร้อมกับวีดนั้นคือสิ่งสำคัญ เหล่าเชลยศึกก็ไม่มีอิสระใดๆเช่นกัน พวกเขาจะตายแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สู้ก็ตาม!

ผู้คนในป้อมปราการดัลมอร์ต่างรู้สึกเหยียดหยัน ไร้สาระ

 มันคือหัวหน้าของเหล่าคนเถื่อน พวกมันสู้กันเองงั้นรึ

 ข้าก็มิทราบ อย่างไรก็ตาม ฝ่าบาท เจ้านั่นเป็นคนที่ไร้ยางอาย

จากมุมมองของราชอาณาจักรมาปอนและเบย์เนอร์ คำพูดของวีดนั้นชี้ไปที่ตนเองในฐานะผู้บุกรุก แต่วิหารเอ็มบินยูได้มาถึงแล้ว ดังนั้นป้อมปราการดัลมอร์จึงตกอยู่ในภาวะวิกฤติ

 เตรียมพร้อมต่อสู้!”

 การโจมตีจะมาจากกลางอากาศ จงเตรียมรับมือด้วยพยุหะลูกศร!”

 เตรียมปะทะ!”

วีดได้เฝ้ามองดูขณะที่ป้อมปราการดัลมอร์ได้ตระเตรียมการป้องกัน กองทัพของวีดนั้นยังคงอยู่ค่อนข้างห่างจากป้อมปราการดัลมอร์

ลูกศรและเวทย์มนต์ต่างๆ สามารถยิงออกมาจากกำแพงได้ และเหล่าอันเดดนั้นไม่สามารถเข้าไปภายในป้อมปราการได้เนื่องจากมีแม่น้ำขวางกั้นอยู่ ภูมิประเทศรอบๆป้อมปราการนั้นค่อนข้างยากลำบากในการป้องกันแต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะได้

 สู้มัน เตรียมกระบวนทัพ!”

วีดได้สั่งการกองทัพของเขาให้เตรียมการสำหรับเผชิญหน้ากับวิหารเอ็มบินยู
เหล่านักรบทะเลทรายถูกจัดให้อยู่ตามตำแหน่ง ตรงกลาง, ปีกซ้าย และปีกขวา พวกเขาสามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้ทันทีขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ปัจจุบันเหล่าเชลยศึกถูกจัดให้อยู่ทัพหน้า พวกเขาเป็นกองกำลังที่วีดไม่ได้เสียดายหากต้องเสียไป กองทัพของเหล่าขุนนางถูกใช้เพื่อเติมเต็มจำนวนคนในศูนย์กลางของกองทัพ

เหล่านักบวชและพาลาดินจากนิกายต่างๆถูกจัดให้รวมกันอยู่ด้านหลัง  และวีดควบเจ้าอูฐแบคเทรี่ยนอยู่ที่ด้านหน้าสุดของกองทัพ ขณะกำลังเฝ้ามองการมาถึงของวิหารเอ็มบินยู

 ฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลยให้ตายสิ

เป็นธรรมดาที่วีดนั้นต้องการที่จะอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่ด้านหลัง การอยู่ด้านหน้านั้นทำให้ตกเป็นเป้าหมายแรกของเวทย์คำสาปและเวทย์โจมตีมากมายที่ถูกร่ายโดยพวกวิหารเอ็มบินยู

แน่นอนว่าวีดยังคงมีความภูมิใจในฐานะลูกผู้ชาย เขาคือทรราชแห่งทะเลทราย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนบุคลิกที่แสดงออกถึงความหวาดกลัวได้

วิหารเอ็มบินยูนั้นกรีธาทัพมาอย่างไม่หยุดยั้ง

วีดได้วางแผนที่จะโต้เถียงกล่าวหากับมหาปุโรหิต(High Priest) ของฝ่ายศัตรู เขาจะพิสูจน์ความชอบธรรมของสงครามครั้งนี้โดยการวิพากษ์วิจารณ์พวกมันอย่างรุนแรง นี่จะช่วยให้เขายกระดับขวัญทหารของเขาได้

มันยากที่จะหาอะไรมาเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่กับการต่อสู้ในครั้งนี้ มันจะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงอนาคต แถมพวกสถานีโทรทัศน์ยังได้ถ่ายทอดสดการต่อสู้นี้ออกอากาศ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำตัวให้ดูดีเข้าไว้
แน่นอนว่ามันคงจะดีถ้าเขาสามารถหาจุดอ่อนหรือข้อมูลใดๆเพิ่มเติม วีดต้องการแสดงให้เห็นว่าเขานั้นอยู่ข้างเดียวกับความยุติธรรม

 อืม...การทำความดีต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก

เสียงเก๊กหล่อของวีดถูกใช้ผ่านเสียงคำรามแห่งแอทร็อก(Atrock’ Cry)ส่งผลให้มันดังไปทั่วทั้งสมรภูมิรบ อย่างไรก็ตาม วิหารเอ็มบินยูยังคงกรีธาทัพมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดยั้ง

ตอนนี้ทั้ง2ฝ่ายนั้นอยู่ใกล้กันมากพอที่ทั้งลูกธนูและเวทย์มนต์จะสามารถโจมตีถึงอีกฝ่าย กองทัพของทั้งคู่นั้นเข้ามาใกล้กันจนแทบจะไม่มีระยะห่างระหว่างกันแล้ว

 วิหารเอ็มบินยู ความชั่วร้ายของพวกเจ้าได้ถูกเปิดเผยแล้ว ข้าเดินทางข้ามผ่านกาลเวลากลับมาเพื่อที่จะปกป้องความสงบสุขของทวีป...

วีดนั้นพลั่งพรูคำวิจารณ์มากมายออกมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่วิหารเอ็มบินยูหาได้สนใจใดๆไม่ มันเหมือนกับเจ้าเนื้อหมาที่กำลังเห่าแต่ไม่มีใครสนใจฟัง
แคล็ง แคล็ง แคล็ง

จากนั้น หนึ่งในยักษ์สัมฤทธิ์ได้ยกมือของมันขึ้นมา ในมือของมันถือก้อนหินขนาดมหึมาขนาดประมาณ 5-6เมตร

 อย่าบอกนะว่า...”(ชิบหัยเลี้ยววว)

เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ได้ขว้างก้อนหินออกไป  หินนับร้อย ลอยมายังวีดและเหล่าเชลยศึก

 ป้องกันสัมบูรณ์(Absolute Defense),อัญเชิญดาบ(Summon Another Sword),กำเนิดแห่งพลัง(Power of Birth)”

วีดรีบใช้สกิลของเขาอย่างรวดเร็ว และใช้ดาบล้างผลาญ(Extermination Sword)ไปยังก้อนหินทั้งหลาย  หินเหล่านั้นกลายเป็นเต้าหู้ขณะที่พวกมันกำลังหลอมละลาย

ตู้มๆๆๆๆ

อย่างไรก็ตาม หินที่ยังเหลืออยู่ซึ่งวีดไม่สามารถทำลายได้หมดนั้น กระแทกเข้าใส่เหล่าเชลยศึก

การปะทะได้อุบัติขึ้นโดยปราศจากการพูดจาใดๆ! วิหารเอมบินยูนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มระดับขวัญทหาร

มันตามมาด้วยห่าฝนลูกธนูจากเหล่าสิ่งมีชีวิตบินได้ ลูกธนูถูกอาบด้วยคำสาปโดยเทพเอ็มบินยูและเหล่าผู้ที่โดนยิงใส่นั้นจะเสียชีวิตทันที การโจมตีเหล่านั้นส่งผลต่อเหล่าเชลยศึกอย่างมหาศาล

 อั่กกกก

 อ๊า... ไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าสาบานจะจงรักภักดีต่อวิหารเอ็มบินยู!”

 ยกโล่ของพวกเจ้าขึ้นพร้อมกับวิ่งออกไปจากระยะโจมตีซะ!”

กระบวนทัพของเหล่าเชลยศึกพังทลายลงอย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเมื่อศัตรูนั้นเหนือกว่า  พวกเขายังส่งเสียงดังเพื่อหลบเลี่ยงบริเวณที่เหล่าสิ่งมีชีวิตบินได้เข้าจู่โจม

คุ๊ก อ่อกๆๆ

 พระเจ้า ศรัทธาในพระเจ้า องค์เทพเอ็มบินยูนั้นให้ความเท่าเทียมกับทุกคน ท่านจะเป็นธรรมกับพวกเจ้าทุกคน และสังหารพวกเจ้าอย่างเจ็บปวดทรมาน!”

 ความรุ่งโรจน์,การทำลายล้าง,ความตาย!”

เหล่ามอนสเตอร์ อัศวิน และสาวกคลั่งแห่งวิหารเอ็มบินยูกรีดร้องออกมาขณะที่วิ่งทะยานไปด้านหน้า อย่างไรก็ตาม วีดยังคงรักษาท่าทีเอาไว้อยู่

 นี่ยังเป็นอย่างที่คาดไว้ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะชนะอยู่

ทัพหน้าที่บุกมาอย่างสุดกำลังของวิหารเอ็มบินยูบดขยี้เข้าใส่เหล่าเชลยศึก แต่ส่วนที่สุดยอดที่สุดคือพลังในการคิดวิเคราะห์ของวีด!

เขามีประสบการณ์ในสมรภูมิรบอันนับไม่ถ้วน ดังนั้นเขาจึงสามารถประมาณการณ์ศัตรูอย่างหยาบๆได้

อย่างที่คาดไว้ วิหารเอ็มบินยูนั้นคือมหาอำนาจอย่างแท้จริงภายในยุคแห่งสงครามนี้ วิหารเอ็มบินยูได้เตรียมพลังที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความเสียหาย เหล่าเชลยศึกจำนวนมากทำได้เพียงแค่ทำให้พวกมันรำคาญเท่านั้น

วีดนั้นยังไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ และเหล่านักรบทะเลก็ยังคงรอคอยอยู่ ขนาดของการต่อสู้นั้นยังไม่ใหญ่พอให้เขาลงมือ

 ...ในนามแห่งองค์เทพเอ็มบินยู ประตูนรก จงเปิดออก!”

หลังจากนั้น เหล่าพ่อมดแห่งวิหารเอ็มบินยูได้ร่ายเวทย์มนต์และมือของพวกมันได้ส่องประกายออกมา และหลุมทมิฬ(Dark Hole หลุมดำ Black hole)ที่มาพร้อมกับออร่าสีแดงทะลวงขึ้นสู่ท้องฟ้า

ครืน ครืน ตูมๆๆ(เสียงฟ้าผ่า)

สายอัสนีนับพันนับหมื่นฟาดผ่าลงมาทั่วทุกแห่งหน และเหล่ามอนสเตอร์จากขุมนรกก็กรูกันออกมาจากหลุมทมิฬ

 คิคิคิคิ ทำไมพวกเราถึงได้มาที่โลกมนุษย์กัน?”

 เขมือบมันให้หมด

เหล่าปีศาจระดับต่ำนับพันพากันหลั่งไหลออกมา วีดได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

 โชคชะตาส้นต...

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เรทติ้งการผจญภัยในทะเลของวีดได้มาถึงจุดที่ไม่เคยมีมาก่อน

เหล่าผู้เล่นขบขันแต่ก็ยังอิจฉาความสามารถพิเศษของวีดในฐานะทรราชแห่งทะเลทราย ตั้งแต่นั้นเนื้อหาเกี่ยวกับการผจญภัยของเขาก็กลายมาเป็นหัวข้อยอดฮิต

จากนั้นก็มีปฏิกิริยาที่หลากหลายต่างกันออกไป

-ภารกิจของโนดูลและฮิลเดรันในอดีตนั้นมีความโรแมนติคในตัวมันเอง

-2คนนั้นเหมาะสมกันดีนะ

-ฉันอยากไปอยู่ในยุคสงคราม ถ้าฉันเป็นชายผู้อยู่ในสถานที่อย่างนั้นล่ะก็... 
ความจริงคือฉันจะหนีออกจากดันเจี้ยนเพราะฉันไม่สามารถพิชิตมันได้

ชายผู้ทุ่มเทตั้งใจและกล้าหาญนั้นมักจะเป็นที่นิยม

-กล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งของเหล่านักรบทะเลทราย อร๊างงง

-ใบหน้าอันผอมบางและหล่อเหลาของเฮสไทเกอร์ ไม่ใช่ว่าเขาดูดีสุดๆไปเลยหรอ? เคราของเขานั้นยิ่งยกระดับของเขาขึ้นไปถึงขั้นดาราจริงๆเลยล่ะ

-โชคร้ายชะมัด

-เจ้านั่นควรตายไปซะ

-ลุคของเขาหลังจากที่เหงื่อท่วมกายหลังจากการต่อสู้นี่หล่อมากๆ ฉันรู้สึกอยากร้องไห้จริงๆที่เขาเป็น NPC

-อูฐแบ็คเทรี่ยนน่ารักอะ

และกระดานข่าวก็เต็มไปด้วยบทความมากมายและการวิเคราะห์ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการผจญภัย

หัวข้อ: เหล่าราชอาณาจักรที่มีอยู่ในช่วงยุคสงคราม

หัวข้อ: ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงทวีปเวอร์เซลล์หรือไม่?

หัวข้อ: คำเตือนถึงอันตรายที่เกี่ยวข้องกับวิหารเอ็มบินยู

หัวข้อ: ถ้าหากภารกิจในอดีตของวีดล้มเหลว มหาภัยพิบัติจะอุบัติขึ้น

การผจญภัยของวีดที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทวีปเป็นหัวข้อใหญ่ในการพูดคุย ความสนใจของทุกคนนั้นมุ่งไปที่การผจญภัยของเขา

วิหารเอ็มบินยูนั้นยังเกี่ยวพันถึงความเสียหายในปัจจุบันที่ยังคงเกิดขึ้นต่อจักรวรรดิฮาเว่นในทวีปกลาง

นอกจากนั้น พวกเขาได้เขียนข้อมูลใหม่เกี่ยวกับราชอาณาจักรที่ตกไปอยู่ฝ่ายวิหารเอ็มบินยูในยุคสงคราม

และในท้ายที่สุด สงครามต่อต้านวิหารเอ็มบินยูก็ได้ถูกถ่ายทอดสดออกอากาศ สถานีโทรทัศน์นั้นต้องการจะชะลอตารางออกอากาศออกไป แต่พวกเขาก็หมดทางเลือกไปโดยการประท้วงของเหล่าผู้ชมทั้งหลาย

ในความเป็นจริง การผจญภัยครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้ของวีดเท่านั้น มันยังเป็นการต่อสู้ที่จะชี้ชะตาของทั้งทวีปเวอร์เซลล์ ไม่ว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ชอบวีด ทุกๆคนล้วนหวังว่าวีดจะสามารถเอาชนะในการต่อสู้ครั้งนี้

เหล่าผู้ชมเชียร์วีด แต่ก็ยังแสดงออกถึงความกังวลเช่นกัน

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

ฮวายองและคนอื่นๆในกลุ่มได้เรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาภารกิจของวีด

 ทิ้งฉันแล้วไปกับผู้หญิงคนอื่นเนี่ยนะ...ฮือ แง้

เธอร้องไห้ออกมาขณะที่เชื่อมต่อเข้าโรยัลโร้ด เซเฟอร์และเบลล็อตพยายามที่จะปลอบเธอขณะที่เธอร้อง

 พี่เค้าชอบคุณวีดขนาดนี้เลยหรอ...ไม่สิ,พี่ตกหลุมรักเค้างั้นหรอ?

 ฮวายองมีด้านที่ใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ มันดูไม่เหมือนจะเป็นแบบนั้นแต่เธอเป็นคนขี้เหงา

ทุกตนตัดสินใจที่จะรออย่างเงียบๆจนกว่าน้ำตาของเธอจะหยุดไหล

 ฮึก ฮึก ฮึก ฮือออ ฉะ-ฉันอยากได้กระเป๋าจากยุคสงครามนั่นอ๊ะ

 “……”

 ฉันเครียดมากเนื่องจากตารางงานต่างประเทศครั้งสุดท้ายของฉัน ทริปอันแสนหวานในอดีตกาล...ฉันสามารถลองรองเท้าได้เพียบเลย

 “…….”

เพลคิดว่าฮวายองช่างเป็นคนที่เข้มแข็ง(Thick-Skinned แปลว่าไม่อ่อนไหวง่าย ไม่ใช่หนังหนานะ)ขณะที่เธอกล่าวคำพูดจากใจออกมา คำพูดที่เธอพูดขณะร้องไห้แล้วน้ำตาพลั่งพรูออกมา ราวกับเรื่องล้อเล่น

เธอไม่ได้เสียใจเกี่ยวกับวีด ฮวายองเสียใจเกี่ยวกับกระเป๋าและรองเท้าที่เธอพลาดไปมากกว่า

 ฉันควรจะอยู่ใกล้ๆกับวีดเข้าไว้ เขาสามารถซื้อกระเป๋าแพงๆให้ฉันได้ในอนาคต

 “…….”

 ขอบคุณอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ฉันสามารถจองสินค้ารุ่นใหม่ได้....ฮือ ฮึก ฮึก

“……”

ฮวายองร้องไห้สะอึกสะอื้น

แต่เธอเดิมก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมา เธอนั้นแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเองโดยไม่มีการปิดบังใดๆ

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

ประธานแห่งเครือบริษัทโฮซอง จองต๊อกซู ได้จัดการบางอย่างกับคฤหาสน์หลังโตของเขา

 ฉันไม่มีความเสียใจใดๆอีกแล้ว

ประธานแห่งเครือบริษัทผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงธุรกิจ ปัจจุบันต้องย้ายออกไปจากย่านธุรกิจที่เคยอยู่ (น่าจะหมายถึงบ้านที่เคยอยู่นั้นอยู่แถวย่านที่พวกนักธรกิจรวยๆเคยอยู่กันแล้วต้องย้ายออก)

เครือธุรกิจโฮซอง นั้นได้ถูกยึดโดยเหล่าเจ้าหนี้ทั้งหลายและ เครือแบ็คฮวา. เจ้าของธุรกิจผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ไร้ความสามารถโดยสื่อมวลชน จำเป็นที่จะต้องหนีหน้าหายไปที่ไหนสักที่ไกลๆ (อับอายจนต้องม้วนเสื่อหนี)

เขายังคงมีอสังหาริมทรัพย์และบ้านพักตากอากาศอีกมากมายในต่างประเทศ อย่างอเมริกา และ อิตาลี่ (ตอนนี้โควิด-19 ระบาดเขาปิดประเทศนะเออ 555)

 แต่ว่ามันมีสถานที่บางแห่งที่หัวใจของเรามันเรียกร้องอยากจะไป

เขาจะต้องรู้ศึกเปล่าเปลี่ยวแน่หากเขาต้องทิ้งคฤหาสน์ของเขาไปและไปซ่อนตัวอยู่ที่ต่างประเทศ

จนกระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังยุ่งอยู่เนื่องจากการที่ต้องจัดการภายในองค์กร มองย้อนกลับไปในอดีต เขาได้ตระหนักว่าเขานั้นอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานพอสมควรแล้ว เขานั้นเป็นเพียงชายวัยกลางคนผู้มีแต่เงินทองเท่านั้น(โอ๊ยยยยยยยย ผมนี่เป็นคนที่มีทุกอย่าง ยกเว้นเงิน แลกกันมะ 555)

ประธานบริษัทนั้นถือหุ้นจำนวนมาก ดังนั้นความร่ำรวยของเขาจึงมากมายมหาศาล แต่มันก็มีความว่างเปล่าในหัวใจของเขาที่ไม่สามารถใช้เงินเพื่อเติมเต็มมันได้ ญาติๆของเขาของไม่ยินดีนักที่ได้เห็นว่าเหลือสมาชิกเพียงตัวเขาและซอยูนเท่านั้นในสายตระกูลใกล้ชิดกัน

 ฉันจะอยู่ใกล้ๆกับลูกสาวของฉัน มันคงจะดีถ้าฉันสามารถเจอเธอผ่านไปตามท้องถนนเป็นครั้งคราว

เขาได้ไปติดต่อกับตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อหาซื้อบ้านเดี่ยว

 คุณลูกค้าครับ คุณกำลังมองหาบ้านแบบไหนอยู่ครับ

 ฉันแค่ต้องการบ้านที่ฉันสามารถอยู่ได้เพียงลำพัง

จองต๊อกซูนั้นไม่ได้ต้องการคุยอะไรละเอียดซับซ้อนนักกับตัวแทนขายอสังหาฯ

มีผู้คนมากมายที่ต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ยิ่งกว่านั้น ตัวแทนขายอสังหาฯยังไม่ได้ตระหนักถึงตัวตนของจองต๊อกซูในฐานะประธานบริษัทใหญ่ และในความเป็นจริง มันค่อนข้างจะยากที่สาธารณชนจะได้ยลโฉมใบหน้าของประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ใดๆ

 โอเคครับ งั้นคุณลูกค้าต้องการดูบ้านเช่าที่ว่างอยู่ไหมครับ?

 บ้านเช่า?

 หืออ ? อ้อ ราคาปัจจุบันของอสังหาฯในทุกวันนี้มันเพิ่มขึ้นมากน่ะครับ มีผู้อาศัยที่เช่าอยู่เป็นจำนวนมาก ความจริงที่คุณลูกค้าจะอยู่คนเดียวนั่นหมายความว่าควรจะหาบ้านที่มีค่าเช่าดีสักหน่อย

 เอาเฉพาะที่สำหรับขายมาก็พอ

 ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นคุณลูกค้ามีบ้านแบบไหนที่ต้องการเป็นพิเศษไหมครับ? ทำเลย่านนี้ค่อนข้างดีนะครับแต่ว่ามีบ้านสำหรับขายไม่มากนัก... แต่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูกาลดังนั้นจึงพอมีบ้านสำหรับขายเหลืออยู่

เขาต้องการบ้านที่อยู่ใกล้ๆกับ ลีฮุน และ ซอยูนแม้ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังไม่ต้องการบ้านบนถนนหลักที่มักจะมีสิ่งมารบกวนความเป็นส่วนตัวของเขา

 ถ้าได้บ้านธรรมดา 2 ชั้นก็จะดี

 อ่า บ้าน 2 ชั้นงั้นหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นตัวเลือกก็จะลดน้อยลงมาอีก

 มีต้นไม้มากมายในสวนนั่นก็คงจะเป็นปัญหานิดหน่อย มีบ่อน้ำที่ฉันสามารถไปตกปลาในยามว่างก็คงดีไม่น้อย ห้องสำหรับสนามกอล์ฟในร่ม และห้องสำหรับดูหนัง...อ่า แล้วก็ที่สำหรับวางอุปกรณ์ฟิตเนสด้วย ห้องนั่งเล่นควรแยกจากห้องทำงานและมีขนาดใหญ่

 “…มีอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?

 บันไดมันลำบากถ้าเป็นลิฟท์ได้ก็จะดี รวมถึงมีโรงจอดรถจำแนกป้ายทะเบียนอัตโนมัติด้วยก็จะยิ่งสะดวกเลย

 ไม่มีบ้านแบบนั้นในย่านนี้หรอกครับคุณลูกค้า (เมิงจะบ้าหรา คุณพ่อตา) และต่อให้มี คุณลูกค้าทราบมั้ยครับว่าบ้านนั่นจะมีราคาเท่าไร

 สัก5000ล้านพอมั้ย? ฉันตั้งใจจะซื้อบ้านสัก 100,000ล้านน่ะ

 “……”

ตัวแทนขายอสังหาฯหวาดวิตกเมื่อในย่านนี้ไม่มีบ้าน 2 ชั้นอย่างนั้นอยู่เลย
ที่นี่เป็นพื้นที่ชนชั้นกลางดังนั้น บ้านจึงถูกสร้างในพื้นที่ขนาดเพียง 140 ตรม.เท่านั้นเอง

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

บาร์ทกำลังดื่มเบียร์ราคาถูกอยู่ที่ร้านเหล้าในโมราต้า

 อาห์ เยี่ยมไปเลย

มีผู้คนมากมายรวมตัวกันอยู่ภายในร้านเหล้า

 ทุกคนละทิ้งทั้งการล่าและภารกิจกันหมดเลย

นี่คือวันที่การผจญภัยของวีดกำลังออกอากาศ ดังนั้นเมืองต่างๆจึงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะภายในแดนเหนือเท่านั้นแต่แม้กระทั่งในทวีปกลางก็เป็นเช่นเดียวกัน แถมมันยังเป็นที่นิยมกระทั่งในดินแดนของจักรวรรดิฮาเว่น

มันเป็นการยากสำหรับบาร์ทที่จะหาที่นั่งในร้านเหล้า บางร้านไม่ได้จำกัดลูกค้า บางร้านไม่สามารถนั่งดื่มได้ด้วยซ้ำ

 ฉันว่าฉันคงพูดออกไปไม่ได้หรอกว่านั่นคือลูกสาวกับเพื่อนลูกสาวฉันเอง

มันคงไม่มีใครที่จะเชื่อว่าเขานั้นมีความสัมพันธ์กับทั้งซอยูนและวีด

 ฉันไม่เคยคิดเลยว่าโลกเสมือนจริงมันจะออกมาเป็นแบบนี้

วีดคือกษัตริย์แห่งทวีปเหนือ ดังนั้นเขาสามารถบดขยี้บาร์ทได้อย่างง่ายดาย เขายังเป็นหนี้บุญคุณลัทธิโจ๊กหญ้าที่อยู่ในโมราต้า ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะออกไปจากแดนเหนือ

 เฮ่ มันจะเริ่มรึยังเนี่ย?

 รีบกินไก่ให้หมดเร็วเข้า

 ค่อยๆกินไปช้าๆน่ะดีสุดแล้ว

 มีอีก 5 ที่ กินให้เรียบไปเลย

 แจ่มเลยยย!”

เหล่าพ่อค้าพุงพลุ้ยกำลังนั่งคุยกันอยู่ในร้าน

 ฮืมมมม

บาร์ทมองไปยังเหล่าพ่อค้าอย่างอิจฉาตาร้อน

ในยุคแยกๆของการพัฒนาแดนเหนือ เหล่าพ่อค้านั้นต่างก็ตัวเล็กผอมแห้ง มันก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อตอนนั้นพวกเขาต่างก็เลเวลต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ว่าหลังจากที่พัฒนาแดนเหนือแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะได้เห็นเหล่าพ่อค้าอ้วนพุงพลุ้ย พวกผู้เล่นทั่วไปนั้นมีความเชื่อถือในเหล่าพ่อค้าตัวกลมนี้

เหล่าพ่อค้าแดนเหนือนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเนื่องจากการขายวัตถุดิบจำนวนมากในราคาที่จับต้องได้ ความปลอดภัยรอบๆขบวนสินค้าขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านพื้นที่อันกว้างใหญ่ และไม่สนใจกับคำก่นด่านินทาว่าพวกเขานั้นเป็นพวกขี้ขลาด

อย่างไรก็ตาม พ่อค้านั้นไม่ใช่ว่าจะต้องอ้วนกลมไปเสียทีเดียว อย่างพวกที่มีความสามารถการต่อสู้ หรือ พวกที่เดินทางไปค้าขายระยะทางไกลๆ ก็จะกลับมาผอมแห้งอีกครั้ง แต่ว่ามันก็ค่อนข้างน่าอายที่จะต้องไปทำการค้าขายโดยที่ตัวเองมีน้ำหนักไม่มากพอ (ความอ้วนคือความภาคภูมิใจของพ่อค้านั่นเอง)

 ฉันควรเปลี่ยนอาชีพดีมั้ยเนี่ย? ฉันไม่เหมาะกับอาชีพสายต่อสู้เอาซะเลย

บาร์ทได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเป็นพ่อค้า

ไม่เหมือนกับพวกนักรบที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์ เขานั้นได้ใช้ชีวิตอยู่ในฐานะเจ้าของธุรกิจมาทั้งชีวิต ดังนั้นการที่จะเลือกอาชีพเป็นพ่อค้านั้นน่าสนุกกว่ากันเยอะ

เลเวลของเขาก็ยังน้อยอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรที่สลักสำคัญนักในการที่จะต้องเปลี่ยนสายอาชีพ

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

เหล่าผู้นำแห่งกิลด์เฮอร์มีสผู้พิชิตทวีปกลาง

กองกำลังพันธมิตรได้พ่ายแพ้และกองทัพหลวงได้เข้ายึดครองตามสถานที่ต่างๆ พวกเขายึดครองป้อมปราการ ปราสาท เมือง และแม้กระทั่งหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา และเกาะแก่งต่างๆ หลังจากนั้น 1-2 เดือน ผืนธงแห่งจักรวรรดิฮาเว่นก็ได้โบกสะบัดไปแทบจะทุกหนแห่งบนทวีปกลาง

ทั้งยังรวบรวม อาณาจักรแห่งคนแคระธอร์ และป่าเอลฟ์เข้ามาอยู่ภายใต้การปกครอง สำหรับพวกของมันง่ายกว่าในการพิชิตเหล่าคนแคระและเอลฟ์ เพราะพวกนั้นไม่ได้มีการป้องกันอย่างเป็นระบบ

กำลังคนและกำลังเงินถูกส่งมาจากเหล่าดินแดนภายใต้การปกครองของจักรวรรดิฮาเว่น

ลาฟาเย่กำลังทำการประชุมครั้งใหญ่ภายในพระราชวังหลวงแห่งจักรวรรดิฮาเว่น ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมครั้งนี้จะเป็นตัวตัดสินทิศทางอนาคตของสงครามและรวมถึงวิธีการที่พวกเขาจะใช้ในการปกครองทั้งทวีป

 สงครามครั้งใหญ่บนทวีปกลางนั้นใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อเราก้าวต่อไป อุปสรรคที่คอยกีดขวางเราก็จะเหลือเพียงแค่วีดและวิหารเอ็มบินยู

ลาฟาเย่รู้สึกปวดหัวทันทีหลังจากที่ได้ยินคำกล่าวของเหล่าผู้นำ

วิหารเอ็มบินยูนั้นได้ทำการแผ่ขยายอิทธิพลออกไปอย่างน่ากลัว อิทธิพลทางศาสนาได้แผ่ขยายมากขึ้น และมันก็เป็นการยากที่จะทำการป้องกันเหล่าสาวกคลั่ง วิหารเอ็มบินยูนั้นมีการทดสอบความซื่อสัตย์และการทำตามคำสั่งภายในเขตปกครองของวิหารเอ็มบินยู

ส่วนวีดนั้นกำลังผจญภัยอยู่ในอดีตกาล พวกเขาไม่มีทางที่จะทำอะไรได้เลย ผลพวงจากการทำลายล้างเมืองต่างๆได้มาถึงจุดสูงสุด และจากเมืองที่มีความสำคัญทางการทหารหรือด้านพาณิชย์ก็กลายเป็นเมืองร้างล้าสมัย

จนถึงตอนนี้มันก็ไม่ได้หนักหนาถึงขั้นร้ายแรงต่อจักรวรรดิฮาเว่น แต่มันก็ได้สร้างความตึงเครียด กระวนกระวายจนไม่สามารถมองข้ามไปได้ ทวีปกลางนั้นถือได้ว่าเป็นผู้แพ้และเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากการผจญภัยของวีด ดังนั้นความสนใจของพวกเขาจึงหันกลับมาที่วีด

 อย่างที่พวกเรารู้กัน ปัจจุบันในอีกไม่นานวีดนั้นจะเปิดศึกกับวิหารเอ็มบินยูแล้ว

ลาฟาเย่จัดการประชุมขึ้นเมื่อการต่อสู้ระหว่างวีดและวิหารเอ็มบินยูเพิ่งจะเริ่มขึ้น

แต่ละสถานีได้ถ่ายทอดสดออกอากาศ ดังนั้นพวกเขาจึงกระตือรือร้นในการสนใจกับมัน แม้กระทั่งเหล่าผู้เล่นที่เป็นส่วนหนึ่งของกิลด์เฮอร์มีสก็ยังรู้สึกว่าในอกของมันมีความตื่นเต้นเร้าใจเดือดปะทุอยู่ในขณะที่รับชมการผจญภัยของวีด

 ถ้าวีดประสบความสำเร็จในภารกิจและได้รับเทคนิคแกะสลักลับขั้นสุดท้าย ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบอะไรต่อเราบ้าง

 ไม่มีทางที่จะหยุดมันได้เลยงั้นหรือ?

 เราไม่สามารถที่จะหยุดความคืบหน้าใดๆของภารกิจนี้ได้เลย แต่ภารกิจนี้ก็ไม่ได้ดูง่ายเลย ดังนั้นเขาอาจจะล้มเหลวก็ได้ และเราต้องต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานการณ์ที่เป็นไปได้

 การเตรียมการงั้นหรือ?

เหล่าผู้นำรอให้ลาฟาเย่พูดต่อ ลาฟาเย่นั้นคือเหตุผลสำคัญเบื้องหลังกิลเฮอร์มีสที่ทำให้สามารถเข้าควบคุมราชอาณาจักรฮาเว่นได้อย่างง่ายดายโดยปราศจากการต่อต้านใดๆ

เขาได้วางสปายไว้ในหมู่พวกกิลด์มหาอำนาจต่างๆเป็นเวลานาน แน่นอนว่าการปรากฏตัวของวีดนั้นเป็นตัวแปรสำคัญ แต่ลาฟาเย่ก็เชื่อว่าเขาสามารถคลี่คลายมันได้

 ทีมงานได้วิเคราะห์ภารกิจของวีดแล้ว และได้ข้อสรุปที่พวกเขาได้ก็คือมีความเป็นไปได้มากมายมหาศาลที่ภารกิจต่อต้านวิหารเอ็มบินยูนั้นจะล้มเหลวไม่เป็นท่า

 นั่น...

เหล่าผู้นำต่างก็มีคิ้วที่ขมวดมุ่นแสดงอยู่บนใบหน้าพวกเขา มันจะแย่สำหรับเหล่าลอร์ดเจ้าเมืองทั้งหลาย หากวิหารเอ็มบินยูแพร่กระจายไปมากกว่านี้ พวกเขาเริ่มบ่นด้วยความไม่พอใจ

 ครั้งนี้ฉันได้ลงทุนครั้งใหญ่ไปกับไร่องุ่น...

 ไม่ใช่ว่าเงินทั้งหมดที่ฉันได้จากธุรกิจเล็กๆนี่จะปลิวหายไปด้วยหรอกหรือ?

สมาชิกดั้งเดิมของกิลด์เฮอร์มีสนั้นต่างก็มีพื้นที่ปกครองของตนเอง รวมทั้งดาอินที่เป็นลอร์ดแห่งปราสาทเอวาลุคในราชฮาณาจักรคัลลามอร์ด้วย

ไม่มีการต่อต้านใดๆที่ปราสาทเอวาลุค แล้วแถมทั้งประชากรและเศรษฐกิจของราชอาณาจักคัลลามอร์ก็กำลังพัฒนาขึ้น ช่วงหลังสงคราม หลังจากทำการบูรณะและพัฒนาหลังสงคราม มันได้ถูกเรียกว่าเป็นเมืองหลวงที่ 2 แห่งอาณาจักคัลลามอร์

แต่กระนั้นเหล่าลอร์ดผู้ได้รับความเสียหายจากวิหารเอ็มบินยูก็ได้ถามขึ้นว่า

 ความเสียหายที่คาดการณ์ไว้อยู่ที่ระดับไหน?

 มันค่อนข้างยากที่จะหยั่งถึงระดับในปัจจุบันของวิหารเอ็มบินยู มองดูจากระดับความสำคัญและเนื้อหาของภารกิจแล้ว บางทีอาจจะมีขนาดใหญ่กว่า 2-3 เท่าเลยทีเดียว

 ถ้าอย่างนั้น...

 ประวัติศาสตร์ของอาณาจักรอาจสาบสูญไปและประชากรทั้งหมดจะกลายเป็นพวกสาวกคลั่ง จากนั้นจักรวรรดิฮาเว่นก็จะถูกบีบให้ต้องเข้าทำสงครามกับวิหารเอ็มบินยู ดังนั้นพวกเราต้องทำการเตรียมการให้พร้อม

จักรวรรดิฮาเว่นจำเป็นที่จะต้องเตรียมการที่จะเผชิญหน้ากับวิหารเอ็มบินยู
สิ่งเดิมพันนั้นสูงค่ายิ่ง ดังนั้นเหล่าอัศวินจึงได้ถูกรวบรวมมาอย่างลับๆเพื่อขจัดภยันตรายของทวีป พวกเขาสวมใส่ทั้งอาวุธและชุดเกราะที่อาบไล้ไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และเตรียมพร้อมที่จะเข้าประจัญกับวิหารเอ็มบินยู

แต่ทว่า มันเป็นการยากที่จะคาดเดากำลังพลของฝ่ายวิหารเอ็มบินยู ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าต่อสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั่วทั้งทวีปกลางนั้นตกอยู่ในอันตรายจากการที่จะถูกกวาดล้างโดยวิหารเอ็มบินยูและย้อนกลับไปสู่ความล้าสมัย การต่อสู้กับพวกมันอาจมอบโอกาสให้กับเหล่ากองกำลังพันธมิตรที่จะได้ฟื้นคืนมา และยังสามารถที่จะโยกคลอนอำนาจการปกครองของจักรวรรดิฮาเว่นได้อีกด้วย

 จักรวรรดิฮาเว่นอันทรงพลัง พวกเรานั้นมีพลังมากพอที่จะบดขยี้วิหารเอ็มบินยู และความเห็นของประชาชนนั้นจะเป็นไปในเชิงบวก วีดนั้นจะล้มเหลวในการรับมือกับวิหารเอ็มบินยู กล่าวอีกนัยนึงก็คือวีดจะตัดกำลังของพวกมันให้เรา

เนื่องจากความเสี่ยงของการผจญภัยของวีด จักรวรรดิฮาเว่นได้ขยายแผนการของพวกเขา พวกเขาได้พิชิตทวีปกลางโดยสมบูรณ์และได้เตรียมพร้อมที่จะทำสงครามกับวิหารเอ็มบินยูแล้ว

 จะเกิดอะไรขึ้นหากวีดประสบความสำเร็จในการผจญภัยครั้งนี้?

 ตามที่ระบุไว้ในประวัติศาสตร์วิหารเอ็มบินยูในยุคนั้นมีความยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ถ้าเขาเอาชนะพวกมันได้ขึ้นมา มันก็ไม่จำเป็นสำหรับพวกเราที่จะต้องไปต่อสู้กับวิหารเอ็มบินยู ถ้าเป็นอย่างนั้น กองกำลังที่เราได้เตรียมไว้ก็จะถูกยกกำลังพลขึ้นสู่แดนเหนือเพื่อทำสงคราม

 นายหมายความว่า...

 การทำลายล้างและพิชิตอาณาจักอาร์เพ่น

เมื่อจักรวรรดิฮาเว่นได้พิชิตทวีปกลาง พวกเค้านั้นไร้คู่แข่งโดยสิ้นเชิงเว้นแต่เพียงแดนเหนือ หากพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้ปกครองแห่งทวีปโดยสมบูรณ์

ไม่สำคัญว่าการผจญภัยของวีดนั้นจะเป็นไปในทิศทางใด ลาฟาเย่และจักรวรรดิฮาเว่นนั้นก็พร้อมที่จะหาประโยชน์ใส่ตน

 ฉันกลัวแค่ว่า...

อย่างไรก็ตาม ลาฟาเย่ไม่ได้บอกกล่าวเหล่าลอร์ดถึงบางสิ่ง

วีดนั้นกำลังทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้และไม่มีโอกาสที่จะสำเร็จได้เลย มันเป็นการประเมินจากความสามารถของเขาเอง แต่ทว่าหากภารกิจของวีดล้มเหลวขึ้นมาจริงๆ นั่นก็จะทำให้จักรวรรดิฮาเว่นตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

 ภารกิจของวีดนั้นพวกเราได้เห็นมันแล้ว ฉันได้รู้แล้วว่าประวัติศาสตร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้องขอบคุณเหล่าเมืองที่ถูกทำลายไป  หากภารกิจล้มเหลวนั่นก็จะเป็นการทำให้วิหารเอ็มบินยูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกอย่างมหาศาล

ในอดีตนั้นได้มีการตัดขาดการเชื่อมต่อระหว่างทวีปเหนือและทวีปกลาง วิหารเอ็มบินยูจะทำลายล้างทวีปกลางจนย่อยยับแต่กับแดนเหนือนั้นยังคงไร้ริ้วรอย ถ้าวีดไม่ทำมันให้ดีที่สุดล่ะก็มันจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อกิลด์เฮอร์มีส

 ถ้าเขาเกิดจงใจแพ้ขึ้นมาล่ะ?

ร่างของลาฟาเย่สั่นเทิ้มไปด้วยความกังวล

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

วีดได้มองดูพวกปีศาจหลั่งไหลลงมาจากท้องฟ้า

 มอนสเตอร์กำลังลงมายังกับห่าฝนแหนะ!”

เหล่าพ่อมดได้ทำการเปิดประตูนรก!  ปีศาจนรกอันทรงพลังนั้นไม่สามารถที่จะผ่านประตูนี้มาได้ แต่ก็ยังมีมอนสเตอร์เป็นจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลลงมายังโลก

ในทันใดนั้นโลกก็พลันอับแสงลง และเหล่าปีศาจก็ได้หลั่งไหลลงมาดั่งสายน้ำ

-ประตูนรกได้ถูกเปิดออกบนที่ราบดัลมอร์
วิกฤตการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ได้เยื้องกรายเข้าสู่ทวีปเวอร์เซลล์
แม่มดเปเช็ทนั้นเป็นสตรีผู้อันตรายอย่างมาก
เธอมีความเชี่ยวชาญในมนต์ดำและเวทย์ปีศาจทุกชนิด และยังได้สร้างสิ่งมีชีวิตใหม่ๆผ่านการทดลองของเธอ
เธอได้สร้างเส้นทางที่เชื่อมต่อกับ วงแหวนแห่งนรก เหล่ามอนสเตอร์จากขุมนรกจะออกมาอย่างต่อเนื่องผ่านประตูนรกจนกว่าเธอจะถูกโค่นลงและวงแหวนแห่งนรกถูกทำลาย
หากประตูนรกถูกเปิดออกเป็นเวลานานนั่นจะเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อโลกมนุษย์...
สนามรบเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอันหนักหน่วงและขวัญทหารได้ถูกลดลง 60%
หากประตูนรกถูกเปิดขึ้นเป็นเวลานานเหล่าผู้ที่จิตใจและปณิธานอ่อนแอจะถูกทำให้บ้าคลั่ง
ผลของค่าความศรัทธาถูกลดลงชั่วคราว
ประสิทธิภาพของมนต์ดำบนที่ราบดัลมอร์เพิ่มสูงขึ้น

เหล่าทหารต่างก็ตัวแข็งทื่อจากอาการช็อคขณะที่เหล่าปีศาจโผล่ออกมาจากประตูนรก ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ได้ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าลงสู่พื้นดิน

 เคี๊ยกๆๆ  (เสียงหัวเราะ)”


ร่างอันอวบอ้วนนั้นได้อ้าปากออกและเขมือบทุกสิ่งทุกอย่างที่มันมองเห็น รวมถึงต้นต้นหญ้า ก้อนหิน และต้นไม้ ร่างอ้วนนั้นได้เยื้องกรายมาถึงเหล่าทหารและเขมือบกลืนพวกเขาเข้าไปในคำเดียว

ทั้งเหล่าปีศาจยังได้ใบมีดอันแหลมคมออกจากร่างของพวกมัน มีมนุษย์สวมเกราะอยู่มากมายบนทุกราบทันทีที่พวกมันออกมาจากประตูนรก มันเหมือนกับพวกมันได้เห็นร้านบุฟเฟต์ที่เต็มไปด้วยอาหารที่พวกมันชื่นชอบ (กินเยอะไประวังท้องแตกเด้อ)

ก่อนเริ่มการต่อสู้ วีดนั้นมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองที่ได้รับมาจากภารกิจการเติบโตของโนดูล

 เควสที่เหลืออยู่นี่มันช่าง.. เห้อ ฉันคงทำได้แค่สู้อย่างเต็มที่ล่ะนะ มันจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว? . ฉันจะไม่มายอมแพ้ให้กับอะไรทั้งนั้นแหละว้อยยย

ดังนั้นเขาจึงได้มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินภารกิจต่อกรกับวิหารเอ็มบินยูต่อไป เขานั้นไม่ได้กังวลว่าจะไม่สามารถรับมือกับศัตรูจำนวนมากได้ แต่ในตอนนี้ความลังเลได้เกิดขึ้นมาในหัวเขา

เขานั้นโชคร้ายบัดซบ และระดับความยากได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

 มันออกมาเป็นสภาพนี้ ฉันว่าฉันไม่ควรไปเล่นหวยจริงๆเลยล่ะ ฉันคงไม่มีวันถูกหวยกระทั่งต่อให้ซื้อมันไปทั้งชีวิต(โอ๊ยยย อะไรจะอาภัพขนาดน้านนนน)

เขาจำเป็นที่จะต้องรักษาความเยือกเย็นไว้ถึงที่สุด ชีวิตของวีดนั้นไม่เคยและไม่มีวันเลยที่จะเป็นไปอย่างราบรื่น

 เจ้าพวกนี้นี่มันควบคุมยากซะจริงวุ้ย

วีดถอนหายใจแล้วใช้เสียงคำรามแห่งแอทร็อกอีกครั้ง

 เพ่งสมาธิไปที่การป้องกัน!”

มันเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงสำหรับเหล่าเชลยศึกที่จะต่อสู้กับเหล่าอสูรปีศาจ! มันดีมากพอแล้วสำหรับพวกเขาที่จะทนทานอยู่ได้สักไม่กี่นาที แกนหลักในการโจมตีนั้นคือเหล่านักรบทะเลทราย ทหารรับจ้าง และ นักบวชของแต่ละศาสนจักร

 กำจัดเหล่าผู้ไร้ศรัทธาให้สิ้นซาก!”

 ความตายอันเจ็บปวด(Painful Death)”

 มันคงอร่อยแน่ๆถ้ากินพวกมันทั้งเป็น

เหล่าสาวกคลั่งของวิหารเอ็มบินยูติดพันอยู่กับการต่อสู้อันรุนแรงกับเหล่าเชลยศึก เหล่าสาวกคลั่งได้ใช้บางสิ่งอย่างเช่น การกินเด็กทารก(eating young children)’, ‘สูบเลือดอย่างทารุณ(draw blood with torture)’และสังเวยคนเถื่อน(pagan sacrifices)’ เพื่อข่มขวัญพวกเขา

เหล่าสาวกคลั่งทั่วไปนั้นมีเลเวลอยู่ราวๆ 100 ขณะที่พวกที่มีความสามารถพิเศษนั้นจะอยู่ในช่วงเลเวล 200 เนื่องจากเป็นธรรมดาที่พวกสาวกถูกจับมารวมๆกัน ผลกระทบของมันจึงไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก

กำลังหลักของกองทัพอันได้แก่ เหล่าอัศวินแห่งความมืด(Dark Knight) , นักบวช และพ่อมด ได้พุ่งเข้าบดขยี้เหล่าเชลยศึก

ยิ่งกว่านั้น เหล่ามอนสเตอร์บินและยักษ์สัมฤทธิ์นั้นราวกับปราการอันไม่มีวันพังทลาย

บาทหลวงแห่งการลงทัณฑ์(Brotherhood of Punishment ,Brotherhood แปลว่าบาทหลวงได้ด้วย พวกวิหารเอ็มบินยูมันเกี่ยวกับศาสนาเลยคิดว่าใช้บาทหลวงน่าจะดูเข้าดี) และเหล่าอัศวินแห่งความทารุณ(Knights of Atrocity) ได้เข้าร่วมในการต่อสู้อย่างกระตือรือร้น พวกมันทั้งหมดนั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับบอสภายใต้แม่มดเปเช็ทและโมตุลกับอิกริกแห่งวิหารเอ็มบินยู

เหล่าเชลยศึกนั้นไม่ได้เข้าต่อสู้เพียงเพราะผลจากเสียงคำรามแห่งแอทร็อกเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นในวีด วีดนั้นได้แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถพลิกสถานการณ์ในการต่อสู้ได้หลังจากที่มันเริ่มขึ้น พวกเขาถูกนำมาที่นี่เพื่อต่อสู้ด้วยความเชื่อมั่นนั้น

 เหลือเชื่อจริงว้อยยยย นี่มันรู้สึกเหมือนกับห้างหรูๆเลย

หน้าอกของวีดนั้นสั่นกระเพื่อมขณะที่เขาจินตนาการถึงมัน เขานั้นไม่สามารถที่จะถอยกลับหรือแสดงความขลาดกลัวต่อหน้าเหล่าประติมากรรมสลักชีพของเขาได้ นี่คือเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งทะเลทราย เขาจำเป็นต้องแสดงความกล้าหาญและความสามารถที่มีออกมา!

 เอาล่ะ ฉันเพิ่งนึกสิ่งเก่าๆขึ้นมาได้ ฉันไปที่ห้างสรรพสินค้าแล้วเห็นราคาในนั้นที่มันโคตรจะแพงนั่นทำให้ฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลย (หลอนจัดแล้วบักวีด)

เหล่าเชลยศึกนั้นกำลังตกตายลงไปอย่างโหดร้าย

 กางเกงในตัวเดียวราคา 100,000 วอน... มันเป็นที่มาแห่งความกลัวจริงๆ

การตัดพ้อชีวิตของวีด อย่างไรก็ตาม เขาต้องยอมรับพลังที่แท้จริงของกองทัพวิหารเอ็มบินยูอย่างรวดเร็ว

 แต่ถึงอย่างนั้น วิหารเอ็มบินยูก็ไม่ใช่ชุดขนสัตว์ในห้างสรรพสินค้า มาลองดูกันสักตั้งสิวะ วิหารเอ็มบินยู (นี่พวกเอ็งน่ากลัวน้อยกว่าเสื้อขนสัตว์ในห้างอีกหรอวะ 555)

วีดควบเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนและประจำการแนวหน้า

 มนุษย์ เจ้าดูน่าอาโหร่ยยยย

เหล่าอสูรปีศาจนั้นคิดว่าวีดเป็นเหยื่อและพุ่งเข้าหาเขา  เหล่ามอนสเตอร์จากขุมนรกนั้นสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้จากการกลืนกินมนุษย์ มิฉะนั้นพวกมันจะอ่อนแอลงและตายไปอย่างรวดเร็วในโลกใบนี้

ในอดีต มอนทัสนั้นคือปีศาจที่ทรงพลังที่สุด แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่สามารถเทียบได้กับวีดผู้ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งดาบ

 ดาบเพลิง!(Fire Sword)”

ฟ้าว ตู้มมมม

วีดเหวี่ยงดาบผลาญโลกา(Extermination Sword ชื่อดาบ)ออกไปและมันได้เผาผลาญทำลายเหล่าปีศาจโดยรอบเขาจนสิ้น ระยะการโจมตีของเขาเพิ่มขึ้น 3 เท่า และความรุนแรงนั้นสุดจะเปรียบปาน แล้วเหล่าปีศาจก็ได้ดร็อป
 อัญมณี,โลหะ, อุปกรณ์ถลุงแร่ และไอเท็มอื่นๆที่หาได้ยากในโลกมนุษย์!

 มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ!.

จิตวิญญาณในการต่อสู้ของวีดลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนได้พุ่งเข้าใส่ศัตรู เขาเพิ่งจะได้รับดาบผลาญโลกามา แต่มันเป็นอาวุธที่ควบคุมได้ง่าย

ปริมาณน้ำหนักที่วีดนั้นต้องใช้ลงไปในอาวุธแต่ละชิ้นนั้นแตกต่างกัน มือของวีดนั้นได้วัดน้ำหนักแหละปรับให้เข้ากับดาบเล่มใหม่อย่างรวดเร็ว อาวุธเหล่านี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าคนแคระ ดังนั้นคุณสมบัติของมันจึงไร้ที่ติ สัมผัสของวีดนั้นโดดเด่นมากยามเมื่อใช้กับอะไรแบบนี้

เปลวเพลิงปะทุขึ้นทุกหนทุกแห่งที่คมดาบวาดผ่าน หนึ่งคมดาบก็ส่งให้เหล่าปีศาจนั้นไปแล้วไปลับ ความรุนแรงนั้นมหาศาลและสิ่งมีชีวิตใดที่โดนมันเข้าต่างก็มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน


 วิ่ง!”

วีดยังคงควบเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนมุ่งหน้าต่อไป เหล่าปีศาจทั้งหลายที่ผ่านตามรายทางก็ถูกฟันหรือไม่ก็เหยียบย่ำ วีดได้ใช้สกิลเขาของจนมาถึงทางเข้าของประตูนรก

 แบล็คไนท์สไตรค์!(Black Knight’s Strike คิดว่าใช้ชื่อ Engไปเลยเท่กว่า หรือถ้ามีชื่อไทยเท่ๆแนะนำมาได้ครับ)

เหล่าปีศาจยังคงพากันปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อวีดได้ใช้สกิลโจมตีวงกว้างออกมา ปีศาจเหล่านั้นทั้งหมดก็ได้กลายเป็นแสงสีเทาสลายหายไป
เหล่าพ่อมดถูกสูบมานาไปเพื่อคงสภาพประตูนรกไว้ แต่เหล่าปีศาจส่วนใหญ่ได้มลายหายสิ้นไปเพราะวีด

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถปิดประตูนรกได้ ดังนั้นเหล่าปีศาจที่ทรงพลังก็ยังคงทยอยกันออกมาอยู่เรื่อยๆ การกระทำของวีดนั้นอาจมองดูผิวเผินเหมือนว่าไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่อย่างนั้น

 ช่างเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

 มนุษย์อย่างนี้สิถึงจะควรค่าแก่การกิน

 แต่จะกินยังไงล่ะ? เจ้ามนุษย์นั่นแข็งแกร่งอย่างกับปีศาจ

วีดนั้นเป็นที่กล่าวถึงในหมู่ปีศาจเป็นอย่างมาก วีดควบเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนทะยานผ่านเกลียวคลื่นของเหล่าปีศาจที่ล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า

 ไปลุย!!”

เขาเหยียบลงไปบนสิ่งมีชีวิตที่แล่นลงมาถึงบนพื้น

สวบๆๆๆๆ(เสียงเหยียบย่ำ)

เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนนั้นกระทั่งโดดข้ามหุบเขายังทำได้ ดังนั้นกับเรื่องแค่นี้นั้นไม่นับเป็นอย่างไรได้


 ไปเลยเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยน!”

และเขาก็ได้พุ่งทะยานเข้าไปบดขยี้เหล่าวิหารเอ็มบินยู

เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ได้ขว้างก้อนหินมาหาเขา เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนวิ่งไปอย่างสง่างามขณะที่กำการหลบเลี่ยงความเสียหายและวีดก็ได้ฟาดฟันศัตรูด้วยดาบในมือของเขา

เขาได้บุกโหมกระหน่ำลำลายล้างวิหารเอ็มบินยูเพียงลำพัง! เหล่านักรบทะเลทรายไม่สามารถบุกฝ่าเข้ามาได้ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากพวกนั้นได้

 มะ...มนุษย์! ข้าจะควักหัวใจเจ้าออกมาและนำไปเป็นเครื่องสังเวยแด่องค์เทพเอ็มบินยู!”

 เหล่าสาวกแห่งองค์เทพเอ็มบินยูผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย จงสังหารชายผู้นั้นซะ!”

โมตุลและอิกริกได้คำรามตะโกนคำสั่งออกมา เหล่าสาวกคลั่งและอัศวินทมิฬได้ตอบสนองโดยพร้อมเพรียงกัน

ฆ่ามัน! มันถือเป็นเกียรติของเราที่จะได้ฉีกกระชากมันออกเป็นชิ้นๆด้วยมือตนเอง!”

 ดาบแห่งความมืดของข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆ

วีดนั้นได้ถูกล้อมกรอบโดยศัตรูนับสิบชั้น

 นี่ค่อยน่าสนใจหน่อย!”

วีดนั้นหาได้มีความกังวลใดๆ

เขานั้นได้รู้สึกกังวลอย่างมากก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ แต่เมื่อเขาได้เริ่มทำการต่อสู้ไปแล้ว เขาก็ได้ปราศจากความกลัวใดๆ กระทั่งในกรณีที่สถานการณ์ย่ำแย่ที่สุด เมื่อเขาเสียชีวิตและล้มเหลวในการทำภารกิจ ทวีปกลางก็ยังคงจะตกสู่ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย


เมื่อนึกถึงผลลัพธ์เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บท้องน้อยจากการคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา มันก็เหมือนเหล่านักกีฬาที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แต่แล้วพวกเขาก็ได้แสดงความสามารถออกมาให้ได้เห็น ในกรณีของวีดเขาไม่ได้สนใจเลยว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร

 พวกเจ้าไม่คู่ควรที่จะมาเผชิญหน้ากับข้า พวกเจ้ามันโง่เง่า เข้ามา!”


มือของวีดได้กวัดแกว่งฟาดฟันดาบผลาญโลกาซ้ำไปซ้ำมา! เหล่าอัศวินทมิฬทั้งหมดได้ปะทะเข้ากับดาบของวีด


-แบล็คไนท์สไตรค์ (Black Knight’s Strike!)
การโจมตีทีจะพุ่งไปด้านหน้าปะทะเข้ากับเหล่าศัตรูโดยรอบ

วีดนั้นอยู่ภายใต้วงล้อมของศัตรู

เหล่าปีศาจที่ทะยานลงมาบนพื้นนั้นได้เข้าต่อสู้กับเหล่าเชลยศึกที่อ่อนแอ ในขณะที่เป้าหมายหลักของกองทัพเอ็มบินยูคือวีด

 โลกใบนี้ได้ถูกปกครองโดยความมืดและการทำลายล้าง...

 ผูกพันธะกับความทรมานและเจ็บปวด...

เหล่าพ่อมดยังได้เปลี่ยนประเภทเวทย์คำสาปและเวทย์ทัณฑ์ทรมาน ไม่สำคัญว่าวีดจะแข็งแกร่งหรือเลเวลสูงเพียงใด เขาก็ไม่สามารถที่จะทนรับเวทย์คำสาปมากมายพร้อมกันในครั้งเดียวโดยที่ความสามารถในการต่อสู้ไม่ลดลง
วีดนั้นได้คาดการณ์การกระทำของพวกพ่อมดไว้แล้ว

 มันช่างน่ารำคาญหูจริงๆ ฉันว่ามันคงถึงเวลากินรวบพวกมันแล้วล่ะ

เขานำธนูน้ำแข็งเยอร์บูซีก้าออกมาและเล็งยิงไปยังพวกพ่อมด ศรน้ำแข็งสีขาวพุ่งตรงพาดผ่านเหล่าอัศวินทมิฬไปยังเหล่าพ่อมดที่กำลังคุกเข่าอยู่

 หลบไป!”

 ลูกธนูของพวกไร้ความศรัทธา!”

เหล่าพ่อมดต่างรีบเร่งยกเลิกเวทย์คำสาปที่กำลังร่ายอยู่และเปลี่ยนไปร่ายเวทย์ป้องกันแทน ศรน้ำแข็งของวีดนั้นรุนแรงมากถึงขนาดที่พุ่งทะลวงผ่านชั้นเวทย์ป้องกันมากมายไปได้

อย่างไรก็ตาม วีดก็ได้น้าวคันศรอย่างต่อเนื่องและยิงศรน้ำแข็งออกมานับร้อย
ศรคลั่ง!

  หลังจากเชี่ยวชาญทักษะยิงรัว ทักษะยิงธนูของเขาก็ได้มีความเร็วอันไร้เหตุผล(เร็วจัด)

เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนเคลื่อนผ่านเหล่าศัตรู นั่นทำให้วีดเล็งยิงธนูได้ง่ายยิ่งขึ้น โล่ของเหล่าพ่อมดก็ได้แตกสลายไปในที่สุดและถูกแช่แข็งโดยเศษน้ำแข็งที่เหลือ

 อ๊ากกก!”

เหล่าอัศวินทมิฬและเหล่าจอมเวทย์ได้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง เหล่าจอมเวทย์ที่พลังชีวิตต่ำได้ตายลงไป เหล่าอัศวินทมิฬกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้งเมื่อน้ำแข็งละลายหมดแล้ว และศรน้ำแข็งได้เจาะทะลุร่างของเหล่าพ่อมดอย่างสมบูรณ์

แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเหล่าพ่อมดก็ได้กลายเป็นควันแล้ววิ่งหนีไป

 ฮึ พวกเจ้ายังไม่สามารถทำอะไรมนุษย์ผู้นั้นได้รึ

เปเช็ทได้ออกมาเพื่อทำการช่วยเหลือเหล่าพ่อมดที่เหลือ อากาศได้ถูกรับผลของเวทย์บิดเบือนมิติ ส่งผลให้ศรน้ำแข็งนั้นถูกเปลี่ยนทิศทางและพุ่งไปผิดที่
ในขณะเดียวกันเหล่าอัศวินทมิฬและเหล่าปีศาจก็ได้เข้าโจมตีวีด เขานั้นเพิกเฉยต่อการโจมตีที่เข้ามามากมายจากพวกอัศวินทมิฬเพราะนั่นได้แค่ทำให้เขารู้สึกคันๆ

-เกราะหนังคู่บารมีแห่งผู้พิชิต(The Majestic Leather Armour for a Conqueror)ได้ดูดซับความเสียหายจากการโจมตี

-คุณได้รับการโจมตีจากหางของเฮคาทีผู้ใช้ชีวิตอยู่ในนรก
พลังงานแห่งขุมนรกได้เจาะทะลวงเข้าสู่ร่างกายของท่าน
พลังชีวิตลดลง 1,393 หน่วย

หากคุณถูกโจมตีโดยเหล่าปีศาจซ้ำๆ นั่นจะทำให้เป็นการยากในการขจัดคำสาปออกไป

เหล่าประติมากรรมสลักชีพ เจ้าอัลเวรันและอัลเวเรนสามารถรักษาได้ แต่มันก็จะเป็นการสิ้นเปลืองทั้งเวลาและพลังศักดิ์สิทธิ์

ตอนนี้นั้นมีคำสาปที่ทำการลดพลังชีวิตของเขาอย่างต่อเนื่อง วีดไม่สามารถเพิกเฉยการโจมตีได้อีกต่อไป และเล็งดาบในมือของเขาไปยังศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ

 เหล่าพ่อมดและจอมเวทย์จงดูแลเหล่านักบวช

พวกมันมีพ่อมดอย่างน้อย 1,000 คน และมีเพียง 100 คนเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายจากศรน้ำแข็ง

การก้าวเข้าไปในใจกลางดงมอนสเตอร์ตั้งแต่เริ่มเปิดศึกนั้นไม่ใช่โอกาสที่จะมีมาได้อย่างายดาย เหล่าจอมเวทย์มากมายถูกรวบรวมมาเพื่อขัดขวางวีดและหลากหลายเวทย์มืดได้ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก 

 มันช่างน่าเสียดายจริงๆ

เขาจำเป็นที่จะต้องทำการกวาดล้างเหล่าอัศวินทมิฬ

จำนวนของมอนสเตอร์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่ได้รวดเร็วเท่ากับก่อนหน้านี้ มีเพียงแค่เหล่าปีศาจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ออกมา และพวกมันกระทั่งกลืนกินเหล่าสาวกคลั่ง ผลที่ตามมาก็คือการต่อสู้ยิ่งทวีความซับซ้อนมากขึ้นและเขาก็ไม่สามารถที่จะรับมือกับเหล่าศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นได้

เพื่อที่จะไปให้ถึงตัวเปเช็ทผู้ควบคุมวงแหวนแห่งนรกที่เปิดขึ้นบนทวีปเวอร์เซลล์ เขาจำเป็นจะต้องผ่านเหล่าปีศาจไปให้ได้

องค์เทพเอ็มบินยูกล่าวว่าให้จัดการกับเจ้ามนุษย์นั่น

 ฉีกกระชากเจ้ามนุษย์นั่นให้เป็นชิ้นๆ!”


ความเป็นปรปักษ์ของวิหารเอ็มบินยูที่มีต่อวีดนั้นได้ไปถึงจุดสูงสุด เหล่าเชลยศึกนั้นต่างตายไปอย่างไร้ค่า ดังนั้นวิหารเอ็มบินยูจึงไม่ได้สนใจพวกมันเลย วีดถูกโจมตีเพียงลำพังและกลายเป็นเป้าหมายเดียวของพวกมัน

 ความดังของฉันนี่ไม่มีวันหมดจริงๆ วันพิพากษา!”

วีดนั้นไม่ได้ประหยัดมานาของเขาอีกต่อไป และใช้สกิลที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา สกิลแห่งนักรบสุริยัน เปลวเพลิงแผ่ขายออกไปดั่งคลื่นสึนามิและเผาผลาญเหล่าอัศวินทมิฬรอบๆตัวเขาให้เป็นเถ้าถ่าน ระยะของการโจมตีและความเสียหายที่เกิดได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า เนื่องจากดาบผลาญโลกา(Extermination Sword)

เหล่าสาวกคลั่งกรีดร้องโหยหวนออกมาขณะที่พวกมันอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงและตายลงไป การโจมตีวงกว้างที่ทำความเสียหายต่อทุกสิ่งมีชีวิตโดยรอบ! อย่างไรก็ตามนี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเบิกบานใจสำหรับวีด

 ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับความโอหังของเจ้า

เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ได้ขว้างก้อนหินขนาดใหญ่ออกมา เหล่าจอมเวทย์มืดและพ่อมดได้เล็งกระสุนเวทย์มายังวีดและทำการอัญเชิญสายฟ้าและแก๊สพิษ

-คุณได้รับความเสียหายเวทย์ 161 หน่วย
ด้วยความว่องไวของคุณ คุณได้ทำการหลบหลีกการโจมตี 59 ครั้ง
พลังชีวิตลดลง 95,831 หน่วย (หลบได้59ครั้งเอ็งโดนไปกี่ครั้งวะเนี่ยเลือดลดขนาดนี้)

ด้วยความต้านทาน ความอดทนที่สูงและชุดเกราะของเขาทำให้เขาสามารถทนต่อพายุสายฟ้าได้ เปลวเพิงได้เติมเต็มมานาและพลังชีวิตของเขาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นการจู่โจมของศัตรูที่โจมตีเข้าใส่วีดเท่านั้น

เหล่ายักษ์สัมฤทธิ์ได้ก้าวเท้าเข้าหาวีดพร้อมกับหอกขนาดยักษ์และเหล่าสาวกแห่งวิหารเอ็มบินยูได้ควบม้าพุ่งเข้าใส่

วีดนั้นได้เติมพลังชีวิตของเขาแล้วในการต่อสู้ แต่มันก็ยังคงลดลงอยู่เรื่อยๆ จนถึงตอนนี้เขาได้วิ่งไปรอบทั่วสนามรบและยังไม่ได้รู้สึกอันตรายถึงชีวิตใดๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกเสียดายนิดหน่อยขณะที่มองไปรอบๆ

 นี่คงมากพอแล้ว

เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนผงกหัวเสมือนว่ามันเห็นด้วยกับวีด


วันพิพากษานั้นเป็นสกิลโจมตีวงกว้างแต่เจ้าอูฐนี่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนต้องขอบคุณวีดอย่างมากที่วีดได้ขี่มันอยู่ขณะที่มองไปยังความน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นกับศัตรู  อารมณ์ความรู้สึกของเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนได้แสดงออกมาผ่านรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของมัน

 ได้เวลาดำเนินปฏิบัติการขั้นที่ 2 แล้ว พวกเราถอย!”

วีดควบเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนวิ่งออกห่างจากกองทัพเอ็มบินยู

เจ้ายักษ์สัมฤทธิ์ได้ขว้างหอกออกมาและปักทิ่มลึกลงไปในพื้นดิน

 อย่าหนีนะ ข้าจะทำให้เจ้าได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่จะเจ้าจะไม่มีวันลืมเลือน

เหล่าอัศวินทมิฬได้พยายามจะขัดขวางทางหนีของเขา  แต่ว่าเหล่าอัศวินทมิฬนั้นไม่ใช่คู่มือที่จะมีความสามารถพอในการขัดขวางการหลบหนีของวีด

 รัดขามันไว้!”

 มันเคลื่อนไหวเร็วเกินไป

เหล่าพ่อมดและจอมเวทย์มืดพยายามที่จะร่ายเวทย์คำสาปเผาไหม้ อย่างไรก็ตามเขาสามารถหนีไปได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นมันจึงเป็นการยากที่เวทย์คำสาปจะจับเขาได้ เขาได้เตรียมตัวมาพร้อมสำหรับการไล่ล่าแล้ว!

 ไล่ล่ามันไปให้ถึงที่สุด!”

มหาปุโรหิตโมตุล(High Priests Motuls) ได้ออกคำสั่งแก่ทั้งกองกำลังภาคพื้นดินและภาคอากาศของวิหารเอ็มบินยู

พยุหะลูกธนูได้บินว่อนตามหลังเขามา แต่เพียงแค่คลื่นกระแทกจากดาบของเขาในอากาศก็ทรงพลังมากพอที่จะพัดให้ลูกธนูเหล่านั้นกระเด็นไป
เขาไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงลูกธนูทั้งหมดได้ ดังนั้นพลังชีวิตของเขาก็ยังคงลดลด พลังชีวิตของวีดยังคงเหลืออยู่ที่ 89%

 ฉันยังคงจำเป็นที่จะต้องระวังตัวอยู่ มันจะอันตรายถ้าฉันโดนเล็งโจมตีโดยเวทย์และธนู

เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนแล่นไปข้างหน้าให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงลูกธนูเช่นเดียวกับกองทัพของวิหารเอ็มบินยูที่ตามหลังมา

นักธนูบนเหล่ามอนสเตอร์บินได้เล็งเป้าหมายมายังวีด วีดนั้นเป็นดั่งอาหารอันล่อตาล่อใจมากที่สุดเพราะว่าเขาคือมนุษย์ผู้แข็งแกร่งที่สุดบนสนามรบ! พวกมันได้เล็งไปยังช่วงเวลาวิกฤตเมื่อเขาอ่อนแอลงเพื่อที่ พวกมันจะได้สามารถตะครุบกินวีดได้

กองทัพเอ็มบินยูที่อยู่ข้างเคียงได้เข้ามาไล่ล่าวีดอย่างพร้อมเพรียง ศัตรูจำนวนมากมายมหาศาลได้พุ่งเข้าใส่วีด แต่เหล่านักรบทะเลทรายและทหารรับจ้างต่างก็ไม่ได้เข้ามาเพื่อช่วยเหลือเขา

 เคลื่อนพลไปยังทิศตะวันออกตามแผนที่วางไว้

 พวกเราต้องลงไปยังทิศตะวันตก

นักรบ-1ได้แบ่งกองทัพที่เขาบัญชาการอยู่ออกเป็นสองส่วน

มันดูเหมือนว่าวีดนั้นกำลังหลบหนีออกจากสนามรบ วีดได้มุ่งหน้าไปยังป้อมปราการขณะที่ถูกศัตรูไล่ล่า

เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนวิ่งลงไปตามทางลูกรังที่นำไปสู่ป้อมปราการพร้อมกับหน่วยโจมตีทางอากาศ, อัศวิน และยักษ์สัมฤทธิ์ที่ตามมาอย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีเหล่าปีศาจที่ตามติดเขามาอีกนับ 1,000

วีดและกองทัพวิหารเอ็มบินยูได้มุงหน้าไปยังป้อมปราการที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา

 ข้ารู้สึกพอใจยิ่งนักที่เจ้าคนเถื่อนนั่นได้ต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ขอรับฝ่าบาท!”

 นี่ถือเป็นเรื่องดี พวกมันจะตกตายลงไปขณะที่สู้กันเอง

เหล่าผู้นำภายในป้อมปราการดัลมอร์มองดูอย่างพึงพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 ยิง! ยิงมันเข้าไป ยิงงงงง!!!!!”

เวทย์มนต์และลูกธนูได้มุงไปหาวีดและวิหารเอ็มบินยู เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนได้ใช้เทคนิคในการหลบหลีกออกมาและหลบเลี่ยงการโจมตีในขณะที่ยังคงวิ่งไปข้างหน้าเหล่าวิหารเอ็มบินยู เจ้ายักษ์สัมฤทธิ์นั้นก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขณะที่มันได้ก้าวเดินไป

วีดและเจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนได้มาถึงเบื้องหน้าคูเมืองและประตูทางเข้าที่ถูกปิดอยู่

 โดดเลยเจ้าอูฐ!”

เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนถีบพื้นและกระโดดไปข้างหน้า

โดยปกติแล้วมันจะนอนขี้เกียจและกินแครอท แต่เจ้าอูฐแบ็คเทรี่ยนนั้นสามารถที่จะวิ่งได้เร็วดุจสายลมในทะเลทราย! มันสามารถกระโดดข้ามกำแพงที่สูงถึง 10 เมตรที่กองกำลังป้องกันของอาณาจักรมาปอนและเบย์เนอร์กำลังรออยู่ได้
เหล่าทหารศึกได้แสดงความตกตะลึงออกมาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างกะทันหัน วีดนั้นไม่ได้สนใจเหล่าทหารและมองกลับไปยังกองทัพวิหารเอ็มบินอยู่ที่ตามไล่หลังเขามา

 เอาล่ะ มันมีบางอย่างพลิกผันไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในแผนที่ว้างไว้ล่ะนะ

มันเป็นความรู้สึกสุขหาใดเปรียบที่ได้เขาได้รับหลังจากที่เก็บเหรียญ100วอนที่ตกอยู่บนพื้น วีดยืนอยู่บนกำแพงและตะโกนออกมาอย่างกึกก้อง

 วิหารเอ็มบิยู โจมตีเข้ามาเลยถ้าพวกแกกล้า! ราชอาณาจักมอปอนและเบย์ได้รอคอยที่จะบดขยี้พวกแกเพื่อความยุติธรรมแห่งโลกไปนี้!”(หน้าด้านชิบบักวีด 5555)

เหล่าราชอาณาจักมาปอนและเบย์เนอร์ที่กำลังป้องกันป้อมปราการอยู่นั้นได้คิดว่านี่มันช่างบ้าบอสิ้นดี

โปรดติดตามตอนต่อไป
ผู้แปล : Patty
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

7 ความคิดเห็น:

  1. ตอนแรกจะสงสาร พ่อซอยูน แล้วพออ่านจบ เอ็งยังรวยอยู่นี่หว่า!?
    วีดตอนนี้เกรียนมาก แล้วโหดเกินไปแล้วเลือดเหลือ89 ตอนหนี..... (นี่ขนาดตัวดทพๆยังไม่โผล่นะ พวกจารชั่งแกะสลัก)
    อยากรู้จะจบภาคนี้ยังไงให้เลวร้ายกับ เฮอมิสมากสุด โดยที่วีดไม่แพ้(ตกลงกับเอมเบนยูเรอะ?)
    ขอบคุณสำหรับผลงานครับ สนุกมาก แล้วยังมีกำกับให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วย

    ตอบลบ
  2. คุณพ่อครับบ้าน 2 ชั้นในความคิดคุณพ่อช่าง...

    ตอบลบ
  3. ได้พ่อค้าใหม่ร่วมทัพแน่ๆ55555555

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณครับ ตอนนี้รู้สึกว่าจะยาวยุนะ

    ตอบลบ
  5. แปลสนุกมากครับขอบคุณครับ วีดมันสุดยอดกวนส้นเลยนะเนี่ย5555

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...