วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560

เล่ม 16 ตอนที่ 5 : ยุทธวิธีตามแบบฉบับของจูกัดเหลียง(ขงเบ้ง) แปลโดย แอดชิน เพจเราอ่านนิยายแปล

เล่ม 16 ตอนที่ 5 : ยุทธวิธีตามแบบฉบับของจูกัดเหลียง(ขงเบ้ง) แปลโดย แอดชิน เพจเราอ่านนิยายแปล

วีดเคลื่อนขบวนพร้อมกับเหล่าพันธมิตรชนเผ่าไปที่ป้อมปราการของวิหารเอมบินยูอีกครั้ง
เพื่อให้แน่ใจว่าการเคลื่อนขบวนในครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงไม่ได้สร้างเครื่องยิงปิดล้อม
 “อ่าห์
 “ป้อมปราการนั่นช่างแข็งแกร่งนัก พวกเราไม่มีทางที่จะเอาชนะได้เลย
ความคิดที่มองโลกในแง่ร้ายกำลังแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างในพันธมิตรชนเผ่า!
จำนวนของเหล่าพันธมิตรชนเผ่าลดลงไปประมาณ 140 คน
พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีความคิดแบบง่ายๆ เป็นพวกที่ไม่ละทิ้งซึ่งความหวัง แต่แน่นอนผลลัพธ์ที่ออกมานั้นกลับตรงกันข้าม เพราะพวกเขาผ่ายแพ้หลังจากทนทุกข์ทรมานอยู่เพียงฝ่ายเดียว หนำซ้ำแทบจะสร้างความเสียหายไม่ได้เลย
วีดไม่ได้พยายามที่จะเพิ่มขวัญกำลังใจให้เหล่าสมาชิกในพันธมิตรชนเผ่า
 “พูดตามความเป็นจริงเลยนะ มันยากมากที่จะจัดการพวกมันและยึดป้อมปราการให้ได้
เขาจงใจไม่พาปิงหลง พวกฟินิกซ์ และเจ้าเหลืองมาด้วย
เขาตั้งใจให้พวกมันได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้แสดงพละกำลังอันสูงสุด
ปลายหอกของเผ่าซัลเมียร์ตกลง ขวัญและกำลังใจของพวกเขาลดลง 
แต่กระนั้น เมื่อวีดและเหล่าพันธมิตรชนเผ่า เคลื่อนกำลังพลเข้าไปใกล้ป้อมปราการ ที่นั่นมีการตอบสนองเกิดขึ้น
ไพร่พลบนกำแพงมีจำนวนมากขึ้น ควันที่เป็นสัญญาณประกาศให้โจมตี กำลังพวยพุ่งขึ้นไปอยู่ในอากาศ
ตาของวีดเปล่งกระกาย
 ‘วิหารเอมบินยูกำลังเรียกพวกคนเถื่อนทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกมัน
หลังจากการต่อสู้ในตอนต้นจบลง เขาพาปิงหลงและพวกฟินิกซ์ไปทำการสำรวจรอบๆ
 “พวกคนเถื่อนที่อยู่ในบริเวณการควบคุมของวิหารเอมบินยูนั้น ค่อนข้างอ่อนแอมาก
พวกเผ่าอื่นๆที่อาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำโหยหวน อ่อนแอดกว่าพวกชนเผ่าที่เป็นพันธมิตรกับวิหารมาทัลลอส เผ่าเลเกียร์ เผ่าซัลเมียร์ และ เผ่าเวเจจ
 “ถ้าฝ่ายพวกเราฆ่าได้ 10 คน และ ตาย 5 คน กำไรที่ได้ก็น่าจะสักประมาณ 27 กอง
การคำนวณที่บ้าและไร้สาระสุดๆ!
ในขณะที่ควันกำลังพุ่งขึ้นไป สักพัก เผ่าคนเถื่อนก็มารวมตัวกัน พวกเขามาพร้อมกับหอกไม้ไผ่ ขวานและธนู
วีดไม่ได้ชี้ไปทางป้อมปราการ แต่ชี้ไปที่เผ่าคนเถื่อนที่ปรากฏตัวขึ้นมาก พร้อมกับออกคำสั่ง
 “พวกสมุนของวิหารเอมบินยู ฆ่าพวกมันซะ
วีดออกคำสั่งง่ายๆ เพื่อให้พันธมิตรชนเผ่าสามารถแสดงพลังออกมาได้
 “เผ่าเวเจจ บุก!”
ในตอนแรก ทั้งชนเผ่าพันธมิตรและเผ่าคนเถื่อนคนอื่นๆ ต่างก็ไม่ได้แสดงรูปแบบหรือกลยุทธ์การเคลื่อนไหวต่างๆ เพราะพวกเขาไม่ได้ฝึกมา
 “อูว่ะ!”
 “ฆ่าพวกมันให้หมด!”
นักรบชนเผ่าเวเจจผู้ล่ำสัน กำลังวิ่งไปข้างหน้า แต่ละคนมีพละกำลังเท่ากับทหาร 100 นาย!
 “เผ่าซัลเมียร์ ถึงตาของพวกนายแล้ว
วีดสั่งให้เผ่าซัลเมียร์ลงมือ เหมือนกับลักษณะของพวกเขา เผ่าซัลเมียร์ค้นหาและไล่ล่าศัตรู
พวกเขาคือสุดยอดนักล่าที่มีทั้งธนูอาบยาพิษและหอกปลายแหลม!

เผ่าเลเกียร์รับหน้าที่ในการร่ายเวทย์ที่ทำให้เกิดอาการมึนงง พวกเราระดมยิงเวทย์มนต์ใส่เผ่าคนเถื่อนด้วยคำสาปมึนงงที่สามารถกระจายเป็นวงกว้างได้(AOE)
 “ข้ารู้สึกมึน เหมือนพื้นดินกำลังสั่นอยู่
แม้ว่าพื้นที่รอบตัวพวกเขายังดูปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เผ่าคนเถื่อนกลับเดินเซไป เซมาท่ามกลางสมรภูมิรบ
 “ขวานของข้า ขวานของข้ามันหนักมากเลย
แม้กระทั่ง ขวานหินของพวกเขายังไม่สามารถยกได้ ดูราวกับว่ามันหนักกว่าเดิม 2-3 เท่า
ด้วยความช่วยเหลือจากเผ่าเลเกียร์ ประสิทธิภาพในการรบของเผ่าเวเจจและเผ่าซัลเมียร์จึงเพิ่มขึ้น
เมื่อต่อกรกับเหล่าคนเถื่อน พันธมิตรชนเผ่าแสดงพละกำลังและความสามารถเฉพาะตัวได้อย่างโดดเด่น!
 “ฆ่าพวกมันให้หมด
 “อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว
เผ่าคนเถื่อนจำนวนนับหมื่นคนถูกล้อมกรอบอยู่เพียงฝ่ายเดียว โดยชนเผ่าพันธมิตร 6,000 คน ศพนับร้อย นับพัน กองพูนเป็นภูเขา พันธมิตรชนเผ่าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆเมื่อพวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้มากขึ้น
อันที่จริงแล้ว เขาเคยวางแผนไว้ว่าจะให้ชนเผ่าพันธมิตรพัฒนาความสามารถมากกว่านี้ แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไป
 “มันสายไปแล้วล่ะ ที่จะให้พวกเขาเก่งมากกว่านี้
ในเมื่อตอนนี้มีชนเผ่าพันธมิตรมากกว่า 6,000 คน การที่พยายามทำให้พวกเขาเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แค่นี้ก็เกินพอแล้ว!
ถ้าเขาไม่สามารถดึงเอาพลังสูงสุดของกองกำลังที่เขามีออกมาได้ เขาจะต้องเจอกันอันตรายที่หนักหนาสาหัสมากกว่านี้
 “พวกเราจะไม่ใช้วิธีการต่อสู้แบบเดิมๆอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องสู้ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ไม่ว่าศัตรูของเราจะแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ ไม่ว่าการต่อสู้จะโหดร้ายแค่ไหน พวกเราจะสู้ในสภาพแวดล้อมที่พวกเราได้เปรียบเท่านั้น
วีดเปลี่ยนกฎเกณฑ์การต่อสู้ในสนามรบและวางแผนใช้วิกฤติในครั้งนี้ เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นอยู่
รอยสัก แผลเป็น และกล้ามเนื้อของเหล่าคนเถื่อน สวมใส่ชุดที่ทำมาจากหนังหมีและเสือดาว กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของพวกเขา
*เตร๊งง*
วีดหยิบพิณอันใหญ่ออกมาและดีดมันอย่างเบามือ เสียงกังวานสดใสของพิณอันนี้ ดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ
 [อ่าห์ บางอย่างช่างดูสดใส ในยามค่ำคืนอันมืดมิด
โอ โอ่ โอ้ โอ๊!
นี่คือบรอนซ์แจปเทม (แจปเทมคล้ายๆไอเทมขยะ)
ถ้าหากมันขึ้นสนิม เรามาทำให้เปล่งประกาย~
คุณสามารถขายมันได้ที่ร้าน
ทำให้ดวงตาของคุณเห็นแสงสว่างและลองคว้ามันมาดู~
คุณไม่ควรพลาดมันเลยสักชิ้น
เอ้า เรา เรามาเก็บแจปเทมด้วยกันและเอามันไปขาย~
เพื่อจะได้มีไว้ซื้อขนมปังข้าวบาร์เลย์สำหรับหนึ่งร้อยปี
อา อ้า อ๊า
ไอเทม!
ยูนี้คไอเทม(A Unique item ไอเทมเฉพาะ)
ตื่นเต้นสุดๆ เอ้า เรา เรามาเต้นด้วยกัน วันนี้เจอแจ๊คพ็อตเข้าแล้ว]
เมื่อบทเพลงของวีดบรรเลงจนถึงจุดสูงสุด การต่อสู้ระหว่างชนเผ่าพันธมิตรและเหล่าคนเถื่อนกำลังดำเนินต่อไป
เผ่าเลเกียร์ เผ่าเวเจจ และ เผ่าซัลเมียร์ ชนเผ่าพันธมิตรมีพลังที่เหนือกว่าเหล่าคนเถื่อนอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้ว่าปิงหลงและพวกฟินิกซ์จะไม่ได้อยู่ตรงนั้น พลังที่เพิ่มขึ้นจากประติมากรรมพลังศรัทธาของพี่น้อง เป็นตัวช่วยที่ดี
*ครืนนนน!*
ขณะที่ชนเผ่าพันธมิตรกำลังไล่ล่าเผ่าคนเถื่อนอย่างเมามันส์ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่ป้อมปราการของวิหารเอมบินยู ประตูกำลังเปิดออกอย่างช้าๆพร้อมกับส่งเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น ช่องหว่างระหว่างประตู อัศวินแห่งความมืดและพวกทหารสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้

ชุดเกราะของพวกเขาส่องแสงเป็นประกายจากการอวยพรและการปกป้องด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
 [พวกเราจะล่าในที่ๆไม่เคยมีใครพบมาก่อน
เส้นทางของนักล่าผู้โดดเดี่ยว
การอยู่คนเดียว คือสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ฟาร์มแจปเทมจนร่ำรวย~
ข้าไม่หวังให้ใครสักคนมาเข้าใจ
ข้าหวังแต่เงินเพียงอย่างเดียว]
ในขณะที่วีดกำลังดีดพิณ มือของเขาเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว
ไม่ได้มีแต่อัศวินแห่งความมืดและพวกทหารเท่านั้นที่กำลังจะออกมา
*โครก คราก!*
แม่นยำยิ่งกว่านาฬิกาสุดหรูที่มีมูลค่าหลายล้านวอน นาฬิกาท้องของเขาบอกเวลาให้เขาทราบ
 “ได้เวลาแล้ว เขาน่าจะมาถึงเร็วๆนี้
วีดมองไปที่สนามรบพลางดีดพิณไปด้วย
ราวกับพวกทหารจากสงครามในประวัติศาสตร์ตามหนังหรือนวนิยายต่างๆที่กำลังสั่งการกองทัพ! ด้วยการถือพัดหรืออุปกรณ์อะไรสักอย่าง วีดกำลังเลียนแบบการสั่งการที่ปรากฏให้เห็น การกระทำของเค้าสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวหรือวิธีการถ่ายทำหนังแบบหมดเปลือก
*ปัง ปัง!*
เมื่อประตูถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์ วีดใช้ราชสีห์คำรามด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี
ไม่เหมือนกับโทนเสียงอันห่วยแตกหรือการร้องเพลงที่มีเนื้อเพลงอันเลวร้ายแบบที่เขาร้องไปเมื่อสักครู่นี้ รอบนี้มันเป็นเสียงคำราม!
 “ชนเผ่าพันธมิตรทั้งหลาย ปลดปล่อยพลังของเจ้าออกมาให้หมด!”
ชนเผ่าพันธมิตรละทิ้งซากศพของเผ่าคนเถื่อนในสนามรบและถอยร่นออกมาทันทีที่ได้ยินสัญญาณ
ช่วงเวลานั้นเอง อัศวินแห่งความมืดและทหารที่อยู่ข้าง กำลังพุ่งออกมาทันทีที่ประตูเปิดออกมา—!
จำนวนมานามหาศาลพรั่งพรูเข้าสู่สนามรบ
เกิดเป็นวังวนพายุที่กำลังบ้าคลั่ง เมื่อมานาสีดำถูกขับเคลื่อนโดยมนต์ดำ
โหกกกกกกกก!
เสียงหวีดร้องชวนขนหัวลุกของภูติผี
ความมืดเข้าปกคลุมโดยกลุ่มก้อนเมฆขนาดมหึมา
ครืน เปรี๊ยะ-เปรี๊ยะ-เปรี๊ยะ-เปรี๊ยะ-เปรี้ยง!
ทั้งฟ้าผ่าและฟ้าแลบเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน
ด้านหน้าป้อมปราการของวิหารเอมบินยู พื้นดินตรงที่เหล่าชนเผ่าพันธมิตรและเผ่าคนเถื่อนกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น เกิดรอยแยก วีดกางแขนออกไปจนสุด
 “ในที่สุด เขาก็มาถึง!”
วีดยินดีต้อนรับการมาของมอนสเตอร์ตัวแรกที่ถูกอัญเชิญออกมาโดยพลังแห่งผู้กอบกู้
 “มาเร็วๆ!”
โครงกระดูกสวมผ้าคลุมค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากรอยแตกในพื้นดิน
ผู้นำสูงสุดของกองทัพอมตะ เนโครแมนเซอร์ที่เลวร้ายที่สุด ผู้ที่ถูกปิดผนึกอยู่ในดินแดนต้องห้าม; การปรากฏตัวของ บัลข่าน เดมอร์ฟ(Balkan Demoph)
* * *
บัลข่านไม่รู้จักการให้อภัยหรือความปรานี ถ้าวิหารเอมบินยูไม่มีการยั้งมือหรือแผ่ขยายอำนาจออกไป ถ้าอย่างนั้น บัลข่านเองก็เหมือนอยู่กันคนละโลก
ข้าทาสบริวารแห่งความมืด เขาไม่มีความอดทนหรือเยื่อใยต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ความเกลียดชังอันโหดเหี้ยมต่อการมีชีวิต!
ความเย็นยะเยือกจากการปรากฏตัวของเขาเพียงคนเดียว มอนสเตอร์ที่มีระดับสูงที่สุด แค่เพียงการปรากฏตัวของเขา ก็ทำให้บรรยากาศของสนามรบตกต่ำลง บรรยากาศที่เหมือนกับจะควบคุมได้ทุกสิ่งทุกอย่างแผ่ซ่านราวกับพายุลูกใหญ่
วีดสังเกตลักษณะของบัลข่านอย่างละเอียด ลิชแก่ๆกับกระดูกผุๆFrom จากลักษณะที่ปรากฏของเขา ดูไม่ค่อยแตกต่างจากลิชไชร์ที่เป็นลูกศิษย์ของเขาสักเท่าไหร่นัก เขาดูสูงกว่านิดหน่อยและกรามของเขาก็ดูใหญ่กว่า แต่วีด ผู้ที่เคยเผชิญหน้ากับไชร์ สามารถแยกแยะความแตกต่างได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น
 “คุณสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเขาเป็นลิชที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง
ลิช บัลข่าน ใส่เครื่องแต่งกายระดับสูง ออร่าสีดำไหลออกมาจากร่างกายของเขา ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ทำมาจากวัตถุดิบคุณภาพสูงแต่มันดูกระจอกงอกง่อยเหมือนกับว่าผ่านการใช้งานมาแล้วหลายร้อยปี ส่วนผ้าคลุมยังอยู่ในสภาพดีเหมือนของใหม่เลยถ้าเอามันมาแก้ไข ซ่อมแซมนิดหน่อย
 “ของหรูๆดูแล้วเหมือนกันไปหมด
เขาสวมมงกุฎที่ประดับประดาด้วยอัญมณี ขนาดของอัญมณีใหญ่เท่ากับไข่เป็ดถูกฝังในมงกุฏที่เปล่งประกายเจิดจรัส มีหัวกะโหลกของนกอินทรีย์ติดอยู่ตรงไม้เท้าที่ตอนนี้เขากำลังถือมันอยู่ การผสมผสานกันระหว่างมงกุฏและหัวกะโหลกช่างดูเหมาะสมกับบัลข่านมาก
แม้จะมองเพียงแค่แวบเดียว เขาก็สามารถบอกได้ว่าพวกนั้นคือไอเทมเฉพาะ ลิชไชร์เองก็มีอุปกรณ์สสมใส่ที่สุดยอดแบบนั้นเหมือน แต่อาจารย์ของเขาดูมีระดับมากกว่า
 “ตระกูลนักเวทย์นี่ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเงินเยอะกันทั้งนั้น แต่…”
มีอาวุธเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่วีดไม่อาจละสายตาไปได้ ดาบที่ปักอยู่บนอกของบัลข่าน! มีเพียงแค่ตรงนั้นที่เดียว ที่ออร่ามีดำไม่สามารถปกคลุมไว้ได้
วีดสันนิษฐานว่าเหมือนจะเป็นดาบที่ถูกเสียบอยู่ในช่วงสงครามทวีปเวอร์เซลล์
ดูจากการออกแบบที่อยู่ตรงด้ามจับของตัวดาบแล้ว เขาเดามันน่าจะเป็นมรดกของวิหารลู
ดูเหมือนว่าจะเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่สกัดกั้นมนต์ดำของบัลข่าน บัลข่านอยู่ในสภาพที่ยังคืนชีพไม่สมบูรณ์!
 “เฮ้ย เราเอาของที่เขาโละทิ้งมาแล้วหรือไงเนี่ย?”
ในขณะที่วีดกำลังกังวลเล็กน้อย ชนเผ่าพันธมิตรสามารถก้าวข้ามผ่านมนต์เสน่ห์ของบัลข่านมาได้ ตอนนี้พวกเขาหันหลังกลับวิ่งหนีหางจุกตูด
เข้าไปหลบซ่อนหลังภูเขาหิน วีดพิจารณาสนามรบอีกครั้ง ตอนนี้ชนเผ่าพันธมิตรได้ถอยทัพหนีออกมาแล้ว
บัลข่านหันไปมองเผ่าคนเถื่อนที่อยู่ใกล้ๆ เจ้าพวกหนอนแมลง การที่พวกเจ้ายังมีเลือดและลมหายใจไหลเวียนอยู่ ข้ารับไม่ได้
บัลข่านไม่ได้ถามว่าพวกนั้นเป็นใคร ด้วยท่าทางหยิ่งยโสโอหัง เขายื่นมือออกไปหนึ่งข้าง ตรงเบื้องหน้าเหล่าคนเถื่อนที่อยู่รอบตัวเขา
 “พายุสายฟ้า!”(Thunder Storm)
เปรี๊ยะ-เปรี๊ยะ-เปรี๊ยะ-เปรี๊ยะ-เปรี้ยง!
เมฆดำทะมึนพุ่งเข้าหากันอย่างรวดเร็ว และสายฟ้าจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่เผ่าคนเถื่อน
ร่างกายของพวกคนเถื่อน ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่ ระเบิดกระจายอย่างง่ายดาย ในเมื่อแทบจะไม่มีความทนทานเวทย์มนต์ เผ่าคนเถื่อนจึงถูกสังหารหมู่
 “จงกลับขึ้นมาอยู่บนผืนดินที่ครั้งหนึ่งพวกเจ้าเคยมีชีวิต สถานที่นี้เต็มไปด้วยความมืด ดินแดนที่เลวร้ายและเน่าเฟะ พลังแห่งความมืดจักไม่สูญสิ้น เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้กลับมาทั้งหมด อันเดดไรส์!( UNDEAD RISE ปลุกชีพ อันเดด)
เวทมนต์เนโครแมนเซอร์อันน่ากลัวของบัลข่านกำลังจะเริ่มขึ้น
ดูมไนท์(Doom Knights)และเดธไนท์ กระทบกันในขณะที่พวกมันค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากกองซากศพของเผ่าคนเถื่อน ลิชบัลข่านเรียกดูมไนท์ออกมามากกว่า 100 ตัว ดูมไนท์มีเลเวลสูงถึง 300!
 “ณ ที่แห่งนี้ ถูกปกคลุมด้วยพลังแห่งความมืดของข้า จงมืดมิดนิจนิรันดร์ ดาร์ครูล!”( Dark Rule)
ไม้เท้าหัวกะโหลกที่บัลข่านกำลังถืออยู่นั้น ปักลงไปในพื้นดิน พื้นบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงดำ จากนั้น ซากศพที่เหลือ ค่อยๆโผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆ
แสงที่เกิดจากฟ้าแลบในแต่ละครั้ง ฉายให้เห็นภาพอันน่าตกใจ
กองทัพซอมบี้และกูลจำนวนมากค่อยโผล่ขึ้นมา อีกทั้ง ยังมี ดูลาฮาน(Dullahans อัศวินลึกลับไร้หัว) และทหารโครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่ออกมา!
 “พวกอันเดธกำลังโผล่ขึ้นมา หนีเร็ว!”
เผ่าคนเถื่อนที่เหลือเพียงน้อยนิด หนีกระจัดกระจายกันอลหม่าน แต่บัลข่านไม่อนุญาตให้พวกเขาหนีรอดไปได้ เขาชี้นิ้วกระดูกไปที่เผ่าคนเถื่อน
กองทัพอันเดดเริ่มทำการกวาดล้างเผ่าคนเถื่อน เผ่าคนเถื่อนที่ตายไป กลายมาเป็นโครงกระดูกหรือดูลาฮานโดยอัตโนมัติ
พลังอำนาจอันน่ากลัวของมหาเวทย์ดาร์ครูล
วีดมีหนังสือเวทย์มนต์ของเนโครแมนเซอร์ที่เขียนขึ้นโดยตัวบัลข่านเอง ทำให้เขาจำเวทย์มนต์เหล่านี้ได้
 “นั่นมัน หนึ่งในสามมหาเวทย์ของบัลข่าน
มันเป็นเวทย์มนต์ที่มีแต่เนโครแมนเซอร์ระดับสูงที่สุดเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ มหาเวทย์รูปแบบพิเศษที่มีพลังอำนาจเหนือขุมนรก ด้วยพลังเวทย์ที่สามารถเรียกพวกอันเดดออกมาได้ไม่จำกัด
เผ่าคนเถื่อนถูกไล่ล่าโดย ดูมไนท์ เดธไนท์และ กูล
เรียกพวกอันเดดออกมา 1 หมื่นตัว ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
มันเป็นการถือกำเนิดของกองทัพอมตะที่แข็งแกร่ง เพียงพอที่จะทำให้วีดถึงกับกังวลดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เสียบอยู่ตรงหน้าอกของบัลข่านนั้นดูด้อยไปเลย
 “ออร่าของบัลข่าน มันต้องเป็นออร่าแห่งความตายแน่นอน
มันเป็นเวทย์มนต์ที่มีแต่เนโครแมนเซอร์ระดับสูงที่สุดเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ มันเป็นเวทย์มนต์เสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพอันเดด เพิ่มพลังความแข็งแกร่ง ความฉลาด พลังป้องกัน การต้านทาน และ พลังเวทย์ พวกอันเดดที่มีออร่าสีดำห่อหุ้มจะแข็งแกร่งมากกว่าอัศวินโครงกระดูกหรือนักธนู ถึงแม้ว่าพวกมันไม่อาจจะเทียบได้กับกองทัพอมตะที่ประกอบไปด้วยมอนสเตอร์ระดับสูง แต่มันก็เป็นขุมกำลังที่น่าเกรงขามอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ออร่าสีดำยังมีความจริงน่ากลัวอีกอย่างอยู่
มันมีเอฟเฟ็คที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอันเดดที่อยู่ภายใต้การควบคุม แต่ยังมีพลังในการช่วยดูดซับพลังชีวิตในขณะที่พวกมันเข้าต่อสู้ให้กับลิชอีกด้วย ยังมีอีกอย่าง มันสามารถทำให้การโจมตีด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นเบาลง และ ยังเป็นแหล่งพลังงานให้แก่ลิชตนนั้นอีกด้วย มานาและพลังชีวิตที่ไม่มีขีดจำกัด
หลังจากที่ทำการฆ่าล้างเผ่าคนเถื่อน สายตาของบัลข่านหันไปมองที่ป้อมปราการของวิหารเอมบินยู
สายตาของลิช นักเวทย์โครงกระดูกที่กำลังสวมใส่ผ้าคลุม เอ่อล้นไปด้วยอำนาจบารมี!
วีดเฝ้าดูด้วยความเป็นกังวลอย่างมาก เขาคงไม่กลัว แล้ววิ่งหนีไปหรอกนะ ใช่มั้ย?’
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำสูงสุดแห่งกองทัพอมตะ วีดยังต้องการที่จะคอนเฟิร์มถึงคุณค่าที่แท้จริงของตัวเขา ถ้าบัลข่านปฏิเสธที่จะต่อสู้เพราะมันไม่มีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องทำอย่างนั้น ทุกอย่างที่เขาทำมาจนถึงตอนนี้ก็จะไม่สำเร็จ
 ‘มันยังได้ชื่อว่าเป็นกองทัพอมตะ ดังนั้นเขาคงไม่จากไปหลังจากที่พูดว่า สวัสดี เขาคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก ช่าย
บัลข่าน เดมอร์ฟเติมเต็มความคาดหวังของวีด ครั้งนี้เขาชี้นิ้วกระดูกของเขาไปที่ป้อมปราการ
 “ครืน
 “ครูลลลลลลลลลลลลล!”
เหล่าอันเดดมุ่งหน้าไปที่ป้อมปราการอย่างรวดเร็ว(Word War Z นะฉากนี้ 555)
การเคลื่อนทัพโดยไร้ซึ่งความกลัวของเหล่าโครงกระดูก ดูลาฮาน เดธไนท์ สเปคเตอร์ และดูมไนท์! (Spectres เงาผี เงาปีศาจ)
ทั้งเหยียบย่ำ พันกันไปมา พวกมันเดินไปท่ามกลางความชุลมุน
สำหรับพวกอันเดดแล้ว บัลข่านเปรียบเสมือนบิดาผู้ให้กำเนิดเหล่าอันเดด ทันทีที่บัลข่านออกคำสั่ง เหล่าอันเดดมุ่งหน้าไปยังป้อมปราการทันที
ดูมไนท์ร้องตะโกนมันคือคำสั่งขององค์กษัตริย์บัลข่านผู้ทรงอำนาจ! อย่าให้ป้อมปราการเหลือแม้แต่เศษซาก!”
กองทัพเนโครแมนเซอร์อันเกรียงไกรของบัลข่าน ประกาศสงครามกับวิหารเอมบินยู
บุกกกกกกกกก!
นักเวทย์โครงกระดูกส่ายแขนไป ลำแสงเวทย์มนต์สีเขียว สีฟ้า และสีขาว พุ่งไปที่กำแพงของป้อมปราการ!
เวทย์มนต์ที่ปล่อยออกมาของนักเวทย์โครงกระดูกนั้น มีพลังไม่ถึงครึ่งของเครื่องยิงปิดล้อมที่วีดสร้างเลยสักนิด อย่างไรก็ตาม เวทย์มนต์นับพันของนักเวทย์โครงกระดูกก็มีพลังมากพอที่จะทำให้กำแพงสั่นสะเทือน เศษหินแตกและร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน
ท้ายที่สุดแล้ว ก็มีการตอบสนองจากป้อมปราการของวิหารเอ็มบินยู วิหารเอมบินยูอหังการสุดๆ พยายามที่จะครอบงำทุกเผ่าพันธุ์และมอนสเตอร์ทุกตัวที่อยู่ในโลก นักบวชและอัศวินแห่งความมืดไม่อาจนิ่งเฉยต่อการกระทำของผู้ที่ท้าทายพลังอำนาจของพวกเขาได้อีกต่อไป
 “เจ้าพวกเศษสวะอันเดด ช่างกล้านักนะ ที่บังอาจมาทำให้ดินแดนอันศักดิ์ของวิหารเอมบินยูต้องแปดเปื้อน ยิง!”
ทันทีที่อัศวินแห่งความมืดสั่งการ เหล่าทหารของวิหารเอมบินยูเตรียมยิงธนู ลูกธนูถูกยิงออกจากกำแพง ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
เข้าปะทะกับกองทัพอมตะที่ปกคลุมไปด้วยออร่าสีดำ!
พวกอันเดดที่เคลื่อนไปข้างหน้าล้มลงไปกองกับพื้นทันทีที่พวกมันถูกลูกธนูเสียบเข้าไป อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่ใช่ทหารที่มีชีวิต พวกมันจึงไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีปกติของลูกธนู
 “ชั้ว!”
ทหารโครงกระดูกดึงลูกธนูที่ฝังอยู่ในตัวของเดธไนท์ออก
มันเป็นภาพที่มองดูแล้วสะเทือนอารมณ์มาก
เหล่าโครงกระดูกกัดตรงหัวธนูที่เหล็กด้วยฟันเหลืองอ๋อยของพวกมัน
กร้วมมม!
พวกโครงกระดูกไม่สนใจว่านั่นจะทำให้ฟันของพวกมันหัก แม้ว่าลูกธนูพวกนั้น จะเคลือบด้วยเงินก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถฆ่าพวกโครงกระดูกได้
 “ยึดป้อมปราการนั่นมาให้ได้
 “ถ้าพวกเรายึดป้อมปราการนั่นได้ จะทำให้จำนวนลูกสมุนของเราเพิ่มมากขึ้น
 “จงทำตามคำสั่งของท่านบัลข่าน!”
ในขณะที่ชุดเกราะและโล่ของพวกมันปะทะกับลูกธนู เดธไนท์ยังคงเดินหน้าต่อไป
ดูมไนท์เหวี่ยงดาบยักษ์และฟันลงไปที่ลูกธนูที่อยู่กลางอากาศ
 “ยิงต่อไป!”
จุดมากมายจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏให้เห็นจากกำแพงป้อมปราการ พาดผ่านไปเหมือนลูกธนู
 “โฮลี่ บัสเตอร์!”(Holy Buster)
 “ดิไวน์ สไตรค์!”(Divine Strike)
เวทย์โจมตีของนักเวทย์และนักบวชผสมเข้าด้วยกัน โจมตีด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
สำหรับพวกอันเดดแล้ว เวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์ถือได้ว่าเป็นศัตรูโดยธรรมชาติอย่างแท้จริง
ทุกๆการโจมตี พวกอันเดดจำนวนมากถูกฆ่าล้างหรือไม่ก็สูญเสียความ แต่ไม่ว่าพวกมันจะได้รับความเสียหายมากแค่ไหน พวกอันเดดก็ยังคงมุ่งไปข้างหน้าต่อไป และ ในที่สุดก็ถึงบริเวณกำแพง
สถานการณ์ของพวกนักบวชเริ่มเข้าตาจน พวกเรามาสวดมนต์กัน พวกเรามาสรรเสริญบทสวดนี้!”
เทพเอมบินยู ผู้ที่ทำให้พวกเราได้สนุกกับอิสรภพาและให้ความแข็งแกร่งแก่พวกเรา
บทสวดที่ร้องโดยพวกนักบวช! มันเป็นบทสวดที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ อัศวินแห่งความมืด ทหาร และนักบวช
ร่างกายของพวกมันเกี่ยวกันไปมา พวกโครงกระดูกกำลังปีนป่ายไปตามกำแพง
 “แค-แคล้-แคล้ก
 “ขึ้นไป ขึ้นไป
พวกกูลกระแทกกำแพงด้วยร่างกายของพวกมัน
หลังจากการฆ่าล้างบางเผ่าคนเถื่อน กองทัพอันเดดมากกว่า 1หมื่นตนถูกเรียกออกมาเพิ่ม
พวกมันจับกลุ่มอยู่ที่ฐานของกำแพงและยึดกรอบล้อมทั้งสนามรบ
ข้างบนกำแพง เหล่านักธนูยังคงยิงลูกธนูลงมาอย่างไม่ขาดสาย และเวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์ระดมยิงลงมา
* * *
วีดหัวเราะอย่างเบิกบานใจ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าบัลข่านอีกแล้ว
แค่เนโครแมนเซอร์เพียงคนเดียวก็สามารถแสดงพลังอันน่ากลัวออกมาได้
 “เขาต้องอยู่ในจุดนี้ถึงจะพูดได้เต็มปากว่า เขามีสิทธิที่จะได้เป็นผู้นำของกองทัพอมตะ
ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจมากไปกว่าการได้นั่งมองดูการต่อสู้เพียงอย่างเดียว ซ่อนอยู่หลังภูเขาหิน
มออออออออ!
เจ้าเหลืองร้องอย่างมีความสุขพร้อมชูหัวขึ้นและแลบลิ้นออกมา วัวเกาหลีแสนเชื่องและบริสุทธิ์ มันเริ่มเรียนรู้กระบวนการความชั่วร้ายมาจากวีด
 “กำแพง ยึดกำแพงมาให้ได้
 “จงลุกขึ้นมาและต่อสู้กับพวกมัน นี่คือคำสั่งของท่านบัลข่าน
โครงกระดูกที่ร่วงตกลงมาในขณะที่กำลังปีนไปตามกำแพง รีบปีนต่อไป แม้ว่ากระดูกของมันจะแตกหรือหักไปแล้วก็ตาม แม้ว่าจะโดนลูกธนูนับร้อยปักเข้าใส่และตกลงมา พวกกูลก็ยังคงลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง
 “ชั้ววววมันดึงลูกธนูที่ฝังอยู่ในตัวออกมา เหยีบหัวของลูกธนู แล้วทุบใส่กำแพง
พวกนักบวชวิหารเอมบินยูขยันใช้พลังศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
โอ เทพเอมบินยู ได้โปรดลงทัณฑ์พวกที่ไม่รู้จักความปรานี
เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ลุกโชติช่วงและแผดเผาใส่ทุกชีวิตที่อยู่ตรงฐานของกำแพง การชำระล้างโดยเปลวเพลิงสีน้ำเงิน! เปลวเพลิงพัดผ่านไปตามร่างของดูลาฮาน โครงกระดูก และกูล หลอมละลายพวกอันเดด พวกมันถูกเผาทำลายอย่างสมบูรณ์ ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
พลังศักดิ์สิทธิ์ของนักบวชแห่งวิหารเฟรย่าห์ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แต่พลังโจมตีของนักบวชวิหารเอมบินยูนั้นเพียงพอที่จะเรียกพวกเขาได้ว่าเป็นนักเวทย์ระดับสูงได้เหมือนกัน
เหล่านักธนูยังคงยิงลูกธนูต่อไป อัศวินแห่งความมืดเหวี่ยงดาบของพวกเขา พวกอันเดดยังคงเกาะแกะแถวกำแพงจนเป็นฝูงขนาดใหญ่ แต่ต้องขอบคุณที่ตำแหน่งที่ดีของพวกเขานั้นอยู่ข้างบนกำแพงและด้วยความช่วยเหลือของเหล่านักบวช วิหารเอมบินยูจึงไม่ถูกกดดันให้ถอยไปง่ายๆ
พวกวิญญาณปีศาจที่อยู่ภายใต้การควบคุมของวิหารเอมบินยู รับคำสั่งและต่อสู้อย่างสุดกำลัง อย่างไรก็ตาม พวกมันทำได้เพียงแค่ลดจำนวนของพวกอันเดดเท่านั้น
แม้กระทั่งพวกอัศวินแห่งความมืดหรือพวกทหารยังทำได้แค่ผลักให้พวกมันตกลงไปที่ก้นของกำแพง แต่พวกอันเดดกลับลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง พวกมันไม่ตายจนกว่าจะถูกฆ่าล้างโดยเวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์
เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกทหารและนักบวชจากวิหารเอมบินยูตายในการต่อสู้แล้วไม่ได้ถูกชำระล้างด้วยเวทย์มนต์ พวกเขาจะกลายเป็นอันเดดในทันทีอันเนื่องมาจากผลของมหาเวทย์ดาร์ครูล เพื่อนพ้องที่ตายไปกลับกลายเป็นอันเดดในขณะที่ต้องต่อสู้กับบาดแผล!
บัลข่านไม่ได้หยุดนิ่งอยู่เฉยๆ ยังคงมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง
 “พ้อยซึ่น คัฟ!”(Poison Cuffs พันธนาการสังหาร ห่วงพิษ)
จิตที่มุ่งร้ายกระจายออกมาจากร่างกายของพวกอันเดดที่กำลังปีนป่ายอยู่บนกำแพง มหาเวทย์อันชั่วร้ายของเนโครแมนเซอร์ปนเปื้อนและย่อยสลายพื้นที่โดยรอบ!
ทหารเอมบินยูที่แปรแถวไปอยู่ตรงกำแพงเพื่อสกัดกั้นพวกอันเดด กลับตกลงบนพื้น
 “แมสเคิร์ส แมสวีคเนส
( Mass Curse. Mass Weakness สาปหมู่/สาปมรณะ ดีบีฟหมู่ เวทย์ที่ทำให้อ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นพลังโจมตีลดลง ป้องกันลดลง เป็นต้น)
คราวนี้เป็นคำสาปหมู่! (AoE curses คำสาปกระจายเป็นวงกว้าง)
คำสาปได้นำพาซึ่งความโชคร้ายมาสู่นักบวชที่กำลังร่ายเวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์และทำให้เหล่าอัศวินแห่งความมืดและนักธนูอ่อนแอลง
บัลข่านคือเนโครแมนเซอร์ที่ก้าวล้ำไปไกลเกินกว่าที่ใครหลายๆคนคิด นอกจากการแสดงให้เห็นถึงเวทย์มนต์โจมตีของตัวเขาเอง เขายังสามารถสั่งการพวกอันเดดและมีอาชีพที่มีความสารถพิเศษเน้นไปทางคำสาปที่สามารถกระจายเป็นวงกว้างได้
มันทำให้วีดรู้สึกตื้นตันใจ นี่สินะ โลกที่ขับเคลื่อนโดยอาชีพที่มีความสามารถพิเศษ
เขามองดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้น มันสนุกมากกว่าเล่นไพ่ Go-Stopซะอีก!
เขาติดตามฉากการต่อสู้ระหว่างบัลข่านลวิหารเอมบินยูด้วยความรู้สึกอันท่วมท้นจากข้างหลังภูเขาหิน
[ไพ่ go stop เป็นไพ่ที่เป็นที่นิยมมากในเกาหลี 
ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่าไพ่ดอกไม้ เพราะรุปในไพ่จะเป็นดอกไม้เป็นส่วนใหญ่
มีทั้งหมด 48 ใบเป็นไพ่หลัก แบ่งกลุ่มเป็น 12 กลุ่ม ตามเดือน, 1เดือนมี 4 ใบ
นอกจากนี้ยังมีไพ่พิเศษ เช่น โจ๊กเกอร์ หรือลงดอกไหนก็ได้ เพื่อเพิ่มความสนุกด้วย

กติกา
ผู้เล่นจะเล่นเป็นวง 2-3 คนขึ้นไป เวลาลงไพ่ต้องจับกลุ่มไพ่ลายเดียวเป็นชุดๆ
แต่ละชุดจะมีแต้ม กำหนดไว้ 1-5 แต้ม ผู้เล่นที่ได้แต้มรวมสูงสุดเป็นผู้ชนะ
ถ้าเล่นไปแล้วพอใจกับแต้มที่มีอยู่ ก็บอกว่า stop แล้วหมอบก็ได้
หรือว่าจะ Go เพื่อหวังจะได้ชุดคะแนนที่สูงกว่าที่มีอยู่ แต่จะมีความเสี่ยงมากขึ้นไปด้วย
]
ภาพของเหล่าอันเดดที่กำลังปีนป่ายอยู่บนกำแพง ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้าน และพลานุภาพของวิหารเอมบินยูก็เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าพวกเขาจะเคยเข้าร่วมกันต่อสู้ปิดล้อมที่ป้อมโอดินมาก่อน แต่นี่เป็นอะไรที่แตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาแสดงให้เหล่าผู้เล่นได้เห็น
มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่านของเหล่าทหารอันเดด
 “ถ้าเรามีกองทัพขนาดใหญ่แบบพวกมัน…” วีดตีปากตัวเองด้วยความเสียดาย
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แผนอะไรอีกในการเข้ายึดป้อมปราการเอมบินยู หลังจากที่มีเลเวลสูงพอ ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเนโครแมนเซอร์ที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำของกองทัพอันเดด กองทัพเพื่อคนเพียงคนเดียว!
ในหมู่ผู้เล่นจำนวนมาก มีนักเวทย์อยู่หลายคนเปลี่ยนอาชีพเป็นเนโครแมนเซอร์ดั่งที่ตัวเองได้ฝันเอาไว้ มันอาจจะใช้ระยะเวลานานกว่าที่เนโครแมนเซอร์จะมีบทบาทสำคัญๆบนทวีปเวอร์เซลล์ แต่มันง่ายมากที่จะหาเนโครแมนเซอร์ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่โดยมีโกเลมติดตามไปด้วยหนึ่งตัวและสั่นสะเทือนพื้นที่ล่า
วีดสังเกตสนามรบด้วยสายตาที่เย็นชา วิหารเอมบินยูไม่ล่มสลายง่ายๆด้วยระดับแค่นี้แน่
เหล่าอันเดดที่ถูกเรียกออกมาโดยบัลข่านนั้นแข็งแกร่งมาก มันเป็นเรื่องจริงที่อันเดด 1 หมื่นตน ถูกเรียกออกมาในทันที ไม่มีอะไรไม่ยุติธรรมในการเรียกบัลข่านว่าเป็นนายใหญ่ของกองทัพอมตะ ความสามารถในการสร้างอันเดดของบัลข่านด้วยพลังเวทย์ระดับสูงนั้นช่างน่าทึ่งสุดๆ
อย่างไรก็ตาม มันยังมีผลกระทบขนานใหญ่เกี่ยวกับเรื่องพลังชีวิตของเหล่าอันเดด มันมีขีดจำกัดอันเนื่องมาจากเหล่าอันเดดที่ถูกเรียกขึ้นมาจากซากศพของเผ่าคนเถื่อนที่มีเลเวลต่ำ การจะสร้างสุดยอดกองทัพอันเดดจากซากศพที่มีคุณภาพต่ำเป็นรากฐานนั้น ช่างน่าตลกสิ้นดี แต่ด้วยตำแหน่งที่พวกมันเสียเปรียบอยู่ในตอนนี้ พวกมันจึงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะยึดป้อมปราการของวิหารเอมบินยูได้เลย
 “แต่ว่าการต่อสู้ที่แท้จริง มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
ท้องของวีดร้องเสียงดังออกมาอีกครั้ง นาฬิกากระเพาของเขาบ่งบอกถึงเวลาที่แน่นอน
ความอิ่มลดลงต่ำกว่า 30%
พละกำลังสูงสุดและเลือดลดลง
คุณจะเหนื่อยง่ายขึ้นและรู้สึกอ่อนแอ
วีดหยิบเนื้อหมูป่าแห้งที่เขาเตรียมไว้ เอาออกมาเคี้ยว ถึงเวลาของหมายเลขสองแล้ว
ในตอนนั้นเอง ประตูมิติที่อยู่ข้างบนป้อมปราการเอมบินยู เกิดรอยแยกบิดเบี้ยว เหมือนกับตอนที่ ลิช บัลข่าน ถูกอัญเชิญ มานาจำนวนมหาศาลไหลออกมา
ฝูงอีกาที่กำลังจับกลุ่มกันเพื่อหาอาหารในขณะที่กำลังมองดูการต่อสู้อยู่ก็บินออกไปสู่ท้องฟ้าพร้อมกันหมด มีบางอย่างเกิดขึ้นที่แม้กระทั่งอีกา ที่บอกว่าเป็นลางร้ายถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นึกถึงสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อพวกมัน
ประตูอัญเชิญที่อยู่บนป้อมปราการ ถูกเปิดออก เผยให้เห็นมอนสเตอร์ขนาดมหึมา
คราวนี้เป็นราชาไฮดร้าเก้าหัว(งูยักษ์เก้าหัว)
* * *
เพลเข้าไปในโรงเตี๊ยมพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมของเขา ผิวสีดำแห่งยุโรกินะ บาร์ที่เปิดกิจการโดยดาร์คเอลฟ์
พวกออร์คที่เข้ามาที่นี่จะถูกชาร์จเพิ่มมากกว่า 100% แต่สำหรับพวกมนุษย์จะถูกชาร์จเพิ่มแค่ 30% เท่านั้น มันเป็นโรงเตี๊ยมที่ได้รับความนิยมในหมู่นักผจญภัย นักรบรับจ้าง และนักสู้ ผู้ที่เดินทางเข้ามาในหุบเขายุโรกินะเพื่อพักผ่อนและหาอะไรกิน
 “ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มไปแล้วนะเซอร์กะพูดอย่างใจจดใจจ่อ
 “ช่าย พวกเราน่าจะมาให้เร็วกว่านี้นะ
โรมุนะหาที่ว่างสำหรับทั้งปาร์ตี้เพื่อนั่งด้วยกัน พวกเขามาที่โรงเตี๊ยมเพื่อกินอาหาร แต่ก็มาดูการออกอากาศด้วย พวกเขาสามารถดูรายการทีวีผ่านทางกระจกเวทย์มนต์ที่ติดตั้งในโรงเตี๊ยม
มันมีที่ว่างไม่ค่อยมากนักในโรงเตี๊ยมผิวสีดำแห่งยุโรกินะ เพราะมีทั้งนักผจญภัย ดาร์คเอลฟ์ และออร์ค ที่พากันมาดูทีวี
เควสต่อเนื่องความยากระดับ S เปิดศึกกับวิหารเอ็มบินยู!
ข่าวแพร่กระจายออกไปในทวีปเวอร์เซลล์ ความจริงแล้ว บาร์ต่างๆที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ เมืองหลวงของอาณาจักร ปราสาท และหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีแถวหยาวเหยียดจากเควสที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ร้านค้าต่างๆคับคั่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งในร้านและยังล้นออกมานอกร้านทำให้ต้องหาโต๊ะมาเสริมเพิ่มเติมชั่วคราว ผู้คนมารวมตัวกัน ห้อมล้อมโรงเตี๊ยมในทวีปเวอร์เซลล์ สนามล่าสำหรับผู้เล่นเริ่มต้นหน้าปราสาทและหมู่บ้านกลายมาเป็นสถานที่ๆเงียบสงบ
 “ฮิฮิฮิฮิ เพลไม่อาจหยุดอมยิ้มและหัวเราะในขณะที่เขากำลังดูการออกอากาศผ่านทางกระจกเวทย์มนต์ เมื่อไหร่ก็ตามที่คนดังอย่างเมลอนทำหน้าที่เป็นผู้บรรยาย สายตาของเขาติดหนึบอยู่กับการออกอากาศ เธอใส่เสื้อสตรี มองดูแล้วเหมือนคนที่มีความรู้การศึกษาในระดับสูง ริมฝีปากของเพลฉีกกว้างจนถึงหู เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเห็นรอยยิ้มของเธอ
ไอรีนถอนหายใจพวกเราต้องสั่งอาหารก่อนนะแต่เราจะสั่งอาหารได้ยังไง ในเมื่อมีคนเยอะขนาดนี้?”
ทันใดนั้นเซเฟอร์ก็ค่อยๆยกแขนขึ้นมาคุณผู้หญิงดาร์คเอลฟ์ที่มีรอยยิ้มอ่อนหวานและแววตาเปล่งประกายยิ่งกว่าไข่มุกสีดำ!”
สาวเสิร์ฟดาร์คเอลฟ์หันมาสนใจโต๊ะของเซเฟอร์ในทันที
พวกเราอยากได้เบียร์สักเหยือกสำหรับทุกคนที่อยู่ตรงนี้และน้ำส้มสำหรับเซอร์กะนะครับ สำหรับของทานเล่น ชุดเคบับพงไพรอันมืดมิด น่าจะดีไม่น้อย แน่นอน คุณจะเอามาเสิร์ฟเร็วๆ ใช่มั้ยครับ?”
*ปิ๊ง ปิ๊ง*
เซเฟอร์ยิ้มออกมาโดยสัญชาตญาณ พร้อมกับส่งสายตาในขณะที่กำลังสั่งเครื่องดื่ม! เขาครอบครองความสามารถในการผูกมิตรกับผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม ด้วยรูปลักษณ์อันหล่อเหลา ท่าทางที่บ่งบอกถึงความมั่นใจ และการใส่ใจในทุกรายละเอียด เขาจึงได้รับการเอาใจใส่ ปรนนิบัติเป็นอย่างดี แน่นอน มันมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงตามมาอีกด้วย
ฮวารยองส่ายหัวพลางยิ้มไปด้วย
 “คุณเซเฟอร์
 “ครับ?”
 “นายยังโดนไม่พอสินะ
 “อั่ก แค้ก แค้ก!”
เซเฟอร์กลายมาเป็นกระสอบทรายให้กับพวกนักดาบ!
ทุกครั้งที่เค้าแสดงให้เห็นว่าเค้ากำลังสนใจผู้หญิง เขาจะรู้สึกสั่นสะท้านทันทีไม่ว่าจะมีพวกนักดาบเฝ้าดูอยู่หรือไม่ก็ตาม
เมื่อพวกเขาสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงจดจ่อกับกระจกเวทย์มนต์
ดาอิน ที่ได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมจากการทำเควส ก็อยู่ด้วยกันกับพวกเขา
* * *
อนาคตของ KMC มีเดีย ขึ้นอยู่การออกอากาศพิเศษในครั้งนี้
รายการออกอากาศตามตารางปกติถูกยกเลิกทั้งหมดและพวกเขากำลังถ่ายถอดสดรายการ วีดถ้าพวกเขาล้มเหลว ภาพลักษณ์ของทางสถานีจะตกลงอย่างแน่นอนและมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถืออย่างใหญ่หลวง ดังนั้น พวกเขาจึงทุ่มเทระดมกำลังคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟค ทีมเสียง ทีมซับไตเติ้ล และผู้กำกับกล้อง ทุกคนล้วนแล้วแต่มีบทบาทในการสนับสนุนการออกอากาศในครั้งนี้ ทีมเขียนบททุ่มเทกำลังอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีใครทำสคริปต์ไว้เลย เพราะพวกเขาถูกเวลากดดัน
ในเมื่อการออกอากาศไม่ได้มีการจัดเตรียมสคริปต์ไว้ พวกเขาจึงแต่งตั้งผู้บรรยายที่ได้รับการรับรองอย่าง ชิน เฮ มิน และ โอ จู วาน และยังได้เชิญ ลี จิน กุน มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในครั้งนี้อีกด้วย
ลี จิน กุน เป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับหนึ่งในสี่ร้อยของรอยัล โร้ด เขาทำเควสสำเร็จไปแล้วมากมายในฐานะที่เป็นนักผจญภัย การออกอากาศดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เขาเป็นแขกรับเชิญให้มาร่วมในการออกอากาศครั้งนี้
การแข่งขันสร้างประมากรรมกับเดธแฮนด์ ประติมากรรมปีกแห่งแสง และ การฟื้นฟูประติมากรรมจากน้ำของเคนเดลฟ์กำลังออกอากาศ
พวกคนดูต่างพากันตอบสนองกับภาพลักษณ์ใหม่ของประติมากรอย่างอบอุ่น
? มันช่างสวยงาม
นี่มันเป็นการค้นพบครั้งใหม่ของประติมากรอย่างนั้นหรือ? ได้โปรดทำรายการแบบนี้ออกมาฉายบ่อยๆนะ
ฉันอยากใช้โอกาสที่น่าสนใจในตอนนี้ยกเลิกอาชีพได้อีกจัง
นอกจากอาชีพหลักที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกไปแล้วนั้น มันยังมีอาชีพอื่นๆอีกมากมายในรอยัล โร้ด อาชีพต่างๆจะถูกแบ่งตามรากฐานของแต่ละเผ่าพันธุ์และยังมีอาชีพลับอีกด้วย! การตอบสนองของคนดูที่เลือกอาชีพแบบนี้ ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี
แล้วเมื่อไหร่เนื้อหาจริงๆจะออกอากาศซะทีละเนี่ย?
วิหารเอมบินยูจะออกมามั้ย? พวกคุณคงไม่คิดที่จะปล่อยมันไว้แบบนี้หรอกนะ แล้วคงไม่ออกอากาศตอนที่เหลือในวันพรุ่งนี้หรอก ใช่มั้ย?
ฉันอยากเห็นเนื้อหาของเควสต่อเนื่องนั่นเร็วๆจัง
ผมเดาได้เลยว่าการแข่งขันสร้างประติมากรรมกับเดธแฮนด์ต้องเป็นส่วนหนึ่งของเควสต่อเนื่องแน่นอน
มันต้องใช่แน่ แต่ประติมากรจะทำเควสอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ? ความสามารถในการต่อสู้ของประติมากรมันแย่มากเลยนะ
รูปปั้นที่เดธแฮนด์เอาออกมา มันเหมือนกับสัญลักษณ์ของวิหารแห่งการคืนชีพเลย มีใครรู้เรื่องนี้บ้าง?
ในบอร์ดสนทนาของผู้ชม มีการคุยกันถึงเรื่องนี้ และยังมีข่าวลืออีกด้วย เพราะมันเป็นเควสที่มีความยากถึงระดับ S ปรากฏออกมาเป็นครั้งแรก แน่นอนล่ะว่ามันย่อมสามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างล้นหลาม
แต่ใครคือประติมากรล่ะ?
เขาคือตัวละครหลักของรายการ วีด ที่ออกอากาศไปเมื่อไม่นานมานี้ เขายังเดินทางไปที่อาณาจักรแวมไพร์อีกด้วย
อ้า รายการที่มียอดเรทติ้งต่ำๆนั่นเหรอแต่ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเจอพวกประติมากรสักเท่าไหร่
เขาคือเจ้าเมืองแห่งโมราต้า
เขาคือสุดยอดประติมากรผู้สร้างมหาพีระมิดและหอคอยแสง
มีคนจำนวนมากที่ถามเกี่ยวกับประติมากรวีด มีหลายคนที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับประติมากรวีด พวกเขารู้จักหอคอยแสงและโมราต้า แต่ความจริงแล้ว พวกเขาเคยได้ยินชื่อของคนที่สร้างประมากรรมพวกนี้ แต่สุดท้าย ไม่นานพวกเขาก็ลืมมันไปในที่สุด โชคชะตาอันน่าเศร้าในฐานะประมากรผู้สร้าง!
ชิน เฮ มิน ยิ้มเล็กน้อย
ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ดูการออกอากาศเกมแม้จะเพียงน้อยนิด แต่ก็รู้จักเทพสงครามวีดบุคคลที่มีพรสวรรค์อันโดดเด่น ผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของคอนติเน้นท์อ๊อฟเมจิค ผู้ที่ได้รับการสรรเสริญ ยกย่องในความแข็งแกร่งในรอยัล โร้ดเช่นเดียวกัน ด้วยชื่อเสียงโด่งดังที่เขาสั่งสมมานาน เขาสามารถเทียบได้กับบาร์ดเรย์ บุคคลที่นำพากิลด์เฮอร์มีสสู่ความยิ่งใหญ่
 ‘พวกเขาจะทำหน้ายังไงน้า เมื่อรู้ว่าเขาคือเทพสงครามวีด?’
เธอไม่กังวลเลยสักนิดเดียว การตอบสนองของผู้ชมต้องดังระเบิดระเบ้อแน่นอน จนถึงกับทำให้หน้าโฮสเพจของสถานีถึงกับโอเวอร์โหลด!
ในฐานะผู้บรรยาย มันเพียงพอที่จะทำให้ชิน เฮ มิน รู้สึกผิดที่ต้องเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว แม้กระทั่งในสถานีก็ตาม มีเพียงผู้อำนวยการ ผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ที่ล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของวีด ผู้บรรยายอีกคน โอ จู วาน และแขกรับเชิญพิเศษ ลี จิน กุน ต่างก็ไม่รู้ถึงเรื่องนี้
หลังจากที่ปล่อยออกอากาศตอนที่อยู่ในคุรุโซไปแล้ว ชิน เฮ มิน พูดดูเหมือนว่าเควสในครั้งนี้ จะแสดงให้พวกเราได้เห็นถึงมุมมองใหม่ๆของประติมากรนะคะ แล้วคุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างคะ คุณโอ จู วาน?”
มันช่างน่าประหลาดใจมากเลยครับ วีดเป็นถึงเจ้าเมืองโมราต้าที่อยู่ทางตอนเหนือ และผู้สร้างสุดยอดประติมากรรมมากมาย อันที่จริง คุณอาจจะบอกได้ว่าเขาเป็นตัวแทนของเหล่าประติมากรก็ว่าได้ การที่คนแบบเค้ากำลังทำเควสสู้รบแบบนี้ มันทำให้ผมใจจดใจจ่ออยากที่จะดูมันมากเลยครับ
คุณผู้ชมเองก็คงมีความคิดแบบเดียวกัน ใช่มั้ยล่ะค่ะ? แต่ประติมากรวีดจะสามารถเอาชนะสงครามกับวิหารเอมบินยูได้หรือไม่? ขุมกำลังที่แปลกประหลาด และน่ากลัว
โอ จู วาน รีบตอบอย่างรวดเร็ว ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ มันยากสำหรับผมที่จะจินตนาการออกมาว่าเค้าจะจัดการกับมันยังไง ก็จริงนะ ที่ว่าตอนนี้มันดูยากมากๆ แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เขาจะใช้วิธีแบบไหน
 “ในช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้ พวกเราไม่ควรละทิ้งซึ่งความหวัง ใช่มั้ยคะ?”
ถ้าเขาตอบรับการทำเควสนี้ไปแล้วล่ะก็ ผมคิดว่าเขาคงทำมันอย่างสุดความสามารถแน่นอน เขาอาจจะได้รับพลังอำนาจหรือสิทธิพิเศษอะไรสักอย่างในช่วงที่กำลังทำเควส และถึงแม้ว่าเขาจะล้มเหลวก็ตาม มันก็มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ลองท้าทาย
คราวนี้ ชิน เฮ มิน หันไปสนใจลี จิน กุน ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ทางซ้ายมือของเธอคุณลี จิน กุนคะ คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเควสนี้บ้างคะ?”
ลี จิน กุน ยิ้มแล้วสรุปออกมาแน่นอน มันต้องล้มเหลวอยู่แล้ว
 “อะไรนะคะ?”
ถ้ามันเป็นวิหารเอมบินยูแบบเดียวกับที่ผมคิดแล้วล่ะก็ มันต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน ไม่มีทางที่เขาจะทำมันสำเร็จได้เลย
“...”
มันจะไปมีความหมายอะไรล่ะที่ได้ท้าทายแบบนั้น แม้กระทั่งเควสที่ยากลำบาก  เขาได้มันมาก็เพราะโชคช่วยแค่นั้นแหละ วิหารเอมบินยูเหรอ? กองกำลังขนาดใหญ่มหึมาที่ไม่รู้ที่มาแน่ชัด
ลี จิน กุน ดูถูกพร้อมกับวิจารณ์วีดเสียๆหายๆฮึ่ม! ยิ่งไปกว่านั้นนะ คนทำเควสเองก็เป็นประติมากรด้วย ทักษะของเขาอาจจะเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการแกะสลัก แต่เขายังขาดประสบการณ์ในการผจญภัยและยังขาดความสามารถอีกด้วย ล้มเหลวแน่นอน 100% ฟันธง!”
พวกมันคือคำพูดที่ออกมาจากปากของชายที่มีความภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นนักผจญภัยและยังเป็นผู้เล่นระดับที่มีชื่อเสียงมากมายในทวีปเวอร์เซลล์ ลี จิน กุน ช่างมีจิตใจคับแคบเสียนี่กระไร เขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีคนอื่นที่เก่งกว่าเค้าและสามารถทำเควสสำเร็จได้ดีไปกว่าเค้าอีกแล้ว
โอ้ คุณคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ?” ชิน เฮ มิน หัวเราะอย่างเบิกบานใจ
ปกติแล้ว เธอจะขอเวลาเบรกแล้วจะด่าเขาให้ยับเลย สำหรับการที่เป็นพวกที่ทำให้บรรยากาศการออกอากาศแย่ลง การพูดหรือวิจารณ์อะไรตั้งแต่เริ่มต้น มันไม่ได้เพียงแต่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกผิดหวังเท่านั้น มันยังนำมาซึ่งเหตุการณ์ดราม่าหากเควสเกิดทำสำเร็จขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ลี จิน กุน ก็ได้ทำให้การออกอากาศถึงกับหมดสนุกไปเลย ถ้าผู้ชมได้ยินคำพูดของเขานะและตัดสินใจว่าเควสนี้ต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน เหตุผลที่จะทำให้พวกเขาดูการออกอากาศก็จะหายไปเลย!
ถึงแม้ว่าลี จิน กุนจะยังไม่รู้ถึงพลังแห่งผู้กอบกู้ที่วีดใช้เนื่องจากไม่มีใครบอกเขาเพราะเขาเป็นแขกรับเชิญ แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่ไม่ดีอยู่ดี สำหรับการแสดงที่ล้มเหลวในการออกอากาศสำคัญๆแบบนี้ มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกเสียจาก หายนะครั้งยิ่งใหญ่
แต่ชิน เฮ มินก็ยังเก็บเสียงหัวเราะของเธอเอาไว้ อีกไม่นานเขาก็จะได้หงายเงิบในทันที!
ชิน เฮ มิน ยังคงไม่ลืมตอนที่เขาพูดจาดูหมิ่นนักธนูและเรนเจอร์ในการออกอากาศครั้งที่แล้ว
นักธนูเหรอ? มันก็เป็นอาชีพที่ดีสำหรับพวกคนขี้ขลาด เพราะพวกเขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้   คนพวกนั้นมีมาตรฐานที่แตกต่างจากนักผจญภัย ที่กระโจนไปตามสถานที่ต่างๆโดยไม่รู้ว่ามีอันตรายอะไรซ่อนอยู่
ชิน เฮ มิน สาบานว่าจะต้องตอบโต้เอาคืนให้ได้ในนามของเหล่านักธนูและเรนเจอร์!
มันเป็นการออกอากาศที่เต็มไปด้วยแรงจูงใจแอบแฝง แต่ถึงจะอย่างนั้น เธอก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเควสสงครามของวีดกำลังดำเนินไปถึงไหน
วีดีโอเรียลไทม์ของวีดกำลังเรียบเรียงและตัดต่ออย่างดีที่สุด ด้วยความสามารถของแผนกผลิตรายการ
เพราะเธอต้องออกอากาศและคอยบรรยายไปด้วย จึงทำให้เธอไม่สามารถดูการถ่ายทอดสดได้ เธอจึงอยากดูมันเร็วๆ
จบตอน
ผู้แปล:แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล
ที่มา: http://japtem.com/lms-volume-16-chapter-5

ไฟล์: https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B7slWHQIQ6wCM1hicDY3dUw2cXM

14 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณ มากมาย ครับ
    ..ตั้งตา รอ ต่ดไป

    ตอบลบ
  2. ขอบคุนจากใจครับ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากครับ แต่มันค้างมากๆๆ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากๆนะครับ แต่ละตอนยาวมาก เข้าใจถึงความยากลำบากเลยจริงๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^

    ตอบลบ
  5. ใจงี้จดจ่อรอตอนต่อไป... ขอให้ออกไวไว
    ทีมแปล สู้ๆ รักษาสุขภาพด้วยครับ

    ตอบลบ
  6. ตั้งตารอตอนต่อไปมากๆ..ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านกันนะคะ

    ตอบลบ
  7. ทีมแปลสู้ๆๆสนุกมากตอนยาวมากอ่านจุใจวางไม่ลงคอยลุ้นดูคนเงิบหน้าแหก555

    ตอบลบ
  8. ซอยูนไม่มีบทเลยพักนี้

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...