วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เล่ม 33 ตอนที่ 8 : เปลวเพลิงหายนะ แปลโดย Acid กรด


เล่ม 33 ตอนที่ 8 : เปลวเพลิงหายนะ แปลโดย Acid กรด


        จากมุมมองของวีด, การแยกกลุ่มพวกอัศวินที่กำลังต่อสู้ออกจากกันเป็นการดีกว่าปล่อยให้ต่างคนต่างอยู่

        เลเวลของพวกอัศวินประมาณ 300 เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งสงครามดังนั้นพวกอัศวินของอาณาจักรเคลตั้น(Keltun) และ มาปอน(Mapon) จึงมีมาตรฐานสูง เหล่าอัศวินหลวงที่แข็งแกร่งกว่าก็มีส่วนร่วมด้วยแต่ไม่ได้อยู่ใกล้กับวีดและซอยูน

        แผนของวีดมีการเปลี่ยนแปลง

        "ถ้าพวกเราพยายามออกจากพื้นที่ของฝ่ายอาณาจักรมาปอนอย่างนั้นเราก็จะถูกไล่ล่าโดยพวก
อัศวินและทหารม้า เราควรสร้างความสำเร็จเพื่อส่วนรวมสักหน่อย"

        วีดขับดันพวกเขามุ่งไปยังพื้นที่ที่พวกศัตรูได้ตั้งแนวป้องกันไว้

        "จัดการมันให้หมดทุกคน เคล็ดมีดสลักแสงจันทร์!"

        "เคล้ง!"

        "เข้มแข็งไว้ ยันไว้ด้วยโล่ของเจ้า"

        "พวกเรามีช่องโหว่!"  ช่องโหว่ตรงไอ้เจ้านั่น!"

        พวกทหารสามัญถูกกวาดล้างออกไป เหล่าทหารล้มลงเมื่อเขาผ่านพวกนั้นและโจมตี พวกทหารเปลี่ยนเป็นแสงสีเทาและวีดได้เก็บรวบรวมเหล่าไอเท็มที่ตก! แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประมาทแม้ชั่วเวลาสั้นๆในสนามรบ เหล่าอัศวินเฮรอส(Helos Knight) จากอาณาจักรเคลตั้น(Keltun Kingdom)เข้าประชิดพวกเขาอย่างรวดเร็วและน่ากลัว

        "ระวังหลังด้วย!"

        วีดหันกลับทันทีที่เขาได้ยินเสียงของซอยูน เหล่าอัศวินเฮรอสกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมายังกองทัพของ
อาณาจักรมาปอนราวกับพายุ

        "นั่นละเยี่ยม พวกเขาสามารถจัดการกับพวกอื่นๆได้"

        วีดรีบเคลื่อนไปด้านข้าง เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่วีดดังนั้นพวกเขาจึงเคลื่อนผ่านวีดไป

        "ให้พวกหลังเขามาปอนรู้จักความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเคลตั้นกันเถอะ"

        "บุก ลุยมันเลย!"

        เหล่าอัศวินเฮรอสผ่านเข้าไปและโจมตีกองทัพของอาณาจักรมาปอน วีดขี่ม้าตามหลังเหล่าอัศวินเฮรอส
เป็นไปไม่ได้ที่จะตามไปด้วยการใช้ทักษะการขี่ม้าเพียงอย่างเดียว แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นเหล่าอัศวินสวมเกราะหนัก

        หลังจากฝ่าเข้าไปในค่าย, ทหารจำนวนมากของอาณาจักรมาปอนก็ลดลงเนื่องจากการจู่โจม พลังของ
กองทัพแห่งอาณาจักรมาปอนลดลงทีละเล็กละน้อยขณะที่เหล่าอัศวินเฮรอสโจมตี นี่เป็นดั่งดอกไม้โปรยปรายให้วีด!

        คว้าง!

        ฝ่ายอาณาจักรมาปอนเล็งเวทย์และลูกศรเข้าหาเหล่าอัศวินเฮรอส

        "แกแพ้แล้ว งั้นฉันก็ขย่ำแกได้เต็มที่!"

        วีดหลบออกไปจากเหล่าอัศวินเฮรอสและเข้าไปยังหน่วยพลธนูของอาณาจักรมาปอน
เวลานี้หน่วยอัศวินกลายเป็นเป้าหมายหลัก, เขาสามารถตัดตรงไปยังพวกพลธนูได้อย่างปลอดภัย

        เหล่าอัศวินอาณาจักรมาปอนทะลวงเข้าหาอัศวินอาณาจักรเคลตั้น ซอยูนไม่ได้แยกจากพวกอัศวินเพียงแค่
ฟาดฟันล้มพวกเขาขณะที่เธอบ่ายหน้าไปหาวีด

        "เร็วเข้า พวกเราต้องไปแล้ว! ถ้าพวกเรายังช้าเกินไป พวกเราจะถูกศัตรูเล็งโจมตีเอาได้"

        "นั่นก็เป็นอย่างที่ผมคิดด้วย!"

        วีดและซอยูนโลดแล่นท่ามกลางสมรภูมิ พวกเขาไม่มีเวลาให้พักผ่อนและต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดขณะที่พวกเขาพยายามหลบหนี

        "สับสนไปหมด!"

        วีดสำรวจฝ่ายอาณาจักรมาปอนเพื่อหาทางหลบหนี ลูกศรเป็นพันๆมาบรรจบกันท่ามกลางท้องฟ้า
และเวทย์มนต์โจมตีพื้นที่ที่เหล่าทหารรวมตัวกันอยู่

        เป็นทัศนียภาพของสมรภูมิที่ดุเดือด เข้มข้นและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ศัตรู 100,00 นายต่างกำลังต่อสู้ต้านทานกันทั้งสองฝ่ายดังนั้นวีดเองไม่สามารถหาที่พื้นที่ว่างได้เลย

        พวกเขาฝ่าออกไปแม้จะมีจำนวนมากกว่า! ใช่แต่เพียงนี้, ถ้าการรบบนภาคพื้นจบลงโดยไวแล้ว
สถานการณ์อาจเลวร้ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าอาณาจักรมาปอนหรืออาณาจักรเคลตั้นชนะ, กองทัพที่ได้ชัยจะมุ่งเป้าไปที่วีดและซอยูน

        "เทพสมุทรพิโรธ!"

        "รวบรวมเครื่องสังเวย"

        บริวารของเทพสมุทรได้ปรากฏขึ้นบนพื้นที่ใกล้วีดและซอยูน พวกเขาเร่งรีบตัดผ่านสนามรบทันที
แม้ว่าสนามรบเต็มไปด้วยทหารม้า, พวกเขาจะถูกจับได้ในไม่ช้า

        "ดูจะเป็นเรื่องดีที่เรามาที่นี่ การรบนี่จะช่วยซื้อเวลาให้พวกเราได้บ้าง พวกเราจะต้องมีชีวิตรอดไปได้"

        ซอยูนเก็บทุกอย่างในขณะที่เธอย่างก้าวและขบคิดว่าจะหนีได้อย่างไร

        "พวกเราต้องไปแล้ว!"

        "ถ้าพวกเรารั้งรอสักครู่แล้วพวกทหารม้าและอัศวินจะขัดขวางการติดตามของพวกมัน"

        วีดหยุดกับที่ เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของอาณาจักรเคลตั้นและมาปอนอย่างใจเย็น เขาให้ความสนใจกับการกระทำ
และคำพูดของพวกทหารและเหล่าอัศวิน เขาจับจ้องทุกรายละเอียดว่าเหล่าทหารราบทำการเคลื่อนพลกันอย่างไร

        "ทหารตั้งมากมายมากระจุกกันในพื้นที่เล็กๆเป็นไปไม่ได้ที่จะมีช่องว่าง อย่างนั้นเราต้องทำให้เกิดช่องว่าง"

        บางครั้งความคิดอันชั่วร้ายของเขาก็เหนือจินตนาการของมนุษย์ วีดเป็นผู้สร้างสรรค์ที่สามารถนำเอาแผนการ
อันชั่วร้ายของเขาเข้าสู่ปฏิบัติการ
       
        พวกผู้เล่นแดนเหนือที่ต่อสู้เพื่ออาณาจักรอาร์เพนในแผนรูปอย(Rupoi)! วีดได้ทำการควบคุมพวกเขา
เพื่อใช้การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ แน่นอน, เขาไม่ได้ใช้มันเพราะว่ามันจะไม่ได้ผลประโยชน์แต่เวลานี้ไม่มีเหตุผล
ให้ลังเลอีกต่อไป

        "เดิมทีผู้คนก็ชอบการเล่นกับไฟ"

        เด็กน้อยฝันที่จะกลายเป็นนักผจญเพลิงจากนั้นเขาก็นำประติมากรรมที่แปลกประหลาดออกมา
มันเป็นประติมากรรมเปลวเพลิงชิ้นเยี่ยมที่เขาได้เก็บเอาไว้!

        "การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ!"

                - ประติมากรรมชั้นเยี่ยม
                        ความหายนะอันน่าหวาดหวั่นจะส่งผลกระทบที่สามารถฆ่าคุณได้ ถึงกระนั้น,
                คุณยังอยากใช้ทักษะนี้หรือไม่?

        ความใกล้ชิดกับธรรมชาติสูงเกินใครเทียบดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพลังอันน่าเกรงขามที่จะอุบัติ
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏบนใบหน้าของวีด

        "ใช้มัน"

                - คุณได้ใช้การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ
                        ค่าสถานะทางศิลป์ 200 แต้มหายไปอย่างถาวร
                        มานาถูกใช้ไป 20,000
                        ทุกค่าสถานะถูกลดลงชั่วคราว 15%
                        ความใกล้ชิดธรรมชาติลดต่ำ
                        การแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติสามารถใช้ได้เพียงวันละหนึ่งครั้ง
                        เมื่อมหาภัยพิบัติถูกเรียกขึ้นมา, ชื่อเสียงหรือความฉาวโฉ่สามารถเพิ่มขึ้นได้ขึ้นอยู่กับความเสียหาย
                        เป็นไปได้ที่จะเสียชีวิตในระหว่างที่เกิดหายนะดังนั้นต้องระมัดระวัง
                - คุณได้คุ้นเคยกับทักษะการแกะสลักมหาภัยพิบัติธรรมชาติ
                        เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดภัยพิบัติสองอย่างในเวลาเดียวกัน
                        ปฏิสัมพันธ์ของมหันตภัยสามารถทำให้เกิดผลกระทบที่แตกต่างจากธรรมชาติ
                - ได้รับสมญานาม, บุรุษผู้ควบคุมภัยพิบัติ
                        ความศรัทธาลดลง 60
                        ความใกล้ชิดกับธรรมชาติลดต่ำ

        "ฉันต้องใช้เจ้าสิ่งเลวร้ายให้เร็วที่สุด!"

        ไม่นานนักที่ทักษะจะสำแดงฤทธิ์, อย่างไรก็ตาม, ถ้าเขาหลบภัยพิบัติไม่พ้นแล้วเขาอาจต้องเสียชีวิต

        "ไปกันเลย เราจะทะลวงผ่านไปด้านหน้า"

        "รับทราบ!"

        วีดและซอยูนควบม้าอย่างบ้าคลั่งตัดผ่านสนามรบ

        "เจ้าที่อยู่ตรงนั้น ข้าคืออัศวินแลนเทอร์จากอาณาจักรมาปอน ข้าขอท้าเจ้า"

        "ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งอยู่ไปหาคนอื่นเถอะ"

        "คนที่หนีการประดาบในการต่อสู้ช่างไร้เกียรติ!"

        "เกียรติไม่ได้ทำให้ข้าอิ่ม!"

        "อัศวินเคลตั้น, ตามล่าพวกมัน"

        "ไอ้พวกน่าเบื่อตามมาอีกล่ะ"

        มีพวกอัศวินเพียงเล็กน้อยและการโจมตีจากพวกทหารอย่างเบาบางดังนั้นเขาจึงแค่ผ่านพวกนั้นไป
เวทมนต์และลูกศรเล็งไปที่พวกเขา วีดและซอยูนเพียงแค่ทำการวิ่งต่อไปข้างหน้า

        ฮี้.ๆ.ๆ.ๆ!

        ม้าของซอยูนถูกโจมตีด้วยเวทย์และล้มลง

        "ขึ้นม้าผม!"

        "แต่...ฉันจะทำให้คุณช้าลงนะ"

        "ผมไม่สน"

        "พวกเราจะโดนพวกที่ตามล่าจับได้นะ"

        "ถ้าคุณตายไป ชีวิตผมก็ไร้ความหมาย พวกเราทั้งสองคนต้องตายพร้อมกันหรือมีชีวิตไปด้วยกัน"

        หัวใจของซอยูนเต้นโครมครามในอก แม้ว่าวีดจะเป็นคนขี้ตืดวุ่นวายอยู่กับกำไรหรือขาดทุน,
แต่คำพูดของเขาทำให้หัวใจของเธออบอุ่นจริงๆ

        'ฉันอยากอยู่กับเขาทุกที่ทุกเวลา ฉันมีความสุขจริงๆ'

        วีดควบม้าฝ่าสนามรบร่วมกับซอยูนที่ด้านหลังของเขา

        'แม้ว่าถ้าฉันยังมีชีวิต, แต่ภารกิจจะล้มเหลวถ้าซอยูนตาย'

        จนถึงตอนนี้วีดยังไม่เคยประสบกับภัยพิบัติเพราะว่าเขาตระเตรียมการล่วงหน้าอย่างถี่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม, เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการสู้รบระหว่างอาณาจักรมาปอนและเคลตั้นอย่างรวดเร็ว
โดยที่เขาไม่ได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่

        ต้นอ้อเจริญเติบโตอย่ารวดเร็วในสนามรบ เจ้าต้นอ้อทำให้พวกม้ารู้สึกอึดอัดและทำให้พวกมันช้าลง
และพวกมันก็แห้ง

        "พวกเรายังออกไปไม่ได้เลยแต่มันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว"

        วีดและซอยูนบุกฝ่าไปท่ามกลางทุ่งอ้อ เขาเป็นคนแกะสลักประติมากรรมด้วยตัวเอง
ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามันทำงานอย่างไร

        สายลมรุนแรงพัดผ่านทุ่งอ้อและก่อให้เกิดเปลวไฟ ต้นอ้อปลิวขึ้นในอากาศและเกิดเปลวเพลิงขนาดมหึมา!
ในที่สุดภัยพิบัติก็เริ่มขึ้นแล้ว

        "อ๊าก.ก.ก.ก!"

        "ไฟไหม้ใหญ่แล้ว!"

        พวกทหารที่กำลังต่อสู้กันตะโกนขึ้นทันใด วีดไม่หันกลับไปและตั้งหน้าตั้งตาควบม้ามุ่งไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

        อย่างไรก็ตาม, ด้านหลังของเขาคือเปลวเพลิงราวพระอาทิตย์ที่กำลังเผาไหม้เขาและมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทันทีพวกทหารและอัศวินหนีแทนที่จะต่อสู้ก็เพราะความกลัวและสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

        "ตรงนั้น"

        "ใช่"

        "เวลานี้ มันเกิดอะไรขึ้น?"

        เขาไม่ต้องการตรวจสอบด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงถามซอยูน

        "มันดูเยี่ยมไปเลย"

        "เป็นอย่างไรบ้าง?"

        "ก็, ลมกำลังพัดมาจากทุกๆด้าน แล้วเปลวไฟจากทุ่งอ้อก็กำลังพวยพุ่งขึ้นมา พายุหมุนเปลวเป็นเกลียวเพลิง...พวกมันกำลังลุกไหม้อย่างสวยงาม ตอนนี้มันกำลังแผ่ขยายออกไปและใหญ่ขึ้นกว่าเดิม"

        "เสียงกรีดร้องของพวกทหารดังก้องไปทั่ว"

        "พวกอัศวินและทหารถูกไฟคลุมไปแล้ว ฉันคิดว่ามันคงจะเงียบลงในไม่ช้า"

        "....."

        การฟังคำอธิบายของซอยูนที่เรียบเฉยและแม่นยำของซอยูนนั้นน่าขนลุกมาก

        "ยี้..ฮ่า ไปกันเถอะ!"

        วีดพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มกำลัง ม้ายังคงวิ่งต่อไปเพราะชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง
แต่ละลอกของเปลวไฟที่ด้านหลังของเขาเริ่มน่ากลัวเพิ่มขึ้น ความร้อนแรงก็สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

        ฟู่..ฟู่..ฟู่..พรึบ!

        เป็นเสียงของลมที่กระจายเปลวไฟ! พวกต้นอ้อปลิวขึ้นไปในอากาศและที่บนพื้นก็ติดไฟ
เปลวเพลิงกำลังกลืนกินทุกๆสิ่งในท้องทุ่ง มันเป็นฉากที่น่าทึ่งและสวยงาม แต่ไม่มีใครชื่นชมมัน

        'อย่างที่คิด, เราไม่ควรเล่นกับไฟ'

        การแสดงออกที่สิ้นหวังของวีดเหมือนกับเวลาที่เขาเปิดฝาราเม็งที่เหลืออันสุดท้ายในตอนกลางคืนแล้วพบว่าไม่มีซุป

        "นี่มันเลี่ยงไม่ได้"

        "ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน"

        "ตอนนี้, พวกเราควรพยายามให้ดีที่สุด..."

        "ฉันคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว"

        เปลวเพลิงห้อมล้อมพวกเขาด้วยอัตราความเร็วที่น่ากลัว

                                ************************8

        กิลด์ค้อนศิลา(Stone Hammer Guild)

        เป็นกิลด์ขนาดใหญ่ที่ก่อตั้งโดยเหล่าสถาปนิกของอาณาจักรอาร์เพน

        "คุณเพดโซ่กำลังทำอะไรอยู่ครับวันนี้?"

        "ฉันกำลังทำงานบำรุงรักษาท่อระบายน้ำข้างใต้โมราต้าน่ะ"

        "นี่มันเยี่ยมไปเลย"

        "มีจระเข้ในท่อระบายน้ำแน่ๆ"

        เหล่าสถาปนิกเป็นรากฐานการขยับขยายสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งมวลในเมืองต่างๆของอาณาจักรอาร์เพน
สถาปนิกดูแลทุกๆสิ่งตั้งแต่ สะพาน, ถนน, วิถีทางน้ำ, บ้านอยู่อาศัยและอื่นๆ

        ห้วงเวลานี้มีความสำคัญในการก่อสร้างพระราชวังแต่อาคารสำคัญทั้งหลายคืบประมาณ 78 %
พวกนักตกแต่งภายใน, ภายนอก, ปรับภูมิทัศน์, จิตรกรรมฝาผนัง  และเพดาน กำลังลงสี ใช้เวลาพอสมควรในการทำงาน
ซึ่งดำเนินการในลักษณะทีละเล็กละน้อย

        "มันแย่มากที่ฉันไม่สามารถดูแลมันจนเสร็จได้"

        "ไม่มีเวลามาทำเล่นๆจากนี้พวกเรายังมีงานมากมายให้ทำ"

        "การก่อสร้างพระราชวังไม่ใช่งานเล็กน้อยไม่ใช่หรือ? มันน่าเบื่อนะที่จะสร้างพวกกระท่อม"

        "แค่โอนมันให้พวกที่เพิ่งเริ่มสร้างกระท่อม มีอาคารขนาดใหญ่ 3 หลังกำลังสร้างขึ้นที่ท่าเรือเวอร์น่า(Varna Harbour) ดังนั้นสถาปนิกจำเป็นต้องมีความชำนาญ"

        "ฉันจำเป็นต้องไปที่นั่น"

        สถาปนิกแยกย้ายกันไปทั่วอาณาจักรอาร์เพนอีกครั้ง

        'แม้ว่าฉันจะได้ค่านายหน้าสำหรับอาคารขนาดใหญ่, มันก็ไม่ใช่ของฉัน'

        'ฉันต้องใช้ชีวิตในการสร้างอาคารให้คนอื่นอีกนานแค่ไหนกัน?'

        มันก็เหมือนพวกจิตรกรและประติมากรที่มีชีวิตโดยการอาศัยค่านายหน้า แทนที่จะได้รับค่าตอบแทน,
พวกเขาเพิ่งได้รับคำขออื่นอีก

        วีดรวบรวมวัตถุดิบที่เขาต้องการด้วยตนเองแต่อาชีพสายการผลิตส่วนใหญ่พึ่งพาค่าตอบแทนที่จ่ายให้กับวัตถุดิบของพวกเขา ถ้าพวกเขาโลภมากหรือมองหางานที่ไม่สมเหตุสมผลแล้วความล้มเหลวจะนำไปสู่ วงจรอุบาตแห่งความยากจน

        เมื่อภารกิจที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะล้มเหลว 3 ครั้ง, ชื่อเสียงจะลดลงอย่างรวดเร็ว
มันยากที่จะประสบความสำเร็จและสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง

        - ไม่มีคำตอบอื่นนอกจากการทำงานหนักในช่วงแรกของอาชีพ

        - เป็นศิลปินเท่านั้นถ้าคุณตั้งใจจะตาย อย่างไรก็ดี, คุณจะได้ทำงานหนักจนกว่าจะตาย

        สถาปนิกของโมราต้าถือว่าตนเองเป็นผู้โชคดี

        "มันเยี่ยมมากที่พวกเรามาที่แดนเหนือ"

        "นี่คือสวรรค์"

        ไม่ว่าอะไรที่พวกเขาสร้างขึ้นถูกก่อสร้างโดยตรงจากมือของพวกเขา ความต้องการเหล่าสถาปนิกเพิ่มขึ้นขณะที่เมืองได้ขยายออกไปและจำนวนผู้เล่นก็เติบโตจนรั้งไม่อยู่ เหล่าสถาปนิกยังมีคุณค่าในสิ่งต่างๆอย่าง สะพาน, วิถีทางน้ำ และอาคารขนาดใหญ่
ชื่อเสียงของพวกเขาหลายคนรู้จักผ่านอาคารแต่พวกเขาไร้ทรัพย์สมบัติ
       
        สถาปนิกที่มีความทะเยอทะยานหลายคนเริ่มการขุดท่ามกลางสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก

        "มีทางให้เดินมากมายในพื้นที่, ต้นน้ำที่ไหลผ่านและพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ดังนั้นสามารถสร้างเมืองได้ที่นี่"

        พวกเขาสร้างกำแพง, ยุ้งฉาง, โรงแรม, และอื่นๆ ครั้นเมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานถูกสร้างขึ้น,
พวกชาวบ้านก็มาอาศัยอยู่ที่นี่

        ตริ๊ง.ง.ง!

               
- หมู่บ้านเล็กๆได้ก่อตั้งขึ้น
                        หมู่บ้านอยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของพวกมนุษย์กิ้งก่าดังนั้นอาจมีการบุกรุกได้ตลอดเวลา
                        ความกังวลใจเรื่องสันติภาพยังคงอยู่ขึ้นอยู่กับกำแพงศิลา
                        อำนาจทางทหาร: 2 อำนาจทางเศรษฐกิจ: 3
                        วัฒนธรรม : 369 เทคโนโลยี: 1
                        การพัฒนาเมือง: 19 ความปลอดภัย: 64%
                        ไม่มีผู้คุ้มครองความปลอดภัย แต่จะมีการต่อต้านถ้ามีการบุกรุกเกิดขึ้น
                        พวกเขาจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอด ถ้าพวกเขาไม่สามารถหาทางได้....

        ชาวบ้านของอาณาจักรอาร์เพนเพิ่มขึ้นเนื่องจากการพัฒนาทางการเกษตร ชาวบ้านส่วนมากไม่ได้
มีทักษะพิเศษเฉพาะทางและสามารถผลิตข้าวได้เท่านั้น

        สถาปนิกต้องทนกับสิ่งที่ยากลำบากทุกประเภทเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ทหารรับจ้างถูกว่าจ้างเพื่อป้องกันการโจมตีของมอนสเตอร์ขณะที่ชาวบ้านออกไปถากถางที่ดินใกล้เคียง

        เมื่อที่อยู่อาศัยและประชากรถึง 100, ถึงได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นหมู่บ้าน
ในอาณาจักรอาร์เพน

        ตริ๊ง.ง.ง.ง!

       
- หมู่บ้านขนาดเล็กได้ถูกก่อตั้งขึ้น
                ถิ่นที่อยู่ของพวกมนุษย์กิ้งก่าบริเวณใกล้ๆ ถูกกวาดล้างโดยพวกอัศวิน
                กำแพงที่แข็งแรงได้ขัดขวางพวกมอนสเตอร์หลายต่อหลายครั้งดังนั้น
        ชาวบ้านสามารถรู้สึกสบายใจ
                อำนาจทางทหาร : 9 อำนาจทางเศรษฐกิจ : 13
                วัฒนธรรม : 398  เทคโนโลยี : 7
                การพัฒนาเมือง : 21  ความปลอดภัย : 72%
                มีการเสียสละครั้งใหญ่แต่ชาวบ้านก็ได้เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์
        คนที่มีความสามารถสามารถเติมเต็มความฝันของพวกเขาด้วยการเป็นทหาร
                มีความสนใจในการเพาะปลูกและล่าสัตว์ การกำจัดพวกมอนสเตอร์โดยรอบ
        ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ทำการเกษตร
                โรงแรมแห่งเดียวในหมู่บ้านไม่มีห้องว่าง
                พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมอันยอดเยี่ยมของอาณาจักรอาร์เพนอย่างต่อเนื่อง
                ชาวบ้านมีความกระตือรือร้นที่จะฝึกฝนทุกๆสิ่ง
        - คุณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง
                เมื่อได้รับตำแหน่งในอาณาจักรอาร์เพนคุณสามารถรับศักดินาบารอน(barony)ได้
        สถานะของคุณในฐานะขุนนางจะสูงขึ้นเมื่อหมู่บ้านเติบโตขึ้น
                ภาษีรายได้ 40% จะส่งมอบให้อาณาจักรและสิ่งที่มอบสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ,
        กองทัพ และเทคโนโลยีที่ต้องการ

        สถาปนิกลำบากลำบนทั่วถึงกันขณะที่พวกเขาทำให้เมืองเติบโต       
- ความก้าวหน้าลำดับที่สองนั้นเป็นไปได้
                เป็นไปได้ที่จะกลายเป็นสถาปนิกประจำเมือง(นักวางผังเมือง)เนื่องจากมีประสบการณ์มากมาย

        นักวางผังเมือง! เหล่าสถาปนิกประสบความสำเร็จอย่างมากในดินแดนที่ว่างเปล่า, เมือง และหมู่บ้านทั้งหลาย

        แน่นอน, นี่ยังเพิ่มการทำงานของพวกพ่อค้า, ชาวนา และคนงานเหมือง

                        **************************

        กองกำลังของอาณาจักรมาปอน, เคลตั้น และบริวารของเทพสมุทรถูกโอบล้อมด้วยเปลวเพลิงแห่งภัยพิบัติ

        "ช.ช่วยข้าด้วย!"

        "ข้าเป็นอัศวินแห่งอาณาจักรเคลตั้น จะมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้หากถูกสังหารโดยศัตรู"

        "นักรบผู้กล้าหาญ, แสดงให้พวกมันเห็นว่าเราไม่เกรงกลัวความตายจนกว่าชีวิตจะจบสิ้น!"

        มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กองทัพของทั้งสองอาณาจักรจะโดนเปลวเพลิงห่อหุ้มไว้
สถานที่ที่วีดกำลังควบม้าผ่านก็ปกคลุมด้วยเปลวเพลิง

        "ประติมากรรมวินาศ! ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มความว่องไว"

        วีดแบกซอยูนและใช้ทักษะวิ่งสี่ขาหลังจากการทำลายประติมากรรม

        "หลับตาอดทน, กายาศิลา!"

        วีดผสานทักษะทั้งหมดที่เขาสามารถใช้ได้!

        ทุกที่ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงดังนั้นจึงไร้ความหมายในการที่เขาลืมตา ไม่มีอันตราย
กับนัยน์ตาของเขาและทักษะศิลาก็ช่วยให้การป้องกันร่างกายของเขาดีขึ้น

        และเขาวิ่งไปในทิศทางเดียวได้โดยปราศจากเงื่อนไข

        'ฉันต้องจับซอยูนไว้ให้ดีๆ....'

        พลังชีวิตของวีดลดลงอย่างรวดเร็ว

               
- ทั้งร่างของคุณได้ตกอยู่ในเปลวเพลิง
                        ความร้อนของไฟลดพลังชีวิต 3,850 แต้มทุกๆวินาที
                       
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีดังนั้นพลังชีวิตของเขาจึงลดลงอย่างรวดเร็ว         
- ความทนทานของอาวุธและเกราะลดลง
                        ถ้ามันช้าไปกว่านี้แล้วเป็นไปได้ว่าไฟสามารถทำให้เกิดความเสียหายถาวร

        หน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาขณะที่วีดวิ่งไปข้างหน้า แล้วหน้าต่างข้อความใหม่ก็ปรากฏ

                - การอำนวยพรประทานให้โดยเฮสเทียผู้ที่ดูแลไฟและเตาหลอม
                        เทวีเฮสเทียได้อำนวยพรแก่มนุษย์ผู้กำลังปฏิบัติตามพันธกรณีในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้
                        การต่อต้านความอยุติธรรมเพิ่มขึ้นชั่วคราว
                        ไฟถูกดูดกลืนและทุกสถานะเพิ่มขึ้น 39
                        ผลของทักษะการโจมตีทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 เลเวลและระยะเวลาการใช้งานลดลง
                        ค่าอุทิศวิหารเฮสเทียลดลง 2,300

        การอำนวยพรของเฮสเทียได้มอบเกราะอัศวินแห่งเทวีด้วย การอำนวยพรลดความหนักหน่วงและเพิ่มการป้องกัน
เวลานี้เทวีเฮสเทียได้อำนวยพรให้วีดโดยตรง

        และหลังจากนั้นไม่นาน, ในที่สุดพวกเขาก็โผล่พ้นจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ

        "ค๊อก.ๆ.ๆ! ฉันรอดมาฉิวเฉียด"

        วีดและซอยูนดำเป็นถ่าน             
 พลังชีวิตที่เหลืออยู่ 3,891

        "ผมเกือบตาย แต่ก็ยังรอดมาได้"

        วีดสัมผัสหัวใจที่เต้นตูมตามของเขา ไม่สามารถมองเห็นสนามรบได้ด้วยเหตุที่เปลวไฟกำลังลุกโชติช่วง
เขาเกือบจะถูกกลืนกินด้วยภัยพิบัติ แต่พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงผู้ติดตามมาระยะหนึ่ง

        "เมื่อสวรรค์ทรงโปรด, ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด"

        วีดพันผ้าพันแผลทั่วร่างของเขาแล้วถามซอยูน

        "คุณยังโอเคอยู่ไหม?"

        "ค่ะ เป็นอันตรายแค่เล็กน้อย"

        "ยังเหลือพลังชีวิตอยู่เท่าไรครับ?"

        "ประมาณ 110,000"

        "......"

        "ฉันมีไอเท็มป้องกันไฟหลายชิ้น"

        ซอยูนสวมชุดเซ็ท แหวน ต่างหู และสร้อยคอ ป้องกันไฟ พวกมันเป็นไอเท็มของเบอร์เซิร์กเกอร์
ที่เธอเก็บไว้ในกรณีฉุกเฉิน

        วีดอารมณ์บ่จอย

        "ผมวิ่งเร็วมากจริงๆนะเพราะคิดว่าคุณจะตาย"

        เป็นช่วงเวลาแห่งวิกฤติแต่แหวนแต่งงานของซึลระโยได้เพิ่มเติมบางสิ่งให้เขา
แต่เขาเพิ่งพบว่าที่เขาเจ็บตัวนี่เป็นเรื่องสูญเปล่า!

        วีดพึมพำในขณะที่เขานึกถึงเรื่องในอดีต

        "ฉันนี่ไม่มีโชคจริงๆ เมื่อตอนเด็กๆ, ฉันอยากดื่มนมสตรอเบอรี่ ฉันรอตั้งเดือนนึงจนมันลดลงเหลือ 500 วอนที่ซุปเปอร์มาเก็ต"

        "แต่ว่า?"

        "ราคาขึ้นเป็น 600 วอนจากวันนั้นเป็นต้นมา  ราคาในครั้งนี้เป็นความสำเร็จของฉันกับวิหารเฮสเทีย

        ซอยูนเอาเจ้าก้อนดำๆออกมา

        "เอ้านี่, มีมันหวานอบอยู่หน่อยนึง เรามากินด้วยกันเถอะ"

        เธอได้เรียนอบมันหวานด้วยการใช้ไฟจากวีด

        "แล้วเกลือกับกิมจิละ?"
       
        "ฉันซื้อมานิดหน่อยจากโมราต้า"

        วีดอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยหลังการกินมันหวาน

        "พวกเราน่าจะลองอบหมึกดูบ้าง..."

        อ่า, มันค่อนข้างยุ่งยาก...
จบตอน
ผู้แปล : Acid กรด
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

4 ความคิดเห็น:

  1. จะปักธงอย่างงี้ไม่ได้นะ.....
    ที่พูดไป ภารกิจตัวเองล้วนๆ!?

    ตอบลบ
  2. "ถ้าคุณตายไป ชีวิตผมก็ไร้ความหมาย พวกเราทั้งสองคนต้องตายพร้อมกันหรือมีชีวิตไปด้วยกัน"

    5555

    ตอบลบ
  3. ตอนนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  4. นึกสภาพออกมาจากดงไฟ ร่างกายต้ร่างกายต้านทานได้ 555
    วิ่งออกมา หัวโล้นทั้งคู่ กุขรรมแปป 55555

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...