วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เล่ม 32 ตอนที่ 9 : ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แปลโดย Spicygorhot


เล่ม 32 ตอนที่ 9 : ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แปลโดย Spicygorhot

 “นี่มันแย่มาก”

วีดช่วยพันแผลให้ร็อดเดอลิก      

 “ไม่มีประโยชน์หรอก เดี๋ยวร่างของข้าจะหายไปในไม่ช้า...”
 “ไม่!! พวกเราจะจะสู้ไปด้วยกัน
 สหายข้า .. ข้าคือนักเวทย์ผู้โดดเดี่ยว ดั่งที่ข้าได้สูญสิ้นในคราก่อน

ร็อดเดอลิกผู้เย่อหยิ่งไม่สามารถเก็บซ่อนความโศกเศร้าเอาไว้ได้

 “มันยังไม่สายเกินไป นี่คือโอกาสที่จะได้แก้ไขความผิดพลาดของท่าน
 มอนทัสแข็งแกร่งกว่าข้า
 ถ้าเราร่วมมือกัน ยังพอมีโอกาสอยู่
 ฮึ เจ้าช่วยอะไรไม่ได้มากนักหรอก

นักเวทย์นั้นมีบุคลิกที่แตกต่างออกไป มากกว่ามิตรภาพความภักดีหรือการอุทิศตน พวกเขาตัดสินสถานการณ์ต่างๆด้วยความใจเย็น มันเป็นผลดีอย่างมากในศึกที่มีโอกาสชนะแต่ช่างไร้ค่าในศึกที่เป็นรอง

 ท่านสามารถคงอยู่ในโลกนี้ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ถ้าอย่างนั้น ทำไมท่านถึงไม่ตั้งหน้าตั้งตาสู้อย่างสุดความสามารถแล้วตายไปกับมันล่ะ
 ตายไปกับมันงั้นรึ.... ข้าน่ะตายไปแล้วต่างหาก
 ท่านจะเสียใจที่ไม่ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์สุขของโลกใบนี้
 ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้ากำลังเอ่ยถึง

ร็อดเดอลิกเริ่มนั่งสมาธิเพื่อรวบรวมมานา เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวชกำลังสวดอ้อนวอนอย่างงมงายเพื่อหลุดพ้นจากคำสาป

วีดนั่งพักในขณะที่ดูมอนทัสที่กำลังบ้าคลั่ง ในขณะที่ดาบดาวสีชาดก็เริ่มฟื้นฟูเลือดและมานาของเขาจนเกือบเต็ม

ติ๊ง!

-ร่างกายของคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์

ทหารปีศาจและพวกทัลลอสถูกทุบตีโดยมอนทัส ทันทีที่พวกทัลลอสฟักออกมาจากไข่ พวกมันก็ถูกความโกรธเกรี้ยวของมอลทัสที่มีต่อวีดและร็อดเดอลิกพุ่งเข้าใส่

ร่างกายของบาฮามอคกลับมาเป็นปกติหลังจากที่เขาได้พันแผลและกินมันต้ม เขามีค่าความอดทนที่เหมาะสมต่อการเป็นวีรบุรุษแห่งอาณาจักรอาเพ่นอย่างแท้จริง

วีดคุยกับร็อดเดอลิก

 ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้อง
 เจ้าต้องการอะไร?”
 เราต้องรวมพลังกันแล้วตอนนี้
 ข้าจะสู้ด้วยวิธีของข้า ข้าจะไม่สู้เยี่ยงนักรบ.”

ร็อดเดอลิกมีทิฐิที่ยากในการจัดการ เขาเคยเป็นถึงนักเวทย์ในตำนานเลยเป็นเรื่องยากที่จะขอความร่วมมือ

 ข้าทราบ แต่สิ่งที่ข้าต้องการให้ท่านทำคือใช้แต่เวทย์ไฟในขณะที่ข้าก่อกวนมอนทัส
 ข้ามีความเชี่ยวชาญในเวทย์ไฟมากสุด งั้นข้าจะตอบรับข้อเสนอของเจ้า ถ้าเจ้าซื้อเวลาให้ข้าสักนิด ข้าก็สามารถใช้เวทย์ระดับสูงได้
 ขอบคุณท่านมาก ถ้าเราสามารถกำจัดมอนทัสได้ การกระทำทั้งหมดทั้งมวลนี้ อันมาจากท่านร็อดเดอลิกผู้ยิ่งใหญ่

มันไม่ได้เป็นคำขอที่มากมายอะไร ร็อดเดอลิกจึงตอบตกลง และวีดก็ได้พูดกับเหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์.

 เราไม่สามารถให้พวกปีศาจที่ขัดต่อเจตจำนงแห่งเหล่าทวยเทพสร้างความวุ่นว่ายบนผืนแผ่นดินแห่งเวอร์เซลล์
 พวกเราพร้อมสู้ทุกเมื่อ

เดเรี่ยนผู้มีบทบาทเป็นตัวแทนของเหล่าอัศวินตอบกลับ แต่อย่างไรก็ตามยังมีอัศวินอีกครึ่งหนึ่งที่กำลังขวัญผวากับคำสาปของมอนทัส พวกเขายังไม่พร้อมที่จะต่อสู้และจำเป็นต้องพักผ่อน ถ้าพวกเขาไปสู้กับมอนทัสในสภาพนี้ พวกเขาจะได้ไปอยู่กับเทพของพวกเขาแน่นอน

 พวกเจ้าจะถูกกวาดล้างถ้าจับกลุ่มกัน เว้นระยะห่างไว้และคอยสนับสนุนด้วยหน้าไม้และมนต์ศักดิ์สิทธิ์
 แค่นั้นเองเหรอครับ?”
 ทำตามที่ข้าบอกก่อน

วีดต้องการช่วยอัศวินศักดิ์สิทธิ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่สามารถกู้คืนค่าอุทิศตนถ้าพวกเขาไม่สามารถกลับคืนสู่ศาสนาจักรได้ นอกจากนั้นในมุมมองของเขา การต่อสู้ครั้งนี้จะถือเป็นจุดสิ้นสุด

 เร็วเข้า

มอนทัสเหลือปีกเพียงแค่ 2 ข้างเท่านั้น ตัวมันนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและพร้อมที่จะทำลายทุกๆอย่าง,รวมทั้งวีดและร็อดเดอลิก แน่นอนว่าในตอนแรกมันก็มีความรู้สึกอย่างนั้นอยู่แล้วแต่ในตอนนี้มันยิ่งบ้าคลั่งขึ้นไปอีก
วีดไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องรอด และเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นก็ชูแขนสองข้างขึ้นท้องฟ้าในขณะที่บ่นพึมพำบางอย่าง.

 บลิ้งค์!”

ณ ตอนนั้นเอง วีดเริ่มเคลื่อนไหว

 เปลวเพลิงปะทุจากพื้นพิภพ, มวลอัคคีล่วงหล่นจากท้องนภา

ร็อดเดอลิกร่ายเวททันที

-ออร่าแห่งไฟได้ซึมซับเข้าตัวท่าน
พลังชีวิต,มานาและค่าความอึดจะเพิ่มขึ้น

ค่าความแข็งแกร่งของท่านจะค่อยๆเพิ่มพูน

วีดเป็นอัศวินแห่งความโกลาหลเพราะฉะนั้นเวทย์นี้จึงมีค่ามากกว่าการอวยพรใดๆ เปลวเพลิงเริ่มโหมเข้าใส่พวกปีศาจ วีดกระโจนเข้าสู่การต่อสู้ที่ยากที่สุดในชีวิตของเขา

 ตราประทับแห่งการกดขี่!”

ตามที่คาดไว้,มอนทัสไม่ได้สนใจที่จะป้องกัน เขาพึ่งได้รับการโจมตีจากวีดและร็อดเดอลิกในขณะที่กำลังร่ายเวทย์และการระเบิดลูกโซ่ก็เกิดขึ้น

ในตอนที่เวทมนตร์ถูกยิงออกไป,วีดรีบหลบอย่างรวดเร็วขณะที่ร็อดเดอลิกใช้เวทย์ป้องกันตนเอง เหล่านักบวชและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้ยืนกระจายออกห่างกัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเบาลงแต่พวกคนที่โดนก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

 อ๊ากกกกกกกกก
 เทพีเฟรย่าห์ผู้ปราณี, ได้โปรด ช่วยข้าด้วย

นักบวชถูกฆ่า!

 มารแห่งความเยือกแข็ง

มอนทัสโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยเวทของตน แต่เขาอยู่ท่ามกลางความบ้าคลั่งทำให้เขาไม่สามารถหลบการโจมตีได้เลยสักนิด ไฟที่กำลังแผดเผาตัวมันยังไม่หายไปด้วยซ้ำ

 โจมตีต่อไป! อัศวินศักดิ์สิทธิ์ยิงหน้าไม้ของพวกเจ้าต่อไป แม้ผิวเผินแล้วมันดูไม่เป็นไรแต่มันก็ยังได้รับความเสียหายอยู่ดี นักบวชเล็งไปที่การโจมตีมากกว่าการรักษาด้วยมนต์ศักดิ์สิทธิ์วิธีเดียวที่จะลดการสูญเสียคือการกำจัดมันให้เร็วที่สุด

วีดประกาศโจมตีเต็มกำลัง แม้ว่าเหล่านักบวชและอัศวินศักดิ์สิทธิ์จะมีเลเวลน้อย,มนต์ศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถสร้างความเสียหายให้ปีศาจและอันเดดได้
มอนทัสสลับไปมาระหว่างการโจมตีวีดและร็อดเดอลิกแต่ก็ไม่เป็นผล ร็อดเดอลิกสามารถฟื้นฟูได้ผ่านการทำสมาธิในขณะที่วีดสามารถหลบได้ด้วยความคล่องตัวของตน

วีดดึงความสนใจจากมอนทัสและเปิดโอกาสให้คนอื่นได้โจมตี มันไม่ใช่การต่อสู้อย่างเป็นทางการทำให้เขาสามารถที่จะใช้งานผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างอิสระ

ค้อนแห่งบอนเกอร์!”

ในตอนนี้มอนทัสเล็งไปที่พวกนักบวช ค้อนที่เต็มไปด้วยสายฟ้าตกลงใกล้กับที่ที่เหล่านักบวชหญิงรวมตัวกัน ค้อนนั่นยิงสายฟ้าไปทั่วทั้งพื้นที่เมื่อมันสัมผัสพื้น

 อ๊าาาาาาาาาา!”

พวกนักบวชไม่สามารถทนต่อการโจมตีและตายลง วีดเห็นการโจมตีทั้งหมดแต่ไม่สามารถขัดขวางการโจมตีนั้นได้

 บาฮามอค, เจ้าต้องคอยขัดขวางการโจมตีครั้งต่อไปที่เล็งมายังนักบวช!”
 รับทราบ

บาฮามอคเป็นผู้ที่สามารถป้องกันการโจมตีได้ดีที่สุด แม้ว่ามันจะน่ากังขาว่าเขาสามารถป้องกันการโจมตีของมอนทัสได้รึเปล่าแต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่ง

 ถ้าเวลาผ่านไป ,โอกาสชนะจะมากขึ้น มอนทัสสามารถอยู่ในสถานะบ้าคลั่งได้ไม่นาน

วีดเห็นความหวังอันริบหรี่ อัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวชใช้พลังแห่งความศรัทธาของพวกเขาในการต่อสู้ ช่างโชคดีที่วีดพาพวกเขามาด้วย และทักษะของพวกเขาก็เติบโตขึ้น

 เจ้าทำร้ายผู้ที่ไม่ได้ทำสิ่งใดผิด.... เจ้าจะต้องชดใช้ต่อสิ่งนี้

ร็อดเดอลิกตระโกนออกมาอย่างโกรธแค้นหลังเห็นฉากการสังหาร เขาเป็นถึงนักเวทย์ในตำนานผู้เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิในตนเอง แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่โหดร้าย เขาไม่สามารถทนต่อสิ่งที่มอนทัสทำลงไปได้

 มอนทัสข้าจะทำลายเจ้า !!   มานาทั้งหมดในกายข้า จงเผาผลาญอย่างไร้สิ้นสุด มานาเบิร์น!”

มันคือเทคนิคที่จะใช้พลังมานาในร่างกายทั้งหมดในร่างของผู้ใช้เวทย์ในการโจมตี ร็อดเดอลิกไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมของมอนทัสได้และใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเอง เมื่อมานาเบิร์นถูกใช้ไปแล้ว จะเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นผ่านร่างของคู่ต่อสู้

มานาของร็อดเดอลิกจำนวนมหาศาลเจิดจ้าดั่งแสงอาทิตย์ มันถูกเล็งไปที่มอนทัส และการระเบิดที่ยิ่งใหญ่ก็อุบัติขึ้น

 เคี๊ยกกกกก!”

หลังจากที่มานาเบิร์นหายไปแล้ว,มอนทัสก็ได้รับบาดแผลสาหัส ไหล่ซ้ายของมันหายไป

 ค๊ากกกกกกก!”

ร็อดเดอลิกไอเป็นเลือดออกมาและทรุดลงเนื่องจากการที่เขาใช้มานาเบิร์น ตัวนักเวทย์จะไม่เหลือพลังมานาในร่างกายและจะตกอยู่ในสถานะเซื่องซึม แม้แต่ร็อดเดอลิกก็ประสบกับอาการมานาไหลย้อน ตอนนี้มานาทั้งหมดในร่างกายของเขาได้แห้งเหือดไปหมดแล้ว และกำลังไหลย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง ทำให้เขาไม่สามารถกลับมาต่อสู้ได้อีก

 บลิ้งค์!”

วีดเคลื่อนที่ไปใกล้มอนทัส เขาจะต้องโจมตีหลังจากการโจมตีของร็อดเดอลิกครั้งนี้เท่านั้น!

 นี่คือครั้งสุดท้ายของการโจมตีแล้ว! อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดแบ่งเป็นสามกองและโจมตี! บาฮามอคเจ้าก็มาด้วย!"

เขาตะโกนออกไปในขณะที่เริ่มเหวี่ยงดาบดาวสีชาดเข้าใส่มอนทัส มันไม่สามารถป้องกันตนเองได้จากผลพวงของมานาเบิร์น

 วิชาดาบเฮอเรม!”

วีดผสมผสานระหว่างการโจมตีจุดเดียวด้วยวิชาดาบเฮอเรม

-หน้าอกของลอร์ดปีศาจชั้นต่ำถูกโจมตี
การป้องกันอ่อนลงและสร้างความเสียหาย 296

ดาบดาวสีชาดสร้างความเสียหายไฟ 489

-หน้าอกของลอร์ดปีศาจชั้นต่ำถูกโจมตีด้วยความพยายามทั้งหมดของท่าน
ความเสียหาย 457 ถูกสร้างขึ้นในการตีจุดเดิม

ดาบดาวสีชาดสร้างความเสียหายไฟ 869 ในร่างกาย

-หน้าอกของลอร์ดปีศาจชั้นต่ำถูกโจมตีและเริ่มแตกสลาย
การป้องกันถูกพังทลายเลย สร้างความเสีย 799

ดาบดาวสีชาดสร้างความเสียหายไฟ 1129 ในร่างกาย

-ท่านโจมตีติดคริติคอล!
ความเสียหายเพิ่มขึ้น 12%

ดาบดาวสีชาดสร้างความเสียหายไฟ 1643

-ท่านโจมตีติดคริติคอล!
ความเสียหายเพิ่มขึ้น 19%

ดาบดาวสีชาดสร้างความเสียหายไฟ 1939

-ท่านโจมตีติดคริติคอล!
ความเสียหายเพิ่มขึ้น 24%

ดาบดาวสีชาดสร้างความเสียหายไฟ 2402

การป้องกันของมอนทัสพังทลายลง ทำให้ร่างกายของมันเริ่มได้รับการบาดเจ็บมากขึ้น ดาบดาวสีชาดทำให้มอนทัสติดไฟตลอดเวลาที่วีดโจมตี อัศวินศักดิ์สิทธิ์โจมตีด้วยการทิ่มแทงในขณะที่บาฮามอคก็กวัดแกว่งอาวุธของเขาในระยะประชิด

 เรียกขานเหล่าวิญญาณ

มนต์ศักดิ์สิทธิ์ชำระล้างไปทั่วร่างของมอนทัส ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปมอนทัสจะตกเป็นปีศาจตนแรกที่ถูกโค่นในทวีปนี้ วีดไม่มีความสนใจในเรื่องความรุ่งโรจน์ที่จะเกิดขึ้นพวกนั้น  เขาต้องการแค่ได้อยู่อย่างสบายและกินอิ่ม

 ระเบิดเปลวเพลิง!

ตู้มมมม!

มอนทัสใช้เวทย์ของตนเอง บาฮามอคและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ต่างล้มลงจากแรงระเบิด บาฮามอคไม่เป็นอะไรมากแต่อัศวินศักดิ์สิทธิ์มากมายได้ตกตายลง
ร็อดเดอลิกไม่มีมานาเหลือที่จะป้องกันตัวเองและตายลง เขาเป็นถึงนักเวทย์ในตำนานแต่ก็ไม่อาจกำจัดมอนทัสลงได้และจางหายไป

และวีดก็ถูกทิ้งไว้

-ออร่าแห่งไฟถูกดูดซึม
ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 14%

เวทย์ไฟก็เป็นเหมือนคำอวยพรสำหรับวีด

 เพลงดาบประกายแสง! ตอนนี้จะไม่มีที่ให้แกไปไหนได้อีกแล้ว!”
 เคี๊ยกกก!”

มอนทัสตัวโชกเลือดจากเลือดที่มาจากตัวมันเอง มันถูกโจมตีโดยพวกทัลลอสในขณะที่มันกำลังบ้าคลั่ง การโจมตีจากเวทย์มนต์ของร็อดเดอลิก การโจมตีของมนต์ศักดิ์สิทธิ์และการโจมตีของวีด อย่างไรก็ตามมันก็ยังยืนหยัดต่อสู้

 อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ยิงหน้าไม้ของตนไปตรงส่วนที่มันบาดเจ็บ! นักบวชใช้มนต์ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป ทำลายมันซะ! บาฮามอคเจ้าจงพักก่อน!”

มอนทัสไม่สามารใช้เวทย์มนต์อย่างต่อเนื่องได้เหมือนก่อนหน้านี้ บาดแผลของมันทำให้พลังเวทของมันต่ำลง อัลเวรอนและเดเรี่ยนใช้พลังทั้งหมดที่พวกเขามีโจมตีเข้าใส่มอนทัส

 พวกเจ้าทั้งหมดต้องตายไปกับข้า พลีกาย..สลายสิ้น!”

ติ๊ง!

-ลอร์ดปีศาจชั้นต่ำมอนทัสใช้ทักษะ พลีกาย สลายสิ้น
ทักษะนี้จะทำให้เขาแลกเปลี่ยนจิตวิญญาณของตนในการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตในพื้นที่

มีเวลา 6 นาทีจนกว่าการร่ายเวทย์จะสมบูรณ์

ร็อดเดอลิกไม่ได้ใช้ทักษะนี้ในเขาวงกตเพราะมันจำเป็นในการรวบรวมมานาและใช้เวลาร่ายนาน พลีกาย สลายสิ้น เป็นทักษะที่สามารถระเบิดได้ทั้งปราสาทเลยก็ว่าได้ (น่าจะหมายถึงตอนก่อนตายครั้งแรก)

มอนทัสใช้มานาทั้งหมดในร่างกายและแลกวิญญาณของตนเพียงเพื่อที่จะทำลายวีด

วีดรู้สึกเหมือนโดนล้มบอล

 การโจมตีวงกว้าง!”

ถ้าเขาไม่สามารถฆ่ามอนทัสใน 6 นาทีได้ งั้นทั้งวงกตนี่จะพังพินาศ และจะเป็นจุดจบบันทึกการค้นคว้าของประติมากร เทคนิคลแกะสลักลับจะหายไปตลอดกาล

 เพลงดาบประกายแสง!”

แสงสว่างส่องประกายและเปลวเพลิงปะทุขึ้นบนดาบดาวสีชาดในเวลาเดียวกัน

 ไอ้บ้าเอ๊ย! ตายๆไปซะ จะได้จบเรื่อง!”

ทุกการโจมตีของวีดเล็งไปที่หัวใจ ปีศาจจะไม่ตายแม้ว่าแขนขาจะขาดไปแล้วก็ตาม วีดต้องเล็งไปที่หัวหรือไม่ก็หัวใจ ในขณะที่เวทย์ของมอนทัสกำลังทำงานอยู่ วงกตก็เริ่มสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว เสาเอียงและยุบขณะที่รูปปั้นหินตกลงมาจากเพดาน

เหล่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์วิ่งไปทั่วในขณะที่ร่างกายยังติดคำสาปและยังได้รับบาดเจ็บ พวกทัลลอสที่พึ่งตื่นกำลังออกล่าหาอาหารพวกนักบวชและอัศวินศักดิ์สิทธิ์สูญเสียชีวิตยามที่พวกเขาถูกกิน

วีดไม่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ มอนทัสได้กลายเป็นมวลแห่งไฟไปแล้ว 
ต้องขอบคุณวีดที่คอยโจมตีอย่างต่อเนื่อง พลังชีวิตของมันลดอย่างรวดเร็ว

 แบบนี้ฆ่ามันไม่ได้แน่

พลังชีวิตของมอนทัสลดลงอย่างรวดเร็วแต่ค่าความต้านทานไฟของมันสูงมาก แม้ว่าวีดจะสามารถสร้างความเสียหายได้ดีที่สุดในฐานะนักรบแห่งความโกลาหลโดยใช้ดาบดาวสีชาด แต่มันก็ยังไม่พอ

 ฉันต้องสร้างความเสียหายมากกว่านี้ .. ฉันไม่ค่อยมีค่าพลังโจมตีในฐานะประติมากร นั่นเป็นเหตุผลที่บาร์ดเรชนะ

แม้ว่าเขาจะผสมผสานระหว่างการโจมตีจุดเดียวกับวิชาดาบเฮอเรม มันก็ยังไม่เร็วพอที่จะฆ่ามอนทัสในเวลาที่กำหนด แต่แล้วก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเขา

 เดเรี่ยน ส่งดาบแห่งลูห์มาให้ข้า!”

เดเรี่ยนกำลังคุ้มกันนักบวชจากทัลลอส แต่ก็ยังหันมาส่งดาบในมือให้เขาโดยไม่มีความแคลงใจในตัววีดเลย

 พวกเราจะกำจัดเจ้าปีศาจนี่ได้แน่

มันเป็นดาบของเทพลูห์!

 ยกเลิกประติมากรรมจำแลง

วีดเก็บดาบดาวสีชาดและกลับร่างเดิม และรับดาบแห่งลูห์ไว้ มันเป็นดาบที่ครั้งนึงเขานำมันไปคืนให้กับวิหารลูห์หลังชนะบัลข่าน มันเป็นดาบที่มีพลังแห่งเทพเต็มเปี่ยม

เมื่อเขายกเลิกประติมากรรมจำแลงเลือดของเขาก็ต่ำจนการโจมตีครั้งเดียวสามารถฆ่าเขาได้แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียว

-ท่านได้สัมผัสดาบแห่งลูห์ที่ตกมาจากแดนเทพ
ท่านมีค่าอุทิศต่อวิหารลูห์สูงมากและคู่ควรแก่การใช้มัน

ค่าความศรัทธาเพิ่มขึ้น 3 เท่า
สามารถหยิบยืมพลังแห่งแสงอาทิตย์มาใช้ในการโจมตี
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปาฏิหาริย์
พลังความมืดจะถูกยับยั้ง
มอนสเตอร์ระดับต่ำกว่าขั้นกลางจะหนีท่าน
ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายเพิ่มขึ้นสองเท่า

 ประติมากรรมวินาศ! ลงทุกสิ่งที่ค่าความแข็งแกร่ง!”

วีดทำลายประติมากรรมชั้นดี สิงโตที่กำลังหมอบคลาน(Lion Lying Down)

ท่านได้ใช้ทักษะประติมากรรมวินาศ
ความเจ็บปวดในการทำลายผลงานชั้นดี!ความเศร้าโศก!
ค่าสถานะทางศิลป์ 5 หายไปตลอดกาล ชื่อเสียงลดลง 100
ค่าสถานะทางศิลป์ถูกเปลี่ยนเป็นความแข็งแกร่ง ระยะเวลา 1 วัน
ค่าสถานะทางศิลป์สูงกว่าค่าความแข็งแกร่งมากทำให้การเปลี่ยนแปลงอาจไม่เท่าเทียม
ค่าความแข็งแกร่ง 890 เปลี่ยนเป็น ทักษะโจมตีรุนแรงขั้นสูงระดับ 8 ‘Severe Blow.’
ถ้าโจมตีศัตรูด้วยพลังนี้ศัตรูจะกระเด็นออกไป
ค่าความแข็งแกร่ง 980 เปลี่ยนเป็น ทักษะหอกทะลุทะลวงขั้นสูงระดับ 7 ‘Piercing Spear.’
โล่และเกราะของศัตรูจะถูกทะลุด้วยการโจมตีที่รุนแรง
ค่าความแข็งแกร่ง 1430 เปลี่ยนเป็น ทักษะพลังช้างสารขั้นสูงระดับ 9 ‘Momentary Herculean Strength.’
พลังจะมากขึ้น 3 เท่า ช่วงเวลาหนึ่ง จำเป็นต้องมีค่าความอดทนมหาศาล
ค่าความแข็งแกร่ง 850 ถูกเปลี่ยนเป็นเพิ่มค่าพลังโจมตีพื้นฐาน
ค่าความอดทนจะลดลงอย่างรวดเร็วแต่จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 3 เท่า


วีดฟันมอนทัสด้วยดาบแห่งลูห์ การโจมตีของดาบดาวสีชาดก่อนหน้านี้สร้างความเสียหายได้เพียงบาดแผลให้แก่มอนทัส แต่ดาบแห่งลูห์สามารถฟันทะลุร่างกายของมันได้

ลอร์ดปีศาจชั้นต่ำมอนทัสถูกฟัน
-ความเสียหาย 1460 ถูกสร้างขึ้นจากโจมตีรุนแรง

พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ยับยั้งพลังความมืด
พลังศักดิ์สิทธิ์สร้างความเสียหาย 3291 ในการโจมตีปีศาจมอนทัส

ดาบแห่งลูห์ฟันออกไปหลายครั้งและทำให้มอนทัสอ่อนแอลง เดเรี่ยนไม่สามารถหลบการโจมตีของมอนทัสได้ทำให้ไม่สามารถใช้พลังของดาบได้อย่างเต็มที่ และยิ่งตอนนี้วีดใช้ประติมากรรมวินาศด้วยแล้ว,พลังโจมตีของเขาก็มากพอที่จะทำให้มอนทัสร่อแร่

 ปาฏิหาริย์แห่งลูห์!”

พลังงานหมุนวนรอบตัววีด

ปาฏิหาริย์แห่งลูห์ได้ประจักษ์ตรงเบื้องหน้า
ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเนื่องมาจากค่าความศรัทธาของท่าน
ท่านจะได้รับการปกป้องจากพลังศักดิ์สิทธิ์เมื่อเผชิญหน้ากับพลังปีศาจ
ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น
พลังทำลายเพิ่มขึ้น

มอนทัสยังคงถูกเผาจากเปลวไฟของดาบดาวสีชาด วีดรีบบุกเข้าไปอย่างดุดันเพื่อผลักให้มันถอยกลับไป ปีกของมันได้หลอมละลายไปแล้ว ร่างกายก็ค่อยๆสลายไปตามพลังชีวิตที่เหือดหาย

เหลือเวลาอีกเพียง 1 นาทีก่อนที่ทักษะของมันจะร่ายเสร็จ!

 ถึงเวลาจบเรื่องแล้ว!”

วีดแทงดาบทะลุหน้าอกของมอนทัสและเล็งไปที่หัวใจของมัน!

 ย๊ากกกกกก!”

มอนทัสสลายไปพร้อมกับแสงอันเจิดจ้าจนทำให้ดวงตาของวีดมืดบอดไปช่วยขณะ มันเป็นการโจมตีที่ทำให้พลังชีวิตของเจ้าปีศาจหมดสิ้น

-ระดับของท่านเพิ่มขึ้น
-ระดับของท่านเพิ่มขึ้น
-ระดับของท่านเพิ่มขึ้น
-ระดับของท่านเพิ่มขึ้น
-ปีศาจชั้นต่ำมอนทัส ผู้ถูกจองจำอยู่ในวงกตร็อดเดอลิก ถูกกำจัดสิ้นแล้ว
-ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 4190 จากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
-บารมีเพิ่มขึ้น 8
-ค่าจิตวิญญาณนักสู้เพิ่มขึ้น 9
-ค่าความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 4
-ทักษะโจมตีรุนแรงได้เรียนรู้ผ่านการต่อสู้นี้
-ค่าความคล่องตัวเพิ่มขึ้น 7 เรียนรู้ทักษะ โจมตีแม่นยำ
-ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่มขึ้น 3 สำหรับผู้เข้าร่วมการต่อสู้
-ท่านได้ต่อสู้กับปีศาจมอนทัสและชนะกลับมา
การต่อสู้ที่สำคัญเกือบที่สุดบนผืนทวีปได้เกิดขึ้น แม้แต่อัศวิน รอน ไดกุ (Ron Daiku) ก็ไม่สามารถที่จะมีการต่อสู้ที่ทรงเกียรติเช่นนี้
ในฐานะผู้บัญชาการทัพ ค่าความเป็นผู้นำของท่านต่อเหล่าทหารเพิ่มขึ้น
อัศวินจะรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ท่าน
ท่านจะได้รับการยกย่องจากผู้คนในทวีป
กวีทุกคนจะแต่งเพลงเกี่ยวกับท่าน ทุกครั้งที่เพลงของท่านได้เผยแพร่ ชื่อเสียงของท่านจะเพิ่มขึ้น
ค่าเกียรติยศเพิ่มขึ้น 51
การผจญภัยของท่านในวงกตร็อดเดอลิกประสบผลสำเร็จ ท่านเป็นบุคคลเยี่ยงอย่างของเหล่านักผจญภัย
อัศวินที่เชื่อในพระเจ้าจะเชื่อในตัวท่าน

เลเวลของเขาพุ่งขึ้นและยังได้รับทักษะการต่อสู้ด้วย!

การสั่นสะเทือนก็หายไปตามเจ้ามอนทัส หลังจากเจ้าบัลข่านแล้วดาบแห่งลูหังย์ยังได้สังหารปีศาจมอนทัสอีกด้วย

วีดขยับมือไปข้างหน้า

-ได้รับหมวกเกราะปีศาจ
-ได้รับแส้อาบโลหิต
-ได้รับเพชรจำนวนมหาศาล
-ได้รับศิลาจากนรก

ไอเทมพวกนี้ดรอปมาจากปีศาจมอนทัส วีดจึงคาดหวังไว้อย่างมากว่ามันจะเป็นของดี

 ตรวจสอบ!”

หมวกเกราะปีศาจ  ค่าความทนทาน 290/290 พลังป้องกัน 161
หมวกที่หลงเหลือจากลอร์ดปีศาจชั้นต่ำมอนทัส
มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงถึงจะสวมใส่ได้
มันชุ่มไปด้วยพลังปีศาจที่ชั่วร้ายเพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่มีศรัทธาอันแรงกล้าจะถูกสาป คำสาปจะลดค่าความอึดและค่าสถานะ
ข้อจำกัด
ระดับ 640
ความแข็งแกร่ง 1700
ความศรัทธา 800

ทักษะพิเศษ:การป้องกันอันไร้สิ้นสุด
ศัตรูจะถูกกลืนกินด้วยความหวาดกลัว
ทักษะการต่อสู้จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นถ้าได้รับบาดเจ็บมากขึ้น
ค่าความฉลาดเพิ่มขึ้น 98
ค่าภูมิปัญญาเพิ่มขึ้น 115
ทักษะระดับกลางใช้มานาน้อยลง
เวลาร่ายเวทย์น้อยลง
พลังในการต่อสู้ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 12%
ไม่สามารถสูญหาย
ชื่อเสียงในการต่อสู้เพิ่มขึ้น 8000

วีดค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่ได้

หมวกเกราะปีศาจมีทักษะพิเศษที่ดีมาก

-แส้อาบโลหิตได้ปฏิเสธท่าน
ท่านถูกผลักด้วยพลังปีศาจเสียพลังชีวิตไป 3696

แม้ว่าทักษะช่างตีเหล็กของเขาจะลดข้อจำกัดในการใช้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถจับต้องมันได้ วีดจึงเก็บมันไว้ในกระเป๋าเดินทางเพื่อความปลอดภัย
อัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวชยังคงอยู่ในการต่อสู้

 นี่มันน่ารำคาญชะมัด รีบไปที่ห้องของร็อดเดอลิกดีกว่า

เขาเข้าไปช่วยในการต่อสู้ของพวกอัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวช พวกเขากำลังต่อสู้กับพวกทัลลอสที่ฟักออกมา แม้ว่ามอนทัสจะตายไปแล้ว แต่พวกทัลลอสก็ไม่ใช่พวกที่รับมือได้ง่ายๆ พวกเขาได้กวาดล้างพวกทัลลอสและไข่ของพวกมัน

วีดมองไปอีกฟากของวงกต เขากำลังนั่งกินขนมปังบาร์เล่ย์ วีด,อัศวินศักดิ์สิทธิ์,นักบวชและบาฮามอคได้พักในที่สุด เขาได้เตรียมอาหารที่ดีที่สุดก่อนเข้าสู่การต่อสู้ แต่ตอนนี้เขากลับต้องมานั่งกินขนมปังแข็งๆ

 พวกเจ้าทุกคนทำได้ดีมาก มีอัศวินศักดิ์สิทธิ์มากมายได้สูญเสียลงที่นี่ แต่ว่ามอนทัส ผู้เป็นภัยอันตรายต่อทวีปนี้ ได้หายไปอย่างตลอดกาล!”

แน่นอน,วีดต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการสูญเสีย แต่มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสนใจเรื่องนั้นแล้ว

 โอ้ เทพีเฟร์ยาห์ทรงโปรด....
 เราสามารถรักษาเจตจำนงของท่านลูห์ไว้ได้!!”
 ความเสียสละของพวกเขาจะไม่สูญเปล่า

วีดได้พักและฟื้นฟูมาบางส่วนแล้ว ตอนนี้ได้เวลาไปหาบันทึกของร็อดเดอลิก ตอนนี้มอนทัสตายไปแล้ว ทหารปีศาจต่างก็ไม่ได้เป็นภัยเท่าไรนัก เขาได้ผ่านภูเขาลูกใหญ่ที่สุดมาจนจวบจะถึงจุดหมายแล้ว

 ข้าได้รู้แล้วถึงความเจ็บปวดที่แท้จริง ข้าจะเผยแพร่เจตจำนงแห่งท่านลูห์ต่อไป
 เทพีเฟร์ยาห์ได้โปรดนำทางพวกเรา

ปิ๊งงงง!

แสงแห่งความศรัทธาจากพวกนักบวชและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ พวกเขากำลังได้รับการเลื่อนขั้นของพวกตนแล้ว

เป็นสิ่งที่เรียกว่าการก้าวหน้าระดับสอง!( second advancement = ประมาณเลื่อนขั้นอาชีพ)

เลเวลของพวกเขาได้ผ่านเลเวล 400 ไปแล้วหลังได้มาที่นี่

 อืมม ,ฉันใช้ทุกอย่างในตัวซะแล้วด้วย.....คงต้องทำให้พวกนี้ทำงานหนักขึ้นแล้ว

ถึงแม้ว่าวีดจะทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่อัศวินศักดิ์สิทธิ์และนักบวชเหลือแค่ราวๆ 150 แสดงถึงความอันตรายและความยากเข็ญในที่แห่งนี้

 มนุษย์ นี่จะเป็นที่ตายของเจ้า
 เคี๊ยกเคี๊ยกเคี๊ยก ข้าจะกินพวกเจ้าให้หมด
 เจ้าจะได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด

มีทหารปีศาจ 10 ตน กำลังคุ้มกันห้องของร็อดเดลิก แต่ด้วยประสบการณ์จากการต่อสู้ที่ผ่านมา มันไม่ใช่เรื่องยากในการกำจัดพวกมัน แม้ว่าคนของพวกเขาจะน้อยลงจากตอนแรกอย่างมากก็ตาม

-ปีศาจในเขาวงกตล็อดเดอลิกถูกกวาดล้าง

 “ในที่สุดก็มาถึง”

วีดมีความรู้สึกมากมาย

มีไอเทมหลากหลายมากมายในห้องวิจัยของร็อดเดอลิก ไอเทมมากมายในห้องนี้ถ้าพวกผู้เล่นคนอื่นมาเจอคงต้องอึ้งในสิ่งที่พวกตนจะได้เจอในกองฝุ่นหนังสือเวทย์มนต์ บันทึกการทดลองโพชั่น เครื่องเพชรที่ประทับเวทย์มน หินมานาและอื่นๆถูกเก็บเรียบ

หนังสือที่บรรจุไปด้วยเวทย์มนต์ระดับสูงมากมาย นักเวทย์ไม่ชอบที่จะแสดงพลังของตน พวกเขาค่อนข้างที่จะชอบเขียนและบันทึกไว้มากกว่า

ในส่วนของโรมุเนะนั้นได้รับการรู้จักในชื่อ นักเวทย์ผู้สามารถสร้างธารแห่งเปลวเพลิงและสามารถได้ยินเรื่องของเธอในโรงเหล้าได้ มันเป็นความภาคภูมิใจของเธอเมื่อเจ้าของร้านหรือคนอื่นเรียกเธออย่างนั้น

ติ๊ง!

-ท่านได้ครอบครองดันเจี้ยนวงกตร็อดเดอลิก
ได้รับแผนที่ของวงกต

 ฉันคงจะไม่กลับมาแล้วหละ แต่คงสามารถขายได้ราคาดีอยู่นะ

เขากำลังนึกถึงความทรมานของคนอื่นด้วยเช่นกัน! ในเวลาเดียวกัน,เกวียนถูกนำเข้ามาเก็บของในห้อง วีดนั่งลงตรงโต๊ะทำงานของร็อดเดอลิค เขาได้ทำการยืนยันเครื่องหมายประทับ

 โต๊ะนี้ มันไม่ใช่ไม้ธรรมดา วัสดุชั้นดี บาฮามอคเก็บมันซะ!”

เขาไม่ปล่อยไปแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ในห้อง โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นหนังสือถูกเก็บเรียบ

ติ๊ง!!

-ท่านได้รับบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การแกะสลัก

วีดได้รับของที่จำเป็นในการทำภารกิจของเขา

ห้องวิขัยของร็อดเดอลิคถูกเก็บเรียบจากผู้มาเยือน!

 ฉันไม่ค่อยได้มาที่นี่เพราะฉะนั้นคงต้องเก็บผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในตอนนี้คือเราจะออกจากที่นี่ยังไงดี..

วีดกางแผนที่ใต้ดินและตรวจสอบมัน

 ถ้าสู้อีก 16 ครั้งก็คงจะออกไปได้

ไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปในทางที่พวกเขามาเนื่องจากการบิดเบือนของมิติ และยังมีกับดักและมอนสเตอร์ที่จะทำให้เกิดการตายมากขึ้น อย่างไรก็ตามจิตใจของเขาผ่อนคลายเพราะเขาเพิ่งบรรลุภารกิจที่สำคัญมากๆ

 และมาดูตรงนี้สิ....

รูปแบบที่ซับซ้อนของอักษรรูนที่ถูกแกะสลักบนพื้นห้อง

 วงเวทย์เคลื่อนย้าย

เทเลพอร์ตที่จะย้ายเขาออกไปอย่างรวดเร็ว! วีดเคยใช้มันในระหว่างการผจญภัยที่เกี่ยวข้องกับวิหารเฟรยาห์

เขาฝังหินมานาลงบนพื้นและกระแสมานาก็ไหลไปตามลวดลาย

ฟสึกกกกกก!

มันขยายออกและค่อยๆใหญ่ขึ้น

 ไปกันเถอะ

วีด,อัศวินศักดิ์สิทธิ์,นักบวช,บาฮามอคและเกวียนต่างได้เข้าไปในวงเวทย์

วงกตร็อดเดอลิคถูกพิชิตแล้ว

★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★

หลังจากนั้นไม่นานวีดก็มาถึงหุบเขาสายลมใกล้กับวงกต ทุกคนหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย
 ขั้นแรกคงต้องดูว่าเราต้องทำอะไรต่อ
วีดนำบันทึกการแกะสลักออกมา พวกเขาออกจากเขาวงกตแล้วและที่นี่ก็ปลอดภัยดี และถ้าเขาชักช้ากว่านี้พวกผู้เล่นคงจะเจอเขาในไม่ช้าเพราะฉะนั้นอยู่นานไม่ได้

ติ๊ง!

-ท่านได้อ่านบันทึกการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคการแกะสลักลับขั้นสุดท้าย

บันทึกของร็อดเดอลิค

มุมมองของความงามนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เหนือกว่าข้อจำกัดและความกดดันในการแกะสลักในการสร้างความงดงาม
หลายคนกลัวความท้าทาย แต่ประติมากรมีความทะเยอทะยานที่มากมาย พวกเขาอาจจะดูอ่อนแอ,เป็นเหตุทำให้ศิลปินหัวเราะเยาะใส่พวกเขา แต่พวกเขาเอาชนะความยากลำบากมากมายด้วยจินตนาการและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ประติมากรเริ่มศึกษารูปแบบของประติมากรรมที่งดงามที่สุดในโลก
และประติมากรผู้หนึ่งก็ได้สร้างสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้

 ข้าคิดว่าประติมากรรมนั้นคือความงดงามอันเปล่งประกาย
 แต่ความงดงามนั้นได้นำข้ามาสู่เส้นทางการแกะสลัก
 สิ่งเล็กๆ ที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่”】
 รู้สึกว่ามันจะไม่หมูเลยแหะ

วีดรู้สึกไม่พอใจอย่างมากต่อประติมากรเมื่อเขาอ่านถึงตรงนี้ เขาตกอยู่ในอันตรายมากมายในเขาวงกตของร็อดเดอลิคเพื่อที่จะได้รับเบาะแสเพียงว่าสิ่งเล็กๆ มีความหมายที่ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม มันยังเร็วไปที่จะมานั่งสิ้นหวัง วีดจึงอ่านบันทึกต่อไป

จบตอน
ผู้แปล : Spicygorhot
Editor : แอดชิน เพจ เราอ่านนิยายแปล

10 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากๆคับรออยู่นะสนุกมาก

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับ 55555 เก็บเรียบเลยนะวีด

    ตอบลบ
  3. ปิดเควสโหดได้สักที...ครั้งนี้โหดเปลือง NPC ไปเยอะ ต้องเก็บกวาดให้เกลี้ยง สนุกมากครับ ขอบคุณทีมแปล

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณทีมงานผู้แปลทุกคนมากครับ ไม่ได้อ่านมาเกือบปี กว่าจะตามทันตอนนี้เหนื่อยใช้ได้เลย แต่ก็สนุกมากจริงๆครับ ชาบูๆลูกพี่วีดจบเควสสำคัญ รอจัดกับกิลด์เฮอมีสต่อ

    ตอบลบ
  5. โอ้ยยยยย เก่งขึ้นมาอีกขั้นแล้ว

    ตอบลบ
  6. ขอถามหน่อยครับ ตอนนี้ตรงกับ Novel eng ตอนที่เท่าไหร่ครับ

    ตอบลบ
  7. ถ้าวีดขุดถ้ำไปได้ มันคงขุดไปแล้ว ฮ่าๆ

    ตอบลบ

ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon

  ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน เล่ม 53 บทที่ 1 : มังกรดำ แปลโดย Ashy dRagoon สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรอาร์เพน และจักรวรรดิเฮเว่น บนท...